วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

มมส. จัดงานวันสถาปนาคณะแพทยศาสตร์ ครบรอบ 10 ปี

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดพิธีทำบุญตักบาตร แถลงผลการดำเนินงาน และการบรรยายพิเศษ เนื่องในโอกาสคล้ายวันสถาปนาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครบรอบ 10 ปี

(21-11-56) ที่บริเวณอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์และศูนย์วิจัยเฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสาคาม ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์เรือน สมณะ (ราชบัณฑิต) พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์และนิสิต ร่วมกันทำบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสคล้ายวันสถาปนาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครบรอบ 10 ปี พร้อมแถลงผลการดำเนินงานต่อสื่อมวลชน และบรรยายพิเศษ "เหลียวหลังแลหน้า 10 ปี คณะแพทยศาสตร์” โดยมี นายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม รองศาสตราจารย์ ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และคณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ ร่วมแถลงผลการดำเนินงาน

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2546 ปัจจุบันมีคณาจารย์และบุคลากรรวม 210 คน เปิดการการเรียนการสอน 5 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต หลักสูตร 6 ปี ,หลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต , หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาวิชาเวชกิจฉุกเฉิน, หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ (วท.ม )และหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต วิทยาศาสตร์สุขภาพ (ปร.ด) มีนิสิตรวมจำนวน 621 คน และบัณฑิตที่จบการศึกษาไปแล้ว จำนวน 447 คน

เปิดให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วย โดยรับผู้ป่วยนอกและยังไม่มีผู้ป่วยใน ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล ขนาด 200 เตียง ขนาด 12 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 17,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ตลอดจนบุคลากรทางการ แพทย์ ให้มีความพร้อมสำหรับเปิดให้บริการในอนาคต



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดประชุมคณะกรรมการจัดระเบียบโรงฆ่าสัตว์ การฆ่าสัตว์และการจำหน่ายเนื้อสัตว์

วันนี้ (๒๑ พ.ย. ๕๖) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการจัดระเบียบโรงฆ่าสัตว์จังหวัดมุกดาหาร เพื่อวางแผนพัฒนาโรงฆ่าสัตว์ การกำกับดูแลโรงฆ่าสัตว์และการฆ่าสัตว์ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการพัฒนาโรงฆ่าสัตว์

นายชูยศ เชาว์สิริกุล ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหารกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณะสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการตามนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารสำหรับประชาชนผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และกรมปศุสัตว์ได้ขอความร่วมมือจากจังหวัดมุกดาหาร ให้ติดตามเร่งรัดพัฒนาโรงฆ่าสัตว์ การกำกับการดูแลการฆ่าสัตว์และพัฒนาสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์(เขียงเนื้อสัตว์) ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนมีเนื้อสัตว์บริโภคที่สะอาดและปลอดภัย ถูกสุขอนามัยสำหรับการบริโภค ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานผลดำเนินการอาหารปลอดภัย (เนื้อสัตว์) การดำเนินการพัฒนาการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ของจังหวัดมุกดาหาร โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด เพื่อสุขภาพของประชาชนให้มีเนื้อสัตว์บริโภคที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย สำหรับการบริโภค

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามแนวทางของกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยทำความเข้าใจชี้แจงให้ผู้ประกอบการได้ดำเนินการอย่างถูกต้องและพัฒนาโรงฆ่าสัตว์ การจำหน่ายเนื้อสัตว์รวมถึงสถานที่จำหน่ายให้มีคุณภาพ ในขณะนี้จังหวัดมุกดาหารให้สำรวจความพร้อมที่จะสร้างโรงฆ่าสัตว์ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการ "โครงการต้นแบบเพื่อเพิ่มศักยภาพเมืองท่องเที่ยวผลิตเนื้อสัตว์ปลอดภัย จังหวัดมุกดาหาร ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ – ๒๕๖๑ ”



สุภาวดี อัมไพพันธ์/เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ส.ปชส.มห./ข่าว 
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ส.ปชส.มห./ภาพ

ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหารการเปิดประชุมชี้แจงให้ความรู้งานประกันสังคม ประจำปี 2556

วันนี้ (21 พ.ย. 56) เวลา 09.30 น.ณ ห้องแม่โขง โรงแรมริเวอร์ซิตี้ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายกิฤตพัฒน์ ครุฑกุล แรงงานจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดประชุมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประกันสังคม ชี้แจงทบทวนแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมาย และให้ความรู้ถึงสิทธิประโยชน์อันพึงได้รับจากกองทุนประกันสังคม โดยมีผู้ประกันตน และนายจ้าง สถานประกอบการ เข้าร่วมประชุมจำนวน 100 คน

นายทวีวัฒน์ ประสงค์ธรรม รักษาการประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ประกันสังคมมีหน้าที่รับผิดชอบในการให้ความคุ้มครองแกลูกจ้าง และผู้ประกันตน เพื่อสร้างหลักประกันตนในการดำรงชีวิต มีหลักสำคัญที่มุ่งให้ลูกจ้างผู้ประกันตนเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามที่ขาดรายได้ หรือมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ว่างงาน ชราภาพ และมีบุตรต้องอุปการะเลี้ยงดู เป็นมาตรการซึ่งก่อให้เกิดความมั่นคงในชีวิต โดยมีนายจ้างและลูกจ้างมีส่วนร่วมกันจ่ายเงินสบทบเข้ากองทุน และรัฐบาลช่วยสนับสนุนสมทบส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นทุนในการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้ลูกจ้างที่เข้าร่วมโครงการต่อไป



พิพัฒน์ เพชรสังหาร/เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ส.ปชส.มห/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ไอลดา สุทธิประภา/นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ส.ปชส.มห/ภาพ

กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยจัดการอบรมโครงการ “เยาวชนไทย รู้รักสามัคคี” ที่จังหวัดมุกดาหาร

วันนี้ 21 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์ฝึกกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จัดอบรมโครงการ"เยาวชนไทย รู้รักสามัคคี” รุ่นที่ 1 โดยมีนายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการ "เยาวชนไทย รู้รักสามัคคี” เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ปลูกจิตสำนึกในคุณค่าและความสำคัญของความสามัคคี อันจะเป็นพลังในการสร้างประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้า และเพื่อให้เกิดความมั่นคงในท้องถิ่น

พลตรี กิตติเทพ เจียรสุมัย ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการกิจกรรมพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมกิจกรรมพลเรือนทหารจัดทำโครงการ "เยาวชนไทย รู้รักสามัคคี” เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนครพนม มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 300 คน อายุระหว่าง 15-18 ปี จากสถาบันศึกษาในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 11 สถาบัน ประกอบด้วย โรงเรียนมุกดาหาร โรงเรียนผึ่งแดดวิทยาคาร โรงเรียนนวมินทราชูทิศ อีสานโรงเรียนมุกดาวิทยานุกูล โรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ โรงเรียนดอนตาลวิทยา โรงเรียนดงหลวงวิทยา โรงเรียนคำชะอีวิทยาคาร โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา โรงเรียนหนองสูงสามัคคีวิทยา และโรงเรียนคำชะอีพิทยาคม ครูฝึกประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากกองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 โดยรูปแบบกิจกรรมประกอบด้วย การฝึกอบรมให้ความรู้ ปลูกจิตให้มีความรัก สามัคคี การฝึกระเบียบวินัย การแสดงภาวะผู้นำ และการทำกิจกรรมร่วมกันในหมู่คณะโดยเยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมฯ จะสามารถเป็นผู้นำเยาวชนในพื้นที่ นำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และขยายผลไปสู่สังคม เพื่อจะส่งผลดีให้กับประเทศชาติต่อไป




พิพัฒน์ เพชรสังหาร/ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกงาน/ส.ปชส.มห/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกงาน/ ส.ปชส.มห/ภาพ

ปกครองอำเภอเมืองสนธิกำลังทหารไล่สกัดรถขนไม้พะยูงเตรียมส่งข้ามโขง

วันนี้ (21 พ.ย. 56 ) นายจิรพงษ์ แก้วมณี นายอำเภอเมืองมุกดาหาร ได้รับรายงานจากสายว่า จะมีกลุ่มผู้ลักลอบขนไม้พะยูง มาลงที่ท่าน้ำบ้านบางทรายใหญ่ ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จ.มุกดาหาร จึงประสาน พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.มุกดาหาร ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พันตำรวจเอก พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ตชด.234 ทหารพราน 2105 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผนึกกำลังเข้าดักซุ่มบริเวณบ้านบางทรายใหญ่

จนกระทั่งพบรถบรรทุกกระบะ อีซูซุ ดีแมค หมายทะเบียน บ จ – 2735 มุกดาหาร สีบรอนซ์เงิน วิ่งมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงออกมาให้สัญญาณหยุด แต่กลับเร่งเครื่องยนต์เพื่อจะหลบหนี จึงได้ขับรถไล่ติดตาม แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วจนคนขับรถเจียนตัว จึงได้จอดรถ และเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นรถยนต์พบไม้พะยูง 108 ท่อน /เหลี่ยม ปริมาตร 1.56 ลูกบาศก์เมตร คิดมูลค่า 5 แสนบาท และ คาดว่าไม้พะยูงดังกล่าวน่าจะนำมาจากภูสีฐาน และนำมาส่งให้แก่นายทุนเพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ พร้อมไม้พะยูง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อติดตามหาเจ้าของรถยนต์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



พิพัฒน์ เพชรสังหาร
ส.ปชส.มห/ข่าว

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์ “เตือนคนหางานไทยระวังถูกหลอกไปทำงานญี่ปุ่นโดยใช้ FREE VISA

นางสาวจรัสศรี อิฎฐกุล จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นได้เป็นระยะเวลา ๑๕ วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า(FREE VISA) ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ทำให้มีคนไทยบางส่วนถือโอกาสเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและลักลอบทำงาน โดยคนกลุ่มนี้บางส่วนถูกหลอกลวง ต้องจ่ายค่านายหน้าสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและลักลอบทำงาน จำนวนถึง ๓๐๐,๐๐๐ บาท

ทั้งนี้ สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร มีความห่วงใยประชาชนคนหางาน และแรงงานไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางการญี่ปุ่นมีบทลงโทษสำหรับคนต่างชาติที่อาศัยและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและผู้ที่ทำกิจกรรมผิดประเภทของวีซ่าอย่างเข้มงวด กล่าวคือ โทษปรับสำหรับคนต่างชาติที่อาศัยและเข้าเมือง โดยผิดกฎหมายเป็นเงินสูงสุดไม่เกิน ๓,๐๐๐,๐๐๐ เยน และสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมผิดประเภทของวีซ่าที่ได้รับอนุญาตเป็นเงินไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ เยน ทั้งนี้ หากไม่มีเงินชำระค่าปรับจะต้องถูกกักขังและใช้แรงงาน

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอแจ้งเตือนประชาชน/คนหางานที่สนใจจะเดินทางไปทำงานในญี่ปุ่นอย่าได้หลงเชื่อสาย/นายหน้าเถื่อนที่ชักชวนให้ไปทำงานในญี่ปุ่นโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว(FREE VISA) เพราะนอกจากจะสูญเสียเงินจำนวนมากให้กับสาย/นายหน้าเถื่อนและไม่มีงานในญี่ปุ่นให้ทำแล้ว ยังต้องเสี่ยงอยู่อาศัยในญี่ปุ่นอย่างหลบๆซ่อนๆ และจะได้รับการลงโทษเมื่อถูกทางการญี่ปุ่นจับได้ หากท่านจะเดินทางเข้าไปทำงานในญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมายท่านจะต้องได้รับวีซ่าสำหรับการทำงานหรือฝึกงานโดยเฉพาะ และต้องได้รับอนุญาตจากกรมจัดหางานให้เดินทางเข้าไปทำงานในญี่ปุ่นได้เท่านั้น หากพบเห็นบุคคลใดที่มีพฤติกรรมหลอกลวงคนหางาน ขอให้ร้องทุกข์แจ้งเบาะแสหรือหรือสอบถามข้อเท็จจริงได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลาง(ชั้น ๑) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โทร.๐๔๒-๖๑๓๐๓๗-๘ ในวันเวลาราชการ



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์ การรับสมัครคัดเลือกและจัดส่งคนไทยไปฝึกงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น โดยผ่านองค์กร IM ปี ๒๕๕๖

นางสาวจรัสศรี อิฏฐกุล จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานจะดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกคนไทยไปฝึกงานเทคนิคประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านองค์กร IM ปี ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ สมัครด้วยตนเอง ณ ฝ่ายจัดส่งไปทำงานประเทศญี่ปุ่น (IM) สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ อาคารสำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ ๓ ชั้น ๑๐ ภายในกระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด ในวันเวลาราชการ ระหว่างวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ถึง ๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ ผู้สมัครไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าสมัครใดๆ ทั้งสิ้น กำหนดการสอบข้อเขียน ทดสอบสมรรถภาพร่างกายและสอบสัมภาษณ์ ให้ดูวัน เวลา สถานที่ที่สอบข้อเขียน ทดสอบสมรรถภาพร่างกายและสอบสัมภาษณ์ในวันที่ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ ในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ อาคารสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ๓ ชั้นล่าง ภายในบริเวณกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร และสำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด และทางเว็บไซต์ (http;//lib.doe.go.th/index.asp หรือ www.overseas.doe.go.th)

ทั้งนี้ หากคนหางานมีข้อสงสัยประการใดสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร โทร. ๐๔๒-๖๑๓๐๓๗-๘



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ยโสธรจัดงานวันรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน

จังหวัดยโสธร จัดงานวันรำลึกถึงผู้สูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน  ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว  จังหวัดยโสธร นายวัชเรนทร์  สืบสิทธิ์  ปลัดจังหวัด เป็นประธานเปิดจัดกิจกรรมวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน  โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธรดำเนินการจัดขึ้น นายธีรยุทธ์   จันทร์ดิษฐวงษ์  หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก ประกาศให้สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน  เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม และให้ความสำคัญต่อปัญหาอุบัติทางถนน  เข้าใจถึงผลกระทบ รับรู้ถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น  และตระหนักถึงสิ่งที่ต้องทำเพื่อป้องกันมิให้อุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้น  จากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน พบว่าสถิติผู้เสียชีวิตในปี 2555 สูงถึง 9,719 คน หรือเฉลี่ยวันละ 27 คน  คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 15 คน ต่อประชากรแสนคน  ดังนั้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร  จึงได้จัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้ กิจกรรมประกอบไปด้วย การจัดนิทรรศกาล /การบรรยายให้ความรู้ด้านความปลอดภัย/ การจัดแสดงการป้องกันการช่วยเหลือจากภัยต่างๆ



วรรณทอง   ภูโสภา
ส.ปชส.ยโสธร/ภาพ/ข่าว

สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดยโสธร รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อแต่งตั้งเป็นลูกจ้างชั่วคราว

สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดยโสธร ประสงค์รับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อแต่งตั้งเป็นลูกจ้างชั่วคราว เพื่อปฏิบัติงานสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดยโสธร จำนวน 1 อัตรา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการเงินและบัญชี

ผู้ประสงค์จะสมัครสอบแข่งขันขอใบสมัครและยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ได้ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดยโสธร ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 ในวัน เวลา ราชการ

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 045-714072



ส.ปชส.ยโสธร
ปิยะนุช 21 พฤศจิกายน 2556

ยโสธรประกวดวาดภาพและเรียงความ หัวข้อ “จังหวัดของฉันในปี 2020”

จังหวัดยโสธร จัดประกวดจากภาพและประกวดเรียงความ หัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020” ชิงทุนการศึกษาระดับจังหวัด และระดับประเทศ

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจะดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่ง ด้วยงบประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท และมีการจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ทั่วทุกภูมิภาค ภายใช้ชื่องาน "สร้างอนาคตไทย 2020” เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน

และเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับกลุ่มนักเรียน,นักศึกษา รัฐบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ จัดการประกวดวาดภาพและประวกเรียงความ ในหัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020” โดยการประกวดวาดภาพ ประกวดในระดับประถมศึกษา ขนาดภาพ 19 x 26.5 ซม. ใช้สีเทียน,สีชอล์ก,สีน้ำ หรือสีอื่น ๆ เป็นผลงานที่จัดทำขึ้นมาใหม่,ไม่ลอกเลียนแบบใคร

การประกวดเรียงความ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา ความยาวของเนื้อหา 1-2 หน้ากระดาษ A4 ขนาดอักษร 16 Angsana New เป็นผลงานที่จัดทำขึ้นใหม่ ไม่ลอกเลียนแบบใคร ผลต้องมีอาจารย์ประจำชั้น/อาจารย์ที่ปรึกษารับรอง รางวัลชนะเลิศ ระดับจังหวัดทุกระดับ

รางวัลที่ 1 (มี 1รางวัล ) ทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร

รางวัลที่ 2 (มี 1 รางวัล) ทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร

รางวัลที่ 3 (มี 1 รางวัล) ทุนการศึกษา 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร

และรางวัลชมเชย เป็นเกียรติบัตร (ขึ้นอยู่กับผลงาน)

รางวัลที่ 1 (มี 1 รางวัล) ทุนการศึกษา 50,000 บาท และตั๋วเครื่องบิน 2 ที่นั่ง พร้อมที่พัก,ค่าใช้จ่าย ไปทัศนศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น

รางวัลที่ 2 (มี 3 รางวัล) ทุนการศึกษา 30,000 บาท พร้อม Iphon 5, เกียรติบัตรและโล่เชิดชูเกียรติ

รางวัลที่ 3 (มี 5 รางวัล) ทุนการศึกษา 20,000 บาท Ipad เกียรติบัตร และโล่เชิดชูเกียรติ


ติดต่อส่งผลงานที่โรงเรียน/สถานศึกษาของตนเอง ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2556



ส.ปชส.ยโสธร
ปิยะนุช 21 พฤศจิกายน 2556

เหล่ากาชาดกาฬสินธุ์ ออกเยี่ยมราษฎรตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จำนวน 3 ครอบครัวที่พิการ ยากจน

คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ออกเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน ที่พิการ จำนวน 3 ครอบครัว พร้อมมอบเงิน ถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค ตามโครงการเยี่ยมยามถามไถ่จากใจกาชาด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นางมนต์ภัสสร ณ กาฬสินธุ์ กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวราษฎรที่พิการ ยากจน ในพื้นที่ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 3 ครอบครัว ตามโครงการเยี่ยมยามถามไถ่จากใจกาชาด ของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค พัดลม เงินสดครอบครัวละ 1,000.- บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือ พร้อมสอบถามถึงความเป็นอยู่ในการดำรงชีวิต และให้กำลังใจในการดำรงชีวิต

นางมนต์ภัสสร ณ กาฬสินธุ์ เหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การออกเยี่ยมเยียนราษฎรที่ยากจนตามโครงการกาชาดเยี่ยมยามถามไถ่ ของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินการร่วมกับโครงการจังหวัดกาฬสินธุ์ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน เพื่อให้กำลังใจกับผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากได้ สร้างรอยยิ้มให้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ในสังคม สำหรับครั้งนี้ได้ออกเยี่ยมนางสาคร การนิตย์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ป่วยพิการ สมองได้รับกระทบกระเทือน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ , นายสุด นันทะจักร อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 2 ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ พิการตาพร่ามัว มองไม่เห็นชัดเจน อาศัยอยู่กับลูกสาว และนางสาวเพ็ญศรี เจริญธรรม อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 2 ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ พิการขาขาดทั้งสองข้าง เนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน มีบาดแผลที่ขาจึงต้องตัดขา

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนของเทศบาลตำบลม่วงนา ได้สำรวจข้อมูล และความต้องการของผู้พิการทั้ง 3 ราย   เพื่อจะได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นรถเข็น สิ่งของที่ช่วยในการดำรงชีวิตต่อไป



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

พมจ.กาฬสินธุ์ จ่ายเงินกู้ยืมแก่คนพิการ 139 ราย เป็นเงิน 4,140,000 บาท

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ จ่ายเงินกู้จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้กับผู้พิการในจังหวัดกาฬสินธุ์ 139 ราย เป็นเงิน 4,140,000.-บาท

ที่บริเวณห้องโถง ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำหนดจัดทำสัญญากู้ยืม/สัญญาค้ำประกันเงินกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2556 ให้กับผู้พิการและผู้ดูแลคนพิการที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ยืม จำนวน 139 ราย เป็นเงิน 4,140,000.-บาท (สี่ล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถ้วน) โดยเงินกู้ดังกล่าวนี้ผู้พิการจะได้นำเงินดังกล่าวไปลงทุนประกอบอาชีพตามความถนัด เพื่อสร้างรายได้ หรือนำไปต่อยอดความรู้หรือภูมิปัญญาเดินของตนเอง ให้ก่อเกิดผลกำไรต่อตนเองและสร้างเงินทุนหมุนเวียนในการดำรงชีวิต ให้มีความมั่นคงในชีวิต สามารถพึ่งพาตนเองและสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว

นายสุชาติ ต่ายทรัพย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มาตรา 23 เพื่อเป็นทุนสำหรับการใช้จ่ายเกี่ยวกับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การส่งเสริมและการดำเนินการด้านการสงเคราะห์ช่วยเหลือคนพิการ การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ การศึกษา และการประกอบอาชีพของคนพิการ ตลอดจนส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานใน 2 ลักษณะ คือ การบริการให้คนพิการ และผู้ดูแลคนพิการ กู้ยืมเป็นทุนประกอบอาชีพอิสระ รายละไม่เกิน 40,000.-บาท ผ่อนชำระคืนภายใน 5 ปี  โดยไม่มีดอกเบี้ย และการสนับสนุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ขอให้ลดพื้นที่ทำนาปรังเกรงน้ำเขื่อนลำปาวไม่เพียงพอ

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอให้เกษตรกรลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง โดยปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวมีเพียง 53% เท่านั้น

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เผยว่า ในปีที่แล้วเกษตรกรผู้ใช้น้ำในพื้นที่รับน้ำจาก เขื่อนลำปาวไม่ได้ทำนาปรัง เพราะประสบภัยแล้ง แต่ในปีนี้เป็นห่วงว่าเกษตรกรจะมีการทำนาปรังจำนวนมาก จึงห่วงว่าปริมาณน้ำในการทำนาปรังจะไม่เพียงพอ เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำมีเพียง ร้อยละ 53 ของความจุทั้งหมด หรือมีประมาณพันกว่าล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่น้ำเขื่อนลำปาวต้องจ่ายไปหลายทาง คือ เป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาสำหรับอุปโภคบริโภคหลายแห่ง การส่งให้กลุ่มผู้ทำประมง ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม และยังมีผู้ทำนาปรังอีก ซึ่งเกรงว่าปริมาณน้ำอาจไม่เพียงพอ จึงขอให้เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนพันธุ์พืชที่ปลูกในฤดูแล้งชนิดที่ใช้น้ำน้อย เช่น ข้าวโพด ถั่วลิสง แตงกวา หรืออื่นๆ

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวอีกว่า การบริหารจัดการน้ำในปีนี้ ได้กำหนดเปลี่ยนเป็นระยะตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อป้องกันการปล่อยน้ำทิ้งลงน้ำธรรมชาติ โดยไม่ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า



สุรพล คุณภักดี / ข่าว

แขวงการทางกาฬสินธุ์เลื่อนซ่อมสะพานข้ามลำน้ำพานในช่วงปีใหม่ 2557

นายพูลศักดิ์ สาระคร ผู้อำนวยการแขวงการทางกาฬสินธุ์ ได้แจ้งว่า เนื่องจาก แขวงการทางกาฬสินธุ์ โดย ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 2 (ขอนแก่น) ได้ทำการซ่อมสะพาน ในทางหลวงหมายเลข 12 สาย อำเภอยางตลาด – กาฬสินธุ์ สะพานคู่ ที่ กม.626+128 (สะพานข้ามลำน้ำพาน) ทิศทางมาจากอำเภอยางตลาด สะพานด้านซ้ายทางที่ชำรุด โดยการซ่อมรอยต่อที่ชำรุดระหว่างช่วงสะพาน เสร็จเรียบร้อย และสามารถสัญจรไปมาได้เป็นปกติแล้วทั้ง 2 ช่องทาง ส่วนสะพานด้านขวาทาง ที่พื้นสะพานแตกร้าว เป็นแนวยาวตามทางรถวิ่งและรอยต่อระหว่างช่วงสะพานก็ชำรุด นั้น
         
ซึ่งจะต้องทำการสกัดพื้นคอนกรีตเดิมที่ชำรุดออกก่อน พร้อมซ่อมปรับระดับรอยต่อให้ตรง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะไม่สามารถเปิดใช้ได้ทัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 เนื่องจากว่า งานซ่อมคอนกรีตพื้นที่กว้างและอายุในการรับนำหนักได้เต็มที่ ของคอนกรีตที่เทใหม่ จะต้องใช้ช่วงระยะเวลาหรือ จะทำให้ปริมาณการจราจรที่หนาแน่นติดขัดเพิ่มมากขึ้นและกลายเป็นจุดเสี่ยงอันตรายสูงในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะในระหว่างการซ่อมจะเปิดใช้ช่องจราจรได้เพียงช่องทางเดียว แขวงการทางกาฬสินธุ์และศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 2 (ขอนแก่น) ได้พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่า เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้ผู้ใช้ทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ได้อย่างเต็มที่ จึงขอเลื่อนแผนการซ่อมสะพานด้านขวา ออกไปก่อน โดยกำหนดจะเริ่มซ่อมภายหลังจาก สิ้นสุดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ซึ่งปัจจุบันในเบื้องต้น ได้ทำการซ่อมแซมพื้นสะพานด้วยการอุดรอยแตกร้าวด้วยยางแอสฟัลต์ไว้ก่อน จึงขอให้ผู้ใช้ทางได้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นเดิม ด้วยการชะลอความเร็วและปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งกำกับไว้โดยเคร่งคัด



ละออ อุ่นสา นศ.ฝึกงาน / ข่าว

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์เตือนให้ระวังสุขภาพจากอากาศหนาว

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แจ้งว่า จากการคาดหมายลักษณะอากาศ 7 วันข้างหน้า (วันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2556) ตามประกาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ประกาศ ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 เรื่อง แจ้งเตือนลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 19-24 พฤศจิกายน 2556 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรง จากประเทศจีน ยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ซึ่งจะทำให้ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2556 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.

เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไข้ปัญหา อากาศเย็นลง และสภาวะอากาศแปรปรวนสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ให้ระมัดระวังภัยอันเกิดจากสภาวะอากาศแปรปรวน ซึ่งจะสร้างความเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน บ้านเรือน โรงเรือนและพืชผลทางการเกษตร ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 1-7 วันนี้ ( 19-25 พฤศจิกายน 2556 ) ให้ประชาชนรับทราบ และเตรียมความพร้อมในการป้องกันอากาศที่เย็นลงในฤดูหนาว โดยการดูแลสุขภาพ อนามัย ให้แข็งแรง สวมใส่เสื้อผ้าที่หนา และอบอุ่น ห่มผ้าหนาๆ ขณะนอนในเวลากลางคืน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ และระมัดระวังการก่อกองไฟ อาจจะทำให้ไหม้ที่อยู่อาศัยได้ในบางพื้นที่



ละออ อุ่นสา นศ.ฝึกงาน / ข่าว

ประชุมวีดีทัศน์ทางไกลผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม

การประชุมวีดีทัศน์ทางไกลกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556

วันที่ 21 พ.ย. 56  ณ ห้องดอกคูน ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมวีดีทัศน์ทางไกลกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 จากกระทรวงมหาดไทยโดยนายจารุพงค์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่องในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม ณ วังไกลกังวล วันที่ 5 ธ.ค. 56 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา โดยการเสด็จออกมหาสมาคม ณ ท้องพระโรงศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทหารรักษาพระองค์เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในโอกาสนี้ด้วย เนื่องจากเป็นการเสด็จออกมหาสมาคมในเขตพระราชฐาน และมีพื้นที่จำกัด ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนรับชมพระราชพิธีดังกล่าวผ่านการถ่ายทอดสดทางวิทยุและโทรทัศน์ รวมกันเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

ขณะเดียวกัน รัฐบาลให้วันที่ 5 ธันวาคม 2556 ทำบุญตักบาตร เว้นกทม.จัด 4 ธันวาคม 2556 ในวันที่ 7 ธันวาคมการจัดงานสโมสรสันนิบาตด้วย พร้อมกันนั้น ในวันที่ 5 ธันวาคม รัฐบาลยังได้มอบหมายทุกส่วนราชการ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ อาทิ จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ในเวลา 19.29 น. เป็นต้นกำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 โดยจัดให้มีกิจกรรมในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2556 ดังนี้ ภาคเช้า เวลา 06.30 น. ร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง 08.30 น. พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังแผ่นดิน ถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ภาคค่ำ เวลา 18.00 น. ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่นขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนชาวขอนแก่น ร่วมแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติ ตามวันเวลา และสถานที่ดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน อนึ่งขอความร่วมมือ ส่วนราชการ เอกชน ประชาชน ตั้งโต๊ะหมู่บูชาถวายเครื่องราชสักการะ ประดับธงชาติ ธงพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร.” ไฟ้ฟ้าตามอาคาร บ้านเรือน และสถานที่ราชการ หรือสถานที่เหมาะสม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ตลอดจนการร่วมกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ เพื่อถวายเป็นราชสักการะ



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

จังหวัดขอนแก่น จับมือ ไอบีเอ็ม ทุ่มงบกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ดันเป็นเมืองแห่งอัจฉริยะ เนรมิตเมืองหลักของอีสานสู่เมืองศูนย์กลางที่สมบูรณ์แบบ ติด1 ใน100 เมือง ของโลก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ย.2556 ที่ห้องประชุมเอราวัณ โรงแรมพูลแมนขอนแกน ราชา ออคิด นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต เป็นประธานในการประชุมร่วมหัวหน้าส่วนราชการว่าด้วยผังเมืองรวม ด้านการจราจรและระบบขนส่งมวลชนร่วมกับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นและไอบีเอ็ม เพื่อกำหนดแผนการดำเนินงานร่วมกันว่าด้วยการผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นเป็นหนึ่งใน 100 เมืองหลักของโลกของการเป็นเมืองอัจฉริยะ หลักได้รับการคัดเลือกจาก ไอ บี เอ็ม ให้จังหวัดขอนแกน เป็น จังหวัดเดียวของประเทศไทย และเป็น 1 ใน 100 เมืองหลักของโลกที่จะเข้าร่วมโครงการเมืองอัจฉริยะ

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า แผนการพัฒนาจังหวัดของการมุ่งสู่ความเป็นศูนย์กลางในทุกๆด้านเพื่อให้เกิดความหลากหลายและสนองต่อต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่และผู้ที่จะมาขอรับบริการจากภาคส่วนต่างๆซึ่งที่ผ่านมาการทำงานร่วมกันเป็นทีมของทุกภาคส่วนในระดับจังหวัดได้มีการผลักดันและทำงานกันแบบคู่ขนานจนมีการยกระดับของขอนแก่นให้เป็นศูนย์กลางในระดับภูมิภาคภาคอีสานไปแล้วและเตรียมที่จะยกระดับให้เป็นเมืองแห่งความเป็นศุนย์กลางของกลุ่มภูมิภาคอาเซียน ขณะเดียวกันการกำหนดทิศทางการดำเนินงานดังกล่าวยังคงต้องมองไปข้างหน้าซึ่งการหารือร่วมในแบบทวิภาคีร่วมระหว่าง เทศบาลนครขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะทำงานตามโครงการ ไอบีเอ็ม สมาร์ทเตอร์ ซิตี้ส์ ชาเลนจ์ จนนำไปสู่การเสนอแผนยุทธศาสตร์ในระดับจังหวัดและได้บรรจุให้ขอนแกน เป็นหนึ่งใน 100 เมืองจากทั่วโลกในการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วยงบประมาณการลงทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อที่จะพัฒนาให้ขอนแก่นเป็นเมืองที่มีการบริหารจัดการของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมภาคต่างๆ การคมนาคมขนส่ง และเป็นพื้นที่เชื่อมต่อทางการค้าระหว่างตะวันออกและตะวันตก

" แผนการดำเนินงาน 10 ปีจากนี้ไปจะเริ่มจากการบริหารจัดการภาครัฐ ที่คณะทำงานร่วมจังหวัดและคณะทำงานตามโครงการที่ได้มีการแต่งตั้งขึ้นจะมาทำการส่งเสริมการประสานงานร่วมกันและบูรณาการในทุกองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ มีการจัดทำโครงการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบจราจร และการเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายจราจร สำหรับในด้านของการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายด้านการขนส่ง โครงการดังกล่าวนี้จะดำเนินการปรับปรุงระบบวิดีโอวงจรปิด ด้วยการนำระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัจฉริยะ รวมไปถึงการใช้ระบบการจัดการไฟจราจรอัตโนมัติ การใช้ระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถยนต์ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจร การนำระบบ GPS มาใช้เพื่อระบุตำแหน่งรถโดยสาร ขณะที่ในด้านการคมนาคมขนส่งแบบครบวงจร คณะทำงานมีการหารือในการใช้ระบบการจัดการค่าโดยสารแบบบัตรเดียวสำหรับทุกระบบ โดยครอบคลุมบริการขนส่งสาธารณะที่หลากหลายรูปแบบสร้างระบบเพื่อรายงานสภาพการจราจรให้แก่ผู้สัญจรบนท้องถนน”

ผวจ.ขอนแกน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการไปแล้วในหลายเมือง ทั้งที่ ประเทศเกาหลีใต้ที่เมืองเชจู ประเทศญี่ปุ่นที่เมืองเกียวโต ประเทศออสเตเรียที่เมืองโตโคส และ แคนนาดาที่เมืองดิวเวสต์ ซึ่งการนำโครงการดังกล่าวมาใช้ที่ขอนแก่นจะถือเป็นการยกระดับเมืองให้สู่ความเป็นมหานครชั้นนำของอาเซียน ภายใต้แนวทางการจัดตั้งศูนย์ ข้อมูลอัจฉริยะ ARC ( Analytics Research Center ) ใน 3 ระยะ และจะสำเร็จตามโครงการดังกล่าวใน 10 ปี เริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป แบ่งเป็น 2 ปีแรกจะเน้นการสร้างทักษะและศักยภาพในการใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงการจัดเตรียมบุคลากร โดยใช้ข้อมูลต่างๆและทรัพยากร สำหรับในระยะที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่ 2 ถึงปีที่ 5 จะเป็นช่วงของการพัฒนาไปสู่ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านการวิเคราะห์ข้อมูล โดยจะระบุในแผนยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคการศึกษาทั้งในประเทศและระดับประเทศ ระยะที่ 3 จะเริ่มตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป ที่จะมีการนำวิวัฒนาการหรือศูนย์ที่สามารถสร้างนวัตรกรรมทางการวิเคราะห์ข้อมูล ที่ทุกหน่วยงานสามารถนำไปใช้งานได้ ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประกอบการดำเนินธุรกิจของภาคการลงทุน การใช้ในชีวิตประจำวันของชาวขอนแก่นและผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ ดังนั้นทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญที่จะส่งผลให้ขอนแกนเป็นเมืองแห่งอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบที่สุดในทุกๆ ด้าน

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นนำชาวอำเภอซำสูงลงแขกเกี่ยวข้าวที่แปลงนาผลผลิตข้าวแปลงที่ใส่ปุ๋ยสั่งตัดบำรุงดินช่วยให้ลดต้นทุนการผลิตและได้ผลดีขึ้น

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประะานงานลงแขกเกี่ยวข้าวในแปลงนาของนายอุดม ขุนจร ชาวบ้านโนน ตำบลบ้านโนน อำเภอซำสูง  ซึ่งแปลงนาดังกล่าวเข้าร่วมโครงการลดรายจ่ายลดต้นทุนการผลิตข้าวนาปีโดยเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัดสำหรับข้าวจังหวัดขอนแก่นภายใตโครงการอำเภอเกษตรพัฒนา ปี 2556 ซึ่งจัดทำใน 2 จุดที่บ้านโนน ตำบลบ้านโนนและที่บ้านคูคำ ตำบล คูคำ อำเภอซำสูง มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 50 ราย การดำเนินการเป็นการบูรณาการของหลายหน่วยงานทั้งมูลนิธิพลังเวศและชุมชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรื มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำนักงานเกษตรจังหวัดขอนแก่น สถานีพัฒนาที่ดินขอนแก่นรวมทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ การใช้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัดกับข้าว เพื่อให้เกษตรกรสามารถคำนวณปริมาณปุ๋ยเคมี ที่จะใช้ในแต่ละแปลงได้อย่างถูกต้อง ให้พอดีกับความต้องการของข้าวโดยมีขั้นตอนการเก็บตัวอย่างดินไปวิเคราะห์ การคำนวณหาปริมาณแม่ปุ๋ยที่จะใช้และการผสมแม่ปุ๋ยก่อนนำไปหว่านในแปลงข้าวซึ่งแต่ละขั้นตอนเกษตรกรสามารถทำเองได้และจะเป็นอาชีพให้กับเกษตรกรรวมกลุ่มกันเพื่อสั่งซื้อแม่ปุ๋ยมาผสมใช้เอง จะทำให้ลดรายจ่ายในการทำนาลงได้ ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนในการประกอบอาชีพทำนาของเกษตรกร ซึ่งจากการใช้ปุ๋ยสั่งตัดที่นำมาทดลองในแปลงนาของเกษตรกรในอำเภอซำสูงนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตข้าวแล้วผลผลิตข้าวยังได้รวงข้าวใหญ่ดกและหนักทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

ส.ปชส.ชัยภูมิสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน รับมือภาวะวิกฤติยุคข้อมูลข่าวสาร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ ดึงเครือข่ายสื่อมวลชนทุกแขนง ร่วมเป็นเครือข่ายประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจประชาชน ในภาวะวิฤติ ที่โรงแรมสยามรีเวอร์รีสอร์ท วันนี้ 21 พ.ย.56 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ จัดเวทีสัมมนาการประชาสัมพันธ์ และขยายเครือข่าย การรณรงค์ป้องกันสาธารณภัยและภาวะวิกฤติ มีเครือข่ายสื่อมวลชน ในจังหวัดชัยภูมิ ทั้งสื่อวิทยุ หนังสือพิมพ์ และสื่อโทรทัศน์ ร่วมงาน กว่า 50 คน ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ของรัฐ ได้มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ จัดโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ในครั้งนี้ขึ้น เนื่องจาก ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี ๒๕๕๔ สร้างความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการศึกษา สำรวจสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติของประเทศไทยพบว่ามีแนวโน้มของการเกิดภัยและความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

หวังสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างเข้มแข็งให้กับเครือข่าย สามารถนำ ข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานภาครัฐ ไปเผยแพร่ผ่านสื่อไปยังประชาชน ได้รับรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ ประชาชนสามารถนำข่าวสาร ไปปรับใช้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ได้เชิญวิทยากร ที่มีประสบการณ์ ในการแก้ไขปัญหาภาวะวิกฤติเรื่องน้ำท่วม จากสำนักงานชลประทานจังหวัด เทศบาลเมืองชัยภูมิ และวิทยากรกิตติมศักดิ์ นายธีระพงษ์ โสดาศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ มาบรรยายเกี่ยวกับประสบการณ์การสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์ ในภาวะวิกฤติด้วย



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ชัยภูมิขานรับวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์

จังหวัดชัยภูมิ สร้างวิทยากรเครือข่ายด้านสหกรณ์ เป็นแม่ไก่ ออกไปเผยแพร่ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกในหมู่บ้าน หวังสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสหกรณ์ สามารถยืนหยัดคู่ชุมชน เป็นแหล่งทุนที่มั่นคงแก่สมาชิกได้อย่างยั่งยืน

ที่โรงแรมชัยภูมิปาร์ค วันนี้ 21 พ.ย. 56 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ โดยนายสามารถ  ศรีวิริยาภรณ์ สหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ จัดเวทีถ่ายทอดความรู้ด้านการสหกรณ์ แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้นำองค์กรระดับอำเภอ จำนวนได้ 130 คน เป็นการสร้างเครือข่ายวิทยากร ถ่ายทอดหลักความรู้การสหกรณ์ที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหลักๆแล้ว กิจการของสหกรณ์ จะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลัก ไม่ใช่ปล่อยให้กรรมการ หรือผู้จัดการ ดำเนินไปโดยพลการขัดต่อหลักของสหกรณ์ ซึ่งที่ผ่านมามีตัวอย่างเกิดขึ้นมากมาย เช่นการนำเงินสหกรณ์ไปลงทุนซื้อล๊อตเตอร์รี่ เป็นข่าวโด่งดังทั่วประเทศ สหกรณ์เสียโอกาส สูญเงินจำนวนมหาศาล

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับและขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ระดับจังหวัด ได้ฝากให้วิทยากรเครือข่าย ที่เข้าร่วมในครั้งนี้ ตั้งใจศึกษา เรียนรู้ ให้เข้าใจแจ่มชัด และเร่งลงไปบอกกล่าวให้ประชาชนเข้าใจ เกิดความรักและศรัทธาต่อระบบสหกรณ์ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากสหกรณ์ ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสหกรณ์เป็นระบบการเงินชุมชน ที่ดีอยู่แล้ว รัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริ ยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ ให้ทุกจังหวัด ส่งเสริมให้เป็นรูปธรรม ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ทำงานย่างเป็นระบบ และมีความต่อเนื่อง



สุระพงค์  สวัสดิ์ผล/ข่าว

สุรินทร์ออกหน่วยให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม

วันที่ 20 พ.ย. 56  นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำส่วนราชการออกให้บริการประชาชน ตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้ม ประจำเดือนพฤศจิกายน ที่โรงเรียนบ้านสนวนนางแก้ว หมู่ที่ 6 ตำบลบึง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้บริการประชาชนแบบเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกล พร้อมทั้งเพื่อพบปะเยี่ยมเยือนรับทราบปัญหาต่างๆ จากประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบบ้านธารน้ำใจ ให้กับนางสาวกองศรี ขันทอง อายุ 82 ปี บ้านเลขที่ 32 บ้านแดง หมู่ที่ 7 ตำบลบึง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นราษฎรยากไร้ อาศัยอยู่คนเดียวไม่มีบ้านแข็งแรง ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากประชาคมหมู่บ้านให้ได้รับการช่วยเหลือสร้างบ้านให้จำนวน 1 หลัง โดยใช้งบประมาณในการสร้างจำนวน 110,000 บาท จากนั้นได้มอบรถจักรยาน จำนวน 2 คัน ให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ถุงยังชีพให้กับราษฎรผู้ยากไร้รวมถึงคนชรา มอบพันธุ์ปลาให้แก่ชุมชน และมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนเรียนดีแต่ครอบครัวยากจน จำนวน 4 ทุนๆ ละ 1,000 บาท พร้อมทั้งได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่ส่วนราชการต่างๆ ที่ออกให้บริการแก่ประชาชน ทั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวตำบลบึงและตำบลใกล้เคียงมารับบริการอันอย่างคึกคักเป็นจำนวนมาก

หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2556

พันเอกธวัชชัย  ดะนุดิษฐ์  ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 สำนักงานพัฒนาภาค 2  หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา  กองบัญชาการกองทัพไทย  เปิดเผยว่า  หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 สำนักงานพัฒนาภาค 2  หน่วยบัญชาการพัฒนา  อ.นาแก  จ.นครพนม  ร่วมกับ คณะแพทย์ทหารจากกองการแพทย์  สำนักงานสนับสนุน  หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย  จัดชุดแพทย์ทหารเคลื่อนที่  ออกบริการประชาชน  ในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน  2556  เวลา 08.00-16.00 น.  ณ องค์การบริหารส่วนตำบลดงขวาง อ.เมืองนครพนม และวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน  2556  เวลา 08.00-16.00 น. ณ วัดศรีชมชื่น  บ้านขามเฒ่า  ตำบลขามเฒ่า  อ.เมืองนครพนม  โดยบริการประชาชน   ประกอบด้วย การตรวจและรักษาโรคทั่วไป   การตรวจรักษาโรคฟัน  การแจกจ่ายแว่นสายตาให้ประชาชน  โดยคณะแพทย์ทหารจากกองการแพทย์ สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย  การทำหมันสุนัขและแมว  การจ่ายยากำจัดเห็บหมัด และยาถ่ายพยาธิ  (สุนัข  แมว  โค  กระบือ) การผสมเทียมโค  กระบือ  ตลอดจนการบริการตัดผมชาย-หญิง  การสาธิตทำเตาเผาถ่านน้ำส้มควันไม้  และการจัดนิทรรศการกิจกรรมของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22

จึงขอเชิญประชาชนในพื้นที่ตำบลดงขวาง  ตำบลขามเฒ่า และพื้นที่ใกล้เคียงไปรับบริการดังกล่าว  โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-4257-1191

จังหวัดนครพนมจัดงานวันคนพิการสากล 3 ธันวาคม 2556

นางสาวอรสา  เนียมศรี  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี  เป็นวันคนพิการสากล จังหวัดนครพนมจึงได้ดำเนินการจัดงานวันคนพิการสากลอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี  เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของคนพิการ  ครอบครัวคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ  หน่วยงานภาครัฐ  เอกชน  และเครือข่ายคนพิการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการบนฐานของความรู้  อันนำไปสู่การสร้างสังคมบูรณาการ  ให้โอกาสคนพิการได้แสดงศักยภาพ และส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในสังคมอย่างเสมอภาคกับคนทั่วไป  โดยมีการมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ   ยกย่องบุคคลและองค์กรในระดับจังหวัด  เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคคลและองค์กรที่ให้การสนับสนุนด้านคนพิการ

 ทั้งนี้  การเสนอชื่อองค์กรหรือหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านคนพิการ  และหน่วยงานทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ  หรือคนพิการเสนอชื่อตนเองโดยมีองค์กรคนพิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคนพิการหรือผู้ที่น่าเชื่อถือในชุมชนเป็นผู้รับรอง   คุณสมบัติของคนพิการที่จะเสนอชื่อ  ต้องเป็นคนพิการที่ได้รับการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว   อายุ 18 ปี บริบูรณ์  เป็นคนพิการประเภทใดประเภทหนึ่ง ใน 7 ประเภท ดังนี้  พิการทางการมองเห็น  ทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย  ทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกาย  ทางจิตใจหรือพฤติกรรม  ทางสติปัญญา  ทางการเรียนรู้ และพิการออทิสติก   ดาวน์โหลดข้อมูลหลักเกณฑ์และแบบเสนอชื่อบุคคลและองค์กรที่ให้การสนับสนุนด้านคนพิการ  www.nakhonphanom.m-society.go.th  สอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข 0-1441-1046

กระทรวงมหาดไทย รับสมัครทหารกองหนุนและบุคคลพลเรือนชาย เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

นายคุมพล  บรรเทาทุกข์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  ด้วยกระทรวงมหาดไทย หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  รับสมัครทหารกองหนุนจากทุกเหล่าทัพและบุคคลพลเรือนชาย เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ(พลอาสาสมัคร) เป็นจำนวนมาก  ผู้สนใจสมัครด้วยตนเอง ณ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ วังทวีวัฒนา เขตกรุงเทพฯ  ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม  ถึงวันที่ 9 มีนาคม 2557 ไม่เว้นวันหยุดราชการและไม่เสียค่าสมัครใดๆทั้งสิ้น

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดการรับสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.gad.moi.go.th หัวข้อ "ข่าวประชาสัมพันธ์”  หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2356-0893  หรือ 0-2456-9452

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในลักษณะการพัฒนาพื้นที่เชิงบูรณาการ จังหวัดนครพนม 76 โครงการ

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  หรือ กปร. ประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในลักษณะการพัฒนาพื้นที่เชิงบูรณาการ จังหวัดนครพนม 76 โครงการ  เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายสุวัฒน์  เทพอารักษ์  เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  กล่าวว่า  การประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาแหล่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริในลักษณะพัฒนาพื้นที่เชิงบูรณาการ  จังหวัดนครพนม เพื่อค้นหาปัญหา  หาแนวทางแก้ปัญหา  ตรวจแบบความสำเร็จของพื้นที่  ซึ่งเป็นการพัฒนาองค์ความรู้  กระตุ้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมของผู้ใช้บริการน้ำ  โดยมีข้าราชการ   ผู้ใช้น้ำ  เข้าร่วมประชุม 150 คน  โดยการประชุมแบ่งเป็นการมอบนโยบายเรื่อง "การขับเคลื่อนและการใช้ประโยชน์ของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  จังหวัดนครพนม” โดยนายสมชาย  วิทย์ดำรง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  การเสวนาเรื่อง "การมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ”  โดย มล.จิรพันธุ์  ทวีวงศ์  รองเลขาธิการ กปร. ผู้แทนกรมชลประทาน  ผู้แทนจังหวัดนครพนม  และผู้แทนกลุ่มผู้ใช้น้ำ  และแบ่งกลุ่มค้นปัญหา  จัดทำข้อเสนอในการแก้ปัญหาและขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ   ซึ่งจากการแบ่งกลุ่มค้นปัญหาได้พบว่ามีปัญหาการใช้น้ำ  ของผู้ใช้น้ำในช่วงแรกของการเริ่มโครงการฯ  ผู้ใช้น้ำยังไม่เข้าใจในการใช้น้ำ  มีการแย่งน้ำ  โดยผู้อยู่ท้ายโครงการไม่มีโอกาสได้ใช้น้ำ  ฉะนั้นจึงต้องบริหารจัดการต่อไป เพื่อให้มีการใช้น้ำได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

ทั้งนี้  เลขาธิการ กปร.  ได้มีโครงการอบรมการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ให้กับผู้สนใจจังหวัดนครพนม 100 คน  เพื่อนำความรู้มาใช้ในการทำการเกษตรอย่างมีศักยภาพ  เป็นการสร้างอาชีพ  สร้างรายได้  โดยอบรมให้ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  จังหวัดสกลนคร

การรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาล ฯ ประจำปี ๒๕๕๗

สำนักงาน ก.พ. จะเปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาล ฯ ประจำปี ๒๕๕๗ (ทุนบุคคลทั่วไประดับปริญญาตรี) ระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน – ๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ ทางอินเตอร์เน็ตที่เว็บไซต์ http://scholar.ocsc.go.th โดยมีทุน ๔ ประเภท ดังนี้

๑. ทุนรัฐบาลตามความต้องการของกระทรวง กรม หรือหน่วยงานของรัฐ จำนวน ๕๖ ทุน

๒. ทุนไทยพัฒน์ จำนวน ๒๐ ทุน

๓. ทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๕๙ ทุน

๔. ทุนรัฐบาลไปศึกษาในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน (GUCAS) จำนวน ๓ ทุน

ผู้สนใจโปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในประกาศรับสมัครสอบได้ที่ศูนย์ข่าวสำนักงาน ก.พ. ๔๗/๑๑๑ หมู่ ๔ ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และทางอินเตอร์เน็ตในเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. ที่ http://www.ocsc.go.th,http://scholar.go.th และทางเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี http://stscholar.nstda.or.th 

ผู้ว่าฯ นครพนม เปิดโครงการจังหวัดนครพนมเคลื่อนที่ โรงเรียนบ้านกุรุคุ ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

ผู้ว่าฯ นครพนม เปิดโครงการจังหวัดนครพนมเคลื่อนที่ โรงเรียนบ้านกุรุคุ ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

วันนี้ (21พ.ย.56) เวลา 09.00 น. นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนครพนม ร่วมพิธีเปิดโครงการจังหวัดนครพนมเคลื่อนที่ ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านกุรุคุ ตำบลกุรุคุ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ประชาชนชาวตำบลกุรุคุและตำบลใกล้เคียงต่างเดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง

จังหวัดนครพนมเคลื่อนที่ โรงเรียนบ้านกุรุคุครั้งนี้ มีส่วนราชการประจำจังหวัดมาให้บริการกับประชาชนผู้มาร่วมงาน อาทิ บริการจัดทำใบขับขี่ของสำนักงานขนส่งจังหวัด บริการทำบัตรประชาชนของอำเภอเมืองนครพนม บริการตัดผมฟรีของวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการนครพนม การแจกพันธุ์ปลาของสำนักงานประมงจังหวัดนครพนม การแจกสารเร่งซุปเปอร์ พด. 3 ซึ่งเป็นสารที่ทำลายการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้ดินมีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืชและรากพืชแข็งแรง การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดโดยสำนักงานการค้าภายในจังหวัดนครพนม พิธีเปิดงานประกอบด้วยการบรรเลงกลองยาวโดยสภาวัฒนธรรมตำบลกุรุคุ การมอบถุงยังชีพของจังหวัดทหารบกนครพนม จำนวน 50 ถุง การมอบเสื้อกันหนาว จำนวน 200 ตัวโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม การมอบเงินกองทุนหมู่บ้านโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม จำนวน 40 ทุน ๆ ละ 500 บาท

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวตอนท้ายว่าโครงการจังหวัดเคลื่อนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการกับประชาชนที่อยู่ในอำเภอห่างไกล โดยประชาชนไม่ต้องเดินทางไปติดต่อราชการที่จังหวัด แต่สามารถมาใช้บริการกับโครงการจังหวัดนครพนมเคลื่อนที่ได้ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

งานเกษตรกำแพงแสน ประจำปี พ.ศ. 2556

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กำหนดจัดงานเกษตรกำแพงแสน ประจำปี 2556 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2556 ภายใต้แนวคิดหลัก "ตามรอยพระยุคลบาทเกษตรศาสตร์กำแพงแสน” ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านการเกษตร พืช สัตว์ ตลอดจนเทคโนโลยีด้านการเกษตรและสาขาที่เกี่ยวข้องสู่เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป

เพื่อให้การดำเนินงานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ของการจัดงานี่ต้องการเผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตรให้เกษตรกร นักเรียน นิสิต และประชาชนทั่วไป ทราบข่าวสารและร่วมงานเกษตรกำแพงแสน ประจำปี 2556 สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 034-351540 หรือ http://www.ku.ac.th/