วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

จังหวัดมุกดาหารจัดงานวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

 วันนี้ ( ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖) นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงานโครงการรณรงค์ "คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า”เดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากคนไทยและเนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร สมาชิก พอ.สว. ทันตบุคลากรจังหวัดมุกดาหาร และประชาชนอำเภอหว้านใหญ่ ได้จัดกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย”

 นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มูลนิธิ พอ.สว.และสมาชิก พอ.สว.จังหวัดมุกดาหาร ได้จัดทำกิจกรรมรณรงค์ "วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖”ขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย”โดยจัดกิจกรรมการให้บริการ ทันตกรรมแก่ประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดมูลค่ารวมถึงการจัดกิจกรรมสนับสนุนให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการมีสุขภาพช่องปากที่ดีเพื่อนำไปสู่การเป็นผู้สูงวัยที่มีสุขภาพและคุณภาพที่ดีต่อไปโดยกำหนดจุดรณรงค์ใหญ่ จำนวน ๑ แห่ง ณ โรงพยาบาลหว้านใหญ่ ในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ และจุดรณรงค์ทั่วไป ณ โรงพยาบาลมุกดาหาร โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่มีทันตบุคลากรปฏิบัติงาน ในวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ฟรี



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร/สุระณรงค์ อ่อนสนิท
ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

ประมงฯมหาสารคามเตือนผู้เลี้ยงจระเข้ เตรียมเคลื่อนย้ายหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

    ประมงจังหวัดมหาสารคาม แจ้งเตือนฟาร์มจระเข้ในพื้นที่ ให้ควบคุมดูแลการเพาะเลี้ยงให้ปลอดภัย หากพื้นใดมีความเสี่ยงน้ำท่วม เร่งดำเนินการเคลื่อนย้าย เพื่อป้องกันการหลุดรอดและอาจะเป็นอันตรายต่อประชาชน

 นางชโนวาท ประจักษ์วงศ์ ประมงจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดมหาสารคาม ประสบกับภาวะฝนตกหนักและมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ อันอาจเป็นผลให้เกิดการหลุดรอดของจระเข้จากสถานที่เลี้ยงที่มีการเพาะเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชน
 
ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนให้ฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ในเขตท้องที่จังหวัดมหาสารคาม ได้ควบคุมดูแลฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ ให้มีความแข็งแรงปลอดภัย หากพื้นที่ใดมีความเสี่ยงจะถูกน้ำท่วมขอให้รีบดำเนินการเคลื่อนย้ายจระเข้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยเร็ว เพื่อป้องกันมิให้ปัญหาการหลุดรอดในพื้นที่ประสบอุทกภัย และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

100 คำสอนสมเด็จพระสังฆราช

 คำสอนที่ 39 
                คนที่มีบุญนั้น บุญย่อมจะคอยจ้องที่จะเข้าช่วยอยู่แล้ว เพียงแต่เปิดโอกาสให้เข้าช่วย คือเปิดใจรับนั่นเอง การเปิดใจรับก็คือเปิดอารมณ์ที่หุ้มห่อออกเสียแม้ชั่วขณะหนึ่ง ด้วยสติที่กำหนดทำใจตามวิธีของพระพุทธเจ้า เมื่อบุญได้โอกาสพรั่งพรูเข้ามาถึงใจ หรือโผล่ขึ้นมาได้แล้ว จิตใจจะกลับมีความสุขอย่างยิ่งอารมณ์ทั้งหลายที่เคยเห็นว่าดีหรือร้าย ก็จะกลับเป็นเรื่องธรรมดาโลก 


คำสอนที่ 40 
                 คนที่ทำดีไม่ น้อย เป็นทุกข์เพราะการทำดีของตน ที่ไม่กล้าที่จะทำดีก็มี แต่คนทำดีที่ยังเป็นทุกข์ดังกล่าว ก็เพราะยังทำไม่ถึงความดีแห่งจิตใจของตนเอง จิตใจจึงยังทำไม่ถึงความดีแห่งจิตของตนเอง จิตใจจึงยังมีความยินดียินร้ายไปตามอารมณ์ที่มากระทบจากคนทั้งหลาย หากได้เล็งเห็นว่าเรื่องของคนทั้งหลายนั้นเป็นเรื่องของโลก ถ้าตนเองมีจิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ก็ไม่ต้องเป็นทุกข์เพราะเรื่องของคนอื่น การปฏิบัติทำจิตใจของตนให้มั่นคงดังนี้ เป็นการสร้างความดีให้แก่จิตใจ เป็นตัวความดีที่เป็นแก่นแท้ของความดีทั้งหลาย ซึ่งจะป้องกันความทุกข์กระทบกระเทือนใจได้ทุกอย่าง 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ชายฝั่งภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนเพิ่มมากขึ้น

   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ชายฝั่งภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนเพิ่มมากขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุ "นารี” (NARI) ได้เคลื่อนลงสู่อ่าวเมาะตะมะแล้ว ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ชายฝั่งภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะ 1-2 วันนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก

 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

 ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

 สำหรับ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีโอกาสฝนตก ร้อยละ 80
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 06.08 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 69 เซนติเมตร และเวลา 17.53 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 79 เซนติเมตร 

ประกวดภาพถ่ายงาน100ปีสังฆราช

  พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบวรนิเวศวิหาร และเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า วัดบวรนิเวศฯ ร่วมกับมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย จัดประกวดภาพถ่าย

งานฉลองพระชันษาครบ 100 ปี ซึ่งประชาชนที่สนใจส่งภาพได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2556 มายังสถานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียติ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก โดยจะประกาศผล 15 พฤศจิกายน นี้          

 สำหรับรายละเอียดภาพที่ส่งเข้าประกวด ต้องเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลเท่านั้น สามารถปรับสี ตกแต่งแก้ไขในด้านเทคนิค เพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งนี้ภาพจะยังต้องดูเป็นธรรมชาติเหมือนภาพถ่ายปกติ ไม่เกินเลยความเป็นจริง ขนาดของไฟล์ต้องมีความละเอียด อย่างน้อย 10 ล้านพิกเซล รูปแบบของไฟล์ในแบบมาตรฐาน TIFF หรือ JPEG (ไม่รับภาพที่เป็น RAW FILE และไฟล์ที่เป็นสกุลอื่น) ส่งภาพได้ไม่เกินคนละ 10 ภาพ ในรูปแบบของแผ่น CD-ROM หรือ DVD-ROM และขอสงวนสิทธิ์ไม่ส่งแผ่น CD หรือ DVD คืน และต้องเป็นภาพที่ถ่ายใหม่ในช่วงเวลาวันที่ 1-7 ตุลาคม 2556 เท่านั้น ให้ตั้งชื่อไฟล์ภาพเป็นชื่อ-นามสกุล ของผู้ถ่าย ตามด้วยหมายเลขภาพ

เกณฑ์การตัดสินพิจารณาจากภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเข้า กับแนวคิดและตอบสนองภาพ งาน ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แนวคิดและจินตนาการสร้างสรรค์ ความยาก-ง่าย และเทคนิคการถ่ายภาพ มุมมองใหม่ และความสวยงามของภาพ ผู้ส่งเข้าประกวดต้องระบุรายละเอียดการถ่ายภาพ บรรยายเรื่องราวของภาพหรือเหตุการณ์ความประทับใจ และภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพที่ไม่เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร หรือหนังสือ แผ่นภาพ หรือเอกสารใดๆ ที่ทำขึ้นเพื่อการจำหน่าย เพื่อโฆษณา ยกเว้นการเผยแพร่บนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นภาพของผู้ส่งประกวดเอง สามารถนำภาพที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นั้นมาร่วมส่งเข้าประกวดได้  ทั้งนี้ หลังจากประกาศผลแล้วจะรวบรวมภาพจัดพิมพ์เป็นหนังสือภาพ รวมถึงจัดทำฉบับพิเศษปกทองคำเพียงเล่มเดียว ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

สามารถดาวน์โหลดรายละเอียดการส่งภาพถ่าย และใบสมัครได้ที่ facebook.com/watbowon หรือส่งด้วย ตัวเองหรือทางไปรษณีย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานปฏิบัติธรรม เฉลิมพระเกียรติ ร.9 วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก 999 ซอย 19 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม จัดแข่งเรือปลอดเหล้าชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ

ชาวตำบลท่าตูม จังหวัดมหาสารคาม เปิดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวปลอดเหล้า ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2556

ที่บริเวณวัดวารินทราวาส บ้านท่าตูม ตำบลท่าตูม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดประเพณีการแข่งขันเรือยาวปลอดเหล้า ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2556 ซึ่งชาวตำบลท่าตูม ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเสริมสร้าง ฟื้นฟู พัฒนา และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการแข่งขันเรือยาวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการเสริมสร้างความสามัคคี สร้างสัมพันธภาพอันดีงามของพี่น้องชาวท่าตูม รวมทั้งเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวตำบลท่าตูม ให้เกิดความภาคภูมิใจ รักถิ่นกำเนิด ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลท่าตูม และจังหวัดมหาสารคามด้วย

สำหรับการแข่งขันเรือยาวประเพณีของชาวตำบลท่าตูม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ประชาชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อให้การจัดงานประเพณีแข่งเรือเป็นงานปลอดเหล้า และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ส่วนเรือที่เข้าร่วมแข่งขันมีทั้งหมด 16 ลำ แยกเป็นเรือมาตรฐานกลางประเภท 40 ฝีพายจำนวน 8 ลำ และเรือขนาดเล็กประเภท 5 ฝีพาย จำนวน 8 ลำ
                                               


                                  ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

จ.มหาสารคาม เตรียมจัดแข่งขัน “มมส.-มหาสารคาม มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน” เฉลิมพระเกียรติ 86 พรรษา

จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขัน "มมส. – มหาสารคาม มินิ – ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 8 ประจำปี 2556” เฉลิมพระเกียรติ 86 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ วันที่ 1 ธันวาคม 2556

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม รองศาสตราจารย์สุรชา อมรพันธุ์ รองอธิการบดีฝ่ายการคลังและการ พัสดุ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประชุมคณะกรรมการดำเนินการจัดการแข่งขัน มหกรรมเดิน วิ่ง การกุศล "มมส-มหาสารคาม มินิ-ฮาล์ฟ มาราธอน” ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ 86 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 5 ธันวามหาราช เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ในการจัดการแข่งขัน และรับความความเป็นมาและความสำคัญของการจัดแข่งขัน

รองศาสตราจารย์สุรชา อมรพันธุ์ รองอธิการบดีฝ่ายการคลังและการ พัสดุ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากเป็นการเฉลิมพระเกียรติ 86 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 5 ธันวามหาราช แล้ว ยังเป็นการจัดหารายได้เพื่อสมทบทุนในการจัดหาเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเป็นการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำหนดแข่งขัน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยมีจุดเริ่มต้นและเส้นชัย อยู่ที่บริเวณด้านหน้าอาคารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ในเมือง

สำหรับประเภทการแข่งขันแบ่งเป็น ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร ค่าสมัคร 250 บาท ชนะเลิศ (OVERALL) เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทานฯ มินิมาราธอน ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร ค่าสมัคร 100และ 200 บาท ชนะเลิศ (OVERALL ) เงินรางวัล 7,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทานฯ และ เดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพ ระยะทาง 5.7 กม. นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือต้องการสมัคร-บริจาคเพื่อการกุศล คนละ 100 และ 200 บาท และประเภท VIP ค่าสมัคร 500 บาท สามารถลงแข่งขันได้ทุกรายการและ จะได้รับเสื้อพร้อมเหรียญรางวัล ทั้งนี้ ผู้เสียค่าใช้จ่ายในการสมัครในแต่ละประเภทจะได้รับเสื้อสำหรับลงแข่งขันด้วย

ผู้สนใจสมัครและติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานกีฬาและนันทนาการ กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) โทรศัพท์ 043-754388


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มอบถุงยังชีพพระราชทานผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ.บุรีรัมย์

รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายการจัดการและประสานงานทั่วไป ผู้แทนพระองค์สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์

เวลา๑๑.๐๐ น. วันนี้(๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖) ณ วัดบ้านละลวด ตำบลละลวด อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์ รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายการจัดการและประสานงานทั่วไป ผู้แทนพระองค์สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และคณะ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพพระราชทานฯ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ จำนวน ๓๐๐ ชุด สำหรับช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลละลวด อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดบุรีรัมย์

จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน เนื่องมาจากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่น ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๖ เป็นต้นมา ทำให้เกิดอุทกภัย น้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมครอบคลุมพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดความเสียหายต่อที่อยู่อาศัย สิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่เกษตร จำนวน ๒๒ อำเภอ รวม ๑๑๘ ตำบล ๑,๐๔๖ หมู่บ้าน โดยอำเภอชำนิ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๖ ตำบล ๔๖ หมู่บ้าน ซึ่งตำบลละลวดมีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๓ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๓๔๓ ครัวเรือน ซึ่งพสกนิกรผู้ประสบอุทกภัยในตำบลละลวด อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่ทรงมีต่อพสกนิกรผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

มท.3 ลงพื้นที่นครราชสีมา มอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 2,000 ชุด พร้อมมอบนโยบายให้ ขรก.ฝ่ายปกครอง เน้นเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย

วันนี้ ( 18 ต.ค. 56 )  ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ ส่วนราชการ ลงพื้นที่ เพื่อมอบถุงยังชีพ ให้กับประชาชนในพื้นที่ อำเภอพิมาย และ อำเภอชุมพวง
ที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 2,000 ชุด นอกจากนี้นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังมอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้แก่ ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเน้นการผลักดันนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ด้านนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาครั้งนี้ เพื่อมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยให้แก่ข้าราชการ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ รวมทั้งรับฟังข้อเท็จจริง สภาพปัญหา และความต้องการในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ สำหรับนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยนั้นได้กำชับให้นายอำเภอในฐานะเป็นหัวหน้าส่วนราชการในระดับอำเภอ ผลักดันและกำกับดูแลการดำเนินงานต่างๆ ในพื้นที่ ได้แก่ นโยบายประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินีฯ ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝน ดังนั้น จึงต้องเตรียมพื้นที่เพาะปลูกให้เรียบร้อย การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ นโยบายลดอบายมุข สร้างสุขในสังคม การรักษาความสงบเรียบร้อย และการป้องกันปราบปราบยาเสพติด การสนับสนุนการจัดเวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทย และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ ทุกนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายปกครองต้องติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การทำงานในพื้นที่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน


ธนาคารธนชาตเชิญร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2556

 นายวันชัย กาญจนศิริ ผู้อำนวยการสำนัดงานเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ขอนแก่น เชิญผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมโอนเงินทำบุญได้ที่ บัญชี "กฐินพระราชทานกลุ่มธนชาต พ.ศ. 2556” บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 036-6-06272-4ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยสมทบทุนจัดสร้างวิหารพุทธพระลับ เพื่อประดิษฐานพระพุทธศรีสัตนาคนหุต หรือหลวงพ่อพระลับ พระคู่เมืองจังหวัดขอนแก่น ในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2556 ณ วัดธาตุ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2556 เวลา 12.00 น. ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมโอนเงินทำบุญได้ที่ บัญชี "กฐินพระราชทานกลุ่มธนชาต พ.ศ. 2556” บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 036-6-06272-4 หรือที่เครื่องเบิกถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) กว่า 2,000 เครื่อง และกล่องรับบริจาคที่ธนาคารธนชาตกว่า 620 สาขาทั่วประเทศผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารธนชาต โทร. 1770 หรือที่เว็บไซต์ http://www.thanachartbank.co.th/



ข่าวพิมพ์ /นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นนำคณะกรรมการเหล่ากาชาดขอนแก่นออกเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในอำเภอบ้านแฮด

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นพร้อมด้วยนางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดขอนแก่นพร้อมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดออกไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านเล็บเงือก ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจกับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยทางนายกเหล่ากาชาดขอนแก่นนำกิจกรรมความบันเทิงมาร่วมสร้างความสนุกสนานช่วยสร้างความสุขให้กับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อเป็นการคลายเครียดหลังต้องเจอกับน้ำท่วมมาตลอดทั้งสัปดาห์จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นพร้อมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นได้มอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในตำบลโคกสำราญจำนวน 208 ครัวเรือน สำหรับอำเภอบ้านแฮดมีทั้งหมด 4 ตำบลประสบภัยน้ำท่วม 3 ตำบล 28 หมู่บ้านราษฎรเดือดร้อน 4,558 ครัวเรือน 18,235 คน มีหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมถนนตัดขาด รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปได้ 4 หมู่บ้าน ตอนนี้ทางอำเภอนำเรือท้องแบน 10 ลำมาช่วยในการสัญจรของชาวบ้าน มีโรงเรียนถูกน้ำท่วม 3 แห่ง วัด 3 แห่ง นาข้าวถูกน้ำท่วม 20,000 ไร่ อำเภอบ้านแฮดได้ถูกมวลน้ำจากลำน้ำชีที่ผ่านอำเภอบ้านไผ่เข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาขณะนี้น้ำยังไหลแรงอยู่ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นฝากถึงผู้นำหมู่บ้านและผู้ปกครองให้คอยดูแลเด็กๆและผู้สูงอายุอย่าปล่อยให้ลงเล่นน้ำในช่วงนี้เพราะน้ำไหลแรงซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีผู้สูงอายุและเด็กนักเรียนเสียชีวิตช่วงน้ำท่วมแล้ว 4 ราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นออกตรวจสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่นและรอยต่ออำเภอพระยืน

 เช้าวันนี้ ( 18 ตุลาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงาน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นออกตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อำเภอเมือง เขตรอยต่ออำเภอพระยืน หนองเรือจากกว่าขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำชี อ.เมืองจังหวัดขอนแก่น กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำชีประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว บ้านดอนบม หมู่ 7ต.เมืองเก่า บ้านหนองบัวดีหมี อ.เมือง และบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำชี น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนขณะนี้ท่วมสูงราว 2 เมตร และยังเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ ต้องขนย้ายของเครื่องใช้ไปไว้บนที่สูง ขณะที่นายศิวกร มิตราช ปลัดอำเภ อรักษาราชการแทนนายอำเภอเมือง กล่าวว่า บริเวณที่เป็นจุดเสี่ยง คือ บริเวณปากห้วยซัน ที่เชื่อมกับแม่น้ำชี ต.ดอนหันและต.ท่าพระ จึงได้ระดมชาวบ้านช่วยกันกั้นกระสอบทรายกว่า 10,000 ลูกเพื่อรักษานาข้าวที่กำลังออกรวงกว่า 10,000 ไร่ ล่าสุดชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในตำบลโคกสำราญจำนวน 208 ครัวเรือน สำหรับอำเภอบ้านแฮดมีทั้งหมด 4 ตำบลประสบภัยน้ำท่วม 3 ตำบล 28 หมู่บ้านราษฎรเดือดร้อน 4,558 ครัวเรือน 18,235 คน มีหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมถนนตัดขาด รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปได้ 4 หมู่บ้าน ตอนนี้ทางอำเภอนำเรือท้องแบน 10 ลำมาช่วยในการสัญจรของชาวบ้าน มีโรงเรียนถูกน้ำท่วม 3 แห่ง วัด 3 แห่ง นาข้าวถูกน้ำท่วม 20,000 ไร่ อำเภอบ้านแฮดได้ถูกมวลน้ำจากลำน้ำชีที่ผ่านอำเภอบ้านไผ่เข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาขณะนี้น้ำยังไหลแรงอยู่ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นฝากถึงผู้นำหมู่บ้านและผู้ปกครองให้คอยดูแลเด็กๆและผู้สูงอายุอย่าปล่อยให้ลงเล่นน้ำในช่วงนี้เพราะน้ำไหลแรงซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีผู้สูงอายุและเด็กนักเรียนเสียชีวิตช่วงน้ำท่วมแล้ว 4 ราย



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแกนออกนิเทศโครงการขอนแก่นสร้างสุข ลดอบายมุข งานศพปลอดเหล้าปลอดการพนัน ที่เทศบาลบ้านโต้น อ.พระยืนติดตาม 3 อำเภอคือพระยืน หนองเรือและบ้านฝาง

เช้าวันนี้ ( 18 ต.ค. 2556 ) เวลา 10.00 น. ที่เทศบาลตำบลบ้านโต้น อ.พระยืน จังหวัดขอนแก่น           นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานตรวจนิเทศ โครงการ "จังหวัดขอนแก่นสร้างสุข ลดอบายมุข งานศพปลอดเหล้าปลอดการพนัน” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ เพื่อสร้างกระแสสังคมให้ประชาชน ใส่ใจในสุขภาพ โดยการดำเนินกิจกรรมตั้งแต่ระดับจังหวัด , อำเภอ , หมู่บ้าน และระดับครอบครัว มุ่งเน้นให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบในการปลอดเหล้าปลอดการพนัน ออกติดตามนิเทศงานโครงการจังหวัดขอนแก่นสร้างสุข ลดอบายมุข งานศพปลอดเหล้า ปลอดการพนัน ในส่วนของอำเภอพระยืน อำเภอบ้านฝางและอำเภอหนองเรือซึ่งมีองค์กรงดเหล้าของ สสส. ร่วมจัดกิจกรรมด้วย เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่นได้นำหลักการนี้มาปรับใช้ในการดำรงชีวิต โดยอาศัยความร่วมมือร่วมใจของชุมชนและความเข้มแข็งของผู้นำ ย่อมส่งผลให้ปัญหาที่เกิดจากการพนันและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงได้ และส่งผลให้จังหวัดขอนแก่นได้รับการพัฒนาในทุกรูปแบบ เกิดเป็นผลดีกลับสู่ประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายให้งานประจำปีระดับจังหวัด งานประจำปีระดับอำเภอ เป็นงานประจำปีปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีหมู่บ้านงานศพปลอดเหล้าปลอดการพนันที่ได้รับการพัฒนาเป็น "หมู่บ้านต้นแบบปลอดเหล้าปลอดการพนัน”ส่วนช่วงบ่ายตรวจนิเทศที่โรงพยาบาลขอนแก่น ในส่วนของอำเภอซำสูง อำเภอบ้านแฮดและอำเภอเมืองขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชมปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค

พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.ภาดล จันทร์ดอน สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล. ตำรวจทางหลวงขอนแก่น เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครร่วม ระหว่างตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว สภ.เมือง และอาสาสมัครกู้ภัยตำรวจทางหลวง เพื่อให้บริการประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันออกพรรษา โดยเฉพาะในเส้นทางมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ภาคอีสานตอนบนเพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติบั้งไฟพญานาค ปริมาณรถที่จะเดินทางเข้าสู่เส้นทางภาคอีสานตอนบนตั้งแต่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย และไปสิ้นสุดที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และหลายอำเภอของ จ.บึงกาฬ เพื่อร่วมชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค รวมถึงการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลวันออกพรรษา คาดว่าจะมีปริมาณรถต่อวันไม่น้อยกว่า 10,000 คัน และเมื่อรวมกับรถในพื้นที่ อัตราเฉลี่ยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าและเย็นตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้จะมีไม่น้อยกว่าวันละ 30,000 คัน ดังนั้นแผนการรับมือปริมาณรถได้จัดกำลังตำรวจ และรถวิทยุตรวจการณ์ประจำในเส้นทางหลักถนนมิตรภาพทุก 30 กิโลเมตร โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดอำนวยความสะดวก บริการตอบข้อสอบถามเส้นทางหลักและเส้นทางลัด รวมถึงการให้ความช่วยเหลือหากเกิดรถเสียหรืออุบัติเหตุ ขณะที่การเดินทางบนถนนมิตรภาพขณะนี้มีปริมาณรถผ่านยังไม่หนาแน่นมากนัก ซึ่งคาดว่าช่วงเย็นเชื่อมต่อวันพรุ่งนี้จะมีรถหนาแน่น ซึ่งทางตำรวจทางหลวงขอนแก่นได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเมาไม่ขับ เพราะเป็นช่วงที่ออกพรรษา จะมีประชาชนที่งดเหล้าออกพรรษาหวนกลับมาดื่มสุราอีกจำนวนมาก ซึ่งทางตำรวจทางหลวงขอนแก่นจะตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ตลอดวันช่วงหยุดวันเสาร์-อาทิตย์



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

กำหนดจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี ๒๕๕๖

กิจกรรมงาน “มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ประจำปี 2556

จังหวัดสุรินทร์ได้กำหนดจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี ๒๕๕๖ ในระหว่างวันที่ ๘ – ๑๙ พฤศจิกายน  ๒๕๕๖  ณ  สนามกีฬาศรีณรงค์  โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้

๑) การแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์   ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงาน  นอกจากจะเป็นงานประจำปีของจังหวัดสุรินทร์แล้ว ยังเป็นงานประจำปีของชาติตามมติคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๕  โดยจัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ ๕๓  แล้วปีนี้ การแสดงช้าง แสดงวันเสาร์ที่ ๑๖ และวันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน  ๒๕๕๖ ณ  สนามแสดงช้าง ระหว่างเวลา  ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. วันละ  ๑  รอบ บัตรราคา ๑,๐๐๐ บาท, ๕๐๐ บาท, ๓๐๐ บาท (นั่งตามเลขที่นั่งตามบัตร) สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ โทร. ๐-๔๔๕๑-๒๐๓๙  หรือ www.surin.go.th

๒) งานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง  ได้แบ่งกิจกรรมออกเป็น  ๒  กิจกรรม คือ

๒-๑) กิจกรรมการประกวดโต๊ะอาหารเลี้ยงช้าง  ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง  ในวันที่ 14 พฤศจิกายน  ๒๕๕๖  เวลา  ๑๗.๐๐  น.  จะมีขบวนแห่รถอาหารช้างจากหน่วยงาน และสถาบันการศึกษาต่างๆ มาร่วมประกวดมากมาย

๒-๒) กิจกรรมการต้อนรับ และเลี้ยงอาหารช้างในวันที่ ๑๖  พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เวลา ๐๘.๐๐ น. มีการจัดโต๊ะอาหารเลี้ยงช้างความยาว ไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ เมตร  ใช้อาหารกว่า ๕๐ ตัน

๓) งานแสดง แสง สี เสียง “สืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ”  ชื่อชุด  “ศิวนาฏยคีตาศรีศิขรินทราเทวาลัย”  โดย  โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย   ณ  ปราสาทศีขรภูมิ  อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๖  พฤศจิกายน ๒๕๕๖  เวลา  ๑๙.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานเทศบาลตำบลศีขรภูมิ โทร. ๐-๔๔๕๖-๑๒๔๓  (วันที่ ๑๕ พ.ย. ๕๖  จำหน่ายบัตรที่นั่งชมการแสดง (เก้าอี้) ราคา ๑๐๐ บาท และวันที่ ๑๖ พ.ย. ๕๖  จำหน่ายบัตรนั่งชมการแสดงเป็นโต๊ะจีน ราคา ๒,๙๐๐ บาท มีอาหารรับประทาน (๘ ท่าน/โต๊ะ)

๔) การจัดนิทรรศการ  ของส่วนราชการ  รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน

๕) กิจกรรมการแสดงและจำหน่ายผลิตผลของเกษตรกรและชุมชน  สินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพดี เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ผ้าไหมทอมือ เครื่องจักสาน สินค้าจากภูมิปัญญา และของที่ระลึกฯลฯ

๖) กิจกรรมการประกวดของดีเมืองสุรินทร์และผลิตผลทางการเกษตร เช่น มะพร้าวน้ำหอม กล้วยน้ำว้า ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมสากล เป็นต้น  เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นของดีประจำจังหวัดให้มีคุณภาพและเป็นการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นเมืองสุรินทร์

๗) การจัดกิจกรรมบนเวทีกลางณ บริเวณร้านธารากาชาด  สนามกีฬาศรีณรงค์  เช่น  การประกวดร้องเพลงของผู้บริหารและสมาชิก อบต.  การเดินแบบผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์  การแสดงของเยาวชนในจังหวัดสุรินทร์  และการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของจังหวัดสุรินทร์  เป็นต้น






งานแสดงช้าง ประจำปี ๒๕๕๖


ประกอบด้วยฉากการแสดงต่างๆ จำนวน    ๘   องก์   ได้แก่

องก์ที่ ๑ - “๒๕๐ ปี มหัศจรรย์สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่”
เป็นการแสดงให้เห็นถึงความอลังการของช้างจังหวัดสุรินทร์ โดยจะให้ช้างเดินวนอยู่ในสนาม จำนวน ๒๐๐ เชือก

องก์ที่ ๒ - “วิถีชาวกูย”
แสดงถึงวิถีชีวิตชาวกูย  และพิธีเซ่นศาลประกำ ก่อนออกคล้องช้างป่า ซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษนับหลายร้อยปี มีช้างร่วมแสดงประมาณ  ๓๙  เชือก

องก์ที่ ๓ - “ช.ช้างแสนรู้”
การแสดงความสามารถของช้าง เช่น ช้างชุดแฟนซี ช้างสะพายซอกันตรึม ช้างถือไมค์ร้องคาราโอเกะยักษ์  ช้างวาดรูป ช้างปาลูกโป่ง ช้างโชว์ฮูลาฮูป ช้างแตะฟุตบอล ช้างชักคะเย่อ เป็นต้นมีช้างร่วมแสดงประมาณ  ๓๙  เชือก

องก์ที่ ๔ - “วัฒนธรรมประจำถิ่น”
การแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ของกลุ่มชาติพันธุ์คนสุรินทร์ (เขมร ลาว กูย)  ผู้แสดง จำนวน  ๓๐๐ คน เช่น รำเรือมอันเร หรือ รูดอันเร  (รำสาก),  เรือมจะกรับ (รำกรับ),  รำกระโน้ปติงต็อง (รำตั๊กแตนตำข้าว), เรือมอายัย

องก์ที่ ๕ - “AEC  ELEPHANT”
การแสดงให้เห็นถึงคติความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องช้าง ของกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นการเดินขบวนพาเหรดช้างโดยมีเครื่องแต่งกายช้างตามธงชาติของแต่ละประเทศ (๑๐ ประเทศ) พร้อมทั้งมีผู้แสดงตัวแทนของแต่ละประเทศทั้ง ๑๐ ประเทศ  มีช้างร่วมแสดง ๑๐ เชือก  ผู้แสดงประมาณ ๕๐ คน

องก์ที่ ๖ - “ไอยรา  องค์บาก”
การแสดงความสามารถพิเศษระหว่างผู้แสดงกับช้าง โดยมีการกระโดดบนหลังช้างจากช้างเชือกหนึ่ง ไปยังช้างอีกเชือกหนึ่ง ต่อเนื่องกันเรื่อย ๆ  และการแสดงโชว์มวยไทยบนหลังช้าง และโชว์การต่อสู้ศิลปะมวยไทย  มีช้างร่วมแสดง จำนวน  ๒๐  เชือก

องก์ที่ ๗ - “ยุทธหัตถี บารมีก้องหล้า”
การแสดงแสนยานุภาพ ความยิ่งใหญ่ของกองทัพไทยในอดีต  (ทำยุทธหัตถี)  ช้างร่วมแสดง จำนวน ๕๙ เชือก  โดยเป็นช้างที่ถูกคชลักษณ์หรือช้างที่มีลักษะดี จำนวน ๓๖ เชือก พร้อมเครื่องทรงช้างที่อลังการ และมีช้างร่วมแสดงประกอบอื่นๆ อีกจำนวน ๒๓ เชือก รวมทั้งนักแสดงประกอบ จำนวน ๒๐๐ คน

องก์ที่ ๘ - “ช้างไทยหัวใจก้องโลก”
การแสดงอำลาผู้ชมในสนาม โดยมีช้างทั้งหมดที่อยู่ภายในสนามแสดง และนักแสดงทั้งหมดเข้ามายืนอำลาและมีช้างแสนรู้  ๒  เชือก เดินถือป้ายขอบคุณเป็นภาษาไทย และภาษาต่างชาติ