วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กฟภ.สุรินทร์ มอบถุงยังชีพ พร้อมตรวจระบบไฟฟ้าในเบื้องต้น แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า จำนวน 5 หมู่บ้าน

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์ ได้นำถุงยังชีพ "น้ำใจ ชาว กฟภ.ช่วยภัยน้ำท่วม” จำนวน 660 ชุด พร้อมช่างผู้ชำนาญจาก กฟภ.และศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ จำนวน 50 คน ร่วมตรวจระบบไฟฟ้าในเบื้องต้น แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า จำนวน 5 หมู่บ้าน

วันนี้ 10 ต.ค.56 ที่ศาลากลางหมู่บ้านบ้านกระเพอสะ-กวม ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายธนัญชัย ภักดีรัตน์ ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ภายหลังจากมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนบ้านกระเพอสะ-กวม จำนวน 140 ชุด ว่า หลังจากน้ำท่วมที่ผ่านมา กฟภ. เป็นห่วงประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน ทาง กฟภ.ได้จัดถุงยังชีพ เนื่องจากในภาวะน้ำท่วมประชาชนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ กฟภ.จึงได้นำถุงยังชีพมามอบให้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในหมู่บ้าน จำนวน 140 ชุด ในครั้งนี้

นายธนัญชัย กล่าวอีกว่า ภาวะหลังน้ำลดทาง กฟภ.สุรินทร์ ได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและสาธารณภัยสุรินทร์ และวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ เข้ามาดูแล และฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในหมู่บ้าน พร้อมทั้งระบบไฟฟ้าในครัวเรือนของประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน  โดยได้นำฝ่ายช่างจาก กฟภ.และนักศึกษาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ จำนวนกว่า 50 คน เข้ามาตรวจเช็คระบบไฟฟ้า ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าในเบื้องต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัยกับผู้ใช้ไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม กฟภ.ได้นำถุงยังชีพ พร้อมน้ำดื่ม "น้ำใจ ชาว กฟภ.ช่วยภัยน้ำท่วม” จำนวน 660 ชุด และออกตรวจระบบไฟฟ้าให้กับผู้ประสบอุกทกภัย จำนวน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านกระเพอสกวม อ.เมือง, บ้านแขม, บ้านกอไผ่ ต.สะโน อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์  บ้านโสน (สะ-โน) , หมู่บ้านถาวรนิเวศน์ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ บ้านละเอาะ ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์ จับชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงชายแดนไทย-กัมพูชา

จังหวัดสุรินทร์ จับ 2 ชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงชายแดน เผยมีนายทุนเขมรรับซื้อถึงชายแดน ก่อนส่งต่อให้พ่อค้า ทำเป็นขบวนการ

วานนี้ (9 ต.ค.56) ที่เขตอนุรักพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง
จ.สุรินทร์ นายวิบูลย์  คำสัมฤทธิ์ หัวหน้าเขตอนุรักพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักพันธุ์สัตว์ป่าฯ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน นำตัว 2 ผู้ต้องหาชาวกัมพูชาที่ลักลอบข้ามแดนเข้ามาตัดไม้พะยูงในป่าฝั่งประเทศไทย พร้อมของกลางไม้พะยูงกว่า 10 ท่อนและเลื่อยยนต์ ส่วนมูลค่าไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ กว่า 3  แสนบาท  หลักจากการจับกุม ทราบชื่อต่อมาคือ นายเวือน วอน อายุ 40 ปี ชาวบ้านเบาะแวง ต.ศาลาวิสัย อ.ปราสาทบัลลัง จ.กัมปงทม และนายเซิง  โว อายุ 20 ปี ชาวบ้านตลาดทะมอ ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย

ส่วนการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.15 น. หลังจากได้รับรายงานว่าพบกลุ่มชาวกัมพูชาประมาณ 8-10 คนกำลังตัดไม้พะยูงที่บริเวณป่าของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ทิศใต้อ่างเก็บน้ำห้วยด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง ซึ่งติดพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เจ้าหน้าที่ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ จึงสนธิกำลังร่วมกับทหารพราน กองร้อยที่ 2608, เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าช่องจอม กว่า 15 นาย เข้าจับกุมระหว่างที่ชาวกัมพูชากำลังตัดและลำเลียงไม้พะยูง

จากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาทั้ง  2 รับสารภาพว่า มีนายริน กับนายรัด ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ ชาวกัมพูชา ซึ่งเช่าบ้านอยู่ใกล้ตลาดสดจำกาเจก ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย เป็นผู้ติดต่อชาวกัมพูชาทั้งในจังหวัดและต่างจังวัด ประมาณ 30 กว่าคน ก่อนจะเดินทางมาส่งใกล้กับตะเข็บชายแดน โดยใช้เส้นทางเลี่ยงฐานทหารกัมพูชา ก่อนจะแบ่งเป็นกลุ่มๆละ 8-10 คนพร้อมเลื่อยตัดไม้ โดยบอกกับชาวกัมพูชาว่าเป็นป่าไม้ฝั่งกัมพูชา ก่อนที่แต่ละกลุ่มจะกระจายตัดไม้ในป่า และหลังจากรวบรวมได้ก็จะแบกไม้พะยูงท่อนมาส่งชั่งกิโลขายให้กับนายทุนใหญ่ที่มารอชั่งไม้และรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ที่บริเวณชายแดนใกล้กับฐานทหารกัมพูชา จากนั้นก็จะมีรถบรรทุกมาบรรทุกไม้ไปขายให้กับนายทุนใหญ่อีกทอด



อุทัย  มานาดี / ข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนเงินและสิ่งของ ในการออกร้านธารากาชาดสุรินทร์ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศล

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงาน มหัศจรรย์ช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556” ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ที่ สนามกีฬาศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีกิจกรรมออกร้าน "ธารากาชาดสุรินทร์” เพื่อหารายได้สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ อาทิ การบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย การสงเคราะห์ผู้ยากไร้ การรับบริจาคโลหิต ซึ่งเป็นกิจกรรมสาธารณกุศลตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทย ทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนเงินและสิ่งของ เพื่อนำไปจัดรางวัลตอบแทนแก่ผู้ที่มาสนับสนุนร้าน "ธารากาชาดสุรินทร์” ในงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์

เทศบาลเมืองสุรินทร์ล้างถนนหลังน้ำลด เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้เป็นเมืองน่าอยู่

นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ทำให้เกิดปัญหาขยะในพื้นที่ต่างๆ จำนวนมาก เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้เทศบาลเมืองสุรินทร์ เป็นเมืองน่าอยู่ จึงได้มอบหมายให้งานรักษาความสะอาด กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปฏิบัติงานล้างและทำความสะอาดถนนหลังน้ำท่วม อันเนื่องมาจากเศษดิน เศษโคลน เกาะติดผิวการจราจร เพื่อความสะอาดของบ้านเมือง จึงได้กำหนดตารางในการล้างและทำความสะอาดถนนในช่วงกลางคืน เวลา 20.00 – 24.00 น. ดังนี้ วันที่ 10 ตุลาคม 2556 ที่ถนนหมอกวน วันที่ 11 ตุลาคม 2556 ที่ถนนไตรรงค์ วันที่ 12 ตุลาคม 2556 ที่ถนนดองกะเม็ด และวันที่ 13 ตุลาคม 2556 ที่ถนนสระโบราณ จึงขออภัยในความไม่สะดวก มา ณ โอกาสนี้ และขอให้ใช้เส้นทางอื่นที่สะดวกกว่า ในช่วงที่เจ้าหน้าทีทำการล้างและทำความสะอาดถนน ขอให้ประชาชนที่จอดรถสองฝั่งถนน ได้เคลื่อนย้ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้การทำงานคล่องตัว และผิวการจราจรสะอาดสวยงามดังเดิม 

จ.สุรินทร์ เตือนอากาศเริ่มเย็นและมีฝนตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงนี้

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากอุตุนิยมวิทยาจังหวัดสุรินทร์ ว่า สภาพอากาศของจังหวัดสุรินทร์ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2556 อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้าบางพื้นที่ ท้องฟ้าโปร่ง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และในระยะนี้อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์จึงขอให้ประชาชนในบริเวณลุ่มน้ำชี สองฝั่งแม่น้ำมูลและที่ลุ่มต่ำขอให้ระวังผลกระทบจากฝนตก และน้ำที่ไหลลงสู่ลุ่มน้ำต่างๆ และอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงปลายฝนต้นหนาว จึงอยากฝากเตือนให้ระมัดระวังโรคต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นในช่วงนี้ เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคหวัด หอบหืด หรือหลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ พบว่ายังเป็นโรคที่พบบ่อยได้ตลอดปี โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องระวัง พ่อแม่ควรจะใส่เสื้อแขนยาวให้ลูกและห่มผ้าให้ลูก สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ การรักษาสุขภาพและอนามัยส่วนบุคคลให้ดีอยู่เสมอ จะช่วยให้มีภูมิต้านทานที่ดีที่ในการป้องกันโรคได้ นอกจากนี้ ควรมีสุขนิสัยในเรื่องการล้างมือ ทานอาหารสุก ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อโดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจและโรคทางเดินอาหาร ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยแล้วก็ควรใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดปากปิดจมูก จะช่วยไม่ให้แพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้ และหากประชาชนประสบภัยจากเหตุต่างๆ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 บาดเจ็บฉุกเฉินสายด่วน 1669 หรือสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจังหวัดสุรินทร์ โทร 0-4414-3059 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง 

จ.สุรินทร์ สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังบริเวณสองฝั่งแม่น้ำมูล มีผู้เสียชีวิต 14 ราย

นายนิรันดร์ บุญสิงห์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่ประสบภัย ทั้งจังหวัด จำนวน 17 อำเภอ 145 ตำบล 1,526 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 781,003 คน เสียชีวิต 14 ราย สรุปในขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังบริเวณสองฝั่งแม่น้ำมูล ในพื้นที่ อำเภอชุมพลบุรี ท่าตูม และอำเภอรัตนบุรี สาเหตุเนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลหลากมาจากจังหวัดนครราชสีมา ผ่านจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์บริเวณอำเภอชุมพลบุรี ท่าตูม และรัตนบุรี ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 10-20 ซม. และเอ่อล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรบริเวณสองฝั่งแม่น้ำมูลในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 3 อำเภอ 12 ตำบล 64 หมู่บ้าน ดังนี้ - อำเภอชุมพลบุรี โดยน้ำจากจังหวัดบุรีรัมย์จะไหลลงพื้นที่อำเภอชุมพลบุรีเป็นจุดแรก (รอยต่อระหว่างจังหวัดบริเวณสะพานอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์) ระดับน้ำในแม่น้ำมูลยังคงเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 10-20 เซนติเมตร และเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร สำหรับบ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 2 หลัง คือ ตำบลนาหนองไผ่ หมู่ 8 ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่เร่งเก็บเกี่ยวข้าวออกจากพื้นที่น้ำท่วม โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดหาเรือเพื่อใช้ในการเก็บเกี่ยว - อำเภอท่าตูม ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 10-20 เซนติเมตร และยังเอ่อไหลท่วมพื้นที่พื้นที่การเกษตร ตำบลพรมเทพ ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่เร่งเก็บเกี่ยวข้าวออกจากพื้นที่น้ำท่วม โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดหาเรือเพื่อใช้ในการเก็บเกี่ยว - อำเภอรัตนบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 10-20 เซนติเมตร และยังเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ตำบลน้ำเขียว ตำบลกุดขาคีม, ตำบลหนองบัวทอง, ตำบลดอนแรด, ตำบลยางสว่าง ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่เร่งเก็บเกี่ยวข้าวออกจากพื้นที่น้ำท่วม โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดหาเรือเพื่อใช้ในการเก็บเกี่ยว

รมช.มหาดไทย (นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์)ลงพื้นที่ ตรวจสภาพน้ำท่วม และมอบถุงยังชีพ อ. เสลภูมิ และ อ. จังหวัดร้อยเอ็ด 11 ต.ค. นี้

นางกมลพร  คำนึง  ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ส่งข่าวมาบอกว่า นายวิสาร  เตชะธีราวัฒน์   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  มีกำหนดการลงพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด ในวันที่ 11-12 ตุลาคม 2556  ดังนี้

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556

เวลา 06.10 น.เดินทางโดยเครื่องบินโดยสารสายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD9114 ถึงร้อยเอ็ดประมาณ เวลา    

เวลา  07.25 น. เดินทางเข้าที่รับรองที่ บ้านสวน ทองทวีฟาร์ม อำเภอเสลภูมิ (บ้าน ส.ส.นิรันดร์ นาเมืองรักษ์)

เวลา 09.00 น.เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านน้ำเที่ยง ตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ เป็นประธานในพิธีเปิดงานทอดเทียนโฮม มอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 2,600 ชุด

เวลา 10.00 น.เดินทางโดยรถยนต์ไปที่ หมู่ 6 บ้านโพธิ์ตาก  ตรวจโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง ตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัย บ้านโพธิ์ชัน หมู่ 5 ,14,16 ตำบลนางาม

เวลา 11.30 น. เดินทางโดยรถยนต์ไปยัง อบต.นางาม รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา 12.15 น. ตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยบ้านคุ้งสะอาด ม.5 ต.นาเลิง อ.เสลภูมิ

เวลา 13.00 น. เดินทางไปยังหอประชุมที่ว่าการ อ.เสลภูมิ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต้อนรับนายอำเภอเสลภูมิกล่าวรายงาน มอบนโยบายกำนันผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 789 คน

เวลา  14.30 น.ออกเดินทางจาก อ.เสลภูมิ ไปยัง อ.ทุ่งเขาหลวง นายอำเภอทุ่งเขาหลวงกล่าวต้อนรับ มอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัย 400 ชุด มอบนโยบายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 550 คน

เวลา 16.00 น. เดินทางไปยัง บ้านสวน ทองทวีฟาร์ม

เวลา 17.30 น. พบหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และภาคประชาชน

เวลา 19.00 น. เป็นประธานเปิดการแข่งขันชกมวยการกุศล เพื่อหารายได้สมทบกองทุนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน


ณ  เวทีมวยชั่วคราว บ้านสวนทองทวีฟาร์ม จนเสร็จภารกิจ

วันที่ 12 ตุลาคม 2556

เวลา 08.30 น.  เดินทางไปยังจังหวัดขอนแก่น โดยเฮลิคอปเตอร์ ที่ สนามโรงเรียนเสลภูมิวิทยาคม ขอเรียนเชิญสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมทำข่าว ตามวันและเวลาดังกล่าว



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว
กมลพร  คำนึง บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
043-527117 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมตรวจเยี่ยมกองก่อสร้างเรือไฟพร้อมโชว์นักท่องเที่ยวในวันออกพรรษา

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม   ตรวจเยี่ยมกองก่อสร้างเรือไฟแต่ละอำเภอทุกอำเภอที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง  เทศบาลเมืองนครพนม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้สร้างเรือไฟและจะได้ทราบขั้นตอนการสร้างเรือไฟที่ทำจากไม้ไผ่  ตะเกียง  เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ ตามจินตนาการของศิลปินเรือไฟ  ซึ่งพร้อมโชว์นักท่องเที่ยวที่มาชมและต้อนรับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ตุลาคม 2556  โดยปีนี้พิเศษกว่าทุกปีเพราะจัดทำอัฒจันทน์นั่งชมริมฝั่งแม่น้ำโขงเป็นระยะทางยาว  600 เมตร  สามารถเห็นทัศนียภาพที่สวยงามทั้งฝั่งไทยและลาว  ทั้งนี้  มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมศรีโคตรบูรณ์จากทุกอำเภอและงานพาข้าวแลงอีกด้วย

เชิญชมนิทรรศการและการสัมมนาโครงการสร้างอนาคตไทย 2020

นางสาวปราณี  ศรีประเสริฐ  ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ  ด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน  ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า  สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  จัดนิทรรศการและการสัมมนาภายใต้โครงการ "สร้างอนาคตไทย 2020” ในพื้นที่ 12 จังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์  ตลอดจนเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ ซึ่งจะนำมาใช้เป็นข้อมูลปรับปรุงการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของประชาชน  โดย  วันที่ 5-6 ตุลาคม 2556 จัดที่หอประชุมประจักษศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย

วันที่ 11-13 ตุลาคม  ห้องประชุม อาคารเรียนรวมหลังใหม่(อาคาร 35) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา

วันที่ 15-17 ตุลาคม 2556 เซ็นทรัลพัทยาบีซ  จังหวัดชลบุรี

วันที่ 18-20 ตุลาคม  2556 ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 25-27  ตุลาคม  2556 ห้อง คอนเว็นชั่น ฮอลล์  ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น  จ.ขอนแก่น

วันที่ 1-3 พฤศจิกายน  2556 ห้องประชุมเทศบาลนครสวรรค์  จังหวัดนครสวรรค์
และมหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์  จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันที่ 8-10 พฤศจิกายน  2556  ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   และมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี  จังหวัดเพชรบุรี

วันที่ 15-17 พฤศจิกายน  2556 เชียงใหม่ฮอล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า  จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 22-24 พฤศจิกายน  2556 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 29  พฤศจิกายน  - 1 ธันวาคม  2556  มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา  จังหวัดสงขลา   จึงขอเชิญประชาชนเข้าชมนิทรรศการและสัมมนาดังกล่าว

นำต่อหัวเสือมาประกอบอาหาร

ชาวอำเภอปลาปาก จ.นครพนม จัดเทศกาลส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านโดยนำต่อหัวเสือมาประกอบอาหาร

ชาวอำเภอปลาปาก  จัดเทศกาลรับประทานต่อหัวเสือ  เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนในฤดูกาลที่มีการขยายพันธุ์ของตัวต่อตามธรรมชาติ  และเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  การนำตัวต่อหัวเสือมาประกอบอาหารเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน  เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการสืบค้นหารังต่อ การนำรังต่อมาเพาะเลี้ยง จนกระทั่งถึงการนำมาประกอบอาหารในเมนูต่างๆ  ซึ่งเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกชาวบ้านให้รักป่า  รักษาระบบนิเวศน์

โดยจะขยายผลให้เกิดการเพาะเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นในอำเภอปลาปาก  อำเภอวังยาง  ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพ  สร้างรายได้  สร้างมูลค่าเพิ่ม  โดยพัฒนาคุณภาพอาหารให้มีเมนูหลากหลาย  โดยให้เชฟคิดค้นและปรุงเมนูใหม่ๆ สำหรับผู้มีรสนิยมชอบรับประทานอาหารที่มาจากธรรมชาติ

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของในการออกร้านธารากาชาด ประจำปี 2556

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของในการออกร้านธารากาชาด ประจำปี 2556

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนเงินและสิ่งของ ในการออกร้านธารากาชาดสุรินทร์ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศล
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงาน มหัศจรรย์ช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ที่ สนามกีฬาศรีณรงค์ ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดให้มีกิจกรรมออกร้าน "ธารากาชาดสุรินทร์” เพื่อหารายได้สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ อาทิ การบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่างๆ การสงเคราะห์ผู้ยากไร้ การรับบริจาคโลหิต ซึ่งเป็นกิจกรรมสาธารณกุศลตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทย

ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรต่างๆ ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของในการออกร้านประจำปี 2556 หรือสามารถรวบรวมสิ่งของ บริจาคได้ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ หรือที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำไปจัดรางวัลตอบแทนแก่ผู้ที่มาสนับสนุนร้าน ธารากาชาดสุรินทร์ ในงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์

หลังน้ำลด นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ระดม เจ้าหน้าที่ ทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

ลังน้ำลด นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ระดม เจ้าหน้าที่ ทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมู่บ้านกุลวดีวิลล่า - ท่าเรือ ตำบลน้ำคำ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายนิวัติ น้อยผาง นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ นำกำลังเจ้าหน้าจากกองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2 และพลเมืองจิตอาสา เข้าทำความสะอาดบ้านเรือนของประชาชนที่ถูกน้ำท่วมหนัก ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน ตลอดจน บานหน้าต่าง ประตู ถูกน้ำซัดกร่อน ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นายนิวัติ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษในขณะนี้ พบว่า หลายชุมชนสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยจากการตรวจสอบข้อมูลจากศูนย์พักพิงชั่วคราวในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ จากทั้งหมด 12 แห่ง พบว่าขณะนี้ ยังมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากน้ำท่วมที่ยังอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวอยู่ 6 แห่ง เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วม ในท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยประมาณวันที่ 15 ต.ค.56 นี้ สถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ จะกลับสู่ภาวะปกติ

พระวัดป่า มอบถุงยังชีพ และจัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุน เยียวยา และซับน้ำตาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

พระวัดป่า มอบถุงยังชีพ และจัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุน เยียวยา และซับน้ำตาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ต.ค.56 ที่วัดป่าศรีสมบูรณ์ภูดิน ตำบลภูเงิน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก และสวดมนต์เจริญภาวนา ให้สถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ยุติโดยเร็ว อีกทั้งยัง มีการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุน ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ โดยมีนายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูสิริรัตนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์ (ฝ่ายธรรมยุต) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โอกาสเดียวกันนี้ พระครูโกศล สิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ฝ่ายธรรมยุต) ได้นำถุงยังชีพ จำนวน 150 ถุง เพื่อมอบให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประชาชน ทั้ง 22 อำเภอ ของจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนและทรัพย์สิน ตลอดจนพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก แม้ในขณะนี้ แนวโน้มของระดับจะลดลงอย่างต่อเนื่อง และในหลายพื้นที่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน จะได้เร่งฟื้นฟู ทั้งทางวัตถุและทางจิตใจของประชาชน ทั้งนี้ ประชาชนควรเฝ้าติดตามข่าวสารและสถานการณ์น้ำท่วม อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ กำหนดจัดโครงการวางแผนครอบครัวสุนัข – แมวจรจัดอย่างยั่งยืน ประจำปี ๒๕๕๗

นายมานพ กนกศิลป์ ปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ เผยว่า ด้วยกรมประศุสัตว์ ได้จัดทำโครงการวางแผนครอบครัวสุนัข – แมวจรจัดอย่างยั่งยืน ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อควบคุมและลดพาหะนะนำโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและในสัตว์ โดยเน้นสุนัขและแมวไม่มีเจ้าของ ของโรงเรียน วัด ชุมชน สถานที่ราชการ ตลาด แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยดำเนินการตลอดปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ในระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ – เดือนกันยายน ๒๕๕๗ ในวันจันทร์ และวันศุกร์ เวลา ๐๙.๐๐น. – ๑๒.๐๐ น. ณ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งมีการให้บริการต่างๆ ดังนี้ ๑. การขึ้นทะเบียนสุนัข – แมว ๒. การผ่าตัดทำหมัน ๓. การฉีดยาคลุมกำเนิด ๔. การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าและส่งเสริมให้ประชาชนเลี้ยงสุนัข – แมวอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ ยังจัดให้มีบริการต่างๆข้างต้น ในการออกปฏิบัติงานหน่วยงานบริการของกรมปศุสัตว์ ดังนี้ หน่วยสัตว์แพทย์เคลื่อนที่ฯ และหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้แก่ประชาชนจังหวัดอำนาจเจริญและอื่นๆตามที่กรมปศุสัตว์และจังหวัดกำหนด สำนักปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของสุนัขและแมวนำสัตว์เลี้ยงในครอบครอง หรือ หน่วยงานต่างๆและประชาชน นำสุนัขและแมวจรจัด มารับบริการผ่าตัดทำหมัน ฉีดยาคุมกำเนิด รวมทั้งบริการอื่นๆ ณ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ สำหรับวันเวลาราชการและจุดให้บริการประชาชนในพื้นที่อำเภอต่างๆ จะแจ้งให้ทราบต่อไป ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ โทรศัพท์ ๐-๔๕๕๔-๑๒๐๔และสำนักงานปศุสัตว์อำเภอทุกแห่ง

อำเภอเมืองอำนาจเจริญขอให้นายจ้างนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ได้รับการผ่อนผันไปจดทะเบียนประวัติภายใน ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖

นายสมศักดิ์ แสนหิรัณย์ นายอำเภอเมืองอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย ได้ออกประกาศ เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งคนต่างด้าวที่จะได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตามประกาศนี้ หมายถึงคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และทำงานกับนายจ้างอยู่แล้ว รวมทั้งผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวที่อายุไม่เกิน ๑๕ ปี ซึ่งนายจ้างได้ยื่นแบบแจ้งรายชื่อและความต้องการแรงงานต่างด้าวไว้กับกรมการจัดหางานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการรับรองสถานะบุคคลจากประเทศต้นทาง ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับไม่เกินวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ได้รับการผ่อนผันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอความร่วมมือจากนายจ้าง นำแรงงานต่างด้าวที่ยื่นบัญชีไว้กับสำนักงานจัดหางานจังหวัดอำนาจเจริญแล้ว เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖ ไปยื่นคำขอจดทะเบียนประวัติคนต่างด้าวสัญชาติ เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา (ตามแบบ ท.ต.๑) ณ สำนักทะเบียนอำเภอ หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น ที่แรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ ภายในวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยให้นำเอกสารหลักฐานประกอบด้วย ดังนี้ ๑. หนังสือประทับตราแทนการลงชื่อถึงสำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น ๒. แบบแสดงความต้องการแรงงานต่างด้าว (มีตราประทับ / ลงลายมือชื่อกำกับ) ๓. แบบบัญชีแรงงานต่างด้าว (มีตราประทับ / ลงลายมือชื่อกำกับ) ๔. ใบทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว (มีตราประทับ / ลงลายมือชื่อกำกับ) ๕. รูปถ่ายแรงงานต่างด้าว ขนาด ๑ นิ้ว จำนวน ๒ รูป ๖. ทะเบียนประวัติ ( ท.ร. ๓๘ / ๑) (กรณีเคยจดทะเบียนไว้แล้ว) ๗. สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของนายจ้าง หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองอำนาจเจริญ ฝ่ายทะเบียนและบัตร โทร. ๐-๔๕๕๑-๑๙๙๗ โทรสาร ๐-๔๕๕๑-๑๙๙๒

สสค.ร่วมกับ สสส.ประกาศสนับสนุนทุน โครงการส่งเสริมนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ

นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน หรือ สสค. ได้มุ่งเน้นสนับสนุนโครงการที่ส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ และเป็นโครงการที่มีลักษณะการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ หรือการพัฒนา "ต่อยอด” ที่สามารถเป็นแบบอย่าง และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาโดยรวม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนาทักษะอาชีพ ทั้งนี้ ให้ความสำคัญกับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเป็นลำดับต้น จากวัตถุประสงค์ข้างต้น สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้จัดให้มีการสนับสนุนงบประมาณ "โครงการส่งเสริมนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ” แก่โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาทั่วประเทศ โดยมีประเด็นสนับสนุน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนาทักษะอาชีพ สถานศึกษา (โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา) ที่สนใจ สามารถเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณได้แห่งละ 1 โครงการ วงเงิน 50,000 – 100,000 บาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 12 เดือน เริ่มโครงการตั้งแต่ 1 เมษายน 2557 เป็นต้นไป และสิ้นสุดโครงการภายใน 31 มีนาคม 2557 จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ที่สนใจจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เสนอโครงการให้ สสค. พิจารณา โดยกำหนดเปิดรับข้อเสนอโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดเอกสาร "ประกาศสนับสนุนทุนโครงการฯ” ได้เพิ่มเติมที่ WWW.QLF.or.th

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญจัดตลาดนัดสีเขียวจังหวัดอำนาจเจริญ

นายปิติ วัฒนรัตน์ พาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญดำเนินโครงการส่งเสริมตลาดสินค้าอินทรีย์ ปีงบประมาณ ๒๕๕๖ และต่อเนื่องปี ๒๕๕๗ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาช่องทางการตลาดสินค้าอินทรีย์ของจังหวัดให้มากขึ้น ร่วมมือกับเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ กลุ่มข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ และกลุ่มเกษตรอินทรีย์จังหวัดอำนาจเจริญ จัดตลาดนัดสีเขียวจังหวัดอำนาจเจริญ ทุก วันพุธ เวลา ๑๕.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. เริ่มวันพุธที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ บริเวณหอนาฬิกา เทศบาลเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ 

อำเภอชานุมาน ร่วมกับ เทศบาลตำบลชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญขอเชิญเที่ยวงานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯประจำปี ๒๕๕๖

นายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิทธ นายอำเภอชานุมาน เปิดเผยว่า อำเภอชานุมาน ร่วมกับ เทศบาลตำบลชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ กำหนดจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี ๒๕๕๖ ในวันที่ ๑๑ – ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ บริเวณแม่น้ำโขง สำนักงานเทศบาลตำบลชานุมาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าตามแนวชายแดนไทยและลาว ซึ่งในการนี้ ทางอำเภอชานุมาน ได้เรียนเชิญคณะเจ้าเมืองไซพูทอง คณะเจ้าเมืองสองคอน และชาวเรือจากประเทศ สปป.ลาว มาร่วมกิจกรรมและร่วมเป็นเกียรติด้วย สำหรับกำหนดการ จะมีพิธีเปิดงานในวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เริ่มจากเวลา ๐๘.๐๐ น. เริ่มขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมริ้วขบวนชาวเรือที่เข้าร่วมแข่งขัน จากนั้น เวลา ๐๙.๐๙ น. เป็นพิธีเปิดงานโดยผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เสร็จแล้วเวลา ๐๙.๓๐ น.เริ่มการแข่งขันเรือประเพณี ๓ ชุมชน และทำการแข่งขันเรือทุกรุ่นในรอบคัดเลือกไปตามลำดับ ซึ่งในปีนี้ จัดให้มีการแข่งขันเรือยาว จำนวน ๓ รุ่น ได้แก่ เรือรุ่นจิ๋ว ฝีพายไม่น้อยกว่า ๘ คน แต่ไม่เกิน ๑๐ คน , เรือรุ่นเล็ก ฝีพายไม่น้อยกว่า ๓๐ คน แต่ไม่เกิน ๓๕ คน และเรือรุ่นใหญ่ ฝีพายตั้งแต่ ๓๖ คนขึ้นไป ในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ ช่วงเช้า เวลา ๐๙.๓๐ น. เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ และในช่วงบ่าย เวลา ๑๔.๐๐ น. เป็นการแข่งขันรองชิงชนะเลิศทั้ง ๓ รุ่น สำหรับในปีนี้มีเรือเข้าร่วมการแข่งขันและกองเชียร์ร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย ๑ บ้านนาสีดา (รุ่นขุนเดช, เพชรน้ำหนึ่ง) ๒ บ้านนาสีดาน้อย (เรือนางพญาหงส์คำ) ๓ บ้านศรีสมบูรณ์ (เรือเทพพระศิวะ ๑, เรือเทพพระศิวะ ๒) ๔ บ้านยักษ์คุ (เรือเทพพรชัย) ๕ บ้านชานุมาน (เรือศรีมิ่งเมือง ๑, เรือศรีมิ่งเมือง ๒) ๖ บ้านคันสูง (เรือสาวสวยคันสูง) ๗ บ้านบุ่งเขียวบุ่งสมบัติ (เรือเจ้าแม่ไทรทอง ๙๙) นอกจากการแข่งขันเรือยาวแล้ว ในภาคกลางคืนในงานยังมีการแสดงมหรสพของนักร้องศิลปินดัง โดยคืนวันที่ ๑๑ ตุลาคม ชมคณะบัวริมบึง , เสถียร ทำมือ , และเอิ้นขวัญ วรัญญา คืนวันที่ ๑๒ ตุลาคม ชมคณะน้องใหม่เมืองชุมแพ โอกาสนี้จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวจังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยว ไปเที่ยวชมงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี ๒๕๕๖ ในวันที่ ๑๑ – ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ บริเวณแม่น้ำโขง สำนักงานเทศบาลตำบลชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ 

จังหวัดอำนาจเจริญ แจ้งข้อมูลและแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับงานเพลงที่แจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ แก่ผู้ประกอบการ

จังหวัดอำนาจเจริญ แจ้งข้อมูลและแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับงานเพลงที่แจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ แก่ผู้ประกอบการร้านค้า คาราโอเกะ เกี่ยวกับค่าลิขสิทธิ์เพลงซ้ำซ้อน นายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า ได้ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแนวทางปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้จับกุมดำเนินคดีอาญา กรณีที่มีการเปิดเพลงคาราโอเกะที่มีการแจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงซ้ำซ้อน และดำเนินคดีอาญากรณีที่มีการเปิดเพลงคาราโอเกะกรณีอื่นๆที่ไม่มีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงซ้ำซ้อน ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้จัดส่งบัญชีรายชื่อเพลงที่มีการแจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ซ้ำซ้อนให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมผู้ประกอบการเพลงดังกล่าว จนกว่าจะตรวจสอบสิทธิของผู้กล่าวหาและแจ้งกรมทรัพย์สินทางปัญญาตรวจสอบในเรื่องสิทธิให้ชัดเจนก่อน โดยทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะส่งรายชื่อเพิ่มเติมให้หน่วยงานต่างๆเป็นระยะๆ เมื่อมีการแก้ไขหรือปรับปรุงรายชื่อดังกล่าว สำหรับวิธีการตรวจสอบรายชื่อเพลงที่แจ้งจัดเก้บค่าลิขสิทธิ์ซ้ำซ้อน และแนวทางปฎิบัติเกี่ยวกับการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลงซ้ำซ้อน เพื่อถือปฎิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ เว็ปไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th



สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว
ตรวจ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๖

จังหวัดอุบลราชธานี แจ้งรายชื่อโรงสี เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 56/57

นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ได้มีมติครั้งที่ 7/2556 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2556 อนุมัติกรอบ ชนิด ราคา ปริมาณ ระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและงบประมาณดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/2557 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการรับจำนำ ครั้งที่ 1 นาปี ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2556 – 28 กุมภาพันธ์ 2557 และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 กันยายน 2557 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามโครงการฯ คณะอนุกรรมการฯ ระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีมติครั้งที่ 6/2556 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ชอบให้โรงสีเข้าร่วมโครงการ จำนวน 33 ราย ใน 10 อำเภอ ดังนี้

1. อำเภอบุณฑริก 2 ราย ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรบุณฑริก จำกัด,โรงสีข้าวแหลมทองบุณฑริก

2.อำเภอเดชอุดม 8 ราย ได้แก่ บริษัทประสิทธิ์ชัยอุบล 2011 (โซลาร์ไรซ์) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีข้าวสินสมบูรณ์, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีข้าวอุบลธัญกิจ, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีข้าวเกียรติอนันต์, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีเดชอุดมเกษตรไพบูลย์, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจไพบูลย์อุบล, ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดชอุดมศิริโชคและห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีไทยยงเฮง,

3.อำเภอเขมราฐ 2 ราย ได้แก่ บริษัทโรงสีธัญญาทรัพย์ จำกัดและบริษัท เอส.เค. กรีนอโกรโปรดักส์ จำกัด

4. อำเภอตระการพืชผล 8 ราย ได้แก่ บริษัทโรงสีเนรมิต จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีข้าวชัยมงคล, บริษัท โกลควอลิทีมิล จำกัด, สหกรณ์การเกษตรตระการพืชผล จำกัด,ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีข้าวเลี่ยงเฮง,ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีข้าวทองพืชผล, ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีอุดมชัย, ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีข้าวกิจอุดม

5. อำเภอพิบูลมังสาหาร 2 ราย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีอุบลอินเตอร์ไรซ์,ห้างหุ้นส่วนจำกัดพรเจริญทวีโชค 6. อำเภอสว่างวีระวงศ์ 1 ราย ได้แก่ โรงสีโพธิ์เจริญ

7. อำเภอวารินชำราบ 5 ราย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีข้าวอุบลสหรุ่งเรือง, ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุบลชัยรุ่งเรือง, บริษัทโรงสีข้าวแหลมทองอุบล จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีเทิดไทย,ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีวิเชียรทรัพย์ 8. อำเภอม่วงสามสิบ 2 ราย ได้แก่ บริษัท อิสานใต้ ค้าข้าว จำกัด, บริษัท โรงสีข้าวเกษตรธัญอุบล จำกัด 9. อำเภอเขื่องใน 1 ราย ได้แก่ บริษัทโรงสีข้าวอุบลแสงเจริญรุ่งเรือง 2009 จำกัด และ 10 อำเภอสำโรง 2 ราย ได้แก่ บริษัท อุบลธัญชาติ จำกัด, บริษัทโรงสีข้าวยิ่งไพบูลย์ (2007) จำกัด

โดยอำเภอที่มีโรงสีเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตัวแทนข้าราชการ 1 คน, ตำรวจ 2 คนและเกษตรกร 3 คนต่อวัน ร่วมปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดรับจำนำข้าว อีกทั้งส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่ติดตั้งบริเวณจุดเครื่องชั่งน้ำหนัก จุดวัดความชื้น จุดออกใบประทวนและจุดที่ตัวแทนอำเภอปฏิบัติหน้าที่ ในโรงสีทั้ง 33 แห่งที่เข้าร่วมโครงการฯ นอกจากนี้ได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบกำลังการผลิตและกำลังเครื่องอบ ลด ความชื้น และให้สำนักงานสาขา ชั่ง ตวง วัดเขต 2-4 อุบลราชธานี ตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องวัดความชื้นของโรงสีที่เป็นจุดรับจำนำหรือจุดรับจำนำนอกพื้นที่และรายงานให้จังหวัดทราบเป็นประจำทุกเดือน




พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 10 ต.ค. 56

กลุ่มสืบสานนำฮอยหม่อมเจียงคำและกองทุนเครือข่ายแห่งบุญหม่อมเจียงคำ เตรียมจัดงานเชิดชูเกียรติและรำลึก หม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา 19 ตุลาคม นี้

อุบลราชธานี : เพื่อรำลึกและเชิดชูเกียรติ พร้อมเผยแพร่ประวัติหม่อมเจียงคำให้เป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตพร้อมฟื้นฟูวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นอุบลราชธานี โดยจัดงานวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2556 นี้ ที่วัด สุทัศนาราม อ.เมืองอุบลราชธานี

นางสาวสุมนา ศรีชลาชัย ประธานกลุ่มสืบสานนำฮอยหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา พร้อมด้วยนายขจร มุกมีค่า ประธานกองทุนเครือข่ายแห่งบุญหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา เปิดเผยว่าได้เตรียมจัดงานเชิดชูเกียรติและรำลึกหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 นี้ ที่วัดสุทัศนาราม อ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อรำลึกและเชิดชูเกียรติพร้อมทั้งเพื่อศึกษาและเผยแพร่ประวัติและสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปดำเนินชีวิตตามฮอยหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา นอกจากนี้ยังเป็นการหารายได้เพื่อจัดกิจกรรมรำลึกหม่อมเจียงคำ ในวันที่ 20 ตุลาคม ของทุกปีและฟื้นฟู อนุรักษ์ วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น

ในการจัดงานในวันที่ 20 ตุลาคม 2556 ดังกล่าว ภาคเช้าเวลา 07.00 น.พิธีถวายภัตตาหารเช้าและเครื่องไทยธรรม แด่พระภิกษุ สามเณร เวลา 09.00 น. พิธีสดุดีและเชิดชูเกียรติและเวลา 10.00 น. จัดเวทีประชาคมเรื่องขอตั้งชื่อ "ถนนเจียงคำ” กลุ่มสืบสานนำฮอยหม่อมเจียงคำและกองทุนเครือข่ายแห่งบุญหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา จึงขอเชิญชวนท่านที่สนใจร่วมงานได้ที่ วัดสุทัศนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 256 นี้



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 10 ต.ค.56

ผู้การฯ กาฬสินธุ์ นำทีมลุยจับบาคาร่าออนไลน์ได้ของกลางคอม 7 ชุด เงินสด 8,840 บาท

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ลุยจับบาคาร่าออนไลน์กลางเมืองกาฬสินธุ์ ของกลางเงินสด 8,840.-บาท คอมพิวเตอร์ 7 ชุด ผู้ต้องหา 9 ราย

เมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2556 พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ เนื้อนวล ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ทูล เครือสิงห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ชาติชาย ลีลากุล สว.สส. ร.ต.ท.อารมณ์ เจริญสรรพ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์  ได้เข้าจับกุมบาคาร่าออนไลน์ ที่บ้านเลขที่ 75 ถนนประดิษฐ์  ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นตึกแถว 2 คูหา  มีนางสาวนภาพร หรือ บี ศิลป์ทองทิพย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261/76 ถนนพระยาสัจจา ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี  เป็นผู้เช่าและเป็นเจ้าของบาคาร่าดังกล่าว  โดยการเข้าจับกุมครั้งนี้ได้ผู้ต้องหา 9 คน  เงินสด 8,840.-บาท คอมพิวเตอร์ จำนวน 7 ชุด เบื้องต้นนางสาวนภาพร หรือ บี ให้การรับสารภาพว่าได้เปิดบาคาร่าออนไลน์จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดคอมพิวเตอร์ และตั้งข้อกล่าวหานางสาวนภาพรว่าเป็นเจ้าบ้านและจัดให้มีการเล่นการพนันบาคาร่า (ออนไลน์) พร้อมส่งตัวดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีทางดีเอสไอ ได้เข้ามาจับกุมบาคาร่า เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2556 ที่ผ่านมา  และเมื่อมารับตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข้อมูลและพบว่าที่บริเวณถนนประดิษฐ์ ซอย 4 มีการเปิดบ่อนบาคาร่าออนไลน์ มีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อไปจะได้ดำเนินการกวาดล้างการพนันทุกรูปแบบในจังหวัดกาฬสินธุ์อย่างเต็มที่ต่อไป



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

รัฐบาล กำหนดจัดนิทรรศการและเสวนา “สร้างอนาคตไทย 2020” ที่ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 25 – 27 ต.ค. นี้

รัฐบาลกำหนดจัดนิทรรศการและเสวนา "สร้างอนาคตไทย 2020” ที่จังหวัดขอนแกน ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม นี้ ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจต่อโครงการ เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง  

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดจัดนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศภายใต้ชื่องาน "สร้างอนาคตไทย 2020” ใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ ในส่วนของจังหวัดขอนแก่น กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีเนื้อหาในการจัดนิทรรศการและเสวนา ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นส่วนของการจัดนิทรรศการ แยกเป็น 2 ส่วน คือ เป็นนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟรางคู่ โครงการสร้างโครงข่ายถนน 4 เลนน์ และนิทรรศการที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง จะได้รับประโยชน์จากโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ส่วนที่ 2 เป็นการจัดเสวนาและรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่โดยมีท่านรองนายกฯ กิติรัตน์ ณ ระนอง และท่านรัฐมนตรี ชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมการเสวนา ส่วนที่ 3 เป็นกิจกรรมสาระและบันเทิง มีการแข่งขันประกวดอาหารภูมิภาค เพื่อหาผู้ชนะเลิศไปแข่งขันระดับประเทศ เป็นผู้ประกอบอาหารปิ่นโตบนรถไฟความเร็วสูงจำลอง และการทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงจำลอง ส่วนที่ 4 เป็นการจำหน่ายสินค้า OTOP จากทั่วประเทศ และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจากกระทรวงพาณิชย์

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยต่อไปว่า เพื่อเป็นการรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงของโครงการนี้ให้ถูกต้อง ตลอดจนรัฐบาลเองก็อยากได้รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปปรับปรุงโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่นจึงขอเชิญชวน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ไปชมและร่วมงานนิทรรศการและการเสวนา "สร้างอนาคตไทย 2020” ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2556 นี้



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว
อารมย์/พิมพ์/10 ต.ค.56

ขอนแก่น ตั้งเป้าประชาชนในจังหวัดขอนแก่น รับรู้เข้าใจการสหกรณ์และนำไปใช้ในวิถีชีวิตไม่น้อยกว่า 8 แสนคน ในระยะ 3 ปี

จังหวัดขอนแก่น ตั้งเป้าหมายในระยะ 3 ปี 57 – 59 ประชาชนในจังหวัดขอนแก่น ต้องรับรู้ เข้าใจ ศรัทธาต่อระบบการสหกรณ์ และสามารถนำไปใช้ในวิถีชีวิตได้ไม่น้อยกว่า 887,408 คน เน้นการฝึกอบรมทั้งในและนอกสถานศึกษา

นายสายัณห์ ผาน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 ในฐานะประธานกรรมการคณะทำงานขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ ยุทธศาสตร์ที่ 1 เปิดเผยในการประชุมว่า ตามที่รัฐบาลได้เห็นความสำคัญในการใช้สหกรณ์เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม โดยประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ในส่วนของจังหวัดขอนแก่น ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ ซึ่งประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ โดยตนเองได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่ 1 ในการสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ และทักษะการสหกรณ์สู่วิถีชีวิตประชาชนในชาติ ไปสู่การปฏิบัติ โดยจังหวัดขอนแก่นได้ตั้งเป้าหมายในยุทธศาสตร์ที่ 1 ว่า ภายในระยะเวลา 3 ปี คือ ปี พ.ศ. 2557 ถึง 2559 ประชาชนในจังหวัดขอนแก่น 1,774,816 คน ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการสหกรณ์ ศรัทธาต่อระบบสหกรณ์ และสามารถนำไปใช้ในวิถีชีวิตได้ไม่น้อยกว่า 887,408 คน โดยกำหนดกลยุทธในการขับเคลื่อนออกเป็น 2 กลยุทธ 8 แผนงาน 13 ตัวชี้วัด และมีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาเป็นคณะทำงาน ร่วมรับผิดชอบดำเนินการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายตามคำสั่งจังหวัดขอนแก่น จำนวน 26 คน

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2557 รัฐบาลได้ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ใช้งบปกติของหน่วยงานในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามกลยุทธ แผนงาน และตัวชี้วัดที่กำหนด ส่วนงบประมาณดำเนินการในปี 2558 - 2559 ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดทำแผนงาน โครงการ เสนอให้จังหวัดขอนแก่นพิจารณางานก่อนส่งให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาให้ดำเนินการต่อไป โดยจังหวัดขอนแก่นจะเน้นการจัดอบรมให้ความรู้ประชาชน เยาวชน กลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกสถานศึกษาในรูปของการจัดการฝึกอบรมพร้อมทั้งใช้สื่อและเครือข่ายสื่อต่าง ๆ ในพื้นที่ของกรมประชาสัมพันธ์ เป็นหน่วยงานเผยแพร่ความรู้ ด้านสหกรณ์สู่ประชาชน ตลอดระยะเวลา 3 ปี ด้วย



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/อารมย์/พิมพ์/9 ต.ค.56

โครงการชลประทานขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำปภ.สั่งให้มิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าติดตามสการณ์น้ำ 24 ชม.

ชลประทานขอนแก่นประชุมบริหารจัดการน้ำขณะที่ปภ.มอบหมายให้นายอำเภอและมิสเตอร์เตือนภัย จัดเวรยามเฝ้าระวังตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ทั้งจัดหาพื้นที่รองรับการอพยพประชาชนให้พร้อมเสมอ

นายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผอ.โครงการชลประทานขอนแก่น เปิดเผยว่าจาการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ขอนแก่น ซึ่งมีผู้เข้าประชุมจากหัวหน้าฝายส่งน้ำและบำรุงรักษาขอนแก่น หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการสูบน้ำ และหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม การประปาขอนแก่นสืบเนื่องจากปัจจุบันนี้ ได้มีน้ำท่วมในเขต อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.โคกโพธิ์ชัย อ.ชนบท อ.มัญจาคีรี อ.บ้านแฮด ซึ่งมีถนนถูกตัดขาด และไร่นาถูกน้ำท่วมเสียหายไปจำนวนมาก โดยเฉพาะถนนเข้าสถานีสูบน้ำบ้านสีหนาท อ.แวงใหญ่ ถนนถูกน้ำเซาะจนเกือบขาด และมีน้ำท่วมที่ทำการ อบต.ท่านางแนว อ.แวงน้อยและหมู่บ้านหมู่ 1 หมู่ 3 หมู่ 8 และหมู่ 10 ประมาณ 30 หลังคาเรือน พร้อมกับได้มีพื้นที่เพาะปลูกนาข้าวใกล้ออกรวง รวมทั้งบ่อปลาของเกษตรกรในหลายหมู่บ้าน ได้ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 – 60 ซม. ชาวบ้านต้องใช้เรือเดินทางเข้าออกระหว่างหมู่บ้านและมาตลาดใน อ.แวงน้อยในเขตพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น โดยมาที่ ต.ท่าพระ และต.เมืองเก่า ถนนถูกตัดขาด อีกประมาณ 5 – 6 วันจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่เข้ามาในเขตพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น นายประมวล ลาภจิตต์ หน.สนง.ป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณภัย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในช่วงนี้ได้มีมวลน้ำขนาดใหญ่จากลำน้ำชี จ.ชัยภูมิไหลเข้ามาทางโซนใต้ของ จ.ขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีฝนตกชุก จังหวัดจึงได้ประกาศแจ้งเตือนให้ชาวขอนแก่น เตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอ และหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หุบเขาประกอบด้วย อ.ภูเวียง,อ.โคกโพธิ์ไชย , อ.ภูผาม่าน , อ.หนองเรือ , อ.เวียงเก่า และ อ.ชุมแพ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคนถล่ม โดยมอบหมายให้นายอำเภอและมิสเตอร์เตือนภัย จัดเวรยามเฝ้าระวังตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ทั้งจัดหาพื้นที่รองรับการอพยพประชาชนให้พร้อมเสมอ



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ

เมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 10 ตุลาคม 2556 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ประสบอุทก ภัยในพื้นที่ จังหวัดชัยภูมิ โดยมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่ตำบลละหาน อ.จัตุรัส และตำบลบ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ จำนวน 2,000 ถุง หลังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูง ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน สิ่งสาธารณูปโภคได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ กองทัพภาค 2 ยังส่งชุดผลิตน้ำดื่ม และชุดประกอบอาหาร สำหรับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม อีกด้วย นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ได้คลี่คลายแล้ว 9 อำเภอ ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ หนองบัวระเหว บ้านเขว้า จัตุรัส เนินสง่า คอนสวรรค์ บำเหน็จณรงค์ ซึ่งแนวโน้มสถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลง ซึ่งน้ำท่วมปีนี้ เกิดขึ้นใน 16 อำเภอ 112 ตำบล 1,237 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 105,075 ครัวเรือน 285,928 คน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 501,475 ไร่

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาล โดยการนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเป็นห่วงประชาชนที่ปรบภัย ได้มอบหมายให้รองนายกฯและรัฐมนตรี เดินทางมาพบปะ เยี่ยมเยือน และมอบสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหน่วยงานทหารในพื้นที่ และเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ส่วนพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อรวบรวมจัดทำฐานข้อมูลการช่วยเหลือครอบคลุมทุกด้าน สอดคล้องกับสภาพเสียหายจริงและเป็นไปตามขั้นตอนหลักเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ กรณีงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เพียงพอ สามารถขอขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มเติมได้



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

น้ำยังล้นเขื่อนลำพระเพลิงเอ่อท่วมเทศบาลเมืองปักธงชัย สถานการณ์โดยรวมยังทรงตัว ขณะที่หลายพื้นที่พื้นที่ในเมืองโคราชสถานการณ์ดีขึ้น ระดับน้ำท่วมเริ่มลดลงแล้ว

วันนี้ (10 ต.ค. 56) เวลา 10.00 น นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ เพื่อสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ เทศบาลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วม ยังคงทรงตัว บ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะบริเวณถนนวุฒิประไพ และถนนนิวาสวัฒนกิจ ซึ่งเป็นถนนที่คลองลำพระเพลิงไหลผ่าน บ้านเรือนที่อยู่ริมคลองลำพระเพลิงบริเวณดังกล่าวถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ขณะที่เขื่อนลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ยังคงมีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ โดยนายประเทือง วันดี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ โครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาลำพระเพลิง เปิดเผยถึงสถานการณ์ว่า ล่าสุดเขื่อนลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำในเขื่อน 120 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุเขื่อนทั้งหมด 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน (9 ต.ค.) 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันระดับน้ำยังล้นทางสปิลเวย์สูงประมาณ 1 เมตร ส่งผลให้ยังมีปริมาณน้ำไหลออกจากเขื่อนเฉลี่ย 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยน้ำที่ล้นออกจากเขื่อนได้ส่งผลกระทบให้พื้นที่ริมคลองธรรมชาติที่ลำพระเพลิงไหลผ่านถูกน้ำเอ่อเข้าท่วม รวมทั้งพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองเมืองปัก อย่างไรก็ตามช่วงนี้ไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่เพิ่มเติม และปริมาณน้ำที่ล้นออกจากเขื่อนลำพระเพลิงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปักธงชัยจะทรงตัวไปอีกประมาณ 3-4 วัน และจะค่อยๆ ลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมาโดยรวมระดับน้ำเริ่มลดลง อย่างเช่นที่ โครงการหมู่บ้านจัดสรรจามจุรี ตำบลหนองบัวศาลา ระดับน้ำท่วมเริ่มลดลงเหลือประมาณ 20-30 เซนติเมตร และบริเวณริมลำน้ำลำตะคองที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมาระดับน้ำท่วมก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากช่วงนี้ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม

ทหารระดมกำลังช่วยขนย้ายสิ่งของและประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม

หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ นำกำลังพลเร่งเข้าขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม ไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังระดับน้ำจากลำมาศ ได้เอ่อเข้าท่วมในพื้นที่ ๔ หมู่บ้านของตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง กว่า ๑ เมตร

โดย พันเอก เอกศิษฐ์ ใจตรงฉัตรพงศ์ ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ๕๒ สำนักงานพัฒนาภาค ๕ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำกำลังพลในสังกัด ร่วมกับทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ กองพันทหารราบที่ ๔ กรมทหารราบที่ ๒๓ ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ รวมกว่าร้อยนาย พร้อมยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทั้งรถบรรทุก และเรือท้องแบนเข้าระดมขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ของประชาชน สัตว์เลี้ยง ขึ้นสู่ที่สูงและขนย้ายสิ่งของอื่นอีก รวมถึงประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อไปพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งอยู่ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์หลังจากมวลน้ำจากลำมาศ ได้เอ่อเข้าท่วมในพื้นที่ ๔ หมู่บ้าน คือหมู่ที่ ๙ ถึง หมู่ที่ ๑๒ จากทั้งตำบลมี ๑๔ หมู่บ้าน โดยระดับน้ำได้เอ่อเข้าท่วมในหมู่บ้าน และไร่นาอย่างรวดเร็ว โดยระดับน้ำได้ท่วมสูงอยู่กว่า ๑ เมตร

อีกทั้งยังจะมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทหารและหน่วยกู้ภัย ต่างเร่งระดมขนย้ายทั้งประชาชน สิ่งของ และสัตว์เลี้ยง มาอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

ญาตินำศพแรงงานชาวลาวทยอยเผาศพในวัดที่บุรีรัมย์ ก่อนนำอัฐิไปทำบุญที่ลาว

ญาติของแรงงานชาวลาว ได้ทยอยนำศพชาวลาวที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุหมู่ ๒๐ ศพทยอยประกอบพิธีฌาปนกิจตามวัดต่างๆในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์ ก่อนจะนำอัฐิไปทำบุญตามประเพณีที่ประเทศลาว ทั้งนี้ญาติผู้เสียชีวิตต่างให้ความเห็นว่า เพื่อความสะดวก และประหยัดกว่านำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศลาว

วันนี้ (๑๐ ตุลาคม) รายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ ถึงความคืบหน้าการดำเนินการ เกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุหมู่แรงงานต่างด้าวชาวลาว ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในเขตพื้นที่ อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเช้าตรู่ของวันจันทร์ที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งล่าสุดได้เสียชีวิตรวมทั้งหมด ๒๐ ศพ ซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยจำนวน ๑ ศพซึ่งเป็นคนขับ และยังมีแรงงานชาวลาวนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อีก ๖ รายโดยก่อนหน้านี้ได้มีญาติองนาย สุวพรชัย จันทร์พันธ์ ซึ่งเป็นคนขับรถมารับศพไปบำเพ็ญกุศลที่ จังหวัดอุบลราชธานี และญาติแรงงานชาวลาว มารับศพไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศลาวอีก ๕ ศพก่อนหน้านี้

ซึ่งในวันนี้ญาติของแรงงานชาวลาว ได้มารับศพของชาวลาวผู้เสียชีวิต ออกจากอาคารที่พักศพโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จำนวน ๘ ศพ นำไปทำการฌาปนกิจศพตามวัดต่างในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์ ประกอบด้วยที่วัดป่ารุ่งอรุณ ตำบลชุดเห็ด จำนวน ๒ ศพ วัดป่าธรรมธีราราม ตำบลในเมือง จำนวน ๓ ศพ วัดทักษิณาวาส ตำบลอิสาณ จำนวน ๒ ศพ วัดอิสาณ ตำบลอิสาณ อีกจำนวน ๑ ศพ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยของญาติผู้เสียชีวิต และคนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เดินทางมาร่วมพิธี โดยทางวัด และชาวบุรีรัมย์ส่วนหนึ่งที่มาร่วมพิธี ยังได้ร่วมกันมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นการช่วยเหลืออีกด้วย

ทั้งนี้ญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ได้ให้เหตุผลถึงการนำศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด มาประกอบพิธีฌาปนกิจศพครั้งนี้ว่า เพื่อความสะดวก และเพื่อเป็นการประหัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากหากนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศลาวก็จะเกิดความยุ่งยาก และเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเนื่องจากญาติของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีฐานะยากจน โดยจะนำเพียงอัฐิของผู้เสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศลาวเท่านั้นอย่างไรก็ตามส่วนศพของชาวลาวที่เสียชีวิต ส่วนที่เหลืออีก ๗ ศพ ยังอยู่ระหว่างญาติมาติดต่อรับศพ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

จังหวัดบุรีรัมย์มอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรฝนทิ้งช่วงปี ๒๕๕๕

จากฤดูการเพาะปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๕/๕๖ ที่ผ่านมา อำเภอประโคนชัยเป็นหนึ่งในอำเภอที่ประสบภัยธรรมชาติฝนทิ้งช่วง ทำให้ได้รับความเสียหาย ๑๖ ตำบล ๑๓๖ หมู่บ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปมอบเงินช่วยเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในปี ๒๕๕๖

(๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๖) เวลา ๑๑.๐๐ น. ณ หอประชุม ที่ว่าการอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรอำเภอประโคนชัย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติฝนทิ้งช่วงในระหว่างวันที่ ๑๖-๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ทำให้อำเภอประโคนชัยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ๑๖ ตำบล ๑๓๖ หมู่บ้าน โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนของอำเภอประโคนชัย จำนวน ๖,๐๙๒ ราย ในอัตราไร่ละ ๑,๑๑๓ บาท รวมวงเงิน ๖๓,๒๓๓,๙๘๒ บาท โดยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรผ่าน ธ.ก.ส.สาขาประโคนชัย ซึ่งวันนี้เป็นการเบิกจ่ายเงินของเกษตรกร จำนวน ๕๐๐ ราย

ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งให้แนวทางในการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัย



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบึงกาฬ ประกาศผลการคัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.บึงกาฬ

นายมงคล มณีกิจ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ปช.ประจำจังหวัดบึงกาฬ แจ้งว่า ในขณะนี้ ได้ดำเนินการคัดเลือก กรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.บึงกาฬ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ๑. สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษา ผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายอิทธิชัย วิชิต ๒. สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย ผู้ได้รับคัดเลือกคือ นายวินัย ติยะบุตร ๓. สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน ไม่มีผู้เข้าร่วมคัดเลือก ๔. สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด ผู้ได้รับคัดเลือกคือ นายเลิศพิสิฐ นิธิศิริดำรง ๕. กลุ่มอาสาสมัคร ผู้ได้รับการคัดเลือก คือ นายวิจิตร ศรีมังคละ ๖. องค์กรเอกชน ผู้ได้รับการคัดเลือก คือ นายวิทยา สาวะริพล ๗. องค์กรเกษตรกร ผู้ได้รับการคัดเลือก คือนายยุทธนากร โพสาราช ๘. สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน ผู้ได้รับการคัดเลือก คือ นายธนาพงค์ แสนสุภา ๙. หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้ได้รับการคัดเลือก คือ นายนวพล สิริกรรณ์ สำหรับ ผู้มีส่วนได้เสียผู้ใด ประสงค์จะโต้แย้งหรือคัดค้านการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงาน หรือ องค์กรเป็นกรรมการสรรหาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดบึงกาฬ สามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองตามแบบ ป.ป.จ ๑๘ ต่อผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบึงกาฬ ภายในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลาราชการ

นายมงคล มณีกิจ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ปช.ประจำจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการรับสมัครกรรมการ ป.ป.จ. ประจำจังหวัดบึงกาฬ จะเริ่มรับสมัคร ระหว่างวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ – วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบึงกาฬ เลขที่ ๒๕๐/๒ – ๓ ถ.ประกอบบูรณะ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลข ๐๔๒-๔๙๑๑๑๐ หรือประสานได้โดยตรงที่ นายสามารถ การุณวงษ์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตปฏิบัติการ โทร ๐๘๑๙๔๐๗๒๕๓๗



ข่าว/ส.ปชส.บึงกาฬ

บริษัท ทรูศิริมหาชัย จำกัด รับสมัครงานในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

นายทรงศิลป์ ประศีระเอ รักษาการ จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า บริษัท ทรูศิริมหาชัย จำกัด ในเครือข่ายกรุ๊ปซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นศูนย์บริการและจำหน่ายสินค้า,ผลิตภัณฑ์ ของทรูวิชชั่นทรูออนไลน์ ตั้งอยู่เลขที่ 279/3 ถนน แจ้งสนิท ต.มุกดาหาร อ.เมือง จังหวัดมุกดาหาร มีความประสงค์รับสมัครพนักงาน โดยฝ่ายบุคคลของบริษัทจะเดินทางมารับสมัคร และสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ในวันศุกร์ที่ 18ตุลาคม 2556เวลา 13.00-16.30 น. ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ในตำแหน่ง





พนักงานขาย จำนวน 2 อัตรา พนักงานการตลาด จำนวน 2 อัตรา

พนักงานประจำสำนักงาน(Admin) จำนวน 2 อัตรา

พนักงานประสานงานลูกค้า จำนวน 2 อัตรา

พนักงานจัดบูรแสดงสินค้า(Event) จำนวน 2 อัตรา

วุฒิการศึกษา ปวส,ปริญญาตรี

ค่าจ้าง เริ่มต้นที่ 9000 บาท

สวัสดิการ ตามกฎหมายที่กำหนด ค่าคอมมิชชั่น

รักษาการจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร จึงขอประชาสัมพันธ์ เชิญชวน ผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง และประชาชนทั่วไป เดินทางไปสมัครงานในวันเวลาดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลางหลังใหม่ ชั้น 1ถนนวิวิธสุรการ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โทร 042-613037-8



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ทำบุญวันสถาปนาค่าย ครบรอบปีที่ 30

เมื่อเวลา 07.00 น. (10 ต.ค.56)  พลตรี นคร สุขประเสริฐ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้ อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบู ชาพระรัตนตรัย  พระพุทธิสารมุนี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์รวม 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ประกอบพิธี ทางศาสนา เพื่อรำลึกถึงคุ ณงามความดีของ พลตรีพระยาประเสริฐสงคราม อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารบก ที่ 10 หรือค่ายประเสริฐสงคราม ที่ กองบังคับการจั งหวัดทหารบกร้อยเอ็ด จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ดได้ทำบุญ ในโอกาสครบรอบ 30 ปี วันสถาปนาค่ายประเสริฐสงคราม(วั นที่ 13 ตุลาคม 2526 ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของจังหวั ดทหารบกร้อยเอ็ดในปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ แก่ดวงวิญญาณเหล่าทหารกล้า และเป็นสิริมงคลให้แก่กำลั งพลและครอบครัวของจังหวั ดทหารบกร้อยเอ็ด โดยมี พลตำรวจตรี ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้ อยเอ็ด นายประทีป ฤทธิกุล นายอำเภอธวัชบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสตรี ข้าราชการทหาร - ตำรวจ และแขกผู้มีเกียรติร่ วมงานจำนวนมาก

จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ในค่ายประเสริฐสงคราม อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับอนุมัติจัดตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2526 ตาม แผนงานเสริมสร้างกำลังกองทัพบก รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดร้ อยเอ็ด และยโสธร มีภารกิจรักษาความสงบเรียบร้ อยในเขตพื้นที่ ระดมสรรพกำลัง สนับสนุนหน่วยทหารในเขตพื้นที่ ดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ต่อสู้ เบ็ดเสร็จ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่บ้านท่านคร หมู่ 11 ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ดได้รั บโปรดเกล้าฯพระราชทานนามค่ายว่า  "ค่ายประเสริฐสงคราม” เพื่อเป็ นการเชิดชูเกียรติประวัติแด่ พลตรี พระยาประเสริฐสงคราม อดีตผู้บัญชากองพลทหารบกที่ 10 ปัจจุบันค่ายประเสริฐสงคราม เป็นที่ตั้งของหน่วยจังหวั ดทหารบกร้อยเอ็ด ,กองพั นทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 16  และกองร้อยบินกองพลทหารราบที่  6

จากนั้นผู้บังคับการจังหวั ดทหารบกร้อยเอ็ด ได้มอบเกียรติ บัตรให้แก่กำลังพลที่มี ความประพฤติและมีผลงานดีเด่น ประจำปี 2556 จำนวน 10 นาย มอบเครื่องแต่งกายให้กับตั วแทนพลทหาร  และมอบเกียรติบัติให้แก่บ้านพั กดีเด่น ตามโครงการบ้านพักทหารเป็นระเบี ยบ เป็นบ้านพักน่าอยู่ และทัศนียภาพดี เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ซึ่งบ้านพักดีเด่น ชนะเลิศคือ บ้านพักนายสิบ แถวที่ 13 รองชนะเลิศอันดับ 1 บ้านพักนายสิบแถวที่ 9 และรองชนะเลิศอันดับ 2 บ้านพักนายสิบ แถวที่ 10




คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 043-527117

เหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ สมาคม ศิษย์เก่า มช. มอบสิ่งของ ให้กับ ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร

อุบลราชธานี : มอบสิ่งของให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ตำบลไร่ใต้ อ.พิบูลมังสาหาร จำนวน 308 ชุด พร้อมน้ำดื่ม 3,600 ขวด พร้อมกับสมาคมนักศึกษาศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มอบน้ำดื่ม 3,000 ขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2,000 ซอง ข้าวสาร 100 ถุง พร้อมข้าวกล่อง 250 กล่อง

วันนี้ (10 ต.ค 56) นางมัณฑะนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นางธัญธรณ์ วิทยาขาว หัวหน้าสถานีกาชาดที่ 7 อุบลราชธานี พร้อมคณะเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้กับผู้ประสบอุทกภัย ในหมู่บ้านบ้านแก่งโพธิ์ บ้านผักกะหย่าใต้ บ้านผักกะหย่าเหนือ บ้านไร่ใต้ และบ้านศรีภูดิน ในพื้นที่ตำบลไร่ใต้ จำนวน 308 ชุด พร้อมกันนี้ นายณรงค์ศักดิ์ โกศัลวัฒน์ นายกเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ได้นำน้ำดื่ม จำนวน 3,600 ขวด มาร่วมมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย จากนั้น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหารเพื่อมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มร่วมกับสมาคมนักศึกษาศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย เชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี นำโดย นายแพทย์ ธยากร พลพานิช นายกสมาคม ฯ และ นายธรธรรม ชินโกมุท เลขานุการสมาคม นำดื่มจำนวน 3,000 ขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวน 2,000 ซอง ข้าวสาร จำนวน 100 ถุง ข้าวกล่อง 250 กล่อง และเครื่องใช้อุปโภค อีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่า กว่า 60,000 บาท มอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยด้วย

ด้านนายประกิต ตันติวาลา นายอำเภอพิบูลมังสาหาร กล่าวว่า ได้มอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เร่งสำรวจความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นจากอุทกภัยในครั้งนี้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนและสมาคมต่างๆ นำถุงยังชีพมามอบให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนของแนวทางให้การช่วยเหลือได้ประสานไปยังพื้นที่ที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วม ให้ช่วยบริจาคข้าวสารเหนียว ครอบครัวละ 1 กิโลกรัม เพื่อมามอบให้กับผู้ประสบภัย คาดว่าจะได้รับ ครอบครัวละ 20 กิโลกรัม พร้อมกันนี้ได้แจ้งไปยัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอรับพันธุ์ข้าวปลูกมอบให้เกษตรกรที่ประสบภัย พร้อมเงินชดเชยความเสียหายทางเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวในอัตรา ไร่ละ 1,113 บาท ส่วนการเยียวยาผู้ประสบภัย จะนำรถน้ำมาฉีดล้างทำความสะอาดพื้นที่ที่น้ำลด พร้อมประสานไปยังสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานอาชีวะศึกษา ให้ลงพื้นที่ ซ่อมแซม เครื่องมือการเกษตร , เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้กับผู้ประสบภัย อีกด้วย

ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ตำบลไร่ใต้ ระดับน้ำเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยมีพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้งสิ้น 14 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้าน แก่งโพธิ์ บ้านผักกะหย่าใต้ บ้านผักกะหย่าเหนือ บ้านไร่ใต้ บ้านไร่กลาง บ้านไร่เหนือ บ้านโนนค้อ บ้านโนนสุข บ้านไร่โดม บ้านแก่งกอก บ้านลุคุ บ้านไร่พัฒนา บ้านศรีภูดิน และ บ้านโนนสร้างคำ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2,475 ครัวเรือน ประชากร 7,461 คน พื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าว มันสำปะหลัง และ ยางพารา เสียหายกว่า 8 พันไร่




พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 10 ต.ค. 56