จังหวัดมุกดาหารกำหนดบำเพ็ญบุญทักษิณานุปทานมัยเป็นกรณีพิเศษในวาระบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารพระคุณเจ้าหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ตามที่พระคุณเจ้าหลวงปู่จาม มหาปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหา ซึ่งเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ ในศิษยานุศิษย์พระอาจารย์เสาร์ กัน̣ตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทต̣โต ได้มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๖ ซึ่งพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันกำหนดบำเพ็ญกุศลมาตามลำดับ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดมุกดาหารและประชาชนทั่วไปพร้อมคณะศิษยานุศิษย์ในพระคุณเจ้าหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ได้กำหนดจัดงานบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานมัยเป็นกรณีพิเศษ ในวาระบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารพระคุณเจ้าหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ในวันพฤหัสบดี ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดมุกดาหารจัดจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้า

นายสุดเขต จันทรสาขา การค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานการค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับฟาร์มเกษตรกรผู้เลี้ยงไข่ไก่ จัดจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้าในราคาประหยัด

การค้าภายในจังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารซื้อไข่ไก่ธงฟ้า ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. ทุกวันอังคารและพุธ เริ่ม ๑๗ กันายายน ๒๕๕๖ –วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ บริเวณหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดประชุมการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ๔ ปี (๒๕๕๘-๒๕๖๑)

วันนี้ (๑๖ ก.ย.๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัด ๔ ปี (๒๕๕๘-๒๕๖๑) ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทบทวนร่วมแสดงความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อจัดส่งสำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.น.จ. พิจารณานำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

นายบญเรือง เมฆฉิม รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัด ๔ ปี ได้กำหนดวัตถุประสงค์ ตัวชี้วัดและเป้าหมายแต่ละปีอย่างชัดเจน เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความมั่นคงทางสังคมให้ทั่วถึง รวมถึงอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์จังหวัดมุกดาหารไว้ "เมืองการค้า การเกษตร การท่องเที่ยวชายโขง เชื่อมโยงอาเซียน”ประกอบด้วยประเด็นยุทธศาสตร์ ๖ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า ประเด็นยุทธศาสตร์ประตูการค้าเชื่อมโยงอาเซียนสู่สากล ประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน ประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาคนและสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ประเด็นยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยุทธศาสตร์ที่ ๖ การเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

อธิบดีศาลปกครองอุบลให้ความรู้นิติรัฐที่ยโสธร

จังหวัดยโสธรพัฒนานิติรัฐ ภายในจังหวัด  ที่โรงแรมเจ.พี.เอ็นเมอรัลด์  อำเภอเมืองยโสธร  จังหวัดยโสธร  นายประวัติ  ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้การต้อนรับ นาวาอากาศเอกวุฒิ   มีช่วย  อธิบดีศาลปกครองอุบลราชธานี ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธาน เปิดอบรมพัฒนานิติรัฐ จังหวัดยโสธร  เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของศาลปกครอง  ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน  ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ ข้อมูล  และสามารถนำไปขยายผลบอกกับประชาชนทั่วไปให้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนและถูกต้อง  สำหรับกลุ่มเป้าหมาย  ที่เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย  ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน  ผู้นำหมู่บ้าน  ผู้นำชุมชนและผู้นำกลุ่ม/องค์กรต่าง  ๆรวมทั้งสิ้น  300  คน  โดยมีคณะตุลาการศาลปกครองอุบลราชธานีบรรยายให้ความรู้

ประกาศติดตามบุคคลสูญหาย

บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำปาง ขอความร่วมมือให้ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดยโสธร ประกาศสืบหา นางศรีจันทร์ มณีชัย อายุ 40 ปี (บุตร) และ เด็กหญิงลีลาวดี มณีชัย อายุ 4 ปี (หลาน) อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ที่ 12 ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2556 เวลาประมาณ 08.00 น. โดยทราบภายหลังว่า นางศรีจันทร์ ได้ให้บุคคลในหมู่บ้านเดียวกันพาไปส่งที่ ถนนลำปาง – แจ้ห่ม บอกว่าจะเดินทางไปกรุงเทพฯ หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งนางจันทร์ อายุมั่น (มารดา) ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งฝาย เนื่องจาก เกรงว่าบุคคลทั้งสองจะถูกหลอกลวงไปทางมิชอบประกอบกับบุตรมีอาการทางจิต

หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ประชาบดี 1300 จังหวัดยโสธร หรือ นางจันทร์ อายุมั่น (มารดา) หมายเลขโทรศัพท์ 093-2828023 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 16 กันยายน 2556

ศรีสะเกษ ทำประชาคมสะพานลอยตัดทางรถไฟ รับ AEC

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ย. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ. อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ แขวงการทางจังหวัดศรีสะเกษ สำนักทางหลวงที่ 7 อุบลราชธานี จัดเวทีประชาคม โครงการสำรวจและออกแบบสะพานตัดทางรถไฟ บนทางหลวงหมายเลข 294 ตอน ทางเลี่ยงเมืองศรีสะเกษ ซึ่งการจัดเวทีประชาคมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชน ได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนะและพัฒนาโครงการให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของประชนมากที่สุด โดยมีนายวิชาญ พันธ์นุเรณู ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดศรีสะเกษ นำ ข้าราชการ สังกัดแขวงการทางจังหวัดศรีสะเกษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตอบปัญหา และแสดงความคิดเห็น เพื่อหาทางออก ร่วมกัน นายวิชาญ กล่าวว่า กรมทางหลวง ได้จัดให้มีทำการประชาคม ตามโครงการสำรวยและออกแบบสะพานลอยข้ามจุดตัดทางรถไฟ รวมทั้งปรับปรุงถนนให้สอดคล้องรูปแบบการก่อสร้าง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย จุดตัดที่ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอกันทรารมย์ และในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจราจร ลดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน และลดผลกระทบต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมในพื้นที่ รองรับโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้จากโครงการนี้ คือการช่วยลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ระหว่างผู้ใช้รถยนต์กับรถไฟ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับและพัฒนาการคมนาคมขนส่งให้สะดวก รวดเร็ว ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 

สระแก้วปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี

วันนี้ (16 ก.ย.) จังหวัดสระแก้วจัดกิจกรรมการปลูกป่าโดยมีนายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกป่าในครั้งนี้ตามโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี

กิจกรรมปลูกป่า ตามโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี ในวันนี้จัดขึ้น ที่ โครงการแก้มลิงหนองทัพราช(บ้านห นองกก) หมู่ที่ 12 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นการรณรงค์ปลูกหญ้าแฝก 24,500 กล้า, ต้นไม้ 500 ต้น พันธุ์ไม้ประกอบด้วย สะเดา,แคนา,หว้า,ตะเคียนทอง,ประ ดูป่า,ไม้แดง,นนทรี, พะยูง,มะค่าโมง,ตะเคียนทอง,ราชพ ฤกษ์ และยางนา โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวั ดสระแก้ว ร่วมกับหลายภาคส่วน ประกอบด้วย คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ,โครงการชลประทานจังหวัด, กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์, จังหวัดทหารบกสระแก้ว, หน่วยทหารพัฒนาการเคลื่อนที่ 12,หน่วยส่งเสริมการเกษตรและสหก รณ์ที่ 1 สพพ.นทพ.,สำนักงานทรัพยากรธรรมช าติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด, สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด, สนง.ปภ.จังหวัดสระแก้ว, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยา วชนจังหวัด, บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยสาขาสระแก้ว, อำเภอตาพระยา , องค์การบริหารส่วนตำบลทัพราช , กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่, สมาคมนักข่าวนักสื่อสารมวล ชนจังหวัดสระแก้ว ชมรมวิทยุภาคพลเมืองจังหวัดสระแ ก้ว ชมรมอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจ ำหมู่บ้านและชุมชนจังหวัดสระแก้ ว เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้มีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้ และปลูกหญ้าแฝก สนองแนวพระราชดำริ แสดงความจงรักภักดีเป็นการเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอ ยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติแล ะสิ่งแวดล้อม และเป็นการรณรงค์ให้เกิดความตระ หนักถึงผลกระทบจากสาธารณภัยที่เ กิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ย นแปลงไป เป็นการป้องกันภัยพิบัติที่จะเก ิดขึ้น ลดความเสี่ยงภัย ลดผลกระทบภัยพิบัติทั้งภัยแล้ง และอุทกภัยในพื้นที่ รวมถึงเป็นการป้องกันยับยั้งภัย พิบัติได้ดีที่สุด นอกจากนี้ ทุกหน่วยงานจะได้รับกล้าต้นไม้ พร้อมหญ้าแฝกกลับไปปลูกที่บ้าน ที่หน่วยงาน

คณะทำงาน สคบ.อุบลราชธานี ออกตรวจร้านจำหน่ายของเด็กเล่น

อุบลราชธานี : ตรวจแนะนำการจำหน่ายของเล่นที่ห้ามจำหน่าย เช่นลูกโป่งวิทยาศาสตร์เครื่องเล่นฉีดน้ำแรงดันสูงและตัวดูดน้ำ รวมทั้งของเล่นที่จะเป็นอันตรายแก่เด็ก พร้อมแนะนำผู้ประกอบการด้านการโฆษณา,การปิดป้ายแสดงราคาและใบอนุญาตประกอบกิจการ ในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี

เช้าวันนี้ (๑๖ ก.ย.๕๖) คณะทำงานคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด,พาณิชย์จังหวัด,ชั่งตวงวัดจังหวัด,ขนส่งจังหวัด,ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองอุบลราชธานีและจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ ได้ออกตรวจสอบฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดย พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ.๒๕๔๑ โดยได้ร่วมออกตรวจแนะนำร้านจำหน่ายของเล่นเด็กภายในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยเฉพาะตามบริเวณหน้าสถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำการจำหน่ายสินค้าที่เป็นของเล่นต้องห้าม เช่นลูกโป่งวิทยาศาสตร์หรือลูกโป่งพลาสติก ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้าม ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ ๙/๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๑ ธ.ค.๔๘ ,เครื่องเล่นฉีดน้ำที่มีลักษณะเป็นประบอกสูบและใช้แรงอัดกระแทกน้ำในกระบอกสูบโดยตรง ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ ๔/๒๕๕๐ ลงวันที่ ๑๗ ก.ค.๕๐ และ ของเล่นชนิดพองตัวเมื่อแช่น้ำหรือตัวดูดน้ำ ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ ๙/๒๕๒๗

จากการตรวจแนะนำร้านขายของเด็กเล่นที่เป็นร้านขายส่งสินค้า จำนวน ๔ แห่งในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี ไม่พบการจำหน่ายสินค้าที่เป็นของเล่นต้องห้าม ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าต่างให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจำหน่ายของสินค้าของเล่นเด็กแก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง โดยจะได้รับสินค้าตัวอย่างมาทดลองจำหน่าย หากเป็นสินค้าที่จะเป็นอันตรายต่อเด็กหรือสินค้าต้องห้ามตามประกาศ ก็จะส่งคืนผู้ผลิต ไม่ลักลอบจำหน่าย พร้อมนี้เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำในการเก็บหลักฐานการรับ – ส่งสินค้า เพื่อเป็นหลักฐานกรณีหากมีการต้องคืนสินค้าที่มีปัญหาต่อไป

พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี

๐๘๑ – ๙๒๔ ๘๖๐๙ /ข่าว/ ๑๖ ก.ย. ๕๖ 

สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธรณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ฝึกอบรมทบทวน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจและเป็นเพิ่มพูนทักษะในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

วันที่ 16 กันยายน 2556 เวลา 13.00 น. ณ ศูนย์ฝึกอบรม อปพร.เขต 13 อุบลราชธานี นางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นประธานเปิดงานฝึกอบรมทบทวน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย เทศบาลตำบลบัวงาม อำเภอเดชอุดม และ เทศบาลตำบลบุณฑริก อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี โดย กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายเป้าหมายเพิ่มศักยภาพของจำนวนสมาชิก อปพร. พื้นที่ให้แต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสมาชิก อปพร.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 2 ของจำนวนประชากร เพื่อให้สมาชิก อปพร.เป็นเครือข่ายและกำลังสำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่เมื่อเกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้มีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในสังกัดหน่วยงานท้องถิ่นเพียงพอในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้หน่วยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ที่จัดตั้งขึ้นมามีความรู้ความสามารถและเข้าใจในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือความเสียหายอันเนื่องจากสาธารณภัย ภัยทางอากาศภัยจากการก่อวินาศกรรม เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ เพื่อให้หน่วยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ที่จัดตั้งขึ้นเป็นหน่วยเสริมกำลังของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ เพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจและเป็นเพิ่มพูนทักษะในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างถูกหลัก เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและเป็นการสร้างเครื่องข่ายความร่วมมืออันดีระหว่างประชาชนและหน่วยราชการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อย และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดและความมั่นคงภายใน

ผลคาดว่า สมาชิก อปพร.ที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถเป็นกำลังในการป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย สมาชิก อปพร.พร้อมเผชิญเหตุที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที ตลอดจนรักษาความสงบเรียบร้อยและเผ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน.

จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

บริษัทอุบลไบโอดีเซล เอทานอล จำกัด อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมรับฟังความคิดเห็นของจากส่วนราชการ ครั้งที่ 1 ตามโครงการขยายกำลังการผลิตของบริษัท

วันที่ 16 กันยายน 2556 ณ ห้องประชุม POC ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี นางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 ในโครงการขยายกำลังการผลิตเอทานอล ของบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด ปัจจุบันปริมาณการใช้พลังงาน เชื้อเพลิง พลังงานไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียน มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานเชื้อเพลิง สถิติการใช้สูงสุดตามรายงานของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานปี 2556 เป็นผลให้เกิดการพัฒนาโครงการสร้างพลังงานทดแทนเกิดขึ้น การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หัวหน้าส่วนราชการ ระดับจังหัดและอำเภอ ครั้งนี้เพื่อให้ข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนโครงการที่จะพัฒนาขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อชุมชน และชุมชน ตลอดจนการประกอบศึกษาและจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกำหนดมาตรการการป้องกันและแก้ไขในทุกด้านการขยายกำลังผลิตของบริษัทเอทานอล ทั้งนี้การดำเนินการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีพื้นที่เป้าหมาย อำเภอวารินชำราบ อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอนาเยีย และอำเภอสว่างวีระวงศ์ จำนวน 8 เวที

จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

จังหวัดขอนแก่นจัดโครงการสถานศึกษาสีขาวตามนโนบายรัฐบาลและวาระจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเดินทางมาที่หอประชุมมหาวิทยาลัยมหามงกุฏราชวิทยาลัยวิทยาเขตขอนแก่นเพื่อตรวจเยี่ยมและชมผลงานของสถานศึกษาในจังหวัดขอนแก่นที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการสถานศึกษาสีขาวจากนั้นได้เป็นประธานรับมอบรายชื่อโรงเรียนสีขาวจากผู้บริหารทั้งจากโรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม วิทยาลัยการอาชีวศึกษา โรงเรียนสาธิตที่อยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 5 เขตและเขตพื้นที่มัธยมศึกษาที่ 25 พร้อมกันนี้ก็ได้มอบเกียรติบัตรให้กับสถานศึกษาที่มีผลงานเด่นในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดตามโครงการ สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขที่มีการดำเนินงานใน 5 มาตรการ กลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ประกอบด้วยมาตรการป้องกัน มาตรการค้นหา มาตรการรักษา มาตรการเฝ้าระวังและมาตรการบริหารจัดการ 4 ต้องคือต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีแผน ต้องมีข้อมูล ต้องมีเครือข่าย ส่วน 2 ไม่ คือไม่ปกปิดข้อมูล ไม่ไล่เด็กออก ซึ่งทุกโรงเรียนที่ได้รับเกียรติบัตรเป็นโรงเรียนที่มีผลงานเด่นมีการประเมินจากคณะกรรมการจนเป็นสถานศึกษาสีขาวเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและเป็นไปตามวาระจังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ผลการดำเนินงานทำให้นักเรียนนักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตอาสา รู้จักเสียสละ ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดและอบายมุข ดำรงชีพอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

งานรวมพลังเยาวชนขอนแก่น หัวใจสีขาวก้าวสู่อาเซียนเทิดไท้องค์ราชัน

งานรวมพลังเยาวชนขอนแก่น หัวใจสีขาว ก้าวสู่อาเซียน เทิดไท้องค์ราชัน ในวันนี้ ( 16 กันยายน 2556) เวลา11.00 น ณ ศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จังหวัดขอนแก่น

นายเสน่ห์ นนทะโชติ ปลัดจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานเนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2556 ใช้ชื่องานว่า รวมพลังเยาวชนขอนแก่นหัวใจสีขาว ก้าวสู่อาเซียน เทิดไท้องค์ราชัน วันเยาวชนแห่งชาติ เริ่มมีขึ้นในประเทศไทยเมื่อสหประชาชาติกำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2528 กำหนดให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีสองพระองค์ ซึ่งเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติในฐานะยุวกษัตริย์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 จากนี้พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ยังขึ้นครองราชย์สมบัติขณะยังทรงพระเยาว์เหมือนกันอีกด้วย เมื่อคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ จึงได้มอบคำขวัญที่ถอดความเป็นภาษาไทยว่า "ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ" ซึ่งมีความหมายละเอียดลึกซึ้งต่อเยาวชนทุกคน สามารถยึดถือและนำไปปฏิบัติ จังหวัดขอนแก่นปีนี้มีเยาวชนรับรางวัล จำนวน 21 คน ผู้ทำคุณประโยชน์ให้เยาวน 5 คนและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มอบรางวัลต้นแบบคนดีศรีแผ่นดินประจำปี 2556 เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ปี 2556 อีกด้วย

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น 

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นระบุเม็ดเงินลงทุนในขอนแก่นกว่าแสนล้านบาท

พ่อเมืองขอนแก่น ระบุ นักลงทุนแห่ลงที่ขอนแก่น มีเม็ดเงินลงทุนแล้วนับแสนล้าน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารภาวะเศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้สรุปผลการดำเนินงานรอบปีที่ผ่านมา และการประเมินภาพรวมทางเศรษฐกิจ ก่อนเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ซึ่งพบว่ามีมูลค่าทางการค้าและการลงทุนมากถึง 180,741 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 9.4 โดยภาคการเกษตร ขยายตัวสูงสุดถึงร้อยละ 11.1 ในขณะที่ ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทางผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวต่อว่า ขอนแก่นยังคงเป็นจังหวัดที่กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาขยายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง หลังประเทศจีน สนใจลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท สร้างนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว รวมไปถึงการผลักดันการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและศูนย์กลางการประชุมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย ทำให้จังหวัดถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้านอย่างสมบูรณ์แบบ

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่บขส.ใหม่

ขนส่งขอนแก่นซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่หน้า บขส.ขอนแก่นแห่งใหม่ สมมุติรถปิคอัพมีผู้โดยสารเต็มคันรถทั้งสองคันชนกันมีคนตาย 2 ราย เจ็บสาหัส 10 ราย

โดยสมมุติเหตุการณ์ พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.ย่อยเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุหมู่รถยนต์ชนกันมีคนตายและบาดเจ็บหลายคน อยู่ตรงหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.ขอนแก่นแห่งที่ 3 (แห่งใหม่) ถ.เลี่ยงเมืองขอนแก่น – อุดรธานี หมู่ 4 บ้านกุดกว้าง ต.เมืองเก่า ไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ รถกู้ชีพเทศบาลตำบลท่าพระ รถกู้ชีพเทศบาลตำบลเมืองเก่า รถดับเพลิงเทศบาลตำบลเมืองเก่า ที่ได้ออกวิ่งจากจุดที่ทำงานไปยังสถานที่เกิดเหตุอย่างเร่งรีบ พร้อมกับเปิดไซเรนขอทางดังลั่น ทำให้ประชาชนที่วิ่งรถอยู่บนถนนพากันหลีกทางให้ บางคันได้จอดให้รถมูลนิธิฯไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุโดยเร็ว ท่ามกลางชาวบ้านในละแวกนั้นพากันตื่นเต้นตกใจ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบอาสาจราจรตำบลเมืองเก่า พนักงานกู้ชีพ จนท.ป้องกันเทศบาลตำบลเมืองเก่า ศูนย์สื่อสารสั่งการ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ยืนยิ้มพร้อมใช้เหล็กกั้นทางปิดถนนทั้งทางเข้าและทางออกจนรถติดทั้งสองทาง นอกจากนี้ได้มีเชือกปิดล้อมที่เกิดเหตุไว้ ซึ่งชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ถึงทราบว่าเป็นการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ของเทศบาลตำบลเมืองเก่า

นายวิทิต ทองโสภิต นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเมืองเก่า กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ได้จำลองสถานการณ์สมมุติ ว่า เกิดเหตุรถปิคอัพขนผู้โดยสารมาเต็มคันรถทั้งสองคันชนประสานงาที่บริเวณทางเข้า บขส.ขอนแก่นแห่งใหม่ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 10 ราย ตาย 2 ราย พร้อมกับมีผู้โดยสารส่วนหนึ่งติดอยู่ในรถทั้งสองคัน จึงประสานขอสนับสนุนรถพยาบาลและเครื่องตัดถ่าง เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมกันนั้นได้ขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลท่าพระ และเทศบาลเมืองเก่า จำนวน 2 คัน เพื่อระงับเหตุหากมีเพลิงไหม้ จากนั้นได้ทำการปิดกั้นการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้รถฉุกเฉินที่จะเข้ามารับคนเจ็บเพื่อนำส่ง รพ.ให้เร็วที่สุด โดยใช้เวลาในการฝึกซ้อมประมาณ 2 ชม."ในการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ครั้งนี้ เพราะว่า ในเขตเทศบาลตำบลเมืองเก่าจะเริ่มเปิดให้บริการสถานีขนส่งขอนแก่นแห่งที่ 3 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ต.ค.2556 ในอนาคตข้างหน้าจราจรในเส้นทางบริเวณนั้นจะหนาแน่น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเหตุการณ์ดังกล่าวในเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลเมืองเก่า เพื่อให้ผู้ประสบอุบัติเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุอย่างทันท่วงทีและอย่างถูกต้อง เพื่อนำส่งสถานพยาบาลอย่างรวดเร็วและปลอดภัยให้มากทีสุด

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ศาลปกครองพบประชาชนที่ชัยภูมิ

ประชาชน ร่วมกับส่วนราชการทุกหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิกว่า 1,200 คน ร่วมเวทีศาลปกครองสัญจรพบประชาชนและสื่อมวลชน ในหัวข้อศาลปกครองอำนวยความยุติธรรมทางปกครอง

เมื่อเวลา 09.30น. วันนี้ 16 ก.ย. 56 ดอกเตอร์หัสวุฒิ วิทิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด นางสายสุดดา เศรษฐบุตร อธิบดีศาลปกครองนครรราชสีมา และคณะร่วมในการอภิปราย ให้ความรู้แก่ประชาชน และร่วมพบปะเสวนากับสื่อมวลชน ในหัวข้อ ศาลปกครองกับการอำนวยความยุติธรรมทางปกครอง ศาลปกครอง มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง ซึ่งต่างจากศาลยุติธรรม ที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาคดีแพ่ง และคดีอาญา การพิจารณาว่าคดีใดเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองนั้น พิจารณาจากคู่กรณีและลักษณะของข้อพิพาทเป็นสำคัญ เป็นคดีพิพาทระหว่างหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชน หรือเป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน คือการตรวจสอบและควบคุมการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารและฝ่ายปกครอง เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งในการจัดเวทีอภิปรายในครั้งนี้ ได้มีการจัดเวทีเสวนาขึ้นที่ห้องประชุมโรงแรมสยามรีเวอร์รีสอร์ท ในเมืองชัยภูมิ มีนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้เป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็น คำแนะนำ หรือปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ จากประชาชนและหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจนสื่อมวลชน เพื่อนำไปเป็นข้อพิจารณา ในการปรับปรุง และพัฒนาการดำเนินการงานของศาลปกครอง ให้เป็นศาลปกครองของประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

ดอกเตอร์หัสวุฒิ วิทิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดได้กล่าวว่า สถิติการยื่นฟ้องคดีในส่วนของศาลปกครองนครราชสีมา มีพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดได้แก่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เปิดทำการเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ถึงปัจจุบัน มีคดีเข้าสู่การพิจารณาทั้งสิ้น 5,537 คดี พิจารณาแล้วเสร็จ 5,141 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีเพียง 396 คดีเท่านั้น

สุระพงค์  สวัสดิ์ผล /ข่าว

ประชุมจัดทำแผนปฏิบัติการรับภัยธรรมชาติที่ชัยภูมิ

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น ประชุมร่วมกับส่วนราชการ สื่อมวลชนพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ในการจัดทำแผนปฏิบัติบนโต๊ะ เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ ที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม โดยเฉพาะพายุฤดูร้อน ดินโคลนถล่ม

วันนี้ (16 ก.ย. 56) นายเสรี จูบุญส่ง ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมการจัดทำแผนปฏิบัติการบนโต๊ะ เพื่อรับมือภัยธรรมชาติ ที่ห้องประชุมโรงแรมศิริชัย ในเมืองชัยภูมิ ร่วมกับชลประทานจังหวัดชัยภูมิ ป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดชัยภูมิ และสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 40 คน เข้าร่วมประชุม ในการที่จะให้รับทราบแนวทางการรับมือภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม โดยเฉพาะพายุฤดูร้อน ดินโคลนถล่ม ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และแจ้งเหตุให้ประชาชนได้รับทราบ แจ้งเหตุให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องการเตรียมตัวอย่างไร่ มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนอย่างไร ขั้นตอนการเตรียมเจ้าหน้าในหน่วยงาน มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดบ้าง อย่างไรบ้าง

โดยเชิญป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิ และชลประทานจังหวัดชัยภูมิ มาร่วมเวทีเสวนาด้วย พื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะในตัวเมือง เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำชีไหลผ่าน มีหมู่บ้าน ชุมชน ติดกับภูเขา ในช่วงฤดูฝนทุกปี มักจะประสบน้ำชีไหลหลาก หรือน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎรเป็นประจำเกือบทุกปี จำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องมีการเตรียมความในการช่วยเหลือประชาชน เมื่อทุกฝ่าย มีความพร้อม โดยเฉพาะสื่อมวลชน จะเป็นผู้แจ้งเหตุให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ทันท่วงที และรีบแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ เป็นการช่วยลดการสูญเสีย ให้เกิดน้อยที่สุด

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ชัยภูมิ เร่งขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์

จังหวัดชัยภูมิ ตั้งอนุกรรมการ ขึ้นมาเป็นพลังขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ หลัง ครม.เห็นชอบ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ หวังให้ชาวไทยนำหลักการสหกรณ์ไปปรับใช้ เพื่อให้เกิด การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน

วันนี้ 16 ก.ย. 56 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ ได้จัดประชุมคณะอนุกรรมการกำกับและขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ด้านการสหกรณ์ระดับจังหวัด มีนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ เป็นประธาน โดยมีหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเป็นอนุกรรมการ เป็นการบูรณาการการทำงาน ตามมติ ครม. เมื่อ 30 กรกฎาคม 2555 ณ จังหวัดสุรินทร์ ที่ให้ความเห็นชอบในหลักการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ รับไปบูรณาการร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และรายละเอียดต่างๆ ที่จะดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการสหกรณ์ รวมทั้งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงงานด้านสหกรณ์ สู่การปฎิบัติ ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ที่สำคัญประชาชนรับรู้ และเข้าใจ และสามารถนำหลักการของสหกรณ์ ไปปรับใช้ ในชุมชน เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมงานสหกรณ์ให้เป็นรูปธรรม เนื่องจากเป็นกิจการที่เป็นของคนในชุมชน เป็นหน่วยนิติบุคคล ถ้าสมาชิกยึดหลักการของสหกรณ์อย่างแท้จริง จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก ซึ่งหลังจากวันนี้ไป ได้กำชับให้ภาคีเครือข่าย กลับไปเขียน แผนงาน โครงการ ส่งเสริมสหกรณ์ระดับจังหวัด ส่งให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิภายในวันที่ 5 ตุลาคม 2556 เพื่อจะได้รวบรวมเป็นแผนงานใหญ่ เดินหน้าไปพร้อมกันทั้งระบบ เป้าหมายสูงสุดเพื่อให้ประชาชนในชาติและในจังหวัดชัยภูมิ รับรู้และเข้าใจในการสหกรณ์ พร้อมทั้งนำไปใช้ในวิถีชีวิต และดำเนินงานอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

สปข. 2 อุบลราชธานี ร่วมกับ กสทช.จัดอบรม “หลักสูตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์” ระดับต้น รุ่นที่ 2

วันนี้ (16 ก.ย. 56) ที่หอประชุมวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ นางสาวรัตนา เจริญศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 (อุบลราชธานี) เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม อบรม "หลักสูตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์” ระดับต้น รุ่นที่ 2 พร้อมบรรยายพิเศษ ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย ผู้จัดรายการ ผู้ประกาศ บุคลากรด้านการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานภาครัฐ วิทยุชุมชน อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน ประชาชนที่สนใจ จำนวน 32 คน และบุคลากรในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 และสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดในพื้นที่ จำนวน 10 คน รวมทั้งสิ้น 42 คน โดยได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรที่มีชื่อเสียง อาทิ นายแสงทอง อนันตภักดิ์ นายยุทธนา เทียมพงศ์ ผศ ปุณณรัตน์ พิงคานนท์ และนายธีระพงษ์ โสดาศรี เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สำหรับการจัดอบรมดังกล่าว เป็นแนวนโยบาบของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ได้รับการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการบัตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กสทช. ให้เป็นหน่วยงานจัดอบรมหลักสูตรผู้ประกาศกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้กับบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และผู้สนใจทั่วไป เพื่อส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้มีความรู้ในการประกอบวิชาชีพและมีความรับผิดชอบต่อสังคม และได้มอบหมายให้ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 (อุบลราชธานี) ดำเนินการรับสมัครบุคคลผู้สนใจในพื้นที่รับผิดชอบ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม ยโสธร และจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว โดยกำหนดจัดอบรมระดับต้น จำนวน 4 รุ่น ระดับกลาง จำนวน 3 รุ่นและระดับสูง จำนวน 3 รุ่น โดยในครั้งนี้เป็นการจัดอบรมระดับต้น รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 16 – 18 กันยายน 2556 ณ หอประชุมวิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดสุรินทร์ สำหรับระดับต้นรุ่นที่ 3 จะจัดอบรมระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม 2556 ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และรุ่นที่ 4 จะจัดอบรมระหว่างวันที่ 28 – 30 ตุลาคม 2556 ณ โรงแรมกรีนปาร์ค อำเภอเมืองฯ จังหวัดยโสธร ผู้สนใจ สามารถสมัครและสอบถามรายละเอียดได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปที่ ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์ 0-4531-1193 และ 0-4531-2116-8 ต่อ 310 หรือดาวโหลดในสมัครได้ที่เวปไซด์ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 http://region2.prd.go.th หรือที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ทั้ง 9 จังหวัดในสังกัด