วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตำรวจมุกดาหารจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้ากว่า 15,000 เม็ดในวันตำรวจ

ตำรวจมุกดาหารจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า15,610เม็ดในวันตำรวจ ผู้ต้องหารับสารภาพ จะนำยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าที่ปราจีนบุรี ได้รับค่าจ้าง 6 หมื่นบาท

( 13 ต.ค.56) พล.ต.ต.วิทวัส บูรณสมภพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรมุกดาหาร แถลงข่าวการจับกุมนายสาคร ศรีอุทัยอายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 191/10 หมู่ 1 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 15,610 เม็ด โดยก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณตู้ยาม ตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ตามนโยบายของรัฐบาล และตำรวจภูธรภาค 4 ในการป้องกันปราบปราบการลักลอบนำเข้ายาเสพติด และผ่านไปยังพื้นที่ส่วนใน รวมถึงการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมระหว่างวันที่ 4-14 ตุลาคม 2556 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2556 เวลา 06.10 น. เจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ บริษัทนครชัยทัวร์ วิ่งระหว่างมุกดาหาร – นครราชสีมา หมายเลขทะเบียน ป้ายเหลือง 10-7156 นครราชสีมา เพื่อทำการตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย

ขณะตรวจมาถึงเบาะนั่งหมายเลข 7D ของนายสาคร ศรีอุทัย พบมีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น กระเป๋าสะพายแบบผ้าสีดำที่นำมาด้วยและวางอยู่ที่ชั้นวางสัมภาระเหนือศรีษะของเบาะที่นั่ง พบสิ่งของต้องสงสัยแพ็กเป็นก้อน รวม 3 ก้อนปิดผนึกด้วยเทปกาวใส บรรจุอยู่ในกระเป๋าปะปนกับเสื้อผ้า เมื่อแกะออกดูแล้วพบเป็นยาบ้าจำนวน 15,610 เม็ด  จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล เบื้องต้น นายสาคร ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้มารับยาบ้าจำนวนดังกล่าวที่ บขส.มุกดาหารให้ไปส่งที่จังหวัดปราจีนบุรี ในราคาค่าจ้าง 60,000 บาท แต่ได้ถูกจับกุมเสียก่อน

ส่วนอีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมคำสร้อย ได้จับกุม นายณัฐวุฒิ โล่ห์คำ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ 9 ตำบลนากอก อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองพกสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซองไม่ทราบขนาด จำนวน 1 นัด หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซึ่งตั้งจุดตรวจ ได้สังเกตพบรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโลเล็ต สีดำ หมายเลขทะเบียน บจ 4689 มุกดาหารวิ่งมาจากเส้นทางอำเภอเลิงนกทา – นิคมคำสร้อย พอมาถึงจุดกลับรถ ก่อนถึงจุดตรวจประมาณ 100 เมตร ได้กลับรถอย่างกะทันหัน และขับมุ่งหน้าไปทางอำเภอเลิงนกทา มีพิรุธสงสัย ว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย จึงใช้รถยนต์ไล่ติดตามเพื่อตรวจสอบรถคันดังกล่าว

จนกระทั่งไล่ติดตามทันและส่งสัญญาณให้หยุด และสังเกตเห็นคนขับ ซึ่งทราบชื่อนายณัฐวุฒิ โล่ห์คำ ได้ทิ้งวัสดุบางอย่างออกจากรถลงพื้นริมถนนข้างรถยนต์ จึงเข้าตรวจสอบวัสดุดังกล่าว ปรากฏว่าเป็นอาวุธปืนลูกซองพกสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซองไม่ทราบขนาดจำนวน 1 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการจับกุม และได้แจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวะปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งมอบผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ. นิคมคำสร้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ผลการเลือกตั้งนายกเทศบาลเมืองมุกดาหารอย่างไม่เป็นทางการ

กกต.ประจำเทศบาลเมืองมุกดาหาร ประกาศผลการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังจากการเลือกตั้ง วันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ อย่างไม่เป็นทางการ

นายภูมิชัย หิรัญอร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองมุกดาหารได้จัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร ในวันเสาร์ที่ ๑๒ เดือน ตุลาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา แทนตำแหน่งที่ว่างลง ผลปรากฏดังนี้

หมายเลข ๑ นายภูมินทร์ สิเนหวัฒนะ ได้ ๖,๕๒๗ คะแนน

หมายเลข ๒ นางสุวรรรณี ตั้งปณิธานนท์ ได้ ๗,๘๐๒ คะแนน

หมายเลข ๓ นายธีระศักดิ์ ดาวมุกดา ได้ ๘๖๓ คะแนน

ผลการเลือกตั้งดังกล่าว ทำให้หมายเลข ๒ นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ ซึ่งได้คะแนนสูงที่สุด ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร นายภูมิชัย กล่าวต่อด้วยว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวม ๒๓,๓๓๒ คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น ๑๕,๗๑๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๐.๓๖ ซึ่งมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา บัตรเสีย ๒๑๓ คิดเป็นร้อยละ ๐.๙๕ ไม่ประสงค์ลงคะแนน ๓๐๘ คิดเป็นร้อยละ ๑.๓๘ 

ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดจัดพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนของข้าราชการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ ประปี 2556

วันนี้ (13 ต.ค. 56) เวลา 08.00 น.  พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนของข้าราชการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2556 ณ บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีข้าราชการทหาร พลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า คหบดีชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมในพิธี ภาคเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระสงฆ์ 30 รูป พิธีทางศาสนา อ่านสาร์นของผู้บัญชาการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน,อุดมคติตำรวจ อ่านคำสดุดีข้าราชการตำรวจผู้เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ พิธียืนสงบนิ่งเพื่อร่วมไว้อาลัยให้กับข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ และมอบเกียรติบัตรแก่ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นด้านต่างๆ รวม 15 นาย จากนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวกับข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดที่ร่วมในพิธีว่า ในรอบปีที่ผ่านมาข้าราชการตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ปฏิบัติหน้าที่ และภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยความลำบาก เหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ ต้องใช้ความอดทน อดกลั้น ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพี่น้องประชาชน ให้ดำเนินชีวิต ประวันได้อย่างเป็นปกติสุข และปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้นจะจะสำเร็จลุล่วงไม่ได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากทุกฝ่าย พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยถึงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ภายหลังเป็นประธานในพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนของข้าราชการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ ประจำ 2556 ที่ จังหวัดร้อยเอ็ด วันนี้ว่า ในรอบปีที่ผ่านมาตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สนองนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีผลการจับกุมคดีผู้ค้ายาเสพติดในรอบปีที่ผ่านมาอยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ ปีละไม่ต่ำกว่า 6 พันราย และระหว่างวันที่ 5 – 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด มีการปฏิบัติงานอยู่ในลำดับที่ 1 ของภาค จาก 12 จังหวัดอีสาน โดยจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้ 500 กว่าราย ซึ่งมีทั้งคดีอาวุธปืน คดีชิงและปล้นทรัพย์ และคดียาเสพติด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ยังเปิดเผยด้วยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สนองนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดยเคร่งครัดให้หมั่นตรวจตราดูแลอาคาร สถานที่ให้สะอาด สวยงาม ทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดทุกนายให้มีความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะตามร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ด้วยการให้มีการเข้าเวรยามอย่างเนื่อง และได้ฝากให้ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดให้มีส่วนช่วยตำรวจในการในดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุผลสำเร็จ



 วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
 13 ต.ค. 56

ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดมีผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด อยู่ในลำดับที่ 1 ของตำรวจภูธรภาค 4 ใน 12 จังหวัดภาคอีสาน โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนช่วยเหลือตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยถึงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ภายหลังเป็นประธานในพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนของข้าราชการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ ประจำ 2556 ที่ จังหวัดร้อยเอ็ด วันนี้ว่า ในรอบปีที่ผ่านมาตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สนองนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีผลการจับกุมคดีผู้ค้ายาเสพติดในรอบปีที่ผ่านมาอยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ ปีละไม่ต่ำกว่า 6 พันราย และระหว่างวันที่ 5 – 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด มีการปฏิบัติงานอยู่ในลำดับที่ 1 ของภาค จาก 12 จังหวัดอีสาน โดยจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้ 500 กว่าราย ซึ่งมีทั้งคดีอาวุธปืน คดีชิงและปล้นทรัพย์ และคดียาเสพติด

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ยังเปิดเผยด้วยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สนองนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดยเคร่งครัดให้หมั่นตรวจตราดูแลอาคาร สถานที่ให้สะอาด สวยงาม ทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดทุกนายให้มีความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะตามร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ด้วยการให้มีการเข้าเวรยามอย่างเนื่อง และได้ฝากให้ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดให้มีส่วนช่วยตำรวจในการในดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุผลสำเร็จ



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
13 ต.ค. 56

บุรีรัมย์ปิด 1 ใน 2 ศูนย์อพยพหนีน้ำท่วมขณะ ปชช.ขอกลับถึงแม้น้ำจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ซม.

บุรีรัมย์ปิด 1 ใน 2 ศูนย์อพยพหนีน้ำท่วมขณะ ปชช.ขอกลับถึงแม้น้ำจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ซม. ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้ปิด 1 ใน 2 ศูนย์อพยพมารวมเป็นศูนย์เดียว ขณะชาวบ้านที่ห่วงทรัพย์สิน และต้องการขอไปใช้ชีวิตที่บ้าน ถึงแม้ระดับน้ำจะยังท่วมอยู่สูงกว่า 50 ซม. ขณะที่น้ำที่เขื่อนลำนางรองยังล้นสปิลเวย์ เอ่อท่วมหลายอำเภอที่อยู่ท้ายน้ำอย่างต่อเนื่อง ( 13 ต.ค.56) สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ยังคงล้นสปิลเวย์หรือเกิดความจุของอ่างอยู่กว่า 30 เซนติเมตร หรือประมาณ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังคงไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.นางรอง ซึ่งอยู่ท้ายน้ำอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะชาวบ้านบ้านส้มป่อย และบ้านโคกตะคร้อ ต.ส้มป่อย อ.โนนดินแดง ที่อพยพมาอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่ที่ว่าการอำเภอโนนดินแดง และศาลาวัดบ้านหนองกก เกือบ 300 ครอบครัวมาเป็นเวลานานร่วมสัปดาห์ ก็ได้ทยอยกลับเข้าบ้านแล้ว เพราะต่างเป็นห่วงทรัพย์สิน ถึงแม้บ้านเรือนบ้านหลังจะยังคงมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร แต่ชาวบ้านก็ขอกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของตนเอง เนื่องจากต้องทิ้งบ้านมาอยู่ที่ศูนย์อพยพหลายวัน และล่าสุดทางอำเภอก็ได้ปิดศูนย์อพยพที่วัดบ้านหนองกกแล้ว เหลือเพียงที่หอประชุมอำเภอโนนดินแดงเพียงศูนย์เดียว ส่วนประชาชนที่ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ก็ให้ย้ายมารวมอยู่ที่ศูนย์อำเภอ เพื่อสะดวกในการดูแล ส่วนชาวบ้านที่ขอกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่ยังมีน้ำท่วม ทางอำเภอก็ยังคงจะประกอบอาหารไปแจกจ่ายให้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่น้ำที่ล้นสปิลเวย์เขื่อนลำนางรอง ยังคงหลากเข้าท่วมอีกหลายอำเภอที่อยู่ท้ายน้ำ เช่น อ.นางรอง ชำนิ และอ.ลำปลายมาศ อย่างต่อเนื่อง ด้านนายสุวิทย์ พุกกะเวส นายอำเภอโนนดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้น้ำที่เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน และไร่นาได้เริ่มลดระดับลงแล้ว อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่ามีนาข้าวของเกษตรกรจมน้ำที่เสียหายแล้วกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งจะได้เร่งรวบรวมข้อมูลเสนอรายงานจังหวัด เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์ / 13 ต.ค.56

บุรีรัมย์ปิดการจราจรถนนสาย 226 หลังเกิดเหตุรถบรรทุก จยย.ข้ามฟากถูกกระแสน้ำซัดเทกระจาด จยย.ตกน้ำ 13 คันบาดเจ็บ 5 ราย

บุรีรัมย์ปิดการจราจรถนนสาย 226 หลังเกิดเหตุรถบรรทุก จยย.ข้ามฟากถูกกระแสน้ำซัดเทกระจาด จยย.ตกน้ำ 13 คันบาดเจ็บ 5 ราย บุรีรัมย์ประกาศปิดการจราจร ถนนสาย 226 ลำปลายมาศ – ห้วยแถลง หลังเกิดเหตุรถบรรทุกบริษัทเอกชน ที่มาช่วยบรรทุกรถจักรยานยนต์และประชาชนข้ามฟาก หลังน้ำท่วมถนนสูงเกือบ 60 ซม.รถเล็กผ่านไม่ได้ เสียหลักพลิกคว่ำเทกระจาดรถจักรยานยนต์ 13 คัน พร้อมคนไหลไปตามน้ำ บาดเจ็บ 5 ราย (13 ต.ค.56) นายสุรพล ลีลาเลศ นายอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ให้เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรถนนสาย 226 ลำปลายมาศ – ห้วยแถลง ที่จะมุ่งหน้าไปยังจ.นครราชสรมา ที่บริเวณสะพานบ้านหนองไผ่ ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุรถบรรทุก 6 ล้อของบริษัทเอกชน ที่มาช่วยลำเลียงรถจักรยานยนต์ และประชาชน สัญจรข้ามฟากจากถนนอีกฝั่งไปยังอีกฝั่ง หลังน้ำเหนือจากนครราชสีมา และน้ำที่ล้นสปิลเวย์เขื่อนลำนงรอง ได้หลากเข้าท่วมถนนบริเวณดังกล่าวสูงเกือบ 60 เซนติเมตร ประกอบกับกระแสน้ำไหลเชี่ยว และเป็นช่วงกลางคืน ทำให้มองเห็นไหลถนนไม่ชัดเจน ส่งผลให้รถบรรทุกคันดังกล่าวเสียหลักพลิกคว่ำเทกระจาด จนทำให้รถจักรยานยนต์ที่ลำเลียงมาในรถบรรทุกจำนวน 13 คน พร้อมทั้งเจ้าของรถที่นั่งมาในรถด้วย ตกจากรถไหลไปตามน้ำ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อปพร. ที่มาคอยให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 แม่ลูกลอยไปตามกระแสน้ำด้วยแต่โชคดีที่ไปติดอยู่กับกิ่งไม้ ทั้งยังมีผู้ที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บด้วย 5 ราย จากนั้นหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อปพร. ได้ช่วยกันลงไปช่วยประชาชนขึ้นมาจากน้ำอย่างทุลักทุเล โดยมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 5 ราย ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ไหลตกลงไปในน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยได้งมขึ้นจากน้ำได้แล้ว 12 คัน ยังเหลืออีก 1 คันที่กำลังงมค้นหาอยู่ เนื่องจากไหลน้ำลึกและไหลเชี่ยว ด้านนายสุรพล ลีลาเลิศ นายอำเภอลำปลายมาศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการปิดการจราจรถนนสายสายดังกล่าว โดยในช่วงกลางวันให้เพียงรถบรรทุกขนาดใหญ่ผ่านเท่านั้น ส่วนกลางคืนห้ามรถทุกชนิดผ่าน เพราะเกรงจะได้รับอันตราย พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม. พร้อมประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางลำปลายมาศ – ชำนิ ที่จะมุ่งออกถนนสาย 24 อ.นางรองแทนชั่วคราว ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 5 – 10 เซนติเมตร ล่าสุดมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 7 ตำบล



สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์ / 13 ต.ค. 56 

“ปลอดประสพ” ลงพื้นที่บินสำรวจเขื่อนลำนางรองและตรวจสถานการณ์อุทกภัยที่บุรีรัมย์

"ปลอดประสพ” ลงพื้นที่บินสำรวจเขื่อนลำนางรองและตรวจสถานการณ์อุทกภัยที่บุรีรัมย์ "ปลอดประสพ” บินสำรวจเขื่อนลำนางรองและตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.บุรีรัมย์ เพื่อวางแผนแก้ปัญหาระยะยาว เตรียมใช้งบ 3.5 แสนล้านบริหารจัดหารน้ำทั้งระบบแก้ปัญหาฝนแล้งน้ำท่วม ชี้สาเหตุน้ำท่วมเกิดจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยกีดขวางทางน้ำ ( 13 ต.ค.56) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธาน กบอ. ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วม ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังได้นั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง ที่มีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บมากถึง 38 ล้านลูกบาศก์เมตร และล้นสปิลเวย์ไปแล้วมากถึง 33 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังเหลืออีก 5 ล้านลูกบาศก์เมตร จนทำให้เกิดปัญหาน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนน และพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอในเขตพื้นที่จังหวัด เพื่อนำข้อมูลไปวางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว โดยการเดินทางมาในครั้งทางจังหวัดได้นำเสนอ 4 โครงการฯ อาทิ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลุ่มน้ำลำนางรอง , ศึกษาลุ่มน้ำลำนางรอง และลุ่มน้ำสาขายาว 150 กม. , ขุดลอกแก้มลิงเหนือและท้ายเขื่อนลำนางรอง และปรับปรุงระบบระบายน้ำ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 270 ล้านบาท เพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีนำเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป พร้อมกันนี้นายปลอดประสพ ยังได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่อ.นางรอง จำนวน 500 ชุด ก่อนจะลงพื้นที่ตรวจติดตามระบบระบายน้ำ และเส้นทางที่น้ำไหลผ่าน ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง ด้วย ขณะที่ล่าสุดบุรีรัมย์มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 22 อำเภอ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า เห็นด้วยกับที่ทางจังหวัดเสนอให้มีการยกระดับเขื่อนลำนางรอง เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้นอีก 50 – 60 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะสามารถแก้ได้ทั้งปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม โดยอาจจะใช้งบประมาณบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน มาเป็นงบในการดำเนินการ ทั้งยังระบุอีกว่าจากข้อมูลรายงานพบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ เกิดจากประชาชนสร้างที่อาศัยปิดกั้นทางน้ำ ซึ่งก็ได้หารือกับทางจังหวัดเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์ / 13 ต.ค. 56

ก.เกษตรฯ เล็งติดเครื่องหมาย " Q" บนบรรจุภัณฑ์ข้าวสาร เพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคข้าว

กระทรวงเกษตรฯ เล็งติดเครื่องหมาย " Q" บนบรรจุภัณฑ์ข้าวสาร เพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคข้าวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรได้เห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับแนวทางการใช้ การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมาย Q กับสินค้าข้าวสาร ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศมาตรฐานสินค้าเกษตร ที่เกี่ยวกับข้าวมาแล้วจำนวน 9 ฉบับ ครอบคลุมตั้งแต่ระดับฟาร์ม โรงสี โรงบรรจุจนถึงสินค้าข้าว แบ่งออกเป็น ระดับฟาร์ม ได้แก่ 1. GAP ข้าวหอมมะลิ 2.GAP ข้าว ระดับโรงสีและโรงบรรจุ ได้แก่ 1.GAP โรงสีข้าว 2.GMP ข้าวกล้องงอก ระดับผลิตภัณฑ์ข้าว ได้แก่ 1.ข้าวหอมมะลิไทย 2.ข้าวหอมไทย 3.ข้าว 4.ข้าวกล้องงอก 5.ข้าวอินทรีย์ ซึ่งยังไม่เคยมีการติดเครื่องหมาย Q บนบรรจุภัณฑ์ข้าวสารเพื่อรับรองคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าข้าว

นายชวลิต กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ผลิตเข้าสู่ระบบมาตรฐานมากขึ้น และให้ผู้บริโภคสนใจชื้อสินค้าข้าวสารที่ได้มาตรฐาน ซึ่งมาจากฟาร์ม GAP และจากโรงสี GMP กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดทำแนวทางการใช้เครื่องหมาย Q กับสินค้าข้าวสาร เป็นการรับรองที่เชื่อมโยงจากเกษตรกรที่ผลิตตามมาตรฐาน GAP ไปยังโรงสี โรงบรรจุข้าวที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GMP/HACCP และสินค้าข้าวผ่าน การตรวจสอบตามมาตรฐานสินค้าข้าว โดยผู้ผลิตต้องแสดงว่ามีระบบการตามสอบ เพื่อให้หน่วยรับรองสามารถตรวจสอบได้ตลอดเส้นทาง โดยผู้ที่สามารถขอการรับรองและใช้เครื่องหมาย Q กับสินค้าข้าวสาร ได้แก่ ผู้บรรจุข้าวสาร ซึ่งอาจประกอบกิจการโรงสีด้วยหรือไม่ก็ได้ หรือกลุ่มสหกรณ์/วิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินการปลูกและสี/บรรจุข้าวสารด้วย

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานเกี่ยวกับแนวทางการใช้ การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมาย Q กับสินค้าข้าวสารเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ที่ประชุมจึงมอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอน ข้อปฏิบัติ ตลอดจนระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การใช้เครื่องหมาย Q กับสินค้าข้าวของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าได้บริโภคข้าวที่ได้มาตรฐานมีความปลอดภัยสูง ขณะเดียวกันผู้ผลิตก็สามารถจำหน่ายสินค้าข้าวได้ในราคาที่เป็นธรรม เป็นการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าข้าวของไทยสำหรับตลาดในประเทศและเพื่อการแข่งขันในเวทีการค้าโลก โดยให้เสนอรายละเอียดดังกล่าว ให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง อนึ่ง ข้าวสารเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉลี่ยประเทศไทยผลิตข้าวได้ปีละประมาณ 30-31 ล้านตันข้าวเปลือก หรือประมาณ 20 ล้านตันข้าวสาร ผลผลิตข้าวร้อยละ 55 ใช้บริโภคในประเทศ ที่เหลือร้อยละ 45 ส่งออกตลาดต่างประเทศ ดังนั้น การควบคุมระบบการผลิตข้าวสารด้านความปลอดภัยและคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำจึงเป็นมาตรการสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้อีกทางหนึ่ง

วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ รับสมัครนักศึกษาใหม่ ศึกษาต่อระดับ ปวส. ในระบบทวิภาคี

วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ เข้าศึกษาต่อระดับ ปวส. สาขาวิชาเทคนิคโลหะ สาขางานช่างเชื่อมโลหะ (ทวิภาคี) โดยนักศึกษามีรายได้และสวัสดิการระหว่างเรียน

นายวิชัย ปรินายวนิชย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัดเปิดการเรียนการสอนทวิภาคี 50 % ของการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนและเป็นการเพิ่มปริมาณผู้เรียนสายอาชีพ วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิร่วมกับ บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด ตั้งอยู่สมุทรปราการ และเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแสตนเลส เป็นบริษัทที่มาตรฐาน ได้รับรองมาตรฐาน ISO 9002 จัดการ ศึกษาทวิภาคีสาขางานเชื่อมโลหะการในระดับ ปวส. โดยทางบริษัทจะร่วมพิจารณาคัดเลือกนักศึกษากับทางวิทยาลัย และผู้ที่ได้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนการศึกษาตลอดการเรียน และมีสวัสดิการเป็นค่าตอบแทนจากทางบริษัท และสวัสดิการอื่นๆ ตลอดการเรียน

นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับสมัคร รุ่นที่ 1 รับจำนวน 20 คน โดยเปิดรับสมัครนักเรียนนักศึกษาระบบทวิภาคี ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2566 และจะสัมภาษณ์ในวันที่ 17 – 22 ตุลาคม 2556 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานทะเบียน วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4456-0120 ต่อ 225



สุวิทย์ เอี่ยมสอาด /ข่าว

ประธานกกต.สุรินทร์ ย้ำ การเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญ ขอให้ผู้มีสิทธิตัดสินใจเลือกคนดี ไม่คดโกง เข้าไปเป็นตัวแทน

นายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ (กกต.สุรินทร์) กล่าวว่า การเลือกตั้งนายก อบต. และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล(ส.อบต.) ในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม นี้ มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นโดยตรง จึงมีความสำคัญอย่างมากที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จะต้องไปเลือกตั้งโดยต้องเลือกคนดี มีความสามารถ ไม่คดโกง เพื่อให้ได้คนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ไปทำหน้าที่สำคัญในการพัฒนา ดูแลทุกข์สุข และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น จึงขอให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยพิจารณาเลือกคนที่ดีที่สุดเข้าไปทำหน้าที่แทนท่าน

ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่ได้แจ้งเหตุจะทำให้เสียสิทธิ 6 ประการ ได้แก่ 1. สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต. ส.ท. สมาชิกสภา อบจ. ส.ก. สมาชิกสภาเมือพัทยา ผู้ว่าฯ กทม นายก อบต. นายก อบจ. หรือนายกเทศมนตรี 2. สิทธิร้องคัดค้านการเลือกตั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน 3. สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา อบต. ส.ท. สมาชิกสภา อบจ. ส.ก. สมาชิกสภาเมืองพัทยา ผู้ว่า กทม. นายก อบต. นายก อบจ. หรือนายกเทศมนตรี 4. สิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน 5. สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่น และ6. สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภา อบต. ส.ท. สมาชิกสภา อบจ. ส.ก. สมาชิกเมืองพัทยา ผู้ว่าฯ กทม. นายก อบต. นายก อบจ. นายกเทศมนตรี นายกเมืองพัทยา ให้พ้นจากตำแหน่ง



กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

เทศบาลเมืองสุรินทร์ จัดหน่วยบริการสาธารณสุขเชิงรุกเยียวยาประชาชนหลังน้ำลด

นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชน หลังจากประสบกับปัญหาอุทกภัย จึงมอบหมายให้ศูนย์บริการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองสุรินทร์ ออกหน่วยบริการสาธารณสุขเชิงรุกสู่ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งไม่สามารถเดินทางมารับบริการด้านสาธารณสุขตามสถานพยาบาลได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดูแลสุขภาพอนามัยแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยและได้รับผลกระทบจากภาวะอุทกภัย โดยมีกำหนดการออกให้บริการในช่วงเวลา 16.30 – 20.30 น. ระหว่างวันที่ 7 – 18 ตุลาคม 2556 ดังนี้ วันที่ 7 - 11 ตุลาคม 2556 ที่ชุมชนเทศบาลอนุสรณ์ ชุมชนทุ่งโพธิ์ ชุมชนหนองบัว ชุมชนดองกะเม็ด และชุมชนปัทมานนท์

\ส่วนช่วงวันที่ 14 - 18 ตุลาคม 2556 ดังนี้ วันที่ 14 ตุลาคม 2556 ชุมชนมั่งมีศรีสุข ณ บ้านประธานชุมชน วันที่ 15 ตุลาคม 2556 ชุมชนไตรรงค์ ณ บ้านประธาน อสม. วันที่ 16 ตุลาคม 2556 ชุมชนหมอกวน ณ ที่ทำการชุมชน วันที่ 17 ตุลาคม 2556 ชุมชนสระโบราณ ณ ที่ทำการชุมชน และวันที่ 18 ตุลาคม 2556 ชุมชนโนงปรีง ณ บริเวณกลางซอยป่วนแสงอุทิศ จึงขอเชิญชวนประชาชนในชุมชนดังกล่าวไปรับบริการด้านสาธารณสุขตามกำหนดการและสถานที่ที่ดังกล่าว



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดจัดพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนของข้าราชการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ ประปี 2556

วันนี้ (13 ต.ค. 56) เวลา 08.00 น. พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนของข้าราชการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2556 ณ บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีข้าราชการทหาร พลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า คหบดีชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมในพิธี ภาคเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระสงฆ์ 30 รูป พิธีทางศาสนา อ่านสาร์นของผู้บัญชาการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน,อุดมคติตำรวจ อ่านคำสดุดีข้าราชการตำรวจผู้เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ พิธียืนสงบนิ่งเพื่อร่วมไว้อาลัยให้กับข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ และมอบเกียรติบัตรแก่ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นด้านต่างๆ รวม 15 นาย

จากนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวกับข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดที่ร่วมในพิธีว่า ในรอบปีที่ผ่านมาข้าราชการตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ปฏิบัติหน้าที่ และภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยความลำบาก เหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ ต้องใช้ความอดทน อดกลั้น ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพี่น้องประชาชน ให้ดำเนินชีวิต ประวันได้อย่างเป็นปกติสุข และปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้นจะจะสำเร็จลุล่วงไม่ได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากทุกฝ่าย

พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยถึงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ภายหลังเป็นประธานในพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนของข้าราชการตำรวจ เนื่องในวันตำรวจ ประจำ 2556 ที่ จังหวัดร้อยเอ็ด วันนี้ว่า ในรอบปีที่ผ่านมาตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สนองนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีผลการจับกุมคดีผู้ค้ายาเสพติดในรอบปีที่ผ่านมาอยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ ปีละไม่ต่ำกว่า 6 พันราย และระหว่างวันที่ 5 – 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด มีการปฏิบัติงานอยู่ในลำดับที่ 1 ของภาค จาก 12 จังหวัดอีสาน โดยจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้ 500 กว่าราย ซึ่งมีทั้งคดีอาวุธปืน คดีชิงและปล้นทรัพย์ และคดียาเสพติด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ยังเปิดเผยด้วยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สนองนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดยเคร่งครัดให้หมั่นตรวจตราดูแลอาคาร สถานที่ให้สะอาด สวยงาม ทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดทุกนายให้มีความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะตามร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ด้วยการให้มีการเข้าเวรยามอย่างเนื่อง และได้ฝากให้ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดให้มีส่วนช่วยตำรวจในการในดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุผลสำเร็จ



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
13 ต.ค. 56

ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดงานวันตำรวจประจำปี 2556

ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดงานวันตำรวจประจำปี 2556 ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และมอบโล่ ประกาศเกียรติคุณแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ประจำปี 2556 พร้อมปฏิบัติญาณตนจะเป็นข้าราชการที่ดี รับใช้ประชาชน

วันนี้ (13 ต.ค. 56) เวลา 08.30 น.ที่บริเวณลานหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการประกอบพิธีวันคล้ายวันสถาปนากรมตำรวจ หรือ วันตำรวจ ประจำปี 2556 โดยมีนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นางศิริลักษณ์ เสียงไพรพันธ์ เผือกผ่อง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร่วมพิธีกว่า 400 คน ซึ่งพิธีเริ่มด้วยการประกอบพิธีทางศาสนา ถวายภัตตาหาร จตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูปเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่, มอบโล่ ใบประกาศเกียรติคุณ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลงานการปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น, ครูตำรวจแดร์ ดีเด่น, มอบเงินช่วยเหลือให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติราชการ จำนวน 3 นาย และมอบโล่ กต.ตร.จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้สนับสนุนกิจการตำรวจ จากนั้น พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ได้อ่านสาร พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจได้กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน พร้อมจะเป็นข้าราชการที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในกฎระเบียบ เป็นผู้รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ต้องขอชื่นชม แสดงความยินดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณเนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2556 ที่ได้เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิด ตลอดจนป้องกันปัญหาต่าง ๆ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดที่การจับกุมแต่ละครั้งล้วนมีอันตรายแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายก็ไม่เคยเกรงกลัว และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านได้ช่วยกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากจังหวัดกาฬสินธุ์ของเรา



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ชาวบ้านแห่จับปลาท้ายเขื่อนอุบลรัตน์หลังเขื่อนเปิดประตูระบายน้ำ

เขื่อนอุบลรัตน์ปิดประตูระบายน้ำ ชาวบ้านนับพันคน แห่จับปลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนบานที่ 2 และบานที่ 3 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 1,000 คน ต่างนำอุปกรณ์หาปลาชนิดต่างๆ ลงจับปลาบริเวณท้ายบานประตูระบายน้ำ เนื่องจากปลาจำนวนมาก เมื่อทางเขื่อนปิดประตูระบายน้ำ จึงทำให้ปลาจำนวนมากมาอออยู่ที่บริเวณท้ายประตูระบายน้ำ เมื่อชาวบ้านทั้งในจังหวัดขอนแก่น และใกล้เคียงทราบ จึงมาร่วมกันจับปลา ซึ่งปลาที่จับได้ตัวใหญ่สุดเป็นปลากดคัง น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม เป็นฝีมือการจับของชาวบ้านที่เดินทางมาจากอำเภอเมืองขอนแก่น และต้องใช้คนจับออกจากแหถึง 5 ที่จับปลากดคังตัวนี้ได้ ก็ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าเพราะถูกหางปลาฟาดเข้าที่ใบหน้า ปลาที่จับได้จะนำไปขายต่อให้ร้านอาหารกิโลกรัมละ 250 บาทต่อไป ส่วนเงินที่ได้จะนำมาเฉลี่ยแบ่งปันในกลุ่ม

นายประยูร วิลัย หัวหน้ากองเดินเครื่องโรงไฟฟ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณในเขื่อนอุบลรัตน์มีความจุอยู่ที่ร้อยละ 75.66ของความจุอ่าง ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้น้ำจนถึงหน้าแล้งปีหน้า จึงทำให้ต้องลดการระบายน้ำ ประกอบกับขณะนี้มวลน้ำที่ท่วมอยู่ในที่ลุ่มแม่น้ำชี ได้ไหลเข้าเขตพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น

ดังนั้น เมื่อทางเขื่อนหยุดการระบายน้ำจะทำให้มวลน้ำชีไหลเข้าลำน้ำพอง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณมวลน้ำของแม่น้ำชีให้ลดลง ก่อนจะไหลเข้าท่วมในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามต่อไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

พิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่จังหวัดขอนแก่น

นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมข้าราชการทหาร ตำรวจจังหวัดขอนแก่น ตำรวจตระเวรชายแดนภาค 2 ร่วมทำพิธีรับศพ จ.ส.ต.วิชิต อดทน สังกัดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตหลังจากเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่บ้านสะแนะ หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ร่างของ จ.ส.ต.วิชิต อดทน ตำแหน่งช่วยงานสืบสวนคดีสำคัญ ศปก. ถูกบรรจุ และคลุมด้วยธงไตรรงค์ ส่งโดยเครื่องบินซี 130 กองทัพอากาศมายังจังหวัดขอนแก่น โดยตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ได้จัดกองเกียรติยศให้การต้อนรับ มีภรรยา ลูก และญาติพี่น้องมาคอยรับศพ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า มีข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจเข้าแถวก่อนเคลื่อนศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวารุการาม อ.พล จ.ขอนแก่น ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปูนบำเหน็จ 6 ชั้นยศ เป็น พ.ต.ท.วิชิต อดทน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคมนี้


ข่าว/พิมพ์  นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย

วันนี้ (13 ต.ค. 56) เวลา 15.00 น.  ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ มอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด ให้กับราษฎรในพื้นที่อำเภอพิมาย ที่ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยมี ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ และรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ขณะนี้เขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่ง ของจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณน้ำกักเก็บ คิดเป็น 93 เปอร์เซ็นต์ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 22 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บ คิดเป็น 96 เปอร์เซ็นต์ และจากฝนที่ตกลงอย่างเนื่องทำให้เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ ทางจังหวัดได้ประกาศเขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือ จำนวน 32 อำเภอ 212 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 72,326 ครัวเรือน 98,901 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย จำนวน 189,998 ไร่ และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย โดยภายหลังจากการมอบถุงยังชีพให้กับราษฎรแล้ว รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้สำรวจพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ก่อนจะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังเขื่อนลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสำรวจปริมาณน้ำภายในเขื่อนต่อไป

รองนายกฯ ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่บุรีรัมย์

รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดบุรีรัมย์ กำชับจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและวางแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวหลังพบมีปัญหาการบุกรุกลำน้ำทำให้ลำน้ำคับแคบน้ำไหลไม่สะดวกเอ่อท่วมหนัก

วันนี้ (13 ต.ค. 56) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รายงานข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัด สรุปมีพื้นที่ประสบภัย รวม 22 อำเภอ 114 ตำบล 1,018 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับผลกระทบ 258,597 คน 59,281 ครัวเรือน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำลำนางรอง ลุ่มน้ำลำปลายมาศ และแม่น้ำมูล ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ในพื้นที่ อ.โนนสุวรรณ และ อ.ละหานทราย มีทรัพย์สินเป็นบ้านครัวเรือนเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง พืชไร่ 48,595 ไร่ นาข้าว 189,808 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา กุ้ง และตะพาบน้ำ 4,561 บ่อ สัตว์เลี้ยง 810 ตัว ถนน 268 สาย สะพาน 3 แห่ง โรงเรียน 4 แห่ง ฝาย 8 แห่ง วัด 26 แห่ง และสถานที่ราชการรวม 3 แห่ง ขณะที่ทางจังหวัด ได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จากหน่วยงานทหารจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ นปพ.52 และทหารพราน รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยการนำถุงยังชีพรวม 14,780 ชุด ออกแจกจ่ายช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย จากนั้นได้ร่วมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.นางรอง จำนวน 1,500 ชุด และเดินทางไปสำรวจพื้นที่ระบายน้ำในจุดต่าง ๆ ของ อ. นางรอง เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป”

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ได้กำชับให้ทางจังหวัดเร่งสำรวจและช่วยเหลือบรรเทาความเดอดร้อนแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยโดยด่วน พร้อมวางแผนรับมือในพื้นที่รับน้ำที่น้ำจะไหลต่อไป ซึ่งจากการรายงานพบว่าสาเหตุของการเกิดอุทกภัยในครั้งนี้ เนื่องจากมีการบุกรุกที่ดินสาธารณะ เข้าไปในลำน้ำทำให้ลำน้ำคับแคบและตื้นเขิน เมื่อมีปริมาณฝนตกลงมามาก และทำให้เกิดปริมาณน้ำหลากมากเกินกว่าประสิทธิภาพการระบายน้ำของลำน้ำได้ ซึ่งได้กำชับให้จริงจังในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อป้องกันเกิดปัญหาอุทกภัยซ้ำซ้อนทุกปี พร้อมทั้งสั่งให้ทุกพื้นที่เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณะอีกด้วย”



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

พุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคาม ร่วมปฏิบัติธรรมระหว่างเข้าพรรษา

คณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานพุทธสมาคม ยุวพุทธิกสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม และเทศบาลเมืองมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรมเทศน์ระหว่างเข้าพรรษา ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง ประจำปี 2556 เป็นวัดสุดท้ายก่อนถึงวันออกพรรษา

(13-10-56) ที่ศาลาปฏิบัติธรรมวัดมหาชัย พระอารามหลวง คณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานพุทธสมาคม ยุวพุทธิกสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม และเทศบาลเมืองมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรมเทศน์ระหว่างเข้าพรรษา ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง ประจำปี 2556 เป็นวัดสุดท้ายก่อนถึงวันออกพรรษา โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายวิทย์ ลิมานนท์วราชัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม พุทธศาสนิกชนชาวชุมชนมหาชัยและชาวคุ้มภายในและรอบนอกเขตเทศบาลร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคามร่วมกับพุทธสมาคมจังหวัดมหาสารคาม ยุวพุทธิกสมาคม ชุมชน พ่อค้า ประชาชน หน่วยงานสถานศึกษาและสาธุชนทั่วไป ได้กำหนดจัดกิจกรรม เทศน์ระหว่างพรรษาตามวัดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคามและเขตใกล้เคียง จำนวน 32 วัด แสดงพระธรรมเทศนา 32 กัณฑ์ ซึ่งเป็นการเทศนากัณฑ์ที่ 32 เป็นวัดสุดท้ายในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงาม ตลอดทั้งเพื่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ตำรวจมหาสารคามจัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมตำรวจ

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นำข้าราชการตำรวจในสังกัด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมตำรวจ

(13-10-56) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พ.ต.อ.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นำข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลพระภูมิเจ้าที่ ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมตำรวจ โดยมีพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง เป็นประธานสงฆ์ พร้อมทั้งยังได้มอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น มีระเบียบวินัย มีความเสียสละ และเป็นขวัญกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ รวม 3 นาย ทั้งนี้ มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และข้าราชการ ภาคเอกชน ในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมงาน

รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวให้โอวาทแก่ข้าราชการตำรวจเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมตำรวจ ในวันนี้ ว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรมอย่างตรงไปตรงมาตามหลักนิติธรรมและนิติรัฐ เป็นที่พึ่งของประชาชน และแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน เป็นสำคัญ พร้อมขอขอบคุณข้าราชการตำรวจทุกนายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ จนงานทุกอย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดี



ส.ปชส.มหาสารคาม-ข่าว