สำนักงานธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 ขอนแก่น
ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างดินตรวจพิสูจน์
หลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าวพบดินปะทุไฟลุกที่บึงชวน
ชี้ไฟที่เกิดขึ้นเกิดจากเศษวัชพืชที่ขุดลอกจากบึงมาทับถมเกิดสันดาบ โดยมี 3
ปัจจัยสนับสนุน คือ ตัวติดไฟ ออกซิเจน และความร้อน
ไฟที่เกิดมีอันตรายเล็กน้อยเนื่องจากกลิ่นกำมะถันที่เกิดจากการเผาไหม้ส่งกลิ่นขึ้นมา
นายวีรวัฒน์ ธิติสวรรรค์ ผู้อำนวยการส่วนธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม
สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 ขอนแก่น
ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างดินที่เกิดไฟปะทุลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณบึงชวน
หลังสื่อมวลชนเสนอข่าวเกรงสร้างความแตกตื่น
โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุดรธานี
และนายอำนวย อินทรธิราช
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่เจ้าของพื้นที่และชาวบ้านในละแวกดังกล่าว
และสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์และทำข่าว
นายสุริยัน กิติอาสา ราษฎรบ้านนาบัว ( 113 หมู่ 6 บ้านนาบัว
ตำบลบ้านขาว อำเภอเมือง) ผู้พบเห็นไฟปะทุลุกไหม้ที่บริเวณริมบึงชวนคนแรก
เล่าว่า
ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมาขณะที่ตนมาจับปลาโดยมีสุนัขตาม
มาด้วย
สนุขได้วิ่งจับหนูหายไปตนจึงไปตามหาเห็นสุนัขวิ่งไปมาและมีไฟลุกไหม้อยู่
มองไปรอบๆก็ไม่เห็นมีใคร ตนจึงนำน้ำมาดับแต่ไฟก็ไม่ดับ
เกรงว่าจะทำให้เกิดไฟไหม้จึงไปบอกจั้ม (
หมอทรงหมอธรรมประจำหมู่บ้าน)ให้ทราบ
พอชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่พากันมาดูเป็นจำนวนมาก บางคนนำธูปเทียนมากราบไหว้
เพราะคิดว่าเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์
ในขณะวันนี้บริเวณที่เกิดไฟปะทุลดน้อยลงเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อ
คืนที่ผ่านมา
และในการเก็บตัวอย่างดินของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 ขอนแก่น
ได้ทำการเจาะดินลึกลงไปประมาณ 2.5 เมตร
เพื่อนำตัวอย่างดินแต่ละชั้นไปวิเคราะห์โดยจะส่งไปตรวจที่กรุงเทพ
นายวีรวัฒน์ ธิติสวรรรค์ ผู้อำนวยการส่วนธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม
สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 ขอนแก่น กล่วว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น
ดินดังกล่าวถือเป็นชนิดเดียวกันกับดินป่าพลุ
ที่มีส่วนผสมของซากพืชซากสัตว์มานาน
ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้จากใต้ดินได้นั่น น่าจะเกิดจาก3 ปัจจัย
คือมีตัวติดไฟ ออกซิเจนและความร้อน พร้อมยืนยันว่าไฟที่เกิดไม่เป็นอันตราย
การเผาไหม้พบว่ามีกำมะถันขึ้นมานิดหน่อย
ประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจเป็นการเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
นายอำนวย อินทรธิราช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่
เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไปตนเองได้รายงานให้นายอำเภอ
กรมทรัพยากรธรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อรายงานผลทราบความคืบหน้า
ส่วนพื้นที่บริเวณนี้ก็จะบ่อยไว้เพราะไม่มีอันตรายกับชาวบ้าน ในขณะที่
อบต.จะดูแลอยู่ห่างๆ
ในขณะที่ประชาชนที่ทราบข่าวทยอยเดินทางมาดูว่าไหม้อย่างไร
ความร้อนเป็นอย่างไร ดินทรุดเป็นอย่างไร ซึ่งปัจจุบันดินทรุดลงเยาะ
และมีชาวบ้านเข้ามาดูเยาะมากเพราะถือว่าเป็นเรื่องแปลก
แต่ก็ไม่อยากให้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดินบริเวณที่เกิดไฟปะทุ
เป็นดินที่ขุดลอกบึงชวนเพื่อทำคูน้ำเมื่อปี 2544
ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินมาทำการขุดลอกไว้ ผ่านมากว่า 10 ปี
ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ นี้เป็นครั้งแรก
ซึ่งตนเองคิดว่าการทับถมของซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันมาเป็นระยะเวลานานทำ
ให้ร้อนระอุขึ้นมาในครั้งนี้
ในขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะมีการพัฒนาให้บึงชวน
เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานี นั้น นายอำนวย อินทรธิราช
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่
ได้รับงบประมาณจากรัฐบาล 235 ล้านบาท ในปี 2557-2558 เพื่อขุดลอกบึงชวน
เกือบ100 % เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นแก้มลิงของอุดรธานีด้วย
ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