วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปชส.มหาสารคามเตรียมจัดสัมมนาตามแผนประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาเมือง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม เตรียมจัดโครงการสัมมนาตามแผนประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้ประชาชนในชุมชนเมืองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง และเป็นเวทีในการรับฟังความคิดเห็น ข้อปัญหา และสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมืองของจังหวัดมหาสารคาม

นายพิชัย คชพิมพ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์ในฐานะหน่วยงานดำเนินการด้านการประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาเมือง ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดซึ่งมีอยู่ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วไป เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ ประชาชนในชุมชนเมืองได้มีความเข้าใจและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการพัฒนาชุมชนตามโครงการที่ได้ขอเสนอมา ซึ่งการประชาสัมพันธ์ดังกล่าว นอกจากจะได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ ติดตามทำข่าว ผู้ที่รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องแล้ว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม มีโครงการที่จะจัดให้มีการสัมมนาตามแผนประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้ประชาชนในชุมชนเมืองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง และเป็นเวทีในการรับฟังความคิดเห็น ข้อปัญหา และสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมืองของจังหวัดมหาสารคาม

สำหรับโครงการสัมมนาตามแผนประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม กำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2556-กุมภาพันธ์ 2557 จำนวน 1 ครั้ง โดยได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้แทนทั้ง 30 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม รวมทั้งสื่อมวลชนในพื้นที่ ที่จะร่วมเป็นเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมหรือโครงการที่ชุมชนได้เสนอต่อคณะกรรมการไปแล้ว



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ร่วมเกี่ยวข้าวกับชาวนาสืบสานประเพณีดั้งเดิม ตั้งเป้าปลูกข้าวอินทรีย์สู่ AEC

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ร่วมประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวกับเกษตรกรกลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์มหาสารคาม ที่แปลงนาข้าวเกษตรอินทรีย์บ้านลาด ตำบลลาดพัฒนา อำเภอเมืองมหาสารคาม พร้อมส่งเสริมข้าวอินทรีย์สู่ AEC

(19-11-56) ที่บริเวณแปลงนาเครือข่ายข้าวอินทรีย์ของกลุ่มวิสาหกิจปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพลาดนาแซง บ้านลาด หมู่ที่ 1 ตำบลลาดพัฒนา อำเภอเมืองมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายอำเภอเมืองมหาสารคาม และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเกี่ยวข้าวพร้อมกับเกษตรกรกลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์มหาสารคาม เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าว ที่เป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของชนชาวอีสานมาช้านาน พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมี ด้วยการหว่านปุ๋ยพืชสดเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์สู่อาเซียน

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2558 ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเพื่อรองรับ ด้วยการตั้งเป้าการผลิตข้าวอินทรีย์ทั้งจังหวัดประมาณ 5,000 ไร่ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการส่งเสริมให้มีการผลิตข้าวอินทรีย์ในหลายพื้นที่ โดยมีนักวิชาการทั้งจากสถาบันการศึกษา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้ามาถ่ายทอดความรู้

ด้าน นายณตวรรษ อินทะวงษ์ ประธานเครือข่ายข้าวอินทรีย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบัน จังหวัดมหาสารคาม มีสมาชิกเครือข่ายเกษตรอินทรีย์รวมแล้วกว่า 500 ราย แต่จะมีกลุ่มเกษตรกรที่เข้มแข็งและมีผลผลิตจากข้าวอินทรีย์เพียง 16 ราย เนื้อที่ 157 ไร่ ซึ่งปีนี้จะได้ผลผลิตข้าวอินทรีย์ประมาณ 20 ตัน โดยเชื่อว่าในอนาคตหากจังหวัดมหาสารคาม ได้มีการส่งเสริมและพัฒนาผลผลิต ตลอดจนหาตลาดให้มากขึ้น เชื่อว่าเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม จะสามารถผลิตข้าวอินทรีย์ได้อย่างมีคุณภาพ แข่งขันกับประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนได้ ที่สำคัญสุขภาพร่างกายก็จะปลอดภัยจากสารพิษตกค้างด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมจัดงานดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ 40

ในการแถลงข่าวการจัดงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 40 ภายใต้ชื่อ อมฤตคีตา ตักสิลานคร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันวสาอัยยิกาเจ้าและสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2556 ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ และลานอัฐศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตําบลขามเรียง อําเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม

รศ.ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคามกล่าวว่าคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานจัดดนตรีไทยอุดมศึกษา ได้ให้เกียรติมหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ 40 ประจําปี 2556 นี้ โดยใช้ชื่องานว่า อมฤตคีตา ตักสิลานคร เฉลิมพระเกียรติ 150 ปีสมเด็จพระพันวสาอัยยิกาเจ้าและสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ แล้วยังเป็นการเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านดนตรีไทยและเป็นการทํานุบํารุงและสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของชาติด้านดนตรีไทย ซึ่ง ณ ขณะนี้มีสถาบันอุดมศึกษาตอบรับเข้าร่วมงานแล้วจํานวนกว่า 63 สถาบัน

ด้าน ผศ.ปราโมทย์ ด่านประดิษฐ์ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ประกอบด้วยการบรรเลงดนตรีไทย การขับร้องและการแสดงประกอบการบรรเลงดนตรีไทย การสัมมนาทางวิชาการเรื่องวิถีดนตรีไทยสู่ประชาคมอาเซียนและจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระพันวสาอัยยิกาเจ้าและสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

นอกจากนั้นยังมีการแสดงดนตรีของกลุ่มภาคและการแสดงดนตรีของแต่ละสถาบันแบ่งเป็นภาคอีสาน เหนือ กลางและใต้โดยจะร่วมบรรเลงเพลงประกอบการแสดงจากนักดนตรีจํานวนกว่า 300 คนซึ่งหาชมได้ยาก นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีเป็นเวทีย่อยตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน ซึ่งคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์การันตีว่าการชมและฟังการบรรเลงดนตรีไทยจะไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงานตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

อาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างแนวร่วมเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพรองรับตลาดอาเซียน ที่มหาสารคาม

อาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดประชุมครูแนะแนว ผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อสร้างเครือข่ายและกำหนดทิศทางแนะแนวการศึกษาต่อสายอาชีพ เพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาต่อสายสามัญ เป็น 51 ต่อ 49 ในปีการศึกษา 2558 รองรับตลาดอาเซียน ที่จังหวัดมหาสารคาม

ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม อาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดการประชุมครูแนะแนว ผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษาและโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จำนวน 2,374 คน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา สร้างเครือข่ายครูแนะแนว และกำหนดทิศทางการแนะแนวศึกษาต่อสายวิชาชีพให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาต่อสายสามัญ เป็น 51 ต่อ 49 ในปีการศึกษา 2558 เพื่อรองรับตลาดกลุ่มประชาคมอาเซียน โดยมี ดร.ศรีเมือง เจริญศิริ นายกสภาสถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 เป็นประธานเปิดงาน พร้อมรับฟังการบรรยาย ยุทธศาสตร์การรับนักเรียน-นักศึกษาของอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา 2557 จากนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ประธานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และการเสวนาแนวทางสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน/ภาคอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการ ผลงานด้านเทคนิคช่างของผู้เรียนสายอาชีวศึกษาจาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ครูและผู้บริหารสถานศึกษาได้รับชมผลงาน อาทิ การประดิษฐ์รถพ่นปุ๋ยยางพาราจากอาชีวศึกษาบึงกาฬ หัตถกรรมจากอาชีวศึกษาหนองคาย การอาหาร การแกะสลักผลไม้จากอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เครื่องแกะเมล็ดข้าวโพดจากอาชีวศึกษานครราชสีมา แขนกลจากอาชีวศึกษาอำนาจเจริญ และภาษาอาเซียนจากอาชีวศึกษายโสธร



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

คณะรัฐมนตรีกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ

นายคุมพล   บรรเทาทุกข์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  โดยคณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่  15 ตุลาคม  2556 มีมติกำหนดให้วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม  เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  การท่องเที่ยว  และให้ประชาชนได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ  ในช่วงเทศกาลปีใหม่  และขอให้รัฐวิสาหกิจ  สถาบันการเงินและภาคเอกชนพิจารณาความเหมาะสมให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงานต่อไป  โดยหน่วยงานที่มีภารกิจในการให้บริการประชาชนหรือมีข้อราชการสำคัญในวันดังกล่าว   หากยกเลิกหรือเลื่อนไปจะส่งผลให้เกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการให้บริการประชาชนให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร  โดยมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและประชาชน  จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกัน

สถาบันบัณทิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม รับสมัครนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา ๒๕๕๗

นายธนิตศักดิ์  อุ่นตา  วัฒนธรรมจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า สถาบันบัณทิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม  เปิดรับสมัครนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี  ปีการศึกษา ๒๕๕๗  ในระหว่างวันที่ ๑๒-๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ณ สำนักงานอธิการบดีสถาบันบัณทิตพัฒนศิลป์  วิทยาลัยช่างศิลป ลาดกระบัง และวิทยาลัยนาฏศิลปทุกแห่ง  เปิดรับสมัคร หลักสูตรศิลปบัณทิต ๔ ปี คณะศิลปวิจิตร คณะศิลปนาฏดุริยางค์  และหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณทิต ๕ ปี คณะศิลปศึกษา  สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครหลักสูตรศิลปบัณทิต ๔ ปี และหลักสูตรศึกษาศาตรบัณทิต ๕ ปี  ต้องสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรนาฏศิลป์ชั้นกลาง ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า  ไม่เป็นคนวิกลจริต  ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาของศาล  ไม่เป็นโรคติดต่อ  กรณีสมัครคณะศิลปศึกษาต้องสอบผ่าน PAT 5  ความถนัดทางวิชาชีพครูของสถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖ หรือ ๒๕๕๗ ครั้งที่ ๑ หรือ๒ โดยผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๔๕

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๒๔๘๒-๒๑๗๖ ต่อ ๓๑๖ หรือดาวโหลดใบสมัครได้ที่ www.bpi.ac.th

สหกรณ์จังหวัดนครพนมรับสมัครบุคคลเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการทั่วไป

นายจาตุรันต์  สมิทธิ์ภินันท์  สหกรณ์จังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม  รับสมัครบุคคลเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ 1 อัตรา  วุฒิการศึกษา  มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) , ประกาศนีบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปวท.หรืออนุปริญญา 2 ปี  หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)  หรือเทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาที่เหมาะสมกับลักษณะงานที่ปฏิบัติ  รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน  2556  เวลา 09.00-15.00 น.  เว้นวันหยุดราชการ ณ ฝ่ายบริหารทั่วไป  สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทรศัพท์ 0-4251-1228

ลงแขกเกี่ยวข้าวแปลงสาธิตนาโยน โครงการ 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน อ.ปลาปาก จ.นครพนม

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  พร้อมด้วยนายสมชอบ  นิติพจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  สมาชิกสภาจังหวัดนครพนม  หัวหน้าส่วนราชการและ ประชาชน  ลงแขกเกี่ยวข้าวแปลงสาธิตนาโยน  ที่ clinic center บ้านปลาปาก  อ.ปลาปาก      จ.นครพนม  ซึ่งแปลงสาธิตนาโยนจำนวน  5  ไร่  จากโครงการ 1 ไร่  ได้เงิน 1 แสน เป็นการทำนาด้วยการโยนกล้าที่เพาะไว้  15  วัน  เป็นการคิดค้นวิธีการทำนาใหม่ๆขึ้นมา  เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างมีศักยภาพ  ประหยัดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้แก่เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้  โครงการ 1 ไร่  ได้เงิน 1  แสน จังหวัดนครพนมได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับใช้ในการทำการเกษตรกรรมหลายอย่าง  และมีศูนย์เรียนรู้อำเภอละ 1 แห่ง  เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ตลอดเวลา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมมอบนโยบายการบริหารงาน อ.นาแก และ อ.วังยาง

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เดินทางไปมอบนโยบายการปฏิบัติราชการ  อ.นาแกและ อ.วังยาง  โดยเน้นย้ำให้ร่วมมือกันทำงานเป็นทีม  ซึ่งจังหวัดนครพนมมีแผนพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษการค้าชายแดนและจีนตอนใต้  ในปี 2558 กำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมและพัฒนาให้จังหวัดนครพนมเป็นเมืองด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม  โดยเป็นเจ้าภาพที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมการค้าระหว่างประเทศ   ซึ่งจากข้อมูลด้านการค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดสะพานมิตรภาพที่ 3 นครพนม-คำม่วน  โดยให้อำเภอนาแก  และอ.วังยาง  ได้มีพัฒนาอาชีพที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น  สำหรับการดูแลความสงบสุขในหมู่บ้านด้านความมั่นคงทั้งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย  ให้กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  ประชาชนในหมู่บ้านช่วยกันสอดส่องดูแล  มีการเฝ้าระวังสังเกตการณ์บุคคลที่เข้าออกหมู่บ้าน  หากพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายให้แจ้งกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  หรือเจ้าหน้าที่ต่อไป

ชมรมเสียงสตรีจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดศรีสะเกษชุมนุมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี

วันนี้ ( 19 พ.ย. 2556 ) นางสิริกาญจน์ สายแก้วรัศมี ประธานชมรมเสียงสตรีจังหวัดสุรินทร์ และสมาชิกชมรมเสียงสตรีจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ กว่า 150 คน ร่วมชุมนุมที่บริเวณเวทีไผทสราญห้างอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง เพื่อแสดงจุดยืนว่ากลุ่มเสียงสตรีสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษให้การสนับสนุนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้บริหารประเทศต่อไป พร้อมทั้งเพื่อเป็นการรวมกลุ่มแสดงพลังสตรีให้กำลังใจแก่นายกรัฐมนตรีได้ต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ และนำพาประเทศไทยสู่ความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ก่อนที่จะแยกย้ายกันเพื่อเดินทางไปให้กำลังใจแก่นายกรัฐมนตรีร่วมกับกลุ่มชมรมเสียงสตรีจังหวัดอื่นๆ ที่กรุงเทพมหานครต่อไป



ประนนท์ ไม้หอม/ข่าว
ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

อำเภอกุมภวาปีจัดลงแขกเกี่ยวข้าวโครงการข้าวเต็มนา ผู้ว่าพาเกี่ยว ปี 56

อำเภอกุมภวาปี ร่วมกับเทศบาลตำบลเวียงคำ ร่วมสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นลงแขกเกี่ยวข้าว โครงการข้าวเต็มนา ผู้ว่าพาเกี่ยวประจำปี 2556 ตามดำริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ที่ต้องการรณรงค์ขอแรงงานเกษตรกรร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวเสริมความรักสร้างความสามัคคีของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่

วันนี้ ( 19 พ.ย. 56 )ที่แปลงนานายบุญโฮม ปุริณะ สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติระดับตำบล บ้านท่าหนองเทา หมู่ที่ 2 ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานพิธีลงแขกเกี่ยวข้าวโครงการข้าวเต็มนา ผู้ว่าพาเกี่ยวประจำปี 2556 โดยมีนายนิคม สิริสิงห์สังชัย นายอำเภอกุมภวาปี นายประภพ กุมภรัตนทิพย์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงคำ หัวหน้าส่วราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอกุมภวาปี ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน

นายนิคม สิริสิงห์สังชัย นายอำเภอกุมภวาปี กล่าวว่า การลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นวัฒนธรรมการผลิตทางการเกษตรที่ชาวนาในจังหวัดอุดรธานีได้ยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชาวนา ทั้งในด้านการใช้แรงงาน ขวัญกำลังใจและความสามัคคี แต่ในปัจจุบันวิวัฒนาการทำนาได้ปรับเปลี่ยนกรรมวิธีการผลิตจากการอาศัยแรงงานคน สัตว์ และความร่วมแรงร่วมใจกันขอชาวนา มาเป็นการผลิตโดยการพึ่งพาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อการเกษตรสมัยใหม่ ทำให้พฤติกรรมการผลิตของชาวนาเปลี่ยนแปลงไป มีการจ้างงานแทนการลงแขก หรือการขอแรงแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดค่านิยมใหม่ในสังคมชาวนา คือการจ้างแรงงานด้วยเงิน หรือปัจจัยอื่นแทนการขอเรงงาน

อำเภอกุมภวาปี เป็นอำเภอที่มีพื้นที่ถือครองในการทำนาและมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นจำนวนมาก ปีการผลิต 2556/57 มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี 10,583 ครัวเรือน พื้นที่158,019 ไร่ ต้นทุนในการผลิตข้าว 3,800 บาท /ไร่ ซึ่งในต้นทุนการผลิตมีค่าใช้จ่ายที่เป็นการจ้างแรงงานคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 บาท/ไร่ เมื่อหักต้นทุนการผลิตในปีนี้ พบว่าชาวนามีรายได้จากการผลิตข้าวในระดับที่ต่ำ ซึ่งแนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขให้ชาวนามีรายได้สูงเพิ่มขึ้นนั้น จะต้องลดต้นทุนการผลิต ดังนั้นอำเภอกุมภวาปีจึงจัดทำโครงการข้าวเต็มนาผู้ว่าพาเกี่ยวปี 2556 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานประเพณี ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมทางการเกษตรที่ดีแก่ชุมชน เสริมสร้างกำลังใจและความสามัคคีในกิจกรรมการปลูกข้าว และสร้างแนวทางการดำเนินงานร่วมกันของชุมชนในการพัฒนา การผลิตข้าวของชุมชนให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น โครงการข้าวเต็มนาผู้ว่าพาเกี่ยวข้องอำเภอกุมภวาปี ได้รับความอนุเคราะห์ สนับสนุนงบประมาณ จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีและเทศบาลตำบลเวียงคำ ภายงานจัดให้มี การหว่านสาธิตการฝังกลบตอซัง การแข่งขันเกี่ยวข้าว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสำนักงานเกษตรอำเภอกุมภวาปี เทศบาลตำบลเวียงคำ สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดอุดรธานี ศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวอุดรธานี



ทีมข่าวส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

สดุดีวีกรรมวีรชนค่ายเสนีย์รณยุทธ

กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธอุดรธานี ประกอบพิธีวางพวงมาลาอนุสรณ์สถานวีรชนค่ายเสนีย์รณยุทธ เนื่องในวันสถาปนาครบรอบ 60 ปี รำลึกคุณงามความดีของนักรบผู้กล้าหาญที่ได้เสียสละชีวิต เลือดเนื้อพลีชีพเพื่อชาติ

วันนี้ (19 พ.ย. 56) ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรธานี พล.ต.ต.ดร ปิ่นเฉลียว รองผบก.ตชด.ภาค 2 ประธานพิธีวางพวงมาลาอนุสรณ์สถานีวีรชนค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรธานี โดยมีนายสุทธินันท์ บุญมี รองผวจ.อุดรธานี และพ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญโสภา ผกก.ตชด.24 ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะชมรมแม่บ้าน ข้าราชการตำรวจค่ายเสนีย์รณยุทธ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันสถาปนาค่ายเสนีย์รณยุทธ ครบรอบ 60 ปี เป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของนักรบผู้กล้าหาญของค่ายแห่งนี้ ที่ได้เสียสละชีวิต เลือดเนื้อพลีชีพเพื่อชาติ

พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญโสภา ผกก.ตชด.24 กล่าวสดุดีวีรกรรมวีรชน ค่ายเสนีย์รณยุทธ วันที่ 19 พฤศจิกายนเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง เป็นวันคล้ายวันสถาปนาที่ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2496 วันนี้ครบรอบ 60 ปี บรรดาข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนในค่ายแห่งนี้ทุกนาย ตลอดทั้งครอบครัว กระทำพิธีรำลึกถึงการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของวีรชนนักรบผู้กล้าหาญ พลีชีพเพื่อชาติ หลายนายบาดเจ็บพิการ ทุพพลภาพ เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยของแผ่นดินไทยให้คงอยู่สืบไป ปี พ.ศ.2528 ปีแห่งการยุติการต่อสู้ในรูปแบบสงครามการก่อการร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กับกองทัพแห่งชาติ จากการต่อสู้ในครั้งนั้น พ.ต.อ.ขจร สัยวัตร์ ผกก.ตชด.เขต 4(ยศและตำแหน่งขณะนั้น)ได้ดำริว่าจะต้องก่อสร้างอนุสรณ์สถานีวีรชนขึ้นไว้เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันห้าวหาญ เด็ดเดี่ยว นักรบกล้าของค่ายเสนีย์รณยุทธแห่งนี้ การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2528 ซึ่งการเสียสละของเหล่าวีรชนตำรวจตระเวนชายแดนเมื่อครั้งในอดีต ได้นำความสุขสงบมาสู่เราในปัจจุบัน สมควรที่อนุชนรุ่นหลังพึงจดจำ และสำนึกในคุณงามความดีแห่งการเสียสละของนักรบผู้กล้าทั้งหลายเหล่านั้น การจัดพิธีวางพวงมาลาเพื่อเคารพสักการะคุณงามความดี และเสริมส่งดวงวิญญาณของวีรชนทุกดวง จงสถิตสู่สรวงสวรรค์ ดังปรารถนาชั่วนิจนิรันดร์



เครือข่าย ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทอใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงษ์ พระราชทานพวงมาลาหลวงวางหน้าหีบศพ สิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ ตำรวจผู้พลีชีพจากการรักษาความสงบในภาคใต้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  และพระบรมวงศานุวงษ์ทุกพระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ โปรดกระหม่อม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ อัญเชิญพวงมาลาหลวงพระราชทาน วางหน้าหีบศพ สิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556  ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาคุ้มครองความปลอดภัยให้ครูในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

เวลา 19.45 น.วันที่ (18 พฤศจิกายน 2556) นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นผู้แทนพระองค์ในการอัญเชิญพวงมาลาหลวงพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพวงมาลาหลวงของพระบรมวงศานุวงษ์ทุกพระองค์วางหน้าหีบศพ สิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ ซึ่งญาติได้นำศพกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา ณ บ้านบ้านโพนทอง เลขที่ 41 หมู่ 4 ตำบลโพนทอง อำเภอเสนางคนิคม  จังหวัดอำนาจเจริญ  นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและสร้างความปลาบปลื้ม ให้กับครอบครัวของ สิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ ตำรวจผู้เสียชีวิตเป็นล้นพ้น โดยมี พลตำรวจตรี บุญยศ บุญไพศาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการตำรวจ ญาติมิตร เพื่อนบ้าน และประชาชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ไปร่วมเป็นเกียรติและร่วมแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก  ในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งแก่ บิดา-มารดาของ สิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น และร่วมเป็นเจ้าภาพพิธีทำบุญบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้ด้วย

สำหรับ สิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ เป็นบุตรของ นายสมคิด และนางสุขใจ วรจารุ เกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2531 อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ตำบลโพนทอง อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ มีพี่สาว 2 คน โดยสิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ เป็นคนสุดท้อง จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเสนางคนิคม แล้วสอบแข่งขันเข้าศึกษาหลักสูตรนักเรียนตำรวจที่ค่ายรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย จบแล้วได้บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจที่ศูนย์ปฏิบัติการชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556  ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ ปราบปราม ประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และมาเสียชีวิตพร้อมกับเพื่อนตำรวจอีก 2 นาย จากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 เวลาประมาณ 15.30 น. จากเหตุลอบวางระเบิดบนถนน ขณะทำหน้าที่พลขับกลับจากปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้ครูในอำเภอระแงะกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก  ยังความเศร้าโศกเสียใจ ให้กับบิดา-มารดา พี่น้อง และญาติมิตรเป็นอย่างยิ่ง    

โดยพิธีบำเพ็ญกุศลศพ สิบตำรวจตรี วรวุฒิ วรจารุ จะตั้งบำเพ็ญกุศล ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556  และกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2556 เวลา 15.00 น. ณ วัดบ้านโพนเมือง ตำบลโพนเมือง อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ



สุรพล บุตรวงศ์/ข่าว

โรงเรียนสังกัด สพป.ลย.1 อบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน มุ่งหวังให้เป็นคนดี ห่างไกลยาเสพติด

นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองผำ โรงเรียนบ้านวังแคน และโรงเรียนบ้านนาน้ำมัน อำเภอเมืองเลย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 จำนวน 81 คน เข้ารับการอบรมตามโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรมนักเรียน ณ วัดป่ามหาราช บ้านไร่ทาม ตำบล นาอาน อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย โดย ดร.สุเทพ บุญเติม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 เป็นประธานเปิด นายสุปชัย วิริยะศรีสุวัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองผำ กล่าวว่า การอบรมดังกล่าว จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อหล่อหลอมขัดเกลาจิตใจให้กับนักเรียน ให้เป็นผู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ หลักปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ รวมทั้งเพื่อให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม เป็นคนดีของสังคม ห่างไกลยาเสพติด นอกจากนี้ยังจัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ด้วย ทั้งนี้เด็ก ๆ ที่เข้าค่ายอบรมต้องได้ร่วมกิจกรรมในการทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น กิจกรรมค่ายคุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมจิตสาธารณะ ทำความสะอาดบริเวณวัด กิจกรรมการทบทวนความจำ นำความรู้ไปปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน จากคณะวิทยากร พระอาจารย์สุดใจ สุทธจิตโต เจ้าอาวาสวัดป่ามหาราช และคณะ พร้อมทั้งคณะครูจากโรงเรียนที่นักเรียนเข้ารับการอบรมร่วมเป็นคณะวิทยากรผู้ช่วย ดร.สุเทพ บุญเติม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 กล่าวในโอกาสเดียวกันนี้ว่า การจัดค่ายอบรมคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็ก ๆ นักเรียน ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการฝึกอบรมจิตของนักเรียนให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตนตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งในส่วนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 ได้มีนโยบายพัฒนาคุณภาพการศึกษา เน้นเรื่องของคุณธรรมนำสู่คุณภาพ โดยได้ร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศีลธรรมในโรงเรียนขึ้นอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันคือ เด็กนักเรียน เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม และห่างไกลจากสิ่งเสพติดทุกชนิด สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร อายุ 60 ปี สมัครทำประกันสังคม มาตรา 40 ได้แล้ว

นายทวีวัฒน์ ประสงค์ธรรม รักษาราชการแทน ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้ขยายความคุ้มครองประกันสังคม มาตรา 40เปิดโอกาสให้แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และประชาชนที่มีอายุเกิน 60ปี ขึ้นไป สมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม มีหลักประกันมั่นคงในชีวิต ด้วยการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 เพื่อรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญชราภาพรายเดือนตลอดชีวิต ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และประชาชนที่มีอายุตั้งแต่15 ปีขึ้นไป ประสงค์จะมีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต ในรูปแบบเงินบำเหน็จชราภาพ หรือเงินบำนาญชราภาพรายเดือนตลอดชีวิต สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ได้แล้วที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางโทรศัพท์ หมายเลข 042-612287 หรือ 042-630272-3



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร ขยายความคุ้มครองประกันสังคม มาตรา ๔๐

นายทวีวัฒน์ ประสงค์ธรรม นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาราชการแทนประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา ๔๐ เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระและประชาชนทั่วไปที่ไม่มีหลักประกันชีวิต หรือสิทธิจากสวัสดิการใดๆ สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา ๔๐ เพื่อรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคมตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ โดยสมัครตามทางเลือกที่ ๒ หรือทางเลือกที่ ๓ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะสมัครทางเลือกที่ ๒ และทางเลือกที่ ๓ พร้อมกันก็ได้ คุณสมบัติผู้สมัคร อายุ ๑๕ – ๖๕ สมัครทางเลือกที่ ๒ และทางเลือกที่ ๓ อายุเกิน ๖๕ ปีขึ้นไป สมัครได้เฉพาะทางเลือกที่ ๓ เท่านั้น การจ่ายเงินสมทบ จ่ายเดือนละ ๑ ครั้ง สามารถจ่ายล่วงหน้าได้ไม่เกิน ๑๒ เดือน (ไม่สามารถจ่ายย้อนหลังได้) สามารถออมเพิ่มเป็นเงินชราภาพ เดือนละไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท สถานที่จ่ายเงินสมทบ สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ไปรษณีย์ธนาณัติ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย หน่วยบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานประกันสังคมจังหวัด สถานที่รับสมัคร สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร หน่วยบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานประกันสังคมจังหวัด เอกสารประกอบการสมัคร ใช้สำเนาบัตรประชาชน จำนวน ๑ แผ่น

ทั้งนี้ แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระและประชาชนทั่วไป สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร โทร.๐๔๒-๖๓๐๒๗๒-๓



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์และติดตามบุคคลสูญหาย

นางสาวจริญญา วันทาวงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร กรณี นายบุญเสริม สันติวรกุล (บิดา) อายุ ๔๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๖๑/๑ หมู่ ๖ ตำบลห้วยสำเภา อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ขอความช่วยเหลือติดตามบุตรชายชื่อ เด็กชายกิตติศักดิ์ สันติวรกุล (น้องหนึ่ง) อายุ ๑๓ อำเภอหลังสวน ความว่า เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลาประมาณ ๐๗.๐๐ น. บุตรชายได้ออกไปเล่นเกมส์ที่ร้านเกมส์ในตลาดอวยชัย ๓ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และหายตัวไปเกรงว่าอาจได้รับอันตรายและถูกล่อลวงไปในทางเสียหายหรือตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์ตามหา เด็กชายกิตติศักดิ์ สันติวรกุล(น้องหนึ่ง)จากข้อมูลสำคัญเมื่อพบเบาะแสหรือข้อมูล ติดต่อได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๒-๖๑๑-๔๔๒ , ๐๔๒-๖๑๑-๕๘๓ หรือ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๑๓๐๐ สายด่วน ๒๔ ชั่วโมง หรือนายบุญเสริม(บิดา) หรือนางพัชราพร สันติวรกุล หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑-๐๘๑๓๕๗๙ , ๐๘๙-๙๐๙๗๓๙๗



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลก่อนเข้ารับหน้าที่ พร้อมแต่งตั้งทีมบริหาร

วันนี้ (๑๙ พ.ย. ๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองมุกดาหาร นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร ได้แถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลก่อนเข้ารับหน้าที่ในการบริการกิจการเทศบาล ในวันประชุมสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร สมัยสามัญ สมัยที่ ๔ ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๖ เนื่องจากได้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรองผลการเลือกตั้งเมื่อ วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ โดยคณะผู้บริหารประกอบด้วย นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร รองนายกเทศมนตรี ๓ ท่าน ได้แก่ นายเฉลียว ดีวงศ์ นายไตรรงค์ ถวิลไพร และนายเมธี แสนวิเศษ และทีมที่ปรึกษา ได้แก่ นายไพรัตน์ สกลพันธ์ และนายมาโนช บินไซกาเซ็ม โดยนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารได้ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นลำดับแรก

ภายหลังการแถลงนโยบาย นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารกล่าวว่า ในการอาสามาทำหน้าที่ในครั้งนี้มีเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ให้เป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนมีความสุข มีความเจริญในทุกด้าน โดยจะใช้นโยบายพัฒนาคนและพัฒนาเมืองควบคู่กันไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ซึ่งนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร ได้ขอความร่วมมือจากทีมสมาชิกสภาเทศบาล ในการขับเคลื่อนสนับสนุน นโยบายที่ตั้งไว้ให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารโดยรวม



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหไร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดพิธีเปิดยุทธการ “พยัคฆ์คำราม ๕๗ ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูง

วันนี้ (๑๙ พ.ย. ๕๖) เวลา ๐๙.๓๐ น.  ณ อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ ๙ อุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช จัดพิธีเปิดยุทธการ "พยัคฆ์คำราม ๕๗” เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร โดยมี นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิดยุทธการ "พยัคฆ์คำราม ๕๗ " พร้อมด้วยนายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารและหัวหน้าส่วนราชการร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า การจัดพิธีเปิดยุทธการ "พยัคฆ์คำราม ๕๗” ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาขบวนการการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

จังหวัดนครราชสีมาเตรียมจัดงานโคราชคาราวานบิ๊กไบร์ 2013 หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่

วันนี้ (19 พ.ย. 56) ที่สวนอาหารเดอะพาร์ค อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายประภาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายสุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน โคราชคาราวานบิ๊กไบร์ 2013 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556 นี้ เริ่มต้นที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ไปสิ้นสุดที่โรงแรมโกลด์ เมาเท่น อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

สำหรับงานโคราชคาราวานบิ๊กไบร์ 2013 จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงเพื่อเป็นการณรงค์ด้านการขับขี่ปลอดภัย ส่งเสริมวินัย และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตลอดจนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงานเพิ่มโอกาส และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

โดยกิจกรรมภายในงานจะมีขบวนคาราวานบิ๊กไบร์ เริ่มต้นที่ลานอนุสาวรียท้าวสุรนารี เคลื่อนขบวนไปวัดบ้านไร่อำเภอด่านขุนทด ก่อนจะเดินทางต่อไปท่องเที่ยวที่อำเภอวังน้ำเขียวและปิดท้ายที่งานคาบอยไนท์ ที่โรงแรมโกลด์ เมาเท่า อำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามพร้อมเพลิดเพลินกับโชว์พิเศษจาก เขียว คาราบาว และขุนสมาน ผู้ที่สนใจร่วมงานสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 089-4436886

จังหวัดนครราชสีมาจัดการสัมมนาผู้ประกอบการร้านจำหน่ายก๊าซโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน

วันนี้ (19 พ.ย. 56) ที่โรงแรมปัญจดารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการสัมมนาผู้ประกอบการร้านจำหน่ายก๊าซโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน จัดขึ้นโดยสำนักงานพลังงานจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายก๊าซได้เข้าใจขั้นตอนต่างๆในการขายก๊าซหุงต้มในราคาเดิมให้ผู้มีสิทธิ์ และพบกับตัวแทนผู้ค้ามาตรา7 (ผู้จำหน่ายก๊าซรายใหญ่) โดยตรง พร้อมทั้งมีการทำสัญญารับเงินสำรองจ่ายจากผู้ค้ามาตรา7ที่รับผิดชอบร้านจำหน่ายก๊าซแต่ละร้าน โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยผู้ประกอบการโรงบรรจุและร้านจำหน่ายก๊าซในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 100 ราย

นายธรรสรณ์ ตันกายา พลังงานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลมีการปรับราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน จาก ราคา 18.13 บาท ต่อ กิโลกรัม เป็น 24.82 บาท ต่อ กิโลกรัม โดยปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท ต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 1 กันยายน 2556 เป็นต้นมา จนถึงราคาเป้าหมาย และมีโครงการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย ครัวเรือนใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย ต่อเดือน ครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้และร้านค้าหาบเร่แผงลอยขายอาหาร ยังคงใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซในราคาเดิม แต่ที่ผ่านมาร้านจำหน่ายก๊าซและผู้ที่ได้รับสิทธิ์ซื้อก๊าซในราคาเดิมยังไม่มีความเข้าใจในโครงการ ประกอบกับมีการร้องเรียนของร้านจำหน่ายก๊าซยังไม่ได้รับเงินชดเชยจากผู้ค้ามาตรา7เป็นจำนวนมาก จึงได้มีการจัดสัมมนาในครั้งนี้ขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจและให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันมีร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม เข้าร่วมโครงการจำนวน 730 ร้านค้า จาก 1,023 ร้านค้า

นายธรรสรณ์ กล่าวอีกว่า การตรวจรายชื่อผู้มีสิทธิ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย ต่อเดือน จะได้ส่วนลดในการซื้อก๊าซหุงต้มในราคาเดิม คือ 18.13 บาท ไม่เกิน 18 กิโลกรัม ต่อ 3 เดือน สามารถตรวจสอบสิทธิได้ จากใบแจ้งหนี้การไฟฟ้า เดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม 2556 หรือตรวจสอบสิทธิจากรายชื่อผู้ได้รับสิทธิที่สำนักงานเทศบาลหรือ องค์การบริหารส่วนตำบล ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป และกลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้จากประกาศรายชื่อที่สำนักงานเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป ส่วนร้านจำหน่ายก๊าซ ที่สามารถซื้อก๊าซและใช้สิทธิได้ ให้ตรวจสอบรายชื่อร้านจำหน่ายก๊าซ ที่สามารถไปใช้สิทธิได้ที่สำนักงานเทศบาลหรือองค์การบริการส่วนตำบล หรือดูได้จากร้านจำหน่ายก๊าซที่มีป้ายระบุข้อความ "ร้านนี้ อยู่ในโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (LPG) ภาคครัวเรือน” ส่วนการลงทะเบียนเพิ่มเติม ได้แก่ กลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล และร้านจำหน่ายก๊าซที่ไม่มีชื่อประกาศ หากต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพลังงานจังหวัดนครราชสีมา

จังหวัดนครราชสีมาเตรียมจัดงาน นครราชสีมา ถวายแด่มหาราชาของแผ่นดิน 86 พรรษา

วันนี้ (19 พ.ย. 56) ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดงาน นครราชสีมา ถวายแด่มหาราชาของแผ่นดิน 86 พรรษา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณสวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ สำหรับกิจกรรมภายในงานจะมีการลงนามถวายพระพรและประกอบพิธีถวายชัยมงคล ถวายราชสักการะ พร้อมมีการฉายวีดีทัศน์การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนาถที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยทางรถไฟ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา เมื่อ ปี พศ.2498 นอกจากนี้ยังมีการแสดงบนเวที การนำบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงเฉลิมพระเกียรติ มาบรรเลง ให้ประชาชนที่ร่วมงานได้รับฟังอีกด้วย

ชัยภูมิสร้างความเข้าใจสื่อมวลชนก่อนเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนทุกฝ่ายเกี่ยวกับการสร้างอ่างเก็บน้ำ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ จัดสัมมนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ก่อนเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน ทุกฝ่ายตามแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ

การจัดสัมมนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ กรมประชาสัมพันธ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ จัดขึ้น เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ มีสื่อมวลชนทุกแขนงกว่า 50 คน เข้าร่วมสัมมนา มีนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นชลประทานจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด และ นายธีระพงษ์ ภัทรพันธุ์ชัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาพบปะ พูดคุย และสร้างความเข้าใจแก่สื่อมวลชน ในขวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ตามแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ ซึ่งในส่วนของจังหวัดชัยภูมิ ได้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ

ทั้งนี้จังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเห็นชอบ จาก กอบ. ให้สร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ จำนวน 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำยางนาดี ตั้งอยู่บริเวณบ้านยางนาดี ต.ชีบน อ.บ้านเขว้า ความจุ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่น้ำท่วม ประมาณ 18,000 ไร่ ราคาก่อสร้าง ค่าชดเชย และค่าทดแทนทรัพย์สิน 1,550 ล้านบาท และอ่างเก็บน้ำชีบน ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลหนองแวง อ.หนองบัวแดง ขนาดความจุ 325 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมระบบส่งน้ำ พื้นที่รับประโยชน์ 22,475 ไร่ ราคาก่อสร้าง ค่าชดเชย และค่าทดแทนทรัพย์สิน 4,400 ล้านบาท

ซึ่งการจัดเวทีในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ เป็นขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ทั้งผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ และกลุ่มประชาชนที่สนใจ ที่ได้ลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ตกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งเป็นผู้จัดเวที เมื่อได้ข้อสรุปจากเวทีแล้ว จะสรุปและรายงาน ส่งให้ กบอ. ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป นับว่าเวทีมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อระบบการพัฒนาเรื่องทรัพยากรน้ำของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ต้นน้ำ โดยเฉพาะต้นน้ำชี แต่ไม่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ กักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง และชะลอปัญหาน้ำท่วม ตามสองฝั่งลำน้ำชี ทำให้ประชาชนเจอทั้งภัยแล้งและภัยน้ำท่วม รัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยน้ำท่วม ภัยแล้ง ปีละ กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งในเวที ประชาชนที่เข้าร่วมสามารถเสนอความคิดทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย หรือต้องการให้แก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง โครงการนี้โดยอิสระ เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาวชัยภูมิ และคนไทยทั้งประเทศ



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ตำรวจขอนแก่นจับกุม 2 โจรพี่น้องตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านข้าราชการ

ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จับกุม 2 พี่น้องได้วิชาโจรจากเรือนจำ ทั้งชักชวนหลานชายวัย 14 ปี เข้าร่วมแก๊งลักทรัพย์ตามบ้านพักข้าราชการ และเศรษฐี เผยได้ของกลางจำนวนมาก

พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักทรัพย์ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายประเสริฐ คุ้มศาสตรา อายุ 32 ปี นายบุญกว้าง บุญฉิม อายุ 38 ปี และ ด.ช.เอก (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ทั้งหมดเป็นญาติกัน ชาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง อุปกรณ์การงัดแงะจำนวนหนึ่ง ชุดโฮมเธียเตอร์ โทรทัศน์ขนาด 72 นิ้ว 1 ชุด โทรทัศน์จอแบน 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียน กธ 6920 ขอนแก่น รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีดำแดง ทะเบียน คจฉ 732 ขอนแก่น และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง นายประเสริฐ คุ้มศาสตรา ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษคดีจำหน่ายยาบ้า 60 เม็ด จากเรือนจำจังหวัดขอนแก่นได้ 2 เดือน โดยศาลตัดสินจำคุก 5 ปี 6 เดือน ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ มีเพื่อนนักโทษช่วยสอนวิธีการงัดแงะบ้านให้ พอพ้นโทษจึงชักชวนนายบุญกว้าง ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ ที่เพิ่งพ้นโทษในคดีฆ่าคนตายออกมาจากคุกในเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแก๊งตระเวนลักทรัพย์โดยจะเลือกเฉพาะบ้านของข้าราชการ และบ้านเศรษฐีหลังใหญ่ที่ปิดเงียบ และไม่มีคนอยู่ เมื่อเข้าไปก่อเหตุและได้ทรัพย์สินมาแล้วจะนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า แล้วนำเงินมาแบ่งกันไปใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ ส่วนหลานชายจะนำเงินไปเล่นเกมตามร้านอินเทอร์เน็ต จนกระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ชาวนาขอนแก่นผวาโดนโขมยข้าวเปลือกนอนเฝ้าข้าวในนาฝากเตือนชาวนาระมัดระวังด้วย

ชาวนาจังหวัดขอนแก่นผวาโจรขโมยข้าวเปลือกต้องนำเต็นท์มากางนอนเฝ้าในนาข้าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาอำเภอเมืองขอนแก่นสุดช้ำ หลังเกิดเหตุขโมยแอบเข้ามาขโมยข้าวเปลือกที่ชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี กองไว้บริเวณนาข้าว รอนำข้าวเก็บไว้ในยุ้งฉาง ล่าสุดเมื่อ ที่ผ่านมาได้มีคนเข้ามาขโมยข้าวเปลือกในนาข้าว ที่บ้านหนองตูม ตำบลหนองตูม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นผู้เสียหายถึงขั้นต้องนำเต็นท์ พร้อมหมอน ผ้าห่ม มากางงนอนในนาข้าว เฝ้าข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวไว้ไม่ให้ถูกขโมยไปอีก

ชาวนาผู้เสียหายถูกขโมยข้าวเปลือก กล่าวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำ ขณะที่ตนกำลังนอนเฝ้านาพร้อมกับแฟน ได้สังเกตเห็นวัยรุ่น กำลังขนข้าวที่ตนได้มัดรวมไว้ แต่ตนกลัวเลยไม่กล้าออกไป พอช่วงเช้าออกไปตรวจสอบพบว่าข้าวที่มัดเกี่ยวไว้ได้หายไปเป็นจำนวนมากจนทำให้ต้องมานอนเฝ้านาข้าวทุกคืน จึงอยากให้ทางตำรวจกวดขันตรวจตราและเร่งติดตามจับกุมคนร้ายไปดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ด้านพลตำรวจตรีชอบ คิสาลัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นขอความร่วมมือชาวนาทุกท่านช่วงนี้ให้เฝ้านาข้าวของตนเองไว้เพราะในพื้นที่ขอนแก่นมีการขโมยข้าวเกิดขึ้นแล้วมีผู้เสียหายหลายราย ขอให้อยู่บ้านอย่าออกไปไหนไกล



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

23 พฤศจิกายน 2556 สวนสัตว์ขอนแก่น ดีเดย์ เปิดกิจกรรม”สบายดีมาดากัสการ์”

หลังจากที่สวนสัตว์ขอนแก่น สังกัดองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เปิดให้บริการเก็บค่าบัตรผ่านประตูเข้าชมสวนจัดแสดงสัตว์ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา และในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556 ที่จะถึงนี้ โดยจะเปิดให้ชมส่วนจัดแสดงใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ชาวจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงได้ชมสัตว์ป่าจากประเทศภายใต้กิจกรรม"สบายดีมาดากัสการ์”

นายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม"สบายดีมาดากัสการ์” คำว่าสบายดีคือคำทักทาย การสวัสดีสัตว์ป่าในเอเชียอยู่ในภาคอีสานโดยเฉพาะ สวนสัตว์ขอนแก่นกับสัตว์ป่าหายากที่นำมาจากเกามาดากัสการ์ ซึ่งการทักทายจะใช้คำว่าสบายดี หรือสวัสดีนั่นเอง ไฮไลท์ของงานก็คือ นำเอาดารามาแสดงมินิคอนเสิร์ต คือ น้องทับทิม อัญรินทร์ ธีรานันท์พัฒน์ นางเอกช่อง 7 เรื่อง สามโทน ที่บริเวณสวนน้ำสวนสัตว์ขอนแก่น หรือ WATER PARK และร่วมเปิดกิจกรรม"สบายดีมาดากัสการ์”

จุดเด่นของกิจกรรม"สบายดีมาดากัสการ์” การนำสัตว์ป่าจากเกาะมาดากัสการ์ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยมาดากัสการ์ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 10 ของโลก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย มาดากัสการ์จัดได้ว่าเป็นประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่พิเศษ มีการประมาณว่า กว่า 70 % ของสัตว์พื้นเมืองที่นี่ไม่สามารถหาพบได้ที่อื่นใดในโลก นอกจากเกาะมาดากัสการ์ หากไดกล่าวถึงสัตว์แปลกๆบนเกาะมาดากัสการ์ให้หมด อาจจะต้องใช้เวลาเล่าความนาน จึงขอยกตัวอย่างสัตว์ที่แปลกๆ และมีชื่อเสียงเท่านั้น สัตว์ชนิดแรกเมื่อกล่าวถึงเกาะมาดากัสการ์ หลายคนก็จะพากันนึกถึง เจ้าตัวลีเมอร์ (Lemur) ลีเมอร์เป็นไพรเมท หรือสัตว์ประเภทลิงชื่อลีเมอร์ ตั้งตามเทพปกรณัมโรมัน แปลว่าผีหรือดวงวิญญาณ เชื่อมโยงถึงพฤติกรรมของตัวลีเมอร์ ที่โดยมาเป็นสัตว์หากินกลางคืน หากใครได้พบเห็นตอนกลางคืนอาจตกใจ เพราะพวกมันมีดวงตากลมโตที่สะท้อนแสง และมักร้องเรียกฝูงด้วยเสียงโหยหวน และสวนสัตว์ขอนแก่นได้นำเข้าสัตว์จากเกาะมาดากัสการ์มาจัดแสดง ก็คือลีเมอร์หางปล้อง หรือลีเมอร์หางแหวน และลีเมอร์ใหญ่แผงคอขาวดำ The black-and-white Ruffed Lemur (Varecia variegata) นอกจากจะนำลีเมอร์มาจัดแสดงแล้ว ยังนำเจ้าลิงกระรอก จากทวีปอเมริกาใต้ นกฟลามิงโก้ ซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ทวีปยุโรปจรดเอเชียทะเล เมดิเตอร์เรเนียน ทวีปแอฟริกา และอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับนกฟลามิงโก้ จะมีคอและขาที่ยาว ขนสีชมพู ขนปีกสีดำ ม่านตาสีเหลืองอ่อน และปากสีชมพู นอกจากนี้แล้วยังมี หมีขอ นกกาบบัว และสุนัขจิ้งจอก

ในโอกาสนี้อยากจะขอเชิญชวนท่านนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงมาชมความน่ารักของลีเมอร์ และขอเชิญร่วมงานกิจกรรม"สบายดีมาดากัสการ์” ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สวนสัตว์ขอนแก่น โทร. 08-6455-6341, 08-6459-4192



ศุภัชญา นศ.ฝึกงาน/ข่าว/พิมพ์/19 พ.ย.56