ที่บริเวณสวนท้ายหมู่บ้านบ้านกะเพอโร ซึ่งเป็นบ้านของนายสมนึก ชลารัตน์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ที่ 1 บ้านโชค ต.ตาเบา อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีเนื้อที่ 5 ไร่ แบ่งเป็นที่พักอาศัย สระน้ำ โรงเรือนเพาะไส้เดือน โรงเรือนเก็บเชื้อเห็ด และพื้นที่ปลูกต้นมะนาวจำนวน 300 ต้น เก็บผลผลิตได้วันละ 3,000 ลูก ขายหน้าสวนลูกละ 3 บาท สร้างรายได้วันละ 9,000 บาท นอกจากนั้นยังมีรายได้จากการตอนกิ่งมะนาวขายกิ่งละ 100 บาท ซึ่งไม่พอกับความต้องการของตลาด
นายสมนึก ชลารัตน์ กล่าวว่า เดิมมีอาชีพทำนา มีต้นมะนาวไม่กี่ต้นซึ่งมะนาวจะให้ผลผลิตได้เฉพาะฤดูกาลเท่านั้น จึงคิดหาวิธีการทำให้มะนาวออกลูกในช่วงหน้าแล้ง จึงไปอบรมและศึกษาการปลูกมะมาวนอกฤดูกาล จากสำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นได้ปลูกมะนาว โดยใช้ท่อซีเมนต์ ต้นละ 2 ท่อ สาเหตุที่ใช้ท่อซีเมนต์ 2 ท่อเพื่อเพิ่มอายุของต้นมะนาวให้มีอายุถึง 20 ปี ในช่วงแรกปลูกเพียง 100 ต้น โดยใช้ใส้เดือนช่วยพรวนดิน ทำให้ดินโปร่ง พร้อมปล่อยน้ำให้พอเหมาะ ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเวลา 10.00 น. ถ้าต้องการให้มะนาวออกผลช่วงนอกฤดูกาล จะต้องมีกรรมวิธีในการบังคับให้มะนาวออกนอกฤดูกาลโดยใช้พสาติกคลุมบริเวณปากท่อซีเมนต์โคนต้นมะนาวให้มิดชิด ไม่ให้น้ำและแสงเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 10 วัน แล้วให้หมั่นสังเกต หากต้นมะนาวเริ่มเหี่ยวเฉา ให้เปิดถุงพสาสติกออก แล้วเริ่มให้น้ำและบำรุงดูแลเป็นปกติ
นายสมนึก ชลารัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของการเพาะไส้เดือนเพื่อเอามูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยใส่ต้นมะนาวนั้น ช่วงแรกซื้อไส้เดือนราคากิโลกรัมละ 25 บาท แต่ปัจจุบันได้สร้างโรงเรือนเพาะไส้เดือนเอง โดยได้นำเอาก้อนเชื้อเห็ดเก่าที่เสียแล้วนำมาผสมน้ำหมักมันสำปะหลัง คลุกเคล้ากับกากมะพร้าวใส่ในบ่อซีเมนต์ จากนั้นใส่ไข่ไส้เดือนปิดคลุมด้วยผ้าพลาสติก เมื่อไส้เดือนฟักตัวอ่อนจึงเอาไปใส่กาละมังและเก็บไว้ในโรงเรือน เพื่อให้ใส้เดือนเจริญเติบโตและถ่ายมูลในกาละมัง จะได้ปุ๋ยคุณภาพสูง ซึ่งขณะนี้มีกาละมังภาชนะใส่ไส้เดือนในโรงเรือนมากถึง 500 ใบ และในปีหน้าตั้งเป้าขยายให้ได้ถึง 2,000 ใบ กาละมังแต่ละใบบรรจุมูลไส้เดือนหนักประมาณ 40 กิโลกรัม จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 8 บาท แต่ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
ด้านนายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ได้นำหัวหน้ากลุ่มงานเข้าเยี่ยมชม และติดตามผลการดำเนินงาน พร้อมให้กำลังใจเกษตรกรหลังจากที่ให้การสนับสนุนในด้านวิชาการแล้ว ซึ่งเกษตรกรประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สร้างกำไรจากการทำการเกษตรอย่างมาก นอกจากนั้นยังสามารถตอนกิ่งมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 เพื่อจำหน่ายในราคากิ่งละ100 บาท โดยมีพ่อค้ามารับซื้อที่หน้าสวน ซึ่ง สำนักงานเกษตรสุรินทร์จะได้จัดโครงการให้เกษตรกรรุ่นใหม่ เข้ามาศึกษาดูงานการปลูกมะนาวนอกฤดูกาล และการเพาะไส้เดือนขายต่อไป
