วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ช้างตกลูก ร่างกายแข็งแรง ขณะที่อากาศหนาวเย็นควาญช้างต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

ช้างตกลูก ขณะที่ควาญช้างสงสัย ช้างอาจจะมีลูกฝาแฝด เพราะแสดงอาการปวดท้อง มีน้ำคร่ำ ไหล ต่อเนื่อง ตลอดทั้งวัน ส่วนลูกช้าง เชือกที่ตกออกมามีสภาพร่างกายแข็งแรง ขณะที่อากาศหนาวเย็นควาญช้างต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

วันที่ ( 9 ธ.ค.56 ) ที่ศูยน์คชศึกษา(คต-ชะสึก-ษา) บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ช้างพังกำไลทอง อายุ 17 ปี ตั้งท้องได้ 22 เดือน ครบกำหนดตกลูก ซึ่งเป็นช้างของ นายสุรศักดิ์ แสนดี อายุ 33 ปี ชาวบ้านตากลาง ได้มีอาการปวดท้องอย่างหนัก ช้างอยู่ในอาการกระวนกระวาย อย่างต่อเนื่อง และมีน้ำคร่ำไหลออกทางอวัยยะเพศ ควาญช้าง เชือกอื่นๆที่ทราบข่าวว่าช้างพังกำไลทอง ปวดท้องจะตกลูก ได้พากันมาเฝ้าอาการ ของช้าง อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือช้างน้อย หากตกออกมาจากท้องแม่ เพราะช้างพังกำไลทอง เพิ่งตั้งท้อง เป็นท้องแรก เจ้าของช้างควาญช้างเกรงว่า ช้างพังกำไลทอง จะทำร้ายลูก เพราะยังเลี้ยงลูกไม่เป็น จนกระทั่งเช้าวันนี้ที่ผ่านมา ช้างพังกำไลทองได้ตกลูกออกมา โดยควาญช้างคนอื่น และเจ้าของช้าง ได้รีบเข้าไปให้การช่วยเหลือช้างน้อย ที่เพิ่งตกจากท้องแม่ อย่างเร่งด่วน เพื่อดึงร่างของช้างน้อยที่รกยังห่อหุ้ม ออกมาจากใต้ท้องแม่ เพราะเกรงว่าช้างแม่เชือกใหม่ จะพลาด ใช้เท้าเหยียบลูกตายได้ ควาญช้าง ได้เร่งดึงช้างน้อยออกมาจากใต้ท้อง แม่ช้างได้ อย่างปลอดภัย พบว่าเป็นเพศผู้ หรือช้างพลาย และสุขภาพช้างน้อยแข็งแรงดี

อย่างไรก็ตาม สัตวแพทย์จาก ศูนย์วิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ จ.สุรินทร์ หรือโรงพยาบาลช้างสุรินทร์ ได้เดินทางมาตรวจสุขภาพแม่ช้าง และช้างน้อย ส่วนช้างแสดงอาการเบ่งท้อง ปวดท้อง ยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะยังตรวจโดยละเอียดไม่ได้ เพราะแม่ช้างยังหวง ได้แต่กำชับให้ให้เจ้าของช้างและควาญช้างดูแลช้างอย่างใกล้ชิดจนกว่า ต่อไป



อุทัย  มานาดี / รายงาน

สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล จัดอบรมเสริมสร้างศักยภาพผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ จ.สุรินทร์

สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ  (สสส.) จัดอบรมโครงการผู้นำท้องถิ่นในบทบาทสานความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา มีกิจกรรมจัดอบรมเสริมศักยภาพผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2556 ที่โรงแรมทองเพกา อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา เสริมเสร้างศักยภาพของผู้นำท้องถิ่นให้มีความรู้ เท่าทันสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง ปัญหาสังคม วัฒนธรรมของพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา (รู้เขา-รู้เรา) ให้สามารถเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างสานความสัมพันธ์ที่ดี กับประเทศเพื่อนบ้าน ในระดับท้องถิ่น (การทูตภาคประชาชน) ควบคู่กับไปกับส่วนกลางได้ กลุ่มเป้าหมายผู้นำท้องถิ่นจากองค์การบริหารส่วนตำบล  6 อำเภอ  ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอปราสาท อำเภอสังขะ อำเภอกาบเชิง อำเภอพนมดงรัก อำเภอบัวเชด ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ซึ่งผู้ประสงค์มีความสนใจสมัครเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 087-6770615

จังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนสนับสนุนซื้อ “ดอกแก้วกัลยา” ช่วยเหลือคนพิการ

 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อดอกไม้ประดิษฐ์ ซึ่งประดิษฐ์โดยคนพิการในสำนักส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ว่า "ดอกแก้วกัลยา” และจำหน่ายเพื่อนำรายได้ไปดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาคนพิการในด้านต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี 2547 ทั้งนี้ ขอเชิญชวนสนับสนุนในการประชาสัมพันธ์และจัดซื้อ  "ดอกแก้วกัลยา” ได้ที่ สำนักงานส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ โทรศัพท์ 0-2241-2841 , 0-2241-2841 และเชิญชวนร่วมกันติด "ดอกแก้วกัลยา” ในระหว่างเดือน ตุลาคม – ธันวาคม  2556 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงมีเมตตาต่อพสกนิกรและคนพิการทั่วประเทศ

จ.สุรินทร์ จัดประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/57

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ จะดำเนินการจัดประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/57 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวหอมมะลิ ได้พัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งด้านการผลิตและการตลาดเพื่อการส่งออก ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม ทั้งนี้จะตัดสินจากการประกวด ในวันที่  24 ธันวาคม 2556 ที่ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ โทร 044-513454 และ โทรสาร 044-516089

จ.สุรินทร์ เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 เพิ่มเติมครั้งที่ 8

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ได้ประกาศเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ครั้งที่ 1 จำนวน 64 แห่ง ตามประกาศจังหวัดสุรินทร์ ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2556 วันที่ 30 ตุลาคม 2556 วันที่  5 พฤศจิกายน 2556 วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 วันที่ 13 พฤศจิกายน2556 วันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 วันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 และ วันที่ 27 พฤศจิกายน 25565 สำหรับจังหวัดสุรินทร์ ได้เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ครั้งที่1 (เพิ่มเติมครั้งที่ 8) ดังนี้ 1.จุดรับจำนำนอกพื้นที่ ของ บริษัท โรงสีข้าวศิริเลิศหิรัญ  2554 จำกัด ได้แก่ ท่าข้าว บริษัทโรงสีข้าวศิริเลิศหิรัญ 2554 จำกัด (สาขา 2) อำเภอศีขรภูมิ , ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญยอดการเกษตร อำเภอสนม และ 2.จุดรับจำนำนอกพิ้นที่ ของ บริษัท กิจเจริญพรชัย ชุมพล สุรินทร์ จำกัด ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรรัตนบุรี จำกัด อำเภอรัตนบุรี ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจำนำ ณ จุดรับจำนำ กรุณาแจ้งสำนักงานการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์หมายเลข 0-4451-6089 , 0-4453-0020 หรือสายด่วน 1569

ธนาคารกสิกรไทย เตรียมเปิดสาขาใหม่ให้บริการประชาชนจังหวัดสุรินทร์

 นายสิทธิศักดิ์ รัชทินพันธ์ ผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสันสุรินทร์ เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้เปิดให้บริการด้านการเงินแก่ประชาชนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน  4 สาขา  คือ สาขาสุรินทร์ สาขาอำเภอปราสาท สาขาอำเภอสำโรงทาบ และสาขาสังขะ ซึ่งในวันที่  20 ธันวาคมนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะทำการเปิดสาขาใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันสุรินทร์ โดยจะเปิดให้บริการระหว่างเวลา 11.00-20.00 น. ทั้งนี้ประชาชนที่สนใจสามารถใช้บริการธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างสรรพสินค้าโรบินสันสุรินทร์ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป

ปภ.สุรินทร์ ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว ทั้งระดับจังหวัด อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

 นายนิรันดร์ ศิริสิงห์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กำหนดแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน เน้นการรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อควบคุมการเผาควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังจากเบาไปหาหนัก รวมถึงการป้องกันอัคคีภัยในช่วงสภาพอากาศแห้ง โดยประสานการระงับเหตุเพลิงไหม้อย่างเป็นระบบทั้งการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและวัสดุอุปกรณ์ให้สามารถออกปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยในช่วงฤดูหนาว พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังภัยในช่วงฤดูหนาว ทั้งอัคคีภัย ไฟป่าจากสภาพอากาศแห้ง อุบัติเหตุทางถนนในช่วงหมอกลงจัด การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากภาวะอากาศหนาวเย็น รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในช่วงฤดูหนาว อาทิ การดื่มสุราแก้หนาว การผิงไฟในเต็นท์ ทั้งนี้ ปภ. ได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สำหรับประชาชนที่ประสบภัยหนาวสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ กำหนดเปิดอาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์

  นายสังเวียน ขันตี ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงยุติธรรม ไดจัดสร้างอาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมส่วนภูมิภาคในจังหวัดสุรินทร์ เป็นที่ตั้งทำการให้บริการและอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่มารับบริการ ประกอบด้วย สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสุรินทร์ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุรินทร์ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ จึงได้กำหนดจัดพิธีเปิดอาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ โดยมีท่านศาสตราจารย์พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือผู้แทน เป็นประธานพิธีเปิด ดังนั้นจึงขอเชิญผู้แทนร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดอาคารดังกล่าว ในวันที่ 19 ธันวาคม 2556 เวลา 08.30 น.ที่อาคารบูรณาการกระทรวงจังหวัดสุรินทร์ 799 หมู่ที่ 20ถนนเลี่ยงเมือง (เยื้องเรือนจำกลางจังหวัดสุรินทร์) ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์ เตือน ดื่มสุราแก้หนาว อันตรายถึงตาย

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นลงทำให้มีประชาชนบางกลุ่มนิยมดื่มเหล้าแก้หนาว เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นร่างกาย โดยไม่ต้องสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นก็ได้เพราะเหล้าทำให้อุ่นอยู่แล้ว ซึ่งในทางการแพทย์จัดว่าเป็นความเชื่อที่ผิด ซึ่งมีข่าวผู้เสียชีวิตจากความเชื่อดังกล่าวทุกปีเพราะความร้อนวูบวาบที่เกิดขึ้นหลังดื่ม ไม่ใช่ความอบอุ่น แต่เป็นผลจากหลอดเลือดฝอยขยายตัวเพราะฤทธิ์เหล้า และเป็นช่องระบายความร้อนออกจากร่างกาย ยิ่งดื่มมากเท่าใดความร้อนในร่างกายจะถูกระบายออกมาก ทำให้อุณหภูมิในตัวลดต่ำกว่าปกติ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้สูง เมื่อสัมผัสอากาศเย็นเป็นเวลานาน สำหรับการทำให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ขอให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วไม่ควรก่อไฟผิง เพราะควันจากการผิงไฟจะระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และควรเพิ่มความอบอุ่นโดยเฉพาะเวลานอน อาจต้องสวมเสื้อผ้าหรือผ้าห่มหลายชั้น เพื่อป้องกันความหนาว

จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญซื้อ ส.ค.ส. ส่งคำอวยพรปีใหม่

 นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญทุกภาคส่วนและประชาชนชาวสุรินทร์ร่วมอวยพรวันขึ้นปีใหม่2557 โดยขอเชิญซื้อ ส.ค.ส.ซึ่งเป็นภาพที่สื่อความหมายถึงจังหวัดสุรินทร์ เหมาะสมจะเป็นตัวแทนของความสุข ความปรารถนาดี ที่ส่งให้กันในเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป ได้ใช้ในการส่งคำอวยพร อาทิ รูปภาพ ในหลวง –ราชินี เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรชาวสุรินทร์ ภาพหลวงพ่อพระชีว์ วัดบูรพาราม ภาพปราสาทศีขรภูมิ และภาพช้างในหมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อได้ในราคาจำหน่าย พร้อมซอง ชุดละ 10 บาท หรือซื้อจำนวนมากในอัตราโหลละ 100 บาท (คละแบบ) และโหลละ 95บาท สำหรับแบบเดียวกัน ติดต่อซื้อได้ที่ ศาลากลางจังหวัดชั้น 2 กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ ดูรายละเอียดได้ที่ Website:www.surin.go.th โทร 0-4452-1361

จ.สุรินทร์ ขอเชิญประดับธงชาติไทย และธง ภปร.พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายความจงรักภักดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้

 นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา5 ธันวาคม 2556 จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญชวนข้าราชการและประชาชนชาวสุรินทร์ ร่วมประดับธงชาติไทยคู่กับ ธง ภปร.พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมตั้งเครื่องสักการะบูชา ตามหน่วยงาน อาคาร และบ้านเรือน เพื่อถวายความจงรักภักดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอเชิญชวนร่วมลงนามถวายพระพรออนไลน์ ที่เว็บไซต์ www.ocsc.go.th ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31ธันวาคม 2556

จังหวัดอุบลราชธานี ได้เห็นชอบให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษสามรถจำนำข้าวข้ามเขตได้เกินกว่าระดับตำบล

 อุบลราชธานี : นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประธานคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้เห็นชอบให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ สามารถจำนำข้าวข้ามเขตเกินกว่าระดับตำบลติดต่อกันเป็นระดับอำเภอติดต่อกันของจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุบลราชธานี ตามที่คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัดศรีสะเกษได้อนุมัติ ดังนี้

1.เกษตรกรอำเภอเบญจลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษจำนำข้ามเขตมาโรงสีในอำเภอเดชอุดม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ดังนี้
            1.1หจก.เดชอุดมศิริโชค อ.เดชอุดม
            1.2สหกรณ์การเกษตรทุ่งศรีอุดม จำกัด อ.ทุ่งศรีอุดม
2.เกษตรกรอำเภอโนนคูณจังหวัดศรีสะเกษ จำนำข้ามเขตมาโรงสีในอำเภอเดชอุดม และอำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ดังนี้
             2.1 หจก.เดชอุดมศิริโชค อ.เดชอุดม
             2.2 บจก.โรงสีข้าวยิ่งไพบูลย์ อ.สำโรง
 3.เกษตรกรอำเภอกันทรารมณ์ จังวหัดศรีสะเกษ จำนำข้ามเขตมาโรงสีในอำเภอวารินชำราบ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ดังนี้
             3.1 หจก. โรงสีข้าวอุบลสหรุ่งเรือง อ.วารินชำราบ
             3.2 บจก. อุบลแสงเจริญรุ่งเรือง อ.เขื่องใน
             3.3 บจก.โรงสีข้าวยิ่งไพบูลย์ (2007)สำโรง
4.เกษตรกรอำเภอยางชุมน้อย จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จำนำข้ามเขตมาโรงสีในอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี คือ บจก.อุบลแสงเจริญรุ่งเรือง อ.เขื่องใน
5.เกษตรกรอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ จำนำข้ามเขตมาโรงสีในอำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี คือ สหกรณ์การเกษตรทุ่งศรีอุดมจำกัด (นอกพื้นที่ของ บจก.อุบลธัญชาติ)

แถลงการณ์นายกรัฐมนตรี เรื่อง การยุบสภาผู้แทนราษฎร

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบว่า จากการหารือ และรับฟังข้อคิดเห็นของทุกภาคส่วนแล้ว ดิฉันจึงได้ตัดสินใจขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ด้วยเหตุผล ดังนี้

1. การยุบสภาผู้แทนราษฎร เป็นกระบวนการปกติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยแบบรัฐสภา ดังที่ปรากฎอยู่ในหลายประเทศที่ใช้ระบอบนี้ ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือธรรมเนียมการปฏิบัติดังกล่าวมาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากการที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ บัญญัติรองรับการยุบสภาผู้แทนราษฎรไว้ และได้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วหลายครั้ง เช่น เมื่อ พ.ศ. 2519 พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2549 และพ.ศ. 2554

2. ตามที่รัฐบาลได้เข้ารับหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีภารกิจสำคัญในการแก้ไขวิกฤติการณ์ภายในประทศหลายประการ ทั้งในเรื่องของมหาอุทกภัย ผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน รวมทั้งการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความั่นใจในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งรัฐบาลก็ได้ดำเนินการอย่างสุดความสามารถ แก้ปัญหาต่างๆ จนลุล่วงไปได้ด้วยดี

3. เมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว รัฐมนตรีทั้งคณะย่อมพ้นจากตำแหน่งไปด้วยตามมาตรา 180(2) แต่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ซึ่งกำหนดไว้ด้วยว่า คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไงที่กำหนดในมาตราดังกล่าว

4. ขอให้ประชาชนทั้งหลายให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ซึ่งจะได้หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้งถึงการกำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ประชาชนทำหน้าที่ และใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยความพร้อมเพรียงใส่ใจ และรอบคอบ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมที่สุด ซึ่งจะเป็นการแสดงเจตจำนงทางการเมือง โดยสันติตามวิถีทางรัฐธรรมนูญและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

สุรินทร์จัดงานสมโภชศาลหลักเมือง

จังหวัดสุรินทร์ จัดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จังหวัดสุรินทร์
 นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556 ระหว่างวนที่ 10-19 ธันวาคม 2556 ที่ปะรำพิธีหลังสถานีรถไฟสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่กับจังหวัดสุรินทร์สืบไป ซึ่งมีการกำหนดพิธีเปิดงานวันที่ 10 ธันวาคม 2556 เวลา 09.00 น.ที่ปะรำพิธีหลังสถานีรถไฟสุรินทร์ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้จึงเชิญชมการแสดงเชิดสิงโตและการแสดงมังกร ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางโดยทั่วกัน

แถลงการณ์นายกรัฐมนตรีเรื่อง การยุบสภาผู้แทนราษฎร

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบว่า จากการหารือและรับฟังข้อคิดเห็นของทุกภาคส่วนแล้ว ดิฉันจึงได้ตัดสินใจขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.๒๕๕๖ เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ด้วยเหตุผลดังนี้ ๑. การยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นกระบวนการปกติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ดังที่ปรากฏอยู่ในหลายประเทศที่ใช้ระบอบนี้ ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือธรรมเนียมการปฏิบัติดังกล่าวมาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากการที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ บัญญัติรองรับการยุบสภาผู้แทนราษฎรไว้ และได้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วหลายครั้ง เช่น เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ศ. ๒๕๔๙ และ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ตามที่รัฐบาลได้เข้ารับหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่เมื่อวันที่ โดยมีภารกิจสำคัญในการแก้ไขวิกฤติการณ์ภายในประเทศหลายประการ ทั้งในเรื่องของมหาอุทกภัย ผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน รวมทั้งการฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศ การพยายามสร้างความปรองดอง ตลอดจนฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อให้เกิดความมั่นใจในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งรัฐบาลก็ได้ดำเนินการอย่างสุดความสามารถ แก้ปัญหาต่างๆจนลุล่วงไปได้ด้วยดีอย่างไรก็ตาม ในประเด็นด้านความขัดแย้งทางการเมืองนั้น ยังคงดำรงอยู่อย่างต่อเนื่อง และถึงแม้รัฐบาลจะพยายามที่จะสร้างความเข้าใจอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการเสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเปิดเวทีปฏิรูปการเมือง หรือการทำประชามติ ก็ยังมีผู้ที่เห็นต่างและคัดค้าน ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟัง หากการคัดค้านนั้นเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา แต่ปรากฏว่ามีผู้คัดค้านจำนวนหนึ่งรวมทั้งสมาชิกพรรคฝ่ายค้านกลับเลือกที่จะใช้วิถีทางการชุมนุมต่อต้านนอกเวทีรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลก็ได้ดำเนินการบริหารการชุมนุมอย่างละมุนละม่อมและด้วยท่าทีที่ประนีประนอม อันเป็นการเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นมาโดยตลอด และเพื่อรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้ประเทศและคนไทยต้องมีการสูญเสียอีก ด้วยประเทศไทยเจ็บปวดมามากพอแล้ว แต่สถานการณ์ในวันนี้ รัฐบาลได้คำนึงถึงแนวคิดที่แตกต่าง และต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชนจำนวนมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงเห็นว่าภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เมื่อถึงจุดที่ความคิดขัดแย้งอาจนำไปสู่ความแตกแยกของคนในชาติและมีความรุนแรงจนอาจเกิดความสูญเสียขึ้น การคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินด้วยการยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็นวิถีทางที่เป็นไปตามหลักการแห่งระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่า คนส่วนใหญ่ต้องการแนวทางใด และจะให้ใครมาบริหารประเทศตามแนวทางนั้นรัฐบาลใคร่ขอเชิญชวนให้ทุกกลุ่มทุกพรรคการเมืองที่มีความคิดเห็นแตกต่างหลากหลาย ใช้เวทีการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยเป็นที่นำเสนอทางเลือกต่างๆให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ๓. เมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว รัฐมนตรีทั้งคณะย่อมพ้นจากตำแหน่งไปด้วยตามมาตรา ๑๘๐ (๒) แต่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑ ซึ่งกำหนดไว้ด้วยว่า คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดในมาตราดังกล่าว ๔. ขอให้ประชาชนทั้งหลายให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ซึ่งจะได้หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้งถึงการกำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดทั้งนี้รัฐบาลขอให้ประชาชนทำหน้าที่และใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยความพร้อมเพรียง ใส่ใจ และรอบคอบ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมที่สุด ซึ่งจะเป็นการแสดงเจตจำนงทางการเมืองโดยสันติตามวิถีทางรัฐธรรมนูญและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

มหกรรมคนไทยหัวใจสีเขียว Green Heat

มหกรรมคนไทยหัวใจสีเขียว Green Heat
เฉลิมพระเกีรยติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556
โดยนายสุเมธ อำภรณ์

ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี ในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2556 08.00 -12.00 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดอุบลราชธานี จึงร่วมกับภาคีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี สวนพฤกษาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ดงฟ้าห่วน) เทศบาลตำบลขามใหญ่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดอุบลราชธานี ตลอดจนผู้นำชุมชนและพี่น้องประชาชน จัดงานมหกรรมคนไทยหัวใจสีเขียวเฉลิมพระเกีรยติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 ณ สวนพฤกษาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ดงฟ้าห่วน) เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มี โอกาสร่วมแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกีรยติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชมพรรษา ตลอดจนเป็นการสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้ร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเสริมสร้างความสมดุลอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมไทยและวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ (ทสม.)

1. การแสดงชุด พระบารมีปกเกล้า จาก โรงเรียนศรีปทุมพิทยาคาร
2. การแสดงสาธิตการใช้อุปกรณ์ดับไฟป่า จาก ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าอุบลราชธานี
3. การเสวนาหัวข้อ คนไทยหัวใจสีเขียว ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงสู่อนาคต เมืองสวย น้ำใส ไร้มลพิษ
4. ซุ้มนิทรรศการและฐานการเรียนรู้คนไทยหัวใจสีขาว
5. กิจกรรมการตอบปัญญาชิงรางวัลโดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 700 คน การจัดกิจกรรมในวันนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากภาคหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิเช่น สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขต อุบลราชธานี สวนสัตว์อุบลราชธานี ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าอุบลราชธานี สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 อุบลราชธานี เทศบาลเมืองวารินชำราบ เทศบาลเมืองเดชอุดม กลุ่มบริษัท อุบล ไปโอ เอทานอล จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนพฤกษศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ดงฟ้าห่วน) ที่อนุเคราะห์สถานที่ในการจัดการงานเทศบาลตำบลขามใหญ่ที่เป็นกำลังหลักในการจัดเตรียมสถานที่ และศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดอุบลราชธานี ที่สนับสนุนพันธุ์ปลาเพื่อการอนุรักษ์ จำนวน 2,999 ตัว

สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน,ชมรมพัฒนาบทบาทสตรี,อปพร.,อสม. พร้อม จนท จาก กฟภ.และการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดอุบลราชธานี ยื่นแถลงการณ์ต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัด สนับสนุนให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง

สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน,ชมรมพัฒนาบทบาทสตรี,อปพร.,อสม. พร้อม จนท จาก กฟภ.และการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดอุบลราชธานี ยื่นแถลงการณ์ต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัด สนับสนุนให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง

อุบลราชธานี : รวมพลังกว่า 1,000 คน ยื่นแถลงการณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี โดยจะสนับสนุนนโยบายและปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาลพร้อมทั้งจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อบริการประชาชนตามปกติและสนับสนุนให้ก้าวข้ามความขัดแย้งโดยสันติวิธี

เช้าวันที่ (9 ธ.ค. 56 ) ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารสุขประจำหมู่บ้าน,อาสาสมัครป้องกันภัยฝ้ายพลเรือน, เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค,การประปาส่วนภูมิภาค ร่วม 1,000 คน มายื่นแถลงการณ์ต่อ นายวันชัย สุทธิวรชัย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มาร่วมรับฟัง โดยนางนิทรา กันยกาญจน์ ผู้แทนฯ อ่านแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งเห็นว่าสถานการณ์ชุมนุมประท้วงทางการเมืองของกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ เพื่อขับไล่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่เป็นการซ้ำเติมสร้างความบอบซ้ำให้แก่บ้านเมืองและเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ จึงแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์ในนาม สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, สมาชิก อปพร., อาสาสมัครสาธารสุขประจำหมู่บ้าน,คณะกรรมการพัฒนากองทุนบทบาทสตรี,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนภูมิภาค ว่าจะสนับสนุนนโยบายและปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีกทั้งจะปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบของตนเองเพื่อบริการประชาชนตามปกติและอย่างเต็มความสามารถเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและสนับสนุนการก้าวข้ามความขัดแย้ง ตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตยและโดยสันติวิธี รวมทั้งโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ด้านนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อสมาคม,ชมรมและสมาชิก อปพร.,อสม.เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค,การประปาส่วนภูมิภาค ที่ออกมาแถลงการณ์สนับสนุนนโยบายและปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และสนับสนุนการก้าวข้ามความขัดแย้ง อีกทั้งเป็นกำลังในการปฏิบัติงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหน่วยงานราชการในจังหวัดอุบลราชธานี ยังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการให้บริการประชาชนตามปกติ และจะไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมทางการเมืองอีกทั้งพร้อมที่จะปกป้อง รักษาสถานที่ราชการและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานียังได้เชิญชวนให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อได้ประกาศวันเลือกตั้งทั่วประเทศอีกด้วย



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

สนง.วัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี สรุปผลการจัดงาน ทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน ปีที่ ๕

สนง.วัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี สรุปผลการจัดงาน ทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน ปีที่ ๕ อุบลราชธานี : นำสรุปผลและผลการประเมินการจัดงานทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน ปีที่ ๕ เสนอคณะทำงานทั้งด้านความพร้อมที่ต้องการยกระดับการจัดงานให้เป็นงานสำคัญระดับจังหวัดและที่ต้องปรับปรุงพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อเป็นข้อมูลการจัดเตรียมงานในปีต่อไป

นางกรกมล เพชรล้อมทอง วัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายวิโรฒ มีแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมประชุมคณะกรรมการจัดงานทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน เปิดเผยว่า จากการที่ได้จัดงาน ทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน ปีที่ 5 มหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา ประจำปี 2556 ซึ่งจัดที่วัดไชยมงคล ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2556 และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานได้ประชุมคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะและผลการประเมินการจัดงาน เพื่อเป็นข้อมูลในการเตรียมจัดงานในปีต่อไป ซึ่งผลการจัดงานในปี 2556 ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันจัดงานที่มีความพร้อม ทั้งด้านการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่มีในงานเช่นการจัดฐานความรู้ 9 ฐาน ประกอบด้วยฐานปลูกฝ้ายเป็นสายบุญ เก็บฝ้ายสายธารบุญ อิ้ว ดีด ล้อเข็นฝ้ายสายธารธรรม เปีย ปั่นฝ้ายสายศรัทธา กวัก ค้น สืบฝ้ายสายใยบุญ ต่ำหูก ผูกสายธรรม ตัด เย็บเก็บสายใย ย้อมด้ายสายพระธรรมและมหาบุญจุลกฐิน รวมทั้งกิจกรรมถนนสายข้าว 8 สาย เช่นถนนสายข้าวจี่ ข้าวหลาม ข้าวเม่า ข้าวโป่ง ข้าวปุ้น ข้าวต้มมัด ข้าวมธุปายาสและสายพวงมาลัยข้าวตอกแตก

นอกจากนี้ภายในงานยังมีถนนายอาชีพให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับความรู้ เช่น การทำพวงกุญแจ การร้อยสร้อยข้อมือ ทำขนมโดนัทจิ๋ว การทำธูปหอม การประดิษฐ์ดอกกุหลาบจากใบเตย การสานตะกร้าพลาสติก การทำหมวกจากกล่องเครื่องดื่ม การทำโคมไฟด้วยไม้ไผ่ ประดิษฐ์ดอกไม้และที่เก็บพวงกุญแจจากผ้าฝ้ายและงานหัตถกรรมฝีมืออื่นๆ โดยสถานศึกษาและกลุ่มต่างๆ อีกทั้งการละเล่นพื้นเมือง เช่น การรำกลองตุ้ม การแห่มาลัยข้าวตอกแตก การแสดงหุ่นเสมา การเล่นแมวกินปลาย่าง หูกินหาง กระต่ายขาเดียว หมากเก็บ โยนเบี้ย รีรีข้าวสาร เดินขาโถกเถก ม้าก้านกล้วย ย่างกะโป๋ บักกิ้งล้อ อีกทั้งการแสดงพื้นบ้านจากสถานศึกษาต่างๆ การจัดงานพาแลง ที่นำศิลปินและผู้ทรงคุณวุฒิมาเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับจังหวัดอุบลราชธานีในอดีต การแสดงรำวงย้อนยุค ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษาและผู้มาร่วมงานเป็นอย่างดี โดยในภาพรวม เป็นการจัดงานประจำปี 2556 มีความพร้อมเพรียงในทุกด้าน สามารถที่จะยกระดับให้เป็นงานสำคัญอีกงานหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี ได้

ส่วนคำแนะนำที่จะทำไปปรับปรุงเพื่อให้การจัดงานในปีต่อไปมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เช่น การเชิญชวนให้ภาคส่วนต่างๆ สถานศึกษาและประชาชนได้รับทราบอย่างแพร่หลายและมาร่วมงาน การปรับการจัดกิจกรรมให้มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม การแบ่งมอบภารกิจการจัดกิจกรรมต่างๆ ในงานและการประสานงานให้มีความต่อเนื่องอีกทั้งการประเมินผลการจัดงานในทุกกิจกรรม ซึ่งข้อเสนอแนะดังกล่าว คณะกรรมการจัดงานและฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้นำเป็นข้อมูลเพื่อปรับปรุงการจัดงานในปีต่อไปให้ความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเพื่อสามารถยกระดับการจัดงานให้เป็นงานสำคัญและเป็นที่สนใจของประชาชนอีกงานหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

ประชุมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ 2557

 จังหวัดอุดรธานี จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทาง ถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 บูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ภายใต้คำขวัญ ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ

ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมการบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศปีใหม่ 2557 โดยมีส่วนราชการ นายอำเภอปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบ ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา มูลนิธิ จาก 20 อำเภอในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุมเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จังหวัดอุดรธานี มีเป้าหมายในการดำเนินการรณรงค์ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 - 4 มกราคม 2557 โดยเป้าหมายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดอุดรธานี ต้องลดยอดผู้เสียชีวิตจาก อุบัติเหตุ และผู้บาดเจ็บจากยอดเดิมปี 2556 ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 5 ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2556ที่ผ่านมาจังหวัดอุดรธานีมีผู้เสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บ 56 คน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 53 ครั้ง โดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่พบ เกิดจากเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่มีใบขับขี่ ประเภทของรถที่เกิด 3 อันดับแรก คือจักรยานยนต์ รถปิกอัพ รถเก๋ง

สำหรับมาตรการเน้นหนัก ซึ่งเป็นวิธีการหรือข้อกำหนดที่สำคัญในการป้องกัน แก้ไขปัญหา และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิบัติงานและสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์หลัก 6 ด้าน ประกอบด้วย มาตรการด้านการบริหารจัดการ ด้านบังคับใช้กฎหมาย ด้านสังคม ด้านวิศวกรรมและสัญจรปลอดภัย ด้านประชาสัมพันธ์ และมาตรการด้านการตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุ ส่วน 4 มาตรการเน้นหนัก ประกอบด้วย มาตรการบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดตามมาตรการ 10 มาตรการ การควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่หรือโดยสารยานพาหนะ การควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมาตรการเพิ่มการณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกชนิด การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ระดับจังหวัด อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การตั้งจุดร่วม การตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน การตั้งหน่วยสนับสนุนและบริการประชาชนระดับพื้นที่

และในวันที่ 26 ธันวาคม 2556 จังหวัดอุดรธานี กำหนดเปิดการบูรณาการการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติภัยเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดอุดรธานี เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับกรมทางหลวง โครงการถนนศรีสุขรถไม่ติด ชีวิตปลอดภัยรักษาวินัยจราจร วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน การขับเคลื่อนสู่ปีแห่งการณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย วันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ

อนึ่งในห้วงระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 - 4 มกราคม 2557 นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และนายสุทธินันท์ บุญมี นายณรงค์ พลละเอียด นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีทั้ง 3 ท่าน ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้ง 20 อำเภอด้วย


ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

แถลงข่าวมหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014

  จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ภาคเอกชนมาเลเซีย กำหนดจัดงานมหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014 " Udon Thai International Air and Big bike Fest 2014 ระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2557 ณ ลานจอดเครื่องบินกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี

ที่ท่าอากาศยานจังหวัดอุดรธานี บ่ายวันนี้ ( 8 ธ.ค.56) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการแถลงข่าวงานมหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014 " Udon Thai International Air and Big bike Fest 2014 โดยมีนายพรเทพ ศักดิ์สุจริต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี มิสเตอร์ไฟซอล อิชัค ( Mr.Phishol Ishak) รองประธานสมาคมการท่องเที่ยวลังกาวี มาเลเซีย ,นายเกียรติพงษ์ คชวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานอุดรธานี ,นาวาอากาศเอกโสรวาร ป้อมสนาม รองผู้บังคับการกองบิน 23 นางอัมพวัน วรรณโก ผู้อำนวยการท่าอากศยานอุดรธานี ร่วมแถลงข่าว

มหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014 " Udon Thai International Air and Big bike Fest 2014 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2557 รวม 3 วัน 3 คืน เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชมหาราช พระชนมายุ 86 พรรษา ซึ่งจังหวัดอุดรธานีและปวงชนชาวไทยพร้อมใจกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตลอดมา และร่วมเฉลิมฉลองการตั้งเมืองอุดรธานีลุเข้าสู่ปีที่ 121 ปี ในวันที่ 18 มกราคม 2557 ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของชาวอุดรธานีทุกคนรวมถึงเป็นการรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานีและวางรากฐานการพัฒนาเมืองอุดรธานีให้มีความเจริญกว้าหน้ามาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับกิจกรรมในงานจัดให้มี แอร์โชว์ พารามอเตอร์ กระโดดร่ม บอลลูน เครื่องบินบังคับวิทยุ บิคไบค์ ประกวดมิสแอร์โชว์ อาหารฮาลาล ร๊อคคอนเสริ์ต

อนึ่งเพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลอง 121 ปี จังหวัดอุดรธานี จังหวัดโดยการนำของผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้จัดปฏิทินกิจกรรมเฉลิมฉอลงตลอดทั้งปี แบ่งเป็น 9 มิติ ครอบคลุมการพัฒนาเมืองอุดรธานีทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ด้านศาสนา ด้านเกษตรและสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านสิ่งวดล้อม ด้านการท่องเที่ยวและกีฬา และด้านการเป็นศูนย์กลางอนุภูมิภาคกลุ่มลุ่มน้ำโขง ซึ่งมีกิจกรรมที่โดดเด่นและได้เปิดตัวการเฉลิมฉลอง 121 ปี เมืองอุดรธานีไปแล้ว คือการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 28 มื่อเดือนกันยายน งานเพลินเพลงแห่งแผ่นดิน เมื่อเดือนตุลาคม 2556 และที่กำลังจะจัดขึ้น คือกิจกรรมสโมสรสันนิบาตรถวายชัยมงคล ชาวอุดรธานีเทิดพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 การรำบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมของสตรีชาวอุดรธานีนับหมื่นคน ซึ่งจะมีการบันทึกลงใน Guinness World Record ในวันที่ 18 มกราคม 2557



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ฯ อยุธยา ข่าว/ภาพ

ม็อบแดงเหลือหวิดประทะหน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี

กลุ่มอุดรรักชาติม็อบต้านรัฐบาลเดินทางมาชุมนุมประกาศชัยชนะ หลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ด้านผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงอุดร ทราบข่าวระดมกำลังปิดล้อมซ้าย-ขาว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.จำนวนมากจัดตั้งกำแพงคนป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะ

เช้าวันที่ ( 9 ธ.ค.56 ) ที่บริเวณถนนวัฒนานุวงศ์หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี บริเวณฝั่งตรงข้ามไปรษณีย์อุดรธานีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองกลุ่มอุดรรักชาติประมาณ 30 คนเดินทางมาประกาศชัยชนะหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา เพียงไม่ถึง 10 นาทีกลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การนำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและชมรมคนรักอุดร ของนายขวัญชัย ไพรพนา จำนวนประมาณ 400 คน นำรถขยายเสียงมาปิดล้อมถนนบริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิดอุดรธานี และฝั่งสี่แยกสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานีและเปิดการปราศัยโจมตี ผู้ชุมนุมกลุ่มอุดรรักชาติ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ซึ่งมีนายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กระจายกำลังขอให้ผู้ชุมนุมเสื้อเหลือสลายการชุมนุมเกรงจะมีการปะทะพร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุมออกจากที่ชุมุนมโดยออกไปทางประตูหลังไปรษณีย์ ซึ่งผู้ชุมนุมกลุ่มอุดรักชาติได้สลายการชุมนุมไปด้วยความสงบ

ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงภายใต้การนำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ นายศราวุธ เพชรพนมพร นายอนันต์ ศรีพันธ์ นายขจิตร ไชยนิคม พันตำรวจสุรทิน พิมานเมฆิทร์ดูสถานการณ์ เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่ากลุ่มอุดรรักชาติสลายตัวแล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงแจ้งให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกันไปทานข้าวๆ และให้สลายการชุมนุม แต่ก็ยังพบว่ามีผู้ชุมนุมบางคนยังคงปักหลัดดูลาดเลาอยู่และเฝ้ารอดูสถานการณ์ทางกรุงเทพ หากมีสถานการณ์ไม่ปกติจะเรียกระดมกำลังอีกครั้ง



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่จังหวัดร้อยเอ็ดตั้งเวทีและปิดถนนบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล ขณะที่ข้าราชการทำงานเป็นปกติ

  วันที่ ( 9 ธ.ค.56 ) ที่จังหวัดร้อยเอ็ดผู้ชุมนุมทางการเมือง ประมาณ 200 คน ได้ตั้งเวทีและปิดถนนเทวาภิบาล บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมระหว่างจังหวัดร้อยเอ็ดกับจังหวัดยโสธร จังหวัดมหาสารคาม และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน เพื่อชุมนุมประท้วงเป็นสัญลักษณ์ขับไล่รัฐบาล ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศยุบสภาแล้วก็ตาม ขณะบริเวณศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ดไม่อนุญาตให้รถเข้าออกแต่อย่างใด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาติดต่อราชการ ซึ่งได้มีการทำงานเป็นปกติ

                                   

วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

ม็อปต้านระบอบทักษิณ จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเวทีปราศรัยคู่ขนานกับการชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร

เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา ( 9 ธ. ค.56 ) ณ   บริเวณถนนเทวาภิบาล   ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เวทีอยู่ริมถนน ด้านหน้าสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์  ชาวร้อยเอ็ด เกือบ 200 คน  ได้ปิดถนนเพื่อชุมนุมประท้วงเป่านกหวีด เป็นสัญลักษณ์ขับไล่รัฐบาลและระบอบทักษิณออกไป  ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศยุบสภาแล้วก็ตาม พร้อมผลัดกันกล่าวปราศรัยโจมตีการบริหารของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโดยมีนายณรงค์  นาทองคำ , นายถวิล  พิมมหินทร์,และอีกหลายคน  เป็นแกนนำผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย ขณะที่ ผวจ.ร้อยเอ็ด  มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส. อำนวยความสะดวกประชาชนและรักษาความสงบเรียบร้อย ชุมนุมประท้วงเป่านกหวีด  และขณะนี้ยังเปิดเวที คู่ขนานกับกรุงเทพมหานคร มีการปราศรัยโจมตี อย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีการสลายการชุมนุม



  คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
  กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เปิดสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการใหม่

นายสุรพล  เมฆินทร์อนุกูล ผู้จัดการสาขาร้อยเอ็ด เปิดเผยว่าธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME BANK เปิดสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการใหม่ ภายใต้กองทุนตั้งตัวได้ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ที่เป็นนักเรียนจากสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันอาชีพศึกษาที่จบการศึกษามาแล้วไม่เกิน 5 ปีการศึกษาตามเกณฑ์ที่โครงการกำหนด คือ วงเงินสินเชื่อ 1 ราย 5 หมื่น ถึง 2 ล้านบาท, ฟรีค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ, เป็นเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) สูงสุดไม่เกิน 7 ปี, คิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ต่อปี (ปัจจุบัน 9.5 % / ปี)

ผู้สนใจ ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธพว. สาขาร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 043-511100, 043-514775 และ 043-514666



วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
อนงค์นาถ  ธุระพันธ์/พิมพ์
ส.ปชส.ร้อยเอ็ด

จังหวัดร้อยเอ็ดขอให้ประชาชนระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงในช่วงฤดูหนาวปี 2556 ต่อเนื่อง ปี 2557

 นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2556 ต่อเนื่องปี 2557 โดยจะมีอากาศหนาวเย็นที่สุดจะอยู่ในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมกราคม จังหวัดร้อยเอ็ดได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนและเกษตรกรโดยทั่วไปทราบถึงสภาพอากาศดังกล่าว โดยขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประสบภัยหนาวกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ คนชรา คนพิการ เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ด้อยโอกาส (ฐานะยากจน) นุ่งห่มเสื้อผ้าป้องกันความหนาวเย็น หากเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์หรือรักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลใกล้บ้าน แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บาน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอทันที

หากพบเห็นภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวของอำเภอหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้นๆ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวจังหวัดร้อยเอ็ด ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 0 – 4351-2955,0-4351-3632,0-4451-5139 และโทรสารหมายเลข 0 – 4351-3097

                               

วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

ผู้ว่าฯ ยโสธร มอบเสื้อกันหนาวให้กับผู้ต้องขังเรือนจำ 300 ตัว

ที่ยโสธร จากสภาวะอากาศที่หนาวมาก ประมาณ 15 – 19 องศาเซลเซียส ในขณะนี้ จังหวัดยโสธร โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงจัดหาเสื้อกันหนาว จำนวน 300 ตัว เพื่อมอบให้กับผู้ต้องขัง ทั้งหญิง – ชาย ในเรือนจำจังหวัดยโสธร โดยมีนายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธาน เพื่อบรรเทาความหนาวให้กับผู้ต้องขังที่มีฐานะยากจน ผู้สูงอายุ และผู้ต้องขังที่ไม่ค่อยมีญาติมาเยี่ยม และฝากความห่วงใย ฝากเตือนมายังพี่น้องประชาชนทุกท่าน ให้ระมัดระวังอัคคีภัย ที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ในช่วงฤดูหนาวนี้ ด้วย
                                                             


                                                                        ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 

ยโสธร กลุ่มพลังมวลชนประมาณ 700 คน สนับสนุนฝ่ายค้าน

ที่ยโสธร เมื่อเวลา 10.00 น. มีกลุ่มพลังมวลชนในเขตพื้นที่อำเภอเมืองยโสธร ประมาณ 700 คน มาชุมนุมแสดงพลังสนับสนุนฝ่ายค้าน ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดยโสธร หลังจากที่รัฐบาลประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และเห็นด้วยกับการยุบสภาของรัฐบาล ที่คืนอำนาจกลับมาให้ประชาชน และมีการปราศรัยนโยบายรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. ก็ประกาศสลายตัว ด้วยความสงบ ไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย ของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำลัง อส.
                                                 


                                                                  ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารพร้อมรองผู้ว่าฯ รับมอบดอกไม้จากกลุ่มมวลชนที่เข้าให้กำลังใจรัฐบาล

วันที่ ( ๙ ธ.ค.๕๖ ) เวลา ๑๐.๓๐ น. กลุ่มพลังมวลชนเครือข่ายสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและมวลชนคนเสื้อแดง จังหวัดมุกดาหาร กว่า ๒๐๐ คน เดินทางเข้ามอบดอกไม้ผ่าน นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อสนับสนุนรัฐบาลจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยรวมทั้งให้กำลังใจแก่ข้าราชการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้มารับมอบดอกไม้และรับฟังการแถลงเจตนารมณ์ของกลุ่มมวลชนที่หน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร หลังจากนั้นกลุ่มมวลชนได้แยกย้ายสลายตัวในเวลา ๑๑.๐๐ น.



แสงทอง อนันตภักดิ์ ส.ปชส.มห/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ประจำปี ๒๕๕๖

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารได้รับแจ้งจากสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดมุกดาหาร แห่งที่ ๑ (วัดบรรพตมโนรมย์) คณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจังหวัดมุกดาหาร จัดงานอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๘๖ พรรษา จะมีพระภิกษุ สามเณร พร้อมด้วยอุบาสก อุบาสิกา ภายในจังหวัดมุกดาหาร ประมาณ ๕๐๐ รูป/คน เข้าร่วมอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ณ วัดบรรพตมโนรมย์ ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร เชิญชวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจังหวัดมุกดาหาร ร่วมบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร และร่วมเป็นเจ้าภาพถวายอุปถัมภ์ด้านภัตตาหารแด่พระภิกษุ สามเณร และผู้เข้ารับการอบรมวิปัสสนากรรมฐานอย่างทั่วถึงกัน ณ วัดบรรพตมโนรมย์ ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ ๓-๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๖



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มห./ข่าว

กลุ่มคนรักชาติมหาสารคาม เป่านกหวีดแสดงพลังขับไล่รัฐบาลรักษาการณ์

กลุ่มคนรักชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมเครือข่ายนักศึกษามหาสารคามรักชาติปกป้องสถาบัน รวมตัวกันโบกธงชาติ เป่านกหวีด และอ่านแถลงการณ์ขับไล่รัฐบาลรักษาการณ์ แม้นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาแล้วก็ตาม

( 9-12-56 ) บรรยากาศที่จังหวัดมหาสารคาม หลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ประกาศยุบสภา พร้อมขอให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านนั้น เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. ที่หน้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครู มหาสารคาม จำกัด กลุ่มคนรักชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมเครือข่ายนักศึกษามหาสารคามรักชาติปกป้องสถาบัน กว่า 200 ต่างใช้เวลาหลังเลิกงานและเลิกเรียน ออกมาเคลื่อนไหวแสดงจุดยืน ไม่เอารัฐบาลรักษาการณ์ พร้อมเป่านกหวีด โบกธงชาติไทย

โดยนายดอน ธนพล ผู้แทนกลุ่มผู้ชุมนุม ได้อ่านแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องขับไล่รัฐบาลรักษาการณ์ เนื่องจากแม้จะมีการประกาศยุบสภาแล้วก็ตาม แต่หากยังให้รัฐบาลชุดเดิมมารักษาการณ์ ก็ไม่สามารถสร้างความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นได้

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ให้เหตุผลในการออกมาเคลื่อนไหว ครั้งนี้ เพียงต้องการออกมา แสดงจุดยืน และแสดงพลังประชาชนในการไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของรัฐบาลดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม แถลงข่าวเตรียมจัดแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์แห่งประเทศไทย

จังหวัดมหาสารคาม แถลงข่าวเตรียมจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ยูโร่เค้ก ไทยแลนด์ บีช วอลเลย์บอล 2013 ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 17-24 ธ.ค. 2556 ณ สนามวอลเลย์บอลชายหาดโรงเรียนบรบือวิทยาคาร อำเภอบรบือ

( 9-12-56 ) ที่หอประชุมโรงเรียนบรบือวิทยาคาร อำเภอบรบือ จังหวัดมาสารคาม นายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนายวิษณุ บูรณะกิจภิญโญ นายอำเภอบรบือ , นายมนูญชัย ทัพเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบรบือวิทยาคาร , รองผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอบรบือ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอบรบือ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันเปิดการแถลงข่าวความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด "ยูโร่เค้ก ไทยแลนด์ บีช วอลเลย์บอล 2013” ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จังหวัดมหาสารคาม และโรงเรียนบรบือวิทยาคาร จัดขึ้น เพื่อสนับสนุนและเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เป็นการปลูกฝังความสามัคคี มีระเบียบวินัย และมีน้ำใจนักกีฬา โดยจังหวัดมหาสารคาม มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านสถานที่การจัดแข่งขัน ด้านความปลอดภัยและการจัดการจราจร ด้านสุขภาพอนามัยและความสะอาดของอาหาร

นายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ขอให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอบรบือ และจังหวัดมหาสารคามทุกคน ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ช่วยกันดูแลและให้ความเป็นกันเองต่อนักกีฬาและผู้มาชมมาเชียร์ทุกคน

สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งนี้ มีตัวแทนซึ่งคัดแชมป์มาจาก 5 ภาค คือ ภาคกลาง เหนือ ใต้ ตะวันออก และภาคอีสาน รวม 96 ทีม แบ่งเป็น 8 ประเภท ชาย-หญิง รวม 4 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี, 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี โดยจะจัดแข่งขันในระหว่างวันที่ 17 – 24 ธันวาคม 2556 ที่สนามวอลเลย์บอลชายหาด โรงเรียนบรบือวิทยาคาร อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
                                                         


                                                      ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

โรงเรียนสารคามพิทยาคม เตรียมจัดงานฉลอง100ปี 28 ธ.ค.นี้

 
โรงเรียนสารคามพิทยาคม กำหนดจัดกิจกรรมคืนสู่เหย้าเฉลิมฉลองครบรอบ100ปี ในวันเสาร์ที่28ธันวาคม 2556 นี้ เพื่อหารายได้สมทบทุนในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน พร้อมสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดองในหมู่คณะชาว เหลือง-น้ำเงิน

นายอดิศักดิ์ มุ่งชู ผู้อำนวยการโรงเรียนสารคามพิทยาคม กล่าวว่า ด้วยในวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 เป็นวันครบรอบ 100 ปี ของโรงเรียนสารคามพิทยาคม ในปีการศึกษา2556 ทางโรงเรียนจึงได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่หลากหลายตลอดปีเรื่อยมา และมีกำหนดที่จะจัดงานคืนสู่เหย้า เพื่อเป็นการจัดหาทุนในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน สร้างความสามัคคี และพบปะสังสรรค์ในหมู่คณะ ชาวเหลือง-น้ำเงิน ในวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2556ณ โรงเรียนสารคามพิทยาคม โดยมีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 09.00-11.00น. พิธีมอบโล่เกียรติคุณแก่ศิษย์เก่าดีเด่น เวลา 12.00-15.00 น. พิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษา และเวลา 18.00น.เป็นต้นไป เป็นการจัดงานคืนสู่เหย้าชาวเหลือง-น้ำเงิน

ผู้อำนวยการโรงเรียนสารคามพิทยาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับศิษย์เก่า หรือศิษย์ปัจจุบัน ที่มีความประสงค์จะร่วมอนุโมทนาบุญ และร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ คืนสู่เหย้าชาวเหลือง-น้ำเงิน สามารถนำส่งเงินทางธนาณัติ โดยสั่งจ่ายในนาม นายสุพจน์ พลหาญ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน โทรศัพท์หมายเลข 085 7489876 หรือฝากเงินโอนเข้าบัญชี "ผ้าป่า 100ปี โรงเรียนสารคามพิทยาคม” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ (มหาสารคาม) บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 404-583112-7



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ภาคเอกชนมหาสารคาม แจกผ้าห่มและเครื่องบริโภคช่วยผู้ประภัยหนาว

มูลนิธิมหาสารคามการกุศล (จีเสียงเกาะ) ร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภคบริโภค รวม 1,000 ชุด ให้กับประชาชนผู้ประสบภัยหนาวที่อำเภอกุดรัง

( 9-12-56 ) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนายสมเพชร งามศิริจิตต์ ประธานมูลนิธิมหาสารคามการกุศล (จีเสียงเกาะ) นายวุฒิชัย อภิวัฒนกุลชัย หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สมาคมชาวจีน สมาคมชาวจังหวัดมหาสารคาม และภาคเอกชนในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภคบริโภค ได้แก่ น้ำตาล เกลือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และข้าวสารถุงขนาด 4 กิโลกรัม รวมจำนวน 500 ชุด ให้กับประชาชนผู้ประสบภัยหนาว ผู้ด้อยโอกาสและผู้ยากไร้ ในพื้นที่ตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง ทั้ง 19 หมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยหนาว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น

นอกจากนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมูลนิธิมหาสารคามการกุศล (จีเสียงเกาะ) ได้เดินทางไปแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลเลิงแฝก อำเภอกุดรัง อีก 500 ชุดด้วย
                                                             


                                                       ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

จังหวัดมหาสารคามจัดการแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์หน่วยงานราชการ เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2556


นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่าด้วยจังหวัดมหาสาคาม โดยศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดมหาสารคาม กำหนดการแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์หน่วยงานราชการ เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2556 จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเป็นการลำรึกถึงวันสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ทางการกีฬาและเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงชนะเลิศได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค ในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 พ.ศ.2510 และเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยราชการให้มีความสามัคคี มีระเบียบวินัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬาตลอดจนเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ โดยกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 9 -19 ธันวาคม 2556 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล 7 คน เทเบิลเทนนิส ชาย/หญิง เซปักตะกร้อ วอลเลย์บอล ทีมผสม (ชาย3 หญิง3) เปตอง ชายคู่ หญิงคู่ และคู่ผสม โดยเริ่มการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม เป็นต้นไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

พสกนิกรจังหวัดบึงกาฬอัญเชิญเครื่องราชสักการะแห่รอบเมืองพร้อมจุดเทียนชัยถวายพระพร

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬนำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าในจังหวัดบึงกาฬเดินอัญเชิญเครื่องราชสักการะ จากบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบึงกาฬ ไปตามถนนต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลบึงกาฬจากนั้น เวลา 19.09 น.ซึ่งมีพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวามหาราช โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้เปิดกรวยกระทงดอกไม้วางพานพุ่มทอง พุ่มเงินถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ จุดเทียนชัย กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและนำกล่าวถวายพระพรชัยมงคลร่วมร้องเพลง สรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชาไปพร้อมกับประชาชนทั้งประเทศ

โดยมีข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้าและประชาชนทุกสาขาอาชีพ เข้าร่วมในพิธีเพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกันขณะที่ภายในงานพิธีมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิเช่นการฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ผ่านจอหนังใหญ่กว่า 12 จอรอบงาน 

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬนำถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดี

วันนี้ ( 05-12-2556 ) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียนบึงกาฬอนุบาลวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อ.เมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผวจ.บึงกาฬ นำพสกนิกร ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้าประชาน ทุกหมู่เหล่า ร่วมกระทำพิธีวายพระพรชัยมงคล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา5 ธันวามหาราช

จากนั้น ผวจ.บึงกาฬ และคณะฯ ได้ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556ครบ86 พรรษาเพื่อถวายเป็นราชสักการะ ราชสดุดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 โดยมีการกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล คำถวายสัตย์ปฏิญาณ และร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชาและเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน 

ชาวบึงกาฬ ร่วมกันทำบุญตักบาตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนและพสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬ ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 86 รูปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2556 ซึ่งตรงกับวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 86 พรรษา ที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบึงกาฬ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมกันทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์จำนวน 86 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 และร่วมกันน้อมจิตอธิษฐาน ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยพิธีทำบุญตักบาตรครั้งนี้มีประชาชนเป็นจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตร ซึ่งบางคนก็มาแบบครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เพราะเป็นหยุดราชการ ก็เลยถือโอกาสมาทำบุญกับครอบครัวด้วยเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ

สำหรับการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2556 จังหวัดบึงกาฬ ได้กำหนดจัดกิจกรรม พิธีทำบุญตักบาตร, พิธีถวายพระพรชัยมงคล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน พิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติฯ ส่วนช่วงเย็นเป็นพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งปีนี้จังหวัดบึงกาฬจัดงานวันพ่อแห่งชาติอย่างยิ่งใหญ่

จังหวัดบึงกาฬ จัดงานวันรวมน้ำใจช่วยกาชาด รับบริจาคเงิน สิ่งของ เป็นของรางวัลร้านมัจฉากาชาด ในงานกาชาดจังหวัดบึงกาฬ

เช้าวันที่ ( 4 ธ.ค.56 ) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และ ผศ.วรุณวรรณ ผาโคตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ ร่วมรับมอบเงิน สิ่งของจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ในงานวันรวมน้ำใจช่วยกาชาด เพื่อนำไปเป็นของรางวัลในการออกร้านกาชาดพาโชค ในงานกาชาดจังหวัดบึงกาฬ และงานวันยางพารา ปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกันระหว่างวันที่ 11 - 15 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ การจัดงานดังกล่าวเป็นการจัดงานเพื่อหารายได้เพื่อไว้ใช้ในกิจการสาธารณะประโยชน์ของจังหวัดและเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ โดยเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมออกร้านกาชาดพาโชค ตลอด 5 วัน 5 คืนของการจัดงาน เริ่มเปิดร้านกาชาดพาโชค เพื่อให้ประชาชนได้สนุกสนานลุ้นโชค ตั้งแต่เวลา 09.00 - 24.00 น. ทุกวัน ซึ่งในการจัดงานวันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ปีนี้ ปรากฏว่า มีผู้บริหารจังหวัด ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคอกชน บริษัทห้างร้าน โรงแรม และประชาชนผู้มีจิตศรัทธานำสิ่งของทั้งรถจักรยานยนต์ จักรยาน ตู้เย็น ทีวี พัดลม หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เครื่องใช้ฟ้า ผ้าห่มกันหนาวและสิ่งของอื่นๆอีกมากมาย ด้วยบรรยากาศที่เป็นไปอย่างคึกคัก รวมมูลค่าของบริจาคกว่าล้านบาท

กลุ่มมวลชนคนโคราชต้านคนโกงกว่า 3 พันคน บุกศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา ขับไล่รัฐบาล

เมื่อวันที่ ( 9 ธ.ค. 56 ) เวลา 10.00 น. กลุ่มมวลชนคนโคราชต้านคนโกงกว่า 3,000 คน นำโดยนายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, นายสุนทร จันทร์รังสี ส.ส.ร.ปี 50, นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคอีสาน และ ผศ.ดร.สามารถ จับโจร อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เดินขบวนมาชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยภายในศาลากลางฯ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนอยู่ 2 กองร้อยคอยรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งทางจังหวัดได้มีการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมก่อนจะเปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ศาลากลางอย่างสงบ ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลพร้อมไม่ยอมรับการประกาศยุบสภาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และมีการนำพวงหรีดมาวางไว้อาลัยที่บริเวณหน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายประภาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา และพล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้ามาพบผู้ชุมนุม เพื่อขอให้ผู้ชุมนุม ชุมนุมกันด้วยความสงบ ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไป