วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด ร้องให้ย้ายผู้ว่าฯ ภายใน 24 ชั่วโมง

วันนี้ (19 ส.ค. 56) เวลา ประมาณ 10.00 น. ได้มีกลุ่มประชาชนประมาณ 300 คน จากเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารมาชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยนำรถติดเครื่องขยายเสียงและทำเป็นเวทีขนาดย่อมปราศรัยโจมตีและกล่าวหานายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารว่าสร้างความแตกแยกแก่ชาวมุกดาหาร ปฏิบัติงานที่อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่โดยสั่งให้โรงเรียนมุกดาลัยยกที่ดินให้แก่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตลอดจนไม่ให้ความสำคัญต่องานรัฐพิธีและงานราชพิธี โดยมีแกนนำสองคนได้ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัย จนถึงเวลาประมาณ 11.30 น. แกนนำกลุ่มได้ยื่นหนังสือพร้อมแถลงการณ์ผ่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้น นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชนผู้มาชุมนุมว่าตามที่แกนนำกล่าวหาผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารสั่งให้ ร.ร.มุกดาลัย ยกที่ดินให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีนั้น ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามีหนังสือแจ้งชัดเจนว่าไม่ยกที่ดินให้แก่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีสำเนาหนังสือดังกล่าวมาให้ดูด้วย ส่วนเรื่องที่บอกว่าผู้ว่าฯไม่ให้ความสำคัญในงานรัฐพิธีและราชพิธี นั้น ทุกครั้งที่จัดกิจกรรมจังหวัดได้เชิญทุกงานรวมทั้งองค์กรท้องถิ่นทั้ง อบจ. และเทศบาล มาร่วมงาน ส่วนการเดินทางเข้าร่วมงานของผู้ว่าราชการจังหวัดก็เป็นไปตามกำหนดเวลา เพราะบางกิจกรรมกลุ่มผู้ร่วมงานจะต้องดำเนินกิจกรรมไปก่อนเพื่อให้เรียบร้อยพอดีกับเวลาที่ประธานจะเข้าประกอบพิธีต่อไป ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเข้าร่วมงานล่าช้าแต่อย่างใด เมื่อกล่าวชี้แจงมาถึงตรงนี้กลุ่มแกนนำได้โห่ร้องและสั่งให้ประชาชนผู้ร่วมชุมนุมกลับบ้านจนกระทั่งเวลาประมาณ 12.20 น. ผู้ชุมนุมก็แยกย้ายกลับบ้านโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

และในวันเดียวกัน (19 ส.ค. 56) เวลาประมาณ 15.30 น. ได้มีกลุ่มพลังมวลชนของ นปช.มุกดาหาร จำนวนกว่า 200 คน ได้รวมตัวกันและนำกระเช้าดอกไม้ ช่อดอกไม้ มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร โดยแกนนำได้กล่าวว่าพร้อมที่จะสนับสนุนและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้กล่าวกับประชาชนที่มาให้กำลังใจว่า มีความตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ประชาชนชาวมุกดาหารมีความสุข จังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดเล็ก ๆ การพูดคุยสื่อสารกันทำได้ง่ายจนบางครั้งอาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเข้าใจผิดได้ ถึงอย่างไรก็จะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และกล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน





แสงทอง อนันตภักดิ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร, สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

จังหวัดมุกดาหารจัดงานสมัชชาภาคีเครือข่ายสวัสดิการสังคมจังหวัดมุกดาหาร

วันนี้ (๑๙ ส.ค. ๕๖) เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร จัดงานสมัชชาภาคีเครือข่ายสวัสดิการสังคมจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๖ โดยมี นายสวัสดิ์ ชูสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร เป็นประธาน เปิดการประชุม โดยมีประเด็นการประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมเรื่อง การสร้างสวัสดิการที่มั่นคงให้แก่คนไทยทุกคน การพัฒนารูปแบบการช่วยเหลือทางสังคมสำหรับผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก ซึ่งรัฐบาลถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ

นางจริญญา วันทาวงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาการจัดสวัสดิการแก่ประชาชนในระบบบริการทางสังคม ในลักษณะถ้วนหน้า โดยใช้งบประมาณจากรัฐในการให้สวัสดิการแก่ประชาชน เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ในระบบการช่วยเหลือทางสังคม โดยมีประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากการประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมจังหวัด จากทุกภาคส่วนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในหลายด้าน ประกอบด้วยการศึกษา สุขภาพอนามัย ที่อยู่อาศัย การทำงานและการมีรายได้ นันทนาการ กระบวนการยุติธรรม และการบริการทางสังคมโดยทั่วไป ซึ่งจะได้นำประเด็นปัญหาทั้งหมดรวบรวมนำเสนอเพื่อพิจารณาต่อไป




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ตำรวจภูธรมุกดาหาร มอบประกาศณียบัตรให้นักเรียนโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านยาเสพติด

ที่ หอประชุมอำเภอเมืองมุกดาหาร นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีมอบประกาศณียบัตรโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านยาเสพติดในนักเรียน (D.A.R.E.) ประเทศไทย ตามแผนการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด ในสถานศึกษาตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดตามที่บันทึกข้อตกลงเรื่องการให้การศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในสถานศึกษา ได้ร่วมกันดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญและเป็นอนาคตของชาติด้วยการบูรณาการ การทำงานของทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดสัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม

พันตำรวจเอก อุกฤษฎ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า สถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร ร่วมกับศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดหาร จึงได้ดำเนินการตามโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน เป้าหมายนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ในเขตอำเภอเมืองมุกดาหาร จำนวน ๑๑ โรงเรียน รวมนักเรียนทั้งหมด ๔๙๕ คนที่เข้าทำการสอนตามหลักสูตรครบ ๑๓ บทเรียน และในงานมีพิธีมอบรางวัลให้นักเรียนที่เรียงความ โครงการ D.A.R.E.ที่ชนะเลิศแต่ละโรงเรียน มอบรางวัลการจัดกิจกรรม การแสดงสถานการณ์และมอบประกาศณียบัตรให้นักเรียนที่ผ่านการฝึกอบรม ต่อไป




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

จังหวัดร้อยเอ็ดแจ้งเตือนลักษณะอากาศอันเนื่องมาจาก พายุไต้ฝุ่น “อูตอร์” และอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับแจ้งจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ เรื่อง แจ้งข่าพายุไต้ฝุ่น "อูตอร์” และอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ว่า ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นอีก ในช่วงวันที่ 17 – 19 สิงหาคม 2556 อาจส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างโดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง และรวมไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเป็นลำดับต่อไป

เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดร้อยเอ็ด ขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบต่ำริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดทราบเกี่ยวกับอันตรายอันเกิดจากฝนตกหนักและ คลื่นลมแรง ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 2 – 3 วันนี้ (17 – 19 สิงหาคม 2556) โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัครในพื้นที่อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่,เฝ้าระวังและตรวจสอบ เส้นทาง เขื่อน ฝาย อ่าง คันกั้นน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก รวมทั้งพื้นที่ของเอกชน ถ้าไม่มีความมั่นคงแข็งแรงพิจารณาแล้วเป็นอันตรายให้แจ้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แก้ไขโดยด่วน, ระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาของคนในครอบครัว หากเจ็บป่วย ให้รีบพบแพทย์หรือรักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลใกล้บ้าน สำหรับสัตว์เลี้ยงและพืชการเกษตรให้ระมัดระวังโรคระบาดพืชและสัตว์ หากพบเห็นหรือสงสัยว่าจะเกิดโรคระบาด ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอทันที,หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้นๆ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้นๆ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด หมายเลขโทรศัพท์ 0-4351-2955,0-4351-3632,0-4351-5118



 
วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
19 ส.ค. 56

ร้อยเอ็ด เผยแพร่มาตรฐานการใช้อักษรเบรลล์แก่ผู้นำตาบอด

เมื่อเช้าวันนี้เวลา 10.00 น. (19 สิงหาคม 2556) นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดอบรมเรื่อง การเผยแพร่มาตรฐานการใช้อั กษรเบรลล์ แก่ผู้นำตาบอดสาขาภาคตะวั นออกเฉียงเหนือตอนกลาง ณ ห้องประชุมเพทาย โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น

 ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยการดำเนินงานของ นายโกมล มาลัยทอง รองประธานกองทุนส่งเสริมและพั ฒนาการใช้อักษรเบรลล์แห่งชาติ และคณะ ตามพระราชประสงค์ของสมเด็ จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิราชสุดา ในการสนับสนุนให้คนพิการทุ กประเภท ได้มีโอกาสทางการศึกษาที่สูงขึ้ น จากการที่ประเทศไทยการใช้อั กษรเบรลล์ ยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าที่ ควร แม้แต่ผู้ที่ใช้อักษรเบรลล์ในชี วิตประจำวันส่วนใหญ่ ที่ยังมีทักษะการอ่านและเขี ยนในระดับที่ยังไม่เป็นที่น่ าพอใจ สมาคมคนตาบอดแห่ งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ ยวข้อง มีนโยบายที่จะสนองพระราชประสงค์ ดังกล่าว จึงได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริ มให้นักเรียนและผู้แทนคนตาบอด ตลอดจนบุคลากรของหน่วยงานที่เกี ่ยวข้องกับคนตาบอด ได้มีโอกาสในการเข้าถึงอั กษรเบรลล์ ที่เป็นมาตรฐานของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อส่งเสริมให้บุ คลากรในโรงเรียนสอนคนตาบอดทั่ วประเทศ ได้เข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับ การใช้อักษรเบรลล์ที่เป็ นมาตรฐานเดียวกัน,และเพื่อให้บุ คลากรในโรงเรียนสอนคนตาบอดทั่ วประเทศ ได้นำความรู้ที่ได้จากการฝึ กอบรมดังกล่าว เผยแพร่ให้แก่นักเรี ยนตาบอดและคนตาบอดทั่วไป

นายปัญญา จันทะเสน ผู้แทนคนตาบอดจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า.-การจัดอบรมนี้เป็ นประโยชน์กับคนตาบอด ช่วยพัฒนาการอ่าน เขียนอักษรเบรลล์ เพราะคนตาบอดบางคนไม่มีโอกาสแม้ แต่จะเรียน จึงอ่านและเขียนอักษรเบรลล์ไม่ ได้ หรือบางคนก็ได้เพียงเล็กน้อย การหมั่นฝึกฝนทักษะด้านการอ่ านและเขียนอักษรเบรลล์ให้ดีขึ้ นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก

การจัดกิจกรรมนี้ สมาคมฯใช้บุคลากรที่มีความรู้ เกี่ยวกับการใช้อักษรเบรลล์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ รหัสคณิตศาสตร์ อย่างถูกต้อง เพื่ออบรมให้กับผู้ แทนคนตาบอดในเขตภาคตะวันออกเฉี ยงเหนือ.-  




คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธจังหวัดร้อยเอโ 043-527117

ร้อยเอ็ดประชุมสรรหาคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด จัดประชุมสรรหาคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ณ  ห้องประชุมประดับพลอย  โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น  อ.เมืองร้อยเอ็ด  จ.ร้อยเอ็ด

วันนี้ เวลา 09.30 น.  (19 สิงหาคม 2556)  นายวุฒินันท์  ตปนียากร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดการประชุมสรรหาคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

นายมานิตย์ ทวีหันต์  หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค  กล่าวว่า การประชุมสรรหาคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 มาตรา 5  ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ประกอบด้วย  กรรมการโดยตำแหน่ง  มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนเท่ากับกรรมการโดยตำแหน่ง  แต่งตั้งโดยรัฐมนตรี โดยเลือกจากกลุ่มผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย  สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์   และจากกลุ่มผู้มีความรู้ความสามารถหรือมีประสบการณ์ด้านการแพทย์แผนไทยเป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ.254๖ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ฉบับที่2)  พ.ศ.2552  กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก  ได้ดำเนินการให้มีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ   ในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมาแล้ว  เมื่อปี 2546  ปี 2548  ปี 2550 ปี 2552 และปี 2554  และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว  มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ  2  ปี  นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดปัจจุบัน  จะพ้นจากตำแหน่งตามวาระ  ในวันที่ 3 มีนาคม 2557 จึงต้องมีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า     60 วัน  หรือภายในวันที่  1  มกราคม 2557

นายวุฒินันท์  ตปนียากร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดประชุมสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับจังหวัด  ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย  พ.ศ.๒๕๔๒  มาตรา ๕ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย  ซึ่งจะเป็นมรดกสำคัญและมีคุณค่าต่อประเทศชาติในอนาคต  

การสรรหาในวันนี้ ได้สรรหาจากผู้มีความรู้ความสามารถ หรือมีประสบการณ์ด้านการแพทย์แผนไทยทั้ง ๕ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มหมอพื้นบ้าน กลุ่มผู้แทนองค์การเอกชนพัฒนาด้านการแพทย์แผนไทย  กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายยาแผนไทย กลุ่มผู้ปลูกหรือแปรรูปสมุนไพร เพื่อส่งเข้าสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการระดับประเทศต่อไป   มีผู้ร่วมประชุมทั้งสิ้น ๑๕๐ คน




คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ

กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 043-527117

กรอ.จว.ร้อยเอ็ด ขอให้เพิ่มเที่ยวและเพิ่มจำนวนที่นั่งให้มีความจุเท่ากัน 70 ที่นั่งทุกเที่ยวบิน

คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด (กรอ.จว.ร้อยเอ็ด) ขอให้เพิ่มเที่ยวบินจากเดิมเพิ่มอีกวันละ 2 เที่ยวบิน เป็นวันละ 3 เที่ยวบิน และเพิ่มจำนวนที่นั่งให้มีความจะเท่ากัน 70 ที่นั่งทุกเที่ยวบิน

นายธัชชัย สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด (กรอ.) ครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 โดยมีประเด็นที่สำคัญในที่ประชุม ประกอบด้วย การปรับปรุงขยายทางบริเวณแยกบายพาสโนนเมือง ตัดกับทางหลวงหมายเลข 23 การปรับกันแนวถนนตามคลองปล่อยน้ำส้น จากตัวเมืองร้อยเอ็ด ข้างองค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง ทั้งสองฝั่งลำห้วยเหนือ, ขอให้เพิ่มเที่ยวบินอีกวันละ 2 เที่ยว เป็นวันละ 3 เที่ยวบิน และเพิ่มจำนวนที่นั่งให้มีความจุเท่ากัน 70 ที่นั่งทุกเที่ยวบิน และการัดงาน OTOP กรณีส่วนราชการส่วนกลางให้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้อนุญาต นอกเหนือจากนั้นให้นำเข้าที่ประชุม กรอ.จว.ทุกครั้ง



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
19 ก.ย. 56

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ดจำหน่ายเนื้อสุกรธงฟ้าและไข่ไก่ธงฟ้าลดค่าครองชีพผู้บริโภค

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ด จำหน่ายเนื้อสุกรธงฟ้าและไข่ไก่ธงฟ้าลดค่าครองชีพผู้บริโภค ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม – 19 กันยายน 2556 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด

นายธรวัฒน์ แสงทอง การค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรหมวดอาหารสดในกลุ่มของอาหารโปรตีนที่ปรับราคาสูงขึ้น และมีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้นภามภาวะอุปสงค์อุปทาน ได้แก่ เนื้อสุกร และไข่ไก่ เพื่อบรรเทาภาวะความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสุกร และไข่ไก่ที่ปรับสูงขึ้น สำนักงานการค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้เชื่อมโยงผู้ประกอบจำหน่ายเนื้อสุกรธงฟ้าและไข่ไก่ธงฟ้าในราคาต่ำกว่าราคาขายปลีกในตลาดสดทั่วไป โดยจำหน่ายทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เริ่มวันอังคาร 20 สิงหาคม – 19 กันยายน 2556 ณ บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด ถนนรัฐกิจไคลคลา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และบริเวณหน้าฟาร์ม "บูรพาฟาร์ม” กม.11 ถนนร้อยเอ็ด-มหาสารคาม ตำบลสีแก้ว อำเภอเมืองร้อยเอ็ด




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
19 ส.ค. 56

‘เลยพิทย์’จัดค่าย ASEAN International camp

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย รายงานว่า โรงเรียนเลยพิทยาคม จังหวัดเลย จัดกิจกรรม ASEAN International camp โดยมีโรงเรียนในโครงการ EP/ MEP ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา 51 โรงเรียน ตามแผนงานฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน นางสมถวิล บุญไชย หัวหน้าโครงการ English Program โรงเรียนเลยพิทยาคม จังหวัดเลย เปิดเผยว่า เพื่อให้นักเรียนในโครงการ EP/ MEP ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและนักเรียนในกลุ่มASEAN มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน จะสร้างความตระหนักใน Spirit of ASEAN ใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารและใช้เทคโนโลยีนำเสนอผลงานได้และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างมิตรภาพ เครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักเรียนและครูโรงเรียนในโครงการ EP/MEPในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และครู นักเรียนในกลุ่มประเทศ ASEAN ทั้ง 10 ประเทศ กิจกรรมแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบประกอบด้วย กิจกรรมค่ายโดยจัดเป็นกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์Big Group Activities ที่ มี สถาบัน LEC กิจกรรมศึกษาสภาพธรรมชาติ Sightseeing ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ อำเภอภูเรือ กิจกรรมนำเสนองาน Project Presentation หัวข้อ ‘Attractive Place in my city/country” ซึ่งนักเรียนจากโรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้นำเสนอโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อ จัดรูปแบบ Symposium และกิจกรรมแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมนานาชาติ ในการนี้โรงเรียนเลยพิทยาคมได้เชิญนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 19 และโรงเรียนระดับประถมศึกษาใกล้เคียงเข้ารับฟังการนำเสนอ (Oral Presentation) ของนักเรียนต่างประเทศ และนักเรียนในโครงการ EP ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อ รวมทั้งสิ้น 45 เรื่อง 

พมจ.เลย มอบความช่วยเหลือแม่สู้ชีวิตภาคอีสาน

นายวิสิทธิ์ สนามชวด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเลย พร้อมเจ้าหน้าที่ และ นายทองอร ชารินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนป่าซาง เข้าเยี่ยมบ้านนางเม้า ศรีนอก อายุ 79 ปี บ้านเลขที่ 352 หมู่ 1 บ้านโนนป่าซาง ตำบลโนนป่าซาง อำเภอผาขาว จังหวัดเลย ผู้ที่ได้รับรางวัลแม่สู้ชีวิต ประเภทแม่ของลูกพิการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมหาวิทยาลัยวิทยาลัยมหิดล ในงาน "มหิดล-วันแม่” ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ณ ห้องนิทรรศการ ศูนย์การเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประทานรางวัล ในวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ณ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา แต่นางเม้าฯ ไม่สามารถเดินทางไปรับรางวัลด้วยตัวเองได้ เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรง ทางสำนักงาน พมจ.เลย ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทาง เทศบาล องค์กรบริหารส่วนตำบลในจังหวัดเลย ส่งเรื่องราวนางเม้าฯ เข้าไปยังสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และได้รับการพิจารณาได้รับรางวัลดังกล่าว ซึ่งหลังจากทางสำนักงาน พมจ.เลย ทราบข่าว จึงเดินทางมามอบสิ่งของ และเงินสดจำนวน 2,000 บาท ครอบครัวนี้ ได้รับเป็นเงินเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท และเงินช่วยเหลือผู้พิการจำนวน 500 บาท สำหรับลูกชาย ทุกเดือน ซึ่งต่อไปทางสำนักงานฯ จะทำเรื่องขออนุมัติจัดซื้อรถเข็น พร้อมเงินซ่อมแซมบ้าน ปรับภูมิทัศน์ เพื่ออำนวยสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวัน แก่ผู้สูงอายุและคนผู้พิการต่อไป สำหรับนางเม้าฯ เดิมเป็นชาวอำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น อพยพมาอยู่ที่อำเภอผาขาว จังหวัดเลย เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยสามีพาครอบครัวและลูกมาซื้อที่นา ดำเนินชีวิตตามปกติ จนลูกโตต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมด เหลือแต่ลูกสาวคนโต และลูกชายคนสุดท้อง คอยดูแล หลังสามีตายมีแต่ลูกชายคนเล็กคอยหาเงินมาจุนเจือ แต่มาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ถูกรถชนที่จังหวัดอุดรธานี นอนสลบอยู่ 15 วัน จึงฟื้น เนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนต้องนอนรักษาต่ออีก 2 เดือน จนสามารถเดินเหินได้ กลับมาอยู่ที่บ้าน ได้เพียง 2 เดือน ร่างกายกลับทรุดลง กล้ามเนื้อลีบไม่มีแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ แม่ต้องคอยดูแลทุกวัน ตอนเช้าต้องปลุกไปแปรงฟัน ป้อนข้าว และนำไปนอนทั้งวัน ช่วงเย็นต้องอุ้มไปอาบน้ำ ป้อนข้าว แล้วเข้านอน ทำเช่นนี้มาตั้งแต่ลูกชายอายุ 19 ปี จนปัจจุบันอายุ 35 ปี แต่ก็ต้องทำจนกว่าจะไม่สามารถทำได้ หรือตายจากกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีแรง ต้องอาศัยลูกสาวคนโตมาช่วย จะไม่ไหวอยู่ แต่ก็ต้องทำ

ชาวบ้านฮือต้านนายทุนบุกรุกป่ากว่า 100 ไร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย รายงานว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้าน หมู่ 1 บ้านวังยาว ตำบลนาแขม อำเภอเมือง จังหวัดเลย ได้ร่วมตัวที่สำนักสงฆ์วัดป่าชมพูนุชวิสุทธิ์วนาราม กว่า 100 คน เพื่อร้องทุกข์ว่า ที่ป่าชุมชนของหมู่บ้าน ที่เป็นสำนักสงฆ์และเป็นป่าช้าเก่า มีผู้บุกรุกป่าโค่นต้นไม้ใหญ่พื้นที่ป่าชุมชน เพื่อปลูกยางพารา โดยถูกบุกรุกไปแล้วกว่า 100 ไร่ โดยไม่เกรงใจพระเจ้าที่พักอยู่สำนักสงฆ์ และถูกนายทุนข่มขู่พระสงฆ์ว่าอย่ายุ่งเรื่องของชาวบ้าน นายเสถียร กุณวงศ์ อายุ 74 ปี บ้านวังยาว หมู่ที่ 1 ตำบลนาแขม อำเภอเมือง จังหวัดเลย เป็นคนที่นำพระมาพำนักเพื่อรักษาป่า กล่าวว่า ที่เรียกร้องเพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือนายอำเภอ ลงมาช่วยจัดการเรื่องที่ดินของสาธารณะป่าชุมชนของหมู่บ้าน ให้มีการปักหลักเขตที่ชัดเจน ตนได้มาก่อตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้เมื่อปี 2539 ซึ่งเป็นที่สาธารณะเป็นป่าชุมชนของชาวบ้าน และเป็นป่าช้าของชาวบ้าน เคยขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะมีเนื้อที่ 200 กว่าไร่ ชาวบ้านต้องการเอาพื้นที่แห่งนี้เป็นป่าชุมชน เป็นที่หาของป่า หาสมุนไพรของชุมชนและได้ตกลงกันว่า ส่วนหนึ่งให้เป็นที่สำนักสงฆ์ เพื่อกันให้คนอื่นมาบุกรุกที่ แต่มาระยะ 1- 2 ปีที่ผ่านมา มีนายทุนเข้ามาบุกรุกป่ารอบบริเวณวัด ตัดไม้ต้นใหญ่ทั้งกลางวันกลางคืน พระเคยเข้าไปห้ามแต่กลับทุนนายทุนขู่ ไม่ให้ยุ่งไม่ใช้กิจของพระ ชาวบ้านเคยร้องเรียนไปที่นายอำเภอเมืองแล้ว 4 เดือนที่ผ่านมา แต่เรื่องก็เงียบหายไป จึงได้มีการรวมตัวกันอีกที เพราะพื้นที่ป่าชุมชนถูกรุกไปทุกวัน นายเนรมิต คำภู ปลัดอำเภอ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายอำเภอเมืองเลย กล่าวกับชาวบ้านผู้ชุมนุมว่า ที่ดินป่าชุมชนและที่ตั้งของสำนักสงฆ์แห่งนี้ ในขณะนี้ทางอำเภอกำลังจะดำเนินการเรียกเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมตรวจสอบ รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน มาร่วมตรวจสอบ ผลการตรวจสอบมีผลเป็นอย่างไร จะได้ชี้แจงกับชาวบ้านให้เป็นที่เข้าใจ ในเรื่องของขั้นตอนกฎหมาย และเรื่องการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในการที่เอาที่ของรัฐกลับคืนให้กับชาวบ้าน เรื่องการตรวจสอบขอเวลาภายใน 7 วันให้แล้วเสร็จ

