วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ตำบลแคน รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

วันนี้ 6 มิ.ย. 57 เวลา 10.00 น.  โรงพยาบาลสนม ร่วมกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแคน ออกหน่วยให้บริการแก่ประชาชนชาวตำบลแคน เพื่อรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ที่ รพ.สต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์

กลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ได้แก่

- ผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุที่มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย มะเร็ง เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคธารัสซีเมีย ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV)

- ผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้นไป (ไม่มีโรคเรื้อรัง)

- บุคลากรที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค (ไม่มีโรคเรื้อรัง)

- หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป

- บุคคลน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม

- ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตนเองไม่ได้

- บุคคลอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี




ข่าวโดย.. เว็บสนม - webSanom
http://www.websanom.com

สนมขานรับ คสช. ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม

วันนี้ 6 มิ.ย. 57  เวลา 09.00 น. ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอสนม พันตำรวจเอก ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสนม เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในเขตพื้นที่อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เฉพาะที่ 24/2557 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เรื่องห้ามให้มีการพนันผิดกฏหมาย โดยสรุปคือ สั่งให้ทุกพื้นที่ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธสงคราม อบายมุขต่างๆ รวมถึงการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้เกิดความสงบสุขกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการสนองนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนั้น อำเภอสนมจึงได้บูรณาการ โดยสนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร พลเรือน และอาสาสมัครต่างๆ เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธสงคราม และอบายมุขต่างๆ ในพื้นที่อำเภอสนม อย่างเร่งด่วน และเด็ดขาด แสดงพลังให้เหล่าอาชญากร เกรงกลัวต่อการกระทำผิดกฏหมายต่อไป

สำหรับในช่วงนี้ในเขตพื้นที่อำเภอสนม ได้มีการขออนุญาต จุดบั้งไฟเพื่อแข่งขันตามประเพณีขึ้น กรณีดังกล่าว อาจมีการลักลอบเล่นการพนันได้ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีนโยบายเน้นย้ำให้กวดขันจับกุมอบายมุข การพนัน อาวุธสงคราม ยาเสพติด ไม้พะยูง เป็นลำดับต้นๆ ตามนโยบาย ต่อไป




ข่าวโดย.. เว็บสนม - webSanom
http://www.websanom.com

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กำหนดวันรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล ปี ๒๕๕๗

นายพงษ์วิทย์  วัชรกิตติ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กำหนดวันรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล ปี ๒๕๕๗ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ๔ กลุ่ม คือ ทุกกลุ่มอายุที่มีโรคเรื้อรังสำคัญ ๗ โรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รับยาเคมีบำบัด เบาหวาน และผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า ๖๕ ปี ขึ้นไป เด็กอายุ ๖ เดือนถึง ๒ ปี หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า ๔ เดือนขึ้นไป

ทั้งนี้ โรงพยาบาลมุกดาหาร ขอให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่กล่าว มารับบริการฟรี ในวัน เวลาราชการที่อาคารศูนย์สุขภาพและแผนไทย โรงพยาบาลมุกดาหาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โทร. ๐ ๔๒๖๑ ๑๒๘๕ ต่อ ๑๒๗๙



สุภาวดี  อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว 

การปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

นายสกลสฤษฏ์  บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้มีคำสั่ง เรื่องการปราบปรามและการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด และให้ดำเนินการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในเขตจังหวัดมุกดาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมโดยรวม จึงขอให้จังหวัดมุกดาหารดำเนินการเร่งรัดหน่วยงานรับผิดชอบ และจัดชุดปฏิบัติการที่ประกอบด้วยกำลังผสมเฉพาะกิจ ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดผู้สมคบและสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ได้ผลอย่างจริงจัง รวมทั้งเครือข่ายยาเสพติดในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน และใช้มาตรการตรวจสอบเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเข้มข้น  ส่วนอำเภอที่อยู่ติดชายแดน ให้สกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตลอดแนวชายแดน ให้ควบคุมตรวจสอบการจัดระเบียบสังคม สถานบริการ สถานประกอบการ หอพัก อาคารชุดเกสต์เฮ้าส์ โรงแรม ร้านเกมส์/อินเตอร์เน็ต โต๊ะสนุกเกอร์ โรงงานและสถานประกอบการอื่นๆ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายและไม่ให้มีการปล่อยปะละเลยให้สถานประกอบการดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย ทั้งเรื่องยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากปรากฏการกระทำผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด กับผู้กระทำผิด เจ้าของสถานที่หรือผู้ประกอบการ เร่งรัดนำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาโดยทันทีทุกราย รวมทั้งมาตรการติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัด ทั้งด้านการศึกษาและฝึกอาชีพ เพื่อให้สามารกกลับมาดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ทั้งนี้ให้แสวงหาความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการและภาคประชาชน ให้เข้มงวด ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท ทั้งข้าราชการ/ลูกจ้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้า ผู้เสพ หรือผู้สนับสนุน หากตรวจพบให้ดำเนินคดีอาญา และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยโดยทันที และกวดขันมิให้เด็ก เยาวชน วัยรุ่น จับกลุ่มสร้างความวุ่นวายในสถานที่สาธารณะ โดยเฉพาะการใช้ถนนหลวงแข่งขันรถจักรยานยนต์ การขับรถย้อนศร



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดมุกดาหาร จัดโครงการประกวดการออกแบบสัญลักษณ์โชว์ห่วย (Chohoey Mascot Contest)

นางสาวพรพรรณี ปิ่นโภคินทร์ รักษาการในตำแหน่งพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ได้จัด โครงการประกวดการออกแบบสัญลักษณ์โชว์ห่วย ( Chohoey Mascot Contest) เพื่อให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของร้านโชว์ห่วยที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน

สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดมุกดาหาร จึงขอเชิญชวนน้องๆ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และนักศึกษาระดับประโยควิชาชีพ (ปวช.) ในเขตจังหวัดมุกดาหาร ประลองความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลงานการออกแบบ MASCOT เข้าประกวด ชิงทุนการศึกษา โล่รางวัล และของรางวัล รวมมูลค่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท โดยสามารถส่งผลงาน ตั้งแต่บัดนี้-วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ณ สถาบันนวัตกรรมและธุรกิจการค้าเสรี อาคาร ๓ ชั้น ๕ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตพัฒนาการ ๑๗๖๑ ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวงกรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.dbd.go.th หรือที่ www.kbu.ac.th หรือโทรสอบถามได้ที่ ส่วนธุรกิจการค้า สำนักส่งเสริมพัฒนาธุรกิจกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น ๑๑ โทร.๐๒ ๕๔๗ ๕๙๘๖ โทรสาร ๐๒ ๕๔๗ ๕๙๕๗ อีเมล์ tradebusiness@dbd.go.th



สุภาวดี  อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดมุกดาหาร มีความประสงค์จะซื้อที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน

นางทิพวรรณ ตังตระกูล นักวิชาการปฏิรูปที่ดินชำนาญการพิเศษ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดมุกดาหาร มีความประสงค์จะซื้อที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อนำมาดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรเข้าทำประโยชน์โดยวิธีการปฏิรูปที่ดิน ผู้มีสิทธิยื่นคำเสนอขายที่ดินต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งมีหนังสือแสดงสิทธิในดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน โฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง น.ส.๓ น.ส.๓ก และ น.ส.๓ข อยู่ในเขตท้องที่จังหวัดมุกดาหาร

กำหนดให้ยื่นคำเสนอขาย ตั้งแต่วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมุกดาหาร เลขที่ ๑๘๖ ถนนเมืองใหม่-คำชะอี ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ผู้สนใจติดต่อขอทราบรายละเอียดและขอรับคำเสนอขายได้ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ ๐ ๔๒๖๑ ๓๐๓๓ ในวันและเวลาราชการ



สุภาวดี  อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ยโสธรประชุมสร้างความปองดอง

ยโสธรเดินหน้าสร้างปรองดองในรูปแบบ Yasothon Model ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานประชุมเดินหน้าสร้างความปรองดองสมานฉันท์กับประชาชน โดยมี ทหาร ตำรวจ นายอำเภอทั้ง 9 อำเภอ และ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า การเดินหน้าสร้างความปรองดองกับประชาชนในจังหวัดยโสธรนั้นใช้รูปแบบYasothon Model คืนความสุขสู่คนเมืองยศ โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันจัดทำ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือระยะเร่งด่วนตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือน กรกฎาคม 2557 ให้ออกบริการช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบอำเภอยิ้มสร้างความเข้าใจมั่นใจให้กับประชาชน นำหน่วยงานราชการออกบริการพี่น้องประชาชน ส่วนระยะที่ 2 คือระยะยาวเป็นการสร้างความเป็นอยู่ให้กับประชาชนให้ดีขึ้นด้วยการสร้างอาชีพสร้างรายได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชน "กินอิ่ม นอนอุ่น มีเงินออม” นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

อำเภอกุดชุมมอบสิ่งของอุปโภค

วันนี้ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายสมศักดิ์ บุญทำนุก นายอำเภอกุดชุม พร้อมผู้แทน ปภ.จังหวัดยโสธรและนายจตุรงค์ ชื่นตา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหมี เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้กับราษฎรที่ประสพวาตะภัย จำนวน ๑๑ ราย ใน ๓ หมู่บ้านมี บ้านหนองก้าว-บ้านหนองแคน -บ้านคำน้อย ของตำบลหนองหมี เป็นการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นของหน่วยงานราชการที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนสร้างความยินดีให้เกิดขึ้นกับพี่น้องผู้ประสพวาตะภัยเป็นอย่างยิ่ง



พลากร แก้วขวัญข้า อปม.กุดชุม รายงาน

จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 เพื่อเชิดชูเกียรติชาวนาไทย ใจกลางทุ่งกุลาร้องไห้

วันนี้ (5 มิ.ย. 57) เวลา 10.30 น. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ณ บ้านดงครั่งใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลดงครั่งใหญ่ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และชาวนาในพื้นที่ใกล้เคียงร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของชาวนาไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารหลัก ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบและให้เห็นความสำคัญของข้าวและชาวนาไทย อันจะก่อให้เกิดการสืบทอดการทำนาในอนาคต โดยจัดให้มีการจัดนิทรรศการด้านข้าว และเทคโนโลยีการผลิตข้าวจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชน การประกวดภูมิปัญญาเกี่ยวกับการหุ่นไล่กา การสาธิตการไถนา การหว่านข้าว รวมทั้งรวบรวมภูมิปัญญาในพื้นที่ที่เกี่ยวกับการทำนา เช่น การจัดแสดงอุปกรณ์การทำนา ตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก ดูแลรักษา จนถึงการแปรรูป และการมอบเงินแก่เกษตรกรโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/2557



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 5 มิ.ย.57

จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 เพื่อเชิดชูเกียรติชาวนาไทย ใจกลางทุ่งกุลาร้องไห้

วันนี้ (5 มิ.ย. 57) เวลา 10.30 น. นายสมศักดิ์  จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ณ บ้านดงครั่งใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลดงครั่งใหญ่ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และชาวนาในพื้นที่ใกล้เคียงร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของชาวนาไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารหลัก ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบและให้เห็นความสำคัญของข้าวและชาวนาไทย อันจะก่อให้เกิดการสืบทอดการทำนาในอนาคต โดยจัดให้มีการจัดนิทรรศการด้านข้าว และเทคโนโลยีการผลิตข้าวจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชน การประกวดภูมิปัญญาเกี่ยวกับการหุ่นไล่กา การสาธิตการไถนา การหว่านข้าว รวมทั้งรวบรวมภูมิปัญญาในพื้นที่ที่เกี่ยวกับการทำนา เช่น การจัดแสดงอุปกรณ์การทำนา ตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก ดูแลรักษา จนถึงการแปรรูป และการมอบเงินแก่เกษตรกรโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/2557



วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
กนกอร  สัตยามะระ/พิมพ์
5 มิ.ย. 57 

ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดร้อยเอ็ด แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รายสำคัญ

วันนี้ (5 มิ.ย. 57) เวลา 15.00 น. ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดร้อยเอ็ด โดยนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พล.ต.นคร สุขประเสริฐ ผบ.จทบ.ร้อยเอ็ด ผอ.กกล.รส.จว.ร้อยเอ็ด พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ. 4 รรท.ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.สิงห์ทอง พลลา รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.ประวิทย์ โทหา พงส.ผนพ.ฯ หส.ชปส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาบ้ารายสำคัญ ผู้ต้องหา 9 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2,595 เม็ด ไอซ์ 5.2 กรัม ปืนพกสั้น 5 กระบอก กระสุน 70 นัด และการตรวจยึดทรัพย์สินไว้ดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ.2534 เป็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน เงินสด 36,000 บาท

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจับกุมเครือข่ายยาบ้ารายสำคัญดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใต้ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งได้ดำเนินการตามนโยบายของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง เด็ดขาด เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 รรท.ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ได้มีการขยายผลและการล่อซื้อ ซึ่งผู้ต้องหามีอาวุธปืนพร้อมที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่แต่การจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกุมแบบประชิดตัวจึงไม่มีการยิงต่อสู้กันแต่อย่างใด

พล.ต.นคร สุขประเสริฐ ผบ.จทบ.ร้อยเอ็ด ผอ.กกล.รส.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า กกล.รส.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมที่จะร่วมมือกับฝ่ายปกครอง และตำรวจ โดยจะเพ่งเล็งเป็นพิเศษในเรื่อง ยาเสพติด บ่อนการพนัน ผู้มีอิทธิพล อาวุธสงคราม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและคืนความสุขให้กับประชาชน




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 5 มิ.ย. 57

งาน OTOP ร้อยเอ็ดฮีตประเพณีบุญบั้งไฟ จากผู้ประกอบการทุกภูมิภาค คาดงานสะพัดหลายล้านบาท

จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด จัดงาน ถนนคนเดิน ลานเรียนรู้วัฒนธรรม ฮีตประเพณีบุญบั้งไฟ  สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผลิตภัณฑ์ OTOPและวัฒนธรรมอีสาน บริเวณถนนรัชชูปการ ข้างโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2557 นายสมศักดิ์  จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  เปิดงานถนนคนเดิน ลานเรียนรู้วัฒนธรรม จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2557 ครั้งที่ 2 "ฮีตประเพณีบุญบั้งไฟ ณ บริเวณถนนรัชชูปการ ข้างโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด  นางสาวสุณี สุทธิวานิช พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชน  สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผลิตภัณฑ์ OTOP  สนับสนุนและพัฒนาให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ได้ฝึกทักษะการบริหารจัดการและการตลาด  ส่งเสริมละเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้าน หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดเพิ่มรายได้ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาปรับปรุงศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า OTOPจังหวัดร้อยเอ็ด (101 OTOP CENTER)

สินค้า OTOP ครั้งนี้ มีจำนวน 138 บูธ จังหวัดร้อยเอ็ด 31 บูธ ภาคใต้ 15 บูธ ภาคเหนือ 18 บูธ และภาคกลาง 20 บูธ และจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 44 บูธ และยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (นาทีทอง)    การแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน จาก โรงเรียนบ้านแดงโนนสว่าง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด  สืบสานประเพณีฮีตสิบสอง คองสิบสี่ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน และ ขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียง ร่วม ชม ชิม ช้อป จนถึงภายในวันที่ 7 มิถุนายน 2557




คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 043-527117

ร้อยเอ็ด จัดงานวันคืนความสุขให้กับประชาชน หวังสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยเร็ว

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2557   นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย  พล.ต.นคร สุขประเสริฐ  ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ดและผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด  เปิดงานคืนความสุขให้กับประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ครั้งที่ 1 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด บึงพลาญชัย   อ.เมือง  จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พระพุทธิสารมุนี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  มีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา  ผู้นำท้องที่  ท้องถิ่น  นักเรียนนักศึกษา ทุกภาคส่วน และสื่อมวลชนร้อยเอ็ดร่วมงานมากมาย   เปิดงานด้วย การแสดงสัมโมนียคาถาพร้อมรับพรคืนความสุข  โดยพระพุทธิสารมุนี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด

พันเอก กฤษดา นิยมวิทย์  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดงานวันคืนความสุขให้ชาวร้อยเอ็ดเพื่อสร้างความปรองดองและสมานฉันท์   เป็นการเสริมสร้าง ความรัก ความสามัคคี ความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าในจังหวัดร้อยเอ็ด  ส่งเสริมให้ประชาชนได้มีบทบาทสำคัญในทุกๆด้านทุกระดับ เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาไปสู่ความมั่นคงให้เกิดขึ้น ภายในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดอย่างรวดเร็ว แบบบูรณาการทุกภาคส่วน เป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขอย่างยั่งยืน ตลอดทั้งมีการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง

นายสมศักดิ์  จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดและผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด  กล่าวว่า   ประเทศไทยเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2475 ประเทศของเรามีความอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีความรัก ความเอื้ออาทรเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ประชาชนอยู่กันอย่างสงบสุข แต่ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่หยั่งรากลึก สังคมแตกแยก ขาดความสามัคคี เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ประชาชนอยู่อย่างหวาดผวาไม่มีความปลอดภัยในทรัพย์สิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวม คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)จึงได้เข้ามาดูแลเพื่อคืนความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศ ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นว่าเป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ขอให้ทุกท่านได้ร่วมกันสร้างสรรค์ประเทศ หันหน้าเข้ามาร่วมกัน สร้างความปรองดอง ขจัดความขัดแย้ง เป็นพี่น้องกัน ไม่เข้าร่วมสนับสนุนการชุมนุมหรือต่อต้านกิจกรรมของ คสช. เพื่อให้พี่น้องของเราได้รับความสุขกลับคืนมา

หลังจากนั้น ได้อัญเชิญธงชาติไทยและร่วมกันปักธงชาติเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียว  อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเพื่อแสดงความจงรักภักดี ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และรับชมศิลปินอีสานชื่อดัง  มนต์แคน แก่นคูณ  มีมิตรรักแฟนเพลงร่วมรับชมคับคั่ง



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด   043-527117

จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานถนนคนเดิน ลานเรียนรู้วัฒนธรรม จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2557 ครั้งที่ 2 “ฮีตประเพณี บุญบั้งไฟ”

ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด รายงานว่า วานนี้ (4 มิ.ย. 57) เวลา 19.00 น. นายสมศักดิ์  จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิดงานถนนคนเดิน ลานเรียนรู้วัฒนธรรม จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2557 ครั้งที่ 2 "ฮีตประเพณีบุญบั้งไฟ” ณ บริเวณถนนรัชชูปการ (ข้างโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด) อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อสนับสนุนและพัฒนาให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ได้เรียนรู้ทักษะการบริหารจัดการและการตลาด เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนช่องทางการตลาด เพิ่มรายได้ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP รายได้จากการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาปรับปรุงศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดร้อยเอ็ด (101 OTOP CENTER)

ทั้งนี้ ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้า OTOP จำนวน 138 บูธ จังหวัดร้อยเอ็ด 31 บูธ ภาคใต้ 15 บูธ ภาคเหนือ 18 บูธ และภาคกลาง 20 บูธ และจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 44 บูธ และยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (นาทีทอง) และการแสดงการละเล่นพื้นบ้าน สืบสานประเพณีฮีตสิบสอง คองสิบสี่ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน ซึ่งการจัดงานจะมีไปจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2557




วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
กนกอร  สัตยามะระ/พิมพ์
5 มิ.ย. 57

จังหวัดศรีสะเกษ จัดงานกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ส่งเสริม และ กระตุ้นการออม ปลูกฝัง เด็กให้รู้จักการมีวินัยในตนเอง และครอบครัว

จังหวัดศรีสะเกษ จัดงานกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ส่งเสริม และ กระตุ้นการออม ปลูกฝัง เด็กให้รู้จักการมีวินัยในตนเอง และครอบครัว

นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งมาว่า เนื่องในวันที่ 7 มิถุนายน 2557 ที่จะถึงนี้ จังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดจัดกิจกรรม "7 มิถุนายน 2557 วันกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ประจำปี 2557 ขึ้น ณ ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ถนนขุขันธ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ภายในงานจัดให้มีการนิทรรศการด้านสหกรณ์ การประกวดวาดภาพ เรียงความ ตอบปัญหา พร้อมรับรางวัลมากมาย จึงขอเชิญครู-นักเรียน และประชาชนทั่วไป ร่วมงานในครั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/พิมพ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ จัดกิจกรรมปองดอง สมานฉันท์

กองกำลังรักษาความงบเรียบร้อย ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย ปกครองจังหวัด  หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 และร้านค้าต่างๆ ลงพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์  ร่วมจัดกิจกรรมสมานฉันท์ ปองดอง  คืนความสุขสู่ประเทศชาติ และประชาชนอย่างยั่งยืน

วันนี้ (5 มิ.ย. 57) ณ  หน้าบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์  อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ  กองกำลังรักษาความงบเรียบร้อย ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ   โดยพันเอกณรงค์  กลิ่นวารี รอง.ผู้บัญชากรกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่จังหวัดศระสะเกษ  พร้อมด้วยพันเอกสมภพ  ภาระเวช ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่  23  หน่วยเฉพาะกิจที่ 1  และนายเพิ่มศักดิ์  ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ และผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ลงพื้นทีร่วมจัดกิจกรรม ปองดอง สมานฉันท์ คืนความสุขสู่ประเทศชาติ  และประชาชนอย่างยั่งยืน

ซึ่งปัจจุบันความขัดแย้งทางการเมืองในระดับชาติดูเหมือนกับได้ขยายสู่ชุมชนทั้งในเมืองและชนบทซึ่งเห็นได้จากการสนทนากลุ่มย่อยๆ แบบไม่เป็นทางการในชุมชนและเมื่อความขัดแย้ง ขยายสู่ชุมชน ประชาชนทุกระดับควรเข้ามามีส่วนร่วมในการขจัดความขัดแย้งที่มีความเห็นทางการเมืองต่างกัน


สำหรับการจัดกิจกรรมปองดอง สมานฉันท์ ในครั้งนี้ มีกิจกรรมประกอบด้วย การชี้แจง  พบปะสอบถามความคิดเห็น และการจัดแสดงดนตรีของหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23  และการจัดจำหน่ายสินค้าของร้านค้าต่างๆในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์  สร้อยเพชร / ข่าว

จังหวัดศรีสะเกษ ประชุม C – Max 14 เพื่อเตรียมรับมือ สาธารณภัย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2557 ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้ นายเวโรจน์ สายทองแท้ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการประชุมร่วมกับคณะทำงานในการเตรียมการฝึกซ้อมแผนการฝึกบริหาร วิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2557 ( C-Max 14 ) ซึ่ง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นแม่งานหลัก โดยมีกำหนดฝึกซ้อมฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 9-12 มิถุนายน 2557 เพื่อเป็นการผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในการป้องกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามในรูปแบบเดิม และภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ โดยเป็นการเตรียมพร้อมการบริหารจัดการขณะเกิดเหตุ ซึ่งมีจังหวัดที่เข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ ประกอบด้วย 5 จังหวัดด้านชายแดนทางฝั่งตะวันออก คือ จังหวัดสุรินทร์ และศรีสะเกษ ส่วนด้านชายแดนทางฝั่งตะวันตก คือ จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ส่วนจังหวัดทางทะเล คือ จังหวัดภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจากรัฐวิสาหกิจ และตัวแทนจากภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ

วันนี้ (5 มิ.ย. 57) เวลา 09.00 น. ณ  โรงแรมแอล เจ ดิ เอมเมอรัล อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ  นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ

นายวรวิทย์  สิงห์อินทร์  รักษาการในตำแหน่งพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่าโครงการส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ” เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ ให้เกิดการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่ายพันธมิตร เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ สร้างเสริมประสบการณ์และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจ ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งถือเป็นทั้งโอกาสและข้อจำกัดทางการค้า ที่ผู้ประกอบการของจังหวัดอำนาจเจริญจำเป็นต้องพัฒนาความรู้ด้านการตลาด และการบริหารจัดการธุรกิจที่มีคุณภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการแข่งขันในประเทศที่เพิ่มขึ้นและมองหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน

ในการนี้ นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  กล่าวเพิ่มเติมว่า  การที่จะนำไปสู่การพัฒนาในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางการค้าให้มากยิ่งขึ้นในอนาคตการที่ผู้ประกอบธุรกิจการค้าในจังหวัดอำนาจเจริญได้สร้างเครือข่ายธุรกิจในการทำการค้า การลงทุนเพิ่มมากขึ้น จะทำให้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพและเพิ่มช่องทางในการขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการของจังหวัดอำนาจเจริญมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558  ที่มีการแข่งขันทางการค้าแบบเสรีมีการเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิต ทุน และเทคโนโลยีได้อย่างไร้พรมแดน





ประกาศิต  สุวะทอง/ข่าว/ภาพ

จังหวัดอำนาจเจริญจัดอบรมถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดีและข้าวหอมมะลิอินทรีย์ อำเภอเสนางคนิคม

วันนี้ (5 มิ.ย. 2557)  เวลา   09.00 น. ที่  หอประชุม อำเภอเสนางคนิคม นายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดการอบรมถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดีและข้าวหอมมะลิอินทรีย์ อำเภอเสนางคนิคม  ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์จังหวัดอำนาจเจริญ  และเพื่อให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศเชื่อถือในคุณภาพ

พื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดกว่า ร้อยละ 80 ประกอบอาชีพทำนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก ด้วยเหตุและปัจจัยเหล่านี้ จังหวัดอำนาจเจริญจึงได้กำหนดทิศทางการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวหอมมะลิไว้ในยุทธศาสตร์ของจังหวัด จากสภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของจังหวัดอำนาจเจริญที่ผ่านมา พื้นที่ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก เกษตรกรต้องตกอยู่ในภาวะความเสี่ยงสูงต่อภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เช่น ความแห้งแล้งจากฝนทิ้งช่วง เป็นต้น ซึ่งมีผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตต่อไร่และคุณภาพของข้าวหอมมะลิลดลง เกษตรกรขาดทุน ดังนั้น จังหวัดอำนาจเจริญจึงเห็นควรส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ให้เป็นไปตามมาตรฐานด้วยการพัฒนาสภาพพื้นที่นา การปรับปรุง บำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมแก่การเพาะปลูกให้มากยิ่งขึ้น กระจายการผลิตในไร่นาให้มีความหลากหลายและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พัฒนาความรู้ ทักษะ ตลอดจนการเชื่อมโยงการตลาดข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เกษตรกรมีรายได้มีอาชีพที่มั่นคงและพัฒนาให้จังหวัดอำนาจเจริญเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่ดีที่สุดต่อไป

การฝึกอบรมอบรมถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดีและข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จึงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี หรือข้าวอินทรีย์จังหวัดอำนาจเจริญ  ประจำปี 2557 ที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมให้กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยผู้นำกลุ่มเกษตรกร  เกษตรกรในอำเภอเสนางคนิคม จำนวน 350 คน ได้รับทราบถึงกระบวนการขั้นตอนในการดำเนินงานตามกิจกรรมต่างๆ ของโครงการซึ่งจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนงานให้ไปสู่ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น




กฤษดา เนตรพันธ์/ข่าว/ภาพ
สรุพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ/บก.ข่าว

มทบ.24 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีจัดดนตรีในสวนคืนความสุขแก่ประชาชนวันที่ 2

เย็นวันนี้ ( 5มิ.ย. 57) ที่บริเวณริมสวนสาธารณหนองประจักษ์ศิลปาคม ตำบลหมากแข็ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี พลตรีสิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ในฐานะผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุดรธานี นำทหารหมวดดุริยางค์ ของ มณฑลทหารบกที่ 24 และตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ ตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ตั้งเวทีแสดงดนตรีและร้องเพลงขับกล่อมให้ความสำราญแก่ประชาชนที่เดินทางมาพักผ่อนและออกกำลังกายรอบสวนสาธารณหนองประจักษ์ศิลปาคม

พร้อมกันนี้ได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม มาตั้งโต๊ะให้บริการตรวจวัดความดัน และตรวจรักษาโรคเบื้องต้นแก่ประชาชน ตามโครงการดนตรีในสวน ชาวอุดรธานีร่วมสร้างความสุขอย่างยั่งยืน เดินหน้าประเทศไทย เพื่อเป็นการคืนความสุข ผ่อนคลายความตึงเครียดของประชาชนจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน เป็นการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ สร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างทหาร ตำรวจ กับประชาชนในพื้นที่ทุกภาคส่วน ให้เกิดความรักความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันร่วมกันสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองและประเทศชาติ เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน

สำหรับวันนี้เป็นการจัดกิจกรรมเป็นวันที่ 2 ได้รับความสนใจจากประชาชนที่เดินทางมาพักผ่อนและออกกำลังกายที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคมแห่งนี้ และที่สัญจรผ่านไปมา หยุดพักนั่งฟังเพลงและดนตรีเป็นจำนวนมาก




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

จ.นครพนมจัดเวทีปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป

ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม (ศปป.กอ รมน.จ.นพ)  จัดเวทีเสวนาปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป  ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  อำเภอธาตุพนม  จังหวัดนครพนม

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  พ.อ.ดร.อรรถ  สิงหัษฐิต  รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกนครพนม   พันเอก สุบรรณ ดวงดี รองผู้บังคับการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดนครพนม(กอ.รมน.จ.นพ)   แกนนำกลุ่มการเมืองในจังหวัดนครพนม  ผู้แทนราชการ  ภาคประชาชน  ภาคประชาสังคม  ตัวแทนกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  ร่วมจัดเวทีเสวนาปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป  เพื่อให้เกิดความรัก  ความสามัคคี  ให้อภัยซึ่งกันและกัน  จากนั้นได้ร่วมกันกล่าวสัจจะวาจาต่อหน้าองค์พระธาตุพนม  ว่า จะจงรักภักดีและพิทักษ์รักษาชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  ร่วมแรงร่วมใจหยุดความขัดแย้ง  ลืมความหลัง  รวมพลังเดินไปข้างหน้าเพื่อพัฒนาประเทศไทย  และจะสนับสนุนแนวทางการปรองดอง  ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อความผาสุกของประชาชน  ร่วมกิจกรรมทำบุญ  สวดมนต์ไหว้พระ  ห่มผ้าพระธาตุพนม  จากนั้นได้ร่วมกินข้าวหม้อเดียวกัน

จังหวัดอุบลราชธานีประชุมทุกภาคส่วน และจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสร้างความปรองดองและความสามัคคีให้กับประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 5 มิถุนายน 2557 ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีนายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พลตรี วิษณุ ไตรภูมิ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 พลตำรวจตรี สุรพล แก้วขาว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมประชุม ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการ ทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 1 /2557 ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามแนวทางขับเคลื่อนภารกิจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) โดยในที่ประชุมได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามคำสั่งประกาศ ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) อย่างเคร่งครัด ที่สำคัญ คือ ห้ามให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฏหมาย ตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับการติดตามทวงหนี้ ความผิด เกี่ยวกับอาวุธสงคราม และ การปราบปรามยาเสพติด ขณะเดียวกันได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปจังหวัดฯ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินการที่สอดรับต่อข้อสั่งการของ คสช.และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เกิดความรักสามัคคีและคืนความสุขให้กับประชาชนชาวไทยให้เร็วที่สุด.

ทั้งนี้ ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดกิจกรรม กรรมคืนความสุขให้แก่ประชาชนพบกับการแสดงจาก แก็งค์สามซ่าส์ ในวันที่ 7 มิถุนายน 2557 เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า) ในพื้นที่ ในวันพุธ ที่ 18 มิถุนายน 2557 มณฑลทหารบกที่ 22 จังหวัดอุบลราชธานี อบจ.อุบลราชธานี และส่วนราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดกิจกรรมลงพื้นที่พบประชาชน บ้านปะอาว ตำบลปะอาว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 08.30 ถึง 12.00 น.

สำหรับการดำเนินงานขั้นต่อไปจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ กอ.รมน.จ.อุบลราชธานี จัดอบรมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อปฏิรูป ระดับอำเภอ เพื่อให้ทราบแนวทางการปฏิบัติ ในการขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างความรัก ความสามัคคี ในพื้นที่ หมู่บ้าน ตำบล และระดับอำเภอ รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำความสงบสุขมาสู่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

ตม.นครพนมจับผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า

วันนี้ (5 มิ.ย.) พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์  ค้าดี  ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม  พร้อมด้วย พ.ตท.สุรสิทธิ์  ดีลี สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม  และชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม  เฝ้าติดตามสถานการณ์การลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายผ่านทางช่องทางในพื้นที่รับผิดชอบ  เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีทหารเข้าควบคุมการบริเวณเขตท่าริมแม่น้ำโขง  ซึ่งอาจทำให้การเปลี่ยนถ่ายโยกย้ายสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนหันมาใช้เส้นทางผ่านสะพานมิตรภาพ 3  จึงได้สนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงจุดสกัดสะพานมิตรภาพ 3  ตรวจค้นบุคคลและพาหนะ  จากการตรวจค้นบุคคลยานพาหนะเข้า-ออกสะพานมิตรภาพ 3  เจ้าหน้าที่ได้สังเกตพฤติกรรมเกิดความผิดปรกติจนกระทั่งได้ทำการจับกุมนายยก แสงจัน  อายุ 67 ปี  สัญชาติลาว  ซึ่งมียาบ้าบรรจุถุงสีน้ำเงินซุกซ่อนในกางเกงในด้านหลัง  เงินไทย 13,744 บาท  เงินลาว  15,000 กีบ  สร้อยคอทองคำ 1 สลึง  โทรศัพท์ 1 เครื่อง  จากการตรวจค้นสัมภาระและสังเกตกริยา  นายยกฯ มีอากาง่วงซึมจึงได้จับตรวจปัสสวะ ซึ่งมีผลเป็นบวก  จึงได้ตรวจค้นสัมภาระอีกครั้งอย่างละเอียดพบยาเสพติดดังกล่าว  ซึ่งนายยก ฯ ได้ยอมรับว่าไปซื้อยาบ้าจากแขวงสะหวันเขต  เพื่อไปส่งต่อให้กับบุคคลที่ได้ติดต่อกันไว้  ตำรวจจึงได้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครพนมต่อไป

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้ข้าราชการ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน เพื่อนำไปสู่ความปรองดองของคนในชาติ

วันนี้( 4 มิ.ย. 54 ) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและรองปลัดกระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษเรื่อง การเป็นข้าราชการที่ดี แก่ข้าราชการสังกัดสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทั่วประเทศ ณ โรงแรมลายทอง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้น ให้สัมภาษณ์ว่า ข้าราชการมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสามัคคี ของคนในชาติ ข้าราชการต้องสำนึกอยู่เสมอว่า มีเกียรติยศ มีเงินเดือนใช้ก็ด้วยจากเงินภาษีอากรของประชาชน ดังนั้นข้าราชการต้องมีความจริงใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และที่สำคัญข้าราชการต้องเป็นแบบอย่างของการสร้างความสามัคคีเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ คสช.และหน่วยงานราชการทุกกระทรวงมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ส่วนศูนย์ปรองดองที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ขอให้ ทางจังหวัด อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชน ร่วมมือกันดำเนินงานให้เกิดความรัก ความสามัคคี ส่งผลให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุขต่อไป 

สืบหาบุคคลสูญหาย (นางสาวภัทรวดี ถือสัตย์)

นายอนุศาสตร์  พลายวิเคราะห์  นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ  รักษาราชการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  สำนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  ได้รับการประสานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร  ว่าได้รับแจ้งจากนางประพิน  ถือสัตย์ (ยาย)  ให้ช่วยประชาสัมพันธ์และติดตามบุคคลสูญหาย  นางสาวภัทรวดี  ถือสัตย์ (หลานสาว)  อายุ 17 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 55 ถนนวิวิธสุรการ  ตำบลมุกดาหาร  อำเภอเมืองมุกดาหาร  จังหวัดมุกดาหาร  ลักษณะรูปร่างสันทัด  ผิวขาว  หน้าตาดี  สูงประมาณ 155 เซนติเมตร  ซึ่งได้หายตัวไปจากบ้านเลขที่  55  ถนนวิวิธสุรการ  ตำบลมุกดาหาร  อำเภอเมืองมุกดาหาร  จังหวัดมุกดาหาร  ตั้งแต่วันที่  11 เมษายน  2557 ปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้และไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด  เกรงว่าอาจได้รับอันตรายและถูกล่อลวงไปในทางที่เสียหาย  หรืออาจตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์  ผู้ใดมีข้อมูลเบาะแส  หรือพบเห็นบุคคลดังกล่าว  แจ้งไปที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  โทรศัพท์  0-4251-1022  , 0-4251-1506  หรือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร  โทรศัพท์  0-4261-1442  หรือ OSCC  ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 สายด่วน  24 ชั่วโมง หรือนายจรัญ  ถือสัตย์ (น้าชาย)  โทรศัพท์ 08-5745-5212

ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ฯมหาสารคาม เตรียมจัดกิจกรรมคืนความสุขให้กับประชาชน 7 มิ.ย. 57

ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดมหาสารคาม กอ.รมน.จว.มหาสารคาม เตรียมจัดกิจกรรมอำเภอยิ้ม และกิจกรรมเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้กับประชาชน ภายใต้แนวทาง " ปี 2558 มหาสารคาม ครบรอบ 150 ปี อยู่ดี กินดี มีสุข รู้รักสามัคคี”

                  (5-6-57) ในการประชุมคณะทำงานทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดมหาสารคาม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมหาสารคาม (ศปป. กอ.รมน. จว.ม.ค.) ที่มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานการประชุม ในฐานะประธานคณะทำงานด้านอำนวยการของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดมหาสารคาม ฯ ได้มีการชี้แจงถึงแนวทางในการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ฯ ซึ่งจัดขึ้นในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความรัก ความสามัคคี รับฟังความคิดเห็น เพื่อแก้ไขปัญหาของพื้นที่ คืนความสุขให้กับประชาชน ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการทำงาน เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี ภายใต้แนวทาง " ปี 2558 มหาสารคาม ครบรอบ 150 ปี อยู่ดี กินดี มีสุข รู้รักสามัคคี”

                   โดยกิจกรรมที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดมหาสารคาม กอ.รมน.จว.มหาสารคาม จะได้จัดขึ้น เพื่อนำร่องในการสร้างความปรองดอง ได้กำหนดในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2557 รวม 2 กิจกรรมหลัก คือ กิจกรรม อำเภอยิ้มเคลื่อนที่สร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปอำเภอโกสุมพิสัย ณ โรงเรียนแห่บริหารวิทย์ ต.แห่ใต้ อ.โกสุมพิสัย เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. พร้อมจัดให้มีเวทีเสวนาสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และการให้บริการแก่ประชาชน ส่วนกิจกรรมที่ 2 เป็นกิจกรรมคืนความสุขให้กับประชาชน ภายใต้ชื่อ "ปี 2558 มหาสารคาม ครบรอบ 150 ปี อยู่ดี กินดี มีสุข รู้รักสามัคคี" จัดขึ้น ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม โดยจะมีกิจกรรมการตรวจสุขภาพ บริการตัดผม การให้บริการจากภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการแสดงดนตรี โดยจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการถ่ายทอดเสียงบรรยากาศการจัดงาน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่เวลา 17.30-19.00 น.



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามจัดอบรมมารยาทไทยสูบุคลากรทางการศึกษาหวังถ่ายทอดเยาวชนในโรงเรียน

05-06-57 ที่ศูนย์ประชุมแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามจัดอบรมมารยาทไทย ให้กับครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดมหาสารคามเพื่อสร้างครูต้นแบบมารยาทไทย

นางสมพร เมตตาริกานนท์ วัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามปัจจุบันเยาวชนไทยได้รับอืทธิพลทางด้านค่านิยมและวัฒนธรรมต่างประเทศทั้งด้านการแต่งกาย การแสดงออกทางสังคม ทำให้ในบางครั้งมักจะแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้อื่นเช่นแสดงกิริยาที่ก้าวร้าว ไม่เคารพผู้อาวุโสตลอดจนหลงลืมรากเหง้าวัฒนธรรมไทย

กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจึงมอบหมายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามจัดอบรมมารยาทไทยของกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้ถ่ายทอดมารยาทไทยให้แก่เยาวชนในสถานศึกษาของตนเพื่อขยายผลครูต้นแบบมารยาทไทยและสามารถนำไปถ่ายทอดให้กับนักเรียนในโรงเรียน โดยมีครู อาจารย์และบุคลกรทางการศึกษาเข้ารับการอบรมจำนวน 150 คน




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีบริการชุมชน ผู้พิการและผู้สูงอายุ

อบจ.มหาสารคาม ลงนามร่วมกับ สสส. และ สวท.ช. จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการบริการสุขภาพและสุขภาวะที่ยั่งยืน เพื่อบริการชุมชน ผู้พิการและผู้สูงอายุในพื้นที่

(05-06-57) ที่ห้องประชุมโอท๊อป องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวท.ช.) โดยนายภาณุพงษ์ วันจันทึก ผู้จัดการโครงการพัฒนาเครือข่ายการให้บริการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร ผ่านการบริหารจัดการโดยชุมชน ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับ นางคมคาย อุดรพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ในการจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเป็นภาคีเครือข่ายในการให้บริการด้านสุขภาพและสุขภาวะอย่างยั่งยืนแก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และชุมชน โดยนำเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เข้ามาใช้ ให้บริการแก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุอย่างเหมาะสมตรงกับความต้องการ และสภาพความเป็นอยู่ของผู้ใช้ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้พิการ ผู้สูงอายุ และชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมทางความคิดและบริหารจัดการเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้จากส่วนกลาง เข้าสู่ระบบการบริหารจัดการองค์ความรู้ระดับชุมชน ให้ชุมชนเรียนรู้การจัดการแก้ไขปัญหา การดูแลรักษา และการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก กำหนดจัดตั้งขึ้น 5 ศูนย์ ใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลางที่จังหวัดปทุมธานี ภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงราย ภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดมหาสารคาม




ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

ว.เกษตรฯมหาสารคาม ฝึกเพาะเห็ด พัฒนาอาชีพให้ประชาชน

วิทยาลัย เกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม จัดฝึกอาชีพเพาะเห็ดให้แก่ประชาชน ภายใต้ โครงการจัดศูนย์ฝึกอบรมอาชีพในสถานศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพประชาชนรุ่นที่ 1 หวังให้เป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน

                     นายดุสิต สะดวก ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม พร้อมด้วยนายอภิมุข ศุภวิบูลย์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคามได้เข้าเยี่ยมชมการฝึก อาชีพเพาะเห็ด ภายใต้โครงการจัดศูนย์ฝึกอบรมอาชีพในสถานศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพประชาชนรุ่น ที่ 1 ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคามจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 2-11 มิถุนายน 2557 ณ ศาลาประชาคมบ้านหนองบึงสามัคคี หมู่ที่ 8 ตำบลหนองโพธิ์ อำเภอนาเชือกจังหวัดมหาสารคาม โดยมีประชาชนที่สนใจทั้งในพื้นที่และจากต่างจังหวัดเข้าร่วมโครงการจำนวน 25 คน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม กล่าวว่า อาชีพการผลิตทางการเกษตรเป็นอาชีพที่กลุ่มคนเหล่านี้สามารถประกอบการ ได้ด้วยตนเองโดยผ่านการฝึกที่เหมาะสม โดยเฉพาะอาชีพการเพาะเห็ดเป็นอาชีพที่เกษตรกรสนใจ ใช้พื้นที่น้อยลงทุนต่ำ ระยะเวลาการผลิตสั้นและผลผลิตจำหน่ายได้ง่าย การฝึกอบรมอาชีพเพาะเห็ดจึงเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและผู้ ที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้และทักษะการเพาะเห็ดใช้เป็นแนวทางในการ ประกอบอาชีพได้ สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้ารับการอบรมเพื่อสร้างเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม สามารถติต่อได้ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม โทร 0-4347-6284 หรือ 08-7974-6688



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ปชส.มหาสารคาม ร่วมเป็นคณะทำงานและเลขาฯด้านประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปรองดองฯ จังหวัด

ปชส.มหาสารคาม ร่วมเป็นคณะทำงานและเลขาฯด้านประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปรองดองฯจังหวัด กอ.รมน.มหสารคาม จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปจังหวัดมหาสารคาม โดยแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุน แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ในส่วนคณะทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น มีประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม เป็นคณะทำงานและเลขานุการ

                     นายพิชัย คชพิมพ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ขึ้น โดยมีเจตนารมณ์ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี ลดความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งที่จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปจังหวัดมหาสารคาม ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมหาสารคาม (กอ.รมน.มค.) ขึ้น เพื่อเป็นการบูรณาการการปฏิบัติงานของหน่วยงานในจังหวัด สนับสนุนการแก้ไขปัญหา ลดความขัดแย้ง อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความสงบสุขอย่างยั่งยืน โดยมีคณะทำงานประกอบด้วย ฝ่ายอำนวยการ มีผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ฝ่ายปฏิบัติการ มีปลัดจังหวัดมหาสารคาม เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และฝ่ายประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะรอง ผอ.รมน. ฝ่ายพลเรือน เป็นหัวหน้าคณะทำงานและมีประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม เป็นคณะทำงานและเลขานุการ โดยมี หัวหน้าสถานีวิทยุกระจายเสียง คลื่นหลัก 5 สถานี ร่วมเป็นคณะทำงาน ในการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในการเข้ามาควบคุมอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชน เพื่อขจัดความขัดแย้งให้หมดไปจากพื้นที่รับผิดชอบ

                       นี้ ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดมหาสารคาม ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมหาสารคาม (ศปป.กอ.รมน.จว.ม.ค.) ตั้งอยู่ที่ห้อง 308 ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์/โทรสาร หมายเลข 043 777 271




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ขอนแก่นมอบทุกอำเภอลงพื้นที่จัดกิจกรรมปรองดองสมานฉันท์ เพื่อปฏิรูป

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  จัดประชุมนายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการ  เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินการจัดกิจกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อปฏิรูป  มอบนายอำเภอ  และส่วนราชการลงพื้นที่จัดกิจกรรม

                นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยรอง ผอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น นายวิวัฒ เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  ได้ร่วมกันประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อปฏิรูป จังหวัดขอนแก่น ให้แก่ นายอำเภอ ทั้ง 26 อำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการ

                ในการประชุมครั้งนี้  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  ได้มอบหมายให้นายอำเภอทุกอำเภอร่วมกับส่วนราชการ  ให้ลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างความมานฉันท์ ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ในกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เข่น การแข่งขันกีฬา,การจัดกิจกรรมบันเทิง การจัดเวทีฟังความคิดเห็นจากประชาชน การจัดโครงการอำเภอยิ้ม ในการปฏิรูปประเทศไทย โดยเน้นให้ทุกอำเภอรายงานผลการดำเนินงานให้จังหวัดทราบ  เพื่อจะได้รายงานให้กับ คสช.ทราบต่อไป ละให้มีการจัดทำแผนการดำเนินงานให้จังหวัดทราบด้วย
****สมพงษ์  ปัตตานี/ข่าว

ขอนแก่นแถลงข่าว จัดงานมหกรรมการประกวด 1 ตำบล 1 การแสดงพื้นบ้านตำนานชุมชนสู่อาเซียน วันที่19 มิถุนายน 2557

ขอนแก่นแถลงข่าว จัดงานมหกรรมการประกวด 1 ตำบล 1 การแสดงพื้นบ้านตำนานชุมชนสู่อาเซียน จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 19 มิถุนายน 2557 ที่ศาลาประชาคมจังหวัดขอนแก่น ภายใต้โครงการ ไหมมัดหมี่ขอนแก่นสู่สากล เพื่อสร้างตำนานและเอกลักษณ์การแสดงศิลปะวัฒนาธรรมพื้นบ้านขอนแก่น

              เมื่อเช้าวันนี้ (5 มิ.ย. 57) ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ้นเซส จังหวัดขอนแก่น สำนักวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้จัดงานแถลงข่าวงานมหกรรมการประกวด 1 ตำบล 1 การแสดงพื้นบ้านตำนานชุมชนสู่อาเซียน จังหวัดขอนแก่น เพื่อคัดเลือกสุดยอดการแสดงในชุมชนที่มีเรื่องราวโดดเด่นที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชุมชน พัฒนาสู่การแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้อำเภอคัดสรรสุดยอดการแสดงศิลปวัฒนธรรม ตามโครงการรากวัฒนธรรม "ของดีบ้านฉัน” ด้านศิลปะการแสดง ทั้ง 26 อำเภอ อำเภอละ 1 ชุด เพื่อเข้าประกวดฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกศิลปะการแสดงในชุมชนที่ทีเรื่องราวโดดเด่นที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชุมชน และนำมาส่งเสริมให้เกิดคุณค่าทางด้านการตลาด และคัดสรรสุดยอดศิลปะการแสดงที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่น เพื่อพัฒนาสู่การแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมกับอาเซียนและนานาชาติ รวมทั้งรวบรวมองค์ความรู้ด้านศิลปะการแสดง ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น และจัดเก็บอย่างเป็นระบบสามารถนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณชนได้ โครงการมหกรรมการประกวด 1 ตำบล 1 การแสดงพื้นบ้านตำนานชุมชนสู่อาเซียน จังหวัดขอนแก่น จะจัดขึ้นในวันที่ 19 มิ.ย. 57 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ ศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น โดยการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายประเสิร์ฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นางเกศินี สวัสดีวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น, ผู้แทนพานิชย์จังหวัดขอนแก่น และผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้แถลงข่าว

               สำหรับเกณฑ์การประกวดสามารถแบ่งได้ดังนี้ 1. ความประณีต งดงาม คือ มีรูปแบบวัฒนธรรมของชุมชน ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการสร้างสรรค์งานศิลปะการแสดง ประณีต งดงาม มีคุณค่าทางศิลปะไทยของท้องถิ่นหรือชุมชน 2. สืบสานวัฒนธรรม คือ เนื้อหาแสดงวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมที่เป็นแก่นของชุมชนปรากฏเอกลักษณ์ชัดเจน สร้างแรงบันดาลใจให้สืบสานผลงานศิลปะการแสดงต่อไป 3. นวัตกรรม คือ มีวิธีนำเสนออย่างเหมาะสมกับคนในปัจจุบัน มีความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาได้ เป็นต้น 4. รักษาสิ่งแวดล้อม คือ ไม่สร้างผลงานเชิงลบในกระบวนการสร้างสรรค์ผลศิลปะการแสดง ใช้วัสดุ ภูมิความรู้ในท้องถิ่นอย่างถูกต้อง 5. มีคุณค่าทางด้านการตลาด คือ สร้างรายได้บุคคลและชุมชน 6. เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน คือชุมชนมีส่วนร่วมผลิต และเป็นแหล่งเรียนฝึกอาชีพและเกื้อกูลการสร้างสรรค์ โดยให้ทุกทีมส่งแบบกรอกข้อมูลองค์ความรู้รากวัฒนธรรม "ของดีบ้านฉัน” พร้อมด้วยใบสมัคร แต่ละทีมใช้เวลาในการแสดง 5-10 นาทีม เว้นแต่ทีมกลองยาม ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที แต่ละทีมส่งเข้าประได้ทีมละไม่น้อย 12 คน ให้มารายงานตัวตามที่กำหนด 08.00 – 09.00 น. หากไม่มารายงานตัวตามที่กำหนดถือว่าสละสิทธิ์ สำหรับรางวัลชนะเลิศ จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินสด 40,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินสด 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินสด 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 3 จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินสด 10,000 บาท

เทศบาลเมืองบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่นจัดโครงการอบรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันรู้ทันเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรและขจัดปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ

นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศบาลเมืองบ้านไผ่ได้เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นและเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จะจัดโครงการอบรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันรู้ทันเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรและขจัดปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ ขึ้นโครงการดังกล่าวได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนคุ้มครองเด็กกระทรวงการพัฒนาสังคมละความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อดำเนินโครงการอบรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รู้ทันเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และขจัดปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ ให้นักเรียนในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ประจำปีงบประมาณ 2557 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจาก พฤติกรรมการเลียนแบบต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมนำมาเป็นค่านิยมในสังคมเด็ก เยาวชน เช่นปัญหาการตั้งครรภ์ในระหว่างเรียน การทำแท้ง การทะเลาะวิวาท การทิ้งบุตร ครอบครัวขาดความอบอุ่น ขาดคนดูแลและที่ปรึกษาที่ถูกต้อง การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การติดสารเสพติด การออกโรงเรียนกลางคัน ตลอกจนคิดสั้นทำร้ายตนเอง โดยกำหนดให้มีการอบรมในวันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน 2557 ณ หอประชุมประชาเมืองไทย เทศบาลเมืองบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ผู้สนใจก็สามารถไปร่วมงานได้



พนิดา/นศ.ฝึกงาน/ ข่าว/พิมพ์

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันบทบาทการทำหน้าที่ขององค์กร เน้นสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในทุกพื้นที่

นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า กรมประชาสัมพันธ์ได้เน้นย้ำบทบาทการทำงานให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ในทุกพื้นที่ผ่านทางสื่อสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และโทรทัศน์ทุกช่อง รวมถึงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งเบื้องต้นได้จัดโครงการต่างๆ เพื่อประสานงานด้านประชาสัมพันธ์ ทั้งในส่วนกลางและทุกจังหวัด ให้พร้อมปฎิบัติตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเคร่งครัด โดยในส่วนกลางได้จัดกิจกรรมดนตรีในสวนจากวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความสุขและความบันเทิงให้กับประชาชน ในทุกวันพฤหัสบดี ช่วงเวลา 17.00-19.00 น. ที่ซอยอารีย์ฯ กรมประชาสัมพันธ์

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวย้ำว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติถึงการจัดรายการผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งขณะนี้ยังคงยึดถือหลักการทำหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ในการเผยแพร่ข่าวสารส่งผ่านไปยังประชาชน ให้ถูกต้อง ตรงไปตรงมา รวดเร็ว และทันเวลา หากได้รับการประสานจาก คสช. พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง 

พิธีเปิดห้องสมุดสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเฉลิมพระเกียรติในหลวงแห่งที่ 57 ที่ขอนแก่น

ฯพณฯ  พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดห้องสมุดสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชนแห่งที่ 57 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระชนมายุ 86 พรรษา ที่โรงเรียนมณีอนุสรณ์ศึกษา อำเภอเมืองขอนแก่น ในงานนี้มีการมอบโล่และเกียรติบัตรให้กับผู้ที่สนับสนุนการสร้างห้องสมุดในครั้งนี้ด้วยโดยมีนายกำธร  ถาวรสถิตย์  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นนำคณะต้อนรับและเข้ารับเกียรติบัตร การสร้างสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนครั้งนี้เพื่อสนองแนวพระราชดำริฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในกิจกรรมสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน รักการศึกษาค้นคว้าและมีโอกาสพัฒนาตนเอง ตลอดจนเป็นศูนย์การเรียนรู้หนังสือสารานุกรมไทยฯทุกฉบับให้กับทั้งเยาวชนและบุคคลทั่วไปได้ศึกษาด้วย

ออสเตรเลียพร้อมร่วมมือกับขอนแก่นในการพัฒนาด้านการศึกษาและการขนส่งระบบราง

วันนี้ฯ พณฯ เจมส์ไวน์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเข้าหารือข้อราชการกับนายกำธร  ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นคนใหม่ ที่ศาลากลางจังหวัดในโอกาสที่ทางประเทศออสเตรเลียจะมาจัดกิจกรรมงานเสวนา ออสเตรเลีย - ไทย ในการร่วมมือพัฒนาเมืองและระบบขนส่งมวลชนเพื่ออนาคตของ มหานครขอนแก่น ที่โรงแรมพูลแมนขอนแก่น โดยสาระสำคัญของการหารือคือทางออสเตรเลียมีความสนใจที่จะร่วมมือกับขอนแก่นในการพัฒนาด้านการศึกษามีการแลกเปลี่ยนนักศึกษาของขอนแก่นและออสเตรเลียรวมทั้งทางออสเตรเลียสนใจที่จะมาตั้งสาขาของมหาวิทยาลัยออสเตรเลียที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแล้วมาตั้งที่ขอนแก่นเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาของสองประเทศรวมทั้งเชิญชวนผู้ว่าราชการจังหวัดไปดูนิทรรศการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบขนส่งโลจีสติกที่ทางออสเตรเลียมีความเชี่ยวชาญเพื่อรองรับการพัฒนาระบบขนส่งรถไฟรางคู่ที่ตอนนี้มาถึงขอนแก่นแล้ว สำหรับออสเตรเลียตอนนี้มีนโยบายที่จะเชื่อมความสัมพันธ์สำหรับภูมิภาคของไทยมากขึ้นนอกเหนือจากที่ดำเนินการในกรุงเทพอย่างเดียวในช่วงที่ผ่านมาและขอนแก่นก็เป็นเป้าหมายของออสเตรเลียด้วยเนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของอินโดจีนและเป็นเมืองที่มียุทธศาสตร์พัฒนาระบบขนส่งโลจีสติกและจะเป็นฮับด้านการศึกษาและการแพทย์ในภูมิภาค เป็นจุดเด่นที่ออสเตรเลียสนใจที่จะร่วมพัฒนาไปด้วยกัน

สำนักชลประทานที่ 8 ประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทานเพื่อบูรณาการการใช้น้ำของเขื่อนลำตะคอง

วันนี้ (5 มิ.ย. 57) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักชลประทานที่ 8 ถนนสืบศิริ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทานเขื่อนลำตะคอง โดยมีนายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 และนายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ให้การต้อนรับ

นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 กล่าวว่า การจัดประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทานเขื่อนลำตะคองครั้งนี้ เป็นการประชุมการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พร้อมบูรณาการในลักษณะ 4 ประสาน ได้แก่ องค์กรผู้ใช้น้ำชลประทาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ชลประทาน และส่วนราชการหรือหน่วยงานสนับสนุน ให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชลประทาน ด้านการส่งน้ำและบำรุงรักษา ด้านพัฒนาการส่งเสริมเกษตร อาชีพ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการแพร่กระจายน้ำให้กับเกษตรกรและผู้ใช้น้ำอย่างทั่วถึงเป็นธรรม ประหยัด ให้เกิดมีประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 70 คน

สำหรับแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนให้พอเพียงต่อเกษตรกร นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้เสนอแผนบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนของอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ให้เริ่มฤดูกาลเพาะปลูกในวันที่ 19 มิถุนายน 2557 โดยให้พื้นที่เกษตรกรรม (นาปี) ที่ราบลุ่มเริ่มการเพาะปลูกก่อน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ 

ผบ.มทบ.21 พร้อม ผู้ว่าโคราช ตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินรับจำนำข้าวให้กับชาวนา ขณะที่ชาวนามอบดอกไม้และขอบคุณทหารที่ทำให้ชาวนาได้รับเงิน

วันที่ 5 มิ.ย. 57 ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์สาขาอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พลตรีวุฒิ แสงจักร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 พร้อมด้วยนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจตรีพงษ์เดช พรหมมิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผ็ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบเงินในโครงการรับจำนำข้าวให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอพิมาย ที่มารอรับเงินรับจำนำข้าว โดยเกษตรกรที่มารอรับเงินได้ร่วมกันมอบดอกไม้แก่ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะ พร้อมกล่าวขอบคุณ ทหารที่ทำให้เกษตรกรได้รับเงินจำนำข้าวหลังจากที่ต้องรอมาเป็นเวลานาน

สำหรับในพื้นที่อำเภอพิมาย มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับ ธกส.สาขาพิมาย จำนวน 7,662 ราย เป็นเงิน 656,922,409 บาท ซึ่งได้มีการทยอยจ่ายเงินให้กับเกษตรกรไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตค 56 – 22 พค 57 จำนวน 3,739 ราย เป็นเงิน 361,739,469 บาท และตั้งแต่วันที่ 28 พค 57 – 4 มิย 57 ทยอยจ่ายเงินให้กับเกษตรกรไปแล้วจำนวน 1,590 ราย เป็นเงิน 129,625,235 บาท คงเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินจำนวน 2,333ราย เป็นเงิน 165,917,705บาท ซึ่งภายในวันที่ 13 มิย 57 ทาง ธกส.สาขาพิมาย จะสามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรครบทุกราย

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชี นครราชสีมา จัดซื้อกล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้ง

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนี นครราชสีมา มีความประสงค์จัดซื้อกล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้งจำนวน 8 จัด ณ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา

ผู้สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานพัสดุ กลุ่มงานบริหารทั่วไป วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา 177 ถนนช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 โทรศัพท์ 0-44242397, 0-44243020 โทรสาร 0-4427-0222


อาฒยา ทองเฟื่อง/รายงาน

บึงกาฬเปิดศูนย์ปรองดองและลงนามความร่วมมือสร้างสมานฉันท์ในพื้นที่

จังหวัดบึงกาฬเปิดศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดบึงกาฬและทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปจังหวัดบึงกาฬ ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 13 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นายกองการบริการส่วนจังหวัดบึงกาฬ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และอดีต สส. เพื่อสร้างความปรองดองในพื้นที่ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนทหาร ตำรวจ กำนัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ ณ หอประชุมโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

วานนี้ 04-05-57 เวลา 14.00 น. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พ.อ. ธานินทร์ สนิทชน ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 13 พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายสุนทร วังสะพันธ์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดบึงกาฬ นายเชิดพง ราชป้องขันธ์ และนายไตรรงค์ ติธรรม อดีต สส. จังหวัดบึงกาฬ นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอในจังหวัดบึงกาฬได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนเสริมสร้างความปองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปจังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นข้อตกลงให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมมือกันในการขับเคลื่อนความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งในบันทึกได้ระบุว่า จะเทิดทูนไว้ด้วยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยชีวิต และจะให้ความร่วมมือและถือปฏิบัติตามคำสั่งหรือประกาศของ คสช.โดยเคร่งครัด อีกทั้งจะเร่งดำเนินการเสริมสร้างความปองดอง สมานฉันท์ เพื่อปฏิรูปจังหวัดบึงกาฬ ให้เป็นต้นแบบในการสร้างความรัก ความสามัคคี ให้แก่ครอบครัว หมู่บ้าน ชุมชน อำเภอและจังหวัด รวมทั้งเปลี่ยนพลังแห่งการขัดแย้ง ความคิดเห็นไม่ตรงกันมาเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นอกจากการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ผู้บังคับการกรมทหาราบที่ 13 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬยังได้ทำความเข้าใจกับผู้นำท้องถิ่น เพื่อนำข่าวสารต่างๆที่ถูกต้องไปแจ้งในพื้นที่ ในเรื่องของการควบคุมอำนาจ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติ รวมถึงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆให้วิเคราะห์ หากสงสัยให้สอบถามผู้บังคับบัญชา เพื่อความถูกต้องของข้อมูล