วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการร่วมกิจกรรมโครงการ “ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัดทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธ”

วันนี้ (๒๘ พ.ค. ๕๗) เวลา ๐๗.๓๐ น.(ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖)  นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นางณิทฐา แสวงทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการพร้อมพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตามโครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัด ทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ” ณ วัดศิลาวิเวก บ้านแก้ง หมู่ 1 ตำบลบ้านแก้ง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร

นายศุภเดช การถัก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า โครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัด ทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ” เป็นโครงการที่จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร จัดขึ้นทุกวันพระ โดยหมุนเวียนไปตามวัดต่างๆ ทั้ง ๗ อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการจากส่วนราชการต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ได้มีโอกาสเข้าวัด ทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ เพื่อนำหลักธรรมคำสอนของศาสนาไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธอันดีงามให้คงอยู่คู่ชุมชนสืบไป

สำหรับครั้งต่อไป กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ (ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖) ที่วัดพุทธนคราภิบาล ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง อำเภอเมือง ร่วมทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยพร้อมเพรียงกัน



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร/ภาพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารประชุมโต๊ะข่าวจังหวัดมุกดาหารตามโครงการ “ผู้ว่าฯ พบสื่อมวลชน”

วันนี้ (๒๘ พ.ค. ๒๕๕๗) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานประชุม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลชนในพื้นที่ทุกแขนง อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน โดยมี พ.อ.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓  ดร.ธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนางานของจังหวัดให้ดำเนินไปด้วยความราบรื่น โดยอาศัยหลักการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี ก่อให้เกิดการพัฒนาจังหวัดมุกดาหารระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน กับสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารทุกแขนง และถือเป็นการเปิดเวทีให้ผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดได้มีโอกาส แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวมถึงรับทราบปัญหา อุปสรรค ของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันแก้ไขก่อให้เกิดการพัฒนาจังหวัดมุกดาหารต่อไป



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดมุกดาหาร จัดประกวดสัญลักษณ์ต่อต้านการกระทำผิดจริยธรรมหรือกฏหมายทุกรูปแบบเพื่อสร้างสังคมแห่งความโปร่งใส

นางสาวนุชนาถ  ด้วงสงฆ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้จัดประกวดสัญลักษณ์ต่อต้านการกระทำผิดจริยธรรมหรือกฏหมายทุกรูปแบบเพื่อสร้างสังคมแห่งความโปร่งใส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้และใช้เป็นสัญลักษณ์ในการรณรงค์ต่อต้านการกระทำผิดจริยธรรมหรือกฏหมายทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสังคมแห่งความโปร่งใส โดยรางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่เกียรติยศพร้อมเกียรติบัตร และเงินรางวัล ๑๕๐,๐๐๐ บาท และรางวัลชมเชยจำนวน ๓ รางวัล จะได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล รางวัลละ ๕๐,๐๐๐ บาท

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ นายภวิศ สุดแสวง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันการทุจริตภาคการเมือง โทร. ๐ ๒๒๘๒ ๓๑๖๑-๕ ต่อ ๕๐๖ หรือ ๐๘ ๖๖๖๔ ๙๙๖๙ ในวันและเวลาราชการ หรือตรวจสอบรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์  www.nacc.go.th  สามารถส่งผลงานเข้าประกวดด้วยตัวเอง (ในวันและเวลาราชการ) หรือทางไปรษณีย์ (วงเล็บมุมซองว่า "การประกวดตราสัญลักษณ์”) ได้ที่สำนักงานป้องกันการทุจริตภาคการเมือง สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เลขที่ ๑๖๕/๑ ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ทศพร  โล่ห์เงิน นักศึกษาฝึกงาน/ข่าว

งานบุญบั้งไฟเทศบาลตำบลตาดทอง จ.ยโสธร

เทศบาลตำบลตาดทอง โดยนายพิบูล ฝ่ายดี นายกเทศมนตรีตำบลตาดทอง ร่วมกับหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ประชาชนตำบลตาดทอง ได้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลตาดทอง เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ยั่งยืนคงอยู่กับชุมชนสืบไป

วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2557       - ชมกองเชียร์ คอนเสิร์ต ดอกรัก ดวงมาลา
วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2557      - ชมขบวนฟ้อน หมอลำซิ่ง เพ็ญนภา แนบชิด
วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2557  - ชมการจุดบั้งไฟขึ้นสูง ณ ธาตุก่องข้าวน้อย


จึงขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลตาดทอง ณ บริเวณตลาดสดตาดทอง ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร




ส.ปชส.ยโสธร
ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์
28 พฤษภาคม 2557

จังหวัดอำนาจเจริญ เปิดโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ พื้นที่กลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทาน โครงการอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยานฝั่งซ้าย กลุ่มที่ 3

วันนี้ (27 พ.ค. 57) เวลา 09.30 น. ณ องค์การบริหารส่วนตำบลนาจิก อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ   นายบุญยืน  คำหงษ์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ พื้นที่กลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทาน โครงการอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยานฝั่งซ้าย กลุ่มที่ 3

จังหวัดอำนาจเจริญ โดยคณะอนุกรรมการบูรณาการแผนปฏิบัติการพัฒนาการเกษตรระดับจังหวัด ได้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการในพื้นที่ กลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทาน โครงการอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ฝั่งซ้าย กลุ่มที่ 3 ตำบลนาจิก อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นพื้นที่ดำเนินการกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทาน โครงการอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ฝั่งซ้าย กลุ่มที่ 3 จัดตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2533 มีสมาชิก จำนวน 213 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 3,666 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ จำนวน 103 ราย เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมกันนำเสนอแผนงานโครงการและกิจกรรมที่จะร่วมดำเนินการในพื้นที่โครงการในปีงบประมาณ 2557 ให้เกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินกิจกรรมด้านการเกษตรในแปลงของตนเอง  ส่งเสริมให้เกษตรกรได้ศึกษาเรียนรู้การทำเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและมีการแสดงนิทรรศการ การสาธิตด้าน ดิน น้ำ พืช สัตว์ ประมง และด้านอื่นๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ และองค์การบริหารส่วนตำบลนาจิก โดยมีสาชิกกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ฝั่งซ้าย กลุ่มที่ 3 และเกษตรในพื้นที่ตำบลนาจิก อำเภอเมือง จำนวน 250 ราย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ และองค์การบริหารส่วนตำบลนาจิก

ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เป็นโครงการที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นที่จะขยายผลไปสู่แหล่งน้ำอื่น ๆ สร้างโอกาสในการพัฒนาเกษตรกร การวางแผน การผลิต การแปรรูป การตลาด สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน และได้ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ (ปลาตะเพียน) จำนวน 2 แสน ตัว ลงแม่น้ำหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลนาจิก อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ




ประกาศิต  สุวะทอง/ข่าว/ภาพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ อ.ส. อปพร.ระดมสรรพกำลังรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และตัดทำลายต้นยางพารา มันสำปะหลัง ของผู้บุกรุก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงคำเดือยแปลงที่1 ต.โคกก่ง อ.ชานุมาน

วันนี้ (28 พ.ค. 57) เวลา 10.00 น.  ณ  บริเวณพื้นที่ป่าดานกระต่าย เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงคำเดือย แแปลงที่ 1 ตำบลโคกก่ง อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดการดำเนินการตัดทำลายต้นยางพารา มันสำปะหลังพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่มีผู้บุกรุก ออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงคำเดือยแปลงที่ 1 ต.โคกก่ง อ.ชานุมาน  ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507  ซึ่งทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี ได้สำรวจแล้วพบว่า ยังมีพื้นที่อีกจำนวน 5 แปลงที่ยังไม่ได้ทำการรื้อถอน โดยอยู่ในเขตตำบลโคกก่ง อำเภอชานุมาน  เนื้อที่ประมาน 234 ไร่ 3 งาน 67 ตารางวา  ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีใครมาแสดงตนรับเป็นเจ้าของ

นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า การดำเนินการทุกอย่างในครั้งนี้ได้ ดำเนินการทำตามกรอบกฎหมาย พร้อมทั้งได้ชี้แจงให้ประชาชนในพื้นทีได้รับทราบ  และจากการตรวจสอบพบว่าราษฎรที่มาบุกรุกทำลายป่าและปลูกยางพารา มันสำปะหลังไม่ใช่คนในพื้นที่  ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด เช่น หนองคาย  ศรีสะเกษ  อุดร  หนองบัวลำภู  ซึ่งในการบุกทำลายตัดต้นยางพารา และมันสำปะหลังในครั้งนี้ได้สนธิกำลังทุกภาคส่วน กว่า 500 นาย เพื่อทวงคืนผืนป่าคืน ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็จะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่คนอื่นต่อไป พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ได้แก่ วิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ดำเนินการประชาสัมพันธ์  ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบเพื่อให้รู้ว่าใครก็ตามที่เข้ามาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติในเขตจังหวัดอำนาจเจริญ ทางจังหวัดและประชาชนในจังหวัดอำนาจเจริญจะไม่ยอมเด็จขาด และพร้อมที่จะดำเนินการขับไล่หรือทวงคืนทันที และถ้าหากจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้  ก็จะให้ทาง ปปง. เข้ามาร่วมดำเนินการอีกทางหนึ่งด้วย  เพื่อให้เกิดการยำเกรงไม่กล้ากระทำผิดอีก และได้ฝากถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรที่อาศรัยอยู่ในบริเวณรอบ ๆ ช่วยเป็นหู เป็นตา ถ้าหากมีใครมาบุกรุกขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที หรือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ โดยตรงที่หมายเลข 045-523111 มือถือ 089-2030615   และเมื่อทางจังหวัดได้รื้อถอนหมดแล้วก็จะดำเนินการปลูกป่าขึ้นมาทดแทนให้เต็มพื้นที่



จรูญ  พิตะพันธ์/ข่าว/ภาพ  
สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./บก.ข่าว

อุดรธานีรวบแก๊งขนไม้พะยูงคาด่านความมั่นคง

ตำรวจพร้อมทหาร จับแก๊งลักลอบขนไม้พะยูง ซิ่งรถ 2 คัน แหกด่านความมั่นคงที่อุดรธานี รวบผู้ต้องหาได้ 3 ราย รถยนต์หรูอีก 2 คัน ของกลางเป็นไม้พะยูง 8 ท่อน มูลค่าล้านกว่าบาท สารภาพเตรียมไปส่งที่จังหวัดบึงกาฬ แต่หลงทางไปโผล่เส้นทางไปจังหวัดขอนแก่น แถมเจอด่านตำรวจทหารซิ่งรถหนี แต่ก็ถูกตำรวจทหารจับกุมได้ในที่สุด    

เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (28 พ.ค. 57) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พลตำรวจตรีวีรพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย พันตำรวจตรีประจัญบาน ทองศรี หัวหน้าชุดด่านตรวจความมั่นคงบ้านข้าวสาร ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักลอบขนไม้พะยูง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเวลา 01.00 น.ซึ่งเป็นช่วงประกาศเคอร์ฟิว ได้ผู้ต้องหา 3 รายคือ นายธนพล สีแสง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 8 ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ นายบุญรักษ์ รินทะนา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 8 บ้านดงเรือง ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ และนางหนูจันทร์ วงษ์หมอก อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 8 บ้านอยู่บึงกาฬ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ที่ใช้สำหรับขนไม้พะยูงคือ รถยนต์มิตซูบิชิรุ่นปาเจโร ทะเบียน ฆก 6019 กทม.ภายในพบไม้พะยูงจำนวน 8 ท่อนซุง ยาวท่อนละประมาณ 210 ซม ซุกซ่อนภายในโดยมีการถอดเบาะออกแล้วนำไปใส่ไว้ใน รถยนต์ปิคอัพอีซุซุ ดีแม็กซ์ สีบอร์น 4 ประตู ทะเบียน กง-9424 สุราษฏร์ธานี ซึ่งใช้เป็นรถนำทาง

นายธนพล เปิดเผยว่า รับว่าจ้างจากนายยูน ไม่ทราบสกุล ได้ค่าจ้างคนละ 9,000 บาท ขนไม้พะยูงจากบ้านนาจาร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อไปส่งให้ที่อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ โดยออกจากหนองบัวลำภูตั้งแต่หกทุ่ม แต่เหตุที่ไปเจอด่านจุดตรวจความมั่นคงที่บ้านข้าวสารเนื่องจากหลงทาง จริงๆแล้วต้องเลยไปอีกแยกหนึ่งคือไปทางจังหวัดสกลนคร ถึงจะไปจังหวัดบึงกาฬได้ แต่รถนำทางที่มีนายบุญรักษ์และนางหนูจันทร์ขับนำทาง ขับหลงทางไปเจอด่านมั่นคง ตนพยายามขับรถหนีแต่เนื่องจากเป็นถนนสี่แลนและอีกฝั่งเป็นร่องน้ำพยายามขับรถหนีจึงไปไม่รอด และเกรงกลัวทหารที่มีปืนด้วย ส่วนที่ถามว่ากลัวไหมที่ขนในช่วงประกาศเคอร์ฟิว นายธนพลบอกว่ากลัวแต่ก็ต้องทำเพราะอยากได้เงิน

พลตำรวจตรีวีรพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี กล่าวถึงการจับกุมว่า แม้เจ้าหน้าที่จะประกาศเคอร์ฟิวหลัง 4 ทุ่มแต่ยังมีคนร้ายลักลอบขนไม้พะยูงและสิ่งผิดกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะได้เข้มเพื่อป้องกันการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายทุกมุมเมือง ซึ่งหากไม้พะยูงล็อตนี้นำไปขายยังต่างประเทศได้จะมีมูลค่า 1 ล้านบาทเศษเลยทีเดียว หลังจับกุมตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีไม้หวงห้าม(ไม้พะยูง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีเบิกทางของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.

เรื่อง ธกส.อุดรธานีจัดโครงการ คสช.คืนความสุขให้ชาวนา

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดอุดรธานี จัดโครงการ คสช.คืนความสุขให้ชาวนา เร่งจ่ายเงินจำนำข้าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงินแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/2557 และยังไม่ได้รับเงินตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวน

ที่บริเวณหน้าสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การการเกษตรจังหวัดอุดรธานี เช้าวันนี้ (28 พ.ค. 57) พลตรีสิทธิ จันทรสมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 เป็นประธานพิธีมอบเงินให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าวเปลือกกับรัฐบาลตามโครงการ "คสช.คืนความสุขให้ชาวนา” โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีร่วมพิธี

นายเรืองชัย เจริญกิจสุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดอุดรธานี หรือ ธ.ก.ส.จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า โครงการ "คสช.คืนความสุขให้ชาวนา" เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวนาและช่วยให้เศรษฐกิจพื้นฐานมีการหมุนเวียนดีขึ้น โดยเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางด้านการเงินของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต2556/57และยังไม่ได้รับเงินตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวนจำนวน 6,217 รายเป็นจำนวนเงิน 327ล้านบาท จากจำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ 20,804 ราย จำนวนเงิน 1,011ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้พยายามช่วยเหลือชาวนาโดยจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวนา เพื่อให้พี่น้องประชาชน องค์กรเอกชนและองค์กรภาครัฐได้มีส่วนสมทบเงินเข้ากองทุน เพื่อช่วยเหลือในการสำรองจ่ายให้กับชาวนาที่ถือใบประทวนแต่ยังไม่ได้รับเงินเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจำนวน 20,000 ล้านบาท แต่ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้มีนโยบายให้เร่งจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกก็จะเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวนาได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

ทั้งนี้ในส่วนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดอุดรธานี ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลาง ได้เร่งจ่ายให้พี่น้องเกษตรกรทุกราย โดยคาดว่าจะดำเนินแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2557 นี้



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทมองใหญ่ ณ อยูธยา / ข่าว

อุดรธานีทุกภาคส่วนมอบสิ่งของให้กำลังใจทหาร

หน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กร มูลนิธิ สมาคม สโมสร และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง มามอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคน้ำดื่มให้กับทหาร เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 พ.ค.57) ที่บริเวณลานหน้าสโมสรทหารค่ายประจักษ์ศิลปาคม อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี พลตรีสิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยพลตำรวจตรีวีระพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมให้การต้อนรับ หัวหน้าส่วนราชการทั้งภาครัฐ เอกชน สมาคม สโมสร องค์กรการกุศลทุกภาคส่วน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี หนองคายและบึงกาฬ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม และดอกไม้ มามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง ในการตั้งด่านจุดตรวจตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. พลตรีสิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีความห่วงใยและให้กำลังใจทหารหาญ ที่ทำเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชน ให้อยู่กันอย่างสงบสุข เพื่อที่จะนำบ้านเมืองสู่สิ่งแวดล้อมที่สงบสุข นำไปสู่การแก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศต่อไป อยากจะฝากทุกคนว่าสิ่งไหนที่จะทำให้เกิดความแตกแยกอย่าทำ อยากจะให้ร่วมมือกับทหารในทุกๆด้าน ขอบคุณที่เข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะบ้านเมืองบอบช้ำมามากแล้ว สิ่งของที่นำมาให้ครั้งนี้จะเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารซึ่งส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ในขณะที่พลตำรวจตรีวีระพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ขอความร่วมมือประชาชนหากเห็นสิ่งผิดปกติให้แจ้งตำรวจที่อยู่ใกล้ท่านที่สุด



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

เกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี บ้านเรือน วัด เสียหายรวมกว่า 50 หลังคาเรือน

เกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี บ้านเรือน วัด เสียหายรวมกว่า 50 หลังคาเรือน เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.

วันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อน ฝนและลมกระโชกรุนแรงที่ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย เสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน

ด้านนายเกริกชัย ผ่องแผ้ว นายอำเภอสำโรง จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยเจ้าหนาที่เข้าตรวจสอบสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากพายุฤดูร้อน จำนวน 50 หลังคาเรือน โดยได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ลงมาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุดพร้อมกับประสานทางกำนันผู้ใหญ่บ้านในอำเภอสำโรงระดมชาวบ้านให้ออกช่วยเหลือซ่อมบ้านเรือนให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากในช่วงนี้ทางอำเภอสำโรงเกิดพายุฤดูร้อนอย่างต่อเนื่อง

และเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 นางมัณฑนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี และคณะเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนชาว อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี พร้อมกับมอบถุงยังชีพและยาสามัญให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือนร้อนอีกด้วย

ชมรมแม่บ้านทหารบกจากค่ายพระยอดเมืองขวางมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ทหารรักษาการณ์

นางรัตนาภรณ์ ศรีเจริญ ภรรยา พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกนครพนม ค่ายพระยอดเมืองขวาง  อำเภอเมือง  จังหวัดนครพนม  เดินทางมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค  ให้แก่ทหารที่รักษาการณ์ตามสถานที่ต่างๆ 7 แห่ง  ในจังหวัดนครพนม  ได้แก่   บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สำนักงานจังหวัดนครพนม  ด่านสะพานมิตรภาพ 3  การประปา  สถานีไฟฟ้า  ศาลากลางจังหวัด  ศาลจังหวัด  ด่านท่าเทียบเรือนครพนม  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดนครพนม แจ้งราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ

นายสุนทร  ภักดีศรีโฆษิต  การค้าภายในจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ  ประกาศราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ ระหว่างวันที่ 22-27 พฤษภาคม 2557  ในพื้นที่กรุงเทพ ฯภาคกลางและภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาที่สมเหตุสมผลสอดคล้องกับต้นทุน รวมทั้งให้พ่อค้าคนกลางมีการกำหนดราคาที่เหมาะสมเป็นธรรมต่อผู้บริโภค เขตพื้นที่ กรุงเทพฯ  ภาคกลาง ภาคตะวันตก ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม  ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๗9 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 93 บาท ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก  ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑28 บาท  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑44 บาท  ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑56  บาท

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม  ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 94 บาท  ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ  ๑29 บาท  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑45 บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑57 บาท

ภาคตะวันออก  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ  81 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 95 บาท   ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑31 บาท  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑47  บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑59  บาท

ภาคใต้  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 78 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 92  บาท ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๒7  บาท ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑43 บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑54 บาท

ภาคเหนือ  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 94  บาท ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๒9  บาท ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑45 บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑57  บาท

กรณีจำหน่ายสุกรสูงกว่าราคาแนะนำ  มีโทษจำคุก ๗ ปี ปรับไม่เกิน ๑๔๐,๐๐๐ บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ  และไม่ติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายหรือจำหน่ายไม่ตรงตามราคาที่ป้ายแสดงไว้  มีโทษปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ๐-๔๒๕๒-๐๙๘๗-๘  โทรสาร ๐-๔๒๕๒-๐๙๘๘

โครงการอุปสมบทหมู่ภาคเข้าพรรษา 100,000 รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย

องค์การยุวพุทธศาสนิกชนสัมพันธ์แห่งโลก ร่วมกับคณะสงฆ์ทั่วประเทศ วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย และชมรมพุทธศาสตร์สากลในอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ และองค์กรภาคีจัด "โครงการอุปสมบทหมู่ภาคเข้าพรรษา 100,000 รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย ครั้งที่ 10 ในระหว่างวันที่ 19 มิถุนายน ถึง วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ” เพื่อให้กระแสธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แผ่ปกคลุมทั่วผืนแผ่นดินไทย ให้ดับร้อนฝ่าวิกฤตภัย ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง โดยรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2557 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call center 0-2831-1234 หรือ www.dmycenter.com

จังหวัดนครพนมประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนกับแขวงคำม่วน ครั้งที่ 2

จังหวัดนครพนมประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนกับแขวงคำม่วน  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  เพื่อลดปัญหาทางการค้าและรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

นายสมชาย  วิทย์ดำรงค์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  จังหวัดนครพนมและแขวงคำม่วนได้จัดประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน  ครั้งที่ 2 เพื่อแสงหาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการค้า  การลงทุน  การแก้ไขปัญหา  อุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน และเชื่อมความสัมพันธไมตรีในฐานะบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดีต่อกัน  ซึ่งในการประชุมจะเป็นการปรึกษาหารือ  รับฟังความคิดเห็น  โอกาส  ศักยภาพ  และส่งเสริมการค้าชายแดนให้เกิดความคล่องตัว  สะดวก รวดเร็ว ในการเตรียมตัวรองรับการเปิดเศรษฐกิจเสรีอาเซียนปี 2558  โดยมีประเด็นหาเรือร่วมกัน 6 ข้อ  ได้แก่  การอำนวยความสะดวกในการผ่านแดน  โครงการ Contract Farming  การพัฒนาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว  สนับสนุนส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งสองประเทศ  การส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-ลาว และการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย   โดยมีคณะกรรมการค้าชายแดน จำนวน  30 คน ฝ่ายแขวงคำม่วน  จำนวน 31 คน เข้าร่วมประชุม  นอกจากนี้ยังมีการลงนามในบันทึกการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน ระหว่างจังหวัดนครพนม และแขวงคำม่วน  เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติต่อไป

ขอเชิญร่วมส่งผลงานเข้าประกวดการประกวดวรรณกรรมการเมือง รางวัลพานแว่นฟ้าแห่งรัฐสภาไทย

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2557 ได้จัดประกวดวรรณกรรมการเมืองประเภทเรื่องสั้นและบทกวี "รางวัลพานแว่นฟ้าแห่งรัฐสภา”ขึ้นเป็นปีที่ 13 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเมืองการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างการมีส่วนร่วมทางการเมือง ปลูกฝังศรัทธาและส่งเสริมความเข้าใจในสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคของประชาชน อันเป็นพื้นฐานสำคัญของความเป็นประชาธิปไตย ผ่านศิลปะการประพันธ์เรื่องสั้นและบทกวี และเพื่อสนับสนุนยกย่องผลงานวรรณกรรมไทยที่ทรงคุณค่าให้พัฒนาไปพร้อมกับสำนึกประชาธิปไตย ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนในประเทศชาติ โดยเปิดรับผลงานเข้าประกวดฯ ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557

ผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฎร สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ 0-2244-2515-6 และ 0-2244 2522 และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับรางวัลได้ที่ www.parliament.go.th

สืบหาบุคคลสูญหาย (นายบุญธรรม ใจบุญ)

นายอนุศาสตร์  พลายวิเคราะห์  นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ  รักษาราชการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  ได้รับการประสานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี  ว่านายบุญธรรม  ใจบุญ  ข้าราชการครูตำแหน่งครูวิทยฐานะชำนาญการ  โรงเรียนดอนตาลดงบังวิทยา  อำเภอบ้านผือ  สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4 หายตัวไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม  2557 ณ บริเวณสวนสยามเขตบางชัน  กรุงเทพมหานคร  ในระหว่างร่วมคณะทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่  เกรงว่าอาจได้รับอันตราย  และอาจถูกล่อลวงไปในทางเสียหายหรือตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์  หากผู้ใดมีข้อมูลเบาะแส  หรือพบเห็นบุคคลดังกล่าว  แจ้งไปที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  โทรศัพท์ 0-4251-1022 , 0-4251-1506 หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี  โทรศัพท์ 0-423-25615 หรือ อีเมลล์ Udonthani@m-society.go.th  หรือแจ้งไปยังนางพรพรรณ  ใจบุญ  ภรรยา  โทรศัพท์ 0-8563-9486 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 OSCC

จ.กาฬสินธุ์ กำหนดให้อ้อยเป็นผลผลิตที่มีศักยภาพและหนองเลิงเปือยเป็นโครงการพัฒนาแก้ปัญหาน้ำในแผนพัฒนาจังหวัด ปี 2558-2561

นางสาวพัชราภรณ์ ศิริเวชยางกูล สถิติจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวว่า ความเป็นมาและแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาข้อมูลสถิติและสารสนเทศ ระดับพื้นที่ 76 จังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ที่จัดทำขึ้นก็มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการพัฒนากระบวนการสารสนเทศที่เหมาะสมกับการบริหารราชการส่วนภูมิภาค เน้นให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 สู่ยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่ในจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์การพัฒนาสถิติใน 3 ด้านคือ เศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างวัฒนธรรมการประยุกต์ใช้สารบรรณเพื่อการตัดสินใจระดับพื้นที่ในการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ การตัดสินใจแก้ปัญหาอยู่บนข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน มีประสิทธิภาพ เกิดการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม และข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถเป็นตัวชี้วัดประสิทธิผลของแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ได้

สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ (2558-2561) โดยด้านเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและพลังงานทดแทน พืชที่สำคัญ คือ อ้อย ได้กำหนดให้เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพสูง (Product Champion) ยุทธศาสตร์การพัฒนาผ้าไหมแพรวา สินค้า OTOP และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมผู้ไทย ด้านสังคม คือยุทธศาสตร์การพัฒนาคน สังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเน้นโครงการ 3D ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมียุทศาสตร์การบริหารทรัพยากรธรรมชาติฯ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร หนองเลิงเปือย อำเภอร่องคำ เป็นประเด็นสำคัญในเชิงพื้นที่ (Critical Issues)



สุรพล คุณภักดี / ข่าว

อำเภอชุมแพจังหวัดขอนแก่นประกาศเจตนารมณ์ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอย่างยั่งยืน

ที่หอประชุมอำเภอชุมแพ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน นำหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านกลุ่มพลังสตรี สมาชิกกองทุนหมู่บ้านในอำเภอชุมแพ ร่วมกันปฏิญาณตนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดรวมทั้งประกาศสงครามในการต่อต้านยาเสพติดให้เป็นวาระสำคัญของจังหวัดขอนแก่นโดยให้ทุกหมู่บ้านทุกชุมชนมีกฏหมู่บ้าน ชุมชน ตั้งอาสาสมัครเป็นเวรยามหมู่บ้านและช่วยเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะแสยาเสพติดให้เหมือนกับตาสับปะรดอยู่ที่ไหนก็เห็นพฤติกรรมผู้ค้า ผู้เสพยาเสพติด เราจะได้นำลูกหลานของเราที่หลงผิดกลับมาจากวงจรการค้าการเสพยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน สำหรับ อำเภอ ชุมแพ มี 12 ตำบล 135 หมู่บ้าน 35 ชุมชน มีการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด 161 คดี  ผู้ต้องหา 163 ราย ปี2557ตั้งแต่เดือนมกราคมมานี้ดำเนินคดีไปแล้ว 81 ราย ของกลางยาบ้า 1,673 เม็ด ไอซ์ 3.2 กรัม กัญชาสด 21 ต้น กัญชาแห้ง 920 กรัม นำผู้เสพไปบำบัด 600 คน มีการทำประชาคมหมู่บ้าน รีเอกซเรย์คนในพื้นที่ ออกกฏหมู่บ้านในการเฝ้าระวังยาเสพติด มีการตรวจสอบร้านอินเตอร์เน็ต ร้านคาราโอเกะ อย่างต่อเนื่อง และขณะนี้มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ทุกหมู่บ้านร่วมโครงการงานศพปลอดเหล้า ปลอดการพนันด้วย มีการตอบรับที่ดี

จังหวัดชัยภูมิ เร่งรัดการจ่ายเงินจำนำข้าวแก่ชาวนา โดยจ่ายไปแล้วกว่า ๑๐๐ ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 พ.ค. 57) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พล.ต.มารุต ลิ้มเจริญ ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 /ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ชัยภูมิ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ สาธิตสมิตพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการจ่ายเงินให้กับชาวนา ตามโครงการรับจำข้าว โดยให้ทุกอำเภอเพิ่มขั้นตอนการทำสัญญาระหว่างเกษตรกร กับ ธกส. ว่ามีเกษตรกรที่รับไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวกี่ราย จำนวนเงินกี่บาท ซึ่งให้ดำเนินการทำสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเรื่องความปลอดภัยของประชาชนที่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวด้วย ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2557 จังหวัดชัยภูมิได้จ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้วทั้งสิ้น 2,401 ราย เป็นเงิน 100,722,374.01 บาท ยังคงค้างจ่าย 13,620 ราย เป็นเงิน 715,974402.44 บาท



เพชรรินทร์ เขียวเขว้า
ส.ปชส.ชัยภูมิ//ข่าว

อบจ.ชัยภูมิหนุนครอบครัวสุขสันต์สานสัมพันธ์ผูกพัน 3 วัย

เวลา  9.30  น.  วันนี้  (28 พ.ค. 57)  ณ  โรงแรมชัยภูมิปาร์ค  อ.เมือง จ.ชัยภูมิ   นายสมชัย  พูดเพราะ  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ  เป็นประธานในที่พิธีเปิดการฝึกอบรมโครงการครอบครัวสุขสันต์สานสัมพันธ์ผูกพัน 3 วัย  ประจำปี  2557  เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวมีความรู้  ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่สมาชิกของครอบครัว  ปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว  อันทำให้เกิดความรักและความอบอุ่นของครอบครัว

การฝึกอบรมในครั้งนี้  เป้าหมายหลักคือครอบครัวของนักเรียนโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ  จำนวน  26  ครอบครัวๆ ละ  6  คน  รวม  156  คน  ซึ่งมีทั้งพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และลูกหลาน ครบทั้ง 3 วัย ใน 1 ครอบครัว  โดยมีการทัศนศึกษาและทำกิจกรรมที่โบราณสถานปรางค์กู่  ศาลเจ้าพ่อพญาแล (พระยาภักดีชุมพล)  และสวนสัตว์ชัยภูมิ  สตาร์ไทเกอร์  ทั้งนี้ได้เชิญคณะวิทยากรที่มีความรู้  ความสามารถจากสำนักงานเกษตรอำเภอซับใหญ่  และอุทยานแห่งชาติตาดโตน  มาอบรมให้ความรู้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้



