ชาวจังหวัดอุบลราชธานี เตรียมจัดงานการสถาปนาจังหวัดอุบลราชธานี 222 ปี โดยมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่

นายพรชัย  โควสุรัตน์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการสถาปนาเป็นเมืองอุบลราชธานี  เมื่อวันจันทร์ แรม 13 ค่ำ เดือน 8 จุลศักราช 1154  ซึ่งจะครบ 222 ปี ในวันที่ 16 กรกฎาคม  2557  ดังนั้น องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานี ร่วมกับประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี กำหนดให้มีการจัดงานสมโภชเฉลิมฉลอง การสถาปนาเมืองอุบลราชธานี 222 ปี  ระหว่างวันที่ 11 – 16 กรกฎาคม  2557  ณ  บริเวณทุ่งศรีเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี  เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดี เชิดชูเกียรติบรรพบุรุษของท้องถิ่น ตลอดจนเผยแพร่เกียรติประวัติและภูมิปัญญาที่บ่งบอกถึงความเป็นปราชญ์ของบรรพบุรุษชาวอุบลราชธานีให้คงอยู่สืบไป

ในขณะนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบการดำเนินงานฝ่ายต่างๆ  เช่น ฝ่ายจัดแสดงนิทรรศการ ฝ่ายจัดทำเพลงและกลอนลำ ฝ่ายทำบุญเมือง  ฝ่ายประชาสัมพันธ์  ฝ่ายปรับปรุงคำขวัญ ชื่อถนน และสถานที่สำคัญ ฝ่ายแสดงดนตรีพื้นเมือง  ฝ่ายประดับตกแต่งเมือง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

กรกช   ภูมี

สวท.อุบลฯสปข.2 รายงาน
3 พ.ค. 57

จังหวัดอุบลราชธานี จัดทำประวัติเมืองอุบล โดยคนอุบล เพื่อคนอุบล สู่หลักสูตรท้องถิ่น ให้เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนของจังหวัดอุบลราชธานี

นางสาวสุมนา  ศรีชลาชัย  ประธานวุฒิอาสาธนาคารสมองจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ  วุฒิอาสาธนาคารสมองจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันจัดโครงการจัดทำประวัติเมืองอุบล โดยคนอุบล เพื่อคนอุบล สู่หลักสูตรท้องถิ่น เป็นโครงการที่เกิดจากความมุ่งมั่นของผู้ทรงคุณวุฒิภายในจังหวัดอุบลราชธานี  ที่ต้องการให้เยาวชนในจังหวัดอุบลราชธานี มีความรัก ความภาคภูมิใจ และศรัทธาในท้องถิ่นของตน  จัดทำเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนของจังหวัดอุบลราชธานี ในสาระการเรียนรู้สังคมและวัฒนธรรม โดยมีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีและมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ร่วมมือกันสร้างหลักสูตรนี้ขึ้นมา

สำหรับแนวทางในการดำเนินงานจัดทำหลักสูตร ใช้วิทยากรแม่ไก่ ซึ่งมาจากการคัดเลือกครูของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษาในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นครูต้นแบบ และจะดำเนินการจัดอบรมพร้อมทั้งระดมความคิดเห็นในการจัดทำหลักสูตร ระหว่างวันที่ 6 – 8 พฤษภาคม 2557 จากนั้นจะทำการประชาคมภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 นี้

กรกช   ภูมี

สวท.อุบลฯ สปข.2 รายงาน
3 พ.ค. 57

หน.พรรคภูมิใจไทย เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส จังหวัดสุรินทร์ พร้อมหาเสียง ชูนโยบายไม่เอาจำนำข้าว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินสายเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จังหวัดสุรินทร์  พร้อมหาเสียงชูนโยบายหลัก เน้น เบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ 3,000 บาท ปลอดหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ไม่เอานโยบายจำนำข้าว เอารับประกันแทน มีประชาชนแห่ร่วมรับฟังนับพันคน

วันนี้ (3 พ.ค. 57) ที่หอประชุมโรงเรียนประสาทวิทยาคาร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางมาหาเสียงและเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร จังหวัดสุรินทร์จำนวนหลายเขต อาทิ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร / ดร.ฟาริดา สุไลมาน / นางปทิตา ตันติรัตนานนท์ นายเจ้าจอม เตียวเจริญโสภา และนายพรชัย มุ่งเจริญพร พร้อมทั้งแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส .พรรคภูมิใจไทย จากหลายจังหวัด โดยมีประชาชนเข้าร่วมนับพันคน

นายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีการขัดแย้งกันอย่างรุนแรง อยากให้พี่น้องเกิดความรักความสามัคคีเหมือนเดิม พร้อมทั้งคาดว่าเร็วๆนี้จะมีการเลือกตั้ง อย่างแน่นอน ทางพรรคภูมิใจไทย จึงได้เร่งวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไว้หลายจังหวัดอย่างเช่นจึงหวัดสุรินทร์ ถือว่าเป็นจังหวัดบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพรรคภูมิใจไทย จึงได้เดินทางมาสถานที่ตรงนี้ พร้อมกับได้รับการตอบรับจากพี่น้องเป็นอย่างดี อีกทั้งได้ชูนโยบายในการหาเสียงครั้งนี้ไว้ 4 นโยบายหลัก อาทิเช่น การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็นเดือนละ 3,000 บาท มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปรับเบี้ย ราคาเดียวกัน ข้อสอง ปลดหนึ้ให้นักเรียนนักศึกษา สำหรับเงินกู้ยืมในการศึกษาเล่าเรียน เพราะถือว่าการศึกษานั้นเป็นพื้นฐานของมนุษย์ ข้อสำคัญ ต้องยกเลิกการจำนำข้าวทุกอย่างที่รัฐบาล มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ให้ไปเข้าโครงการรับประกันราคา เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของจังหวัดสุรินทร์ ในครั้งนี้ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้อ้อนขอคะแนนเสียงจากผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งการันตีคัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนเป็นอย่างดี พร้อมเข้าสู่ขบวนการเลือกตั้งอย่างเต็มที่

อุทัย  มานาดี / รายงาน

รพ.บุรีรัมย์ จัดสร้างพระพุทธรูปวิโรคาบวรไตรรัตนะ ให้พ่อค้านักธุรกิจ และประชาชนบูชาเพื่อตั้งกองทุนช่วยผู้ป่วยโรคหัวใจที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

โรงพยาบาลบุรีรัมย์ จัดสร้างพระพุทธรูปวิ โรคาบวรไตรรัตนะ ให้พ่อค้า นักธุรกิจ และประชาชนบูชา เพื่อนำเงินไปจัดตั้งกองทุนซื้ อเครื่องมือแพทย์ และช่วยเหลือผู้ป่วยที่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการรั กษาโรคหัวใจ หลังพบสถิติผู้ป่วยโรคหั วใจสะสมมากกว่า 1 หมื่นคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

( 3 พ.ค.57)  เวลา 08.39 น. นายไชยวัฒน์    พันธ์นรา    รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรั มย์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  พร้อมพระราชปริยัติกวีเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ และพระราชปัญญาวิสารัก อดีตเจ้าคณะจังหวัด  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการประกอบพิธเททองหล่อนำฤกษ์ พระพุทธรูปโรคาบวรไตรรัตนะ  ณ บริเวณโดม 60 ปี โรงพยาบาลบุรีรัมย์    ก่อนจะทำพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดกลางพระอารามหลวง ในวันที่ 7 กันยายน 2557 ซึ่งคาดว่าการจัดสร้างพระพุทธรู ปวิโรคาบวรไตรรัตนะในครั้งนี้  จะมีพ่อค้า นักธุรกิจ และประชาชนร่วมบูชาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากสถิติพบว่าจ.บุรีรัมย์มี ผู้ป่วยโรคหัวใจทั้งรายเก่า รายใหม่สะสมอยู่กว่า 10,000 คน ส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับโรคหั วใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย  และหัวใจวาย ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่ างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นกลุ่ มเด็ก หรือผู้สูงอายุ ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลยั งประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องมื อทางการแพทย์   ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค  และศูนย์รักษาโรคหัวใจ จึงต้องส่งผู้ป่วยไปรักษาต่อยั งโรงพยาบาลขอนแก่น หรือกรุงเทพมหานคร ที่มีความพร้อมมากกว่า แต่เชื่อว่าหลังจากที่มีการก่ อสร้างอาคารโรคหัวใจแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ได้รั บงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุ ขแล้ว 430 ล้านบาทเพื่อดำเนินการก่อสร้าง รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค และเครื่องมือในการรักษาที่พร้ อม ก็จะสามารถรักษาผู้ป่วยโรคหั วใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่ งใหญ่ คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิ น 3 ปี

นายแพทย์จรัญ   ทองทับ   ผอ.โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ยังได้แนะนำวิธีดูแลป้องกั นตนเองจากโรคหัวใจด้วยว่า จะต้องดูแลตั้งแต่เริ่มตั้ งครรภ์ โดยการไปตรวจครรภ์และฉีดวัคซี นตามที่แพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอัตราเสี่ยงในเด็กที่ จะป่วยเป็นโรคหัวใจ ส่วนในกลุ่มผู้สูงอายุก็ควรจะมี การดูแลสุขภาพ  ควบคุมน้ำหนัก โดยการหลีกเลี่ยงรั บประทานอาหารที่มีรสเค็ม หวาน  มันจัด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ที่สำคัญไม่ควรเครียดจนเกินไป หากปฏิบัติได้เชื่อว่ าจะสามารถลดอัตราเสี่ยงจากการป่ วยโรคหัวใจได้

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

ลมฟ้าอากาศ วันที่ 3 พฤษภาคม 2557

ลม ฟ้า อากาศ วันที่ 3 พฤษภาคม 2557  สภาวะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา  04.00 น. วันนี้ : ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้  และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย  ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง วันที่ 5-6 พฤษภาคม 2557 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
- ลม ฟ้า อากาศ : บริเวณ จ.มุกดาหาร ท้องฟ้ามีเฆมบางส่วนโดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆประมาณ 30% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ช่วงเช้าอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ  24-26 องศาเซลเซียส  ช่วงบ่ายอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 33-36 องศาเซลเซียส  
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
คาดว่า อุณหภูมิสูงสุดบ่ายวันนี้ ประมาณ 35 องศาเซลเซียส 
คาดว่า อุณหภูมิต่ำสุดเช้าพรุ่งนี้ ประมาณ 25 องศาเซลเซียส
พระอาทิตย์ขึ้นเช้าพรุ่งนี้ 05:34 น.
พระอาทิตย์ตกเย็นวันนี้ 18:22 น.
อุณหภูมิสูงสุดวานนี้ 34.2°C
อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ 24.2°C
ฝน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ที่ สถานีอุตุนิยมวิทยามุกดาหาร วัดได้ 8.7 มิลลิเมตร.
ฝนรวมตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน 820.2 มิลลิเมตร เฉลี่ย 102.5 มิลลิเมตร

เตือนประชาชนระวังพายุฝนฟ้าคะนองในระยะ 4-5 วันนี้

นาย คุมพล   บรรเทาทุกข์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  ได้ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา  คาดว่าในช่วงนี้ลมตะวันออกเฉียงใต้  พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย  ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน  มีฝนฟ้าคะนอง  ลมกระโชกแรง  และอาจมีลูกเห็บตกเกิดขึ้นในพื้นที่ได้บางพื้นที่ในระยะ 4-5 วันนี้  เพื่อ(3-7 พ.ค.57) เป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัยอันเกิดจากพายุลมแรง ที่จะเกิดขึ้น  ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินบ้านเรือนของประชาชน  รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร  ตรวจสอบป้ายโฆษณา  สิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง  ตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่   อำเภอทุกอำเภอจัดเจ้าหน้าอยู่ปฎิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมรับสถานการณ์   ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในช่วง วันที่ 3-7  พฤษภาคมนี้  และเฝ้าติดตามรายงานสถานการณ์เพื่อเตรียมรับสถานการณ์อุบัติภัยที่อาจเกิด ขึ้นต่อไป