วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รับสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม

ด้วยสมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 10 เมษายน 2557 ซึ้งต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายในสี่สิบห้าวันนับตั้งแต่วันคบวาระตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ.2554

อาศัยอำนาจตามข้อ 36 ของระเบียบคระกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2554 แก่ไข้เพิ่มเติมถึง (ฉบับที่6) พ.ศ.2556 ประกอบมติคณะกรรมการสรรหาคระกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครพนม ครั้งที่ 8/2556 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 จึงประกาศรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ดังต่อไปนี้

รับสมัครระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น. สถานที่รับสมัคร ณ สำนักงานเทศบาลตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม

ผู้สนใจขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ณ สำนักงานเทศบาลตำบลนาหว้า หรือสำนักงานคระกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเดิม ) ชั้น 2 ถนนอภิบาลบัญชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม โทรศัพท์ 042-515790

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม ยกเลิกประกาศสอบราคาซื้อวัสดุอาหารดิบ

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เรื่อง สอบราคาซื้อวัสดุอาหารดิบ ( อาหารดิบเป็นรายสิ่งและเครื่องปรุง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 เนื่องจาก เพื่อให้การดำเนินการสอบราคาซื้อดังกล่าวมีผู้เสนอราคาได้หลายราย จึงต้องการยกเลิก ประกาศเดิม ข้อ 4. เป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้องต้นในการซื้อของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม จึงขอยกเลิกประกาศดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป โทร. 0-4258-7136

ขอเชิญร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม "สังคีตริมโขง" มหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปี 2557

ดร.สุวิทย์  เลาหศิริวงษ์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม  เปิดเผยว่า  มหาวิทยาลัยนครพนม ขอเชิญร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม "สังคีตริมโขง" มหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 18-21 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานกันเกรา (หน้าตลาดอินโดจีน) จ.นครพนม

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 : การแสดงจาก คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 : การแสดงจาก มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 : การแสดงจาก โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1 นครพนม

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 : การแสดงจาก โรงเรียนคำเตยอุปถัมภ์

กกต.นครพนม ประกาศผลเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ต.สามผง อ.ศรีสงคราม

กกต.นครพนมประกาศผลเลือกตั้งนายกเทศมนตรี  ต.สามผง  อ.ศรีสงคราม  จ.นครพนม  กรณียกฐานะเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์  2557  ผลการนับคะแนนนายกเทศมนตรี ต.สามผง  ได้แก่  นายสมบัติ  นะคะจัด ผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ต.สามผงเขตเลือกตั้งที่ 1 ได้แก่  นายหาญ  นะคะจัด  , นายนิติธรรม  นนท์จันทร์  , นายเข็มพร  แก้วบ่อ  ,  นายปราณี  นนจันทร์  , นายธีระบุตร  ผงชานัน  , นายกฤษณา  เขาทอง  เขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่ นายศัจกร  ติยะบุตร  นายบุญส่ง  อินทรักษ์  นายพงษ์  ลาดบาศรี  นายประสิทธิ์ โงนศรีษะ  นายหมั่น  ชาดีกรณ์  นางหอมหวน  ศรีสกุลธนไชย  จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกัน

อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เตรียมจัดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม ” ประจำปี 2557 วันที่ 20-23 กุมภาพันธ์นี้

จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับอำเภอเขวาสินรินทร์ กำหนดจัดงานเทศกาล "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเขวาสินรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรม เพื่อเสริมช่องทางการตลาด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบถึงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ขบวนแห่ของดี 5 ตำบล การเดินแบบผ้าไหม การประกวดธิดาปะเกือม การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การประกวดแอโรบิค การแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้า OTOP การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินที่มีชื่อเสียง โดยประชาชนอำเภอเขวาสินรินทร์จะพร้อมใจใส่ชุดผ้าไหม ใส่ปะเกือม เพื่อไปชมการแสดงกันตรึมกันทั้งอำเภอ จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและพี่น้องชาวสุรินทร์ ร่วมงานดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

จังหวัดสุรินทร์ ออกโครงการสุรินทร์สร้างสุขสร้างรอยยิ้ม และมอบบ้านธารน้ำใจที่อำเภอท่าตูม

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้มประจำปี 2557 เพื่อนำหน่วยบริการเคลื่อนที่ของส่วนราชการต่างๆ ไปให้บริการประชาชนเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกล เพื่อพบปะเยี่ยมเยือนรับทราบปัญหาต่างๆ จากประชาชนในท้องถิ่น และดำเนินการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์กล่าวอีกว่า ในเดือนกุมภาพันธ์จังหวัดสุรินทร์ กำหนดออกหน่วยบริการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้ม ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ที่องค์การบิหารส่วนตำบลบะ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ จะมอบบ้านธารน้ำใจสร้างสุขสร้างรอยยิ้มให้แก่นางนิภาพร จำปาทอง บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 15 ตำบลบะ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ด้วย

นอกจากนั้น ยังจัดให้บริการด้านต่างๆ แก่ประชาชนที่มาร่วมงานมอบเงินสร้างและซ่อมแซมบ้านจากบัญชีบ้านธารน้ำใจสร้างสุข สร้างรอยยิ้ม มอบให้นายอำเภอท่าตูมเพื่อให้กับราษฎรยากจนไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองจำนวน 10,000 บาท มอบรถจักรยานให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนโดยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ มอบเครื่องอุปโภค – บริโภค และถุงยังชีพให้คนยากจนจำนวน 100 ชุด จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ มอบทุนการศึกษาจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 4 ทุนๆ ละ 1,000 บาท ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจน มอบทุนการศึกษาจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 10 ทุนๆ ละ 1,000 บาท ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจน มอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้แทนชุมชน โดยสำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ มารับบริการได้ในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

จ.สุรินทร์ ขอให้ประชาชนป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในช่วงนี้

 นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน พื้นที่เกือบทุกภาคของประเทศไทยมักประสบปัญหาไฟป่า โดยที่ไฟป่ายังเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตมลพิษหมอกควันส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งตามยุทธศาสตร์/มาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี 2557 ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและหมอกควัน จำนวน 65 จังหวัด โดยจังหวัดสุรินทร์เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าระดับปานกลาง ทั้งนี้ จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจและแก้ไปปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดสุรินทร์ขึ้นตั้งอยู่ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์กิโลเมตรที่ 9 ถนนสุรินทร์-ปราสาทตำบลเฉนียงอำเภอเมืองจังหวัดสุรินทร์โทรศัพท์ /โทรสาร 0-4414-3057-9 และโทรศัพท์สายด่วนนิรภัย 1784 หากพื้นที่ใดประสบเหตุดังกล่าวขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และสายด่วนนิรภัย 1784 โดยด่วน

จ.สุรินทร์ มีราษฎรประสบภัยหนาวกว่า 2 แสนคน ได้เร่งแจกจ่ายครบทุกพื้นที่แล้ว

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้เริ่มมีอากาศหนาวเย็น โดยมีอากาศหนาวสลับอากาศอุ่นและร้อน ซึ่งคาดว่าจะมีลักษณะเช่นนี้ไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 โดยในขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยหนาว ครอบคลุม 17 อำเภอ 158 ตำบล 2,120 ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สังขะ ศรีณรงค์ จอมพระ เขวาสินรินทร์ ศีขรภูมิ ท่าตูม รัตนบุรี สำโรงทาบ ลำดวน บัวเชด กาบเชิง สนม ปราสาท โนนนารายณ์ ชุมพลบุรี และอำเภอพนมดงรัก โดยมีราษฎรประสบภัยหนาวกว่า 2 แสนคน ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ยังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว โดยได้มอบเครื่องกันหนาว การขอรับการสนับสนุนเครื่องกันหนาว ผ้าห่ม เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภค-บริโภคตามความจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังอัคคีภัยจากสภาพอากาศแห้งแล้ง และอุบัติเหตุจากการเดินทาง เนื่องจากหลายพื้นที่มักมีหมอกเกิดขึ้น การดูแลรักษาสุขภาพโดยเฉพาะคนชรา คนพิการ เด็ก สตรีมีครรภ์ ซึ่งอาจเจ็บป่วยจากอากาศหนาวเย็นด้วย

ตลาดนัดสีเขียว ตลาดนัดพอเพียงทุกวันเสาร์ของชาวสุรินทร์

 นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการตลาดนัดสีเขียว เป็นโครงการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเช้าวันเสาร์ ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการต้องมีเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง อาทิ สินค้า OTOP ของชาวสุรินทร์ ทั้งผ้าไหม เครื่องเงิน เครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายในตลาดจะต้องเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดจากสารพิษ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ เป็นช่องทางการสื่อสารที่ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหา และเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ กระชับความสัมพันธ์ของผู้บริโภคในชุมชนเมืองกับคนท้องถิ่น ที่เป็นเกษตรกรให้เกิดความเข้าใจตรงกัน นโยบายด้านสุขภาพที่ทางจังหวัดสุรินทร์ ดำเนินอยู่ในขณะนี้คือ รักษาวิถีการปลูกข้าวหอมมะลิแบบปลอดสารพิษ จัดระเบียบให้ตลาดสด สะอาดตรงตามมาตรฐานที่วางไว้ ขณะที่ตลาดนัดสีเขียวจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เหมือนเป็นการรณรงค์ทางอ้อม เพื่อให้ทุกคนรู้จักหลักคิดและเห็นตัวอย่างที่ดี เมื่อชาวบ้านหันมายึดหลักเกษตรอินทรีย์สิ่งที่ตามมาคือ การกินอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่อสิ่งแวดล้อมเกิดความสมดุล คนมีความสุข สังคมก็จะดี ทั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ยังคงนิยมจับจ่าย ซื้อหาสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภค ในตลาดสีเขียวเป็นประจำทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 06.00 น. – 14.00 น. นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาร่วมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยาว์กับผู้ผลิตโดยตรงอีกด้วย

จังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนร่วมบริจาคเงินสร้างบ้านธารน้ำใจให้ผู้ยากไร้จากทุกอำเภอ

 นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ตามโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างรอยยิ้ม จังหวัดสุรินทร์ ประจำปีงบประมาณ 2556 เดือนละ 1 หลัง ในแต่ละอำเภอ โดยมีการทำประชาคมหมู่บ้าน คัดเลือกผู้ที่ยากจน ผู้สูงอายุ ผู้ที่เจ็บป่วย ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือมีแต่บ้านหลังเล็ก เป็นกระต๊อบไม่สามารถคุ้มแดดคุ้มฝนได้ จังหวัดสุรินทร์ จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ตามโครงการดังกล่าวได้ตลอดเวลา และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคได้ 2 ช่องทาง คือโอนเงินเข้าชื่อบัญชี " โครงการบ้านธารน้ำใจสร้างสุข สร้างรอยยิ้มจังหวัดสุรินทร์” หมายเลขบัญชี 310-0-47227-6 ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรินทร์ แล้วกรุณาแจ้งให้จังหวัดทราบด้วยทางโทรสาร 044-515472 และบริจาคโดยตรงได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ (กลุ่มงานปกครอง) ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โทร 044-515472 ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์จะดำเนินการมอบเกียรติบัตรให้ผู้บริจาคในโอกาสต่อไป

สรรพสามิตพื้นที่สุรินทร์ รับสมัครคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 1 อัตรา

ด้วยกรมสรรพสามิต โดยสำนักงานสรรพาสมิตพื้นที่สุรินทร์ มีความประสงค์จะรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 1 อัตรา ตำแหน่งนักวิชาการสรรพสามิต อัตราค่าจ้าง 15,000 บาท คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ ในสาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ด้านบริการและการจัดการ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สถิติ คณิตศาสตร์ ผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับการคัดเลือก ยื่นใบสมัครด้วยตนเองเท่านั้น ได้ที่ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สุรินทร์ เลขที่ 259 หมู่ที่ 11 ถนนสุรินทร์-ลำชี ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 18-26 กุมภาพันธ์ 2557 ในวันและเวลาราชการ

จ.สุรินทร์ จัดประชุมเตรียมความพร้อมในการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดประชุมเตรียมความพร้อมในการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10.00 น. ณ ห้อประชุมจอมสุรินทร์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อจังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน ตามวันและเวลาดังกล่าว

จังหวัดสุรินทร์ จัดประชุมการเปิดใช้สนามบินสุรินทร์ภักดี

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กรมการบินพลเรือนได้กำหนดจะนำผู้แทนสายการบินที่สนใจจะทำการบินมาดูด้านกายภาพของสนามบินสุรินทร์ภักดี และร่วมประชุมปรึกษาหารือกับบุคคล ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในด้านการช่วยเหลือจัดหาผู้โดยสาร และการจำหน่ายตั๋ว ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมจอมสุรินทร์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน

การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ แจ้งขยายเวลาการใช้หนังสือรับรองเกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 1 ได้กำหนดระยะเวลาการใช้หนังสือรับรองเกษตรกรกรณีการจำนำใบประทวนสินค้าก่อนหรือหลัง 30 วันนับจากวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวที่ระบุในหนังสือรับรอง และคณะอนุกรรมการกำกับดูแลรับจำนำข้าว ได้ผ่อนผันให้ขยายระยะเวลาการใช้หนังสือรับรองเกษตรกรออกไปเป็น 60 วัน ดังหนังสือที่อ้างถึง ส่วนการจำนำข้าวในยุ้งฉางเกษตรกรกำหนดการใช้ไว้ก่อนหรือหลัง 60 วัน วันนับจากวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวที่ระบุในหนังสือรับรอง คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าวได้มีมติผ่อนผันให้เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ ที่ยังไม่ได้จำนำข้าวเปลือกในยุ้งฉางให้สามารถใช้หนังสือรับรองเกษตรกรเข้าร่วมโครางการรำจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 กรณีจำนำยุ้งฉางจาก 60 วันเป็น 90 วัน แต่ไม่เกินวันสิ้นสุดระยะเวลาการรับจำนำข้าวเปลือกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557

คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเพื่อเข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา สาขาการเมืองและการจัดการปกครอง (ภาคนอกเวลาราชการ) รุ่นที่ 3 ภาคต้น ประจำปีการศึกษา 2557 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2218 7204และ 087 932 2262 โทรสาร 0 2218 7200

สสจ.สุรินทร์ เตือนระวังโรคพิษสุนัขบ้า เป็นแล้วเสียชีวิตทุกราย

นายแพทย์สอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่าโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่มักมีการระบาดในช่วงหน้าร้อนแต่ปัจจุบันสามารถเป็นได้ตลอดและยังไม่มียารักษา ผู้ป่วยต้องเสียชีวิตทุกราย ฉะนั้นการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ประชาชนนำสัตว์เลี้ยง เช่นสุนัข แมว ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าปีละครั้ง สอนลูกหลานไม่ให้เล่นคลุกคลีกับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือไม่ทราบประวัติการฉีดวัคซีน เมื่อถูกสุนัข แมว หรือสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม อื่นๆ กัด ต้องรีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง แล้วรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อรับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สำหรับวิธีสังเกตสุนัขหรือแมวที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ในระยะแรกสัตว์จะมีนิสัยผิดไปจากเดิม ต่อมาจะมีลักษณะตื่นเต้น ตกใจง่าย กระวนกระวาย กินของแปลกๆ เช่น เศษไม้ หิน กัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า กินอาหารได้น้อยลง หลังแข็ง หางตก ลิ้นห้อย น้ำลายไหลซึม กลืนอาหารไม่ได้ ขาสั่น เดินไม่มั่นคง และจะเสียชีวิตภายใน 10 วัน นับตั้งแต่เริ่มแสดงอาการ เมื่อพบเห็นสัตว์ที่มีอาการดังกล่าว ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือเทศบาลทราบโดยด่วน เพื่อดำเนินการกำจัดต่อไป

โสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญเยี่ยมชมกิจกรรมความสามารถนักเรียนหูหนวกและร่วมเลี้ยงอาหารนักเรียน

 นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่าโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นโรงเรียนที่สอนนักเรียนที่บกพร่องทางการได้ยิน (หูหนวก) เปิดสอนระดับอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนปลาย ประเภทอยู่ประจำชาย หญิง ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาจากจังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร สุรินทร์ โดยทางโรงเรียนได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน รวมทั้งนักเรียนชั้นมัธยมตอนปลายทุกคน ได้ฝึกวิชาชีพสาขาต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งนี้ เมื่อจบการศึกษาไปแล้วจะได้นำวิชาชีพดังกล่าวไปประกอบอาชีพ เลี้ยงตัวเองและครอบครัวต่อไป สำหรับในปีการศึกษา 2556 - 2557 โรงเรียนได้เน้นให้คณะครู นักเรียนทุกคนตระหนักในสภาพแวดล้อม ปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทรงคุณค่า เป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น

ทั้งนี้ โรงเรียนจึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวน พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมกิจกรรม และให้กำลังใจ ร่วมสร้างโอกาสให้คนหูหนวก ด้วยการจัดกิจกรรม เช่น กีฬา เกม วาดภาพ รวมทั้งจัดเลี้ยงอาหารเช้า กลางวัน หรือเย็น มื้อใดมื้อหนึ่ง ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงอาหารไม่กำหนดค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับความพร้อมแต่ละท่านเพื่อจะได้มีส่วนร่วม ได้เห็นรอยยิ้มที่ได้สร้างโอกาสให้นักเรียนหูหนวกของโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-4404-2551 เว็บไซค์ www.deafsurin.com

จังหวัดสุรินทร์ แนะใช้ตะไคร้หอม ภูมิปัญญาไทย ไล่ยุง ป้องกันโรคไข้เลือดออก

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5นครราชสีมา (สคร.5 ) ว่าภูมิปัญญาไทยหรือสมุนไพรพื้นบ้านเป็นสิ่งที่มีคุณค่า หากสามารถนำมาใช้ป้องกัน หรือรักษาโรคจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนมากมาย โดยในช่วงฤดูฝนสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการไล่ยุง ได้แก่ ตะไคร้หอม ซึ่งเป็นพืชล้มลุก มีกลิ่นหอมตรงรอยต่อระหว่างใบกับกาบ ตะไคร้หอมมีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายกับตะไคร้กอ ต่างกัน ที่กลิ่น ต้นและใบยาวกว่าตะไคร้กอมาก แผ่นใบกว้างยาวและนิ่มกว่า เล็กน้อย ดอก ช่อ สีน้ำตาลแดง แทงออกจากกลางต้น ออกดอกยาก ผลเป็นผลแห้ง ไม่แตกเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณไล่ยุงและแมลง ไม่เป็นพิษต่อคน การใช้ตะไคร้หอมเพื่อไล่ยุงและแมลง สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันตะไคร้หอมปรุงกับน้ำหอมทาตัวป้องกันยุงกัด ใส่กระบอกสูบผสมกับน้ำมันอื่นฉีดไล่ยุง หรือ นำตะไคร้หอมทั้งต้น ประมาณ 4-5 ต้น มาทุบๆ วางทิ้งไว้ในห้องมืดๆ กลิ่นน้ำมันที่ระเหยออกมาจะช่วยไล่ยุงและแมลง ไม่ให้มารบกวน หรือนำถุงใส่ตะไคร้หอมวางบริเวณที่อับ เช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ จะไล่ยุงไม่ให้มารบกวนได้ ทั้งนี้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้ทดลองประสิทธิภาพป้องกันยุงกัดของครีมตะไคร้หอม 14 % พบว่า มีผลป้องกันยุงกัดได้นาน 2 ชม. ซึ่งใกล้เคียงกับครีมจากสารสังเคราะห์ ดังนั้น ตะไคร้หอม จึงเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ ควรปลูกไว้ทุกบ้านเพื่อป้องกันยุงและไล่แมลง เช่นเดียวกับที่ควรมียาสามัญประจำบ้าน เพราะสามารถหาได้ง่าย ราคาไม่แพง เป็นการส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาไทยเพื่อป้องกันและควบคุมโรคได้อีกด้วย

มูลนิธิพัฒนาข้าราชการ จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “ผู้นำยุคใหม่”

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากมูลนิธิพัฒนาข้าราชการ ร่วมกับสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา ว่า จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร "ผู้นำยุคใหม่” ให้แก่ข้าราชการพลเรือนระดับ ชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ ระดับชำนาญงาน-ระดับอาวุโส ข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรขึ้นไป ข้าราชการท้องถิ่นและพนักงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 150 คน ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2557 ณ ศูนย์ปฏิบัติการโรงแรมมหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ผู้สนใจสามารถสมัครเข้ารับการอบรมได้ที่มูลนิธิพัฒนาข้าราชการ ภายในวันที่ 18 เมษายน 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 4471 393

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมรับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมรับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ติดตามผลการดำเนินการโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ 24 กุมภาพันธ์ นี้ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการดำเนินโครงการ รณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะเสด็จฯ มาเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ TO BE NUMBER ONE และเปิดศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE (TO BE NUMBER ONE FRIEND CORNER) พร้อมติดตามและเยี่ยมชมผลการดำเนินการโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นี้ ที่โรงเรียนสุรวิทยาคาร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการรับเสด็จในด้านต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั้งด้านสถานที่ เส้นทางเสด็จฯ การถวายความปลอดภัย รวมทั้งจุดการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างสมพระเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ผลการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านมา สามารถสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ผลเป็นอย่างดี โดยมีชมรม TO BE NUMBER ONE ต่างๆ ทั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานประกอบการ และชมรม TO BE NUMBER ONE ในชุมชน ได้รับรางวัลการประกวดในระดับประเทศมาแล้ว


กิติวรรณ มณีล้ำ / รายงาน

จ.สุรินทร์ จัดงาน "มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557” มุ่งประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เกษตรอินทรีย์

จังหวัดสุรินทร์ จัดงาน "มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557” มุ่งประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เกษตรอินทรีย์ โดยมีผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรอินทรีย์จากทั่วประเทศ มาจัดแสดงและจำหน่าย ระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ นี้ นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดวิสัยทัศน์ "เมืองเกษตรอินทรีย์ วิถีช้างไทย ผ้าไหมสุรินทร์ สู่สากล” โดยมุ่งส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรอินทรีย์ให้มีคุณภาพมาตรฐาน จึงได้กำหนดจัดงาน "มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2557” ระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ 2557 ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการตลาดและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์จากทั่วประเทศ การแสดงนิทรรศการการเกษตรอินทรีย์ การเสวนา สัมมนาวิชาการ "เกษตรอินทรีย์ เมื่อเข้าสู่อาเซียน” การจัดทัวร์เกษตรอินทรีย์ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งนี้ กำหนดจัดพิธีเปิดงานในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.30 น. ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมงานโดยทั่วกัน


กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

อบจ.สุรินทร์ ระดมทุกภาคส่วนจัดเวทีประชาคม จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

อธิบดีกรมการบินพลเรือน พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และบริษัทเอกชน เข้าร่วมหารือ เพื่อย้ำถึงความพร้อม และการรันตีถึงความเตรียมพร้อมทุกอย่าง ก่อนที่จะเปิดทำการบิน คาดว่าเดือนมีนาคม นี้ แน่นอน

วันนี้ (17 ก.พ.57) ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน พร้อมด้วยนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทการบินหลายบริษัท เข้าร่วมประชุมเพื่อย้ำถึงความมั่นใจ ในการเตรียมความพร้อมในหลายๆด้าน อาทิ ความคุ้มทุน ความปลอดภัยในการบินและการให้บริการ ก่อนจะทำการบินในเร็ววันนี้

นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวภายหลังจากเลิกประชุม แล้วว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายไม่ว่าทางจังหวัด ทาง อบจ. และการท่าอากาศยาน จังหวัดสุรินทร์ ได้ย้ำถึงการเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว ขณะเดียวกันทางด้านผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่างแล้วเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ที่มีการเตรียมความพร้อมนั้นเพื่อ ผู้ให้บริการการบิน จะต้องมีความมั่นใจในด้านการลงทุนด้วย ในส่วนผู้โดยสารนั้น ทุกวันนี้ต้องไปขึ้นลงที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต้องใช้ระยะทาง 60-70 กิโลเมตร หากได้มาลงยังสนามบินจังหวัดสุรินทร์ จะดีมากไม่ต้องเสียเวลา และสนามบินอยู่ในกลางเมืองด้วย ทุกวันนี้พยายามเร่งเต็มที่ รอเครื่องบินมาลงอย่างเดียว และคาดว่าเดือนมีนาคม 2557 นี้ เครื่องบิน 20 ที่นั่งจะบิน มาก่อน จากนั้นจะใช้เครื่องบิน 40 - 50 ที่นั่ง หรือในช่วงแรกอาจจะให้เช่าเหมาลำ ก่อนในช่วงเร่งรัดนี้ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางการท่าอากาศยาน สุรินทร์ ได้ทำการตัดกิ่งไม้ ต้นไม้ ตามเส้นทางการบิน พร้อมได้ตีเส้นจราจรการบิน และทาง อบจ.ได้ส่งบุคลากรไปฝึกอบรมในด้านความปลอดภัย จากสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ไว้เรียบร้อย อีกด้วย


อุทัย  มานาดี / รายงาน

อ.เขวาสินรินทร์ จัดงาน “นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม”

อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ จัดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” เริ่ม 20-23 กุมภาพันธ์ 2557นี้ ชมการประกวดธิดาปะเกือม เดินแบบผ้าไหม และกิจกรรมมากมาย

นายรังสฤษดิ์ จิตรดี นายอำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงการ จัดงานเทศกาล "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม”ในระหว่าง วันที่20-23 กุมภาพันธ์ 2557นี้ ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเขวาสินรินทร- ชมขบวนแห่วัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ในขบวนวัฒนธรรมแห่งภูมิปัญญา ร่วมชมและเชียร์เป็นแรงใจกับสาวงามในเวทีก­ารประกวด ธิดาปะเกือม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวเขวาสินรินทร์ ในชุดผ้าไหม ประดับตกแต่งด้วยเครื่องเงินที่สวยงาม ตื่นตาตื่นใจกับลายผ้าไหมที่สวยงามของแต่ล­ะชนิดกับผู้แสดงแบบผ้าไหมกิตติมศักดิ์ พร้อมชมนิทรรศการออกร้านจากภาคส่วนต่างๆ และเลือกซื้อสินค้า โอทอปคุณภาพจากผู้ผลิตโดยตรงได้ตลอดทั้งงา­น ชมการประกวด miss ปะเกือม 2014 เวทีแห่ง สีสันความสามารถของสาวประเภท 2 จากทั่วสารทิศ ด้วยนาฏลีลาเต็มอารมณ์ อย่างสะดุดตา ที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้ยังมีการประกวดส้มตำลีลา ,ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง,แข่งขันกีฬาเซปัคต­ะกร้อ,แข่งขันแอโรบิก ,และ สัมผัสความใกล้ชิด กับวิถีคนกับช้าง...ชมความน่ารัก กับการแสดงของช้างแสนรู้ จากแคมป์ช้างชุมชนเขวาสินรินทร์ ที่เปิดโอกาสให้ท่านได้เที่ยวและนั่งช้างชมบรรยากาศบ้านทุ่ง กลางคืนชม ศิลปพื้นบ้านอีสานใต้ กันตรึมชื่อดัง คอนเสริ์ตเพื่อชีว­ิตแบบเต็มวง หงา คาราวาน

นายรังสฤษดิ์ จิตรดี นายอำเภอเขวาสินรินทร์ กล่าวเสริมอีกว่า ที่มาของอำเภอเขวาสินรินทร์ เขวานั้นอ่านว่า"ขะ-หวาว”เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีลำต้นสูงใหญ่ แข็งแรง นิยมเอามาทำเป็นสิ่งมงคล ในแถบนี้มีต้นเขวาเยอะ ส่วนคำวา "สินรินทร์”เป็นชื่อของกำนันคนแรกจึงได้นำเอาทั้ง 2 มารวมกัน เป็นชื่อ "เขวาสินรินทร์” ด้วยระยะทางห่างจากตัวอำเภอเพียง 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 214 ไปทิศเหนือ จะมีป้ายบอกชื่ออำเภอเขวาสินทร์ตลอดเส้นทาง ในส่วนประวัติศาสตร์ของกลุ่มชาติพันธุ์ มีเรื่องราวของชุมชนโบราณบ้านพระปึด วัดโพธิ์รินทร์วิเวก มีการขุดค้นพบกระดูกมนุษย์โบราณ หม้อ ไห พระพุทธรูป รวมทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ ปราสาทโบราณ ดินแดนแห่งนี้สมัยขอมเรืองอำนาจยังมีเรื่องของปราสาทแก้ว ปราสาททอง ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ที่แผ่ขยายมาบริเวณนี้ ยังมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ จาการขุดพบวัตถุโบราณของชาวบ้าน พบเทวรูปในสมัยต่างๆ ที่สามารถสืบย้อนเรื่องราวถึง 2,500 ปี รวมทั้งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ตำนวนหลวงพ่อพระปืด แห่งปราสาทแก้วในชุมชนโบราณบ้านพระปืด อีกด้วย


อุทัย  มานาดี / รายงาน

สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 อุบลราชธานี จัดกิจกรรม แบ่งปันพี่กับน้อง เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนพิการ

สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 อุบลราชธานี จัดกิจกรรม แบ่งปันพี่กับน้อง เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนพิการ ณ สถานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันนี้ ( 17 ก.พ.57 ) ที่สถานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 อุบลราชธานี จัดกิจกรรม แบ่งปันพี่กับน้อง โดยนำขนม ของเล่น เสื้อผ้า มอบให้กับคนพิการที่เข้ารับการสงเคราะห์และดูแล

นายดุสิต สิงห์คีรี ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 อุบลราชธานี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้พิการ และให้ข้าราชการเจ้าหน้าที่ สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 ได้มีส่วนร่วมในการทำงานเพื่อสังคม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับ โครงการ ตลาดนัดอิ่มบุญ อิ่มรัก ซึ่งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินการอยู่แล้ว
สถานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ทำหน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดูคนพิการและทุพพลภาพทั้งชายและหญิง ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีที่พักอาศัยขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู หรือไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้ คนพิการจะได้รับการดูแลด้านปัจจัยสี่ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การอาชีวบำบัด และเตรียมความพร้อมทางด้านสังคม อารมณ์จิตใจ ก่อนออกสู่สังคม ปัจจุบันมีคนพิการเข้ารับการสงเคราะห์และดูแล จำนวน 110 คน

ล่าสุด คนพิการจากสถานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี ได้คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาคนพิการ ศรีสุพรรณบุรีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 10 – 14 กุมภาพันธ์ 2557 จำนวน 5 เหรียญ ได้แก่ นายปุย ขลุ่ยเงิน เหรียญทอง วิ่ง 200 เมตร และเหรียญเงิน วิ่ง 100 เมตร , นายสมเจตน์ กาสินธ์ เหรียญเงิน แบดมินตัน , นายไพศาล สุนทรธรรม เหรียญเงิน พุ่งแหลน , นายสุรพล แก่นทน เหรียญทองแดง เทเบิลเทนนิส , นางสาวอัมพร หล้าพุฒ และนางสาวบังอร แสงอรุณ เหรียญทองแดง เปตองหญิงคู่


กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ แจ้งรายละเอียดในการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม

นางสาวพันธุดา สุขกุล พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่แทน ยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีภารกิจในการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทน ค่าใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา พ.ศ.2544 โดยพิจารณาจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ตามหลักเกณฑ์ดังนี้ ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมถูกยิง ถูกแทง ถูกฆ่า ถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกข่มขืน และตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำผิด ต้องยื่นคำขอภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้ถึงการกระทำความผิดโดยสามารถไปยื่นคำขอรับค่าตอบแทนได้ที่ กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ชั้น 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์หมายเลข 089-9673403 หรือ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ โทร. 1111 กด 77



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

กกต.จังหวัดอุบลราชธานี เปิดรับลงทะเบียนเลือกตั้ง ส.ว.ล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ระหว่างวันที่ 17 – 28 กุมภาพันธ์ 2557

นายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ด้วยวาระของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ซึ่งจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เป็นการทั่วไปภายใน 30 วัน นับแต่วันที่วาระของสมาชิกวุฒิสภาสิ้นสุดลง
สำนักงาน กกต.จังหวัดอุบลราชธานี ขอเชิญผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง ที่มีความประสงค์ขอใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว.ล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ไปติดต่อลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว.ล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ระหว่างวันที่ 17 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ในวันเวลาราชการ ณ สำนักงานนายทะเบียนอำเภอ หรือ สำนักงานนายทะเบียนท้องถิ่น

สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ลงทะเบียนของใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดในคราวการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรปี 2554 และเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่ต้องไปยื่นคำขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าอีก เพราะบุคคลดังกล่าว จะมีชื่ออยู่ในทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด จนกว่าจะมีการลงทะเบียนขอเปลี่ยนแปลง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน กกต.จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข 045 – 355366-7


กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

อธิบดีกรมอาเซียน พบสื่อมวลชนอุบลราชธานี

อุบลราชธานี : อธิบดีกรมอาเซียนพบสื่อมวลชนจังหวัดอุบลราชธานี โดยหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับแนวทางประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นความสนใจในการเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนในสถานศึกษา

บ่ายวันนี้ ( 17 ก.พ.57) นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะ จัดกิจกรรมอาเซียนสัญจรที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยพบสื่อมวลชนด้านวิทยุกระจายเสียง,เคเบิลทีวีและหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ที่ห้องนิทรรศการชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอธิบดีกรมอาเซียน ได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและเหมาะสมเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ทั้งโอกาสของประเทศไทยในด้านการค้า,แรงงาน,การท่องเที่ยว,การดำเนินธุรกิจ ตลอดทั้งการเตรียมพร้อมด้านการศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนในสถานศึกษาของ ซึ่งกรมอาเซียน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการกระตุ้นให้เกิดความสนใจประเทศในกลุ่มอาเซียน การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ความรู้ในเสาหลัก 4 ด้าน ของประชาคมอาเซียนรวมทั้งการตื่นตัวเพื่อรับรู้และแสวงหาข้อมูลข่าวสาร เตรียมการด้านการศึกษาเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อีกทั้งรับทราบปัญหาและความต้องการของสื่อมวลชนในพื้นที่ เพื่อนำเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินนโยบายและการประชาสัมพันธ์ของกรมอาเวียน ต่อไป

ส่วนในวันที่ 18 ก.พ.57 กรมอาเซียน กำหนดจัดเสวนาในหัวข้อเรื่อง การเชื่อมโยงจังหวัดชายแดนสู่ประชาคมอาเซียน 2558 ให้แก่บุคลากรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป จำนวน 150 คน ที่โรงแรมยูเพลส มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในวันที่ 18 ก.พ.57 เพื่อเสริมความรู้และความเข้าใจให้ตระหนักรู้ถึงการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนและร่วมเป็นเครือข่ายการทำงานร่วมกับกรมอาเซียน ต่อไป


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยัง พระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติคุณ และเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี 2555-2556 ของเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 7

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยัง พระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติคุณ และเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี 2555-2556 ของเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 7 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี วันนี้ ( 17 ก.พ. 57) เวลา 13.45 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยัง ห้องประชุมมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในการพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติคุณ และเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี 2555-2556 ของเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 7 จำนวนทั้งสิ้น 247 ราย เพื่อแสดงความขอบคุณ และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สนับสนุนการบริจาคโลหิต โดยเฉพาะผู้บริจาคโลหิต

ซึ่งเป็นผู้มีจิตศรัทธาสละโลหิตในร่างกายของตนเองเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ผู้เจ็บป่วย โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ในการนี้มีผู้เข้ารับพระราชทานเข็มเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 7 ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร ยโสธ ร้อยเอ็ด และจังหวัดอำนาจเจริญ ประกอบด้วย พระภิกษุ เข้ารับพระราชทานเข็มที่ระลึกและผู้บริจาคโลหิต 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี และประกาศเกียรติคุณ จำนวน 6 รูป ผู้บริจาคโลหิต ครบ 100 ครั้ง และผู้ทำคุประโยชน์แก่สภากาชาดไทยเข้ารับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 จำนวน 15 ราย สถาบันที่สนับสนุนการบริจาคโลหิต และผู้บริจาคโลหิตเข้ารับพระราชทานประกาศเกียรติคุณและเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิต 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง จำนวน 226 ราย จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสแก่ผู้เข้ารับเข็มที่ระลึกและผู้บริจาคโลหิต และทรงฉายพระยาลักษณ์ร่วมกับ เลขาสภากาขาดไทย ผู้บริหารสภากาชาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 7 และกรรมการกาชาดจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 2 ชุด

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดงาน วันคนพิการสากล ประจำปี 2557

ที่ห้องประชุมศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญเป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากลจังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี 2557 โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับภาคีเครือข่ายการทำงานด้านคนพิการ ได้จัดขึ้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมเฉลิมฉลองวันคนพิการสากล โดยมี มีคนพิการ, ญาติ, นักกายภาพบำบัด, หน่วยงานภาคีเครือข่าย, อาสาสมัครพัฒนาสังคมฯ เพื่อดูแลคนพิการ, นักเรียน นักศึกษามาร่วมงานและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ด้วยองค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล โดยมีหัวข้อหลักสำหรับปี พ.ศ. 2557 คือ "ขจัดอุปสรรค เปิดประตู...ก้าวสู่สังคม อยู่เย็นเป็นสุขสำหรับทุกคน” สำหรับประเด็นหลักของการจัดงานวันคนพิการประจำปี 2556ได้เน้นในเรื่อง การเสริมพลังให้คนพิการมีส่วนร่วมในการพัฒนา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้า ของสังคมและประชาชาติทั่วโลก เสริมสร้างความเข้าใจของสังคมต่อคนพิการ  การยอมรับและให้โอกาสคนพิการเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรมและเสมอภาคเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้คนพิการได้แสดงศักยภาพ และจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ อันก่อให้เกิดเจตคติที่ดียอมรับความสามารถของคนพิการ ซึ่งจะนำไปสู่การมีงานทำของคนพิการ สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นประกอบด้วย การการมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันจัดงานวันคนพิการ การการมอบเกียรติบัตรและมอบเงินสงเคราะห์แก่ผู้พิการตัวอย่าง มอบรถโยกคนพิการ จำนวน 15 ราย  มอบเงินสงเคราะห์แก่คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ จำนวน 50 รายๆละ 2,000 บาท เป็นเงิน100,000 บาท  มอบถุงยังชีพแก่คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ จำนวน 200 ราย  การจัดแสดงนิทรรศการ และผลงานของคนพิการ การแสดงบนเวทีของสมาคมคนตาบอด และสมาชิกสภาเด็กและเยาวชน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานและเป็นประทับใจแก่ผู้พิการ และญาติ ที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง



กฤษดา เนตรพันธ์ / ข่าว

องค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญจัดงานบุญประเพณีไขประตูเล้า เผ่าภูไท ประจำปี 2557

นายบุญยืน  คำหงษ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธานเปิดงานบุญประเพณีไขประตูเล้า เผ่าภูไท ประจำปี 2557  โดยองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ได้จัดขึ้นโดยการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านของชาวภูไท ให้คงอยู่สืบไป ตลอดจนให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม สร้างสรรค์สังคมของตนให้เป็นสังคมที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เกิดความรู้รักสามัคคีในหมู่คณะ ปลูกฝังค่านิยมอันดีงามแก่เยาวชนในชุมชนและท้องถิ่น  และเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกในทางที่ดีงามและเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไปในอนาคต

ประเพณีไขประตูเล้า เผ่าภูไท เป็นประเพณีสำคัญของชนเผ่าภูไทที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ  โดยกำหนดจัดขึ้นในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี  ประเพณีไขประตูเล้า จะเป็นการเปิดเล้า หรือยุ้งฉางเก็บข้าว ที่เก็บข้าวใหม่หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว  โดยข้าวที่ได้มานั้นจะต้องนำมาทำพิธีสู่ขวัญข้าวเพื่อเป็นศิริมงคลตามประเพณีไขประตูเล้าก่อนที่จะนำข้าวมารับประทาน

สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นประกอบด้วย การประกวดขบวนแห่ ขบวนฟ้อนรำของหมู่บ้านและโรงเรียนต่างๆ  จำนวน 12 ขบวน  การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ประกอบด้วย การแข่งขันส้มตำลีลา, การแข่งขันกีฬาลูกข่าง, การแข่งขันกลองยาว, การแข่งขันกีฬาเปตอง, การแข่งขันเป่ามือเลียนแบบเสียงสัตว์, การแข่งขันเป่าใบไม้เป็นเพลง, การแข่งขันพูดผญาคู่, การแข่งขันเป่าแคน, การแข่งขันดีดพิณ, การแข่งขันลำกลอน, การแข่งขันสนูว่าว, การแข่งขันลำภูไท, การแข่งขันขาโถกเถก และการแข่งขันกีฬาที่มีคนดูและเชียร์กันอย่างสนุกสนานมากที่สุดก็คือการแข่งขันกีฬาชกมวยทะเล  นอกจากนี้ในงานยังได้จัดการแสดงการจำลองไขประตูเล้า เผ่าภูไท  การแสดงนิทรรศการสินค้า OTOP  ของกลุ่มอาชีพต่างๆ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของเผ่าภูไท ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชมกันอีกด้วย


กฤษดา เนตรพันธ์ / ข่าว / ภาพ

พุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมานมัสการพระมงคลมิ่งเมือง และเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา

พุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศจำนวนมากเดินทางมานมัสการพระมงคลมิ่งเมือง พระพุทธรูปศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอำนาจเจริญ และเวียนเทียนรอบองค์พระมงคลมิ่งเมืองเนื่องในวันมาฆบูชา

วันที่ (14 ก.พ. 57)  ณ  พุทธอุทธยานพระมงคลมิ่งเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดอำนาจเจริญ  นายบุญยืน  คำหงษ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา ซึ่งตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 และเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา โดยมีพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ  เดินทางมาร่วมพิธีเวียนเทียนเป็นจำนวนมาก

พระมงคลมิ่งเมืองเป็นพระพุทธรูปศักสิทธิ์ขนาดใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพนับถือ  มีหน้า ตักกว้าง 11 เมตร สูง 20 เมตร ประดิษฐิ์สถานอยู่ที่พุทธอุทยานในตัวเมืองอำนาจเจริญ มีพื้นที่ประมาณ 36 ไร่ เริ่มสร้างเมื่อปี 2505 แล้วเสร็จเมื่อปี 2508  ก่อสร้างด้วยปูนเสริมเหล็ก ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองทั้งองค์ พุทธลักษณะสวยงาม เป็นศิลปะแบบอินเดียตอนเหนือ (ปาละ) เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญประจำจังหวัดอำนาจเจริญ และยังเป็นตราสัญลักษณ์  ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ อีกด้วย



จรูญ  พิตะพันธ์/ข่าว/ภาพ

สำนักงานขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ จัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถจังหวัดอำนาจเจริญ

ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ  นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการ  จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธาน  แถลงข่าวการจัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถจังหวัดอำนาจเจริญ  ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ ที่ 8 และวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2557   ตั้งแต่ 08.30 – 16.30 น. ณ  ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ ตำบลโนนหนามแท่ง  อำเภอเมือง  จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 301 หมายเลข

นาย  ยุทธนา  อนันตเดโชชัย  ขนส่งจังหวัดนครพนมรักษาราชการแทน ขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า  กรมการขนส่งทางบกโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ   จะดำเนินการเปิดประมูลเลขทะเบียนรถที่เป็นที่นิยมจังหวัดอำนาจเจริญ ครั้งที่ 1 ประเภททะเบียน  รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน หมวดอักษร กค ในวันเสาร์ ที่ 8 และวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2557     ณ  เปิดการประมูลห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ  ตำบลโนนหนามแท่ง  อำเภอเมือง  จังหวัดอำนาจเจริญ    ลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียน พื้นป้ายทะเบียนรถเป็นสีม่วงลายผ้าขิดคำพระ ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดอำนาจเจริญ  หมายเลขทะเบียนรถที่จะทำการประมูล จำนวน 301 หมายเลข แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มโดยจะทำการประมูล 2 วัน วันเสาร์ ที่ 8   มีนาคม 2557 จำนวน 138 หมายเลข จะเริ่มต้นประมูลจากเลขกลุ่ม 2 ที่เป็นเลข 4 ตัว ที่ประกอบด้วยเลข 8 และ 9 คือ 8899  9988  8989  9898  8998  9889 เรียงตามลำดับ 2. เลขกลุ่ม 1  ซึ่งเป็นเลข 4 ตัวเหมือนกัน คือ เลข 1111  2222  3333  จนถึง 9999 เรียงตามลำดับ 3. เลขกลุ่ม 2 ประเภทเลขสามตัวเหมือน (เลขตอง) คือ 111  ถึง 999 เลขสองตัวเหมือน 11 ถึง 99  4. เลขหลักพัน คือ 1000 2000  3000 จนถึง 9000 ตามลำดับ และต่อด้วยเลขคู่ เช่น 1001  1221  1331 เป็นต้น สุดท้ายสิ้นสุดที่เลข 5757  สำหรับวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2557 จำนวน 163 หมายเลข โดยจะเริ่มดำเนินการประมูลเวลาประมาณ 09.00 น.เป็นต้นไป ประกอบด้วยเลขกลุ่ม 3 ประเภทเลขเรียงสาม คือ 123  ถึง 789 และเลขเรียงสี่ตัว คือ 1234 – 6789 และเลขคู่ เช่น 1881  1991  2882  2992  และเลขกลุ่ม 2 เลขตัวเดียว คือ 1 ถึง 9 และเลขสองตัวเหมือน คือ 11 - 99  



จรูญ  พิตะพันธ์/ข่าว/ภาพ 

รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามการจัดการป่าดงแดงในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2557) ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลด่าน อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษดร. วิจารย์ สิมาฉายา รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะ ร่วมประชุมกับจังหวัดศรีสะเกษ ในเรื่อง "การมีส่วนร่วมในการจัดกากรป่าดงแดง ในพื้นที่ตำบลด่าน อำเภอราศีไศล และตำบลหนองบัวดง อำเภอศิลาลาด โดยมีนายสนิท ขาวสอาด รองผู้ว่ารากชารจังหวัดศรีสะเกษ นายปรีชาญ สามารถ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครพิทักษ์ป่า ให้การต้อนรับ โดยที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงแดง ได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 653 (พ.ศ.2517) เนื้อที่ 7,600 ไร่ อยู่ในพื้นที่ตำบลด่าน อำเภอราศีไศล และตำบลบัวดง อำเภอศิลาลาด จังหวัดศรีสะเกษ ต่อมากรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่บางส่วนให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจัดสรรเป็นพื้นที่ทำกินของราษฎร ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่ประมาณ 3,675 ไร่ สภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบ บางแห่งเป็นเนินเอกน้อยล้อมรอบด้วยพื้นที่ทำกินของราษฎร มีไม้มีค่าหลายชนิดขึ้นอยู่ทั่วไป เช่น ไม้ยาง ไม้แดง ไม้มะค่าโมง ไม้มะค่าแต้ ไม้พะยูง และไม้อื่นๆ อีกหลายชนิด พื้นที่ป่าไม้ที่คงเหลืออยู่นี้ กรมป่าไม้อนุมัติโครงการป่าชุมชนดงแดง เมื่อปี 2543 หมู่บ้านรอบพื้นที่ป่าได้ร่วมกันดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ในรูปของป่าชุมชนมาโดยตลอด

แต่ในปัจจุบันกลบปรากฏว่าสถานการณ์การบุกรกตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงแดง มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้ที่มีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ จะมีกลุ่มนายทุนจากต่างพื้นที่เข้ามาลักลอบตัดออกไปอยู่เสมอ ถึงแม้ได้ผ่านการทำพิธีบวชป่าต่อชะตาไม้พะยูงแล้วเมื่อปี 2556 และราษฎรเฝ้าระวังอย่างเข้มแข็งแล้วก็ตาม ประกอบกับกำลังเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง จึงมีความจำเป็นต้องให้ความรู้ ความเข้าใจและได้รับความร่วมมือจากราษฎรรอบพื้นที่ป่าอย่างจริงจัง โดยให้ราษฎรรอบพื้นที่ป่าเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังลาดตระเวนป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดศรีสะเกษ ศูนย์ประสานงานป่าไม้ศรีสะเกษ หน่วยป้องกันป่าที่ ศก.9 ผู้แทนภาคประชาชน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมชี้แจงพร้อมกับได้พิจารณา การติดตามการอนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงแดง ของที่ทำการองค์การบริหารสวนตำบลด่าน ที่พักสงฆ์วัดป่าศรีประชารังสรรค์ ที่พักสงฆ์บ้านโนนสังข์ ที่พักสงฆ์ศรีบัวทอง, ความร่วมมือในการจัดป่าดงแดง และการรังวัดจัดทำแนวเขตป่าให้ชัดเจนตามแนวกันคืนให้กรมป่าไม้ของ สปก.



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/พิมพ์

จังหวัดเลย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดการประชุมคณะกรรมการฯ ประจำปี ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓  โดยมีนายสมเกียรติ  อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานกรรมการหอการค้าไทย ส่วนภูมิภาค ให้เกียรติเป็นประธาน  พร้อมให้คำแนะนำเรื่องแนวทางและเป้าหมายในการประชุมในครั้งนี้   ซึ่งมีคณะกรรมการจาก ๒๐ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง   โดยจะเป็นการนำเสนอผลการทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของหอการค้ากลุ่มจังหวัดและกลุ่ม YEC  พร้อมกับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดการศึกษาระบบทะวิภาคี  เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างคณะกรรมการอาชีวะศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับ คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นองค์กรเอกชนที่มีความสำคัญในการประสานเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค ให้สอดคล้องกับความต้องการและศักยภาพของพื้นที่ ตลอดจนปัญหาจำเป็นเร่งด่วนของพื้นที่ และยังมีบทบาทเป็นผู้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ภาคเอกชน  เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค มีการระดมปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เสนอไปยังรัฐบาล โดยผ่านหอการค้าไทย  เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม  สรุปประเด็น ข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค์ พร้อมกับหารือในหอการค้ากลุ่มจังหวัด เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเพื่อพัฒนาโครงการบ้านมั่นคง

ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สำนักงานปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ร่วมกับ ภาคีการพัฒนาในท้องถิ่น ผู้แทนภาคยุทธศาสตร์ เครือข่ายองค์กรชุมชน จัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายบ้านมั่นคงจังหวัดเลย เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเครือข่ายบ้านมั่นคงในพื้นที่ ที่อยู่อาศัยในเขตอำเภอเมือง อำเภอเชียงคาน อำเภอนาด้วง  และเทศบาลตำบลนาอ้อ  โดยมีนายก้าน  กุณวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาอ้อ   เป็นประธานเปิดการประชุม

 นายบุญนำ ซาเหลา ประธานเครือข่ายบ้านมั่นคงจังหวัดเลย เปิดเผยว่า โครงการบ้านมั่นคง เป็นโครงการที่สร้างความมั่นคงในการครอบครองที่ดินสำหรับการอยู่อาศัย และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่อยู่อาศัย พัฒนาองค์กรและชุมชนด้านอื่น ๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สวัสดิการ ให้เชื่อมโยงกันในชุมชน ที่สำคัญมีองค์กรชุมชนเป็นแกนหลัก และเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนี้ ชุมชนเป็นเจ้าของโครงการ แผนงานโครงการอยู่บนพื้นฐานความต้องการของชุมชน ร่วมกันจัดทำแผนงานโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและชุมชน ดำเนินงานบริหารจัดการโครงการและงบประมาณ และการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น การจัดการที่ดิน เป็นต้น, แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบครอบคลุมชุมชนทั้งหมดของเมือง มีการสำรวจข้อมูลความเดือดร้อน และใช้ข้อมูลเพื่อการวางแผนการแก้ปัญหาเชิงรุก จัดทำแผน แนวทาง และรูปแบบการแก้ปัญหาที่มีความหลากหลาย ตามสภาพปัญหาของชุมชน และแผนการพัฒนาของเมือง, กระบวนการทำงานและการจัดการร่วมระหว่างชุมชนและท้องถิ่น โดยมีกลไกการทำงานร่วมกันเป็น "คณะกรรมการเมือง" ซึ่งประกอบด้วย เทศบาล ชุมชน หน่วยงานในท้องถิ่น   หน่วยงานระดับจังหวัด  และให้ชุมชนดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงของชุมชนแออัดที่มีอยู่ไปพร้อม ๆ กับการจัดระบบชุมชนใหม่ ทั้งด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม จัดโครงสร้างทางสังคม ระบบเศรษฐกิจการเงินถึงระดับครอบครัว ตลอดจนระบบการดูแลทางสังคมร่วมกัน และเชื่อมโยงชุมชนให้เป็นเครือข่ายทำงานร่วมกับท้องถิ่น

จังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดงาน “ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ชมขบวนแห่พระเวสสันดรชาดกเข้าเมือง 15 ขบวนแห่ บริการขนมจีนฟรีตลอดงาน

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วน พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร่วมกันจัดงาน "ประเพณี บุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 (วันศุกร์ที่ 7 ขึ้น 7 ค่ำ ,วันเสาร์ที่ 8 ขึ้น 8 ค่ำและวันอาทิตย์ที่ 9 ขึ้น 9 ค่ำ) ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และเกาะกลางบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด พิธีเปิดงานในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 16.00 น. ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า กิจกรรมในงาน เป็นกิจกรรมที่เป็นการสืบสานและอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ที่สืบทอดกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีพุทธของจังหวัดร้อยเอ็ด อาทิ การประกวดธงผะเหวด พิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชทานแห่รอบเมือง พิธีเจริญพุทธมนต์เย็น พิธีเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน การแสดงแสง สี เสียง การแสดงศิลปินคืนถิ่น งานพาแลง การแห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาด การทำบุญ ตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 101 รูป เทศน์คาถาพัน เทศมหาชาติ แห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ขบวนแห่พระเวสสันดรชาดกเข้าเมือง รวม 15 ขบวน การแจกทานและสัตสดกมหาทาน และ บริการขนมจีน (ข้าวปุ้น) ฟรีตลอดงาน

จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศไปเที่ยวงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ณ สวนสมเด็จ พระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด



วิมล เร่งศึก/ข่าวกมลพร คำนึง/บก.ข่าว

จังหวัดมุกดาหาร จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอ

วันนี้ (17 ก.พ.57) เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุมระเบียงแก้วมุกดารีสอร์ท ถนนเลี่ยง เมืองดอนตาล- นิคมคำสร้อย ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยมี นายแพทย์อนุวัตร แก้วเชียงหวาง นายจรูญ วงศ์นารี ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพจังหวัดมุกดาหาร พร้อมคณะประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอ (DHS) โดยการประยุกต์ใช้กระบวนการสมัชชาสุขภาพ ตามโครงการจัดสมัชชาสุขภาพจังหวัดมุกดาหาร พ.ศ.2557 (Mukdahan Provincial Assembly:MPHA) โดยการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช. เป็นการสนับสนุนให้เกิดกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในจังหวัดมุกดาการ และเป็นการบูรณาการพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอ ให้ประชาชนครอบคลุมทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารมีสุขภาวะที่ดี    ใน ๔ มิติ มิติทางกาย ทางจิตวิญญาณ ทางสังคม และทางปัญญา เพื่อสร้างกระแสในการดูแลสุขภาพของชาวจังหวัดมุกดาหารต่อไป สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องเริ่มที่ตัวเรา



สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

มหาสารคาม จัดมวยไทย “ศึกดาวรุ่งอัศวินดำเพื่อการกุศล” หารายได้พัฒนาสถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม

อำเภอวาปีปทุม จัดการแข่งขันมวยไทย "ศึกดาวรุ่งอัศวินดำเพื่อการกุศล” หารายได้สนับสนุนค่าสาธารณูปโภค และปรับปรุงภูมิทัศน์ สถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม ในวันที่ 21 กมภาพันธ์ 2557 ที่ หอประชุมอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

(17-02-57) นายประภาส กิจจินดาโอภาส ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม ร่วม พ.ต.อ.วิศักดิ์ อินทกรอุดม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม คณะกรรมการ กต.ตร.สภ.วาปีปทุม และเจ๊แมว ชัยภูมิ โปรโมเตอร์ เปิดแถลงข่าวจัดแข่งขันมวยไทย "ศึกดาวรุ่งอัศวินดำเพื่อการกุศล” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนได้รักหวงแหนรู้จักอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย เป็นการพัฒนาด้านการกีฬามวยไทย ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชนและเยาวชนออกห่างไกลจากยาเสพติดโดยการหันมาสนใจเล่นกีฬาแทน นอกจากนี้ยังเป็นการจัดหารายได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค และปรับปรุงภูมิทัศน์ของสถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม โดยมีคู่มวยไทยชาย อาทิ โขง ว.วิเศษยิมส์ ชกกับ น้องเอ็ม ลือหินดาด , ไชโย สนหนองคาย ชกกับ แสนศักดิ์ ส.บุญเยี่ยม ส่วนคู่มวยไทยหญิง อาทิ น้องฟ้า (งามอย่างไทย) ศิษย์เจ้แดง ชกกับ สามเอ (ไนอลเฟรม) สพล.มหาสารคาม โดยกำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 ที่สนามมวยชั่วคราว หอประชุมที่ว่าการอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป ส่วนบัตรเข้าชม มีราคาตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป สามารถเข้าชมได้ 2 ที่นั่ง

ผู้สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม โทรศัพท์หมายเลข 0-4379-9191 และ 09-2643-4116 ได้ทุกวัน
                                             


 ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตสกลนคร เปิดอบรมเทคนิคการผสมเทียมโค ที่จังหวัดมหาสารคาม

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร จัดอบรมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการผสมเทียมโคให้ได้ผลจริง เพิ่มผลผลิตและรายได้ให้กับเกษตรกร

(17-02-57) ที่ศูนย์ฝึกอบรมการทำฟาร์มและการเลี้ยงโคนม สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมโคกก่อ จังหวัดมหาสารคาม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นที่ปรึกษากิจกรรมการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมนมพาสเจอร์ไรส์ จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 กรมการส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดอบรมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 17 – 19 กุมภาพันธ์ 2557 ตามโครงการ "อบรมผสมเทียมโคของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย” โดยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมโคกก่อ และฟาร์มโคนมมหาสารคาม เข้าร่วมอบรมจำนวน 60 คน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการผสมเทียมโคให้ได้ผลจริง เพิ่มผลผลิตและรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยมีศาสตราจารย์ ดร.มานาเบะ โนโบรุ จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดร.กรรณิการ์ วงศ์พาณิชย์ อาจารย์คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร และ ดร.ชโลธร อัมพร ผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมเทียมโค จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ เป็นวิทยากรให้ความรู้และให้เกษตรกรได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ร่วมกับคณะสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากประเทศไทยและญี่ปุ่น

ด้านศาสตราจารย์ ดร.มานาเบะ โนโบรุ จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมคณะ ได้นำเครื่องมือที่ทันสมัยและมีขนาดเล็ก สามารถตรวจสอบการตั้งครรภ์ และตรวจความผิดปกติของรังไข่หรือตัวมดลูกได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรรู้ว่าการผสมเทียมครั้งนี้ได้ผลหรือไม่ ภายในไม่เกิน 40 วัน  มาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคในจังหวัดมหาสารคามได้ทดลองใช้ด้วย
                             


                              ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

คณะเภสัชศาสตร์ มมส เปิดโรงงานผลิตยาสมุนไพร “ฟาร์มแคร์ฟาร์มาซูติคอล”

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดโรงงานผลิตยาสมุนไพร "ฟาร์มแคร์ฟาร์มาซูติคอล” หวังให้ประชาชนได้ใช้ยาจากสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีคุณภาพ ภายใต้การบูรณาการองค์ความรู้ดั้งเดิมและกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตอบสนองต่อการพัฒนาของประเทศ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันทร์ทิพย์ กาญจนศิลป์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ เปิดเผยว่า โรงงานฟาร์มแคร์ เป็นโรงงานผลิตยาและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ประกอบด้วย 2 โรงงานย่อยคือ โรงงานฟาร์มแคร์ฟาร์มาซูติคอล เป็นโรงงานผลิตยาสมุนไพร และโรงงานฟาร์มแคร์นิว ทราซูติคอล เป็นโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ยาจากสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีคุณภาพ ภายใต้การบูรณาการองค์ความรู้ดั้งเดิมและกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และตอบสนองต่อการพัฒนาของประเทศ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของบุคลากรในมหาวิทยาลัยและความเข้มแข็งของประเทศทางด้านความอุดมสมบูรณ์ของสมุนไพร ความหลากหลายของสายพันธุ์ และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ โดยยาและผลิตภัณฑ์ทุกชนิดผ่านการวิจัยและการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ภายในโรงงานมีการผลิตยาและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีคุณภาพระดับสากล ราคาเป็นธรรม วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม ตลอดจนดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์ สามารถสร้างกำไร มีการเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน อีกทั้งให้บริการทางวิชาการทางด้านยาและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติแก่นิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไป

ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า โรงงานฟาร์มแคร์ฟาร์มาซุติคอล เป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสมุนไพรและต่อยอดภูมิปัญญาบรรพบุรษไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการดำเนินการอย่างครบวงจร นับตั้งแต่การดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จนกระทั่งการผลิตผลิตภัณฑ์และควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ในทุกขั้นตอน เป็นผลให้ทางโรงงานฟาร์มแคร์ฟาร์มาซูติคอลสามารถเป็นต้นแบบที่ดี ของการนำเอาผลงานวิจัยที่มีคุณภาพมาผลิตสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนต่อไป

สำหรับผลิตภัณฑ์ของโรงงานฟาร์มแคร์ ได้รับทะเบียนอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วจำนวน 12 รายการ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ยาสมุนไพร 7 รายการ คือ ยาดมจันทร์ทิพย์ ยาน้ำมันเหลืองตราฟาร์มแคร์ ยาหม่องผสมไพล ยาฟ้าทะลายโจร พิมเสนน้ำผดุงจิต ยาแคปซูลขิง และยาแคปซูลประสะไพร เครื่องสำอาง 4 รายการ คือ ครีมวิตามินอี ครีมวิตามินซีและอี ครีมคาริแคร์ และจิงเจอร์ครีม และเครื่องดื่มสุขภา 1 รายการ คือ น้ำตรีผลา



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ภาคเอกชนมอบอาคารอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแก่โรงเรียนกันทรวิชัยเพื่อเป็นเวทีการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมฯ

ห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงตาวันลิสซิ่งมอบอาคารอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแก่โรงเรียนกันทรวิชัย อ.กันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อใช้เป็นเวทีการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมไทยเป็นเวทีในการแสดงออกของนักเรียน

17-02-57 ที่โรงเรียนกันทรวิชัย อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงตาวันลิสซิ่ง โดยนายอรุณ เต็มภัทรโชค มอบอาคารอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแก่โรงเรียนกันทรวิชัย โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นประธานในการรับมอบและเปิดผ้าแพรคลุมป้าย               

นางคณาพร เทียมกลาง ผู้อำนวยการโรงเรียนกันทรวิชัย กล่าวว่าโรงเรียนกันทรวิชัยได้รับความอนุเคราะห์จากห้างหุ้นส่วนแสงตาวันลิสซิ่ง ในการก่อสร้างอาคารอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 647,370 บาท เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ประโยชน์ในด้านศิลปวัฒนธรรมและเป็นเวทีในการแสดงออกของนักเรียนโดยส่งเสริมให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ด้านนายอรุณ เต็มภัทรโชค ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงตาวันลิสซิ่ง จำกัด กล่าวว่าอาคารดังกล่าวจะเป็นสถานที่ ที่มีส่วนช่วยอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและส่งเสริมการศึกษาแก่นักเรียนต่อไป


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ชาวนามหาสารคาม รวมกลุ่มสนับสนุนโครงการรับจำนำข้าว พร้อมเรียกร้องให้สถาบันการเงินปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาล

เครือข่ายชาวนาจังหวัดมหาสารคาม รวมกลุ่มหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม สนับสนุนโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาล เพื่อช่วยเหลือชาวนา

(17-02-57) เวลา 14.00 น. กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรชาวนาจังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 13 อำเภอ นำโดยนายบุรินทร์ นามโร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม เขตอำเภอกันทรวิชัย เคลื่อนขบวนรถอีแต๋น รถไถนา พร้อมขบวนชาวนากว่า 200 คน เดินทางมาชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เปิดเวทีปราศรัยขอให้รัฐบาลคงนโยบายรับจำนำข้าวไว้ เพราะเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์กับชาวนาอย่างแท้จริง แม้จะมีปัญหาบ้าง แต่อยู่ในวิสัยที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าทุกนโยบายได้ พร้อมยื่นหนังสือแถลงการณ์สนับสนุนโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ผ่านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยื่นข้อเรียกร้อง ที่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขามหาสารคาม เพื่อเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารทั้ง 3 แห่ง ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาล
                                                 

                                         
ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขามหาสารคามขอเชิญร่วมกิจกรรมวัน RVP รักความปลอดภัยทางถนน

นางสาวสิริมาศ ชูประสูติ ผู้จัดการสาขามหาสารคาม บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เปิดเผยว่าด้วยบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขามหาสารคามขอเชิญร่วมกิจกรรมวัน RVP รักความปลอดภัยทางถนน โดยมีกิจกรรมต่างๆดังนี้

1.บริการเปลี่ยนหลอดไฟ "ท้ายรถมีไฟ ถนนปลอดภัย คนไทยปลอดภัย"
2.ขอเชิญประชาชนทั่วไปและผู้เข้ามาใช้บริการร่วมลงชื่อ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการ "เสริมสร้างวัฒนธรรม ความปลอดภัยทางถนน "
3.แจกหมวกนิรภัยเด็กให้กับผู้โชคดี ร่วมลงนามสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน 4.กิจกรรมจำหน่ายหมวกนิรภัย (๘๖ พรรษา) ถวายฯ ในโครงการ "รักพ่อ รักความปลอดภัย”
5.กิจกรรมร่วมสนุกและแจกของที่ระลึก มากมาย

จึงขอเชิญชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทุกท่านร่วมกิจกรรมกับบริษัทในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ. 57 เวลา 11.00 - 15.59 น. ณ.บริเวณหน้าสำนักงานเลขที่ 345/2 ถ.ถีนานนท์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

ตำรวจมหาสารคาม จับผู้ต้องหาลักทรัพย์ นำเงินซื้อยาเสพติด เที่ยวเตร่

ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คน ของกลาง รถ 4 คัน สารภาพนำไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อสิ่งเสพติดและเที่ยวเตร่

(17-2-57) พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุดมศักดิ์ เปลี่ยนขำ ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม พ.ต.ท.ทรงฤทธิ์ เวียงบาล สว.สส.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายคำเปลี่ยน ละครชัย อายุ 39 ปี ที่อยู่ 15 ม.16 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง มหาสารคาม , นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ที่อยู่ 45 ม.7 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง มหาสารคาม , นายบี(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ที่อยู่ 8 ม.4 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง มหาสารคาม และ นายซี(นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่อยู่ 40 ม.4 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง มหาสารคามโดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรรถจักรยานยนต์ พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน โดยบางคันถูกดัดแปลงสภาพแล้ว

พฤติการณ์ในการจับกุม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2557 มีนายกอบเดช นาถมทอง อายุ 16 ปี ที่อยู่ 177 ม.1 ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จว.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สมพงษ์ อุดมเดช พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ว่าตนเองได้จอดรถจยย.ฮอนด้า แดช สีเขียวส้ม ไม่ติดแผ่นป้าย ไว้ที่หอพักพรรณวดี ถ.มหาชัยดำริห์ ต.ตลาด อ.เมืองมหาสารคาม และได้หายไป ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม จึงได้ออกสืบสวนหาข่าว ทราบจากสายข่าวว่ามีบุคคลต้องสงสัยนำรถคันดังกล่าว ไปขายที่ร้านต้อมการช่าง เลขที่ 33 ม.10 ต.เกิ้ง อ.เมือง มหาสารคาม ซึ่งมีนายณรงค์ศักดิ์ พรมสุข อายุ 20 ปี เจ้าของร้านซ่อม

จากการสอบถามนายณรงค์ศักดิ์ฯเจ้าของร้านให้การว่ามีนายคำเปลี่ยนฯ ผู้ต้องหารวม 4 คน ได้นำรถคันดังกล่าวมาขายให้ตนในราคา 1,800 บาท จึงได้นำตัวมาสอบถาม ให้การว่า ได้ร่วมกันตระเวนลักทรัพย์ จยย.ของผู้เสียหายตามหอพักต่างๆ มาแล้วประมาณ 10 ครั้ง รถจักรยานยนต์ที่ได้นำไปขายที่ร้านรับซื้อในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียง เงินที่ได้นำไปซื้อเหล้า ยาเสพติด เที่ยวเตร่ เมื่อเงินหมด ก็จะชวนกันตระเวนลักทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เหล่ากาชาดบุรีรัมย์ มอบบ้านกาชาดรวมใจ ช่วยเหลือผู้ยากไร้ อำเภอนางรอง

เหล่ากาชาดบุรีรัมย์ มอบ "บ้านกาชาดรวมใจช่วยเหลือผู้ยากไร้” ให้กับ นายนอง ศิริภรณ์ อายุ 67 ปี ที่มีฐานะยากจน

(17 ก.พ.57) นายเฉลิมพล พลวัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางกรคณา ลืออดุลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันมอบบ้านเอื้ออาทรในโครงการ "บ้านกาชาดรวมใจช่วยเหลือผู้ยากไร้” ให้กับ นายนอง ศิริภรณ์ อายุ 67 ปี ราษฎรตำบลชุมแสง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีฐานะยากจน ทางองค์การบริหารส่วนตำบลชุมแสง จึงได้รายงานไปยังสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาช่วยเหลืออนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน 120,000 บาท และได้รับความร่วมมือร่วมแรงจากชาวบ้านในหมู่บ้านมาร่วมกันก่อสร้าง ตามนโยบายในการช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ซึ่งที่ผ่านมาเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาคัดเลือกผู้ยากไร้ และด้อยโอกาส เพื่อจัดสร้างที่อยู่อาศัยให้เป็นของตนเอง จำนวน 23 อำเภอ ๆ ละ 1 แห่ง รวมเป็นเงิน 2,760,000 บาท เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความเป็นอยู่อย่างถูกสุขลักษณะ

ผู้ว่าโคราช มอบเงินช่วยผู้ประสบเหตุพลุระเบิดในงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

วันนี้ (17 ก.พ.57) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบเงินจำนวน 35,718 บาท ให้กับนายสุนันท์ชัย ทามณี พนักงานราชการ สำนักงานปองกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือกรณีถูกพลุไฟระเบิด เข้าที่บริเวณตาด้านขวาจนได้รับบาดเจ็บขณะมาร่วมพิธี ในงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยภายหลังเกิดเหตุนายสุนันท์ชัยฯ ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาก่อนถูกนำตัวส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร

มหาวิทยาลัยขอนแก่น อนุรักษ์อักษรไทยน้อย

รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายชุมชนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ตระหนักและมีภารกิจในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของภาคอีสาน จึงได้จัดทำโครงการอนุรักษ์ ตัวอักษรไทยน้อยเป็นตัวอักษรโบราณตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านช้าง อาณาจักรซึ่งมีอารยะธรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นรากเหง้าของคนอีสาน ตัวอักษรไทยน้อยมีรูปร่างคล้ายอักษรไทย แต่แตกต่างออกไปจากอักษรไทยบ้าง โดยอักษรชนิดนี้ชาวอีสานจะใช้บันทึกเรื่องราวทั่วไป ได้แก่ วรรณกรรม และเรื่องราวทางโลก ซึ่งปรากฏอยู่ในจารึกต่างๆ ในฐานะขุมปัญญาของอีสาน การพัฒนามหาวิทยาลัยขอนแก่นให้ก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง ตามเป้าหมายมหาวิทยาลัยอันดับ1ใน400ของโลกนั้น จำเป็นจะต้องรู้จักตนเองให้มากที่สุด สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือการเริ่มเรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของภาคอีสาน หรืออาณาจักรล้านช้างในสมัยก่อน

ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นเปรียบเสมือนขุมปัญญาของภาคอีสาน ดังนั้นศิลปะและวัฒนธรรมอีสานหลายอย่างจึงควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ รวมทั้งภาษาไทยน้อย ถึงแม้ปัจจุบันคนไทยจะใช้ภาษากลางเป็นภาษาประจำชาติ แต่ภาษาอีสานที่มีรากเหง้ามาจากภาษาไทยน้อย และตัวอักษรไทยน้อยควรอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้เรียนรู้ต่อไปอย่างภาคภูมิใจที่ "รวมทั้งการอบรมเชิงปฏิบัติการของ คณะศิลปกรรมศาสตร์ หลักสูตรวิจัยศิลปวัฒนธรรม ที่จะไปสอนการเขียนภาษาไทยน้อยให้กับเด็กและเยาวชนในหมู่บ้านต่างๆ และนักศึกษาที่สนใจสามารถศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในคณะศิลปกรรมศาสตร์ได้ฟรี และเรื่องที่สองเป็นการสนับสนุนคณะหน่วยงานต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย ให้เพิ่มตัวอักษรไทยน้อยบนป้ายคณะหน่วยงาน ด้วยการออกแบบให้อย่างเหมาะสมกับป้ายและตัวอักษรเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยนักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดขอนแก่นจัดกิจกรรมทำพฺธีก่อบุญหนุนพลังความปลอดภัยทางถนน

จังหวัดขอนแก่นนำภาคีเครือข่ายป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดขอนแก่น ทั้งภาครัฐ และเอกชนพิธีก่อพลังบุญหนุนความปลอดภัยทางถนน

นายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย ประธานแผนงานสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด (สอจร.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานภาคีเครือข่ายระดับจังหวัด ในการขับเคลื่อนการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดขอนแก่น ณ ห้องประชุมมูลนิธิค่ายเปรม ติณสูลานนท์ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น โดยที่ประชุมได้มีการนำเสนอโครงการ กิจกรรมที่จะร่วมกันรณรงค์ ม่วนซื่นสงกรานต์เมือบ้านปลอดภัยของจังหวัดขอนแก่น

โดยนิมนต์พระสงฆ์ ๙๙๙ รูป สวดชยันต์โต เพื่ออุทิศบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน และพรหมน้ำพระพุทธมนต์ให้กับผู้ร่วมงานเพื่อเป็นสิริมงคล มีพิธีเจิมรถ เจิมหมวกนิรภัย โดยมีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ , กู้ชีพตำบล/จังหวัด , ญาติผู้เสียชีวิต , คณะกรรมการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดขอนแก่น , หัวหน้าส่วนราชการ , อสม. , นักเรียน นักศึกษา บริษัทรถยนต์/จักรยานยนต์ และประชาชนทั่วไป รวมทั้งสิ้นกว่า ๒,๕๐๐ คน โดยใช้ชื่อกิจกรรมในครั้งนี้ว่า "พิธีก่อพลังบุญหนุนความปลอดภัยทางถนน จังหวัดขอนแก่น” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๗ ณ ถนนมิตรภาพและบริเวณสวนเรืองแสง เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดกิจกรรมในลักษณะนี้



 ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

กลุ่มชาวนาในจังหวัดขอนแก่นออกมาสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล

เมื่อเวลา 10.00น.วันนี้ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่นนายอดิศร เพียงเกษ และนายจตุพร เจริญเชื้อ  นางมุกดา พงษ์สมบัติ อดีต สส. ขอนแก่นแกนนำชาวนาจังหวัดขอนแก่นนำชาวนาในจังหวัดขอนแก่นมาแสดงพลังในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการจำนำข้าว  โดยนัดกันมารวมกันที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ขอนแก่น จากนั้นกลุ่มชาวนาจะเคลื่อนขบวนรถไปตามถนนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นก่อนไปยื่นหนังสือที่ธนาคารออมสิน กรุงไทย และ ธกส.ขอนแก่น  เพื่อให้การสนับสนุนรัฐบาลและช่วงเที่ยงจะมายื่นสนับสนุนรัฐบาลผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นก่อนไปทำกิจกรรม ต่อที่จังหวัดมหาสารคาม

ข้าราชการพลเรือนดีเด่นจังหวัดขอนแก่นประจำปี 2556

จังหวัดขอนแก่นประกาศผลการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการในฐานะคณะอนุกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ให้ทุกจังหวัดคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556 ซึ่งจังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินการคัดเลือกโดยให้ส่วนราชการเสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามหลักเกณฑ์ให้ส่วนราชการผู้แทนกระทรวงในจังหวัดพิจารณาคัดเลือกแล้วเสนอชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก บัดนี้คณะกรรมการพิจารณาได้คัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556 ข้าราชการดีเด่นจังหวัดขอนแก่น ประจำปีพุทธศักราช 2556 ที่รับรางวัลระดับประเทศ 4 ราย คือ1. นางนิภา สุวรรณสุจริต นายอำเภอ กระนวน 2. พันตำรวจเอกต่อศักดิ์ โสดามรรค ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรโนนศิลา ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น3. นางนภาพร ธีระตันติกานนท์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น 4. นายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 25และ ข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2556จังหวัดขอนแก่น ระดับจังหวัด 8 คน คือ 1.นายทองปักษ์ ไทธานี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานจังหวัดขอนแก่น 2.นายยุทธชัย แพงปัสสา สัตวแพทย์อาวุโส สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น3. นายชัยยะเจตน์ จันทร์อักษร นักวิชาการพาณิขย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น 4.นางสาวพัชลี เชาว์พลกรัง นักวิชาการตรวจสอบภายในชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 1 5. นางบัวทอง ทองรักษ์ ครูชำนาญการพิเศษสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่นเขต 2 6.นายธนาศักดิ์ ศิริปุณยนันท์ ศึกษานิเทค์ ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 7. ว่าที่ร้อยตรี ปัญจมาสน์ มาศนพคุณรัตน์ ผู้อำนวยการชำนาญพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 4 และ 8. นายสุขสันต์ คุ้มบัว รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 5



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

เหล่ากาชาดขอนแก่น มอบจักรยานให้เยาวชนอำเภอซำสูงและรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่

วันนี้( 17 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 09.30 น. นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการและสมาชิกเห ล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางไปมอบจักรยานตามโครงการ "จักรยานสายสัมพันธ์เพื่อน้ องผู้ห่างไกล" จำนวน 20 คัน ให้แก่ เด็กนักเรียนที่ยากไร้และด้อยโอกาส ในเขตพื้นที่อำเภอซำสูง และร่วมออกหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ร่วมกับคลังเลือดกลาง คณะแพทย์ศาสตร์ มหาลัยขอนแก่น ออกรับบริจาคโลหิตเพื่อนำไปเก็บไว้เป็นเลือดสำรองไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน ณ หอประชุมอำเภอซำสูง โดยทางนายยุทธพร  พิรุณสาร นายอำเภอซำสูงคนใหม่นำข้าราชการ ประชาชน นักเรียนนักศึกษามาร่วมบริจาคโลหิตจำนวนมาก

จังหวัดขอนแก่น มอบเสื้อเรารักในหลวงให้ประชาชนเยาวชนในจังหวัด

วันนี้ (17 ก.พ.57)  นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่นเป็นประธานมอบเสื้อเรารักในหลวงให้กับประชา ชน เยาวชนในจังหวัดขอนแก่นจำนวน 400 ตัวซึ่งทางชมรมเรารักในหลวง จังหวัดขอนแก่นจัดขึ้นที่ศู นย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง บ้านดอนยาง ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น การมอบเสื้อเรารักในหลวงเป็นกิจกรรมที่ทางชมรมคนรักในหลวงจังหวัดขอนแก่นจัดขึ้นเป็นประจำเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและทางชมรมได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้เกษตรตามทฤษฎีใหม่เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกรให้มีที่ฝึกอาชีพในการเกษตรตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรมาเรียนรู้ที่แห่งนี้แล้วหลายรุ่น