วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มหาสารคาม เจ้าภาพ ไทคัพ คัดเลือกเขต 4 อีสานตอนบน 1-8 พ.ย. นี้

จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาไทคัพ ครั้งที่ 12 รอบคัดเลือกตัวแทนเขต 4 อีสานตอนบน พร้อมจัดงานมหกรรมอาหารสะอาดรสชาติอร่อย 1-8 พฤศจิกายน นี้

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย ผู้แทนจากเทศบาลเมืองมหาสารคาม สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตมหาสารคาม สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม และบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ร่วมกันแถลงข่าว การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 12 ประจำปี 2556 (ไทคัพ) รอบคัดเลือกตัวแทนเขต 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งประกอบด้วย จังหวัด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น บึงกาฬ นครพนม เลย สกลนคร หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู และมหาสารคาม ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในทุกพื้นที่ได้มีโอกาสเล่นกีฬาและออกกำลังกายเพื่อ สุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะ กำหนดการแข่งขันระหว่างวันที่ 1-8 พฤศจิกายน 2556 โดยใช้สนามกีฬาสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม เป็นสนามในการจัดแข่งขัน กีฬาชนิดต่าง ๆ ประกอบด้วย ฟุตบอล เซปักตะกร้อ ตะกร้อลอดห่วง กรีฑา วอลเลบอลย์ เปตอง กีฬาพื้นบ้าน และการประกวดกองเชียร์

พร้อมกันนี้ในการแข่งขันดังกล่าว ยังได้จัดให้มีมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติอร่อย โดยเทศบาลเมืองมหาสารคาม เป็นเจ้าภาพในการจัด ตั้งแต่วันที่ 1-8 พฤศจิกายน 2556 ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ ซึ่งจะมีพิธีเปิดในวันที่ 1 พฤศจิกายน เริ่มเวลา 19.00 น. ส่วนการแข่งขันกีฬา กำหนดพิธีปิดในวันที่ 8 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ณ สนามกีฬาสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตมหาสารคาม



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการ รับจำนำระดับจังหวัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด ชี้แจงหลักเกณฑ์การรับจำนำปี 56/57 พิจารณาหาจุดรับจำนำ พร้อมการวางระบบการกำกับดูแล ป้องกันการสวมสิทธิ์เกษตรกร

นายนพวัช สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด มหาสารคาม ครั้งที่ 7 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ปีการผลิต 2556/57 หลังจากที่ได้มีการเปิดโครงการมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 2556 และจะไปสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาหาจุดรับจำนำ พร้อมการวางระบบการกำกับดูแล ป้องกันการสวมสิทธิ์เกษตรกร

นางมรกต เบญจวรรณ อิ่มวิเศษ การค้าภายในจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับ จำนำระดับจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า คณะทำงานได้ออกตรวจสอบโรงสีข้าวที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 8 ราย ผ่านการรับรองของจังหวัดเพื่อเสนอให้ อคส. (องค์การคลังสินค้า) พิจารณาแล้ว 4 ราย ไม่เสนอรับรอง 4 ราย เนื่องจากอุปกรณ์ไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ที่ กขช. กำหนด ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มี 2 แห่งที่ได้จัดหาอุปกรณ์ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ คือ บจก.ขวัญข้าวอินเตอร์เทรด อำเภอเมือง และ หจก.โรงสีสหบูรณ์ข้าวไทย อำเภอวาปีปทุม ซึ่งทางจังหวัดได้จัดส่งรายชื่อให้ อคส.พิจารณาเพิ่มเติมแล้ว

สำหรับมาตรการป้องกันการสวมสิทธิเกษตรกร จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการควบคุมการขนย้ายข้าวเปลือกหรือข้าวสารที่มีปริมาณตั้งแต่ 5 เมตริกตันขึ้นไป เข้ามาในจังหวัด จะต้องมีหนังสือขออนุญาตขนย้าย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมขอความร่วมมือตำรวจภูธรจังหวัด ตั้งด่านตรวจสอบรถบรรทุกที่เข้ามาในจังหวัด หากพบมีการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

พสกนิกรจังหวัดมหาสารคาม ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะในวันปิยมหาราช

พสกนิกรทุกภาคส่วนของจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ถวายเป็นราชสักการะ เนื่องในวันปิยมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทยนานัปการ

(23-10-56) ที่บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน ทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคาม ประกอบพิธีวางพวงมาลา ถวายเป็นราชสักการะ พร้อมกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช โดยมีนักศึกษาพยาบาล จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม นักเรียนจากโรงเรียนผดุงนารี ทำพิธีถวายบังคม

วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกกันว่าวันปิยมหาราช พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาตินานัปการ ทั้งการเลิกทาส การคมนาคม การศึกษา การศาสนา และการต่างประเทศ พสกนิกรชาวจังหวัดมหาสารคาม จึงได้พร้อมใจกัน น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านในวันดังกล่าว



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ชัยภูมิจัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันปิยมหาราช

จังหวัดชัยภูมิ จัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี

ที่ บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยส่วนราชการ สถานศึกษา และภาคเอกชนของจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกันประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2556 โดยเริ่มพิธีตั้งแต่เวลา 07.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2556 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมพิธีวางพวงมาลาอย่างคึกคัก จากนั้น นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้กล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์คือ การประกาศเลิกทาส ทำให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นไทมาจวบจนทุกวันนี้

ในรัชสมัยของพระองค์ สยามประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชน ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า "พระปิยมหาราช" หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้ทุกวันที่ 23 ตุลาคม เป็น วันปิยมหาราช ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ทรงปกครองทำนุบำรุงพระราชอาณาจักรให้มั่งคั่งสมบูรณ์ ดัวยรัฐสมบัติ พิทักษ์พสกนิกรให้อยู่เย็นเป็นสุข บำบัดภัยอันตรายทั้งภายในภายนอกประเทศ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ และสามารถธำรงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันนี้

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 รวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา ครองราชสมบัติมานานถึง 42 ปี



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ผู้ว่าฯโคราชนำหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนทุกหมูเหล่า ประกอบพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2556

เช้าวันนี้ (23 ต.ค. 56) เวลา 08.30 น. ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ นายตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่าในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบพิธีวางพวงมาลา และกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2556 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยมีผู้เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาได้ประกอบพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันปิยมหาราชเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

จังหวัดนครราชสีมา เตรียมจัดกิจกรรมการเก็บตัว สาวงาม 18 คนสุดท้าย ที่ผ่านการคัดเลือกในการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556

ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมการเตรียมความพร้อม การเก็บตัวผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 ที่จะจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา โยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 ซึ่งจะจัดการประกวดรอบตัดสินในวันที่ 24 พย 2556 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ อารีน่า ชั้น ที่ 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โยกองประกวดจะเปิดรับสมัครสาวงามทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26-29 ตค 2556 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น ณ ลานอีเดน ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยจะเก็บตัวสาวงามผู้เข้ารอบ 18 คนสุดท้าย ที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 6-8 พย 2556 รวม 3 วัน 3 คืน สำหรับกิจกรรมการเก็บตัวผู้เข้ารอบ 18 คน สุดท้าย ในการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 ประกอบด้วยการนำผู้เข้าร่วมประกวดกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ศาลหลักเมือง ก่อนร่วมทำขนมจีนประโดก เข้าชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็น ชมปราสาทหินพิมาย เป็นต้น

จังหวัดบุรีรัมย์ประกอบพิธีเนื่องในวันปิยมหาราช

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำเหล่าข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนร่วมกันประกอบพิธีถวายบังคมและวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันพระปิยมหาราช

เมื่อเวลา 08.09 น. (23 ต.ค. 56) บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทมสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำเหล่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน และนักเรียนนักศึกษาในจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมประกอบพิธีถวายบังคม และวางพวงมาลา ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว "พระปิยมหาราช” พร้อมกล่าวราชสดุดีพระเกียรติคุณ ที่พระองค์ได้สร้างคุณูปการเป็นอเนกอนันต์ต่อชาติบ้านเมือง และปวงชนชาวไทย โดยในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ร่วมกันประกอบพิธีถวายราชสักการะ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยทั่วประเทศ นอกจากนั้นส่วนราชการ และภาคเอกชนในจังหวัด ยังได้ร่วมกันบริจาคสมทบกองทุนมหาราช เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

ยโสธรมอบทุนมูลนิธิคุณพุ่ม

จังหวัดยโสธรจัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระปิยะมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลามคม 25556 ( เช้าวันนี้ 23 ตุลาคม 2556 ) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดยโสธร บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด นำข้าราชการ/ ทหาร/ ตำรวจ/ พนักงานรัฐวิสาหกิจ/ นักเรียน/ นักศึกษาและพ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลา ถวายราชสักการะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อปวงชนชาวไทยหลายด้าน อาทิ การประกาศเลิกทาส การปฏิรูประบบราชการ การสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พสกนิกรชาวจังหวัดยโสธรจึงได้ร่วมใจจัด พิธีวางพวงมาลา ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน



วรรณทอง ภูโสภา
ส ปชส/ยโสธร/ภาพ/ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ดประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันปิยมหาราช

วันนี้ (23 ต.ค. 56) เวลา 09.00 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราช ประจำปี 2556 ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมในพิธี เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างหาที่สุดมิได้

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2396 มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าจุฬาลงกรณ์ พระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2411 ขณะมีพระชนมายุ 15 พรรษา เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 และเป็นยุวกษัตริย์พระองค์แรกของพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระนามว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรงอยู่ในสิริราชสมบัติเป็นเวลา 42 ปีเศษ และเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 รวมสิริพระชนมายุได้ 57 พรรษา พระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชสมัยของพระองค์ มีหลายด้านทั้งด้านการปกครองและการบริหารประเทศ ด้านการต่างประเทศ ด้านการทหาร ด้านการศาสนาและการศึกษา ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และด้านสาธารณสุข ซึ่งพสกนิกรชาวไทยทั้งปวง ต่างประจักษ์และมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาคุณไม่มีวันเสื่อมคลาย และต่างพร้อมกันเทิดพระเกียรติถวายพระราชสมัญญานามพระองค์ท่านว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช " ซึ่งหมายถึง พระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักของประชาชน



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 23 ต.ค. 56

จังหวัดศรีสะเกษ จัดพิธีวางพวงมาลา เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปริมนทร์ทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระปิยมหาราช

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 23 ต.ค. 56 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการประกอบพิธีถวายพวงมาลา หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่5 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปริมนทร์ทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระปิยมหาราช เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย อย่างหาที่สุดมิได้ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมประกอบ พิธีในครั้งนี้

นายประทีป กล่าวว่า พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 คือ การประกาศเลิกทาส ทำให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นไทมาจวบจนทุกวันนี้ ในรัชสมัยของพระองค์ สยามประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชน ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า "พระปิยมหาราช" หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้ทุกวันที่ 23 ตุลาคม เป็น วันปิยมหาราช 

จังหวัดอำนาจเจริญประกอบพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

วันนี้ (23 ต.ค. 2556)    เวลา 08.00 น.  นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานประกอบพิธีวางพวงมาลา และถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ณ พระบรมราชานุเสาวรีย์ฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5  บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ตำรวจ ทหาร นิสิต นักศึกษา กลุ่มพลังมวลชน ลูกเสือชาวบ้าน พ่อค้า ประชาชน  ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เป็นจำนวนมาก

ด้วยในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปีเป็น "วันปิยมหาราช”   เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5      จังหวัดอำนาจเจริญจึงได้ประกอบพิธีวางพวงมาลา ถวายราชสักการะพระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5   และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ  โดยมีลูกเสือ  เนตรนารี  นักศึกษาวิชาทหาร       วงดุริยางค์ ถวายบังคมต่อหน้าพระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 เพื่อแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวที และร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน พระผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ ที่ได้ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์แก่ชาติอย่างใหญ่หลวง ตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชชนนี ทรงประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2396 ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ สืบราชสันตติวงศ์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2411 ขณะมีพระชนมายุเพียง 16 พรรษา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และได้เสด็จสวรรคตท่ามกลางความทุกข์เทวษโศกาดูร ของปวงพสกนิกร เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พุทธศักราช 2453 สิริรวมพระชนมายุได้ 57 พรรษา ทรงดำรงสิริราชสมบัติเป็นเวลาถึง 42 ปี

ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช พระองค์ทรงคำนึงถึงทุกข์สุขของราษฎร และประโยชน์ของประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์สุขส่วนพระองค์ ทรงรับพระราชภาระอันหนักยิ่ง ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร พระราชกรณีย์กิจภายในราชอาณาจักร มีมากมายหลายประการ ในด้านการส่งเสริมความเจริญของประเทศ พระองค์ทรงบริหาราชการแผ่นดินด้วยความสนพระทัย ได้เสด็จประพาสต้น เยี่ยมเยียนทุกข์สุขของพสกนิกรของพระองค์อยู่เป็นนิจ ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงพยาบาลต่างๆ ทรงจัดตั้งสุขาภิบาล ทรงริเริ่มให้มีการบริการ ประปา ไฟฟ้า รถไฟ รถเมล์ โทรเลข และการไปรษณีย์ ทรงจัดตั้งโรงเรียนขึ้นทั่วราชอาณาจักร และโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ส่งนักศึกษาไทยออกไปศึกษายังต่างประเทศ อีกด้วย นอกจากนี้ ทรงมีพระราชประสงค์ ที่จะขจัดการกดขี่ ความไม่ยุตธรรม ในสังคมให้หมดสิ้นไป ด้วยทรงดำริว่าระบบการค้าทาส เป็นเครื่องกีดขวางความเจริญ และเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชน พระองค์จึงทรงประกาศยกเลิกระบบทาส ซึ่งนับว่าเป็นการให้อิสรภาพแก่คนไทยอย่างแท้จริง



จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว / ภาพ
สุรพล  บุตรวงศ์ / บก.ข่าว

อุดรธานีจัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันปิยะมหาราชปี 56

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานี ประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราชประจำปี 2556

ที่บริเวณพระราชานุสาวรีย์รัชการที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี เช้าวันนี้ ( 23 ต.ค.56 ) เหล่าพสกนิกรชาวจังหวัดอุดรธานีทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจกันนำพวงมาลามาถวายราชสักการะพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 โดยมีนายเสีนย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันปิยะมหาราช ซึ่งเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง โดยมีหน่วยงานราชการ ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ประชาชน สถาบันการศึกษา นักเรียนนักศึกษา สมาคม ชมรม มูลนิธิ มาร่วมวางพวงมาลาจำนวนมาก
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราบราราชินี ประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 ตรงกับวันอังคารเดือน 10 ค่ำ ปีฉลู พระองค์เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติสืบสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อพระชนมายุได้ 15 พรรษา ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2411 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 รวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา นับเวลาครองราชสมบัติ 42 ปี

พระราชกรณียกิจที่สำคัญด้านการเมืองการปกครอง พระองค์ท่านทรงปรับปรุงระบบการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเปลี่ยนจากแบบจตุสดมภ์ เป็นกระทรวง ทบวง กรม ตามอารยะประเทศ จัดให้มีการปกครองตนเองโดยจัดตั้งสุขาภิบาลขึ้นเป็นแห่งแรกที่ตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร ทรงทดลองให้มีการเลือกตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นแห่งแรก ที่อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2435 ด้านเศรษฐกิจเป็นผู้ริเริ่มการก่อตั้งการรถไฟ ไปรษณีย์โทรเลข ด้านการศึกษา ทรงส่งเสริมให้สามัญชนทั่วไปได้รับการศึกษาและทรงจัดตั้งโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า นอกจากนี้พระองค์ท่านทรงได้ประกาศเลิกทาส โดยออกพระราชบัญญัติรัตนโกสินทร์ศก 125 ใน พ.ศ.2448 ให้ยกเลิกการมีทาสโดยสิ้นเชิง ซึ่งจากพระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติมา ประกอบกับทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม อันประเสริฐเป็นที่ชื่นชมของพสกนิกรชาวไทย จึงได้รับการขนานพระนามพระนามาภิไธยว่า "พระปิยะมหาราชเจ้า” เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว /ภาพ

นายกสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ นำถุงยังชีพพร้อมทุนการศึกษามอบให้ผู้ประสบอุทกภัยที่อุบลาชธานี

อุบลราชธานี :  นางเยาวเรศ ชินวัตร นายกสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติพร้อมคณะ นำถุงยังชีพมอบให้ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 1,500 ชุด ผ้าห่มกันหนาว 1,500 ผืน พร้อมทุนการศึกษา 20 ทุนให้ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยที่สวนสาธารณะห้วยม่วง  อ.เมืองอุบลาชธานี

เช้าวันนี้ (23 ต.ค. 56) นางเยาวเรศ  ชินวัตร นายกสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางมามอบถุงยังชีพ,ผ้าห่มกันหนาวและทุนการศึกษา ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี  ที่สวนสาธารณห้วยม่วง อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยนายสุทธินันท์  บุญมี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับ ซึ่งคณะสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ ได้นำถุงยังชีพ จำนวน 1,500 ชุด ผ้าห่มกันหนาว 1,500 ผืน มอบให้ผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบทุนการศึกษา อีก 20 ทุนให้กับครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้

พร้อมนี้นายสุทธินันท์  บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลาชธานี ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 23 อำเภอ  155 ตำบล 1,518 หมู่บ้าน/ชุมชน 101,777 ครัวเรือน ประชาชน  441,772 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,377 หลัง ความเสียหายด้านอื่น เช่น ถนนเสียหาย 151 สาย  ท่อระบายน้ำ 12 แห่ง  สะพาน 18 แห่ง วัด 61 แห่ง โรงเยน 4 แห่ง พื้นที่ทำการเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 445,831 ไร่ บ่อปลา 20,126 บ่อ

ด้านการให้ความช่วยเหลือ จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับสิ่งของพระราชทานจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์  จำนวน 5,000 ชุด,สิ่งของพระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร โดยสำนักงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว วังศุโขทัย จำนวน 1,000 ชุด,สิ่งของพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี จำนวน 1,600 ชุด มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก จำนวน 2,000 ชุด  นอกจากนี้หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิการกุศล มูลนิธิต่างๆ ให้ความช่วยเหลือ เช่น ด้านกำลังพล 6,276 นาย, ถุงยังชีพ 68,788 ชุด, น้ำดื่ม 35,000 ชุด, ออกให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 134 หน่วย จำนวน 12,440 ครั้ง ยาและเวชภัณฑ์ จำนวน 41,650 ชุด พร้อมทั้งบริการสุขาเคลื่อนที่/เต็นท์สนาม/รองเท้าบูธ/เสื้อชูชีพรวมทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์และยานพาหนะ เรือท้องแบน เรือ รถกู้ภัย เครื่องสูบน้ำ รถผลิตน้ำดื่ม รถน้ำ รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถขุดตักและเครื่องจักรกลอื่นๆ สำหรับสถานการณ์น้ำมีระดับทรงตัวและลดลงเล็กน้อย คาดว่าจะลดระดับลงอย่างต่อเนื่องและเข้าสู่สถานการณ์ ปกติ ประมาปลายเดือนตุลาคม 2556 นี้



พงษ์สถิตย์  อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 23 ต.ค.56

จังหวัดอุบลราชธานี นำทุกภาคส่วน ร่วมพิธีถวายบังคมและวางพวงมาลาวันปิยมหาราช

อุบลราชธานี : รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำทุกทุกภาคส่วน ร่วมพิธีถวายบังคมและวางพวงมาลาวันปิยมหาราชเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประเทศชาติ ณ พระบรมราชานุสาวรี รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังเดิม

เช้าวันนี้ (23 ต.ค. 56) นายสุทธินันท์  บุญมี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลาชธานี  นำคณะข้าราชการทุกภาคส่วนทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร, ภาคเอกชน, องค์กร, มูลนิธิ และภาคประชาชน ร่วมพิธีถวายบังคมและวางพวงมาลา เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม 2556 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีรัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลาชธานี หลังเดิม โดยมีภาคส่วนต่างๆ ร่วมพิธีกว่า 100 หน่วยงาน  ซึ่งวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อประเทศชาติและปวงชนชาวไทย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติเป็นเวลานานถึง 43 ปี  ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ อันเป็นประโยชน์และความเจริญก้าวหน้าแก่ชาติบ้านเมืองอย่างมาก   พระองค์ได้เสด็จไปเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาอารยประเทศในทวีปยุโรป เป็นผลให้สามารถปัดเป่าและบรรเทาภัยและเหตุร้ายที่จะเกิดจากประเทศมหาอำนาจที่กำลังล่าอาณานิคมอยู่ในขณะนั้น  โดยใช้กุศโลบายทางการเมือง การปกครองและการเสียสละ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ อีกทั้งทรงปรับปรุงการปกครองของไทยให้มีความก้าวหน้าทันสมัย เช่นยกเลิกระบบ เวียง วัง คลัง นา จัดการปกครองและการบริหารราชการแผ่นดิน ทรงสร้างทางรถไฟ การไปรษณีย์ โทรเลข  และโทรศัพท์ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย  และที่สำคัญอีกประการหนึ่งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้านพ้นต่อพสกนิกรชาวไทยคือพระองค์ได้ประกาศเลิกทาส ทำให้ทาสทุกคนได้เป็นอิสระ เป็นไทแก่ตน ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นนี้ ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยและทำให้ประเทศไทยคงความเป็นไทยมาจนถึงปัจจุบัน



พงษ์สถิตย์  อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/  23 ต.ค.56

จังหวัดสุรินทร์ประกอบพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวัน วันปิยมหาราช

พสกนิกรทุกหมู่เหล่าชาวจังหวัดสุรินทร์ เป็นจำนวนมากร่วมในพิธีวางพวงมาลา ราชสดุดีเนื่องในวันปิยมหาราช

วันนี้ 23 ต.ค. 2556 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำคณะส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม องค์กร ชมรม มูลนิธิ นักเรียน นักศึกษา กลุ่มพลังมวลชน ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช และกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ ที่บริเวณราชาอนุสาวรีย์หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เนื่องในวันปิยมหาราช ทั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทุกปีจะมีการวางพวงมาลาดอกไม้ที่พระบรมรูปทรงม้า เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์เป็นที่เคารพรักของทวยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการทั้งในการปกครองบ้านเมืองและพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงได้ถวายพระนามว่า พระปิยมหาราช หรือพระพุทธเจ้าหลวง ด้านการปกครอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ แยกหน่วยราชการออกเป็นกรมกองต่าง ๆ มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะไม่ก้าวก่ายกัน การสาธารณูปโภค ทรงให้กักเก็บน้ำจากแม่น้ำเชียงรากน้อย จ.ปทุมธานี และขุดคลองเพื่อส่งน้ำเข้ามายังสามเสน พร้อมทั้งฝังท่อเอกติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการทำน้ำประปาขึ้นในเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2452

การคมนาคม วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปขุดดินก่อพระฤกษ์เพื่อประเดิมการสร้างทางรถไฟไปนครราชสีมา แต่ทรงเปิดทางรถไฟกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยาก่อน จึงนับว่าเส้นทางรถไฟสายนี้เป็นทางรถไฟแห่งแรกของไทย การสาธารณสุข เนื่องจากการรักษาแบบยากลางบ้านนี้ล้าสมัยไม่สามารถช่วยคนได้อย่างทันท่วงที จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างโรงพยาบาล ณ บริเวณริมคลองบางกอกน้อย และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 200 ชั่ง โรงพยาบาลแห่งนี้เปิดทำการรักษาประชาชนเป็นครั้งแรกเมื่อ 26 เมษายน พ.ศ.2431 และใช้ชื่อโรงพยาบาลว่า โรงพยาบาลวังหลัง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงพยาบาลศิริราช" การไฟฟ้า พระองค์ทรงมอบหมายให้ กรมหมื่นไวยวรนาถ เป็นแม่งานในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2433

การศึกษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้ขยายการศึกษา ในปี พ.ศ.2414 โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นภายในพระบรมมหาราชวังโดยมีท่านพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เป็นอาจารย์ใหญ่ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนอีกแห่งซึ่งสอนภาษาอังกฤษมีนาย ยอซ แปตเตอร์สัน เป็นอาจารย์ใหญ่ และโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างโรงเรียนหลวงอีกหลายแห่ง โรงเรียนหลวงแห่งแรกที่สร้างขึ้นในวัดคือ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม

ในปี พ.ศ.2427 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีสุนทรโวหาร เขียนตำราเรียนขึ้นมา เรียกว่า แบบเรียนหลวง 6 เล่ม คือ มูลบทบรรพกิจ วาห์นิติ์นิกร อักษรประโยค สังโยคพิธาน ไวพจน์พิจารณ์ พิศาลการันต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าผู้หญิงก็สมควรที่จะได้รับความรู้เช่นเดียวกับผู้ชาย ในปี พ.ศ.2444 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงเรียนสตรีขึ้น โรงเรียนหลวงแห่งแรกที่ตั้งขึ้น คือ โรงเรียนบำรุงสตรีวิทยา การปกป้องประเทศ

เจ้าหน้าที่ พบศพ เจ้าหน้าที่บริษัท ปตท. คนไทยคนสุดท้ายที่เสียชีวิตจากเครื่องบินลาวตก

วันนี้ ( 23 ต.ค. 2556 ) นายสุทธินันท์  บุญมี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยถึงการค้นหาศพผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินลาวตกที่แม่น้ำโขง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้พบศพนายนิพน  ชัยชนะกุลดี เจ้าหน้าที่ บริษัท ปตท. ซึ่งเป็นศพที่5 ของคนไทยที่เสียชีวิตกับเครื่องบินเที่ยวนี้  เจ้าหน้าที่ได้พบศพของนายนิพน ที่บริเวณท่าน้ำ บ้านร้อยสะเลา เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ใกล้กับจุดกู้ซากเครื่องบิน  ซึ่งอวัยวะค่อนข้างที่จะสมบูรณ์  ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำศพนายนิพน บรรจุไว้ในโลง และเก็บไว้ที่วัดจีน เพื่อรอการติดต่อจากญาตินำมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่ประเทศไทยต่อไป



กรกช   ภูมี /สวท.อุบลฯสปข.2 รายงาน
23 ต.ค.56 

สมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ ส่งเสริมการฝึกอาชีพแก่สตรีทั่วประเทศ เน้นการนำปัจจัยในพื้นที่มาทำผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้

(23 ตค. 56 )  นางเยาวเรศ  ชินวัตร นายกสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่จังหวัดอุบลราชธานี เกี่ยวกับการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนางานด้านสตรีว่า  ที่ผ่านมา สมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ  ได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการฝึกอาชีพให้กับสตรีกลุ่มต่างๆ  ที่ได้รับการร้องขอ เน้น การนำปัจจัยในพื้นที่มาเป็นวัสดุในการจัดทำ มีการจัดส่งผู้ที่มีความรู้ไปเป็นวิทยากรแนะนำการทำผลิตภัณฑ์ แก่กลุ่มสตรี  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้ให้ความสำคัญในการฝึกอาชีพ และเรื่องเงินทุนในการฝึกอาชีพแก่กลุ่มสตรี จังหวัดภาคใต้ของไทย ให้มีรายได้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่สตรีที่ขาดเสาหลักของครอบครัว




กรกช   ภูมี / สวท.อุบลฯ
สปข. 2 รายงาน / 23 ต.ค. 56

ผลการเลือกนายก อบต.และ ส.อบต.88 แห่งของจังหวัดสุรินทร์ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 72%

ผลการเลือกนายก อบต.และสมาชิก.อบต. จำนวน 88 แห่งของจังหวัดสุรินทร์ ทางกกต.ได้ประกาศรายชื่อได้ นายกหน้าใหม่เข้ามาถึง 54 ท่าน อีก 30 ท่านนายกเก่ายังรักษาเก้าอี้ไว้ได้ ส่วนอีก 4 ท่าน ยังไม่ประกาศ ในขณะที่มีผู้ที่ให้ความสนใจตื่นตัวมาใช้สิทธิ์ 72%

วานนี้ (22 ต.ค. 56) ที่ห้องประชุมสำนักงาน กกต.สุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย กรรมการ กตต.สุรินทร์ ทั้ง 3 ท่านได้ร่วมเปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า ผลการเลือกตั้ง นายก อบต. และสมาชิก อบต. จำนวน 88 แห่งของจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่เสาร์ที่ 19 ต.ค. 56 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนการเลือกตั้งได้มีการเตรียมความพร้อม ได้พูคุยผู้กับสมัคร ให้เป็นไปตามกฎ กติกา ระเบียบตาม กกต.ทุกอย่าง นอกจากนี้ทาง กกต.สุรินทร์ ยังได้เตรียมบุคคลากรในการเลือกตั้งกว่า 2,000 คน สถานที่ของหน่วยเลือกตั้ง เอกสาร คูหา บัตรเลือกตั้ง ทุกอย่างได้มีการเตรียมการอย่างดี ซึ่งผลการเลือกนายก อบต.และสมาชิก.อบต. จำนวน 88 แห่งของจังหวัดสุรินทร์ ทางกกต.ได้ประกาศรายชื่อได้ นายกหน้าใหม่เข้ามาถึง 54 ท่าน อีก 30 ท่านนายกเก่ายังรักษาเก้าอี้ไว้ได้ ส่วนอีก 4 ท่าน ยังไม่ประกาศ นายยุทธนา วิระกิตติ ประธาน กกต.สุรินทร์ กล่าวอีกว่า ตามกฎ กกต.หลังเลือกตั้งแล้วเสร็จ จะต้องประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกตั้งภายใน 3 วัน จากนั้นจะได้ส่งใบประกาศผลส่งไปยัง กกต.ส่วนกลางเพื่อประกาศผลต่อไป หากพี่น้องประชาชน มีเรื่องร้องเรียนไม่เห็นด้วยอย่างไร ต้องร้องเรียนภายใน 30 วัน ในส่วนผลการเลือกตั้งนายก อบต.88 แห่งในครั้งนี้ มี 3 อำเภอที่นายก อบต.คนเก่ายังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ได้แก่ อำเภอสนม โนนนารายณ์และอำเภอศรีณรงค์ นอกจ่กนี้ยังพบว่านายก ชื่อดัง หลายๆท่านยังคงรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ อาทิ นายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา นายก กระโพ,นายวาณิช ธนาคุณ นายก อบต.ท่าตูม และนางสาวจิรฐา ชันชนะไพศาล นายก อบต.บุฤาษี เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกนายก อบต.และสมาชิก.อบต. จำนวน 88 แห่งของจังหวัดสุรินทร์ ทางกกต.ได้ประกาศรายชื่อได้ นายกใหม่จำนวน 54 ท่าน อีก 30 ท่านเป็นท่านเดิม ส่วนอีก 4 ท่าน ยังไม่ประกาศ เพราะจะได้สืบสวน สอบสวน และได้รีบดำเนินการต่อไป



อุทัย มานาดี /รายงาน

จ.สุรินทร์ เชิญชมการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 2556

จังหวัดสุรินทร์ เชิญชมการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 2556  วันที่ 26 - 27 ตุลาคม นี้ ณ ลำน้ำมูล บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ อำเภอท่าตูม

นายสิรินเทพ ร่วมพัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลท่าตูม เปิดเผยว่า ลำน้ำมูล เป็นสายน้ำที่เปรียบเสมือนสายเลือดใหญ่ของชาวอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนมาเป็นเวลาช้านานมากกว่า 100 ปี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของความเป็นเมืองท่า อันมีความสำคัญด้านคมนาคมทางน้ำที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ ชาวท่าตูมจึงมีความผูกพันกับสายน้ำมูล ดังนั้นหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวชาวท่าตูมทุกหมู่บ้านจะร่วมกันเฉลิมฉลองพร้อมร่วมรำลึกพระคุณของแม่น้ำมูล โดยนำเรือยาวมาทอดกฐินเพื่อทอดถวายพร้อมกัน และนำเรือยาวมาแข่งขันกันเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงพร้อมสร้างความสามัคคี ซึ่งได้ถือปฏิบัติกันมาจวบจนปัจจุบัน จากความสำคัญดังกล่าว จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอท่าตูม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่อำเภอท่าตูม เทศบาลตำบลท่าตูม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัดงาน "ประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน แข่งเรือปลอดเหล้า จังหวัดสุรินทร์” ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 26 - 27 ตุลาคม 2556 ณ ลำน้ำมูล บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 เทศบาลตำบลท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานบนหลังช้าง ขบวนพาเหรดวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงจาก 10 ตำบล การแข่งขันเรือใหญ่ 55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, การแข่งขันเรือยาวกลาง 40 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, การแข่งขันเรือยาวกลาง เรือท้องถิ่น 40 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และการแข่งขันเรือยาวเล็ก 30 ฝีพายชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงมหรสพ และจัดจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ภายในงานด้วย



กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

จ.สุรินทร์ ประกอบพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันปิยมหาราช ประจําปี 2556

จังหวัดสุรินทร์ ประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช ประจําปี 2556

วันนี้ ( 23 ต.ค. 2556 ) ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ และกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา กลุ่มพลังมวลชนและประชาชน ร่วมพิธีจำนวนมาก

วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันปิยมหาราช หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งประชาชน ต่างพร้อมใจกันวางพวงมาลาดอกไม้สักการะ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 คือ การประกาศเลิกทาส ทำให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นไทมาจวบจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ ในรัชสมัยของพระองค์ สยามประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ด้านการปฏิรูประบบราชการ การศึกษา การเสด็จประพาสต่างประเทศ และการสาธารณูปโภค การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชน ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า "พระปิยมหาราช" หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้ทุกวันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันปิยมหาราช



กิติวรรณ มณีล้ำ / รายงาน 

มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน เชิญชวนร่วมกิจกรรม “ร่วมการสร้างสวัสดิการการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัย”

มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน ขอเชิญร่วมกิจกรรม "ร่วมการสร้างสวัสดิการการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยและวัฒนธรรมผ้าป่าหนังสือสู่ชุมชน” ปีที่ 2 /2556

นางจันทร์เพ็ญ สินสอน ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประชาคมสุรินทร์สร้างสุข ได้ตระหนักถึงการอ่านหนังสือส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เร่งสร้างวัฒนธรรมการอ่านในสังคมสุรินทร์ตามนโยบายรัฐบาล ที่ให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2552 จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐเอกชนที่เกี่ยวข้องและเครือข่าย 32 ชุมชนเทศบาลเมืองสุรินทร์ จัดมหกรรม "ร่วมการสร้างสวัสดิการการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยและวัฒนธรรมผ้าป่าหนังสือสู่ชุมชน” ปีที่ 2 /2556 ในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 ณ เวทีลานเชียงปุม อบจ.สุรินทร์ เพื่อมอบข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่องสวัสดิการการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัย มอบหนังสือให้แก่ชุมชน / โรงเรียนที่ขาดแคลน หมุนเวียนให้เกิดการอ่าน

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม การแสดงนิทรรศการการเรียนรู้ การประกวดเขียนเรื่องเล่า "อ่านเพื่อเปลี่ยน” การประกวดคำขวัญของชุมชนและยังมีการประกวดบนเวที อาทิ การประกวดเล่าเรื่องจากการอ่าน จากหนังสือที่ชอบอ่าน การประกวด "แดนซ์อ่าน” ชิงเงินรางวัลมากมายในงานด้วย



กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

พ่อค้า-แม่ค้าตลาดชายแดนช่องจอม กว่า 400 ร้าน ค้า รวมตัวประท้วง

พ่อค้า-แม่ค้าตลาดชายแดนช่องจอม กว่า 400 ร้าน ค้า รวมตัวประท้วง อ้างเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม เก็บภาษีผ่านแดนโหด และไม่มีเสร็จรับเงิน พ่อค้าชาวไทย ระบุเรียกเก็บเงินเสื่อกก ผืนละ 10 บาท และขึ้นเลื่อยๆขณะที่สินค้าเกษตรฟักทอง รถเข่นละ 200 บาท ขึ้นเป็น 2,800 บาท รถจักรยานสองล้อ จาก 50 บาท เป็น 300 บาท ไร้ใบเสร็จ

วานนี้ (22 ต.ค. 56) ที่ ด่านศุลกากรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พ่อค้า แม่ค้า ชาวไทยและชาวกัมพูชา ที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากร้านค้า 400 กว่า ร้าน ในตลาดชายแดนช่องจอม เดินทางมาชุมนุมประท้วง กว่า 350 ราย ประท้วงการจัดเก็บภาษีสินค้าผ่านแดน ของเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม ที่จัดเก็บภาษีไม่เป็นธรรม มีการจัดเจ็บค่าสินค้าผ่านแดนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไม่เป็นระบบ และไม่มีใบเสร็จรับเงินออกให้ ผู้ประท้วงได้ส่งตัวแทนเข้าพบและเจรจากับ นายอดิศร สิทธิชอบธรรม ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรช่องจอม นายกฤษดา แก้วสองเมือง นายอำเภอกาบเชิง พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีระโชติ ผู้กำกับ สภ.กาบเชิง เพื่อเจรจารับเรื่องข้อขัดข้อง ข้อเรียกร้อง ของกลุ่มผู้ค้าตลาดชายแดนช่องจอม

นายสาหลี่ มาดมะนั่ง พ่อค้าส่งสินค้าการเกษตร ตลาดชายแดนช่องจอม กล่าวว่า ตนเองเดือดร้อนจากการเก็บภาษี นำเข้าสินค้าการเกษตร จากประเทศกัมพูชา ประเภทเสื่อกก ฟักทอง และสินค้าเกษตรอื่นอื่นอีกหลายชนิดด้วยกัน ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรช่องจอม เก็บภาษี อย่างไม่เป็นธรรม ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในแต่ละเวรที่เข้าปฎิบัติหน้าที่ เก็บไม่เหมือนกัน และไม่มีใบเสร็จ ออกให้ ส่วนฟักทอง คิดราคาภาษีผ่านแดน เป็นรถเข็น คันละ 200 บาท ขณะนี้ เพิ่มเป็น รถเข็นละ 2,800 บาท และไม่มีใบเสร็จ ไม่รู้เงินเข้าหลวง หรือเข้ากระเป๋า ใคร บางวันยังมีใต้โต๊ะ และฟักถามหาใบขนสินค้า ซึ่งตนเองไม่มี เพราะเป็นสินค้าเกษตร ที่สำคัญ ไม่สามารถส่งไปขาย ยังตลาดไท ที่ จ.ปทุมธานี ได้ทันเวลา ทำให้ตนต้อง ทิ้งฟักทองไป และหมดเงินชื้อฟักทองไป 50,000 บาท

นายคะนอง ทองทิพย์ อายุ 46 ปี พ่อค้าเสื่อกก อยู่บ้านเลขที่ 325 หมู่ 18 ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าอยากให้ด่านศุลกากรช่องจอม ลดหย่อนภาษี ให้บ้าง ทางกัมพูชา เสียภาษี ผืนละ 2 บาท แต่ศุลกากร ไทย เก็บผืนละ 10 บาท ม้วนหนึ่ง 10 ผืน ผืนละ10 บาท เอามา 3,000 ผืน ต้องเสียภาษี ถึง 30,000 บาท ตนเสียภาษีมาแล้ว 6-9 หมื่น บาท จ่ายค่าพาหนะ ค่าขนส่ง แล้วผมจะเหลืออะไร ศุลกากร มองว่า เสื่อเป็นสินค้าธุรกิจ แต่ชาวบ้าน มองว่า เป็นสินค้าพื้นบ้าน เงินเข้ากระเป๋า ใคร การจัดเก็บภาษี ไม่มีใบเสร็จ และเก็บภาษีตามอำเภอใจ ไม่มีมาตรฐาน บางวันอยากเก็บ 7 บาทก็เก็บ อยากเก็บ 10 บาท ก็เก็บ จะจัดเก็บอาทิตย์ละครั้งแต่ละ อาทิตย์ ก็เปลี่ยนหน้ากันมา เป็นความเดือดร้อน ของผู้ค้าทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ในขณะนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือผู้ค้าตลาดชายแดนช่องจอม ด้วยครับ




อุทัย  มานาดี /รายงาน

จ.สุรินทร์ ประชุมแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินสาธารณะในการสร้างสถานีวิทยุรัฐสภาที่จังหวัดสุรินทร์

วานนี้ (22 ต.ค. 56) ที่ห้องประชุมชั้น2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนางบุษกร วรรธนะภูติ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,นางสาวโสมอุษา บูรณะเหตุ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา นายมนตรี บุญสุญา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแกใหญ่,นางผุสดี เสริมใหม่ ผอ.สวท.สุรินทร์ , ผอ.ฝ่ายช่างเทคนิคกรมประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่รัฐสภา,กรมประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างสถานีวิทยุรัฐสภาในพื้นที่สาธารณะซึ่งอยู่ในพื้นที่ตั้งของสถานีเครื่องส่งวิทยุ AM สวท.สุรินทร์ ซึ่ง อบต.แกใหญ่ ได้แจ้งให้ระงับการก่อสร้างไว้ชั่วคราวเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา หลังตรวจสอบแล้วไม่ได้ขออนุญาตในการก่อสร้างจากท้องถิ่น

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวสรุปภายหลังจากให้แต่ฝ่ายได้พูดคุยกันแล้วว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จังหวัดสุรินทร์จะได้ประโยชน์อย่างมากในการตั้งสถานีวิทยุรัฐสภา แต่ในการก่อสร้างในแต่ละพื้นที่มีปัญหา มีความสับสน ในเนื้อหาสาระ จึงต้องสร้างความเข้าใจร่วมใจกัน จึงได้นัดทุกฝ่ายทั้ง อบต.แกใหญ่ , สถานีวิทยุรัฐสภา.กรมประชาสัมพันธ์ ได้มาพูดคุย สร้างความเข้าใจกัน และได้ชี้แจงถึงการใช้พื้นที่ตามจำนวนที่เป็นจริง ในส่วนของวิทยุรัฐสภานั้นขอใช้พื้นที่แค่ 200 ตาราวา หากตกลงกันได้ ก็จะสามารถเดินหน้าได้ ปัญหาก็น่าจะยุติ

ทั้งนี้ สถานีวิทยุรัฐสภา ได้เตรียมที่จะก่อสร้างอาคารเครื่องส่งและเสาอากาศ เพื่อส่งกระจายเสียงวิทยุของรัฐสภาที่จังหวัดสุรินทร์ โดยขอใช้พื้นที่ของสวท.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่สาธารณะ "ป่ากรง "บ้านตระแบกน้อย ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ และอยู่ระหว่างการยื่นขอถอนสภาพ เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะดังกล่าว ซึ่งต้องผ่านเวทีการประชาคมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาชาวบ้านและอบต.แกใหญ่ มีความต้องการที่นำพื้นที่บางส่วน มาพัฒนาเป็นสนามกีฬาของชุมชนด้วย จึงเป็นปัญหาทำให้ไม่สามาถดำเนินการก่อสร้างเสาอากาศของสถานีรัฐสภาได้ .



อุทัย มานาดี / รายงาน

โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จัดกิจกรรม Big Cleaning Day ถวายราชสักการะ วันปิยมหาราช

วันนี้ (23 ตุลาคม 2556) เวลา 10.00 น. นายแพทย์เกรียงไกร โกวิทางกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดจัดกิจกรรมรณรงค์ Big Cleaning Day เพื่อถวายเป็นราชสักการะเนื่องในวันปิยมหาราช ณ บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โดยมีคณะเจ้าหน้าที่ แพทย์ และพยาบาล ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

พ.อ.นายแพทย์ศิวพล บุญรินทร์ รองผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริการ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ได้กำหนดให้วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2556 เป็นวันจัดกิจกรรมรณรงค์ Big Cleaning Day เพื่อถวายเป็นราชสักการะเนื่องใน วันปิยมหาราช และเพื่อทำความสะอาด จัดระเบียบสถานที่ ปรับปรุงสภาพ

แวดล้อมให้เหมาะสม น่าอยู่ น่าทำงาน และมี ความปลอดภัย ส่งผลต่อการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีของเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย โดยได้ระดมความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ร่วมกันทำกิจกรรม 5 ส. ในพื้นที่อาคารเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ ชั้น 1-7 และโดยรอบอาคาร แบบ 360 องศา

นายแพทย์เกรียงไกร โกวิทางกูร กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมกับความเสียสละของผู้เข้าร่วมกิจกรรมการจัดรณรงค์ Big Cleaning Day โดยการทำกิจกรรม 5 ส. เป็นกิจกรรมพื้นฐานสำคัญที่จะสร้างบรรยากาศที่ดีในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังช่วยปลูกจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่ในองค์กร เป็นแบบอย่างในการดูแลรักษาความสะอาด ปลอดภัย และสร้างเสริมการทำงานเป็นทีมที่ดีต่อไป และในโอกาสเดียวกันนี้ ก็เพื่อถวายเป็นราชสักการะ เนื่องในวันปิยมหาราช อีกด้วย



ประเสริฐ อินทา/ ข่าว

ชาวร้อยเอ็ดทุกหมู่เหล่า ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช

วันนี้ (23 ต.ค. 56) เวลา 09.00 น.  บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำข้าราชการ พ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า นำวางพวงมาลาถวายราชสักการะหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นานัปการ ทั้งการประกาศเลิกทาส เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ก่อนพระองค์ท่านจะเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุขให้เกิดแก่พสกนิกร ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงได้น้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า "พระปิยมหาราช” หรือพระพุทธเจ้าหลวง และรัฐบาลได้กำหนดให้ทุกวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันปิยมหาราช

โดยหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน องค์กรเอกชน นำพวงมาลาวางถวายหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตามลำดับ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานในพิธีเดินทางถึงบริเวณพิธี ถวายมาลัยคล้องที่พระหัตถ์พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว วางพวงมาลาถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นขอเชิญชวนข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ร่วมกันรณรงค์ทำความสะอาดอาคาร สถานที่ราชการ สำนักงานของตนเองเพื่อความเป็นสิริมงคล



ประเสริฐ อินทา/ ข่าว

พสกนิกรจังหวัดมุกดาหารทุกหมู่เหล่าวางพวงมาลา “วันปิยมหาราช”

พสกนิกรจังหวัดมุกดาหารทุกหมู่เหล่าร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ "วันปิยมหาราช” พร้อมกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าศาลากลางจังหวัด

วันนี้ (23 ต.ค. 2556) เวลา 08.49 น.  นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มพลังมวลชน ได้พร้อมใจกันประกอบพิธีวางพวงมาลา และกล่าวคำสดุดีถวายพระเกียรติต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันอภิลักขิตสมัย คล้ายวันเสด็จสวรรคต หรือวันปิยมหาราช ณ บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าศาลากลางจังหวัด

นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราพระบรมราชินี ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2396 เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2411 และเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 สิริพระชนมพรรษาได้ 57 พรรษา รวมระยะเวลาที่ทรงปกครองสยามประเทศ 42 ปีเศษ ตลอดรัชสมัยของพระองค์ สยามประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับประเทศชาติเป็นจำนวนมาก เช่นทรงปรับปรุงระบบการเมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา เศรษฐกิจ กฎหมายและศาล ทรงปฎิรูปสังคมให้เป็นระเบียบด้วยการเลิกทาส เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศตาง ๆ เพื่อทรงนำความรู้ที่ได้รับ มาปรับใช้ในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนการเจริญสัมพันธไมตรี กับมหาประเทศทั้งหหลหาย ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถดำรงอธิปไตยได้อย่างมั่นคงสืบมา

จากพระราชกรณียะกิจของพระองค์ดังกล่าว ได้สร้างความผาสุกแก่อาณาประชาราษฎร์ถ้วนหน้า ชาวไทยทั้งมวลจึงได้พร้อมใจกันขนานนามของพระองค์ว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช” หรือ "พระพุทธเจ้าหลวง” และในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เวียนมาบรรจบ เหล่าพสกนิกรชาวจังหวัดมุกดาหาร ได้พร้อมใจกันพวงมาลาน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายบราชสักการะ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ยิ่งต่อประเทศและประชาชนชาวไทย ด้วยพระสติปัญญาอันเฉียบแหลม สามารถนำชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากการสูญเสียเอกราชแก่ชาติมหาอำนาจทางยุโรป และทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศจนเจริญมาถึงทุกวันนี้