วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

เลือกตั้ง สว.ล่วงหน้าจังหวัดนครพนมและนอกเขตจังหวัด

เรือโทสมควร  มั่นคง  ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาล่วงหน้าในจังหวัดนครพนมและนอกเขตจังหวัด  ซึ่งจังหวัดนครพนมนครพนม มีผู้มาลงทะเบียนในจังหวัดนครพนม  จำนวน 402 คน มีผู้มาใช้สิทธิ  361 คน  คิดเป็น 89.90 เปอร์เซ็นต์  สำหรับการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดมีผู้มาละทะเบียน  1,552 คน  ผู้มาใช้สิทธิ  123 คน  คิดเป็น  7.93 เปอร์เซ็นต์

รมต.ว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงพื้นที่ยโสธร

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกรชาวยโสธรที่อำเภอไทยเจริญ ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอไทยเจริญ นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ดร. พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน เรื่อง "ชุมชน...ชมจันทร์...หวาน...เจี๊ยบ” ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีนโยบายในการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ของชุมชน เสริมสร้างรายได้และสร้างคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน ด้วยการนำองค์ความรู้ ผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของกระทรวงวิยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาถ่ายทอดให้กับเกษตรกรในอำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร โดยเฉพาะความรู้ด้านการปลูกต้นผักหวานป่า ต้นชมจันทร์ ความรู้ด้าน การผลิตก้อนเชื้อเห็ด (เห็ดตีนแรด และเห็ดขอนขาว) การผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง พร้อมกันนี้ ดร. พีรพันธุ์ พาลุสุข ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มอบพันธุ์ไก่พื้นเมือง 3 สายพันธุ์ ให้แก่เกษตรกร ที่มาร่วมงานเพื่อนำไปทดลองเลี้ยง เพื่อให้เกิดความชำนาญ จนสามารถพัฒนาเป็นอาชีพต่อไปได้

ยโสธรประกาศผลคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556

จังหวัดยโสธร ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556 จำนวน 3 ราย จะเดินทางเข้ารับครุฑทองคำและประกาศเกียรติคุณ ในวันที่ 1 เมษายน 2556 ที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี เป็นวันข้าราชการพลเรือน คือเมื่อปี 2471 เป็นวันที่มีการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฉบับแรก และทุกปีคณะอนุกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี จะมอบหมายให้จังหวัดต่าง ๆ ดำเนินการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ผู้ปฏิบัติงานบริการประชาชน อย่างทุ่มเท เสียสละเวลา เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ จังหวัดยโสธร ได้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น จำนวน 3 ราย ดังนี้

1. นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ อำเภอคำเขื่อนแก้ว

2. นางสุนทรา เชยกลิ่นเทศ ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนทรายมูลวิทยา

3. จ่าเอกวีระวัฒน์ แก้วก่อง ตำแหน่ง เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ อำเภอเมืองยโสธร

ซึ่งข้าราชการพลเรือนดีเด่น ทั้ง 3 คน จะเข้ารับรางวัลเป็นเข็มเชิดชูเกียรติครุฑทองคำและ ประกาศเกียรติบัตร จากนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 เมษายน 2557 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ส่วนข้าราชการจังหวัดยโสธร อีก 20 คน ที่มิได้รับการคัดเลือก จังหวัดยโสธร จะมอบเกียรติบัตรยกย่องเป็นข้าราชการดีเด่นระดับจังหวัดให้ด้วย



ส.ปชส.ยโสธร
ไพชยนต์ 24 มี.ค. 57

จังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันคนพิการสากลจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556

นางจิรภา  มุ่งมา นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานวันคนพิการสากลจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556 ในวันที่ 26  มีนาคม  2557 เวลา 08.00 น.  ณ บริเวณหอประชุมจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมคนพิการได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเนื่องในวันคนพิการสากล และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และผู้ดูแลคนพิการได้ตระหนักถึงสิทธิของคนพิการ และเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมงานวันคนพิการสากล กิจกรรมภายในงาน มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อคนพิการ การจัดแสดงผลงานฝีมือคนพิการ การสาธิตอาชีพแก่คนพิการ การแสดงความสามารถพิเศษของคนพิการ การตรวจประเมินความพิการ และออกเอกสารรับรองความพิการ เพื่อจดทะเบียนคนพิการรายใหม่ บริการตัดผมฟรี

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญประชาชนที่สนใจร่วมกิจกรรมในงานวันคนพิการสากลจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556 ตามวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน



กรรณิกา  สำราญจริง
ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

สภาองค์กรชุมชนตำบล จังหวัดสุรินทร์เดินหน้าขับเคลื่อนการจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น เพื่อการอยู่ดี มีสุข

วันที่ 24 มี.ค. 57   ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ สภาองค์กรชุมชนตำบล ระดับจังหวัด ได้มีการประชุมสมัยสามัญ เพื่อที่จะรายงานผลงานดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ติดตามประเมินผลสภาองค์กรชุมชนตำบล ทบทวนโครงสร้างสภาองค์กรชุมชน รวมทั้งนำเสนอทิศทางการขับเคลื่อนของสภาองค์กรชุมชน ในการประชุมได้มีนายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ให้เกียรติเป็นวิทยากร เพื่อกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาองค์กรชุมชนของจังหวัดสุรินทร์ และการให้การสนับสนุนจากทั้งทางจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนจังหวัด

นางลาวัณย์ งามชื่น ประธานที่ประชุมสภาองค์กรชุมชนระดับจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีองค์กรสภาชุมชนตำบลที่เป็นรูปธรรม และมีการเปลี่ยนในการใช้องค์กรสภาชุมชน เป็นเครื่องมือค่อนข้างหลากหลาย เพราะฉะนั้นทิศทางในการขับเคลื่อนจะเป็นการให้สภาองค์กรชุมชนตำบลเป็นเคื่องมือให้พี่น้องประชาชน ได้ดูแลจัดการบริบทในทุกมิติ ซึ่งในการประชุมในครั้งนี้ก็เป็นการพูดถึงว่า จังหวัดจะจัดการตนเองในรูปแบบของคนสุรินทร์ ควรจะเป็นอย่างไร โดนเฉพาะการจัดการด้านทรัพยากร ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชุมชน เพราะฉะนั้นจะเกิดความเข้มแข็งของการรวมตัวในการพูดคุย เสนอแนะ ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาและลดความขัดแย้งในชุมชนได้

ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนในอนาคตขององค์กรสภาชุมชนตำบล ของจังหวัดสุรินทร์ นั้นพี่น้องประชาชนจะต้องมีแผนพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน ด้วยการหารือของประชากรในชุมชนเอง โดยใช้องค์กรสภาชุมชนตำบล เป็นเครื่องมือหลักในที่จะขับเคลื่อน เพราะทิศทางจะต้องขับเคลื่อนจากฐานรากเพื่อการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาสู่ข้างบน โดยเฉพาะด้านประชาธิปไตย ที่หัวใจการพัฒนาจะต้องมาจากฐานรากขึ้นมาสู่ข้างบนในแผนพัฒนาระดับจังหวัด ทั้งนี้จังหวัดสุรินทร์ยังเป็นเป้าหมายสำคัญของการเป็นจำหวัดนำร่องในการพัฒนาองค์กรสภาชุมชนตำบล ให้เป็นต้นแบบกับจังหวัดอื่นๆอีกด้วย




กำชัย วันสุข ส.ปชส.สุรินทร์ ภาพ/ข่าว

รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีประชุมฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 เตรียมความพร้อมรองรับความต้องการใช้พลังงานทดแทนในอนาคต

รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีประชุมฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 เตรียมความพร้อมรองรับความต้องการใช้พลังงานทดแทนในอนาคต

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2โดยมีนายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม โดยคณะผู้บริหาร ร่วมชี้แจงในประเด็นต่างๆ ในโครงการขยายกำลังการผลิตเอทานอล ของบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด ซึ่งโครงการขยายกำลังการผลิตเอทานอล ฯ มีแผนดำเนินการขยายกำลังการผลิตเอทานอล และมีเป้าหมายการใช้เอทานอล ไม่น้อยกว่า 9 ล้านลิตรต่อวันเท่ากับเป็นการเพิ่มปริมาณการใช้พลังงานทดแทนขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี พ.ศ. 2564 โดยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต มีแผนขยายกำลังการผลิตเอทานอลอีก 9 แสนลิตรต่อวัน จาก 4แสนลิตรต่อวัน ทำให้มีกำลังการผลิตเอทานอลทั้งหมด 1.3ล้านลิตรต่อวันซึ่งการขยายกำลังการผลิตดังกล่าวเข้าข่ายที่จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เสนอต่อสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) เพื่อดำเนินการให้ความเห็นตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535”

สำหรับการประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 เพื่อนำเสนอผลการศึกษา และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ตรวจสอบความถูกต้องรวมถึงนำเสนอข้อเท็จจริง ความคิดเห็นเพิ่มเติม ซึ่งจะนำไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงรายงานของโครงการฯ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น 

ปภ.อด.จัดโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย ปี 57 รุ่นที่ 1/2557

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี จัดอบรมโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย ประจำปี 2557 รุ่นที่ 1/2557 ให้กับ 9 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 22-26 มีนาคม 2557

ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุดรธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย ประจำปี 2557 รุ่นที่ 1/2557 ซึ่งเป็นการจัดอบรมให้กับเทศบาลตำบลเชียวแหว อำเภอกุมภวาปี เทศบาลตำบลบ้านธาตุ,องค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ และองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงหวาง อำเภอเพ็ญ ,เทศบาลตำบลกู่แก้ว อำเภอกู่แก้ว ,เทศบาลตำบลโนนหวาย อำเภอหนองวัวซอ องค์การบริหารส่วนตำบลนาไหม องค์การบริหารส่วนตำบลท่อนนาลับ อำเภอบ้านดุง และองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงพิณ อำเภอเมืองอุดรธานี เพื่อเป็นการฝึกอบรมทีมกู่ชีพกู้ภัยเพิ่มเติมและทดแทนในกรณีที่มีอัตรากำลังประจำทีมไม่ครบ 10 คน

นายสรวุฒิ ปาลวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า กระทรวงหมาดไทย มีนโยบายพัฒนาระบบการกู้ชีพกู้ภัยและเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดทำโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย หรือ One Tambon One Search Sescue team : OTOS โดยมีเป้าหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วประเทศมีทีมกู้ชีพกู้ภัยหรือหน่วยเผชิญเหตุประจำพื้นที่ครบทุกแห่ง ในขณะที่ศุนย์ อปพร.จังหวัดอุดรธานี มีผลการดำเนินการจัดตั้งทีมกู้ชีพกู้ภัย ครบตามเป้ามหาย คือ ร้อยละ 100 และได้รับการชมเชยการปฏิบัติหน้าที่จากศูนย์ อปพร.กลาง




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว
น.ส.กรรณิการ์ หล้าคอม / ภาพ

BOI 1ขอนแก่น จัดสัมมนาเพิ่มศักยภาพ SMEs ท้องถิ่นด้วยสิทธิประโยชน์กับบีโอไอ

ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 จังหวัดขอนแก่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจัดสัมมนาเพิ่มศักยภาพ SMEsท้องถิ่นด้วยสิทธิประโยชน์กับบีโอไอ ที่จังหวัดอุดรธานี

ที่ห้องประชุมชั้น 3 โรงแรมเซ็นทาราคอนเวนชันเซ็นเตอร์จังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเพิ่มศักยภาพ SMEsท้องถิ่นด้วยสิทธิประโยชน์กับบีโอไอ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยบุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรส่วนท้องถิ่น ผู้สนใจรวม 60 คน

นางสาวรัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำโอกาสการลงทุน โดยเฉพาะกิจการ SMEs ในภาคอุตสาหกรรม พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์นโยบายและมาตรการสำคัญๆโดยเฉพาะมาตรการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้งระเบียบวิธีในการใช้สิทธิประโยชน์ด้านต่างๆที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุน โดยมีหัวข้อการบรรยายให้ความรู้ประกอบด้วย หลักเกณฑ์การขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอและสถิติการขอรับการส่งเสริมในปี 2556 ,มาตรการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SMEs และบทบาท บสย.กับ SMEs

ทั้งนี้ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโครงการระดับ SMEs ในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ทั้งสิ้น 26 โครงการเงินลงทุน 1,168.7 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงาน 2,190 คน




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว
น.ส.กรรณิการ์ หล้าคอม / ภาพ

นปส.รุ่นที่ 26 ศึกษาดูงานที่จังหวัดอุดรธานี

สถาบันดำรงราชนุภาพ กระทรวงหมาดไทย คณาจารย์และผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 26 ศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี

ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี บ่ายวันนี้ ( 24 มี.ค. 57) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีให้การต้อนรับและบรรยายสรุปข้อมูลพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ให้คณาจารย์และผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง หรือ นปส. รุ่นที่ 26 สถาบันดำรงราชนุภาพ กระทรวงหมาดไทย ซึ่งเดินทางมาศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ หัวหน้าคณะ กล่าว่า หลักสูตรนักปกครองระดับสูง เป็นหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะในการบริหารงานของผู้บริหารให้เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีภาวะผู้นำ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและมีสมรรถนะด้านการจัดการที่ดี รวมทั้งเป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นผู้บริหารระดับสูง

กระทรวงมหาดไทย ได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง หรือ นปส. มาตั้งแต่ปี 2516 และได้มีการปรับปรุงมาโดยตลอด ซึ่งสำนักงาน กพ. ให้การรับรองผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร นปส. ว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติเสมือนได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารระดับสูงของสำนักงาน กพ. และกระทรวงมหาดไทยได้จัดการฝึกอบรมข้าราชการทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงมหาดไทย จนถึงปัจจุบันฝึกอบรมมาแล้ว 61 รุ่น

สำหรับรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ 62 มีผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการศึกษาอบรม รวมทั้งสิ้น 102 คน แบ่งเป็นข้าราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 5 คน ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย (ยกเว้น สป.มท) 61 คน และข้าราชการนอกสังกัดกระทรวงมหาดไทย 36 คน แบ่งเป็นหญิง 12 คน ชาย 90 คน มีระยะเวลาการฝึกอบรม 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม -23 พฤษภาคม 2557 ณ วิทยาลัยมหาดไทย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

การศึกษาอบรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือทางด้านวิชาการจากสำนักสิริพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และผู้ทรงคุณวุฒิของกระทรวงมหาดไทยในการกำหนดการศึกษาอบรมด้านวิชาการและกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆในการศึกษาดูงานที่จังหวัดอุดรธานีในครั้งนี้นอกจากคณะจะเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เพื่อรับทราบข้อมูลจังหวัดอุดรธานีแล้วยังมีการลงพื้นที่ศึกษาดูงานเรื่องการดำเนินการศูนย์บริการประชาชนและกระบวนการกำจัดขยะและบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครอุดรธานี กระบวนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร”ยางพารา”ที่บริษัทไทยฮั้วยางพารา องค์การบริการส่วนจังหวัดกับการบริหารแหล่งน้ำ ที่เทศบาลตำบลทุ่งฝน พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวทางพระราชดำริที่บ้านโคกล่ามแสงอร่าม อำเภอหนองวัวซอ




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา
ข่าว/ภาพ น.ส.กรรณิการ์ หล้าคอม ภาพนิ่ง

กกต.ศรีสะเกษ คาดเลือกตั้ง สว. มีผู้ใช้สิทธิ์ร้อยละ 60 เผยตัดสิทธิ์ 2 ผู้สมัคร

นายทรงเกียรติ เสนาพันธ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นการทั่วไปในวันที่ 30 มีนาคม 2557 จังหวัดศรีสะเกษได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะมีประชาชนมาลงคะแนนเลือกตั้ง 60% อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2557 ยอมรับว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา แม้ว่าจะมีการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม สาเหตุที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยมาก คาดว่าเนื่องมาจากผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ค่อยใกล้ชิดกับประชาชน ประชาชนไม่ค่อยรู้จักว่าสมาชิกวุฒิสภา.มีหน้าที่อะไร อีกทั้งเวลาในการแนะนำตัวผู้สมัครหรือเปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้ขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์ตัวเองค่อนข้างกระชั้นชิด และประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่ไปประกอบอาชีพที่อื่นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไม่เหมือนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ผู้สมัครอยู่ที่ใกล้ชิดกับประชาชน และสังกัดพรรคการเมืองทำกิจกรรมร่วมอยู่กับประชาชน ทำให้ประชาชนสนใจและมีความตื่นตัวมากกว่า ซึ่งสังเกตได้จากการไปลงคะแนนเลือกตั้งทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าและการเลือกตั้งในวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ซึ่งประชาชนพากันไปลงคะแนนกันเป็นจำนวนมาก

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า ในวันสิ้นสุดการสมัครรับเลือกตั้งมีผู้ยื่นความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดศรีสะเกษ รวม 6 คน แต่เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบคุณสมบัติแล้วพบว่ามี 2 คน ที่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ คือ ดร.นายไสว สดใส ผู้สมัครในลำดับที่ 3 เนื่องจากเป็นผู้สังกัดพรรคการเมือง และนายแพทย์ธนกฤต กุศลสมบูรณ์ ผู้สมัครลำดับที่ 4 ไม่ได้ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดศรีสะเกษจึงได้มีมติตัดสิทธิ์การสมัครรับเลือกตั้ง โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิทั้ง 2 รายได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้วินิจฉัยเพื่อขอคืนสิทธิการเป็นผู้สมัครตามที่กฎหมายกำหนด ล่าสุดศาลฎีกาได้มีคำสั่งยกคำร้องไม่ได้คืนสิทธิการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครทั้ง 2 ราย ดังนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดศรีสะเกษในขณะนี้จึงเหลือเพียง 4 รายเท่านั้น คือ หมายเลข 1 น.ส.วิลดา อินฉัตร, หมายเลข 2 นายชัยธัช มานะศรีสุริยันต์, หมายเลข 5 นายสมภพ มั่นคง และหมายเลข 6 นายวณิชย์ ฤทธิ์เดช

อนึ่งในส่วนของการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2557 มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าที่จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งสิ้น 11,199 คน โดยแบ่งเป็นนอกเขตเลือกตั้งจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8,451 คน ขอใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งกลาง ที่อาคารกันทรารมณ์ สถาบันการพลศึกษาศรีสะเกษ จำนวน 2,839 คน และที่หอประชุมโรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์อำเภอกันทรลักษ์ จำนวน 5,612 คน ส่วนผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัด มีจำนวน 2,748 คน




ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

ปิดลงอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์

วานนี้ 23 มี.ค. 57   ณ สนามศรีลำดวน สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีรักษาการ และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็น ประธานปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 "ศรีสะเกษเกมส์” โดยมี นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 "ศรีสะเกษเกมส์” กล่าวรายงาน ในการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 "ศรีสะเกษเกมส์” ซึ่งได้ดำเนินการจัดการแข่งขันมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2557 และสิ้นสุดลงในวันนี้ รวมระยะเวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 11 วัน โดยอันดับที่ 1 จังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้ 106 เหรียญทอง 78 เหรียญเงิน 76 เหรียญทองแดง รวม 260 เหรียญ อันดับที่ 2 จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ 50 เหรียญทอง 28 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง รวม 110 เหรียญ อันดับที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา ได้ 41 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน 28 เหรียญทองแดง รวม 96 เหรียญ ส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ได้อันดับที่ 7 ได้ 25 เหรียญทอง 23 เหรียญเงิน 34 เหรียญทองแดง รวม 85 เหรียญ

สำหรับพิธีปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 "ศรีสะเกษเกมส์” เริ่มเวลา 18.35 น. เริ่มการถ่ายทอดสดทองสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง NBT โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย การแสดง วง Symphonic Band จากมหาวิทยาลัยราชภัฎศระเกษ และการแปลอักษร จากโรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัยและโรงเรียนสตรีสิริเกศ การแสดง "จุดไฟฝัน พลังกีฬา คนรุ่นใหม่” "ส่งมอบใจ จากครั้งนี้ สู่ครั้งหน้า” "กีฬาเยาวชน สืบสาน ปฎิญญา” และ "มิตรภาพ ตราบดินฟ้า สถาพร” และพิธีส่งมอบธงการแข่งขัน ครั้งต่อไปให้กับจังหวัดจันทบุรี



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

จังหวัดศรีสะเกษ เปิดศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติกจังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อเวลา 10 .00 น.   ณ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายทัศไนย หริรักษ์ ประธานชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติกจังหวัดศรีสะเกษ

โครงการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติกจังหวัดศรีสะเกษ จัดตั้งขึ้นเพื่อมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติกจังหวัดศรีสะเกษ เพ่อจัดสื่ออุปกรณ์ที่เหมาะสมให้แก่บุคคลออทิสติก เพื่อให้ครอบครัวออทิสติกได้มีโอกาสฝึกสอนทักษะการดำรงชีวิตให้แก่บุคคลออทิสติกได้ด้วยตนเอง ซึ้งจะช่วยให้มีทักษะในด้านต่างๆ ทักษะการชักล้ามเนื้อ ทักษะการสังเกต ทักษะการรับรู้ทักษะการนับ และทักษะอื่นๆ




ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ 

มุกดาหารเตรียมจัดงาน”สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน อินโดจีน”ประจำปี ๒๕๕๗ ยิ่งใหญ่

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารร่วมกับเทศบาลเมืองมุกดาหารและองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร กำหนดจัดงาน”สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน อินโดจีน” ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ ณ ลานกิจกรรมตลาดอินโดจีน ริมแม่น้ำโขง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร สืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นจังหวัดที่มียุทธศาสตร์สำคัญในการเข้าสู่ประตูอินโดจีน มีความเจริญด้านอารยธรรมชนเผ่าลุ่มน้ำโขง อีกทั้งสองประเทศ ไทยและลาวมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่คล้ายคลึงกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในโอกาสปีใหม่ไทยและเป็นช่วงวันหยุดยาว จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารและใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมชมกิจกรรมต่างๆ นอกจากการเล่นน้ำสงกรานต์ ยังมีการจำลองหมู่บ้านวิถีชีวิต ๘ เผ่า พื้นเมืองมุกดาหาร นิทรรศการอื่นมากมายที่เป็นวิถีไทย รวมถึงการแสดง แสง สี เสียง ตำนานอารยธรรมลุ่มน้ำโขง ศิลปวัฒนธรรมจาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน และอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญ จะมีการแสดงม่านน้ำและน้ำพุดนตรี กลางลำน้ำโขง ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมย้อนอดีตวิถีชีวิต ๘ เผ่าพื้นเมืองมุกดาหาร ๑๑-๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ ในงาน”สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน อินโดจีน” เนรมิตการจัดยิ่งใหญ่ตระการตา




สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ยโสธรประกาศผลคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556

จังหวัดยโสธร ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556 จำนวน 3 ราย จะเดินทางเข้ารับครุฑทองคำและประกาศเกียรติคุณ ในวันที่ 1 เมษายน 2556 ที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี เป็นวันข้าราชการพลเรือน คือเมื่อปี 2471 เป็นวันที่มีการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฉบับแรก และทุกปีคณะอนุกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี จะมอบหมายให้จังหวัดต่าง ๆ ดำเนินการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ผู้ปฏิบัติงานบริการประชาชน อย่างทุ่มเท เสียสละเวลา เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ จังหวัดยโสธร ได้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น จำนวน 3 ราย ดังนี้

1. นายพันธุ์ทอง จันทร์สว่าง ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ อำเภอคำเขื่อนแก้ว

2. นางสุนทรา เชยกลิ่นเทศ ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนทรายมูลวิทยา

3. จ่าเอกวีระวัฒน์ แก้วก่อง ตำแหน่ง เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ อำเภอเมืองยโสธร

ซึ่งข้าราชการพลเรือนดีเด่น ทั้ง 3 คน จะเข้ารับรางวัลเป็นเข็มเชิดชูเกียรติครุฑทองคำและ ประกาศเกียรติบัตร จากนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 เมษายน 2557 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ส่วนข้าราชการจังหวัดยโสธร อีก 20 คน ที่มิได้รับการคัดเลือก จังหวัดยโสธร จะมอบเกียรติบัตรยกย่องเป็นข้าราชการดีเด่นระดับจังหวัดให้ด้วย




ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์
24 มี.ค.57

ยโสธรรวมพลังหน่วยงานภาครัฐและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาลำทวนแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กว่า 1,000 ไร่

ยโสธร ทำงานบูรณาการทั้งภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมพัฒนาลำทวน แหล่งน้ำขนาดใหญ่ใจกลางเมืองยโสธร กว่า 1,000 ไร่ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งน้ำต้นทุน ผลิตน้ำประปาเมืองยโสธร

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาลำทวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางเมืองยโสธร มีพื้นที่น้ำประมาณ 1,000 ไร่ หน่วยงานที่ร่วมบูรณาการ ประกอบด้วย โยธาและผังเมืองจังหวัด,แรงงานจังหวัด,ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,กรมทหารราบที่ 16, เทศบาลเมืองยโสธร, อบจ.ยโสธร เป็นต้น

วันนี้ ( 24 มีนาคม 2557 ) มีพิธีบวงสรวง บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่,พระแม่ธรณี จะมีการพัฒนาและการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ในบริเวณนี้ มีกิจกรรมปลูกต้นยางนา ปล่อยพันธุ์ปลาเทโพธิ์ จำนวน 25,000 ตัว และกิจกรรมกำจัดวัชพืช, กำจัดผักตบชวา ด้วยแรงงานคนกว่า 300 คน ด้วยงบช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง จากกระทรวงแรงงาน พร้อมเครื่องจักรกำจัดผักตบชวา จำนวน 3 คัน

หลังจากนั้น นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ก็ได้ล่องเรือสำรวจบริเวณ รอบลำทวน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ขับเรือด้วยตนเอง (อย่างคล่องแคล่ว)

ลำทวน เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ อยู่ใจกลางเมืองยโสธร มีพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ จังหวัดยโสธรมีโครงการจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ, เป็นที่ผักผ่อนของคนเมือง เริ่มมาตั้งแต่ปี 2556 สิ่งที่จะดำเนินการตามแผนพัฒนาลำทวนนี้ ประกอบด้วย ปรับปรุงบริเวณโดยรอบลำทวน ซึ่งเดิมมีแต่วัชพืช,ผักตบชวา,ทำถนนโดยรอบ, จัดสร้างเป็นวิมานพญาแถนคือการจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์พญาคางคก, อาคารพิพิธภัณฑ์พญานาค และประติมากรรมบั้งไฟ ซึ่งงบประมาณจะได้มาจากงบพัฒนาจังหวัด งบกลุ่มจังหวัด และจากหน่วยงานกระทรวงอื่น ๆ

ซึ่งขณะนี้ กำลังก่อสร้างพิพิธภัณฑ์พญาคางคก เฉพาะตัวอาคารด้วยงบประมาณ 18 ล้านบาท จากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาคารจะเป็นรูปคางคกขนาดใหญ่ ความสูง 18 เมตร (ตึก 9 ชั้น) มีความยาว 90 เมตร สามารถมองเห็นแต่ไกล ๆ อยู่ริมน้ำลำทวนอย่างสวยงาม ขณะนี้ การก่อสร้างอยู่ระหว่างการก่อสร้างรากฐาน มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 20%



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์
24 มีนาคม 2557

ยโสธรจัดโครงการพัฒนาตามแนวทางพระราชดำริ “ปวงประชาเป็นสุข ด้วยพระบารมี”

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2557 บริเวณลำน้ำทวน อำเภอเมืองยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ "ปวงประชาเป็นสุข ด้วย พระบารมี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธร เป็นจังหวัดที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญ คือ ข้าวหอมมะลิ ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดยโสธรเป็นอย่างมา แต่อย่างไรก็ตามจังหวัดยโสธรก็ยังมีจุดอ่อน คือ การขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรกรรมและมีพื้นที่ชลประทานไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงจำเป็นต้องพัฒนาวัชพืชตามแหล่งน้ำ เพื่อไม่ให้กีดขวางเส้นทางไกลของน้ำ การป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัย และการกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดปี เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก แต่หากจังหวัดจะพัฒนาแหล่งน้ำโดยใช้เครื่องจักรเพียงอย่างเดียวจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงมาก และจะไม่ส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความรู้สึกรักหวงแหนและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เพื่อให้การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามบูรณาการร่วมกัน ทุกภาคส่วน มุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและสมดุล จึงจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่สำคัญ ส่วนราชการและภาคเอกชนในจังหวัดยโสธร ร่วมบูรณาการในการดำเนินการดังกล่าว

นอกจากนี้จังหวัด ยังได้พัฒนาลำน้ำทวนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดยโสธร โดยได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์และสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับใช้ในการจัดแสดงนิทรรศการแหล่งเรียนรู้ทางด้านศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับจังหวัดยโสธร อาทิเช่น อาคารพญานาค อาคารพญาคันคาก และประติมากรรมบั้งไป แต่ในปัจจุบันลำน้ำทวนมีสภาพปกคลุมไปด้วยวัชพืชบนผิวน้ำที่เกิดขึ้นอย่างหนาแน่น และกีดขวางทางไหลของน้ำ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลำน้ำทวนได้อย่างเต็มที่ และทำให้ภูมิทัศน์ขาดความสวยงาม รวมทั้งมีมลภาวะจากกลิ่นเหม็นเน่าของวัชพืช จึงได้จัดโครงการพัฒนาและฟื้นฟูลำน้ำทวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการน้อมนำแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำมาประยุกต์ปรับใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สมดุล โดยการกำจัดวัชพืชทั้งบนผิวน้ำและที่มาราหยั่งลึก ในการดำเนินงานใช้วิธีการบริหารงานแบบบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน และมุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์
24 มีนาคม 2557

รมต.ว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงพื้นที่ยโสธร

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกรชาวยโสธรที่อำเภอไทยเจริญ ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอไทยเจริญ นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ดร. พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน เรื่อง "ชุมชน...ชมจันทร์...หวาน...เจี๊ยบ” ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีนโยบายในการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ของชุมชน เสริมสร้างรายได้และสร้างคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน ด้วยการนำองค์ความรู้ ผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของกระทรวงวิยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาถ่ายทอดให้กับเกษตรกรในอำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร โดยเฉพาะความรู้ด้านการปลูกต้นผักหวานป่า ต้นชมจันทร์ ความรู้ด้าน การผลิตก้อนเชื้อเห็ด (เห็ดตีนแรด และเห็ดขอนขาว) การผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง พร้อมกันนี้ ดร. พีรพันธุ์ พาลุสุข ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มอบพันธุ์ไก่พื้นเมือง 3 สายพันธุ์ ให้แก่เกษตรกร ที่มาร่วมงานเพื่อนำไปทดลองเลี้ยง ให้เกิดความชำนาญ จนสามารถพัฒนาเป็นอาชีพต่อไปได้

จ.กาฬสินธุ์เตรียมพร้อมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ 1 เมษายน 2557 นี้

บ่ายวันนี้ ( 24 มีนาคม 2557 ) ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความก้าวหน้าการ เตรียมพร้อม รับเสด็จ พระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในวโรกาส ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์โดยมีหมายกำหนดการเดินทางมาถึงโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ในวันอังคารที่ 1 เมษายน 2557 เวลา 11.45 น.

สำหรับการประชุมเตรียมความพร้อมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์วันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมประชุมเพื่อรายงานความพร้อม และความก้าวหน้าของการเตรียมการต่างๆ ซึ่งมีความพร้อมกว่า ร้อยละ 80 แล้ว อาทิ การแสดงนิทรรศการ กิจกรรมต่างๆ มุ่งเน้นในเรื่องของ เครือข่ายสุขภาพมารดา และทารกฯ ในภาพรวมของจังหวัดกาฬสินธุ์ , แผนที่ยุทธศาสตร์โครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกฯ, การคัดกรองและดูแลรักษาโรคจอตาเจริญผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด เป็นต้น โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตรวจพื้นที่โดยรอบของโรงพยาบาลเพื่อให้การรับเสด็จเป็นไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์ที่สุด พร้อมเชิญชวนพสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จตามวันเวลาดังกล่าว



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ ขึ้นป้ายแช่งคนลักลอบตัดไม้

สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ กรมป่าไม้ ขึ้นป้ายสาปแช่ง ขบวนการตัดไม้ทำลายป่าที่ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในพื้นที่ 110 ไร่ ปลูกไม้กว่า 600 ต้น ให้ผีปู่ ผีย่า หักคอ วอนประชาชนช่วยกันดูแลผืนป่าสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ อยู่ริมถนนถีนานนท์สายกาฬสินธุ์ – ยางตลาด ตำบลโคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีพื้นที่ 110 ไร่ ปลูกต้นพะยูงจำนวนกว่า 654 ต้น เมื่อปี 2510 ปัจจุบันต้นพะยูงมีอายุ 47 ปี ต้นขนาดใหญ่สุดเส้นรอบวง 250 ซม. นับว่าพื้นที่ที่มีต้นพะยูงมีความสมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ และจากการสำรวจเมื่อปี 54 พบเหลือไม้พะยูง 640 ต้น เนื่องจากมีกลุ่มนายทุน พ่อค้า ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงที่สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์

นางสาวหฤทัย คำแพงแก้ว อายุ 28 ปี เจ้าพนักงานธุรการ สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตนมาปฏิบัติหน้าที่ราชการประจำที่สถานีฯแห่งนี้ได้ 4 ปี โดยที่ตั้งสำนักงานฯ ย้ายเข้ามาตั้ง ณ สถานที่แห่งนี้เมื่อปี พ.ศ.2550 และตั้งแต่เดือน ต.ค.56 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันมีกลุ่มคนได้เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงแม้จะเป็นสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันลาดตะเวน สอดส่องดูแล เฝ้าระวังรักษาป่าพะยูงแห่งนี้อย่างเต็มที่แม้ไม่มีอาวุธป้องกันตัว ทุกครั้งที่ไม้พะยูงถูกลอบตัด จะรายงานต้นสังกัด และเข้าไปเก็บไม้พะยูงที่มีการลักลอบมาตัดนำออกไปไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่ตนทำได้ในวันนี้ก็คือขึ้นป้าย "ต้นไม้ในป่า เป็นสมบัติของแผ่นดิน คนลักตัด ขโมยไปขายต้องตายโหงแน่ ผีปู่ ผีย่า จะตามไปหักคอ” "อย่าตัดต้นไม้ สมบัติของแผ่นดิน คนชั่วมาชักชวนให้ตัดไม้ขาย คนชั่วต้องตายโหง เร็ววันนี้” และ "ผีปู่ ผีย่า รักษาป่า รักษาต้นไม้ ให้ร่มเย็นเป็นสุข ใครลักตัดต้นไม้ไปขาย จะตามไปหักคอ ตายโหงแน่ แน่” ติดบริเวณรั้วของสำนักงาน หวังให้ประชาชนผู้ผ่านไปมาได้เห็น และได้ช่วยกันรักษาผืนป่าต้นพะยูงให้คงอยู่สืบไป

นางสาวหฤทัย คำแพงแก้ว กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาจะมีนายทุนใหญ่เข้ามาติดต่อขอซื้อต้นพะยูงราคาเริ่มที่ 1 ล้านบาท แต่ขอเจาะดูแกนกลางของไม้อ้างว่าพื้นที่สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ เป็นดินทราย อาจทำให้แกนไม้ไม่สวย ไม่ทน แต่ตนก็บอกว่าต้นไม้ที่อยู่ในสถานีฯ ไม่สามารถขายได้เพราะเป็นสถานที่ราชการ เป็นผืนป่าที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้คนไทยปลูกป่า รักษาป่า ถ้าตนจะรับเงินที่นายทุนเสนอให้ก็ได้แค่เพียงเงินเท่านั้นเอง แต่ตนก็ต้องถูกไล่ออกจากราชการ อายุตนก็น้อย ถ้าถูกไล่ออกเวลาที่เหลือจนกว่าจะเกษียณอายุตนจะทำมาหากินอะไร เราเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ตนจึงต้องปกป้องผืนป่าต้นพะยูง 600 กว่าต้น ไว้ด้วยชีวิตของตนเอง ที่หวังตอนนี้คืออยากให้ชาวกาฬสินธุ์ช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหู เป็นตา ปกป้องผืนป่าของเรา และฝากถึงฝ่ายปกครอง ตำรวจ มาช่วยกันลาดตะเวนช่วงเวลากลางคืนด้วย ทุกวันนี้ยอมรับเป็นห่วงและหวั่นอันตรายที่จะเกิดกับตนเอง ครอบครัว และเจ้าหน้าที่ทุกคน เพราะขบวนการค้าไม้พะยูง ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดโครงการส่งเสริมจิตสำนึกด้านจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”องค์กรปกครองท้องถิ่นยุคใหม่ใส่ใจจริยธรรม

นาย เฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดทำทำโครงการส่งเสริมจิตสำนึกด้านจริยธรรมให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการระดับท้องถิ่น โดยกำหนดอบรมสัมมนาเรื่ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยุคใหม่ใส่ใจจริยธรรมในวันที่ 1-2 เมษายน 2557 ณ โรงแรมเซนทาราคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์จังหวัดขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมจิตสำนึกด้านจริยธรรม ส่งเสริมให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับท้องถิ่นและข้าราชการระดับท้องถิ่น มีกระบวนทัศน์ค่านิยมในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อตรง ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายในการดำเนินการด้านจริยธรรมในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกมลธรรม วาสบุญมา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมาตรฐานจริยธรรม กล่าวว่าวันที่ 1 เมษายน 2557 การเสวนาเรื่องทำอย่างไรให้ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้จากผู้แทนตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานปปช. ท้องถิ่นจังหวัด การประชุมเชิงปฏิบัติการการดำเนินการด้านจริยธรรมในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน วันที่ 2 เมษายน 2557 การบรรยายพิเศษเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม กับการบริหารงานท้องถิ่นโดยศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน การเสวนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยุคใหม่ห่างไกลคอรัปชัน การเสวนาเรื่องกลยุทธการทำงานอย่างมีความสุขเปลื้องทุกข์ด้วยจริยธรรม โดยพระเมธาวินัยสร การเสวนาบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยผู้ดำรวงตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการระดับท้องถิ่น ผู้แทนจากหน่วยงานเครือข่าย จำนวน 200 คน




ข่าว/พิมพ์  นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ปภ.ขอนแก่น ร่วมประชุม โครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการจังหวัดขอนแก่น

วันนี้ ( ๒๔ มีนานคม ) ณ ห้องประชุมดอกคูน ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุม คณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของที่ปรึกษา "โครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการจังหวัดขอนแก่น” พิจารณางานงวดที่ ๔ รายงานฉบับสุดท้าย (Final Report) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นรายงานฉบับสุดท้าย โครงการจัดทำแผนฯ ซึ่งคณะที่ปรึกษาฯ จะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการฯพิจารณาในลำดับต่อไป ในครั้งนี้ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง


ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

ตำรวจทางหลวงขอนแก่น รวบขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ เครือข่าย “เจ๊แขก” พร้อมของกลางกว่า 140 ท่อน รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท สินค้าทั้งหมด ลำเลียงส่งจำหน่ายจีน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มี.ค. 57   พ.ต.อ.ไผ่พนา  เพ็ชรเย็น ผกก.4 บก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.ท.อานันท์  วิชเศรษฐสมิต สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจทางหลวงขอนแก่นตั่งด่ านตรวจ บน ถ.มิตรภาพ หลัก กม.ที่ 351-352 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแกน ฝั่งขาล่องมุ่งหน้าไป จ.อุดรธานี เพื่อกวดขันจับกุมปั ญหาอาชญากรรม ยาเสพติดและ พรบ.จราจรจนกระทั่งพบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน 84-9622 ขอนแก่น ขับผ่านด่านท่าทางต้องสงสัยด้ านหลังมีผ้าใบสีดำปิดคลุมอย่ างมิดชิด  เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นอย่างละเอียดซึ่ งเมื่อเปิดผ้าใบออกพบไม้พะยู งแปรรูปขนาดต่างๆนับรวม 140 ท่อนซุกซ่อนอยู่ จึงได้ทำการควบคุมตัว นายสังคม  ประทุมชัย อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่ าวมาทำการสอบสวน

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้ การรับสารภาพว่าไม้พะยูงดังกล่ าวทั้งหมดได้รับการว่าจ้ างมาในราคา 50,000 บาท จาก น.ส.อาภร  มูลพรม หรือเจ๊แขก ชาว จ.มุกดาหาร ให้ไปรับของกลางมาจาก อ.จตุรพักพิมาน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับพ่อค้ าชาวลาว โดยจะทำการจัดส่งกันริมแม่น้ ำโขง ในเขต จ.หนองคาย  ตลอดการเดินทางมีเจ๊แขก ขับรถนำทางโดยตลอดจนกระทั่งมาถึ งด่านตรวจของตำรวจทางหลวงในจุ ดดังกล่าวจึงถูกเจ้าหน้าที่ ตำรวจจับกุมตัวได้ ทั้งนี้การลักลอบขนส่งดังกล่ าวไม้ทั้งหมดจะถูกส่งจำหน่ ายไปยังประเทศจีนทั้ งในแบบของไม้แปรรูปและไม้ ตามสภาพ ซึ่งหากส่งจำหน่ ายในประเทศไทยจะมีมูลค่ากว่า 5 ล้านบาทแต่หากส่งจำหน่ายข้ามแม่ น้ำโขงไปได้จะมีราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งการขนส่งดังกล่าวนี้ยั งคงไม่ได้รับเงินค่าจ้างจนกว่ าจะส่งไม้ถึงที่หมายแต่ก็มาถู กเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ดังกล่าว

พ.ต.อ.ไผ่พนา  เพ็ชรเย็น ผกก.4 บก.ทล. กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกั บทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และยืนยันถึงตัวเจ๊แขกซึ่งว่าจ้ างให้ลักลอบขนไม้พะยูงดังกล่ าวนี้ ซึ่งรถคันที่ใช้ในการก่อเหตุเป็ นรถรับจ้างขนส่งสินค้าทั่วไปแต่ เมื่อมีการรับจ้างและถูกว่าจ้ างกับเครือข่ายค้าไม้พะยูงข้ ามชาติดังกล่าวก็จะต้องดำเนิ นคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่พร้ อมทั้งการสืบสวนสอบสวนขยายผลจั บกุมผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวต่ อไป อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำแล้ วเสร็จจึงได้ต้องข้อกล่าวหาว่ าร่วมกันมีไม้แปรรูปไว้ ในครอบครองและเป็นไม้หวงห้ามไว้ ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุ ญาตจากเจ้าพนักงาน ตาม พรบ.ป่าไม้ มาตราที่ 11,48,69 และ 70 ก่อนควบคุมตัวผู้ต้ องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนั กงานสอบสวน สภ.ย่อยสำราญ อ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเตรียมการวางแผนการพัฒนาเมืองขอนแก่นไปตามหลักการแบบ 3 มิติ

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่าในปี 2557  จังหวัดขอนแก่นได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดเป็นไปตามแนวทางแบบ 3 มิติ โดยมิติที่ 1 เป็นการพัฒนาภาคชนบท พัฒนากลุ่มเกษตรกร ส่งเสริมอาชีพเกษตรที่เป็นงานถนัดของเกษตรกรเพิ่มเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ลดต้นทุนการ เพิ่มผลิต การแปรรูป การทำอาชีพเสริมการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาหารปลอดภัย มิติที่ 2การพัฒนาในเมือง  การส่งเสริมการค้าการลงทุนให้มากขึ้นสร้างการ จ้างงานส่งเสริมการท่องเที่ยว  สร้างรายได้ให้กับคนขอนแก่นมากขึ้นลดการไปทำงานในต่างจังหวัด มิติที่ 3 การพัฒนาจังหวัดขอนแก่นสู่สากลเพื่อติดต่อสัมพันธ์กับ   ประเทศ เพื่อน บ้านรอบๆ  ประเทศของเราไม่ว่า จะเป็นกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง กลุ่มประเทศในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตกตามเส้นทางอีสเวสอิครอโนมิกซ์ คลอลิดอร์ และประเทศในอาเซียน ขณะนี้จังหวัดขอนแก่นมีการเตรียมพร้อมด้านบุคลากรมีการฝึกอบรมภาษาทั้งอังกฤษ จีน เวียดนามนอกจากนั้นก็มีการไปติดต่อประสานงานกับเมืองต่างๆที่เป็นเมืองคู่มิตรกันมีการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และมีการค้าขายระหว่างกันเป็นการก้าวไปสู่การพัฒนาจังหวัดขอนแก่นสู่สากล

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมอบนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดให้ผู้บริหารสถานศึกษา

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบนโยบายแก่ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาด้านยาเสพติด

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน มอบนโยบายแก่ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และหัวหน้ากลุ่ม/หัวหน้าหน่วยงาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 ครั้งที่ 2/2557 และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้บริจาคเงินก่อสร้างรั้วกำแพงค่ายลูกเสือแก่นนคร ตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมีนายสายัณต์ ผาน้อย ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 1 กล่าวรายงานความเป็นมาของค่ายลูกเสือแก่นนคร และโครงการระดมทุนก่อสร้างรั้วคอนกรีตเสริมเหล็กของค่ายลูกเสือแก่นนคร ความยาว 204 เมตร โดยได้รับเงินบริจาคจำนวน 374,000 บาท จากนั้นประธานได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้บริจาคเงินก่อสร้างรั้วกำแพงฯ จำนวน 72 ราย ตามลำดับ ก่อนจะมอบนโยบายแก่ผู้บริหารการศึกษาฯ โดยประเด็นสำคัญของการมอบนโยบายคือ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในสถานศึกษาทุกแห่งในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ การดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาฯ เข้าร่วมรับมอบนโยบาย จำนวน 180 คน ณ หอประชุมค่ายลูกเสือแก่นนคร ตำบลโคกสี อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

การนำเสนอผลการผลิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดขอนแก่น

นายวิวัฒ เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น นำเสนอผลการผลิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดขอนแก่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ปี 2557 จัดโดย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น โดยมีนางเพ็ญสุภา ศิริสวัสดิ์ พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น กล่าวรายงานการจัดงาน โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่จัดอยู่ในกลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา ได้รับความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาทักษะด้านการผลิตตลอดจนพัฒนา และยกระดับคุณภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น โดยการนำเสนอผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ มีจำนวน 585 ผลิตภัณฑ์ รวม 5 ประเภท ได้แก่ ประเภทอาหาร, เครื่องดื่ม, ผ้าและเครื่องแต่งกาย, ของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จากนั้นประธานได้กล่าวให้โอวาทและกล่าวเปิดงาน และเยี่ยมชมผลงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิตของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ภัยแล้งขอนแก่นส่งเผลให้ผู้เลี้ยงโคนมต้องเจาะบ่อบาดาล

ภัยแล้งขอนแก่นเริ่มรุนแรง ผู้เลี้ยงโคนมเดือดร้อนหนักหลังแหล่งน้ำบนดินเริ่มแห้งขอด ยอมลงทุนเจาะบ่อบาดาลสูบน้ำมาใช้เลี้ยงโคนม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.ขอนแก่นเริ่มรุนแรงขึ้น หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคจนต้องพึ่งน้ำใต้ดิน โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่บ้านโนนลาน ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต้องลงทุนขุดบ่อบาดาลเป็นเงินกว่า 40,000 บาท และซื้อเครื่องปั๊มน้ำและเครื่องยนต์มาช่วยดึงน้ำบาดาลมาใช้ในการเลี้ยงโคนมภายในฟาร์ม หลังประสบกับปัญหาภัยแล้งมานานกว่า 2 เดือน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อ.เมือง กล่าวว่า ภัยแล้งปีนี้ถือว่ามาเร็วกว่าทุกปีและรุนแรงขึ้น โดยตนต้องไปหาซื้อฟางเก็บไว้เพื่อเป็นอาหารสำหรับโคนมที่เลี้ยงไว้กว่า 60 ตัว ส่วนน้ำในสระแห้งขอด ต้องนำรถไปบรรทุกน้ำที่อยู่ห่างออกไปกว่า 3 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันบ่อน้ำเริ่มแห้งลงแล้วเช่นกัน ต้องแก้ปัญหาด้วยการจ้างขุดบ่อน้ำบาดาลเพื่อดึงน้ำมาเลี้ยงโคนมแทน แม้จะต้องลงทุนกว่า 50,000 บาท แต่ก็ต้องยอม เพราะจะได้มีน้ำให้โคนมดื่มกิน เพื่อโคจะได้ให้นมดิบออกจำหน่ายสร้างรายได้ต่อไป




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 จัดงาน "ตลาดนัดสินค้าหัตถ-อุตสาหกรรมอีสาน” ปรับตัวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน วันที่ 26-28 มี.ค. 57

นายธนิตศักดิ์ บุญกมลศรีศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 เปิดเผยว่างานนิทรรศการ "ตลาดนัดสินค้าหัตถ-อุตสาหกรรมอีสาน” วันที่ 26-28 มีนาคม ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 จ.ขอนแก่น เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน ให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน เกิดการกระจายรายได้ เป็นเวทีในการแสดงสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs อีสาน เตรียมปรับตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเลือกจัดงานในช่วงเย็น เวลา 16.00-20.00 น กิจกรรมวันเปิดงาน 26 มีนาคม2557 เวลา 16.00 น เชิญผู้ประกอบการที่ประสบผลสำเร็จในการผลิตสินค้าและบริการอุตสาหกรรมมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ทางธุรกิจ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช.ทวีดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรถพ่วงพิเศษ รวมถึงเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งให้กับกองทัพเรือไทย นายวุฒิ มณีโชติ เจ้าของกิจกรรมผลิตคอตตันบัตรายใหญ่ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้สนใจในงานด้วย และการสัมมนาทางวิชาการ 2 หลักสูตร ได้แก่ กลยุทธ์การตลาดรุกและรับ AEC และการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการผลิตข้าวอินทรีย์ พร้อมจัดคลินิกปรึกษาแนะนำด้านเงินทุนหมุนเวียน และจัดจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมและอุตสาหกรรม โดยไฮไลต์ในงานจะนำน้ำตาลทราย ไข่ไก่ และข้าวสาร มาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด ทั้งยังมีสินค้าโอทอป สินค้าผู้ประกอบการ SMEs และนิทรรศการด้านการบรรจุภัณฑ์รวมกว่า 77 คูหาให้ผู้ร่วมงานได้เลือกซื้อด้วย ทั้งนี้ ผลกระทบจากการเปิด AEC นอกจากกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs แล้ว ผู้ผลิตสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือโอทอปก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ปัจจุบันประเทศในกลุ่มสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหันมาให้ความสำคัญต่อการเพิ่มศักยภาพ และใช้จุดแข็งทางการตลาด การจัดกิจกรรมนี้จึงมีประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยสามารถรุกขยายโอกาสทางการตลาด ที่สำคัญผู้ประกอบการทุกภาคส่วนต้องตื่นตัว และเตรียมปรับตัวรับการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดอาเซียนต่อไป




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

กกต.ขอนแก่น สรุปผลการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งร้อยละ 62.93

นายฐิติพล ทศรฐ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า กกต.ขอนแก่นสรุปผลใช้สิทธิการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดขอนแก่นรวม 14 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้มีประชาชนที่ขึ้นทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิจำนวน 11,571 คน ว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์ จำนวน 657 คน คิดเป็นร้อยละ 5.67 ส่วนการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตนั้น มีประชาชนจากทั้ง 26 อำเภอที่ขอขึ้นทะเบียนใช้สิทธิในการเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวน 955 คน ผลปรากฏว่ามีประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวน 601 คน คิดเป็นร้อยละ 62.93 โดยมีอำเภอที่ใช้สิทธิครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ขึ้นทะเบียนไว้คือ อำเภอพระยืน บ้านฝาง เขาสวนกวาง น้ำพอง มัญจาคีรี โนนศิลา เปือยน้อย แวงใหญ่ โคกโพธิ์ไชย หนองนาคำ และอำเภอสีชมพู สำหรับผู้ที่ไม่สามารถไปเลือกตั้งล่วงหน้าได้ก็สามารถไปใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง สว.ทั่วไปได้ในวันที่ 30 มีนาคมที่จะถึงนี้ สำหรับผู้มีเหตุไม่อาจไปลงคะแนนได้ในวันที่ 30 มีนคม 2557 ก็สามารถไปยื่นแจ้งสาเหตุไม่มาลงคะแนนได้ก่อน 7 วันและหลัง 7 วันของวันเลือกตั้งคือวันที่23 -29 มีนาคมและวันที่ 31 มีนคมถึง 6 เมษายน 2557 ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการเทศบาลที่ตนเองมีสิทธิเลือกตั้งจะไม่ถือว่าโดนตัดสิทธิ สำหรับผู้ไม่ไปแจ้งและไม่ไปลงคะแนนจะเสียสิทธิคือ สิทธิยื่นคัดค้านการเลือกตั้ง สส. สว. ได้ สิทธิไม่ได้ลงสมัคร สส . สว. สมาชิกองค์กรปกครองท้องถิ่นหรือไม่มีสิทธิการถูกเสนอชื่อเป็น สว. และประการสุดท้ายไม่สามารถลงสมัครกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้เลือกตั้งล่วงหน้า ส.ว. 2557 ทั่วประเทศ กกต. ผู้มาขอลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง 2,121,814 คน โดยทั้งประเทศมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งคิดเป็นร้อยละ 4.18 มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็นร้อยละ 9.24 อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่มีสิทธิต้องออกมาใช้สิทธิของตนเองในการเลือกคนดีหรือคนที่ท่านรักมาเป็นผู้แทนของเราในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดขอนแก่น โดยท่านสามารถใช้สิทธิได้ ณ. หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้านท่านตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดชัยภูมิเร่งพัฒนาเมือง สู่ 3 The Best City รับเปิดประชาคมอาเซี่ยน

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดแถลงข่าว เดินหน้าพัฒนาเมืองชัยภูมิ สู่เมือง 3 The Best City หวังดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ต่อหัวให้กับประชาชน ระยะเร่งด่วน จะปรับปรุงบริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ให้แล้วเสร็จภายในปี 2557 นี้

ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เวลา 10.00น. วันนี้ นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดแถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนพัฒนาเมืองชัยภูมิ 12ปี ซึ่งได้ร่วมกับส่วนราชการ และเอกชน ทุกภาคส่วน วางแผนพัฒนาจังหวัดชัยภูมิ ในระยะยาว หวังสร้างเมืองชัยภูมิให้มีเอกลักษณ์ มีจุดขายด้านการท่องเที่ยว สามารถดึงดูดนักลงทุน ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว ให้สนใจมาลงทุนในจังหวัดชัยภูมิเพิ่มมากขึ้น โดยมีส่วนราชการเป็นฝ่ายสนับสนุน

ในระยะแรก ได้หาทุน โดยการจำหน่ายเสื้อ ภูมิใจชัยภูมิ นำรายได้ มาเป็นกองทุนสร้างหอพญาแล หน้าวัดชัยประสิทธิ์ ขณะนี้รอออกแบบให้สมบูรณ์ คาดว่าจะสามารถวางฐานรากได้ภายในปี 2557 นี้ สร้างเหรียญเจ้าพ่อพญาแล รายได้นำมาปรับปรุงภูมิทัศน์ สนามหน้าศาลากลาง มีลานจอดรถ และปลูกต้นไม้ สร้างร่มเงาให้กับญาติคนป่วย ในโรงพยาบาลชัยภูมิ นอกจากนี้ยังตั้งงบประมาณของเทศบาลเมืองชัยภูมิ ขยาย และปรับปรุงวงเวียน รอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ให้สวยงาม กว้างขวางขึ้น ปรับปรุงรั้วศาลากลาง ถนน ทางเท้า ซึ่งส่วนนี้สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2557 นี้เช่นเดียวกัน ขณะที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ได้ตั้งงบประมาณ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ประตูเมือง บริเวณ สี่แยกหนองบัวโคก อ.จัตุรัส ในการพัฒนาระยะยาว ได้ มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดทำแผนวาน โครงการ เพื่อทุ่มงบประมาณไปในทิศทางเดียวกัน คือมุ่งพัฒนาสู่เมืองแห่ง 3 ที่สุด (3 The Best City) คือเมืองที่ประชาชนมีคุณภาพ คุณธรรมที่สุด เมื่องที่น่าอยู่ น่าท่องเที่ยวที่สุด และเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุด



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา จัดโครงการแนะแนวอาชีพเพื่อการมีงานทำให้ทหารกองประจำการที่จะปลดเป็นทหารกองหนุน ประจำปี 2557

วันนี้ (24 มี.ค. 57) เวลา 09.30 น.  พลตรี ประวิทย์  หูแก้ว  เสนาธิการกองทัพภาคที่  2  เป็นประธานโครงการแนะแนวอาชีพเพื่อการมีงานทำให้แก่ทหารกองประจำการที่จะปลดเป็นทหารกองหนุน ประจำปี 2557 ณ สโมสรร่วมเริงไชย  ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา

โครงการแนะแนวอาชีพเพื่อการมีงานทำให้ทหารกองประจำการที่จะปลดเป็นทหารกองหนุน ประจำปี 2557 เป็นโครงการที่กระทรวงแรงงาน ร่วมกับ กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพภาคที่ 2 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันเดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทหารกองประจำการที่จะปลดประจำการเป็นทหารกองหนุนได้รับข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงานข้อมูลด้านการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ช่วยลดปัญหาการว่างงาน ให้เห็นถึงความสำคัญของและอนาคตของทหารกองประจำการ ที่ได้รับใช้ชาติด้วยความเสียสละ

การจัดงานโครงการแนะแนวอาชีพเพื่อการมีงานทำให้ทหารกองประจำการ  ในครั้งนี้มีกิจกรรมการบรรยาย  การให้บริการจัดหางานของสำนักงานจัดหางาน แนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงาน  การเตรียมตัวก่อนสมัครงาน  การประกอบอาชีพอิสระ  การทำแบบทดสอบความพร้อมทางอาชีพ  การสาธิตอาชีพอิสระ  จำนวน  2  อาชีพ  ได้แก่  การทำพวงกุญแจหนัง  การทำที่แขวนเอนกประสงค์  การรับสมัครงานสถานประกอบการ  จำนวน  7  แห่ง  มีตำแหน่งงานว่าง  78  ตำแหน่ง  1,011  อัตรา  บริษัทจัดหางานต่างประเทศ  จำนวน  1  แห่ง  ตำแหน่งงานว่าง  2  ตำแหน่ง  88  อัตรา โดยมีทหารที่จะปลดประจำการเป็นทหารกองหนุน ร่วมงานจำนวน 400 นาย



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
โทร.  044-251818 
โทรสาร.  044-254928    044-254927
นายสมศักดิ์  ฉายาวรรณ  / ข่าว

โคราชเปิดงานฉลองวันแห่งชันชนะท่านท้าวสุรนารี ยิ่งใหญ่ โชว์ การแสดงสื่อผสม แสง สี เสียง ชุด ย่าฉันท่านชื่อโม ตอนโลหิตและน้ำตา รักษาผืนแผ่นดิน

เมื่อเย็นวานนี้ (23 มี.ค. 57) เวลา 19.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีค ถึง 3 เมย 2557 รวม 12 วัน 12 คืน ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สวนสุรนารี สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถนนราชดำเนิน และถนนหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของท่านท้าวสุรนารี วีรสตรีไทย และปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนรุ่นหลัง ได้ตระหนักถึงวีรกรรมอันกล้าหาญ เสียสละและดำรงไว้ซึ่งความรักชาติ โดยกิจกรรมภายในงานได้มีการรำบวงสรวง ของสตรีชาวโคราชกว่า 1,000 ชีวิต และการจุดพลุ 4 มุมเมือง อย่างยิ่งใหญ่ การจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นบ้านโคราช การออกร้านนาวากาชาด ร้านนิทรรศการผลงานของหน่วยงานในการให้ความรู้ด้านต่างๆ การแสดงบนเวที และการละเล่นพื้นบ้านโคราช การประกวดนางสาวนครราชสีมา การประกวดหญิงงามเมืองย่า การประกวดแมวโคราช การประกวดภาพเมืองโคราชโบราณ และการประกวดโต๊ะโคราช เป็นต้น

 สำหรับกิจกรรมที่เป็นไฮไลด์ของงานคือการแสดงสื่อผสม ภาพและเสียง อิงประวัติศาสตร์ ในชื่อชุด ย่าฉันท่านชื่อโม ตอน โลหิตและน้ำตา รักษาผืนแผ่นดิน ซึ่งการแสดงจะถูกแบ่งการแสดงออกเป็น 8 องค์ ประกองด้วย องค์ที่ 1 ศรัทธาและความเชื่อแห่งองค์ย่าโม องค์ที่ 2 กำเนิดหญิงกล้าแห่งแผ่นดิน องค์ที่ 3 ย้อนตำนานวีรกรรม องค์ที่ 4 กลับคืนบ้านร่วมสร้างเมือง องค์ที่ 5 รุ่งเรือง นครโคราช องค์ที่ 6 ทะนุ บำรุง พระศาสนา องค์ที่ 7 หลานย่า ผู้กล้าแห่งช่องเขาสาร และองค์ที่ 8 ร้อยด้วยใจ กราบลงที่องค์ย่าโม กำหนดการแสดง 7 รอบ คือ วันที่ 22 ,23 ,25 , 28 , 29 , 1 มีค และ 3 เมย 2557 เวลา 19.00 น ผู้เข้าชมจะเห็นถึงความอลังการของการแสดง แสง สี เสียง บนเวทีกลางน้ำ โดยใช้นักแสดงกว่า 300 ชีวิต สำหรับประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่สนใจชมการแสดงสามารถขอบัตรเข้าชมฟรีได้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา หรือซุ้มกิจกรรมภายในงาน 

จังหวัดบึงกาฬจัดพิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5

เมื่อวันที่  23 มี.ค. 57  เวลา 09.00 น. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ณ บริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ บ้านท่าไคร้ ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ วัตถุประสงค์ของการก่อสร้างเพื่อเป็นที่สักการะ เป็นศูนย์รวมจิตใจในการสร้างความรักความสามัคคีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนบึงกาฬและเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและแสดงถึงความกตัญญูสำนึกและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งวันนี้เป็นวันก่อตั้งจังหวัดบึงกาฬ และถือเป็นการสถาปนาจังหวัดบึงกาฬครบ 3 ปีเต็ม

นอกจากนี้แล้วในช่วงเย็นจะมีพิธีปลุกเสกเหรียญหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม โดยหลวงปู่จะเดินทางมาอฐิษฐานจิตด้วยตัวเอง และที่สำคัญวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดหลวงปู่ ครบรอบ 82 ปี ซึ่งในช่วงเช้าศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศได้เดินทางมาแสดงมุทิตาสักการะระหลวงปู่กันอย่างเนืองแน่นและพิธีในช่วงเย็นคาดว่าจะมีพุทธศาสนิกชนทั่วไปหลั่งไหลกันมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกกันอย่างมากแน่นอน 

งานแสดงมุทิตาสักการะหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม

พุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศได้เดินทางมาร่วมงานแสดงมุทิตาสักการะในวาระครบรอบอายุวัฒนะมงคล 82 ปี พระญาณสิทธาจารย์ หรือหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม ที่ประชาชนทั่วไปรู้จักและเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก โดยในงานมีพระมหาเถระสายหลวงปู่มั่นทั้งในจังหวัดบึงกาฬและต่างจังหวัดและคณะศิษยานุศิษย์ที่เป็นทั้งบรรพชิตและฆราวาสของหลวงปู่ได้ เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้อย่างเนืองแน่น

วันที่ 23-03-57 บรรยากาศที่วัดสามัคคีอุปถัมภ์ (วัดภูกระแต) ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ คณะศิษยานุ ศิษย์ ทั้งฝ่ายบรรพชิตและฆราวาสได้ร่วมกันจัดงานแสดงมุทิตาสักการะในวาระครบรอบอายุวัฒนะมงคล 82 ปี พระญาณสิทธาจารย์หรือ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปรู้จักและเคารพ ศรัทธาเป็นอย่างมาก ในช่วงเช้าพระมหาเถระสายหลวงปู่มั่นและพระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดที่เดินทางมาร่วมงานได้ออกบิณฑบาตภายในวัดแล้วเสร็จ พุทธศาสนิกชนร่วมกันถวายภัตตาหารแด่ภิกษุสงฆ์ หลังจากนั้นเป็นพิธี ถวายสักการะแด่องค์หลวงปู่ และ ร่วมกันสรงน้ำหลวงปู่ ปีนี้หลวงปู่สุขภาพไม่คอยดีเลยต้องรีบทำพิธีต่างๆให้เร็วขึ้นแต่ถึงกระนั้นลูกศิษย์ลูกหาทั่วสารทิศก็ยังเดินทางมาที่วัดกันอย่างเนืองแน่น 

บึงกาฬจัดกีฬาสองฝั่งโขง

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2557 เวลา 16.00 น. ณ หาดทรายริมแม่น้ำโขงเทศบาลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬนายจินดา เดชภิมล ผอ.ศูนย์ กกท.ภาค 3 เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขัน "มหกรรมกีฬาสองฝั่งโขง" (บึงกาฬ-บอริคำไซ) โดยมี นายมนัส มะเส ผอ.กกท.บึงกาฬ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน โดยมีผู้แทนและนักกีฬาจากสปป.ลาวมาร่วมงานและแข่งขันกีฬา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดการแข่งขัน ทำไห้ทั้งนักกีฬาและกองเชียร์ทั้งสองประเทศชุ่มฉ่ำไปตามๆกันตามมาด้วยความสนุกสนานบรรยากาศแห่งมิตรภาพที่แน่นแฟ้น

โดยศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดบึงกาฬ และสมาคมกีฬาจังหวัดบึงกาฬ จัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาสองฝั่งโขง ครบรอบ 3 ปี วันสถาปนาจังหวัดบึงกาฬ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนสองฝั่งโขง ไทย – ลาว ซึ่งภายในงานมีการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน 3 ชนิดกีฬา ได้แก่ ชักคะเย่อ วิ่งผลัดกระสอบ วิ่งสามขา และกีฬาชายหาด 4 ชนิดกีฬา ได้แก่ เปตอง วอลเลย์บอลชายหาด ฟุตซอลชายหาด และตะกร้อชายหาด โดยมีนักกีฬาจากฝั่งไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้าร่วมการแข่งขันอย่างสนุกสนานท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพ 

บึงกาฬจัดประกวดการแต่งกายย้อนยุคในวันสถปนาเมือง

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 57 ณ เวทีกลางถนนริมแม่น้ำโขงข้างโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์  อำเภอเมืองบึงกาฬ  จังหวัดบึงกาฬ ในงานสถาปนาจังหวัดบึงกาฬครบรอบ 3 ปี ระหว่างวันที่ 21 – 25 มีนาคม 25557 เหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ นำโดย ผศ.วรุณวรรณ ผาโคตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ ได้จัดการประกวดการแต่งกายย้อนยุค ในงานครบรอบ 3 ปี วันสถาปนาจังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ของคนไทย ซึ่งในการประกวดได้ให้ผู้เข้าประกวดที่แต่งชุดมาลงทะเบียนสมัครการประกวดแล้วก็ให้อยู่ในงานโดยไม่มีการแสดงความสามารถบนเวทีแต่อย่างใดโดยจะมีคณะกรรมการคอยติดตามดูผู้สมัครแต่ละคน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่มาร่วมงานและ แขกผู้มีเกียรติ ทั้งจาก สปป.ลาว และประเทศเวียดนาม ที่มาร่วมงานในครั้งนี้อีก เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัด และสีสันให้กับงานวันสถาปนาเมืองบึงกาฬ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้แบ่งเกณฑ์การตัดสินออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทม่วนซื่นโฮแซว ประเภทความคิดสร้างสรรค์ และประเภทสวยงาม มีผู้ชนะการประกวดในแต่ละประเภท ดังต่อไปนี้ ประเภทม่วนซื่นโฮแซวผู้ชนะได้แก่ ฝ่ายชาย ได้แก่ นายคิด ศรีภูมิเดิม ฝ่ายหญิง ได้แก่ นางประจิต ศรีงาม ประเภทความคิดสร้างสรรค์ผู้ชนะได้แก่ ฝ่ายชาย นายธรินทร์ ยามดี ฝ่ายหญิง นางศิริรัตน์ โพธิ์ศรี และ ประเภทสวยงานชนะได้แก่ ฝ่ายช่าย นายโอภาส ชูฤทธิ์ ฝ่ายหญิง นางสาวพิมพ์วิมล แสดงจิต โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬและรองเจ้าแขวงบอริคำไซ สปป.ลาว ขึ้นมอบรางวัล

บึงกาฬจัดงาน “เครือข่ายเข้มข้น สหกรณ์ไทยเข้มแข็ง”

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 57 เวลา 18.00 น. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "เครือข่ายเข้มข้น สหกรณ์ไทยเข้มแข็ง ประจำปีงบประมาณ 2557 จังหวัดบึงกาฬ ณ ถนนริมแม่น้าโขงข้างโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีพีธีการมอบเงินทุนให้กับกลุ่มสหกรณ์ในจังหวัดบึงกาฬ และมีเครือข่ายลูกค้าสหกรณ์ในจังหวัดบึงกาฬมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ได้จัดโครงการ "เครือข่ายเข้มข้น สหกรณ์ไทยเข้มแข็ง ประจำปีงบประมาณ 2557 จังหวัดบึงกาฬ” สืบเนื่องมาจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 1,700,000 บาท เพื่อให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ นำไปใช้ส่งเสริมเครือข่ายกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ ให้เกิดการเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และเปิดช่องทางการจำหน่ายสินค้าสหกรณ์ ให้เป็นที่รู้จักในคุณภาพของสินค้า ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของกระบวนการสหกรณ์ ให้เป็นที่รู้จกแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์งานของสมาชิกสหกรณ์ตลอดจนกระบวนการสหกรณ์ในจังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดอื่นๆ เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกมีแนวคิดในการพัฒนาสินค้า และการร่วมมือกันระหว่างสมาชิก เพื่อให้เกิดเครือข่ายสหกรณ์ที่เข้มแข็ง เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มอาชีพจากทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมีกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 21-24 มีนาคม 2557 ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ประกอบด้วย นิทรรศการ "เครือข่ายเข้มข้น สหกรณ์ไทยเข้มแข็ง” การเสวนา "เครือข่ายเข้มข้น สหกรณ์จังหวัดบึงกาฬเข้มแข็ง” กิจกรรมสาธิตการผลิตสินค้าสหกรณ์ กิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม การจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ทั่วทุกภาคของประเทศ การแสดงดนตรีคอนเสิร์ต และกิจกรมการส่งเสริมการขายสินค้า เป็นต้น

บึงกาฬจัดมหกรรมโอท๊อปสู่อาเซียน

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน มหกรรมโอท๊อปบึงกาฬเปิดประตูสู่อาเซียน ณ ถนนริมแม่น้ำโขงเทศบาลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ซึงการจัดงานในครั้งนี้ได้นำสุดยอดโอท๊อปในจังหวัดบึงกาฬและสินค้าโอท๊อปทั่วประเทศมาออกบูทจำหน่ายและแสดงสินค้านอกจากนี้แล้วยังมีสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาวนำสินค้ามาจำหน่ายซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของสปป.ลาวเช่นน้ำสกัดจากมะขามป้อม ผ้าถุงที่เป็นเอกลักษณ์ของสปป.ลาวถักทอด้วยมือ และประเทศเวียดนามได้นำสินค้าทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อมาวางจำหน่ายซี่งทั้งสองประเทศที่นำสินค้ามาแสดงก็ได้รับความสนใจผู้ที่มาเทียวงานเป็นอย่างมากซึ่งงาน จะมีตั้งแต่วันที่ 21- 25 มีนาคม 2557

โดยการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดประตูสู่อาเซียนก่อนที่จะมีการเปิดอาเซียนอย่างเป็นทางการในปี 2558 เพราะได้มีการติดต่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกันอย่างต่อเนื่องและมีการติดต่อค้าขายและลงทุนกันในกลุ่ม 3 ประเทศ 9 จังหวัด ประกอบด้วย ประเทศไทย มี 4 จังหวัด ได้แก่จังหวัดหนองคาย , สกลนคร , นครพนม และจังหวัดบึงกาฬ ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มี 3 จังหวัด ได้แก่จังหวัดฮาติงห์ , เหงาะอานท์ และจังหวัดกวางบิ่ง และประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มี 2 แขวง ได้แก่แขวงบลิคำไซ และแขวงคำม่วน โดยมีวัตถุประสงค์ที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อเน้นความร่วมมือใน 3 ด้าน ได้แก่ด้านการศึกษา วัฒนธรรมและกีฬา , ด้านการค้า-การลงทุน และด้านการท่องเที่ยว พร้อมเร่งผลักดันให้เส้นทางหมายเลข 8 และหมายเลข 12 ให้เข้าอยู่ในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงด้วยข้อตกลงการขนส่งข้ามแดน(Great Mekong Sub region Cross-Bordor Transport Agreement : GMS-CBTA) เร่งดำเนินการอำนวยความสะดวกในด้านพิธีการทางศุลกากร ที่จุดผ่านแดนทุกจังหวัดและทุกแขวง ให้มีการตรวจสินค้าในครั้งเดียว (Single window inspection ) ระหว่างจังหวัดและแขวง ของ 2 ประเทศ อีกทั้งได้มีการผลักดันให้มีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ระหว่างจังหวัดบึงกาฬ-แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ที่รัฐบาลไทยและ สปป.ลาวได้รับทราบและอยู่ในระหว่างขั้นตอนของการดำเนินการแล้ว

เปิดงานวันสถาปนาเมืองบึงกาฬรองรับประชาคมอาเซียน

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 57 เวลา 19.00 น.  ที่ ถนนริมโขงหน้าโรงเรียนบึงกาฬอนุบาลวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อำเภอเมือง บึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันสถาปนาเมืองครบรอบ 3ปี ของจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีตัวแทนจากประเทศเพื่อนบ้านสปป. ลาวกับประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มาร่วมงานและได้นำการแสดงประจำชาติของแต่ละประเทศมาร่วมเฉลิมฉลองงานสถาปนาเมืองในครั้งนี้ด้วยถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีก่อนเปิดประชาคมอาเซียนในปีหน้า และมีพี่น้องชาวจังหวัดบึงกาฬร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าโอทอ๊ปอันมีชื่อเสียงของจังหวัดบึงกาฬ และสินค้าโอท๊อปจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศพร้อมทั้งของประเทศ สปป.ลาว รวมทั้งประเทศเวียดนาม ตลอดทั้งงานมีการแสดงบนเวทีกลางตลอดการจัดงานทั้ง 7 วัน ในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 จะมีกิจกรรมสำคัญสองอย่างคือ พิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชการที่ 5 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ ตำบลท่าไคร้ อำเภอเมืองบึงกาฬ และกิจกรรมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญสถาปนาเมืองบึงกาฬ โดยหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เจ้าอาวาสวัดสามัคคีอุปถัมภ์ หรือ วัดภูกระแต ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาชื่อดังแห่งจังหวัดบึงกาฬ เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายเหรียญสถาปนาเมืองไปก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างหลายล้านบาท จึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนประชาชนชาวบึงกาฬ และ ผู้สนใจทั่วไป ร่วมงานสถาปนาจังหวัดบึงกาฬครบรอบ 3 ปี ระหว่างวันที่ 21 – 27 มีนาคม 2557 ณ โรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ 

ชั่งน้ำหนักนักมวยศึกกระทิงแดงยอดมวยโลก มหกรรมกีฬาสองฝั่งโขงงานวันสถาปนาจังหวัดบึงกาฬ

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 57   เวลา 15.30 น.   ณ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายสมภพ สุนันทนาม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายชัยธวัช เนียมศิริ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ นายนิวัติน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ โปรโมเตอร์ บิ๊กบอสใหญ่ บริษัท แกแล๊คซี่ บอ๊กซิ่ง โปรโมชั่น จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักมวย ถิระชัย กระทิงแดงยิม นักชกชาวไทย ครองแชมป์มวยโลกรุ่นเวลเตอร์เวท PABA รองแชมป์โลกอันดับ 6 WBA และผู้ท้าชิงชาวคาซัคสถาน เบ๊คโซด นาบีเยฟ รองแชมป์มวยโลกอันดับ 9 WBA ซึ่งจะขึ้นชกกันในศึกกระทิงแดงยอดมวยโลก มหกรรมกีฬาสองฝั่งโขง งานวันสถาปนาจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 มีนาคม 2557 เวลา 16.00 น. – 18.00 น. ถ่ายทอดสดโดยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ณ สนามกีฬาโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งผลการตรวจร่างกายทั้งสองมีความสมบูรณ์ แต่ในส่วนของการชั่งน้ำหนัก เบ๊คโซด ชั่งรอบเดียวผ่าน ส่วน ถิระชัย ต้องขึ้นชั่งน้ำหนักถึง 2 รอบ ซึ่งทั้งสองจะขึ้นชกกันในวันพรุ่งนี้ นอกจากมวยชิงแชมป์โลกแล้วยังมีมวยชิงถ้วยผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ระหว่าง ไทรโยก เกียรติมวยการช่าง นักมวย อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนครและ ไอ้เตี้ยสีลม ส.สิงห์ดำ นักมวยเมืองไชยธานี นครหลวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว ในรุ่น 56 กิโลกรัม และมวยชิงถ้วยท่านพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี 4 คู่ ประกอบด้วย อองรี ศูนย์กีฬาอุดรธานี พบกับ เจมบอล วิทยาลัยป้องกันประเทศ นครเวียงจันทร์ ในรุ่น 54 กิโลกรัม แสตมป์ กระทิงแดงยิม พบกับ เพรชสุขสวัสดิ์ เกียรติป้อมเพชร ในรุ่น 110 ปอนด์ อามิน ศงหวังมุ๊ พบกับ ก้องสุรินทร์ ศิษย์เส่ย ในรุ่น 130 ปอนด์ และ ป้อมเพชร กีล่าสปอตร์ยิม พบกับ กัปตันเคน ศิษย์ป้อมปืน ในรุ่น 107 ปอนด์ และติดตามด้วยคู่มวยไทย-ลาว เชื่อมสัมพันธ์ไมตรีอีกแปดคู่

และในตอนเย็นของวันที่ 21 มีนาคม 2556 เวลาประมาณ 19.00 น. จะมีพิธีเปิดงานวันสถาปนาจังหวัดบึงกาฬประจำปี 2557 ซึ่งจังหวัดบึงกาฬได้เชิญ ผู้บริหารจาก ประเทศ สปป.ลาว พร้อมทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มาร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าโอทอปอันมีชื่อเสียงของจังหวัดบึงกาฬ และของประเทศ สปป.ลาว รวมทั้งประเทศเวียดนาม ตลอดทั้งงานมีการแสดงบนเวทีกลางตลอดการจัดงานทั้ง 7 วัน ในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 จะมีกิจกรรมสำคัญสองอย่างคือ พิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชการที่ 5 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ ตำบลท่าไคร้ อำเภอเมืองบึงกาฬ และกิจกรรมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญสถาปนาเมืองบึงกาฬ โดยหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เจ้าอาวาสวัดสามัคคีอุปถัมภ์ หรือ วัดภูกระแต ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาชื่อดังแห่งจังหวัดบึงกาฬ เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายเหรียญสถาปนาเมืองไปก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างหลายล้านบาท จึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนประชาชนชาวบึงกาฬ และ ผู้สนใจทั่วไป ร่วมงานสถาปนาจังหวัดบึงกาฬครบรอบ 3 ปี ระหว่างวันที่ 21 – 27 มีนาคม 2557 ณ โรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ 

ตำรวจบึงกาฬบูรณาการกวาดล้างอาชญากรรม

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 57   ณ ลานเอนกประสงค์สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬได้มีการสนธิกำลัง ของหน่วยงานตำรวจภูธรเมืองบึงกาฬ กองร้อย ตชด. 244 ตำรวจน้ำบึงกาฬ ทหารพราน นรข. เจ้าหน้าที่ อส. อาสาสมัครตำรวจชุมชน อาสาสมัครกู้ภัย ในจังหวดบึงกาฬ ระดมพลปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬก่อนช่วงการเลือกตั้ง ส.ว. 30 มี.ค.57 นี้

สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 10 – 24 มีนาคม 2557 โดยมุ่งเน้นเป้าหมายสำคัญได้แก่ 1.บุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด บุคลตามหมายจับ บุคคลพ้นโทษ และผู้ต้องหาที่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในความผิดดังกล่าว รวมทั้งผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง 2. บุคคลที่มีพฤติการณ์ลักลอบกระทำผิด จำหน่าย หรือขายอาวุธทั้งโดยปกปิดและโดยเปิดเผย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ท สื่อสังคมออนไลน์ ทุกประเภท และ 3. อาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมายหรือไม่ได้รับอนุญาต จากเหตุนี้ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬซึ่งมีอัตรากำลังน้อยเนื่องจากเป็นจังหวัดที่ตั้งใหม่และกำลังพลบางส่วนเข้าไปทำหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนที่กรุงเทพจึงได้มีการบูรณาการกำลังพลจากหน่วยงานต่างๆระดมพลกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาทุกหน่วยงานที่บูรณาการกันสามารถปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่องซึ่งเชื่อว่าน่าจะสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬในระดับหนึ่ง 

อาชีวศึกษาสัมมนาเชิงปฏิบัติการทิศทางการศึกษาด้านอาชีวศึกษา สู่ AEC

สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ร่วมกับ บริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "ทิศทางการศึกษาด้านอาชีวศึกษา สู่ AEC” มุ่งเน้นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการสื่อสารภาษาอังกฤษมาใช้ในการก เรียนการสอนทุกรายวิชา

24-03-57 ที่วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม นายสมใจ เชาว์พานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "ทิศทางการศึกษาด้านอาชีวศึกษา สู่ AEC” ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา และบริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด ด้วยการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดความรู้ให้กับครู อาจารย์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการให้ความรู้ แนวทางจัดทำแผนการเรียนการสอนของอาชีวศึกษาและกรอบความรับผิดชอบของบุคลากร ทางการศึกษา ส่วนที่สองคือแนวทางการพัฒนาหลักสูตรและแผนการสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้สอดคล้องรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมุ่งเน้นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการสื่อสารภาษาอังกฤษมาใช้ในการก เรียนการสอนทุกรายวิชา ทั้งนี้ บริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด มีนโยบายให้คนไทยมีความรู้ ความสามารถมากขึ้น โดยเฉพาะศักยภาพของบุคคลากรที่จะต้องแข่งขันกันในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมาเคยจัดโครงการลักษณะนี้มาแล้วในระดับสายสามัญ และมั่นใจว่าทรัพยากรด้านสื่อการเรียนการสอน และบุคลากรของซีเอ็ด จะช่วยพัฒนาให้ครูและนักเรียนนักศึกษาของอาชีวศึกษา ให้มีความพร้อมแข่งขันใน AEC อย่างมั่นใจมากขึ้น โดยจะจัดการสัมมนาจนครบทั้ง 4 ภาค นายสมใจ เชาว์พานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม กล่าวว่า ความช่วยเหลือจากภาคเอกชนจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมให้เป้าหมายการพัฒนา ของอาชีวศึกษาเพื่อก้าวเข้าสู่ AEC ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการพัฒนาแผนการเรียนการสอน และสอดแทรกหลักสูตรภาษาอังกฤษเข้าไปในทุกรายวิชา



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ขบวนการลักลอบตัดไม้ที่มหาสารคามเหิมเกริมแอบโค่นต้นพะยูงในโรงเรียน

ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงเหิมเกริมหนัก ลักลอบเข้าไปตัดต้นพะยูงในโรงเรียนบ้านบ่อน้อยหนองงัวสว่างวิทย์ ในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม กลางดึก ตำรวจตามรวบตัวคนร้ายได้ 1คน พร้อมรถยนต์ และไม้พะยูง 5 ท่อน สารภาพ ยังมีเพื่อนร่วมขบวนการที่หลบหนีไปได้อีก 4 คน

กลางดึกที่ผ่านมา (24-3-57) เวลาประมาณ 00.10น. พ.ต.ท.ทรงฤทธิ์ เวียงบาล สว. สส. สภ. มหาสารคาม นายถม ขาลมัก กำนันตำบลท่าสองคอน และ นายบุญลุ พลหาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบ่อน้อยหนองงัวสว่างวิทย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันออกตรวจภายในพื้นที่รับผิดชอบ หลังได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มคนร้ายเข้าไปลักลอบตัดต้นพะยูง ภายในโรงเรียนบ้านบ่อน้อยหนองงัวสว่างวิทย์ หมู่ 6 ตำบลท่าสองคอน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุภายในโรงเรียนบ้านบ่อน้อยหนองงัวสว่างวิทย์ พบคนร้ายกำลังลำเลียงไม้พะยูงขึ้นรถยนต์และกำลังจะขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสกัดและไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด จนถึงบริเวณบ้านเชียงเหียน ตำบลเขวา อำเภอเมือง เมื่อคนร้ายเห็นจวนตัว จึงได้จอดรถยนต์ไว้ข้างทางหน้าร้านรับซื้อของเก่า และแยกย้ายกันหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตาม สามารถจับกุมคนร้ายได้ 1 คน ทราบชื่อคือ นายรุ่งอรุณ หรือ กบ วันจงคำ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 บ้านหนองผักแว่น หมู่ 8 ตำบลกกโพธิ์ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมสารภาพว่ายังมีเพื่อนร่วมขบวนการที่หลบหนีไปได้อีก 4 คน คือ นายเทน ไม่ทราบนามสกุล ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด นายสิทธิ์ ไม่ทราบนามสกุล อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ส่วนอีก 2 คน ไม่ทราบชื่อ-สกุล

นายรุ่งอรุณ หรือ กบ ให้การว่า ตนและพวก ได้เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนบ้านบ่อน้อยหนองงัวสว่างวิทย์ เมื่อทำงานเสร็จจะได้รับค่าจ้างคนละ 3,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางประกอบด้วย รถยนต์อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผก 8384 ขอนแก่น ไม้พะยูง จำนวน 5 ท่อน ปริมาตรรวม 0.97 ลบ.ม. พร้อมด้วยอุปกรณ์การตัดไม้ และนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสวบสวน สภ.เมืองมหาสารคามขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว