วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การสืบหาบุคคลสูญหาย

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม ได้รับการประสานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ว่าได้รับแจ้งจากนางจารุวรรณ ปิ่นแก้ว  (ย่า) อายุ 54 ปี ให้ช่วยประชาสัมพันธ์และติดตามบุคคลสูญหาย ชื่อนางสาวสุคนธ์ทิพย์ ชาญสมร (หลานสาว) อายุ 15 ปี  เกิดวันที่ 18 ธันวาคม 2541 อยู่บ้านเลขที่  98/7 หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยได้หนีออกจากบ้านไป โดยก่อนออกจากบ้านนางสาวสุคนธ์ทิพย์ฯ ได้เล่นเฟสบุ๊คกับนายนเดช สมาธิ หรือนายนันตการ สมาธิ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 286 หมู่ 6 ตำบลห้วยนาง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง แต่จากการตรวจสอบไปยังบ้านเลขที่ดังกล่าว พบนางจรินทร์ สมาธิ อายุ 40 ปี (บิดานายนันตการ สมาธิ) ให้ข้อมูลว่า บุตรชายของตนไม่ได้ออกจากบ้านไปที่ใดเลย อาศัยอยู่กับตนตลอดเวลา มีความประพฤติดี และจะเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงเกรงว่าจะมีผู้อื่นนำชื่อบุตรชายตนไปแอบอ้างไปในทางที่เสียหาย ปัจจุบันนางจารุวรรณฯ ไม่สามารถติดต่อนางสาวสุคนธ์ทิพย์ได้ เกรงว่าอาจได้รับอันตราย และอาจถูกล่อลวงไปในทางเสียหายหรือตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม จึงขอความประชาสัมพันธ์ประกาศหาบุคคลสูญหายดังกล่าวหากผู้ใดมีข้อมูลเบาะแส หรือพบเห็นบุคคลดังกล่าว กรุณาแจ้งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม โทรศัพท์ 042-511022, 042-511506 หรือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี โทรศัพท์ 038-277,-877 ต่อ 25 ในวันเวลาราชการ หรือแจ้งไปยัง นางจารุวรรณ ปิ่นแก้ว โทรศัพท์ 088-191-9159 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 OSCC

โครงการประกวดภาพวาดส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ร่วมกับมูลนิธิเอ็มโอเอไทย จัดโครงการประกวดภาพวาดส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนระดับประถมศึกษา ได้พัฒนาศักยภาพในด้านการคิดเชิงระบบ การคิดอย่างเป็นเหตุผล คิดสร้างสรรค์และสามารถตัดสินได้แก่ปัญหาอย่างมีเหตุผลควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านจิตใจให้มีสุนทรียภาพความงามในจิตใจด้วยกิจกรรมการวาดภาพ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกถึงความรู้สึกและจินตนาการ ตลอดจนความสามารถเชิงสร้างสรรค์ เพื่อถ่ายทอดออกมาในรูปแบบงานศิลปะอย่างมีเหตุผล โดยแบ่งการประกวดเป็น 6 ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 2 3 4 5 และ 6 สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัลในแต่ละระดับ จะได้รับเงินรางวัลพร้อมโล่และส่งภาพเข้าประกวดในงานประกวดภาพวาดเด็ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ประเทศญี่ปุ่น สำหรับผลงานภาพวาดที่ไม่ได้รางวัลจะได้รับใบเกียรติบัตร

ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เลขที่ 5 หมู่ที่ 2 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดประทุมธานี รหัสไปรษณีย์ 12110 หรือ มูลนิธิเอ็มโอเอไทย เลขที่ 408 ชั้น 2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามแสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์ 10310 โดยส่งผลงานด้วยตนเอง ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 หรือส่งทางไปรษณีย์ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2577-5455 และ 0-2577-5456-9 ต่อ 302 และ 305

ปภ.ติดตามข้อมูลจากสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวถึงวันที่ 15 พฤษภาคมยังเกิด aftershock อีกหลายครั้ง

นายวีระศักดิ์  วิเชียรแสน  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยติดตามข้อมูลจากสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว  กรมอุตุนิยมวิทยา ว่า  จากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อเวลา 18.08 น.ของวันที่ 5 พฤษภาคม 2557  บริเวณ ตำ.ทรายขาว  อ.พาน จ.เชียงราย  ความลึก 7 กิโลเมตร  ขนาด 6.3 ริกเตอร์  วัดจนถึงเวลา 10.05 น.ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2557  เกิดแผ่นดินไหวตามมา ดังนี้ ขนาด 5-5.9 ริกเตอร์ 8 ครั้ง  ขนาด 4-4.9 ริกเตอร์  30 ครั้ง  ขนาด 3-3.9 ริกเตอร์  129 ครั้ง  และขนาดน้อยกว่า 3.0 ริกเตอร์  มากกว่า 636 ครั้ง  รวมเกิด aftershock ขึ้นมากว่า 803  ครั้ง

ซึ่งมีแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นดังนี้  ขนาด 4-4.9 ริกเตอร์ 1 ครั้ง ขนาด 3.-3.9 ริกเตอร์ 1 ครั้ง  ขนาดน้อยกว่า 3.0 ริกเตอร์ 7 ครั้ง  รวมเกิด aftershock จากวันที่ 14 พฤษภาคม 2557  จำนวน  9 ครั้ง  จึงขอให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมหากเกิดเหตุแผ่นดินไหว

แม่ทัพภาคประธานในพิธีที่ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ “โครงการคืนผืนป่าให้ทุ่งกุลาสดใส” จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2557

วันนี้ (15 พ.ค.57) เวลา 10.30 น. พลโท ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาค 2 และผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นประธานในงานมหกรรมปลูกป่าทอดแทนเฉลิมพระเกียรติฯ "โครงการคืนผืนป่าให้ทุ่งกุลาสดใส” จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ณ ป่าชุมชน บ้านหนองอ่าง ตำบลกำแพง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมกิจกรรม ด้วยการปลูกป่าในเนื้อที่ 4,100 ไร่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 6

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร,สำนักงานกิจการพิเศษ กรมราชองครักษ์ และหน่วยงานร่วมบูรณาการ ได้แก่ ศูนย์ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร,กองบัญชาการกองทัพไทย,กองทัพบก,กองทัพเรือ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,กรมชลประทาน,กรมทรัพยากรน้ำ,กรมพัฒนาที่ดิน และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จัดโครงการคืนผืนป่าให้ทุ่งกุลาสดใส จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2557 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและลดภาวะโลกร้อนจัด โดยกำหนดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 พฤษภาคม 2557 กิจกรรมประกอบด้วย การบวชชีพราหมณ์ การแสดงพระธรรมเทศนา การให้ความรู้พระพุทธศาสนากับป่า การจัดเวทีชาวบ้าน การบวงสรวง รุกขเทวดา พระภูมิเจ้าที่ การสวดพระพุทธมนต์ เพื่อเสริมบุญบารมีให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม และผืนป่า เพื่อนำความอุดมสมบูรณ์มาสู่ผืนป่าและคนในชุมชน

พิธีเปิดงานมีการจัดนิทรรศการ การขยายโครงการอันเนื่องมาจากรพระราชดำริ และสินค้า OTOP จากหน่วยงานราชการทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายจังหวัดร้อยเอ็ด การแสดงคนเสิร์ต มนต์แคน แก่นคูณ เพื่อร่วมในการสร้างจิตสำนึกในการคืนผืนป่าให้กับทุ่งกุลา การปล่อยพันธุ์ปลา จำนวน 1 แสนตัว




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก
ข่าว 15 พ.ค. 57

จังหวัดศรีสะเกษ เตรียมจัดประชุมเฝ้าระวังและป้องกันความรุนแรงในครอบครัวเพื่อ ป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟู ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว

นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ แจ้าว่าในวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายวิศิษฐ คูรัตนเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การเฝ้าระวังและป้องกันความรุนแรงในครอบครัว" โดยมีนายทวีศักดิ์ สิงห์ดง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ นำนายกองค์การบริหารส่วนตำบลและเจ้าหน้าที่ แกนนำชุมชน สภาเด็กและเยาวชน อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลซำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ องค์การบริหารส่วนตำบลอีเซ อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ และองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงตาเจ็น อำเภอขุขันธ์ และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ OSCC ประจำโรงพยาบาลโพธิ์ศรีสุวรรณ และโรงพยาบาลขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมประชุมรวมทั้งสิ้นจำนวน 100 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมได้ดำเนินการตามนโยบายในการเฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟู ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ที่มีการกำหนดรูปแบบ วิธีการ และขั้นตอนที่มีลักษณะแตกต่างจากการดำเนินคดีอาญาทั่วไป คือเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดได้มีโอกาสกลับตัวและยับยั้งการกระทำผิดซ้ำ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว รวมทั้งเป็นการสร้างระบบใหม่ที่กำหนดให้ผู้พบเห็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ต้องแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการกระทำความรุนแรงในครอบครัว เป็นเรื่องของ "สังคม” มิใช่เรื่อง "ส่วนตัว” อีกต่อไป เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียว



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/พิมพ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ เปิดโครงการ “คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชค และโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้ประชาชน (จังหวัดเคลื่อนที่)

จังหวัดศรีสะเกษ เปิดโครงการ "คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข  สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน (จังหวัดเคลื่อนที่)   ณ  อำเภอขุขันธ์

วันนี้(15  พฤษภาคม  2557) ณ  บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอขุขันธ์  อำเภอขุขันธ์   จังหวัดศรีสะเกษ  นายวิศิษฐ  คูรัตนเวช  รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเป็น ประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ทีปังกรรัศมีโชติ และโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข  สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน (จังหวัดเคลื่อนที่) โดยมี นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ปลัดจังหวัดศระเกษ  นายอนุรัตน์  ลีธีระประเสริฐ  นายอำภอขุขันธ์  และนายทวี  มาสขาว  เกษตรจังหวัด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ  และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงศึกษาธิการ  กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชน ผู้นำท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในอำเภอขุขันธ์  ให้การต้อนรับ  ซึ่งโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่                 ในพระราชานุเคราะห์ฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จัดขึ้นเพื่อให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร ได้อย่างรวดเร็ว และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกัน ระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกร ให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน

ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดจัดงานในวันนี้  โดยได้จัดกิจกรรมให้บริการแก่เกษตรกรในรูปแบบ คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ จากหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 14 คลินิก ประกอบด้วย คลินิกพืช โดยศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ และศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, คลินิกดิน  โดยสถานีพัฒนาที่ดินศรีสะเกษ, คลินิกสัตว์ โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ และสถานีวิจัยทดสอบพันธ์สัตว์ศรีสะเกษ, คลินิกประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดศรีสะเกษ, คลินิกสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกบัญชี โดยสำนักงานบัญชีและสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกชลประทาน โดยโครงการชนประทานศรีสะเกษ, คลินิกฎหมาย  โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ, คลินิกข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าสุรินทร์, คลินิกหม่อนไหม โดยศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติศรีสะเกษ, คลินิกพันธุ์พืชเพาะเลี้ยง โดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตร จังหวัดบุรีรัมย์ และคลินิกยางพารา  โดยสำนักงากองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดศรีสะเกษ

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีกิจกรรมสนับสนุนประกอบด้วยโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว, โครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน,  เหล่ากาชาดจังหวัดนำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชน จำนวน 10,000 ชุด, ประมงจังหวัดมอบพันธ์ปลา  จำนวน  100 ถุง  และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  มอบเกียรติบัตรให้กับ อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน ดีเด่น จำนวน  5 ราย  ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพเด็กและเยาวชน มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียน  จำนวน  20 ทุน  ๆละ 1,000 บาท     ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 54  มอบทุนการศึกษา จำนวน  22 ทุน  ๆละ  1,000 บาท  และสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด มอบโฉนดที่ดิน แก่ราษฎร จำนวน 5 ราย



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์ สร้อยเพชร / ข่าว

สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เขต 4 จังหวัดนครราชสีมา ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์โครงการเมืองเกษตรสีเขียว จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2557

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 เวลา 11.00 น. ที่ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ศรีสะเกษ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เป็นประธานส่งมอบวัสดุอุปกรณ์โครงการเมืองเกษตรสีเขียว จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2557 โดยมี นายมณชัย มีสุข ผู้อำนวยการสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เขต 4 จังหวัดนครราชสีมา นำเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 80 ราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จำนวน 37 ราย กลุ่มผู้ทอผ้าไหม จำนวน 34 ราย และกลุ่มผู้ประกอบการ จำนวน 9 ราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษที่ร่วมโครงการ ต่อไป

นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า โครงการเมืองเกษตรสีเขียว เป็นโครงการ 1 ใน 8 โครงการ Flag Ship ที่มีการดำเนินงานระยะยาว ตั้งแต่ปี 2557-2561 และมีจังหวัดเข้าร่วมโครงการ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จันทบุรี พัทลุง ราชบุรี หนองคาย และจังหวัดศรีสะเกษ ปัจจุบันอาชีพทำการเกษตรมีการแข่งขันในทางธุรกิจสูงผู้ผลิตขาดความคำนึงถึงความปลอดภัย ทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมาอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นปัญหาสารพิษตกค้างในผลผลิต ปัญหาความเสื่อมโทรมของสุขภาพ ของผู้ใช้คือตัวเกษตรกรเองและผลกระทบโดยตรงคือผู้บริโภค โครงการเมืองเกษตรสีเขียว มีเป้าหมายหลักคือ ความเป็นอินทรีย์ของการผลิตมุ่งเน้นลดการใช้สารเคมี ลดการทำลายสภาพแวดล้อม ผลลัพธ์ที่คาดหวังการผลิตสินค้าต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวต่อไปว่า ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ศรีสะเกษ ได้ดำเนินงานโครงการเมืองเกษตรสีเขียว (หม่อนไหม) จังหวัดศรีสะเกษ มีผู้ร่วมโครงการ จำนวน 80 ราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จำนวน 37 ราย กลุ่มผู้ทอผ้าไหม จำนวน 34 ราย และกลุ่มผู้ประกอบการ จำนวน 9 ราย และได้มีการฝึกอบรมให้แก่เกษตรกรตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมาแล้ว



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

จังหวัดอำนาจเจริญประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดอำนาจเจริญ

วันนี้(15 พ.ค. 57) เวลา 13.30 น.  นายอภิชาติ งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดอำนาจเจริญ  ณ  ห้องประชุมฝ้ายขิดคำพระ  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ

ด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับคำร้องกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จากคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ จำนวน 20 ราย ดังนั้น เพื่อให้คนพิการได้รับประโยชน์ในการที่จะนำเงินไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้ประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองเงินทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผู้พิการและผู้ดูแลคนพิการเพื่อนำไปประกอบอาชีพ จำนวน 20 ราย โดยแยกตามวัตถุประสงค์ที่ขอกู้ ดังนี้ ขอกู้ยืมเพื่อค้าขาย จำนวน 5 ราย ขอกู้ยืมเพื่อเกษตรกรรม จำนวน 13 ราย ขอกู้ยืมเพื่อรับจ้าง จำนวน 2 ราย โดยทางคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อผ่านการพิจารณากลั่นกรองเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการติดตามผลการดำเนินโครงการของผู้กู้แต่ละรายต่อไป



กฤษดา เนตรพันธ์/ข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดอำนาเจริญ ร่วมกับเทศบาลตำบลน้ำปลีก รณรงค์รับบริจาคโลหิตเพื่อสำรองเลือดให้กับโรงพยาบาลในเขตจังหวัดอำนาจเจริญเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทีมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายโลหิต

วันนี้ (15 พ.ค. 2557) ที่เทศบาลตำบลน้ำปลีก  อำเภอเมือง  จังหวัดอำนาจเจริญ เหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ นำโดยนางนิภาภรณ์  ชื่นวาริน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญร่วมกับเทศบาลตำบลน้ำปลีก    ได้เปิดรับบริจาคโลหิต จากข้าราชการ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลน้ำปลีกและประชาชนทั่วไปเพื่อสำรองเลือดไว้ใช้ในการช่วยเหลือชีวิตผู้ที่ต้องการโลหิตเป็นการเร่งด่วน ตามโครงการ แบ่งปันน้ำใจ ด้วยการบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  เป็นการสำรองโลหิตให้ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ มีความต้องการโลหิตสูงเพื่อช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้ป่วยอื่น ๆ ที่ยังคงต้องได้รับโลหิตในการรักษา อาทิ  ผู้ป่วยโรคมะเร็ง  ผ่าตัด และคลอดบุตร  ซึ่งในวันนี้ มีข้าราชการ พนักงานเทศบาล และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลน้ำปลีก นักเรียนจากโรงเรียนน้ำปลีกศึกษา โรงเรียนนายมวิทยาคารและประชาชนมีผู้ใจบุญ มาบริจาคโลหิต ที่เทศบาลตำบลน้ำปลีก  เป็นจำนวนมาก ทำให้ได้รับ โลหิตกว่า 50,000 ซี.ซี.

เหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ  จึงขอเชิญชวนข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา  และประชาชนทั่วไปร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ   ณ โรงพยาบาลที่ท่านอยู่ใกล้บ้านเพื่อสำรองโลหิตไว้ใช้  ในยามฉุกเฉิน และเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการใช้โลหิตในการรักษา และอุบัติเหตุต่างฯ  ที่อาจจะเกิดขึ้น



กฤษดา เนตรพันธ์ / ข่าว 

จังหวัดอุบลราชธานี กำหนดเส้นทางสมโภชเทียนพรรษาพระราชทาน ในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา

กำหนดขบวนอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน ไปตั้งสมโภชทั้ง 25 อำเภอ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญและสมโภชเทียนพรรษาพระราชทานในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี
ประจำปี 2557

นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่าในการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2557 ณ บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง ซึ่งได้กำหนดให้มีกิจกรรมเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับพระราชทานเทียนพรรษาเพื่อถวายวัดพระอารามหลวง เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จึงได้จัดขบวนรถอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานจากอำเภอเมืองอุบลราชธานี ในวันที่ 13 มิถุนายน 2557 ไปยังอำเภอต่างๆ ทั้ง 25 อำเภอ เพื่อให้ประชานได้ร่วมบูชาและมีส่วนร่วมในการจัดต้นเทียนพรรษาของแต่ละอำเภอ โดยขบวนอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน จะกลับถึงอำเภอเมืองอุบลราชธานี ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ซึ่งจะมีพิธีสมโภชและพิธีเปิดเทศกาลงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557

สำหรับเส้นทางอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานและการสมโภชสู่อำเภอต่างๆ ดังนี้ วันที่ 14 มิ.ย.57 ที่ อ.วารินชำราบ, วันที่ 15 มิ.ย.57 ที่ อ.สำโรง, วันที่ 16 มิ.ย.57 ที่ อ.ทุ่งศรีอุดม,วันที่ 17 มิ.ย.57 ที่ อ.น้ำขุ่น.,วันที่ 18 มิ.ย.57 ที่ อ.น้ำยืน,วันที่ 19 มิ.ย.57 ที่ อ.นาจะหลวย ,วันที่ 20 มิ.ย.57ที่ อ.บุณฑริก,วันที่ 21 มิ.ย.57 ที่ อ.เดชอุดม,วันที่ 22 มิ.ย.57ที่ อ.นาเยีย,วันที่ 23 มิ.ย.57 ที่ อ.สว่างวีระวงศ์ วันที่ 24 มิ.ย.57 ที่ อ.พิบูลมังสาหาร ,วันที่ 25 มิ.ย.57 ที่ อ.สิรินธร,วันที่ 26 มิ.ย.57 ที่ อ.โขงเจียม,วันที่ 27 มิ.ย.57 ที่ อ.ศรีเมืองใหม่ ,วันที่ 28 มิ.ย.57 ที่ อ.โพธิ์ไทร ,วันที่ 29 มิ.ย.574 ที่ อ.นาตาล,วันที่ 30 มิ.ย.57 ที่ อ.เขมราฐ,วันที่ 1 ก.ค.56 ที่ อ.กุดข้าวปุ้น ,วันที่ 2 ก.ค.57 ที่ อ. ตระการพืชผล ,วันที่ 3 ก.ค.57 ที่ อ.ม่วงสามสิบ,วันที่ 4 ก.ค.57ที่ อ.เขื่องใน,วันที่ 5 ก.ค.57 ที่ เหล่าเสือโก้ก, วันที่ 6 ก.ค.57 ที่ อ.ดอนมดแดง, วันที่ 7 ก.ค.57 ที่ อ. ตามสุม และวันที่ 8 ก.ค.57 ที่ มณฑลพิธีหน้าศาลหลักเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จึงขอเชิญชวนประชานชาวอุบลราชธานี ร่วมพิธีสมโภชเทียนพรรษาพระราชทาน ในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ได้ตามสถานที่ดังกล่าว โดยทั่วกัน



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์
ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว
15 พ.ค.57

พระโสภณปริยัตยาภรณ์ (ฉัตต์ สจฺจวโร) ได้รับแต่งตั้งพระราชทานสมณศักดิ์ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์

พระโสภณปริยัตยาภรณ์ ได้รับแต่งตั้งพระราชทานสมณศักดิ์ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ มี พระพรหมเวที กรรมการมหาเถรสมาคม – เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามกรุงเทพมหานครเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เป็นประธาน พร้อมกับอ่านพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัด

พระพรหมเวที กรรมการมหาเถรสมาคม – เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ แต่งตั้งสมณศักดิ์ พระโสภณปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อฉัตต์ สจฺจวโร) เจ้าอาวาทวัดพรหมสุรินทร์ รักษาการแทนเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ ได้เลื่อนสมณศักดิ์มาดำรงตำแหน่งเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ ที่วัดพรหมสุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้อ่านพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้ง สมณศักดิ์ให้ พระโสภณปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อฉัตต์ สจฺจวโร) เจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินทร์ ที่รักษาการแทนเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ ได้เลื่อนสมณศักดิ์มาดำรงตำแหน่งเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนมาร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก

หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ถวายเครื่องไทยธรรม แด่ พระพรหมเวที กรรมการมหาเถรสมาคม – เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามกรุงเทพมหานคร และพระโสภณปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อฉัตต์ สจฺจวโร) ได้ถวายเครื่องไทยธรรมแด่ พระพรหมเวที กรรมการมหาเถรสมาคม – เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามกรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวสัดสุรินทร์ ได้ร่วมกันถวายเครื่องไทยธรรม แด่ พระโสภณปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อฉัตต์ สจฺจวโร) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ และพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล เพื่อความเป็นศิริมงคล



กำชับ วันสุข
ส.ปชส.สุรินทร์ / รายงาน

ชาวพุทธศาสนิกชนจังหวัดสุรินทร์เป็นจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันวิสาขบูชา

เช้าวันนี้ (13 พ.ค.2557) เวลา 07.00 น. ที่วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมประกอบกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชา วันวิสาขบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายน แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 7 หรือราวเดือนมิถุนายน วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่เกิด 3 เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวียนมาบรรจบกันในวันเพ็ญเดือน 6 แม้จะมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี ซึ่งเหตุการณ์อัศจรรย์ 3 ประการ ได้แก่ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมโพธิญาณ และเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป) กิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนพึงปฏิบัติใน วันวิสาขบูชา ได้แก่ ทำบุญใส่บาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับ และเจ้ากรรมนายเวร จัดสำรับคาวหวานไปทำบุญถวายภัตตาหารที่วัด และปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา ปล่อยนกปล่อยปลา เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล ร่วมเวียนเทียนรอบอุโบสถที่วัดในตอนค่ำ เพื่อรำลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา จัดแสดงนิทรรศการ ประวัติ หรือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับวันวิสาขบูชาตามโรงเรียน หรือสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อให้ความรู้ และเป็นการร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชา ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน วัดและสถานที่ราชการ และร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ พร้อมกันนี้จังหวัดสุรินทร์ได้จัดกิจกรรมเดิน วิ่ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาอีกด้วยโดยมีประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์เข้าร่วมในกิจกรรมกันอย่างคึกคักเป็นจำนวนมา




ประนนท์ ไม้หอม
ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ จัดขบวนแห่อัญเชิญเเสาหลักเมืองและดินศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ทิศบนหลังช้าง เพื่อประกอบพิธีสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์ จัดขบวนแห่อัญเชิญเเสาหลักเมืองและดินศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ทิศบนหลังช้าง เพื่อประกอบพิธีสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์

วันที่ 14 พ.ค. 57  เวลา 14.09 น. นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำคณะห้วหน้าส่วนราชการ ร่วมขบวนแห่อัญเชิญดินศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง 4 ทิศ เพื่อประกอบพิธีสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2557 ซึ่งประกอบด้วย ทิศเหนือ อำเภอท่าตูม รัตนบุรี ชุมพลบุรี และอำเภอโนนนารายณ์ ทิศตะวันออก ประกอบด้วย อำเภอศีขรภูมิ สำโรงทาบ จอมพระ และ อำเภอสนม ทิศใต้ ประกอบด้วย อำเภอสังขะ บัวเชด ศรีณรงค์ และอำเภอลำดวน และทิศตะวันตก ประกอบด้วย อำเภอเมืองสุรินทร์ ปราสาท กาบเชิง พนมดงรัก และอำเภอเขวาสินรินทร์ สำหรับขบวนแห่เริ่มขบวนที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ประกอบด้วย ขบวนอัญเชิญดินศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดาประจำทิศถือดินศักดิ์สิทธิ์นั่งช้างที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ประกอบด้วย ทิศตะวันออกเทวดาชื่อ อิน ทิศใต้เทวดาชื่อ จัน ทิศตะวันตกเทวดาชื่อ มั่น และทิศเหนือเทวดาชื่อ คง โดยมีนายอำเภอที่เป็นตัวแทนแต่ละทิศแต่งตัวเป็นเทวดาพร้อมขบวนแห่ของศิลปวัฒนธรรมประจำทิศที่สวยงาม คือทิศเหนือแต่งกายชุดวัฒนธรรมลาว ทิศตะวันออกแต่งกายชุดวัฒนธรรมส่วย ทิศใต้แต่งกายชุดวัฒนธรรมเขมร ทิศตะวันตกแต่งกายชุดวัฒนธรรมไทย และที่สำคัญคือขบวนอัญเชิญเสาหลักเมือง เพื่อแห่ให้ประชาชนได้สักการะไปตามถนนสายต่างในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ก่อนที่จะเข้าสู่ศาลหลักเมืองสุรินทร์เพื่ออัญเชิญเสาหลักเมืองขึ้นประดิษฐานบนฐาน เพื่อประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีปลุกเสกเหรียญหลักเมืองลงยา และพิธีสมโภชหลักเมืองต่อไป และในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 57) เวลา 07.00 น. มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูปและ เวลา 09.09 น. พิธีบวงสรวงเทพเทวาอันศักดิสิทธิ์ และในช่วงค่ำวันที่ 14-18 พฤษภาคม จะมีมหรสพฉลองสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์ให้ชมฟรีทุกคืนอีกด้วย



ประนนท์ ไม้หอม
ส.ปชส.สุรินทร์ / รายงาน

เอสเอ็มอีแบงก์ จัดการสัมมนาฟรี ผู้ประกอบการ SMEs เพื่อการปรับตัวต่อ AEC ที่จังหวัดสุรินทร์

วันนี้ 15 พ.ค. 57 ที่ห้องรัตนสุวรรณอมรินทร์ โรงแรมทองธารินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดสัมมนา เรื่อง "AEC รุกหรือรับปรับตัวอย่างไร” โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับ AEC ด้านการปรับตัวทั้งเทคนิคเชิงรุกและเชิงรับสู่ความสำเร็จ การทำธุรกิจอย่างมีชั้นเชิง แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ ที่เข้าร่วมรับฟังการสัมมนากว่า 600 คน ให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจต่อ SMEs เมื่อ AEC มาถึง ซึ่งจะนำเสนอและให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการค้าชายแดนและการรุกสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านในกรอบ AEC ซึ่งจะมีบทบาทอย่างมากต่อการค้า การทำธุรกิจในอนาคต เพื่อประโยชน์ต่อการวางแผนการตลาด การค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกับเตรียมการรองรับการเข้ามาของกลุ่มประเทศสมาชิก AEC และแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs โดย ดร.โอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นวิทยากรพิเศษ บรรยายให้ความรู้ด้าน AEC และการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จรองรับการเติบโต สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้ารับฟังการสัมมนา สามารถรับคำปรึกษาแนะนำพร้อมยื่นกู้ได้ภายในงานรับจำนวนจำกัด สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งฟรีที่เอสเอ็มอีแบงก์ สาขาสุรินทร์ โทร. 044-713-141-2 , 044-713-725-6 สาขาศรีสะเกษ โทร.045-617-880-2 และสาขาสระแก้ว โทร.037-421-974-6



กำชัย วันสุข
ส.ปชส.สุรินทร์ / รายงาน 

อธิบดีกรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ลงพื้นที่ยโสธร

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดยโสธร ที่ห้องตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดยโสธร ดร วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมคณะเข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการเจ้าหน้าที่ โดยมีนางปนัดดา ทองเหลือง หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ยโสธร ให้การต้อนรับ ดร วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดยโสธรในครั้งนี้ เพื่อมาตรวจประเมินคัดเลือกสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ดีเด่นประเภทขนาดกลาง ซึ่งสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดยโสธรได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการให้เข้าสู่รอบคัดเลือกดีเด่นประเภทขนาดกลาง ตนพร้อมคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ จึงได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจสอบตรวจเยี่ยมเพื่อพิจารณาให้ได้รับรางวัลดีเด่นในการประกวดในครั้งนี้ ซึ่งหลักการพิจาณาให้คะแนนจะพิจารณาจากผลงานเด่นที่ผ่านมา

ยโสธรส่งเสริมเยาวชนคิดค้นผลิตภัณฑ์โอทอป์รุ่นใหม่

จังหวัดยโสธรนำกลุ่มเยาวชนสตรี Smart Lady 4 จังหวัดเข้าฝึกอบรมสานฝันสินค้า OTOP สู่สากล ที่ศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP ร้านหอมมะลิ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร นายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดโครงการ Smart Lady คลื่นลูกใหม่ สืบสานงาน OTOP นายร่องกี้ พลเยี่ยม พัฒนาการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า การนำ Smart Lady ทั้ง 4 จังหวัด อำนาจเจริญ/ ศรีสะเกษ/อุบลราชธานี/และยโสธร เข้าฝึกอบรมในครั้งนี้เพื่อให้ กลุ่มเยาวชนสตรี Smart Lady เป็นผู้นำในการสร้างแนวความคิด ผลิตและพัฒนาสินค้า OTOP ให้ก้าวสู่สากลรองรับอาเซียน และเป็นการสร้างผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ตลอดจนเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผลิตภัณฑ์ชุมชน ให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานอย่างยังยืนตลอดไป กิจกรรมวันนี้ประกอบไปด้วย walk in the star otop เป็นการศึกษาดูงานจากกลุ่ม otop ที่ประสบผลสำเร็จของจังหวัดยโสธร ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางการตลาด พร้อมจัดให้ Smart Lady ทั้ง 4 จังหวัด ได้ลงมือฝึกปฎิบัติจริง พร้อมสาธิตการผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ปรากฏว่ามีกลุ่มเยาวชนที่เป็นSmart Lady 4 จังหวัดในเครือข่ายสำนักงานพัฒนาชุมชน เข้าร่วมฝึกอบรมจำนวนกว่า 100 คน

ยโสธรติวเข้มผู้บริหารส่วนท้องถิ่น

ท้องถิ่นจังหวัดยโสธร สัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานราชการ ที่โรงแรมเดอะกรีนปาร์ดแกรนด์ อ.เมืองยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน ของผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ว่าที่ ร.ต. ขรรค์ไชย ทันธิมา ท้องถิ่นจังหวัดยโสธร กล่าวว่า การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ประสิทธิภาพการบริหารงานของผู้บริหารท้องถิ่น และลดช่องว่างในการปฏิบัติงานระหว่างส่วนราชการส่วนกลาง กับส่วนภูมิภาค และเป็นเวทีให้ผู้บริหารส่วนท้องถิ่นได้พบปะ พูคคุย หารือเสนอแนะแก้ปัญหา หาทางออกร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ การบริหารราชการ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดยโสธร ปรากฏว่า โดยมีนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ ผู้อำนวยการ/ หัวหน้าส่วนการคลัง/ ส่วนโยธา/ และ ข้าราชการสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดยโสธร จำนวนกว่า 400 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้

อำเภอกุดชุมเตรียมออกหน่วยเคลื่อนที่ พอ.สว.

วันนี้ (๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๐.๐๐ น.  ที่ห้องประชุมอำเภอกุดชุม นายสมศักดิ์ บุญทำนุก นายอำเภอกุดชุม เป็นประธานในการประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกหน่วยแพทย์เลื่อนที่ พอ.สว และการออกหน่วยบริการจังหวัดเลื่อนที่ตาม"โครงการ ยามพี่ ยามน้อง"ประจำปี ๒๕๕๗ ในการประชุมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานราชการของอำเภอกุดชุม ทุกภาคส่วนเข้าร่วมประชุม แบ่งงานต่างๆเตรียมความพร้อมเพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนที่มารับบริการในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ที่จะถึงนี้ ที่บริเวณสนามโรงเรียน บ้านห้วยแก้งหนองศาลา ตำบลห้วยแก้ง อำเภอกุดชุม



พลากร แก้วขวัญข้า
อปม.กุดชุม / รายงาน

ผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 รดน้ำศพตำรวจกล้าเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติ

ณ  ศาลาวัดป่าศิลาวิเวก อ.เมือง จ.มุกดาหาร พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้เป็นตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน โดยมี นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร  พล.ต.ต. วิทวัส บูรณสมภพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร  ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ 9 อุบลราชธานี  เพื่อนข้าราชการตำรวจ และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมพิธีรดน้ำศพ ท่ามกลางความโศกเศร้า      

ในพิธีรดน้ำศพ พันตำรวจโท เลอศักดิ์ วงค์คำ สารวัตรสืบสวน สภ. คำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร หลังเกิดอุบัติเหตุจากรถคนร้ายพลิกคว่ำทับร่างเสียชีวิตคาที่ขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด และขบวนการค้าไม้พะยูง ที่บ้านบ้านหนองฮี  ตำบลคำชะอี  อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร  เมื่อวานนี้ ( 13 พ.ค.57 ) หลังจากทำพิธีรดน้ำศพแล้วญาติได้ทำพิธีขอขมาศพ แล้วทำการเคลื่อนย้ายศพเข้าโลงเพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลซึ่งได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 4 วัน หลังจากเสร็จพิธี ทางพล.ต.ท.อนุชัย  เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4  เป็นประธานในพิธีสวดอภิธรรมศพโดยกำหนดมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2557 นี้      

พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จากนี้ต่อไปทางผู้บังคับบัญชาก็จะได้มีการเสนอเรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของ พันตำรวจโท เลอศักดิ์ วงค์คำ  เป็นไปตามระเบียบเพื่อให้คณะกรรมการได้พิจารณาในเรื่องสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ส่วนการช่วยเหลือด้านอื่นนั้นขณะนี้ที่ทราบ ทางพันตำรวจโท เลอศักดิ์ วงค์คำ จะได้รับเงินช่วยเหลือจาก ฌาปนกิจของตำรวจ เงินช่วยเหลือของสวัสดิการตำรวจ เงินส่วนตัวของ พลตำรวจโท อนุชัย เล็กบำรุง   ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4   รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 1 ล้านบาท    

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเสียชีวิตของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะรับบุตรเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจ 1 คน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางครอบครัวอีกว่าจะเสนอใครรับราชการต่อไป



พิพัฒน์ เพชรสังหาร
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว/ภาพ

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์ติดตามบุคคลสูญหาย

นางปิยะพร  เฉลิมช่วง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม กรณี นางจารุวรรณ  ปิ่นแก้ว อายุ ๕๔ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๘/๗ หมู่ที่ ๗ ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นย่าของ นางสาวสุคนธ์ทิพย์  ชาญสมร (น้องดิน) อายุ ๑๕ ปี ได้หนีออกจากบ้าน เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. จนขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้และไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด เกรงว่าอาจะได้รับอันตรายและถูกล่อลวงไปในทางเสียหายหรือตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้พบเบาะแสหรือข้อมูล ติดต่อได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร โทร. ๐-๔๒๖๑-๑๔๔๒, ๐-๔๒๖๑-๑๕๘๓, หรือ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๑๓๐๐ สายด่วน ๒๔ ชั่วโมง หรือนางจารุวรรณ  ปิ่นแก้ว  โทร. ๐๘-๘๑๙๑-๙๑๕๙

คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขยายเวลาเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา

รองศาสตราจารย์ ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการเมืองและการจัดการปกครอง เปิดเผยว่า ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขยายเวลาเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการเมืองและการจัดการปกครอง(ภาคนอกเวลาราชการ)รุ่นที่ ๓ ภาคการศึกษาต้น ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๗

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวโหลดใบสมัครได้ที่ www.polsci.chula.ac.th/mpg พิมพ์และกรอกใบสมัครติดรูปถ่ายพร้อมหลักฐานตามที่ระบุในใบสมัคร พร้อมยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ที่สำนักงานหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการเมืองและการจัดการปกครอง ภาควิชาการปกครอง อาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์(ตึก๑)ชั้น๑ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือทางไปรษณีย์ พร้อมหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมการสมัคร ๑,๒๐๐ บาทส่งมาที่สำนักงานหลักสูตรฯ ภายในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ โดยพิจารณาจากวันที่ประทับตราไปรษณีย์ และพิมพ์แบบฟอร์มการชำระค่าธรรมเนียมการสมัคร ได้ที่www.polsci.chula.ac.th/mpg  หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๑๘ ๗๒๐๔ โทรสาร ๐ ๒๒๑๘ ๗๒๐๐ มือถือ ๐๘๗ ๙๓๒๒ ๒๖๒ (คุณพัชรินทร์) และ ๐๘๕ ๙๑๑ ๗๑๑๒ (คุณเยาวณี)



สุภาวดี  อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (สาขามุกดาหาร) รับสมัครหัวหน้างาน

นางสาวจรัสศรี  อิฏฐกุล จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ ปอเรชั่น จำกัด มีหน้าที่สรรหาพนักงานให้กับห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (สาขามุกดาหาร) มีความประสงค์รับสมัครและสัมภาษณ์งานในตำแหน่งหัวหน้าแผนก (ทุกแผนก) ระหว่างวันที่ ๓ – ๔ มิถุนายน ๒๕๕๗  โดยผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติสามารถบริหารลูกน้องภายในทีมได้และมีประสบการณ์ในสายงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๒ – ๕ ปี

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนสมัครงานล่วงหน้าได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลางจังหวัด ชั้น ๑ ถนนวิวิธสุรการ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โทร ๐-๔๒๖๑-๓๐๓๗-๘



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ทศพร โล่ห์เงิน นักศึกษาฝึกงาน/ข่าว

จังหวัดมหาสารคามจัดประกวดตราสัญลักษณ์ 150 ปี มหาสารคาม

จังหวัดมหาสารคาม เตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 150 ปี มหาสารคาม ซึ่งจะเริ่ม ในปี พ.ศ. 2558 โดยจัดประกวดตราสัญลักษณ์เพื่อใช้เป็นตราประจำของการจัดงาน 150 ปี มหาสารคาม

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคาม มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน มีความเป็นปึกแผ่น ซึ่งในวาระครบรอบ 150 ปี แห่งการก่อตั้งในปี พ.ศ. 2558 นั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงการก่อตั้งเมืองมหาสารคาม จึงได้มีแนวคิดร่วมกันกับคณะกรรมการเตรียมการจัดงานเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะการออกแบบตราสัญลักษณ์แห่งการครบรอบ 150 ปี ตลอดจนกิจกรรมทางศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรม กิจกรรมบันเทิง การรำลึกถึงอดีตเมืองมหาสารคาม ซึ่งในการออกแบบตราสัญลักษณ์นั้น จังหวัดมหาสารคาม ได้จัดประกวดเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรม 150 ปี มหาสารคาม พร้อมนำตราสัญลักษณ์ที่ได้จากการประกวดใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดงานของจังหวัดมหาสารคาม

ผู้ที่จะส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องไม่เป็นบุคคลในคณะกรรมการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการจัดงาน เนื้อหาจะต้องแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของจังหวัด ภายใต้คำขวัญ "พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักสิลานคร” โดยสามารถส่งผลงานได้มี่จำกัดจำนวนชิ้นงาน ไม่จำกัดเทคนิคการออกแบบ พร้อมพิมพ์ผลงานเป็นภาพสี่สี สีเดียว และลายเส้นสีดำ บนพื้นกระดาษสีขาว ขนาด A3 ติดผลงานลงบนบอร์ด พร้อมไฟล์ภาพในรูปแบบดิจิตอล บันทึกลงในแผ่นซีดี ความละเอียด 300 pixel ขึ้นไป พร้อมคำอธิบาย แนวคิด ความหมาย รูปทรง สี และแรงบันดาลใจในการออกแบบ ชิงเงินรางวัล 30,000 บาท และ 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร

ผู้สนใจ สามารถเขียนใบสมัครลงในแบบฟอร์ม โดยดาวน์โหลดได้ที่ www.m-culture.go.th/mahasarakham กำหนดส่งผลงานภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ณ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม กรณีส่งทางไปรษณีย์ ผลงานจะต้องส่งถึงคณะกรรมการภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2557 เท่านั้น โดยผู้เข้ารอบ 2 คนสุดท้ายจะต้องมานำเสนอผลงานด้วยตนเอง ต่อหน้าคณะกรรมการ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2557 และประกาศผลวันที่ 18 มิถุนายน 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม โทร 043 777561 ในวัน เวลา ราชการ



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สพป.มหาสารคาม เขต 1 อบรมครูสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา

สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1 จัดโครงการอบรมครูสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา ประจำปี 2557 หวังให้เกิดความตระหนักในการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และให้สถานศึกษาทุกแห่งเป็นสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

ในการประชุมโครงการอบรมครูสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา ปี 2557 ณ ศูนย์ประชุมแก่งเลิงจาน ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2557 โดยมี นายสุรัตน์ ดวงทาชม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1 เป็นประธานเปิดการอบรม มีผู้เข้ารับการอบรมเป็นครูจากโรงเรียนในสังกัดอำเภอเมืองมหาสารคาม แกดำ บรบือ และอำเภอกันทรวิชัย

นายสากล อุ่นอุดม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1 กล่าวว่า การอบรมครูสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา ครั้งนี้เพื่อให้มีวิทยากรครูในการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา เพื่อให้นักเรียนก่อนวัยเสี่ยงได้เกิดความรู้ โทษ พิษภัยปัญหายาเสพติด และเพื่อให้สถานศึกษาทุกแห่งได้มีครูแกนนำอย่างทั่วถึง เป็นสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 56,230 บาท และใช้วิทยากร ครู ก. ของกระทรวงศึกษาธิการ จังหวัดมหาสารคาม



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

รถทัวร์ป.1 สายกรุงเทพฯ-มุกดาหาร พลิกคว่ำ บนถนนสายมหาสารคาม –บรบือ เจ็บ 11 ราย

เกิดเหตุรถยนต์ตัดหน้ารถทัวร์ ป.1 สายกรุงเทพฯ-มุกดาหาร เสียหลักชนเกาะกลางถนนก่อน พลิกคว่ำ บริเวณถนนสายมหาสารคาม- บรบือ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย โชคดีไม่เสียชีวิต

เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (15 พ.ค. 57) ศูนย์วิทยุ 191 มหาชัย สภ.เมืองมหาสารคาม รับแจ้งเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำที่บบ้านโนนม่วง ม.15 ถนนสายมหาสารคาม - บรบือ ต.แวงน่าง อ.เมืองมหาสารคาม มีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยจีเสียงเกาะ กู้ชีพ อบต.แก่งเลิงจาน กู้ภัยเทพนิมิตร และกู้ชีพโรพยาบาลมหาสารคาม

ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์ ป.1 สายกรุงเทพฯ-มุกดาหาร หมายเลขข้างรถ 927-32 หมายเลขทะเบียน 10-0725 มุกดาหาร ของบริษัทมุกดาหารทัวร์ พลิกคว่ำตะแคงอยู่ข้างถนนหน้าบ้านเลขที่ 1 หมู่ 15 และพบผู้บาดเจ็บจำนวน 11 คน ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอก ฟกช้ำ ตามร่างกาย บางคนมีอาการปวดศีรษะและหลัง จากแรงกระแทก หน่วยกู้ชีพและกู้ภัยลำเลียงตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม นอกจากนั้นยังพบผู้โดยสารอีกบางส่วนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ประสงค์รักษาจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำส่งยังสถานีขนส่งมหาสารคาม เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา

พ.ต.ท.พศินดิรก ด่านแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยสอบสวนนายไพบูลย์ วงษ์ขันธ์ อายุ 52 ปี คนขับรถทราบว่ารถคันดังกล่าว ออกจาก บขส.หมอชิตตั้งแต่เวลา 23.30 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา มุ่งหน้าปลายทางที่ จ.มุกดาหาร ซึ่งขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารรวม 30 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์คันหน้า ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับตัดหน้ากะทันหัน ตันจึงหักเลี้ยวขวา รถเกิดเสียหลักชนเกาะกลางถนน ข้ามฝั่งพลิกคว่ำไปถนนฝั่งตรงข้าม ทำให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว

ด้าน นางปณิสา สุริยหงส์ เจ้าของบ้านพัก กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุกำลังเก็บชุดนักเรียนเพื่อนำไปรีดให้บุตรสาวอยู่ที่บริเวณรั้วหน้าบ้าน ขณะนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายรถชนกันที่หน้าบ้าน จากนั้นได้เห็นรถไถลมากว่า 10 เมตร ก่อนที่จะมาจอดติดกับรั้วหน้าบ้านที่อยู่ห่างจากตนไม่ถึง 3 เมตร หลังตั้งสติได้จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาตรวจสอบและรับตัวผู้บาดเจ็บดังกล่าว

                 สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 11 ราย ประกอบด้วย ด.ญ.เสริมศิริ โกดโท อายุ 12 ปี , นางวงษ์เดือน มูลสาร อายุ 48 ปี, นายศุรศักดิ์ อารีทิพย์ อายุ 50 ปี , น.ส.พัชราภรณ์ จันเอน อายุ 19 ปี, นางภัทรวดี ชีรัมย์ อายุ 50 ปี , น.ส.สมจิตร มาตเอี่ยม อายุ 48 ปี , นางณัฎญาดา ปีตาวงศ์ อายุ 67 ปี , ร.ต.ท.อรรถพันธ์ เห็มสมัคร อายุ 45 ปี , นายอิทธิพล สารคะณา อายุ 22 ปี , น.ส.ดวงเดือน ปิ่นทอง อายุ 36 ปี, นายเจริญ อุตรีสาณ อายุ 69 ปี ซึ่งผู้บาดเจ็บที่นำตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม จำนวน 10 ราย มีแผลถลอกตามร่างกายแพทย์อนุญาตกลับรักษาตัวที่บ้านพักได้ ยกเว้นนายเจริญ ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะถูกกระแทก แพทย์รอดูอาการ พักรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มทร.อีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ อบรมพัฒนาบุคลากร นักศึกษารองรับประชาคมอาเซียน

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ จัดอบรมภาษาเวียดนามให้กับบุคลากรและนักศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพ และเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

นายบรรจง จงรัก ผู้ช่วยอธิการบดีประจำวิทยาเขตกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในปี 2558 ประเทศสมาชิกอาเซียนจะมีการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนโดยสมบูรณ์ ซึ่งประชาคมอาเซียนก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประเทศในภูมิภาคธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมือง สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมบนพื้นฐานความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ และประเทศเวียดนามเป็นประเทศหนึ่งของสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียนและเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจทำให้ประเทศเวียดนามเป็นแหล่งทุนที่น่าสนใจมากอีกประเทศหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งคนเวียดนามนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ จัดตั้งเป็นศูนย์เวียดนามศึกษาภายในทั้ง 5 วิทยาเขต ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จึงได้จัดฝึกอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพเพื่อเตรียมความพร้อมแก่บุคลากรและนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หลักสูตรภาษาเวียดนาม แบ่งการอบรมออกเป็น 2 ส่วน คือ การฝึกอบรมในประเทศ ระหว่างวันที่ 14-23 พฤษภาคม 2557 มี อาจารย์กัญญาวีร์ ทิพย์ลม อาจารย์ประจำหมวดวิชาภาษาต่างประเทศ โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ เป็นวิทยากรให้ความรู้ภาษาเวียดนามเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น ทำให้บุคลากรมีทักษะในการใช้ภาษาเวียดนามเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น และมีความพร้อมในการใช้ภาษาเวียดนามเพื่อการสื่อสารในประชาคมอาเซียน ในปี 2558 และระหว่างวันที่ 19-23 พฤษภาคม 2557 เดินทางไปอบรมต่างประเทศ ณ มหาวิทยาลัยเว้ ประเทศเวียดนาม ผู้เข้าร่วมอบรม ประกอบด้วย คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ทั้ง 5 แห่ง รวมทั้งสิ้น 50 คน


ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

จัดหางานจังหวัดขอนแก่น จัดงาน “มหกรรมนัดพบตลาดงาน สร้างฐานอาชีพ ขอนแก่น 57”

นายวิสูตร จ้อนเมือง จัดหางานจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่นได้กำหนดจัดงาน "มหกรรมนัดพบตลาดงาน สร้างฐานอาชีพ ขอนแก่น 57” ระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2557 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์ กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาส การมีงานทำและเปิดโลกทัศน์ทางอาชีพ ให้ผู้ประสงค์จะหางานทำ ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ได้ไปสมัครงานตำแหน่งที่ว่างและตนเองมีความรู้ความสามารถและมีคุณสมบัติ

นาย วิสูตร จ้อนเมือง เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้ก็ยังมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการลดปัญหาการว่างงาน การขาดแคลนแรงงานโดยจัดให้มีกิจกรรมการรับสมัครงานในประเทศด้วยระบบ IT จากสถานประกอบการกว่า 70 แห่ง รับสมัครไปทำงานต่างประเทศ การแสดงอาชีพกว่า 100 ชีพ ประกอบด้วยการสาธิตและทดลองปฏิบัติอาชีพ อิสระ ธุรกิจแฟรนไซส์ การรับงานไปทำที่บ้าน การแสดงอาชีพเสมือนจริง การประกวดโครงงานอาชีพของนักเรียนการแสดงนิทรรศการโลกอาชีพ การทดสอบความรู้ด้านภาษาอังกฤษเพื่อการสมัครงาน คลินิกแรงงาน




พนิดา/นศ.ฝึกงาน/ข่าว/พิมพ์
15 พฤษภาคม 2557)

จัดหางานจังหวัดขอนแก่นเตือนผู้ใช้แรงงานที่เข้าไปทำงาน ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ห้ามนำสารและยาต้องห้ามนำเข้าประเทศ

นายวิสูตร จ้อนเมือง จัดหางานจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งจากกรมการจัดหางานว่ามีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นำ  ยา Tramazac Tramadol ยาราพาเซตามอล ยา Chlorphen-Y Tablets และ ยา Chlorpheniramine Tablets (แก้อาการแพ้อากาศ ลดน้ำมูก) เข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยไม่มีใบรับรองจากแพทย์หรือใบสั่งแพทย์ ซึ่งทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถือว่าเป็นยาอันตรายและต้องห้ามนำเข้าประเทศ จึงทำให้ต้องถูกจับกุมในข้อหามียาต้องห้ามไว้ในครอบครอง และถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี เสียค่าปรับจำนวน 20,000 ดีแรห์ม(หรือประมาณ 180,000 บาท) รวมทั้งต้องถูกเนรเทศออกจากประเทศเมื่อพ้นโทษจำคุก

สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่นจึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชน คนหางานที่จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ให้นำสาร/ยารักษาโรคต้องห้ามเข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพราะหากถูกจับกุมจะต้องเสียทั้งเงิน เวลา และโอกาสในการทำงานแต่หากมีความจำเป็นจะต้องนำยารักษาโรคติดตัวเพื่อรักษาตัวต่อในขณะทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะต้องมีหนังสือรับรองจากแพทย์ผู้รักษาเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยขอให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น เลขที่ 490 หมู่ที่ 6 ถนนมะลิวรรณ ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โทรศัพท์ 0-4333-3199,0-4333-3201 ต่อ 13 , 21 ,22 หรือฝ่ายส่งเสริมการตลาดแรงงานในต่างประเทศ โทร 0-2246-6708-9 ในวันและเวลาราชการ



ชนิตร์นันท์/นักศึกษาฝึกงาน/พิมพ์
สมพงษ์/ข่าว
15 พฤษภาคม 2557

ขอนแก่นเตรียมนำสินค้าผ้าไหมมัดหมี่ สินค้าโอท๊อปและของดีของเด่นขอนแก่นไปแสดงและจำหน่ายที่หาดใหญ่

จังหวัดขอนแก่นเตรียมนำสินค้าผ้าไหมมัดหมี่ สินค้าโอท๊อปและของดีของเด่น ขอนแก่นไปแสดงและจำหน่ายในงานมหกรรมผ้าไหมมัดหมี่และของดีของเด่น จังหวัดขอนแก่น ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายสาโรจน์ สุวัตถิกุล พาณิชย์ จังหวัดขอนแก่น นางเกศินี สวัสดี วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น และนางเพ็ญสุภา ศิริสวัสดิ์ พัฒนาการ จังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2557 นี้จังหวัดขอนแก่นกำหนดเดินทางไปจัดงานมหกรรมผ้าไหมมัดหมี่และของดีของเด่นจังหวัดขอนแก่น ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองศิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ของผู้ประกอบการจังหวัดขอนแก่น เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าผ้าไหมและสินค้า OTOP ที่เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพและเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่นให้เป็นที่รู้จักเผยแพร่และเพื่อสร้างโอกาสในการเป็นคู่ค้ากับผู้ประกอบการในต่างภูมิภาคของประเทศให้แก่ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและสินค้า OTOP ของจังหวัดขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในงานจะมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าผ้าไหมมัดหมี่ซึ่งเป็นผ้าไหมเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่น ข้าวสาร หอมมะลิ , ไก่ย่าง เขาสวนกวาง , ผ้าฝ้ายและสินค้า OTOP คุณภาพ4-5 ดาว สินค้ายาสมุนไพร อาหาร เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับของจังหวัดขอนแก่น โดยจะมีผู้ประกอบการประมาณ 100 ราย ไปร่วมออกจำหน่ายสินค้าและนอกจากนี้จะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภาคอีสานให้ประชาชนในจังหวัดสงขลา จังหวัดใกล้เคียงและประชาชน นักท่องเที่ยว จากมาเลเซีย อินโดนีเซียได้ชมและเลือกซื้อตลอด 5 วัน ระหว่าง 21-25 พฤษภาคม 2557 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่



สมพงษ์/ข่าว
จันทิรา/นศ.ฝึกงาน/พิมพ์
(15 พฤษภาคม 2557)

ชัยภูมิเตรียมรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว.

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 15 พ.ค. 57 พลเรือเอกไตรภพ พิชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานราชองครักษ์ประจำกรมราชองครักษ์ เดินทางมาร่วมประชุม ร่วมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมโรงเรียนเพชรวิทยาคาร ต.บ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เพื่อเตรียมความพร้อม การรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. และพระราชทานของที่ระลึก แก่คณะกรรมการ อนุกรรมการและอาสาสมัคร พอ.สว.ประจำจังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก ภจว.ชัยภูมิ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดร่วมประชุม นอกจากนี้ยังมี ผู้แทนสำนักพระราชวัง ผู้แทน มลฑลทหารบกที่ 21 เดินทางมาประชุมด้วย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมด้านสถานที่ ด้านการวางระบบถวายความปลอดภัย และ สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย


สำหรับกำหนดการ ในวันศูกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2557 เวลา 14.00น. เสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทับเฮลิปคอปเตอร์พระที่นั่ง(กองทัพเรือจัดถวาย) ถึงสนามบินชั่วคราว โรงเรียนเพชรวิทยาคาร หมู่ที่ 7 บ้านเพชรเหนือ ต.บ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ดังนั้นเพื่อให้การรับเสด็จเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และมีความปลอดภัยอย่างสูงสุด จึงได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องขึ้นในครั้งนี้ เพื่อมอบหมายภารกิจและนำไปปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วงต่อไป




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ตำรวจชัยภูมิ จับขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ได้ของกลาง 120 ท่อน

วันนี้ (14 พ.ค. 57) เวลา 12.00 น. พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ แถลงข่าวจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ พร้อมผู้ต้องหา 3 คน ของกลาง ไม้พะยูง 120 ท่อน มูลค่า กว่า 30 ล้านบาท พร้อมอุปกรณ์ อีกเพียบ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทพสถิต สืบทราบว่ามีขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ เข้ามาว่าจ้างให้ลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ และสะสมไม้ ไว้จำนวนมหาศาล เตรียมส่งให้ลูกค้า จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ชย.1 ออกตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง บริเวณกระท่อมที่เกิดเหตุ หมู่ 14 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต พบผู้ต้องหา 3 คน ชื่อนายบุญยืน พันขุนทด นายยอดธง แสนชื่นสกุล และนาย สมศักดิ์ จากเกาะ ทั้ง 3 คน เป็น ชาวตำบลบ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ นอกจากนี้ในบริเวณกระท่อมยังพบไม้พะยูง 120 ท่อน ,ไม้ประดู่ 5 ท่อน และไม้พลวง 4 ท่อน กระจายอยู่บริเวณกระท่อมและในสระน้ำ และพบปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์อีก อีกจำนวน 4 กระบอก รถไถแทคเตอร์ 1 คัน จึงจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ขบวนการที่จับได้ในครั้งนี้ เป็นขบวนการใหญ่ มีเครือข่ายทั่วภาคอีสาน เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อบ้าน ถ้านำออกไป ต่างประเทศได้ มีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท และจะเร่งสืบสวนขยายผล หาตัวผู้ร่วมขบวนการ นายทุน เพื่อถอนรากถอนโคน นำมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

การประชุมคณะกรรมการบริหารเครือข่าย ทสม. สัญจรที่จังหวัดชัยภูมิ

กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ชี้ปัญหาขยะมีอยู่ในทุกพื้นที่ทั้งในเมืองและชนบท เร่งขับเคลื่อน ทสม. นำเสนอปัญหา ความต้องการ และแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะ เพื่อส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

วันนี้ (14 พฤษภาคม 2557) นายจตุรพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการบริหารเครือข่าย ทสม.สัญจร ครั้งที่ 5/2557 ณ ห้องดาวเรือง โรงแรมสยามริเว่อร์  อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยมี นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชารจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยส่วนราชการสังกัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมต้อนรับ และอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.)ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และเครือข่ายจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนาจำนวนมาก เพื่อขับเคลื่อนอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ภายใต้ยุทธศาสตร์เครือข่าย ทสม. (ปี ๒๕๕๗ – ๒๕๖๐) โอกาสนี้ได้จัดให้มีการจัดทำแผนพัฒนาและส่งเสริมกลไกการขับเคลื่อนเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ระดับจังหวัด การศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โครงการกังหันลม บริษัท เค เอสส์ ทรี จำกัด อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท บางจากโซล่า เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ณ ตำบลบ้านเพชร อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ และศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการเหมืองแร่โปรแตช บริษัท เหมืองแร่โปรแตชอาเซียน จำกัด (มหาชน) ณ ตำบลบ้านตาล อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ภายหลังพิธีเปิดการสัมมนาว่า ปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในปัจจุบัน คือปัญหาขยะ เพราะมีอยู่ในทุกพื้นที่ทั้งในเมือง และในชนบท และมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละพื้นที่ หากไม่เร่งดำเนินการแก้ไข จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวซึ่งสร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมาก จำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ไข โดยความร่วมมือทุกภาคส่วน และ ทสม. ในพื้นที่เป็นกำลังสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะที่ทำลายสิ่งแวดล้อม



จรุงจิต ฝางชัยภูมิ/ข่าว
ส.ปชส.ชัยภูมิ

จังหวัดนครราชสีมา จัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ

วันนี้ (15 พ.ค. 57) ที่โรงเรียนบ้านไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เพื่อให้บริการการเกษตรแก่เกษตรกร ได้แก่ คลินิกดิน บริการตรวจวิเคราะห์ดิน การให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาเรื่องดิน แจกปุ๋ยน้ำฟรี คลินิกพืช ให้คำแนะนำเรื่องการปลูกพืช การใช้ปุ๋ย การดูแลพืช การตรวจวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาโรคแมลงศัตรูพืช คลินิกปศุสัตว์ บริการฉีดวัคซินป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำหมันสัตว์เลี้ยง ให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงสัตว์ ตรวจวินิจฉัยโรคปศุสัตว์ คลินิกประมง ให้บริการคำแนะนำเรื่องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การตรวจคุณภาพน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลินิกให้บริการแนะนำการจัดทำบัญชีครัวเรือน บัญชีฟาร์ม กฎหมายเกษตร การจัดตั้งสหกรณ์ นิทรรศการด้านสาธารณสุขจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข นิทรรศการบ้านเกษตรสมบูรณ์ ผลิตอาหารเพิ่มพูนสุขภาพแม่-ลูกตามโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว การจำหน่ายสินค้า OTOP/ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและผลิตภัณฑ์จากกลุ่มแม่บ้านสายใยรักแห่งครอบครัว

จังหวัดนครราชสีมาจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ ตามโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน

วันนี้ (15 พ.ค. 57) ที่โรงเรียนบ้านไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดหน่วยบริการจังหวัดเคลื่อนที่ ตามโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ทั้งนี้การจัดโครงการดังกล่าวเพื่อให้ประชาชน ทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับบริการในด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานราชการ และเป็นการเพิ่มองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่นำไปใช้ในการดำรงชีวิต เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพของประชาชน โดยภายในงานได้มีหน่วยงานราชการ มาตั้งบูทให้คำปรึกษาในด้านการเกษตร การบริการทำหมันให้กับสุนัข การตรวจวัดสายตา และการสอนอาชีพให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน ซึ่งมี ประชาชนในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว เข้ามารับบริการจำนวนมากในโอกาสเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งมอบนโยบายของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ การแก้ปัญหายาเสพติดของจังหวัด การแก้ปัญหาความยาจน การรักษาศิลปวัฒนธรรม ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ และการรักษาความสงบในพื้นที่ชุมชนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมกันนี้เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา โดยนางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ยังได้นำถุงยังชีพ จำนวน 100 ชุด มามอบให้กับผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ อีกทั้งยังได้มอบพันธุ์ปลา กล้าไม้ ให้กับผู้นำชุมชนในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวอีกด้วย

ธกส.บุรีรัมย์ ระดมเงินฝากรอบสอง โครงการรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา

ผู้ว่าฯ ส่วนราชการ พร้อมด้วยนักธุรกิจ และประชาชนชาวบุรีรัมย์ ร่วมใจนำเงินไปฝากกับ ธกส.เพื่อช่วยเหลือชาวนา รอบที่สอง คาดมียอดฝากทะลุ 60 ล้านบาท

(15 พ.ค. 57) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนักธุรกิจ พ่อค้า คหบดี และประชาชนในจังหวัด ร่วมกันนำเงินฝากสมทบกับ ธกส.บุรีรัมย์ ในโครงการรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา รอบที่สอง เพื่อให้ธนาคารมีเงินในกองทุนสำหรับนำไปช่วยเหลือชาวนาที่นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำและยังไม่ได้รับเงินจากการจำนำข้าว ขณะที่มีภาคเอกชนหลายแห่ง นำเงินฝากเข้าโครงการฯ รวมกว่า 1 ล้านบาท โดยไม่หวังผลตอบแทน เช่นเดียวกับ

นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การนำเงินเข้าสมทบกองทุนในโครงการรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา กับ ธกส.ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่สอง ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 ซึ่งในช่วงแรกสามารถระดมเงินฝากเข้าโครงการฯ มียอดเงินสะสมรวมกว่า 53 ล้านบาท ที่ทุกฝ่ายความร่วมมือกันทั้งพ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ และประชาชนในจังหวัด ที่ต้องการช่วยเหลือชาวนาและต้องการให้ ธกส.มีกองทุนไว้สำหรับช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล คาดว่าในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ จะมียอดเงินสมทบเข้าโครงการฯ ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท

ด้านนายกัณห์ รัตนสกุลชาติ ผอ.ธกส.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การเปิดระดมเงินสมทบเข้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เริ่มคิ๊กออฟโครงการในวันที่ 6 มี.ค. 57 มีประชาชนให้ความสนใจนำเงินเข้าสมทบในกองทุนสำหรับช่วยเหลือชาวนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมียอดเงินสะสมเข้ากองทุนแล้วกว่า 53 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนได้ 3 ช่องทาง คือ 1. ที่ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 0200-3-3477-582 ธกส. สาขาบางเขน 2. สมทบเข้ากองทุนชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และ 3. สมทบเข้ากองทุน ชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราตอบแทน ร้อยละ 0.63 ต่อปี

อย่างไรก็ตามได้มีชาวนาในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทยอยเดินทางมารับเงินจำนำข้าวกับทาง ธกส. ได้ร่วมฝากเงินสมทบเข้ากองทุนรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา รายละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เพื่อนำไปสมทบในกองทุนไว้สำหรับช่วยเหลือเพื่อนชาวนาด้วยกันที่ยังได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ให้ได้รับความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป