วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดโครงการยุวชนประชาธิปไตย มุ่งสร้างคนรุ่นใหม่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กำหนดจัดโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในระบบรัฐสภาและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับช่องทางการเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยตามวิถีรัฐธรรมนูญ

ตลอดจนสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์ วิถีความคิด คุณธรรม จิตสำนึก และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นเยาวชน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 15-20 ปี ทุกจังหวัดทั่วประเทศในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายสามัญและสายอาชีพ หรือ ระดับอุดมศึกษา หรือเทียบเท่า รวมทั้งสิ้น 320 คน  โดยกำหนดจัดกิจกรรม 2 รุ่น ๆ ละ 10 วัน โดยรุ่นที่ 1 กำหนด จัดระหว่างวันที่ 17-26 มีนาคม 2557 และรุ่นที่ 2  กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่  31 มีนาคม – 9 เมษายน 2557 ณ สถาบันวิชาการ ทีโอที เลขที่ 174 ซอยงามวงศ์วาน 17 ถนนงามวงศ์วาน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี  โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมอบหมายให้จังหวัดสุรินทร์คัดเลือกเยาวชนร่วมกิจกรรม รวม 4 คน  รุ่นละ 2 คน  กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึง 7 กุมภาพันธ์ 2557  ประกาศผลการคัดเลือกวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์
สนใจดาวน์โหลดใบสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.partiament.go.th (สภาผู้แทนราษฎร)  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักประชาสัมพันธ์  กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฏร  ถนนอู่ทองใน  เขตดุสิต กรุงเทพ 10300  โทร.0-2244-2515-18  โทรสาร 0-2244-2517


สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมประชุมโต๊ะข่าวแก้ปัญหายาเสพติด

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ และกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งกำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดสุรินทร์ ในที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมศรีณรงค์ ชั้นที่ 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดจังหวัดสุรินทร์ จากการประชุมโต๊ะข่าวยาเสพติด การดำเนินการตามแผนสร้างพลังสังคม และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด การดำเนินการหมู่บ้าน ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน การดำเนินการตามแผนแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด การดำเนินการตามแผนสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา สถานประกอบการ การจัดระเบียบสังคมในพื้นที่เสี่ยง หอพักห้องเช่าเชิงพาณิชย์ การดำเนินการตามแผนปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินการตามแผนความร่วมมือระหว่างประเทศและการสกัดกั้นยาเสพติด เป็นต้น



สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

ททท.สุรินทร์ จัดโครงการ “ไหม – ไอยรา” กระตุ้นการท่องเที่ยวอีสานใต้ ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาค

นางสาวกัญญรัตน์  เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ กำหนดจัดทำแผนปฏิบัติการส่งเสริมการตลาดปี 2557 โครงการ “ไหม – ไอยรา” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอีสานใต้เพิ่มขึ้น  รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาค โดยกำหนดจัดกิจกรรม Agent Education Trip (AET) และ Media Education Trip (MET) ระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2557  เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยวของภูมิภาคอีสานใต้และสื่อมวลชน ได้สำรวจความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก และสถานประกอบการในพื้นที่อีสานใต้ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมของสินค้าที่จะนำเสนอขายให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ในเส้นทางท่องเที่ยวเส้นทางไหม – ไอยรา ต่อไป

ทั้งนี้ ททท. สำนักงานสุรินทร์ ได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน และมีการบูรณาการระหว่างพันธมิตรในพื้นที่  เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมเดินทางสำรวจในเส้นทางไหม – ไอยรา ตามเส้นทางต่าง ๆ ดังนี้ เยี่ยมชม ตลาดช่องจอม ด่านชายแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ เยี่ยมชม ด่านชายแดนช่องสะงำ  ชมสิ่งปลูกสร้างที่ตกแต่งด้วยขวดแก้วนับล้านใบจากศรัทธาของประชาชน ณ วัดล้านขวด   เยี่ยมชมปราสาทเขาพระวิหาร  และ ผามออีแดง  จังหวัดศรีสะเกษ   ชมวิถีชีวิตของคนเลี้ยงช้าง ร่วมพิธีเซ่นศาลปะกำอันศักดิ์สิทธิ์ ณ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง จังหวัดสุรินทร์  ชมแหล่งเรียนรู้ซึ่งเพียบพร้อมด้วยกิจกรรมสุดตื่นเต้น เช่น โรยตัวข้ามน้ำจากหอไอเฟล ปีนกำแพงเมืองจีน สะพานเชือกทาวเวอร์บริดจ์ และชื่นชมอุทยานไม้ดอก ณ เพ ลา เพลินฯ  ชม สนามฟุตบอล ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ของทีมลูกหนังชื่อดัง “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” รวมทั้งสำรวจความพร้อมของสถานประกอบการ และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ จังหวัดบุรีรัมย์  ชมกระบวนการผลิต “ผ้าภูอัคนี” ผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟของชุมชนบ้านเจริญสุข สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ เขาอังคาร  จังหวัดบุรีรัมย์ จากนั้นชมศิลปะการถักทอเส้นไหม ณ หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าเสนอขาย “เส้นทาง เที่ยว 2 ช่อง ท่องอารยธรรมขอม” ณ เรือนไม้กลางน้ำ โรงทอผ้าจันทรโสมา จังหวัดสุรินทร์


สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ หรือ กอ.รมน.สุรินทร์ พัฒนาสัมพันธ์และเสริมศักยภาพเครือข่าวข่าวมวลชนเพื่อความมั่นคงทุกรูปแบบ

วันที่  ( 20 ก.พ. 2557 ) ที่หอประชุมอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์จัดสัมมนา   จัดสัมมนาพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายข่าวมวลชนเพื่อความมั่นคงขึ้น   ซึ่งมีเครือข่ายข่าวมวลชนเข้าร่วมสัมมนา จำนวนทั้งสิ้น 100 คน  โดยมีนายสนั่น  วินทราวาท นายอำเภอรัตนบุรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา และได้รับเกียรติจากพันเอกจะเด็ด  นวลมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ ร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยทั้งนี้เพื่อพัฒนาสัมพันธ์และบูรณาการเครือข่ายข่าวมวลชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเพิ่มช่องทางติดต่อแจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ในด้านการป้องกันและแก้ไขความมั่นคงให้มวลชนในพื้นที่เป้าหมายผ่านสายด่วน กอ.รมน. 1374 และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน กอ.รมน.จังหวัด ในการบูรณาการด้านมวลชนและการข่าวเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาด้านยาเสพติด ปัญหาด้านการลักลอบตัดไม้ ปัญหาด้านแรงงานต่างด้าว และปัญหาความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง โดยเครือข่ายข่าวจะได้เป็นหูเป็นตาให้หมู่บ้าน ชุมชน ตำบลของตนเอง ในการแจ้งข่าวสารให้กับทางราชการต่อไป


ประนนท์  ไม้หอม ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

ธ.ส.ก.เมืองช้างได้รับเงินเพิ่ม 166 ล้าน ยันมีการจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนาอย่างต่อเนื่อง

นายไพโรจน์ รุ่งพนารัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.สุรินทร์ ได้รับเงินโอนเงินเข้ารอบที่ 14 เป็นจำนวนเงิน 166 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีการโอนเงินเข้าในส่วนของ ธ.ก.ส.สุรินทร์ ดำเนินการจ่ายเงินตามใบประทวนเรื่อยมา และคาดว่าจะมีวงเงินโอนตามมาอีกเรื่อยๆ  ขณะนี้ ธ.ก.ส.สุรินทร์ได้รับเงินโอนเพื่อจ่ายให้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกแล้วเป็นจำนวนเงิน 2,000,186,000 บาท และเงินจำนวนนี้ก็จะจัดสรรโอนไปให้ ธ.ก.ส. สาขา ทั้ง 21 สาขา ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อให้แต่ละสาขา เชิญลูกค้ามาทำสัญญา และจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้าในโครงการรับจำนำข้าวอีกทีหนึ่ง



ประนนท์  ไม้หอม ส.ปชส.สุรินทร์   รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการ

นายถาวร กุลโชติ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า  จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการในจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน 2557  โดยกำหนดจัดการแข่งขันทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี  ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการมีสุขภาพอนามัยแข็งแรง  มีความสัมพันธ์ที่ดีในการติดต่อประสานงานให้ราบรื่นยิ่งขึ้น โดยกำหนดจัดการแข่งขันกีฬาชนิดต่าง ๆ ดังนี้  กอล์ฟ  เปตอง วอลเลย์บอล ฟุตบอล  แชร์บอล ตะกร้อ และกีฬามหาสนุก  โดยจังหวัดสุรินทร์จะได้เชิญผู้แทนกระทรวงทุกกระทรวงร่วมหารือรายละเอียดการจัดการแข่งขันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญข้าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน



สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์เตรียมจัดงาน “วันช้างไทย 88 ไอยรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน” เพื่อยกย่องช้าง และประกาศเกียรติคุณช้างไทยที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2541 กำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น "วันช้างไทย” เพื่อเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นช้างในธงชาติ หรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือช้างเป็นสัตว์คู่บารมีพระมหากษัตริย์ ดังนั้น จังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดงาน “วันช้างไทย 88 ไอยรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน” ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม 2557 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดช เป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของช้าง ตลอดจนทำบุญอุทิศส่วนการกุศลให้แก่หมอช้าง ควาญช้าง และช้าง ถือว่าเป็นผู้มีคุณูปการต่อแผ่นดินไทย เพื่อยกย่องให้เกียรติช้างไทย และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์

ในงานมีกิจกรรม เช่น การเสวนาอนาคตช้างไทยและช้างสุรินทร์ไปทางไหน การตักบาตรบนหลังช้าง โดยนิมนต์พระสงฆ์ 88 เชือกนั่งบิณฑบาตรบนหลังช้าง และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมขบวนแห่คุณูปการช้างสารไทย จำนวน 88 เชือก จากบริเวณสนามหลังสถานีรถไฟสุรินทร์ เคลื่นขบวนไปตามถนนธนสาร ผ่านวงเวียนน้ำพุ ถึงบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง โดยมีริ้วขบวนประกอบด้วย สถิตคู่ธงไทยมาช้านาน ช้างคู่บารมีศรีกษัตริย์ไทย ขบวนช้างยุทธหัตถีเกรียงไกรก้องหล้า ช้างกับวัฒนธรรมประเพณีของไทย ช้างไทยกับพระพุทธศาสนา ขบวนช้างไทยกับจังหวัดสุรินทร์ ขบวนโลกของช้าง

จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญร่วมงานวันช้างไทย 88 ไอยรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน วันที่ 12-13 มีนาคม 2557 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยพร้อมเพรียงกัน


สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ จัดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557 เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่มีมากว่า 2,000 ปี

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557  ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557 เพื่อสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรม เพื่อเสริมช่องทางการตลาด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบถึงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน ซึ่งประชาชนอำเภอเขวาสินรินทร์ ทุกวัย ต่างพร้อมใจใส่ชุดผ้าไหม และเครื่องประดับที่ทำจากเงินเงินที่เรียกว่า ปะเกือม เพื่อแสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น มาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง

อำเภอเขวาสินรินทร์ ถือเป็นชุมชนโบราณทางประวัติศาสตร์ในสมัยอาณาจักรขอมเรืองอำนาจ และถือเป็นชุมชนบริวารของเมืองประทายสมันต์ มาจนถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากปราสาทบ้านแสรออ(แสร-ออ) (ปราสาททอง) และบ้านพระปืด (ปราสาทแก้ว) ซึ่งเป็นปราสาทสมัยยุคขอมโบราณ นอกจากนี้ ยังมีการขุดพบเครื่องใช้สมัยโบราณหลายรายการ ซึ่งจากการตรวจสอบทางโบราณคดียืนยันได้ว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี และที่ยืนยันว่าอำเภอ เขวาสินรินทร์ เป็นเมืองบริวารคู่กันมากับเมืองประทายสมันต์ ได้แก่ คูน้ำ กำแพงดิน มีลักษณะรูปแบบคล้ายคลึงกับคูเมืองประทายสมันต์ ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมประเพณีที่ชุมชนอำเภอเขวาสินรินทร์ ได้สืบทอดต่อกันมาได้แก่ แซนโดนตา แซนแสร เรือมตรษ เจรียงเบริน กันตรึม ลิเกเขมร และมีหมู่บ้านทอผ้าไหมที่สืบสานลายดอกมาแต่โบราณ แต่ที่สำคัญและเป็นที่เลื่องชื่อ คือการทำปะเกือม (ปะคำ) ซึ่งมีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณะเฉพาะตนที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ล้ำค่าทางภูมิปัญญาระดับชาติ และเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประชาชนในพื้นที่ ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ขบวนแห่ของดี 5 ตำบล การเดินแบบผ้าไหม การประกวดธิดาปะเกือม การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การประกวดแอโรบิค การแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้า OTOP การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และ การประเดินแบบชุดผ้าไหม และ เครื่องปะเกือม เครื่องประดับที่ทำจากเงิน จาก นายแบบและนางแบบกิตติมศักดิ์


กำชัย วันสุข ส.ปชส.สุรินทร์ ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมจัดประเพณีขึ้นเขาสวายเคาะระฆัง 1,080 ใบ กราบไหว้ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยว

นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า  จังหวัดสุรินทร์มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งผูกพันกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองมาอย่างยาวนานแห่งหนึ่ง คือ เขาสวาย หรือ พนมสวาย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาสวาย ในพื้นที่ตำบลนาบัว   และตำบลสวาย  อำเภอเมือง  จังหวัดสุรินทร์  ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 22 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเนินเตี้ยๆ ติดต่อกัน  รอบๆ บริเวณมีเวิ้งน้ำใหญ่ทิวทัศน์สวยงามมีพันธุ์ไม้หลากหลายมียอดเขาสำคัญ 3 ยอด ได้แก่ พนมเปร๊าะ  พนมสรัย  และพนมกรอล "พนมสวายหรือเขาสวาย” มีความสำคัญต่อชาวสุรินทร์มาแต่ครั้งโบราณกาล กล่าวคือ เมื่อถึงเดือนห้าของทุกปี บรรพบุรุษชาวสุรินทร์จะถือว่าเป็นงานประเพณีหยุดงาน ซึ่งการหยุดงานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ตอมตู๊จ ซึ่งหมายถึงวันหยุดงานเล็ก จะมีการหยุด ทำงานเพียง 3 วัน นับตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 3 ค่ำเดือนห้า ช่วงที่ 2 ช่วงตอมธม หมายถึง วันหยุดงานใหญ่จะมีการหยุดทำงานทั้งหมด 7 วัน นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ ถึงวันแรม 7 ค่ำ เดือนห้า ซึ่งประเพณีการหยุดงาน ตามช่วงระยะเวลาดังกล่าว ชาวสุรินทร์มีความเชื่อว่า ต้องหยุดการทำงานทั้งหมด หากใครไม่หยุดทำงานก็จะมีอันเป็นไปและในวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ของทุกปี ชาวจังหวัดสุรินทร์จะร่วมมือร่วมใจจัดงานบุญประเพณีขึ้นเขาสวายขึ้น ประกอบกับวันดังกล่าวถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติดังนั้น ชาวสุรินทร์จะหยุดงานและพากันเดินทางไปขึ้นเขาสวายเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลชีวิตต่อตนเองและครอบครัว

สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาสวายประกอบด้วย พระใหญ่หรือพระพุทธสุรินทรมงคล รอยพระพุทธบาทจำลอง อัฐิหลวงปู่ดูลย์อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ หลวงปู่สวนปราสาทหินพนมสวาย  ศาลเจ้าแม่กวนอิม เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาในปี 2551 จังหวัดสุรินทร์ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราช โดยได้ดำเนินการจัดหาระฆัง จำนวน 1,080 ใบ จากวัดทุกวัดในจังหวัดสุรินทร์ และวัดสำคัญอีก 10 วัด นำไปติดตั้งบริเวณทางขึ้นบันไดไปนมัสการพระพุทธสุรินทรมงคล และบริเวณรอบๆ สถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ดูลย์อตุโล ซึ่งมีความยิ่งใหญ่สวยงาม ปรากฏต่อสื่อสาธารณะอย่างกว้างขวาง และคาดว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่มีระฆังเป็นจำนวนมากที่สุดในโลกอีกด้วย
จังหวัดสุรินทร์จึงกำหนดจัดงานประเพณี "ขึ้นเขาสวาย เคาะระฆังพันใบ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำปี 2557” ในวันที่ 31 มีนาคม  2557 ซึ่งเป็นวันขึ้น 1 ค่ำ  เดือน 5 ณ วนอุทยานพนมสวาย อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์  ฟื้นฟู  และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป  และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์ด้วย   โดยในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ  ได้แก่  การกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาพนมสวาย  กิจกรรมการประกวดขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นกิจ   การแสดงวัฒนธรรมประเพณีและการละเล่นพื้นบ้าน  โดยผู้ที่มาร่วมงานจะแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองผ้าไหมผ้าสุรินทร์ตามประเพณีท้องถิ่น

จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวเที่ยวชมงานประเพณีขึ้นเขาสวายเคาะระฆังพันใบกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 31  มีนาคม นี้ โดยพร้อมเพรียงกัน


สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ เชิญร่วมงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557”

นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2557” ระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ 2557 ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการตลาดและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะมีทั้งกิจกรรมการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ การแสดงนิทรรศการการเกษตรอินทรีย์ การเสวนา สัมมนาวิชาการ เกษตรอินทรีย์ การจัดทัวร์เกษตรอินทรีย์ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม

โดยกำหนดเปิดงานในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.30 น. ณ เวทีกลางของการจัดงาน ทั้งนี้ ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมงานในครั้งนี้โดยทั่วกัน ตามวันและเวลาดังกล่าว



สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ เตรียมจัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 วันที่ 1-9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายอนุชา  วัชรศีขร  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 1-9  มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เฉลิมพระชนม์ 80 พรรษา (สวนใหม่)  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลผลิตของข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์และผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย  เพื่อสร้างรายได้  สร้างอาชีพให้กับประชาชนในจังหวัดสุรินทร์  ในงานมีกิจกรรมการแสดงนิทรรศการเกษตรอินทรีย์ นิทรรศการข้าวหอมมะลิอินทรีย์ นิทรรศการหม่อนไหมและผ้าไหม การแสดงศิลปวัฒนธรรม  การแข่งขันสาวไหม  การประกวดข้าวหอมมะลิอินทรีย์และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร  การประกวดผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์  การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และกิจกรรมการเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์
โดยมีพิธีเปิดงาน ในวันที่ 4 มีนาคม 2557 เวลา 17.30 น. ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เฉลิมพระชนม์ 80 พรรษา  ซึ่งพิธีเปิดงานจะมีนิทรรศการเกษตรอินทรีย์  นิทรรศการข้าวหอมมะลิอินทรีย์  นิทรรศการผ้าไหมสุรินทร์  การจำหน่ายสินค้า OTOP  นอกจากนั้นยังมีการแสดงชุดโสตลออ (ผ้าไหมสวย) จากโรงเรียนสุรวิทยาคาร  การแสดงเมดเลย์กันตรึม จากโรงเรียนสิรินธร  การเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมชุดหนูน้อยสืบสานภูมิปัญญาผืนผ้าสุรินทร์จากโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์  การเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์กิตติมศักดิ์จากหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์และคู่สมรส  การเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมชุดสืบสานภูมิปัญญาผืนผ้าสุรินทร์อาภรณ์อันทรงคุณค่าจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์   และการเดินแบบผ้าไหมชุดผ้าพื้นถิ่นสุรินทร์ 3 เผ่า จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์  เป็นต้น

จังหวัดสุรินทร์จึงขอความร่วมมือแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ หรือชุดสุภาพ ร่วมในพิธีเปิดงานในวันที่ 4 มีนาคม 2557 เวลา 17.30 น. ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนม์ 80 พรรษา


สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

เทศบาลเมืองสุรินทร์ ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เพื่อแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง

นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า ปัญหาขยะนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น การบริหารจัดการขยะที่มีมากถึงวันละ 48 – 59 ตันต่อวัน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการขยะในแต่ละวันต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเทศบาลเมืองสุรินทร์ไม่มีสถานที่ในการกำจัดขยะ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ต้องจ้างเหมาเอกชนในการขนย้ายไปกำจัดในจังหวัดใกล้เคียง เทศบาลเมืองสุรินทร์ได้ดำเนินโครงการคัดแยกขยะ (ลดขยะ ลดโลกร้อน ชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste of Surin)) ระหว่างเดือนธันวาคม 2556 – มกราคม 2557 โดยออกให้ความรู้ สาธิตการคัดแยกขยะมูลฝอย ณ ครัวเรือน การทำปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพในชุมชน 32 ชุมชน การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยจำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาศัยกระบวนการส่งเสริม กระตุ้น สนับสนุนให้ประชาชนในชุมชนให้ความร่วมมือ เพื่อก้าวสู่การลดปริมาณขยะมูลฝอยให้เหลือน้อยที่สุด และมีความยั่งยืน เทศบาลเมืองสุรินทร์ จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการคัดแยกขยะมูลฝอยจากจุดกำเนิดขยะ เช่น บ้านเรือน สำนักงาน และสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งเป็นหน้าที่หนึ่งในการรักษาความสะอาด กำจัดสิ่งปฏิกูลมูลฝอย จึงได้จัดโครงการกองบุญทอดผ้าป่ารีไซเคิล ขึ้น

เทศบาลเมืองสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ร่วมบริจาคขยะรีไซเคิล เช่น ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม กระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระดาษ หนังสือพิมพ์ ลังกระดาษ เศษพลาสติก เศษเหล็ก สังกะสี อลูมิเนียม เป็นต้น โดยจะนำรายได้จากการจำหน่ายขยะรีไซเคิลกลับคืนให้ชุมชนและสังคม ได้แก่ ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลเมืองสุรินทร์ ชมรม อสม.เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลเมืองสุรินทร์ ต่อไป โดยสามารถนำมาบริจาคได้ที่ กองบุญผ้าป่าขยะรีไซเคิล ตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่ 5 มีนาคม 2557 และขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าขยะในวันที่ 5 มีนาคม 2557 เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์


ศริณภาพร จันทสุข  ส.ปชส.สุรินทร์   รายงาน

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ได้รับรางวัลงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 63

นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากการที่โรงเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ส่งนักเรียนที่บกพร่องทางการได้ยิน (พิการหูหนวก) เข้าแข่งขันทักษะทางวิชาการ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 63 ประจำปีการศึกษา 2556 “สุดยอดเด็กไทย คิดไกล คิดเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม” Morality, Creativity, Ensuring Greatness ที่อาคารชาแลนเจอร์ 1-3 อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี และโรงเรียนวัดผาสุกมณีจักร นั้น โดยโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ได้ส่งนักเรียนเข้าแข่งขันจำนวน 18 รายการ และสามารถคว้ารางวัลมาได้ทั้งสิ้น 9 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน, 4 เหรียญทองแดง และเข้าร่วมการแข่งขัน 2 รายการ ซึ่งถือว่าการแข่งขันในปีนี้ ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน


กัญญรัตน์ เกียรติสุภา   ส.ปชส.สุรินทร์  รายงาน

เมืองช้างสุรินทร์ เปิดตัวทีมสโมสรฟุตบอล สุรินทร์ – ซิตี้ อย่างยิ่งใหญ่

วันนี้  21 กุมภาพันธ์  2557 ที่สโมสรนายทหารจังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ. เมือง จ. สุรินทร์ ทีมสโมสรฟุตบอลสุรินทร์ ซิตี้ เปิดตัวสโมสร และนักเตะโฉมใหม่อย่างยิ่งใหญ่เพื่อทำศึกในการแข่งขันฟุตบอล ดิวิชั่น 2 ฤดูกาลปี 2014 หรือปี 2557 นี้ พร้อมทั้งร่วมแถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงความพร้อมของทีมและตัวผู้เล่น มีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนรายใหญ่ ร่วมแถลงข่าวกับนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานที่ปรึกษาสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ พร้อมทั้งผู้ให้การสนับสนุน โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนง และแขกผู้มีเกียรติชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมในกิจกรรมการเปิดตัวสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ในครั้งนี้กันอย่างคึกคักเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานที่ปรึกษาทีมสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ กล่าวว่า ทีมสโมสรสุรินทร์ ซิตีในฤดูกาลนี้ ได้รักการสนับสนุนจาก สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยนายเนวิน ชิดขอบ เป็นผู้ให้การสนับสนุนรายใหญ่ นอกเหนือจากรายอื่นๆ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนตัวนักเตะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะระดับทีมเยาวชนทีมชาติไทยมากกว่าค่อนทีมพร้อมมีตัวเล่นที่อิมพอร์ตจากเมืองนอกอีก 2 – 3 ตัว โดยนายเนวิน ชิดชอบกล่าวว่าจะช่วยสนับสนุนทีมสุรินทร์ ซิตี้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งฤดูกาลและตลอดไป ในฐานะสุรินทร์เป็นบ้านเกิด พร้อมให้คำมั่นว่าในฤดูกาลนี้ทีมสุรินทร์ ซิตี้จะเป็นทีมอยู่อันดับแรกของตารางอย่างแน่นอน พร้อมทั้งจะผลักดันให้ขึ้นอยู่ในดิวีชั่น 1 ในฤดูกาลหน้าต่อไป


ประนนท์ ไม้หอม    ส.ปชส.สุรินทร์   รายงาน

อบจ.นครพนม รับสมัครประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย ห่างไกลยาเสพติด “อบจ.นครพนมสานฝัน เทิดไท้องค์ราชัน” โครงการ 5 TO BE NUMBER ONE

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ได้จัดทำโครงการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย ห่างไกลยาเสพติด "อบจ.นครพนมสานฝัน เทิดไท้องค์ราชัน” โครงการ 5 TO BE NUMBER ONE ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แสดงความสามารถในเวทีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมจัดขึ้น และส่งเสริมให้ผู้ที่ชนะการประกวดก้าวขึ้นไปสู่ระดับสากลจนถึงสามารถบันทึกแผ่นเสียงและพัฒนาไปสู่ระดับสูงยิ่งๆขึ้นไป รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด และส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป โดยแบ่งการประกวดเป็น 3 ประเภท ประกอยด้วย

      -ประเภทรุ่นเล็ก อายุ 15-19 ปี
      -ประเภทรุ่นใหญ่ อายุ 20-40 ปี
      -ประเภทรุ่นพิเศษ(อาวุโส) อายุ 41 ปีขึ้นไป

กำหนดการรับสมัครระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ถึงวันที่ 13 มีนาคม 2557 ณ สถานีวิทยุ ส.ทร.7 นครพนม (อ.บรรจบ ภูล้อมทาง หมายเลขโทรศัพท์ 086-8543629 ) , สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (ฝ่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตและพัฒนาสังคม หมายเลขโทรศัพท์ 042-516293 , 089-9442234 ) ในวันและเวลาราชการ หรือดาวน์โหลดจาก www.nkppao.com โดยจะเริ่มทำการประกวดร้องเพลงตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป

โครงการจังหวัดเคลื่อนที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

จังหวัดนครพนม หน่วยงานราชการ  รัฐวิสาหกิจ  ออกให้บริการเคลื่อนที่ในพื้นที่ อ.วังยาง ณ โรงเรียนวังยางวิทยาคม

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  นำหน่วยงานราชการ  รัฐวิสาหกิจ  ออกให้บริการเคลื่อนที่ในพื้นที่อำเภอวังยาง  เพื่อความสะดวกต่อประชาชนในการรับบริการต่างๆ  จัดนิทรรศการให้ความรู้  โดยมีสำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ออกให้บริการการทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่ด้วยรถโมบาย  บริการตัดผม  การจำหน่ายสินค้าราคาถูก  การแนะนำความรู้ด้านเกษตรและปศุสัตว์  นอกจากนี้  สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม  มอบโฉนดที่ดิน  จำนวน 30 ราย  สำนักงานประมงน้ำจืดจังหวัดนครพนม  มอบพันธุ์ปลา  จำนวน 50,000 ตัว  สำนักงานเกษตรจังหวัดมอบปัจจัยการผลิตเกษตรกร  จำนวน 3 ราย  สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด  มอบคู่มือเลี้ยงสัตว์ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนวังยางวิทยาคม  และมอบเวชภัณฑ์ยาให้ตัวแทนอาสาปศุสัตว์ตำบล  กองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา  สยามบรมราชกุมารี  โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม  มอบทุนการศึกษา จำนวน 2 ทุนๆละ 1,200  บาท  สำนักงานศูนย์พัฒนาสังคม  หน่วยที่ 19 นครพนม  มอบทุนการศึกษา  20 ทุนๆ ละ 500 บาท  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  มอบถุงยังชีพ  จำนวน 10 ชุด สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม  มอบถุงยังชีพ 90 ชุด  อำเภอวังยางมอบเสื้อกันหนาว  จำนวน 90  ตัว  ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม  มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่พึ่ง  จำนวน 20 รายๆละ 1,000  บาท

มหาวิทยาลัยนครพนม รับสมัครผู้สนใจเข้ารับการสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่ง "คณบดีคณะวิทยาศาสตร์"

มหาวิทยาลัยนครพนม   รับสมัครผู้สนใจเข้ารับการสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่ง  "คณบดีคณะวิทยาศาสตร์" โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม 2557 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  สำนักงานสภามหาวิทยาลัยนครพนม อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร ชั้น 4 โทร.0 4253-2477-8 ต่อ 1153 หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์มหาวิทยาลัยนครพนม http://www.npu.ac.th/npu_today.php?news_id=1392696201 และสามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารภายในวันที่ 21 มีนาคม 2557

โครงการประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาไทยสู่นวัตกรรม

นางนัยนา  บุญยรัชชัยนนท์  เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน  รักษาราชการแทนพาณิชย์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า  กรมทรัพย์สินทางปัญญา  กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  จัดโครงการประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาไทยสู่นวัตกรรม  เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความในการแข่งขันทางการค้าของคนไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา  ด้วยการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมหรือภูมิปัญญาไทยนำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์และเป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  เข้าร่วมประกวดระดับประเทศ  ผู้สนใจส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมโครงการ  ส่งใบสมัครได้ที่  สำนักงานบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  โทรศัพท์ 0-4320-2733 หรือ อีเมล : jittla@kku.ac.th  ภายในวันที่  28 กุมภาพันธ์  2557  ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม  www.moc.go.th/nakhonphanom  หัวข้อ  ข่าว/ประกาศ ข่าวประชาสัมพันธ์

อบจ.นครพนมประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย ห่างไกลยาเสพติด

นายสมชอบ  นิติพจน์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย  ห่างไกลยาเสพติด  ภายใต้ชื่อกิจกรรม "อบจ.นครพนมสานฝัน  เทิดไท้องค์ราชัน”  โครงการ 5 TO BE NUMBER  ONE  ประจำปี 2557  เพื่อให้เด็ก  เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  ห่างไกลยาเสพติด  และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถด้านการ้องเพลงลูกทุ่งไทยได้แสดงความสามารถ  รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น   รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่  13  มีนาคม  2557  และประกวดตั้งแต่วันเสาร์ที่  15  มีนาคม  2557  เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป  ณ สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  โทรศัพท์  และสถานีวิทยุ ส.ทร.7 นครพนม

เชิญเข้าร่วมอบรมโครงการส่งเสริมการปลูกยางพาราแก่เกษตรกรจังหวัดนครพนม

นายภักดีสยาม  พรหมอินทร์  ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดนครพนม   ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง  จัดทำ "โครงการส่งเสริมการปลูกยางพาราแก่เกษตรกรจังหวัดนครพนม” โดยผู้ที่ยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ  เข้ารับการถ่ายทอดความรู้เรื่องการปลูกยางพาราจาก สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง  ให้ได้ใบรับรองการ่วมอบรมตาม โครงการฯ  เพื่อนำใบรับรองการร่วมอบรมไปยื่นขอกู้ต่อ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์  ซึ่งเป็นเอกสารที่สำคัญ  ในวันที่ 24  กุมภาพันธ์  2557  ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม  เวลา 08.00 น. หากไม่เข้าร่วมอบรมถือว่าสละสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการฯ

อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ เปิดงานเกษตรอินทรีย์ วิถีแคน “ปลูกถั่วพร้า เพิ่มคุณค่าดิน ลดหนี้สินเกษตรกร”

อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ เปิดงานเกษตรอินทรีย์ วิถีแคน "ปลูกถั่วพร้า เพิ่มคุณค่าดิน ลดหนี้สินเกษตรกร”เพื่อเป็นทางเลือกเกษตรกร ลดใช้สารเคมี ลดต้นทุนการผลิต พร้อมจัดประกวดพืชผลทางเกษตร แข่งขันผัว-เมีย หว่านถั่วพร้า ชิงเงินรางวัล อื่นๆอีกมาก มีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก

วันนี้ (20 ก.พ.57)  ที่วัดสว่างนายม หมู่ที่3 บ้านนายม ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ นายชูศักดิ์ จำเรียงฤทธิ์ นายอำเภอสนม พร้อมด้วยนายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ เปิดงานเกษตรอินทรีย์ วิถีแคน "ปลูกถั่วพร้า เพิ่มคุณค่าดิน ลดหนี้สินเกษตรกร”เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่เกษตรกรรม โดยการลดใช้สารเคมี ลดต้นทุนการผลิต ลดหนี้สินให้กับเกษตรกร โดยมีนายภานุวัฒน์ บุติมาล์ย นายกเทศบาลตำบลแคน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารการศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนเข้าร่วมงาน จำนวนมาก

นายชูศักดิ์ จำเรียงฤทธิ์ นายอำเภอสนม กล่าวว่า วิถีการทำนาของเกษตรกรตำบลแคน เริ่มใช้ปุ๋ยเคมีและยาเคมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ระบบนิเวศน์เริ่มเสื่อมลง อำเภอสนมจึงได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอสนมและสำนักงานเทศบาลตำบลแคน จัดงานขึ้นเพื่อเป็นการแก้เพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรในการลดปัญหาการใช้สารเคมีลง และเป็นการอนุรักษ์สภาพสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ให้ยั่งยืน

ภายในงานยังมีจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานราชการต่างๆ การแข่งขันผัว-เมีย หว่านถั่วพร้า การประกวดมะพร้าวน้ำหอหอม การแข่งขันประกวดไก่พื้นเมือง(ไก่ชน) การแข่งขันกินวิบาก และประกวดพืชผลทางเกษตร พร้อมการจำหน่ายสินค้าพืชผลทางการเกษตรและสินค้า OTOP ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็น จำนวนมาก


อุทัย มานาดี ข่าว

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ได้รับรางวัลงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 63

นายบุญรักษ์  คลองมิ่ง  ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่าจากการที่โรงเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ส่งนักเรียนที่บกพร่องทางการได้ยิน (พิการหูหนวก) เข้าแข่งขันทักษะทางวิชาการ  งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ  ครั้งที่   63   ประจำปีการศึกษา   2556   "  สุดยอดเด็กไทย  คิดไกล  คิดเยี่ยม  เปี่ยมคุณธรรม ”  Morality, Creativity, Ensuring  Greatness  ที่อาคารชาแลนเจอร์  1-3   อิมแพคเมืองทองธานี  จังหวัด นนทบุรี  และโรงเรียนวัดผาสุกมณีจักร  นั้น   โรงเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ได้ส่งนักเรียนเข้าแข่งขันจำนวน  18  รายการ  และสามารถคว้ารางวัลมาได้ทั้งสิ้น  9  เหรียญทอง,   3  เหรียญเงิน,   4  เหรียญทองแดง  และเข้าร่วมการแข่งขัน      2 รายการ ซึ่งถือว่าการแข่งขันในปีนี้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน

สุรินทร์เข้ม ลุยพื้นที่เสี่ยง สถานบริการ ร้านเกมส์ หยุดแพร่ระบาดยาเสพติด

เมื่อคืนนี้เวลา 23.00  น. ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสุรินทร์ นำโดย ว่าที่ ร.ต.เรวัต เครือบุตดีมหาโชค ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย นายพัฒนศาสตร์ รัตนวีระจิต ปลัดป้องกันอำเภอเมืองสุรินทร์ นายอภิรัตน์ อรรถเวทิน วัฒนธรรมอำเภอเมืองสุรินทร์ และกำลังเจ้าหน้าที่ อส. กองร้อย อส.อ.เมืองสุรินทร์ที่ 3 ได้ร่วมกันออกตรวจเข้ม เพื่อเฝ้าระวังและสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ในสถานบันเทิง ร้านเกมส์ อินเทอร์เน็ต และพื้นที่สุ่มเสี่ยง ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปราม ปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม  พร้อมกำชับผู้ประกอบการ สถานบันเทิง สถานบริการร้านเกมส์อินเทอร์เน็ต ร้านคาราโอเกะ ให้ความร่วมมือและช่วยกันดูแลสังคม

โดยเฉพาะไม่ยุ่งหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ความผิดตามกฎหมายสถานบริการ และพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย อาทิการเปิด – ปิด เกินเวลา การปล่อยให้เด็กและเยาวชนเข้าไปมั่วสุม ยินยอมหรือปล่อยปะละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยพบผู้เสพยาเสพติด จำนวน 14 ราย และจะมีการดำเนินการขยายผลการทำงานเพื่อหยุดแพร่ระบาดยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง  สำหรับผู้ที่มีผลการตรวจปัสสาวะเป็นฉี่ม่วงจะนำเข้าสู่การบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในระบบสมัครใจ ซึ่งกำหนดไว้ประมาณเดือนเมษายน 57

ประเทศไทย เข้าร่วมประชุมปลัดกระทรวงการคลังเอเปค พร้อมชี้แจง สถานการณ์การเมืองจะไม่กระทบเศรษฐกิจถ้าคลี่คลายได้ในระยะสั้น

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง มอบหมายให้นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลังเอเปค (APEC Finance Deputies’ Meeting : APEC FDM) ระหว่างวันที่ 17-20 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เมืองโป๋อ้าว มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพ้องว่าเศรษฐกิจโลกมี สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค ควรดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และควรเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

อย่างไรก็ดี สหรัฐได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยว่าอาจจะส่งผล กระทบต่อเศรษฐกิจ โดยนายสมชัย ได้ชี้แจงว่า ผลกระทบจะไม่รุนแรงหากสถานการณ์ทางการเมืองสามารถคลี่คลายได้ในระยะสั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่งอยู่มาก

นักลงทุนยังไม่ขอยื่นลงทุนอีโคคาร์ 2 ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ มั่นใจปี 2560 ไทยผลิตรถยนต์ได้ 3 ล้านคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน มาตรฐานสิ่งแวดล้อม ระยะ2 หรือ อีโคคาร์ เฟส2 เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนของการลงทุนว่า คุ้มค่าหรือไม่

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวว่า จากการหารือกับเอกชน ยังมั่นใจศักยภาพการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย เพราะนอกจากมีการผลิตรถยนต์ ยังมีการผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ที่สร้างมูลค่ามหาศาล เชื่อว่าปี 2560 ไทยจะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 3 ล้านคัน ตามเป้าหมายที่รัฐบาลและเอกชนวางไว้

แพทยสภาเตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ กำหนดให้แพทย์ที่จะทำศัลยกรรมต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐาน

นายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองประชาชน จากการประกอบวิชาชีพเวชกรรม เกี่ยวกับการศัลยกรรมตกแต่ง การเสริมสวย มีมติร่วมกันที่จะยกระดับการให้บริการของแพทย์ ด้านการศัลยกรรม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค และสร้างมาตรฐานรับวิสัยทัศน์ของแพทยสภาที่ต้องการให้ไทย เป็นประเทศมหาอำนาจด้านการแพทย์ในทุกด้าน โดยนำร่องด้านศัลยกรรมตกแต่ง

เห็นชอบร่วมกัน จัดทำร่างประกาศแพทยสภา เรื่องหลักเกณฑ์และมาตรฐานแพทย์ ที่จะประกอบวิชาชีพด้านเวชกรรมเพื่อการเสริมความงาม เบื้องต้นแพทย์ทั้งหมด ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรระยะสั้น เกี่ยวข้องกับการเสริมความงามทั้งหมด

กระทรวงแรงงาน เผยความต้องการแรงงาน ไตรมาส 4 ปี 10,945 คน

นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน ได้รายงานสถานการณ์ความต้องการแรงงาน ที่นายจ้างประกาศรับสมัครทางหนังสือพิมพ์ ไตรมาส 4 ปี 2556 (ตุลาคม – ธันวาคม) โดยกองวิจัยตลาดแรงงาน ว่า ความต้องการแรงงานที่นายจ้างประกาศรับสมัครทางหนังสือพิมพ์ รวมไตรมาส 4 นายจ้างต้องการแรงงาน 10,945 คน จากสถานประกอบการ 202 แห่ง

ธ.ส.ก.สุรินทร์ได้รับเงินเพิ่ม 166 ล้าน เพื่อจ่ายให้กับชาวนา

นายไพโรจน์ รุ่งพนารัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.สุรินทร์ ได้รับเงินโอนเงินเข้ารอบที่ 14 เป็นจำนวนเงิน 166 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีการโอนเงินเข้าในส่วนของ ธ.ก.ส.สุรินทร์ ดำเนินการจ่ายเงินตามใบประทวนเรื่อยมา และคาดว่าจะมีวงเงินโอนตามมาอีกเรื่อยๆ ขณะนี้ ธ.ก.ส.สุรินทร์ได้รับเงินโอนเพื่อจ่ายให้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกแล้วเป็นจำนวนเงิน 2,000,186,000 บาท

อธิบดีกรมอนามัย ระบุ เมนูไข่มดแดงกำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้เพราะอยู่ในช่วงฤดูกาล โดยเน้นต้องปรุงสุกทุกครั้งก่อนนำมารับประทาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอุจจาระร่วง

อธิบดีกรมอนามัย ระบุ เมนูไข่มดแดงกำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้เพราะอยู่ในช่วงฤดูกาล โดยเน้นต้องปรุงสุกทุกครั้งก่อนนำมารับประทาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอุจจาระร่วง

นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลที่เมนูไข่มดแดงกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะหาซื้อได้ตามท้องตลาด และบางพื้นที่ยังสามารถสอยไข่มดแดงมาปรุงประกอบได้เอง ซึ่งไข่มดแดงถือเป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะมีโปรตีนสูง โดยในไข่มดแดง 100 กรัม หรือประมาณ 6 ช้อนกินข้าว จะมีโปรตีนสูงถึง 8.2 กรัม นอกจากนี้ไข่มดแดงยังมีไขมันและแคลอรีน้อยกว่า เมื่อเทียบกับไข่ไก่

นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ กล่าวว่า วิธีการนำไข่มดแดงมาปรุงประกอบให้สะอาดปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องล้างก่อนนำมาปรุงประกอบอาหาร และต้มหรือลวกให้สุกทุกครั้ง ไม่ควรกินแบบสุก ๆ ดิบ ๆ สำหรับวัตถุดิบที่นิยมนำมาปรุงประกอบกับไข่มดแดง มักจะเป็นผักพื้นบ้าน จะต้องล้างทำความสะอาด ทั้งนี้การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ จะมีความสะอาดปลอดภัย สำหรับอาหารประเภทยำ ไม่ควรเก็บไว้ค้างมื้อโดยเด็ดขาดเพราะบูดเสียได้ง่าย ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการปวดท้องและโรคอุจจาระร่วงได้

กกต. ยืนยัน การเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง ไม่สามารถจัดได้ทันในเดือนมีนาคม และ กกต. อาจทำหนังสือสอบถามเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกาไปยังรัฐบาลอีกครั้ง หลังพบคำตอบยังไม่ชัดเจน

กกต. ยืนยัน การเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง ไม่สามารถจัดได้ทันในเดือนมีนาคม และ กกต. อาจทำหนังสือสอบถามเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกาไปยังรัฐบาลอีกครั้ง หลังพบคำตอบยังไม่ชัดเจน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยอำนาจการจัดการเลือกตั้ง ใน 28 เขตเลือกตั้ง ที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ว่า มีปัญหาเกี่ยวกับหนังสือตอบกลับจากรัฐบาล ที่พบว่า ยังมีเนื้อหาไม่ชัดเจน ว่ารัฐบาลเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับ กกต. ในการออกพระราชกฤษฎีกาจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง เนื่องจากในหนังสือดังกล่าว เป็นเพียงการส่งความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ได้แสดงถึงจุดยืนของรัฐบาล จึงอาจทำให้ กกต. ต้องทำหนังสือถามความเห็นไปยังรัฐบาลอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายสมชัย ยืนยันว่า กกต. อยากจัดการเลือกตั้งให้เสร็จโดยเร็ว แต่ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ เชื่อว่า การจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง ไม่สามารถจัดได้ทันในเดือนมีนาคม และไม่ต้องการจัดการเลือกตั้งซ้อนกับการเลือกตั้ง ส.ว. เพราะอาจเกิดการคัดค้าน ขัดขวาง การเลือกตั้ง จนทำให้การเลือกตั้ง ส.ว. เสียไปได้

นอกจากนี้ นายสมชัย ยังกล่าวถึงจุดยืนของ กกต. ว่า จะอาศัยอำนาจ กกต. ตามมาตรา 78 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ในการประเมินสถานการณ์ และอยากให้ฝ่ายการเมืองพูดคุยกัน เมื่อสถานการณ์สงบ กกต. ก็พร้อมจะจัดการเลือกตั้งให้โดยเร็ว
ส่วนกรณีการวางตัวของข้าราชการ ในช่วงการเลือกตั้งนั้น ขอให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลาง และระมัดระวังเกี่ยวกับการดำเนินการใด ๆ ที่อาจเข้าข่ายความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งหากเกิดความไม่มั่นใจ ข้าราชการสามารถทำหนังสือขอคำแนะนำจาก กกต. ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบาล มีปัญหาการร้องเรียนในภายหลัง

อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ จัดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557 เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่มีมากว่า 2,000 ปี

ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรม เพื่อเสริมช่องทางการตลาด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบถึงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน ซึ่งประชาชนอำเภอเขวาสินรินทร์ ทุกวัย ต่างพร้อมใจใส่ชุดผ้าไหม และเครื่องประดับที่ทำจากเงินเงินที่เรียกว่า ปะเกือม เพื่อแสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น มาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง

อำเภอเขวาสินรินทร์ ถือเป็นชุมชนโบราณทางประวัติศาสตร์ในสมัยอาณาจักรขอมเรืองอำนาจ และถือเป็นชุมชนบริวารของเมืองประทายสมันต์ มาจนถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากปราสาทบ้านแสรออ(แสร-ออ) (ปราสาททอง) และบ้านพระปืด (ปราสาทแก้ว) ซึ่งเป็นปราสาทสมัยยุคขอมโบราณ นอกจากนี้ยังมีการขุดพบเครื่องใช้สมัยโบราณหลายรายการ ซึ่งจากการตรวจสอบทางโบราณคดียืนยันได้ว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี และที่ยืนยันว่าอำเภอ เขวาสินรินทร์ เป็นเมืองบริวารคู่กันมากับเมืองประทายสมันต์ ได้แก่ คูน้ำ กำแพงดิน มีลักษณะรูปแบบคล้ายคลึงกับคูเมืองประทายสมันต์ ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมประเพณีที่ชุมชนอำเภอเขวาสินรินทร์ ได้สืบทอดต่อกันมาได้แก่ แซนโดนตา แซนแสร เรือมตรษ เจรียงเบริน กันตรึม ลิเกเขมร และมีหมู่บ้านทอผ้าไหมที่สืบสานลายดอกมาแต่โบราณ แต่ที่สำคัญและเป็นที่เลื่องชื่อ คือการทำปะเกือม (ปะคำ) ซึ่งมีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณะเฉพาะตนที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ล้ำค่าทางภูมิปัญญาระดับชาติ และเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประชาชนในพื้นที่

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ขบวนแห่ของดี 5 ตำบล การเดินแบบผ้าไหม การประกวดธิดาปะเกือม การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การประกวดแอโรบิค การแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้า OTOP การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และ การประเดินแบบชุดผ้าไหม และ เครื่องปะเกือม เครื่องประดับที่ทำจากเงิน จาก นายแบบและนางแบบกิตติมศักดิ์

ททท.สุรินทร์ จัดโครงการ “ไหม – ไอยรา” กระตุ้นการท่องเที่ยวอีสานใต้ ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาค

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ กำหนดจัดทำแผนปฏิบัติการส่งเสริมการตลาดปี 2557 โครงการ "ไหม – ไอยรา” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอีสานใต้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาค โดยกำหนดจัดกิจกรรม Agent Education Trip (AET) และ Media Education Trip (MET) ระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยวของภูมิภาคอีสานใต้และสื่อมวลชน ได้สำรวจความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก และสถานประกอบการในพื้นที่อีสานใต้ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมของสินค้าที่จะนำเสนอขายให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ในเส้นทางท่องเที่ยวเส้นทางไหม – ไอยรา ต่อไป

ทั้งนี้ ททท. สำนักงานสุรินทร์ ได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน และมีการบูรณาการระหว่างพันธมิตรในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมเดินทางสำรวจในเส้นทางไหม – ไอยรา ตามเส้นทางต่าง ๆ ดังนี้ เยี่ยมชม ตลาดช่องจอม ด่านชายแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ เยี่ยมชม ด่านชายแดนช่องสะงำ ชมสิ่งปลูกสร้างที่ตกแต่งด้วยขวดแก้วนับล้านใบจากศรัทธาของประชาชน ณ วัดล้านขวด เยี่ยมชมปราสาทเขาพระวิหาร และ ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ชมวิถีชีวิตของคนเลี้ยงช้าง ร่วมพิธีเซ่นศาลปะกำอันศักดิ์สิทธิ์ ณ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง จังหวัดสุรินทร์ ชมแหล่งเรียนรู้ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยกิจกรรมสุดตื่นเต้น เช่น โรยตัวข้ามน้ำจากหอไอเฟล ปีนกำแพงเมืองจีน สะพานเชือกทาวเวอร์บริดจ์ และชื่นชมอุทยานไม้ดอก ณ เพลาเพลินฯ ชมสนามฟุตบอล ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ของทีมลูกหนังชื่อดัง "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
นอกจากนี้ สำรวจความพร้อมของสถานประกอบการ และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ชมกระบวนการผลิต "ผ้าภูอัคนี” ผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟของชุมชนบ้านเจริญสุข สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ เขาอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ จากนั้นชมศิลปะการถักทอเส้นไหม ณ หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าเสนอขาย "เส้นทาง เที่ยว 2 ช่อง ท่องอารยธรรมขอม” ณ เรือนไม้กลางน้ำ โรงทอผ้าจันทรโสมา จังหวัดสุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการ

นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการในจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน 2557 โดยกำหนดจัดการแข่งขันทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการมีสุขภาพอนามัยแข็งแรง มีความสัมพันธ์ที่ดีในการติดต่อประสานงานให้ราบรื่นยิ่งขึ้น
โดยกำหนดจัดการแข่งขันกีฬาชนิดต่าง ๆ ดังนี้ กอล์ฟ เปตอง วอลเลย์บอล ฟุตบอล แชร์บอล ตะกร้อ และกีฬามหาสนุก โดยจังหวัดสุรินทร์จะได้เชิญผู้แทนกระทรวงทุกกระทรวงร่วมหารือรายละเอียดการจัดการแข่งขันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญข้าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี กำหนดเสด็จเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ To Be Number One ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ วันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้

นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สุรินทร์เตรียมความพร้อมเฝ้ารับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในโอกาสที่จะทรงเสด็จเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ To Be Number One ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยในภาพรวมจังหวัดสุรินทร์ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านที่เฝ้ารับเสด็จวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 โดยเสด็จ ณ ที่โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้ เสด็จทรงติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพระราชทานขวัญกำลังใจแก่เยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ จากนั้นจะทรงเปิด ชมรม TO BE NUMBER ONE และ ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนพสกนิกรชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมเฝ้ารับเสด็จในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยพร้อมเพรียงกัน

จ.สุรินทร์ เตรียมจัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 วันที่ 1-9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จ.สุรินทร์เตรียมจัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 วันที่ 1-9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายอนุชา วัชรศีขร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 1-9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนม์ 80 พรรษา (สวนใหม่) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลผลิตของข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์และผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชนในจังหวัดสุรินทร์ ในงานมีกิจกรรมการแสดงนิทรรศการเกษตรอินทรีย์ นิทรรศการข้าวหอมมะลิอินทรีย์ นิทรรศการหม่อนไหมและผ้าไหม การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแข่งขันสาวไหม การประกวดข้าวหอมมะลิอินทรีย์และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การประกวดผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และกิจกรรมการเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ โดยมีพิธีเปิดงาน ในวันที่ 4 มีนาคม 2557 เวลา 17.30 น. ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนม์ 80 พรรษา

ซึ่งพิธีเปิดงานจะมีนิทรรศการเกษตรอินทรีย์ นิทรรศการข้าวหอมมะลิอินทรีย์ นิทรรศการผ้าไหมสุรินทร์ การจำหน่ายสินค้า OTOP นอกจากนั้น ยังมีการแสดงชุดโสตลออ (ผ้าไหมสวย) จากโรงเรียนสุรวิทยาคาร การแสดงเมดเลย์กันตรึม จากโรงเรียนสิรินธร การเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมชุดหนูน้อยสืบสานภูมิปัญญาผืนผ้าสุรินทร์จากโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ การเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์กิตติมศักดิ์จากหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์และคู่สมรส การเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมชุดสืบสานภูมิปัญญาผืนผ้าสุรินทร์อาภรณ์อันทรงคุณค่าจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และการเดินแบบผ้าไหมชุดผ้าพื้นถิ่นสุรินทร์ 3 เผ่า จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ เป็นต้น จังหวัดสุรินทร์จึงขอความร่วมมือแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ หรือชุดสุภาพ ร่วมในพิธีเปิดงานในวันที่ 4 มีนาคม 2557 เวลา 17.30 น. ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนม์ 80 พรรษา



สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

กกต. มั่นใจการจัดการเลือกตั้งทดแทนใน 5 จังหวัด ในวันที่ 2 มีนาคม จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวยืนยันความพร้อมจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ทดแทน ใน 5 จังหวัดที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม นี้ ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพชรบุรี ระยอง สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ว่า ได้ประสานกับกกต.จังหวัด กรมการปกครอง และฝ่ายความมั่นคง พร้อมดูแลการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 13 ตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและหน่วยงานในสังกัดที่จังหวัดอำนาจเจริญ

ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานจังหวัดอำนาจเจริญ นางนันทิยา อุ่นประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 13 ได้เดินทางมาตรวจราชการติดตามผลการดำเนินงานตามกลุ่มโครงการบูรณาการตามนดยบายของรัฐบาล และกลุ่มโครงการบูรณาการตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งกลุ่มโครงการพิเศษ เช่น โครงการพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/2557 โดยมีหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดอำนาจเจริญ รวมทั้งที่ปรึกษาในด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุมชี้แจงรายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมาให้รับทราบ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน

ซึ่งแต่ละโครงการมีความก้าวหน้าและอยู่ในระหว่างดำเนินการ เช่น การพัฒนาสินค้าเกษตรให้สู่มาตรฐาน ทั้งทางด้านประมง ปศุสัตว์ ด้านวิชาการเกษตร และด้านกรมการข้าว เป็นต้น ทั้งนี้ ทางโครงการชลประทานจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำชลประทานในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา และน้ำในแต่ละอ่างมีปริมาณเพียงพอต่อการทำเกษตรในระยะนี้ แต่อย่างไรก็ดีก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนและเกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัด ด้วยการปลูกพืชที่มีอายุสั้นและใช้น้ำน้อย และให้ใช้น้ำจากระบบชลประทานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนทางด้านสำนักงานเกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในปีนี้มีแนวโน้มเกษตรกรจะปลูกพืชฤดูแล้งสูงถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับปัที่แล้ว ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำชลประทานยังมีปริมาณมาก ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดการอบรมให้ความรู้ และคำแนะนำในการพัฒนาผลผลิตทางด้านการเกษตรทำนาและการปลูกพืชฤดูแล้ง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สูงและมีคุณภาพตามหลักวิชาการต่อไป

สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดอำนาจเจริญ จัดตั้งศูนย์เครือข่ายธุรกิจ Biz Club

นางสาวภัทราพร ตัณฑ์พูลเกียรติ หัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายจัดตั้งศูนย์เครือข่ายธุรกิจ หรือ Biz Club ขึ้นในแต่ละจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์กลางส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการและสร้างเครือข่ายธุรกิจทุกระดับ ให้เกิดการรวมตัวช่วยเหลือกันในการประกอบธุรกิจ ศูนย์เครือข่ายธุรกิจ หรือ Biz Club นี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบธุรกิจ เพราะจะเป็นเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่างผู้ทำธุรกิจในพื้นที่ จะเป็นหนทางในการสร้างพันธมิตรระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ตลอดจนสถาบันทางการเงินที่จะเข้ามาให้การสนับสนุน ให้ความรู้ ให้คำแนะนำและแนวทางในการแก้ไขปัญหาธุรกิจแบบครบวงจร ตรงกับสภาพปัญหาในพื้นที่ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน สำหรับผู้สนใจต้องการสมัครเป็นสมาชิกศูนย์เครือข่ายธุรกิจ Biz Club สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดอำนาจเจริญ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ โทรศัพท์หมายเลข 045-523135 ในวันและเวลาราชการ

สำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งหลักเกณฑ์การสรรหา พิจารณาคัดเลือก ประกาศยกย่องเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติและผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี 2557

นางอนงค์  หุตานุกุล  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ด้วยศูนย์บริหารงาน ป.ป.ช.จังหวัด สำนักงาน ป.ป.ช. โดยกำหนดกรอบหลักเกณฑ์การสรรหา พิจารณาคัดเลือกประกาศยกย่องเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติและผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี 2557 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจรับทราบ โดยมีหลักเกณฑ์ 6 ประเด็นได้แก่ (1) ประเภท (2) สาขา (3) ขอบเขตของสาขา (4) คุณสมบัติ/หลักเกณฑ์ในการพิจารณา (5) ขั้นตอนการสรรหาพิจารณาคัดเลือก และ (6) การรับพระราชทานรางวัลและการเชิดชูเกียรติ

ทั้งนี้ กำหนดให้ผู้สมัครเจ้าของผลงานที่สนใจส่งแบบเสนอประวัติและผลงานไปยังสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ ทางไปรษณีย์ ภายในวันที่ 30 เมษายน 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานป้องกันการทุจริต  สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ อาคารหอประชุมพญานาครินทร์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ โทรศัพท์ หมายเลข 045-523-253-4  โทรสาร 045-523-253 ในวันเวลาราชการ


สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดรับการยื่นคำขอยกเลิกการลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร

นายปริญญา  นากลาง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอำนาจเจริญ  แจ้งว่า  ด้วยสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง เปิดรับการยื่นคำขอยกเลิกการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกเขตราชอาณาจักร ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เป็นการเลือกตั้งทั่วไป  ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ขอรับแบบคำขอยกเลิกและยื่นด้วยตนเองได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดอำนาจเจริญ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในตำบลของท่านหรือส่งทางไปรษณีย์มาที่ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดอำนาจเจริญ  อย่าลืม!!!เอกสารที่ต้องยื่นประกอบ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดอำนาจเจริญ ศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญ โทร. 0-4552-3134 หรือ 0-4552-3029



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว    

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี จัดเวทีเสวนาสมานฉันท์สัญจร ครั้งที่ 1

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี จัดเวทีเสวนาสมานฉันท์สัญจร ครั้งที่ 1 ตามโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความสมนาฉันท์และความสามัคคีของคนในชาติ ประจำปี 2557

วันนี้ ( 21 ก.พ.57 )  ที่หอประชุมโรงเรียนศรีปทุมพิทยาคาร อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี จัดเวทีเสวนาสมานฉันท์สัญจร ครั้งที่ 1 ตามโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความสมนาฉันท์และความสามัคคีของคนในชาติ ประจำปี 2557 โดยมีนายคำยืน วงศ์ชาลี ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา พร้อมกล่าวว่า จากสถานการณ์สังคมไทยในปัจจุบัน ประชาชนชาวไทยมีความแตกต่างทางความคิดอย่างชัดเจน มุ่งประโยชน์เพื่อส่วนตนมากกว่าส่วนรวม จนกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งและอาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคมได้

กรมประชาสัมพันธ์ในฐานะหน่วยงานหลักในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจอันดีให้กับประชาชนทั่วประเทศ มอบหมายให้สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในภูมิภาคทั่วประเทศ จัดโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความสมนาฉันท์และความสามัคคีของคนในชาติ ประจำปี 2557 เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของคนในสังคม ให้มีความสมัครสมานสามัคคี ทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ มุ่งเน้นที่กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียน นักศึกษา และเยาวชน ถือเป็นอนาคตสำคัญของประเทศชาติ

การจัดเวทีเสวนาสมานฉันท์สัญจร ครั้งนี้ มีนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียน ศรีปทุมพิทยาคาร โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช โรงเรียนปทุมพิทยาคม นักวิชาการ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สาเหตุ และแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยมีการถ่ายทอดเสียงออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี ระบบ เอฟ.เอ็ม.ความถี่ 98.5 เมกกะเฮิร์ต ตั้งแต่เวลา 10.00-12.00 น.



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

เมืองช้างสุรินทร์ เปิดตัวทีมสโมสรฟุตบอล สุรินทร์ – ซิตี้ อย่างยิ่งใหญ่

จังหวัดสุรินทร์เปิดตัวทีมฟุตบอลสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีผู้ให้การสนับสนุนและกองเชียรสุรินทร์ร่วมงานอย่างคึกคัก

วันนี้ ( 21 ก.พ. 57 ) ที่สโมสรนายทหารจังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ. เมือง จ. สุรินทร์ ทีมสโมสรฟุตบอลสุรินทร์ ซิตี้ เปิดตัวสโมสร และนักเตะโฉมใหม่อย่างยิ่งใหญ่เพื่อทำศึกในการแข่งขันฟุตบอล ดิวิชั่น 2 ฤดูกาลปี 2014 หรือปี 2557 นี้ พร้อมทั้งร่วมแถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงความพร้อมของทีมและตัวผู้เล่น มีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนรายใหญ่ ร่วมแถลงข่าวกับนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานที่ปรึกษาสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ พร้อมทั้งผู้ให้การสนับสนุน โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนง และแขกผู้มีเกียรติชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมในกิจกรรมการเปิดตัวสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ในครั้งนี้กันอย่างคึกคักเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานที่ปรึกษาทีมสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ กล่าวว่า ทีมสโมสรสุรินทร์ ซิตีในฤดูกาลนี้ ได้รักการสนับสนุนจาก สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยนายเนวิน ชิดขอบ เป็นผู้ให้การสนับสนุนรายใหญ่ นอกเหนือจากรายอื่นๆ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนตัวนักเตะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะระดับทีมเยาวชนทีมชาติไทยมากกว่าค่อนทีมพร้อมมีตัวเล่นที่อิมพอร์ตจากเมืองนอกอีก 2 – 3 ตัว โดยนายเนวิน ชิดชอบกล่าวว่าจะช่วยสนับสนุนทีมสุรินทร์ ซิตี้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งฤดูกาลและตลอดไป ในฐานะสุรินทร์เป็นบ้านเกิด พร้อมให้คำมั่นว่าในฤดูกาลนี้ทีมสุรินทร์ ซิตี้จะเป็นทีมอยู่อันดับแรกของตารางอย่างแน่นอน พร้อมทั้งจะผลักดันให้ขึ้นอยู่ในดิวีชั่น 1 ในฤดูกาลหน้าต่อไป


ประนนท์ ไม้หอม /ข่าว

จังหวัดอุบลราชธานี คัดเลือกเยาวชนเข้าค่ายยุวชนประชาธิปไตย

อุบลราชธานี : คัดเลือกเยาวชนเข้าค่ายยุวชนประชาธิปไตย 2 รุ่นๆ ละ 2 คน รุ่นที่ 1 วันที่ 17-26 มี.ค. 57 ได้เยาวชนจากโรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยาและโรงเรียนนารีนุกูล รุ่นที่ 2 วันที่ 31 มี.ค.- 9 เม.ย. 57 ได้เยาวชนจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีและจากโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช พร้อมคัดเลือกสำรองอีกรุ่นละ 3 คน

เช้าวันนี้ (21 ก.พ.57) นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเยาวชน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตย จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 2 รุ่น รุ่นที่ 1 เข้าค่ายกิจกรรมวันที่ 17-26 มี.ค.57 โดยมีเยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนต่างๆ สมัครเข้าร่วมจำนวน 10 ราย คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก 2 ราย และสำรอง 3 ราย ได้แก่นายอนุชิต วิลานันท์ ชั้น ม.5 โรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยา อ.น้ำยืน และนายศิธิพงษ์ นันธะสาร ชั้น ม.5 โรงเรียนนารีนุกูล อ.เมือง และสำรองอีก 3 ราย ได้แก่นายกฤตเมธ ปัญญา ชั้น ม.6 โรงเรียนลือคำหาญวารินชำราช, นายกิติพงษ์ ทองโคตร ชั้น ม.4 โรงเรียนสว่างวีระวงศ์ อ.สว่างวีระวงศ์และนางสาวศรสรรค์ ยอดแก้ว ชั้น ม.5 โรงเรียนเขมราฐพิทยา อ.เขมราฐ ส่วนรุ่นที่ 2 เข้าค่ายวันที่ 31 มี.ค.- 9 เม.ย.57 โดยมีเยาวชนระดับชั้นอุดมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนต่างๆ สมัครเข้าร่วมจำนวน 5 ราย คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก 2 ราย และสำรอง 3 ราย ได้แก่นางสาวปิยพรวดี ทองดี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะรัฐสาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และนางสาวอัมรา บุตรจันทร์ ชั้น ม.5 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช และสำรอง 3 ราย ได้แก่นางสาวปิยนุช วงศ์ปัดสา ชั้น ม.5 โรงเรียนเขมราฐพิทยาคม,นางสาวทิชาพร คำพิภาค ชั้น ม.5 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช และนายณรงฤทธิ์ ศรีจันทร์ ชั้น ม.5 โรงเรียนท่าโพธิ์ศรีพิทยา อ.เดชอุดม

การจัดโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการจัดกิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557 จำนวน 2 รุ่นๆ ละ 160 คน เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้รับความรู้ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอีกทั้งเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองและเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยและเพื่อให้โอกาสเยาวชนได้เข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบันนิติบัญญัติอย่างเท่าเทียมกันในทุกภูมิภาค ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นเยาวชนอายุ 15-20 ปีและกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายสามัญและสายอาชีพและระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมเสริมความเข้มแข็งตามโครงการเอดส์รอบ 10 เพื่อติดตามการดำเนินงานของคณะทำงานเด็กในชุมชน

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ห้องเอนกประสงค์ โรงแรมบ้านสวน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีนายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเปิดการประชุม คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมเสริมความเข้มแข็งของตามโครงการเอดส์รอบ 10 ซึ่งจัดขึ้นโดยหน่วยงานภาคีหลักตามโครงการเอดส์ รอบ 10 ประกอบด้วยหน่วยงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชธานี มูลนิธิเพิร์ล.เอส.บัค มูลนิธิเพื่อสุขภาพและแบ่งปัน มูลนิธิเอดส์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานต่างๆ ที่มีบทบาทภารกิจในการให้ความช่วยเหลือเด็ก

ทั้งนี้โครงการเอดส์รอบ 10 กำหนดให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด เป็นกลไกหลักในการประสานด้านนโยบายและส่งเสริมให้มีการดำเนินงานร่วมกันกับ หน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและชุมชน โดยมีบทบาทหน้าที่ในการประชุมติดตามการดำเนินงานของคณะทำงานเด็กในชุมชน ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินโครงการในเขตพื้นที่ 9 อำเภอ รวม 66 ตำบล ได้แก่ อำเภอเขมราฐ อำเภอนาตาล อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอกุดข้าวปุ้น อำเภอวารินชำราบ อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอตระการพืชผล และอำเภอเขื่องใน

การจัดประชุมเสริมความเข้มแข็งของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดอุบลราชธานีในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลการประชุมติดตามการดำเนินงานของคณะทำงานเด็กในชุมชน ต่อคณะอนุกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด และเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานในการให้ความช่วยเหลือเด็กการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การส่งต่อให้ความช่วยเหลือเด็กจากระดับชุมชนถึงจังหวัด รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาในการดำเนินโครงการ เพื่อนำผลการประชุมเสนอต่อคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดอุบลราชธานี

โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดอุบลราชธานีการและคณะทำงานเด็กในชุมชน

ทูลหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จติดตามการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ทรงติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดอุบลราชธานี

ทูลหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จติดตามการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ทรงติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดอุบลราชธานี วันศุกร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 18.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จติดตามการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONEของจังหวัดอุบลราชธานี ทรงเปิดชมรม TO BE NUMBER ONE และเปิดศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ทรงเยี่ยมและพระราชทานกำลังใจแก่สมาชิก "ใครติดยายกมือขึ้น”

ปัจจุบัน จังหวัดอุบลราชธานี มีผลการดำเนินโครงการ TOBE NUMBER ONE อยู่ในกลุ่มจังหวัด TO BE NUMBER ONE พร้อมเป็นต้นแบบระดับเพชร โดยจังหวัดอุบลราชธานี ได้น้อมนำโครงการ TO BE NUMBER ONE เป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชน มีการบูรณาการแผนงานและงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ มีการรับสมัครสมาชิก TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชุมชน และในสถานประกอบการ ปัจจุบันมีสมาชิก TO BE NUMBER ONE อายุ 10-24 ปี จำนวน 437,619 คน มีการสนับสนุนการ จัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONEในสถานศึกษา สถานประกอบการ และในชุมชน โดยมีการจัดตั้งแล้ว 6,237 ชมรม และจากการดำเนินกิจกรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชมรม อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดนวัตกรรมการส่งเสริมให้เยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี กล้าคิด กล้าทำ กล้านำ และกล้าแสดงออก ในทางที่ถูกต้อง เหมาะสม ภายใต้คำขวัญ " เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด ”

นอกจากนี้จังหวัดอุบลราชธานี ยังได้ขยายเครือข่าย TO BE NUMBER ONE ของจังหวัด ไปยังโรงเรียนพอนสวรรค์ โรงเรียนมัธยมบ้านจัดสัน และโรงเรียนประถมบ้านจัดสัน แขวงจำปาสัก และในปี 2557 มีแผนขยายไปยังแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวด้วย สำหรับโครงการ "ใครติดยายกมือขึ้น” ของจังหวัดอุบลราชธานี มีวัตถุประสงค์การดำเนินงานเพื่อลดอัตราการเสพยาเสพติด พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด เพื่อกลับเป็นคนดีของสังคม มีผู้สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก "ใครติดยายกมือขึ้น” จำนวน 162 คน โดยจังหวัดอุบลราชธานีได้ดูแลช่วยเหลือ บำบัดรักษาและติดตามเยี่ยมโดยได้ส่งเสริมด้านการศึกษา จำนวน 56 ราย ส่งเสริมด้านอาชีพ 42 ราย และประกอบอาชีพอิสระ 64 ราย

สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาภาครัฐ ปัจจุบันการเรียนการสอนทั้งในระดับประกาศนียบัตร จนถึงปริญญาเอก มีนักศึกษารวมทั้งสิ้น 20,204 คน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประชุม ผงผ่าน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้ผลักดัน และสนับสนุนให้นักศึกษาดำเนินงานตามแนวทางโครงการ TO BE NUMBR ONE ด้วยความเชื่อมั่นว่าเป็นแนวทางของการพัฒนาเยาวชนที่ดีโดยมหาวิทยาลัยได้จัดสรรงบประมาณ และจัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE รวมทั้งจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็น สำหรับการดำเนินกิจกรรมของศูนย์ โดยได้รับการสนับสนุนด้านการพัฒนาคุณภาพของอาสาสมัครแกนนำประจำศูนย์ และการจัดกิจกรรมในศูนย์จาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทำหน้าที่เลขานุการโครงการในระดับจังหวัดต่อไป

ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ชี้แจงภารกิจอำนาจหน้าที่ของศูนย์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดอำนาจเจริญ


เวลา 13.00 น. วันนี้ ( 21 กุมภาพันธ์ 2557)   ที่ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ  นายนิรันดร ชัยศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เดินทางมาประชุมชี้แจงเกี่ยวกับภารกิจ อำนาจหน้าที่ ของศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดอำนาจเจริญ รับทราบ เพื่อประสิทธิภาพในการประสานการปฏิบัติและการบังคับใช้กฎหมายร่วมกันกับหน่วยงานในพื้นที่ เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ

ทั้งนี้ นายนิรันดร ชัยศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ  กล่าวว่าศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 จัดตั้งขึ้นตามคำสั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อเดือนมีนาคม 2556 เป็นหน่วยงานภายในและราชการส่วนกลาง ขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  มีสำนักงานตั้งอยู่ เลขที่ 3164 ข้างวัดราชสีมาราม ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา รับผิดชอบในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และจังหวัดยโสธร  โดยศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 หรือ ศปพ.ภาค 3 มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันปราบปราม สืบสวนความผิดที่กำหนดเป็นคดีพิเศษในพื้นที่รับผิดชอบ  วิเคราะห์และพิสูจน์ความผิดคดีพิเศษที่ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมาตามขั้นตอน และทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียนกล่าวหามีผู้กระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นเพื่อพิจารณาเสนอคดีพิเศษต่อไป ซึ่งคดีพิเศษนี้จะมีลักษณะ ซับซ้อนจำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนพิเศษ หรือมีผลกระทบรุนแรงต่อ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระบบเศรษฐกิจการคลังของประเทศ  รวมทั้งการกระทำผิดข้ามชาติ หรือผู้มีอิทธิพลเป็นตัวการสำคัญ เป็นต้น

ในการลงพื้นที่ชี้แจงครั้งนี้ ทำให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ มีความรู้ ความเข้าใจความหมายของคดีพิเศษ และทราบขั้นตอนการปฏิบัติและประสานงานเพื่อดำเนินงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมกับประชาชนทุกระดับสาขาอาชีพ



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

กกต.กำหนดวันรับสมัคร ส.ว. 4-8 มีนาคม 2557 นี้

นายทรงเกียรติ เสนาพันธ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ แจ้งมายังสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษว่า สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 จะครบวาระในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 118 บัญญัติให้ต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันครบวาระ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเห็นชอบเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา โดยกำหนดวันสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม 2557 และกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 เป็นวันเลือกตั้ง

การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า นอกเขตจังหวัด ผู้ทำงานหรืออาศัยอยู่จังหวัดอื่น ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ว. ได้ ณ ที่เลือกตั้งกลางของจังหวัดที่ตนทำงานหรืออาศัยอยู่ได้ แต่ต้องยื่นคำขอลงทะเบียน หรือยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิ เพื่อขอใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นอำเภอหรือเทศบาลที่ตนเองอาศัยอยู่ ก่อนวันเลือกตั้งอย่างน้อย 30 วัน คือตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557

ส่วนการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต้องเดินทางไปนอกเขตเลือกตั้งที่ตนต้องไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง หรือในวันเลือกตั้งไม่สามมารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือข้าราชการที่ได้รับคำสั่งให้ไปปฎิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง สามารถไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ว. ล่วงหน้าได้ ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง โดยต้องยื่นคำขอลงทะเบียนต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่อในทะเบียนบ้าน พร้อมหลักฐานที่แสดงว่าไม่อาจไปใช้สิทธิลงคะแนนในวันเลือกตั้งได้ เพื่อขอใช้สิทธิลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง โดยยื่นคำขอลงทะเบียนฯ ระหว่าง 10-14 มีนาคม 2557


สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์

สาธารณสุขจังหวัดยโสธร จัดประกวดสปอตวิทยุงดใช้เครื่องสำอางผิดกฎหมาย

  นายสุใหญ่ หลิ่มโตประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร โดยกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค จัดประกวดสปอตวิทยุ (Radio Spot) หัวข้อ "งดใช้เครื่องสำอางผิดกฎหมายหรือโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง”

               - มีเนื้อหาเกี่ยวกับการงดใช้เครื่องสำอางผิดกฎหมายหรือโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง - ความยาว 0.30 – 1.30 นาที
              - บันทึกเสียงจากอุปกรณ์ชนิดใดก็ได้
              - ผู้มีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวด ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป
              - กำหนดส่งผลงาน ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557
              - ดาวน์โหลดใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ facebook: งานควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย สสจ.ยโสธร
              รางวัล
              - รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
              - รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
              - รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 1,500 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
              - รางวัลชมเชย 2 รางวัล ๆ ละ 1,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ทุกรางวัล



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.มุกดาหาร ออกให้บริการประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว ของจังหวัดมุกดาหาร ออกไปให้บริการประชาชนด้านสุขภาพอนามัยในท้องถิ่นทุรกันดาร บ้านแวงใหม่ หมู่ที่๘ ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้ไม่ต้องเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัด และเพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยบริการดังกล่าว มีการให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป โรคทางช่องปากและบริการทันตกรรม ตลอดจนการให้ความรู้ในการป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชน รวมถึงการมอบยาตำราหลวงแก่ผู้สูงอายุที่มาในวันนี้

และในการออกหน่วยครั้งนี้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหารได้มอบแว่นสายตาและเสื้อกันหนาวแก่ผู้สูงอายุ ตามโครงการดวงตาสดใสด้วยแว่นสายตาของเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร โดยมีประชาชน บ้านแวงใหม่ และ หมู่บ้านใกล้เคียงมารับบริการของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งนี้เป็นจำนวนมาก



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดมุกดาหาร รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นพี่เลี้ยงเด็กพิการ

นางสาววัชราภรณ์  ผิวขำ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดมุกดาหาร สังกัดสำนักบริหารการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็น พี่เลี้ยงเด็กพิการ จำนวน ๖ อัตรา แบ่งเป็น พี่เลี้ยงเด็กพิการประจำอำเภอเมือง ๒ อัตรา พี่เลี้ยงเด็กพิการประจำอำเภอดอนตาล จำนวน ๒ อัตรา พี่เลี้ยงเด็กพิการประจำอำเภอคำชะอี จำนวน ๒ อัตรา

ผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครได้ด้วยตนเอง ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดมุกดาหาร เลขที่ ๒๔๔ หมู่ที่ ๕ บ้านหนองแอก ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๓๐ น. – ๑๖.๓๐ น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ ๐๔๒-๖๙๔-๐๓๕ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ และคัดเลือกโดยการสัมภาษณ์ ในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดมุกดาหาร



สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหาร สอบราคาจ้างเหมาปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างของทางราชการ

นางณิทฐา แสวงทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานจังหวัดมุกดาหาร      มีความประสงค์จะสอบราคาจ้างเหมาปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างของทางราชการ จำนวน ๒ รายการ คือปรับปรุงซอมแซมบ้านพักข้าราชการ เป็นเงิน ๑๙๐,๐๐๐ บาท และปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเงิน ๓๔๕,๐๐๐ บาท ราคากลางของงานก่อสร้างในการสอบราคาครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น ๕๓๕,๐๐๐ บาท (ห้าแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) กำหนดดูสถานที่ก่อสร้างในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๙.๓๐ น. ณ บ้านพักข้าราชการสำนักงานจังหวัด ถนนมุกดาหาร-คำชะอี อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร และบ้านพักรองผู้ว่าราชการ ถนนวงศ์คำภา อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร กำหนดยื่นซองสอบราคาในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ถึง ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. ณ กลุ่มอำนวยการ สำนักงานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ชั้น ๔ และกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ น.เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารสอบราคาจ้างชุดละ ๕๐๐ บาท ได้ที่กลุ่มงานอำนวยการสำนักงานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ชั้น ๔ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น.ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.mukdahan.go.th หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข ๐๔๒-๖๑๑๓๓๐ ในวันและเวลาราชการ


สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง ส.ว.30 มีนาคม 57 เตือนประชาชนแจ้งใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า

กกต.มีมติกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 และกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ว. ล่วงหน้าทั้งในและนอกเขตวันที่ 23 มีนาคม 2557 เตือนผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตจังหวัด วันสุดท้าย 28 กุมภาพันธ์ และลงทะเบียนใช้สิทธิ์ในเขตจังหวัด วันที่ 10 - 14 มีนาคม นี้

(21-2-57) นายสาโรช ไพเราะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งชุดเดิมจะครบวาระในวันที่ 2 มีนาคม 2557 และรัฐธรรมนูญกำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 30 วัน กกต.จึงมีมติกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาใน วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 และกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาล่วงหน้าทั้งในและนอกเขตวันที่ 23 มีนาคม 2557 โดยจะมีการรับสมัครเลือกตั้งในระหว่างวันที่ 4 - 8 มีนาคม 2557

สำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่ประสงค์จะใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ว.ล่วงหน้า ได้กำหนดวันลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์นอกเขตจังหวัด วันสุดท้ายคือวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สำนักทะเบียนท้องถิ่นที่ท่านมีชื่อยู่ หรือหากประสงค์จะถอนสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ส่วนการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ในเขตจังหวัด กำหนดวันที่ 10 - 14 มีนาคม 2557


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 10 พอใจผลการดำเนินงานจังหวัดบึงกาฬ

นายสาโรช บุญบุตร ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ (ชั่วคราว) นายจำรัส ศักดิ์จิรพาพงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 10 นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และนายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมประชุมเพื่อรับทราบการดำเนินงานของจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งอยู่ในเขตตรวจราชการที่ 10 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำปีงบประมาณ 2557 รอบที่ 1

ทั้งนี้มีประเด็นการติดตามที่น่าสนใจ ประกอบด้วย แผนงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเน้นเรื่อง นโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก ซึ่งมีกิจกรรมประกอบด้วย โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านพืชในความดูแลของสำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬ โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าอินทรีย์ ในความดูแลของ สำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬ และ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ โครงการฝึกอบรมผู้ประกอบการอาหารไทยรองรับครัวไทยสู่ครัวโลก ในความดูแลของ สำนักงานแรงงานจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ และ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬ และ โครงการพัฒนามาตรฐานการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายเข้าสู่มาตรฐาน Primary GMP ในความดูแลของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ โครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการของจังหวัดบึงกาฬ ในความดูแลของ สำนักงานจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ โครงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์หรือระบบคมนาคมขนส่ง ในความดูแลของ สำนักงานทางหลวงชนบท และ แขวงการทางบึงกาฬ และ โครงการพัฒนาระบบสาธารณสุขตามแนวชายแดนไทย – ลาว ในความดูแลของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ

ซึ่งทุกโครงการนั้นมีผลการดำเนินงานในภาพรวมเป็นที่น่าพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ เช่น โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าอินทรีย์นั้น ได้มีการจัดตั้งกลุ่มผลิตสินค้าอินทรีย์ ประเภทข้าวสาร ที่ อำเภอเซกา อำเภอพรเจริญ และ อำเภอศรีวิไล รวมจำนวน 8 กลุ่ม และจะขยายไปอีกในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งหมู่บ้านศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในทุกหมู่บ้านของทุกอำเภอในจังหวัด ส่วนการพัฒนาการท่องเที่ยวและบริการของจังหวัดบึงกาฬนั้น มีการตั้งงบประมาณเพื่อปรับปรุง สถานที่ท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรม ปรับปรุงถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ที่จอดรถยนต์ ห้องน้ำ/สุขา โดยใช้งบประมาณถึง 118 ล้านบาทเศษ ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป และบางโครงการก็เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว ขณะเดียวกันก็มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดได้มีการจัดกำลังตำรวจเพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ไว้ 1 ชุด เรียบร้อยแล้ว

ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยต่อว่า สำหรับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของจังหวัดบึงกาฬนั้น ในส่วนของแขวงการทางบึงกาฬ มีการขยายถนนเป็นสี่เลนในทุกเส้นทางที่จะเข้าสู่จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งทั้งหมดบรรจุในแผนของกรมทางหลวง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทุกเส้นทาง กำหนดจะแล้วเสร็จภายในปี 2561 ในส่วนของ สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดบึงกาฬนั้น รับผิดชอบ ถนนสายรองในจังหวัดบึงกาฬประมาณ 400 กิโลเมตร ที่ผ่านมามีความเสียหาย 50% และได้ทำการซ่อมแซมไปแล้วจนเหลืออยู่เพียง 70 กิโลเมตร ปี 2557 นี้ ได้รับงบประมาณมาปรับปรุงเพิ่มอีก 30 กิโลเมตร จึงเหลือถนนรอการปรับปรุงอีกเพียง 40 กิโลเมตร เท่านั้น สำหรับเรื่องการพัฒนาระบบสาธารณสุขตามแนวชายแดนไทย – ลาว นั้น จังหวัดบึงกาฬ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างจังหวัดบึงกาฬ และ แขวงบอริคำไซ เพื่อควบคุมโรคตามแนวชายแดนจำนวน 18 โรค พร้อมทั้งจัดให้มีการให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ไทย และ ลาว เป็นรายไตรมาส เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบสาธารณสุขร่วมกัน ในการตรวจราชการนี้คณะผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และ คณะได้ลงพื้นที่เพื่อดูการปฏิบัติงานจริง ณ บ้านแสนเจริญ ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ เพื่อดูการพัฒนาคุณภาพสินค้าเข้าสู่มาตรฐานด้านพืช และ ดูการพัฒนามาตรฐานการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายเข้าสู่มาตรฐาน Primary GMP ณ กลุ่มข้าวเม่าแม่บัวไข บ้านห้วยไม้ซอด หมู่ 9 ตำบลปากคาด อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ อีกด้วย

จังหวัดบุรีรัมย์ ออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน และหน่วยแพทย์ พอ.สว. ให้บริการประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

จังหวัดบุรีรัมย์ จัดโครงการหน่วย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน และหน่วยแพทย์ พอ.สว. ออกให้บริการตรวจรักษาโรคและบริการทันตกรรม พร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภค และผ้าห่มกันหนาว แก่ประชาชนที่ยากไร้ ในถิ่นทุรกันดาร ในพื้นที่อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์

(21 ก.พ.57) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดโครงการหน่วย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน และหน่วยแพทย์ พอ.สว. จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ร.ร.วัดหนองปล่อง ต.หนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยการนำคณะแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป การรักษาโรคด้วยสมุนไพร บริการทันตกรรม ทั้งถอนฟัน อุดฟัน รวมทั้งให้ความรู้ด้านทันตสุขศึกษาโภชนาการ การป้องกันโรค การดูแลตนเอง และความรู้การป้องกันการเกิดโรค นอกจากนั้นทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด ได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค และผ้าห่มกันหนาว มอบให้แก่ประชาชนที่ยากไร้ขาดแคลน ในถิ่นทุรกันดารห่างไกล

โดยมีประชาชนมารอรับบริการตรวจรักษาโรคเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากอยู่ในช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทางหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จึงได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อออกให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ยากไร้ในถิ่นทุรกันดารตามเจตนารมณ์ของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.

ผู้การตำรวจชัยภูมิ แถลงผลจับแก๊งทวงเงินกู้รายวัน

ตำรวจ สภ.บ้านเขว้า บุกจับกุม แก๊งทวงเงินกู้รายวัน ขณะเข้าไปทวงหนี้ลูกค้า ในลักษณะข่มขู่ ได้พร้อมของกลาง รับสารภาพ ทวงเงินจริง หลังลูกค้าค้าชำระมา 2 งวด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหา ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ 21 ก.พ. 57 พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภจว.ชัยภูมิ แถลงข่าวจับกุมแก๊งทวงเงินกู้รายวัน ที่บริเวณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ จับได้ในท้องที่ สภ.บ้านเข้า อ.บ้านเขว้า ขณะทวงเงินกับลูกค้ารายหนึ่ง ที่ บ้านเลขที่ 129 ม.14 ต.ลามลำชี อ.บ้านเขว้า โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจ สภ.บ้านเขว้า ได้รับแจ้งว่า มีแก๊งเงินกู้รายวัน ได้เข้าไปทวงหนี้ กับนางสมโพด พลปัถพี อายุ 39 ปี ในลักษณะพูดจาข่มขู่ จะทำร้ายร่างกาย หากไม่จ่ายหนี้ หลังตรวจสอบพบว่า มีการทวงหนี้จริง จึงทำการจับกุมได้ตัวผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายทนงศักดิ์ วงษา อายุ 28 ปี คนจังหวัดปทุมธานี และนายไกรสร ก้อนจ้าย อายุ 29 ปี คนจังหวัดอุทัยธานี ของกลาง สมุดรายชื่อลูกค้า 1 เล่ม นามบัตรแนะนำการกู้ยืม 20 แผ่น โดยทั้งสองคน ยมรับว่า มาทวงเงินกับนางสมโพดจริง ซึ่งยืมไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 57 เป็นเงิน 6 หมื่นบาท ตกลงว่าจะส่งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจำนวน 24 งวดๆละ3,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 25 บาทต่อเดือน แต่นางสมโพดฯ ไม่ได้ส่งมา 2 งวดแล้ว จึงออกไปทวงถาม พร้อมข่มขู่ หากไม่ชำระ ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี ข้อหา ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภจว.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า คดีปล่อยเงินกู้รายวัน ดอกเบี้ยสูง เป็นการเอาเปรียบลูกหนี้ และยังสร้างอิทธิพลทำให้ลูกหนี้หวาดกลัว โดยเฉพาะรายที่จับได้ครั้งนี้ ภรรยาคือนางสมโพดฯ เป็นคนยืม แต่สามี เป็นทุกข์แทน รับกับสภาพหนี้ และการทวงถาม ข่มขู่ไม่ไหว จนตัดสินใจผูกคอตายหนีหนี้ ที่เมียก่อเอาไว้ แต่มีคนไปพบและช่วยชีวิตเอาไว้ได้ .


สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ผู้ตรวจสำนักนายกฯเขต 12 พร้อมผู้ตรวจกระทรวงอีก 6 กระทรวง ลงพื้นที่ขอนแก่นตรวจติดตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 12 พร้อมผู้ตรวจราชการกระทรวงอีก  6 กระทรวง ลงพื้นที่จังหวัดขอนแกน ตรวจติดตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลคือนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก  และการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

เช้าวันนี้ ( 21 ก.พ.57)  ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น  นายวนิดา  สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 12  พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงอีก  6  กระทรวง  ประกอบด้วยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา  กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงแรงงาน  และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้เดินทางมาตรวจติดตามนโยบาย แผนงานและโครงการที่สำคัญของรัฐบาล  ประจำปีงบประมาณ  2557 ประกอบด้วยโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก  และการเตรียมพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในเป็น  2558 ของจังหวัดขอนแก่น  โดยมีนายวิวัฒ  เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  ให้การต้อนรับ , บรรยายสรุปผลการดำเนินงานของโครงการ นโยบายของทั้งสองโครงการที่ตรวจติดตาม ตลอดจนรายงานปัญหา,อุปสรรค,ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานให้คณะผู้ตรวจราชการ ฯได้รับทราบ

สำหรับนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก  มีโครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการในจังหวัดขอนแก่นประกอบด้วย โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านพืช GIP ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดขอนแก่น, โครงการพัฒนามาตรฐานการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย,       โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าอินทรีย์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น  และโครงการฝึกผู้ประกอบการอาหารไทยรองรับครัวไทยสู่ครัวโลกของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานขอนแก่น  ส่วนการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน  ประกอบด้วยการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการโลจิสติกส์ในจังหวัดขอนแก่น  การพัฒนาการท่องเที่ยวและการบริการ  ในช่วงบ่ายคณะของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ตรวจราชการกระทรวงต่าง ๆ ยังได้ลงพื้นที่ตำบลห้วยเตย  ตำบลคูคำ อำเภอซำสูง  เพื่อตรวจติดตามโครงการพัฒนาการเกษตรของอำเภอ และลงพื้นที่บ้านหนองหัววัว ตำบลโคกสี  อำเภอเมืองขอนแก่น  จังหวัดขอนแก่น  เพื่อเยี่ยมชมการพัฒนามาตรฐานการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายสู่มาตรฐานของผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วย



สมพงษ์ ปัตตานี/ ข่าว/อารมย์/พิมพ์ 

พลังมวลชนจังหวัดขอนแก่น กว่า 4,000 คน ร่วมกันเดินรณรงค์ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ในจังหวัดที่เหลือ

พลังมวลชนหลายกลกลุ่มในจังหวัดขอนแก่น  จำนวนกว่า 4,000 คน รวมตัวกันสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ในจังหวัดที่เหลือ และเรียบร้องให้หยุดแช่แข็งประชาธิปไตย

เมื่อเวลา  15.00 น. วันนี้ (21 ก.พ.57) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ได้มีพลังมวลชนในจังหวัดขอนแก่นหลายกลุ่มประกอบด้วย กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  ประชาชน  ผู้รักประชาธิปไตย  นักเรียน  นักศึกษา  จำนวนประมาณ  4,000 คน ได้มารวมตัวกัน พร้อมถือป้ายเรียกร้องให้คนไทยร่วมใจกันลดความขัดแย้ง  จัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ในจังหวัดที่เหลืออีก  8 จังหวัด  เรียกร้องให้กลุ่ม กปปส.หยุดการแช่แข็งประชาธิปไตย  จังหวัดขอนแก่นสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นต้น  จากนั้นในเวลา  15.20 น นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต  ผวจ.ขอนแก่น ได้มาพบถึงกลุ่มผู้ชุมนุม  พร้อมรับปากว่าจะรายงานให้รัฐบาลทราบตามต้องการของพลังมวลชน และขอบคุณชาวขอนแก่นที่เป็นห่วงชาติบ้านเมือง และอยากให้ชาติบ้านเมืองมีการพัฒนาต่อไปภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

จากนั้น  กลุ่มพลังมวลชน  ได้ออกเดินรณรงค์จากสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น  ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น  ก่อนย้อนกลับมาจุดเทียน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย


สมพงษ์ ปัตตานี/ ข่าว/อารมย์/พิมพ์