ว่าที่ร้อยตรีนวรัตน์ จิตร์ภิรมย์ศรี ประมงจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าทางอธิบดีกรมประมงได้ให้สำนักงานประมงจังหวัดทุกจังหวัดเร่งฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์กลับมาเป็นแหล่งอาหารของชุมชน เพื่อเป็นแหล่งโปรตีนแก่ประชาชนในชนบทสำหรับจังหวัดขอนแก่นเลือกอำเภอซำสูงเป็นจุดนำร่องในการปล่อยพันธ์ปลาซึ่งปล่อยที่หนองบัวบ้านหนองบัวคำมูล ตำบลคูคำและหนองคำใหญ่ บ้านอ้อคำ ตำบลกระนวน ซึ่งเป็นจุดสนับสนุนและการขับเคลื่อนโครงการอำเภอเกษตรพัฒนาที่ขอนแก่นเลือกอำเภอซำสูงเป็นอำเภอเกษตรพัฒนานำร่องของจังหวัดตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นโดยปล่อยปลาจำนวน 79,000 ตัวประกอบด้วยปลายี่สกเทศ ปลาตะเพียนขาว ปลาจีน ปลาสวาย และปลากะโห้เทศ ในงานก็มีการเสวนาแนวทางเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในชุมชนให้กับเกษตรกรฟังด้วย สำหรับโครงการเพิ่มสัตว์น้ำลงในบ่อน้ำชุมชนทางประมงจังหวัดขอนแก่นก็จะขยายโครงการไปยังอำเภออื่นๆทั้ง 26 อำเภอต่อไปเพื่อเป็นแหล่งอาหารในชุมชนให้ชุมชนมีอาหารกินเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีรวมทั้งเพิ่มความสุขให้กับคนในชุมชนด้วยที่มีแหล่งอาหารดีสมกับที่นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข
วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ชัยภูมิเปิดเวทีเพศทางเลือก
จังหวัดชัยภูมิ เปิดเวทีสาธารณะ สร้างความเข้าใจเพศทางเลือก ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง หวังให้สังคมเข้าใจและยอมรับมากขึ้น
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดสัมมนาสื่อมวลชนตามโครงการประชาสัมพันธ์สัมมาชีพเพศทางเลือกคนดีของสังคม ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีชัยภูมิบริหารธุรกิจ เมื่อ 26 ก.ค. 56 มีนายบรรยงค์ วงศ์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานเปิดงาน เป็นการดึงพลังทุกภาคส่วน ที่ทำงานด้านการสื่อสารช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจ นำเสนอสถานการณ์และทิศทางความเคลื่อนไหวในกิจกรรมที่ส่งผลให้กลุ่มเพศทางเลือกได้รับการยอมรับจากสังคม สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข โดยเชิญสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน/ชุมชน และกลุ่มเยาวชนเพศทางเลือก จำนวน 50 คน เข้าร่วมเวทีเสวนา
นอกจากนี้ยัง ได้รับเกียรติจาก นายธีระพงษ์ โสดาศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ มาเป็นวิทยากรบรรยาย ความรู้เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์อย่างไร ให้สังคมเข้าใจเพศทางเลือกอีกด้วย
ทั้งนี้จากสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า กลุ่มเพศทางเลือก ได้แสดงตัวตนของตนเองที่เปิดเผยต่อสาธารณะชัดเจน และพบได้ว่ากลุ่มเพศทางเลือกเป็นกลุ่มที่มีอุปนิสัย พฤติกรรม อารมณ์ที่แตกต่างจากชายจริงหญิงแท้ และบ่อยครั้งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว หรือดูถูก ดูหมิ่น ล้อเลียนจากสังคม ทำให้เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้อาจเลือกตัดสินใจการดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ตั้งใจและไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตวัยเรียน ออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร การใช้ชีวิตอยู่กับอบายมุข เป็นต้น กิจกรรมการส่งเสริมวิชาการสานสัมมาชีพให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเพศทางเลือก จึงเป็นการเปิดเวทีหรือพื้นที่ให้เยาวชนกลุ่มนี้ได้แสดงตัวตนที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ได้รับองค์ความรู้ แนวคิดที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม สามารถไตร่ตรองเลือกวิถีชีวิตของตนเองได้ถูกต้องเหมาะสมหรือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ควรจะเป็นของชีวิตได้ จนเป็นที่ยอมรับของสังคมรอบข้างและโดยรวม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดสัมมนาสื่อมวลชนตามโครงการประชาสัมพันธ์สัมมาชีพเพศทางเลือกคนดีของสังคม ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีชัยภูมิบริหารธุรกิจ เมื่อ 26 ก.ค. 56 มีนายบรรยงค์ วงศ์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานเปิดงาน เป็นการดึงพลังทุกภาคส่วน ที่ทำงานด้านการสื่อสารช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจ นำเสนอสถานการณ์และทิศทางความเคลื่อนไหวในกิจกรรมที่ส่งผลให้กลุ่มเพศทางเลือกได้รับการยอมรับจากสังคม สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข โดยเชิญสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน/ชุมชน และกลุ่มเยาวชนเพศทางเลือก จำนวน 50 คน เข้าร่วมเวทีเสวนา
นอกจากนี้ยัง ได้รับเกียรติจาก นายธีระพงษ์ โสดาศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ มาเป็นวิทยากรบรรยาย ความรู้เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์อย่างไร ให้สังคมเข้าใจเพศทางเลือกอีกด้วย
ทั้งนี้จากสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า กลุ่มเพศทางเลือก ได้แสดงตัวตนของตนเองที่เปิดเผยต่อสาธารณะชัดเจน และพบได้ว่ากลุ่มเพศทางเลือกเป็นกลุ่มที่มีอุปนิสัย พฤติกรรม อารมณ์ที่แตกต่างจากชายจริงหญิงแท้ และบ่อยครั้งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว หรือดูถูก ดูหมิ่น ล้อเลียนจากสังคม ทำให้เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้อาจเลือกตัดสินใจการดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ตั้งใจและไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตวัยเรียน ออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร การใช้ชีวิตอยู่กับอบายมุข เป็นต้น กิจกรรมการส่งเสริมวิชาการสานสัมมาชีพให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเพศทางเลือก จึงเป็นการเปิดเวทีหรือพื้นที่ให้เยาวชนกลุ่มนี้ได้แสดงตัวตนที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ได้รับองค์ความรู้ แนวคิดที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม สามารถไตร่ตรองเลือกวิถีชีวิตของตนเองได้ถูกต้องเหมาะสมหรือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ควรจะเป็นของชีวิตได้ จนเป็นที่ยอมรับของสังคมรอบข้างและโดยรวม
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล / ข่าว
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก GIRLS' U18 Volleyball World Championship ที่จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ (26 ก.ค. 56) ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80
พรรษา จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก GIRLS' U18
Volleyball World Championship ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 4
สิงหาคม 2556 ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมี ดร.วินัย บัวประดิษฐ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงาน ซึ่งการแข่งขันในรายการนี้
มีนักวอลเล่ย์บอลยุวชนหญิงจาก 20 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน
โดยนักวอลเล่ย์บอลยุวชนหญิง ทีมชาติไทย อยู่สาย เอ ร่วมสายกับ เซอร์เบีย
อียิปต์ และตูนิเซีย ส่วนสายบี ประกอบด้วย จีน โปแลนด์ ญี่ปุ่น
อาร์เจนติน่า และกรีซ สายซี ประกอบด้วย บราซิล อเมริกา โตมินิกัน แอลจิเรีย
และสโลเวเนีย สายดี ประกอบด้วย อิตาลี ตุรกี เปรู เม็กซิโก และไต้หวัน
สำหรับในนัดเปิดสนามนักวอลเล่ย์บอลยุวชนหญิง ทีมชาติไทย จะพบกับ
นักวอลเล่ย์บอลยุวชนหญิงจากประเทศอียิปต์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 2 จัดอบรมครูบรรณารักษ์ ตามโครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ประจำปี 2556
วันนี้ (26 ก.ค. 56) ที่ห้องประชุมโรงเรียนบุญวัฒนา
อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต
2 จัดอบรมครูบรรณารักษ์
ตามโครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ประจำปี 2556
โดยมีนายวิชา มานะดี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
นครราชสีมา เขต 2 เป็นประธานในพิธี
ซึ่งการจัดอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
พัฒนาคุณภาพห้องสมุดโรงเรียนตามเกณฑ์มาตรฐานห้องสมุด โดยยึดหลักห้องสมุด 3
ดี คือ หนังสือดี/ บรรยากาศดี / บรรณารักษ์ดี เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของ
ครูทีทำหน้าที่บรรณารักษ์ ด้านการบริหารจัดการ ด้านงานเทคนิค ด้านงานบริการ
และการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ตลอดจนส่งเสริมการจัดบรรยากาศ
สภาพแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ให้เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
ได้ดำเนินโครงการตามแผนงานส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาห้องสมุด (1 ป 4
ส) คือ ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านแบบ " ระเบิดจากข้างใน”
ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสริมสร้างภาคีเครือข่ายให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมนิสัยรักการ
อ่านของนักเรียนและพัฒนาห้องสมุดอย่างยั่งยืน
สร้างบรรยากาศสิ่งแวดล้อมและแหล่งเรียนรู้โดยเฉพาะห้องสมุดให้เอื้อต่อการ
อ่านของนักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษาและชุมชน
ให้มีการบูรณาการการอ่านกับการเรียน การสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
ส่งเสริม ยกย่องเชิดชูเกียรติ นักเรียน ครู ผู้บริหาร โรงเรียน
ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
รวมทั้งชุมชนและภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการ
ดำเนินงานห้องสมุด สนับสนุน
ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการ
ดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิต จากแผนงานและโครงการดังกล่าว
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 2
ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง
จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
โดยในปีการศึกษา 2556 ได้ดำเนินกิจกรรม การอบรมครูบรรณารักษ์
การวางแผนห้องสมุดอย่างยั่งยืน รวมทั้งการประกวดโรงเรียนรักการอ่าน
จังหวัดนครราชสีมาจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาวอลเล่ย์บอลยุวชนหญิง จาก 20 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก GIRLS' U18 Volleyball World Championship ระหว่างวันที่ 26 ก.ค.- 4 ส.ค. 56
เมื่อเย็นวันที่ 25 ก.ค. 2556 เวลา 19.30 น. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย
บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
เป็นประธานในพิธีเลี้ยงอาหารและกล่าวต้อนรับคณะนักกีฬาวอลเล่ย์บอลยุวชนหญิง
จาก 20 ประเทศ ที่เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก
GIRLS' U18 Volleyball World Championship ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 26 กรกฎาคม
- 4 สิงหาคม 2556 นี้ ที่จังหวัด นครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ ณ
สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
โยภายหลังกล่าวต้อนรับนักกีฬาและคณะทั้งหมดแล้ว ดร.วินัย บัวประดิษฐ์
ผ็ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้มอบของที่ระลึกให้กับ นักกีฬาทั้ง 20
ประเทศ อีกด้วย สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก GIRLS' U18
Volleyball World Championship ในครั้งนี้
นักวอลเล่ย์บอลยุวชนหญิงทีมชาติไทย อยู่สาย เอ ร่วมกัม เซอร์เบีย อียิปต์
และตูนิเซีย ส่วนสายบี ประกอบด้วย จีน โปแลนด์ ญี่ปุ่น อาร์เจนติน่า
และกรีซ สายซี ประกอบด้วย บราซิล อเมริกา โตมินิกัน แอลจิเรีย และสโลเวเนีย
สายดี ประกอบด้วย อิตาลี ตุรกี เปรู เม็กซิโก และไต้หวัน
บุรีรัมย์เปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
บุรีรัมย์จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและโครงการสนับสนุนการจัดสวัสดิการชุมชนเพื่อรองรับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยสนับสนุนส่งเสริม พัฒนาอาชีพ ส่งเสริมการมีงานทำเพื่อเพิ่มรายได้ ให้สามารถพึ่งตนเองและอยู่ร่วมกับสังคม ชุมชน และช่วยเหลือตนเองได้
นายเฉลิมพล พลวัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ "ตลาดนัดอาชีพคนพิการ” สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายด้านความมั่นคงของชีวิตและสังคม โดยเน้นเรื่องสวัสดิการสังคมเพื่อเสริมสร้างให้คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณต่าง ๆ สำหรับรองรับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยสนับสนุนส่งเสริม เรื่องการพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมการมีงานทำเพื่อเพิ่มรายได้ ให้สามารถพึ่งตนเองและสามารถอยู่ร่วมกับสังคม ชุมชน และช่วยเหลือตนเองได้ โดยไม่เป็นภาระของครอบครัว ชุมชนและสังคม และสืบเนื่องจากการที่รัฐบาล ได้กำหนดนโยบายด้านสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุข และได้กำหนดนโยบายการจัดสวัสดิการชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ประชาชนได้รับสวัสดิการถ้วนหน้าภายในปี ๒๕๖๐ เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้รับการดูแลเรื่องสวัสดิการครบทุกคน มีสวัสดิการพื้นฐานในเรื่องที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และมีหลักประกันในการดำรงชีพ ที่ทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว
ปัจจุบันจังหวัดบุรีรัมย์ มีคนพิการที่ไดรับอนุมัติเงินกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและทำสัญญากู้ยืมเงินฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ – ปัจจุบัน จำนวนทั้งสิ้น ๑,๙๖๔ ราย เป็นเงิน ๓๗,๘๖๙,๕๙๐ บาท (สามสิบเจ็ดล้านแปดแสนหกหมื่นเก้าพันห้าร้อยเก้าสิบบาทถ้วน) ซึ่งคงเหลือลูกหนี้ที่มีสัญญากู้ยืมเงินฯ จำนวนทั้งสิ้น ๑,๒๓๐ สัญญา เป็นเงิน ๒๔,๙๗๓,๕๙๐ บาท (ยี่สิบสี่ล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นสามพันห้าร้อยเก้าสิบบาทถ้วน) ขณะนี้ยังคงมีคนพิการที่มีความสนใจประสงค์ขอกูยืมเงินฯ อย่างต่อเนื่อง การจัดงานตลาดนัดอาชีพคนพิการและการแสดงผลงานของกองทุนสวัสดิการชุมชนที่มีความเข้มแข็งของจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้คนพิการและครอบครัวคนพิการได้แสดงผลงานการประกอบอาชีพคนพิการที่ สบความสำเร็จ เพื่อเป็นแบบอย่างให้คนพิการสามารถนำไปทำได้ เพื่อแสดงผลการดำเนินงานของกองทุนสวัสดิการชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบในการดำเนินงานจัดสวัสดิการชุมชนให้แก่กองทุนอื่นได้ การพัฒนากองทุนสวัสดิการชุมชนเชื่อมโยงสู่การพัฒนาด้านอาชีพและการพัฒนาด้านอื่น ๆ กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการเป็นคนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ คนพิการที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ
นายเฉลิมพล พลวัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ "ตลาดนัดอาชีพคนพิการ” สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายด้านความมั่นคงของชีวิตและสังคม โดยเน้นเรื่องสวัสดิการสังคมเพื่อเสริมสร้างให้คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณต่าง ๆ สำหรับรองรับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยสนับสนุนส่งเสริม เรื่องการพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมการมีงานทำเพื่อเพิ่มรายได้ ให้สามารถพึ่งตนเองและสามารถอยู่ร่วมกับสังคม ชุมชน และช่วยเหลือตนเองได้ โดยไม่เป็นภาระของครอบครัว ชุมชนและสังคม และสืบเนื่องจากการที่รัฐบาล ได้กำหนดนโยบายด้านสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุข และได้กำหนดนโยบายการจัดสวัสดิการชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ประชาชนได้รับสวัสดิการถ้วนหน้าภายในปี ๒๕๖๐ เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้รับการดูแลเรื่องสวัสดิการครบทุกคน มีสวัสดิการพื้นฐานในเรื่องที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และมีหลักประกันในการดำรงชีพ ที่ทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว
ปัจจุบันจังหวัดบุรีรัมย์ มีคนพิการที่ไดรับอนุมัติเงินกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและทำสัญญากู้ยืมเงินฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ – ปัจจุบัน จำนวนทั้งสิ้น ๑,๙๖๔ ราย เป็นเงิน ๓๗,๘๖๙,๕๙๐ บาท (สามสิบเจ็ดล้านแปดแสนหกหมื่นเก้าพันห้าร้อยเก้าสิบบาทถ้วน) ซึ่งคงเหลือลูกหนี้ที่มีสัญญากู้ยืมเงินฯ จำนวนทั้งสิ้น ๑,๒๓๐ สัญญา เป็นเงิน ๒๔,๙๗๓,๕๙๐ บาท (ยี่สิบสี่ล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นสามพันห้าร้อยเก้าสิบบาทถ้วน) ขณะนี้ยังคงมีคนพิการที่มีความสนใจประสงค์ขอกูยืมเงินฯ อย่างต่อเนื่อง การจัดงานตลาดนัดอาชีพคนพิการและการแสดงผลงานของกองทุนสวัสดิการชุมชนที่มีความเข้มแข็งของจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้คนพิการและครอบครัวคนพิการได้แสดงผลงานการประกอบอาชีพคนพิการที่ สบความสำเร็จ เพื่อเป็นแบบอย่างให้คนพิการสามารถนำไปทำได้ เพื่อแสดงผลการดำเนินงานของกองทุนสวัสดิการชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบในการดำเนินงานจัดสวัสดิการชุมชนให้แก่กองทุนอื่นได้ การพัฒนากองทุนสวัสดิการชุมชนเชื่อมโยงสู่การพัฒนาด้านอาชีพและการพัฒนาด้านอื่น ๆ กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการเป็นคนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ คนพิการที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์
ผู้ว่าฯมหาสารคาม เชิญชวน 9 องค์กร สมัครเป็น คก.สรรหา ป.ป.จ.
จังหวัดมหาสารคาม ชี้แจงเกี่ยวกับการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. แก่ทั้ง 9 องค์กร ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เชิญชวนองค์กรทั้ง 9 ส่งผู้แทนขอขึ้นทะเบียนเพื่อคัดเลือกกันเองเป็นกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม 1-9 สิงหาคมนี้ เพื่อเลือกคนดี มีความซื่อสัตย์ เป็น ป.ป.จ.มหาสารคาม
ในการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม ให้แก่หน่วยงานทั้ง 9 องค์กร ในจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย สมาคมหรือชมครู สภาทนายความ สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือสหภาพแรงงาน สภาหอการค้า กลุ่มอาสาสมัคร องค์กรเอกชน องค์กรเกษตรกร องค์กรสื่อมวลชนและ หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้จัดขึ้น เป็นการชี้แจงให้เห็นถึงความสำคัญของการขึ้นทะเบียนเป็นคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม การคัดเลือกกันเองเพื่อให้ได้ผู้แทนองค์กร ให้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสรรหาฯ
ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวในโอกาสเป็นประธานในการชี้แจงเกี่ยวกับการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม ให้แก่หน่วยงานทั้ง 9 องค์กร ในจังหวัดมหาสารคาม ว่า หลังจากได้รับฟังการชี้แจงเนื้อหาและความสำคัญของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.แล้ว ในระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม 2556 ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ที่ห้องประชุม 409 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ขอให้ทั้ง 9 องค์กร ได้ส่งผู้แทนขอขึ้นทะเบียน เพื่อคัดเลือกกันเองเป็นกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม เพื่อร่วมกันพิจารณาเลือกคนดี มีความโปร่งใส ซื่อสัตย์ ไม่ทุจริต เข้ามาทำหน้าที่เป็น กรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม
ในการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม ให้แก่หน่วยงานทั้ง 9 องค์กร ในจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย สมาคมหรือชมครู สภาทนายความ สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือสหภาพแรงงาน สภาหอการค้า กลุ่มอาสาสมัคร องค์กรเอกชน องค์กรเกษตรกร องค์กรสื่อมวลชนและ หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้จัดขึ้น เป็นการชี้แจงให้เห็นถึงความสำคัญของการขึ้นทะเบียนเป็นคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม การคัดเลือกกันเองเพื่อให้ได้ผู้แทนองค์กร ให้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสรรหาฯ
ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวในโอกาสเป็นประธานในการชี้แจงเกี่ยวกับการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม ให้แก่หน่วยงานทั้ง 9 องค์กร ในจังหวัดมหาสารคาม ว่า หลังจากได้รับฟังการชี้แจงเนื้อหาและความสำคัญของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.แล้ว ในระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม 2556 ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ที่ห้องประชุม 409 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ขอให้ทั้ง 9 องค์กร ได้ส่งผู้แทนขอขึ้นทะเบียน เพื่อคัดเลือกกันเองเป็นกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม เพื่อร่วมกันพิจารณาเลือกคนดี มีความโปร่งใส ซื่อสัตย์ ไม่ทุจริต เข้ามาทำหน้าที่เป็น กรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
มหาสารคาม เปิดตลาดนัดแรงงานเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนและผู้ประกอบการ
จัดหางานจังหวัดมหาสารคาม เปิดตลาดนัดแรงงาน
ช่วยเหลือนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาและประชาชนที่ว่างงาน
พร้อมนำระบบเทคโนโลยีมาให้บริการสมัครงานลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ต
(26-07-56) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม สำนักงานจัดหางานจังหวัดมหาสารคาม
ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และผู้ประกอบการ
เปิดงานนัดพบตลาดงานเชิงคุณภาพ ประจำปี 2556 โดยมีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสการมีงานทำให้แก่ผู้ประสงค์จะหางานทำ ผู้ว่างงาน
ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้ต้องการเปลี่ยนงาน และผู้สำเร็จการศึกษา
รวมทั้งให้ผู้สมัครได้ทราบแหล่งการจ้างงานและเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่
ผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสมัครงาน
มีประสบการณ์จากการสมัครงาน
เพื่อเป็นแนวทางเตรียมตัวเข้าสู่ระบบการจ้างงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยจัดหางานจังหวัดมหาสารคาม
ได้นำระบบเทคโนโลยีมาให้บริการสมัครงาน
ผู้สมัครงานสามารถลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ต
โดยไม่ต้องเสียเวลากรอกแบบขึ้นทะเบียนสมัครงาน
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการจ้างงานของภาครัฐที่ให้ความสำคัญต่อการนำ
เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ ในการให้บริการแก่ประชาชน
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย
การรับสมัครงานจากสถานประกอบการในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง
จำนวน 50 แห่ง มีตำแหน่งงานว่างกว่า 8,500 อัตรา การทดสอบภาษาอังกฤษ
การแนะนำวิธีการสมัครงาน การทดสอบความถนัดทางอาชีพ
การสมัครงานด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การสาธิตการประกอบอาชีพอิสระ กว่า 20
อาชีพ ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 26 – 27
กรกฎาคม 2556
ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว
กิจกรรม“ ฟันสะอาดเหงือกแข็งแรง”จ.มหาสารคาม ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จย่า
จ.มหาสารคาม จัดกิจกรรม " ฟันสะอาดเหงือกแข็งแรง " เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ที่หอประชุมโรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม โดยโรงพยาบาลมหาสารคาม ร่วมกับสำนักงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 1 จัดกิจกรรมรณรงค์"ฟันสะอาด เหงือกแข็งแรง” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 18 กรกฎาคม ของทุกปี โดยมีกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เข้าร่วมกิจกรรม ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์"ฟันสะอาด เหงือกแข็งแรง” ประกอบด้วย การสอนแปรงฟัน โดยทีมทันตแพทย์และทันตาภิบาล จากโรงพยาบาลมหาสารคาม การแจกเม็ดสีย้อมเคี้ยวหลังแปรงฟัน เพื่อให้นักเรียนสามารถตรวจฟันด้วยตนเอง และแปรงฟันซ้ำให้สะอาด
นพ.ไพบูลย์ อัศวธนบดี รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นเรื่องการดูแลส่งเสริมป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพร่างกายของคนในวัยต่างๆ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กและเยาวชน โดยได้วางรากฐานเรื่องสุขภาพและสุขภาพช่องปากแก่เด็กวัยเรียนพร้อมกับการสอดแทรกความรู้เรื่องการแปรงฟันที่ถูวิธี ในรูปแบบที่เหมาะสมกับเด็กๆนั้น เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ตระหนักว่า เรื่องของทันตสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่เด็กทุกคนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ ต้องดูแลรักษาฟันและช่องปากของตนเอง ก็จะทำให้ปัญหาสุขภาพในช่องปากของเด็กลดน้อยลงและนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีด้วย
ที่หอประชุมโรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม โดยโรงพยาบาลมหาสารคาม ร่วมกับสำนักงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 1 จัดกิจกรรมรณรงค์"ฟันสะอาด เหงือกแข็งแรง” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 18 กรกฎาคม ของทุกปี โดยมีกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เข้าร่วมกิจกรรม ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์"ฟันสะอาด เหงือกแข็งแรง” ประกอบด้วย การสอนแปรงฟัน โดยทีมทันตแพทย์และทันตาภิบาล จากโรงพยาบาลมหาสารคาม การแจกเม็ดสีย้อมเคี้ยวหลังแปรงฟัน เพื่อให้นักเรียนสามารถตรวจฟันด้วยตนเอง และแปรงฟันซ้ำให้สะอาด
นพ.ไพบูลย์ อัศวธนบดี รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นเรื่องการดูแลส่งเสริมป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพร่างกายของคนในวัยต่างๆ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กและเยาวชน โดยได้วางรากฐานเรื่องสุขภาพและสุขภาพช่องปากแก่เด็กวัยเรียนพร้อมกับการสอดแทรกความรู้เรื่องการแปรงฟันที่ถูวิธี ในรูปแบบที่เหมาะสมกับเด็กๆนั้น เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ตระหนักว่า เรื่องของทันตสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่เด็กทุกคนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ ต้องดูแลรักษาฟันและช่องปากของตนเอง ก็จะทำให้ปัญหาสุขภาพในช่องปากของเด็กลดน้อยลงและนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีด้วย
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
ส่วนราชการ จ.มุกดาหาร ออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน
ที่โรงเรียนบ้านชะโนด1 บ้านชะโนด หมู่ที่1 ตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้นำส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคธุรกิจเอกชน ทั้งในระดับจังหวัดมุกดาหารและอำเภอ มากกว่า 30หน่วยงาน ออกให้บริการประชาชน ตามโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขสร้างรอยยิ้ม ให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2556
โดยการออกให้บริการดังกล่าว นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้มีการประชุมร่วมกับผู้นำท้องถิ่นของตำบลชะโนด เพื่อมอบนโยบายและรับฟังปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนต่อไป สำหรับกิจกรรมการบริการมีทั้งการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาแก่ผู้สูงอายุ โดยเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร การตรวจสุขภาพประชาชน การมอบถุงยังชีพ มอบพันธุ์ปลา มอบจักรยานแก่นักเรียน การให้บริการตัดผมฟรี บริการการทำหมันการฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตลอดจนการให้บริการอื่น ๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้ถึงพื้นที่ โดยไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย ในการมาขอรับบริการถึงในตัวอำเภอและจังหวัด โดยเป็นที่พอใจของประชาชนที่มาคอยรับบริการเป็นอย่างมาก
โดยการออกให้บริการดังกล่าว นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้มีการประชุมร่วมกับผู้นำท้องถิ่นของตำบลชะโนด เพื่อมอบนโยบายและรับฟังปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนต่อไป สำหรับกิจกรรมการบริการมีทั้งการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาแก่ผู้สูงอายุ โดยเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร การตรวจสุขภาพประชาชน การมอบถุงยังชีพ มอบพันธุ์ปลา มอบจักรยานแก่นักเรียน การให้บริการตัดผมฟรี บริการการทำหมันการฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตลอดจนการให้บริการอื่น ๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้ถึงพื้นที่ โดยไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย ในการมาขอรับบริการถึงในตัวอำเภอและจังหวัด โดยเป็นที่พอใจของประชาชนที่มาคอยรับบริการเป็นอย่างมาก
พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ
จังหวัดมุกดาหารจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฏราชกุมาร
วันที่ ๒๕ ก.ค.๕๖ ที่วัดศรีมงคลใต้ (พระอารามหลวง)
อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร
เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยดอกไม้ถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระ
บรมโอรสาธิราสฯ สยามกุฎราชกุมาร
และพิธีจุดเทียนชัยมหามงคลเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ ๖๑ พรรษา ๒๘ กรกฏาคม ๒๕๕๖
นางรัชดาวัลย์ สมโภชน์พงศ์
ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม กล่าวว่า
การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ในครั้งนี้
เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามบรมราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๑ พรรษา ๒๘ กรกฏาคม
๒๕๕๖ ตลอดทั้งเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในการเทิดทูนและจงรักภักดี
ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร
ได้ร่วมกันทำกิจกรรม โดยน้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติ
ให้สังคมมีส่วนร่วม เกิดความสามัคคีปรองดอง
โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง ระหว่างสถาบันชาติ ศาสนา
และประชาชน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้นำองค์กร
ภาคเอกชน ข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ
ทอดผ้าป่าถวายพระราชกุศลที่โรงพยาบาลเลิงนกทา
จังหวัดยโสธรทอดผ้าป่าชื้อเครื่องมือแพทย์ถวายเป็นพระราชกุศล
วันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 10.00 น.ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา จังหวัดยโสธร นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร องค์นายกกิตติมศักดิ์ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 61 พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา ได้รับงบก่อสร้างตึกผู้ป่วยขนาด 114 เตียง จากมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช แต่ยังไม่แล้วเสร็จเรียบร้อย เนื่องจากขาดปัจจัยในการชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ปัจจุบันมีผู้ป่วยนอกมารับบริการวันละประมาณ 300- 400 คน และมีผู้ป่วยในเฉลี่ย 20-25 คน ต่อวัน ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงได้จัดทำโครงการทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้นเพื่อสมทบทุน การทอดผ้าป่าสามัคคีในวันนี้ มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ธกส.จังหวัดยโสธร และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญ เป็นจำนวนเงิน 966,870,75 บาท
วันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 10.00 น.ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา จังหวัดยโสธร นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร องค์นายกกิตติมศักดิ์ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 61 พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา ได้รับงบก่อสร้างตึกผู้ป่วยขนาด 114 เตียง จากมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช แต่ยังไม่แล้วเสร็จเรียบร้อย เนื่องจากขาดปัจจัยในการชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ปัจจุบันมีผู้ป่วยนอกมารับบริการวันละประมาณ 300- 400 คน และมีผู้ป่วยในเฉลี่ย 20-25 คน ต่อวัน ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงได้จัดทำโครงการทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้นเพื่อสมทบทุน การทอดผ้าป่าสามัคคีในวันนี้ มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ธกส.จังหวัดยโสธร และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญ เป็นจำนวนเงิน 966,870,75 บาท
ยโสธรบายศรีสู่ขวัญรมว.คนแรก
ชาวยโสธร จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญรัฐมนตรีคนแรกของจังหวัดยโสธร
เวลา 18.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ที่ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนยโสธรพิทยาคม ประชาชนชาวจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย องค์กรหน่วยงานราชการ /เอกชน ได้ร่วมกันจัดงานพิธีบายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือ ตามแบบประเพณีชาวอีสาน เพื่อเป็นศิริมงคล ให้กับ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส พรรคเพื่อไทย เขต 3 ที่ได้รับการโปรดเกล้า ให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็น บุคคลคนแรก ของจังหวัดยโสธร ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ นับตั้งแต่ จัดตั้งจังหวัดมาเป็นเวลา 41 ปี ชาวยโสธร มีความภาคภูมิใจที่ได้รัฐมนตรี ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงได้ร่วมกันจัดงานขึ้นมา กิจกรรมในงานประกอบไปด้วย การบายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือตามแบบโบราณของท้องถิ่น / การเลี้ยงอาหารพาแลงแบบอีสาน โดยมีนายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานการจัดงาน มีประชาชน ทั้งภาคเอกชน ส่วนราชการ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
เวลา 18.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ที่ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนยโสธรพิทยาคม ประชาชนชาวจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย องค์กรหน่วยงานราชการ /เอกชน ได้ร่วมกันจัดงานพิธีบายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือ ตามแบบประเพณีชาวอีสาน เพื่อเป็นศิริมงคล ให้กับ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส พรรคเพื่อไทย เขต 3 ที่ได้รับการโปรดเกล้า ให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็น บุคคลคนแรก ของจังหวัดยโสธร ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ นับตั้งแต่ จัดตั้งจังหวัดมาเป็นเวลา 41 ปี ชาวยโสธร มีความภาคภูมิใจที่ได้รัฐมนตรี ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงได้ร่วมกันจัดงานขึ้นมา กิจกรรมในงานประกอบไปด้วย การบายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือตามแบบโบราณของท้องถิ่น / การเลี้ยงอาหารพาแลงแบบอีสาน โดยมีนายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานการจัดงาน มีประชาชน ทั้งภาคเอกชน ส่วนราชการ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
อนุกรรมการการเมืองลงพื้นที่ยโสธร
คณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ตรวจติดตาม คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ที่จังหวัดยโสธร
วันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายกฤช อาทิตย์แก้ว ประธานคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และคณะ เดินทางมาติดตามกรณีเป็นงาน โดยการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) โดยมีนายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ร่วมประชุม ให้การต้อนรับพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ, กำนัน, และคณะกรรมการหมู่บ้าน
จังหวัดยโสธร มีการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) โดยมีการจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ที่อาคารฝึกอบรมของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดยโสธร (พืชสวน) เริ่มมาตั้งแต่ปี 2552-2556 มีการฝึกอบรมให้กับคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) แล้ว จำนวน 39 รุ่น จำนวน 7,123 คน ซึ่งคณะกรรมการหมู่บ้าน จะมีหมู่บ้านละ 7 คน โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน กม.ตามกฎหมายปกครองท้องที่รองรับ แต่ยังไม่มีค่าตอบแทน มีแต่ค่าเบี้ยประชุมเท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่เป็นกรรมการทุกคน จึงเป็นผู้ที่ทำงานด้วยจิตอาสา
ผลการติดตามการดำเนินงาน สรุปมีปัญหา และความต้องการคือ กรรมการหมู่บ้าน ขาดความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นประธาน กม.เคยชินกับการทำงานเชิงเดี่ยว ยังขาดการเป็นผู้นำ, การบริหารงานแบบเป็นทีม
ความต้องการ ต้องการให้มีการจัดตั้งเป็นสำนักงาน กม. ทุกหมู่บ้าน มีอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานครบครัน เป็นศูนย์ข้อมูลของทางราชการประจำหมู่บ้าน เช่น ข้อมูลการทำนา,ข้อมูลผู้ประสบภัย, ข้อมูลประชากร เพื่อทางจังหวัดจะให้ความช่วยเหลือได้ถูกต้องและต้องการค่าตอบแทน เหมือนกับ อสม. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง, เป็นขวัญกำลังใจให้กับคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน จะนำไปเสนอสั่งการต่อไป
วันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายกฤช อาทิตย์แก้ว ประธานคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และคณะ เดินทางมาติดตามกรณีเป็นงาน โดยการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) โดยมีนายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ร่วมประชุม ให้การต้อนรับพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ, กำนัน, และคณะกรรมการหมู่บ้าน
จังหวัดยโสธร มีการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) โดยมีการจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ที่อาคารฝึกอบรมของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดยโสธร (พืชสวน) เริ่มมาตั้งแต่ปี 2552-2556 มีการฝึกอบรมให้กับคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) แล้ว จำนวน 39 รุ่น จำนวน 7,123 คน ซึ่งคณะกรรมการหมู่บ้าน จะมีหมู่บ้านละ 7 คน โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน กม.ตามกฎหมายปกครองท้องที่รองรับ แต่ยังไม่มีค่าตอบแทน มีแต่ค่าเบี้ยประชุมเท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่เป็นกรรมการทุกคน จึงเป็นผู้ที่ทำงานด้วยจิตอาสา
ผลการติดตามการดำเนินงาน สรุปมีปัญหา และความต้องการคือ กรรมการหมู่บ้าน ขาดความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นประธาน กม.เคยชินกับการทำงานเชิงเดี่ยว ยังขาดการเป็นผู้นำ, การบริหารงานแบบเป็นทีม
ความต้องการ ต้องการให้มีการจัดตั้งเป็นสำนักงาน กม. ทุกหมู่บ้าน มีอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานครบครัน เป็นศูนย์ข้อมูลของทางราชการประจำหมู่บ้าน เช่น ข้อมูลการทำนา,ข้อมูลผู้ประสบภัย, ข้อมูลประชากร เพื่อทางจังหวัดจะให้ความช่วยเหลือได้ถูกต้องและต้องการค่าตอบแทน เหมือนกับ อสม. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง, เป็นขวัญกำลังใจให้กับคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน จะนำไปเสนอสั่งการต่อไป
จังหวัดสระแก้วประชุมเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัย และดินโคลนถล่ม
วันนี้ (26 ก.ค. 56) ที่ห้องประชุมบูรพา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ปี 2556 โดยมีนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือของหน่วยงาน และแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จังหวัดสระแก้วได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ประจำปี 2556 ขึ้น โดยจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ขึ้นเพื่อเตรียมการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ตลอดจนฟื้นฟูบูรณะสาธารณประโยชน์ ที่ชำรุดเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งการประสานงาน สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเป็นศูนย์กลางในการติดต่อข่าวสารและสถานการณ์ โดยใช้เครือข่ายสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้วเป็นกรรมการและเลขานุการ
นายวรศักดิ์ สิริภาพ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว กล่าวถึง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและลำคลองที่สำคัญ ส่วนใหญ่ยังอยู่เกณฑ์ปกติ โดยมีความจุของปริมาณน้ำในอ่างเฉลี่ย 45 % ส่วนสภาพอากาศทั่วไปในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 21 ก.ค. มีปริมาณฝนตกมาแล้ว 559 มม. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยทั้งปีจะมีปริมาณฝน 1,376 มม.
ด้านนายวุฒิดนัย สวัสดินฤนาท นายอำเภอโคกสูง กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 24-25 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักมากในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เฉพาะอำเภอวัฒนานคร ตาพระยา เมืองสระแก้ว และวังน้ำเย็น ทำให้มีน้ำไหลหลากจากตำบลช่องกุ่ม ตำบลแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร ผ่านพื้นที่ตำบลหนองม่วง อำเภอโคกสูง และไหลลงไปยังประเ ทศกัมพูชา ทำให้นาข้าวของเกษตรกรที่เพิ่งปักดำได้รับความเสียหาย และถนนเสียหายหลายจุด อย่างไรก็ตามนายอำเภอได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่ ประสานกับท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจคว ามเสียหาย และรายงานให้จังหวัดทราบเพื่อให้ความช่วยเหลือ ต่อไป
นายวรศักดิ์ สิริภาพ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว กล่าวถึง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและลำคลองที่สำคัญ ส่วนใหญ่ยังอยู่เกณฑ์ปกติ โดยมีความจุของปริมาณน้ำในอ่างเฉลี่ย 45 % ส่วนสภาพอากาศทั่วไปในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 21 ก.ค. มีปริมาณฝนตกมาแล้ว 559 มม. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยทั้งปีจะมีปริมาณฝน 1,376 มม.
ด้านนายวุฒิดนัย สวัสดินฤนาท นายอำเภอโคกสูง กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 24-25 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักมากในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เฉพาะอำเภอวัฒนานคร ตาพระยา เมืองสระแก้ว และวังน้ำเย็น ทำให้มีน้ำไหลหลากจากตำบลช่องกุ่ม ตำบลแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร ผ่านพื้นที่ตำบลหนองม่วง อำเภอโคกสูง และไหลลงไปยังประเ ทศกัมพูชา ทำให้นาข้าวของเกษตรกรที่เพิ่งปักดำได้รับความเสียหาย และถนนเสียหายหลายจุด อย่างไรก็ตามนายอำเภอได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่ ประสานกับท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจคว ามเสียหาย และรายงานให้จังหวัดทราบเพื่อให้ความช่วยเหลือ ต่อไป
รณรงค์กวดขัน... จำหน่ายสินค้าอันตรายบริเวณหน้าโรงเรียน
นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค แจ้งว่าปัจจุบันพบว่าบริเวณหน้าโรงเรียนมีการจำหน่ายสินค้าซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีคำสั่งห้ามขาย เช่น ของเล่นชนิดพองตัวเมื่อแช่น้ำ หรือ ตัวดูดน้ำ ซึ่งใช้ชื่อว่าน้ำตานางเหงือก หรือเบบี้คริสตัล ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือ ลูกโป่งพลาสติก อุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตสำหรับแกล้งคน และสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคซึ่งเป็นเด็ก เช่น ของเล่นที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่สำนักงานมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมกำหนด และสินค้าดังกล่าวไม่มีฉลากคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงอาหารทอดที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ลูกชิ้น ไส้กรอก และขนมที่สีฉูดฉาดซึ่งอาจใส่สีสังเคราะห์ที่ไม่เหมาะสม รายละเอียดดูได้ที่ http://upvac.ocpd.go.th
สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดสระแก้ว (สคบ.ประจำจังหวัดสระแก้ว) จึงขอประชาสัมพันธ์ในการรณรงค์และกวดขันมิให้มีการจำหน่ายสินค้าอันตรายตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสินค้าอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคที่มีการจำหน่ายบริเวณหน้าโรงเรียน ทั้งนี้ หากพบการจำหน่ายสินค้าอันตรายตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ฝ่ายควบคุม โทรศัพท์หมายเลข 02-1430387-9 โทรสาร 02-1439768
สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดสระแก้ว (สคบ.ประจำจังหวัดสระแก้ว) จึงขอประชาสัมพันธ์ในการรณรงค์และกวดขันมิให้มีการจำหน่ายสินค้าอันตรายตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสินค้าอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคที่มีการจำหน่ายบริเวณหน้าโรงเรียน ทั้งนี้ หากพบการจำหน่ายสินค้าอันตรายตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ฝ่ายควบคุม โทรศัพท์หมายเลข 02-1430387-9 โทรสาร 02-1439768
จังหวัดอำนาจเจริญจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 61 พรรษา 28 กรกฎาคม 2556
วันนี้ (26 ก.ค. 2556) ที่ศาลาการเปรียญ วัดสำราญนิเวศ (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 61 พรรษา 28 กรกฎาคม 2556 ที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้กำหนดจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ในจังหวัดอำนาจเจริญ สวมชุดสีขาวเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
โดยใน เวลา 09.09 น. นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นพระวิชัยมุนี เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานสงฆ์ให้ศีล ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานในพิธีจุดเทียน 9 เล่ม นำธูป 15 ดอก ปักที่เครื่องสังเวยและโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ประธานจุดเทียนบูชาพระจันทร์ 15 เล่ม พราหมณ์กล่าวคาถา ถวายเครื่องบัตรพลีและเครื่องบวงสรวง พราหมณ์ประกาศอัญเชิญเทวดา พราหมณ์กล่าวบทสยามพากย์และคาถาบูชาพระจันทร์ ประธานจุดเทียนชัยมหามงคลเจริญพระพุทธมนต์และเทียนพระชาตา พราหมณ์กล่าวอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ (สิบสองตำนาน) จนถึงบทสวดอเสวนา ประธานจุดเทียนน้ำมนต์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้วพราหมณ์ประกาศสรุปพระเคราะห์และให้พร จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานในพิธีและแขกผู้มีเกียรติ ถวายปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำรับพร จากนั้นประธานสงฆ์พรมน้ำพระพุทธมนต์ที่พระฉายาลักษณ์และแขกผู้ร่วมพิธี พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เสร็จแล้วถวายภัตตาหารเพล เป็นอันเสร็จพิธี
โดยใน เวลา 09.09 น. นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นพระวิชัยมุนี เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานสงฆ์ให้ศีล ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานในพิธีจุดเทียน 9 เล่ม นำธูป 15 ดอก ปักที่เครื่องสังเวยและโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ประธานจุดเทียนบูชาพระจันทร์ 15 เล่ม พราหมณ์กล่าวคาถา ถวายเครื่องบัตรพลีและเครื่องบวงสรวง พราหมณ์ประกาศอัญเชิญเทวดา พราหมณ์กล่าวบทสยามพากย์และคาถาบูชาพระจันทร์ ประธานจุดเทียนชัยมหามงคลเจริญพระพุทธมนต์และเทียนพระชาตา พราหมณ์กล่าวอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ (สิบสองตำนาน) จนถึงบทสวดอเสวนา ประธานจุดเทียนน้ำมนต์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้วพราหมณ์ประกาศสรุปพระเคราะห์และให้พร จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานในพิธีและแขกผู้มีเกียรติ ถวายปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำรับพร จากนั้นประธานสงฆ์พรมน้ำพระพุทธมนต์ที่พระฉายาลักษณ์และแขกผู้ร่วมพิธี พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เสร็จแล้วถวายภัตตาหารเพล เป็นอันเสร็จพิธี
จรูญ พิตะพันธ์ / ข่าว / ภาพ
ประชุมสื่อวิทยุ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ขอความร่วมมือสื่อวิทยุในพื้นที่ร่วมประชาสัมพันธ์นโยบายสวนครัวเลี้ยงสัตว์ จัดทำบัญชีครัวเรือน และประกันตนตามาตรา 40
ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี บ่ายวันนี้ ( 26 ก.ค.56 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมนักจัดรายการวิทยุสมาคมวิทยุท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นวิทยุชุมชนในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์นโยบายการแก้จนของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องการขยายผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบผ่านทางสถานีวิทยุชุมชนในท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้แนะแนวทางการแก้จนให้กับประชาชนในพื้นที่ว่าทุกครัวเรือนต้องทำสวนครัวเลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และเมื่อทำแล้วต้องรู้จักทำบัญชีครัวเรือนเพื่อจัดระบบและบริหารจัดการรายจ่ายและรายได้ในครอบครัว พร้อมฝากให้นักจัดรายการวิทยุประชาสัมพันธุ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทั้ง 20 อำเภอที่ประกอบอาชีพอิสระทำประกับตนตามมาตรา 40 เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันให้กับอนาคต โดยสามารถทำได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 20 อำเภอ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด
และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานี ได้รับทราบเกี่ยวกับการประกันตนตามมาตรา 40 ในวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ที่จะถึงนี้จังหวัดอุดรธานีร่วมกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัด กำหนดจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การประกันตน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะแถลงนโยบายและปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์ จากลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น ไปตามถนนแสงฉ่ำอุทิศ ผ่าน บขส.เก่า ไปถนนโภคานุสรณ์ผ่านพระอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ไปตามถนนทหาร ผ่านวงเวียนน้ำพุ่ เข้าสู่ถนนโพศรี ถึงร้อนยอดมือถือเลี้ยวขาวผ่านไปตามถนนมุขมนตรี ผ่านหน้าสำนักงานประกันสังคมเลี้ยงขาวเข้าสู่สนามทุ่งศรีเมือง
ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี บ่ายวันนี้ ( 26 ก.ค.56 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมนักจัดรายการวิทยุสมาคมวิทยุท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นวิทยุชุมชนในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์นโยบายการแก้จนของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องการขยายผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบผ่านทางสถานีวิทยุชุมชนในท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้แนะแนวทางการแก้จนให้กับประชาชนในพื้นที่ว่าทุกครัวเรือนต้องทำสวนครัวเลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และเมื่อทำแล้วต้องรู้จักทำบัญชีครัวเรือนเพื่อจัดระบบและบริหารจัดการรายจ่ายและรายได้ในครอบครัว พร้อมฝากให้นักจัดรายการวิทยุประชาสัมพันธุ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทั้ง 20 อำเภอที่ประกอบอาชีพอิสระทำประกับตนตามมาตรา 40 เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันให้กับอนาคต โดยสามารถทำได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 20 อำเภอ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด
และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานี ได้รับทราบเกี่ยวกับการประกันตนตามมาตรา 40 ในวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ที่จะถึงนี้จังหวัดอุดรธานีร่วมกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัด กำหนดจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การประกันตน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะแถลงนโยบายและปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์ จากลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น ไปตามถนนแสงฉ่ำอุทิศ ผ่าน บขส.เก่า ไปถนนโภคานุสรณ์ผ่านพระอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ไปตามถนนทหาร ผ่านวงเวียนน้ำพุ่ เข้าสู่ถนนโพศรี ถึงร้อนยอดมือถือเลี้ยวขาวผ่านไปตามถนนมุขมนตรี ผ่านหน้าสำนักงานประกันสังคมเลี้ยงขาวเข้าสู่สนามทุ่งศรีเมือง
ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว
ธกส.จับแจกรางวัลออมทรัพย์ทวีโชค
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธารนี จัดกิจกรรมส่งเสริมเงินฝากมอบโชคให้ลูกค้าผู้ฝากเงินประเภทออมทรัพย์มีรางวัล ออมทรัพย์ทวีโชค เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้าและส่งเสริมการออมให้กับประชาชน รวม 274 รางวัล คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,798,000 บาท
ค่ำวันนี้ ( 26 ก.ค. 56 ) ที่ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ได้จัดให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมเงินฝาก มอบโชคให้ลูกค้าผู้ฝากเงิน ประเภทเงินฝากออมทรัพย์มีรางวัล คือเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคนกำไรให้กับลูกค้าผู้ฝากเงินและส่งเสริมการออม โดยมีนายจีระศักดิ์ คำรณฤทธิศร ปลัดจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานจับรางวัลที่ 1 รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร ร่วมกับ นายธรรมรัตน์ ยศเมฆ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานธกส.จังหวัดอุดรธานี ซึ่งผลการจับรางวัลรางวัลที่หนึ่งเป็นของ นางประไวย์ สมบัติกำไร ผู้โชคดีเป็นผู้ฝากเงินสาขาทุ่งฝน และอีกรางวัลเป็นของนางนวนละออง แสงวงศ์ ผู้ฝากเงินสาขาหนองแสง ส่วนรางวัลที่ 2 รถยนตฺมิตซูบิซิมิราช 2 รางวัล ผู้โชคดีคือ นางวิชุดา เมฆฉาย ผู้ฝากเงินสาชาหนองวัวซอ และนางราตรี คำบัวภา ผู้ฝากเงินสาขาอุดรธานี
นายเรืองชัย เจริญกิจสุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตามที่ธนาคารได้มีนโยบายส่งเสริมการออมเงิน โดยสนับสนุนให้เกษตรกร ประชาชนทั่วไป มีโอกาสได้รับดอกเบี้ยเงินฝาก มีสิทธิ์ชิงรางวัลและได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยงเงินฝากการจับสลากทุก ๆเงินฝาก 2,000 บาท โดยสะสมยอดเงินฝากติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน ผู้ฝากมีสิทธิ์ได้รับคูปอง 1 ใบ เพื่อนำมาจับรางวัลซึ่งการจับรางวัลธนาคารกำหนดให้มีการจับรางวัลปีละ 2 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมามีการจับรางวัลไปแล้ว 26 ครั้ง ( ตั้งแต่ปี 2542- ปัจจุบัน ) ครั้งนี้เป็นการจับสลากครั้งที่ 27 มีจำนวนรางวัลทั้งสิ้น 274 รางวัล รวมมูลค่ารางวัลกว่า 5,798,000 บาทอาทิ รางวัลรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร 2 คัน, รถยนตฺมิตซูบิซิมิราช 2 คัน ,รถจักรยานยนต์ ออนด้า 35 คัน โทรทัศน์สี 32 นิ้ง 60 รางวัล ตูเย็นขนาด 6.3 Q 75 รางวัลและรางวัลพัดลม 18 นิ้ว 100 รางวัล สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานีและสาขาจาก 20 อำเภอจะปิดประกาศให้ประชาชนทราบและจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ที่ได้รับรางวัลมารับรางวัล ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานีต่อไป
ค่ำวันนี้ ( 26 ก.ค. 56 ) ที่ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ได้จัดให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมเงินฝาก มอบโชคให้ลูกค้าผู้ฝากเงิน ประเภทเงินฝากออมทรัพย์มีรางวัล คือเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคนกำไรให้กับลูกค้าผู้ฝากเงินและส่งเสริมการออม โดยมีนายจีระศักดิ์ คำรณฤทธิศร ปลัดจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานจับรางวัลที่ 1 รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร ร่วมกับ นายธรรมรัตน์ ยศเมฆ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานธกส.จังหวัดอุดรธานี ซึ่งผลการจับรางวัลรางวัลที่หนึ่งเป็นของ นางประไวย์ สมบัติกำไร ผู้โชคดีเป็นผู้ฝากเงินสาขาทุ่งฝน และอีกรางวัลเป็นของนางนวนละออง แสงวงศ์ ผู้ฝากเงินสาขาหนองแสง ส่วนรางวัลที่ 2 รถยนตฺมิตซูบิซิมิราช 2 รางวัล ผู้โชคดีคือ นางวิชุดา เมฆฉาย ผู้ฝากเงินสาชาหนองวัวซอ และนางราตรี คำบัวภา ผู้ฝากเงินสาขาอุดรธานี
นายเรืองชัย เจริญกิจสุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตามที่ธนาคารได้มีนโยบายส่งเสริมการออมเงิน โดยสนับสนุนให้เกษตรกร ประชาชนทั่วไป มีโอกาสได้รับดอกเบี้ยเงินฝาก มีสิทธิ์ชิงรางวัลและได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยงเงินฝากการจับสลากทุก ๆเงินฝาก 2,000 บาท โดยสะสมยอดเงินฝากติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน ผู้ฝากมีสิทธิ์ได้รับคูปอง 1 ใบ เพื่อนำมาจับรางวัลซึ่งการจับรางวัลธนาคารกำหนดให้มีการจับรางวัลปีละ 2 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมามีการจับรางวัลไปแล้ว 26 ครั้ง ( ตั้งแต่ปี 2542- ปัจจุบัน ) ครั้งนี้เป็นการจับสลากครั้งที่ 27 มีจำนวนรางวัลทั้งสิ้น 274 รางวัล รวมมูลค่ารางวัลกว่า 5,798,000 บาทอาทิ รางวัลรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร 2 คัน, รถยนตฺมิตซูบิซิมิราช 2 คัน ,รถจักรยานยนต์ ออนด้า 35 คัน โทรทัศน์สี 32 นิ้ง 60 รางวัล ตูเย็นขนาด 6.3 Q 75 รางวัลและรางวัลพัดลม 18 นิ้ว 100 รางวัล สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานีและสาขาจาก 20 อำเภอจะปิดประกาศให้ประชาชนทราบและจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ที่ได้รับรางวัลมารับรางวัล ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานีต่อไป
ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว
ผบช.ตชด. ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ
ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นำกำลังพลข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนกองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 อุดรธานี และนักเรียนนายสิบตำรวจ ปลูกป่า เพื่อร่วมกันฟื้นฟูและเพิ่มเติมพื้นที่ป่าไม้ เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี
ที่บริเวณโครงการพันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นประธานปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 โดยปลูกต้นไม้สีสวยงาม 24 ชนิด อาทิตะเคียนทอง, มะค่าโมง,และต้นยางนา โดยมีกำลังพลกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 อุดรธานี กำลังพลกองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี และนักเรียนนายสิบตำรวจ จำนวน 200 นาย ร่วมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันฟื้นฟูและเพิ่มเติมพื้นที่ป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพื้นที่สีเขียว อันเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในด้านการฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ตลอดจน เป็นการสนองงานโครงการพันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในกิจกรรมปกป้องพันธุกรรมพืชด้วย
พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยเป้าหมาย แนวนโยบายของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้ให้ทุกหน่วยปรับปรุงพื้นที่ตั้งหน่วยตามโครงการพื้นที่สีเขียว ภายใต้หลักการและเหตุผลของสภาพการณ์ ณ ปัจจุบัน ในเรื่องปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้อยู่ในขั้นวิกฤติ ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม และจากแนวทางการแก้ไขปัญหาได้แก่ การป้องกันรักษาทรัพยากรป่าไม้ที่เหลือให้คงอยู่ และการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ที่เสื่อมโทรม ให้ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
สำหรับการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ โดยการปลูกป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีสภาพเสื่อมโทรม เช่น การปลูกป่าในพื้นที่ตั้งหน่วย อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการฟื้นฟูสภาพป่าอนุรักษ์ กอปรกับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม แหล่งที่อยู่อาศัย ตลอดทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวในหน่วย ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมการปลูกป่า จะเป็นการช่วยปลูกฝังจิตสำนึกข้าราชการตำรวจและครอบครัว ได้มีใจรักต้นไม้ รักป่าไม้ หวงแหนทรัพยากรป่าไม้และช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม อันจะเป็นการสร้างแนวร่วมภาคีเครือข่ายในการช่วยกันแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย
ที่บริเวณโครงการพันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นประธานปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 โดยปลูกต้นไม้สีสวยงาม 24 ชนิด อาทิตะเคียนทอง, มะค่าโมง,และต้นยางนา โดยมีกำลังพลกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 อุดรธานี กำลังพลกองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี และนักเรียนนายสิบตำรวจ จำนวน 200 นาย ร่วมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันฟื้นฟูและเพิ่มเติมพื้นที่ป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพื้นที่สีเขียว อันเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในด้านการฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ตลอดจน เป็นการสนองงานโครงการพันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในกิจกรรมปกป้องพันธุกรรมพืชด้วย
พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยเป้าหมาย แนวนโยบายของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้ให้ทุกหน่วยปรับปรุงพื้นที่ตั้งหน่วยตามโครงการพื้นที่สีเขียว ภายใต้หลักการและเหตุผลของสภาพการณ์ ณ ปัจจุบัน ในเรื่องปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้อยู่ในขั้นวิกฤติ ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม และจากแนวทางการแก้ไขปัญหาได้แก่ การป้องกันรักษาทรัพยากรป่าไม้ที่เหลือให้คงอยู่ และการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ที่เสื่อมโทรม ให้ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
สำหรับการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ โดยการปลูกป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีสภาพเสื่อมโทรม เช่น การปลูกป่าในพื้นที่ตั้งหน่วย อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการฟื้นฟูสภาพป่าอนุรักษ์ กอปรกับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม แหล่งที่อยู่อาศัย ตลอดทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวในหน่วย ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมการปลูกป่า จะเป็นการช่วยปลูกฝังจิตสำนึกข้าราชการตำรวจและครอบครัว ได้มีใจรักต้นไม้ รักป่าไม้ หวงแหนทรัพยากรป่าไม้และช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม อันจะเป็นการสร้างแนวร่วมภาคีเครือข่ายในการช่วยกันแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย
เครือข่ายกาปรประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.
รวบหม้ายไทย-ลาว รับจ้างส่งยาบ้าหาเงินเลี้ยงลูก
ตำรวจอุดรธานี จับหญิงชาวลาว และชาวไทย ร่วมกันรับจ้างขนนำยาบ้า ได้พร้อมขอกลางยาบ้า 7770 เม็ด เงินสด 200,000 บาท สารภาพหาเงินเลี้ยงลูก
ที่หน้าศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พลตำรวจตรีบุญลือ กอบางยาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พันตำรวจเอกสุรินทร์ ชัยชมภู รองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พันตำรวจเอกโกวิท เจริญวัฒน์ศักดิ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พันตำรวจโทเทอดศักดิ์ บุญโชติ รองผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พันตำรวจโทชลธิชา อักษร สารวัตรสือบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจ ชุด " กุหลาบดง " แถลงข่าวจับ นางปานี หรือนี สีหาลาด อายุ 28 ปี (เสื้อเหลือง) ราษฎร บ้านพง เมืองหินบูน แขวงคำม่วน สปป.ลาว และนางสาวสุรีรัตน์ วะดวงดี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 ม.8 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในข้อหา " มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย " พร้อมของกลางยาบ้าซุกอยู่ในถุงขนมเลย์ จำนวน 2 ถุง รวม 4 มัด หรือ 40 ถุง รวมยาบ้า 7,770 เม็ด ประกอบด้วยยาบ้าสีส้ม 7,000 เม็ด ยาบ้าสีเขียว 70 เม็ด โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้างแม็คโคร ถนนนิตโย ตำบลหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะลงรถโดยสารประจำทาง สายบ้านแพง-นครพนม-อุดรธานี เพื่อนำยาบ้ามาส่งให้พ่อค้ารายใหญ่รายหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อ วันที่ 24 กค. ที่ผ่านมา จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี
พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี กล่าวว่า ตามนโยบายเร่งด่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งปราบรามผู้กระทำผิด ที่มีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ ให้รายงานโดยตรงต่อสำนักงาน ปปส. ทุกครั้งที่มีการจับกุมตัวผู้กระทำผิด รายนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง นางปานีฯชาวลาว ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาบ้าจากนายทุนชาวลาว ชื่อนางมร ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ราษฎร แขวงคำม่วน สปป.ลาว สาเหตุที่ทำเพราะตนไม่มีเงินเลี้ยงลูก 2 คน เนื่องจากสามีขี้เกียจไม่มีความรับผิดชอบ จึงขอแยกทางกับสามีมาอยู่กับแม่ที่บ้านได้ 2 ปี กระทั่งต้นเดือนที่ผ่านมา นางมรฯได้มาติดต่อให้ตนนำยาบ้ามาส่งให้ นายแจ็ค ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเป็นคนอุดรธานี ทำมาแล้ว 2 ครั้งๆแรกนำมาส่ง 2 มัด หรือ 20 ถุง ได้ค่าจ้างมัดละ 25,000 บาท ครั้งนี้ส่ง 4 มัด ได้เงินค่าจ้าง 100,000 บาท โดยค่าจ้างจะได้รับเมื่อส่งยาเรียบร้อยแล้วและเมื่อได้รับเงินค่าจ้างมาก็จะนำมาแบ่งคนละครึ่งกับนางสาวสุรีรัตน์ฯ ซึ่งนางสาวสุรีรัตน์ ฯ ก็มีสามีที่ไม่ทำมาหากินอะไร และได้ขอแยกทางกับสามีมารับจ้างขนยาบ้ากับตน เพื่อหาเงินเลี้ยงลูก 1 คน
ที่หน้าศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พลตำรวจตรีบุญลือ กอบางยาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พันตำรวจเอกสุรินทร์ ชัยชมภู รองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พันตำรวจเอกโกวิท เจริญวัฒน์ศักดิ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พันตำรวจโทเทอดศักดิ์ บุญโชติ รองผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พันตำรวจโทชลธิชา อักษร สารวัตรสือบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจ ชุด " กุหลาบดง " แถลงข่าวจับ นางปานี หรือนี สีหาลาด อายุ 28 ปี (เสื้อเหลือง) ราษฎร บ้านพง เมืองหินบูน แขวงคำม่วน สปป.ลาว และนางสาวสุรีรัตน์ วะดวงดี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 ม.8 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในข้อหา " มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย " พร้อมของกลางยาบ้าซุกอยู่ในถุงขนมเลย์ จำนวน 2 ถุง รวม 4 มัด หรือ 40 ถุง รวมยาบ้า 7,770 เม็ด ประกอบด้วยยาบ้าสีส้ม 7,000 เม็ด ยาบ้าสีเขียว 70 เม็ด โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้างแม็คโคร ถนนนิตโย ตำบลหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะลงรถโดยสารประจำทาง สายบ้านแพง-นครพนม-อุดรธานี เพื่อนำยาบ้ามาส่งให้พ่อค้ารายใหญ่รายหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อ วันที่ 24 กค. ที่ผ่านมา จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี
พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี กล่าวว่า ตามนโยบายเร่งด่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งปราบรามผู้กระทำผิด ที่มีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ ให้รายงานโดยตรงต่อสำนักงาน ปปส. ทุกครั้งที่มีการจับกุมตัวผู้กระทำผิด รายนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง นางปานีฯชาวลาว ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาบ้าจากนายทุนชาวลาว ชื่อนางมร ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ราษฎร แขวงคำม่วน สปป.ลาว สาเหตุที่ทำเพราะตนไม่มีเงินเลี้ยงลูก 2 คน เนื่องจากสามีขี้เกียจไม่มีความรับผิดชอบ จึงขอแยกทางกับสามีมาอยู่กับแม่ที่บ้านได้ 2 ปี กระทั่งต้นเดือนที่ผ่านมา นางมรฯได้มาติดต่อให้ตนนำยาบ้ามาส่งให้ นายแจ็ค ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเป็นคนอุดรธานี ทำมาแล้ว 2 ครั้งๆแรกนำมาส่ง 2 มัด หรือ 20 ถุง ได้ค่าจ้างมัดละ 25,000 บาท ครั้งนี้ส่ง 4 มัด ได้เงินค่าจ้าง 100,000 บาท โดยค่าจ้างจะได้รับเมื่อส่งยาเรียบร้อยแล้วและเมื่อได้รับเงินค่าจ้างมาก็จะนำมาแบ่งคนละครึ่งกับนางสาวสุรีรัตน์ฯ ซึ่งนางสาวสุรีรัตน์ ฯ ก็มีสามีที่ไม่ทำมาหากินอะไร และได้ขอแยกทางกับสามีมารับจ้างขนยาบ้ากับตน เพื่อหาเงินเลี้ยงลูก 1 คน
เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.
ผบช.ตชด.มอบประกาศนียบัตรแก่ข้าราชการตำรวจสัญญาบัตร
กองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับข้าราชกาตำรวจชั้นประทวน ยศดาบตำรวจและจ่าสิบตำรวจ จำนวน 197 นาย ที่ได้บรรจุและแต่งตั้งเป็นชั้นสัญญาบัตร ท่ามกลางความยินดีของญาติมิตร ที่เดินทางมาให้กำลังใจ
ที่กองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนยศดาบตำรวจ และจ่าสิบตำรวจ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ที่บรรจุและแต่งตั้งเป็นชั้นสัญญาบัตร กลุ่มงานป้องกันและปราบปราม ประจำปีงบประมาณ 2556 จำนวน 197 นาย พร้อมกับมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม
พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดความรู้และทักษะในสายงานเดิม ที่ผู้รับการฝึกอบรมได้ปฏิบัติในหน่วย อันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ กระบวนทัศน์ สำหรับผู้ปฏิบัติงานให้มีความเหมาะสมเฉพาะสายงาน ทั้งในส่วนของคุณลักษณะ บุคลิกภาพ พฤติกรรม ที่พร้อมทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ ความซื่อสัตย์ สุจริต การมีความเสียสละและความสำนึกในหน้าที่ ตลอดจน การสร้างเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ ค่านิยม ของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ต่อการปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร อันจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาจากประชาชน ทั้งนี้ในการฝึกอบรมดังกล่าวผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกนาย สามารถทำการฝึกอบรมและผ่านการทดสอบประเมินผล ทางด้านวิชาการ และภาคการฝึกเป็นไปตามเกณฑ์ ของหลักสูตรที่กำหนดไว้ทุกนาย
ที่กองกำกับการ 4 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนยศดาบตำรวจ และจ่าสิบตำรวจ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ที่บรรจุและแต่งตั้งเป็นชั้นสัญญาบัตร กลุ่มงานป้องกันและปราบปราม ประจำปีงบประมาณ 2556 จำนวน 197 นาย พร้อมกับมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม
พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดความรู้และทักษะในสายงานเดิม ที่ผู้รับการฝึกอบรมได้ปฏิบัติในหน่วย อันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ กระบวนทัศน์ สำหรับผู้ปฏิบัติงานให้มีความเหมาะสมเฉพาะสายงาน ทั้งในส่วนของคุณลักษณะ บุคลิกภาพ พฤติกรรม ที่พร้อมทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ ความซื่อสัตย์ สุจริต การมีความเสียสละและความสำนึกในหน้าที่ ตลอดจน การสร้างเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ ค่านิยม ของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ต่อการปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร อันจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาจากประชาชน ทั้งนี้ในการฝึกอบรมดังกล่าวผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกนาย สามารถทำการฝึกอบรมและผ่านการทดสอบประเมินผล ทางด้านวิชาการ และภาคการฝึกเป็นไปตามเกณฑ์ ของหลักสูตรที่กำหนดไว้ทุกนาย
เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.
สำนักงานประกันสังคม เปิดเวทีเสวนาโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมต่อผู้ประกันตนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง สื่อมวลชน ท้องถิ่นให้ได้รับทราบข้อมูลสิทธิประโยชน์จากการประกันสังคม
วันนี้ ( 26 ก.ค. 56) ที่โรงแรมลายทอง
นางไพลิน จินดามณีพร ผู้อำนวยการสารสนเทศ สำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานจัดโครงการ
"เผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมต่อผู้ประกันตน” ในระหว่างวันที่ 25-26
กรกฎาคม เพื่อเปิดเวทีเสวนาประกอบด้วยผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม
ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง
และผู้แทนฝ่ายลูกจ้างร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้ความรู้ ความเข้าใจ
พร้อมตอบปัญหาในเรื่องกฎหมายและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกองทุนประกัน
สังคม กองทุนเงินทดแทน
และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อได้อย่างถูกต้อง
ตลอดจนเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสำนักงานประกันสังคม
โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วยนายจ้าง ลูกจ้าง
ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ สถานพยาบาล สื่อมวลชนในจังหวัดอุบลราชธานี
ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มุกดาหาร
และจังหวัดนครพนม
เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและสอบถามในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคม
โดยมีวิทยากรแต่ละภาคส่วนเป็นผู้ตอบข้อซักถาม
สำหรับลูกจ้างและผู้ประกันตนท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานประกันสังคม
สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ จังหวัด
/สาขาที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)
หรือที่ www.sso.go.th
อัคราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ส่งเสริมและช่วยเหลือ ผู้หญิง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานความร่วมมือให้ความช่วยเหลือเด็กและผู้หญิงตามแนวชายแดนไทย-ลาวที่ตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์
วันที่ 25 ก.ค. 56
ที่ศูนย์ส่งเสริมช่วยเหลือเด็กและผู้หญิง จังหวัดอุบลราชธานี นายคิมิโนริ
อิวามะ อัคราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ส่งเสริมและช่วยเหลือ ผู้หญิง โดยมีเจ้าหน้าที่
ผู้ที่ปฏิบัติงานการต่อต้านการค้ามนุษย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จาก
แขวงจำปาสัก สปป.ลาว
ร่วมในพิธีทั้งนี้มูลนิธิพิทักษ์สตรีร่วมกับกลุ่มพิทักษ์สตรีเด็กและสตรี
ด่านช่องเม็กได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมช่วยเหลือเด็กและผู้หญิงโดยได้รับเงิน
สนับสนุนจากเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย จำนวน 3
ล้านบาทภายใต้ชื่อโครงการซึ่งสนับสนุนผ่านความร่วมมือทางเศรษฐกิจแบบให้
เปล่าเพื่อพื้นฐานทางความมั่นคงของมนุษย์ศูนย์ส่งเสริมช่วยเหลือเด็กและ
ผู้หญิง ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ให้บริการทางด้านสุขภาพการศึกษา
การอบรมวิชาชีพ ให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย การสร้างเสริมศักยภาพ
แนวทางในการป้องกันตนเองตลอดจนความรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนและการค้ามนุษย์
ซึ่งมีชุมชน
หมู่บ้านมีความเสี่ยงจากการค้ามนุษย์โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-ลาว
นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชน หมู่บ้าน
ได้สร้างความตระหนักรู้ต่อปัญหาและความรุนแรงการค้ามนุษย์ ผ่านกิจกรรม
จัดอบรมสมาชิกให้เป็นผู้นำหรือมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ความรู้โดยมุ่งเน้นการ
สร้างเครือในชุมชน หมู่บ้าน และ สปป.ลาว
ในการต่อต้านการค้ามนุษย์ตลอดจนในการประสานงานส่งตัวผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจาก
การค้ามนุษย์ไปยังสถานคุ้มครองหรือหน่วยงานอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
จักรกฤษณ์ มาลาสาย / ข่าว
ทองปัก ทวีสุข / ภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อัญเชิญเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ถวายแด่วัดมณีวนาราม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และ ให้คณะสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
วันที่ 24 กรกฎาคม 2556 เวลา 16.00 น.
ที่ วัดมณีวนาราม อำเภอเมือง จังหวัด อุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อัญเชิญเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน
ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
ประกอบพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี
2556 พร้อมกล่าวถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน ถวาย
ประดิษฐานที่หอพระแก้วโกเมน ณ วัดมณีวนาราม โดยมีพระศรีวรเวที
เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และหัวหน้าส่วนราชการ
เจ้าหน้าที่ พุทธศาสนิกชน นักเรียน และนักศึกษา เข้าร่วมในพิธี
โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
ทรงเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทย
เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป
ได้เรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
และสามารถนำหลักธรรมคำสอนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม
ในโอกาสวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เทศกาลเข้าพรรษา
ซึ่งเป็นประเพณีที่ดีงามของชาวพุทธ ที่จะได้จัดถวายเทียนจำนำพรรษาแด่
พระภิกษุ สามเณร ในการศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดถ้วนไตรมาส
และรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม สืบต่อไป
จักรกฤษณ์ มาลาสาย / ข่าว
ทองปัก ทวีสุข / ภาพ
24 ก.ค. 56
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เชิญชมนิทรรศการในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2556” (Thailand Research Expo)
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติว่า สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและหน่วยงานในระบบวิจัยทั่วประเทศได้กำหนดจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2556” (Thailand Research Expo 2013) ขึ้นในระหว่างวันที่ 23-27 สิงหาคม 2556 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์เซ็นทรัลเวิลด์ โดยเป็นเวทีระดับชาติในการนำเสนอผลงานวิจัยและกิจกรรมส่งเสริมการวิจัยจากองค์กรในระบบวิจัยทั่วประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ จึงขอเชิญชวนเที่ยวชมงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นสอบถามรายะเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2561 ต่อ 459,565,568 หรือทาง www.researchexpo.nrct.go.th
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ จึงขอเชิญชวนเที่ยวชมงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นสอบถามรายะเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2561 ต่อ 459,565,568 หรือทาง www.researchexpo.nrct.go.th
ศริณภาพร จันทสุข ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ จัดโครงการวิทยุชุมชนสีขาว ปี 2556
นายอุทัย พลพวก วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดประชุมตามโครงการวิทยุชุมชนสีขาวจังหวัดสุรินทร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 เวลา 08.30-6.30 น. ณ ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เรื่องจรรยาบรรณในการจัดรายการและการนำเสนอสื่อ รวมทั้งเพื่อสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคมตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกัน
กัญญรัตน์ เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์ย้ำโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก - ครู ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ในเด็ก
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมาว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน และเป็นช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ จะมีเด็กนักเรียนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นจากการมาอยู่รวมกันได้แก่ โรคมือ เท้า ปาก (Hand foot and mouth disease) ซึ่งโรคนี้มักเกิดในเด็กเล็กทั่วไป เด็กที่ติดเชื้อโรคมือเท้าปาก จะมีไข้ 1-2 วัน จากนั้นจะมีตุ่มหรือแผลในปากคล้ายแผลร้อนใน อาจมีหลายแผล ส่วนใหญ่จะพบที่บริเวณคอหอยหรือใกล้ต่อมทอนซิล หากอาการรุนแรงจะลามมาที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม ทำให้เด็กเจ็บในปากและคอ ไม่ยอมดูดนม กินอาหารไม่ได้ ส่วนใหญ่เด็กที่ป่วยอาการจะค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ และหายได้เองภายใน 7 วัน มีจำนวนน้อยที่มีอาการรุนแรง คือมีไข้สูง อาจมีอาการชัก แขนขาอ่อนแรง โรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ
จังหวัดสุรินทร์ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยดูแลลูกหลานไม่ให้ป่วย เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ง่าย โดยใช้หลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากเข้าไปในที่ชุมชนหรือใช้ห้องน้ำสาธารณะ โดยสามารถสังเกตอาการของเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ได้ คือเด็กมีไข้ปานกลางถึงไข้สูง ร่วมกับมีอาการเบื่ออาหาร กินอาหารไม่ได้ มีแผลในปาก มีตุ่มแดง ตุ่มพองขึ้นตามมือเท้า ลักษณะไม่คัน ขอให้พาไปพบแพทย์ โรคนี้รักษาได้ ส่วนใหญ่มักอาการไม่รุนแรง หายได้เองภายใน 7-10 วัน มีจำนวนน้อยมากที่จะมีโรคแทรกซ้อนในการรักษาจะใช้แบบประคับประคองบรรเทาอาการ เช่น ลดไข้ แก้ปวด ผู้ปกครองควรเช็ดตัวลดไข้เป็นระยะๆ ให้เด็กกินอาหารเหลวหรืออาหารอ่อน ย่อยง่าย รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไอศกรีม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ ให้เด็กนอนหลับพักผ่อนให้มากๆ หากเป็นเด็กอ่อนอาจต้องป้อนนมให้แทนการดูดนม เพื่อลดอาการปวดแผลภายในปาก
จังหวัดสุรินทร์ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยดูแลลูกหลานไม่ให้ป่วย เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ง่าย โดยใช้หลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากเข้าไปในที่ชุมชนหรือใช้ห้องน้ำสาธารณะ โดยสามารถสังเกตอาการของเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ได้ คือเด็กมีไข้ปานกลางถึงไข้สูง ร่วมกับมีอาการเบื่ออาหาร กินอาหารไม่ได้ มีแผลในปาก มีตุ่มแดง ตุ่มพองขึ้นตามมือเท้า ลักษณะไม่คัน ขอให้พาไปพบแพทย์ โรคนี้รักษาได้ ส่วนใหญ่มักอาการไม่รุนแรง หายได้เองภายใน 7-10 วัน มีจำนวนน้อยมากที่จะมีโรคแทรกซ้อนในการรักษาจะใช้แบบประคับประคองบรรเทาอาการ เช่น ลดไข้ แก้ปวด ผู้ปกครองควรเช็ดตัวลดไข้เป็นระยะๆ ให้เด็กกินอาหารเหลวหรืออาหารอ่อน ย่อยง่าย รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไอศกรีม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ ให้เด็กนอนหลับพักผ่อนให้มากๆ หากเป็นเด็กอ่อนอาจต้องป้อนนมให้แทนการดูดนม เพื่อลดอาการปวดแผลภายในปาก
กัญญรัตน์ เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
ปปช.สุรินทร์ ประกาศผู้ผ่านการคัดเลือก ป.ป.จ.สุรินทร์ ทั้ง 10 คนแล้ว
นายถาวร กุลโชติ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะกรรมการสรรหา ปปจ.สุรินทร์ กล่าวว่า ผลการนับคะแนนเลือกตั้งกรรมการ ป.ป.จ.สุรินทร์ จากผู้สมัคร 55 คน ผ่านการคัดเลือก 10 คน ตามตัวอักษร ดังนี้ นายเกตุ วิเศษชุมพล นายคมสัน เลือดสกุล พล.ต.ต.โชติ ไทยยิ่ง นายธนิน กิตติวรนันท์ นายนรชัย ภาควรรธนะ พ.ต.อ.วรพงษ์ สิงคนิภา นางวริศราลี แก้วปลั่ง นายสุชีพ แข่งขัน นายสันติชัย คงเถลิงศิริวัฒนา และนางอำพัน พรหมบุตร ซึ่งจะได้ส่งรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้ ปปช.ส่วนกลาง พิจารณาคัดเลือกเหลือ 5 คน และประกาศแต่งตั้งเป็น ป.ป.จ.สุรินทร์ ในประมาณเดือนตุลาคม 56 ต่อไป
ทางด้านนายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวขอบคุณกรรมการสรรหา ป.ป.จ.สุรินทร์ทั้ง 9 ท่าน จาก 9 องค์กรวิชาชีพ ที่ช่วยพิจารณาผู้สมัคร ป.ป.จ.สุรินทร์ จาก 55 ท่าน จนเหลือ 10 ท่าน เพื่อส่งชื่อให้ ป.ป.ช.ส่วนการพิจารณาคัดสรรเลือก 5 ท่านและประกาศแต่งตั้งเป็น ป.ป.จ.สุรินทร์ ผู้ผ่านการคัดเลือก ป.จ.จ.สุรินทร์ 10 ท่าน ภายในวันที่ 24 ก.ค.56 จะออกประกาศ พร้อมส่งรายชื่อและรูปถ่ายให้สื่อมวลชนได้ช่วยพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถร้องคัดค้านผลการคัดเลือกพร้อมส่งข้อมูลหลักฐานความไม่เหมาะสมของผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ให้ ป.ป.ช.สุรินทร์ โทรศัพท์ 0-4451-4891 โทรสาร 0-4451-4890 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โทรศัพท์ 0-4451-4891 โทรสาร 0-4451-4890
ทางด้านนายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวขอบคุณกรรมการสรรหา ป.ป.จ.สุรินทร์ทั้ง 9 ท่าน จาก 9 องค์กรวิชาชีพ ที่ช่วยพิจารณาผู้สมัคร ป.ป.จ.สุรินทร์ จาก 55 ท่าน จนเหลือ 10 ท่าน เพื่อส่งชื่อให้ ป.ป.ช.ส่วนการพิจารณาคัดสรรเลือก 5 ท่านและประกาศแต่งตั้งเป็น ป.ป.จ.สุรินทร์ ผู้ผ่านการคัดเลือก ป.จ.จ.สุรินทร์ 10 ท่าน ภายในวันที่ 24 ก.ค.56 จะออกประกาศ พร้อมส่งรายชื่อและรูปถ่ายให้สื่อมวลชนได้ช่วยพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถร้องคัดค้านผลการคัดเลือกพร้อมส่งข้อมูลหลักฐานความไม่เหมาะสมของผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ให้ ป.ป.ช.สุรินทร์ โทรศัพท์ 0-4451-4891 โทรสาร 0-4451-4890 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โทรศัพท์ 0-4451-4891 โทรสาร 0-4451-4890
กัญญรัตน์ เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์รณรงค์ชาวสุรินทร์ร่วมใจ งดเหล้าตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน
นายวิเชียร จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้จัดโครงการชาวสุรินทร์ร่วมใจงดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2556 เพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดปัญหาผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องตลอด 3 เดือน รวมทั้งรณรงค์งดเหล้าตามเทศกาลต่างๆ ด้วย ซึ่งการจัดโครงการชาวสุรินทร์ร่วมใจงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2556 นี้ จังหวัดสุรินทร์ได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์โครงการชาวสุรินทร์ร่วมใจงดเหล้าเข้าพรรษาอย่างน้อยหมู่บ้านละ 1 ป้าย ติดในที่สาธารณะที่เหมาะสม และขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ประสานงานกับองค์กรสงฆ์และวัดทุกแห่งในจังหวัดสุรินทร์ให้ร่วมดำเนินการตามโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งสอดแทรกคำสอนเกี่ยวกับการลด ละ เลิกอบายมุขและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามโอกาสต่าง ๆ ด้วย
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์เตรียมเปิดการแข่งขันกีฬาอาชีวะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 8 “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” มีนักกีฬากว่า 3,500 คน จาก 20 จังหวัดเข้าร่วมการแข่งขัน คาดเงินสะพัดกว่า 20 ล้านบาท
นายอรัญ สิงห์คำ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพท่าตูม ในฐานะประธานกรรมการอาชีวศึกษาจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 8 “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” ระหว่างวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2556 ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ และสนามของส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อคัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาอาชีวศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 8 ที่จังหวัดชลบุรี ในระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคม 2556
การแข่งขันกีฬาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 8 “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” กำหนดจัดการแข่งขันรวม 9 ชนิดกีฬา ได้แก่ ฟุตบอลชาย ฟุตซอล บาสเกตบอลชาย-หญิง วอลเลย์บอลชาย-หญิง เซปักตะกร้อชาย-หญิง มวยไทยสมัครเล่น มวยสากลสมัครเล่น กรีฑา และหมากล้อม นอกจากนั้นยังมีการประกวด Miss Voc ซึ่งเป็นการประกวดสาวงามอาชีวะ เฟ้นหาสาวสวย ฉลาด มีความสามารถ เป็นตัวแทนเข้าประกวดในระดับประเทศ โดยมีนักกีฬา ครูผู้ฝึกสอน และผู้ควบคุมทีม จำนวน 3,500 คน จากสถานศึกษาจำนวน 116 แห่ง จาก 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมการแข่งขัน โดยจะมีพิธีเปิดการแข่งขันในวันนี้ (26 กรกฎาคม 2556) เวลา 16.30 น. ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ โดยมี ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานพิธีเปิดงาน ซึ่งคาดว่าการแข่งขันกีฬา “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” ในครั้งนี้จะทำให้มีเงินสะพัดในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
การแข่งขันกีฬาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 8 “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” กำหนดจัดการแข่งขันรวม 9 ชนิดกีฬา ได้แก่ ฟุตบอลชาย ฟุตซอล บาสเกตบอลชาย-หญิง วอลเลย์บอลชาย-หญิง เซปักตะกร้อชาย-หญิง มวยไทยสมัครเล่น มวยสากลสมัครเล่น กรีฑา และหมากล้อม นอกจากนั้นยังมีการประกวด Miss Voc ซึ่งเป็นการประกวดสาวงามอาชีวะ เฟ้นหาสาวสวย ฉลาด มีความสามารถ เป็นตัวแทนเข้าประกวดในระดับประเทศ โดยมีนักกีฬา ครูผู้ฝึกสอน และผู้ควบคุมทีม จำนวน 3,500 คน จากสถานศึกษาจำนวน 116 แห่ง จาก 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมการแข่งขัน โดยจะมีพิธีเปิดการแข่งขันในวันนี้ (26 กรกฎาคม 2556) เวลา 16.30 น. ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ โดยมี ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานพิธีเปิดงาน ซึ่งคาดว่าการแข่งขันกีฬา “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” ในครั้งนี้จะทำให้มีเงินสะพัดในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์ จัดตั้งศูนย์อำนวยการส่งเสริมฟื้นฟูการปลุกป่า และป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้
นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการส่งเสริมฟื้นฟูการปลูกป่าและป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้จังหวัด โดยได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อบูรณาการการทำงาน รวมทั้งกำหนดแนวทางการดำเนินงานแผนปฏิบัติการ มาตรการส่งเสริมฟื้นฟูการปลูกป่า การป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผล โดยจังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดการประชุมคณะทำงานในที่ 29 กรกฎาคม 2556 ที่ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี ชั้นที่ 3 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานส่งเสริมฟื้นฟูการปลูกป่า การป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ให้ประสบผลสำเร็จ ต่อไป
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์ เตรียมประชุมโต๊ะข่าวแก้ปัญหายาเสพติด
นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์และกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งกำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดสุรินทร์ ในที่ 29 กรกฎาคม 2556 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมศรีณรงค์ ชั้นที่ 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดจังหวัดสุรินทร์ จากการประชุมโต๊ะข่าวยาเสพติด การดำเนินการตามแผนสร้างพลังสังคม และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด การดำเนินการหมู่บ้าน ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน การดำเนินการตามแผนแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด การดำเนินการตามแผนสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา สถานประกอบการ การจัดระเบียบสังคมในพื้นที่เสี่ยง หอพักห้องเช่าเชิงพาณิชย์ การดำเนินการตามแผนปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินการตามแผนความร่วมมือระหว่างประเทศและการสกัดกั้นยาเสพติด เป็นต้น
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์ขอเชิญประกวดภาพถ่าย งานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาคเอกชน ได้จัดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 20-22 กรกฎาคม 2556 เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชมพรรษาครบ 86 พรรษา และสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยและประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ทราบ โดยจังหวัดสุรินทร์ได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์จัดการประกวดภาพถ่ายกิจกรรมดังกล่าว เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างของจังหวัดสุรินทร์ผ่านศิลปะการถ่ายภาพ และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ โดยไม่จำกัดเพศและอายุของผู้เข้าประกวด โดยภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556 ขนาด 8 × 10 นิ้ว ติดบนฟิวเจอร์บอร์ดสีดำขนาด 10 × 14 นิ้ว ส่งภาพประกวดได้ไม่เกินคนละ 3 ภาพ ส่งผลงานด้วยตนเองที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2556 ตัดสินการประกวดในวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 และจะทำการมอบรางวัลในวันประชุมหัวหรน้าส่วนราชการประจำเดือนกรกฎาคม 2556 ผู้ชนะการประกวดจะได้รบเงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร 5,000 บาท 3,000 บาท 2,000 บาท ตามลำดับ และรางวัลชมเชย 4 รางวัล ๆ ละ 500 บาท พร้อมเกียรติบัตร
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์แจ้งเขตห้ามดื่มสุราตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 31
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับโทษของผู้ดื่มโดยฝ่าฝืนกฎหมายคือ "ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ" ตามมาตรา 42 หากเป็นการดื่มโดยฝ่าฝืนมาตรา 31 ของพระราชบัญญัติ ซึ่งกำหนดสถานที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนี้
(1) วัด หรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา เว้นแต่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา
(2) สถานบริการ สาธารณสุข ของรัฐ สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และ ร้านขายยา ตามกฎหมายว่าด้วยยายกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล
(3) สถานที่ราชการ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือสโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี
(4) สถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือสโมสรหรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี หรือสถานศึกษาที่สอนการผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(5) สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงหรือร้านค้าในบริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง
(6) สวนสาธารณะ ของทางราชการที่จัดไว้ เพื่อการพักผ่อนของประชาชนโดยทั่วไป
(7) สถานที่อื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ
ทั้งนี้ การดื่มสุราเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรค ส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต ก่อให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุ ดังนั้นจังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนชาวสุรินทร์ทุกคน "งดเหล้าเข้าพรรษา" เพื่อเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสฉลองพระชนมายุ 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวรณ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
(1) วัด หรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา เว้นแต่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา
(2) สถานบริการ สาธารณสุข ของรัฐ สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และ ร้านขายยา ตามกฎหมายว่าด้วยยายกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล
(3) สถานที่ราชการ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือสโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี
(4) สถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือสโมสรหรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี หรือสถานศึกษาที่สอนการผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(5) สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงหรือร้านค้าในบริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง
(6) สวนสาธารณะ ของทางราชการที่จัดไว้ เพื่อการพักผ่อนของประชาชนโดยทั่วไป
(7) สถานที่อื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ
ทั้งนี้ การดื่มสุราเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรค ส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต ก่อให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุ ดังนั้นจังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนชาวสุรินทร์ทุกคน "งดเหล้าเข้าพรรษา" เพื่อเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสฉลองพระชนมายุ 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวรณ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
จ.สุรินทร์แนะ 10 วิธีงดเหล้าเข้าพรรษา ทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระสังฆราช
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันเข้าพรรษาประจำปี 2556 นี้ จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญชวนชาวสุรินทร์ทุกคนร่วมกิจกรรม "งดเหล้าเข้าพรรษา" ทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งจากข้อมูลจากกรมควบคุมโรคแจ้งว่า การเลิกเหล้าสามารถทำได้ โดยมีข้อแนะนำ 10 วิธีเลิกเหล้า ได้แก่ 1.) ตั้งใจจริง 2. )ตั้งเป้าว่าจะเลิกเพื่อใคร 3. )หยุดทันที หักห้ามใจเมื่อตัวเองเข้าสังคม 4. ) ปรับเปลี่ยนนิสัยการดื่ม เช่น ดื่มเหล้าพร้อมรับประทานอาหาร ดื่มน้ำเปล่าคู่กับเหล้า เปลี่ยนขนาดแก้ว เป็นต้น 5. )ตั้งเป้าลดปริมาณการดื่มในแต่ละวันแต่ละครั้ง 6. )หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ เช่น หลีกเลี่ยงการไปผับบาร์ สถานบันเทิง หรือเลี่ยงจากกลุ่มดื่มเหล้า 7. )ทำกิจกรรมอื่นแทนการนั่งดื่มสังสรรค์ เช่น เล่นกีฬา ทำบุญ อ่านหนังสือ หรือกิจกรรมที่ชื่นชอบต่างๆ 8. )ฝึกปฏิเสธให้เด็ดขาด เช่น ไม่วางต้องไปทำธุระ หรือหมอห้ามดื่ม 9. )หาที่พึ่งทางใจจากคนรอบข้าง เช่น พ่อ แม่ เพื่อนสนิท คนรัก ลูก และ 10. )หากเลิกด้วยตัวเองไม่ได้ให้ปรึกษาหน่วยงานที่ช่วยเหลือด้านการอดเหล้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข 1422 และศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค โทร 02 590 3333
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข 1422 และศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค โทร 02 590 3333
สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)