สุระพงค์  สวัสดิ์ผล /ข่าว

ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยภูมิ ประชุมคณะทำงานโฆษกของสำนักงานฯ

วันนี้ (28 พ.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดชัยภูมิ   นางสาว สุรีรัตน์ นวลฉิมพลี  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานโฆษกของ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยภูมิ  ครั้งที่ 1/2557   ซึ่งตามที่คณะอนุกรรมการด้านโฆษกและเผยแพร่ข่าว สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งที่ 37/2557  แต่งตั้งคณะทำงานโฆษกของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยภูมิ  โดยคณะทำงาน ฯ มีหน้าที่เฝ้าระวัง วิเคราะห์สถานการณ์ด้านการข่าว แสวงหา ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ภายในจังหวัดหรือภายในประเทศ ที่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของคณะกรรมการ ป.ป.จ.และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด และรายงานให้คณะการการ ป.ป.จ. หรือคณะอนุกรรมการด้านโฆษกและเผยแพร่สำนักงาน ป.ป.ช.  จัดทำแผนปฏิบัติการการประชาสัมพันธ์และการให้ข่าวแก่สื่อมวล  จัดให้มีกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสื่อมวลชน และผู้สื่อข่าวในจังหวัดกับคณะกรรมการ ป.ป.จ.และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด จึงได้เชิญคณะทำงานโฆษกฯ เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการประชาสัมพันธ์ และจัดทำแผนประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารของ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยภูมิ ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้และเข้าใจอย่างแพร่หลายต่อไป

ชัยภูมิจับยาบ้า-ไม้พยุงติดสินบนเจ้าหน้าที่ยึดเงินสดเกือบ 5 หมื่นบาท

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ พล.ต.ต.พินิต  มณีรัตน์ พร้อมด้วย พลตรีมารุต  ลิ้มเจริญ ผบ.กกล.รส.จว.ชัยภูมิ แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า 2 รายซ้อน และคดีขนไม้พยุงอีก 1 ราย พร้อมเงินสด ขณะพยายามนำมาเสนอเขจ้าหน้าที่ติดสินบน  โดยรายแรก ตำรวจ สภ.ภูเขียว จับกุมนายฤทธิ์เดช  หมู่ผักแว่น อายุ 18 ปี นักค้ายาบ้านรายใหญ่พร้อมยาบ้า กว่า 8,000 เม็ด  คาบ้านเลขที่ 230 ม.7 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว และสืบสวนขยายผล จับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 3 คน ยาบ้าอีก จำนวนหนึ่ง ส่งร้อยเวรดำเนิคดี

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ สภ.ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ ยังตั้งด่านสกัด พบผู้ต้องสงสัย นายประเวศ  หอมขจร อายุ 39 ปี ชาวตำบลโชกโดน อ.แกลง จ.ระยอง ขับรถเก๋ง ทะเบียน กค7248 เพชรบูรณ์ ผ่านมา มีท่าทางพิรุจน์ จึงขอตรวจปัสสาวะ พบมีสีม่วง นอกจากนั้นยังพบยาบ้า ซุกซ่อนในกางเกงชั้นใน 20 เม็ด พอรู้ตัวว่ามีความผิด นายประเวศ พยายามต่อรองเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเสนอเงินสินบนเพื่อให้ปล่อยตัว แต่ตำรวจไม่ยอม แถมนำตัวมาสอบเข้ม และตรวจค้นในรถเก๋งอย่างละเอียดอีกครั้ง พบยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกสีดำ พันด้วยผ้าเทปสีดำ ซุกซ่อนในคอนโซลด้ายซื้อมือคนขับ รวมยาบ้า 8,000 กว่าเม็ด สารภาพว่ารับยามาจากพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย จากนาย สี ไม่ทราบนามสกุล ชาวโม้ง เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่ จ.ระยอง และชลบุรี แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน

ล่าสุด ตำรวจ สภ.ภูเขียว สืบทราบว่า มีขบวนการลักลอบขนไม้พะยูง เข้ามาลักลอบขนไม้ลำเลียงผ่านบ้านตาดรินทอง ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จึงวางแผนสกัดจับ สามารถจรวบตัวนายนายธนูศิลป์  ถวิลรักษ์ อายุ 38 ปี  กับพวก คือนายสุรพงษ์  โคตรอาสา อายุ 19 ปี ราษฎรบ้านตาดรินทอง ขณะขับรถกะบะ ทะเบียน 3385 กรุงเทพมหานคร ตัดแปลงรถเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่สำเร็จ ภายในรถพบไม้พะยูงซุกซ่อนใต้กระบะ จำนวน 2 ท่อน ทั้งสองสารภาพว่ารับจ้างจากนาย สัก ไม่ทราบนามกุล คนบ้านเดียวกัน ให้ขับรถคันดังกล่าว   เวลาต่อมา มีนายกาจน์ชนก หรือ สัก   เผยศิริ อายุ 40 ปี และนายชัชชวาล  หรือปุ๊ก  พรบุปผา อายุ 26 ปี ราษฎรบ้านธาตุทอง เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เพื่อเสนอเงินสดจำนวน 4หมื่น8พันบาท แลกกับการไม่จับส่งดำเนินคดี แต่ถูกตำรวจจับกุมในข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงาน ส่งร้อยเวร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

////////////////////////

สุระพงค์  สวัสดิ์ผล /ข่าว 

โคราชจัดโครงการ เกษตรกรยิ้ม มอบชุดอุปกรณ์ใช้เชื่อมเครือข่ายผ่านทางสื่อทีวีแก่อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน

วันที่ 28 พ.ค. 57 นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานมอบอุปกรณ์รับชมรายการเกษตรกรยิ้ม โครงการเกษตรกรยิ้ม ณ หอประชุมฉลอง 80 ปี วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ บริษัท ฟาร์มแชนแนล จำกัด จัดทำโครงการเกษตรกรยิ้มโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบชุดอุปกรณ์รับชมรายการเกษตรกรยิ้ม ได้แก่ โทรทัศน์พร้อมจานดาวเทียมของสถานีฟาร์ม แชนแนล และซิมการ์ดโทรศัพท์ เพื่อให้อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านรับชมรายการเกษตรกรยิ้มทางสถานีโทรทัศน์ ฟาร์มแชนแนล นำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติในการลดต้นทุนการผลิตพืช ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จังหวัดนครราชสีมา ได้รับชุดอุปกรณ์รับชมรายการโทรทัศน์จากการเข้าร่วมโครงการเกษตรกรยิ้ม จำนวน 87 ชุด มอบแก่อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ในพื้นที่ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือเป็นเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ อำเภอด่านขุนทด ปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน ปักธงชัย ครบุรี วังน้ำเขียวและเทพารักษ์

มหาสารคามจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพิ่มช่องทางตลาด สร้างอำนาจการต่อรองให้กับเกษตรกร

จังหวัดมหาสารคาม จัดตลาดนัดข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2557 หวังให้เกษตรได้มีช่องทางการตลาด มีอำนาจต่อรองในการขายข้าวเปลือกได้มากขึ้น

                  (28-5-57) ที่สหกรณ์การเกษตรโกสุมพิสัย จำกัด อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานการค้าภายในจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด ได้จัดงานตลาดนัดข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2557 โดยกำหนดในช่วงระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2557 เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวภายในประเทศ ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะประธานคณะคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า การจัดงานตลาดนัดข้าวเปลือกนาปรัง จะสามารถเพิ่มช่องทางการตลาด สร้างอำนาจการต่อรองในการขายข้าวเปลือกของเกษตรกรได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแหล่งกลางในการซื้อ ขาย ข้าวที่มีความเป็นธรรมด้านราคา ตลอดจนเกษตรกรเองสามารถเรียนรู้ระบบการซื้อขายแบบตลาดกลาง เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาระบบการตลาด รวมทั้งเป็นแรงกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาสนใจพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพข้าวอย่างจริงจัง และเป็นไปตามความต้องการของตลาด

               ทั้งนี้ งานตลาดนัดข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2557 จังหวัดมหาสารคาม กำหนดเวลาจำหน่ายในตลาดนัดข้าวเปลือก ณ สหกรณ์การเกษตรโกสุมพิสัย จำกัด ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ต้องขังมหาสารคาม ปลื้ม สำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณฑิต

ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ในเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมพิธีแสดงความยินดีในการสำเร็จการศึกษารัฐประศาสนาศาตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นับเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาพฤตินิสัยให้สามารถกลับตนเป็นพลเมืองดี มีคุณค่าต่อสังคมและไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ

(28-5-57) ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ จากเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม รวม 10 คน ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้ม ด้วยความปลาบปลื้ม หลังจากที่ได้มุมานะ เพียรพยายามจนสำเร็จการศึกษา ในสาขารัฐประศาสนาศาตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ซึ่งเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม ได้จัดให้มีพิธีแสดงความยินดีในวันนี้ โดยมี รศ.สมชาย วงศ์เกษม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นประธานในการมอบเกียรติบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ยังมี ผู้แทนจากกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม คณาจารย์ ตลอดจนผู้ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว เจ้าหน้าที่เรือนจำ พร้อมด้วยญาติพี่น้องของมหาบัณฑิต ร่วมแสดงความยินดี

ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดมหาสารคาม ได้มีข้อตกลงความร่วมมือด้านการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาแก่ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ เพื่อศึกษาระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยกฎหมายและการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในการจัดการศึกษาระดับปริญญาโทให้แก่ผู้ต้องขัง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์เป็นอย่างดี เป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาพฤตินิสัยให้สามารถกลับตนเป็นพลเมืองดี มีคุณค่าต่อสังคมและไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผบ.พล.ร.6 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจหน่วยทหารที่มหาสารคาม พร้อมติดตามการจ่ายเงินจำนำข้าว

ผบ.พล.ร.6 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารที่มาประจำการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม พร้อมร่วมมอบเงินในโครงการรับจำนำข้าวฯแก่ชาวนา ที่ ธ.กส.มหาสารคาม

                   พล.ต.ธรากร ธรรมวินทร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จังหวัดร้อยเอ็ด เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจหน่วยทหารจากกองพลทหารราบที่ 6 ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557เป็นต้นมา นับตั้งแต่ได้มีการประกาศกฎอัยการศึก โดยได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ อดทน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย

                    จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกให้กับเกษตรกร ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งได้เริ่มจ่ายเงินหลังจากทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา

                  ภายหลังการมอบเงินให้แก่เกษตรกรแล้ว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 กล่าวว่า จากการได้เข้าร่วมประชุมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคาม ทุกฝ่ายต่างมีความเข้าใจ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนการเร่งจ่ายเงินค่าจำนำข้าวแก่เกษตรกร จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการหมุนเพื่อให้เกษตรกรมีสภาพคล่องได้ โดยภาพรวมถือว่าจังหวัดมหาสารคามเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

                  สำหรับการจ่ายเงินแก่เกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่รัฐบาลค้างจ่ายจากการจำนำใบประทวน ซึ่งที่จังหวัดมหาสารคาม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้แจ้งให้เกษตรกรมาทำสัญญาพร้อมจ่ายเงินให้ตามโควต้าใบประทวน ที่คงค้างประมาณ 1,490 ล้านบาท โดยคาดว่าภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2557 จะสามารถจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรในจังหวัดมหาสารคามได้ครบตามจำนวนที่มาทำสัญญา




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ชาวนาโคราชนับพันคนรวมตัวกันให้กำลังใจ และขอบคุณ คสช. ที่เร่งจ่ายเงินจำนำข้าวให้กับชาวนา พร้อมยื่นหนังสือให้ คสช.เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน และที่ดินทำกินให้กับชาวนาทั่วประเทศ


วันที่ 27 พ.ค. 57 กลุ่มเกษตรกรชาวนาจากหลายอำเภอของจังหวัดนครราชสีมาจำนวนหลายร้อยคน โดยมีนายปัญญา ศรีสมญา ประธานสภาชาวนาแห่งชาติ ภาคอีสาน เป็นแกนนำ ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ได้ดำเนินการเร่งจ่ายเงินค่าจำนำข้าวที่ค้างไว้ให้กับชาวนาทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ตัวแทนชาวนายังได้ยื่นหนังสือให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน และปัญหาที่ทำกินให้กับเกษตรกรชาวนา โดยมีพันเอกชินกาจ รัตนจิตติ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหารในการรับมอบดอกไม้ และหนังสือ

โคราชจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ชาวนา ชาวนาแห่รับเงินจำนำข้าวแน่น ธ.ก.ส. พร้อมขอบคุณทหารที่เห็นใจชาวนา มั่นใจจ่ายเงินให้ชาวนาครบทุกรายภายใน 20 มิ.ย.นี้

วันที่ 27 พ.ค. 57 ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยพลตรี วุฒิ แสงจักร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 ได้ร่วมกันเป็นประธานเปิดกิจกรรม คืนความสุขให้ชาวนา ด้วยการจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/2557 ที่สำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดนครราชสีมา ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้ส่งมอบเงินให้กับทาง ธ.ก.ส.ไปดำเนินการจ่ายให้กับชาวนา โดยมีเกษตรกรนำใบประทวนมาทำสัญญาขอรับเงินค่าจำนำข้าวกันอย่างเนืองแน่นกว่า 700 ราย ยอดเงินที่จ่ายให้กับชาวนาวันนี้กว่า 56 ล้านบาท โดยเกษตรกรหลายรายต่างขอบคุณทหารที่เห็นใจ และช่วยเร่งรัดนำเงินมาจ่ายให้กับชาวนา สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีชาวนาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/2557 จำนวนกว่า 80,000 ราย รวมยอดเงินรับจำนำทั้งสิ้นกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งจนถึงขณะนี้จังหวัดนครราชสีมาจ่ายเงินให้ชาวนาไปแล้วกว่า 40,000 ราย ยอดเงินที่จ่ายไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท ล่าสุด ธ.ก.ส.จังหวัดนครราชสีมาได้รับการอนุมัติเงินมาอีก 1,686 ล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอนุมัติอีกประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งทาง ธ.ก.ส.จังหวัดนครราชสีมาจะเร่งดำเนินการจ่ายให้กับชาวนาโดยเร็ว โดยคาดว่าจะดำเนินการจ่ายให้ชาวนาได้ครบทั้งหมดภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2557 นี้

ประธานชมรมแม่บ้านทหาร ตำรวจ และเหล่ากาชาด โคราช ตระเวนเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบสิ่งของให้ทหาร-ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยประจำจุดต่างๆ

วันที่ 28 พ.ค. 57 ที่จุดตรวจ ปปส. ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นางเขมวิภัค แสงจักร ประธานชมรมแม่บ้านมณฑลทหารบกที่ 21 พร้อมด้วย นางชญานิศฐ์ พรหมมิจิตร ผู้แทนชมรมแม่บ้านตำรวจ และกาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภค และยาสามัญแก่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในการตั้งด่านตรวจและดูแลความสงบเรียบร้อย หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ

นางเขมวิภัค แสงจักร ประธานชมรมแม่บ้านมณฑลทหารบกที่ 21 กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้เพื่อเสร้างขวัญกำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง สร้างความดีใจให้แก่เหล่าเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจทุกนาย โดยคณะของชมรมแม่บ้านมณฑลทหารบกที่ 21 ได้ตระเวนเดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบสิ่งของอุปโภคและยาสามัญแก่เจ้าหน้าที่ทหารในจังหวัดนครราชสีมาทุกจุด นอกจากนี้ยังมีประชาชนพากันนำผลไม้ อาหาร เครื่องดื่มบำรุงกำลังมามอบแก่ทหารที่ประจำจุดตรวจเป็นระยะ เพื่อแสดงถึงน้ำใจที่ประชาชนมีให้แก่ทหารด้วย

กลุ่มชาวนาจังหวัดมุกดาหาร มอบช่อดอกไม้พร้อมกล่าวแสดงความขอบคุณ คสช.ที่เข้ามาช่วยเหลือชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ประจำปีการผลิต ๒๕๕๖/๒๕๕๗

วันนี้ (๒๗ พ.ค.๕๗ ) เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มชาวนาทั้ง ๗ อำเภอ ของจังหวัดมุกดาหาร จำนวนกว่า ๕๐๐ คน มอบช่อดอกไม้พร้อมกล่าวแสดงความขอบคุณ คสช.ที่เข้ามาช่วยเหลือชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ประจำปีการผลิต ๒๕๕๖/๒๕๕๗ โดยมี พ.อ.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓ ค่ายกฤษสีวะรา จังหวัดสกลนคร เป็นตัวแทน คสช. และนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์      ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมคณะให้การต้อนรับ              

โดยมีตัวแทนชาวนาจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ขอขอบคุณ คสช.ที่ได้เล็งเห็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวนา รวมทั้งได้พิจารณาสั่งการให้แก้ไขปัญหาโดยทันที

ทั้งนี้ พ.อ.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓ ค่ายกฤษสีวะรา จังหวัดสกลนคร กล่าวกับกลุ่มชาวนาว่า สำหรับหน่วยงานสังกัดกองทัพบก พร้อมที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับประชาชน และขอขอบคุณกลุ่มชาวนาที่มาให้กำลังใจ คสช. พร้อมกับทักทายกับเกษตรกรที่มาให้กำลังใจในวันนี้อย่างเป็นกันเอง


สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์  อ่อนสนิท/ภาพ

การประปาส่วนภูมิภาคกำหนดจัดโครงการเปลี่ยนมาตรวัดน้ำที่อายุการใช้งานเกิน ๑๐ ปี

นายสุวิทย์  จันทรุกขา ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขามุกดาหาร เปิดเผยว่า การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขามุกดาหาร ได้มีโครงการเปลี่ยนมาตรวัดน้ำที่มีอายุการใช้งานเกิน ๑๐ ปี ให้แก่ผู้ใช้น้ำในพื้นที่รับผิดชอบประกอบไปด้วย พื้นที่ในเขตเทศบบาลเมืองมุกดาหาร – หน่วยบริการดงหลวง – หน่วยบริการคำชะอี – หน่วยบริการหว้านใหญ่ – หน่วยบริการนิคมคำสร้อย - หน่วยบริการดอนตาล  และครอบคลุมพื้นที่ที่ผู้ใช้น้ำใช้บริการจาก การประปาส่วนภูมิภาคสาขามุกดาหาร ซึ่งโครงการนี้จะดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๗ ถึง เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗

ทั้งนี้ การประปาส่วนภูมิภาคสาขามุกดาหาร ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หรือตัวแทน มาทำการเปลี่ยนมาตรวัดน้ำที่บ้านของผู้ใช้น้ำและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดำเนินการ การประปาส่วนภูมิภาคสาขามุกดาหารจึงขอความอนุเคราะห์มายังผู้ใช้น้ำที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้อำนวยความสะดวกในการดำเนินแก่เจ้าหน้าที่หรือตัวแทน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การประปาส่วนภูมิภาคสาขามุกดาหาร โทร. ๐ ๔๒๖๑ ๑๑๓๑ หรือ ๐ ๔๒๖๑ ๔๑๘๕ ในวันและเวลาราชการ


สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ทศพร  โล่ห์เงิน นักศึกษาฝึกงาน/ข่าว