วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การสืบหาบุคคลสูญหาย

ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดนครพนม ได้รับการประสานงานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี ให้ประกาศสืบหาบุคคลสูญหาย จำนวน 1 ราย คือ นายบุญธรรม ใจบุญ ข้าราชการครูตำแหน่งครูวิทยฐานะครูชำนาญการตำแหน่งเลขที่ 4934 โรงเรียนดอนตาลดงบังวิทยา อำเภอบ้านผือ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4 ได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสยามเขตบางชัน กรุงเทพมหานคร ในระหว่างร่วมคณะทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ เกรงว่าอาจได้รับอันตราย ซึ่งทางญาติเกรงว่าอาจจะถูกล่อลวงไปในทางที่เสียหาย หรือตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์

เพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพ หากผู้ใดมีข้อมูล เบาะแส หรือพบเห็นบุคคลดังกล่าว กรุณาแจ้ง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) ชั้น 1 โทรศัพท์ 042-511022, 042-511506 หรือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี โทรศัพท์ 042-325615 หรือ อีเมล์ Udonthani@m-society.go.th หรือแจ้งไปยัง นางพรพรรณ ใจบุญ ภรรยาผู้เสียหาย หมายเลขโทรศัพท์ 08-563-9486 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 OSCC

อุดรธานีจัดโครงการพัฒนาศักยภาพการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดและการจัดระเบียนสังคม

กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ ศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุดรธานี จัดโครงการพัฒนาศักยภาพการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดและการจัดระเบียนสังคมระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2557

วันนี้ ( 21 พ.ค.57 )ที่ห้องประชุมสบายดี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดและการจัดระเบียนสังคมจังหวัดอุดรธานี ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของที่ทำการปกครองจังหวัด ศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุดรธานี และศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอทั้ง 20 อำเภอ รวม 46 คน ร่วมประชุม

กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี ในฐานะองค์กรหลักในการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนมีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุนกระบวนการบริหารจัดการในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพสัมฤทธิผล ทั้งในด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้กับกลไกอำนวยการ กลไกปฏิบัติการ งานวิชาการ การประเมินผลตลอดจนการพัฒนาบุคลากรเจ้าหน้าที่ และเพื่อเป็นการเสริมสร้างทักษะ เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านยาเสพติด

สำหรับการจัดโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้รับความรู้ประสบการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการจัดระเบียบสังคมมากขึ้น ได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกัน และศึกษาดูงานการปราบปราม ป้องกัน แก้ไขและบำบัดฟื้นฟูปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต่างจังหวัด เพิ่มทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการจัดระเบียบสังคมให้แก่บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดให้สามารถนำความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ มาประยุกต์ในการปฏิบัติงานได้อย่างประสิทธิภาพ โดยกำหนดศึกษาดูงานในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 2 เทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อ และศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอบางละมุง




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

ผต.นร.ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุดธานี

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุดรธานี ประชุมสรุปผลการจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนและผลการสอดส่องโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด

วันนี้ (21 พ.ค. 57) ที่ห้องประชุมคำชะโนด ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายจำรัส ศักดิ์จิรพาพงศ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 10 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุดรธานี หรือ ก.ธ.จ.อุดรธานี ครั้งที่ 2 ประจำปี 2557 โดยมีนายสมศักดิ์ ถนัดช่าง รองประธานฯ นายวิโรจน์ พิพัฒน์ไชยศิริ ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ และคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุม

นายจำรัส ศักดิ์จิรพาพงศ์ ประธาน กธจ.อุดรธานี แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งแต่งตั้งนางสาวชุลีพร ภูสมศรี หัวหน้ากลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานจังหวัดอุดรธานี มาปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุดรธานี แทนนายชาญชัย คงทัน หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดอุดรธานี และกระทรวงการคลังได้ปรับอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งสำหรับกรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการใหม่จากเดิม 1,200 บาท เป็น 1,600 บาท ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป จากนั้นที่ประชุมได้มีการสรุปผลการสัมมนาจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนของ ก.ธ.จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อประชาสัมพันธ์บทบาทและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ก.ธ.จ.ลงสู่ท้องถิ่น ซึ่งก็ได้ข้อเสนอแนะที่หลากหลายในการดำเนินการป้องกันการทุจริตในพื้นที่ และมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับก.ธ.จ. ขณะเดียวกันก็มีการพิจารณาผลการสอดส่องโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2557 โดยเฉพาะโครงการพัฒนาพื้นที่หนองแดรองรับการแสดงและจำหน่ายสินค้า หารือแก้ไขปัญหารถขนขี้ยางพาราที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรในพื้นที่อำเภอนายูงด้วย




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

อุดรธานีจำหน่ายลิ้นจี่สดรสอร่อยมีคุณภาพจากภาคเหนือ

กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ จังหวัดอุดรธานี จัดจำหน่าย ลิ้นจี่คุณภาพ สดจากแหล่งผลิต สร้างเครือข่ายการค้าระหว่างเกษตรกรของจังหวัดภาคเหนือ กับผู้ซื้อผู้ค้าผลไม้ในจังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2557 ณ บริเวณหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดอุดรธานี

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้(21 พ.ค.57) ที่บริเวณตลาดร่มเขียว หน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดอุดรธานี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดงาน "ลิ้นจี่สด รสอร่อย มีคุณภาพ จากภาคเหนือ” โดยมีนายอนันต์ ศรีพันธุ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี นายสมัคร บุญปก รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมงาน นายเสน่ห์ รัตนาภรณ์ เกษตรจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ประเทศไทยมีแหล่งผลิตลิ้นจี่ที่สำคัญ 4 จังหวัดภาคเหนือได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยาและน่าน ซึ่งในปี 2557 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 59,199 ตัน เพิ่มจากปีที่แล้ว เพราะมีช่วงอากาศหนาวค่อนข้างยาว ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมกราคมที่ผ่านมา ต้นลิ้นจี่จึงสะสมอาหารได้เต็มที่

อีกทั้งในปีนี้พบว่าลิ้นจี่ออกดอกช้า 2-3 สัปดาห์ ส่งผลให้การเก็บเกี่ยวปีนี้ล่าช้าออกไปด้วย โดยเดิมลิ้นจี่จะออกสู่ตลาดประมาณเดือนเมษายน แต่ปีนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุดคือช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม ถึง 10 มิถุนายน 2557 ซึ่งคาดว่าจะมีผลผลิตจาก 4 จังหวัดภาคเหนือออกสู่ตลาดมากกว่า 40,637 ตัน เพื่อเป็นการกระจายผลผลิตสู่ตลาดและเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ได้รับประทานลิ้นจี่อร่อย กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ จังหวัดอุดรธานี จึงจัดงาน"ลิ้นจี่สด รสอร่อย มีคุณภาพ จากภาคเหนือ” เปิดจำหน่ายลิ้นจี่คุณภาพ ระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2557 วันละ 3 ตัน โดยมีเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนจากจังหวัดเชียงใหม่ นำผลผลิตลิ้นจี่คุณภาพดีมาจำหน่ายทุกวันๆ พร้อมกันนี้ตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว ยังมีการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและได้มาตรฐานของตลาดร่มเขียวอุดรธานีด้วย เป็นการกระตุ้นกลไกตลาดปกติให้เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว เกษตรกรมีความเข้มแข็งมากขึ้น และสามารถยืนได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคงต่อไป นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นศูนย์กลางการค้า แหล่งอุตสาหกรรมการเกษตรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประชากรกว่า 1,500,000 คน จึงเหมาะที่จะนำผลผลิตสินค้าเกษตรที่ดีมีคุณภาพจากแหล่งผลิตของเกษตรกรโดยตรงมาจำหน่ายให้ชาวอุดรธานีได้บริโภค อันเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค และเป็นการสร้างเครือข่ายการค้าระหว่างเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนของจังหวัดเชียงใหม่ กับผู้ซื้อ ผู้ค้าผลไม้ของจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

อุดรธานีจัดสัมมนาสถานประกอบการเสี่ยงตามโครงการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ ปี 57

ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานีจัดสัมมนาผู้ประกอบการสถานบริการและสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุรา หอพักตามโครงการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2557

ที่โรงแรมการิน อำเภอเมือง จังหวัดอุดธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานเปิดการสัมมนาสถานการประกอบการตามโครงการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการประจำปีงบประมาณ 2557 รุ่นที่ 1 โดยมีผู้ประกอบการประเภทโรงแรม หอพัก ห้องเช่า อพาร์ทเม้นท์ ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีร่วมประชุม 200 คน

นายนิคม ศิริสิงห์สังชัย นายอำเภอกุมภวาปี รักษาการแทนปลัดจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า สืบเนืองจากกระทรวงมหาดไทยได้กำหนด"นโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม"เพื่อดำเนินการกับสถานบริการสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการร้านจำหน่ายสุราที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญหรือดำเนินกิจการที่ขัดต่อภาพลักษณ์และวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทยและสถานประกอบการประเภทหอพัก ห้องเช่า หรือโรงแรมตลอดจนแหล่งอบายมุขที่ส่งผลเอื้อต่อปัญหายาเสพติด บ่อนการพนัน ตู้ม้ากำจัดสิ่งยั่วยุหรือจุดเสี่ยง สิ่งตีพิมพ์หรือเอกสารที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร โดยกำหนดกระบวนงานขั้นตอนการดำเนินการ 6 ขั้นตอนโดยบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ซึ่งจังหวัดอุดรธานี ได้จัดทำประกาศจังหวัด เรื่องนโยบายลดอบายมุขสร้างสุขให้สังคมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนโดยทั่วไปได้ทราบแนวทางปฏิบัติและการบังคับใช้กฎหมายไปทางหนึ่งแล้ว

ในการนี้เพื่อเป็นการดำเนินการตาม"นโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม"ของกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดอุดรธานีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย จังหวัดอุดรธานีโดยที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี จึงจัดสัมมนาสถานประกอบการตามโครงการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการประจำปี2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรม หอพัก ห้องเช่า อพาร์ทเม้น สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุรา ร้านคาราโอเกะ ร้านเกมส์/อินเตอร์เน็ต ตลอดจนโรงรับจำนำไดัรับทราบ"นโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม"อันเป็นนโยบายต่อเนื่องจากนโยบายจัดระเบียบของกระทรวงมหาดไทย รับทราบถึงระเบียบ กฎหมายและดำเนินกิจการใหัเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดและการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนที่เกิดขึ้นในสังคมไทย และเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

จังหวัดอุบลราชธานี ซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 เป็นการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ

(21 พ.ค.57) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในการ ฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 เต็มรูปแบบ ( Full Scale Exercise:FSX) จังหวัดอุบลราชธานี จัดขึ้น เพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วน ได้มีโอกาสฝึกซ้อมฯร่วมกัน และได้รับทราบบทบาท ภารกิจ หน้าที่ของแต่ละหน่วย ส่งผลให้เกิดความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามแนวทางของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ รวมทั้ง ทุกหน่วยจะได้รับทราบปัญหา อุปสรรค และข้อบกพร่องจากการฝึกซ้อมฯ และนำไปปรับปรุง แก้ไขให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป

โดยได้จำลองสถานการณ์ เกิดเหตุไฟไหม้ที่ชั้น 2 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าอุบลราชธานี โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ ทางศูนย์การค้าฯ ได้ดำเนินการดับเพลิงในเบื้องต้นตามแผนภายใน จากนั้น ได้แจ้งประสานขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลเมืองแจระแม / ตำรวจ / 1669 ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลเมืองแจระแม ได้เดินทางมาปฏิบัติการดับเพลิง แต่เหตุการณ์ได้ขยายลุกลามมากขึ้น จึงขอรับการสนับสนุนจากอำเภอ โดยอำเภอได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานราชการที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบ ระดมกำลังเข้ามาให้การช่วยเหลือ โดยมีนายอำเภอเมืองอุบลราชธานี เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ / จากนั้น ภัยได้ยกระดับขึ้นเป็นภัยระดับ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมายให้นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการหน่วยงานราชการทั้งหมด และระดมผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาเป็นที่ปรึกษาในการดับเพลิง กู้ภัย อพยพ และเยียวยาผู้ประสบภัย ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี และระเบียบที่เกี่ยวข้อง จนสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาได้ทั้งหมด โดยไม่มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย

คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการ โครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการกองทุน พัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 เพื่อส่งเสริมการบริหารกองทุนบทบาทสตรีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วันนี้ ( 21 พ.ค.57) ที่สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการกองทุน พัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดอุบลราชธานี การจัดโครงการในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดอุบลราชธานี ในด้านการบริหารและการจัดการงานในสำนักกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง ตามระเบียบข้อบังคับและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ความรู้ด้านบริหารจัดการแก่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทุกระดับ เพื่อสร้างและพัฒนาเครือข่ายสตรีทุกภาคส่วน เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับตำบล

การฝึกอบรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมจากคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน 221 ตำบล ตำบลๆ ละ 2 คน และเจ้าหน้าที่โครงการ รวมทั้งสิ้น 500 คน

คณะทำงานการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ลงพื้นที่ สำรวจภูมิประเทศ เพื่อเตรียมการฝึกซ้อมการบริหารวิกฤติการณ์ระดับชาติ ที่ จ.สุรินทร์

คณะทำงานจัดการฝึกซ้อมแผนการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2557 ลงพื้นที่สำรวจภูมิประเทศ เพื่อเตรียมการฝึกบริหารวิกฤติการณ์ระดับชาติ ประจำปีงบประมาณ 2557 ด้านภัยจากการสู้รบ ในพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดสุรินทร์

วันนี้ (21 พ.ค. 57) คณะทำงานคณะทำงานจัดการฝึกซ้อมแผนการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ จากการนำของพลตรีเดชา ปุญญบาล รองเจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหม ลงพื้นที่เพื่อสำรวจดูภูมิประเทศ เพื่อการเตรียมการฝึกซ้อมอพยพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ประกอบด้วย ผู้แทนส่วนราชการพลเรือน ส่วนราชการ ทหาร รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด้านภัยจากการสู้รบ การอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ในพื้นที่ตามแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้คณะกรรมการเตรียมความพร้อมแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการฝึกบริหารวิกฤตการณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557 (C-MEX14) เพื่อฝึกระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารภายใต้กรอบการบริหารวิกฤติการณ์ระดับชาติ และกำหนดกรอบสถานการณ์ฝึกให้ครอบคลุมภัยการสู้รบภัยมั่นคงรูปแบบใหม่ในพื้นที่ทางบกและทางทะเล โดยกำหนดจะดำเนินการฝึกในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ คือการฝึกในที่บังคับ (CPX) ระหว่างวันที่ 9-12 มิถุนายน 2557 และการฝึกซ้อมภาคสนาม (FTX) ระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2557 ซึ่งกำหนดพื้นที่ไว้ที่กองอำนวยการศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านโคกกลาง ตำบลโคกกลาง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ฝึกการลำเลียงผู้บาดเจ็บโดยอากาศยานและการชำระล้างสารเคมี และการตั้งศูนย์ประสานการส่งกลับสายการแพทย์ร่วมและพื้นที่ฝึกการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม การระดมผู้เชี่ยวชาญฯโดยอากาศยานและการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล โดยได้ระดมสรรพกำลังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งในจังหวัดและส่วนกลางร่วมฝึกในครั้งนี้ซึ่งกำหนดจัดให้มีการฝึกภาคสนามระหว่างวันที่ 9 – 13 มิ.ย. 2557 นี้ที่จังหวัดสุรินทร์




ประนนท์ ไม้หอม
ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการร่วมกิจกรรมโครงการ “ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัดทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธ”

วันนี้ (๒๑ พ.ค. ๕๗) เวลา ๐๗.๓๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ดร.ธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นางสุธิดา บุญประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการพร้อมพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตามโครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัด ทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ” ณ วัดโพธิ์ชัย ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร

นายศุภเดช การถัก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า โครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัด ทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ” เป็นโครงการที่จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร จัดขึ้นทุกวันพระ โดยหมุนเวียนไปตามวัดต่างๆ ทั้ง ๗ อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการจากส่วนราชการต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ได้มีโอกาสเข้าวัด ทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ เพื่อนำหลักธรรมคำสอนของศาสนาไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธอันดีงามให้คงอยู่คู่ชุมชนสืบไป

สำหรับครั้งต่อไป กำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (ตรงกับวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) ที่วัดศิลาวิเวก ตำบลบ้านแก้ง อำเภอดอนตาล จังหวดมุกดาหาร ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง อำเภอเมือง ร่วมทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยพร้อมเพรียงกัน




สุภาวดี  อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดหาร/ข่าว

อำเภอเมืองมุกดาหารเปิดโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดนและเสริมสร้างศักยภาพในการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

วันนี้ (๒๑ พ.ค. ๕๗) เวลา ๑๐.๐๐ น.  ดร.ธวัชชัย  ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน และเสริมสร้างศักยภาพในการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ณ โรงแรมริเวอร์ซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารมอบบ้านให้ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณียากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา จังหวัด

วันนี้ (๒๑ พ.ค. ๕๗) เวลา ๑๑.๐๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานมอบบ้านให้แก่ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณียากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา ในพื้นที่ อำเภอเมือง  พร้อมด้วย นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ดร.ธวัชชัย ธรรมรักษ์  รองผูู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นางสุธิดา บุญประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทางไปบ้านเลขที่ ๒๒ ม.๗ บ้านนาหนองยอ ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารซึ่งเป็นบ้านของนางไทไกล คำมุงคุณ  ราษฎรประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย เพื่อทำพิธีมอบบ้านตามนโยบายและแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน ๔ ด้าน ของผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้แก่ ด้านอาหาร ด้านยารักษาโรค ด้านที่อยู่อาศัย โดยระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนและใช้กระบวนการช่วยเหลือแบบบูรณาการเป็นระบบและครบวงจร

สำหรับบ้านที่มอบในครั้งนี้เป็นการร่วมมือจากหลายภาคส่วนร่วมกันสร้างบ้านทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและส่วนราชการระดับจังหวัด ใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๕๐,๐๐๐ บาท

หลังจากพิธีมอบบ้านนางไทไกล คำมุงคุณ ได้กล่าวขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างและมอบบ้านให้ในวันนี้ด้วย




สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ

จังหวัดร้อยเอ็ด เตรียมจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557

นายวสันต์ สวัสดิ์รัมย์ เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดกำหนดจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณหน้าที่ทำการสำนักงานเทศบาลตำบลโนนสววรรค์ หมู่ที่ 13 ตำบลโนนสวรรค์ อำเภอปทุมรัตน์ จังหวัดรอยเอ็ด ทั้งนี้ กิจกรรมประกอบด้วยคลินิกเกษตรเคลื่อนที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 13 หน่วยงาน เพื่อให้บริการเกษตรที่มีปัญหาด้านการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ การให้วัคซนป้องกันโรค เช่น คลินิกพืช สัตว์ ประมง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ คลินิกจักรกลการเกษตรบริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์การเกษตร เช่น เครื่องสูบน้ำ รถไถนาเดินตาม เครื่องตัดหญ้า พร้อมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและอะไหล่บางรายการฟรี การจัดแสดงนิทรรศการสายใยรักแห่งครอบครัว การจำหน่ายสินค้าแปรรูป และสินค้าจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนของอำเภอปทุมรัตต์

จึงขอเชิญชวนเกษตรกรอำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด และผู้สนใจ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ โดยทั่วกัน




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
21 พ.ค. 57

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมออกหน่วยแพทย์ พอ.สว.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมออกหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557 และจัดหน่วยบริการจังหวัดร้อยเอ็ดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างร้อยยิ้มให้ประชาชน ประจำปี 2557

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า คณะกรรมการ พอ.สว.ประจำจังหวัด กำหนดแผนการออกปฏิบัติงานหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว ) จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557 และจัดหน่วยบริการจังหวัดร้อยเอ็ดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ประจำปี 2557 ในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2557  ณ โรงเรียนบ้านหมากยาง หมู่ที่ 4 ตำบลสามขา อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยส่วนราชการระดังจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกไปให้บริการและพบปะเยี่ยมเยียนช่วยเหลือประชาชน แก้ไขปัญหาความยากจนและประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อราชการที่สำคัญให้ประชาชน พร้อมทั้งมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค/บริโภค บริการตรวจสุขภาพ วัดความดันโลหิต การบริการด้าน ทันตแพทย์ การมอบรถจักรยาน ถุงยังชีพ ไม้เท้าสำหรับผู้สูงอายุหรือพิการ

จังหวัดร้อยเอ็ดจึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ตำบลสามขา อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ไปรับบริการตามกิจกรรมดังกล่าว ในวัน เวลา และสถานที่แจ้งข้างต้น




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บรรณาธิการข่าว
 21 พ.ค. 57

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกและดินโคลนถล่ม ปี 2557

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกและดินโคลนถล่ม ปี 2557 โดยตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถลม จังหวัดร้อยเอ็ดปี 2557 ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกและดินโคลนถล่ม ปี 2557 โดยตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถลม จังหวัดร้อยเอ็ดปี 2557 ขึ้น ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำศูนย์ฯ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นกรรมการ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์และรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อุทกภัยที่จะเกิดขึ้น ควบคุมกำกับดูแล และชี้แนะแนวทางปฏิบัติ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ประกอบด้วยฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ และฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนและรายงานเหตุด่วน ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการ เพื่อติดตามสถานการณ์สภาพภาพอากาศและจัดระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยตลอด 24 ชั่วโมง รายงานสถานการณ์อุทกภัยทันทีที่เกิดขึ้น และรายงานโดยตรงต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะยุติ รับส่งข่าวสารข้อมูลต่างๆ เมื่อเกิดอุทกภัย และปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการอำนวยการศูนย์ฯ มอบหมาย



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
21 พ.ค. 57

จังหวัดร้อยเอ็ดขอบคุณส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดที่ทำให้การเก็บตัวและทัศนศึกษาการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014

วันนี้ (21 พ.ค. 57) เวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ครั้งที่ 5/2557 ที่ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการ ของส่วนราชการ และอำเภอในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนระเบียบวาระการประชุมนางกมลพร คำนึง ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ได้นำเสนอสรุปข่าวเด่นรอบเดือนและวีดีทัศน์การเก็บตัวและทัศนศึกษาการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ระหว่างวันที่ 8 – 14 พฤษภาคม 2557 ที่จังหวัดร้อยเอ็ด

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวขอบคุณส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และทุกภาคส่วนของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมการเก็บตัวและ ทัศนศึกษาการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุผลสำเร็จ ทำให้ประชาชนทั่วไปรู้จักจังหวัดร้อยเอ็ดมากขึ้น

นางบัณจง ธนะแพสย์ ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด ภาคเอกชนที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดเก็บตัวและทัศนศึกษาการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ได้กล่าวขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึก ชาวจังหวัดร้อยเอ็ดด้วยเช่นกัน ที่ทำให้การจัดเก็บตัวและทัศนศึกษาการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และบรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการ และได้รับคำชมเชยจากหลายภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ด้วย



วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 21 พ.ค. 57

จังหวัดร้อยเอ็ดมอบโล่เกียรติยศเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดที่เสี่ยงภัยในสถานศึกษา

วันนี้ (21 พ.ค. 57) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีมอบโล่เกียรติยศเชิดชูเกียรติให้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ตามโครงการสถานศึกป้องกันยาเสพติดดีเด่น ปี 2557 ในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเสพติดจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำเดือนพฤษภาคม 2557

ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการคัดเลือกหน่วยงาน ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ตามโครงการสถานศึกป้องกันยาเสพติดดีเด่น ปี 2557 เพื่อมอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดที่เสียงภัยและเสียสละเวลาในการดูแลนักเรียน ไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผลการประเมินมีหน่วยงานงานและข้าราชการในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 ได้รับรางวัล จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย ประเภทสถานศึกษา ได้แก่ โรงเรียนบ้านสองห้องหนองดงหนองหิน อำเภอโพนทอง นายสุภาพ สุริโย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสองห้องหนองดงหนองหิน ประเภทผู้บริหารสถานศึกษา ได้แก่ นายสุริยา นทีศิริกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลโพนทอง ประเภทครูผู้สอน ได้แก่ นางจุฑาธิป ศรีสถิต ครูโรงเรียนบ้านหัวครู อำเภอเสลภูมิ นายเทวฤทธิ์ พลเยี่ยม ครูโรงเรียนนาแพงวิทยาคาร อำเภอโพนทอง และนางสายวสันต์ สุขชะไต ครูโรงเรียนบ้านกกตาลดงบังวิทยา อำเภอหนองพอก ประเภทบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ นายสฤษดิ์ วงษ์กาฬสินธุ์ นักวิชากรรศึกษาชำนาญการพิเศษ สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3



 วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 21 พ.ค. 57

จังหวัดศรีสะเกษ จัดอบรม ติวเค้มแก่ อพม. ทบทวนการปฏิบัติงานและรับนโยบายการปฏิบัติงาน

กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ  ได้จัดประชุมอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(อพม.) ระดับอำเภอ ขึ้นเพื่อทบทวนการปฏิบัติงานและรับนโยบายการปฏิบัติงานตามโครงการ "เสริมพลังทางสังคมและการมีส่วนร่วม จังหวัดศรีสะเกษประจำปี 2557" และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การปฏิบัติงานตามแผนประจำปี

วันนี้ (21 พฤษภาคม 2557)  ณ ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร โรงแรมสิริเกส  อำเภอเมืองศรีสะเกษ  นายประทีป  กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  เป็นประธานเปิดการประชุมฯ ขึ้น  โดยมีนายทวีศักดิ์  สิงห์ดง  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ   ซึ่งในภาวะกาการณ์ปัจจุบัน สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ  สังคม การเมือง  วัฒนธรรมและเทคโนโลยี ฯลฯ  คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญของวัตถุนิยมเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ  พ่อ แม่ ผู้ปกครอง มีความจำเป็นต้องเดินทางไปประกอบอาชีพ ดิ้นรนไขว่คว้าหารายได้เลี้ยงครอบครัวในสถานที่ไกลจากภูมิลำเนา หรือไม่ไกลจากภูมิลำเนาแต่ไม่มีเวลาให้ครอบครัว สมัยก่อนสภาพครอบครัวมีความเป็นอยู่ตามวิถีชีวิตชนบทมีความเมตตาโอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันได้ลดลงไปมากสังคมเริ่มดำเนินชีวิตแบบตัวใครตัวมัน จึงทำให้ครอบครัวที่มีความอ่อนแออยู่แล้ว  เช่น  ครอบครัวยากจน  คนพิการดูแลตนเองไม่ได้  เด็กถูกทอดทิ้ง  ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง ครอบครัวแตกแยก  ปัญหายาเสพติติดคุกคามคนในครอบครัว  ปัญหาการถูกกระทำด้วยความรุนแรง  ครอบครัวที่มีผู้ป่วยเรื้อรังที่ไม่มีคนดูแล และผู้ป่วยเอดส์  ต้องเผชิญปัญหาโดยลำพัง  ซึ่งปัญหานับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้น  จากสภาพปัญหาเหล่านี้ทำให้สังคมไทยได้ก่อเกิดพลังจิตอาสา มีการเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันที่ชัดเจนมากขึ้น  ซึ่งบุคคลที่มีจิตอาสาส่วนหนึ่งมาจากกกลุ่มคนที่เป็นอาสาสมัคร และกระทรงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สร้างกลุ่มจิตอาสาขึ้นที่เรียกชื่อว่า  อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(อพม.)  ขึ้นมาเพ่อทำหน้าที่ เป็นกลไกหลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยการเฝ้าระวังปัญหา การประสานของความช่วยเหลือ  สงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส ประสานส่งต่อให้  ผู้ประสบปัญหาให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามอัตภาพ  และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์  และสามารถทำงานในรูปขององค์กร เชื่อมโยงกับเครือข่ายอื่นๆได้

ดังนั้น  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ  จึงให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะการพัฒนาคน ให้มีความรู้ มีทักษะ พร้อมจะออกไปปฏิบัติงาน เพื่อดูแลกลุ่มที่ประสบปัญหาทางสังคมให้มีประสิทธิภาพ จากเหตุผลดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดศรีสะเกษ  ประจำปี  2557 ทั้งนี้  เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการบูรณาการการพัฒนาของหน่วยงานทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการดำเนินงานส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.)  ให้มีความเป็นเอกภาพและมีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ  ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นกลไกเครือข่ายในการกประสานงานกับทุกภาคส่วนเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชน และเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีกระบวนการเสริมสร้างความรู้  ความสามารถและทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้มีความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเสริมบทบาทและภาพลักษณ์ที่ดีของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  โดยมีอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จำนวนทั้งสิ้น 206  คน เข้าร่วมการประชุม



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์ สร้อยเพชร / ข่าว

โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดศรีสะเกษ เปิดการอบรมฟื้นฟูผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติด รุ่นที่ 1 ประจำปี 2557

จังหวัดศรีสะเกษ โดยโรงเรียนวีวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดศรีสะเกษ  ดำเนินการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด รุ่นที่ 1  ประจำปี 2557 ตามแผนงานกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

วันนี้ (20 พ.ค. 57) ณ  กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2  นายสนิท  ขาวสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติด โดยโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดศรีสะเกษ  ซึ่งมีนายวัฒนา  พุฒิชาติ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ  หัวหน้าส่วนราชการ  คณะวิทยากร  ชุดครูฝึก และผู้เข้ารับการบำบัด ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ให้การต้อนรับ ซึ่งรัฐบาลกำหนดแผนยุทธศาสตร์ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเป็นยุทธศาสตร์หลัก ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้กลยุทธ์ 7 แผนหลัก  ต่อเนื่องในปี 2557  โดยในแผนการแก้ไขปัญหาผู้เสพยาเสพติด กำหนดให้นำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัด จำนวน 300,000 คน  ให้ได้ร้อยละ 80  เป็นแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงาน  ทั้งนี้ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด ให้กลับมาเป็นคนดีมีคุณภาพแกละกลับไปอยู่ในสังคมชุมชนได้อย่างปกติ และให้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด  ที่เข้ารับการบำบัดรักษาได้ฝึกอบรมอาชีพให้มีความสมารถนำไป ประกอบอาชีพ สร้างรายได้ช่วยเหลือตนเองและครอบครัว และไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีแผนดำเนินการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพ ผูเสพยาเสพติด ในระบบสมัครใจบำบัดในทุกจังหวัด  ตามหลักสูตรโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครอง ใช้เวลาการบำบัด  15 วัน  ในรูปแบบการบำบัด เป็นการผสมผสานด้วยกระบวนการชุมชนบำบัด และหลักสูตร เร่งรัด อย่างย่อของกระทรวงสาธารณสุข  เพื่อฟื้นฟูสมรถภาพร่างกาย  จิตใจ  และการฝึกอบรมอาชีพให้ผู้เสพยาเสพติดกลับมาเป็นคนดีมีคุณภาพของสังคม และไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด  โดยกำหนดให้ จังหวัดศรีสะเกษ (โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดศรีสะเกษ) ดำเนินการบำบัดฟืนฟูสมรรถภาพผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด จำนวน  300  คน    แบ่งการฝึกอบรมเป็น 5 รุ่น   รุ่นละ  60 คน 

สำหรับการเปิดโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดในครั้งนี้ เป็นรุ่นที่ 1  ประจำปี  2557   โดยมีผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดจำนวน 60  คน เข้าร่วมการบำบัดรักษา   ในห้วงระหว่างวันที่ 16 - 30  พฤษภาคม  2557    รวม  15 วัน



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์  สร้อยเพชร / ข่าว

จังหวัดศรีสะเกษ จัดงาน "เทศกาลเงาะ - ทุเรียน และของดีศรีสะเกษ 57"

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดจัดงาน "เทศกาลเงาะ - ทุเรียน และของดีศรีสะเกษ 57" ขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 8 - 14 สิงหาคม 2557 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ้งมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะ เงาะ และทุเรียน ซึ้งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัด ผลผลิตมีคุณภาพดีเป็นแหล่งผลิตเพื่อการส่งออก เพื่อเป็นการส่งเสริมทางการตลาด และเพิ่มชองทางการตลาดเปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้ผลิตและกลุ่มผู้ซื้อ มีการเจรจาธุรกิจเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองราคาผลผลิตให้แก่เกตรกร เป็นกิจกรรมส่งเสริมเกษตรกรให้ผลิตผลผลิทางการเกษตรเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองราคาผลิตให้แก่เกษตรกร เป็นกิจกรรมส่งเสริมเกษตรกรให้ผลิตผลผลิตทางการเกษตรให้ทีคุณภาพดีตรงกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และเพื่อเป็นการส่งเสริมทางด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินเข้ามาในจังหวัดศรีสะเกษ ตลอดจนได้กำหนดให้เป็นเทศกาลประจำปีของจังหวัด ภายในงานการประกอบด้วย การออกร้านจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในจังหวัด จำหน่ายสินค้าวิสาหกิจชุมชน สินค้า OTOP กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การออกร้านนิทรรศการขององค์กรภาครัฐและเอกชน การประกวดราคาทางการเกษตร กิจกรรมเพื่อส่งเสริมเยาวชนต่อต้านยาเสพติด ได้แก่ การแสดงด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การแสดงดนตรี การประกวดวงดนตรี การประกวดร้องเพลง



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/พิมพ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มอบบ้าน เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ นายบุญชู ชัยนา ราษฎรผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน กรณียากจน เจ็บ อนาถา ในพื้นที่อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร

วันนี้ (๒๑ พ.ค. ๕๗) เวลา ๑๕.๓๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานมอบบ้านให้แก่ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณียากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา ในพื้นที่ อำเภอนิคมคำสร้อย  พร้อมด้วย  นางสุธิดา บุญประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ส่วนราชการ อบต.นากอก ผู้นำชุมชน ได้เดินทางไปบ้านเลขที่ ๑๖ ม.๘ บ้านด่านยาว ตำบลนากอก อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญชู  ชัยนา ราษฎรประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย เพื่อทำพิธีมอบบ้าน เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ตามนโยบายและแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน ๔ ด้าน ของผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้แก่ ด้านอาหาร ด้านยารักษาโรค ด้านที่อยู่อาศัย โดยระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนและใช้กระบวนการช่วยเหลือแบบบูรณาการเป็นระบบและครบวงจร

สำหรับบ้านที่มอบในครั้งนี้เป็นการร่วมมือจากหลายภาคส่วนร่วมกันสร้างบ้านทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและส่วนราชการระดับจังหวัด ใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๕๐,๐๐๐ บาท

หลังจากพิธีมอบบ้านนายบุญชู ชัยนา  ได้กล่าวขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างและมอบบ้านให้ในวันนี้ด้วย



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

4 อปท.กาฬสินธุ์ หนุนนำร่องหมู่บ้านต้นแบบส่งเสริมการเกษตร (เกษตร Zoning MRCE )

สำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับ อบต.กมลาไสย อ.กมลาไสย อบต.นาเชือก อ.ยางตลาด อบต.สำราญใต้ อ.สามชัย และ อบต.นิคมห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง สนับสนุนนำร่องหมู่บ้านต้นแบบโครงการหมู่บ้านส่งเสริมการเกษตร (เกษตร Zoning MRCE) เพื่อจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นพัฒนาอาชีพและจัดการทรัพยากรชุมชน

นายสมบูรณ์ ซารัมย์ เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้กำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรปี 2557 จำนวน 6 ด้าน คือ ด้านการดำเนินงานโครงการพระราชดำริ, ด้านบุคคล, ด้านข้อมูลการเกษตร, ด้านองค์กรเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนและเครือข่าย, ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตร และด้านการบริหารจัดการงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและตอบสนองโครงการกำหนดเขตปลูกพืชที่เหมาะสม (เกษตร Zoning MRCE) ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการทำงานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่มีการพัฒนา ตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกรและชุมชน ตลอดจนนโยบายของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินงาน "หมู่บ้านส่งเสริมการเกษตร (เกษตร Zoning MRCE) นำร่องต้นแบบในพื้นที่ 4 อำเภอ ๆ ละ 1 หมู่บ้านพร้อมกันระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2557 ได้แก่ อบต.กมลาไสย อ.กมลาไสย บ้านสงยาง หมู่ที่ 3 ต.กมลาไสย มี 176 ครัวเรือน, อบต.นาเชือก อ.ยางตลาด บ้านหนองกาว หมู่ที่ 5 ต.นาเชือก มี 170 ครัวเรือน, อบต.สำราญใต้ อ.สามชัย บ้านโคกสำราญ หมูที่ 1 ต.สำราญใต้ มี 122 ครัวเรือน และ อบต.นิคมห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง บ้านนาอุดม หมู่ที่ 2 ต.นิคมห้วยผึ้ง มี 77 ครัวเรือน

เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการดำเนินงานในพื้นที่ คือ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการในพื้นที่หมู่บ้านต้นแบบ (เกษตร Zoning MRCE) ด้วยการบูรณาการแบบมีส่วนร่วมของประชาชน จัดเก็บข้อมูลด้านสังคมและเศรษฐกิจ ศึกษาข้อมูลระดับหมู่บ้าน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาหมู่บ้าน ส่งเสริมการเกษตรต้นแบบ ฝึกปฏิบัติการบ้านต้นแบบ จัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้านส่งเสริมการเกษตรต้นแบบ สำหรับการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐาน เช่น ข้อมูลหมู่บ้าน ชื่อหัวหน้าครัวเรือนเลขประจำตัวประชาชนที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน รหัสบ้าน ระดับการศึกษา การขึ้นทะเบียนเกษตรกร อาชีพหลัก อาชีพรอง อายุสมาชิกในครัวเรือน รายได้ของครัวเรือน รายจ่ายของครัวเรือน สุขภาพของคนในครอบครัว องค์ความรู้ ภูมิปัญญา ความสามารถพิเศษของคนในครัวเรือน ข้อมูลด้านการเกษตร พื้นที่ถือครองทั้งหมด เอกสารสิทธิ์ในพื้นที่นาถือครอง ชนิดพันธุ์ข้าวที่ปลูก แหล่งที่มาของพันธุ์ข้าวและผลผลิต พื้นที่ปลูกอ้อยโรงงาน ผลผลิตเฉลี่ย พื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง และผลผลิตเฉลี่ย พื้นที่ปลูกยางและผลผลิตแผ่นยาง ผลผลิตยางก้อนถ้วย ผลผลิตน้ำยางสดแหล่งจำหน่ายยางพารา พื้นที่ปลูกไม้เศรษฐกิจ ข้อมูลการเลี้ยงสัตว์ เครือจักรกลด้านการเกษตร เครื่องสูบน้ำ รถไถเดินตาม รถไถใหญ่ และโรงสีข้าวเป็นต้น



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

การประชุมเชิงปฏิบัติการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ประชาชนที่ชัยภูมิ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ กรมวังผู้ใหญ่ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ประชาชนที่ชัยภูมิ เมื่อเวลา 09.00 น. (วันนี้ 21 พ.ค. 57) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ว่าที่ร้อยตรี กิตติ ขันธมิตร กรมวังผู้ใหญ่ เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ประชาชน ที่บ้านห้วย ต.หนองโดน อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ มีนางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ให้การต้อนรับ เป็นโครงการที่สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ และเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกิดเป็นภูมิคุ้มกัน สามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ทันกับสถานการณ์บ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป เป้าหมาย สมาชิกกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงบ้านห้วย หมู่ 3 ต.หนองโดน และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน จำนวน 50 คน

ในโอกาสนี้ ได้อัญเชิญเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวพระราชทาน ซึ่งเป็นพันธุ์ ที่ทางโครงการฯ ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อมอบให้สมาชิก นำไปปลูกในครัวเรือน และขยายพันธุ์โดยไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกอีก เป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับครัวเรือนได้อีกทางหนึ่ง และสามารถขยายต่อไปยังครอบครัวอื่นๆ ชุมชนอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ประชาชน เป็นหนึ่งในอีกหลายโครงการ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญรอยพระยุคคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และทรงดำเนินโครงการต่างๆด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัย ด้านการศึกษา ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น และเสด็จฯไปทรงงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้พสกนิกร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ และดำเนินชีวิตได้เท่าทันกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงไป



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ประชุมชี้แจง ทำความเข้าใจ หัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัด หลังมีประกาศกฎอัยการศึก

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ จัดประชุม ชี้แจง สร้างความเข้าใจแก่หัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัด กำชับการรักษาความปลอดภัยสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภค พบเห็นกลุ่มผู้ไม่หวังดี ให้รายงานผู้ว่าฯโดยตรง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ( 21 พ.ค. 57 ) ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชัยภูมิ ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่หลังมีการประกาศกฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยในการประชุมได้มีการสั่งการให้หน่วยงานภาครัฐช่วยกันตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมตัว ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายหรือความไม่สงบในพื้นที่ รวมถึงห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล โดยหากจำเป็นให้รายงานมายังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชัยภูมิทันที หรือหากมีข้อสั่งการมาจาก ต้นสังกัด ขอให้รายงานมายังกองอำนวยการฯด้วย



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

มทส.ขายสิทธิบัตรต่อยอดเชิงพาณิชย์ งานวิจัย “ไม้เชิงวิศวกรรมสมรรถนะสูง”

วันนี้ (21 พ.ค. 57) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมบรรณสารสาธิต ชั้น 4 อาคารบรรณสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีพิธีลงนามสัญญาอนุญาตใช้สิทธิ "ไม้เชิงวิศวกรรมสมรรถนะสูง” ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี โดยดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี สุรนารี เป็นผู้ลงนามในฐานะผู้อนุญาตใช้สิทธิ และ บริษัท เวิลด์ ออฟ เนเจอรัล เทรดดิ้ง จำกัด โดยนายวีรศักดิ์ โอมาก ประธานกรรมการบริษัท เวิลด์ ออฟ เนเจอรัล เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้ลงนามในฐานะผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า จากภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยในการปรับแปลงและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาให้สามารถขยายผลไปสู่การบริการทางวิชาการ การให้คำแนะนำปรึกษาแก่บุคคลภายนอก รวมถึงการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการของไทยมีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันในสภาวะเศรษฐกิจโดยใช้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลังจากได้ทำการเผยแพร่ผลงานวิจัย "ไม้เชิงวิศวกรรมสมรรถนะสูง” โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อุทัย มีคำ อาจารย์ประจำสาขาวิชาพอลิเมอร์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มทส. หัวหน้าโครงการ ซึ่งได้ทำการยื่นคำขอรับสิทธิบัตรไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 5 สิทธิบัตร ปรากฏว่าได้รับความสนใจจาก บริษัท เวิลด์ ออฟ เนเจอรัล เทรดดิ้ง จำกัด ขอซื้อสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เป็นระยะเวลา 10 ปี การอนุญาตให้ใช้สิทธิในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

สำหรับคุณสมบัติพิเศษของไม้เชิงวิศวกรรมสมรรถนะสูง เป็นวัสดุประเภทไม้ที่ผลิตขึ้นจากเศษวัสดุของไม้หรือเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร นำมารวมกับสารยึดติดประเภทกาว ผ่านกระบวนการผลิตเชิงวิศวกรรมจนได้วัสดุไม้เชิงวิศวกรรมที่มีลักษณะเป็นชิ้นไม้ มีความแข็งแรงเชิงกลที่ดีเยี่ยม เทียบเท่าไม้เนื้อแข็งจากธรรมชาติ มีความคงทนต่อสภาวะแวดล้อมทั้ง ลม ฝน น้ำท่วม ได้เป็นระยะเวลานานๆ และทนต่อการทำลายของแมลงมอดไม้และปลวก

ผู้ว่าโคราชนำหัวหน้าส่วนราชการเข้าวัด ตามโครงการ ผู้ว่าฯพาเยี่ยมวัด

วันนี้ (21 พ.ค. 57 57) เวลา 07.30 น. ที่วัดโคกสูง ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาด นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายประพาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันถวายภัตตาหารเช้าให้กับพระภิกษุสงฆ์ ที่จำพรรษาอยู่ที่วัดโคกสูง พร้อมรับฟังธรรมเทศนา ตามโครงการผู้ว่าฯพาเยี่ยมวัด ทุกวันพระ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ข้าราชการและประชาชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมทั้งส่งเสริมประเพณีทางพระพุทธศาสนาอันดีงามของชาติไทย และถวายเป็นพุทธบูชา

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในและกองทัพภาคที่ 2 เปิดยุทธการ พิทักษ์ไพร มรดกไทย มรดกโลก เพื่อคุ้มครองผืนป่าเขาใหญ่-ทับลาน-ดงพญาเย็น

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในและกองทัพภาคที่ 2 เปิดยุทธการ พิทักษ์ไพร มรดกไทย มรดกโลก เพื่อคุ้มครองผืนป่าเขาใหญ่-ทับลาน-ดงพญาเย็น วันที่ 20 พ.ค. 57

นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดยุทธการพิทักษ์ไพร มรดกไทย มรดกโลก ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา โดยมีเป้าหมายเพื่อตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ในผืนป่ารอยต่อระหว่างเขาใหญ่ ทับลาน ดงพยาเย็น และปราบปรามขบวนการตัดไม้พะยูง โดยเฉพาะในป่าลึกของอุทยานแห่งชาติทับ ลานซึ่งขบวนการตัดไม้ พยายามลักลอบตัดและลำเลียงออกนอกพื้นที่โดยมีนายทุนหนุนหลัง ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้กระทำความผิดให้เด็ดขาด รวมทั้งให้มีการรณรงค์ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ในท้องถิ่นร่วมกันหน่วยงานภาครัฐ ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปลูกต้นพะยูงในเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน และมอบพันธุ์กล้าไม้พะยูงให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนและสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในการที่จะช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ อีกทั้งยังได้มอบอุปกรณ์เดินป่าและเสบียงอาหารให้กับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของอุทยานแห่งชาติทับลานที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผืนป่าอีกด้วย

ผู้ว่าโคราช ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน พร้อมมอบเงินและถุงยังชีพแก่ผู้ยากไร้ ตามโครงการ ผู้ว่าป๊ะชาวบ้านต๋อนเย็น

วันที่ 20 พ.ค. 57 เวลา 18.00 น. ที่บ้านวังวน ม.2 ต.โคราช อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ ผู้ว่าป๊ะชาวบ้านต๋อนเย็น ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและผู้ที่เกี่ยวข้องได้พบปะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนและรับทราบข้อเสนอแนะจากประชาชน ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กร และเครือข่ายองค์กรชุมชน รวมทั้งได้รับข้อมูลเพื่อการวางแผนแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการพัฒนาด้านคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อีกทั้งเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างภาคราชการ ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม และเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและเข้าใจนโยบายของรัฐบาล นโยบายของจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะนโยบายในการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อจะได้พัฒนาตนเอง ครอบครัว และชุมชนให้สอดรับกับนโยบายต่างๆและนำไปปฏิบัติเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ต่อไป สำหรับกิจกรรมภายในงานได้มีการเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังปัญหาในพื้นที่ ระหว่าง ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับ ผู้นำชุมชน ผู้แทนองค์กรชุมชนและประชาชน การเปิดสอนอาชีพอิสระให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้นำไปเป็นแนวทางในการสร้างรายได้ นอกจากนี้ ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนที่ยากไร้และด้อยโอกาส พร้อมมอบเงินและถุงยังชีพ ให้กับประชาชนที่ยากไร้ อีกด้วย

ผู้ว่าฯ ร่วมกับผู้แทนทหาร ประชุมด่วนทั้งอัยการ ตำรวจ ส่วนราชการชี้แจงกฎอัยการศึก

ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พร้อมผู้แทนฝ่ายทหาร เรียกประชุมด่วนอัยการ ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หอการค้า และองค์กรภาคเอกชน ชี้แจงแนวปฏิบัติตามประกาศกฎอัยการศึก ย้ำเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนก ขณะในพื้นที่ล่าสุดยังไม่พบมีความเคลื่อนไหวของมวลชนทุกกลุ่ม

(21 พ.ค. 57) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พันเอกสมชาย ครรภาฉาย เสธ.จทบ.บุรีรัมย์ ในนามของผู้แทน ผอ.รส.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกประชุมด่วน อัยการ ตำรวจ ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หอการค้า องค์กรเอกชน และนายอำเภอทุกอำเภอ ที่ห้องนารายณ์บรรทมสินธุ์ ศาลากลางจังหวัด ชั้น 4 เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการ และหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ทั่วราชอาณาจักร และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างเคร่งครัด

ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน ถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึกอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความสงบสุขเรียบร้อยในบ้านเมือง และมิให้เกิดความแตกแยก พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำไปยังสื่อแขนงต่างๆ ให้งดเว้นการนำเสนอข่าวสารกรณีการดูหมิ่นสถาบัน หรือข้อความใดๆที่เข้าข่ายการยั่วยุ ยุยง ปลุกปั่น ที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เกิดแตกแยก แบ่งฝ่ายอันจะนำไปสู่ความไม่สงบด้วย โดยมอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด เป็นผู้ดำเนินการแจ้งไปยังสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่ รวมทั้งวิทยุชุมชนทุกสถานีได้รับทราบ และติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา

นอกจากนั้นได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการ รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ไว้จัดเจ้าหน้าที่เวรยาม คอยสอดส่องดูแล และรักษาความปลอดภัยอาคาร สำนักงาน ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวหรือสถานการณ์ใดๆ ที่จะส่อเค้าให้เกิดความผิดปกติเกิดขึ้นให้เร่งแจ้งมายังหน่วยทหารในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเดินทางไปร่วมประชุม สัมมนาของหน่วยงานต่างๆ ต้องทำหนังสือขออนุญาตไปยังหน่วยงานทหารในพื้นที่ เพื่อมิให้เกิดความสับสนอีกทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกในระหว่างการเดินทาง โดยได้มีการกำชับให้ทุกภาคส่วนได้ปฏิบัติตามประกาศกฎอัยการศึก และแนวทางการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตามในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ ล่าสุดยังไม่พบมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนในพื้นที่แต่อย่างใด

จัดโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวศูนย์ราชการจังหวัด

จังหวัดบึงกาฬ จัดโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวศูนย์ราชการจังหวัด สร้างความร่มรื่น สวยงาม และภาพลักษณ์ที่ดี เน้นต้นไม้ขนาดใหญ่ ให้ร่มเงา และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด ของชาติ

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔ ได้มีการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและบริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการ แต่เนื่องจากศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬที่สร้างขึ้นใหม่มีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น สวยงามและแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดบึงกาฬ จึงได้จัดทำโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นเอกลักษณ์และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับข้าราชการ พนักงาน ประชาชนผู้มาติดต่อราชการและผู้มาเยือน แบ่งการปลูกต้นไม้ ออกเป็น ๓ ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ ๑ ปลูกต้นไม้ขุดล้อม ต้นอินทนิล บริเวณสองข้างทางและบริเวณเกาะกลางถนน ทางเข้าศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ จำนวน ๒๖๐ ต้น ปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ ต้นประดู่ พะยูง ตะแบก บริเวณสองข้างศาลากลางจังหวัด จำนวน ๒๖๘ ต้น ระยะที่ ๒ ปลูกต้นไม้ขุดล้อม ต้นอินทนิล บริเวณสองข้างทางรอบอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ จำนวน ๖๐ ต้น ปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ ต้นประดู่ พะยูง ตะแบก บริเวณสองข้างศาลากลางจังหวัด(เพิ่มเติม) จำนวน ๓๖๔ ต้น ปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ ต้นประดู่ พะยูง ตะแบก บริเวณลานจอดรถสองข้างศาลากลางจังหวัด จำนวน ๖๖ ต้น ปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ ต้นประดู่ พะยูง ตะแบก บริเวณสองข้างหอประชุมศาลากลางจังหวัด จำนวน ๓๖๔ ต้น ปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ ต้นประดู่ พะยูง ตะแบก บริเวณลานจอดรถสองข้างหอประชุมศาลากลางจังหวัด จำนวน ๖๖ ต้น ปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ ต้นประดู่ พะยูง ตะแบก บริเวณริมถนนและเกาะกลางถน หน้าศาลากลางจังหวัดและหอประชุม จำนวน ๙๒๕ ต้น ระยะที่ ๓ ปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ ต้นประดู่ พะยูง ตะแบก บริเวณสองข้างทางและเกาะกลางบริเวณส่วนราชการและบ้านพักข้าราชการ จำนวน ๘๗๐ ต้น ซึ่งการปลูกกล้าไม้ถุงใหญ่ มีค่าใช้จ่ายต้นละ ๖๐๐ บาท การปลูกต้นไม้ขุดล้อม มีค่าใช้จ่ายต้นละ ๒,๐๐๐ บาท โดยใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น ๒,๔๗๓,๘๐๐ บาท ซึ่งจะขอรับการสนับสนุนจากส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรและประชาชนทั่วไปตามกำลังศรัทธา ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ โทร. ๐๔๒-๔๐๓๒๗๗

บึงกาฬจัดทำโครงการ 1 ตำบล 1แผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเอง

วันนี้ 21-05-57 นายเทวัย สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนแบบรายวันและการบันทึกข้อมูลบัญชีครัวเรือนลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ณ ห้องประชุมทรายเงินรีสอร์ท อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ดำเนินงานโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ

นางสาวศรีวรรณา จันทร์จิตรเพชร พัฒนาการจังหวัดบึงกาฬกล่าวว่า จังหวัดบึงกาฬจึงจัดทำโครงการ "1 ตำบล 1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ การจัดทำบัญชีรับ – จ่ายครัวเรือน เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนชุมชน ระยะแรกได้ดำเนินการในพื้นที่ 8 อำเภอ 53 ตำบลๆ ละ 1 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 53 หมู่บ้าน ในการดำเนินงานนี้ ทางจังหวัดบึงกาฬได้ออกคำสั่งแต่งตั้งทีมบูรณาการ และ คณะทำงานสนับสนุนโครงการ "1 ตำบล 1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” และได้จัดการประชุมเพื่อรับทราบบทบาทหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา และในวันนี้เป็น การฝึกอบรมวิทยากรกระบวนการระดับอำเภอ (ครู ก) และทีมวิทยากรกระบวนการระดับหมู่บ้าน (ครู ข) ในพื้นที่เป้าหมาย รายอำเภอ จำนวน 100 คน ในเรื่องการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนแบบรายวันและการบันทึกข้อมูลบัญชีครัวเรือนลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อ วิทยากรเหล่านี้จะได้สามารถนำแนวทางการจัดทำบัญชีครัวเรือนแบบรายวันไปถ่ายทอดให้กับครัวเรือนเป้าหมายได้และเพื่อให้ได้ข้อมูลบัญชีครัวเรือนที่ครบถ้วนและถูกต้องอีกทั้งจะได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโปรแกรมการบันทึกบัญชีครัวเรือนและสามารถนำข้อมูลบัญชีครัวเรือนมาประมวลผลสู่การจัดทำแผนชุมชนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬกล่าวว่า หากแผนชุมชนตามโครงการ "1 ตำบล 1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” แล้วเสร็จจะทำให้หมู่บ้านเป้าหมายมีแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเองที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต และ ความเป็นอยู่ของประชาชนตรงตามความต้องการของตนเอง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้การมีส่วนร่วมของชุมชนทุกระดับ และยังเป็นต้นแบบในการจัดทำแผนชุมชน เพื่อนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดต่อไป

ผู้ว่าฯ บึงกาฬ พร้อมผู้แทนฝ่ายทหาร เรียกประชุม หัวหน้าส่วน ผู้นำท้องถิ่น และสื่อทุกแขนง ชี้แจงแนวปฏิบัติตามประกาศ พ.ร.บ. กฎอัยการศึก

วันนี้ 21-05-57 พันเอกธานินทร์ สนิทชน ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 13 พร้อมด้วย นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้เรียกประชุม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และสื่อมวลชนทุกแขนงในจังหวัดบึงกาฬ ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการและหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ทั่วราชอาณาจักร และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในส่วนราชการและประชาชน ถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึกอย่างถูกต้อง จุดประสงค์ของการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ก็เพื่อทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองและมิให้เกิดความแตกแยก เพราะสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่ต้องการจะก่อความรุนแรงให้ยุติการกระทำ ขอความร่วมมือผู้ใดหรือหน่วยงานใดที่มีการปลุกปั่น ยุยง ชักชวนให้เกิดความวุ่นวายหรือก่อให้เกิดเหตุเผชิญหน้า การใช้สื่อใดๆ ไม่ควรเลือกข้าง ไม่แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ให้เกิดความเข้าใจที่ผิด สังคมควรหันหน้าเข้าหากัน ขอให้ทุกฝ่ายประนีประนอมกัน คนไทยเหมือนกัน และไม่ควรดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง

นอกจากนั้นได้สั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐรวมถึงหน่วยงานต่างๆ ให้กำชับเวรยามให้เข้มงวดเรื่องดูแลและรักษาความปลอดภัยอาคาร สำนักงาน ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มความระมัดระวังข้อมูลทางอิเล็คทรอนิกส์ที่สำคัญและจำเป็นต้องใช้ในการบริหารงาน ให้พ้นจากการโจรกรรม การก่อวินาศกรรม หรือเหตุอื่นใดอันอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวหรือสถานการณ์ใดๆ ที่จะส่อเค้าให้เกิดความผิดปกติเกิดขึ้นให้เร่งแจ้งมายังหน่วยทหารในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังได้กำชับให้ทุกภาคส่วนได้ปฏิบัติตามประกาศกฎอัยการศึก และแนวทางการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

จ.บึงกาฬออกหน่วยให้บริการทางสังคม

วันนี้ (21-05-57) นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการออกหน่วยบริการทางสังคมกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดบึงกาฬ ประจำปีงบประมาณ 2557 พร้อมมอบเงินสงเคราะห์ ให้กับผู้ประสบกับปัญหาทางสังคม ณ โรงเรียนโพนทองประชาสรรค์ หมู่ที่ 3 ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งดำเนินงานโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ

นางสุจิตรา พินดวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬกล่าวว่า การดำเนินโครงการออกหน่วยบริการทางสังคมในครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาสังคมและการให้บริการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนและผู้ประสบปัญหาทางสังคม ตลอดจนขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาสังคมและนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ การมีส่วนร่วม มีความเป็นธรรม และความเสมอภาคทางสังคม เพื่อพัฒนาศักยภาพของครอบครัว ประชาชน ชุมชน ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสในสังคม

โดยการจัดกิจกรรมนำหน่วยออกมาบริการประชาชนในครั้งนี้ได้ มีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ด้านต่างๆ และผลงานจากกลุ่มเครือข่ายมาจัดแสดง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีกทั้งให้ประชาชนและผู้ประสบปัญหาทางสังคมในจังหวัดบึงกาฬ ได้มีโอกาสเข้าถึงบริการทางสังคมและสวัสดิการทางสังคม และให้เครือข่ายภาครัฐและเอกชนได้มีส่วนร่วมกันจัดบริการทางสังคมให้แก่ประชาชน

บึงกาฬนำไข่ไก่ราคาถูกจำหน่ายช่วยเหลือประชาชน

วันนี้ 21-05-57 ในงานจังหวัดเคลื่อนที่ออกหน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขไห้กับประชาชนจังหวัดบึงกาฬ ณ โรงเรียนบ้านโพนทองประชาสรรค์ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นำไข่ไก่ราคาถูกออกจำหน่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในช่วงที่ไข่ไก่ราคาสูงโดยจำหน่ายไข่ไก่เบอร์ 2 ในราคาถาดละ 80 บาท ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่มารอรับบริการจังหวัดเคลื่อนที่ ซื้อหมดภายในเวลาอันรวดเร็วและนอกจากนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬยังได้ออกหน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่เพื่อให้บริการทำหมันสัตว์ ฉีดวัคซีน และรักษาสัตว์ ให้คำปรึกษาเรื่องปศุสัตว์กับประชาชนที่มาร่วมงานอีกด้วย

ผู้ว่าฯ บึงกาฬจัดโครงการไถ่ชีวิตโคเพื่อมอบให้เกษตรกร

วันนี้ (21-05-57) นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีไถ่ชีวิตโคกระบือเพื่อมอบโคให้กับเกษตรกรอำเภอพรเจริญ โรงเรียนบ้านโพนทองประชาสรรค์ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน มาร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย

นายณรงค์ สุทธิสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬกล่าวว่า พิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ ของจังหวัดบึงกาฬเป็นดำริของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬที่จะดำเนินการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เป็นประจำทุกเดือนอย่างน้อยเดือนละ 1 ตัว โดยจะทำการมอบให้เกษตรกรในจังหวัดบึงกาฬนำไปเลี้ยงเพื่อขยายพันธ์ ในการไถ่ชีวิตโค-กระบือท่านผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬจะเป็นเจ้าภาพหลักและมีหัวหน้าส่วนราชการและผู้ใจบุญร่วมกับบริจาคทรัพย์เพื่อนำมาไถ่ชีวิตโค-กระบือในทุกๆเดือน ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันทำบุญและสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่งและในวันนี้เป็นการไถ่ชีวิตโค จำนวน 1 ซึ่งได้มอบให้กับนาย ประหยัด แดนดงเมือง เกษตรกรอำเภอโซ่พิสัย สร้างความดีใจให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมากและเกษตรกรได้สัญญาว่าจะดูแลโคที่ได้รับให้เป็นอย่างดี

บึงกาฬจัดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

จังหวัดบึงกาฬจัดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ที่โรงเรียนบ้านโพนทองประชาสรรค์ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย มีส่วนราชการ หน่วยงานร่วมออกให้บริการแก่ประชาชนมากกว่า ๓๐ หน่วยงาน มีประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก

วันนี้ 21-05-57 นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้กล่าวในระหว่างเป็นประธานเปิดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้แต่ละจังหวัดดำเนินโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ได้ออกให้บริการแก่ประชาชนตามภารกิจของตนเอง เป็นการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางมาติดต่อราชการ และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ในวันนี้ออกหน่วยบริการประชาชนที่ โรงเรียนบ้านโพนทองประชาสรรค์ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ มีกิจกรรมการให้บริการของส่วนราชการ หน่วยงาน กว่า ๓๐ หน่วย ประกอบด้วย แจกถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ยากจน จำนวน ๑๐๐ ชุด มอบเงินสงเคราะห์แก่เด็กยากจน จำนวน ๒๐ ทุนๆ ละ ๑,๐๐๐ บาท มอบชุดนักเรียน จำนวน ๑๐๐ ชุด มอบผ้าถุง ผ้าขาวม้าแก่ประชาชน ๑๐๐ คน จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม และ การแพทย์แผนไทย หน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่ บริการผ่าตัดทำหมันสุนัข แมว บริการคลินิกด้านการเกษตร ประมง สหกรณ์ ที่ดิน อุตสาหกรรม การป้องกันสาธารณภัย ให้คำแนะนำด้านการประกอบอาชีพ เกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง ตรวจซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ด้านแรงงาน รับสมัครงานในประเทศและต่างประเทศ ให้ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถที่ปลอดภัย การใช้พลังงาน รับเรื่องราวร้องทุกข์ รับขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน การจัดนิทรรศการให้ความรู้ของส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ การจำหน่ายสินค้า OTOP สินค้าชุมชน และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ปลูกต้นไม้และปล่อยปลาในโรงเรียนและมอบพันธุ์ปลาให้ผู้นำหมู่บ้านในตำบลหนองพันทาเพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติอีกด้วย

บึงกาฬออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่

วันนี้ 21-05-57 เวลา 09.00 น. ณ โรงเรียนบ้านโพนทองประชาสรรค์ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่ โดยสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับโรงพยาบาลโซ่พิสัย ได้ ออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่ ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย โดยมีประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก

ดร.นายแพทย์ไพศาล วรสถิตย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า จังหวัดบึงกาฬได้จัดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสเข้าถึงบริการจากส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ เป็นประจำทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับโรงพยาบาลโซ่พิสัย และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย ได้จัดหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนที่อยู่ห่างไกลร่วมกับทางจังหวัดบึงกาฬเช่นเดียวกัน โดยในวันนี้ ออกให้บริการในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย ณ โรงเรียนบ้านโพนทองประชาสรรค์ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย กิจกรรมให้บริการประกอบด้วย ด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค บริการด้านทันตกรรม บริการแพทย์แผนไทย ตลอดจนชี้แจงข้อมูลข่าวสาร รณรงค์ให้ความรู้ต่างๆ แก่ประชาชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้กับกลุ่มเสี่ยง

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนตำบลหนองพันทา ได้ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพดังกล่าวจึงได้มีการรณรงค์ควบคุมป้องกันโรคโดยมีกิจกรรมคัดกรองความเสี่ยงอบรมให้ความรู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้กับกลุ่มเสี่ยงและจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มประชาชนโดยทั่วไป การออกหน่วยแพทย์ พอ.สว.ในครั้งนี้มีประชาชนในตำบลหนองพันทาทะยอยมารอรับบริการเป็นจำนวนมาก

ศพส.จ.มหาสารคาม เลือกอำเภอกุดรัง เป็นต้นแบบเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน เอาชนะยาเสพติดที่ยั่งยืน

ศพส.จ.มหาสารคาม เลือกอำเภอกุดรัง เป็นอำเภอต้นแบบ ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชน แบบมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและการพัฒนาที่ยังยืน ประจำปี 2557

ในระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2557 ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอกุดรัง ได้นำตัวแทนชาวบ้านจากบ้านปราสาท หมู่ 5 และบ้านโสกคลอง หมู่ 9 และหมู่ 12 ตำบลเลิงแฝก อำเภอกุดรัง รวม 393 คน มาเข้าค่าย 3 วัน 2 คืน ตามโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนต้นแบบ แบบมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดและการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2557 โดยใช้สถานที่บริเวณศาลาการเปรียญ วัดโสกคลอง หมู่ 9 ตำบลเลิงแฝก อำเภอกุดรัง เป็นสถานที่จัดกิจกรรม หวังให้เป็นอำเภอต้นแบบ ในการสนับสนุนวิทยากรกระบวนการ ขับเคลื่อนและเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน พร้อมพัฒนาภาคประชาชน พัฒนาความเข้มแข็งหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ให้เป็นหมู่บ้าน/ชุมชนต้นแบบ เสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมภายใต้หลัก 5 ร่วม คือ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหา ร่วมตรวจสอบ และร่วมรับผิดชอบ

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ผ่านมามักจะเน้นที่กระบวนการปราบปรามเป็นหลัก แม้จะมีสถิติจับกุมผู้ค้าได้จำนวนมาก แต่ไม่สามารถลดจำนวนผู้เสพได้ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นทั้งในระดับครอบครัว หมู่บ้าน ชุมชน ร่วมกันแก้ไขปัญหา จึงเป็นที่มาของจัดกิจกรรมตามโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนต้นแบบ แบบมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดและการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2557 เกิดแนวทางแบบสันติวิธี สร้างความสามัคคีและการให้อภัยทางสังคม พร้อมนำรูปแบบการดำเนินงานไปขยายผลยังหมู่บ้าน/ชุมชน ให้เกิดความเข้มแข็ง และเอาชนะยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนต้นแบบ แบบมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดและการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2557 ของจังหวัดมหาสารคาม ครั้งนี้จะพัฒนาให้เป็นรูปแบบในการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดต่อไป




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

รพ.มหาสารคาม ประเมินรับรองมาตรฐานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ

รพ.มหาสารคาม ประเมินรับรอง มาตรฐานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ เน้นจุดแข็งจับมือเครือข่ายร่วมสร้างสุขภาพ มุ่งให้ประชาชนนำข้อมูลไปปรับใช้เพื่อการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

ที่ห้องประชุมตักสิลา โรงพยาบาลมหาสารคาม ศาสตราจารย์ ดร.สมจิตต์ สุพรรณทัสน์ นายกสมาคมวิชาชีพสุขศึกษา พร้อมคณะกรรมการประเมินรับรอง มาตรฐานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ (Health Education Standard Guideline For Re - accreditation) เข้าตรวจประเมินผลการดำเนินงานด้านสุขภาพของโรงพยาบาลมหาสารคาม โดยมีประธานชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม ประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม ประธานชมรมสื่อมวลชนมหาสารคามและสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ เข้าร่วมรับการประเมินกว่า 70 คน พร้อมนี้ชมรมผู้สูงอายุอำเภอเมืองมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรมเต้นประกอบจังหวะออกกำลังกายสร้างสุขภาพ และการแสดงร้องหมอรำสอดแทรกเนื้อหา 3 อ. 2 ส. คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ สูบบุหรี่และสุรา ห่างไกลโรค จากหมอแป้น หรือ นายแพทย์สุชาติ ทองแป้น นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ จากบ้านร่มเย็น โรงพยาบาลมหาสารคามอีกด้วย

นายแพทย์ไพบูลย์ อัศวธนบดี รองผู้อำนวยโรงพยาบาลมหาสารคาม ฝ่ายบริการปฐมภูมิ กล่าวว่า โรงพยาบาลมหาสารคาม วางกรอบนโยบายสุขศึกษา เพื่อพัฒนามาตรฐานงานสุขศึกษามาอย่างต่อเนื่อง และผ่านการประเมินรับรองจากคณะกรรมการภายนอกในปี พ.ศ. 2548 จากนั้นโรงพยาบาลได้ทำการยกระดับคุณภาพ โดยสร้างเครือข่ายสุขภาพร่วมกับองค์กรภายนอกและชุมชน ให้ข้อมูลข่าวสาร แนวทางการปฏิบัติตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนมีความพึงพอใจ ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ที่หลายหลาย อาทิ การเคาะประตูบ้านให้ข้อมูลตัวต่อตัว การให้และกระจายข้อมูลผ่าน อสม. การใช้สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ เพื่อมุ่งให้ประชาชนได้นำข้อมูลที่ได้รับ ไปใช้ในการสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

ชมรม TO BE NUMBER ONE จังหวัดมหาสารคาม เตรียมความพร้อม รับการประเมินในระดับพื้นที่

คณะกรรมการตัดสินการประกวด TO BE NUMBER ONE ลงพื้นที่เพื่อประเมินให้คะแนน ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

21/5/57 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามสำนักงานสาธารณสุขมหาสารคาม ผู้รับผิดชอบโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้ประชุมคณะกรรมการจัดทำแผน TO BE NUMBER ONE เพื่อ เตรียมความพร้อมรับ การประเมินในระดับพื้นที่เพื่อให้คะแนนรอบที่ 1 ณ พื้นที่จริงมหาสารคาม ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และโรงงานน้ำตาลวังขนาย จำกัด และการเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประกวดระดับประเทศ ประจำปี 2557 ในระหว่างวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2557 ณ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

สำหรับชมรม TO BE NUMBER ONE จังหวัดมหาสารคาม มี 2 ชมรม ได้แก่ ชมรม TO BE NUMBER ONE มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในประเภทสถานศึกษา และชมรม TO BE NUMBER ONE โรงงานน้ำตาลวังขนาย จำกัด ในประเภทสถานประกอบการ ซึ่งทั้ง 2 ชมรม ได้เป็นตัวแทนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในระดับประเทศ ที่เมืองทองธานี ต่อไป



ภาณุวัชร คนเชี่ยว ข่าว/ส.ปชส.มค.