วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มอบถุงยังชีพ ที่ยโสธร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงพื้นที่ยโสธร มอบถุงยังชีพราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ที่บ้านโนนหัน หมู่ที่ 9 ต.ค้อเหนือ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดินทางมาปฏิบัติภารกิจตรวจติดตามสถานการณ์ อุทกภัย พร้อมนำถุงยังชีพมามอบให้ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 250 ชุด อำเภอเมืองยโสธรได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 15 ตำบล 120 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร (นาข้าว ) ได้รับผลกระทบ 18,055 ไร่ สำหรับพื้นที่ตำบลค้อเหนือ อำเภอเมืองยโสธร เป็นพื้นที่ ที่ได้รับความเสีย จำนวน 15 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 541 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร (นาข้าว) เสียหาย 9,446 ไร่ หลังจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข เดินทางไปตรวจเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ที่บ้านกุดเป่ง ตำบลเหล่าไฮ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 390 ชุด อำเภอคำเขื่อนแก้วได้รับความเสียหาย 10 ตำบล 55 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 7,518 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรที่ประสบภัย จำนวน 35,687 ไร่


วรรณทอง ภูโสภา
ส ปชส/ยโสธร/ภาพ/ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ดแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอันเนื่องมาจาก พายุ “หวู่ติ๊บ”

นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาตอนล่าง ฉบับที่ 3 เรื่อง พายุ "หวู่ติ๊บ” เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (30 ก.ย.56) พายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.9 องศาเหนือ ลองจิจุด 110 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนามในวันที่ 30 กันยายน 2556 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วโดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม และคาดว่าจะสลายตัวบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบ่ายวันที่ 30 กันยายน 2556 สำหรับบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจะได้ผลกระทบด้วยเนื่องจากเป็นพื้นที่ทางด้านใต้ของพายุ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ

สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ดได้แจ้งให้ประชาชนเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ในระยะนี้ ไปจนถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2556 ด้วยการรับฟังข้อมูลข่าวสาร การเตือนลักษณะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาทางสถานีวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวีท้องบถิ่น ตลอดจนผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัครในท้องถิ่น อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ หากได้เกิดสถานการณ์ขึ้น ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด หมายเลขโทรศัพท์ 0-4351-2955,0-4351-3632, 0-4351-5118



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
30 ก.ย. 56

จังหวัดร้อยเอ็ดทบทวนแผนพัฒนาฯ 4 ปี

จังหวัดร้อยเอ็ดทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด 4 ปี (พ.ศ.2558 – 2561) เพื่อให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ประเทศไทย และความต้องการของประชาชน วันนี้ (30 ก.ย.56) เวลา 10.00 น.

นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณาและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด 4 ปี (พ.ศ.2558 – 2561) ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด สภาอุตสาหกรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และภาคประชาสังคมทุกภาคส่วนเข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาแผนพัฒนาจังหวัดและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด 4 ปี (พ.ศ.2558 – 2561) จังหวัดร้อยเอ็ดได้ทบทวนข้อมูลตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ประเทศไทยและความต้องการของประชาชน โดยได้มีการทบทวนและปรับปรุงสภาพแวดล้อม (SWOT) และการพิจารณาแผนพัฒนาจังหวัดและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด 4 ปี (พ.ศ.2558 – 2561) โดยได้รับข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดจะได้นำข้อเสนอแนะและจะได้มีการปรับแผนงาน/โครงการพัฒนาจังหวัดฯ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย ต่อไป



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/ข่าว
30 ก.ย. 56

ตำรวจร้อยเอ็ด โชว์ ! จับยาบ้าพร้อมของกลาง มูลค่ากว่า 2 ล้านเศษ

ช่วงเช้าที่ผ่านมา (30 ก.ย. 56)  ที่ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พล.ตต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตราผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด จัดแถลงข่าวการจับกุมผู้จำหน่ายยาเสพติด  (ยาบ้า )  พร้อมของกลางยาบ้า 7,484 รถยนต์ยิ่ห้อ มาสด้า 1 คัน ปืนพกสั้น พร้อมกระสุน มูลค่ากว่า 2 ล้านเศษ

โดยชุดจับกุมของ สภ.สุวรรณภูมิสืบทราบว่า นายสาคร หรือเฒ่า บุญอรัญ อายุ39 ปี  บ้านเลขที่ 179  หมู่ที่ 5 บ้านโนนสวรรค์ ต. ทุ่งหลวง  อ. สุวรรณภูมิ จ. ร้อยเอ็ด มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงขอหมายศาลเพื่อตรวจค้น พบยาบ้า 196 เม็ดอาวุธปืนพกสั้น ขนาด . 38 จำนวน 1 กระบอกกระสุนปืน .38 จำนวน 4 นัด  จึงจับกุมเพื่อขยายผล โดยนายสาครรับว่าได้ซื้อยาบ้า มาจากนายเพชร ซึ่งมาจากสปป.ลาว  โดยมีนายชัยพรเป็นเป็นคนขับรถขนยาบ้าเพื่อส่งให้นายเพชร อีกทอดหนึ่ง

ในวันที่ 29 กันยายน 2556  เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่นายชัยพรนำยาบ้าเพื่อส่งมอบให้แก่นายสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. สุวรรณภูมิ จึงได้แสดงตัวจับกุม โดยนายชัยพรรับว่ารับจ้างขนยาบ้าครั้งนี้ได้รับค่าจ้างครั้งละ 4 หมื่นบาท  และทำมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว




บุญมี  เพ็งรัตน์/ข่าว/ภาพ
กมลพร คำนึง บก.ข่าว

บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จัดตั้งชมรม "หนองหญ้าม้าร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย เสริมสร้างความปลอดภัยทางถนน" พร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ย. 56)   นายสมศักดิ์  นิลผาย ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลหนองหญ้าม้า เป็นประธานเปิดโครงการ หนองหญ้าม้าร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย เสริมสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยการดำเนินงานของบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  สาขาร้อยเอ็ด

นายกิตติพิชญ์  นิตยกมลพันธุ์ ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  สาขาร้อยเอ็ด  เปิดเผยว่า  บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  สาขาร้อยเอ็ด ร่วมกับ โรงเรียนเทศบาลหนองหญ้าม้า โรงเรียนกีฬาท้องถิ่นจัดตั้งชมรม หนองหญ้าม้าร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย เสริมสร้างความปลอดภัยทางถนน ที่ โรงเรียนเทศบาลหนองหญ้าม้า  ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน  โดยในปี 2556 นี้  โดยได้กำหนดจัดกิจกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนของชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษา ได้แก่ โครงการ "ม่วงขาวร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย สวมใส่หมวกนิรภัย” โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง และโครงการ "ขับขี่ปลอดภัย เสริมสร้างวินัยจราจร” โรงเรียนโสภโณประชาสรรค์ และ หนองหญ้าม้าร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย เสริมสร้างความปลอดภัยทางถนน   โดยการรณรงค์ให้สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซนต์ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชนและภาคสังคม เป้าหมายคือผู้ขับขี่ ผู้ซ้อนท้าย รถจักรยายยนต์ทุกคนต้องสวมหมวกนิรภัยและมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องระยะเวลา 3 ปี  เพื่อความปลอดภัยทางถนนและพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในอีก 2 ปี ข้างหน้า นี้

กิจกรรม ในวันนี้ประกอบด้วยการมอบหมวกนิรภัยให้แก่นักเรียน   จำนวน 30 ใบ การบรรยายความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร โดยตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด   เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักเรียน การแต่งเพลงรณรงค์เพื่อความปลอดภัยและการใช้ Social Media  ของนักเรียนร่วมรณรงค์ด้วย  มีนักเรียนร่วมกิจกรรม กว่า  150 คน



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด  043-527117

ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำเอ่อท่วมถนนก่อนถึง อำเภออาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด

ภายหลังที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ผ่านมาทำให้ปริมาณน้ำจากเขตพื้นที่อำเภอเมืองสรวง อำเภอธวัชบุรี ไหลลงไปรวมกัน ที่ตำบลอาจสามารถ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำชี แต่ปริมาณน้ำจำนวนมากทำให้ไหลช้าเอ่อท่วมนาข้าวนับพันไร่ และท่วมผิวถนนสายร้อยเอ็ด – อาจสามารถ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 30   ถึง 32  สูง  ลึกตั้งแต่ 10 ถึง 40 เซ็นติเมตร ทำให้รถที่สัญจรไปมาวิ่งลำบาก รถเล็กหลายชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอาจสามารถ และแขวงการทางต้องทำแนวเขต พร้อมตั้งป้ายเตือนผู้ขับขี่ให้ใช้ความระมัดระวัง หวั่นจะเกิดอุบัติเหตุ คาดว่าหากฝนไม่ตกซ้ำมาอีกภายในวัน 2 วันนี้ น้ำที่เอ่อท่วมถนนน่าจะเข้าสู่สภาว  ปกติภายใน 5 วัน

ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี ช่วงที่ผ่านอำเภออาจสามารถนั้น ทางอำเภออาจสามารถแจ้งว่าระดับน้ำโดยทั่วไปอยู่ต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 2 เมตร แต่จะมีบางจุดที่น้ำเริ่มเอ่อเข้าท่วมแล้วสำหรับพื้นที่ต่ำซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงน้ำหลาก แต่อย่างไรก็ตามทางจังหวัดและอำเภอได้ประกาศเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำชี  ลำน้ำยัง ขอให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันหากมีฝนตกต่อเนื่อง และขอให้ติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมรับมือด้วย



คมกฤช  พวงศรีเคน ข่าว
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
ส.ปชส.ร้อยเอ็ด

บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ร่วมกับ สถานศึกษา 4 แห่ง ในจังหวัดร้อยเอ็ด จัดตั้งชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

ช่วงบ่ายวันนี้ (27 ก.ย. 56)   นายกิตติพิชญ์  นิตยกมลพันธุ์ ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  สาขาร้อยเอ็ด  เปิดเผยว่า  บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  สาขาร้อยเอ็ด  ร่วมกับ สถานศึกษา 4 แห่ง ในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่  โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง, วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด, และในวันนี้ร่วมกับ โรงเรียนโสภโณประชาสรรค์ จัดตั้งชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน  โดยในปี 2556 นี้  ทางสถานศึกษาได้กำหนดจัดกิจกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนของชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษา ได้แก่ โครงการ "ม่วงขาวร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย สวมใส่หมวกนิรภัย” โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง และโครงการ "ขับขี่ปลอดภัย เสริมสร้างวินัยจราจร” โรงเรียนโสภโณประชาสรรค์ 

กิจกรรม ในวันนี้ประกอบด้วยการมอบหมวกนิรภัยให้แก่นักเรียน   จำนวน 30 ใบ การบรรยายความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร โดยตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด , มีนักเรียนร่วมกิจกรรม กว่า  150 คน และในวันที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 09.00 น.  กำหนดจัดกิจกรรม ดังกล่าว ที่  โรงเรียนชุมชนบ้านหนองหญ้าม้า อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด




คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด  043-527117

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบถุงยังชีพและปล่อยขบวนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดสระแก้ว

ที่ หอประชุมปางสีดา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายวิสาร  เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินทางมามอบถุงยังชีพ ปล่อยขบวนคาราวานพร้อมทั้งมอบนโยบายให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยมีนายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายชูศักดิ์ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว  นายวรพันธุ์  สุวัณณุสส์ ปลัดจังหวัดสระแก้ว ให้การต้อนรับพร้อมทั้งกล่าวรายงานถึงสภาพทั่วไปและสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสระแก้ว

นายวิสาร  เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นบุคคลที่มีความชำนาญในพื้นที่มากที่สุด จึงเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของปัญหาและรู้ถึงปัญหาของลูกบ้านมากที่สุด จึงเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหาต่างไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของยาเสพติด ปัญหาอุทกภัยที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้  จึงขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆให้หมดไป

นายภัครธรณ์   เทียนไชย ผู้ว่าสระแก้ว  เปิดเผยว่า พื้นที่จังหวัดสระแก้วประสบปัญหาอุทกภัย ทั้ง 9 อำเภอ 56 ตำบล 478 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 4,934 ครัวเรือน พื้นนที่การเกษตรเสียหาย 34,666 ไร่ ถนนเสียหาย 417 สาย สะพานชำรุด 7 แห่ง ฝาย 6 แห่ง โรงเรียน 8 แห่งและวัด 3 แห่ง และทางจังหวัดได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ด้วยการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ทำแนวกั้นบอกทางจราจร สนันสนุนกำลัง อปพร. อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ติดตั้งสะพานแบริ่ง สนับสนุนยานพาหนะและเครื่องจักรกลและในวันนี้ได้ปล่อยขบวนคาราวานรถบรรทุกถึงยังชีพเพื่อไปมอบให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยอยู่ 

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาม สิริวัฒนาพรรณวดีมอบสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดสระแก้ว

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีมอบสิ่งของพระราชทานตามโครงการ "หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย" จำนวน 500 ชุด  ที่ ตำบลโนนหมากเค็ง อำเภอวัฒนานคร โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมส่วนราชการ หน่วยงาน ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานสถานการณ์

สำหรับในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งสิ้น 9 อำเภอ/ 56 ตำบล /459 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเสียหาย 4,369 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 26,096 ไร่ สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหาย ได้แก่ ถนนเสียหาย 376 สาย สะพาน 7 แห่ง ฝาย 6 แห่ง ทำนบ 4 แห่ง วัด 2 แห่ง และโรงเรียน 8 แห่ง และที่ตำบลโนนหมากเค็ง อำเภอวัฒนานคร มีราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยทั้งตำบล 9 หมู่บ้าน โดยมีราษฎร และพระสงฆ์ เข้ารับถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 500 ชุด โดยนายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน (มูลนิธิมิราเคิล ออฟไรฟ์ฯ) กล่าวว่า ด้วยพระเมตตา ของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทรงมีให้แก่ประชาชนชาวไทย พระองค์ทรงทราบถึงปัญหาความ ทุกข์ยาก ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก จึงทรงฝากความห่วงใยและประทานความช่วยเหลือมายังผู้ประสบภัย และ ทรงดำรัสว่า "จะทรงเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ในการต่อสู้กับ ทุกข์ภัยต่างๆ ที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ซึ่งถ้าประชาชนมีจิตใจที่เข้มแข็งแล้วก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ ไปได้

พัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี มอบเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน

อุบลราชธานี : พัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มอบเงินกองทุนแม่ของแผ่นดินให้หมู่บ้านต้นกล้าของแผ่นดิน อีก 25 หมู่บ้าน เพื่อเป็นกองทุนขวัญถุงพร้อมกระตุ้นความตื่นตัวของชุมชนให้มีความเข้มแข็งและเป็นแบบอย่างของการเอาชนะยาเสพติดแบบบูรณาการ

เช้าวันนี้ (30 ก.ย. 56) นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานมอบเงินสมทบกองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ให้กับหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน เพื่อความเป็นสิริมงคลของประชาชนในหมู่บ้านพร้อมทั้งเพื่อเป็นกองทุนขวัญถุงอีกทั้งเป็นเงื่อนไขในการกระตุ้นความตื่นตัวของชุมชนให้มีความเข้มแข็งพึ่งตนเองมากยิ่งขึ้นและเพื่อเป็นแบบอย่างของการบูรณาการเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืนและสนับสนุนกิจกรรมของประชาชน จำนวน 25 หมู่บ้าน ได้แก่

บ้านดงบัง ม.9 ต.หนองบ่อ อ.เมือง
บ้านป่ากุงน้อย ม.8 ต.ลาดควาย อ.ศรีเมืองใหม่
บ้านหนองฮี ม.2 ต.ห้วยยาง อ.โขงเจียม
บ้านเสียม ม.7 ต.หัวดอน อ.เขื่องใน
บ้านหนองดงหลวง ม.14 ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ
บ้านโนนสวรรค์ ม.5 ต.กลาง อ.เดชอุดม
บ้านป่าก้าว ม.8 ต.โนนสมบูรณ์ อ.นาจะหลวย
บ้านเก่าขามใหม่พัฒนา ม.11 ต.เก่าขาม อ.น้ำยืน
บ้านโนนสวน ม.8 ต.โนนค้อ อ.บุณฑริก
บ้านบกสว่าง ม.7 ต.หนองเต่า อ.ตระการพืชผล
บ้านตาดโตน ม.7 ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น
บ้านยางโยภาพ ม.4 ต.ยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ
บ้านเกษตรพัฒนาเหนือ ม.8 ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ
บ้านโนนลำดวน ม.6 ต.ดอนจิก อ.พิบูลมังสาหาร
บ้านดอนหวาย ม.6 ต.นาคาย อ.ตาลสุม
บ้านจอมปลวกสูง ม.8 ต.สองคอน อ.โพธิ์ไทร
บ้านคุ้ม ม.4 ต.โคกสว่าง อ.สำโรง
บ้านหนองหิน ม.5 ต.คำไฮใหญ่ อ.ดอนมดแดง
บ้านบากชุม ม.1 ต.โนนก่อ อ.สิรินธร
บ้านโนนจาน ม.2 ต.นาห่อม อ.ทุ่งศรีอุดม
บ้านนาเยีย ม.4 ต.นาเยีย อ.นาเยีย
บ้านนาหินโหง่น ม.9 ต.พะลาน อ.นาตาล
บ้านธรรมละ ม.2 ต.โพนเมือง อ.ดอนมดแดง
บ้านสำโรง ม.5 ต.สว่าง อ.สว่างวีระวงศ์
บ้านหมากแหน่ง ม.4 ต.ตาเกา อ.น้ำขุ่น

เงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน ได้เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2547 โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ผ่านเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของราษฎรอาสาและจัดตั้งเป็น "กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี มีกองทุนแม่ของแผ่นดินที่ได้รับเงินกองทุนพระราชทานแล้ว 260 หมู่บ้าน/ชุมชน และในปี 2555 กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้จัดงาน 1 ทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทีทรงห่วงใยพสกนิกร โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบเงินกองทุนให้แก่หมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดินให้มีความเข้มแข็ง หมู่บ้านละ 10,000.-บาท ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับเงินกองทุนดังกล่าว 25 หมู่บ้าน จำนวนเงิน 250,000.-บาท



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609/ข่าว/ 30 ก.ย. 56

รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รับมอบ ยังชีพ จากกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประอุทกภัย ในพื้น ที่จังหวัดอุบลราชธานี

เมื่อเช้าวันนี้ ( 30 ก.ย. 56) นางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รับมอบถุงยังชีพ เสื้อผ้า และน้ำดื่ม จำนวน 1 พันชุด จาก ผู้แทนกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประอุทกภัย ในพื้น ที่จังหวัดอุบลราชธานี น้ำขณะนี้น้ำจากจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ ได้ไหลเข้ามาสมทบในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จะทำให้ริมฝั่งแม่น้ำมูลเกิดปัญหาอุทกภัยเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้รับความเดือดร้อน เกือบ 300 ครัวเรือน เขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ เดือดร้อน กว่า 600 ครัวเรือน อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำที่แม่น้ำโขง อำเภอโขงเจียม ยังต่ำอยู่ ทำให้น้ำในแม่น้ำมูลไหลในอัตราที่เร็ว ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอนาเยีย ถึงแม้ว่าจะมีน้ำท่วมสูงแต่ก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ วันละ ประมาณ 30 เซนติเมตร

นอกจากนี้ ได้มีการติดตามสถานการณ์ พายุ หวู่ติ๊บ พบว่า มีการเคลื่อนตัวไปทางตอนบนของภาคตะวันนออกเฉียงเหนือ คิดว่าคงจะมีผลกระทบต่อจังหวัดอุบลราชธานีไม่มากนัก 

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 12.00 น. ณ กองบิน 21 อุบลราชธานี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ หลังจากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ไปยังหอประชุมฑีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ กล่าวมอบนโยบายแก่หัวหน้าราชการ ข้าราชการผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย 2,000 ราย



จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 11.30 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลอากาศตรี สรชัย ชีวะกลินศักดิ์ ผู้อำนวยการกองงาน พระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบให้แก่ราษฎรที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ณ หอประชุมชาววาริน เทศบาลวาริน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1,000 ถุง ทั้งนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงยังชีพแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่อยู่ในพื้นที่อุทกภัย อีกจำนวน 25 ถุง พร้อมทั้งได้จัดให้มีหน่อยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารมาตรวจรักษาผู้ประสบอุทกภัยที่มีการเจ็บป่วยในครั้งนี้ด้วย

จังหวัดอุบลราชธานี เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก มีน้ำท่วมขัง ทำให้มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 23 อำเภอ112 ตำบล 2 เขตเทศบาล1,130 หมู่บ้านราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 396,611 คน 91 ,418 ครัวเรือน และจำเป็นต้องอพยพ จำนวน 1,161 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่เสียหาย จำนวน 155,057 ไร่




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยท้ำท่วมพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยท้ำท่วมพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นายดำรง รัตนพานิช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ นำถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ ในวันพุธที่ 2 ตุลาคม 2556 นี้ เวลา 09.30 ที่บริเวณที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลคอโค ต. คอโค อ. เมือง จ. สุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึงหอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลคอโค รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ทำพิธีเปิดกรวยถวายความเคารพพระรูป ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายริรันดร์ กัลยาณมิตร กล่าวรายงานสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในจังหวัดสุรินทร์ จากนั้น นายดำรง รัตนพานิช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าวถึงความห่วงใยของศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมีต่อราษฎรผู้ประสบภัย และทำพิธีมอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ก่อนที่จะเดินทางไปมอบถุงยังชีพพระราชทานต่อที่จังหวัดศรีสะเกษ จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนไปให้การต้อรับคณะของนายดำรง รัตนพานิช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ และเรียนเชิญสื่อมวลชนจังหวัดสุรินทร์ร่วมทำข่าว ในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน


ประนนท์ ไม้หอม / ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

กรมอุตุฯเตือนภัยพายุหวู่ติ๊บ ส่วนมหาสารคามจะมีฝนตกอีกร้อยละ 40-70

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยจากภายุใต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนามในวันที่ 30 กันยายน นี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยจะเคลื่อนเข้าสู่ไทยบริเวณด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบ่ายวันนี้ ด้านจังหวัดมหาสารคาม จะมีฝนตกอีกร้อยละ 40-70 ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยฉบับ ที่ 11 เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (30 ก.ย. 56) พายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนามในวันที่ 30 กันยายน 2556 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วโดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณ จังหวัดนครพนม และคาดว่าจะสลายตัวบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบ่ายวันนี้ (30 ก.ย. 56)

ด้านพยากรณ์อากาศจังหวัดมหาสารคาม ในช่วงระหว่างวันที่ 30 กันยายน-6 ตุลาคม 2556 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิสูงสุดวัดได้ 28-31 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 23-24 องศาเซลเซียส



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภัย “พายุหวู่ติ๊บ” จังหวัดมุกดาหารได้รับผลกระทบด้วย

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยฉบับ ที่ ๑๑ เมื่อเวลา ๐๔.๐๐ น. วันนี้ (๓๐ ก.ย. ๕๖) พายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ ๒๕ กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด ๑๖.๙ องศาเหนือ ลองจิจูด ๑๑๐.๐๐ องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ ๑๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนามในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วโดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณ จังหวัดนครพนม และคาดว่าจะสลายตัวบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบ่ายวันนี้ (๓๐ ก.ย.๕๖)

พยากรณ์อากาศจังหวัดมุกดาหาร ในช่วงระหว่างวันที่ ๓๐ กันยายน - ๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ ๔๐-๘๐ ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดวัดได้ ๒๗.๕ องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ ๒๒.๕๐ องศาเซลเซียส



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ เปิดอบรมเพื่อรับการทดสอบขอรับบัตรผู้ประกาศ ระดับต้น รุ่นที่ ๓ ที่จังหวัดมุกดาหาร

สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ อุบลราชธานี จัดอบรมและทดสอบเพื่อขอรับบัตรผู้ประกาศแก่ผู้ประกาศวิทยุและโทรทัศน์และผู้สนใจประกอบอาชีพด้านวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้ประกาศ ระดับต้น เป็นรุ่นที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๗ – ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ที่จังหวัดมุกดาหาร

นางสาวรัตนา เจริญศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ อุบลราชธานี ได้จัดทาข้อตกลงกับสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้เป็นหน่วยงานดำเนินการจัดอบรมและทดสอบเพื่อขอรับบัตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทั้งในระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ได้เปิดกว้างให้บุคลากรที่ทำงานด้านนี้และผู้สนใจทั่วไป สามารถเข้ารับการอบรมและทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศ สำหรับการอบรมตามหลักสูตรผู้ประกาศ ระดับต้น ในรุ่นที่ ๓ ทางสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ ได้กำหนดจัดอบรมขึ้นในระหว่างวันที่ ๗ – ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษามุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงขอเชิญชวนผู้จัดรายการ ผู้ประกาศทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ เคเบิลทีวี วิทยุชุมชน อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านผู้ดำเนินการหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเสียงตามสาย ตลอดจนนักศึกษาและประชาชนผู้สนใจทั่วไป สอบถามรายละเอียดและสมัครได้ที่ ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ อุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข ๐๔๕-๓๑๑๑๙๓ หรือ ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด หรือที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ รวม ๙ จังหวัดประกอบด้วย จังหวัดมุกดาหาร นครพนม ร้อยเอ็ด ยโสธร บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานีและจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีค่าลงทะเบียนการอบรมในระดับต้น เพียงท่านละ ๒,๘๐๐ บาทเท่านั้น

ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ กล่าวว่า สำหรับการบรรยายตามหลักสูตรการเป็นผู้ประกาศ ในระดับต้น รุ่นที่ ๓ นี้จะมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายให้ความรู้ อาทิ เช่น นายธีระพงษ์ โสดาศรี อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ บรรยายหัวข้อเรื่อง เทคนิคการจัดรายการประเภทต่างๆ นายยุทธนา เทียมพงศ์ ผู้อำนวยการกองกฎหมายและระเบียบ กรมประชาสัมพันธ์ บรรยายในหัวข้อ เรื่อง กฎหมายที่ต้องรู้เกี่ยวกับการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นายแสงทอง อนันตภักดิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร บรรยายให้หัวข้อเรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และรูปแบบการกำกับดูแลในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นายดุสิต สิงห์คีรี ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี บรรยายให้หัวข้อเรื่อง บทบาทสื่อต่อความรับผิดชอบในสังคมและผู้ช่วยศาสตราจารย์ประกายดาว สาริกบุตร ประธานสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี บรรยายในหัวข้อ การใช้ภาษาอย่างไรให้สื่อสารสำเร็จ และการฝึกทักษะปฏิบัติการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร




สุภาวดี อัมไพพันธ์ สปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร อย่างไม่เป็นทางการ

นายวิษณุ เหล่ามีผล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ตามที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ๔ ปี เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ และประกาศกำหนดระยะเวลาสมัครรับเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ ๒๖ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ กำหนดให้มีการเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๖

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร กล่าวภายหลังผลการนับคะแนนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๖ ปรากฏผลอย่างไม่เป็นทางการ ดังนี้





หมายเลขประจำตัว 1 นายสมประดิษฐ์ ไตรยวงค์   คะแนน 42,925
หมายเลขประจำตัว 2 นางมลัยรัก ทองผา   คะแนน 48,976
หมายเลขประจำตัว 3 นางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์   คะแนน 40,405
หมายเลขประจำตัว 4 นางเรือนแก้ว ศรีหาคิม   คะแนน 27,303


ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารของผู้สมัครทั้ง ๔ คน เป็นผลการนับคะแนน อย่างไม่เป็นทางการ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารกล่าวในที่สุด




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร/ภาพ

กาฬสินธุ์จัดงานส่งเสริมศีลธรรม ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

นายบัญญัติ แสวงดี วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กำหนดจัดงานส่งเสริมศีลธรรม ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมขับเคลื่อนการประทำความดี อันเป็นการแสดงมุทิตาจิตของสมเด็จพระสังฆราช และเพื่อเป็นการชำระ ล้าง ขัดเกลาจิตใจ ลดอัตตา ละตัวตน สร้างผลประโยชน์แก่ส่วนรวม ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 100 ปี โดยจะมีพระสงฆ์และอุบาสก อุบาสิกาจากอำเภอต่างๆเข้าร่วมประมาณ 800 คน/รูป จังหวัดกาฬสินธุ์จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมงานในวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

กาฬสินธุ์แจ้งยกเลิกการสอบสัมภาษณ์ระดับจังหวัดโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน

นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า ตามที่จังหวัดกาฬสินธุ์เปิดรับสมัครและคัดเลือกนักเรียนเข้าร่วมโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ODOD จังหวัดกาฬสินธุ์ ในระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 2 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา และแจ้งกำหนดการสอบสัมภาษณ์คัดเลือกระดับจังหวัด ในวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์นั้น คณะกรรมการระดับจังหวัดได้มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2556 ให้ยกเลิกการสอบสัมภาษณ์ในระดับจังหวัด ในวันที่ 9 ตุลาคม 2556 และให้ใช้หลักเกณฑ์การเรียงคะแนนและผลงานเพื่อคัดเลือกนักเรียนเข้าร่วมโครงการ ODOD ปีการศึกษา 2557 ให้เหลือจำนวน 24 รายและแจ้งรายชื่อไปยังคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ต่อไป



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ บนศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ร่วมมอบดอกไม้และส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ที่เกษียณอายุราชการในวันนี้ (30 ก.ย. 56)

วันที่ 30 ก.ย. 56 เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของข้าราชการที่เกษียณอายุราชการ ในวันนี้ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น จึงมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ร่วมกันมอบดอกไม้และส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น (นายทรงพล จำปาพันธุ์) เดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดชัยภูมิ หลังเกษียณอายุราชการในวันนี้

บ่ายวันนี้ (30 กันยายน 2556) ซึ่งถือเป็นวันปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นวันสุดท้ายของข้าราชการที่เกษียณอายุราชการ ครบ 60 ปี ในปี 2556 ที่ห้องโถงชั้นล่างศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ได้มีข้าราชการเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการอยู่ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นำโดย นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมกันมอบพวงมาลัย และดอกกุหลาบให้แก่ นายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ที่เดินทางลงจากศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ในโอกาสปฏิบัติหน้าที่ราชการจนครบเกษียณอายุราชการ 60 ปี ในวันนี้ เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดชัยภูมิ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น นอกจากนี้ก็ยังมีเสียงเพลง ขอมอบไม้ให้คุณ คลอเบา ๆ ประกอบการมอบดอกไม้ ให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ด้วย



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว

ผู้ว่าฯ ขอนแก่น นำหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่ให้บริหารประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และชี้แจงนโยบายรัฐบาล

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ลงพื้นที่บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่อำเภอชุมแพ พร้อมชี้แจงนโยบายรัฐบาลตามโครงการปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม งบ 2 ล้านล้านบาท

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ก่อนเริ่มให้บริหารต่างๆ แก่ประชาชน ในโอกาสนำหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจประจำจังหวัด และภาคเอกชน ออกเยี่ยมเยียนและให้บริการประชาชนที่อยู่ห่างไกลในชนบท ที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาหนองทุ่ม หมู่ 8 ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ตามโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนของจังหวัดขอนแก่น ที่ออกบริการประชาชนเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหมายให้จังหวัดต่าง ๆ ออกไปพบปะเยี่ยมเยียนและให้บริการประชาชนในชนบทห่างไกล เพื่อรับทราบปัญหา ลดความเหลี่ยมล้ำทางสังคม และสร้างความสามัคคี ตลอดจนชี้แจงนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลและจังหวัด ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจ โดยมีประชาชนในตำบลนาหนองทุ่ม และตำบลใกล้เคียงมารับบริการต่าง ๆ จำนวนมาก

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแกน ได้ชี้แจงนโยบายของรัฐบาลในการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อมาปรับโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาด้านคมนาคมของประเทศ ว่า หากโครงการนี้สำเร็จจะเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโครงการเพิ่มช่องทางการจราจรจาก 2 ช่อง ทางเป็น 4 ช่องทาง และโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจังหวัดขอนแก่นก็จะได้รับประโยชน์จากทั้ง 2 โครงการนี้เป็นอย่างมาก และในวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2556 รัฐบาลจะจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงอยากเชิญชวนประชาชนและผู้สนใจ ไปชมและร่วมแสดงความคิดเห็นได้ และในโอกาสนำโครงการออกไปให้บริการประชาชนที่อำเภอชุมแพครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎรที่ยากจน มอบเสื้อผ้าชุดนักนักเรียน , ทุนการศึกษา ให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน มอบบัตรสินเชื่อเกษตรกรให้สมาชิก ธกส. และมอบพันธุ์ปลาให้ผู้นำชุมชนนำไปปล่อยในหนองน้ำสาธารณะของหมู่บ้านด้วย.



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว

เร่งเสริมกระสอบทรายริมฝั่งชี รับมือพายุลูกใหม่

เทศบาลตำบลบ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ เร่งระดมกระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำชี รอบหมู่บ้าน หลังทราบข่าวพายุลูกใหม่กำลังจะเข้ามา ขณะที่สถานการณ์ทั่วไป ยังคงมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 14 อำเภอ

สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ยังไม่พ้นวิกฤติ ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำชี ยังเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งชุมชน 25 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ถึงแม้ระดับน้ำท่วมขังตามถนนสายต่างๆ ย่านเศรษฐกิจสำคัญ และในชุมชน จะลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มอีกหลายจุด การจราจรเป็นไปอย่างลำบาก เทศบาลเมืองชัยภูมิและชลประทานจังหวัดได้ระดมเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถระบายน้ำออกไปจากตัวเมืองได้หมด น่าเป็นห่วงว่า หากได้รับอิทธิพลจากพายุลูกใหม่ สถานการณ์คงท่วมต่อไปอีกหลายวัน

ด้านนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา มีพื้นที่ประสบภัยแล้ว 14 อำเภอ 84 ตำบล 800 กว่าหมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 74,000 ครอบครัว เกือบ 2 แสนคน สิ่งสาธารณูปโภค เสียหาย คอสะพาน 15 แห่ง จนถึง วัน 2 วัน ที่ผ่านมา สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ในบางจุด อำเภอที่ยังคงมีน้ำท่วมหนักที่สุดขณะนี้คือ ในพื้นที่อำเภอจัตุรัส ราษฎร 7 หมู่บ้าน ถูกตัดขาด จังหวัดต้องนำเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมนำถุงยังชีพไปมอบให้ ในเบื้องต้น ส่วนเส้นทางคมนาคม ถนนสายหลัก ถนนสายรอง ขณะนี้รถวิ่งได้ทุกสาย จะมีบางช่วง ซึ่งเป็นที่ลุ่ม มีน้ำไหลบ่าได้จัดทำป้ายเตือนและเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวัง พร้อมฝากเตือนประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ขออย่าได้ประมาท ขอให้เฝ้าติดตามข่าวสาร การแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ ผ่านทางรถแห่ หอกระจายข่าว และวิทยุทุกสถานี ซึ่งได้ของให้ สวท.ชัยภูมิเป็นแม่ข่าย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมทุกต้นชั่วโมง พร้อมเครือข่ายวิทยุชุมชนทุกแห่ง เพื่อแจ้งให้ชาวบ้านเตรียมตัวได้ทัน ขณะนี้ในพื้นที่ทุกตำบล มีศูนย์ช่วยเหลือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เทศบาล ทุกแห่ง ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที ขณะเดียวกัน ก็มีศูนย์ใหญ่อยู่ที่ ศาลาประชาคมจังหวัดชัยภูมิ พร้อมตั้งจุดรับบริจาคเงิน และสิ่งของ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โทรศัพท์ติดต่อ 044822165-6

ส่วนที่ริมฝั่งแม่น้ำชี ในเขตเทศบาลตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว อ.เมืองชัยภูมิ ระดับชีสูงเกินระดับวิกฤติ จากระดับปลอดภัยอยู่ที่ 9 เมตร ขึ้นสูงมาอยู่ 9.5 เมตร แล้ว ระดับน้ำยังคงทรงตัวและสูงขึ้นต่อเนื่อง นายสัญชัย พรหมสิทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว ได้ระดมกระสอบทรายแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ที่มีบ้านเรือนอยู่ติดกับลำน้ำชี วางเป็นคันดินป้องกันไม่ให้น้ำชีไหลเอ่อเข้าท่วมที่อยู่อาศัย ซึ่งชาวบ้าน ยอมรับว่าปีนี้น้ำมามากที่สุดเท่าที่เกิดมา ทุกปีไม่เคยมาแรง และท่วมสูงขนาดนี้ จึงไม่ได้เตรียมป้องกันมากนัก น้ำในลำน้ำชีจึงทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว เก็บสิ่งของหนีน้ำไม่ทัน เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น โทรทัศน์ ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้เกียรติมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “ รางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน แก่ห้างเดอะมอลล์นครคราชสีมา

นายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้เกียรติมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ " รางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน 5 ปีติดต่อกัน (พ.ศ.2552– 2556)” แก่ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด โดยมี นายมงคล เชื้อเจริญศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด เป็นตัวแทนรับมอบ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2555 ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี




การแข่งขัน Crossword Game ที่นครราชสีมา ที่มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน กว่า 5,000 คน

การแข่งขัน Crossword Game Northeastern Championship ที่นครราชสีมา เป็นการแข่งขันหาแชมป์ ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน กว่า 5,000 คน

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมาและหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิดการแข่งขัน Crossword Game Northeastern Championship 2013 โดยมี คุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ สาขานครราชสีมา ร่วมเป็นเกียรติและให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ นครราชสีมา
               


ผลการแข่งขัน Crossword Game Northeastern Championship 2013

ประเภท ปริศนาอักษรไขว้ภาษาไทย รุ่น ประถมศึกษา ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ.เปรมยุดา สยุมภูรุจินันท์ จาก โรงเรียนมารีย์วิทยา จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท ปริศนาอักษรไขว้ภาษาไทย รุ่น มัธยมศึกษา ชนะเลิศ ได้แก่ น.ส.คุนัญญา ประชุมมา จาก โรงเรียนบุญวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท Crossword Puzzle รุ่น ประถมศึกษา ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ. ศุภลักษณ์ ทองตันไตรย์ จาก โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท Crossword Puzzle รุ่น มัธยมศึกษา ชนะเลิศ ได้แก่ น.ส.ณิชกานต์ จันทรประทิน จาก โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

ประเภท คำคม เกมต่ออักษรภาษาไทย รุ่น ประถมศึกษา ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ.อินทิรา จันทเอก ,   ด.ญ.รัตนาภรณ์ สาภิราช จาก โรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ จังหวัด อุบลราชธานี

ประเภท คำคม เกมต่ออักษรภาษาไทย รุ่น มัธยมศึกษาตอนต้น ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ.นภาพร ปักนอก , ด.ช.สรัส แสงจันทร์ จาก โรงเรียนบ้านคอนเมือง จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท คำคม เกมต่ออักษรภาษาไทย รุ่น มัธยมศึกษาตอนปลาย ชนะเลิศ ได้แก่ นายวงศ์พราหมณ์ วงศ์จำปา จาก โรงเรียนขอนแก่นวิทยา จังหวัดขอนแก่น

ประเภท คำคม เกมต่ออักษรภาษาไทย รุ่น โอเพ่น ชนะเลิศ ได้แก่ นายวีรภัทร กริ่งสันเทียะ จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

ประเภท เอแม็ท เกมต่อเลขคำนวณ รุ่น ประถมศึกษา ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ช. ธรรมอินทร์ บุญประการ , ด.ญ.กรรวี เสรีมานะกิจ จากโรงเรียนมารีย์วิทยา จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท เอแม็ท เกมต่อเลขคำนวณ รุ่น มัธยมศึกษาตอนต้น ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ. ปนัดดา จินดาศรี ,    ด.ญ.กาญจนา ลาวัล จากโรงเรียนช่องแมว จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท เอแม็ท เกมต่อเลขคำนวณ รุ่น มัธยมศึกษาตอนปลาย ชนะเลิศ ได้แก่ นายบุญเรือง บุญสุข จากโรงเรียนช่องแมววิทยา จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท เอแม็ท เกมต่อเลขคำนวณ รุ่น โอเพ่น ชนะเลิศ ได้แก่ นายพิสิษฐ์ คันธวัฒน์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท ครอสเวิร์ดเกม เกมต่อศัพท์ภาษาอังกฤษ รุ่น ประถมศึกษา ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ.ภัทรวดี วิชัย , ด.ญ.ณัฎฐกมล มุขพันธ์ จากโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

CW รุ่น ประถมศึกษาตอนปลาย

ชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ.ศรัญญา เข้มธนู , ด.ญ.ศุเพ็ญพร บัวเครือ จากโรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท ครอสเวิร์ดเกม เกมต่อศัพท์ภาษาอังกฤษ รุ่น มัธยมศึกษาตอนต้น ชนะเลิศ ได้แก่ นายณัฐพงศ์ จักรสาน , นายณัฐกิตติ์ ชาวี จากโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

ประเภท ครอสเวิร์ดเกม เกมต่อศัพท์ภาษาอังกฤษ รุ่น มัธยมศึกษาตอนปลาย ชนะเลิศ ได้แก่ นายวิทวัส มณีพันธุ์ จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

OW. OPEN ชนะเลิศ ได้แก่ นายญาณกิตติ์ ศิวิทรัมย์ จากจังหวัดนครราชสีมา รางวัลพิเศษสำหรับโรงเรียนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้แรก และได้คะแนนรวมจากทุกประเภทเกมส์กีฬาดีที่สุด

- ระดับประถมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ

- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ได้แก่ โรงเรียนบ้านคอนเมือง จังหวัดนครราชสีมา

- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ชวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

 รางวัลถ้วยคะแนนรวม โรงเรียน ระดับประถมศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

ชาวคุ้มวัดอภิสิทธิ์ ร่วมทำบุญตักบาตรฉลองพระชันษา 100 ปี ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระสังฆราช

พุทธศาสนิกชนชาวคุ้มวัดอภิสิทธิ์และชุมชนใกล้เคียง ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม ร่วมทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก

(29-9-56) ที่บริเวณลานวัดอภิสิทธิ์ หรือวัดกลาง พระราชสารคามมุนี เจ้าอาวาสวัดอภิสิทธิ์ เป็นองค์ประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก เนื่องในวโรกาสฉลองพระชันษา 100 ปี โดยมีพุทธศาสนิกชนชาวคุ้มวัดอภิสิทธิ์และชุมชนใกล้เคียง ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เดินทางทาร่วมกันทำบุญตักบาตร บำเพ็ญกุศลถวายแด่พระองค์ท่าน ส่วนในช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ทางวัดกำหนดจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญสมาธิ และแผ่เมตตาน้อมถวายเป็นพระราชกุศล

ทั้งนี้ ในวันที่ 1 ตุลาคม จังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวโรกาสดังกล่าว ในโครงการส่งเสริมศีลธรรม ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก โดยกำหนดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 101 รูป เริ่มเวลา 06.39 น. ณ วัดศรีสวัสดิ์ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม พร้อมจัดให้มีนิทรรศการพระประวัติ พิธีสักการะพระรูปสมเด็จพระสังฆราช สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และปฏิบัติธรรม สำหรับอำเภออื่น ๆ กำหนดจัดงาน ตามสถานที่ที่ได้กำหนด


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว










โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อจังหวัดสระแก้วส่งเสริมรายได้เกษตรกร

ที่โรงเรียนร่มเกล้า อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อเพื่อยกระดับรายได้ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นชอบ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม ที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อเพื่อยกระดับรายได้ งบประมาณทั้งสิ้น 12,212,160 บาท  กิจกรรมในวันนี้เป็นการมอบโคและการทำบ่อก๊าซชีวภาพแบบพลาสติกให้กับเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการพร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ อาทิ เช่น อุปกรณ์บ่อก๊าซชีวภาพ แร่ธาตุก้อน ท่อนพันธุ์หญ้าเนเปียร์ปากช่องและอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร

นายอำพันธุ์  เวฬุตันติ ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วได้คัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 200 ราย ใน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวัฒนานคร 100 ราย อำเภอเมืองสระแก้ว 20 ราย อำเภอเขาฉกรรจ์ 20 ราย อำเภออรัญประเทศ 20 ราย อำเภอวังสมบูรณ์ 20 รายและอำเภอคลองหาด 20 รายซึ่งได้จัดการอบรมและมอบโคให้กับเกษตรกรในวันนี้

นายวินัย   วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเกษตรกรต้องทำสัญญายืมแม่โคจากกลุ่มไปเลี้ยงรายละ 2 ตัว เมื่อโคคลอดลูกโคตัวที่ 1 และลูกโคมีอายุ 18 เดือน เกษตรกรต้องคืนให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรรายอื่นยืมเพื่อนำไปขยายผลต่อไป ส่วนลูกโคตัวต่อๆไปตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรเอง และเมื่อครบสัญญายืม 5 ปี จะมอบกรรมสิทธิ์แม่โคให้เกษตรกร ซึ่งเกษตรกรสามารถเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายได้

จังหวัดสุรินทร์เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมนำเสนอสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

จังหวัดสุรินทร์เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมนำเสนอสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ด้วยรัฐมนตรีว่ากากรกระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ในฐานะประธานอนุกรรมการ คณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยการร่วมการป้อองกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้โปรดมีบัญชาให้จัดประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยการร่วมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่อง และเพื่อปฏิบัติตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตลอดจนเพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2557 – 2559 " บทว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย " ได้ให้จังหวัดสุรินทร์นำเสนอสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวันพรุ่งนี้ ( 30 ก.ย. 2556 ) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมจอมสุรินทร์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ดังนั้นทางจังหวัดสุรินทร์จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมและร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้



ประนนท์ ไม้หอม / ส.ปชส. สุรินทร์ / รายงาน

จังหวัดกาฬสินธุ์จัดงาน Kalasin Car Free Day 2013 วันปลอดรถ ลดโลกร้อน

จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดงานรวมพลคนจักรยาน วันปลอดรถ ลดโลกร้อน รวมพลังรณรงค์การประหยัดพลังงาน Kalasin Car Free Day 2013 เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ลดภาวะโลกร้อน สุขภาพแข็งแรง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (29 กันยายน 2556) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงานรวมพลคนจักรยาน วันปลอดรถ ลดโลกร้อน รวมพลังรณรงค์การประหยัดพลังงาน "Kalasin Car Free Day 2013” ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงการประหยัดพลังงาน ลดภาวะโลกร้อน มีคนรักจักรยานจากจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียง มารวมกิจกรรมกว่า 600 คน  โดยทุกคนได้สวมเสื้อสีธงชาติไทย คือ สีแดง สีขาว สีน้ำเงิน ปั่นจักรยานรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันประหยัดพลังงาน รักสามัคคีกันไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

นายชนินทร์ สังข์วิเศษ ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดงาน Kalasin Car Free Day เริ่มจัดครั้งแรกปี พ.ศ. 2548 จัดในเดือนกันยายนของทุกปี ของกลุ่มคนจักรยานที่ปั่นเพื่อสุขภาพ ที่ต้องการให้ประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ต่อมามีหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ให้การสนับสนุนซึ่งกิจกรรมแต่ละปีก็จะมีความหลากหลายไม่ซ้ำกันไป สำหรับในปี 2556 มีหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมจัดกิจกรรมได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ หอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคประชาชน จัดขึ้นในลักษณะ "รวมพลคนชอบออกกำลังกาย” มีกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมแอโรบิกออกกำลังกาย กีฬาเอ็กซ์ตรีมของกลุ่มเยาวชนจังหวัดกาฬสินธุ์ การปั่นจักรยานยนต์เพื่อสุขภาพไปรอบเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ผ่านอนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร วงเวียนโปงลาง ชมความงามของเมืองกาฬสินธุ์ และการแข่งขันจักรยาน ประเภทต่าง ๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักปั่นหลายจังหวัดมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

สมาคม SME อีสาน ร่วมกับเครือข่าย จัดงาน EXPORT SALE 2013 จังหวัดกาฬสินธุ์

สมาคม SME อีสาน ร่วมกับเครือข่าย จัดงาน EXPORT SALE 2013 จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีสินค้าส่งออก SME กว่า 1,000 รายการ มาให้เลือกซื้อในราคาโรงงาน มาตรฐานสินค้าส่งออก

สมาคม SME อีสาน ร่วมกับสมาคมสิ่งทอแห่งประเทศไทย สมาคมเครื่องนุ่งห่มแห่งประเทศไทย จัดงาน EXPORT SALE 2013 จังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 6 ตุลาคม 2556 รวม 9 วัน เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ผู้ประกอบการส่งออกและให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นได้เรียนรู้อุตสาหกรรมส่งออก เพื่อเตรียมความพร้อมแข่งขันสู่ตลาดอาเซียน และกระตุ้นให้คนไทยมีค่านิยมในการใช้สินค้าไทย โดยมีสินค้ากว่า 350 บูท กว่า 1,000 รายการ จาก 60 โรงงาน อาทิ เสื้อผ้าแฟชั่นส่งออกไปประเทศยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี เครื่องหนังส่งออกอเมริกา เครื่องประดับ อัญมณี ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า OTOP และอาหารอร่อยทั่วไป มาจำหน่ายในราคาโรงงาน มาตรฐานสินค้าส่งออกให้กับชาวจังหวัดกาฬสินธุ์และใกล้เคียงได้เลือกซื้อ

ด้านนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจโลกจะผันผวน อาจจะมีผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยบ้าง แต่ผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมไทย มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ซึ่งการจัดงานดังกล่าว ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้คนไทยได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพมาตรฐานส่งออกไปยังต่างประเทศ ในราคาโรงงาน และเป็นการสร้างโอกาสในการเรียนรู้อุตสาหกรรมส่งออก ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมส่งออกท้องถิ่น โดยเฉพาะจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทางการแข่งขันสู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

น้ำจาก 4 ทิศ ไหลบ่าเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจตัวเมืองชัยภูมิแล้ว

ตัวเมืองชัยภูมิก็เอาไม่อยู่น้ำท่วมถนนหลายสายช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่ริมฝั่งแม่น้ำชีพื้นที่น้ำท่วมเดิมยังคงทรงตัว และมีแนวโน้มสูงขึ้น ขยายวงท่วมพื้นที่ใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง จังหวัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว เพื่อรวบรวมสิ่งของไปช่วยเหลือ ล่าสุด นำถุงยังชีพไปช่วย อำเภอจัตุรัส 3 ตำบลแล้ว

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา 29 ก.ย. 56 เกิดฝนตกหนักทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ ในตัวเมืองวัดได้ 50 มม. ประกอบกับน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำปะทาว อ่างเก็บน้ำช่อระกา ลำห้วยยางบ่า ได้ไหลผ่านตัวเมือง อย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำจำนวนมาก สะสมขึ้นมาท่วมขังถนนสายสำคัญหลายสาย บริเวณหน้าอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ไปหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ สูง 60 ซม. บริเวณหน้าวัดชัยประสิทธิ์ หน้าสถานดับเพลิงเทศบาล หน้ามูลนิธิสว่างคุณธรรม ชัยภูมิ บริเวณศาลเจ้าพ่อพญาแล หนองปลาเฒ่า สี่แยกโรงเลื่อยทางไปตาดโตน นอกจากนี้ยังท่วมถนนในชุมชนหนองบ่อ โนนสมอ กุดแคนหัวถนน ชุมชนเมืองเก่า ท่วมสูง 20- 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โรงเรียนเทศบาล ประกาศหยุดเรียน 3 แห่ง คือ เทศบาล 1 เทศบาล 3 เทศบาล 4 และศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดชัยภูมวนาราม ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 1 ตุลาคม 2556 เนื่องจากน้ำท่วมถนนสูง การสัญจรไปมาระหว่างโรงเรียน ไม่สะดวก ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เทศบาลเมืองชัยภูมิได้ระดมเครื่องสูบน้ำ15 เครื่อง และเครื่องผักดันน้ำ 10 เครื่อง สูบน้ำและผลักน้ำออกจากตัวเมือง ลงสู่แม่น้ำชี แต่ก็ไม่สามารถระบายออกได้หมดภายในวันเดียว ยังคงมีน้ำท่วมขังถนนสายสำคัญ และตามชุมชนหลายจุด ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง เบื้องต้นเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้นำกระสอบทราย แจกจ่ายให้ชาวบ้านขนไปปิดกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าบ้านเรือน เป็นการเฉพาะหน้า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมรอบนอก น้ำในลำน้ำชี ยังคงเอ่อท่วมพื้นที่ที่เคยท่วมเดิม และมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะตำบลส้มป่อย ตำบลละหาน ตำบลหนองบัวบาน อ.จัตุรัส

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ ได้มอบหมายให้นายพินิจ บุญวรรณ นายอำเภอจัตุรัส นายมนตรี ชาลีเครือ นายก อบจ.ชัยภูมิ และ สส.ปาริชาติ ชาลีเครือ นำถุงยังชีพ 1,800 ชุด ไปมอบให้ราษฎรผู้ประสบภัย 11 หมู่บ้าน ในตำบลส้มป่อย ได้แก่ บ้านบุตามีหมู่ 7 ส้มป่อยหมู่ 1,12,13,14 โนนเชือกหมู่ 3 บ้านซาดหมู่ 6 ห้วยน้อยหมู่ 8 กุดตูม ม.5 โนนม่วง ม.2 ห้วยท่าขี้เหล็ก ม.6

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ ณ ขณะนี้ มีสถานการณ์เฉพาะริมสองฝั่งแม่น้ำชี ตั้งแต่อำเภอจัตุรัส บ้านเขว้า เมืองชัยภูมิ เนินสง่า คาดว่าอีก 1-2 วัน น้ำมวลนี้จะไหลเข้าพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ เข้าพื้นที่จังหวัดขอนแก่นต่อไป แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ จากอิทธิพลของพายุลูกใหม่ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อม ตั้งศูนย์ช่วยเหลือไว้ทุกอำเภอ เพื่อรอรับธารน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และประสานความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในการเข้าป้องกันน้ำท่วม ในพื้นที่ล่อแหลมได้อย่างทันท่วงที สำหรับจังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยไว้ที่ศาลาประชาคม พร้อมตั้งโรงประกอบอาหาร สำหรับแจกจ่ายผู้ประสบภัย ในส่วนที่กำกำลังความช่วยเหลือในพื้นที่ ประชาชนทั่วไปสามารถนำสิ่งของมาบริจาคได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนความสูญเสีย ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเพิ่มอีก 1 ราย เป็นเด็กนักเรียนไปลงเล่นน้ำ บริเวณลำห้วยช่องสามหมอ อ.อำเภอแก้งคร้อ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้ รวมเป็น 3 รายแล้ว

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว














จังหวัดชัยภูมิ จัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร รวมพื้นที่ประสบภัยแล้ว 15 อำเภอ จุดที่สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วได้แก่พื้นที่ในทางตอนบน อำเภอหนองบัวแดง เกษตรสมบูรณ์ ส่วนพื้นที่ ตำบลส้มป่อย อำเภอจัตุรัส ยังมีน้ำท่วมอยู่ 4 หมู่บ้าน ซึ่งได้จัดอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค ไปให้ความช่วยเหลือ พร้อมจัดเรือท้องแบนไปอำนวยความสะดวกในการสัญจรแล้ว รวมทั้งพื้นที่บางส่วนของอำเภอบ้านเขว้า และตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง นอกจากนี้มวลน้ำจำนวนมากกำลังจะเคลื่อนไปยังอำเภอคอนสวรรค์ ซึ่งจะต้องหามาตรการในการป้องกันและแจ้งเตือนประชาชนให้ดูแลรักษาชีวิตและทรัพย์สินให้ได้อย่างทันท่วงที

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดชัยภูมิได้ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชัยภูมิ ขึ้น ที่ศาลาประชาคมจังหวัดชัยภูมิ (บริเวณด้านข้างศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ) โดยร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดชัยภูมิ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ตั้งโรงครัวประกอบอาหาร รวมทั้งเป็นศูนย์รับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วย โดยติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 044-813323-5 สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดชัยภูมิ รวมแล้ว 3 ราย โดยล่าสุดเป็นเด็กนักเรียนที่ไปเล่นน้ำในลำน้ำช่องสามหมอ อำเภอแก้งคร้อ แล้วถูกกระแสน้ำพัดหายไป



เพชรรินทร์ เขียวเขว้า
ส.ปชส.ชัยภูมิ...ข่าว







นายพรศักดิ์  เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ และ
นางเครือวัลย์  เจียรณัย นายกเหล่ากาชาด
ประกอบอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย





จังหวัดสุรินทร์ แจ้งเตือนประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยง อันเกิดจากสภาวะอากาศแปรปรวน (29 ก.ย. 56)

นายพิภพ  ดำทองสุข  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากกรมตุนิยมวิทยา

ว่าด้วยจังหวัดสุรินทร์ ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์คาดการณ์ อากาศประจำวันที่  29  กันยายน  2556  พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 550 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่  1  ตุลาคม  2556 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ลพบุร สระบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย


จังหวัดสุรินทร์ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยของ

จังหวัด ทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากสภาวะอากาศแปรปรวน ซึ่งเป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโซกแรง และอาจมีลูกเห็บตกจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเกษตรกร บ้านเรือน โรงเรือนและพืชผลทางการเกษตร ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวัง อันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 2-3  วันนี้ (29 กันยายน – 1 ตุลาคม 2556)  รวมถึงงดใช้เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือในที่โล่งแจ้งขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง




เกณฑ์ของพายุ

1.   พายุใต้ฝุ่น  มีความเร็วลม 118 กม./ชม. ขึ้นไป จะก่อให้เกิดลมพัดอย่างรุนแรง มีฝนตกหนักมาก มีคลื่นซัดชายฝั่ง ทำให้บ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ เกิดความเสียหายในวงกว้าง ส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม

2.   พายุโซนร้อน  มีความเร็ว  63-117 กม./ชม. ก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมพัดรุนแรง บ้านเรือน สิ่งก่อสร้างเสียหาย ส่วนใหญ่เกิดบริเวณประเทศเวียดนาม และ ลาว

3.   พายุดีเพรสชั่น  มีความเร็วลมน้อยกว่า 63 กม./ชม. เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน นาน 4-5 วัน เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง บ้านเรือนที่ไม่แข็งแรงจะเสียหาย ส่วนใหญ่เกิดในประเทศไทย


หมายเหตุ :   “ใต้ฝุ่น” จะเริ่มก่อตัวกลางหมาสมุทรแปซิฟิก แล้วเคลื่อนตัวสู่ฝั่งอ่อนแรงกลายเป็น “โซนร้อน” และอ่อนแรง เป็น “ดีเพรสชั่น” ตามลำดับ




(ผู้อำนวยการ สถานีอุตุนิยมวิทยา สุรินทร์ นายอำพร  ศรีประจันทร์ โทรศัพท์ 086-8730721)
กรรณิกา  สำราญจริง/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

โรงพยาบาลธีระวัฒน์ เตรียมต่อยอดโครงการผ่าตัดตาต้อกระจกฟรี โดยเชิญ รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น เข้าร่วมโครงการรักษาโรคต้อหิน และโรคตาอื่นๆ

เช้าวันที่ 27 ก.ย. 2556   ที่โรงพยาบาลธีรวัฒน์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีประชาชนที่เข้ารับบริการผ่าตัดตาต้อกระจก ตามโครงการ ชาวกาฬสินธุ์ผ่าตัดตาต้อกระจก ฟรี เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้ามาติดตามอาการภายหลังผ่าตัดแล้ว กว่า 500 คน

นายแพทย์ธีระวัฒน์ ร่วมไทรทอง ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลธีรวัฒน์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ โดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว โรงพยาบาล ศุพมิตร และ โรงพยาบาลธีรวัฒน์ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ร่วมมือกันดำเนินโครงการผ่าตัดตาต้อกระจกฟรีอย่างต่อเนื่อง ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้ารับบริการแล้วหลายหมื่นคน บางคนพบปัญหา ไม่ใช่เป็นตาต้อกระจก แต่เป็นต้อหินหรือโรคตาอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ต้องกลับบ้านไป เนื่องจากโครงการนี้รักษาตาต้อกระจกอย่างเดียว จากปัญหาดังกล่าวโรงพยาบาลธีรวัฒน์จึงได้ประสานไปยังสำนักงานส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ หรือ สสส. เพื่อขยายการให้บริการแบบคลอบคลุมยิ่งขึ้น โดยได้เชิญโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่นเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่าย โดยมีแผนจะดำเนินการปีงบประมาณ 2557 นี้ สำหรับผู้ป่วยที่เข้ามาตรวจ คัดกรองโรคตาต้อกระจก หากพบว่าเป็นโรคตาอื่นๆจะได้ส่งต่อให้ แพทย์โรงพยาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น รักษาทันที ทั้งนี้ เพื่อผู้ป่วยจะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทางและเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

สำหรับ ผู้ป่วยที่ได้ผ่าตัดตาต้อกระจกแล้ว เข้ามาติดตามอาการภายหลังผ่าตัดในวันนี้ กว่า 500 คน จากการสุ่มสอบถามพบว่า ทุกคนมีความพึงพอใจ และอยากให้โครงการนี้มีต่อเนื่องไปตลอด



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

น้ำชีทะลักท่วมตัวเทศบาลตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้วหนักสุดในรอบ 3 ปี

สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดชัยภูมิ ได้ขยายวงกว้าง ชาวบ้านเดือดหนัก น้ำท่วมมากสุดใน รอบ 3 ปี ล่าสุดน้ำจากลำน้ำชีได้เอ่อท่วมเขตเทศบาลตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว อ.เมืองชัยภูมิ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ท่วมถนนในชุมชนสูงกว่า 60 ซ.ม. ต้องใช้เรือแทนรถ

วันนี้ 28 ก.ย.56 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์และวางกำลังเข้าไปป้องกันแก้ไข และช่วยเหลือ พร้อมกับลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และสั่งใช้รถแบคโฮล ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เปิดทางน้ำบริเวณข้างวัดบ้านค่ายหมื่นแผ้ว เพื่อระบายน้ำจากชุมชนในเขตเทศบาล ให้ไหลลงพื้นที่ต่ำได้สะดวกขึ้น เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณในลำน้ำชี มีระดับสูงขึ้น รวมกับน้ำป่า และนำจากลำน้ำสาขาต่างๆ น้ำมวลนี้ ได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนของอำเภอหนองบัวระเหว จัตุรัส บ้านเขว้า และล่าสุดเมื่อช่วงเช้ามืด ที่ผ่านมา ได้ไหลบ่าเข้าท่วมในเขตเทศบาลตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำชี ท่วมถนนสายต่างๆสูงกว่า 60 ซ.ม. ทำให้ชาวบ้านใน 4 ชุมชน 100 กว่า ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน ต้องขนสิ่งของหนีน้ำไปอยู่ในที่สูง บางครอบครัว รถยนต์ยังจอดในบ้าน ขับออกไม่ทัน ถนนทุกสายเป็นอัมพาต ต้องใช้เรือท้องแบน ในการสัญจรไปมา นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลบ้านค่ายได้จัดกระสอบทราย มาบริการให้ชาวบ้านนำไปกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าในบ้าน บางบ้านไม่สามารถกั้นได้ทัน น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน

นอกจากนี้น้ำในลำน้ำชี ยังไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร ในเขตบ้านปึกคงคา ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ ถนนระหว่างหมู่บ้านท่วมสูงกว่า 50 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ชาวบ้านต้องรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรก่อนจะถูกน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ยังมีราษฎรบางครอบครับ กำลังเร่งขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งสัตว์เลี้ยง ขึ้นไปไว้ในที่สูง ยังไม่กล้าอพยพเพราะกลัวทรัพย์สินเสียหาย ขณะเดียวกันทาง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองนาแซง ได้สร้างศูนย์ช่วยเหลือ บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อเป็นจุดพักพิง และอพยพราษฎร หากปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้น

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ตำบลส้มป่อย ต.หนองบัวบาน อ.จัตุรัส เมื่อหลายวันที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ ระดับน้ำท่วมยังทรงตัว และมีทีท่าว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก น้ำมวลนี้ยังไหลลงบึงละลาน จนรับน้ำไม่ไหว เอ่อเข้าท่วมบ้านท่าศาลา ต.ละหาน อ.จตุรัส ทางเข้าหมู่บ้านสูงเกือบ 1 เมตร การจราจรถูกปิดใช้เรือท้องแบนเท่านั้น ชาวบ้านต้องอพยพสิ่งขึ้นมาไว้เต็นท์ข้างทาง นอกจากนี้ถนนสายโนนจาน-บ้านเขว้า ช่วงบ้านท่าศาลา ยังถูกน้ำท่วมขังประมาณ 20 ซ.ม. โชคดีที่การจราจรยังใช้การได้

นางอภิญญา สิทธิโกษี ผู้ใหญ่บ้านท่าศาลา หมู่ 6 เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 100 ครอบครัว อยากได้ห้องน้ำฉุกเฉิน เพราะน้ำท่วมกันทุกบ้าน พร้อมกับเรือท้องแบน มีน้ำมันเชื่อเพลิงมาให้ด้วยก็จะดี ชาวบ้านจะได้ใช้เป็นพาหนะ สัญจรเข้า-ออกหมู่บ้านได้ ตอนนี้ทางรถยนต์ถูกตัดขาดแล้ว

ส่วนสถานกรณ์ ที่ตำบลส้มป่อย มีรายงานว่า น้ำจากลำห้วยส้มป่อย มีระดับสูงขึ้น ทำให้ไหลมาเพิ่มมวลน้ำเดิมที่ ยังทรงตัวอยู่ ทำให้มีระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายหน่วยงานกำลังเร่งลงไปให้ความช่วยเหลือ วันพรุ่งนี้ 29 ก.ย. 56 ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายอำเภอ และ สส. มีหนดจะนำถุงยังชีพไปมอบให่ชาวบ้านที่ประสบภัยแล้ว




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล / ข่าว 

ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ มอบส่งของช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย

วันที่ 28 กันยายน 2556 เมื่อเวลา 10.00 น. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สำนักงานบรรเทาสาธารณ์ภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ออกช่วยเหลือและมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับพี่น้องประชาชน ที่ให้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม จังหวัดบุรีรัมย์มีพื้นที่ ที่ประสบอุทกภัยจากน้ำท่วมอยู่ทั้งหมด 12 อำเภอ 64 ตำบล 618 หมู่บ้าน 37,454 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 79,419 ไร่

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.บุรีรัมย์หลายพื้นที่ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะบ้านสวายสอ หมู่ 8 และบ้านสวรรค์น้อย หมู่ 6 ต.ชุมแสง อ.กระสัง ที่ถูกน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน ทุ่งนา รวมถึงพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ซึ่งเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ก็ถูกน้ำท่วมล้อมรอบสูง 2-3 เมตร จนต้องใช้เรือในการสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้านเพียงอย่างเดียวมาเป็นเวลานาน 1 สัปดาห์ และเพิ่งได้รับการช่วยเหลือจากรัฐนั้น
ล่าสุดได้ส่งผลกระทบต่อวัว ควายที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ทั้ง 2 หมู่บ้านกว่า 1,000 ตัวเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนอาหารสัตว์แล้ว เนื่องจากไม่มีพื้นที่ได้เกี่ยวหญ้ามาให้วัว ควายกิน ส่วนฟางที่กักตุนไว้ก็ใกล้หมด จึงร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำฟางอัดฟ่อน หรือหญ้าแห้งมาแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้สัตว์เลี้ยงดังกล่าวด้วย

นอกจากน้ำท่วมพื้นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์แล้ว ยังเอ่อท่วมคอก จนเจ้าของต้องย้ายวัว ควาย ไปไว้ในพื้นที่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ถูกน้ำท่วมเพราะอาจเจ็บป่วยได้ เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมบ้าน ไร่นา และถนนยังทรงตัว และยังต้องใช้เรือในการสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

ผู้ป่วยไข้เลือดออกที่มหาสารคามลดลงจากเดือนก่อน แต่ยังเฝ้าระวัง

สถานการณ์โรคไข้เลือดออกที่จังหวัดมหาสารคาม จนถึงวันที่ 25 กันยายน สะสม 2307 ราย โดยเดือนกันยายนพบ 181 ราย ลดลงจากเดือนก่อน แต่ยังต้องเฝ้าระวัง พร้อมขอความร่วมมือทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ร่วมกันป้องกันกำจัดยุงลาย

นายแพทย์สุริยา รัตนปริญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกที่จังหวัดมหาสารคาม ตั้งเดือนมกราคม-25 กันยายน 2556 มีผู้ป่วยสะสม 2,307 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 240.79 ต่อแสนประชากร และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยพบผู้ป่วยเป็นหญิงมากกว่าชาย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดเป็นกลุ่มนักเรียน อายุ 10-14 ปี มีจำนวน 1,168.65 ราย

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยเดือนกันยายน 2556 มีจำนวน 181 ราย ซึ่งลดลงจากเดือนสิงหาคม ที่พบจำนวน 547 ราย มีแนวโน้มลดลง ส่วนอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด คืออำเภอกันทรวิชัย รองลงมา คือ อำเภอเมือง อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอวาปีปทุม

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกันกำจัดยุงลาย และลดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก จังหวัดมหาสารคาม ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออก โดยระดมทรัพยากรในพื้นที่ร่วมกันดําเนินการ เร่งกําจัดยุงตัวเต็มวัยในหมู่บ้านที่พบผู้ป่วย ขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันกำจัดลูกน้ำ ไข่ยุงลายเพื่อลดประชากรยุง ลดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ส่งมอบเงินสมทบกองทุนแม่ เป็นกองทุนป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ส่งมอบเงินสมทบกองทุนแม่ของแผ่นให้แก่ประธานหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน จังหวัดมหาสารคาม รวม 28 กองทุน 280,000 บาท เพื่อนำไปเป็นกองทุนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่

ในการประชุมคณะกรมการจังหวัดมหาสารคาม ประจำเดือนกันยายน 2556 ก่อนวาระการประชุม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการส่งมอบเงินสมทบกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตามที่รัฐบาลได้จัดสรรเงินสมทบหมู่บ้าน/ชุมชนต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน ปี 2555 ทั่วประเทศ กองทุนละ 10,000 บาท สำหรับจังหวัดมหาสารคาม มีหมู่บ้าน และชุมชนที่ได้รับเงินสมทบกองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 28 กองทุน ใน13 อำเภอและ 1 เทศบาล รวมเป็นเงิน 280,000 บาท โดยมีประธานกองทุนแม่ของแผ่นดินมารับมอบเงินสมทบทุนดังกล่าว เพื่อนำไปเป็นกองทุนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่

นอกจากนี้ ก่อนวาระการประชุมดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ยังได้เป็นประธานในการมอบรางวัลโครงการสำนักงานน่าอยู่ น่าทำงาน ด้วยหลักการ 5 ส. ปี 2556 โดยมีสำนักงานสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม และสำนักงานคลังจังหวัดมหาสารคาม ได้รับรางวัลระดับดีเยี่ยม การมอบเกียรติบัตรและรางวัล ในโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ปี 2556 พิธีมอบเงินสมทบให้แก่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวมหาสารคาม และชุมชนบ้านท่าตูม เพื่อสนับสนุนทีมเรือเจ้าแม่คำเครือ ในฐานะเรือตัวแทนจังหวัดร่วมแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ที่จังหวัดพิจิตร มอบใบประกาศเกียติคุณแก่เยาวชนที่ชนะในการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ มอบเกียรติบัตรร้านเกมสีขาว และมอบเกียรติให้แก่อำเภอที่มีผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามเกณฑ์มาตรฐานอำเภออนามัยเจริญพันธุ์ .



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา (นายสมบัติ คุรุพันธ์) ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างสนามกีฬาประจำจังหวัดอำนาจเจริญ

ดร.สมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมสนับสนุนและพัฒนาสนามกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ ให้ได้มาตรฐานเป็นศูนย์การพัฒนากีฬาจังหวัดให้มาตรฐานสูงขึ้นสำหรับการแข่งขันกีฬานักเรียนและเยาวชนในระดับภาคอิสานและในระดับนานาชาติ

วันนี้ (๒๘ กันยายน ๒๕๕๖) ดร.สมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมเปิดเผยว่า จะสนับสนุนให้สนามกีฬาของจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นศูนย์กลางการพัฒนาด้านการกีฬาของจังหวัดอำนาจเจริญให้ได้มาตรฐาน สามารถใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาเยาวชน หรือนักเรียนในระดับภาคอีสาน และยกระดับมาตรฐานให้สามารถใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติต่อไป

สำหรับสนามกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ ก่อสร้างขึ้นโดยใช้งบประมาณของการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นงบประมาณผูกพัน มีระยะดำเนินการระหว่างปี ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙ ในวงเงิน ๒๔๐ ล้านบาท ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างอัฒจันทน์ สนามฟุตบอล ลู่วิ่งยางสังเคราะห์ อาคารสำนักงาน สถานคบเพลิง ระบบสาธารณูปโภค เสร็จเรียบร้อยและสามารถใช้งานได้แล้ว ขณะนี้กำลังติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างสนาม  ซึ่งในปีงบประมาณต่อไป จะมีการสร้างสระว่ายน้ำ  โรงยิมอเนกประสงค์ อาคารที่พักนักกีฬา สนามเทนนิส ๖ คอร์ด และระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ  ซึ่งจะมีความสมบูรณ์และได้มาตรฐาน

ดร.สมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สนามกีฬาแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ส่วนรวมของชาวจังหวัดอำนาจเจริญ จึงขอเชิญชวนให้ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ใช้สนามกีฬาแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการพัฒนาด้านกีฬาของจังหวัด และเป็นสถานที่ออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพแข็งแรง และพักผ่อนหย่อนใจในการออกกำลังกายของครอบครัว เป็นภูมิต้านยาเสพติดและสร้างความอบอุ่นในครอบครัวได้เป็นอย่างดีด้วย



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ( ดร.สมบัติ คุรุพันธ์) เปิดโครงการอบรมศึกษาดูงาน ผู้นำอาสาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและพิทักษ์นักท่องเที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี ๒๕๕๖

ดร.สมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอความร่วมมือชาวไทยทุกคนทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดี ในการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศ และเตรียมการเข้าสู่ประชาชคมอาเซียนในอีก ๒ ปี ข้างหน้า

เวลา ๑๐.๐๐ น. วันนี้(๒๘ กันยายน ๒๕๕๖) ที่ห้องประชุมโรงแรมเลิศวิจิตร อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ดร.สมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดโครงการอบรมศึกษาดูงาน ผู้นำอาสาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและพิทักษ์นักท่องเที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญ  ซึ่งทางสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ จัดขึ้น ระหว่างวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖  โดยมีนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวให้การต้อนรับและกล่าวรายงานด้านแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและมีชื่อเสียงของจังหวัดอำนาจเจริญ ทั้งด้านวัฒนธรรมพื้นถิ่น ด้านแหล่งเผยแพร่พุทธศาสนา และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมจำนวนมากขึ้นทุกปี

ด้านนายปะณะชัย คำสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดโครงการครั้งนี้ เพื่อสร้างเยาวชนและประชาชนในจังหวัดอำนาจเจริญ ให้รู้จักรักและหวงแหนทรัพยากรการท่องเที่ยวในท้องถิ่นของตน ศึกษาและทำความเข้าใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อนำเสนอแก่นักท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการสร้างงานให้ประชาชนและท้องถิ่น และเป็นการเตรียมความพร้อมด้านการส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศไทย  โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นผู้นำชุมชนในหมู่บ้านที่มีแหล่งท่องเที่ยวในทุก ๗ อำเภอ จำนวน ๑๓๐ คน  เนื้อหาการอบรมจะมีทั้งการให้ความรู้วิชาการ และการศึกษาดูงานด้านการท่องเที่ยวในและนอกจังหวัด

ดร.สมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือชาวไทยทุกคนทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดี ในการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งการรักษาขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมอันดีงาม และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไม่ให้เสื่อมโทรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ อยากเดินทางมาเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศกระจายสู่ประชาชนในทุกท้องถิ่น และยังเป็นการเตรียมพร้อมด้านสถานที่ท่องเที่ยวรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก ๒ ปี ข้างหน้าด้วย



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว