วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

จ.กาฬสินธุ์ค้นหาผู้เสพในสถานศึกษาเข้าสู่การบำบัดและยึดทรัพย์ผู้ค้าตัดวงจรการแพร่ระบาดยาเสพติด

จังหวัดกาฬสินธุ์เตรียมค้น หาผู้เสพกลุ่มใหม่ซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษาในทุกสถานศึกษาเข้าสู่การบำบัดรักษา ควบคู่กับการปิดล้อมตรวจค้นยึดทรัพย์ผู้ค้ารายใหญ่ในทุกอำเภอเพื่อเป็นการ ตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้กล่าวถึงมาตรการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดกาฬสินธุ์ในที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ ครั้งที่ 5/2556 ว่า จากสถิติผลการจับกุมคดียาเสพติดประจำเดือนพฤษภาคม 2556 ของตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์พบว่า จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 507 คดี ผู้ต้องหา 531 คน ของกลางยาบ้า 23,873 เม็ด ยาไอซ์ 48.9 กรัม กัญชาแห้ง 22 ห่อเล็กหนัก 150 กรัม ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดกาฬสินธุ์จึงได้กำหนดมาตรการหลักในการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดไว้ดังนี้ มาตรการค้นหาผู้เสพกลุ่มใหม่ซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษาในทุกสถานศึกษาเพื่อเข้าสู่การบำบัดรักษาโดยมอบหมายให้สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1-3 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 ไปดำเนินการในสถานศึกษาทุกแห่งหากพบให้ส่งเข้าบำบัดรักษาทันทีเพื่อเป็นการ ตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติด และนอกจากนั้นได้มอบหมายให้นายอำเภอและผู้กำกับการตำรวจภูธรทุกแห่งดำเนิน มาตรการปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้ารายใหญ่ในทุกอำเภอหากพบผู้กระทำผิดให้ยึดทรัพย์ ผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดทุกราย
 



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ ข่าว

สมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดกาฬสินธุ์ จัดโครงการอบรมอาสาเชื่อมใจคนตาบอดกับคนตาดี

สมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอด จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดโครงการอบรมอาสาเชื่อมใจคนตาบอดกับคนตาดี เพื่อให้จิตอาสาได้รู้จักช่วยเหลือคนตาบอด และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พร้อมพาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ สมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดโครงการอาสาเชื่อมใจคนตาบอดกับคนตาดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้จิตอาสาคนตาดี ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนตาบอดในการใช้ชีวิตประจำวัน ส่งเสริมให้เกิดการอยู่ร่วมกันระหว่างคนตาบอดกับคนตาดีอย่างมีความสุข เกิดความภาคภูมิใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วยจิตอาสาคนตาดี คนตาบอด จำนวนกว่า 50 คนเข้าร่วมกิจกรรม

นายฉลาด นะตะวัน นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจัดโครงการอาสาเชื่อมใจคนตาบอดกับคนตาดีในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นแนวทางการ พัฒนาชีวิตผู้พิการทางสายตา เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งภาครัฐ และอกชน เกิดการมีส่วนร่วมอย่างชัดเจนทำให้คนตาบอดไม่รู้จักโดดเดี่ยวในสังคม สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสิทธิของคนพิการ, วิธีช่วยคนตาบอดให้ถูกวิธี, การฝึกปฏิบัติช่วยเหลือคนตาบอด และกิจกรรมอาสาเชื่อมใจคนตาบอด ขึ้นรถรางชมเมืองกาฬสินธุ์ เยี่ยมชมโรงพยาบาลกาฬสินธุ์, เยี่ยมชมศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, เที่ยวตามห้างสรรพสินค้า และกราบไหว้หลวงพ่อองค์ดำ วัดกลางพระอารามหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตของตนเองและครอบครัว
 



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ขอเชิญประกวดคลิปสั้น

สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สวทน. ร่วมกับ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กำหนดจัดโครงการประกวดคลิปสั้น หัวข้อ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม กับการพัฒนาจังหวัดขอนแก่น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจต่อความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม กับบุคคลทั่วไปในจังหวัดขอนแก่น และสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทั้งภาครัฐ เอกชน นักศึกษา และประชาชนในจังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียง

ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ecberkku.com ส่งใบสมัครและผลงานในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2556 นี้ รางวัลชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 15,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร รางวัลชมเชยได้รับเงินรางวัล 5,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 3 รางวัล
 



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินจังหวัดกาฬสินธุ์พบเสื่อมโทรมมากร้อยละ 25

นายธวัช ปทุมพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 แจ้งว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 ได้ติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน พื้นที่แม่น้ำปาว ลำปาวน้อย และลำน้ำยังจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้น 12 จุด ในระหว่างวันที่ 5 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำในห้องปฏิบัติการปรากฏดังนี้ คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีร้อยละ 16.7 คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ร้อยละ 16.7 คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมร้อยละ 41.6 และคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมมากร้อยละ 25

แหล่งน้ำที่มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมถึงเสื่อมโทรมมากได้แก่ ลำน้ำปาว บริเวณพื้นที่ตำบลร่องคำ อำเภอร่องคำ บริเวณพื้นที่เทศบาลตำบลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย บริเวณใต้เขื่อนลำปาว ตำบลลำคลอง อำเภอเมือง บริเวณใต้สะพานท่าคันโท-วังสามหมอ ตำบลดงสมบูรณ์ บริเวณตำบลกุดจิก อำเภอท่าคันโท และบริเวณบ้านดอนสนวน ตำบลหลุบ อำเภอเมือง ลำปาวน้อย บริเวณที่บ้านสุขสวัสดิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ บริเวณสะพานข้าวลำปาว ตำบลในเมือง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และที่บริเวณวัดอโนมานที บ้านวังเกาะเหล็ก ตำบลในเมือง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ปฏิมากร ผู้มีชื่อเสียง (สันติ พิเชฐชัยกุล) มาปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ ที่งาน วิสาขบูชา พุทธบารมี ห้างเดอะมอลล์ นครราชสีมา

ประชาสัมพันธ์จังหวันครราชสีมา ขอเชิญร่วมพิธีปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ขนาดเท่าองค์จริง กับศิลปินระดับโลก วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2556 เวลา 10.00 น. ในงานวิสาขบูชา พุทธบารมี ที่ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์นครราชสีมา

 นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา ได้กล่าวถึงความสามารถในการปั้นของนายสันติ พิเชฐชัยกุล ที่จะปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เท่าองค์จริง ว่า นายสันติ พิเชฐชัยกุล ถือเป็นศิลปินระดับโลก มีผลงานมากมายและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีทั้งผลงานได้รับรางวัลที่จากต่างประเทศ อีกด้วย

สำหรับฝีมือของนายสันติ พิเชฐชัยกุล ปฏิมากรไทย นอกจากจะสร้างชื่อเสียงในประเทศไทยแล้ว ยังได้ไปสร้างชื่อเสียงในอเมริกาด้วย ถือเป็นผู้มีฝีมือชั้นนำ จนมีผู้กล่าวว่า "ฝีมือการปั้นที่เหนือกว่าคำว่าเหมือน” ได้รับการยอมรับจากชาวอเมริกัน เพราะไปการคว้ารางวัลที่หนึ่งในการประกวดปฏิมากรรม Art Prize ที่ มลรัฐ Michigan สหรัฐอเมริกา คือ การปั้นหุ่นรูปประธานาธิบดี Gerald Ford ชนะเลิศปฏิมากรจากประเทศต่างๆถึง 39 ประเทศ ที่มีผู้เข้าประกวดถึง 1,600 คน

นอกจากนั้น ยังมีชื่อเสียงในด้านการปั้นรูปได้อย่างรวดเร็วด้วย โดยใช้เวลาปั้นแต่ละรูป เพียง 17 นาทีเท่านั้น เป็นผลให้รายการโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ในสหรัฐหลายต่อหลายแห่งมาสัมภาษณ์ ด้วยความชื่นชม

ส่วนในประเทศไทย ได้ปั้นรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เป็นที่เคารพหลายต่อหลายรูป ต่อมาเมื่อย้ายไปอยู่เมือง Bigfork มลรัฐ Montana ได้ปั้นรูปชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงและบุคคลในประวัติศาสตร์ เช่น หัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง ผู้บุกเบิกทวีปอเมริกาคนสำคัญต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีโครงการจะปั้นรูปองค์ดาไลลามะ พระเยซู พระสันตปาปา ในชุดปฏิมากรรม ตำนานคนสำคัญแห่งโลกอีกด้วย

ส่วนความใฝ่ฝันสูงสุดของคุณสันติ พิเชฐชัยกุล ที่ประสงค์จะสร้างผลงานรูปปั้นเหมือนของเขา คือ การปั้นพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนขอพระบรมราชานุญาตจากสำนักพระราชวัง

ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญทุกท่านร่วมพิธีปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ขนาดเท่าองค์จริง กับศิลปินระดับโลก ในวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ เอ็มซีซีฮอลล์
 เดอะมอลล์ นครราชสีมา

กกต.นครราชสีมา จัดโครงการลูกเสืออาสา เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ประจำปี 2556

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา (กกต.นม.) จัดทำโครงการส่งเสริมความเข้มแข็งและพัฒนาการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ ประชาชน ด้วยกิจกรรมลูกเสืออาสา เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย

พันเอก สันธิรัตน์ มหัทธนชาติ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา
กล่าวว่า กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการปลูกจิตสำนึกให้ลูกเสือได้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของการเลือกคน ดีให้มาปกครองบ้านเมือง กับการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม รวมทั้งเพื่อให้ลูกเสือได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาติ มีส่วนร่วมในการรณรงค์ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคม และเป็นผู้ช่วยเหลือให้บริการประชาชนในที่เลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เป็นต้น

สำหรับในปีงบประมาณ 2556 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดทำโครงการฝึกอบรมทบทวนและทดแทนลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยต่อเนื่องประจำปีงบประมาณ 2555 ที่ผ่านมา จำนวน 3 รุ่น ดังนี้.-

รุ่น 1 ที่โรงเรียนบ้านหนองซ่อมตะเคียนงาน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2556 ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน สถานที่ ณ ไร่พญาเย็น ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีลูกเสือเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 40 คน

รุ่น 2 โครงการฝึกอบรมกองลูกเสืออาสา กกต. เพื่อรณรงค์เผยแพร่และช่วยเหลือในการเลือกตั้งท้องถิ่น(ชุมนุมลูกเสือฯ) จำนวน 10 โรงเรียน ดำเนินกิจกรรมในวันที่ 21 มิถุนายน 2556 สถานที่ ณ ค่ายลูกเสือซับประดู่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีลูกเสือเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 400 คน

รุ่น 3 โครงการฝึกอบรมทบทวนและทดแทนลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ประจำปี 2556 จำนวน 10 โรงเรียน ดำเนินกิจกรรมในวันที่ 22 มิถุนายน 2556 สถานที่ ณ ค่ายลูกเสือซับประดู่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีลูกเสือเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 400 คน


อนึ่ง ผู้ที่ผ่านการอบรมของโครงการลูกเสืออาสา กกต.เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ทั้ง 3 โครงการดังกล่าวข้างต้นนั้น จะได้รับการอบรมให้มีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือพรรคการเมืองใดโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้ลูกเสืออาสา กกต.ฯ ทำหน้าที่การสืบข่าวหรือให้ข่าวในเรื่องการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากจะเป็นอันตราย และทำให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า "การเมือง” ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา มีความมุ่งหวังต้องการให้ลูกเสืออาสา กกต.เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย เป็นสุภาพบุรุษประชาธิปไตย ที่ปฏิบัติหน้าที่บำเพ็ญประโยชน์ตามคำปฏิญาณโดยให้การช่วยเหลือการเลือกตั้ง การให้บริการแก่ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่เป็นผู้ด้อย โอกาส ที่เป็นคนชรา ผู้พิการทางสายตา ผู้ไม่สามารถเดินเคลื่อนไหวตามปกติ และประชาชนทั่วไป โดยลูกเสืออาสา กกต.ฯ ที่ผ่านการฝึกอบรมจะไปบอกเล่าเชิญชวนให้คุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยสุจริต ไม่กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตามเจตนารมณ์นโยบายและมติของคณะกรรมการการเลือกตั้งข้างต้นอีกด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมามอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

วันนี้ (29 พ.ค. 56) ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ จำนวนทั้งสิ้น 20 ทุน ทุนละ 4,000 บาท รวมเป็นเงิน 80,000 บาท ซึ่งจัดขึ้นโดยสโมสรโซรอพทีมิสท์ อินเตอร์เนชั่นแนลดุสิต แห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่มีฐานะยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งเพื่อช่วยเหลือและ แบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับนักเรียนได้รับทุนการศึกษาต่อที่สูงขึ้น สำหรับสโมสรโซรอฟทีมิสท์ ฯ เป็นองค์กรสตรีอาสาสมัครที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วย สโมสรในเครือกว่า 2,6000 แห่ง มีสมาชิกทั่วโลกกว่า 86,000 คน มีภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือมวลสมาชิกทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นการทำสาธารณกุศล และการแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ฐานะยากจน ในประเทศมวลสมาชิกทั่วโลก

มทส. จับมือ สมาคมเรือพายแห่งประเทศไทย พัฒนากีฬาเรือพายโดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และสมาคมเรือพายแห่งประเทศไทย ทำพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาศักยภาพนักกีฬาเรือพายทีมชาติ ไทย สู่ความเป็นเลิศในระดับสากล ระยะที่ 2 หลังประสบความสำเร็จจากการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนาทีมนักกีฬาไทยสร้าง ชื่อในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 21 ณ ประเทศอินโดนีเซีย

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ พลเรือเอกพลวัฒน์ สิโรดม นายกสมาคมเรือพายแห่งประเทศไทย ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เมื่อวานนี้ (28 พฤษภาคม 2556) ที่ อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีกับสมาคมเรือพายแห่งประเทศ ไทยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์การกีฬา เสริมสร้างขีดสมรรถนะของนักกีฬาเรือพาย และสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมเรือพายแห่งประเทศไทยให้มีการพัฒนาในภาพรวม ครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กับสมาคมเรือพายแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกได้ดำเนินการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการไปแล้วเมื่อวัน ที่ 16 มกราคม 2554 และมีการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักกีฬาเรือพายอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุ รนารีเป็นระยะเวลา 8 เดือน โดยนำหลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้พัฒนานักกีฬาเรือพายให้มีความสมบูรณ์และ ความพร้อมในการแข่งขันกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 21 ณ ประเทศอินโดนีเซีย นักกีฬาเรือพายทีมชาติไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ถึง 8 เหรียญทอง 7 เหรียญเงินและ 11 เหรียญทองแดง นับเป็นความสำเร็จสูงสุดของกีฬาเรือพายของประเทศไทย และในความร่วมมือครั้งที่ 2 นี้ได้ตั้งความหวังเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ณ นครรีโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล มากกว่าเดิม

สำหรับความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเกี่ยวกับกีฬา เรือพาย การพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ให้แก่บุคลากรวงการกีฬาเรือพาย นั้นเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาซึ่งเป็นหลักสูตรการเรียน การสอนในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ของ มทส. ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น โดยนักกีฬาเรือพายที่มาเก็บตัวที่ มทส.นี้ ทาง มทส. จะจัดการเรียนการสอน จัดอบรม จัดหาวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญมาถ่ายทอดความรู้ให้ อีกทั้งจะร่วมระดมสรรพกำลังและทรัพยากรที่มีอยู่ของทั้งสององค์กรผลิต บุคลากรที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาไว้รองรับความต้องการในการพัฒนา วงการกีฬาเรือพายต่อไปด้วย รวมทั้งการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์มา ใช้ในการพัฒนากีฬาเรือพายสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายในการคว้าเหรียญทองเหรียญแรกของประเทศไทยในการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิก 2016 ณ นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล 

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตักบาตรข้าวมธุปายาส ที่มณฑลพิธีลานหน้าห้างเดอะมอลล์ นครราชสีมา ในวันวิสาขบูชา

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า กิจกรรมหนึ่งในงาน" วิสาขบูชา พุทธบารมี ” ที่ เดอะมอลล์นครราชสีมา มีพิธีกวนข้าวมธุปายาส(ข้าวทิพย์) และเปิดบริการส่งไปรษณีย์ พร้อมจัดให้มีการตัดบาตรข้าวทิพย์นวันรุ่งขึ้น นั้น

พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีตักบาตรข้าวมธุปายาสหรือข้าวทิพย์ แด่ คณะสงฆ์ 39 รูป ภายในบริเวณงาน " วิสาขบูชา พุทธบารมี ” ที่ เอ็มซีซี ฮออล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา ชั้น 3 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00 น.

สำหรับการกวนข้าวมธุปายาส(ข้าวทิพย์) มีพิธีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2556 โดยมี พลโท จีระศักดิ์ ชมประสพ แม่ทัพภาคที่ 2 ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และ นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา รวมทั้งพุทธศาสนิกชนทุกคน ร่วมกวนและทำพิธีร่วมกัน หลังจากนั้นได้เปิดให้ประชาชน นำข้าวมธุปายาสหรือข้าวทิพย์ส่งให้แก่บุคคลที่รัก-นับถือ ทางไปรษณีย์ โดยมี บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้มาให้บริการภายในงานฯ ด้วย นอกจากนั้น ที่มณฑลพิธีลานหน้าห้างเดอะมอลล์ นครราชสีมา มีการหล่อ " พระพุทธบรมมหาจักรพรรดิอโศกมหาราชธรรมราชา” ขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว ด้วย เพื่อนำถวายแด่วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ ด้วย( เริ่มหล่อ 23 พ.ค.56) 

พิธีกวนข้าวมธุปายาส ( ข้าวทิพย์ ) ในงาน “ วิสาขบูชา พุทธบารมี ” ประจำปี 2556

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า แม่ทัพกองทัพภาคที่ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้จัดการฯเดอะมอลล์นครราชสีมา และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ร่วมในพิธีกวนข้าวมธุปายาส(ข้าวทิพย์) ในวันวิสาขบูชา ณ บริเวณมณฑลพิธีด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา

พลโทจีระศักดิ์ ชมประสพ แม่ทัพภาคที่ 2 ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และ นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา และพุทธศาสนิกชนทุกคน ร่วมทำพิธีกวนข้าวมธุปายาสหรือกวนข้าวทิพย์ ในงาน " วิสาขบูชา พุทธบารมี ” ประจำปี 2556 เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา เพื่อรำลึกถึงคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สืบสานประเพณีสำคัญรับวันวิสาขบูชา ปีนี้


ความเชื่อว่าในสมัยพุทธกาล "ข้าวมธุปายาส” หรือ "ข้าวทิพย์” เป็นอาหารมือสุดท้ายก่อนที่นักบวชสิทธัตถะจะได้บรรลุอนุตรสัมโพธิ (หรือก่อนที่พระพุทธเจ้าจะบรรลุเป็นพระอรหัน) ซึ่งในประเทศไทยมีหลักฐานว่าการกวนข้าวมธุปายาส มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา สืบเนื่องจนมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันการจัดพิธีกรรมกวนข้าวมธุปายาส ยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้ ด้วยเนื่ความเชื่อว่าการนำข้าวมธุปายาสมาถวายพระสงฆ์ เปรียบเสมือนการตักบาตรและถวายแก่พระพุทธเจ้าที่เสด็จลงมาโปรดจากสวรรค์ จึงได้รับการสืบสานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคามจัดโครงการสานฝันวันใหม่ สู่อนาคตที่สดใส

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคามจัดโครงการสานฝันวันใหม่ สู่อนาคตที่สดใส เน้นการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มสำหรับผู้เข้ารับการฟื้นฟูผู้ติดยา เสพติด
 
29-05-56 ที่ศูนย์การเรียนรู้แก่งโคกก่อแคมป์ ตำบลโคกก่อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคามจัดโครงการสานฝันวันใหม่ สู่อนาคตที่สดใส เน้นการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มสำหรับผู้เข้ารับการฟื้นฟูผู้ติดยา เสพติด ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2556 โดยมีนาย สุรพล เทียนสุวรรณ ปลัดจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน
 

 นางเยาวดี พันธ์หินกอง ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่าการจัดอบรมในครั้ง นี้ก็เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติและจิตใจของผู้เข้าร่วมโครงการและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ ช่วยเหลือประคับประคองให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ในสังคมอย่างมีความสุขและ ไม่หวนกลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วยผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพ ติดที่อยู่ความดูแลของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคามจำนวนกว่า 50 คน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.มหาสารคาม บูรณาการร่วมกับจังหวัดเคลื่อนที่ และคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนฟรี

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. บูรณาการร่วมกับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ และโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนในถิ่นทุรกันดารฟรี ที่บ้านหนองแก ตำบลลานสะแก อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย

ที่โรงเรียนบ้านหนองแก ตำบลลานสะแก อำเภอพยัคภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายความเคารพต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิ พอ.สว. ในโอกาสที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ซึ่งเป็นหน่วยแพทย์ลำดับที่ 55 ออกมาให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคทางทันตกรรมให้กับประชาชนฟรี พร้อมได้นำบริการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งคลินิกดิน ปฏิรูป ประมง พืช และคลินิกสัตว์ ออกให้บริการตามโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชนุเคราะห์ฯ และบริการของส่วนราชการในจังหวัดตามโครงการจังหวัดเคลื่อนที่เยี่ยมเยียน ประชาชน ออกให้บริการประชาชนด้วย อาทิ การบริการตัดแต่งทรงผมของตำรวจภูธร กศน. โรงเรียนเสริมสวย การแจกจ่ายเอกสารสร้างความรู้ จาก ปปช. กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กศน.อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย การซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าจากวิทยาลัยการอาชีพเลิงนกทา และการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด เป็นต้น พร้อมนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการเล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ยังได้มอบพันธ์ปลาให้กับตัวแทนหมู่บ้าน มอบทุนการศึกษา มอบหม้อแปลงไฟฟ้า และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนที่มารับบริการอีกด้วย

สำหรับตำบลลานสะแก อำเภอพยัคภูมิพิสัย อยู่ห่างจากจังหวัดมหาสารคาม ประมาณ 85 กิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 17 หมู่บ้าน น ็มีประชากร 5,315 คน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา เลี้ยงสัตว์ และทำสวน ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำประปาไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และปัญหาเส้นทางการคมนาคมไม่สะดวก

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้กล่าวพบปะกับประชาชนที่มารับการบริการ ว่า ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง ในส่วนของน้ำกินน้ำใช้ ขอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อจะได้เร่งออกไปแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมกันนี้ยังได้ฝากให้ดูแลเยาวชนลูกหลานในเรื่องของยาเสพติด และเชิญชวนสตรีอายุ 15 ปีขึ้นไป สมัครเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พร้อมฝากให้ร่วมกันปลูกป่าตามโครงการ 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินี เพื่อสร้างความชุ่มชื่นและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรม ราชินีนาถ



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว / ภาพ

จ.มหาสารคาม คว้ารางวัลที่ 3 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์

กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศผลการคัดเลือกเมืองต่อยอดนวัตกรรมสร้าง สรรค์ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา โดยคัดเลือกจาก 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากโครงการในปีงบประมาณ 2554 ผลจังหวัดมหาสารคาม คว้ารางวัลอันดับ 3 ร่วมกับเชียงราย ขณะที่อันดับ 1 และ 2 คือลำปางและยะลา

นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการบริหารเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประจำจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการที่จังหวัดมหาสารคาม ได้นำเสนอผลการดำเนินงานเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เมื่อปีงบประมาณ 2554 เข้าประกวดกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยใช้แนวคิด "เมืองแห่งการเรียนรู้ สู่การพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม” ซึ่งจากทั่วประเทศคัดเลือกเหลือ 10 จังหวัดต้นแบบ เพื่อเข้าร่วมประกวดเมืองต่อยอดนวัตกรรมสร้างสรรค์ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมได้มีการนำเสนอผลการดำเนินงานให้กับคณะกรรมการได้พิจารณาไปแล้ว และผลการประกวดปรากฎว่า จังหวัดมหาสารคาม ได้รับรางวัลลำดับที่ 3 ร่วมกับจังหวัดเชียงราย ที่ใช้แนวคิด มหาวิทยาลัยที่มีชีวิต (ดอยตุง) ส่วนลำดับที่ 1 คือ จังหวัดลำปาง เมืองเซรามิก และลำดับที่ 2 จังหวัดยะลา เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจนก

ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ได้พิจารณาเงินรางวัลที่ได้รับจำนวน 1ล้านบาท เพื่อนำมาขยายผลโครงการต่อยอดนวัตกรรมสร้างสรรค์ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ในการจัดทำโครงการศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน กำหนดเบื้องต้นไว้ที่อุทยานการเรียนรู้จังหวัดมหาสารคาม โครงการเสื่อกก เสื่อชีวิต เสื่อเศรษฐกิจ เสื่อบ้านแพง อำเภอโกสุมพิสัย โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เกษตรกรผู้เพาะพันธุ์ปลา บ้านยางน้อย อำเภอโกสุมพิสัย โครงการข้าวอินทรีย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บ้านดอนมัน อำเภอกันทรวิชัย การจัดทำเวบไซต์ และการบริหารจัดการ



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ไข้เลือดออกที่มหาสารคามยังระบาดหนักพบพื้นที่เสี่ยง 11 อำเภอ 59 หมู่บ้าน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ยังไม่สามารถควบคุมได้ในหลายพื้นที่ โดยมียอดผู้ป่วยสะสม มกราคม-23 พฤษภาคม จำนวน 454 ราย และมีพื้นที่เสี่ยงสูงที่ต้องเฝ้าระวัง จำนวน 11 อำเภอ 59 หมู่บ้าน 41 ตำบล สาธารณสุขเร่งรณรงค์ป้องกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย

นายแพทย์สุริยา รัตนปริญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกที่จังหวัดมหาสารคาม ว่า ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 23 พฤษภาคม 2556 พบมีจำนวนผู้ป่วยสะสม 454 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 47.38 ต่อแสนประชากร โดยที่ยังไม่มีรายงานของผู้เสียชีวิต จำนวนผู้ป่วยกระจายครอบคลุมทั้ง 12 อำเภอ ยกเว้นอำเภอชื่นชม ที่ยังไม่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออก ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 10-14 ปี โดยเป็นกลุ่มวัยเรียนมากกว่ากลุ่มอื่นถึงร้อยละ 80.4 และเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลของช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว ยังมีอัตราการป่วยค่อนข้างสูง ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกเป็นช่วง ๆ หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง แนวโน้มการแพร่ระบาดจึงมีอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างรุนแรง อีกทั้งเป็นช่วงเปิดเทอม โอกาสที่จะเกิดการระบาดในสถานศึกษาจึงมีมาก นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เสี่ยงสูงที่ยังต้องเฝ้าระวังในระยะ 4 สัปดาห์ โดยทั้งจังหวัดพบ 59 หมู่บ้าน 41 ตำบล อยู่ในพื้นที่ 11 อำเภอ

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกยังไม่สามารถควบคุมได้ในหลาย พื้นที่ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อสม.และประชาชนก็ร่วมกันรณรงค์ป้องกันได้ ด้วยการกำจัดลูกน้ำยุงลายให้หมดไปหรือให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยการใส่ทรายอเบท เปลี่ยนน้ำในภาชนะหรือคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง ปิดฝาโอ่งน้ำให้มิดชิด หากสงสัยว่าบุคคลในครอบครัวมีอาการป่วย ไข้สูงลอยเกิน 38.5 องศาเซลเซียส หน้าแดง คอแดง ปวดศีรษะ หรือปวดกระบอกตา ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว จะทำให้ลดการเสียชีวิตลงได้



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

รพ.มหาสารคามรณรงค์ ลด ละ เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดี

โรงพยาบาลมหาสารคาม รณรงค์ประชาชนร่วมกัน ลด ละ เลิกบุหรี่เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม ภายใต้คำขวัญ "ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต”

นายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่องค์การอนามัยโลกเล็งเห็นอันตรายของบุหรี่และสุขภาพของผู้สูบบุหรี่ รวมถึงผู้ที่ไม่สูบแต่ต้องมารับควันบุหรี่ด้วย จึงกำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ในโอกาสนี้ โรงพยาบาลมหาสารคามจึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์ลด ละ เลิกบุหรี่ ภายใต้คำขวัญ "ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต” โดยขอความร่วมมือ ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา พ่อค้า และข้าราชการ ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ ที่มีผลต่อสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะ อาการระคายเคือง ไอ มีเสมหะ หายใจลำบาก หายใจขัด และหนักที่สุด คือ การเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอด นอกจากนี้ยังรวมถึงการให้ความรู้เพื่อเท่าทันกลไกของธุรกิจการค้าบุหรี่ที่ มีแนวโน้มพุ่งเป้าไปที่เด็กและสตรี ตลอดจนเฝ้าระวังการบังคับใช้กฎหมายห้ามโฆษณาและส่งเสริมการขายบุหรี่


ด้านนางพิกุล ไชยคำภา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประจำกลุ่มงานสุขจิตและจิตเวช โรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า วิธีการเลิกสูบบุหรี่ต้องทำเป็นขั้นตอน เริ่มจากลดจำนวนการสูบบุหรี่ หากเกิดความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ควรการหากิจกรรมอื่นที่เป็นประโยชน์ เช่นการออกกำลังกาย ทำงานบ้านหรืองานอดิเรกต่าง ๆ นอกจากนี้ควรตั้งใจที่แน่วแน่ในการเลิกสูบบุหรี่ของตัวผู้สูบเองและกำลังใจ จากคนใกล้ชิด หรือเข้ามาพบเจ้าหน้าที่คลินิกอดบุหรี่เพื่อรับคำแนะนำและทำการรักษา โดยสามารถติดต่อรับการบำบัดอาการติดบุหรี่ได้ที่กลุ่มงานสุขภาพจิตและจิตเวช โรงพยาบาลมหาสารคามทุกวันและเวลาราชการ 


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ตร.เมืองมหาสารคาม เพิ่มศักยภาพอาสาสมัครป้องกันอาชญากรรมและยาเสพติดในชุมชน

ตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม เพิ่มศักยภาพให้กับอาสาสมัครป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติดและรักษาความปลอดภัยในชุมชน

ตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม นำเครือข่ายอาสาสมัครป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติดและรักษาความปลอดภัยในชุมชนจากตำบลต่าง ๆ เขตอำเภอเมืองมหาสารคาม รวม 151 คน มาเข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการป้องกันและรักษาความปลอดภัยใน พื้นที่ ซึ่งเป็นการแสวงหาความร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจกับ ประชาชน กองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการชุมชน ประจำปี 2556 สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ปัญหาการก่ออาชญากรรม การแพร่ระบาดของยาเสพติด ตลอดจนการทะเลาะวิวาทกันของกลุ่มวัยรุ่นในชุมชนนับวันจะเริ่มมีมากและรุนแรง เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบจึงยังไม่เพียงพอ การแสวงหาเครือข่ายอาสาสมัครดังกล่าว มาเป็นแนวร่วมในการสร้างความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยพื้นที่ชุมชนของตนเองจึงมีความสำคัญ จีงได้จัดอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพ ส่งเสริมให้เกิดความรัก ความสามัคคีในชุมชน ช่วยเหลือและดูแลกันเอง เชื่อว่าปัญหาด้านอาชญากรรม การแพร่ระบาดของยาเสพติด และการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นจะลดลงได้



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เทศบาลเมืองมหาสารคาม MOU 14 หน่วยงาน จัดการปัญหาจากมลพิษขยะมูลฝอย

เทศบาลเมืองมหาสารคามจัดประชุมและMOU กับเครือข่าย 14 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันจัดการปัญหาจากมลพิษขยะมูลฝอย

นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายวัลลภ วรรณปะเถาว์ รองนายกเทศมนตรี และ 14 หน่วยงานเครือข่าย ได้แก่ เทศบาลเมืองมหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เทศบาลตำบลท่าขอนยาง เทศบาลตำบลขามเรียง องค์การบริหารส่วนตำบลเขวา องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม องค์การบริหารส่วนตำบลเกิ้ง องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสองคอน ฝ่ายกำลังบำรุงกองพลทหารราบที่ 6 องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเลิงจาน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม บริษัทสารคามบ้านไผ่ร่วมพัฒนา จำกัด บริษัทโรงเชือดไก่ยาใจ องค์การบริหารส่วนตำบลลาดพัฒนา และบริษัทโสมภาสเอ็นจิเนียริ่ง 2005 จำกัด ได้ร่วมกันลงนาม (MOU)ความร่วมมือลดปริมาณขยะมูลฝอยและจัดการมลพิษขยะมูลฝอย ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาขยะมูลฝอยเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรง เพิ่มมากขึ้น โดยมีสาเหตุเกิดจากประชากรที่เพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของเมือง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งทั้ง 14 หน่วยงาน ดังกล่าวจะได้กำหนดแนวทางและวางมาตรการลดปริมาณขยะมูลฝอยร่วมกัน เพื่อให้พื้นที่กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลเมืองมหาสารคาม สามารถรองรับขยะได้นานมากขึ้น ก่อนจะกลายเป็นปัญหาขยะล้นเมืองในอนาคต

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือลดปริมาณขยะมูลฝอย เป็นเพียงมาตรการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ทุกฝ่ายต้องตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทิ้งขยะและการรู้จักวิธีคัด แยกขยะเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ปัญหาขยะล้นเมืองก็จะบรรเทาเบาบางลงได้



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ม.มหาสารคาม ขุดค้นพบฟอสซิลเต่าหับเก่าแก่ที่สุดในโลก

นิสิตปริญญาเอกสาขาบรรพชีวินวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศึกษาฟอสซิลเต่าจากเหมืองเชียงม่วน จังหวัดพะเยา พบเป็นเต่าชนิดใหม่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อาศัยอยู่ในประเทศไทยเมื่อ 12 ล้านปีก่อน ช่วยเผยความลับวิวัฒนาการและการแพร่กระจายของเต่าหับในทวีปเอเชีย

นางสาววิไลลักษณ์ นาคศรี นิสิตปริญญาเอกสาขาบรรพชีวินวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เจ้าของผลงานการศึกษาฟอสซิลเต่าชนิดนี้ เปิดเผยว่า ฟอสซิลเต่าชนิดใหม่ของโลก นาม คูโอร่า เชียงม่วนเอนซิส (Cuora chiangmuanensis) เป็นเต่าน้ำจืดในสกุลเดียวกับเต่าหับปัจจุบัน แต่ชิ้นส่วนฟอสซิลที่ค้นพบนี้มีอายุประมาณ 11-12 ล้านปี พบที่บริเวณเหมืองถ่านหินเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เมื่อ 11 ปีก่อน โดย นายนิกร วงค์ไชย พนักงานธรณีวิทยาประจำเหมือง ชื่อชนิด เชียงม่วนเอนซิส จึงหมายถึง เต่าคูโอร่าแห่งเชียงม่วน และจากหลักฐานการค้นพบครั้งนี้จึงเป็นการ เผยโฉมฟอสซิลเต่าสกุลปัจจุบันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย และถือว่าเต่าคูโอร่าแห่งเชียงม่วนเป็นบรรพบุรุษเต่าหับที่เก่าแก่ที่สุดใน โลก แพร่กระจายพันธุ์เฉพาะในทวีปเอเชียเท่านั้น และอาจกล่าวได้ว่าเต่าหับที่แพร่กระจายทั่วเอเชียในปัจจุบัน มีจุดกำเนิดมาจากประเทศไทย เมื่อ 12 ล้านปีก่อน ในยุคสมัยไมโอซีนตอนกลาง


ด้าน รศ. ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ในฐานะที่มหาสารคามเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ที่มีการค้นพบซากฟอสซิลเป็นจำนวนมาก จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมีสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนให้มีการศึกษา วิจัยด้านบรรพชีวินวิทยา รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่เป็นคนในพื้นที่ ให้ได้มีโอกาสทำความรู้จัก และเรียนรู้ฟอสซิลอันเป็นทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของท้องถิ่นภาคอีสาน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังได้จัดทำเว็บไซต์แหล่งเรียนรู้เสมือนจริงขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แหล่งรวมความรู้ผ่านทางหน้าจอ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ smart phone ผ่านทางเว็บไซต์ www.vkp.msu.ac.th


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

รองผู้ว่าฯสารคาม เร่งหารือจัดการน้ำเสียหลังพบชุมชนขยายตัวส่งผลต่อน้ำดิบผลิตประปารองผู้ว่าฯสารคาม เร่งหารือจัดการน้ำเสียหลังพบชุมชนขยายตัวส่งผลต่อน้ำดิบผลิตประปา

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการน้ำเสียในชุมชนเขตเทศบาลตำบลท่าขอนยาง หลังประสบปัญหาการขยายตัวเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว การบำบัดน้ำเสียในชุมชนไม่เป็นระบบ ไหลลงสู่แม่น้ำชี แหล่งน้ำดิบที่ผลิตน้ำประปาของจังหวัด

ในการประชุมคณะทำงานจัดการน้ำเสียชุมชนพื้นที่เทศบาลตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ทื่มีนายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะประธานคณะทำงาน เป็นประธานการประชุม นั้น ได้มีการนำปัญหาด้านการขยายตัวของเทศบาลตำบลท่าขอนยาง ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาขนาดใหญ่ มี มีหอพัก บ้านเช่าและสิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้น มีประชาชน นักเรียน นักศึกษ ที่เป็นประชากรแฝงจำนวนมาก กลายเป็นพื้นที่วิกฤตด้านการจัดการน้ำเสียของจังหวัดมหาสารคาม เนื่องจากน้ำเสียดังกล่าว ถูกระบายลงพื้นที่การเกษตรของประชาชน และไหลลงสู่แม่น้ำชี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบ สำหรับผลิตน้ำประปาของจังหวัด

ซึ่งเทศบาลตำบลท่าขอนยางได้เสนอการใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์บริเวณหนองตีน บ้าน และกุดน้ำใส เพื่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน แต่ผลการศึกษาโครงการที่เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณานั้น ยังขาดเอกสารการขออนุญาตการใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ เอกสารการขออนุญาตดำเนินการจากกรมทางหลวง การออกแบบรายละเอียดยังไม่เหมาะสมและขาดการรายงานการรับฟังความคิดเห็นจาก ประชาชน อีกทั้งการใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก และต้องใช้เวลาดำเนินการราว 10 ปี เบื้องต้น


รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้มอบหมายคณะทำงานร่วมกันทบทวนผลการศึกษาและออกแบบรายละเอียดของโครงการ ระบบบำบัดน้ำเสียดังกล่าว ขอความร่วมมือให้ผู้นำชุมชน สถานศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รณรงค์สร้างจิตสำนึกในการรักษาสภาพแวดล้อมให้กับประชาชน ร่วมกันจัดการน้ำเสียอย่างถูกวิธี และให้เทศบาลตำบลท่าขอนยางเร่งขุดลอกคลองระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาก่อน 


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ศพส.อ.กันทรวิชัย ตรวจปัสสาวะนักเรียนรับเปิดเทอม

ศพส.อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ตรวจปัสสาวะนักเรียนรับเปิดเทอม พบเสพยาบ้า 1 ราย กัญชา 3 ราย เตรียมนำเข้าสุุ๋ระบบบำบัด

สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดอำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองอำเภอกันทรวิชัย และสาธารณสุขอำเภอกันทรวิชัย ร่วมกันตรวจปัสสาวะนักเรียน กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 13 แห่ง ในภาคเรียนแรกปี 2556 โดยครั้งนี้เป็นการตรวจปัสสาวะนักเรียนโรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม ซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้น ม.2-ม.6 จำนวน 500 คน


ทั้งนี้ในส่วนของสถานศึกษานั้น นักเรียนถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ จึงได้มีการรณรงค์การต่อต้านยาเสพติด การสร้างภูมิต้านทาน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ตามมาตรการสำคัญ คือ การส่งเสริมสถานศึกษา ให้เอาชนะปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง ผลการตรวจครั้งนี้พบผู้เสพเสพยาบ้า 1 ราย กัญชา 3 ราย และศพส.อ.กันทรวิชัย จะนำนักเรียนดังกล่าว เข้ากระบวนการบำบัดรักษา และ นักเรียนยังสามารถศึกษาต่อไปได้.... 


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กบข.สมาชิกสัมพันธ์สัญจรจังหวัดมหาสารคาม

กบข.จัดโครงการ "กบข.สมาชิกสัมพันธ์สัญจร” (ภูมิภาค) ประจำปี 2556 ให้ความรู้ สิทธิประโยชน์ พร้อมรับทราบปัญหาจากสมาชิกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

(29-5-56) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดกิจกรรมตามโครงการ "กบข.สมาชิกสัมพันธ์สัญจร” (ภูมิภาค) ประจำปี 2556 โดยได้ลงพื้นที่มาที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อบรรยายให้สมาชิก กบข.ในพื้นที่ได้มีความรู้ ความเข้าใจ รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ และการบริการต่าง ๆ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น ปัญหา ของสมาชิก เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการพัฒนาองค์กรและการสื่อสารในอนาคต การจัดกิจกรรมตามโครงการ "กบข.สมาชิกสัมพันธ์สัญจร” (ภูมิภาค) ที่จังหวัดมหาสารคาม ครั้งนี้ มีนายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานพิธีเปิด และมีหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิก กบข.สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก


โครงการ "กบข.สมาชิกสัมพันธ์สัญจร” (ภูมิภาค) ประจำปี 2556 กำหนดลงพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดทุกประเทศ ในระหว่างเดือนมีนาคม – สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทุนฯกับสมาชิกทุกกลุ่ม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน กบข.ในส่วนภูมิภาค 



 ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ยโสธรจัดตลาดทูบีนัมเบอวัน

จังหวัดยโสธรเป็นตัวแทน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจัดงาน มหกรรมสร้างกระแสตลาดนัดความรู้ TO BE NUMBER ONE BEYOND FRONTIERS สู่ความยั่งยืน ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรม เจ.พี. เอ็มเมอร์รัลด์ จังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเปิดงานมหกรรมสร้างกระแสตลาดนัดความรู้ TO BE NUMBER ONE BEYOND FRONTIERS สู่ความยั่งยืน ๒๕๕๖ เพื่อเป็นเวทีศึกษาหาความรู้ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ การดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ร่วมกัน ระหว่างผู้บริหาร ผู้รับผิดชอบงาน ระดับปฏิบัติงาน แกนนำ และสมาชิก ทุกเครือข่าย ทุกชมรม ภายใต้แนวคิดและหลักการเดียวกันคือ " ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ จับมือ และก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน ” โดยการจัดงานในครั้งนี้ จังหวัดยโสธรเป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินการจัดงานขึ้น ระหว่าวันที่ ๒๘ – ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ กิจกรรมประกอบไปด้วย การสัมมนาเครือข่ายคนทำงานทบทวนกระบวนการดำเนินงานในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา และวางแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมจัดให้มีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าที่เป็นผลงานของสมาชิกในทุกเครือ ข่าย ซี่งเป็นการเพิ่มพูนรายได้เข้าสู่ชมรม ผู้ร่วมงานประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบงานโครงการ TO BE NUMBER ONE สถานประกอบการ ชุมชน สถานศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จากทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและจังหวัดภูเก็ต จำนวนกว่า 600 คน

ปศุสัตว์สระแก้วส่งเสริมมาตรฐานฟาร์มโคนม

วันนี้ (29 พ.ค. 56) ที่ หอประชุมเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมส่งเสริมมาตรฐานฟาร์มโคนม โดยมีนายอำพันธุ์  เวฬุตันติ ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วและนายธรรมศักดิ์  รัตนธัญญา นายอำเภอวังน้ำเย็นเป็นผู้กล่าวรายงานและให้การต้อนรับ

นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดที่มีการเลี้ยงโคนมมากเป็นลำดับต้นๆของประเทศแต่ ประสบปัญหาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมประมาณ สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ผ่านมาตรฐานการรับรองส่วนอีกแปดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ ผ่านมาตรฐานการรับรองแล้วทางจังหวัดสระแก้วจึงได้เล็งเห็นความสำคัญจึงให้ การสนับสนุนโดยอนุมัติงบยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดสระแก้วประจำปีงบประมาณ 2556 จำนวน 1.6 ล้านบาทให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วดำเนินโครงการส่งเสริมมาตรฐาน ฟาร์มโคนม จำนวน 400 ราย เพื่อในอนาคตข้างหน้าเกษตกรผู้เลี้ยงโคนมชาวจังหวัดสระแก้วเมื่อผ่านการ รับรองมาตรฐานทั้งหมดแล้วจะได้เป็นที่ยอมรับของตลาดและสร้างให้เป็นมาตรฐาน เดียวกัน


นายอำพันธุ์  เวฬุตันติ  กล่าวเพิ่มเติมว่า สระแก้วมีผู้เลี้ยงโคนม 1,272 ราย จำนวนโคนม 35,117 ตัว ผ่านการรับรองมาตรฐานฟาร์มไปแล้ว จำนวน 1,076 ฟาร์มและยังไม่ผ่านอีก 196 ฟาร์ม ทางสนง.ปศุสัตว์สระแก้วจึงจัดอบรมให้กับเกษตรกรในเบื้องต้นเพื่อให้เกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนมนำไปพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานฟาร์มโคนมของตัวเองและเจ้าหน้าที่จะ เข้าไปช่วยแนะนำเพื่อให้ผ่านมาตรฐานการรับรองต่อไป

ประกันสังคมจังหวัดสระแก้วชี้แจงสิทธิหน้าที่ของนายจ้าง ลูกจ้างและผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม

วันนี้ (29 พ.ค. 56) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ โรงแรมธนาสิริ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดสระแก้ว นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานในการประชุมชี้แจงให้ความรู้งานประกันสังคม โดยมี นางสาวดลใจ ทดแทนคุณ ประกันสังคมจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยหน้าส่วนและตัวแทนผู้ประกอบการกว่า 100 คนให้การต้อนรับและกล่าวรายงานว่า การประชุมชี้แจงสิทธิหน้าที่นายจ้าง-ลูกจ้างและผู้ประกันตนในครั้งนี้ จังหวัดสระแก้วมีสถานประกอบการในส่วนรับผิดชอบอยู่ 1,141 แห่ง มีผู้ประกันตนภาคบังคับมาตรา 33 ที่อยู่ในระบบการจ้างงาน 16,312 คน ผู้ประกันตนสมัครใจตามมาตรา 39 จำนวน 3,612 คน และผู้ประกันตนตามมาตร 40 ที่เป็นแรงงานนอกระบบ เช่น เกษตรกร,ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ จำนวน 15,407 คน รวมผู้ประกันตนทั้งสิ้น 35,331 คน


ประกันสังคมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ในการชี้แจงสิทธิและหน้าที่ ฯ เพื่อให้นายจ้างและลูกจ้าง ผู้ประกันตนได้รับรู้ถึงสิทธิเมื่อเข้าสู่งานบริการประกันสังคมตลอดจนการ ติดต่อประสานงานที่รวดเร็วและได้รับประโยชน์สูงสุด สร้างเครือข่ายและรับทราบข้อขัดข้องต่างๆเพื่อนำมาแก้ไขในงานบริการ นอกจากนั้น ยังจะได้รับความรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิด้านยาเสพติด การฟื้นฟูสมรรถภาพคนทำงาน เมื่อต้องประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานนอกจากนี้ผู้ประกันตน ที่อยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคมจังหวัด สระแก้วได้ที่ ศาลากลางจังหวัด อาคารหอประชุมปางสีดา ชั้น 2 037-425070-73 หรือ สายด่วน 1506

จังหวัดอุบลราชธานีจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนพฤษภาคม 2556 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานในการบูรณาการช่วยเหลือประชาชน

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00 น.นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนเมษายน 2556 ที่ชั้น 4 ห้องประชุมฟองจันทร์ ตึก เพลส สเด็นท์ วิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นการติดตามผลการดำเนินงานของหัวหน้าหน่วยงานราชการและนายอำเภอใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยที่ประชุมได้แจ้งให้ประธานได้รับทราบในเรื่อง การสรุปผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลประจำเดือน เมษายน 2556, การวิเคราะห์และเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติต่างๆของจังหวัดอุบลราชธานี ,การเตรียมการจัดงานเทศการแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี, นโยบายพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน, นโยบายการพัฒนาด้านการค้าและการลงทุนสู่การเข้าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ,การประกาศการได้รับเลือกตั้งสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น,การจัด กิจกรรมการพัฒนาจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558,การติดตามงบประมาณ, และกิจกรรมการดำเนินงานบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ของกาชาดจังหวัดอุบลราชธานีและ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ,การดูแลป้องกันการค้ามนุษย์และการป้องกันปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าพร้อม การปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นป่าต้นน้ำของประชาชนต่อไป


ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ด้านการเตรียมการแก้ปัญหาภัยแล้งและการรับมือกับภัยพิบัติ (ภัยแล้งเนื่องจากฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานและพายุฤดูร้อน) ซึ่งปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานีได้ประกาศภัยแล้งครบ 25 อำเภอแล้ว ซึ่งตนได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก ภัยแล้งและภัยพิบัติต่างๆ อย่างทันท่วงที และขอให้ประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีให้ใช้น้ำและพลังงานไฟฟ้าอย่างประหยัด ด้วย

จังหวัดอุบลราชธานีร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคมเพื่อเป็นการประสานความร่วมมือตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคมบังเกิดผลเป็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2556 เวลา 09.30 น. ที่ชั้น 4 ห้องประชุมฟองจันทร์ ตึกเพลสสเด็นท์ วิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอได้มีการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบาย ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคมตามที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดนโยบายดังกล่าวไว้ เพื่อดำเนินการกับสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุราที่ก่อให้เกิดความเดือนร้อน รำคาญ หรือดำเนินกิจการที่ขัดต่อภาพลักษณ์ และวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย ตลอดจนแหล่งอบายมุขอื่นที่ส่งผลเอื้อต่อปัญหายาเสพติด บ่อนการพนัน ตู้ม้า กำจัดสิ่งยั่วยุ หรือจุดเสียง สิ่งพิมพ์ หรือเอกสารที่ส่อไปในทางลามกอนาจารด้วยการบูรณาการกับทุกภาคส่วนราชการ ประสานความร่วมมือจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติดเข้าร่วม กิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณีทางศาสนา ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม และปฏิบัติศาสนกิจ ตามหลักศาสนาที่ตนนับถือมาโดยตลอด


สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดให้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันในอันที่จะร่วมมือกันดำเนินงาน ตามนโยบายให้เกิดความสงบสุขเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลให้สังคม และประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ตลอดจนเป็นการเพิ่มช่องทางการสอดส่งให้เครือข่ายภาคประชาชน หรือองค์กรอื่น ๆ ได้ใช้เป็นช่องทางการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายที่กระทบต่อความสงบสุข เรียบร้อยของสังคมอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการประสานความร่วมมือ ตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคมบังเกิดผลเป็นรูปธรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบนโยบายแก่นายอำเภอและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.30 น.ที่ศาลาประชาวาริน เทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบนโยบายในการบริหารระบบราชการแก่นายอำเภอและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้กล่าวถึงสถานการณ์ไข้เลือดออกใน จังหวัดอุบลราชธานี ปี 2556 นี้ พร้อมสั่งการให้สาธารณสุข ทั้ง 25 อำเภอ คอยดูแลและป้องกันโรคโดยการฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคไข้ เลือดออกทุกสัปดาห์ พร้อมกับการเตรียมการรับมือการระบาดของไข้หวัดนกที่กำลังระบาดหนักที่ประเทศ จีน อาจจะแพร่ระบาดมาที่ประเทศไทยได้ โดยได้มอบหมายให้ปศุสัตว์อำเภอออกตรวจมูลหรืออุจระของสัตว์ปีกในสถานที่ที่ มีสัตว์ปีกอาศัยอยู่ชุกชุม เช่น ศาลหลักเมือง ตามวัดวาอารามเขตโรงเรียนและเขตชุมชนต่างๆ เพื่อที่จะนำอุจระที่เก็บตัวอย่างมาตรวจสอบหาเชื้อโรค ว่าเป็นไข้หวัดนกสายพันธ์ใหม่หรือไม่ จะได้หาทางแก้ไขและหาวิธีป้องกันอย่างเข้มงวดต่อไป ในส่วนนโยบายด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ได้ให้ทุกพื้นที่ที่มีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้านทำการค้าอย่างถูก กฎหมาย พร้อมการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตามแนวชายแดน รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนไปพร้อมๆกันด้วย สำหรับการดูแลรักษาพื้นที่ป่าในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยได้มี มาตรการ ให้มีรถสายตรวจจักรยานเพื่อตรวจลาดตระเวนผู้กระทำผิดเกี่ยวกับ พรบ.คุ้มครองเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพันธ์พืช รวมทั้งเป็นการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟป่าในช่วงหน้าแล้ง และมีรถสนับสนุนรถดับไฟป่า เมื่อเกิดเหตุขึ้น
 
 
 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

คณะกรรมการ TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศลงพื้นที่ติดตามประเมินผลการดำเนินดำเนินงาน สถานประกอบการ สถานศึกษาถาน ชมรม TO BE NUMBER ONE จังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ที่ บริษัทกิจตรงยามาฮ่า จำกัด นางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับ คณะกรรมการ TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ได้เดินทางลงพื้นที่ ติดตามและตรวจเยี่ยมประเมินผลการดำเกี่ยวกิจกรรมและการดำเนินงานในสถาน ประกอบการของ TO BE NUMBER ONE บริษัทกิจตรงยามาฮา จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตัวแทนประเภทชมรมในสถานประกอบการ และโรงเรียนปทุมพิทยาคม ตัวแทนสถานศึกษาต้นแบบระดับเงิน โดยทั้ง 2 ชมรมได้เป็นตัวแทนชนะเลิศระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเข้าประกวดในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ที่อิมแพคเมืองทองธานี จาการลงพื้นที่ของคณะกรรมการ TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ในครั้งนี้ ได้ตรวจเยี่ยมให้คะแนน ชมรม TO BE NUMBER ONE ทั้ง 2 แห่ง พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะแก่ชมรมในการเตรียมการเข้าประกวดรอบชิงชนะเลิศระดับ ประเทศประจำปี 2556 ในวันที่13-14 กรกฎาคม 2556 ณ อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ต่อไป.
 
 
 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย /ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

28 พ.ค.56

บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี จัดค่ายครอบครัวสัมพันธ์ ป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว มุ่นเน้นพัฒนาศักยภาพของครอบครัวให้สามารถดูแลบุตรได้เหมาะสม

วันนี้ ( 28 พ.ค. 56) ที่ ห้องประชุมแสงสุวรรณ น้ำซับรีสอร์ท อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นางนภา สกุลตนาถ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดค่ายครอบครัวสัมพันธ์ ป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว โดยมีนายณัฐคณิน มาลาสาย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี ในนามคณะผู้ดำเนินการจัดกิจกรรม พร้อมคณะให้การต้อนรับ และกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักในปัญหาความรุนแรงในครอบครัว มุ่นเน้นพัฒนาศักยภาพของครอบครัวให้สามารถดูแลบุตรได้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย พัฒนาความเข้าใจในบทบาทของพ่อแม่ และส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ตลอดจนเป็นเครือข่ายครอบครัวในการเฝ้าระวังปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้ อย่างเหมาะสม ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมในวันนี้ประกอบด้วย ครอบครัวผู้นำชุมชน ครอบครัวอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ครอบครัวอาสาสมัครประชาบดี ในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ จาก 15 ครอบครัว จำนวน 40 คน

จากการสรุปสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ของสำนักกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจำปี 2555 พบว่า ประเทศไทยมีการทำร้ายกัน ของคู่สมรสอยู่ในอันดับที่ 30 โดยชายเป็นฝ่ายทำร้ายหญิง เป็นอันดับที่ 7 ของโลก ที่สำคัญพบว่าหญิงยอมรับการถูกทำร้ายสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก จากทั้งหมด 49 ประเทศ ภาคที่มีการกระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรีมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 29 อันดับที่ 2 ภาคกลาง ร้อยละ 28 อันดับที่ 3 ภาคเหนือ ร้อยละ 18 และอันดับที่ 4 ภาคตะวันออก ร้อยละ 7 ทั้งนี้ความรุนแรงในครอบครัวมีแนวโน้มสูงขึ้น สืบเนื่องจากทัศนคติ ความเชื่อครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว ฝ่ายหญิงต้องเป็นฝ่ายอดทน เพื่อรักษาความเป็นครอบครัว ไม่ถูกนำมาเปิดเผย ต้องปกปิด จนกลายเป็นปัญหาที่ซับซ้อน สะสมไม่ได้รับการแก้ไข จากการรายงานยังพบว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นตัวบ่อนทำลายให้ครอบครัวอ่อนแอ ไม่สามารถทำหน้าที่ทางสังคมได้อย่างเหมาะสม ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ.
 

 
 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