มรภ.เลยจัดสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ปี 56

ผศ.สนิท เหลืองบุตรนาค อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย พร้อมด้วยคณาจารย์ทุกคณะ ทุกสาขาวิชา ร่วมพิธีเปิดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2556 เนื่องใน "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย โดยก่อนพิธีเปิดผู้แทนหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ถวายพานพุ่มเครื่องราชสักการะต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย ขณะที่มีนักเรียน นักศึกษา จากสถานศึกษาต่างๆ ทั่วจังหวัดเลย เดินทางเข้าร่วมงาน พร้อมร่วมกิจกรรม ภายในงานจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับยอกย่องในพระราชสมัญญานามว่า พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย เพราะทรงพระปรีชาสามารถ ทรงศึกษาเชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศหลายภาษา เช่น บาลี อังกฤษ ละตินเป็นพิเศษ สำหรับพระปรีชาสามารถและอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ ทรงศึกษาโดยพระองค์เองจากตำราไทยและมอญ ซึ่งแปลจากตำราโบราณของฮินดู และทรงศึกษาตำราดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์จากยุโรป จนสามารถคำนวณได้ล่วงหน้าถึง 2 ปีว่า จะเกิดสุริยุปราคาเต็ม ดวงในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 และเห็นได้อย่างชัดเจนในประเทศไทยที่บ้านคลองลึก ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงได้รับการยกย่องจากวงการวิทยาศาสตร์ของชาติมหาอำนาจในยุคนั้นเป็นอย่างสูง การจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและพระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” เป็นการเฉลิมพระเกียรติและพระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันเป็น "พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” "พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” "พระบิดาแห่งการวิจัย” และ "พระมหากษัตรนักพัฒนา” ส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ สนับสนุนเป็นกำลังใจและให้โอกาสแก่นักวิจัย นักประดิษฐ์ ได้แสดงผลงานต่อสาธารณชน ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างบรรยากาศทางวิทยาศาสตร์ อันเป็นวิถีทางหนึ่งของการแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ภายในงาน ยังจัดให้นักเรียน นักศึกษา สามารถเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ การประกวดโครงงานทางวิทยาศาสตร์, การสอบแข่งขันทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์, การประกวดวาดภาพจินตนาการทางวิทยาศาสตร์, การประกวดการแสดงทางวิทยาศาสตร์, การแข่งขันตอบปัญหาทางคอมพิวเตอร์, การแข่งขันตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, การแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับ และการประกวดภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (การประกวดภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่น)

จังหวัดสระแก้วปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2556

วันนี้ (19 ส.ค. 56) ที่ โครงการขุดลอกหนองปรือ บ้านหนองปรือ ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานกิจกรรมโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2556 สำหรับกิจกรรมรณรงค์ปลูกต้นไม้ในวันนี้มการปลูกต้นไม้จำนวน 960 ต้น พันธุ์ไม้ประกอบด้วย สะเดา แคนา หว้า ตะเคียนทอง ประดูป่า ต้นแดง นนทรี พะยูง มะค่าโมง ตะเคียนทอง ราชพฤกษ์ และยางนา รวมทั้งพันธุ์หญ้าแฝก จำนวน 15,000 ต้น และโครงการนี้ได้จัดขึ้นบริเวณพื้นที่โครงการขุดลอกหนองปรือ ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ดำเนินการโครงการฟื้นฟู บูรณะแหล่งน้ำเดิมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และอุทกภัย ปี 2556 บนเนื้อที่ 40 ไร่

นางจรัส ใยเยื่อ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้จัดทำโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2555 ทูลเกล้าถวายเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยดำเนินการเป็นระยะเวลา 5 ปี ระหว่างปี พ.ศ.2555 – 2559 ดังนั้น จังหวัดสระแก้ว โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว สถานีพัฒนาที่ดินสระแก้ว อำเภอตาพระยา องค์การบริหารส่วนตำบลทัพราช กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกป่าเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้แสดงความจงรักภักดีและร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนและหน่วยงานราชการได้มีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้และปลูกหญ้าแฝก สนองแนวพระราชดำริที่ทรงห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากสาธารณภัยที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งกระตุ้นให้ชุมชนตระหนักถึงการป้องกันภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น รวมถึงเพื่อลดความเสี่ยงภัยและลดผลกระทบภัยพิบัติทั้งภัยแล้งและอุทกภัยในพื้นที่ รวมถึงเป็นการป้องกันยับยั้งภัยพิบัติได้ดีที่สุด

จังหวัดอำนาจเจริญจัดโครงการทอดผ้าป่ากองทุนแม่ของแผ่นดินรวมใจ เทิดไท้องค์ราชินี ประจำปี 2556

ที่จังหวัดอำนาจเจริญ  ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับ จังหวัดอำนาจเจริญจัดโครงการทอดผ้าป่ากองทุนแม่ของแผ่นดินรวมใจ เทิดไท้องค์ราชินี ประจำปี 2556 เนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินงานโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ครบรอบ 10 ปี ในปี 2556 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน และสร้างกระแสความร่วมมือของประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

วันนี้ (19 ส.ค. 56) นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่ากองทุนแม่ของแผ่นดินรวมใจ เทิดไท้องค์ราชินี ประจำปี 2556  ณ  หอประชุมพญานาครินทร์  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดินในจังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 198 หมู่บ้าน และหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 40 หมู่บ้าน เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,500 คน ในงานจัดให้มีกิจกรรมประกอบด้วย การทอดผ้าป่ากองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 238 หมู่บ้าน  การถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป  การจัดแสดงนิทรรศการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินและศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นระดับจังหวัด  การจัดแสดงสินค้าโอท็อป  โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับกองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นและศูนย์เรียนรู้ดีเด่นจังหวัดอำนาจเจริญประจำปี 2556 ซึ่งได้แก่ บ้านนาสีดา  หมู่ที่ 2  ตำบลชานุมาน  จังหวัดอำนาจเจริญ  รองชนะเลิศ ได้แก่ บ้านหนองยอ  หมู่ที่ 3  ตำบลจิกดู่  อำเภอหัวตะพาน  จังหวัดอำนาจเจริญ  สำหรับยอดเงินในการทอดผ้าป่าซึ่งเป็นการแสดงพลังศรัทธาของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ในการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เงิน จำนวนทั้งสิ้น 502,860 บาท




จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว

จังหวัดอำนาจเจริญได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ประจำปี 2557ครั้งที่ 35

จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับเกียรติจากกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเจ้าภาพดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2557 รอบคัดเลือกนักกีฬาตัวแทนเขต 3 ภาคอีสานตอนล่าง ระหว่างวันที่ 16 – 24 พฤศจิกายน 2556  ณ  จังหวัดอำนาจเจริญ   เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม จังหวัดอำนาจเจริญจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2557 พร้อมทั้งจัดประชุมโดยมีสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ เป็นผู้รับผิดชอบ

ในการจัดการแข่งขันจะมีนักกีฬา  ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ของจังหวัดต่างๆ ภายในเขต 3 ภาคอีสานตอนล่างจำนวน 10 จังหวัดเข้าร่วมทำการแข่งขันกว่า 4,000 คน ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา  อุบลราชธานี  มุกดาหาร  ร้อยเอ็ด  บุรีรัมย์  ชัยภูมิ  สุรินทร์      ศรีสะเกษ  ยโสธร และจังหวัดอำนาจเจริญ

นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จัดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2557 รอบคัดเลือกนักกีฬาตัวแทนเขต 3 ภาคอีสานตอนล่าง จะมีชนิดกีฬาที่จัดการแข่งขัน จำนวน 34 ชนิดกีฬา  สำหรับสนามที่ทำการแข่งขันจะใช้สนามกีฬากลางจังหวัดอำนาจเจริญ  สนามกีฬาเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ  สนามกีฬาวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ และสนามกีฬาโรงเรียนอำนาจเจริญ ส่วนที่ยังขาด เนื่องจากจังหวัดอำนาจเจริญมีไม่ครบและไม่มีความพร้อมในกีฬาบางชนิด จึงจำเป็นจะต้องไปจัดการแข่งขันในจังหวัดอื่น ๆ เช่น จังหวัดอุบลราชธานี   สุรินทร์      ศรีสะเกษ  สำหรับชื่อเกมส์การแข่งขัน ที่ประชุมมีมติให้ใช้ชื่อเกมส์การแข่งขัน คือ "อำนาจเจริญเกมส์”





จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว

ผบ. นรข. เขตอุบลราชธานี นำ ๔ มาตรการสกัดกั้นยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน

อุบลราชธานี : นำมาตรการด้านการข่าว,การลาดตระเวนสกัดกั้น,การเฝ้าตรวจและการจับกุมและทำลายเครือข่ายเป็นแนวทางการปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มข้นในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านตามลำแม่น้ำโขง        

นาวาเอกสุทัศน์ อิ่มอุไร ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี (นรข.เขตอุบลราชธานี) อำเภอเขมราฐ กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติภารกิจของหน่วยในการสกัดกั้นการลักลอบและลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าในพื้นที่ ในโอกาสที่นายอุดร ห่อทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค ๓ พร้อมคณะติดตามผลการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นการลักลอบนำเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านของ นรข.เขตอุบลราชธานี อำเภอเขมราฐ ว่าในการปฏิบัติภารกิจของหน่วยได้นำมาตรการสำคัญ ๔ มาตรการ มาเป็นแนวปฏิบัติ ประกอบด้วย มาตรการด้านการข่าว โดยเน้นเส้นทางลำเลียง,เครือข่ายผู้ค้า,พื้นที่เป้าหมายการลักลอบตลอดทั้งพฤติกรรมบุคคลที่เกี่ยวข้อง, มาตรการลาดตระเวนสกัดกั้นตามลำนำโขง ที่รับผิดชอบในพื้นที่อำเภอโพธิ์ไทร,นาตาล,โขงเจียม,เขมราฐ รวมระยะทางกว่า ๑๗๐ กิโลเมตร,มาตรการเฝ้าตรวจ โดยเน้นพื้นที่จุดลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามลำน้ำโขงและเส้นทางลำเลียงจากแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในและมาตรการการประสานการจับกุมและทำลายเครือข่าย ซึ่งมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งด้านฝ่ายปกครอง,ทหารบก,ตำรวจ,ป่าไม้,ผู้นำชุมชนและ อป.พร. ในพื้นที่

ด้าน นาวาโท กริช กองศรี หัวหน้าสถานีเรือเขมราฐ นรข.เขตอุบลราชธานี กล่าวว่า การปฏิบัติภารกิจตามแนวทาง ๔ มาตรการดังกล่าว ถือเป็นภารกิจสำคัญที่หน่วยได้ปฏิบัติอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ทั้งนี้เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านตามลำแม่น้ำโขง ที่มีสภาพภูมิประเทศที่เอื้อต่อกลุ่มผู้ค้าไม่ให้นำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้




พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
๐๘๑ – ๙๒๔ ๘๖๐๙ /ข่าว/ ๑๙ ส.ค.๕๖

ผอ.ปปส.ภาค ๓ ติดตามการดำเนินงานด้านสกัดกั้นยาเสพติดของ นรข. เขตอุบลราชธานี ที่ อ.เขมราฐ

อุบลราชธานี : ผอ.ปปส.ภาค ๓ นำคณะทำงาน ติดตามผลการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี ที่ อำเภอเขมราฐ ซึ่งมีผลงานด้านการสกัดกั้นและจับกุมการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

นายอุดร ห่อทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค ๓ พร้อมคณะติดตามผลการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นการลักลอบนำเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี อำเภอเขมราฐ โดยมีนาวาเอกสุทัศน์ อิ่มอุไร ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ร่วมประชุมและบรรยายสรุปแนวทางการปฏิบัติงาน,ผลการดำเนินงานพร้อมปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าในประเทศจากที่เคยลำเลียงจากภาคเหนือเปลี่ยนมาเป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะตามลำแม่น้ำโขง ในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและอำนาจเจริญ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี ซึ่งมีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยต่อการลักลอบนำยาเสพติดเข้าพื้นที่และเป็นแหล่งพักยาเสพติดก่อนที่จะมีการลักลอบลำเลียงโดยบุคคลหรือส่งเป็นสิ่งของเข้าสู่พื้นที่ตอนใน

ในการปฏิบัติการสกัดกั้นการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในพื้นที่นั้น หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี ได้ร่วมดำเนินงานสกัดกั้นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง, ทหารบก,ตำรวจ,ป่าไม้,ผู้นำหมู่บ้าน,อป.พร. ตามพื้นที่ที่เป็นจุดนำเข้ายาเสพติดและเส้นทางที่มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอโพธิ์ไทร,นาตาล,โขงเจียม,ศรีเมืองใหม่,เขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานีและในพื้นที่อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถจับกุมการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านและลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนในได้อย่างต่อเนื่อง

พร้อมนี้ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค ๓ ได้กล่าวถึงบทบาทของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี ที่มีบทบาทสำคัญในการสกัดกั้นการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าในพื้นที่และการลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนใน ซึ่งปฏิบัติภารกิจโดยเน้นการติดตามข่าวและความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้า,ผู้ลำเลียง จนสามารถสกัดกั้นและจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง สนง.ปปส.ภาค ๓ พร้อมให้การสนับสนุนในการปฏิบัติภารกิจ




พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
๐๘๑ – ๙๒๔ ๘๖๐๙ /ข่าว/ ๑๙ ส.ค.๕๖

สุรินทร์แถลงข่าวการจัดมวย ศึกยอดมวยเมืองไอยรามหากุศล

สุรินทร์แถลงข่าวการจัดมวย ศึกยอดมวยเมืองไอยรามหากุศล หาทุนสนับสนุนกิจกรรมต้านภัยยาเสพติด และปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีตำรวจภูธรกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

 ที่ห้องประชุมโรงแรมสุรินทร์มาเจสติก อ. เมือง จ. สุรินทร์ พันตำรวจเอกนิธิศ ปิติธีรโชติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง แถลงข่าวร่วมกับโปรโมเตอร์มวย ในการจัดมวยการกุศล ศึกยอดมวยเมืองไอยรามหากุศล ในวันที่ 17 กันยายน 2556 ณ ศูนย์ส่งเสริมกีฬามวยจังหวัดสุรินทร์ สนามศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เวลา 19.30 น.เป็นต้นไป จัดโดยคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนสนับสนุนกิจกรรมต้านภัยยาเสพติด และปรับปรุงภูมิทัศน์ สถานีตำรวจภูธรกาบเชิง อ. กาบเชิง จ. สุรินทร์ ซึ่งมีคู่มวยชื่อดังของวงการมวยประกบคู่ขึ้นสังเวียนในครั้งนี้ประกอบด้วย เกรียงไกร ต. ศิลาชัย พบกับ คมเพชรเล็ก ลูกพระบาท ขวัญชัย เพชรนิโรธ ปะทะ โคบาลเล็ก ฟ้าใสรีสอร์ท และเสือดำ สันติสุรินทร์ พบกับ เปลวไฟ ส. บดินทร์เดชา และคู่มวยชื่อดังอีกกว่า 14 คู่สอบถามรายระเอียด หรือจองบัตรได้ที่ สถานีตำรวจภูธรกาบเชิง โทร. 044-559-042 หรือ 092-174-9528




ประนนท์ ไม้หอม / ส.ปชส.สุรินทร์ / รายงาน

จ.กาฬสินธุ์ ออกตรวจประเมินตลาดสด และชมรมผู้ประกอบการอาหาร ประจำปี 2556

คณะกรรมการประกวดชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร จังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2556 ได้ออกตรวจตลาดสด ชมรมร้านอาหารในจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อพิจารณาประเมินผลตามหลักเกณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์ตลาดสดน่าซื้อระดับดีมาก

นายปริญญา กองกาย กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการประกวดชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร จังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2556 เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) เพื่อให้อาหารที่ผลิตและบริโภค มีความปลอดภัย ได้มาตรเทียบเท่ากับสากลนำไปสู่การเป็นครัวของโลก โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการประสานแผนยุทธศาสตร์ ความปลอดภัยด้านอาหารร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชน ภาคประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการค้าอาหาร ซึ่งเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความปลอดภัยด้านอาหาร โดยการจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารเพื่อพัฒนาและผลักดันการผลิต ดังนั้น จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้จัดให้มีการประกวดชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2556 ขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคม 2556 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ สร้างพลังความเข้มแข็งของชมรมในการพัฒนาคุณภาพความปลอดภัยด้านอาหารของ จังหวัดกาฬสินธุ์ และแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท คือ ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร และชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารในตลาดสด

สำหรับการประกวดครั้งนี้นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกประเมิน พิจารณาให้คะแนนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีนายอนันต์ พิมพะสาลี รองปลัด อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานกรรมการ, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นรองประธาน, มีผู้แทนจากประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์, ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์, พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์, เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขเป็นกรรมการและเลขานุการ การประกวดชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารมี ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร/แผงลอย อำเภอกมลาไสย ส่งเข้าประกวดเพียงแห่งเดียว ส่วนชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารในตลาดสด มีชมรมผู้ประกอบการอาหารในตลาดสดเทศบาลกุดสิม อำเภอเขาวง, ตลาดสดเทศบาลตำบลนาคู อำเภอนาคู, ตลาดสดเทศบาลตำบลท่าคันโท อำเภอท่าคันโท, ตลาดสดเทศบาลตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด, ตลาดสดเทศบาลตำบลร่องคำ อำเภอร่องคำ, ตลาดสดเทศบาลตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ และตลาดสดทุ่งนาทอง ตลาดเอกชนอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ที่ได้รับรางวัลชมรมผู้ประกอบการตลาดดีเด่น 2 ปีซ้อน คือ ปี 2553 และปี 2555 เป็นตลาดสดน่าซื้อระดับดีมาก (5 ดาว) เมื่อปี 2555 เข้าร่วมประกวด

ซึ่งการให้คะแนนพิจารณาจากเป็นตลาดสดประเภทที่ 1 ผ่านการรับรองมาตรฐาน, มีกิจกรรมการดำเนินงานชมรมอย่างต่อเนื่อง, มีการตรวจสอบสารปนเปื้อนในอาหารและการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง, มีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาตลาด, ชมรมมีเครือข่ายและกิจกรรมเพื่อสังคม และมีความพร้อมเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน โดยรางวัลชนะเลิศทั้ง 2 ประเทศจะได้รับรางวัลเงินสดและโล่รางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ต่อ ไป




ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ จัด โครงการ พลังใจ ก้าวใหม่ของชีวิต ที่สวนสะออน หวังสังคมให้โอกาสเคยผู้ติดยา

นายไพรัช ปฐมวงศ์ไพรัช ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินโครงการ พลังใจ ก้าวใหม่ของชีวิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ ในการที่จะนำพาเยาวชน ประชาชนให้ห่างไกลยาเสพติด โครงการ พลังใจ ก้าวใหม่ของชีวิต จัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 13 – 19 สิงหาคม 2556 ณ ค่ายลูกเสือเพื่อการอนุรักษ์ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าลำปาว หรือสวนสะออน อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยการนำเยาวชน ประชาชน ที่สมัครใจ จำนวน 68 คน เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด หลักสูตร 7 วัน เน้นกิจกรรมกระบวนการ เชิงสร้างสรรค์ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้ารับการฟื้นฟู ได้เรียนรู้ และปรับเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ รวมถึงพฤติกรรม ให้ห่างไกลจากยาเสพติด สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

นายไพรัช ปฐมวงศ์ไพรัช ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากเก็บข้อมูลของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 68 คน พบว่า ทุกคนมีความคาดหวังว่าภายหลังเสร็จสิ้นการเข้ารับการฟื้นฟู สังคมจะให้การยอมรับและเปิดโอกาสให้เข้าทำงานเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป




วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

คนร้ายโยนมือถือ ยาบ้าข้ามกำแพงเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ยาบ้า 314 เม็ด

คนร้ายแอบโยนโทรศัพท์มือถือห่อด้วยโฟม ยัดใส่ถุงเท้า ยาบ้า 314 เม็ด บรรจุใส่ในสายยางตัดเป็นท่อนยาวเกือบ 1 ฟุต โยนข้ามกำแพงเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ

เช้ามือของวันที่ 19 สิงหาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตรวจเวรยามเจอบริเวณสนามหน้าภายในเรือนจำคาดคนร้ายโยนส่งลูกค้าในเรือนจำ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 สิงหาคม 2556 พ.ต.ท.ทูล เครือสิงห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่ามีคนร้ายโยนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบด้วย เมื่อรับแจ้งจึงได้มอบหมายให้ ร.ต.ต.บุญมี กุงแสนเมือง รอง สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ โดยนายยศวัฒน์ บำเพ็ญธรรมสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่เรือนจำ ได้นำสิ่งของที่ตรวจค้นเจอแต่ไม่พบคนร้ายที่โยนสิ่งของเข้ามาได้ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย จำนวน 3 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์สายชาร์ต ซิมโทรศัพท์ ยาบ้า จำนวน 314 เม็ด แต่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายที่โยนเข้ามาได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป

นายยศวัฒน์ บำเพ็ญธรรมสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้มีคนร้ายโยนโทรศัพท์มือถือ ยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้เพราะใช้เวลาช่วงกลางคืน ล่าสุดเวลา 10.00 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2556 ได้มีคนร้ายโยนโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องแต่ไม่ข้ามกำแพงทาง รปภ.เก็บไว้ได้ เวลา 02.30 น. วันที่ 19 สิงหาคม 2556 เจ้าหน้าที่เรือนจำที่ปฏิบัติหน้าที่เวรยามได้พบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องห่อด้วยโฟมแผ่นบาง ๆ ติดเทปกาวสีดำยัดใส่ถุงเท้า บริเวณสนามหญ้า ต่อมาเวลา 03.00 น. พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ห่อด้วยโฟม เอาแผ่นพลาสติกห่อ ยาบ้าถุงสีฟ้า จำนวน 314 เม็ด ที่บรรจุในท่อสายยางตัดเป็นท่อนยาวเกือบ 1 ฟุต ที่แดน 6 เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายคงจะโยนเข้ามาให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำกาฬสินธุ์แต่เจ้าหน้าที่มาพบเสียก่อน ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่เวรยามได้กวดขัน เฝ้าระวังตรวจตราแนวกำแพงเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมนี้เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ จะดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV รอบเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ทั้ง 4 จุด เพื่อป้องกันและจับกุมคนร้ายที่มาโยนสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ประชาชนเข้ารับการตรวจคัดกรองตาต้อกระจก ตามโครงการ ชาวกาฬสินธุ์ปลอดตาต้อกระจก

ประชาชนกว่า 700 คน เข้ารับการตรวจคัดกรองตาต้อกระจกที่โรงพยาบาลธีรวัฒน์ ตามโครงการ ชาวกาฬสินธุ์ปลอดตาต้อกระจก

นายแพทย์ ธีรวัฒน์ ร่มไทรทองไพรัช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธีรวัฒน์ จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลบ้านแพร้ว โรงพยาบาลศุพมิตรและ โรงพยาบาลธีรวัฒน์ ได้ร่วมกันจัดโครงการ จังหวัดกาฬสินธุ์ปลอดตาต้อกระจก เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปีงบประมาณ 2556 โดยมีเป้าหมายที่จะให้ชาวกาฬสินธุ์ อายุ 50 ปีขึ้นไป ประมาณ 2 แสนคนเศษ ปลอดจากอาการตาต้อกระจก ภายในปี 2556 นั้น ปรากฏว่า ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการยังมีไม่ถึง ร้อยละ 50 ทั้งนี้อาจเป็นเพราะหลายสาเหตุ อาทิ การกระจายข่าวสารยังไม่ทั่วถึง ,กลุ่มเป้าหมายไม่สะดวกในห้วงเวลาที่มีการนัดหมายคัดกรองของโรงพยาบาล หรือ ขาดความเชื่อมั่นต่อโครงการซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาผ่าตัดแต่อย่างใด และในวันนี้ที่โรงพยาบาลธีรวัฒน์ เป็นการตรวจคัดกรองผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 700 คน ซึ่งมีทั้งผู้ที่เตรียมเข้ารับการรักษาเผ่าตัด ตา ดวงครั้งแรก และอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่พร้อมจะผ่าตัดตา ดวงที่ 2 แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ได้กล่าวว่าพร้อมจะสนับสนุนโครงการชาวกาฬสินธุ์ปลอดตาต้อกระจกต่อเนื่องไปจนถึงปีงบประมาณ 2557 ดังนั้นผู้ที่พลาดจากการดำเนินการในห้วงเวลานี้ ขอให้ติดตามโครงการนี้ได้อีกในห้วงเดือนตุลาคม 2556 โดยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพทุกแห่งใกล้บ้าน หรือที่โรงพยาบาลธีรวัฒน์ ได้ทุกวัน




วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

ขอนแก่นจัดฝึกอบรมพนักงานดับเพลิงสำหรับพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่

วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอนแก่นฝึกอบรมพนักงานดับเพลิงเพื่อนำไปพัฒนาทีมกู้ภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อีสานตอนบน

นายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิด "การฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานดับเพลิง รุ่นที่ 8ประจำปี 2556 ณ ห้องฝึกอบรม อาคาร B ๑ วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วิทยาเขตขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 60 คน ในระหว่างวันที่ 18 – 23 สิงหาคม 2556

นายณัฐวัฒน์ เกตุจันทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวการฝึกอบรมครั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้กับบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาคอีสานตอนบนให้มีการซักซ้อมเพิ่มความชำนาญในการป้องกันภัยในพื้นที่ยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงภัยธรรมชาติจึงต้องมีการเร่งอบรมสำหรับหลักสูตรที่ทำการอบรมก็มีการผจญเพลิง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การใช้เงื่อนต่างๆในการกู้ภัยความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า การกู้ภัยสารเคมี การใช้เครื่องดับเพลิงในรถดับเพลิง การกู้ภัยการใช้ก๊าซรวมทั้งการฝึกระเบียบวินัย จริยธรรมคุณธรรมสำหรับผู้กู้ภัย สำหรับวิทยากรก็มาจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น ตำรวจภูธรขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยและบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถผ่านประสบการกู้ภัยมาอย่างโชกโนเป็นวิทยากรร่วม หลังการฝึกอบรมผู้เข้าอบรมก็จะนำไปพัฒนาการกู้ภัยในองค์กรปกครองท้องถิ่นของตนเอง

เรือนจำชัยภูมิเบิกเนตรพระพุทธรูปฯ ให้ผู้ต้องขังเคารพกราบไหว้ร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ

เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ สร้างพระพุทธรูปปางประทานพร ให้ผู้ต้องขังได้กราบไหว้สักการะบูชา ช่วยกล่อมเกลาจิตใจ ให้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556

วันนี้ ( 19 ส.ค. 2556 )ภายในเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ นายนิพนธ์ สาธิตสมิตพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานในพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปปางประทานพร "พระพุทธชัยภูมิบวรมงคล” ซึ่งเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดสร้างขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เรือนจำ และผู้ต้องเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ ได้กราบไหว้ สักการะบูชา โดยได้ประดิษฐานไว้ ณ สนามแดนกลางภายในเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ โดยมีพระราชภาวนาวราจารย์ (หลวงพ่อผาเกิ้ง) รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ แห่งวัดชัยภูมิพิทักษ์(ผาเกิ้ง) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เบิกเนตรพระพุทธรูปปางประทานพร ให้เป็นที่ยึดเหนียวจิตใจของผู้ต้องขังทุกคน พร้อมที่จะกลับตัวเป็นพลดีของสังคม ภายหลังจากพ้นโทษ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556





สุระพงค์ สวัสดิ์ผล ข่าว

อบจ.ชัยภูมิ หนุนแข่งเต้นฮูลาฮูป ออกกำลังกายช่วยลดโรค ลดพุง

องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ จัดแข่งขันลีลาการออกกำลังกายด้วยฮูลาฮูป รณณงค์ให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย สร้างสุขภาพ ลดความเสี่ยงโรคภัยไข้เจ็บ และลดไขมันหน้าท้องอีกด้วย
 
ที่อาคารสิริวัณวรี สนามกีฬาจังหวัดชัยภูมิ วันนี้ 19 ส.ค.56 นายมนตรี ชาลีเครือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เปิดการแข่งขันการออกกำลังกายโดยใช้อุปกรณ์ฮูลาฮูป ตามโครงการสร้างเสริมสุขภาพลดความเสี่ยง ไร้โรค ไร้พุง ซึ่ง นางจันทิมา วงศ์ฮาด ผู้อำนวยการกองส่งเสริมคุณภาพชีวิต จัดขึ้น เพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มเป็นพลังรักสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ อันจะช่วยใช้ประชาชนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคภัย
 
การแข่งขันครั้งนี้ มีกลุ่มตัวแทนผู้รักสุขภาพจาก 16 อำเภอ ของจังหวัดชัยภูมิ เข้าร่วมแข่งขัน โดยทีมที่ชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท รองชนะเลิศ 15,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลำดับ รางวัลชมเชย 2,000 บาท ซึ่งหลังพิธีเปิด นายมนตรี ชาลีเครือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และแขกที่มาร่วมงาน ร่วมออกกำลังกายด้วยฮูลาฮูป กับ ผู้เข้าแข่งขัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน ผลการแข่งขัน ชนะเลิศได้แก่ ทีม อำเภอแก้งคร้อ รองชนะเลิศได้แก่ทีมอำเภอคอนสวรรค์ และทีมอำเภอเมืองชัยภูมิ
 


 

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

จังหวัดนครราชสีมา ดึงเยาวชนสร้างภูมิคุ้มกันไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด ในโครงการฝึกการอบรมเยาวชนกลุ่มเสี่ยงต้านภัยยาเสพติด

วันนี้ (19 ส.ค. 56) เวลา 10.00 น.   ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีมอบใบกาศนียบัตรและปิดการฝึกอบรมโครงการฝึกการอบรม เยาวชนกลุ่มเสี่ยงต้านภัยยาเสพติด จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2556 รุ่นที่ 1 ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมา โดยในการฝึกอบรมในครั้งนี้ได้มีการฝึกอบรมมาตั้งแต่วันที่ 16-19 สิงหาคม 2556 รวมระยะเวลา 4 วัน 3 คืน โดยมีนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6  จากโรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เข้ารับการฝึกอบรมจำนวน ทั้งสิ้น 130 คน

ด้าน ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการอบรมในโครงการนี้ ไม่ใช่เป็นผู้เสพสารเสพติดหรือเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด แต่เป็นนักเรียน กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหากไม่ได้รับองค์ความรู้หรือภูมิคุ้มกัน อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ ดังนั้นโครงการฝึกอบรมเยาวชนกลุ่มเสี่ยงต้านภัยยาเสพติด นั้น จัดขึ้นเพื่อแก้ไขพฤติกรรมสร้างระเบียบวินัย ปรับเปลี่ยนบุคลิกใหม่ และเมื่อผ่านการอบรมจะนำเข้าเป็นแนวร่วมเยาวชนอาสาพลังแผ่นดินช่วยเหลือฝ่าย ปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ในการบริการสังคม บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะ และไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งให้ผู้เข้ารับการอบรม มีความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานในการที่จะประกอบอาชีพโดยสุสริต และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุข มีจิตสำนึกในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชนของตนและเป็นแนวร่วมเยาวชนอาสาพลังแผ่นดินช่วยเหลือฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ในการบริการสังคมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะ 

ผู้ว่าฯมหาสารคาม ขอความร่วมมือทุกบ้านกำจัดลูกน้ำยุงลาย ลดอัตราการระบาดไข้เลือดออก

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือทุกครัวเรือน ชุมชน ร่วมกันป้องกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อลดอัตราการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก หลังพบว่าจังหวัดมหาสารคามมีอัตราป่วยสะสมเพิ่มสูงขึ้น มากกว่า 1,000 ราย

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า จากรายงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ที่ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-28 กรกฎาคม 2556 จังหวัดมหาสารคาม มีรายงานจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมแล้ว 1,449 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 151.24 ต่อแสนประชากร โดยมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 10-14 ปี โดยเป็นกลุ่มนักเรียนจำนวนสูงที่สุดถึง 1,111 ราย ส่วนอำเภอที่มีอัตราการป่วยสะสมสูงสุดได้แก่ อำเภอกันทรวิชัย รองลงมาได้แก่ อำเภอเมือง วาปีปทุม โกสุมพิสัย พยัคฆภูมิพิสัย บรบือ แกดำ ยางสีสุราช นาเชือก เชียงยืน กุดรัง ชื่นชม และนาดูน ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกครัวเรือน ชุมชน ได้ร่วมกันป้องกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อลดประชากรยุงและลดอัตราการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก พร้อมหมั่นทำความสะอาดบ้านเรือน คว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง นอนกางมุ้งกันยุงกัด ดูแลบุตรหลาน ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ หากพบมีอาการไข้สูง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

ทั้งนี้ ในจังหวัดมหาสารคาม จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นต้นมา พบ 94 ราย กุมภาพันธ์ 90 ราย มีนาคม 130 ราย เมษายน 65 ราย พฤษภาคม 155 ราย มิถุนายน 463 ราย และ เดือนกรกฎาคม 452 ราย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ตร.ภูธรมหาสารคาม ปลูกป่าถวายแม่ของแผ่นดิน

ตร.ภูธรมหาสารคาม ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ สภ.กุดรัง ร่วมปลูกป่า ตามโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี ถวายแม่ของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายกานต์ ศรีบุญลือ นายอำเภอกุดรัง นำเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรกุดรัง ส่วนราชการในสังกัดอำเภอกุดรังและประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้ ตามโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี ถวายแม่ของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 โดยใช้พื้นที่ดำเนินการบริเวณหลังสถานีตำรวจภูธรกุดรัง รวม 6 ไร่

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องของป่าไม้ ว่า "เมืองไทยไม่มีแหล่งน้ำจืดที่ไหนเลยนอกจากป่า ป่าเป็นแหล่งน้ำจืด ป่าเป็นที่เก็บขังน้ำบริสุทธิ์สำหรับพวกเรา ได้ทำมาหากิน ได้บริโภค เผื่อว่าผืนดินขอเรานี้จะได้เป็นผืนดินที่เป็นประโยชน์ให้ชีวิตของพวกเราอย่างแท้จริง ที่เราเป็นนักเกษตรกรรม กสิกรรม ถ้าขาดต้นไม้ ขาดป่า เราก็ขาดความชุ่มชื้น” ดังนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม จึงได้ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรกุดรัง และชาวอำเภอกุดรังปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

สำหรับพันธุ์ไม้ที่นำมาปลูกครั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคาม ประกอบด้วย ไท้พะยูง ไม้มะค่า ไม้สะเดา ตะแบก และอื่น ๆ รวม 1,000 กล้า




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

งาน Makasarakham Festivles ทำรายได้สู่จังหวัดมหาสารคามกว่า 4.12 ล้านบาท

งานแสดงและจำหน่ายสินค้า Makasarakham Festivles 2013 ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-5 สิงหาคม ที่ เจ.เจ.มอลล์ กรุงเทพมหานคร สามารถนำรายได้เข้าสู่จังหวัดรวมกว่า 4.12 ล้านบาท โดย สินค้าอาหารและแปรรูปจากเนื้อสัตว์เป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ขณะที่ผู้ประกอบการมีช่องทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น

นางสาวจิรานุช คันธสุวรรณ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ตามที่ จังหวัดมหาสารคาม ได้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า Makasarakham Festivles 2013 ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-5 สิงหาคม ที่ศูนย์การค้า เจ.เจ.มอลล์ จตุจักรตลาดนัดติดแอร์ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงานพร้อมประชาสัมพันธ์งานผ่านสื่อส่วนกลาง ด้วยนั้น ผลที่ได้จากการจัดงานดังกล่าว สามารถสร้างช่องทางการจำหน่ายและประสบผลสำเร็จในการเชื่อมโยงตลาดในภูมิภาคสู่ประชาชนที่เป็นผู้บริโภคในประเทศได้อย่างรวดเร็ว โดยมียอดจำหน่ายรวมกว่า 4.12 ล้านบาท สินค้าที่สามารถทำรายได้สูงสุด คือ กลุ่มสินค้าอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก หม่ำ ปลาส้ม ไก่ย่าง ส้มตำ เห็ดย่าง และขนมประเภทต่าง ๆ รองลงมาจะเป็นสินค้าประเภทผ้าไหม ผ้าฝ้าย เสื่อกก ถ้วยชามเบญรงค์ ข้าวสารหอมมะลิอินทรีย์ และกลุ่มสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร

ซึ่งการจัดงานดังกล่าว พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นแนวทางในการส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยของจังหวัดให้ได้มีช่องทางการตลาดใหม่ ๆ เป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังมีโอกาสได้เจรจาด้านการค้ากับผู้ค้ารายใหญ่ในกรุงเทพมหานคร เช่น ตลาดนัดจตุจักรและศูนย์การค้าแพลทตินัม ทำให้ผู้ประกอบการมีความพึงพอใจ พร้อมขอให้จังหวัดได้ขยายช่องทางการตลาดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว