วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขอเชิญร่วมตักบาตรข้าวเหนียวและเวียนเทียนในเทศกาลมาฆบูชา

จังหวัดนครพนม ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ปี 2557 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ บริเวณลานกันเกรา หน้าตลาดอินโดจีน เทศบาลเมืองนครพนม และวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม เพื่อส่งเสริมพุทธศาสนิกชนได้ทำบุญตักบาตร เข้าวัดปฏิบัติธรรม ร่วมกัน ลด ละ เลิกอบายมุข และตระหนักถึงความสำคัญของวันมาฆบูชา

ภาคเช้า เวลา 06.30 น. พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เล่าพร้อมกันที่บริเวณลานกันเกรา หน้าตลาดอินโดจีน เทศบาลเมืองนครพนม เวลา 07.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำประกอบพิธีทางพุทธศาสนา เสร็จแล้วพุทธศาสนิกชนร่วมตักบาตรข้าวเหนียวตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง พระสงฆ์รับบิณฑบาต 60 รูป

ภาคค่ำ เวลา 19.00 น. พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เล่าพร้อมกันที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำพุทธศาสนิกชนประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม

ชาวอำเภอปลาปาก จัดงานบุญประเพณีบายศรีสู่ขวัญ นมัสการหินตั้ง ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3

บุญประเพณีบายศรีสู่ขวัญ นมัสการหินตั้ง  เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักประวัติศาสตร์  รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  บุญประเพณีบายศรีสู่ขวัญ นมัสการหินตั้ง ขึ้น 3 ค่ำ  เดือน 3  จัดขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น นมัสการหินตั้ง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมือง ของชาวตำบลกุตาไก้  ณ โรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม  ตำบลกุตาไก้  อำเภอปลากปาก  โดยมีกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญผู้สูงอายุ  บวชชีพราหมณ์  ปฏิบัติธรรมะ การอนุรักษ์ศิลปพื้นบ้านอีสาน  การจัดซุ้มแสดงสินค้า  นิทรรศการ  งานฉลองสมโภชน์การแข่งขันชกมวย  การแสดงดนตรีหมอลำ

ทั้งนี้  การนมัสการหินตั้ง  สามารถนมัสการได้ทุกวั

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติ

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติ  โดยมอบให้กับผู้ยากได้มีที่อยู่อาศัย

นายสมชอบ  นิติพจน์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ร่วมกับจังหวัดทหารบกนครพนมและกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3  ค่ายพระยอดเมืองขวาง  อำเภอเมืองนครพนม  จังหวัดนครพนม  สร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติ  ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ  พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา  81 พรรษา  ในวันที่  12  สิงหาคม  2556  เพื่อมอบให้กับประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่จังหวัดนครพนม รวม 24 หลัง  โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  มีกำหนดส่งมอบบ้านหลังที่ 19  คือ  นายอมรเทพ  คำเบ็ง  บ้านเลขที่ 137 หมู่ที่ 16 บ้านวังกระแส  ตำบลบ้านผึ้ง  อำเภอเมืองนครพนม  ในวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์  2557  เวลา 10.00 น. และบ้านหลังที่ 20 นายพร  แก้วโสภา  บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 7  บ้านหนองหญ้าไซ  ตำบลกุรุคุ  อำเภอเมืองนครพนม  ในวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์  2557  เวลา 11.30 น.

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมประชุมสภา สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2557

นายธงทิพย์  แห่สถิต  ประธานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ประกาศเรียกประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2557  มีกำหนด 45 วัน โดยเริ่มประชุมตั้งแต่วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์  255  ถึงวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม  2557  เพื่อพิจารณาญัตติต่างๆ  เกี่ยวกับการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  โดยประชาชนหรือผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมได้ตามวันดังกล่าว  สอบถามราละเอียดได้ที่ กองกิจการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด  สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ชั้น 3 ในวันเวลาราชการ  โทรศัพท์  0-4251-6294

ขอเชิญถวายภัตตาหารถวายพระภิกษุสามเณรผู้เข้าอบรมบาลีก่อนสอบ ประจำปี 2557

พระบวรปริยัติกิจ  รองเจ้าคณะจังหวัด ปฏิบัติการแทนเจ้าคณะจังหวัด  เปิดเผยว่า  คณะสงฆ์จังหวัดนครพนมจัดอบรมบาลีก่อนสอบ  ประจำปี 2557  วันที่ 31  มกราคม ถึงวันที่  19 กุมภาพันธ์ 2557 ณ วัดสว่างสุวรรณาราม  ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองนครพนม  จำนวน  180 รูป  จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนถวายภัตตาหารถวายพระภิกษุสามเณรผู้เข้ารับการอบรมบาลีก่อนสอบ  โดยแจ้งความประสงค์ที่พระบวรปริยัติกิจ  รองเจ้าคณะจังหวัด  เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม  ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองนครพนม  ตามกำลังศรัทธาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะจบโครงการอบรมประจำปี 2557  โทรศัพท์ 08-1262-3649

นรข.มุกดาหาร สนธิกำลังทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรียึดไม้พะยูง 300 ท่อน

นรข.มุกดาหาร สนธิกำลัง กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กอ.รมน ยึดไม้พะยูง กว่า 300 ท่อน.มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท

( 3 ก.พ.57 ) นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตนครพนม,นาวาโท ปรเมศวร์ ไศลบาท ผู้บังคับหมู่เรือที่ 3 มุกดาหาร พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.มุกดาหาร,ชุดเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังสุรศักดิ์มตรี เข้าตรวจยึดไม้พะยูง ที่บริเวณบ้านพักร้าง ในสวนยางพารา บ้านนาหว้า ต.นาสะเม็ง อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร หลังสืบทราบว่ามีการนำไม้พะยูงมาซุกซ่อนที่บริเวณดังกล่าว ที่เกิดเหตุพบไม้พะยูงทั้งเก่าและใหม่ จำนวน 300 ท่อน มูลค่า 1,000,000 บาท พร้อมรวจยึดไม้พะยูงทั้งหมดเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนตาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ได้กล่าวถึงมาตรการป้องกันการลักลอบตัดไม้และขนขนไม้พะยูง ซึ่งมีการกระทำมากขึ้นในระยะนี้ว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและการหาข่าวเชิงลึกของกลุ่มขบวนการค้าไม้พะยูง เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อไป และหากจับกุมผู้กระทำผิดได้ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและครบทุกขบวนการ เพื่อเป็นการป้องปรามอีกทางหนึ่ง และขอให้การสนับสนุนและร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการลักลอบขนไม้พะยูงในพื้นที่ ให้มีประสิทธิภาพและลดลงต่อไป

บรรยากาศการเลือกตั้ง ส.ส.มุกดาหารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

บรรยากาศการเลือกตั้ง ส.ส.มุกดาหารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนให้ความสนใจออกไปเลือกตั้งกันมาก แต่น้อยกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส.เป็นการทั่วไปพร้อมกันทั้งประเทศ หลังจากได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการยุบสภาและเลือกตั้ง ส.ส. ในวันดังกล่าว ซึ่งหลายจังหวัดประสบปัญหาประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากถูกต่อต้านและขัดขวางของกลุ่มมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยนายสิริพงษ์ มุกศรี ผอ.กกต.จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สำหรับจังหวัดมุกดาหารบรรยากาศของการเลือกตั้ง ตลอดทั้งวันจนถึงการปิดหีบได้มีประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างคึกและจำนวนมาก แต่น้อยกว่าการเลือกตั้ง เมื่อปี 2553 อย่างไรก็ตามคาดว่ามีประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ซึ่งภายหลังจากปิดหีบเลือกตั้งแล้ว ได้มีการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งนั้นก่อนส่งไปยังเขตเลือกตั้งนั้น ๆ เพื่อรอการนับคะแนนพร้อมกัน กับบัตรเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ซึ่งจะจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ และส่งมาให้กับจังหวัดมุกดาหารครบทุกจังหวัดหรือครบทุกเขต  หลังจากนั้นจึงจะได้ประกาศผลการเลือกตั้งต่อไป

สำหรับจังหวัดมุกดาหารมีผู้มาสมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด 9 คน 7 พรรคการเมือง โดยแยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 4 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายสมยศ มุสิกภัทร จากพรรคชาติพัฒนา, หมายเลข 5 นายชาญฤทธิ กุลศรี พรรคพลังสหกรณ์, หมายเลข 15 นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ พรรคเพื่อไทย และหมายเลข 24 นางยุพาพร คล่องแคล่ว พรรคประชาธิปไตยใหม่

เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 5 คน ได้แก่มีหมายเลข 5 นายวัชรา อาษาศรี พรรคพลังสหกรณ์ หมายเลข 14 นายวิทยา บุตรดีวงศ์ พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 15 นายบุญฐิน ประทุมลี พรรคเพื่อไทย หมายเลข 22 นายหาดชัย คนเพียร พรรคดำรงไทย และหมายเลข 50 นายฉลอง สอดศรี พรรคเงินเดือนประชาชน โดยมีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 579 หน่วย โดยแยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอดอนตาล อำเภอหว้านใหญ่ จำนวน 260 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย อำเภอเมืองมุกดาหาร (เฉพาะ ตำบลผึ่งแดด ตำบลดงมอน ตำบลนาโสก ) อำเภอคำชะอี อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอดงหลวง รวม จำนวน 319 หน่วย และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 257,158 คน

ที่ปรึกษานายก อบจ.มุกดาหาร มอบผ้าห่มกันหนาว

ที่ปรึกษานายก อบจ.มุกดาหาร มอบผ้าห่มกันหนาวบรรเทาภัยหนาวแก่ ราษฎร ตำบลดงมอน ตำบลบ้านโคก ตำบลกุดแข้ รวมทั้งหมด 2,400 ผืน

( 3 ก.พ.57) นายวิริยะ ทองผา ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยสมาชิกสภา อบจ.มุกดาหาร ได้เดินทางไปมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยหนาว ที่สำนักงานเทศบาลตำบลผึงแดดจำนวน 600 ผืน ,สำนักงานเทศบาลตำบลดงมอน จำนวน 600 ผืน,องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคก จำนวน 800 ผืน,องค์การบริหารส่วนตำบลกุดแข้ จำนวน 400 ผืน รวมทั้งหมด 2,400 ผืน

นายวิริยะ ทองผา ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จากอากาศที่หนาวเย็นในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารจึงได้จัดสรรเงินงบประมาณจำนวนหนึ่งจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชนโดยเฉพาะประชาชนที่ยากจน ขาดแคลนไม่มีเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ นอกเหนือจากส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น โดยจะให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ก่อนสิ้นสุดฤดูหนาวนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยหนาวดังกล่าว

วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ รับสมัครสอบคัดเลือกเพื่อเป็นลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 17 อัตรา

วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ ได้ประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกเพื่อเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่ง ครูจ้างสอน จำนวน 17 อัตรา รับสมัครระหว่างวันที่ 3-12 กุมภาพันธ์ 2557 โดยสอบถามรายละเอียดได้ที่วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์ 044-560120 หรือดูรายละเอียดได้ที่ทางเว็บไซต์ www.spicc.ac.th
       

         
 
                                                                            กรรณิกา  สำราญจริง/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

ภาพรวมของการเลือกตั้ง ส.ส.สุรินทร์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย กกต.สุรินทร์แจ้งมียอดผู้มาใช้สิทธิ์เกินร้อยละ 50

ภาพรวมของการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดสุรินทร์ในวันนี้ ( 2 ก.พ. 2557) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเช้าเปิดหีบ 08.00 น. – ปิดหีบเวลา 15.00 น. โดยนายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธาน กกต.จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากได้ออกตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งต่างๆในหลายพื้นที่ผลการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ในครั้งนี้ในภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีปัญหาหรือว่ามีการรายงานว่ามีการกระทำความผิดกฏหมายเลือกตั้งแต่อย่างไร ถึงแม้ว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกไปใช้สิทธิ์ค่อนข้างบางตาเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ก็ออกมาใช้สิทธิ์เกินร้อยละ 50 แทบทุกหน่วยเลือกตั้งโดยเฉพาะบริเวณรอบนอกตัวเมือง คาดว่าไม่น่าจะเกิน 18 .00 น. น่าจะทราบผลคะแนนในทุกหน่วย

สำหรับบรรยากาศการนับคะแนนในแต่ละหน่วยเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีประชาชนคอยมาลุ้นคะแนนแต่อย่างไร ส่วนใหญ่มีเพียงกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่นับคะแนนตามลำพัง ส่วนการนับคะแนนนอกจากการลงคะแนนเลือก ส.ส แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อแล้วยังมีการลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา

จ.สุรินทร์ เชิญชมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและนมัสการหลวงพ่อพวน วัดช้างหมอบ(วัดมงคลคชาราม) เกจิชื่อดังแห่งอีสานใต้

พระพิมลพัฒนาทร (หลวงพ่อพวน วรมงฺคโล) เจ้าคณะตำบลคอโคและเจ้าอาวาสวัดมงคลรัตน์ ตำบลคอโค อำเภอเมืองสุรินทร์ และเจ้าอาวาสวัดช้างหมอบ (วัดมงคลคชาราม) อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์เป็นพระสงฆ์ผู้มีพรหมวิหารธรรม เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาวจังหวัดสุรินทร์ พุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมไปกราบนมัสการ เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต โดยไปไถ่ชีวิตโคกระบือที่วัดและรับมอบวัตถุมงคลจากหลวงพ่อเนื่องในเทศกาลต่าง ๆ เป็นประจำ หลวงพ่อพวน เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2471 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 11 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง อายุ 87 พรรษา บวชเป็นสามเณรที่วัดคอโค (วัดสง่างาม) อำเภอเมือง ฯ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อครบอายุบรรพชา ได้หลวงปู่อวง วัดสง่างาม(วัดคอโค) อำเภอเมืองสุรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และศึกษาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ อวงและหลวงปู่มา นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สอนหนังสือการปฏิบัติธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ในจังหวัดสุรินทร์มาโดยตลอด หลวงพ่อพวนท่านชอบธรรมชาติ จึงชอบธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นประจำ ในสมัยก่อน ประมาณ ปี พ.ศ. 2517 พื้นที่ตามแนวชายแดน เป็นป่าทึบและยังเป็นดินแดนสีแดง หรือเรียกว่ากลุ่มคอมมิวนิสต์เข้ามาหลบอยู่ในป่า ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยกล้าเข้าในป่าลึก โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ท่านได้มาธุดงค์เข้าในในป่าบริเวณนี้ซึ่งอยู่บนเนินเขาพนมดงรัก ติดชายแดนไทย กัมพูชา ชอบความสงบตามธรรมชาติ ได้พำนักและมาปฏิบัติธรรมในถ้ำใกล้ ๆ บริเวณวัดช้างหมอบแห่งนี้
ในช่วงนั้น ได้เดินทาง ไป ๆ มา ระหว่างวัดคอโคและวัดแห่งนี้ มีความรู้สึกว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก หากชาวบ้านมาถางป่าทำไร่ก็น่าเสียดาย ทุกวันนี้ หลวงพ่อพวน วรมังคโล เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของอีสานใต้ เป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ใครที่เดือดร้อนมาขอให้ช่วยโดยหลวงพ่อจะสอนให้ยึดหลักธรรมะ ให้เก่งการทำงาน เก่งการประกอบอาชีพอย่างสุจริต ใช้อย่างประหยัดคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงแม้จะมีอายุมากถึง 87 พรรษาแล้วก็ตาม สังขารเริ่มเจ็บป่วยตามวัยและรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่หลวงพ่อพวนก็ยังสามารถปฏิบัติศาสนกิจเป็นประจำทุกวัน ญาติโยม ยังเลื่อมใส ในข้อวัตรปฏิบัติ ที่เคร่งครัดของหลวงพ่อ ได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพร และขอบารมีคุ้มครองจากหลวงพ่อ และเป็นที่เชื่อกันว่า หากใครได้รับพร และน้ำมนต์จากหลวงพ่อ จะเป็นผู้โชคดี ได้สิ่งที่ปรารถนาดั่งใจ และหากญาติโยมท่านใดที่มีความประสงค์จะบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณี ศรีไตรยอดเพชร เพื่อเก็บบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็สามารถติดต่อได้ที่วัดช้างหมอบ(วัดมงคลคชาราม ) หมู่ 14 บ้านช้างหมอบ ต.แมงมุด อ.กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 32210 หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสุรินทร์ ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี ก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร เลขที่ บัญชี 310-0-69691-3 ได้ตลอดเวลา

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ รับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ปีการศึกษา 2557

 นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินให้มีสิทธิและโอกาสเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยการเรียนการสอนใช้หลักสูตรเหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่ปรับให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคนและเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะชีวิตการศึกษาเพื่อการมีงานทำ ในปีการศึกษา 2557 สำนักบริหารการศึกษาพิเศษ ได้อนุมัติให้โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ รับเด็กพิการเข้าเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2557 โดยเปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่เว้นวันหยุดราชการ สถานที่รับสมัคร ห้องวิชาการ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ถนนสุรินทร์-ปราสาท 107 ม. 7 ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ 32140 โทรศัพท์ 044-042551,081-8787089, 081-7307277, 083-4653664, 083-3748159 โทรสาร 044-042592 เว็บไซต์โรงเรียน http://www.deafsurin.com อีเมล์: deafsurin@hotmail.com Face www.facebook.com/deafsurinfanpage

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์กำหนดแผนออกรับบริจาคโลหิตเดือนกุมภาพันธ์

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่าเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ และธนาคารเลือดโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ จัดทำแผนรับบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อออกรับบริจาคโลหิตตามหน่วยงาน ราชการ อำเภอ และสถานศึกษา ต่างๆตามพื้นที่จังหวัด จึงขอเชิญชวนผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ สำหรับกำหนดการออกรับบริจาคโลหิต ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2557 มีดังนี้ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอเขวาสินรินทร์ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมวิทยาลัยการอาชีพศีขรภุมิ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมโรงเรียนจอมพระประชาสรรค์ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอบัวเชดวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอชุมพลบุรี วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอสังขะ และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมโรงเรียนสุรวิทยาคาร ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคโลหิตได้ตามวัน และสถานที่ดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป

เทศบาลเมืองสุรินทร์ เชิญอบรมโครงการแยกขยะ ลดละ ลดโลกร้อน ชุมชนปลอดขยะ

นายพรชัย มุ่งเจริญพร รองนายกเมศมนตรี เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองสุรินทร์ โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดจัดอบรมโครงการ คัดขยะ (ลดละ ลดโลกร้อน ชุมชนปลอดขยะ (Zero waster) เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ประชาชน เยาวชน รู้มองเห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะ เพื่อลดปริมาณขยะให้ได้อย่างยั่งยืนและถาวร จึงขอเชิญเข้าร่วมโครงการดังกล่าวฯ ณ ที่ทำการชุมชนของท่าน สอบถามรายละเอียด กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม โทร. 0-4451-8130

ตำรวจตระเวนชายแดนสุรินทร์ที่ 214 เปิดจุดตรวจรับอาเซียน

ตำรวจตระเวนชายแดนสุรินทร์ เปิดจุดตรวจรับอาเซียน หวังให้บริการประชาชนทั้งเรื่องข้อมูล AEC รวมทั้งตรวจสกัดการทำผิดกฎหมายทั้ง อาวุธสงคราม ยาเสพติดและไม้พะยูงชายแดนที่กำลังมีปัญหาหนักในขณะนี้

วันนี้ (3 ก.พ.57) ที่บริเวณ 4 แยก บ้านนาสนวน ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ดร.กิติวัฒน์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการชายแดน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดจุดตรวจอาเซียน ทั้งนี้เพื่อเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเป็นหน่วยงานแรกในพื้นที่ตามแนวชายแดนที่จะอำนวยความสะดวก บริการประชาชนในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมให้ความรู้เรื่องกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพื่อปรับปรุงจุดตั้งจุดตรวจตามช่องทาง จุดผ่อนปรน จุดผ่านแดนถาวร จึงให้หน่วยในพื้นที่พัฒนาจัดตั้งเป็นจุดตรวจ จุดบริการประชาชน เพื่อบริการประชาชนในด้านข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียน เรื่อง สามเสาหลักได้แก่ เศรษฐกิจ ความมั่นคง วัฒนธรรม เพื่อให้แต่ละประเทศที่เดินทางเข้าออก

พ.ต.อ.สนธยา แจงเจริญ ผกก.ตชด.21 กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ตามแนวชายแดนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่ชายแดน จึงได้มีนโยบายให้หน่วยดำเนินการ ได้แก่ เศรษฐกิจ ความมั่นคง วัฒนธรรม เพื่อให้แต่ละประเทศที่เดินทางเข้าออก มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว และร่วมมือป้องกันปราบปรามอาชญากรรมต่างๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน หรือกลุ่มประเทศอื่นๆที่เดินทางเข้าออกให้เข้าใจได้ถูกต้อง รวมทั้งยังเป็นจุดตรวจสกัดปัญหาอาชญากรรมทั้ง อาวุธสงครามยาเสพติดและการลัดลอบตัดไม้พะยูงในป่าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีปัญหาในขณะนี้อีกด้วย โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนในการดำเนินการจาก กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 ภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น



อุทัย  มานาดี /รายงาน

อุบัติเหตุวันเลือกตั้ง รถบรรทุกหกล้อ ประสานงานรถทัวส์ เสียชีวิต

อุบัติเหตุวันเลือกตั้ง รถบรรทุกหกล้อ บรรทุกตู้ไม้สำเร็จรูป พุงชนท้ายรถทัวร์ ขณะชะลอรถ ขณะรถยางแตก ทำให้เกิดไฟไหม้รถทั้งสองคันอย่างรวดเร็ว คนงานที่นั่งมาในรถบรรทุกหกล้อถูกแรงอัดของรถติดในซากรถไฟไหม้เสียชีวิต ขณะที่ผู้โดยสารในรถทัวร์ 44 คน ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต

วันที่ ( 2 ก.พ.) พ.ต.ท.วิสันต์ ชาญ ศรี พนักงานสอบสวนเวร สภ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีรถยนต์โดยสาร ประสบอุบัติเหตุกับหกบรรทุก หกล้อ มีไฟลุกไหม้ ทั้ง สองคัน ที่บริเวณ ทางหลวงสาย 24 ช่วง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ไป อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หน้าโรงเรียนพระแก้ววิทยา ต.พระแก้ว อ.สังขะ จึงได้ประสานงาน รถดับเพลิง จาก เทศบาลตำบลสังขะ ,อบต.พระแก้ว ,อบต.ตาคง เดินทางไปยังบริเวณที่เกิดอุบัติ และทำการฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ รถทั้ง สองคัน แต่ไม่สามารถดับเพลิงได้ทัน ไฟไหม้ไหม้รถทั้งสองคัน เสียหายทั้งหมด นายครรชิต ปทุมสูตร อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 269 / 3 หมู่ 4 ต.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เป็นคนขับรถทัวร์กันทรลักษณ์ทัวร์ รถร่วม บขส.สายกรุเทพฯ-บุณฑริก จ.อุบราชธานี ทะเบียน 10- 6989 นครราชสีมา บอกว่า ตนเองขับรถทัวร์ นำผู้โดยสาร จำนวน 44 คน เต็มคันรถ มุ่งหน้าสู่จังหวัดอุบลราชธานี ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 เวลา 21.00 คน ขณะที่รถกำลังวิ่งใกล้ถึงหน้าโรงเรียนพระแก้ววิทยา ได้ยินเสียงระเบิดของยางรถยนต์ จึงเปิดไฟกระพริบ สองข้าง และชะลอความเร็วรถลง นำรถชิดถนนด้านซ้าย และขับรถไปเลื่อยๆเพื่อให้ถึงบริเวณ ที่ไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อจะได้ลงมาดูยางรถยนต์ และทันใดนั้น ก็มีรถบรรทุก หกล้อ วิ่งมาด้วยความเร็ว พุงชนท้ายรถทัวร์ที่ตัวเองขับอยู่อย่างแรง และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนได้เปิดประตูให้ผู้โดยสารทั้ง 44 คน ลงจากรถ ได้อย่างปลอดภัย แต่ก็มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 3 ราย ส่วนทรัพย์สินผู้โดยสาร ถูกไฟไหม้หมด ไม่สามารถเอาลงจากรถ ได้ ผู้โดยสารทั้งหมด ทรัพย์สินเสียหาย ได้แนะนำให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้นำไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและทำการรักษา พร้อมระบุว่า รถทัวร์ที่ตนเองขับ เติมน้ำมันดีเชล ขณะที่รถบรรทุกหกล้อ เติมแก๊ส ขณะรถบรรทุกหกล้อ หมายเลขทะเบียน 70-6401 ประทุมธานี ป้ายเหลือง รถรับจ้างไม่จำทาง ของบริษัทปวันรัตน์ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งนายเบิ้ม เป็นคนขับ และได้รับบาดเจ็บขาหัก และถูกไฟหลวก เจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.พระแก้ว ได้นำตัวส่งรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสังขะ และพบว่าในรถยังมีคนงาน ที่นั่งมาด้วย ชื่อนายอ็อฟ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกไฟคลอกเสีย ติดในซากรถ

ขณะ ที่ผู้โดยสาร รายหนึ่ง นางมัจฉา ปองพันธ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ได้หลับ เพราะทราบว่ารถทัวร์กำลังชะลอ ความเร็วรถ และเหมือนกับว่าพนักงานในรถ จะลงไปตรวจ เคาะยางรถ จู่ๆก็มีรถบรรทุกหกล้อพุ่งเข้ามาชน ท้ายอย่างแรง กลิ่นแก๊สพุ่งกระจาย และมีไฟไหม้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พนักงานขับรถได้เปิดประตูรถให้ผู้โดยสารลงจากรถ โดยที่ไม่มีใคร นำทรัพย์สินลงมาจากรถได้เลย ตนเองก็ไม่ได้อะไรลงมาด้วย กระเป๋าเงินก็ถูกไฟไหม้หมด กระเป๋าเสื้อผ้า ไฟไหม้หมด เช่นกัน เอกสารบัตรประจำตัวก็ถูกไหม้ หมด ที่เดินทางกลับบ้าน เพราะต้องการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสังขะ ได้เร่งเคลื่อนย้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุทั้งสองคันออกจาก ถนน เพราะในช่วงเช้าที่รถยนต์สัญจรอย่างหนาแน่น

สุรินทร์ ผลิตและขยายแมลงศัตรูธรรมชาติแตนเบียนกว่า 185 ล้านตัว

สมาคมชาวไร่อ้อยร่วมกับโรงงงานน้ำตาลสุรินทร์ ผลิตและขยายแมลงศัตรูธรรมชาติแตนเบียนไข่ไตรโครแกรมม่า เพื่อควบคุมการระบาดของศัตรูอ้อย ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย กว่า 185 ล้านตัว

นายวิจิตร์ การนา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยถึง ความคืบหน้าในการจัดทำโครงการพัฒนาด้านอ้อยปี 2557 ซึ่งทางโรงงานน้ำตาลสุรินทร์ ร่วมกับสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดสุรินทร์ ในการผลิตและขยายแมลงศัตรูธรรมชาติเพื่อควบคุมศัตรูอ้อย ลดการระบาดของแมลงศัตรูอ้อย เป็นการป้องกันและกำจัดศัตรูอ้อยด้วยชีวะวิธี ที่ช่วยลดการระบาดของหนอนกออ้อยอย่างได้ผลที่ดียิ่ง โดยไม่ทำให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสียสมดุล ซึ่งได้ผลิตและขยายแมลงธรรมชาติแตนเบียนไข่ไตรโครแกรมม่า จำนวนกว่า 185 ล้านตัว ตามแผนการดำเนินงานและแผนการใช้งบประมาณของโครงการฯ ตั้งแต่เดือน กรกรฎาคม-กันยายน 2556 ที่ผ่านมา

นายวิจิตร์ การนา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในเดือนนี้(มกราคม 2557) มีการผลิตแตนเบียน ในครั้งนี้ได้ขยายพันธุ์ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์และจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 23 ล้านตัว โดยมีเกษตรกรเข้ามารับ ที่สำนักงาน จำนวน 70 ราย ซึ่งจะนำไปปล่อยแตนเบียน ในพื้นที่ 500 ไร่ ต่อไป



อุทัย  มานาดี / รายงาน

ดอกซากุระบานสะพรั่งที่สุรินทร์

ดอกซากุระ บานที่สุรินทร์ ออกดอกแน่นต้น นานแรมเดือน เริ่มร่วงโรย เจ้าของ นำมาจากบ้านญาติ นำเข้ามาจากต่างประเทศ ปีนี้ดอกแน่นต้น ชาวบ้านผ่านไปมา แวะถ่ายรูปและขอชื้อไปขยายพันธุ์ เชื่อว่า ปีนี้อากาศหนาวต่อเนื่องนาน ทำให้ดอกซากุระ บานสะพรั่งนานกว่าทุกปี

วันนี้ (3 ก.พ.57) ดอกซากุระบานสะพรั่งแน่นต้นอย่างสวยงาม ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 40/1 หมู่ 2 บ้านผือ ต.บ้านผือ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ มีนางบัวสอน ปัทมาสราวุธ อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และเป็นผู้ที่ปลูกต้นไม้ ที่ชาวบ้านทั่วไป ผ่าน หน้าบ้าน ไป-มา เห็นต้นไม้ต้นหนึ่ง ออกดอกชูช่อ บานสะพรั่ง สีขาวอมชมพู จนอยากจะรู้ว่าต้นไม้นี้ ชื่อว่าต้นอะไรกันแน่ จากการสอบถามคุณป้าบัวสอน บอกว่าเป็นต้นซากุระ ป้าเล่าให้ฟังว่า เมื่อ สีปีที่ผ่านมา ได้ไปเยี่ยมญาติ ในจังหวัดสุรินทร์ เห็นต้นไม้ออกดอกเยอะ สวยงามดี เขาว่าเป็นต้นซากุระ ญาติเอามาจากต่างประเทศ ก็ขอกิ่งไม้ต้นนั้นมาซำไว้ก่อน พอต้นไม้เริ่มแตกยอด ก็เอามาปลูกไว้หน้าบ้าน ริมรั้ว เวลาผ่านไป 4 ปี ต้นซากุระโตขึ้น และก็เริ่มออกดอกเมื่อปีที่ผ่านมา จะออกดอกเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น ปีหนึ่งครั้งหนึ่ง ปีนี้ดอกเยอะเต็มต้นมาก ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม จนถึงปลายเดือน มกราคม เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ ดอกเริ่มร่วงโรย แล้ว ช่วงที่ดอกแน่นต้น เวลาลมพัดมาเหมือนกับว่า ต้นซ่ากุระจะบินขึ้นท้องฟ้าไปได้ เพราะมีแต่ดอกไม่มีใบเลย ปีนี้ เป็นเพราะอากาศหนาวมาก และหนาวนานทำให้ดอกซากุระ ออกดอกดก และอยู่ได้นาน ขณะนี้ก็เริ่มร่วงโรย ดอกก็หล่นลงสู่พื้นที่ดิน เป็นจำนวนมาก

สำหรับต้นไม้ ที่ออกดอกบาสะพรั่ง สีขาวอมชมพู อย่างสวยงามนี้ หลายคนก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นต้นมีชื่อว่าอะไร แต่คนที่นำมาปลูกในจังหวัดสุรินทร์ คนแรก จากคำพูดพูดของคุณป้า ที่ขอต้นไม้เขามา ยืนว่า เป็นต้นต้นไม้จากต่างประเทศ ลูกสาวนำมาจากจากญี่ปุ่น คุณป้า เคยเห็นในภาพยนตร์ญี่ปุ่น ละครญี่ปุ่น จึงเชื่อว่า น่าจะเป็นดอกซากุระ ซึ่งดอกสีขาวอมชมพูพวงใหญ่ สวยงาม ช่วงนี้เป็นช่วงสุดท้ายของดอกซากุระ เริ่มโรยหล่นลงพื้นดิน คุณป้าบอกว่าออกดอกมาได้ สองปีแล้ว และเป็นต้นซากุระจริง ก็น่าจะนำพันธุ์มาปลูกในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ได้ และออกดอกให้ได้ชื่นชม สวยงาม อาจเป็นที่ท่องเที่ยวได้อีกต่อไป



อุทัย  มานาดี / รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ มอบประกาศเกียรติบัตรและเงินรางวัล แก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/2557

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานมอบประกาศเกียรติบัตรและเงินรางวัล แก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/2557 ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการจัดประกวดข้าวหอมมะลิ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวหอมมะลิได้พัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งด้านการผลิตและตลาดเพื่อการส่งออก และช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม โดยมีผลการประกวด ดังนี้ ประเภท เกษตรกรรายบุคคล รางวัลที่ 1 เงินสด 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายประเจน โสภาชัย เกษตรกรหมู่ที่ 3 ตำบลเมืองบัว อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ 2 เงินสด 4,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นางสาวจันทร์เพ็ญ ศรีสุข เกษตรกรหมู่ที่ 23 ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายเสมือน คำตาล เกษตรกรหมู่ที่ 3 ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ชมเชย เงินสด 1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายคำ ฉวีนวล เกษตรกร หมู่ที่ 17 ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ส่วนประเภท กลุ่มเกษตรกร รางวัลที่ 1 เงินสด 6,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสระขุด เลขที่ 134 หมู่ที่ 1 ตำบลสระขุด อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบล ประชาสัมพันธ์ ด้วยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ประกาศ ระเบียบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

อุบลราชธานี : นายสุเมธ อำภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบล ประชาสัมพันธ์ ด้วยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ประกาศ ระเบียบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จังหวัดอุบลราชธานี เดินหน้างานคุ้มครองผู้บริโภค

อุบลราชธานี : วางแผนออกตรวจตราและสอดส่องผู้ประกอบธุรกิจทั้งด้านฉลากและโฆษณา เช่นกระเช้าของขวัญ การโฆษณาลด แลก แจกแถม  ด้านฉลาก เช่นสินค้าที่เป็นอันตราย สินค้าต้องห้าม ผลิตภัณฑ์พลาสติก ข้าวสารบรรจุถุง ด้านสัญญา เช่นธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์และรถยนต์มือสอง ด้านโฆษณา  เช่นธุรกิจบ้านจัดสรร คอนโดและห้องชุดและด้านฉลาก เช่นทองรูปพรรณ โดยวางแผนออกตรวจตราผู้ประกอบธุรกิจ ตลอดปี 2527

นายธัชชัย สีสุวรรณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจตราและสอดส่องการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งประกอบด้วยคณะทำงานด้านฉลาก ด้านสัญญาและด้านโฆษณาและบริการ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นตำรวจภูธรจังหวัด,สาธารณสุขจังหวัด, ที่ดินจังหวัด, พาณิชย์จังหวัด, การค้าภายในจังหวัด, พัฒนาธุรกิจและการค้าจังหวัด, ชั่ง ตวง วัดเขต 2-4 ,สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน,ขนส่งจังหวัด,อุตสาหกรรมจังหวัด,พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,ประชาสัมพันธ์จังหวัดและนายอำเภอทุกอำเภอ โดยทำหน้าที่ตรวจตรา สอดส่องสินค้าที่ควบคุมฉลาก การโฆษณาสินค้าหรือบริการ ธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พร้อมทั้งให้คำแนะนำผู้ประกอบธุรกิจให้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

คณะทำงานดังกล่าว ได้กำหนดแผนการออกตรวจตรา ตามภารกิจที่เกี่ยวข้อง เช่นการออกตรวจด้านฉลากและโฆษรา ซึ่งได้ออกตรวจตรากระเช้าของขวัญปีใหม่และการโฆษรา ลด แลก แจก แถม ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 การออกตรวจตราด้านสัญญา ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์และรถยนต์มือสอง ช่วงเดือน มกราคม-มีนาคม 2557, ด้านฉลาก สินค้าที่เป็นอันตราย สินค้าต้องห้าม ผลิตภัณฑ์พลาสติก ข้าวสารบรรจุถุง ช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2557, ด้านโฆษณา ธุรกิจบ้านจัดสรร คอนโดและห้องชุดและด้านฉลาก ทองรูปพรรณ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2557

นอกจากนี้คณะทำงานฯ ยังได้เร่งการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสาร  ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้ประชาชนทั่วไปตระหนักในสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ เพื่อไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ และหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถร้องเรียนได้ที่กลุ่มงานอำนวยการ สำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข 045 344 604 ในวัน เวลา ราชการ


พงษ์สถิตย์  อรอินทร์  ส.ปชส.อุบลราชธานี

วิทยาลัยเกษตรฯ อุบลราชธานี เชิญร่วมงาน บัวสวย เทียนงาม ยางนา อาชีวเกษตรแฟร์ 57

อุบลราชธานี :  จัดงานประชุมวิชาการ ระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.) ครั้งที่ 35 ภายใต้ชื่องาน บัวสวย เทียนงาม ยางนา อาชีวเกษตรแฟร์ 57 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานประชุมวิชาการ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี

นายเมธา  เหิรเมฆ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี เปิดเผยว่า วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี เตรียมจัดงานประชุมทางวิชาการ ระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 35 โดยกำหนดจัดงานวันที่ 15 – 19 กุมภาพันธ์ 2557 ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี ตำบลหนองขอน อำเภอเมืองอุบลราชธานี  ภายใต้ชื่องาน บัวสวย เทียนงาม ยางนา อาชีวเกษตรแฟร์ 57 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557  ซึ่งการจัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพและความเป็นเลิศทางวิชาชีพของสมาชิกพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นำผลงานมาร่วมแสดงอีกทั้งเพื่อเผยแพร่ผลงานของครู บุคลากร หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งให้สมาชิก อกท. ได้พบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ทางวิชาชีพทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ การอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย  กิจกรรมในการจัดงานดังกล่าว จะมีการสัมมนาผลงานทางวิชาการด้านการเกษตร การวิจัย การแสดงนิทรรศการทางการเกษตร,การประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางการเกษตร,การแข่งขันทักษะวิชาชีพสาขาพืชศาสตร์ สัตวศาสตร์ ประมง ช่างกลเกษตร ศิลปะเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร บริหารธุรกิจและสาขาพื้นฐาน,การเชิดชูเกียรติสมาชิก อกท.,หน่วย อกท.ศิษย์เก่า,ผู้ทำคุณประโยชน์แก่ อกท. การเผยแพร่ผลงานของหน่วยงาน,บุคคล การประกวดและการแสดงผลผลิต,ผลิตภัณฑ์และการจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรพร้อมทั้งการแสดงเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีไทย และภูมิปัญญาไทยพร้อมกิจกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี จึงขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ประชาชนผู้สนใจทั่วไป เที่ยวชมงานดังกล่าว ระหว่างวันที่ 15-19 ก.พ.57 นี้ ที่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี  ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี



พงษ์สถิตย์  อรอินทร์  ส.ปชส.อุบลราชธานี

มณฑลทหารบกที่ 22 และสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตอุบลราชธานี จัดงาน 3 กุมภาพันธ์วันทหารผ่านศึก เชิดชูผู้เสียสละ

วันนี้ ( 3 ก.พ.57) ที่อนุสาวรีย์วีรชนสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตอุบลราชธานี มณฑลทหารบกที่ 22 อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พลตรีวิษณุ ไตรภูมิ ผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 22 เป็นประธานในพิธีสดุดีและวางพวงมาลา 3 กุมภาพันธ์ วันทหารผ่านศึก โดยมีนายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมในพิธี เนื่องด้วย วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก มณฑลทหารบกที่ 22 และสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตอุบลราชธานีได้ร่วมจัดงาน 3 กุมภาพันธ์ วันทหารผ่านศึก ร่วมรำลึกและเชิดชูผู้เสียสละ เพื่อน้อมรำลึกถึง และสดุดีวีรชนทหารผ่านศึก ที่ได้สละชีวิตเพื่อประเทศชาติในทุกสมรภูมิ ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน และให้ ครอบครัวและทหารผ่านศึก ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมวันทหารผ่านศึก เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของหน่วยงาน สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตอุบลราชธานี

โดยกิจกรรมจัดให้มีพิธี ได้แก่ การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในค่ายสรรพสิทธิประสงค์ การสดุดีและวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน และการวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนแห่งนี้ สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตอุบลราชธานี และ ได้เชิญหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมพิธี จำนวน 85 หน่วยงาน

อปท.จังหวัดศรีสะเกษ มอบเงิสนับสนุนการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติจำนวน 6 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบเงินสนับสนับการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ ให้แก่นางอำไพวรรณ เปรมภิรักษ์ คลังจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 5,000,000 บาท และนายฉัฐมงคง อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ก็ได้มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท สนับสนับการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ ด้วย

ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ ในระหว่างวันที่ 13-23 มีนาคม 2557 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดศรีสะเกษ
                                       


บุญทัน /ฉัตรชัย ข่าว/ภาพ

จังหวัดศรีสะเกษ โดย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดงาน คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ อำเภอเบญจลักษ์

วันที่ (2 กุมภาพันธ์ 2557) ณ ห้องประชุม ชั้น 1 อาคารส่งเสริมเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ นายวิศิษฐ คูรัตนเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานคลีนิคเกษตรเคลื่อนที่ฯ โดยมีนายทวี มาสขาว เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนในสังกัดกระทรวงเกษตรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ พร้อมกับร่วมประชุมฯ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดแผนการจัดงานโครงการคลินิคเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 จัดเนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ (9 ธันวาคม) ในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ณ ที่ว่าการอำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 2 จัดตามแผนที่จังหวัดเห็นสมควร ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ที่ว่าการอำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 3 จัดเนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ(29 เมษายน) ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 ณ ที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ และครั้งที่ 4 จัดเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร(28 กรกฎาคม ) ในวันที่ 31 สิงหาคม 2557 ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

สำหรับการประชุมในการเตรียมความพร้อมในครั้งนี้ ได้กำหนดจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานะเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้จัดกิจกรรมให้บริการแก่เกษตรกรในรูปแบบ คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ จากหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 13 คลินิก ประกอบด้วย คลินิกพืช โดยศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ และศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, คลินิกดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินศรีสะเกษ, คลินิกสัตว์ โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ และสถานีวิจัยทดสอบพันธ์สัตว์ศรีสะเกษ, คลินิกประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดศรีสะเกษ, คลินิกสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกบัญชี โดยสำนักงานบัญชีและสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกชลประทาน โดยโครงการชนประทานศรีสะเกษ, คลินิกฎหมาย โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าสุรินทร์, คลินิกหม่อนไหม โดยศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติศรีสะเกษ, คลินิกพันธุ์พืชเพาะเลี้ยง โดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตร จังหวัดบุรีรัมย์ และคลินิกยางพารา โดยสำนักงากองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดศรีสะเกษ
                                           


ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ

ยโสธรจัดงานเนื่องในวัน “มาฆบูชา 14 กุมภาพันธ์ ที่วัดมหาธาตุ”

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า "วันมาฆบูชา” (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา หรือเรียกว่า "วันจาตุรงค สันนิบาติ” เป็นวันที่มีความสำคัญ 4 ประการ คือ
           1. เป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะพระจันทร์เก็บดวง
           2. พระสงฆ์ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
           3. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนแต่เป็นพระอรหันต์
           4. พระอรหันต์เหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุ คือ พระพุทธเจ้าอุปสมบทให้ทั้งสิ้น
           จังหวัดยโสธร กำหนดจัดงาน "วันมาฆบูชา” ในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ ที่วัดมหาธาตุ ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. มีการประกวดจัดโต๊ะหมู่บูชา โต๊ะหมู่ 5, หมู่ 7 และหมู่ 9 ประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญ พระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ และประกวดบรรยายธรรม

ช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. ประธานพิธีเปิดงาน โดย นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศการประกวด พิธีแสดงความเป็นพุทธมามกะ, พระสงฆ์แสดงพระธรรม เทศนา 1 กัณฑ์ และพีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
                                               

                           
ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 

ประกาศศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด

ประกาศศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยโสธร เรื่อง สอบราคาซื้อวัสดุการเกษตร ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยโสธรมีความประสงค์ สอบราคาซื้อวัสดุการเกษตร ตามรายการ ดังนี้ ๑. อาหารปลากินพืช จำนวน ๔๐๐ กระสอบ ๒. อาหารปลาดุกเล็ก จำนวน ๔๐ กระสอบ ๓. อาหารปลาดุกใหญ่ จำนวน ๔๐๐ กระสอบ ผู้มีสิทธิเสนอราคาจะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ ๑.เป็นผู้มีอาชีพขายพัสดุที่สอบราคาซื้อ ๒.ไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของทางราชการและได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว ๓.ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้เสนอราคาได้มีคำสั่งให้สละสิทธิ์ความคุ้มกันเช่นว่านั้น ๔.ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่นที่เข้าเสนอราคาให้แก่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยโสธร กรมประมง ณ วันประกาศสอบราคา หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมในการสอบราคาซื้อครั้งนี้ กำหนดยื่นซองสอบราคา ในวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่ เวลา๐๙.๐๐น. ถึงเวลา ๑๖.๓๐น. ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยโสธร ๑๘๘ หมู่ที่ ๒ ตำบล บากเรือ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคา ในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่ เวลา ๐๙.๐๐น. เป็นต้นไป ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคาซื้อ ได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยโสธร ๑๘๘ หมู่ที่ ๒ ตำบลบากเรือ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ในวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่ เวลา ๐๙.๐๐น. ถึงเวลา ๑๖.๓๐น. ดูรายละเอียดได้ที่เว็ปไซต์ www.fisheries.go.th/if-yasothon/web2 หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข ๐๔๕-๗๓๘๓๕๔-๕ ในวันและเวลาราชการ

ยโสธรจัดงานวันสถาปนาและงานกาชาดจังหวัดยโสธร 1 - 10 มีนาคม นี้ ครบรอบ 42 ปี และชมการแสดงวงดนตรี

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธร และเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร กำหนดจัดงานวันสถาปนาและงานกาชาดจังหวัดยโสธร ระหว่างวันที่ 1 – 10 มีนาคม 2557 10 วัน 10 คืน ณ บริเวณสวนสาธารณะบุ่งน้อย – บุ่งใหญ่ อ.เมืองยโสธร เพื่อฉลองจังหวัดยโสธร สถาปนาและยกระดับเป็นจังหวัด เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2515 ปีนี้ครบ 42 ปี และเพื่อหารายได้ใช้ในกิจการเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร ชมการแสดงวงดนตรี หมอลำ การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง พร้อมหางเครื่อง ประเภทนักเรียน และส่วนราชการ การออกร้านของส่วนราชการต่าง ๆ จำหน่ายสินค้าราคาประหยัดมากมาย การออกร้านกาชาด ตักมัจฉากาชาด รับรางวัล และร่วมชิงรางวัลพิเศษ นาทีทอง และการจำหน่ายสลากกาชาด ฉบับละ 50 บาท

รางวัลที่ 1 รถยนต์บรรทุกกระบะ โตโยต้า รุ่น Vigo 2.5 j (cab) 1 คัน มูลค่า 592,000 บาท
รางวัลที่ 2 รถจักรยานยนต์ Yamaha รุ่น Spark nano 2 รางวัล มูลค่า คันละ 33,000 บาท
รางวัลที่ 3 มี 5 รางวัล ทองคำมูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท เป็นเงิน 25,000 บาท
รางวัลที่ 4 มี 10 รางวัล ทองคำมูลค่ารางวัลละ 2,500 บาท เป็นเงิน 25,000 บาท
รางวัลเลขท้ายสามตัว มี 50 รางวัล ทองคำมูลค่ารางวัลละ 500 บาท เป็นเงิน 25,000 บาท
รางวัลเลขท้ายสองตัว มี 500 รางวัล ทองคำมูลค่ารางวัลละ 200 บาท เป็นเงิน 100,000
บาท

และการแสดงวงดนตรีแต่ละคืน ดังนี้
วันที่ 1 มีนาคม 2557 ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์
วันที่ 2 มีนาคม 2557 วง กางเกง
วันที่ 3 มีนาคม 2557 ประถม บันเทิงศิลป์
วันที่ 4 มีนาคม 2557 ระเบียบ วาทศิลป์
วันที่ 5 มีนาคม 2557 วีรพงษ์ วงศ์ศิลป์
วันที่ 6 มีนาคม 2557 รัตนศิลป์ อินตาไทยราษฎร์
วันที่ 7 มีนาคม 2557 นกน้อยอุไรพร เสียงอีสาน
วันที่ 8 มีนาคม 2557 ลาบานูน
วันที่ 9 มีนาคม 2557 บัวผัน และ ศรีจันทร์
วันที่ 10 มีนาคม 2557 เด่นชัย วงสามารถ

บัตรค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชมฟรีตลอดงาน



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 

นรข.มุกดาหาร สนธิกำลัง กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กอ.รมน ยึดไม้พะยูง กว่า 300 ท่อน

นาวาเอก สุรศักดิ์  สุวรรณเกษา  ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง   เขตนครพนม,นาวาโท ปรเมศวร์ ไศลบาท ผู้บังคับหมู่เรือที่ 3 มุกดาหาร พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.มุกดาหาร,ชุดเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังสุรศักดิ์มตรี เข้าตรวจยึดไม้พะยูง ที่บริเวณบ้านพักล้างในสวนยางพารา  บ้านนาหว้า ต.นาสะเม็ง อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร หลังสืบทราบว่ามีการนำไม้พะยูงมาซุกซ่อนที่บริเวณดังกล่าว ที่เกิดเหตุพบไม้พะยูงทั้งเก่าและใหม่ จำนวน 300 ท่อน มูลค่า 1000,000 บาท

ด้านนาวาเอก สุรศักดิ์  สุวรรณเกษา  ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง  เขตนครพนม กล่าวว่า ในส่วนของการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวไม้พะยูง ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัด หากมีการจับกุมให้ดำเนินคดีโดยให้ตั้งข้อกล่าวหา ให้ครบทุกขบวนการและตั้งข้อกล่าวหาให้หนัก เพื่อจะได้เป็นการป้องปรามไปในตัว และยังกำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัดอีกว่า หากมีการประสานงานจากหน่วยงานข้างเคียงต้องให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ถึงจะเป็นการทำงานแบบบูรณาการที่แท้จริง

                                             


นายพิพัฒน์  เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ชาวตำบลนาข่า จังหวัดมหาสารคาม บวชป่าอนุรักษ์แหล่งอาหารชุมชน


ชาวตำบลนาข่า อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม 5 หมู่บ้าน ร่วมกันทำพิธีบวชป่า กว่า 2,500 ไร่ และจัดมหกรรมผ้าป่าชุมชนโคกหินลาด เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลายป่า และจัดหาทุนในการทำนุบำรุงรักษาป่าให้เป็นแหล่งอาหารของชุมชนอย่างยั่งยืน

ที่บริเวณป่าชุมชนโคกหินลาด ตำบลนาข่า อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม นายอำนาจ พวงสำลี นายอำเภอวาปีปทุม พร้อมด้วยนายสะอาด บาริศรี ประธานคณะกรรมการอนุรักษ์ป่าชุมชนโคกหินลาด นำประชาชน เยาวชนกว่า 100 คน ร่วมทำพิธีบวชป่า ที่ป่าชุมชนโคกหินลาด ตามโครงการ "มหกรรมผ้าป่าชุมชนโคกหินลาด” โดยมีพระครูพิทักษ์ลัฏฐิวัน เจ้าคณะตำบลนาข่า เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกของคนในหมู่บ้านให้รักษ์และหวงแหนป่าไม้ และร่วมกันพัฒนาป่าไม้ให้เป็นแหล่งอาหารชุมชน อีกทั้งเป็นการจัดหางบประมาณเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการสำรวจแนวเขตป่าให้ชัดเจน การจัดเวรยามรักษาป่า การจัดหาอุปกรณ์ดับไฟป่า การปรับภูมิทัศน์บริเวณที่ทำการป่า รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของคณะกรรมการอนุรักษ์ป่าชุมชนโคกหินลาด

สำหรับป่าชุมชนโคกหินลาด มีพื้นที่ป่าทั้งสิ้น จำนวน 2,559 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 หมู่บ้าน คือบ้านนาข่า บ้านโคกเฒ่า บ้านลอมคอม บ้านประชาพิทักษ์ และบ้านนาเมือง ตำบลนาข่า อำเภอวาปีปทุม โดยชาวบ้านได้แบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบให้แต่ละหมู่บ้านดูแลอย่างชัดเจนทั้ง 5 หมู่บ้าน เพื่อให้ดูแลได้ง่าย และรวมกันอนุรักษ์ป่าชุมชนโคกหินลาด ให้เป็นแหล่งอาหารของชุมชนอย่างยั่งยืน
                                                       

                                           

 ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

เกิดเหตุระทึกหน้าศาลากลาง ไฟไหม้รถกระบะทั้งคัน คาดเครื่องยนต์เก่า

เกิดเหตุไฟไหม้รถกระบะทั้งคัน ที่บริเวณถนนสายมหาสารคาม-วาปีปทุม สี่แยกไฟแดง ด้านหน้าศาลากลางจังหวัด ขณะเจ้าของรถเข้ามาทำธุระในเมืองและจะกลับบ้าน เห็นควันไฟออกจากห้องเครื่อง จึงจอดรถเพื่อลงมาดู แต่ดับไม่ทัน โชคดีคนขับและผู้โดยสารปลอดภัย คาดเครื่องยนต์เก่า

(3-2-57) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูสุ หมายเลขทะเบียน บท 310 ร้อยเอ็ด สีเลือดหมู สภาพเก่า ที่บริเวณถนนสายมหาสารคาม-วาปีปทุม สี่แยกไฟแดงด้านหน้าศาลากลางจังหวัด พลเมืองดีแจ้งหน่วยดับเพลิงเทศบาลเมืองมหาสารคาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม เข้าระงับเหตุได้ทัน ก่อนจะลุกลาม

สอบถามนายวัลภา ซ้ายสิงห์ บ้านเลขที่ 13/1 หมู่22 ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จ. มหาสารคาม ซึ่งเป็นเจ้าของรถ ทราบว่า ได้ขับรถคันดังกล่าวเข้ามาทำธุระในตัวเมือง และกำลังจะขับรถกลับบ้าน ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นควันไฟออกมาจากห้องเครื่อง จึงจอดรถเพื่อตรวจสอบ ปรากฏว่าไฟได้ลุกไหม้ คาดว่า สาเหตุ จากคอมเพรสเซอร์แอร์ช็อต เนื่องจากรถมีสภาพเก่า แต่ยังโชคดีที่ตนและเพื่อนที่นั่งมาด้วยกันไปไม่เป็นอะไร



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

บรรยากาศการเลือกตั้งในจังหวัดบึงกาฬตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 บรรยากาศการเลือกตั้งในจังหวัดบึงกาฬในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยในช่วงสายนายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬได้เดินทางลงพื้นที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆเพื่อตรวจความเรียบร้อยโดยจุดแรกตรวจหน่วยเลือกตั้งที่เทศบาลตำบลศรีวิไล อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ และจะเดินทางตรวจความเรียบร้อยในหน่วยเลือกตั้งต่างๆทุกอำเภอและจากการตรวจสอบจากศูนย์ประสานงานหน่วยเลือกตั้งของจังหวัดบึงกาฬทั้งสองเขตเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆเกิดขึ้นและในขณะนี้ตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆกำลังเริ่มนับคะแนนเลือกตั้งและคาดว่าการนับคะแนนแต่ละหน่วยจะแล้วเสร็จไม่เกินห้าโมงเย็น 

ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งส.ส. วันที่ 2 ก.พ. 57 จังหวัดบึงกาฬ อย่างไม่เป็นทางการ

วันนี้ (03-02-57) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬได้สรุปผลผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสส.ของจังหวัดบึงกาฬในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ผ่านมาโดยการดำเนินการเลือกตั้งสามารถดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยไม่เกิดเหตุการณ์หรือการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด โดยจังหวัดบึงกาฬ แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ออกเป็น 2 เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ได้ 2 คน เขตเลือกตั้งที่ 1ประกอบด้วยอำเภอเมือง,โซ่พิสัย,ปากคาด,บุ่งคล้า เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอเซกา,บึงโขงหลง,พรเจริญ,ศรีวิไล ซึ่งเขตเลือกตั้งที่ 1 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 152,402 คน มาใช้สิทธิ จำนวน 92,933 คน บัตรดี 78,612 ใบ บัตรเสีย 8,953 ใบ บัตรไม่ประสงค์ 5,368 ใบ และในเขตเลือกตั้งที่ 2 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 162,294 คน มาใช้สิทธิ จำนวน 90,555 คน บัตรดี 73,792 ใบ บัตรเสีย 9,989 บัตรไม่ประสงค์ 6,878 ใบ สรุปภาพรวมทั้งจังหวัดมีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดบึงกาฬ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 คิดเป็น ร้อยละ 58.31 ซึ่งน้อยกว่าที่ทางจังหวัดได้ตั้งเป้าไว้ คือร้อยละ 75

ธอส. รุกขยายช่องทางให้บริการ เปิดสาขาย่อยบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ให้บริการทางการเงินครบวงจร นำโดยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ปีแรก 3.7 % เงินฝากออมทรัพย์ High Savings รับดอกเบี้ยสูง 3% ต่อปี

ธอส. รุกขยายช่องทางให้บริการ เปิดสาขาย่อยบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ให้บริการทางการเงินครบวงจร นำโดยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ปีแรก 3.7 % เงินฝากออมทรัพย์ High Savings รับดอกเบี้ยสูง 3% ต่อปี

วันนี้ (3ก.พ.57) เวลา 11.00 น. ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขาย่อย อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)สาขาย่อย อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสาขาที่ 4 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อ เพิ่มช่องทางให้บริการทางการเงินแบบ ครบวงจรให้กับประชาชน

 ด้านนางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเสร้างโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยถึงปานกลาง ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตามวิสัยทัศน์ ""ธนาคารมั่นคง ทันสมัย และเป็นผู้นำสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร” ธอส.จึงได้เร่งขยายสาขาให้บริการทุกพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ล่าสุด จึงได้เปิด ดำเนินการสาขาย่อยบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ให้บริการธุรกรรมทางการเงินครบวงจรทั้งบริการรับฝาก – ถอนเงิน เปิดบัญชีใหม่ รับชำระหนี้เงินกู้ รับชำระค่าสาธารณูปโภค และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งให้เงินกู้สูง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนน้อย และผ่อนนาน ได้สูงสุดถึง 30 ปี นำโดยสินเชื่อแพ็คเกจ " สินเชื่ออัตรดอกเบี้ยพิเศษ ไตรมาส 1 ปี 2557 " โดยแพ็คเกจที่1 สินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้าบุคลากรภาครัฐ / กลุ่มสวัสดิการไม่มีเงินฝาก / กลุ่มพนักงานส่วนท้องถิ่นหักเงินเดือน / กลุ่มลูกค้ารายย่อยโครงการจัดสรรพันธมิตรธนาคาร เสนออัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.75 % ต่อปี ปีที่2 อัตราดอกเบี้ย 4.75 % ต่อปี ปีที่3 จนถึงคลอดอายุสัญญา กรณีรายย่อยสวัสดิการ อัตรดอกเบี้ยเท่ากับ MRR – 1.00% ต่อปี ลูกค้ารายย่อยทั่วไปอัตราดอกเบี้ยเท่ากับMRR – 0.50 % ต่อปี กรณีกู้ชำระหนี้ หรือซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกฯ คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบัน MRR ธอส. เท่ากับ 6.975 % ) วงเงิน 30,000 ล้านบาท แพ็คเกจที่2 สินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้ารายย่อย เสนออัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.75 % ต่อปี ปีที่2 อัตราดอกเบี้ย 4.975 % ต่อปี ปีที่3 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีรายย่อยสวัสดิการ อัตราเท่ากับ MRR – 1.00 % ต่อปี และลูกค้ารายย่อยทั่วไปอัตราดอกเบี้ย MRR – 0.50% ต่อปี สามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557 และต้องทำนิติกรรมให้แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2557

 ด้านเงินฝาก นำเสนอแคมเปญ "เงินฝากประจำ 8 เดือน แบบขั้นบันได (Step up )” รับดอกเบี้ยสูงสุด 3.50 % ต่อปี โดยอัตรดอกเบี้ย เดือนที่ 1- 2 เท่ากับ 2.50 % ต่อปี เดือนที่ 3 – 4 รับดอกเบี้ย 3.00 % ต่อปี เดือนที่ 5 – 6 รับดอกเบี้ย 3.25 % ต่อปี และเดือนที่ 7 -8 รับดอกเบี้ยสูง 3.50 % ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย 8 เดือน เฉลี่ย 3.125 % ต่อปี) เงื่อนไขเปิดบัญชีเงินฝากครั้งแรกและจำนวนเงินฝากครั้งต่อไปขั้นต่ำ รายการละ 10 ,000 บาท สำหรับประเภทใบรับเงินฝากประจำ เงื่อนไขฝากขั้นต่ำรายการละ 100,000 บาท ผู้เปิดบัญชีรับดอกเบี้ยรายเดือนนับจาก วันที่ ฝาก เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม – 12 กุมภาพัน์ 2557

 นางอังคณา กล่าวต่ออีกว่า ล่าสุดธนาคารยังจัดทำแคมแปญ "เงินฝากออมทรัพย์ High Savings รับดอกเบี้ยสูงถึง 3.00 % ต่อปี เงื่อไขเปิดดบัญชีเงินฝากครั้งแรกขั้นต่ำรายการละ 500 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีวงเงินฝากคงเหลือตั้งแต่ 100,000 – 5,000,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 3.00 % ต่อปี กรณีลูกค้าที่มียอดเงินฝาก คงเหลือต่ำกว่า 100,000 บาท หรือสูงกว่า 5,000,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.50% ต่อปี (ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร) นอกจากนี้ยังได้รับฟรี!! บัตรATM ธอส. พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก ลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้ที่ธนาคารอาคารวงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม – 30 มิถุนายน 2557 ทั้งนี้ "สาขาย่อยบัวใหญ่” เปิดให้บริการจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 15.30 น. ณ เลขที่ 154,156 ถ.นิเวศรัตน์ ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์

ตำรวจทางหลวงขอนแก่น จับยาบ้าชุดใหม่ 100,000 เม็ดผสมกลิ่นเพิ่มความหอมตบตาเจ้าหน้าที่

วันนี้ 3 ก.พ.2557 เวลา 09.30 น. ที่หน้า สถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่น (สทล.2 กก.4 บก.ทล.) พ.ต.ท.ภาดล จันทร์ดอน สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พรชัย แสงศิลา รอง สว.ฯ และ ร.ต.อ.จันทร์ดา วงษ์ชา รอง สว.ฯ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงน้ำพอง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายสถาพร โยลัย อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 274 ม.2 บ.นาชุม ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม และนายวันชัย อุปศรี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.2 บ.นาชุม ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยารีส หมายเลขทะเบียน ชณ-9055 กทม.โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมตัวได้ขณะพยายามขับรถฝ่าด่านตรวจ บน ถ.มิตรภาพ ฝั่งขาเข้า ระหว่าง กม.379-380 ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

ซึ่งจากการสอบสวนนายวันชัย ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดรับมาจากพ่อค้าชาวลาว เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาเพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าในเขต กรุงเทพฯ โดยมีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คนขับรถยนต์อีก 1 คัน ทำหน้าที่คอยตรวจสอบด่านตรวจและพาขับรถไปในเส้นทางต่างๆเพื่อหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้เส้นทาง ท่าอุเทน-นครพนม-สกลนคร-สว่างแดนดิน-หนองหาน-กุมภวาปี ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมได้ขณะขับฝ่าด่านตรวจในพื้นที่ อ.น้ำพอง ทั้งนี้การขนยาบ้าดังกล่าวได้รับค่าจ้างรวม 300,000 บาทและรับค่าใช้จ่ายเบื้องต้นมาแล้ว 20,000 บาท
จากการสอบสวนอย่างละเอียดพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 เพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปรับจ้างทำงานที่ประเทศไต้หวันเมื่อกลับมาไม่มีงานทำจึงรับจ้างขนยาบ้าด้วยค่าจ้างมากถึง 300,000 บาทและทำกันเป็นขบวนการขณะที่ยาบ้าที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นของเครือข่าย พ.ท.ยี่เซ  เป็นยาบ้าชุดใหม่ที่เครือข่ายยาบ้าจากต่างประเทศพยายามที่จะเจาะกลุ่มฐานลูกค้าในประเทศไทย เนื่องจากเป็นตัวยาที่มีส่วนผสมใหม่ มีการผสมกลิ่นลาเวนเดอร์เข้าไปเพื่อให้กลิ่นมีความหอมมากขึ้นและยากต่อการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามหลังจากการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดติดประเภทที่ 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กรรมการการเลือกตั้ง สรุปจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 68 จังหวัด ร้อยละ 45.84

วันนี้ (3 ก.พ.57)  นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผย ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป อย่างไม่เป็นทางการ 68 จังหวัด วันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาใช้สิทธิ 20,468,646 คน (20 ล้าน สี่แสน หกหมื่น แปดพัน หกร้อยสี่หกคน) จากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 44,649,742 คน (44 ล้าน หกแสน สี่หมื่น เก้าพัน เจ็ดร้อยสี่สองคน) คิดเป็นร้อยละ 45.84 โดยไม่รวมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 9 จังหวัดภาคใต้ ที่งดการลงคะแนนทั้งจังหวัด จังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากสุด ร้อยละ 72.8 / ลำดับ 2 หนองบัวลำภู ร้อยละ 72.50 และลำดับ 3 จังหวัดบึงกาฬ มีผู้มาใช้สิทธิ์ร้อยละ 70 / ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้มาใช้สิทธิ์น้อยสุด 1,292 คน คิดเป็นร้อยละ 0.11 จากทั้งหมด 1,153,060 คน เนื่องจากจัดการเลือกตั้งได้ 24 หน่วย คาดว่าจะสรุปผลการใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้วันพรุ่งนี้(4 ก.พ.) หลังการประชุม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และการประชุมวันพรุ่งนี้ จะหารือการกำหนดวันเลือกตั้งทดแทน หน่วยเลือกตั้งที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้ การกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด และการกำหนดวันรับสมัครและวันเลือกตั้ง 28 เขตเลือกตั้ง ที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง

คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่นสรุปผผู้มาใช้สิทธิ 2 กพ.2557 ร้อยละ 55.49

จังหวัดขอนแก่นมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่นอย่างไม่เป็นทางการมีผู้ใช้สิทธิแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ร้อยละ 55.49

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงคะแนน เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557ซึ่งจังหวัดขอนแก่น มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 2,671 หน่วยเลือกตั้ง จำนวน 10 เขตเลือกตั้ง มี สส.ได้ 10 คน จากจำนวนประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,356,323 คน จังหวัดขอนแก่นมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มาใช้สิทธิ 752,625 คน คิดเป็นร้อยละ 55.49 บัตรดี604,212 บัตรคิดเป็นร้อยละ 80.26 บัตรเสีย67,841 บัตร ร้อยละ 9.01 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 80,572 ร้อยละ 10.70 แบบบัญชีรายชื่อ มาใช้สิทธิ 752,625 คน ร้อยละ 55.49 บัตรดี 640,098 ร้อยละ 55.49 บัตรดี 640,098 ร้อยละ 85.04 บัตรเสีย 44,562 ร้อยละ 5.92 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 67,956 ร้อยละ 9.03



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เปิดตู้ไปรษณีย์พิเศษรับแจ้งข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับไปรษณีย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ในการเปิดให้มีช่องทางในการแจ้งข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผ่านตู้ไปรษณีย์หมายเลขพิเศษ ได้แก่ ตู้ ปณ 1 ปจ.กาฬสินธุ์ 46000 โดยให้ผู้แจ้งข้อมูลเขียนรายละเอียดผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ระบุชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ เท่าที่จะทราบได้ จะลงชื่อหรือไม่ลงชื่อผู้แจ้งก็ได้ แล้วจ่าหน้าซองจดหมาย ตู้ ปณ 1 ปจ.กาฬสินธุ์ 46000 และไปรษณีย์จังหวัดกาฬสินธุ์จะดำเนินการคัดแยกรวบรวมส่งให้ศูนย์อำนวยการลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไป



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว