วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กฐิน รมต.ทอดที่ยโสธร

กฐินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทอดที่ยโสธร ที่วัดโพธิ์ศรีมงคล (วัดใหญ่) ต.ตาดทอง อ.เมือง จังหวัดยโสธร ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มอบหมายให้ นายอิศรา โพธิศิริ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เป็นตัวแทน พร้อม ส.ส ปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ และนายพิบูล ผ่ายดี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตาดทอง นำชาวบ้านเข้าวัดทำบุญทอดกฐิน ในช่วงเทศกาลออกพรรษา ซึ่งเป็นกฐินปลอดเหล้า ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดยโสธร จัดทำกองกฐินสามัคคี เพื่อทอดถวายวัดโพธิ์ศรีมงคล (วัดใหญ่) ในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยอีสาน ที่ได้ยึดถือปฏิบัติมายาวนาน และเป็นการส่งเสริมให้ชาวบ้านรู้รักสามัคคี เกิดความปองดองสมานฉันท์ในหมู่คณะ การจัดกิจกกรมทำบุญในครั้งนี้ปรากฏว่า มีชาวบ้าน ร่วมทอด อนุโมทนากฐิน เป็นปัจจัย จำนวน 275,397.00 บาท ( สองแสนเจ็ดหมื่นห้าพันสามร้อยเก้าสิบเจ็ดบาท ) คณะกรรมสงฆ์ก็จะได้นำปัจจัยไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดต่อไป



วรรณทอง ภูโสภา
ส.ปชส.ยโสธร/ภาพ/ข่าว

รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดตรวจสภาพผนังกั้นน้ำที่แตกร้าว เกรงน้ำท่วมหลายหมู่บ้าน

วันนี้ (22 ต.ค.56) เวลา 16.00 น. นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายพิทยา กุดหอม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด นายอเนก ไชยคำภา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานร้อยเอ็ด นายประทีป ฉัตรอุทัย นายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปตรวจสภาพผังกั้นน้ำที่บ้านดินแดง หมู่ที่ 3 ตำบลดงสิงห์ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด หลังจากได้รับแจ้งว่า ผนังกั้นน้ำซึ่งกั้นน้ำระหว่างลำน้ำชีกับหมู่บ้านดินแดง เกิดการแตกร้าวเนื่องจากได้ปริมาณในลำชีมีปริมาณเอ่อสูง ซึ่งเป็นน้ำที่ได้ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ โดยมีนางกาญจนา เพชรวิเศษ นายอำเภอจังหาร ได้นำราษฎรในหมู่บ้านให้การต้อนรับและนำตรวจสภาพผนังกั้นน้ำที่เกิดการแตกร้าวดังกล่าว ขณะที่ราษฎรในหมู่บ้านดินแดงจำนวนหนึ่งได้บรรจุทรายใส่ถุง เพื่อเสริมผนังกั้นน้ำให้แข็งแรง และจะเสริมด้วยไม้ยูคาอีกแรงหนึ่งป้องกันการทรุดตัวของผนังกั้นน้ำ ซึ่งหากผนังกั้นน้ำตัวนี้ทรุดตัวลงน้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมหลายครัวเรือนของหมู่ที่ 3

นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และหัวหน้าส่วนราชการพร้อมด้วยนางกาญจนา เพชรวิเศษ นายอำเภอจังหาร ยังได้เดินทางไปตรวจผนังกั้นน้ำที่อยู่ในสภาพแตกร้าวและเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม ที่บ้านเปือยตาล หมู่ที่ 5 ตำบลดงสิงห์ บ้านม่วงลาด หมู่ที่ 6 ตำบลม่วงลาด โดยมีนางเพียรทอง เฉลิมแสน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลม่วงลาด นำราษฎรและผู้นำหมู่บ้านให้การต้อนรับ และนำตรวจสภาพผนังกั้นน้ำ โดยได้กำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในหมู่บ้านนำดินมาเพิ่มความสูงของผนังกันน้ำให้เร็วที่สุด หรือ ภายในคืนนี้ เพื่อป้องกันน้ำทะลักไหลท่วมหมู่บ้านที่อยู่ท้ายน้ำ และพื้นนาอีกจำนวนหลายไร่



วิมล เร่งศึก/ข่าว
บุญมี เพ็งรัตน์/ภาพ
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 22 ต.ค.56

ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จังหวัดเลยมอบทุนการศึกษาเด็กนักเรียน

นายศุภชัย แสงโสภณ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และประธานมูลนิธิศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์จังหวัดเลย, นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการศาลปกครอง, นายองอาจ สุวรรณสิงห์ สว.จังหวัดเลย, นายนัทธี เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, นายพิสิษฐ์ บุญช่วง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง  พร้อมคณะได้เดินทางมามอบทุนการศึกษาศิษย์เก่า   ณ   โรงเรียนบ้านปลาบ่า ตำบลปลาบ่า อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มูลนิธิศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จังหวัดเลยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จังหวัดเลย  ให้เด็กนักเรียนบ้านปลาบ่า จำนวน 150 ทุน โดยมีนายบุญเติม เรณุมาศ  นายอำเภอภูเรือ,  นายนฤชา  โฆษาศิวิไลย์  นายอำเภอภูหลวง  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ  ผู้บริหารท้องถิ่น  ผู้บริหาร  คณะครู  อาจารย์  นักเรียนและแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ

สสจ.เลย ประเมินประสิทธิภาพบริหารการจัดการกองทุนเทศบาลตำบลภูเรือ

นายอดุลย์ สอนสุภาพ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ จังหวัดเลย  พร้อมทีมพี่เลี้ยง สสจ.จังหวัดเลย คณะทำงานสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น  หรือพื้นที่ระดับจังหวัด  ได้ออกติดตามสนับสนุนการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กองทุนสุขภาพตำบล) ประจำปีงบประมาณ 2556 เพื่อประเมินประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนฯ เทศบาลตำบลภูเรือ และติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานกองทุนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน ในวันที่ 17 ตุลาคม 2556  ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลภูเรือ จังหวัดเลย

หอการค้าเลยจัดติวเข้มน.ร.มัธยมเปิดประตูความรู้สู่รั้วมหาวิทยาลัย

นายสมเจษฎ์ ศรีสมจักร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 เป็นประธานพิธีเปิดโครงการเปิดประตูความรู้สู่รั้วมหาวิทยาลัย จัดโดยหอการค้าเลยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมีนักเรียนมัธยมจากอำเภอต่าง ๆ  จำนวน  600 คน เข้ารับการอบรม ทบทวนความรู้ ในวิชาคณิตศาสตร์ ที่หอประชุมโรงเรียนเลยพิทยาคม ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย

นายวสันต์ แก้วศิริบัณฑิต ประธานหอการค้าเลย กล่าวว่า หอการค้าเลยในฐานะองค์กรธุรกิจเอกชนภาคเอกชน เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านการศึกษาของเยาวชนในจังหวัดเลย จึงจัดโครงการนี้ทุกปี โดยร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกสู่สังคม และให้การบริการวิชาการแก่สังคม เพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนของชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต มีการให้บริการวิชาการสู่สังคมในลักษณะติวเข้ม แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบเข้าสู่มหาวิทยาลัย ด้วยการติว O–NET แบบสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน และการติววิชาความถนัด GAT ความถนัดทั่วไป และ PAT ความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ ที่นักเรียนจะเรียนต่อในวิชาชีพนั้นๆ ให้ประสบความสำเร็จ  ในการจัดโครงการครั้งนี้ เปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีทุนน้อย หรือไม่มีโอกาสไปเข้าค่ายหรือเรียนพิเศษในสถาบันที่มีชื่อเสียง ในกรุงเทพฯหรือจังหวัดใหญ่ ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง เข้ารับการติวเข้มโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้ ทางหอการค้า พ่อค้า นักธุรกิจ ในจังหวัดเลยที่มีจิตศรัทธา นำอาหารกลางวัน และไอศกรีม นำมาบริการให้แก่นักเรียนที่เข้ารับการติวเข้ม ตลอดระยะเวลา 2 วัน

ประชุมแก้ไขปัญหาความเดือนดร้อนชาวบ้านอันเนื่องมาจากผลกระทบจากการขุดเจาะก๊าซ

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดอุดรธานี และบริษัทรับสัมปทานสำรวจขุดเจาะก๊าซในพื้นที่อำเภอโนนสะอาดและหนองแสง แก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของชาวบ้านอันเกิดจากผลกระทบจากการขุดเจาะก๊าซ

ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี วันนี้ ( 22 ต.ค.56 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของชาวบ้านอันเกิดจากผลกระทบจากการขุดเจาะก๊าซในพื้นที่อำเภอโนนสะอาด และหนองแสงที่ประชาชนภายใต้การนำของดร.ประจญ กิ่งมิ่งแฮ ประธานสภาเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดอุดรธานี และคณะ ตลอดจนชาวบ้านที่เดือดร้อนมายืนหนังสือข้อเรียกร้องกับผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งภายหลังรับหนังสือแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้ส่งมอบให้กับตัวแทนบริษัทเพื่อนำไปดำเนินการตามข้อเรียกร้อง พร้อมประชุมหารือร่วมแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัท

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมานายนวคม เสมา เลขานุการสภาเครือข่ายภาคประชาชนได้รับการประสานจากประชาชนที่อาศัยทำกินอยู่ใกล้กับฐานเจาะก๊าซของบริษัทอปิโก (โคราช)จำกัด ที่ตั้งอยู่พื้นที่รอยต่อระหว่างบ้านทับไฮ ตำบลแสงสว่าง อำเภอหนองแสงกับบ้านนาเหล่า ตำบลหนองกุงศรี อำเภอโนนสะอาด ว่าได้รับความเดือนร้อนจากการขุดเจาะก๊าซ ขอให้ลงมาตรวจสอบและเก็บข้อมูล โดยชาวบ้านได้ให้รายละเอียดว่า มีชาวบ้านหลายคนในบริเวณดังกล่าว มีอาการ ผืนคันขึ้นตามตัว หมอบกว่าเกิดจากการแพ้สารเคมี มีอาการแน่นหน้าอกเมื่อได้รับกลิ่นของแก๊ซที่โชยมา และยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบจากเสียง แสง และกลิ่นที่เกิดจากการเผาก๊าซทิ้งต่อเนื่องอย่างน้อย 20-24 ชั่วโมง ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุข หลายคนต้องหนีออกจากพื้นที่ บางคนต้องทนอยู่จนเจ็บป่วย และชาวบ้านได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรโนนสะอาด และหนองแสง รวมทั้งแจ้งต่อกลุ่มงานพัฒนาศักยภาพเชื้อเพลิงธรรมชาติ หรือ สจ.เพื่อต้องการให้ตันแทนบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบดูแล ซึ่งต่อมามีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 9 ลงไปเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบคุณภาพ จากแหล่งน้ำรอบบริเวณฐานเจาะ 6 จุด แต่วันที่ไปเก็บมีฝนตกตลอดเวลาเกรงว่าผลการตรวจสอบจะไม่ตรงกับความเป็นจริง ด้านบริษัทเอสพีเอส สิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานครเข้ามาติดตั้งเครื่องวัดอากาศ 2 จุด รัศมี 500 เมตรจากฐานเจาะ แต่ยังไม่มีการเดินเครื่องพอชาวบ้านทวงถาม เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องบอกว่า ยังไม่ได้รับคำสั่ง และไม่มีเจ้าหน้าที่บริษัทอิปโก ออกมาดูแลหรือชี้แจงให้ทราบเลย ชาวบ้านจึงรวมตัวกันมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดให้จัดส่งหน่วยงานสาธารณสุข หรือหน่วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ลงไปตรวจสุขภาพให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่รอบฐานเจาะ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อป้องกัน หรือหาสมมุติฐานของอาการแพ้หรืออาการป่วย เพื่อให้การช่วยเหลือรักษาอยู่งถูกต้องต่อไป ขอให้มีการตรวจสภาพดิน น้ำ อากาศและพืช ที่อยู้ในรัศมีใกล้เคียงฐานเจาะ เพื่อหารสารพิษที่อาจมากับการขุดเจาะก๊าซและเพื่อหามาตรการป้องกันและรักษาให้ความปลอดภัยกับชาวบ้านโดยรวม

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับทราบข้อมูลทั้ง 2ฝ่าย ทางชาวบ้านผ่านสภาเครือข่ายประชน ว่าได้รับเรื่องผลกระทบจากการขุดเจาะก๊าซ ซึ่งตอนนี้มีผู้ป่วย 2-3 ราย กำลังพิสูจน์กันอยู่ว่าเกิดจากอะไร มาจากการขุดเจาะก๊าซหรือไม่ ในส่วนของราชการได้ชี้แจง มอบทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปเก็บตัวอย่างน้ำ ดิน ไปพิสูจน์ในขั้นตอนนี้อยู่ในขั้นตอน ผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งตรงนี้ในทุกหน่วยงานจะต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ และตอนนี้ได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานรายงานผลให้ผู้ว่าทราบ ว่ามีผลกระทบหรือไม่ ในส่วนไหนทีมีผลกระทบเช่นเรื่องน้ำ เรื่องดิน หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆเรื่องสัตว์เรื่องพืช ในส่วนของบริษัทอปิโกเอง ก็ต้องปฏิบัติตามเงือนไขที่ระบุไว้ใน EIA ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมาดำเนินการในพื้นที่จังหวัด เช่นสรุปรายงานทุกสัปดาห์ว่าทำอะไรไปถึงไหน ประเด็นอยู่ที่ว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนยังกังวลใจ อยู่ระหว่างการที่จะต้องทำความเข้าใจระหว่างบริษัทอปิโกกับพี่น้องประชาชน เพราะว่า อปิโกเองนี้จะต้องทำการศึกษา หรืออภิบายเพิ่มเติมว่าเดิมเคยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการขุดเจาะ แต่เมื่อก๊าซออกมาแล้วเนี่ย ในการเผาไหม้ ประชาชนไม่รู้เลย ซึ่งตรงนี้เป็นจุดอ่อนอันหนึ่งก็เลยเพิ่มเติมขั้นตอนที่ว่า ในการที่จะเอาก๊าซเผาก๊าซหรือเอาก๊าซขึ้นจากพื้นดินแล้วประชาชนต้องรับรู้ด้วยว่าเอาก๊าซอะไรขึ้นมามีการเผาไหม้ตอนไหน และให้อปิโกติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบปัญหาสิ่งแวดล้อมมวลภาวะอะไรเกิดขึ้นในชุมชนหรือไม่ อันนี้เป็นหน้าที่ของอปิโกที่จะต้องดำเนินการ ทั้งหมดนี้อยู่ใน EIA แต่ว่าทั้งหมดนี้ไม่เคยนำมาพูดคุยกันจนกระทั่งจนกระทั่วชาวบ้านได้รับผลกระทบทุกหน่วยจึงตื่นตัวขึ้นมาเพื่อจะเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติม และในบ่ายวันนี้กระทรวงสาธารณสุขก็จะส่งแพทย์เข้าไมบ่ายวันนี้เพื่อตรวจสอบในเรื่องของสุขภาพของประชาชน และจะมีการปรับคำสั่งใหม่ให้ปลัดจังหวัดเป็นประธาน พลังงานจังหวัดเป็นเลขาเพราะที่ตั้งไว้เดิมไม่สามารถปฏิบัติงานได้เนื่องจากมีคณะกรรมการมาเกินไป ต้องกระชับให้เล็กลงให้สามารถรับข้อมูลได้มากขึ้นกว่านี้ รวมทั้งได้ทำหนังสือรายงานไปยังสำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูว่าเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้รับอนุมัติหรือไม่ หรือ อปิโกทำผิดขั้นตอนอะไรบ้างและส่งเรื่องให้กระทรวงพลังงานได้ทราบและจะให้คณะกรรมการที่ตั้งใหม่ประชุมในวันศุกร์เพื่อทำการแก้ไขปัญหาตามข้อร้องเรียนของชาวบ้าน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ว่าตามที่อนุมัติให้ขุดเจาะ เขาทำตามที่ได้รับอนุมัติหรือไม เพราะจังหวัดและชาวบ้านเป็นผู้เดือดร้อนโดยตรง ซึ่งถ้าพบว่ามีการทำผิดขั้นตอน ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถแจ้งให้ชะลอไว้ก่อน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่การประชุมของคณะทำงานที่จะประชุมในวันศุกร์นี้ด้วย        

ดร.ประจญ กิ่งมิ่งแฮ ประธานสภาเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีที่ให้โอกาสสภาเครือข่ายประชาชนในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน สิ่งที่ได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขของบริษัทอปิโก ตามเงื่อนไขของรัฐบาลใน 4 ประเด็น ประกอบด้วยการติดตามฃอากาศ เสียง แสงและน้ำใต้ดิน เพื่อให้ประชาชนรับรู้ด้วยว่าที่นำออกมามีผลกระทบมากน้อยเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องน้ำบาดาล ดินใต้น้ำที่มีสารมีสีและแมงกานีส น้ำทิ้งน้ำเสีย ต้องรายงานให้ผวจ.และประชาชนได้รับทราบไม่เคยมีข้อมูลใดๆให้ประชาชนรับรู้ บริษัทไม่เคยรับผิดชอบเรื่องสุขภาพของประชาชน ซึ่งบริษัทไม่เคยตรวจสุขภาพของชุมชนเลยตั้งแต่ปี 2551 ที่รับผิดชอบมา ไม่เคยตรวจสอบน้ำดินซึ่งมีสารมีสีและแมกานิสมากเกินค่ามาตรฐาน ผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อม พืช แมลงหายไปหมด และที่ร้ายแรงรุนแรงที่สุดคือแมลงทับ จ๊กจั่น หายไปหมดจากพื้นที่ อำเภอหนองแสง และสิ่งที่ประชานได้รับความเดือนดร้อนคือเรื่องก๊าซ ซึ่งเราได้ประชุมด่วนและยื่นหนังสือรียกร้องขอให้ ผวจ.รับเรื่องนี้ไปพิจารณาช่วยเหลือ ซึ่งจะมีการประชุมในวันศุกร์นี้




ทีมข่าวส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

จ.สุรินทร์ เชิญชวนร่วมสนับสนุนเงินและสิ่งของในงาน “วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์”

จังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนร่วมสนับสนุนเงินและสิ่งของในงาน "วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์” หารายได้และสิ่งของสนับสนุนการออกร้านธารากาชาด ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ จัดกิจกรรมออกร้านธารากาชาดสุรินทร์ ในงาน มหัศจรรย์ช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556” ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ที่ สนามกีฬาศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ จึงได้กำหนดจัดงาน "วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์” ในวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณหน้าสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดกิจกรรมหารายได้และสิ่งของไปสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ อาทิ การบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย การสงเคราะห์ผู้ยากไร้ การรับบริจาคโลหิต ซึ่งเป็นกิจกรรมสาธารณกุศลตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนเงินและสิ่งของ เพื่อนำไปจัดเป็นรางวัลตอบแทนแก่ผู้ที่มาสนับสนุนในการออกร้าน "ธารากาชาด” ในงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ปีนี้



กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

จ.สุรินทร์ ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556

วันนี้ (22 ต.ค) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการเตรียมการดำเนินการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556 ของแม่กองแต่ละกอง จำนวน 6 กอง ประกอบด้วย กองสนับสนุนการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ กองจัดงานแสดงช้าง กองจัดงานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง กองจัดงานแสดงประกอบแสงสีเสียง กองจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ และกองติดตามและประเมินผล ซึ่งการเตรียมการจัดงานของแต่ละด้านมีความคืบหน้าและพร้อมจัดงานให้มีความสมบูรณ์และยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว

สำหรับการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556 เป็นครั้งที่ 53 กำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 รวม 12 วัน ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ และสนามแสดงช้าง โดยมีมีกิจกรรมหลักๆ ได้แก่ งานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง วันที่ 14 และ 15 พฤศจิกายน 2556 ณ อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง งานแสดง แสง สี เสียง "สืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ” ณ อำเภอศีขรภูมิ งานแสดงของช้างที่ยิ่งใหญ่ในโลก ในวันที่เสาร์ที่ 16 และวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งการจัดแสดงนิทรรศการ การจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร และการจัดกิจกรรมบนเวทีกลาง และเวทีงานกาชาดให้ได้ชมตลอดงาน


กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

เศรษฐกิจจังหวัดสุรินทร์ ขยายตัวสูงขึ้นเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน

นางสาวนิภาพรรณ ขวัญแก้ว รักษาราชการแทนคลังจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายน 2556 ภาคอุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ขยายตัว โดยพิจารณาจากจำนวนทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรม ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม และจำนวนแรงงานอุตสาหกรรมขยายตัว ร้อยละ 3.51, 0.51 และ 0.16 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะจำนวนทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรมและจำนวนแรงงานอุตสาหกรรมขยายตัวจากเดือนสิงหาคม 2556 ขยายตัวร้อยละ 3.40, และ 0.05 เป็นผลมาจากการผลิต สำหรับการค้าผ่านชายแดนไทย – กัมพูชา มีดุลการค้าเกินดุล 20.29 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 88.88 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการส่งออก 68.59 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.52 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวจาก เดือนที่ผ่านมา ที่ขยายตัวร้อยละ 11.36 มูลค่าการนำเข้า 20.29 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 622.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวจากเดือนที่ผ่านมา ที่หดตัวร้อยละ 3.60 สินค้าส่งออกสำคัญเพิ่มขึ้นเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง รองลงมาได้แก่ เบียร์ และน้ำดื่ม 

พลังงานจังหวัดสุรินทร์ แจ้งผู้ที่จะสมัครรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญมารับราชการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2556

นายวิทิต พิทยธาราธร ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน มีความประสงค์จะรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญมารับราชการสังกัดงานปลัดกระทรวงพลังงาน โดยตำแหน่งที่รับโอน ตำแหน่งนักสาขาวิชาการาคอมพิวเตอร์ ระดับชำนาญการ/ชำนาญการพิเศษ สังกัดศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักปลัดกระทรวงพลังงาน จำนวน 2 อัตรา ทั้งนี้สามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2556 และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2140-6234-7 หรือทาง http:/www.energy.go.th/ 

สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสุรินทร์ เชิญผู้ประกอบการธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สมัครเข้าร่วมโครงการ "Thailand Online Mege Sale 2013”

นางสาวบุปผา จงเลิศตระกูล หัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพานิชย์ ซึ่งมีภารกิจในการจดทะเบียนธุรกิจ บริการข้อมูลธุรกิจ กำกับดูแล ส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ ดังนั้น เพื่อช่วยกระตุ้นหรือส่งเสริมให้ประชาชน ผู้บริโภคเกิดการตื่นตัวและหันมาซื้อขายสินค้ารวมทั้งบริการทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นและสนับสนุนธุรกิจ e-Commerce ที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ให้ได้รับความเชื่อถือมีผู้เข้ามาซื้อมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบการค้าออนไลน์ของไทย อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจในการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และหน่วยงานที่งานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องสนับสนุนธุรกิจ e-Commerce ร่วมกันจัดงาน "Thailand Online Mege Sale 2013” ดังนั้นจึงขอเชิญผู้ประกอบการธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4451-2807 หรือ 0-4451-8813 โทรสาร 0-4451-2807

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมพร้อมร้านอร่อยไว้บริการนักท่องเที่ยว ที่มีป้ายร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัยเลือกใช้สินค้า Q

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์เตรียมพร้อมสำหรับงาน "มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ที่ บริเวณสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ และร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้างจังหวัดสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบคัดเลิอกร้านอาหารที่มีคุณภาพ ตามโครงการร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัย เลือกใช้สินค้า Q โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของจังหวัด ที่ใช้วัตถุดิบที่มีความปลอดภัยและผ่านการรับรองมาตรฐาน หรือเป็นผลผลิตที่รับรองตนเองว่าไม่มีการใช้สารเคมีหรือจำกัดการใช้สารเคมี ไว้บริการนักท่องเที่ยวในราคายุติธรรม มีรสชาติอร่อย ในงานเทศกาลดังกล่าวและตลอดไป สำหรับในปี 2556 จังหวัดสุรินทร์ มีร้านอาหาร ที่ผ่านการตรวจรับรองดังกล่าว จำนวน 22 ร้าน ได้แก่ ร้านโคคา อำเภอเมือง, ร้านเมืองช้าง (โรงแรมมณีโรจน์) อำเภอเมือง, ห้องอาหารรวมแพทย์หมออนันต์ อำเภอเมือง, สวนอาหาร อำเภอกุ้งเผา อำเภอเมือง, ห้องอาหารบิ๊กไบท์ (โรงแรมทองธารินทร์) อำเภอเมือง, ร้านเซเรเบรส อำเภอเมือง, ร้านสวนป่ารีสอร์ท (ห้องอาหารเอมอร) อำเภอเมือง, สวนอาหารชายน้ำ มินิรีสอร์ท อำเภอเมือง, สวนอาหารบ้านนา อำเภอเมือง, ร้านแม่พิมพ์ปลาเผา อำเภอเมือง ร้านอาหารครัวชานนท์ อำเภอสังขะ ร้านดาบยะ อำเภอสังขะ, สวนอาหารพรนภา อำเภอปราสาท, ร้านอาหารเพชรปราสาท อำเภอปราสาท, สวนอาหารพูนวิไล อำเภอชุมพลบุรี, ร้านอาหารจิตรโภชนา อำเภอจอมพระ, ร้านนงลักษณ์ กุ้งเผา, ร้านไก่ย่างสวนพลู อำเภอท่าตูม, ร้านเป็ดย่างคูเมือง (สาขาสุรินทร์) อำเภอเมือง, ร้านสวนอาหารเจ๊ภา อำเภอรัตนบุรี, ร้านอาหารบ้านเรา อำเภอศีขรภูมิ และ ร้านอาหารสวนผัก อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ 

กรมควบคุมโรคห่วงใยแนะวิธีปฏิบัติ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่อและขยะหลังน้ำลด

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากกรมควบคุมโรคห่วงใยแนะวิธีปฏิบัติ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่อ ได้แก่ โรคติดต่อจากอาหารน้ำ และแมลงต่างๆ ดังนี้ การจัดการขยะหลังน้ำลด

1. เก็บรวบรวมขยะที่ถูกน้ำที่พัดเข้ามาในบ้านเรือนขณะน้ำท่วม รวมทั้งสิ่งของในบ้านเรือนที่เสียหายจากน้ำท่วม เช่น ที่นอน หมอน ฯลฯ เพื่อมิให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และเพาะพันธุ์สัตว์แมลงนำโรค

2. อาจจัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ ทำความสะอาดในชุมชน (Big Cleaning Day) เพื่อรวมแรง ร่วมใจในการทำความสะอาดบ้านเรือน ชุมชน และสถานที่สาธารณะ

3. ประสานงานองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขอรับการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ การขนและการนำไปกำจัด รวมทั้งอุปกรณ์ทำความสะอาด

4. ในกรณีสถานที่กำจัดขยะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น และแมลงวัน อาจใช้จุลินทรีย์ช่วยในการแก้ไขปัญหา เช่น การใช้จุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติพิเศษขององค์การเภสัชกรรม (GPO Mekaklean Plus) ชนิดผงผสมในน้ำสะอาดทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง โดยใช้ในอัตราส่วน 1 กรัมต่อขยะ 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) นำไปฉีดพ่นให้ทั่วถึงบนกองขยะที่เข้ามาใหม่

5. ขยะถุงดำที่บรรจุสิ่งปฏิกูลต้องนำไปกำจัด โดยวิธีฝังกลบในหลุมฝังกลบหรือการขุดหลุมฝังในสถานที่เหมาะสม ด้านการจัดการสิ่งปฏิกูลหลังน้ำลด

1. หากพบว่าส้วมเต็มหรือราดน้ำไม่ลง ให้ทำการสูบสิ่งปฏิกูลในถังบำบัด นำไปกำจัดในสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งสามารถประสานขอรับการสนับสนุนได้จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ หรืออาจใช้จุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติพิเศษขององค์การเภสัชกรรม (GPO Mekaklean Plus) ชนิดผงผสมในน้ำสะอาดทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง โดยใช้ในอัตราส่วน 5 กรัม โดยจุลินทรีย์จะช่วยในการย่อยสลายสิ่งปฏิกูล และลดกลิ่นเหม็น

2. ล้างทำความสะอาดเก็บกวาดขยะ กิ่งไม้ ใบไม้ที่ตกค้างในบริเวณห้องส้วมด้วยน้ำผสมผงซักฟอก

3. ซ่อมแซมระบบเก็บกักสิ่งปฏิกูลของส้วมที่ชำรุดให้อยู่ในสภาพดีใช้งานได้

สำหรับการจัดการแหล่งน้ำท่วมขัง โดยการบำบัดน้ำเสียที่ท่วมขังหรือแหล่งน้ำสาธารณะเน่าเสียอาจใช้ EM หรือจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติพิเศษขององค์กรเภสัชกรรม (GPO Mekaklean Plus) ใส่ในแหล่งน้ำเสียในอัตราส่วน 1 กรัม ต่อ น้ำเสีย 1 ลูกบาศก์เมตรโดยอาจใช้ครั้งเดียวหรือใช้ซ้ำได้ทุก 7 วันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น หากต้องการกำจัดกลิ่นเหม็นอย่างเดียว อาจใช้เพียงครั้งเดียว ส่วนการคัดแยกขยะมูลฝอย 1. ขยะมูลฝอย ประเภทเศษอาหาร ที่เหลือจากการบริโภคแต่ละวัน (ขยะเปียก) กล่องโฟม ถุงพลาสติก ที่ใช้ใส่อาหารแล้ว ทิ้งลงในถุงดํา มัดปากถุงให้แน่นเพื่อป้องกันสัตว์และแมลงนําโรคลงไป รวบรวมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนําไปกําจัด อย่างถูกหลักสุขาภิบาล ไม่ควรทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ 2. ขยะมูลฝอย ประเภทกระป๋องโลหะ ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กล่องนม ให้เก็บแยก ไว้ ไม่ควรทิ้งลงในแหล่งน้ำ และนําออกขาย เมื่อสามารถขนออกมาได้หรือเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ และ 3. ขยะเครื่องใช้ไฟฟ้า โต๊ะ เตียง เก้าอี้-ชุดรับแขก ที่ชํารุด เศษไม้ เศษสิ่งก่อสร้าง ติดต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนําไปจัดการอย่างเหมาะสม 

จังหวัดสุรินทร์ เตือนระวังจุดพลุประทัดลอยกระทง

นายพรชัย เสาศรี หมุ่มสุรินทร์ วัน 24 ปี มีความสูง 2557.5 ซ.ม. น้ำหนัก 225 ก.ก. คาดว่าจะเป็นคนที่สูงที่สุดในโลก อยู่บ้าน ตาแก้ว ต. กันตวจระมวล อ. ปราสาท จ. สุรินทร์

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงที่จะมีขึ้นในเดือนหน้านี้ (17 พ.ย. 56) ถือเป็นเทศกาลที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และใช้โอกาสนี้ขอขมาต่อพระแม่คงคา อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมรื่นเริงในหลายพื้นที่ ซึ่งขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าจุดประทัด พลุ หรือดอกไม้ไฟด้วยความคึกคะนอง เนื่องจากที่ผ่านมามักเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับอันตรายจากการดัดแปลงวิธีการเล่นจนทำให้ได้รับบาดเจ็บพิการหรือเสียชีวิต นอกจากนี้หากมีการจุดประทัด พลุหรือดอกไม้ไฟในพื้นที่ชุมชน ประกายไฟอาจพุ่งไปตกบนหลังคาบ้านหรืออาคารก็อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ จึงเตือนประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงมักมีการนำลูกโป่งสวรรค์มาตกแต่งสถานที่หรือให้เด็กถือเล่นในบริเวณงาน ผู้บริโภคจึงควรมีความระมัดระวังโดย และขอเสนอแนะให้ใช้ลูกโป่งสวรรค์ที่บรรจุด้วยก๊าซฮีเลียม ซึ่งเป็นก๊าซเฉื่อยไม่ติดไฟ เพื่อความปลอดภัยในเบื้องต้น 

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เสนอผลการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดมุกดาหารต่อนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ร่วมนำเสนอผลการทบทวนยุทธศาสตร์กรพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร ๔ ปี (พ.ศ.๒๕๕๘-๒๕๖๑) ต่อนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในโอกาสเดินทางร่วมรับฟังผลการทบทวนแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม และเป็นประธานการเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟของจังหวัดนครพนม

ในโอกาสเดียวกัน นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ของจังหวัดมุกดาหาร "เมืองการค้า การเกษตร การท่องเที่ยวชายโขง เชื่อมโยงอาเซียน”รวมทั้งโครงการที่สำคัญที่จะดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัด ๔ ปี เช่น โครงการพัฒนาข้าวอินทรีย์ครบวงจร โครงการพัฒนาการท่องเที่ยว และโครงการพัฒนาศักยภาพจังหวัดด้านการค้าการลงทุนเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ในขณะที่ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ให้ข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ต่อแผนพัฒนาจังหวัดและทิศทางการพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำผังเมืองของจังหวัดมุกดาหาร เพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตของจังหวัดมุกดาหารที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จากการดำเนินโครงการตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ๒ ล้านล้านบาทของรัฐบาล เช่น โครงการรถไฟรางคู่ โครงการพัฒนาถนน ๔ ช่องจราจร ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งจังหวัดมุกดาหารจะนำเข้าสู่การพัฒนาเพื่อปรับปรุงผังเมืองของจังหวัดให้มีความเหมาะสม สามารถใช้พื้นที่เพื่อการพัฒนาให้สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในอนาคต



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

สำนักงานพลังงานจังหวัดมุกดาหารประชุมเชิงปฏิบัติการ”การติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงานของจังหวัดมุกดาหาร

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงานของจังหวัดมุกดาหาร”ด้วย คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ นีนาคม ๒๕๕๕ เห็นชอบในมาตรการลดใช้พลังงานในภาครัฐ และมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน ร่วมกับสำนักงบประมาณและสำนักงาน ก.พ.ร.ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการ โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงาน เป็นหนึ่งในกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ทั้งของส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และของจังหวัดโดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตัวชี้วัดที่ ๙ "ระดับความสำเร็จของการดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงานของจังหวัด” มีน้ำหนักร้อยละ ๓ โดยมีการถ่วงน้ำหนัก เป็น ๕ คะแนน ประกอบด้วย คะแนนที่ ๑ การทบทวนและติดตามการดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงานของหน่วยงาน คะแนนที่ ๒ การรายงานข้อมูลการใช้พลังงาน คะแนนที่ ๓ – ๕ ผลการประหยัดพลังงาน

พลังงานจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดมุกดาหารมีหน่วยงานที่จะต้องดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงานโดยประเมินผลตามคำรับรองร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร รวมจำนวน ๖๒ หน่วยงาน ประกอบด้วยหน่วยงานที่เป็นส่วนราชการภูมิภาค ๔๑ หน่วยงาน และส่วนกลางที่ ๒๑ หน่วยงาน เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแก่ส่วนราชการ และเป็นขวัญ กำลังใจให้กับบุคลากรของส่วนราชการที่ร่วมแรง ร่วมใจให้ความร่วมมือ รวมพลังราชการไทย ลดใช้พลังงาน เป็นอย่างดี จังหวัดมุกดาหารจึงได้มอบหมายให้ สำนักงานพลังงานจังหวัดมุกดาหาร พิจารราคัดเลือกส่วนราชการที่มีผลการดำเนินการตามตัวชี้วัด หน่วยงานที่ผลการดำเนินงานตามมาตรการประหยัดพลังงาน ระดับดีเยี่ยม หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือดีเยี่ยม คือ หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามตัวชี้วัดเป็นอย่างดียิ่ง โดยมีการรายงานผลอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องติดตาม หน่วยงานนี้ คือ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่มุกดาหาร หน่วยงานที่มีการประหยัดพลังงานไฟฟ้าสูงที่สุด หน่วยงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร หน่วยงานที่มีการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงที่สุด หน่วยงาน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารต้อนรับ นายหวง เค่อ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ให้การต้อนรับ นายห่วง เค่อ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยมูลนิธิเอกชนพัฒนาภูมิภาค และสมาคมนักธุรกิจยุคใหม่ ไทย –จีน ณ ด่านศุลากรมุกดาหาร ในโอกาสที่เดินทางมาพำนักที่จังหวัดมุกดาหาร ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดนครพนม โดยมีนายด่านศุลกากรมุกดาหาร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนร่วมให้การต้อนรับด้วย

ในโอกาสเดียวกัน นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพและทิศทางการพัฒนาของจังหวัดมุกดาหาร และความก้าวหน้าในการดำเนินความสัมพันธ์ในฐานะเมืองคู่แฝด ระหว่างจังหวัดมุกดาหารกับเมืองฉงจั่ว ซึ่งได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกันมาตั้งแต่วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ พร้อมทั้งได้เสนอแนวทางความร่วมมือด้านการพัฒนาเศรษฐกิจตามเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก (East – West Economic Corridor : EWEC)โดยมีประเด็นสำคัญ ขอให้ร่วมผลักดันการปรับปรุงเส้นทางจากเมืองดงเห็น – เมืองไชพูทอง ในแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เพื่อเชื่อมโยงเส้นทาง R๘ และ R ๑๒ เข้าด้วยกัน ซึ่งจะสามารถลดระยะทางที่ไปสู่เมืองฉงจั่ว นครหนานหนิง ให้สั้นลงได้กว่า ๗๐ กิโลเมตร ให้จีนพิจารณาปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่จัดเก็บจากผลไม้ไทย ในอัตราร้อยละ ๑๓ ให้ลดลงเหลือร้อยละ ๕ เหมือนกับที่จีนจัดเก็บจากผลไม้ของเวียดนาม เพื่อเป็นการกระตุ้นการส่งออกผลไม้จากจังหวัดมุกดาหารไปยังเมืองฉงจั่วและให้ร่วมกันผลักดันเส้นทาง R๘ และ R๑๒ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ให้อยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือ ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Great Mekong Cross-Border Transport Agreement : GMS CBTA) เช่นเดียวกับเส้นทาง R๙ เพื่อประโยชน์ทางการค้าของทั้ง ๔ ประเทศ คือ ไทย ลาว เวียดนาม และจีน

ในขณะที่นายหวง เค่อ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากจะสามารถสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งที่นครหนานหนิง และที่จะเกิดขึ้นที่จังหวัดมุกดาหาร ให้สามารถเชื่อมโยงกันได้โดยสะดวก ซึ่งนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้นำเรื่องนี้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในโอกาสที่เดินทางมารับฟังผลการทบทวนแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๒ ที่จังหวัดนครพนม ในวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ด้วย



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร/นายสุระณรงค์ อ่อนสนิท
ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมุกดาหารรับสมัครกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร

น.ส.นุชนารถ ด้วงสงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ตามที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร ได้ประกาศรายชื่อคณะกรรมการสรรหา กรรมาการป้องกันละปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ.2556 ข้อ 26 และข้อ 27 เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงกำหนดวัน เวลา สถานที่รับสมัครกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร ดังนี้

1. ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามแนบท้ายประกาศรายการที่ 1และไม่เป็นผู้สมัครกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดอื่นอยู่ในขณะเดียวกัน จนถึงวันที่การแต่งตั้งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดแล้วเสร็จ

2. ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครด้วยตนเองต่อประธานกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร เพื่อเป็นกรรมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร โดยใช้สมัครตามแบบ ป.ป.จ. 26

3. หลักฐานที่ใช้ในการสมัคร

4. ระยะเวลาการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08.30 ถึงเวลา 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

5. สถานที่รับสมัคร ณ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร เลขที่ 222 ถนนวิวิธสุรการ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โทร 042-620-905

ทั้งนี้ ให้ผู้สนใจสมัครกรรมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานที่ใช้ในการสมัครให้ครบถ้วน ตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนด และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ 042-620-905



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ผู้ว่าฯ มุกดาหาร ร่วมพิธีเปิดงานประเพณีแข่งเรือออกพรรษา ที่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว

ที่ศาลาแคมของ ริมแม่น้ำโขง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารพร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการและพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทาง โดยเรือไปร่วมงานประเพณีแข่งเรือออกพรรษา ลาว -ไทย (สะหวันนะเขต-มุกดาหาร) ประจำปี 2556ที่บริเวณศาลาแคมของ ริมแม่น้ำโขงแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตย ซึ่งได้มีการจัดงานประเพณีแข่งเรือออกพรรษา ลาว -ไทย(สะหวันนะเขต-มุกดาหาร) ประจำปี 2556 โดยได้มีผู้แทนจากแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นำโดย ดร.สุพันแก้ว มีไช เจ้าแขวง แขวงสะหวันนะเขต พร้อมด้วย นางวิละวัน เลียบวิไซนะวัง เจ้าเมืองไกสอนพมวิหาน นำคณะพี่น้องชาวลาวเดินทางมาให้การต้อนรับและร่วมงาน เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบทอดและดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณี รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ สายน้ำแห่งนี้ให้ชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงบรรยากาศ อันทรงคุณค่าและเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความ สมานสามัคคีของบุคคลที่ได้ชื่อว่าอยู่ในเรือลำเดียวกัน และยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของประชาชนสองฝั่งโขงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สำหรับการจัดงานประเพณีแข่งเรือออกพรรษา ลาว-ไทย ประจำปี เมื่อถึงเทศกาลออกพรรษาบรรดาชาวคุ้ม ชุมชนต่างพากันจัดประดับตกแต่งเรือ ให้มีความสวยงาม มีการฝึกเตรียมความพร้อมฝีพายเรือ เพื่อร่วมในงานประเพณีดังกล่าว กิจกรรมในงานประกอบด้วย การประกวดแห่เรือทางบกของชาวคุ้ม พิธีเบิกน่านน้ำ การแข่งเรือประเภทความเร็วทั้งในรุ่นจิ๋ว รุ่นเล็ก รุ่นกลาง และรุ่นใหญ่



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร/สุระณรงค์ อ่อนสนิท
ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร รับสมัครและคัดเลือกคนหางานไปทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอลโดยรัฐจัดส่ง

นายทรงศิลป์ ประสีระเก นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานได้ดำเนินการรับสมัครคนหางาน เพื่อคัดเลือกและจัดส่งคนหางานไปทำงานภาคการเกษตรในประเทศอิสราเอล ภายใต้โครงการ "ความร่วมมือ ไทย – อิสราเอล เพื่อจัดการจัดหางาน (Thailand – Israel Cooperation on the Placement of Workers:TIC)” ครั้งที่ ๕ คุณสมบัติของผู้สมัคร เพศชาย (มีสัญชาติไทย)อายุ ๒๓-๓๙ปี ในวันรับสมัคร (นับถึงวันปิดรับสมัคร)ผู้สมัครเพศชายต้องพ้นภาระการรับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร ไม่มีประวัติอาชญากรรม ไม่มีคู่สมรส บุตร หรือธิดา และมารดา พำนักอยู่ในประเทศอิสราเอล ไม่เคยทำงานในประเทศอิสราเอล มีประสบการณ์ทำงานภาคเกษตร สุขภาพแข็งแรง พร้อมต่อการทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอล ไม่มีอาการ ตาบอดสี และไม่เป็นโรคต่างๆได้แก่ วัณโรค โรคไวรัสตับอักเสบบี และซี โรคเอดส์ หนองใน ซิฟิลิส โรคเบาหวาน และไม่มีนิ้วคดงอ กุดหรือด้วน โดยสัมครด้วยตนเอง ณ สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน ชั้น ๑ อาคารสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ๓
ภายในกระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือ สามารถดาวโหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน www.doe.go.thหรือ www.overseas.doe.go.thระหว่างวันที่ ๑๑–๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐–๑๖.๓๐ น.ในวันเวลาราชการ ทั้งนี้ผู้สมัครไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่าย เว้นแต่ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลตามที่กำหนด (ค่าใช้จ่ายต่ำสุด ประมาณ ๗๐,๐๐๐ บาท)

หากคนหางานมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ (ชั้น ๑)อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โทร. ๐๔๒-๖๑๓-๐๓๗-๘



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร นายจ้างพาแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่ขึ้นทะเบียนประวัติ (ทร.๓๘/๑) แล้วไปตรวจสุขภาพและขอรับใบอนุญาตทำงาน

นายทรงศิลป์ ประสีระเก นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาการแทนจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร แจ้งว่า ตามที่นายจ้างพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชาที่ได้รับการผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางานแล้ว แต่ประเทศต้นทาง ยังไม่รับรองสถานะบุคคลให้มายื่นคำร้องขอตรวจสอบรับรองเอกสารต่อสำนักงานจัดหางานจังหวัดฯ ภายในวันที่ ๑๕ ตุลาคม เพื่อจัดไปทะเบียนประวัติ (ทร.๓๘/๑) ณ สำนักทะเบียนท้องถิ่น/อำเภอได้สิ้นสุดแล้ว และแรงงานต่างด้าวที่ได้จัดทำทะเบียนประวัติ (ทร๓๘/๑)ตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพ ณ โรงพยาบาลจังหวัดหรือโรงพยาบาลอำเภอ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยใช้เอกสารหลักฐาน ดังนี้ ทะเบียนประวัติ (ทร๓๘/๑) สำนักทะเบียนท้องถิ่น/อำเภอ ออกให้ถึงวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (นายจ้าง)สำเนาทะเบียนบ้าน (นายจ้าง)ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำงาน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่บัดนี้จนถึง ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ โดยใช้เอกสารหลักฐาน ดังนี้ ใบรับรองแพทย์ ใบโควตา สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน (นายจ้าง)รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว จำนวน ๒ รูป ค่าธรรมเนียม ๑,๐๐๐ บาท

หากมีข้อสงสัยประการใด สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลาง (ชั้น ๑)ถนนวิวิธสุรการอำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ ๐๔๒-๖๑๓๐๓๗-๘ ในวันเวลาราชการ



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารจัดกิจกรรมเนื่องในวันสังเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย

นายสวัสดิ์ ชูสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๓ กำหนดให้วันที่ ๒๑ ตุลาคม ของทุกปี อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติเป็นวันอาสาสมัครไทย

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านการสังเคราะห์ช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ราษฎรมาตลอดพระชนม์ชีพ และทรงเป็นผู้ริเริ่มงานด้านอาสาสมัครขึ้น โดยทรงจัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาขึ้นเรียกชื่อว่า "แพทย์อาสาสมเด็จพระบรมราชชนนี” ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล พนักงานอนามัยและอาสาสมัครสมทบทรงกำหนดไว้ว่าควรเป็นสถานที่ที่ไม่เสี่ยงภัยเกินไปจนถึงปลายปี พ.ศ.๒๕๑๒ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้สนับสนุนหน่วยแพทย์อาสา ทรงได้รับสดุดีว่า "ทรงเป็นพระราชชนนีพระองค์เดียวในโลกนี้เท่านั้นที่มีความห่วงใยในความเป็นอยู่ของพสกนิกรที่อาศัยอยู่ตามชนบท และได้เอาพระทัยใส่ทุ่มเทพระปรีชาสามารถพระราชทานความช่วยเหลืออย่างถึงที่สุด”

เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ องค์การเอกชนและอาสาสมัครจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ทั้งนี้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารได้กำหนดจัดกิจกรรม "วันสงคมสงเคราะห์และวันอาสาสมัครไทย”ในวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ ข้าราชการและอาสาสมัครเยี่ยมผู้ประสบปัญหาความเดือนร้อนยากจน และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคสิ่งของที่จำเป็นแก่ประชาชนผู้เดือนร้อนในพื้นที่อำเภอดงหลวง จำนวน ๘ ครอบครัว



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

เรือนจำจังหวัดมุกดาหารกำหนดจัดงานวันพบญาติแบบใกล้ชิดภายในเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร

นายทำนุ ประกิจสุวรรณ เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า เรือนจำจังหวัดมุกดาหารกำหนดให้มีการพบญาติใกล้ชิดภายในเรือนจำฯ ขึ้น ระหว่างวันที่ ๑๖–๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ มีกำหนด ๕ วันทำการ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี อยู่ในระเบียบวินัยของเรือนจำฯ ได้รับการเยี่ยมจากญาติโดยใกล้ชิดในลักษณะถึงตัวภายในเรือนจำฯ เป็นกรณีพิเศษ โดยญาติสามารถนำเอาอาหารเข้าไปรับประทานร่วมกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำฯได้ เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องขังกับญาติให้มากยิ่งขึ้น อันเป็นผลดีในการแก้ไขผู้กระทำผิดและให้สังคมได้มีส่วนร่วมเข้าใจในกิจกรรมและร่วมในการแก้ไขปัญหา ภารกิจของกรมราชทัณฑ์

ทั้งนี้ผู้ต้องขัง "ญาติผู้ต้องขัง” ได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย บิดา มารดา สามี ภรรยา บุตร ธิดา พี่และน้องของผู้ต้องขัง เท่านั้น โดยผู้ต้องขังต้องมีคุณสมบัติคือ เป็นผู้ต้องขังชั้นกลาง มีพฤติการณ์เป็นที่ไว้วางใจได้ ไม่เคยกระทำผิดหลักเกณฑ์ในการเยี่ยมญาติครั้งที่ผ่านมา จะได้รับการเยี่ยม ๑ครั้ง ตลอดงานวันพบญาติโดยมีเงื่อนไข ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาไม่เกิน ๑๐ปี กระทำความผิดครั้งแรกคดีเดียว ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย หรืออยู่ระหว่างพิจารณาโทษทางวินัย โดยผู้ต้องขังชั้นดี ชั้นดีมาก และชั้นเยี่ยม พฤติการณ์เป็นที่ไว้วางใจได้ไม่เคยกระทำผิดหลักเกณฑ์ในการเยี่ยมญาติครั้งที่ผ่านมา จะได้รับการเยี่ยมหนึ่งครั้ง ตลอดงานวันพบญาติ โดยเปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังได้ มีกำหนดวันละ ๒ รอบๆ ละ ๒ ชั่วโมง รอบเช้า เวลา ๐๙.๐๐ –๑๑.๐๐น.รอบบ่าย เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น.

เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ญาติผู้ต้องขังแจ้งความจำนงเข้าพบญาติโดยตรงได้ ฝ่ายทัณฑปฏิบัติที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร โดยให้จองล่วงหน้าก่อนวันพบญาติไม่น้อยกว่า ๑๐ วันทำการ (เว้นวันหยุดราชการ) โทรศัพท์ ๐๔๒-๖๖๐๕๔๔



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

เกษตรกรขอนแก่น เรียกร้องนายกรัฐมนตรีดูแลปัญหาหนี้สินของเกษตรกร

วันนี้ 22 ต.ค. 2556 ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ได้มีกลุ่มเกษตรกรจากทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดขอนแกน รวมกว่า 500 คน ได้มาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของกลุ่มเกษตรกร โดยให้รัฐบาลโอนหนี้และพักชำระหนี้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์เป็นเวลา 20 ปี พร้อมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้บังคับใช้ในขั้นต่ำสุด นายสวัสดิ์ ใจดี ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมีการนัดชุมนุมและตัดสินใจยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ผ่าน ผวจ.ขอนแก่น เพื่อให้เร่งรัดการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ที่เป็นหนี้แล้วถูกฟ้องจาก ธกส. และสถาบันการเงินต่างๆ โดยให้โอนเงินย้ายหนี้ดังกล่าวทั้งหมดไปเข้ากองทุนฟื้นฟูเกษตรกร ภายใต้โครงการ การโอนย้ายหนี้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ ธกส และโครงการส่งเสริมของรัฐมาพักไว้ที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งได้มีการระบุลงไปในเอกสารร้องเรียนทั้งหมด ระบุชัดเจนว่าการโอนย้ายหนี้เกษตรกรนั้น รัฐบาลจะต้องให้การช่วยเหลือเเก่เกษตรกรครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยให้โอนหนี้เข้ากองทุนฟื้นฟูทั้งหมด เกษตรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์และสมาชิกกองทุน ที่ถูกฟ้องร้องขอให้หยุดพักไว้ก่อน และรัฐบาลจะต้องหยุดพักการชำระหนี้ ของเกษตรกรเป็นเวลา 20 ปีพร้อมปรับดอกเบี้ยต่ำสุด ซึ่งข้อเรียกร้องดังกล่าวทั้งหมดนั้นหากรัฐบาลช่วยเหลือได้จริงก็จะส่งผลให้เกษตรก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ต้องถูฟ้องยึดที่พักอาศัย ที่ดินทำกินตามที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เพราะปัจจุบันมีเกษตรกรหลายรายที่ถูกฟ้องยึดทรัพย์ที่ทำกิน จึงอยากให้รัฐบาลดูแลประชาชนให้ทั่วถึงทุกภาคส่วนเป็นการสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ในด้านการพัฒนากองทุน และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ภาคการเกษตรให้ดีขึ้นด้วย”

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวของกลุ่มเกษตรกรจะรีบนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อหาทางแก้ปัญหาให้เกษตรกรในภาพรวม เนื่องจากในขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส แก่ประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อสร้างหลักประกันในชีวิตที่ดีให้คนไทยดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามที่ได้กำหนดนโยบายไว้อย่างชัดเจน

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมอบเงินสนับสนุนการแข่งขันจักรยานประเภทถนนและเสือภูเขาทางเรียบ ปั่นหาเสียงพิณเยือนถิ่นหมอแคน

นายภิญโญ ทองสิงห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนำคณะมามอบเงินสนับสนุนการแข่งขันจักรยานประเภทถนนและเสือภูเขาทางเรียบ รายการปั่นตามหาเสียงพิณเยือนถิ่นหมอแคน ครั้งที่ 5 (Tour de Pongneep2013) ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ที่ห้องปฏิบัติราชการศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งจังหวัดขอนแก่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเครือข่ายชมรมจักรยานจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนและเสือภูเขาทางเรียบ รายการปั่นตามหาเสียงพิณเยือนถิ่นหมอแคน ในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2556 เพื่อส่งเสริมด้านกีฬาจักรยานให้แพร่หลาย ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวรอบเขื่อนอุบลรัตน์ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และ เพื่อกระตุ้นให้คนหันมาปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกาย อันจะเป็นการส่งเสริมสุขภาพ และ พลานามัยให้สมบูรณ์แข็งแรง ลดการใช้พลังงานน้ำมัน รวมระยะทางที่ใช้แข่งขัน 180 กิโลเมตร ใช้เส้นทางปั่นรอบเขื่อนอุบลรัตน์ จุดเริ่มต้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ ไปที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง อำเภอบ้านฝาง ผ่านอำเภอหนองเรือ อำเภอภูเวียง อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น และผ่านไปที่ อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ผ่านอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ เข้าเส้นชัยที่เขื่อนอุบลรัตน์ รวมระยะทางแข่งขัน 180 กิโลเมตร

งานนี้ทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล จาก ฯพณฯ องคมนตรี พล.อ.อ.กำธน สินธุวานนท์ และประเภทบุคคลรับเงินรางวัลและถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น งานนี้มีรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันมากมายก็ขอเชิญนักปั่นจักรยานและผู้ชอบปั่นจักรยานไปร่วมปั่นจักรยานออกกำลังกายได้ สำหรับที่เขื่อนอุบลรัตน์บรรยากาศช่วงเช้าๆมีความสวยงาม อากาศเริ่มหนาวแล้วและตลอดเส้นทางแข่งขันเป็นเส้นทางที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียวผ่านสันเขื่อนอุบลรัตน์ ผ่านภูเขาผ่านอุทยานแห่งชาติถึง 2 แห่งผ่านทุ่งนา สายน้ำ ตลอดเส้นทางดูวิถีการดำเนินชีวิตในชนบทของคนภาคอีสานงานนี้รับรองว่าคุ้มมาก

ขอนแก่นจัดประกวดผ้าไหมชิงเงินรางวัล 168,000 บาท หาสุดยอดผ้าไหม โชว์และจำหน่ายในงานไหมนานาชาติ

ขอนแก่นจัดประกวดผ้าไหม 4 ประเภท ชิงเงินรางวัล 168,000 บาท หาสุดยอดผ้าไหม โชว์และจำหน่ายในงานไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด ระหว่าง 29 พ.ย.-10 ธ.ค. 56

นางเพ็ญสุภา ศิริสวัสดิ์ พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าตามที่จังหวัดขอนแก่น ได้กำหนดให้มีการจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2556 นั้น ในปีนี้เป็นปีแรกที่จังหวัดขอนแก่นจะยกระดับงานไหม ไปสู่ระดับนานาชาติ โดยเชิญ 6 ชาติ สมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย กัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม มาร่วมจัดงาน ในส่วนของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น นอกจากจะได้รับมอบหมายให้จัดงานเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมภายในงานตลอดทั้ง 12 วัน, การแสดงและจำหน่ายผ้าไหมจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว สำนักงานพัฒนาชุมชนยังได้จัดให้มีการจัดประกวดผ้าไหมประเภทต่างๆ ของจังหวัดขอนแก่น ชิงเงินรางวัลถึง 168,000 บาท เพื่อคัดสรรผ้าไหมที่สวยงามได้มาตรฐานมาจัดแสดงนิทรรศการและจำหน่ายให้ผู้สนใจ ชมและเลือกซื้อ ในงานเทศกาลไหมนานาชาติ ในปีนี้

พัฒนาการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า สำหรับผ้าไหมขอนแก่นที่จัดประกวดประกอบด้วย 4 ประเภท คือ ผ้าไหมมัดหมี่แบบ 3 ตะกรอ ชิงเงินรางวัล 47,000 บาท ผ้าไหมมัดหมี่ 2 ตะกรอ ชิงเงินรางวัล 37,000 บาท ผ้าไหมมัดหมี่ข้อ (หมี่ขั้น) ชิงเงินรางวัล 37,000 บาท และผ้าไหมลายสร้างสรรค์ ชิงเงินรางวัล 47,000 บาท โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจส่งผ้าไหมเข้าประกวดระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2556 และกำหนดจัดประกวดในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 และจัดทำพิธีมอบรางวัล ให้เจ้าของผ้าไหมที่ชนะการประกวดในคืนวันที่ 2 ธันวาคม 2556 ณ เวทีกลาง ภายในบริเวณงานเทศกาลไหมนานาชาติฯ ผู้สนใจส่งผ้าไหมเข้าประกวด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น หมายเลขโทรศัพท์ 043-246692, 043-146677




สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว
วิภาอนงค์ นศ.ฝึกงาน/พิมพ์/22 ต.ค. 56

เปิดแล้วอย่างยิ่งใหญ่ “มอหินขาวเกมส์”

พิธีเปิดเป็นไปอย่างคึกคักมีการแสดงต่างๆจากนักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชัยภูมิ ที่เป็นไฮไลของพิธีเปิด คือ เครื่องบินบังคับ ที่เรียกเสียงตบมือจากผู้ชมเป็นอย่างมาก มีกีฬาที่ชิงชัยกันทั้งหมด 12 ชนิดกีฬาได้แก่ – กรีฑา , วอลเลย์บอลในร่ม,วอลเลย์บอลชายหาด,ฟุตบอลชาย,เซปักตะกร้อ,ฟุตบอล,แบดมินตัน,เปตอง,หมากรุกไทย,หมากฮอสไทย,วิ่งมินิมาราธอน,และกีฬาสาธิต 1 ชนิด คือ ฟุตบอลหญิง

จัดการแข่งขันตั้งแต่ วันที่ 21 ถึง 30 ตุลาคม 2556 ที่สนามกีฬาสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชัยภูมิและสนามกีฬาต่างในตัวเมืองชัยภูมิ มีนักกีฬาทั้งหมด 19 จังหวัด 63 ทีม มีนักกีฬาและผู้ควบคุมทีมร่วมทั้งหมดแล้วกว่า 5,000 คน ทีมที่ชนะเลิศในแต่ละชนิดกีฬาจะได้เป็นตัวแทนภาคอีสานไปแข่งขันระดับประเทศ ที่ชลบุรี ชลเกมส์ ในวันที่ 19 ถึง 28 มกราคม 2557



ฤทธิชัย เพิ่มขุนทด/ข่าว
(นศ.วิทยาลัยพลศึกษาวิทยาเขตชัยภูมิ/ฝึกงาน)

กระทรวงแรงงานออกหน่วยช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดชัยภูมิ ออกหน่วยบริการประชาชน ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม หวังช่วยฟื้นฟูเครื่องมือการเกษตร พัฒนาคุณภาพชีวิต หลังได้รับผลกระทบ มานานนับเดือน

ที่องค์การบริหารส่วนตำบลส้มป่อย อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ วันนี้ (22 ต.ค.56) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดชัยภูมิ 5 หน่วยงาน ทั้งสำนักงานแรงงาน จัดหางาน ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ได้ ออกไปตั้งหน่วยให้บริการประชาชน ด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านตำบลส้มป่อย ได้รับความเดือดร้อนนานนับเดือน นาข้าวได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เพื่อช่วยเหลือ และให้กำลังใจ หน่วยงานต่างๆ จึงระดมเจ้าหน้าที่ไปบริการ รับแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ เกี่ยวกับปัญหาแรงงาน แนะนำขั้นตอนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ รับสมัครฝึกอาฃีพ บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตร รวมทั้งบริการอื่นๆ ในความรับผิดชอบของหน่วยงาน เป็นการให้บริการนอกพื้นที่โดยประชาชนไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง มีประชาชนเดินทางไปรับบริการจำนวนมาก



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ผู้ว่าโคราชลงพื้นที่แจกสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้ำท่วม ขณะที่ชลประทานเตือน ประชาชนในพื้นที่ 2 ฝั่งลำตะคองรับมือภาวะน้ำล้นตะลิ่งในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. นี้

วันนี้ (22 ต.ค. 56) เวลา 11.00 น.   ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เพื่อมอบข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มให้กับราษฎรในพื้นที่ตำบลท่าช้างที่ประสบอุทกภัย เป็นการบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น รวมทั้งยังได้นั่งเรือ เข้าสำรวจความเสียหายและแจกจ่ายสิ่งของให้กับประชาชน ล่าสุดสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติขณะนี้มีปริมาณน้ำสูงกว่า 1-15.0ม เนื่องจากน้ำในลำน้ำมูลไหลเออเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน ใน 18 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 963 หลังคาเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 4,800 ไร่ ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 103 กองทัพภาคที่ 2 ต้องนำรถทหารจำนวน 3 คัน และเรือท้องแบน จำนวน 6 ลำ คอยแจกจ่ายสิ่งของและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่

 ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครราชสีมาล่าสุด ในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมาขณะนี้ระดับน้ำท่วมค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่พื้นที่ที่ยังน่าเป็นห่วงคือ ริมสองฝั่งลำน้ำต่างๆตั้งแต่เขตอำเภอเมืองไปจนถึงพื้นที่อำเภอพิมาย โดยเฉพาะริมน้ำลำตะคองขณะนี้มวลน้ำฝนจากอิทธิพลพายุนารีที่ตกท้ายเขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว กำลังไหลผ่านเข้าพื้นที่ตัวเมืองนครราชสีมา สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้ประกาศเตือนให้บ้านเรือนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ที่อยู่ติดลำน้ำลำตะคอง ประกอบด้วย ชุมชนมิตรภาพซอย 4 ชุมชนตะคองเก่า ชุมชนบุมะค่า และ ชุมชนสำโรงจันทร์ พร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนในช่วง 1-2 วันนี้ นอกจากนี้พื้นที่ริมลำน้ำมูล อำเภอพิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายที่รับน้ำจากพื้นที่ต่างๆ ไหลไปรวมกัน ให้เตรียมพร้อมรับปริมาณน้ำในลำน้ำมูลเอ่อล้นตลิ่ง โดยสำนักชลประทานที่ 8 คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 22-23 ตุลาคมนี้ ปริมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองจะสูงขึ้นอีก ประมาณ 20-30 เซนติเมตร เนื่องจากมวลน้ำจากอำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน และ อำเภอขามทะเลสอ ที่ไหลลงลำตะคองกำลังไหลผ่านเข้าสู่ตัวเมืองนครราชสีมาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง 

แกนนำผู้ค้าสลากฯ 20 จังหวัดอีสาน บุกศาลากลางมหาสารคาม จี้รัฐแก้ปัญหาขายสลากฯ เกินราคา

แกนนำผู้พิการและผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลจาก 20 จังหวัดภาคอีสาน เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เพื่อใช้เป็นจุดศูนย์กลางในการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาการขายสลากฯเกินราคา

22-1-56   แกนนำผู้พิการและผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เดินทางมาจาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดจนเครือข่ายผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวนกว่า 300 คน ได้เดินทางมาชุมนุมกันที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เพื่อใช้เป็นจุดศูนย์กลางในการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ค้าสลากรายย่อย ที่ส่วนใหญ่เป็นคนพิการ เนื่องจากมีโควตาขายสลากให้แก่ผู้ค้ารายย่อยเพียง 20% ทำให้ต้องซื้อสลากฯจากนายทุนในราคา ฉบับละ 93-95 บาท ทั้งที่ราคาขายจริงฉบับละประมาณ 73 บาท โดยการชุมนุมในครั้งนี้ มี นายชัยวัฒน์ หวานคำ ประธานกลุ่มองค์กรแนวร่วมผู้ค้าสลากราคาควบคุม เป็นผู้แทนกลุ่มผู้ชุมนุมในการยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล

และในระหว่างการชุมนุม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้โทรศัพท์สายตรงมาเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม โดยขอให้รวบรวมเอกสารการลงทะเบียนเป็นผู้ค้ารายย่อยที่ความประสงค์จะเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้กับนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ด้านนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ก็ได้มาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อส. และแกนนำที่ร่วมกันชุมนุมด้วยความสงบ ทางจังหวัดจะได้มีการติดตามเรื่องดังกล่าวมาแจ้งให้กลุ่มผู้ค้าสลากฯได้รับทราบ ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกลับไปในเวลาประมาณ 17.30 น. .



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ที่อำเภอกันทรวิชัย

เหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ที่หอประชุมอำเภอกันทรวิชัย ได้ปริมาณโลหิต รวม 78,400 ซีซี

(22-10-56)ที่หอประชุมอำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม นางพูลทรัพย์ สิงห์ศักดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นำคณะกรรมการเหล่ากาชาด หน่วยแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลกันทรวิชัย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอกันทรวิชัย ออกรับบริจาคโลหิต ที่อำเภอกันทรวิชัย โดยมี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ร่วมกันไปบริจาคโหลิต รวม 196 คน ได้ปริมาณโลหิต รวม 78,400 ซีซี

ซึ่งการบริจาคโลหิต นับเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง การออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ยังเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้มีผู้บริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมทำความดีสร้างบุญกุศล ได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ในการให้ความช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย/ บาดเจ็บ ที่ต้องการโลหิตตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เทศบาลมหาสารคาม จัดตั้งศูนย์สุขภาพชุมชนพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

เทศบาลเมืองมหาสารคาม ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับโรงพยาบาลมหาสารคาม เดินหน้าจัดตั้งศูนย์บริการสุขภาพชุมชนเมืองที่บ้านส่องนางใย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้านสุขภาพอนามัย

ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองมหาสารคาม นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับนายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม ในการจัดตั้งศูนย์บริการสุขภาพชุมชนเมืองที่บ้านส่องนางใย เพื่อให้บริการทางด้านสาธารณสุขในระดับปฐมภูมิแก่ประชาชน ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม และลดปัญหาความแออัดของผู้ใช้บริการของโรงพยาบาลมหาสารคาม ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยมุ่งหมายให้ประชาชนในพื้นที่ทุกระดับ เข้าถึงบริการสุขภาพ อย่างทั่วถึง เป็นธรรม และได้มาตรฐาน ครอบคลุม 4 มิติ ทั้งการรักษาพยาบาล การควบคุมโรค การส่งเสริมสุขภาพ และการฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จและความก้าวหน้าของการพัฒนาเมืองด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยมีคณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล ผู้อำนวยการกองฝ่าย หัวหน้าส่วนการงาน คณะผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม และคณะแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลมหาสารคามร่วมพิธีและเป็นสักขีพยานด้วย

สำหรับศูนย์บริการสุขภาพชุมชนเมืองบ้านส่องนางใย ตั้งอยู่ที่ชุมชนส่องใต้ (ทางเข้าวัดบูรพารามส่องใต้) ซึ่งได้ปรับปรุงอาคารใหม่ให้สวยงาม ทันสมัย พร้อมรองรับเครื่องมือทางการแพทย์ และพร้อมให้บริการประชาชนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ด้านงานบริการได้ย้ายศูนย์บริการสุขภาพชุมชนเมืองอุทัยทิศ มารวมจัดตั้งในสถานพยาบาลแห่งใหม่ด้วย ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการแก่ประชาชนเร็วๆ นี้



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดงานวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2556

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับองค์กรทางการพยาบาลในจังหวัดมหาสารคาม จัดงานวันพยาบาลแห่งชาติ พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่พยาบาลต้นแบบประจำปี 2556 จากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 17 คน

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับองค์กรทางการพยาบาลในจังหวัดมหาสารคาม หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันจัดงานวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2556 ขึ้น ณ ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทร์ ชั้น 1 อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมี นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย กล่าวคำอาเศียรวาทราชสดุดี และนำข้าราชการมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และผู้แทนจากองค์กรการพยาบาลในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้มอบเกียรติบัตรแก่พยาบาลต้นแบบประจำปี 2556 ที่ได้รับการคัดเลือก จำนวน 17 คน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และนิทรรศการของผู้ที่ได้รับรางวัลพยาบาลต้นแบบในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นวันพยาบาลแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา สภาการพยาบาลในนามผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ทั่วประเทศ ถือเป็นสิริมงคลอันสูงยิ่ง และได้กำหนดให้องค์กรพยาบาลทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมกันจัดงานวันพยาบาลแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระเมตตาเสียสละที่พระองค์ท่านทรงมีต่อวิชาชีพการพยาบาลและพสกนิกรชาวไทย



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

อำเภอเมืองมหาสารคาม ประกาศแนวทางการรักษาความปลอดภัยกรณีการจุดประทัด ดอกไม้เพลิง โคมไฟ

นายสิทธิ พิพัฒน์ชัยกร นายอำเภอเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลออกพรรษาและต่อเนื่อง ไปถึงเทศกาลลอยกระทง มักมีการเล่นดอกไม้เพลิง ประทัด และโคมไฟลอยฟ้า ตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญจากเสียงดัง บางแห่งจุดดอกไม้เพลิงและประทัด ขว้างปาใส่ผู้ขับขี่รถสัญจรตามท้องถนน เป็นเหตุให้เกิดอุบัติ หรือบางครั้งผิดพลาดเป็นเหตุให้ผู้จุดประทัดได้รับบาดเจ็บหรือพิการได้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินดังกล่าว อำเภอเมืองมหาสารคาม จึงได้ออกประกาศแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยกรณีการจุดดอกไม้เพลิง ประทัดและโคมไฟ ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและถือปฏิบัติ โดย 1. กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทำ หรือนำเข้า หรือค้าดอกไม้เพลิง เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ทั้งนี้ผู้ได้รับอนุญาต จะต้องทำการค้าหรือจำหน่ายภายในเวลา 06.00-18.00 น. เท่านั้น โดยให้จำหน่ายได้เฉพาะในร้านที่ขออนุญาตเท่านั้น จะนำออกมามาจำหน่ายตามที่สาธารณะ หรือนอกอาคารที่ได้รับอนุญาตไม่ได้ หากฝ่าฝืน นำเข้ามาจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. กรณีจุดดอกไม้เพลิง ประทัด จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนรำคาญ จนเกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้อื่น จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 – มาตรา 224 อันมีโทษทั้งจำคุกและเสียค่าปรับ และ 3. การจำหน่ายและเล่นโคมไฟ ที่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ หากการกระทำเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินเสียหาย จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด อีกทั้งไม่ควรจุดประทัด ดอกไม้เพลิงในห้วงเวลากลางคืน ไม่ควรจุดในย่านชุมชน ที่พักอาศัยของประชาชน บนถนนสัญจรไปมา ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะสิ้นสุดเทศกาล หากพบการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม สถานีตำรวจภูธรดอนหว่าน สถานีตำรวจภูธรท่าตูม ตามเขตรับผิดชอบของแต่ละสถานี หรือที่ อำเภอเมืองมหาสารคาม เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

100 คำสอน สมเด็จพระสังฆราช

คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าจะต้องควบคุมจิตเจตนาของตนได้ด้วย

คำสอนที่ 47
คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าจะต้องควบคุมจิตเจตนาของตนได้ด้วย โดยตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในธรรม เช่น เมตตา สติ ปัญญา สัจจาธิษฐาน เป็นต้น อันเป็นส่วนจิต และศีล อันหมายถึงตั้งเจตนา เว้นการที่ควรเว้น ทำการที่ควรทำ ในขอบเขตอันควร

คำสอนที่ 48
ผู้ที่ทำกรรมดีอยู่มากเสมอๆ จึง ไม่ต้องกลัวกรรมชั่วในอดีตหากจะมีกุศลของตนก็จะชูช่วยให้มีความสุขความเจริญสืบต่อไป และถ้าได้แผ่เมตตาจิตอยู่เนืองๆ ก็จะระงับคู่เวรอดีตได้อีกด้วย ระงับได้ตลอดถึงปัจจุบัน

คำสอนที่ 49
ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อกรรมของตนเอง จะป้ายไปให้คนอื่นไม่ได้ คนทำดีจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตามก็เป็นคนดี เพราะกรรมของตน ใครจะรู้หรือชื่นชมหรือไม่ก็ตาม ตัวผู้ทำรู้สึกตัวเองว่าทำดี คนที่ทำไม่ดี เช่นประพฤติตนเกะกะระรานเป็นคนหัวขโมย ก็เป็นคนชั่วเพราะกรรมของตน ใครจะรู้หรือไม่ก็ตาม ตัวผู้ทำเองก็รู้สึกว่าตัวทำชั่ว อาจจะป้ายความผิดให้ผู้อื่นด้วยการหลอก