วานนี้ (๒๗ ม.ค. ๕๗) พลโทสกล พงศ์พิริยะวนิช กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม จัดโครงการเผยแพร่ความรู้การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย กิจกรรม อบรมสื่อบุคคล New Voter ณ โรงแรมนครพนมริเวอร์วิว อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรม เข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง อย่างถูกต้อง นำไปรณรงค์เผยแพร่แก่นักศึกษาในสถาบันของตน เพื่อให้ร่วมใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เปิดโอกาสให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา ที่มีสิทธิเลือกตั้ง มีเวที ในการแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง เกิดการเชื่อมสัมพันธ์ทางความคิด และความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับ วิถีประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย หรือในการแสดงความคิดเห็นต่อการพัฒนาประเทศ และการเลือกตั้งทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ เพื่อให้ประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตย ที่มั่นคงยิ่งขึ้นไป
วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ร่วมกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 เดินรณรงค์ตาม โครงการเผยแพร่ความรู้การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย กิจกรรม นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนรณรงค์การเลือกตั้ง
วันนี้ (๒๘ ม.ค. ๕๗) พลโทสกล พงศ์พิริยะวนิช กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการรณรงค์ตามโครงการเผยแพร่ความรู้การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย กิจกรรม นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนรณรงค์การเลือกตั้ง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 ได้ร่วมกันดำเนิน การต่อต้าน การทุจริต "การเมืองสีขาว” โดยเน้นรณรงค์ ให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้เห็นความสำคัญ และการปลูกจิตสำนึกในความเป็นประชาธิปไตย เข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ร่วมกันรณรงค์การไม่ทุจริต ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในรูปแบบการเดินรณรงค์ตามโครงการเผยแพร่ความรู้การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย กิจกรรม นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนรณรงค์การเลือกตั้ง โดยมีจุดเริ่มต้นจากลานท่าแพขนานยนต์ สำนักงานป่าไม้ จังหวัดนครพนม ไปตามถนนนิตโย ถึงสี่แยก ธนาคารไทยพาณิชย์ เลี้ยวขวาแล้วตรงไปตามถนนอภิบาลบัญชา มาสิ้นสุดเดินขบวนที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม โดยมีประชาชนมาร่วมเดินรณรงค์ในครั้งนี้ประมาณ ๑,๐๐๐ คน
ศาลากลางจังหวัดนครพนม จัดงานนครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์ สี่แผ่นดิน และ ตลาดนัดชายแดน ปี ๒๕๕๗
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์มายังนครพนมผ่านสะพานมิตรภาพแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จนถึงเมืองวิงห์ และเมืองฮาติงห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ก่อนที่จะเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนทางด้านเขตการปกครองตนเองจ้วงกว่างซี ทำให้เส้นทางคมนาคมระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อเนื่องถึงเวียดนามตอนเหนือและจีนตอนใต้ มีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
จังหวัดนครพนมได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องโอกาสเชื่อมโยงการค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงกำหนดจัดงาน นครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์ สี่แผ่นดิน และตลาดนัดชายแดน ปี ๒๕๕๗ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๗-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม เพื่อดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการ ให้สนใจลงทุน และซื้อขายสินค้าในกลุ่มจังหวัดที่มีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของกิจกรรมทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในภูมิภาค จึงขอเชิญประชาชนชาวจังหวัดนครพนม เข้าร่วมชมและซื้อสินค้าตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว
จังหวัดนครพนมได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องโอกาสเชื่อมโยงการค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงกำหนดจัดงาน นครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์ สี่แผ่นดิน และตลาดนัดชายแดน ปี ๒๕๕๗ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๗-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม เพื่อดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการ ให้สนใจลงทุน และซื้อขายสินค้าในกลุ่มจังหวัดที่มีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของกิจกรรมทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในภูมิภาค จึงขอเชิญประชาชนชาวจังหวัดนครพนม เข้าร่วมชมและซื้อสินค้าตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว
การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม สอบราคา จ้างเหมาติดตั้งและวางท่อประปา สำหรับโฉนดเลขที่ ๗๑๐๐๙ ม.๖ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม กำหนดราคากลางภายในวงเงิน ๓๑๐,๐๐๐ บาท
การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม สอบราคา จ้างเหมาติดตั้งและวางท่อประปา สำหรับโฉนดเลขที่ ๗๑๐๐๙ ม.๖ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม กำหนดราคากลางภายในวงเงิน ๓๑๐,๐๐๐ บาท
กำหนดดูสถานที่ ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. ณ การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม เลขที่ ๑๘ ถ.เทศาประดิษฐ์ ต.หนองแสง อ.เมือง จ.นครพนม
กำหนดรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. เป็นต้นไป
กำหนดยื่นซองสอบราคา ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. – ๑๖.๐๐ น.
กำหนดเปิดซองเสนอราคา ในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่งานอำนวยการ การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม เลขที่ ๑๘ ถ.เทศาประดิษฐ์ ต.หนองแสง อ.เมือง จ.นครพนม ๔๘๐๐๐ ระหว่างวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โทรศัพท์ ๐-๔๒๕๑-๑๔๐๙ ในวันเวลาราชการ
กำหนดดูสถานที่ ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. ณ การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม เลขที่ ๑๘ ถ.เทศาประดิษฐ์ ต.หนองแสง อ.เมือง จ.นครพนม
กำหนดรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. เป็นต้นไป
กำหนดยื่นซองสอบราคา ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. – ๑๖.๐๐ น.
กำหนดเปิดซองเสนอราคา ในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่งานอำนวยการ การประปาส่วนภูมิภาคสาขานครพนม เลขที่ ๑๘ ถ.เทศาประดิษฐ์ ต.หนองแสง อ.เมือง จ.นครพนม ๔๘๐๐๐ ระหว่างวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โทรศัพท์ ๐-๔๒๕๑-๑๔๐๙ ในวันเวลาราชการ
มุกดาหาร เทศบาลเมืองจัดงานเทศกาลตรุษจีน 4 แผ่นดิน 4 วัฒนธรรม
เทศบาลเมืองมุกดาหารจัดงานเทศกาลตรุษจีน 4 แผ่นดิน 4 วัฒนธรรมและการแข่งขันชกมวยไทย – อินโดจีน และ เทศกาลอาหารไทย – อินโดจีน วันที่ 29 - 31 มกราคม 57 ณ บริเวณตลาดอินโดจีน
(28 ม.ค.57) นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า ด้วยทางเทศบาลเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท เอ็น เอส สปอร์ต จำกัด กำหนดจัดงานเทศกาลตรุษจีน 4 แผ่นดิน 4 วัฒนธรรม ในวันที่ 29 - 31 มกราคม 57 ณ บริเวณตลาดอินโดจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ แถบอินโดจีน และในงานดังกล่าวกำหนดให้มีการจัดแข่งขันชกมวยไทย – มวยคาดเชือก มีนักมวยจากประเทศเมียนมาร์ , กัมพูชา , สปป.ลาว , และประเทศไทย นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลอาหารไทย – อินโดจีน
นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานดังกล่าวกำหนดจัดขึ้น ณ บริเวณตลาดอินโดจีน หน้าวัดศรีสุมังค์ ในเขตเทศบาลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ แถบอินโดจีน และการท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร
(28 ม.ค.57) นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า ด้วยทางเทศบาลเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท เอ็น เอส สปอร์ต จำกัด กำหนดจัดงานเทศกาลตรุษจีน 4 แผ่นดิน 4 วัฒนธรรม ในวันที่ 29 - 31 มกราคม 57 ณ บริเวณตลาดอินโดจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ แถบอินโดจีน และในงานดังกล่าวกำหนดให้มีการจัดแข่งขันชกมวยไทย – มวยคาดเชือก มีนักมวยจากประเทศเมียนมาร์ , กัมพูชา , สปป.ลาว , และประเทศไทย นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลอาหารไทย – อินโดจีน
นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานดังกล่าวกำหนดจัดขึ้น ณ บริเวณตลาดอินโดจีน หน้าวัดศรีสุมังค์ ในเขตเทศบาลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ แถบอินโดจีน และการท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร
เกษตรจังหวัดมุกดาหาร กำหนดจัดงานมหกรรมตลาดผักปลอดภัย
เกษตรจังหวัดมุกดาหารกำหนดจัดงานมหกรรมตลาดผักปลอดภัย(ผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง)สู่ประตูอินโดจีน วันที่ ๓๐ มกราคมนี้ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด
(28 ม.ค.57) นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่าจังหวัดมุกดาหารได้กำหนดจัดงานมหกรรมตลาดผักปลอดภัย (ผักพื้นบ้านอาหาร-พื้นเมือง) สู่ประตูอินโดจีน จังหวัดมุกดาหารปี ๒๕๕๗ ในวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชผักปลอดสารพิษ รวมถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่ผลิตหรือปลูกพืชปลอดสารพิษ ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง นำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง ในราคายุติธรรม เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกร ให้ผู้บริโภคได้บริโภคพืช ผักที่ปลอดสารพิษ
ทั้งนี้จังหวัดมุกดาหาร จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวมุกดาหารร่วมซื้อผลผลิตพืชผักปลอดภัยและผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองของเกษตรกรชาวจังหวัดมุกดาหารในดังกล่าว โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป
(28 ม.ค.57) นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่าจังหวัดมุกดาหารได้กำหนดจัดงานมหกรรมตลาดผักปลอดภัย (ผักพื้นบ้านอาหาร-พื้นเมือง) สู่ประตูอินโดจีน จังหวัดมุกดาหารปี ๒๕๕๗ ในวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชผักปลอดสารพิษ รวมถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่ผลิตหรือปลูกพืชปลอดสารพิษ ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง นำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง ในราคายุติธรรม เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกร ให้ผู้บริโภคได้บริโภคพืช ผักที่ปลอดสารพิษ
ทั้งนี้จังหวัดมุกดาหาร จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวมุกดาหารร่วมซื้อผลผลิตพืชผักปลอดภัยและผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองของเกษตรกรชาวจังหวัดมุกดาหารในดังกล่าว โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป
วิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด จัดงานมหกรรมลานเรียนรู้และนวัตกรรมเทคโนโลยีสู่อาเซียน
เช้าวันนี้ (28 มกราคม 2557) เวลา 10.00 น. นายไกรสร กองฉลาด ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงานมหกรรมลานเรียนรู้และนวัตกรรมเทคโนโลยีสู่อาเซียน 2557 ณ หอประชุมวิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด โดยมีนายรังสิต วงษ์แก้ว ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด และคณะให้การต้อนรับ
นายรังสิต วงษ์แก้ว ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ศึกษาธิการ นายจาตุรนต์ ฉายแสง มีนโยบายพัฒนาคุณภาพการอาชีวศึกษา ให้มีมาตรฐานเทียบได้ระดับสากล ผลักดันการปรับคุณวุฒิวิชาชีพ พัฒนาการเรียนการสอนโดยขยายระบบทวิภาคีร่วมมือกับภาคผลิต และสถานประกอบการมากขึ้น รวมถึงมีมาตรฐานจูงใจให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาสถานศึกษา ในลักษณะทวิภาคี โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาต่อสายสามัญ เป็น 51:49 ในปีการศึกษา 2558 วิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้ความสำคัญตาม
นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ด้านปฏิรูปอาชีวศึกษา พร้อมให้ความสำคัญและปฏิบัติตามนโยบาย โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาต่อสายสามัญ 45:55 ในปีการศึกษา 2557 และ 51:49 ในปีการศึกษา 2558 สำหรับการเปิดงาน มหกรรมลานเรียนรู้และนวัตกรรมเทคโนโลยีสู่อาเซียน และ Open House จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกโรงเรียนในจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้ปกครองนักเรียนได้มาชมนิทรรศการ ผลงาน และรับคำปรึกษาแนะนำการสมัครเข้าเรียนตามสาขาวิชาชีพที่ตนถนัด รวมถึงรายได้หลังจบการศึกษาเพื่อเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจสมัครเข้าเรียน ตามประเภทวิชาที่กำหนดตามหลักสูตรที่เปิดสอน ทั้งในระดับ ปวช. และระดับ ปวส. ซึ่งปีนี้สามารถรับเข้าศึกษาต่อได้รวมทั้งสิ้น 1,080 คน แบ่งเป็นระดับ ปวช. 625 คน ระดับ ปวส. 455 คน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย อาทิ นิทรรสการแผนกวิชาต่างๆ ที่เปิดสอน การสอน 108 อาชีพหลักสูตรระยะสั้น ประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ประกวดสิ่งประดิษฐ์ เปิดแผนกวิชาให้เข้าเยี่ยมชม การแข่งขันฟุตซอลระดับมัธยมศึกษา การแสดงจินตลีลา การแสดงดนตรีพื้นบ้านวงโปงลาง การแสดงโฟล์กซอง การประกวดร้องเพลง การประกวดความสามารถทางดนตรีพื้นบ้าน การจำหน่ายสินค้าโอทอปด และการรับสมัครงานจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งนี้ ทางวิทยาลัยโดย "ครัวปาริชาติ" ได้จัดเครื่องดื่มและอาหาร... ฟรี สำหรับแขกที่มาร่วมงาน โดยมีนักเรียนและผู้ปกครองที่สนใจร่วมงานจำนวนมาก
นายรังสิต วงษ์แก้ว ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ศึกษาธิการ นายจาตุรนต์ ฉายแสง มีนโยบายพัฒนาคุณภาพการอาชีวศึกษา ให้มีมาตรฐานเทียบได้ระดับสากล ผลักดันการปรับคุณวุฒิวิชาชีพ พัฒนาการเรียนการสอนโดยขยายระบบทวิภาคีร่วมมือกับภาคผลิต และสถานประกอบการมากขึ้น รวมถึงมีมาตรฐานจูงใจให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาสถานศึกษา ในลักษณะทวิภาคี โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาต่อสายสามัญ เป็น 51:49 ในปีการศึกษา 2558 วิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้ความสำคัญตาม
นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ด้านปฏิรูปอาชีวศึกษา พร้อมให้ความสำคัญและปฏิบัติตามนโยบาย โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาต่อสายสามัญ 45:55 ในปีการศึกษา 2557 และ 51:49 ในปีการศึกษา 2558 สำหรับการเปิดงาน มหกรรมลานเรียนรู้และนวัตกรรมเทคโนโลยีสู่อาเซียน และ Open House จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกโรงเรียนในจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้ปกครองนักเรียนได้มาชมนิทรรศการ ผลงาน และรับคำปรึกษาแนะนำการสมัครเข้าเรียนตามสาขาวิชาชีพที่ตนถนัด รวมถึงรายได้หลังจบการศึกษาเพื่อเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจสมัครเข้าเรียน ตามประเภทวิชาที่กำหนดตามหลักสูตรที่เปิดสอน ทั้งในระดับ ปวช. และระดับ ปวส. ซึ่งปีนี้สามารถรับเข้าศึกษาต่อได้รวมทั้งสิ้น 1,080 คน แบ่งเป็นระดับ ปวช. 625 คน ระดับ ปวส. 455 คน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย อาทิ นิทรรสการแผนกวิชาต่างๆ ที่เปิดสอน การสอน 108 อาชีพหลักสูตรระยะสั้น ประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ประกวดสิ่งประดิษฐ์ เปิดแผนกวิชาให้เข้าเยี่ยมชม การแข่งขันฟุตซอลระดับมัธยมศึกษา การแสดงจินตลีลา การแสดงดนตรีพื้นบ้านวงโปงลาง การแสดงโฟล์กซอง การประกวดร้องเพลง การประกวดความสามารถทางดนตรีพื้นบ้าน การจำหน่ายสินค้าโอทอปด และการรับสมัครงานจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งนี้ ทางวิทยาลัยโดย "ครัวปาริชาติ" ได้จัดเครื่องดื่มและอาหาร... ฟรี สำหรับแขกที่มาร่วมงาน โดยมีนักเรียนและผู้ปกครองที่สนใจร่วมงานจำนวนมาก
ประเสริฐ อินทา/ข่าว
คณะกรรมการการเลือกตั้ง แนะนำ ผู้ที่ไม่สามารถเข้าใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แจ้งเหตุรักษาสิทธิ์
คณะกรรมการการเลือกตั้ง แนะนำผู้ไม่สามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ยื่นเอกสารแจ้งเหตุต่อนายทะเบียนท้องถิ่น เพื่อรักษาสิทธิ์ตนเอง
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า แต่ไม่สามารถเข้าไปลงคะแนนได้ จากการปิดกั้นหน่วยเลือกตั้งต่างๆ โดยในส่วนของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ไม่สามารถกลับไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้งจริง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ได้ แต่สามารถแจ้งเหตุได้ภายใน 7 วัน หลังวันเลือกตั้ง โดยเขียนเป็นหนังสือ ระบุรายละเอียดชี้แจงเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น แนบสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนส่งทางไปรษณีย์ ถึงนายทะเบียนท้องถิ่น ตามภูมิลำเนาของตนเอง เช่น ผู้อำนวยการเขต ปลัดเทศบาล หรือนายอำเภอ
สำหรับผู้ที่ขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งในเขตจังหวัด แต่ไม่สามารถเข้าไปใช้สิทธิ์ได้ ยังกลับไปใช้สิทธิ์ตามภูมิลำเนา ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แต่หากพบเหตุสุดวิสัย เช่น การปิดล้อมหน่วยเลือกตั้ง สามารถดำเนินการแจ้งเหตุ ตามกรณีแรกได้ ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพื่อรักษาสิทธิ์เลือกตั้งของตนเอง
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า แต่ไม่สามารถเข้าไปลงคะแนนได้ จากการปิดกั้นหน่วยเลือกตั้งต่างๆ โดยในส่วนของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ไม่สามารถกลับไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้งจริง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ได้ แต่สามารถแจ้งเหตุได้ภายใน 7 วัน หลังวันเลือกตั้ง โดยเขียนเป็นหนังสือ ระบุรายละเอียดชี้แจงเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น แนบสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนส่งทางไปรษณีย์ ถึงนายทะเบียนท้องถิ่น ตามภูมิลำเนาของตนเอง เช่น ผู้อำนวยการเขต ปลัดเทศบาล หรือนายอำเภอ
สำหรับผู้ที่ขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งในเขตจังหวัด แต่ไม่สามารถเข้าไปใช้สิทธิ์ได้ ยังกลับไปใช้สิทธิ์ตามภูมิลำเนา ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แต่หากพบเหตุสุดวิสัย เช่น การปิดล้อมหน่วยเลือกตั้ง สามารถดำเนินการแจ้งเหตุ ตามกรณีแรกได้ ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพื่อรักษาสิทธิ์เลือกตั้งของตนเอง
จ.สุรินทร์ ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมระดับประเทศและระดับเขต
นายสอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินงานกิจกรรมสรรหาสุดยอดส้วมระดับประเทศ ปี 2555 เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของส้วมสาธารณะบำรุงรักษาส้วมให้ได้มาตรฐาน สะอาด เพียงพอ และปลอดภัยเป็นแบบอย่างที่ดีของการพัฒนาส้วมสาธารณะ นั้นปรากฏว่าส้วมสาธารณะในจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี ระดับเขตและประเทศ ดังนี้
1. รางวัลสุดยอดส้วมระดับประเทศ จำนวน 1 รางวัล คือ สุดยอดส้วมแห่งปีประเภทโรงเรียนมัธยมสังกัดโรงเรียนรัฐบาล ได้แก่ โรงเรียนรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
2. รางวัลสุดยอดส้วมระดับเขต (นครชัยบุรินทร์) จำนวน 2 รางวัล ดังนี้ ประเภทสถานที่ราชการ ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอจอมพระ อำเภอจอมพระ และ ประเภทโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอู่โลก อำเภอลำดวน
1. รางวัลสุดยอดส้วมระดับประเทศ จำนวน 1 รางวัล คือ สุดยอดส้วมแห่งปีประเภทโรงเรียนมัธยมสังกัดโรงเรียนรัฐบาล ได้แก่ โรงเรียนรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
2. รางวัลสุดยอดส้วมระดับเขต (นครชัยบุรินทร์) จำนวน 2 รางวัล ดังนี้ ประเภทสถานที่ราชการ ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอจอมพระ อำเภอจอมพระ และ ประเภทโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอู่โลก อำเภอลำดวน
จังหวัดสุรินทร์ มีพื้นที่ป่าเหลือเพียงร้อยละ 11.50 เร่งจัดทำแผนส่งเสริมฟื้นฟูการปลูกป่า และป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้
นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่ทั้งหมด 5.07 ล้านไร่ มีพื้นที่ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ตามแนวชายแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา ได้แก่ พื้นที่อำเภอบัวเชด อำเภอสังขะ อำเภอกาบเชิง และอำเภอพนมดงรัก โดย จังหวัดสุรินทร์ได้มีการประกาศเป็นเขตป่าจำนวน 1.11 ล้านไร่ ได้แก่ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ และพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติ 29 ป่า แต่มีพื้นที่เหลือเพียงร้อยละ 11.50 หรือประมาณ 5.8 แสนไร่เท่านั้น จังหวัดสุรินทร์ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติงาน มาตรการส่งเสริมฟื้นฟูการปลูกป่า และการป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เป็นผู้อำนวยการศูนย์ และปลัดจังหวัดสุรินทร์เป็นเลขานุการศูนย์ ทำหน้าที่กำหนดแนวทางการดำเนินงาน และมาตรการฟื้นฟูการปลูกป่าและป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ
นอกจากนั้น จังหวัดสุรินทร์ยังได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ จังหวัดสุรินทร์ โดยกำหนดดำเนินการรวม 4 มาตรการ ได้แก่ มาตรการป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ มาตรการปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ มาตรการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ และมาตรการสนับสนุนอื่น ๆ โดยกำหนดดำเนินการทั้งแผนระยะสั้น แผนระยะกลางตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557-2558 และแผนระยะยาวตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557-2560 โดยทุกแผนทุกหน่วยงานจะต้องร่วมบูรณการการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเพื่อช่วยบรรเทาภัยพิบัติจากปัญหาดินถล่ม เป็นต้น
นอกจากนั้น จังหวัดสุรินทร์ยังได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ จังหวัดสุรินทร์ โดยกำหนดดำเนินการรวม 4 มาตรการ ได้แก่ มาตรการป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ มาตรการปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ มาตรการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ และมาตรการสนับสนุนอื่น ๆ โดยกำหนดดำเนินการทั้งแผนระยะสั้น แผนระยะกลางตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557-2558 และแผนระยะยาวตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557-2560 โดยทุกแผนทุกหน่วยงานจะต้องร่วมบูรณการการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเพื่อช่วยบรรเทาภัยพิบัติจากปัญหาดินถล่ม เป็นต้น
เทศบาลเมืองสุรินทร์เตือน"ตรุษจีน"ระวังฟืนไฟ ประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวังบ้านเรือนของตน
นายสมเมือง ตัณฑเลขา รองนายกเทศมนตรีฝ่ายโยธา เปิดเผยว่า เทศกาลตรุษจนปีนี้ตรงกับช่วงวันที่ 31 มกราคม 2557เป็นประเพณีปฎิบัติจะมีการประกอบพิธีกรรมสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ ด้วยการจุดธูปเทียน เผากระดาษเงินกระดาษทอง จุดประทัด และประกอบอาหาร ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและอุบัติเหตุจากการจราจรมากกว่าช่วงปกติ
จึงขอให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ได้วางใจ เพราะเทศบาลเมืองสุรินทร์ได้เตรียมการป้องกันอัคคีภัย แผนรองรับการช่วยเหลือและลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งสถานพยาบาลอย่างรวดเร็วและทันท่วงที พร้อมทั้งกำชับให้เข้มงวดดำเนินการตามมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยอย่างเคร่งครัด ด้วยการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบพิธีกรรมเป็นพิเศษ ดูแลเด็กไม้ให้เล่นไฟโดยลำพัง ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจตราพื้นที่ชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยโดยง่ายและขอความร่วมมือให้ประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวังฟืนไฟจากการประกอบพิธีกรรมสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษด้วย
จึงขอให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ได้วางใจ เพราะเทศบาลเมืองสุรินทร์ได้เตรียมการป้องกันอัคคีภัย แผนรองรับการช่วยเหลือและลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งสถานพยาบาลอย่างรวดเร็วและทันท่วงที พร้อมทั้งกำชับให้เข้มงวดดำเนินการตามมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยอย่างเคร่งครัด ด้วยการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบพิธีกรรมเป็นพิเศษ ดูแลเด็กไม้ให้เล่นไฟโดยลำพัง ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจตราพื้นที่ชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยโดยง่ายและขอความร่วมมือให้ประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวังฟืนไฟจากการประกอบพิธีกรรมสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษด้วย
ตลาดนัดสีเขียว ตลาดนัดพอเพียงทุกวันเสาร์ของชาวสุรินทร์
นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการตลาดนัดสีเขียว เป็นโครงการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเช้าวันเสาร์ ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการต้องมีเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง อาทิ สินค้า OTOP ของชาวสุรินทร์ ทั้งผ้าไหม เครื่องเงิน เครื่องอุปโภค บริโภค ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายในตลาดจะต้องเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดจากสารพิษ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพเป็นช่องทางการสื่อสารที่ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาและเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ กระชับความสัมพันธ์ของผู้บริโภคในชุมชนเมืองกับคนท้องถิ่นที่เป็นเกษตรกรให้เกิดความเข้าใจตรงกัน
นโยบายด้านสุขภาพที่ทางจังหวัดสุรินทร์ ดำเนินอยู่ในขณะนี้คือ รักษาวิถีการปลูกข้าวหอมมะลิแบบปลอดสารพิษ จัดระเบียบให้ตลาดสด สะอาดตรงตามมาตรฐานที่วางไว้ ขณะที่ ตลาดนัดสีเขียวจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เหมือนเป็นการรณรงค์ทางอ้อม เพื่อให้ทุกคนรู้จักหลักคิดและเห็นตัวอย่างที่ดีเมื่อชาวบ้านหันมายึดหลักเกษตรอินทรีย์สิ่งที่ตามมาคือ การกินอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่อสิ่งแวดล้อมเกิดความสมดุล คนมีความสุข สังคมก็จะดี ทั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ยังคงนิยมจับจ่าย ซื้อหาสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภค ในตลาดสีเขียวเป็นประจำทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 06.00 น. – 14.00 น. นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาร่วมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยาว์กับผู้ผลิตโดยตรงอีกด้วย
นโยบายด้านสุขภาพที่ทางจังหวัดสุรินทร์ ดำเนินอยู่ในขณะนี้คือ รักษาวิถีการปลูกข้าวหอมมะลิแบบปลอดสารพิษ จัดระเบียบให้ตลาดสด สะอาดตรงตามมาตรฐานที่วางไว้ ขณะที่ ตลาดนัดสีเขียวจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เหมือนเป็นการรณรงค์ทางอ้อม เพื่อให้ทุกคนรู้จักหลักคิดและเห็นตัวอย่างที่ดีเมื่อชาวบ้านหันมายึดหลักเกษตรอินทรีย์สิ่งที่ตามมาคือ การกินอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่อสิ่งแวดล้อมเกิดความสมดุล คนมีความสุข สังคมก็จะดี ทั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ยังคงนิยมจับจ่าย ซื้อหาสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภค ในตลาดสีเขียวเป็นประจำทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 06.00 น. – 14.00 น. นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาร่วมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยาว์กับผู้ผลิตโดยตรงอีกด้วย
สคร.เตือน ระวังเด็กป่วยอุจาระร่วงหน้าหนาว แนะหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หากไข้สูงไม่ลด ถ่ายเป็นมูกเลือด ควรรีบพบแพทย์
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมาว่า โรคอุจจาระร่วง ในหน้าหนาว อาหารบางอย่าง เช่น แกงกะทิอาจบูดเสียง่ายแต่ไม่มีกลิ่น เนื่องจากอากาศที่เย็น ทำให้กลิ่นและรสอาหารที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักทำให้คิดว่าสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องนำมาอุ่นซ้ำ จึงทำให้เป็นโรคอุจาระร่วง ซึ่งเป็นภาวะที่มีการถ่ายอุจาระเหลว 3 ครั้ง ติดต่อกัน หรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 1 ครั้งใน 1 วัน หรือถ่ายเป็นมูกปนเลือด เนื่องจากรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่ไม่สะอาด ไม่ล้างมือก่อนเตรียมหรือปรุงอาหาร หากถ่ายอุจจาระมากจนขาดน้ำ อาจทำให้ช็อค หมดสติ และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
สคร.5 ยังกล่าวต่อไปว่า หากเด็กป่วยเป็นโรคอุจาระร่วง ควรให้รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่นโจ๊ก ข้าวต้ม และให้ดื่มสารละลายเกลือแร่ ควรปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทาน อาหารที่ปรุงไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง ควรเก็บในตู้เย็น และต้องนำมาอุ่นซ้ำ ล้างมือสะอาดด้วยน้ำและสบู่ ก่อนรับประทานอาหารหรือปรุงอาหาร โดยเฉพาะหลังจากเข้าห้องน้ำ ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะสะอาด ปลอดภัย และทำให้เด็กมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคต่างๆ
สคร.5 ยังกล่าวต่อไปว่า หากเด็กป่วยเป็นโรคอุจาระร่วง ควรให้รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่นโจ๊ก ข้าวต้ม และให้ดื่มสารละลายเกลือแร่ ควรปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทาน อาหารที่ปรุงไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง ควรเก็บในตู้เย็น และต้องนำมาอุ่นซ้ำ ล้างมือสะอาดด้วยน้ำและสบู่ ก่อนรับประทานอาหารหรือปรุงอาหาร โดยเฉพาะหลังจากเข้าห้องน้ำ ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะสะอาด ปลอดภัย และทำให้เด็กมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคต่างๆ
สถาบันลูกโลกสีเขียว เชิญส่งผลงานด้านการอนุรักษ์เข้าประกวด ครั้งที่ 16
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสถาบันลูกโลกสีเขียว มูลนิพลังที่ยั่งยืน ได้จัดการประกวด รางวัลลูกโลกสีเขียว ขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ในปี 2557 ในหัวข้อ "วิถีพอเพียง แบ่งปัน ผูกพัน ดิน น้ำ ป่า” หรือการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชนเมือง เพื่อยกย่องเชิดชูให้การสนับสนุน และให้กำลังใจแก่ บุคคล และกลุ่มบุคคล ที่ทำความดีเพื่อสังคมในด้านการสร้างสรรค์และอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการเปิดเวทีส่งเสริมให้เกิดการแสวงหาแนวคิด และแนวทางใหม่ๆ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสังคมไทย โดยเปิดรับสมัครผลงานประเภทชุมชน บุคคลและกลุ่มเยาวชนตั้งแต่บัดนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2557 ส่วนผลงานประเภทเรียงความเยาวชนและสื่อมวลชนเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึง 30 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้งนี้รางวัลประกอบด้วย โล่รางวัล ใบประกาศเกียรติคุณ และรางวัลเงินสด โดยผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับการเผยแพร่ให้เป็นแบบอย่างต่อสาธารณชนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานเข้าประกวด ได้ที่ สถาบันลูกโลกสีเขียว อาคาร 1 ชั้น 5 เลขที่ 555 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0 2537 2146 และ 0 2537 1993 โทรสาร 0 2537 3829
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานเข้าประกวด ได้ที่ สถาบันลูกโลกสีเขียว อาคาร 1 ชั้น 5 เลขที่ 555 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0 2537 2146 และ 0 2537 1993 โทรสาร 0 2537 3829
โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ เปิดรับสมัครนักเรียน ประจำปี 2557
นายศิริวัตร บุญประสพ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ เปิดรับเด็กเข้าโรงเรียน ในชั้นอนุบาลปีที่ 1 ประจำปีกรศึกษา 2557 โดยรับสมัครนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ใน 2 โปรแกรม คือ ห้องเรียนปกติ จำนวน 360 คน และห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ จำนวน 35 คน รับสมัครในระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2557 เวลา 08.30-16.30 น. ณ ชั้น 3 อาคารบุญนาคนิตยสุทธิ์อนุสรณ์ โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ ไม่เว้นวันหยุดราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทรศัพท์ 0-4451-1188
จ.สุรินทร์ เชิญชวนเฝ้ารับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ เสด็จติดตามการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก
จังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนเฝ้ารับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ เสด็จติดตามการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จไปทรงเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก เพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ในวันพุทธที่ 29 มกราคม นี้ เวลา 11.00 น. ณ โรงพยาบาลสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนข้าราชการและประชาชนชาวสุรินทร์ ร่วมเฝ้ารับเสด็จโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร จะเสด็จไปยังห้องประชุมสระโบราณ ชั้น 2 อาคารอำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อทรงเสด็จตรวจติดตามทอดพระเนตรนิทรรศการการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก เพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทยในพระอุปถัมภ์ฯ ของจังหวัดสุรินทร์ และประทานเกียรติบัตรผู้ให้การสนับสนุนโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทยในพระอุปถัมภ์ฯ และทรงเสด็จทอดพระเนตรกิจกรรมภายในหออภิบาลทารกแรกเกิดและกิจกรรมการสาธิตต่างๆของโรงพยาบาลสุรินทร์
กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว
กกต.สุรินทร์ เผย เลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนกว่าร้อยละ 70
คณะกรรมการการเลือกตั้ง เผย เลือกตั้งส.ส.ล่วงหน้า มีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนกว่าร้อยละ 70 ขณะที่เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดเกิน 30% นายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธาน กกต.สุรินทร์ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งส.ส.ล่วงหน้าของจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ถึงแม้จะมีผู้มาชุมนุมแสดงพลังคัดค้านการเลือกตั้งในบางแห่ง แต่ก็สามารถเปิดให้มีการเลือกตั้งได้ตามปกติ โดยผลการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด 2 แห่ง ได้แก่ หอประชุมวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งจำนวน 199 คน จากที่ได้ลงทะเบียนไว้ จำนวน 2,563 คน และที่หอประชุมโรงเรียนพนมดงรักวิทยา อำเภอพนมดงรัก มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง 1,102 คน จากจำนวนผู้ลงทะเบียน 1,672 คน คิดเป็นร้อยละ 30.72 ส่วนการเลือกตั้งในสถานที่เลือกตั้งกลางในเขตจังหวัด ทั้ง 8 เขต มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนรวมทั้งสิ้น 1,279 คน จากผู้ที่ลงทะเบียนไว้ 1,641คน คิดเป็นร้อยละ 77.94 แยกเป็นดังนี้ เขตเลือกตั้งที่ 1 สถานที่ หอประชุม อบต.นอกเมือง องเมืองสุรินทร์ จำนวนผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียน 448 คน มาแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้ง 245 คน คิดเป็นร้อยละ 54.68 เขตเลือกตั้งที่ 2 สถานที่หอประชุมจังหวัดสุรินทร์ จำนวนผู้ที่ลงทะเบียน 315 คน มาแสดงตนใช้สิทธิลงคะแนน 258 คน คิดเป็นร้อยละ 41.90 เขตเลือกตั้งที่ 3 สถานที่ หอประชุมอำเภอท่าตูม จำนวนผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียน 139 คน มาแสดงตนใช้สิทธิลงคะแนน 123 คน คิดเป็นร้อยละ 89.13 เขตเลือกตั้งที่ 4 สถานที่ หอประชุมอำเภอรัตนบุรี จำนวนผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียน 179 คน มาแสดงตนใช้สิทธิลงคะแนน 156 คน คิดเป็นร้อยละ 88.48 เขตเลือกตั้งที่ 5 สถานที่ หอประชุมโรงเรียนบ้านตรึม ตำบลตรึม อำเภอศีขรภูมิ จำนวนผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียน 91 คน มาแสดงตนใช้สิทธิลงคะแนน 80คน คิดเป็นร้อยละ 87.92 เขตเลือกตั้งที่ 6 สถานที่ หอประชุมอำเภอศีขรภูมิ จำนวนผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียน 67คน มาแสดงตนใช้สิทธิลงคะแนน 66 คน คิดเป็นร้อยละ 98.50 เขตเลือกตั้งที่ 7 สถานที่ หอประชุมอำเภอสังขะ จำนวนผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียน 229 คน มาแสดงตนใช้สิทธิลงคะแนน 187คน คิดเป็นร้อยละ 81.65 และเขตเลือกตั้งที่ 8 สถานที่ หอประชุมอำเภอปราสาท จำนวนผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียน 173 คน มาแสดงตนใช้สิทธิลงคะแนน 164 คน คิดเป็นร้อยละ 94.79 อย่างไรก็ตาม หากในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กกต.สุรินทร์ ได้เตรียมการเลือกตั้ง ส.ส. ไว้พร้อมทุกด้านแล้ว
กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว
สภาเกษตรกรจ.สุรินทร์ ผนึกกำลังผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ระดมความคิดจัดทำแผนพัฒนาเกษตรกร
สภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ ผนึกกำลังผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน/ตำบล และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ระดมความคิดจัดทำแผนพัฒนาเกษตรกร นายกอบสิน พ่อค้า ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะผู้แทนเกษตรกรอำเภอเมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 ได้บัญญัติขึ้น เพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการสนับสนุนสิทธิและการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการกำหนดนโยบายและการวางแผนพัฒนาเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและความมั่นคงในอาชีพเกษตรกร เพิ่มศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้กำหนดให้สภาเกษตรกรแห่งชาติ ต้องจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เป็นการเชื่อมโยงแผนงานจากล่างสู่บนที่เกิดขึ้นจากการสะท้อนปัญหาและความต้องการของเกษตรกรในทุกระดับตั้งแต่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดทั่วประเทศ สภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ จึงร่วมกับสำนักงานเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ จัดประชุมผู้แทนเกษตรกรในระดับหมู่บ้าน ผู้แทนเกษตรกรระดับตำบลทุกตำบล ผู้มีส่วนได้เสีย หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ผู้แทนพระองค์เกษตรกร ปราชญ์ชาวบ้าน ขึ้นในวันนี้( 28 มกราคม 2557) ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เพื่อร่วมกันระดมความคิดในการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของเกษตรกร องค์กรเกษตรกร แนวทางการแก้ไขปัญหาและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรกร การจัดตั้งและสร้างเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานสภาเกษตรกรในระดับอำเภอ และระดับตำบลต่อไป
กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว
เส้นทางการเมืองใสสะอาด
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ติวเข้ม การมีส่วนร่วมทางการเมืองของภาคประชาชน และความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และสิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของพลเมือง
วันนี้ (28 ม.ค.57) เวลา 09.00น. ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในงานเปิดโครงการ "เส้นทางการเมืองใสสะอาด” ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่ประชาชนจะได้เรียนรู้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยและมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ให้แก่ผู้นำชุมชน กลุ่ม องค์กรชุมชน และเครือข่ายองค์การชุมชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในชุมชน ได้สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกระดับ องค์กร ผู้นำชุมชน เข้าร่วมจำนวนมาก
นายทัศนัย พิริยะสันติ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการเส้นทางการเมืองใสสะอาด ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก สำนักงาน กกต.สุรินทร์ ในการเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง การปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากัษติย์ทรงเป็นประมุข สิทธิที่หน้าที่ของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีกด้วย
วันนี้ (28 ม.ค.57) เวลา 09.00น. ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในงานเปิดโครงการ "เส้นทางการเมืองใสสะอาด” ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่ประชาชนจะได้เรียนรู้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยและมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ให้แก่ผู้นำชุมชน กลุ่ม องค์กรชุมชน และเครือข่ายองค์การชุมชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในชุมชน ได้สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกระดับ องค์กร ผู้นำชุมชน เข้าร่วมจำนวนมาก
นายทัศนัย พิริยะสันติ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการเส้นทางการเมืองใสสะอาด ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก สำนักงาน กกต.สุรินทร์ ในการเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง การปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากัษติย์ทรงเป็นประมุข สิทธิที่หน้าที่ของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีกด้วย
อุทัย มานาดี / รายงาน
เกษตรกร อ.ศรีขรภูมิ จำนวนมากนำผลผลิตที่ได้มาจำหน่าย และประกวดผลผลิตผลทางการเกษตร
เกษตรกร อำเภอศรีขรภูมิ จำนวนมากนำผลผลิตที่ผลิตได้ในพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำ นำมาวางจำหน่าย และร่วมประกวดผลผลิตผลทางการเกษตร สร้างความสนุกสนาน ภายในงานส่งเสริมคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง
วันนี้ (28 ม.ค.57) ที่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยี่การเกษตรประจำตำบลยาง ติดบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก หมู่ที่ 4 ต.ยาง อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายสันติชัย คงเถลิงศิริวัฒนา นายอำเภอศรีขรภูมิ พร้อมด้วยนายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงานตามโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงและการประกวดผลิตผลทางการเกษตร ประจำปี 2557 จัดขึ้นโดยองค์การบริหารส่วนตำบลยางและองค์การบริหารส่วนตำบลกุดหวาย พร้อมด้วยสำนักงานอำเภอศรีขรภูมิ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมเกษตรกร ให้มีอาชีพ มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร พร้อมทั้งเกษตรกรในพื้นที่และใกล้เคียงสามารถมาศึกษาเรียนรู้การทำการเกษตร และได้นำผลผลิตที่ปลูกได้มาประกวดเข้าแข่งขันทางด้านผลิต เพื่อให้เกษตรกรได้เห็นความสำคัญในผลผลิตการนำไปต่อยอด โดยมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารการศึกษา ผู้นำชุมชน นักเรียนและพี่น้องเกษตรกรเข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายสุวิทย์ เกษอินทร์ นายก อบต.ยาง กล่าวว่า แปลงติดตั้งระบบน้ำเพื่อการเกษตร โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตด้านการเกษตรบ้านยาง "กลุ่มปลูกผักบ้านตาพรม อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์” แห่งนี้มีพื้นที่จำนวน 7 ไร่ ปลูกผักทุกชนิด อาทิ มะเขือเปราะ,มะนาวแป้นรำไพลมะนาวแป้นพิจิตร,คะน้า ,ข้าวโพด.กะหล่ำปี และผักทุกชนิด ซึ่งทาง อบต.ยาง และอบต.กุดหวาย ได้บริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอศรีขรภูมิ มาให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี่การเกษตร ซึ่งศูนย์ฯแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนทั้งพื้นที่และอาคารจากสำนักงานชลประทานจังหวัดสุรินทร์ ได้โอนย้ายให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลยาง นอกจากนี้ อบต.ยาง ยังได้สนับสนุน งบประมาณจำนวนหนึ่งมาติดตั้งระบบน้ำแบบสตริงเวย์ เพื่อจะได้นำน้ำจากห้วยลำพอกขึ้นมาให้กลุ่มปลูกพืชปลูกผัก อีกด้วย
ในส่วนกิจกรรม มีการแสดงศิลปะพื้นบ้านกันตรึม พร้อมทั้งการประกวดแข่งขันผลผลิตที่ปลูกได้ในทั้งสองฝากฝั่ง ต.ยาง และต.หวาย ซึ่งมีการประกวดชิงราวัลและใบประกาศนียบัตร โดยได้แบ่งเป็นหลายประเภท อาทิ การแข่งของใหญ่และหนัก(พืชผัก) ,การแข่งขันของแปลกของใหญ่ , กล้วยน้ำหว้าห่าม ,การแข่งขังฟักทอง , ข้าวโพดหวาน ,ผักกาดเขียวปลี ,ผักคะน้า,ผักกาดหัว ,มะพร้าวน้ำหอม , ฟักทอง และประกวดอ้อยโรงงาน มีผู้สนใจเข้าชมและเชียร์ ในแต่ละหมู่บ้าน สร้างบรรยากาศสนุกสนาน อีกด้วย
วันนี้ (28 ม.ค.57) ที่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยี่การเกษตรประจำตำบลยาง ติดบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก หมู่ที่ 4 ต.ยาง อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายสันติชัย คงเถลิงศิริวัฒนา นายอำเภอศรีขรภูมิ พร้อมด้วยนายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงานตามโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงและการประกวดผลิตผลทางการเกษตร ประจำปี 2557 จัดขึ้นโดยองค์การบริหารส่วนตำบลยางและองค์การบริหารส่วนตำบลกุดหวาย พร้อมด้วยสำนักงานอำเภอศรีขรภูมิ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมเกษตรกร ให้มีอาชีพ มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร พร้อมทั้งเกษตรกรในพื้นที่และใกล้เคียงสามารถมาศึกษาเรียนรู้การทำการเกษตร และได้นำผลผลิตที่ปลูกได้มาประกวดเข้าแข่งขันทางด้านผลิต เพื่อให้เกษตรกรได้เห็นความสำคัญในผลผลิตการนำไปต่อยอด โดยมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารการศึกษา ผู้นำชุมชน นักเรียนและพี่น้องเกษตรกรเข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายสุวิทย์ เกษอินทร์ นายก อบต.ยาง กล่าวว่า แปลงติดตั้งระบบน้ำเพื่อการเกษตร โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตด้านการเกษตรบ้านยาง "กลุ่มปลูกผักบ้านตาพรม อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์” แห่งนี้มีพื้นที่จำนวน 7 ไร่ ปลูกผักทุกชนิด อาทิ มะเขือเปราะ,มะนาวแป้นรำไพลมะนาวแป้นพิจิตร,คะน้า ,ข้าวโพด.กะหล่ำปี และผักทุกชนิด ซึ่งทาง อบต.ยาง และอบต.กุดหวาย ได้บริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอศรีขรภูมิ มาให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี่การเกษตร ซึ่งศูนย์ฯแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนทั้งพื้นที่และอาคารจากสำนักงานชลประทานจังหวัดสุรินทร์ ได้โอนย้ายให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลยาง นอกจากนี้ อบต.ยาง ยังได้สนับสนุน งบประมาณจำนวนหนึ่งมาติดตั้งระบบน้ำแบบสตริงเวย์ เพื่อจะได้นำน้ำจากห้วยลำพอกขึ้นมาให้กลุ่มปลูกพืชปลูกผัก อีกด้วย
ในส่วนกิจกรรม มีการแสดงศิลปะพื้นบ้านกันตรึม พร้อมทั้งการประกวดแข่งขันผลผลิตที่ปลูกได้ในทั้งสองฝากฝั่ง ต.ยาง และต.หวาย ซึ่งมีการประกวดชิงราวัลและใบประกาศนียบัตร โดยได้แบ่งเป็นหลายประเภท อาทิ การแข่งของใหญ่และหนัก(พืชผัก) ,การแข่งขันของแปลกของใหญ่ , กล้วยน้ำหว้าห่าม ,การแข่งขังฟักทอง , ข้าวโพดหวาน ,ผักกาดเขียวปลี ,ผักคะน้า,ผักกาดหัว ,มะพร้าวน้ำหอม , ฟักทอง และประกวดอ้อยโรงงาน มีผู้สนใจเข้าชมและเชียร์ ในแต่ละหมู่บ้าน สร้างบรรยากาศสนุกสนาน อีกด้วย
อุทัย มานาดี / รายงาน
กกต.อุบลราชธานีรอผลหารือรัฐบาล-กกต.กลางบ่ายวันนี้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่
ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดอุบลราชธานี ยันจะได้รับบัตรใช้ลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ภายในวันพรุ่ง และหากรัฐบาลกับ กกต.กลางตกลงเดินหน้าเลือกตั้งต่อ ก็จะเร่งอบรมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งกว่า 30,000 คนในวันพฤหัสบดีนี้
นายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงบัตรใช้ลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งมีข่าวยังไม่ได้รับนั้น สำนักงาน กกต.อุบลราชธานี ได้รับบัตรใช้ลงคะแนนแบบบัญชีรายชื่อมาเก็บรักษาไว้เรียบร้อย ส่วนบัตรใช้ลงคะแนนระบบเขต ได้รับการยืนยันจากสำนักงาน กกต.กลางอยู่ระหว่างดำเนินการจัดส่ง แต่เปิดเผยสถานที่ส่งไม่ได้และคาดว่า กกต.อุบลราชธานี จะได้รับบัตรใช้ลงคะแนนทั้งหมดในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ขณะที่การอบรมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งกว่า 30,000 คน มีการชะลอการอบรมในรุ่นสุดท้ายไว้ตามคำสั่งของ กกต.กลาง เพราะดูท่าทีการเจรจากับรัฐบาลจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ หากไม่มีการเลื่อนก็จะทำการอบรมเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เหลืออยู่ราว 30 เปอร์เซ็นต์ในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้
ผู้อำนวยการ กกต.ยังแสดงความเป็นห่วงว่า การลงคะแนนในวันที่ 2 ก.พ.คาดจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อยกว่าการเลือกตั้งทุกครั้ง เพราะประชาชนยังมีความเห็นต่างกันอยู่ แต่คาดจะไม่มีการขัดขวางการเลือกตั้งโดยกลุ่ม กปปส.ในจังหวัด เพราะการเลือกตั้งล่วงหน้ามีการออกมาเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ในบางเขตเท่านั้น สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี มี 11 เขตเลือกตั้ง มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 2,964 หน่วย ประชากรมีสิทธิ์ลงคะแนนมีทั้งสิ้น 1,306,038 คน
นายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงบัตรใช้ลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งมีข่าวยังไม่ได้รับนั้น สำนักงาน กกต.อุบลราชธานี ได้รับบัตรใช้ลงคะแนนแบบบัญชีรายชื่อมาเก็บรักษาไว้เรียบร้อย ส่วนบัตรใช้ลงคะแนนระบบเขต ได้รับการยืนยันจากสำนักงาน กกต.กลางอยู่ระหว่างดำเนินการจัดส่ง แต่เปิดเผยสถานที่ส่งไม่ได้และคาดว่า กกต.อุบลราชธานี จะได้รับบัตรใช้ลงคะแนนทั้งหมดในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ขณะที่การอบรมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งกว่า 30,000 คน มีการชะลอการอบรมในรุ่นสุดท้ายไว้ตามคำสั่งของ กกต.กลาง เพราะดูท่าทีการเจรจากับรัฐบาลจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ หากไม่มีการเลื่อนก็จะทำการอบรมเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เหลืออยู่ราว 30 เปอร์เซ็นต์ในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้
ผู้อำนวยการ กกต.ยังแสดงความเป็นห่วงว่า การลงคะแนนในวันที่ 2 ก.พ.คาดจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อยกว่าการเลือกตั้งทุกครั้ง เพราะประชาชนยังมีความเห็นต่างกันอยู่ แต่คาดจะไม่มีการขัดขวางการเลือกตั้งโดยกลุ่ม กปปส.ในจังหวัด เพราะการเลือกตั้งล่วงหน้ามีการออกมาเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ในบางเขตเท่านั้น สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี มี 11 เขตเลือกตั้ง มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 2,964 หน่วย ประชากรมีสิทธิ์ลงคะแนนมีทั้งสิ้น 1,306,038 คน
อังกฤษ ทองสัมฤทธิ์ ทีมข่าว สวท.อุบลราชธานี สปข.2
เทศบาลตำบลแสนสุข จัด มหกรรมอาหารสะอาด รสชาติแสนสุข ตามโครงการอบรมให้ความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารแก่ผู้ประกอบการ ปี 2557
นายทรงกรด ไกรกังวาร นายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข กล่าวว่า เทศบาลตำบลแสนสุข จัด มหกรรมอาหารสะอาด รสชาติแสนสุข ภายใต้โครงการอบรมให้ความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารแก่ผู้ประกอบการ ปี 2557 เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการสถานที่จำหน่ายอาหาร ทราบถึงหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องในเรื่องการจัดสถานที่การประกอบอาหาร การปรุงอาหาร สุขลักษณะส่วนบุคคล สุขลักษณะของภาชนะ อุปกรณ์และของใช้อื่นๆในการประกอบอาหาร รวมทั้งทราบถึงข้อกำหนดมาตรฐานด้านสุขาภิบาลอาหาร ตลอดจนวิธีการตรวจสอบคุณภาพของอาหารและวัตถุดิบในการปรุง ประกอบอาหาร เพื่อให้เกิดการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนผู้บริโภคส่วนรวมต่อไป
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดส้มตำลีลา การจำหน่ายอาหารและสินค้าราคาประหยัด การจำหน่ายสินค้าโอทอป ของฝาก ของที่ระลึก การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม การให้ความรู้ทางวิชาการ การแสดงบนเวที
สำหรับผู้สนใจสามารถร่วมชมกิจกรรมต่างๆภายในงานมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติแสนสุข ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณตลาดเจริญศรี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดส้มตำลีลา การจำหน่ายอาหารและสินค้าราคาประหยัด การจำหน่ายสินค้าโอทอป ของฝาก ของที่ระลึก การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม การให้ความรู้ทางวิชาการ การแสดงบนเวที
สำหรับผู้สนใจสามารถร่วมชมกิจกรรมต่างๆภายในงานมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติแสนสุข ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณตลาดเจริญศรี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน
องค์การบริหารส่วนตำบลขี้เหล็ก ร่วมกับเครือข่าย รับบริจาคโลหิตประจำปี 2557
องค์การบริหารส่วนตำบลขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ สำนักงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จัดโครงการรับบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ประจำปี 2557 เพื่อนำโลหิตที่ได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ การผ่าตัด หรือการรักษาโรคต่างๆ
ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ ร่วมบริจาคโลหิต และรับบริการด้านทันตกรรม ได้ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป
ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ ร่วมบริจาคโลหิต และรับบริการด้านทันตกรรม ได้ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป
กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน
รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป
ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ประสงค์รับสมัครบุคคลเพื่อรับราชการเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่ง นักสังคมสงเคราะห์ 1 ตำแหน่ง และ นักจิตวิทยาคลินิก 1 ตำแหน่ง
รับสมัคร ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ ฝ่ายบริหารทั่วไป ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7
(บริเวณภายในโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์) เลขที่ 212 ถนนแจ้งสนิท อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557
โดยผู้สมัครไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการสมัคร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.045-281049
รับสมัคร ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ ฝ่ายบริหารทั่วไป ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7
(บริเวณภายในโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์) เลขที่ 212 ถนนแจ้งสนิท อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557
โดยผู้สมัครไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการสมัคร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.045-281049
ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์
สอบราคาซื้อครุภัณฑ์ชุดปฏิบัติการท่องเที่ยวและโรงแรม
วิทยาลัยการอาชีพเลิงนกทา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประสงค์สอบราคาจัดซื้อครุภัณฑ์ ได้แก่ ชุดปฏิบัติการท่องเที่ยวและโรงแรม จำนวน 1 รายการ
กำหนดยื่นซองสอบราคา ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 31 มกราคม2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ วิทยาลัยการอาชีพเลิงนกทา และกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคาซื้อ ได้ที่ งานพัสดุ ฝ่ายบริหารทรัพยากร วิทยาลัยการอาชีพเลิงนกทา ระหว่าง วันที่ 21 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://www.licec.ac.th/ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 045-781804 ในวันและเวลาราชการ
กำหนดยื่นซองสอบราคา ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 31 มกราคม2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ วิทยาลัยการอาชีพเลิงนกทา และกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคาซื้อ ได้ที่ งานพัสดุ ฝ่ายบริหารทรัพยากร วิทยาลัยการอาชีพเลิงนกทา ระหว่าง วันที่ 21 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://www.licec.ac.th/ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 045-781804 ในวันและเวลาราชการ
ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์
พช.สุรินทร์ จัดงาน 45 ปี วันอาสาพัฒนาชุมชน รวมใจภักดิ์ รักประชาธิปไตย
วันที่ 28 ม.ค.57 เวลา 13.00 น. ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นายอรรถพร สิงหวิชัย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดงาน "45 ปี วันอาสาพัฒนาชุมชน รวมใจภักดิ์ รักประชาธิปไตย" เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี วันอาสาพัฒนาชุมชน พร้อมทั้งเป็นประธานนำกล่าว "ปกป้องสถาบัน สมานฉันท์คนในชาติ" ร้องเพลงสดุดีมหาราชและเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น นายอรรถพร สิงหวิชัย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้อ่านสารจากนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน 28 มกราคม 2557 และมอบเกียรติบัตรให้แก่อาสาพัฒนาชุมชนผู้ที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 34 คน จาก 17 อำเภอของจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งเยี่ยมชมกิจกรรมการจัดนิทรรศการของผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนและอาสาพัมนาชุมชน ของจังหวัดสุรินทร์ อีกด้วย
สืบเนื่องมาจาก คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2512 ให้กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการพัฒนาผุ้นำอาสาพัฒนาชุมชน และได้กำหนดให้วันที่ 28 มกราคมของทุกปี เป็นวันอาสาพัฒนาชุมชน เพื่อให้ผู้ที่เป้นอาสาพัฒนาชุมชนเหล่านี้ ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้องค์กรประชาชน รู้สภาพปัญหาของหมู่บ้านและสามารถวางแผนเพื่อแก้ปัญหาได้เอง รวมทั้งให้ประชาชนแก้ปัญหาได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ และรวมตัวกันเป็นพลังขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนให้บรรลุเป้าหมาย
การจัดงานในครั้งนี้ มีความสำคัญกับบุคคลซึ่งเป็นอาสาพัฒนาชุมชน ในการที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้บรรลุเป้าหมาย ขับเคลื่อนกิจกรรมชุมชน อันจะก่อให้ก่อประโยชน์แก่ทางราชการและประชาชนอย่างแท้จริง
สืบเนื่องมาจาก คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2512 ให้กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการพัฒนาผุ้นำอาสาพัฒนาชุมชน และได้กำหนดให้วันที่ 28 มกราคมของทุกปี เป็นวันอาสาพัฒนาชุมชน เพื่อให้ผู้ที่เป้นอาสาพัฒนาชุมชนเหล่านี้ ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้องค์กรประชาชน รู้สภาพปัญหาของหมู่บ้านและสามารถวางแผนเพื่อแก้ปัญหาได้เอง รวมทั้งให้ประชาชนแก้ปัญหาได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ และรวมตัวกันเป็นพลังขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนให้บรรลุเป้าหมาย
การจัดงานในครั้งนี้ มีความสำคัญกับบุคคลซึ่งเป็นอาสาพัฒนาชุมชน ในการที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้บรรลุเป้าหมาย ขับเคลื่อนกิจกรรมชุมชน อันจะก่อให้ก่อประโยชน์แก่ทางราชการและประชาชนอย่างแท้จริง
ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/ไวยวิทย์ สุขเก่า ภาพ
กกต.สุรินทร์ นำอาสาพัฒนาชุมชนเข้ารับความรู้ ทำความเข้าใจ ตามโครงการเส้นทางการเมืองใสสะอาด
กกต.สุรินทร์ ร่วมกับ พัฒนาชุมชน นำอาสาพัฒนาชุมชนเข้ารับความรู้ ความเข้าใจ ในการมีส่วนร่วมในทางการเมืองของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย ในโครงการเส้นทางการเมืองใสสะอาด
วันที่ 28 ม.ค.57 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการ "เส้นทางการเมืองใสสะอาด" ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับพัฒนาชุมชนจังหวัด จัดขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แก่ผุ้นำ กลุ่มองค์กร เครือข่าย ตามโครงการเส้นทางการเมืองใสสะอาด ซึ่งมีคณะวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ มาทำความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของประชาชน แก่ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนและการมีส่วนร่วมในทางการเมืองของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย และ ทำความเข้าใจของการออกไปใช้สิทธิ์ หน้าที่ ตามระบอบประชาธิปไตย ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้
วันที่ 28 ม.ค.57 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการ "เส้นทางการเมืองใสสะอาด" ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับพัฒนาชุมชนจังหวัด จัดขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แก่ผุ้นำ กลุ่มองค์กร เครือข่าย ตามโครงการเส้นทางการเมืองใสสะอาด ซึ่งมีคณะวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ มาทำความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของประชาชน แก่ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนและการมีส่วนร่วมในทางการเมืองของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย และ ทำความเข้าใจของการออกไปใช้สิทธิ์ หน้าที่ ตามระบอบประชาธิปไตย ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้
ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/ไวยวิทย์ สุขเก่า ภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการเกษตร เพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอำเภอสิรินธร และ อำเภอบุณฑริก
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2557 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยหน่วยงาน สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี ลงพื้นที่ติดตามโครงการเกษตร เพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านแก่งศรีโคตร โรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดนป่าชุมชนหญ้าคา ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดน บ้านป่าไม้ ตำบลคอแลน อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวประสบปัญหาความยากจนและเป็นถิ่นทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก เยาวชนมักจะขาดแคลนอาหารจากการผลิตไม่พอเพียง ทำให้การบริโภคไม่ถูกต้อง เยาวชนในพื้นที่ดังกล่าวเจริญเติบโตอย่างไม่มีคุณภาพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ทรงเล็งเห็นว่าการพัฒนาจะนำไปสู่การเจริญเติบโต และพัฒนาการของเด็กทั้งร่างกาย สติปัญญาและอารมณ์ได้อย่างเต็มมีคุณภาพ ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานี โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี จากส่วนราชการ อำเภอ ท้องถิ่น ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าวมี เพื่อให้เด็ก เยาวชนในถิ่นทุรกันดารที่มีปัญหาการขาดแคลนสารอาหาร รวมทั้งโรคติดต่อสามารถลดระดับความรุนแรงลง ให้นักเรียนมีความรู้ มีทักษะทางด้านการเกษตร การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร สามารถพึ่งพาตนเองและนำไปพัฒนาท้องถิ่นได้ มีแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรและแหล่งพันธ์ดีสู่ชุมชน นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบพันธุ์ปลาดุกเพื่อสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั้ง 3 แห่ง อีกด้วย
กาชาดจังหวัดอุบลราชธานี มอบผ้าห่มและ เสื้อกันหนาวช่วยผู้ประสบภัย แก่ผู้ปกครอง และเด็กนักโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่อำเภอสิรินธร และอำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี
วันที่ ( 27 ม.ค. 57) นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นางมัณฑะนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยคณะเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานีและส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำผ้าห่มกันหนาวไปมอบแก่ผู้ปกครอง และเสื้อกันหนาว ให้เด็กนักเรียน ที่ประสบภัยหนาว โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแก่งศรีโคตร โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชุมชนป่าหญ้าคา ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าไม้ ตำบลคอแลน อำเภอบุณฑริกจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ประสบภัยหนาวมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาและหนาวต่อเนื่อง โดยจังหวัดอุบลราชธานีได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยครบทั้ง 25 อำเภอ และจังหวัดอุบลราชธานี และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งให้การช่วยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเหลือผู้ประสบภัยหนาวมาโดยตลอด
ตัวแทนเกษตรกรมุกดาหาร เข้าประกวดเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ
สำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร นำคณะกรรมการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ระดับประเทศ จากกรมส่งเสริมการเกษตร ตรวจประเมินผลงานเกษตรกรดีเด่น ที่บ้านจอมมณีเหนือ ต.ดงมอน อ.เมือง จ.มุกดาหาร
สำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร โดยนายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหาร ได้นำคณะกรรมการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ระดับประเทศ จากกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งนำคณะโดย นายประเสริฐวัฒน์ กองกันภัย ประธานกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มการจัดการฟาร์ม สำนักพัฒนาเกษตรกร ลงพื้นที่ ที่บ้านจอมมณีเหนือ หมู่ที่ 6 ต.ดงมอน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นบ้านของนายกีรติ ภาคภูมิ เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ประจำปี 2556 ของจังหวัดมุกดาหาร ที่ทางจังหวัดได้ส่งเข้าเป็นตัวแทนคัดเลือกในครั้งนี้ และเป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายจิรพงษ์ แก้วมณี นายอำเภอเมืองมุกดาหาร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวตำบลดงมอน ให้การต้อนรับคณะกรรมการคัดเลือก
นายประเสริฐวัฒน์ กองกันภัย ประธานกรรมการ ได้กล่าวว่า เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตร มีนโยบายให้ดำเนินการประกวดคัดเลือกเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่น ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับประเทศ ประจำปีของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างขวัญกำลังใจแก้ผู้มีผลงานดีเด่น และผู้ได้รับการคัดเลือกระดับประเทศจะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชทานพิธีมลคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ พลับพลาที่ประทับมนฑลพิธีสนามหลวง
ซึ่งการเดินทางมาคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศครั้งนี้ จากการที่ นายกีรติ ภาคภูมิ เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ประจำปี 2556 เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสมในระดับประเทศ ซึ่งคณะกรรมการคักเลือกการคัดเลือกระดับการคัดเลือกระดับประเทศจากกรมส่งเสริมการเกษตรจะต้องมาดำเนินการเก็บข้อมูลและประเมินผลงานแปลงกิจกรรมไร่นาสวนผสมเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป
สำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร โดยนายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหาร ได้นำคณะกรรมการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ระดับประเทศ จากกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งนำคณะโดย นายประเสริฐวัฒน์ กองกันภัย ประธานกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มการจัดการฟาร์ม สำนักพัฒนาเกษตรกร ลงพื้นที่ ที่บ้านจอมมณีเหนือ หมู่ที่ 6 ต.ดงมอน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นบ้านของนายกีรติ ภาคภูมิ เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ประจำปี 2556 ของจังหวัดมุกดาหาร ที่ทางจังหวัดได้ส่งเข้าเป็นตัวแทนคัดเลือกในครั้งนี้ และเป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายจิรพงษ์ แก้วมณี นายอำเภอเมืองมุกดาหาร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวตำบลดงมอน ให้การต้อนรับคณะกรรมการคัดเลือก
นายประเสริฐวัฒน์ กองกันภัย ประธานกรรมการ ได้กล่าวว่า เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตร มีนโยบายให้ดำเนินการประกวดคัดเลือกเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่น ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับประเทศ ประจำปีของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างขวัญกำลังใจแก้ผู้มีผลงานดีเด่น และผู้ได้รับการคัดเลือกระดับประเทศจะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชทานพิธีมลคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ พลับพลาที่ประทับมนฑลพิธีสนามหลวง
ซึ่งการเดินทางมาคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศครั้งนี้ จากการที่ นายกีรติ ภาคภูมิ เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ประจำปี 2556 เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสมในระดับประเทศ ซึ่งคณะกรรมการคักเลือกการคัดเลือกระดับการคัดเลือกระดับประเทศจากกรมส่งเสริมการเกษตรจะต้องมาดำเนินการเก็บข้อมูลและประเมินผลงานแปลงกิจกรรมไร่นาสวนผสมเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป
พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มห/ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มห/เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว
จังหวัดมุกดาหาร จัดเวทีสภากาแฟ ทุกภาคส่วนร่วมเวที แลกเปลี่ยนประสบการณ์
วันนี้ (๒๘ ม.ค.๕๗) เวลา ๐๗.๐๐ น. ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติภาญจนาภิเษก (หนองนาบึง) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานและร่วมเวทีสภากาแฟ โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมเวทีสภากาแฟ โดยเปิดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาจังหวัดมุกดาหารในทุกด้าน
ทั้งนี้ การเปิดเวทีสภากาแฟในวันนี้ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดมุกดาหาร และเทศบาลเมืองมุกดาหาร เป็นเจ้าภาพ โดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพและจัดเวทีสภากาแฟอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกเดือน โดยบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเชิงสร้างสรรค์ เปิดมุมมองใหม่ๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการพัฒนาจังหวัดมุกดาหารร่วมกัน
ทั้งนี้ การเปิดเวทีสภากาแฟในวันนี้ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดมุกดาหาร และเทศบาลเมืองมุกดาหาร เป็นเจ้าภาพ โดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพและจัดเวทีสภากาแฟอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกเดือน โดยบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเชิงสร้างสรรค์ เปิดมุมมองใหม่ๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการพัฒนาจังหวัดมุกดาหารร่วมกัน
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ตัวแทนชาวนา มหาสารคาม เรียกร้องรัฐบาลจ่ายเงินรับจำนำข้าวเปลือกและชดเชยค่าดอกเบี้ย
28-01-57 ในการประชุมสมาชิกสภาเกษตรกรและตัวแทนชาวนาจากทั้ง 13 อำเภอ จังหวัดมหาสารคาม ที่ห้องประชุม 406 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ที่มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นประธาน เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาเกษตรกรที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลแต่ยังไม่ได้รับเงิน
นายคงฤทธิ์ บัวบุญ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่าจากการประชุมสภาเกษตรกรจังหวัดทุกจังหวัดโดยมีมติร่วมกันว่าต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาที่นำนำข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ประจำปีการผลิต 56/57 โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งการจ่ายเงินให้กับเกษตรโดยเร็วและให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมและรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบค่าดอกเบี้ยตามกฎหมายในเงินค่าจำนำข้าวที่ได้มีการส่งมอบที่ได้มีการส่งมอบในโครงการรับจํานำข้าวไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่ออกใบประทวน
ด้านนายสุรชัย แสงฉายา ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดมหาสารคามหรือ ธกส. กล่าวว่าสํานักงาน ธกส.จังหวัดได้รับเงินจัดสรรจำนวน 1,085 ล้านบาท โดยยอดเงินคงเหลืออยู่ระหว่างการทำสัญญาและจ่ายเงินให้เกษตรกร 7,230 ล้านบาท ยอดเงินที่ ธกส. รอจัดสรรเพิ่มเติมจากส่วนกลางจำนวน 1,900 ล้านบาท สำหรับความคืบหน้าในการจัดหาเงินที่จะนำมาจ่ายให้เกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ประจำปีการผลิต 56/57 รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้จำนวน 130,000 ล้านบาท มาใช้ในโครงการฯ กระทรวงการคลังมีแผนจัดการหาเงินกู้มาใช้ในโครงการสัปดาห์ละ 20,000 ล้านบาทจนครบตามจำนวน เมื่อธนาคารได้รับเงินกู้ดังกล่าวรวมกับเงินระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์จะเร่งจ่ายเงินให้เกษตรกรทันที โดยคาดว่าจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นทั้งประเทศกลางเดือนมีนาคม ในส่วนของจังหวัดมหาสารคามคาดว่าจะดำเนินการจ่ายเงินได้ภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ 2557 นี้
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
เครือข่ายสื่อมวลชนมหาสารคาม ร่วมเสวนา เกาะติดเลือกตั้ง
กรมประชาสัมพันธ์ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ กกต.มหาสารคาม จัดเวทีเสวนาสื่อมวลชน "เลือกตั้ง ส.ส.” โดยมีเครือข่ายสื่อมวลชน ร่วมแสดงความเห็น ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ย้ำสร้างจิตสำนึกตามแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
(28-1-57) สื่อมวลชน นักจัดรายการวิทยุกระจายเสียง อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน หรือ อป.มช. ในจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมในเวทีเสวนา ที่ ประชาสัมพันธ์ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม (กกต.) ได้จัดขึ้น เพื่อเกาะติดสถานการณ์การเลือกตั้ง ส.ส. หลังจากที่ได้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สามารถจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าได้อย่างเรียบร้อย โดยหวังให้สื่อมวลชน นักจัดรายการวิทยุกระจายเสียง อป.มช. ในจังหวัดมหาสารคาม ได้เป็นสื่อกลาง ในการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักให้เกิดเกิดกับประชาชน ในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
การจัดเวทีเสวนาครั้งนี้ ได้มีการอภิปรายในประเด็นเกาะติดการเลือกตั้ง โดยมี พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวินิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม และนายสาโรช ไพเราะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ร่วมอภิปราย พร้อมการแสดงความคิดเห็นจากสื่อมวลชน ที่มาร่วมเสวนาครั้งนี้ โดยมีการถ่ายทอดเสียงออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดมหาสารคาม
ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวในโอกาสเป็นประธานการเสวนาและบรรยายพิเศษ "จิตสำนึกรักประชาธิปไตย ร่วมใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ว่า การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยมีเสรีภาพในการเลือกคนดี เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง ดังนั้น สื่อมวลชนจึงนับเป็นสื่อบุคคล ที่สำคัญในการสร้างจิตสำนึกรักประชาธิปไตย และรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามหน้าที่ของตนเอง
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
สาวงามหมายเลข 20 คว้าตำแหน่ง “นางสาวมหาสารคาม ‘57”
"น้องเนยหวาน” สาวงามหมายเลข 20 ได้รับตำแหน่ง "นางสาวมหาสารคาม” ประจำปี 2557 จากเวทีการประกวดนางสาวมหาสารคาม ในการจัดงานบุญเบิกฟ้าและกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557 พร้อมรั้งตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน อีกหนึ่งรางวัล
เมื่อคืนที่ผ่านมา (27-1-57) บนเวทีศิลปะวัฒนธรรม ในงานบุญเบิกฟ้าและกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557 สโมสรไลออนส์ มหาสารคาม จัดประกวด นางสาวมหาสารคาม ประจำปี 2557 โดยมีอำเภอต่าง ๆ บริษัทห้างร้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งสาวงามเข้าร่วมประกวด รวม 25 คน พร้อมจัดให้มีการเดินแบบผ้าไหม ของนางแบบกิตติมศักดิ์ การแสดงดนตรีโฟล์คซอง และการอำลาตำแหน่งนางสาวมหาสารคาม ประจำปี 2556
ซึ่งรางวัลในการประกวดนางสาวมหาสารคาม ปีนี้ ประกอบด้วย ตำแหน่งนางสาวมหาสารคาม จะได้รับเงินรางวัล 10,000 มงกุฎ สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ รองอันดับ 1 เงินรางวัล 7,000 บาท สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ รองอันดับ 2 เงินรางวัล 5,000 บาท สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ ตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ขวัญใจประชาชนชน ชุดแต่งกายสวยงาม และตำแหน่งกุลธิดากาชาด ได้รับเงินรางวัล ตำแหน่งละ 5,000 บาท สายสะพาย และถ้วยเกียรติยศ
ผลการประกวดปรากฏว่า "น้องเนยหวาน” นางสาวชูติมา วันดึก อายุ 22 ปี ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ผู้เข้าประกวดหมายเลข 20 คว้าตำแหน่งนางสาวมหาสารคาม ประจำปี 2557 ไปครอง โดยเป็นนางสาวมหาสารคาม คนที่ 3 และยังได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน อีก 1 รางวัล ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 19 นางสาวพัชรี คุณแก้ว ซึ่งได้รับตำแหน่งกุลธิกาชาด อีก 1 รางวัล รองอันดับ 2 หมายเลข 10 นางสาวศิริกุล โกสิยวงศ์สกุล พร้อมยังได้รับตำแหน่งชุดแต่งกายสวยงาม อีก 1 รางวัล และตำแหน่งขวัญใจประชาชน ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 12 นางสาวฟาติมา เสมทับ
เมื่อคืนที่ผ่านมา (27-1-57) บนเวทีศิลปะวัฒนธรรม ในงานบุญเบิกฟ้าและกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557 สโมสรไลออนส์ มหาสารคาม จัดประกวด นางสาวมหาสารคาม ประจำปี 2557 โดยมีอำเภอต่าง ๆ บริษัทห้างร้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งสาวงามเข้าร่วมประกวด รวม 25 คน พร้อมจัดให้มีการเดินแบบผ้าไหม ของนางแบบกิตติมศักดิ์ การแสดงดนตรีโฟล์คซอง และการอำลาตำแหน่งนางสาวมหาสารคาม ประจำปี 2556
ซึ่งรางวัลในการประกวดนางสาวมหาสารคาม ปีนี้ ประกอบด้วย ตำแหน่งนางสาวมหาสารคาม จะได้รับเงินรางวัล 10,000 มงกุฎ สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ รองอันดับ 1 เงินรางวัล 7,000 บาท สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ รองอันดับ 2 เงินรางวัล 5,000 บาท สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ ตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ขวัญใจประชาชนชน ชุดแต่งกายสวยงาม และตำแหน่งกุลธิดากาชาด ได้รับเงินรางวัล ตำแหน่งละ 5,000 บาท สายสะพาย และถ้วยเกียรติยศ
ผลการประกวดปรากฏว่า "น้องเนยหวาน” นางสาวชูติมา วันดึก อายุ 22 ปี ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ผู้เข้าประกวดหมายเลข 20 คว้าตำแหน่งนางสาวมหาสารคาม ประจำปี 2557 ไปครอง โดยเป็นนางสาวมหาสารคาม คนที่ 3 และยังได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน อีก 1 รางวัล ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 19 นางสาวพัชรี คุณแก้ว ซึ่งได้รับตำแหน่งกุลธิกาชาด อีก 1 รางวัล รองอันดับ 2 หมายเลข 10 นางสาวศิริกุล โกสิยวงศ์สกุล พร้อมยังได้รับตำแหน่งชุดแต่งกายสวยงาม อีก 1 รางวัล และตำแหน่งขวัญใจประชาชน ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 12 นางสาวฟาติมา เสมทับ
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มอบชุดนักเรียนพระราชทาน
วันนี้ (28 ม.ค. 57) เวลา 10.30 น. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์จังหวัดบึงกาฬ พร้อมคณะ ได้เดินทางมามอบชุดนักเรียนพระราชทานในมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้แก่นักเรียนโรงเรียนสังวาลย์วิทย์ 1 บ้านห้วยสะอาด ตำบลถ้ำเจริญ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ และตรวจเยี่ยม ติดตามผลการดำเนินงาน ให้คำแนะนำในการดำเนินงานของโรงเรียน โดยมีนายชัยวัฒน์ โอชนานนท์ นายอำเภอโซ่พิสัย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาให้การต้อนรับ พร้อมทั้งร่วมมอบชุดนักเรียนพระราชทานแก่นักเรียนทุกคน
สำหรับโรงเรียนสังวาลย์วิทย์ 1 ตั้งอยู่บ้านห้วยสะอาด หมู่ที่ 4 ตำบลถ้ำเจริญ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เดิมเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ชื่อโรงเรียนได้รับพระราชทานโดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งพระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่โรงเรียนแห่งนี้ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2509 โรงเรียนสังวาลย์วิทย์ 1 เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเปิดสอน 3 ระดับ คือระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น มีเขตบริการของโรงเรียน จำนวน 3 หมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 369 คน มีบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 22 คน ภายใต้การบริหารงานของนายวิพนธ์ จิตรจักร ผู้อำนวยการโรงเรียน
ทั้งนี้ ผลงานเด่นของโรงเรียน อาทิ โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนการสอนสหกรณ์ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับอำเภอ โรงเรียนในฝันรุ่นที่ 3 โรงเรียนคุณธรรมชั้นนำ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์การเรียนรู้พระราชกรณียกิจ รวมทั้งขยายผลพระราชดำริตามแผนงานส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและธำรงไว้ซึ่งสถาบันสำคัญ
สำหรับโรงเรียนสังวาลย์วิทย์ 1 ตั้งอยู่บ้านห้วยสะอาด หมู่ที่ 4 ตำบลถ้ำเจริญ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เดิมเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ชื่อโรงเรียนได้รับพระราชทานโดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งพระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่โรงเรียนแห่งนี้ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2509 โรงเรียนสังวาลย์วิทย์ 1 เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเปิดสอน 3 ระดับ คือระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น มีเขตบริการของโรงเรียน จำนวน 3 หมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 369 คน มีบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 22 คน ภายใต้การบริหารงานของนายวิพนธ์ จิตรจักร ผู้อำนวยการโรงเรียน
ทั้งนี้ ผลงานเด่นของโรงเรียน อาทิ โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนการสอนสหกรณ์ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับอำเภอ โรงเรียนในฝันรุ่นที่ 3 โรงเรียนคุณธรรมชั้นนำ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์การเรียนรู้พระราชกรณียกิจ รวมทั้งขยายผลพระราชดำริตามแผนงานส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและธำรงไว้ซึ่งสถาบันสำคัญ
มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ จัดงานสื่อสัมพันธ์ แถลงเตรียมจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมอิสานใต้สู่อาเซียน
ราชภัฎบุรีรัมย์จัดงานสื่อสัมพันธ์พร้อมแถลงเตรียมจัดงานราชภัฎมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอีสานใต้สู่อาเซียน ร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน 14 – 16 ก.พ. นี้
(28 ม.ค.57) เมื่อเวลา 10.30 น. รองศาสตราจารย์มาลินี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ พร้อมด้วยคณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานราชภัฎมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอิสานใต้สู่อาเซี่ยน ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2557 โดยในวันที่ 14 ก.พ. จะเป็นการจัดงานวันราชภัฎและวันมาฆบูชา ร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พิธีเฉลิมพระเกียรติสดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดเกล้าพระราชทานนาม "ราชภัฎ” ส่วนในวันที่ 15 ก.พ. เป็นการสัมมนาเชิงวิชาการเยือนถิ่นแผ่นดินปราชญ์ ปีที่ 2 พบการเสวนาจากปราชญ์ชาวบ้าน และในวันที่ 16 ก.พ. ชมการแสดนานาชาติ อาทิ เวียดนาม กัมพูชา ลาว จีน และศรีลังกา ซึ่งในช่วงค่ำแต่ละวันจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและร่วมรับประทานโฮบบายดินเนอร์ อาหารที่ขึ้นชื่อของอีสานใต้
อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ กล่าวว่า การจัดงาน ราชภัฎมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอีสานใต้สู่อาเซี่ยน ในครั้งนี้ เป็นการเตรียมพร้อมนำพามหาวิทยาลัยราชภัฎสู่อาเซี่ยนในปี 2558 โดยมีการเชื่อมโยงวัฒนธณรมของไทยให้เผยแพร่ไปยังนานาชาติ และเพื่อเผยแพร่กิจกรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ให้นานาชาติได้รับรู้ ซึ่งคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมชมกิจกรรมในครั้งนี้
สภากาชาดไทยจัดเสวนาแนวทางสร้างความยั่งยืน พร้อมส่งมอบโครงการสร้างเสริมชุมชนปลอดภัยและสามารถคืนสู่สภาพปกติหลังเกิดภัย
สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย จัดเสาวนา แนวทางสร้างความยั่งยืน และส่งมอบโครงการสร้างเสริมชุมชนปลอดภัยและสามารถคืนสู่สภาพปกติหลังเกิดภัยให้ชุมชน พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อให้ชุมชนนำไปใช้ได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในพื้นที่อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
(28 ม.ค.57) นายธีระ เหลียวสุธีร์ นายอำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีส่งมอบโครงการสร้างเสริมชุมชนปลอดภัยและสามารถคืนสู่สภาพปกติหลังเกิดภัย ผ่านกระบวนการชุมชนพร้อมรับภัยพิบัติ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทางสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย โดยพลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ จัดทำขึ้น โดยมี นางสาววิไลลักษณ์ ชุปสูงเนิน หัวหน้าสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้ดำเนินโครงการ ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถวิเคราะห์ปัญหา ประเมินความเสี่ยง และมีแผนการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ เข้าใจกระบวนการและมีส่วนร่วมในการจัดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ ทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย ก่อให้เกิดความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มีการบูรณาการแผนการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติของชุมชน เข้าสู่แผนการพัฒนาระดับท้องถิ่นและจังหวัดต่อไป
ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 – 2557 ในพื้นที่ 3 ชุมชน ได้แก่ บ้านโคกขมิ้น บ้านชำแระ และบ้านมะระ ตำบลหนองเต็ง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนชุมชน ในพื้นที่อำเภอกระสัง เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
(28 ม.ค.57) นายธีระ เหลียวสุธีร์ นายอำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีส่งมอบโครงการสร้างเสริมชุมชนปลอดภัยและสามารถคืนสู่สภาพปกติหลังเกิดภัย ผ่านกระบวนการชุมชนพร้อมรับภัยพิบัติ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทางสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย โดยพลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ จัดทำขึ้น โดยมี นางสาววิไลลักษณ์ ชุปสูงเนิน หัวหน้าสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้ดำเนินโครงการ ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถวิเคราะห์ปัญหา ประเมินความเสี่ยง และมีแผนการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ เข้าใจกระบวนการและมีส่วนร่วมในการจัดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ ทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย ก่อให้เกิดความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มีการบูรณาการแผนการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติของชุมชน เข้าสู่แผนการพัฒนาระดับท้องถิ่นและจังหวัดต่อไป
ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 – 2557 ในพื้นที่ 3 ชุมชน ได้แก่ บ้านโคกขมิ้น บ้านชำแระ และบ้านมะระ ตำบลหนองเต็ง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนชุมชน ในพื้นที่อำเภอกระสัง เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
มูลนิธิชัยพัฒนามอบเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย อำเภอลำปลายมาศและอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์
วันที่ 28 มกราคม 2557 พลเอกเจษฎา ศรีสุภาพ รองสมุหราชองครักษ์ ผู้แทนพระองค์สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยนายลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นประธานในพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย อำเภอลำปลายมาศและอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ณ วัดทุ่งสว่างแท่นพระ และโรงเรียนบ้านหนองโดนประสาทวิทย์ อำเภอลำปลายมาศ และศาลาอเนกประสงค์บ้านโนนอ้อมน้อย อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวให้การต้อนรับ
จากวิกฤตการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ หลายจังหวัดในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งประสบเหตุอุทกภัยเนื่องจาก ฝนตกหนักและน้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมาและลำน้ำสาขาต่างๆ ได้ไหลมาสมทบลงลำน้ำมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน และสะพาน สูงกว่า 70 เซนติเมตร นานกว่า 2 เดือน ส่งผลให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 261,672 คน 60,296 ครัวเรือน บ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 1,150 หลัง พื้นที่การเกษตรพืชไร่ ไร่อ้อย มันสำปะหลัง เสียหายจำนวน 48,595 ไร่ รวมถึงพื้นที่การเกษตรนาข้าวจำนวน 190,108 ไร่
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยราษฎรในเขตพื้นที่ดังกล่าว เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากราษฎรในพื้นที่มีรายได้หลักจากการทำนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกได้ เพียงปีละหนึ่งครั้ง เมื่อประสบเหตุอุทกภัยราษฎรจึงสูญเสียรายได้หลักทั้งปีของตนไป จึงมีกระแสรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดหาพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ที่มีคุณภาพดีและได้มาตรฐานเพื่อพระราชทาน แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนที่นาถูกน้ำท่วมเสียหาย
ในการนี้ มูลนิธิชัยพัฒนาได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 จากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ จำนวนทั้งสิ้น 185.6 ตัน เพื่อมอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดบุรีรัมย์ แบ่งเป็นราษฎรตำบลหนองคู อำเภอลำปลายมาศ 74 ราย ราษฎรตำบล หินโคน อำเภอลำปลายมาศ 262 ราย ราษฎรตำบลบ้านยาง อำเภอลำปลายมาศ 290 ราย ราษฎรตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ 364 ราย และราษฎรบ้านโนนอ้อมน้อย ตำบลชำนิ อำเภอชำนิ จำนวน 44 ราย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนและเพื่อใช้เพาะปลูกสำหรับฤดูกาลทำนา ในครั้งต่อไป
ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดตั้งตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2556 เพื่อเป็นที่รวบรวมเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทานที่มีคุณภาพและจากการดำเนินงานที่ผ่านมาศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ หากลุ่มเกษตรเข้าร่วมโครงการผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทานได้จำนวน 7 กลุ่ม ใน 6 อำเภอ ในจังหวัดสุรินทร์ คือ กลุ่มอำเภอเมือง อำเภอจอมพระ อำเภอศีขรภูมิ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอสำโรงทาบ และอำเภอสังขะ
ในส่วนของ ข้าวหอมมะลิ 105 เป็นพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูง เมล็ดข้าวนุ่มมีกลิ่นหอม สามารถปรับตัวในสภาพพื้นที่ต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ดินร่วนปนทราย อีกทั้งเป็นสายพันธุ์ ที่ทนแล้งได้มากที่สุด จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จากวิกฤตการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ หลายจังหวัดในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งประสบเหตุอุทกภัยเนื่องจาก ฝนตกหนักและน้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมาและลำน้ำสาขาต่างๆ ได้ไหลมาสมทบลงลำน้ำมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน และสะพาน สูงกว่า 70 เซนติเมตร นานกว่า 2 เดือน ส่งผลให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 261,672 คน 60,296 ครัวเรือน บ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 1,150 หลัง พื้นที่การเกษตรพืชไร่ ไร่อ้อย มันสำปะหลัง เสียหายจำนวน 48,595 ไร่ รวมถึงพื้นที่การเกษตรนาข้าวจำนวน 190,108 ไร่
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยราษฎรในเขตพื้นที่ดังกล่าว เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากราษฎรในพื้นที่มีรายได้หลักจากการทำนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกได้ เพียงปีละหนึ่งครั้ง เมื่อประสบเหตุอุทกภัยราษฎรจึงสูญเสียรายได้หลักทั้งปีของตนไป จึงมีกระแสรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดหาพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ที่มีคุณภาพดีและได้มาตรฐานเพื่อพระราชทาน แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนที่นาถูกน้ำท่วมเสียหาย
ในการนี้ มูลนิธิชัยพัฒนาได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 จากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ จำนวนทั้งสิ้น 185.6 ตัน เพื่อมอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดบุรีรัมย์ แบ่งเป็นราษฎรตำบลหนองคู อำเภอลำปลายมาศ 74 ราย ราษฎรตำบล หินโคน อำเภอลำปลายมาศ 262 ราย ราษฎรตำบลบ้านยาง อำเภอลำปลายมาศ 290 ราย ราษฎรตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ 364 ราย และราษฎรบ้านโนนอ้อมน้อย ตำบลชำนิ อำเภอชำนิ จำนวน 44 ราย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนและเพื่อใช้เพาะปลูกสำหรับฤดูกาลทำนา ในครั้งต่อไป
ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดตั้งตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2556 เพื่อเป็นที่รวบรวมเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทานที่มีคุณภาพและจากการดำเนินงานที่ผ่านมาศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ หากลุ่มเกษตรเข้าร่วมโครงการผลิตพันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทานได้จำนวน 7 กลุ่ม ใน 6 อำเภอ ในจังหวัดสุรินทร์ คือ กลุ่มอำเภอเมือง อำเภอจอมพระ อำเภอศีขรภูมิ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอสำโรงทาบ และอำเภอสังขะ
ในส่วนของ ข้าวหอมมะลิ 105 เป็นพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูง เมล็ดข้าวนุ่มมีกลิ่นหอม สามารถปรับตัวในสภาพพื้นที่ต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ดินร่วนปนทราย อีกทั้งเป็นสายพันธุ์ ที่ทนแล้งได้มากที่สุด จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์
จังหวัดนครราชสีมามอบผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชนที่ประสบภัยหนาว ขณะที่ ปภ.เตือนระวังการเกิดอัคคีภัยจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
วันนี้ (28 ม.ค.57) เวลา11.00 น. ที่วัดหนองบัว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่าที่ร้อยตรีนิรันดร์ ดจจานุทรรศน์ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยนายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชนบ้านหนองบัว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา จำนวน 500 ผืน เพื่อบรรเทาภัยหนาวภายหลังจากสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามีสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง จนต้องมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวทั้ง 32 อำเภอ ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานต่างๆสามารถเบิกจ่ายงบประมาณจัดหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ออกแจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ที่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีเนินเขา และบริเวณผืนป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ปากช่อง อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว อ.เสิงสาง อ.ครบุรี อ.สูงเนิน และอ.ด่านขุนทด ซึ่งมีอากาศที่หนาวเย็นทำให้หน่วยราชการต่างๆเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว
นายกฤชเพชร กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง สภาวะอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของประชาชน พืชผลทางการเกษตร ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ ให้ประชาชนติดตามสภาวะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าว ประจำหมู่บ้าน นอกจากนี้ในช่วงอากาศหนาวเย็นทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ขอให้ประชาชน ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และ ผู้มีโรคประจำตัว ควรหมั่นออกกำลังกายพักผ่อนให้เพียงพอและสวมเสื้อผ้าหนาๆ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากอุบัติภัยต่างๆ ที่มักเกิดในช่วงฤดูหนาว เช่นไฟป่า อัคคีภัย อุบัติเหตุทางถนน ทั้งนี้หากประชาชน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับความเดือดร้อน จากสภาพอากาศหนาว สามารถแจ้งเหตุสาธารณภัย ได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๔-๒๔๒๒๓๐ , 044-242131 , 044-242280 หรือสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง จนต้องมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวทั้ง 32 อำเภอ ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานต่างๆสามารถเบิกจ่ายงบประมาณจัดหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ออกแจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ที่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีเนินเขา และบริเวณผืนป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ปากช่อง อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว อ.เสิงสาง อ.ครบุรี อ.สูงเนิน และอ.ด่านขุนทด ซึ่งมีอากาศที่หนาวเย็นทำให้หน่วยราชการต่างๆเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว
นายกฤชเพชร กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง สภาวะอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของประชาชน พืชผลทางการเกษตร ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ ให้ประชาชนติดตามสภาวะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าว ประจำหมู่บ้าน นอกจากนี้ในช่วงอากาศหนาวเย็นทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ขอให้ประชาชน ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และ ผู้มีโรคประจำตัว ควรหมั่นออกกำลังกายพักผ่อนให้เพียงพอและสวมเสื้อผ้าหนาๆ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากอุบัติภัยต่างๆ ที่มักเกิดในช่วงฤดูหนาว เช่นไฟป่า อัคคีภัย อุบัติเหตุทางถนน ทั้งนี้หากประชาชน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับความเดือดร้อน จากสภาพอากาศหนาว สามารถแจ้งเหตุสาธารณภัย ได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๔-๒๔๒๒๓๐ , 044-242131 , 044-242280 หรือสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ททท.โคราช จับมือภาคเอกชนเตรียมจัดงานเทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่องาน ฉลองตรุษอาชา รับฤกษ์ปีชัย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ เดอะมอลล์นครราชสีมา และ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ขอเชิญพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนร่วมฉลองตรุษจีนรับปีม้ามหามงคล เพื่อมอบความสุขครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้Concept"ฉลองตรุษอาชา รับฤกษ์ปีชัย ” โดยรูปแบบการจัดงานจะมีความพิเศษ และยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ในปีม้ามหามงคล และเป็นการมอบความสุขให้กับคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งยังถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาให้คึกคักอีกด้วยในปีนี้จะมีการประดับตกแต่งบริเวณการจัดงานด้วยโคมไฟจีน พร้อมประดับแสงไฟด้วยสีสันสวยงามสะพรั่ง เพื่อเสริมโชคลาภและความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่มาร่วมงานตลอดแนวทางเดินภายในงาน และการแสดงสุดประทับใจส่งตรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมณฑลเทียนจิน ศิลปกังฟูชุดใหญ่ในชุดรำมวยไทเก็ก , อาวุธ 8 อย่าง,หลากหลายศิลปกังฟู , ยอดฝีมือ 9 อรหันต์, การแสดงระบำจากมณฑลอันฮุยในชุดดอกไม้และโคมไฟ, ดอกกล้วยไม้กำลังบาน , ดอกกล้วยไม้บานสะพรั่ง,ชุดกลับมาเยี่ยมแม่ ,ระบำกลองมือระบำ 3 สาวร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจีนได้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ลานหน้าห้างเดอะมอลล์นครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปเข้าชมฟรีตลอดงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เสริมสิริมงคลรับวันตรุษจีน กับชุดเซ่นไหว้ครบครันที่เดียว GOUMET MARKET&HOME FRESH MARTชั้น 1เดอะมอลล์นครราชสีมาที่คัดสรรสินค้าคุณภาพมาให้ลูกค้าเลือก อาทิ หมู ไก่ อนามัยสะอาดปลอดภัย คัดสรรคุณภาพเป็นพิเศษ อีกทั้งผักผลไม้มงคล พร้อมทั้งของสด ของแห้ง นานาชนิด ที่เรามุ่งมั่นพิถีพิถันในการคัดสรรสินค้ามีคุณภาพมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตส์ของคุณ ในราคาที่คุณพึงพอใจ พร้อมชิงโชค Club Med Guilin Package ประเทศจีนสำหรับ 2 ท่าน รางวัลละ121,600 บาท จำนวน 10 รางวัลเมื่อช้อปภายในห้างฯ ครบทุก 1,000 บาทพิเศษหรือรับคูปอง 2 เท่ารางวัล ห้องพัก deluxe พร้อมอาหารทุกมื้อ และตั๋วเครื่องบินจับรางวัล 13 ก.พ. 57 นี้
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา จัดเวทีเสวนาสื่อมวลชนและเครือข่ายประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
วันนี้ (28 ม.ค.57) ที่โรงแรมสบายโฮเทล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา จัดเวทีเสวนาสื่อมวลชนและเครือข่ายประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป (กรณียุบสภา) ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ทางจังหวัดนครราชสีมาได้กำชับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้ง วางตัวเป็นกลางทางการเมือง ดังนั้นเพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดเวทีเสวนาสื่อมวลชน "โค้งสุดท้าย เลือกตั้ง ส.ส.) ตามโครงการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป (กรณียุบสภา) เพื่อให้สื่อมวลชน เครือข่ายอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน และนักจัดรายการวิทยุกระจายเสียงรวมทั้งเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ร่วมเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งสร้างความตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง ในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้ประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้รับทราบ โดยมีวิทยากร ได้แก่ นายเรืองยศ ดวงสูงเนิน หัวหน้างานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา มาให้ความรู้เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง ส.ส. การการณรงค์สร้างจิตสำนึกประชาธิปไตย ร่วมใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมร่วมอภิปราย "โค้งสุดท้าย เลือกตั้ง ส.ส.” ร่วมกับ พ.ต.อ.รณเสฏฐ์ อัตวรอนันต์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา โดยมีนางวีรวรรณ ดัดเพ็ชร์ หัวหน้าฝ่ายรายการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย สื่อมวลชน อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน นักจัดรายการและเครือข่ายประชาสัมพันธ์ จำนวน 50 คน
สุวาพร/เรียบเรียง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นจัดเสวนาโครงการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
วันนี้เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น นาย เสรี จูบุญส่ง ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น เป็นประธานการประชุม เสวนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งจัดโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น กล่าวว่า การเสวนาครั้งนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง และ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุดโดยขยายผลผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง นำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้เข้าถึงประชาชน ครอบคลุมทุกพื้นที่ จังหวัดขอนแก่นทั้ง 26 อำเภอ รวมทั้งก่อให้เกิดความร่วมมือในการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย สื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ สื่อทีวี สื่อวิทยุทั้งวิทยุหลักและวิทยุชุมชน อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน จำนวน 50 คน หลังการเสวนา ทางสื่อมวลชนขอนแก่นและเครือข่ายประชาสัมพันธ์ก็จะได้ช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ให้มีประชาชนมาใช้สิทธิให้มาก ๆเพื่อสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับประชาชน ถึงสิทธิ และหน้าที่ ข้อกฎหมายต่าง ๆ เพื่อไม่ให้กระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)