นายสมนึก ชลารัตน์ กล่าวว่า เดิมมีอาชีพทำนา มีต้นมะนาวไม่กี่ต้นซึ่งมะนาวจะให้ผลผลิตได้เฉพาะฤดูกาลเท่านั้น จึงคิดหาวิธีการทำให้มะนาวออกลูกในช่วงหน้าแล้ง จึงไปอบรมและศึกษาการปลูกมะมาวนอกฤดูกาล จากสำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นได้ปลูกมะนาว โดยใช้ท่อซีเมนต์ ต้นละ 2 ท่อ สาเหตุที่ใช้ท่อซีเมนต์ 2 ท่อเพื่อเพิ่มอายุของต้นมะนาวให้มีอายุถึง 20 ปี ในช่วงแรกปลูกเพียง 100 ต้น โดยใช้ใส้เดือนช่วยพรวนดิน ทำให้ดินโปร่ง พร้อมปล่อยน้ำให้พอเหมาะ ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเวลา 10.00 น. ถ้าต้องการให้มะนาวออกผลช่วงนอกฤดูกาล จะต้องมีกรรมวิธีในการบังคับให้มะนาวออกนอกฤดูกาลโดยใช้พสาติกคลุมบริเวณปากท่อซีเมนต์โคนต้นมะนาวให้มิดชิด ไม่ให้น้ำและแสงเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 10 วัน แล้วให้หมั่นสังเกต หากต้นมะนาวเริ่มเหี่ยวเฉา ให้เปิดถุงพสาสติกออก แล้วเริ่มให้น้ำและบำรุงดูแลเป็นปกติ
นายสมนึก ชลารัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของการเพาะไส้เดือนเพื่อเอามูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยใส่ต้นมะนาวนั้น ช่วงแรกซื้อไส้เดือนราคากิโลกรัมละ 25 บาท แต่ปัจจุบันได้สร้างโรงเรือนเพาะไส้เดือนเอง โดยได้นำเอาก้อนเชื้อเห็ดเก่าที่เสียแล้วนำมาผสมน้ำหมักมันสำปะหลัง คลุกเคล้ากับกากมะพร้าวใส่ในบ่อซีเมนต์ จากนั้นใส่ไข่ไส้เดือนปิดคลุมด้วยผ้าพลาสติก เมื่อไส้เดือนฟักตัวอ่อนจึงเอาไปใส่กาละมังและเก็บไว้ในโรงเรือน เพื่อให้ใส้เดือนเจริญเติบโตและถ่ายมูลในกาละมัง จะได้ปุ๋ยคุณภาพสูง ซึ่งขณะนี้มีกาละมังภาชนะใส่ไส้เดือนในโรงเรือนมากถึง 500 ใบ และในปีหน้าตั้งเป้าขยายให้ได้ถึง 2,000 ใบ กาละมังแต่ละใบบรรจุมูลไส้เดือนหนักประมาณ 40 กิโลกรัม จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 8 บาท แต่ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
ด้านนายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ได้นำหัวหน้ากลุ่มงานเข้าเยี่ยมชม และติดตามผลการดำเนินงาน พร้อมให้กำลังใจเกษตรกรหลังจากที่ให้การสนับสนุนในด้านวิชาการแล้ว ซึ่งเกษตรกรประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สร้างกำไรจากการทำการเกษตรอย่างมาก นอกจากนั้นยังสามารถตอนกิ่งมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 เพื่อจำหน่ายในราคากิ่งละ100 บาท โดยมีพ่อค้ามารับซื้อที่หน้าสวน ซึ่ง สำนักงานเกษตรสุรินทร์จะได้จัดโครงการให้เกษตรกรรุ่นใหม่ เข้ามาศึกษาดูงานการปลูกมะนาวนอกฤดูกาล และการเพาะไส้เดือนขายต่อไป
นิ่มนวล มานาดี / อปม.สุรินทร์ /รายงาน
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ /เรียบเรียง