วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

จังหวัดมุกดาหารจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดมุกดาหาร

วันที่ ๒๔ ก.ย. ๕๖) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการปะชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดมุกดาหาร (ศจพ.จ.มุกดาหาร) โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร เพื่อติดตามประเมินผลการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนระดับจังหวัด ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินโครงการบริหารจัดการครัวเรือนยากจนแบบบูรณาการ : ชี้เป้าชีวิต จัดทำเข็มทิศชีวิต บริหารจัดการชีวิต และดูแลชีวิตเพื่อสนับสนุนกะบวนการแก้ไขปัญหาความยากจนระดับครัวเรือน สร้างความผาสุกให้ประชาชนและครัวเรือนยากจน และตอบสนองอุดมการณ์ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้ประชาชน คือรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ จปฐ. ปี ๒๕๕๕ (๓๐,๐๐๐ บาท/คน/ปี)

นายกานต์ ธงศรี พัฒนาการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดมุกดาหารได้มีความก้าวหน้าของการบริหารจัดการชีวิตครัวเรือนยากจน โดยคณะทำงานได้ออกติดตามให้การช่วยเหลือครัวเรือนยากจนครอบคลุมพื้นที่ ๗ อำเภอ ซึ่งเป็นครัวเรือนเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารเตรียมพร้อมทุกภาคส่วน จัดงานฉลองพระชันษา ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก จะทรงเจริญพระชันษา ๑๐๐ ปี ในวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ จังหวัดมุกดาหารจึงได้กำหนดจัดงานฉลองพระชันษา ๑๐๐ปีขึ้น เพื่อเป็นการถวายพระพรและเพื่อเป็นการเผยแพร่พระประวัติ พระศาสนกิจตลอดทั้งพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน โดยจังหวัดมุกดาหารพร้อมด้วยส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ทุกหมู่เหล่า กำหนดจัดงานฉลองพระชันษา ๑๐๐ ปี ขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ประกอบด้วยกิจกรรมการลงนามถวายพระพร ระหว่างวันที่ ๑–๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ ห้องโถงศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร และวัดศรีบุญเรือง พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๑๐๙ รูป ในวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๗.๐๐ น.ณ หน้าศาลหลักเมือง ถนนสองนางสถิตย์ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร และลงนามถวายพระพร การจัดนิทรรศการ "พระชันษา ๑๐๐ ปี สดุดีพระสังฆบิดร”

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการถวายพระพร และเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน จึงขอเชิญชวนส่วนราชการ พ่อค่า ประชาชน ชาวจังหวัดมุกดาหาร ทุกหมู่เหล่า ร่วมลงนามถวายพระพร ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ ตามกำหนดการ โดยพร้อมเพียงกัน โดยแต่งกายชุดสีขาว หรือชุดขาวปฏิบัติธรรม สำหรับนักเรียน นักศึกษา แต่งกายชุดที่สถานศึกษากำหนด




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบายให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดมุกดาหาร

ที่วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบายให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดมุกดาหาร ที่มาร่วมรับฟังกว่า 1500 คน โดยมี นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายสนอง แสนเสร็จ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร และส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ

นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า การเดินทางมาที่ จังหวัดมุกดาหารวันนี้ เพื่อมอบนโยบายให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งภาระหน้าที่ของทุกคนจะต้องดูแลรักษาความสงบภายในหมู่บ้านที่รับผิดชอบ ไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องต่างๆ การแก้ปัญหายาเสพติดที่เป็นนโบายของรัฐบาลที่ต้องการให้หมดไป กำนันผู้ใหญ่บ้านนอกจากจะต้องช่วยกันปราบปราม ต้องนำผู้ติดยาเข้าสู่การบำบัดและต้องดูแลสร้างหมู่บ้านให้มีความสงบ จัดระเบียบสังคม ให้มุ่งในเรื่องการรักษาสถาบัน สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น เพื่อความปรองดอง เพราะมีแนวความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน ในฐานะที่เป็นผู้นำในชุมชนและพยายามขับเคลื่อนกรรมการหมู่บ้านให้พัฒนาหมู่บ้าน ตำบลสู่ความสำเร็จ

นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า และ อีก 2 ปี ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านยิ่งต้องมีบทบาทมากขึ้น ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยยังได้ทำโครงการในเรื่องสวัสดิการให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยจะขึ้นเงินเดือนและค่าตอบแทนให้ พร้อมจะแจกสมาร์ทโฟนให้กับกำนันทุกคนเพื่อใช้งานด้วย



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

ยโสธรเร่งรัดผู้ปลูกยางพาราให้ขึ้นทะเบียนก่อนหมดสิทธิ

คณะกรรมการบริหารโครงการแก้ไขปัญญายางพารา ปี ๒๕๕๗ จังหวัดยโสธร ประชุมเร่งรัดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานประชุมเร่งรัดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เนื่องจากรัฐบาลเห็นชอบในโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี ๒๕๕๗ โดยให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา มาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ เพื่อขอรับเงินชดเฉย ตามที่รัฐบาลกำหนด นายกมล ภูเด่นแดน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดในฐานะรองประธานกรรมการ เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดยโสธรมีเกษตรกรผู้ปลูกยาพารามาขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน ๑,๑๙0 ครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ ๑๔.0๓ ถือว่าเป็นยอดสถิติที่ต่ำอยู่ ซึ่งเป้าหมายจำนวนครัวเรือนที่ปลูกยางพาราของจังหวัดยโสธรมีทั้งสิ้นจำนวน ๘,๔๘๒ ครัวเรือน ดังนั้นที่ประชุม จึงได้เร่งรัดกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา พร้อมทำความเข้าใจ เนื่องจากว่า ในวันที่ 30 กันยายน 2556 นี้ จะหมดเขตการขอขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ปลูกยางพาราเสียสิทธิต่างๆได้



วรรณทอง ภูโสภา../ ส ปชส/ยโสธร/ภาพ/ข่าว

ยโสธรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 4 อำเภอ คาดท่วมที่นาเสียหาย 42,000 ไร่

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดยโสธร ในช่วงวันที่ 19-23 กันยายน 2556 ส่วนใหญ่ท่วมพื้นที่นา ใน 4 อำเภอ คาดเสียหา 42,000 ไร่

นายบุญศรี อ่อนละออ เกษตรจังหวัดยโสธร รายงานความเสียหาย จากสถานการณ์น้ำท่วม ในช่วงวันที่ 19-23 กันยายน นี้ ยโสธรประสบปัญหาน้ำท่วม 4 อำเภอ คือ อ.เมือง,อ.ป่าติ้ว,อ.คำเขื่อนแก้ว และ อ.ไทยเจริญ รวม 129 หมู่บ้าน คาดพื้นที่นาเสียหาย ประมาณ 42,000 ไร่ อำเภอที่น้ำท่วมมากที่สุด คือ อำเภอป่าติ้ว น้ำท่วมในหมู่บ้าน 3 หมู่บ้าน (บ.กลาง,บ.สระเกตุ,บ.โพธิ์ไทร ต.โพธิ์ไทร)

ปริมาณน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น และในช่วงวันที่ 26,27,28,29 กันยายน นี้ กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนให้ระวังจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 25 ก.ย. 56

ขอให้ชาวยโสธร 117 คน ที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมทางการเมือง ติดต่อรับเงินเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม ที่ ปภ.ยโสธร

นายชัยภัทร หิรัญยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประกาศขอให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปีที่ 2548-2553 ซึ่งมีการสำรวจและลงทะเบียนแล้ว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 จำนวน 117 คน โดยขอให้ไปติดต่อขอรับเงินเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกจังหวัด ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2556 ซึ่งขณะนี้ใกล้กำหนดเวลาการติดต่อขอรับเงินเยียวยาแล้ว

จึงขอประกาศให้ชาวยโสธร ทั้ง 117 คน (อ.เมืองยโสธร 18 คน,อ.เลิงนกทา 27 คน,อำเภอกุดชุม 17 คน,อ.ป่าติ้ว 4 คน,อ.ทรายมูล 8 คน,อ.คำเขื่อนแก้ว 16 คน,อ.มหาชนะชัย 17 คน,อ.ค้อวัง 6 คน และ อ.ไทยเจริญ 4 คน) ที่ยังไม่ไปติดต่อ ขอให้รีบไปยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา ภายในวันที่ 30 กันยายน 2556 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร โทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์ 045-715475 ด่วน



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 25 ก.ย. 56

สถานการณ์น้ำท่วมยโสธร 4 อำเภอ นาข้าวเสียหาย 42,000 ไร่ มีผู้เสียชีวิต 1 คน

นายไพชยนต์ ชนะกาญจน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร รายงานสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดยโสธร ขณะนี้โดยภาพรวมเสียหายบ้างเล็กน้อย ท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.เมืองยโสธร อ.ป่าติ้ว
อ.คำเขื่อนแก้ว และอ.ไทยเจริญ พื้นที่นาคาดว่าจะเสียหาย 42,000 ไร่

พื้นที่ท่วมมากที่สุดขณะนี้ คือ อำเภอป่าติ้ว น้ำท่วมภายในหมู่บ้าน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ.กลาง, บ.สระเกตุ และบ.โพธิ์ไทร ในตำบลโพธิ์ไทร และมีประชาชนเสียชีวิต 1 คน เป็นชาย อายุ 20 ปี ราษฎรบ้านกำแมด ต.กำแมด อ.กุดชุม สาเหตุ จากการไปตกปลา ลื่นตกลงลำห้วยโปม จมน้ำเสียชีวิต

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยนางโสภิดา ถีถะแก้ว นายกเหล่ากาชาดจังหวัด เดินทางไปเยี่ยม และมอบเงินให้ความช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต มอบเงินจาก สำนักงาน ปภ.ยโสธร 5,000 บาท , เหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร 2,000 บาท และผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มอบเงินส่วนตัวให้อีกจำนวนหนึ่ง

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชนที่น้ำท่วมในหมู่บ้าน จำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ.กลาง,บ.สระเกตุ และบ.โพธิ์ไทร ต.โพธิ์ไทร อ.กุดชุม จำนวน 194 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจ



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 25 ก.ย. 56

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีประกาศคัดเลือกผู้ประสงค์จำหน่ายดอกไม้และของที่ระลึกในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีความประสงค์จะคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อรับสิทธิจำหน่ายดอกไม้และของที่ระลึก ในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2555 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรและประกาศนียบัตร จำนวนประมาณ 3,000 คน ติดต่อขอยื่นเอกสาร ภายในวันที่ 27 กันยายน 2556 ที่ฝ่ายทรัพย์สินฯ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โทร.045-353062



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 25 กันยายน 2556

มอบอุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬาพระราชทานที่ยโสธร

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 กันยายน 2556 ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 บ้านย่อ ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดยโสธร เป็นประธานมอบอุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬาพระราชทาน มอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28จำนวน 825 ชุด

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้น เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นปีที่ 50 โดยกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ.2537 เพื่อรับนักเรียนที่ยากไร้ ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมเข้าเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 โดยจัดการศึกษาแบบการศึกษาสงเคราะห์ ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 825 คน มีข้าราชการครู จำนวน 32 คน ลูกจ้างประจำ 9 คน พนักงานราชการ 22 คน และลูกจ้างชั่วคราว 14 คน

โดยทางโรงเรียนได้ดำเนินงานตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงเรียนประสบความสำเร็จ จนได้รับรางวัลต่าง ๆ เช่น รางวัลโรงเรียนพระราชทานระดับมัธยมศึกษาขนาดกลาง ปี 2554 , รางวัลส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร (ระดับกรมอนามัย), รางวัลส้วมสาธารณะดีเด่น (ประเภทสถานศึกษา) และรางวัลการแข่งขันทักษะวิชาการ ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 63 ระดับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 28 (สพม.28) ได้รับ 34 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 15 เหรียญทองแดง และเป็นตัวแทนไปแข่งขันต่อในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช  ศรีแก่นจันทร์
ข่าว 24 ก.ย. 56

มอบอุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬาพระราชทานที่ยโสธร

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 กันยายน 2556 ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 บ้านย่อ ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดยโสธร เป็นประธานมอบอุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬาพระราชทาน มอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28จำนวน 825 ชุด

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้น เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นปีที่ 50 โดยกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ.2537 เพื่อรับนักเรียนที่ยากไร้ ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมเข้าเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 โดยจัดการศึกษาแบบการศึกษาสงเคราะห์ ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 825 คน มีข้าราชการครู จำนวน 32 คน ลูกจ้างประจำ 9 คน พนักงานราชการ 22 คน และลูกจ้างชั่วคราว 14 คน

โดยทางโรงเรียนได้ดำเนินงานตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงเรียนประสบความสำเร็จ จนได้รับรางวัลต่าง ๆ เช่น รางวัลโรงเรียนพระราชทานระดับมัธยมศึกษาขนาดกลาง ปี 2554 , รางวัลส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร (ระดับกรมอนามัย), รางวัลส้วมสาธารณะดีเด่น (ประเภทสถานศึกษา) และรางวัลการแข่งขันทักษะวิชาการ ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 63 ระดับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 28 (สพม.28) ได้รับ 34 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 15 เหรียญทองแดง และเป็นตัวแทนไปแข่งขันต่อในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช  ศรีแก่นจันทร์
ข่าว 24 ก.ย. 56

คำสั่งนายทะเบียนให้บริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัย

นางพานทิพย์ บุญศรี ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกวดธุรกิจประกันภัยจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีคำสั่งนายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตามคำสั่งที่ 21/2556 ลงวันที่ 12 กันยายน 2556 ให้บริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2556 เป็นต้นไป โดยในระหว่างนี้บริษัทฯ ยังให้บริการด้านการจ่ายสินไหมทดแทนแก่ประชาชน และดำเนินการแก้ไขปรับปรุงฐานะทางการเงินให้มีความมั่นคงภายใต้การกำกับดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่

รายละเอียดสอบถามเพิ่มได้ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดร้อยเอ็ด เลขที่ 58ถ.รัฐกิจไคลคลา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 45000 โทรศัพท์ 0 4351 4440 โทรสาร 0 4352 7235 สายด่วนประกันภัย / Hot Line 1186 www.oic.or.th E-mail: roiet@oic.ot.th



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
25 ก.ย. 56

ร้อยเอ็ดชูพิธีกวนข้าวทิพย์ พร้อมกัน 16 วัด วันเดียวในเทศกาลออกพรรษา 17 – 18 ต.ค. นี้

นายนุชากร มาศฉมงดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนราชการสถานศึกษา พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กำหนดจัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 17 – 18 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครรินทร์ร้อยเอ็ด เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรักษาไว้ ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงไว้สืบไป ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดร้อยเอ็ด กิจกรรมภายในงานมีการประกวดข้าวทิพย์ ประกวดประดับประทีปโคมไฟและการประกวดร้องสรภัญญะอีสาน เพื่อรับรางวัลเงินสด พร้อมโล่รางวัล

รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า การประกวดกวนข้าวทิพย์ในงานประเพณีดังกล่าว จะจัดประกวดพร้อมกันทั้ง 16 คุ้มวัด โดยเน้นพิธีกรรมทางศาสนาและพิธีกรรมเกี่ยวกับการกวนข้าวทิพย์ ด้วยการแต่งกายอย่างเหมาะสมตามวัฒนธรรมท้องถิ่น และข้าวทิพย์มีสีสันสวยงาม มีรสอร่อย ซึ่งต้องหอม หวาน มัน ตามคุณลักษณะของข้าวทิพย์แบบโบราณ




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 25 ก.ย. 56

ร้อยเอ็ดประกาศให้ผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548 – 2553) ตรวจรายชื่อเพื่อขอรับเงินเยียวยา

จังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหา จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548 – 2553) ที่ได้มีการลงทะเบียนไว้แล้ว เพิ่มเติม จำนวน 154 ราย ให้ไปยืนคำร้องขอรับเงินเยียวยาที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 กันยายน 2556
 นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดร้อยเอ็ดได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้ลงทะเบียนรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ.2548 – 2553) ไปตรวจสอบรายชื่อได้ ณ ทีว่าการอำเภอทุกอำเภอ หรือที่สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด นั้น จังหวัดร้อยเอ็ดได้รับแจ้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า ได้มีการประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ.2548 – 2553) ได้มีการลงทะเบียนไว้ (เพิ่มเติม) จำนวน 154 ราย จึงขอให้ผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วดังกล่าว ไปตรวจสอบรายชื่อได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด และให้ผู้ที่มีรายชื่อไปยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที 1 – 30 กันยายน 2556


วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
24 ก.ย. 56

ร้อยเอ็ดสนับสนุนการการมอบรางวัลกัลปพฤกษ์ทองคำ และโล่เชิดชูเกียรติ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ด้วยมหาวิทยาลัยขอนแก่น กำหนดนโยบายในการเชิดชูเกียรติและยกย่องบุคคล หรือนิติบุคคล หรือองค์กร ซึ่งกระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมอบรางวัลกัลปพฤกษ์ทองคำ และโล่เชิดชูเกียรติ ประจำปี 2556 โดยให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรภาคเอกชนเสนอรายชื่อเข้ารับการพิจารณา

รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดยินดีให้การสนับสนุนนโยบายดังกล่าวของมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงแจ้งให้ทุกภาคส่วนของจังหวัดร้อยเอ็ดพิจารณาเสนอชื่อบุคคลหรือนิติบุคคล หรือองค์กรที่สมควรได้รับรางวัลกัลปพฤกษ์ทองคำ ประจำปี 2556 โดยเสนอรายชื่อส่งไปที่กลุ่มงานอำนวยการ สำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2556 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร./โทรสาร 043 – 519165



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
24 ก.ย. 56

ร้อยเอ็ด จัดพิธีบวชต้นพะยูงใหญ่อายุกว่า 200 ปีและปลูกป่าชุมชนน้อมเกล้าถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินินาถ ตามโครงการ80 พรรษา 800 ล้านกล้ามหาราชินี

จังหวัดร้อยเอ็ด โดยอำเภอศรีสมเด็จ จัดพิธีบวชต้ นพะยูงใหญ่เพื่ออนุรักษ์ทรั พยากรป่าไม้ของชุมชน และ ปลูกป่าชุมชนน้อมเกล้าถวายแด่สมเด็ จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชิ นีนาถ ตามโครงการ 80 พรรษา 800 ล้านกล้ามหาราชินี

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 24 กันยายน 2556 นายพิบูลย์   แพนพา นายอำเภอศรีสมเด็จ  เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  พระพุทธิสารมุนี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ได้นำส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน  ประชาชนชาวอำเภอศรี สมเด็จร่วมกันประกอบพิธี บวงสรวงเทพาอารักษ์ และบวชต้นพะยูงใหญ่ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางโคนต้ นประมาณ  80 เซนติเมตร สูงประมาณ 20 เมตร  ที่ดอนปู่ตา บ้านดอนทราย หมู่ที่ 2  ตำบลหนองใหญ่ อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด  มีประชาชนร่วมพีธีเป็นจำนวนมาก

นายพิบูลย์ แพนพา นายอำเภอศรีสมเด็จ  กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เนื่ องจากปัจจุบันป่าไม้ถู กทำลายลงไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้พะยูงซึ่ งเป็นหนึ่งในไม้มงคล เป็นต้นไม้ที่ห้ามตัดตามกฎหมายกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้มีการลักลอบตัดไปขายอย่ างต่อเนื่อง และต้นพะยูงต้นนี้มีขนาดใหญ่อายุ นับ 200 ปี เป็นต้นไม้มงคลของอำเภอศรีสมเด็ จ จึงได้พร้อมใจกันสร้างจิตสำนึ กในการหวงแหน และรักษาทรัพยากรป่าไม้ที่มีอยู ่ ให้คงอยู่คู่บ้านเมืองตลอดไป โดยการบวชต้นพะยูง พร้อมร่วมกันปลูกต้นพะยูงในบริ เวณดอนปู่ตา เพื่อน้อมถวายแด่สมเด็ จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชิ นินาถ ตามโครงการ80 พรรษา 800 ล้านกล้ามหาราชินี ซึ่งชาวอำเภอศรีสมเด็จมี ความสามัคคีกัน ร่วมกันเพาะกล้าต้นพยุงและต้นมะค่าเพื่อปลูกในพื้ นที่ต่างๆใกล้จะครบ 200 ล้านกล้าแล้ว



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด  043-527117 

ร้อยเอ็ดเตือนผู้บริโภคและผู้จำหน่ายสุกร เนื้อสุกร ซื้อและจำหน่ายในราคาควบคุม

จังหวัดร้อยเอ็ดเตือนผู้บริโภคและผู้จำหน่ายสุกร เนื้อสุกร ให้ซื้อและจำหน่ายในราคาควบคุมฝ่าฝนมีโทษทั้งจำทั้งปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

นายธรวัฒน์ แสงทอง การค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ประกาศราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20-26 กันยายน 2556 โดยราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มจากเกษตรกร ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 67 บาท จำหน่ายส่งสุกรชำแหละ (หมูซีก) ในราคาไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 67 บาท จำหน่ายส่งชิ้นส่วนหมูแดง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) ในราคาไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท จำหน่ายปลีกเนื้อสุกร เฉพาะเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) ยกเว้นเนื้อสุกรที่มีคุณภาพพิเศษ เช่น เนื้อสุกรอนามัย เนื้อสุกรไร้สาร ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ ในราคาไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 111 บาท จำหน่ายปลีกเนื้อสุกร เฉพาะเนื้อแดง ตัดแต่ง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) ยกเว้นเนื้อสุกรที่มีคุณภาพพิเศษ เช่น เนื้อสุกรไร้สาร ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ ในราคาไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 126 บาท

การค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ด ยังเปิดด้วยเผยว่า ผู้ซื้อ หรือ ผู้จำหน่าย ไม่ให้ความร่วมมือดำเนินการ หรือได้รับการร้องเรียนว่ามีการไม่รับซื้อหรือไม่จำหน่ายตามราคาดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะใช้มาตรการทางกฎหมายกำกับดูแลอย่างเข้มงวดต่อไป และยังอาจเข้าข่ายเป็นความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์/โทรสาร 0 4351 3856 และ 0 4351 4327



วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
24 ก.ย. 56

ครอบครัว " ตันตกิตติ์ " สร้างตึกสงฆ์ 30 ล้าน ให้กับโรงพยาบาลเสลภูมิ

เมื่อเวลา 10.19 น. วันที่ 23 กันยายน 2556  ที่โรงพยาบาลเสลภูมิ ต.ขวัญเมือง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นายมณเฑียร ตันตกิตติ์ ผู้แทนนายบุญเนตร ตันตกิตติ์ ประธานกรรมการโรงแรมมณเฑียร กทม. ผู้บริจาคปัจจัยสร้างตึกพิเศษสงฆ์มณเฑียร เดินทางมาร่วมพิธีตั้งเสาเอกเสาโทเพื่อความราบรื่นในการก่อสร้าง และความอยู่เย็นเป็นสุขของผู้เข้าพักอาศัย โดยมี นายแพทย์อุปทิน รุ่งอุทัยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสลภูมิ พระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 ฝ่ายธรรมยุต พระราชปริยัติวิมล เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ฝ่ายธรรมยุต พระครูอุดมพิจารณ์ วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร พระเถรานุเถระ หัวหน้าส่วนราชการอำเภอ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ประชาชนและแขกผู้มีเกียรติกว่า 200 คน ร่วมพิธี

นายแพทย์อุปทิน รุ่งอุทัยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสลภูมิ กล่าวว่า  โรงพยาบาลเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นดรงพยาบาลชุมชนขนาด 60 เตียง สังกัดกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบประชาชนประมาณ 150,000 คน จากข้อมูลล่าสุดจำนวนพระภิกุและสามเณรในเขตอำเภอเสลภูมิประมาณ 850 รูป จำนวนพระภิกุอาพาธที่เข้ามารับการรักษาเป็นผู้ป่วยนอกปีละกว่า 300 ครั้ง แต่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียงปีละประมาณ 20 รูป หรือเดือนละ 1-2 องค์ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะโรงพยาบาลเสลภูมิยังไม่มีตึกที่ให้บริการผู้ป่วยในสำหรับพระสงฆ์โดยพาะ ในการนี้คุณบุญเนตร ตันตกิตติ์ ประธานกรรมการโรงแรมมณเฑียร โดยการประสานงานของพระครูอุดมพิจารณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ได้เล็งเห็นความสำคัญในการที่จะให้พระสงฆ์ที่อาพาธได้รับการดูแลในสถานที่ที่มีความเหมาะสม สมควรแก่ฐานะผู้ทรงศีล จึงได้บริจาคเงินเพื่อสร้างตึกพิเศษสงค์ พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์และด้านอื่นๆที่จำเป็น จำนวน 30 ล้านบาท ในนามตัวแทนของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเสลภูมิและพ่อค้าประชาชนชาวเสลภูมิขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ด้วย

สำหรับตึกพิเศษสงฆ์นี้ เป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นคลินิกบริการเฉพาะโรคเพื่อการเข้าถึงบริการโรคที่เป็นปัญหาสำคัญของชาวเสลภูมิ ส่วนชั้นที่ 2,3 และ 4 เป็นห้องพิเศษทั้งหมด สำหรับพระภิกษุสงฆ์ กรณีที่มีห้องพิเศษว่าง คุณบุญเนตรได้กรุณาให้สามารถรองรับฆราวาสได้ ยกเว้นชั้นที่ 4 ต้องพาะพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น ซึ่งท่านได้มีดำริการเข้าถึงบริการพักรักษาตัวของพระภิกษุในอำเภอและจังหวัดต่างๆใกล้เคียงด้วย

อนึ่ง โรงพยาบาลเสลภูมิจะปรับขยายขีดความสามารถในการให้บริการตามแผนพัฒนาระบบบริการของกระทรวงสาธารณสุข เป็นโรงพยาบาลชุมชนจากเดิม 60 เตียง เป็นขนาด 120 เตียง ในปี 2559 ซึ่งได้รับการจัดสรรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค และกำลังศึกษาต่อในขณะนี้อีกจำนวน 5 คน  การได้รับการบริจาคสร้างตึกพิเศษสงฆ์มณเฑียรในครั้งนี้ นอกจากรองรับบริการที่จะขยายตัวทั้งปริมาณและคุณภาพแล้ว ยังเป็นการสร้างคุณประโยชน์โดยการประหยัดงบประมาณของประเทศชาติอีกประการหนึ่ง สมควรได้รับการยกย่องเป็น "คนดีศรีสังคม" ของครอบครัว"ตันตกิตติ์" ในครั้งนี้

รมช.ศึกษา เป็นประธานพิธีรดน้ำศพคุณพ่อ ของ กรรมการหอการค้าไทย และเจ้าของโรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น

วันที่ 22 กันยายน 2556  เวลา 16.00 น. ที่เอนกมงคลศาลามูลนิธิร้อยเอ็ ดการกุศลอิกลักเซี่ยงตึ้ง นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึ กษาธิการ เป็นประธานพิธีรดน้ำศพนายอาแซ แซ่นิ้ม อายุ 88 ปี พ่อของดอกเตอร์ สถาพร มงคลศรีสวัสดิ์กรรมการหอการค้าไทย และเจ้าของโรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น  หลังประสบอุบัติเหตุถูกสามล้ อสกายแล็ปชนเสียชีวิตขณะเดิ นบนถนนออกกำลังกายตอนเช้ามืด วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งญาติได้ นำศพออกจากโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ไปประกอบพิธีรดน้ำศพ และบรรจุศพเพื่อบำเพ็ญกุศลไปถึ งวันที่ 24 กันยายน 2556 โดยมีครอบครัว ดร.สถาพร มงคลศรีสวัสดิ์ (บุตร) นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายสมเดียรติ รัตนเมธาธร ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด  พร้อมแขกผู้มีเกียรติให้การต้ อนรับจำนวนมาก

ทั้งนี้คุณพ่ออาแซ แซ่นิ้ม อายุ 88 ปี บ้านเลขที่ 481 บ้านไทยอุดม หมู่ที่ 17 ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ที่เคยสร้างคุณความดีให้แก่ ประเทศชาติ และจังหวัดร้อยเอ็ดมามากมาย เช่นได้สละที่ดินด้านหลั งโรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น เพื่อสร้างถนนเลี่ยงเมือง วงแหวนรอบใน ( จ.1) จากนั้นได้บริจาคที่ดินจำนวน 3 ไร่ มูลค่าหลายล้านบาทให้เป็นที่ก่ อสร้างที่ทำการ อบต.เหนือเมืองแห่งใหม่ และช่วยเหลือสาธารณกุศลอื่นๆอี กมากมาย ถือว่าคุณพ่ออาแซ พร้อมภรรยา ตลอดจนบุตรหลาน เป็นผู้มองไกล สร้างสังคมให้น่าอยู่ เห็นประโยชน์ที่สังคมควรได้รับ จึงเป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญ ซึ่งประชนชนชาวร้อยเอ็ ดจำนวนมากต่างมีความรู้สึกเสี ยใจ และอาลัยกับการจากไปของคุณพ่อผู ้ให้ ในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง  สำหรับพิธีการฌาปณกิจศพนั้ นครอบครัวและญาติๆ ได้กำหนดเอาวันที่ 25 กันยายนศกนี้ เป็นวันฌาปณกิจศพ โดยจะจัดขึ้นที่ เมรุวัดบูรพาภิราม พระอารามหลวง

จังหวัดร้อยเอ็ดประกาศแจ้งเตือนระวังภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม

นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดได้รับแจ้งจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ เรื่อง ระวังภัยน้ำท่วมฉบับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ว่า ในวันที่ 19 – 21 กันยายน 2556 จะเกิดน้ำท่วมฉบับพลัน น้ำป่าไหลหลากอ และดินโคลนถล่มในพื้นที จังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร บุรีรัมย์ สุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ประกาศแจ้งให้ประชานที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราต่ำริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น อาสมัครในพื้นที่อย่างรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่ เฝ้าระวังและตรวจสอบเส้นทาง เขื่อน ฝาย อ่าง คันกั้นน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีประชานใช้บริการจำนวนมาก รวมทั้งพื้นที่เอกชน ถ้าไม่มีความมั่นคงแข็งแรงพิจารณาแล้วเป็นอันตรายให้แจ้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แก้ไขโดยด่วน ระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาพของคนในครัวเรือน หากเจ็บป่วย ให้รีบพบแพทย์หรือรักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลใกล้บ้าน สำหรับสัตว์เลี้ยงและพืชเกษตรให้ระมัดระวังโรคระบาดพืชและสัตว์ หากพบเห็นหรือสงสัยว่าจะเกิดโรนคระบาด ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอทันที หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้นๆ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์หมายเลข 0-4351-2955, 0-4351-3632 ,0-4351-5118 โทรสาร 0-4351-3097



 วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 23 ก.ย.56 

จังหวัดร้อยเอ็ดขอให้เกษตรกรไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา

จังหวัดร้อยเอ็ดขอให้เกษตรกรไปขึ้นทะเบียนเกษตรผู้ปลูกยางพารา เพื่อรับความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิต ตามมติคณะรัฐมนตรี

นายปรีชา เชาว์กระกูล เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ตามโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2557 ตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราที่ปลูกยางพาราตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นขึ้นไป และเป็นหัวหน้าครอบครัวและขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) กับกรมส่งเสริมการเกษตรกรไปขึ้นทะเบียน ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ปลูกยางพาราคาของท่าน หรือสถานที่ที่สำนักงานเกษตรอำเภอนัดหมายในกรณีที่เกษตรกรไม่สามารถไปขึ้นทะเบียนตาม วัน เวลา และสถานที่นัดหมายได้ และมีความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนที่สำนักงานเกษตรอำเภอได้ ทั้งนี้ สามารถไปขอขึ้นทะเบียนผู้ปลูกยางพาราได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที 30 กันยายน 2556

เกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราในเบื้องต้น คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติได้มีมติให้ความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมีเป็นเงินสดผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในอัตราไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิด 10 ไร่ตามพื้นที่เปิดกรีดจริงและต้องมีเอกสารสิทธิ์หรือสิทธิทำกินในพื้นที่นั้นๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลหรือสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ปลูกยางพาราของท่าน หรือโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2557 ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด หมายเลขโทรศัพท์ 0-4356-9004 ต่อ 106




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
23 ก.ย. 56

อำเภอภูเรือเปิดโครงการจัดตั้งหมู่บ้านเรียนรู้ตลอดชีวิต

นางเปล่งมณี เร้งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย เขต 3 เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์เรียนรู้การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ (หมู่บ้านเรียนรู้ตลอดชีวิต)      โดยมีนายบุญเติม   เรณุมาศ   นายอำเภอภูเรือ, นายชาญวิทย์  จักรไชย ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอภูเรือ, หัวหน้าส่วนราชการ, เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านตำบลหนองบัว ร่วมงานเป็นจำนวนมาก  ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว อำเภอ  ภูเรือ จังหวัดเลย

นายชาญวิทย์  จักรไชย  ผอ.กศน.อำเภอภูเรือ  กล่าวว่า ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน  มุ่งเตรียมคนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง  โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพคนในทุกช่วงวัยให้มีภูมิคุ้มกัน  เพื่อเข้าสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เสริมศักยภาพของคนไทยในทุกมิติให้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายที่สมบูรณ์  แข็งแรง  มีสติปัญญาที่รอบรู้และมีจิตใจที่สำนึกในคุณธรรม จริยธรรม มีความเพียร และรู้คุณค่าความเป็นไทย มีโอกาสและสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิต ควบคู่กับการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในสังคม และสถาบันทางสังคมให้เข้มแข็งเอื้อต่อการพัฒนาคน   เป็นพลังทางสังคมในการพัฒนาประเทศ  รวมทั้งให้ความสำคัญในการสร้างความตระหนักในความสำคัญของประชาอาเซียนในอีก 4 ปี ข้างหน้า จำเป็นจะต้องสร้างคนชุมชนให้เข็มแข็ง ต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายจากสื่อประเภทต่าง ๆ

สำนักงาน กศน.จังหวัดเลย ได้ริเริ่มให้ดำเนินการจัดให้มีหมู่บ้านเรียนรู้ตลอดชีวิตขึ้น ในทุกตำบลของจังหวัดเลย ทั้ง 90 ตำบล ๆ ละอย่างน้อย  1  หมู่บ้าน  เพื่อเป็นต้นแบบในการรวมพลังของคนในชุมชนได้เรียนรู้ร่วมกัน  ส่งเสริมให้ประชาชน มีนิสัยรักการอ่าน การเรียนรู้  ใฝ่เรียนรู้  ไม่ลืมหนังสือ  สามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และพึ่งตนเองได้ อันจะนำไปสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน วัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ ดังนี้เพื่อเป็นการรวมพลังของคนในชุมชนปลูกจิตสำนึกรักการอ่านรักการเรียนรู้ ยกระดับการศึกษาของประชาชนให้สูงขึ้น มีการรวมจัดตั้งกลุ่มต่างๆ ขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะชีวิต พัฒนาสังคมและชุมชน เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชุมชน เพื่อเป็นแหล่งบริการชุมชนในการจัดกิจกรรม และสร้างกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิตคนในชุมชน เพื่อเป็นศูนย์ประสานงาน และเชื่องมโยงภาคีเครือข่ายด้านข้อมูลและการบูรณาการการทำงานร่วมกับชุมชนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตของคนในชุมชน เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับความรู้ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเกี่ยวกับกิจกรรมงานการศึกษานอกและการศึกษาตามอัธยาศัย ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชุมชน  ประชาชนในหมู่บ้านได้เรียนรู้ร่วมกัน มีการรวมกันจัดตั้งกลุ่มต่าง ๆ  เป็นกลุ่มที่เข้มแข็งมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องโดยมีภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ทำให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชุมชนหลายๆ ด้านเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของประชาชนในชุมชนอย่างทั่วถึง และเท่าเทียมกันทุกคน ประชาชนในชุมชน อ่านออกเขียนได้ เกิดนิสัยรักการอ่านรักการเรียนรู้ ใฝ่เรียนรู้ และทำให้ชุมชนมีแหล่งเรียนรู้ที่ตั้งอยู่ใกล้ประชาชนมากที่สุด ประชาชนสะดวกในการเข้าไปใช้บริการ และสามารถประสานเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวดเร็ว เกิดการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ

ส.ส.เลย เขต ๔ ส่งเสริมขบวนการเรียนรู้ทางการเมืองเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย เขต ๔  ส่งเสริมขบวนการเรียนรู้ทางการเมืองเรื่องเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สถานศึกษา และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดเลย ที่ ม.ราชภัฎเลย

นายวันชัย  บุษบา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย เขต ๔  จัดโครงการส่งเสริมขบวนการเรียนรู้ทางการเมืองเรื่องเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน สถานศึกษา  และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดเลย   เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์เกี่ยวกับภูมิภาคต่าง ๆ ในประชาคมอาเซียนและเสริมสร้างวิสัยทัศน์ในการบริหารส่วนท้องถิ่น  เตรียมความพร้อมท้องถิ่นเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  ส่งเสริมให้ผู้บริหารและบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีศักยภาพและความพร้อมทางด้านการบริหารท้องถิ่นในมิติของการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๕๕๘ ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์และเสริมสร้างวิสัยทัศน์ในการบริหารท้องถิ่นของผู้นำท้องถิ่น และเพื่อให้สามารถสร้างและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที  โดยมีร้อยตำรวจเอก ดร.นิติภูมิ  นวรัตน์  เป็นผู้บรรยายในหัวข้อ  "การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของหน่วยงานส่วนราชการ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  สถาบันการศึกษา ประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดเลย ”  และผู้ช่วยศาสตราจารย์ไชยวุฒิ  มนตรีรักษ์ เป็นผู้บรรยาย ในหัวข้อ "รู้เขารู้เรากับประชาคมอาเซียน”  ทั้งนี้ การประกาศกฎบัตรอาเซียนเพื่อสร้างอาเซียนให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล และกำหนดให้มี ๓ เสาหลักของประชาคมอาเซียน คือ   เสาหลักการเมืองและความมั่นคง, เสาหลักด้านสังคมและวัฒนธรรม และเสาหลักด้านเศรษฐกิจ  ซึ่งความสำคัญดังกล่าวนี้จึงได้มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาท้องถิ่นและจัดโครงการนี้ขึ้น

การจัดโครงการครั้งนี้มุ่งหวังให้เกิดความตื่นตัว ตระหนักถึงความสำคัญการเป็นประชาคมอาเซียน  เกิดกระบวนทัศน์ วิสัยทัศน์ในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากระบบเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น  และผู้บริหารท้องถิ่นมีวิสัยทัศน์และศักยภาพในการบริหารท้องถิ่นให้สามารถประยุกต์ใช้แนวทางต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์ในท้องถิ่นของตนและปรับบทบาทให้เข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างทันท่วงที 

จังหวัดเลย จัดประชุมระดับจังหวัดจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำ

จังหวัดเลย โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย  จัดประชุมระดับจังหวัดปฐมนิเทศโครงการศึกษาจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ  เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเลย

นายภานุ  แย้มศรี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  เป็นประธานเปิดการประชุมระดับจังหวัดปฐมนิเทศโครงการศึกษาจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ    เพื่อชี้แจงโครงการศึกษาจัดทำแผนซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจวัตถุประสงค์  กระบวนการ  ขั้นตอน  วิธีดำเนินการศึกษา  และการมีส่วนร่วมในการศึกษาของบุคคลผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน  และเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์ต่อการจัดทำแผนซึ่งช่วยให้แผนบริการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้น้ำในเชิงอนุรักษ์ที่ยั่งยืนและตรงกับความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่  โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย สมาชิกวุฒิสภาหรือผู้แทน ๑ คน , สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้แทน ๔ คน , ผู้แทนหน่วยงานราชการระดับภูมิภาค ๑๐ คน , ผู้แทนหน่วยงานราชการระดับจังหวัด ๔๐ คน  ,ผู้แทนหน่วยงานราชการระดับอำเภอ  ๕๖ คน  , คณะกรรมการทรัพยากรน้ำระดับจังหวัด , สื่อมวลชน  และองค์กรพัฒนาเอกชนในพื้นที่  รวมกว่า ๑๕๐ คน  ซึ่งโครงการนี้ได้จ้างมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ  โดยมุ่งหวังแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้ง  อุทกภัย และความต้องการโครงการที่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่

ทั้งนี้ มีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ ๑๘๐ วัน ในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขา ได้แก่ ลุ่มน้ำโขงส่วนที่ ๓ , ลุ่มน้ำโขงส่วนที่ ๔ , ลุ่มน้ำโขงส่วนที่ ๕ , ลุ่มน้ำเลย  , ลุ่มน้ำหมัน , ลุ่มน้ำสาน , ลุ่มน้ำปวน และลุ่มน้ำอื่น ๆ โดยคลอบคลุมพื้นที่ ๑๔ อำเภอ ๘๙ ตำบลของพื้นที่จังหวัดเลย จำนวน ๑๑,๔๒๔ ตารางกิโลเมตร หรือ ๗,๑๔๐,๓๘๒  ไร่

เรือนจำยันยังไม่ย้ายนักโทษ เร่งสูบน้ำออก ขณะที่ระดับน้ำท่วมยังสูงขึ้น ด้านเรือเมล์รับ - ส่งชาวบ้านตลอดคืน

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 25 ก.ย. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหมู่บ้านศิริทรัพย์ทวีโชค อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้กำลังถูกน้ำท่วมทั้งหมู่บ้าน และเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในการเดินทางเข้า-ออกไปดูแลบ้านเรือนและขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำท่วม ดังนั้น นายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ จึงได้จัดเรือเมล์บริการรับ-ส่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วมบ้านเรือน โดยมีเรือเมล์บริการทั้งสิ้น 8 เส้นทางด้วยกัน เรือแต่ละลำจะมีพลขับเรือชุด ERT ของ ปภ. 1 คนและ ผู้ช่วยเป็นทหาร 2 นาย ปรากฏว่ามีบรรดาประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมพากันมาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่องตลอดคืน โดยผู้ที่มาใช้บริการเรือเมล์จะมีทั้งการโดยสารเรือเมล์เพื่อเข้าไปนอนเฝ้าบ้านเรือนของตนที่ถูกน้ำท่วม การไปขนย้ายทรัพย์สินออกมาจากบ้าน และการนำเอาผู้ป่วยออกจากบ้านไปส่งโรงพยาบาล อีกทั้งเรือเมล์ทั้งหมดยังช่วยในการเฝ้าดูแลทรัพย์สินของชาวบ้านอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วมอีกด้วย ขณะที่ระดับน้ำท่วมยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและท่วมเป็นบริเวณกว้างมากกว่าเดิม ขณะเดียวกัน ที่บริเวณด้านข้างเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีนักโทษต้องขังอยู่ประมาณ 1,000 คน ปรากฏว่าเรือนจำได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้เช่นกัน แต่ว่าทางเรือนจำได้ทำการแก้ไขปัญหาโดยการนำเอากระสอบทรายจำนวนมาก มาทำการก่อกำแพงกั้นรอบบริเวณข้างกำแพงเรือนจำเป็นแนวยาว และใช้เครื่องสูบน้ำ จำนวน 3 เครื่องที่ได้รับการสนับสนุนจาก ผวจ.ศรีสะเกษ มาทำการสูบน้ำออกจากบริเวณด้านข้างกำแพงเรือนจำด้านที่อยู่ติดกับลำห้วยสำราญตลอดเวลา และสามารถสูบน้ำออกได้จนเกือบหมด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เรือนคนหนึ่งที่เฝ้าดูแลอยู่ กล่าวว่า เรือนจำ จ.ศรีสะเกษสามารถที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณเรือนจำได้ในระดับหนึ่งแล้ว และจะยังไม่มีการย้ายนักโทษไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากว่า สามารถแก้ไขน้ำท่วมได้แล้ว โดยในวันนี้จะทำการเสริมกระสอบทรายขึ้นอีก 1 ชั้นเพื่อความมั่นคงแน่นหน้าและจะทำให้ป้องกันน้ำท่วมได้ดีกว่าเดิม โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำคอยเฝ้าดูแลการสูบน้ำตลอด 24 ชม.อีกด้วย

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีมอบอุปกรณ์การเรียนพระราชทานแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 744 ชุด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ก.ย. 56 ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติครองราชย์ 60 ปี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ นายสนิท ขาวสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีมอบอุปกรณ์การเรียนพระราชทานจำนวน744 ชุด ให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายวิศิษฏิ์ วิทยวรการ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 พร้อมด้วยคณะครู บุคลากร และนักเรียน ให้การต้อนรับ นายวิศิษฏิ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ได้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อปีการศึกษา 2537 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์มารโดยตลอด พระองค์ท่านได้พระราชทานโอกาสให้นักเรียนมีโอกาสทางเศรษฐกิจและโอกาสทางสังคม โดยมูลนิธิ ราชประนุเคราะห์ในพระราชูปถัมภ์ เป็นหน่วยงานสนองพระราชดำริมาโดยตลอด โดยเฉพาะในปีการศึกษา 2556 นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานอุปกรณ์การเรียนให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์เช่นเดียวกับทุกๆปีที่ผ่านมา ซึ่งนักเรียนทุกคนล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้ และพร้อมใจกันถวายสัตย์ปฏิญาณในการที่จะประพฤติ ปฏิบัติ ตามพระบรมราโชบาย ที่ได้พระราชทานแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และจะประพฤติตนตามคุณธรรมอันเป็นที่ตั้งของความรักความสามัคคีร่วมมือร่วมแรง ร่วมใจกัน รักษาและพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

อุตุฯ เตือนอีสานตะวันออกฝนตกหนัก ขณะที่มหาสารคามมีฝนร้อยละ 40-60

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศประเทศไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 25-27 กันยายน 2556 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน แพร่ ตาก พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 กันยายน 2556 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะอากาศที่จะเกิดขึ้นไว้

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุ ดีเปรสชันและเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 30 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะส่งผลให้ด้านตะวันออกของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักได้ในระยะนี้

ขณะที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 1 ตุลาคม 2556 มีฝนฟ้าคะนอง โดยมีปริมาณร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซีลเซียส



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ระดับน้ำชีที่มหาสารคาม ยังปกติ เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดอุทกภัย

ระดับน้ำในแม่น้ำชีที่มหาสารคาม มีน้ำเก็บกักอยู่ประมาณร้อยละ 50 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก หากเกิดอุทกภัยและน้ำต้นตลิ่ง ด้าน ปภ.มหาสารคาม เตรียมพร้อมรับมือ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและแจ้งข่าวสาร หากราษฎรขอรับความช่วยเหลือ

(25-9-56) ในการประชุมกระทรวงมหาดไทยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ เพื่อรับทราบและติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยในแต่ละจังหวัด ได้มีการติดตามการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ

ด้านนายสิทธพล เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในจังหวัดมหาสารคาม ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะปกติ แม้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะได้อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน แต่กลับเป็นผลดีในการปลูกข้าวของเกษตรกรให้ได้รับน้ำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีที่ฝายมหาสารคาม และฝายวังยาง มีระดับอยู่ร้อยละประมาณ 50 ยังเหลืออีกกว่า 5 เมตร น้ำจึงจะล้นตลิ่ง โดยจังหวัดมหาสารคามได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมประสานงานและช่วยเหลือหากเกิดอุทกภัยและน้ำต้นตลิ่ง

สำหรับจังหวัดมหาสารคาม สถานการณ์น้ำในขณะนี้ที่เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บกักน้ำหลักมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณร้อยละ 58 ส่วนในอ่างเก็บน้ำในเขตชลประทาน ทั้ง 17 แห่งในจังหวัดมหาสารคาม มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมร้อยละกว่า 30 โดยมีเพียงอ่างเก็บน้ำเลิงจานที่ปริมาณน้ำเกินกว่า ร้อยละ 100 คือมีประมาณ ร้อยละ 102 ซึ่งนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้สั่งการให้โครงการชลประทานมหาสารคาม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ระดับน้ำชีที่มหาสารคาม ยังปกติ เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดอุทกภัย

ระดับน้ำในแม่น้ำชีที่มหาสารคาม มีน้ำเก็บกักอยู่ประมาณร้อยละ 50 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก หากเกิดอุทกภัยและน้ำต้นตลิ่ง ด้าน ปภ.มหาสารคาม เตรียมพร้อมรับมือ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและแจ้งข่าวสาร หากราษฎรขอรับความช่วยเหลือ

(25-9-56) ในการประชุมกระทรวงมหาดไทยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ เพื่อรับทราบและติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยในแต่ละจังหวัด ได้มีการติดตามการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ

ด้านนายสิทธพล เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในจังหวัดมหาสารคาม ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะปกติ แม้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะได้อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน แต่กลับเป็นผลดีในการปลูกข้าวของเกษตรกรให้ได้รับน้ำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีที่ฝายมหาสารคาม และฝายวังยาง มีระดับอยู่ร้อยละประมาณ 50 ยังเหลืออีกกว่า 5 เมตร น้ำจึงจะล้นตลิ่ง โดยจังหวัดมหาสารคามได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมประสานงานและช่วยเหลือหากเกิดอุทกภัยและน้ำต้นตลิ่ง

สำหรับจังหวัดมหาสารคาม สถานการณ์น้ำในขณะนี้ที่เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บกักน้ำหลักมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณร้อยละ 58 ส่วนในอ่างเก็บน้ำในเขตชลประทาน ทั้ง 17 แห่งในจังหวัดมหาสารคาม มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมร้อยละกว่า 30 โดยมีเพียงอ่างเก็บน้ำเลิงจานที่ปริมาณน้ำเกินกว่า ร้อยละ 100 คือมีประมาณ ร้อยละ 102 ซึ่งนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้สั่งการให้โครงการชลประทานมหาสารคาม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ศพส.อ.เมืองมหาสารคาม เปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสร้างเยาวชนต้นแบบต้านยาเสพติด

ศพส.อ.เมืองมหาสารคาม ร่วมกับสถานศึกษา 8 อำเภอ นำนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ในค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต้านยาเสพติด เพื่อลดปัญหายาเสพติดในนักเรียนพร้อมสร้างเครือข่ายแกนนำเยาวชนอาสาป้องกันยาเสพติด

(25-09-56) ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับโรงเรียนในพื้นที่ 8 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอชื่มชน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย อำเภอนาดูน อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย อำเภอกุดรัง และอำเภอนาเชือก นำนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง และตรวจพบสารเสพติด จำนวนรวม 75 ราย เข้ารับการอบรมบำบัดฟื้นฟู ในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนต้านยาเสพติด ประจำปี 2556 ที่ วัดขุนพรหมดำริ บ้านอุปราช ตำบลท่าสองคอน อำเภอเมืองมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 22 – 30 กันยายน 2556 ตามกระบวนการนำผู้เสพ ผู้ติดยา ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและกลุ่มเสี่ยงมาเข้ารับการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจหรือกึ่งสมัครใจ โดยมีเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้เสพยาเสพติดและให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับไปมีพฤติการณ์ซ้ำอีก พร้อมดึงเยาวชนร่วมเป็นเครือข่ายแกนนำเยาวชนต้นแบบอาสาป้องกันยาเสพติด

นายสุรพล เทียนสุวรรณ ปลัดจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคน ได้มีความมุ่งมั่นรับความรู้จากคณะวิทยากร เพื่อให้สามารถเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด ทำให้บุคคลในครอบครัวและคนที่ท่านรัก เกิดความภาคภูมิใจในตัวท่าน สังคมพร้อมที่จะให้อภัยและให้โอกาสท่านเสมอ และขอให้ทุกคนร่วมเป็นเยาวชนต้นแบบอาสาป้องกันยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม เพื่อช่วยสอดส่องดูแลกลุ่มเยาวชนด้วยกันเอง ให้ปลอดภัยจากยาเสพติดทุกชนิด



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เทศบาลเมืองมหาสารคามจัดกิจกรรมทําไทยให้สะอาด ประจําปี 2556

(24-09-56) บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ริมคลองสมถวิล จังหวัดมหาสารคาม เทศบาลเมืองมหาสารคาม จัดกิจกรรมร่วมใจทําไทยให้สะอาด ประจําปี 2556 โดยมีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน พร้อมร่วมกันทําความสะอาดถนนตลอดสายเพื่อเป็นต้นแบบถนนสะอาด

นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคามเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสมาคมสร้างสรรค์ไทย (ตาวิเศษ) ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ประชา สัมพันธ์ให้ประชาชนชาวไทยรวมทั้งเด็กและเยาวชนให้มีความตระหนักและรับผิดชอบ และดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของบ้านเมือง โดยในปี 2536 สมาคมสร้างสรรค์ไทยได้เริ่มโครงการ ร่วมใจทําไทยให้สะอาด โดยเชิญชวนให้ประชาชนทั่วประเทศทําความสะอาดพร้อมกันในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน เพื่อสนับสนุนโครงการ clean up the world ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ

เทศบาลเมืองมหาสารคามจึงได้จัดทําโครงการเมืองน่าอยู่ สนับสนุนกิจกรรมทําความสะอาดของโครงการ ร่วมใจทําไทยให้สะอาด โดยจัดกิจกรรมทําความสะอาดถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 โดยเก็บขยะมูลฝอย กวาดทําความสะอาดตักเศษดินและฉีดล้างทําความสะอาดถนน ซึ่งจะทําให้ถนนสายดังกล่าวสะอาดสวยงามมากขึ้นและประชาชนเกิดจิตสํานึกและมี ความตระหนักถึงการช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดของบ้านเมือง

ด้านนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่าถนนดังกล่าวเป็นถนนสายหลักสายหนึ่ง ที่เป็นเส้นทางจราจรไปมารวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานประเพณีสําคัญของเทศบาลฯ หากดูแลให้สะอาดอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยความร่วมมือจากภาคประชาชน ถนนเส้นนี้จะเป็นถนนที่สะอาดสวยงามและเป็นถนนต้นแบบในเรื่องของความสะอาด ได้



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สภ.กันทรวิชัย เพิ่มประสิทธิภาพตำรวจบ้าน ช่วยเหลืองานเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เพิ่มประสิทธิภาพอาสาสมัครตำรวจชุมชน และอาสาจราจร ด้วยการจัดอบรมเพื่อทบทวนทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญและยุทธวิธีการตรวจค้น จับกุมผู้ต้องสงสัย พร้อมเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่

ระหว่างวันที่ 24-25 กันยายน 2556 ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุข อำเภอกันทรวิชัย สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม นำอาสาสมัครตำรวจชุมชน (อส.ตร.) และอาสาจราจร (อส.จร.) จากตำบลต่าง ๆ รวม 177 คน เข้ารับการอบรมตามโครงการฝึกอบรมทบทวนอาสาสมัครตำรวจชุมชน และอาสาจราจร เพื่อเป็นการทบทวนทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญและยุทธวิธีในการตรวจค้น จับกุมผู้ต้องสงสัย พร้อมปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชนในชุมชน

พ.ต.ท.ปรีชา เก่งสาริกิจ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า อาสาสมัครภาคประชาชนมีบทบาทในการเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะมีความรู้ ความเข้าใจ และใกล้ชิดกับคนในพื้นที่เป็นอย่างดี ซึ่งการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในครั้งนี้จะทำให้ตำรวจมีผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ทั้งด้านการบริการประชาชนและการดูรักษา ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

พอ.สว.มหาสารคาม ร่วมกับจังหวัดเคลื่อนที่ และคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนฟรี

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. บูรณาการ ร่วมกับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ และโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนในถิ่นทุรกันดารฟรี ที่บ้านหนองคู ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองมหาสารคาม

(24-09-56) ที่โรงเรียนบ้านหนองคู หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายความเคารพต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิ พอ.สว. ในโอกาสที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดมหาสารคาม ออกให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคทางทันตกรรมให้กับประชาชนฟรี พร้อมได้นำบริการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งคลินิกดิน ปฏิรูป ประมง พืช และคลินิกสัตว์ ออกให้บริการตามโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ และบริการต่างๆ ของส่วนราชการในจังหวัด/อำเภอ ตามโครงการจังหวัดเคลื่อนที่เยี่ยมเยียนประชาชน ออกให้บริการประชาชน อาทิ การแจกจ่ายเอกสารสร้างความรู้ จาก ปปช. กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม การบริการตัดแต่งทรงผมของตำรวจภูธร กศน.อำเภอเมือง โรงเรียนเสริมสวย การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด และการจำหน่ายสินค้าเกษตรของกลุ่มแม่บ้านเกษตรและกลุ่มสตรีตำบลหนองปลิง เป็นต้น

สำหรับตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองมหาสารคาม อยู่ห่างจากจังหวัดมหาสารคาม ประมาณ 11 กิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 8 หมู่บ้าน มีประชากร 5,128 คน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา เลี้ยงสัตว์ และทำสวน ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำประปาไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ปัญหาเส้นทางการคมนาคมไม่สะดวก และปัญหามลพิษด้านขยะมูลฝอยจากบ่อกำจัดขยะของเทศบาลเมืองมหาสารคาม ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

มหาสารคาม จัดงานวันมหิดลรำลึกถึงพระบิดาแห่งการแพทย์ไทย

คณะสาธารณสุขศาสตร์ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดงานวันมหิดล ประจำปี 2556 ถวายราชสักการะ น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก บิดาแห่งการแพทย์ไทย

(24-09-56) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นิสิตคณะแพทยศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชน ร่วมถวายสักการะพระบรมรูป สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก "บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน และ การสาธารณสุขไทย” จากนั้นร่วมวางพวงมาลาถวายสักการะ ณ บริเวณหน้าคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สงครามชัย ลีทองดี คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ อ่านคำถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณ และพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงอุทิศตนตลอดพระชนม์ชีพ ด้วยพระสติปัญญา พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการปรับปรุงการศึกษาแพทย์ การศึกษาพยาบาล และปรับปรุงโรงพยาบาลศิริราช โดยทรงเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยทำความตกลงกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อพัฒนาและวางรากฐานการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยให้เจริญก้าวหน้า เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี ปราศจากโรคภัย พสกนิกรทุกหมู่เหล่า จึงพร้อมใจกันถวายพระสมัญญาภิไธยว่า "บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน และ การสาธารณสุขไทย” และกำหนดให้วันที่ 24 กันยายนของทุกปี อันเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ เป็น "วันมหิดล”



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

บ.กลางฯ ชวนสื่อมวลชนมหาสารคามร่วมเป็นเครือข่ายแจ้งเหตุ

บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เชิญชวนสื่อมวลชนทุกสาขาในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมเป็นเครือข่ายแจ้งเหตุ เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว

นางณัฐธยาน์ ทองย้อย ผู้จัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 อุบลราชานี และ นางสาวสิริมาศ ชูประสูติ ผู้จัดการสาขามหาสารคาม บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวกิจกรรม กินข้าวเล่าเรื่อง "นวัตกรรมการให้บริการตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย” โดยมีสื่อมวลชนจังหวัดมหาสารคาม ทุกสาขาเข้าร่วมรับฟังและพร้อมเผยแพร่ข้อมูลประชาสัมพันธ์ ถึงบทบาท ภารกิจ และนวัตกรรมการให้บริการ

นางสาวสิริมาศ ชูประสูติ ผู้จัดการสาขามหาสารคาม บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมา พบว่าประชาชนยังไม่เข้าถึงสิทธิ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งเป็นกฎหมายภาคบังคับ โดยบริษัท กลางฯ เป็นบริษัท ที่จัดตั้งโดยกฎหมาย มีหน้าที่ในการดูแลผู้ประสบภัยจากรถ ให้ได้รับสิทธิอย่างรวดเร็ว เป็นกลาง และ เป็นธรรม ดังนั้น บริษัท กลางฯ สาขามหาสารคาม จึงได้เชิญสื่อมวลชนจังหวัดมหาสารคามทุกสาขา เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย ในการแจ้งเหตุ กรณีมีผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อให้ บริษัท กลางฯ ได้รับข้อมูลของผู้ประสบภัย พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน ให้วสามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างรวดเร็ว

โดยสื่อมวลชนที่เป็นเครือข่ายสามารถแจ้งเหตุจากรถ ได้ที่ เฟสบุค และไลน์ หรือโดยตรงที่ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขามหาสารคาม 345/2 ถนนถีนานนท์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข 043 743 256-7



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯมหาสารคามเชิญร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระสังฆราช

จังหวัดมหาสารคาม กำหนดจัดกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมศีลธรรม ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก 1 ตุลาคม นี้ ที่วัดศรีสวัสดิ์ โดยเชิญชวนชาวมหาสารคาม ร่วมทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม พร้อมประดับธงตราสัญลักษณ์ จนถึง 31 ธันวาคม 2556

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสที่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จะทรงเจริญพระชันษา 100 ปี ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 รัฐบาลได้เตรียมจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสดังกล่าวอย่างยิ่ง ใหญ่ตลอดปี 2556 เพื่อเป็นการเผยแพร่พระประวัติ พระศาสนกิจ และพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน โดยกำหนดชื่อการจัดงานฉลองว่า "งานฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก 3 ตุลาคม 2556” จังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวโรกาสดังกล่าว ในโครงการส่งเสริมศีลธรรม ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก ซึ่งได้กำหนดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 101 รูป ในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 เริ่มเวลา 06.39 น. ณ วัดศรีสวัสดิ์ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม พร้อมจัดให้มีนิทรรศการพระประวัติ พิธีสักการะพระรูปสมเด็จพระสังฆราช สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และปฏิบัติธรรม สำหรับอำเภออื่น ๆ กำหนดจัดงาน ตามสถานที่ที่ได้กำหนด

นอกจากนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน พร้อมใจประดับธงตราสัญญลักษณ์งานฉลอง 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ตามอาคารของหน่วยงานและบ้านเรือนในบริเวณที่เหมาะสม ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดมหาสารคาม

กลุ่มงานแพทย์แผนไทย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามประชุมชี้แจงการดำเนินงาน ตามโครงการดำเนินงานตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดมหาสารคาม ปีงบประมาณ 2556 เพื่อขับเคลื่อนความคืบหน้าการดำเนินงานตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร

(23/9/2556) เวลา 10.00 น. ณ.ห้องประชุม 3 ชั้น 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม งานแพทย์แผนไทยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ได้จัดประชุมคณะกรรมการเพื่อชี้แจงความคืบหน้าถึงการดำเนินงาน ตามโครงการดำเนินงานตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดมหาสารคาม ประจำปีงบประมาณ 2556 เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์รับซื้อและจำหน่ายสมุนไพรที่เป็นตลาดกลางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ทันสมัย และส่งเสริมให้มีการปลูกสมุนไพรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากลและเชิงพาณิชย์ เพื่อจำหน่ายให้แก่หน่วยงานที่มีความต้องการและส่งออกต่างประเทศ โดยมีนายแพทย์ ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการประชุม เพื่อรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร

ตามที่นโยบายรัฐบาลได้มีการส่งเสริมให้มีการใช้สมุนไพรมากขึ้น เพื่อทดแทนยาแผนปัจจุบันลดการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันมีการใช้สมุนไพรค่อนข้างน้อยเพราะที่ผ่านมาปัญหาของยาสมุนไพรก็ยังมีอีกมาก เช่น ความสะอาด สิ่งปนเปื้อน การตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐานของวัตถุดิบ เป็นต้น จากกระแสของการเข้าสู่ธรรมชาติ ประกอบกับเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันหลายๆจังหวัดในภาคใต้ เริ่มตื่นตัวในการใช้สมุนไพรมากขึ้น แต่ยังไม่มีตลาดกลางของวัตถุดิบสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน ดั้งนั้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดตั้งตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรขึ้นโดยการสนับสนุนของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

โดยมีอำเภอต้นแบบ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอแกดำ อำเภอวาปีปทุม อำเภอนาดูน อำเภอเชียงงยืน อำเภอนาเชือก อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เป็นอำเภอต้นแบบโดยทำแปลงอย่างน้อย 3 แปลงเป็น Organic ทดลองปลูกพืชสมุนไพร จำนวน 13 ชนิดคือ ขมิ้นชัน, บัวบก, หญ้าปักกิ่ง, ไพร, ฟ้าทะลายโจร, รางจืด,ทองพันชั่ง, กำแพงเจ็ดชั้น, มะหาด, สมอไทย, สมอภิเภก, มะขามป้อง, ดอกคำไทย ส่วนการจัดทำแผนงานโครงการตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร จังหวัดมหาสารคาม มีการแบ่งกลุ่มเกษตรกรเกรด A คือเกษตรกรที่ปลูกพืชสมุนไพรโดยไม่ใช้สารเคมี (Organic) และเกรด B และC คือกลุ่มที่ปลูกสมุนไพรที่อาจใช้สารเคมีร่วมด้วย (GPO) และเกษตรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเจาะเลือดตรวจสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมเทคนิคเกษตรอินทรีย์ การจัดระบบควบคุมภายในแปลงปลูกสมุนไพร มีการตรวจสอบฟาร์มเกษตรที่เข้าร่วมโครงการเช่นแผนผังฟาร์ม แผนงาน เพื่อรวมกลุ่มการผลิต และจัดทำมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ภายประเทศ และจัดเวทีแลกเปลี่ยน ผู้ซื้อ – ผู้ขาย กำหนดราคากลาง โดยมีคณะกรรมการกลางออกติดตามและควบคุมการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้การควบคุมกระบวนการดำเนินงานทั้งหมดทุกขั้นตอนตามมาตรฐาน



ภารุวัชร คนเชี่ยว ภาพ/ข่าว/สปชส.มค

ทรัพยากรฯมหาสารคาม ประกาศผลประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ชิงถ้วยประทานพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์

จังหวัดมหาสารคาม โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมหาสารคาม ประกาศผลประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ปี 2556 ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โดยโรงเรียนพระกุมารมหาสารคาม โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ มมส. และชุมชนเชียงยืน ได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละประเภท

นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่ จังหวัดมหาสารคาม โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ปี 2556 ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อต้องการให้เยาวชนได้แสดงออกถึงแนวความคิดสร้างสรรค์ ร่วมทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความต่อเนื่องและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่ส่งประกวดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถดำเนินการได้ในเชิงพาณิชย์ และคณะกรรมการฯ ได้ตัดสินผลการประกวดในแต่ละระดับของแต่ละประเภท เสร็จเรียบร้อยแล้ว นั้น

ผลการประกวดปรากฏว่า ในประเภทสิ่งประดิษฐ์ของใช้ภายในบ้านจากวัสดุเหลือใช้ ชนะเลิศ ระดับระดับประถมศึกษา ได้แก่ ชุด PET ซ่าท้านั่ง จากโรงเรียนพระกุมารมหาสารคาม ระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ ชุดวางรองเท้าคู่สาธิต พิชิตโลกร้อน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม(ฝ่ายมัธยม) และระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา (ปวส.) ได้แก่ ชุดโคมไฟกล่องนม จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมือง และนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประเภทเครื่องแต่งกายจากวัสดุเหลือใช้ ชนะเลิศได้แก่ ชุดเกร็ดมัจฉา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม(ฝ่ายมัธยม) และประเภทสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้สู้ภัยพิบัติ ชนะเลิศได้แก่ ชุดกางเกงพลาสติกนิรภัย จากชุมชนเชียงยืน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เพิ่มเติม

จังหวัดมหาสารคาม ปิดประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง พ.ศ. 2548-2553 ที่ได้มีการลงทะเบียนไว้แล้ว เพิ่มเติมจากที่เคยปิดประกาศ โดยสามารถยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือภายในวันที่ 30 กันยายน นี้

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่จังหวัดมหาสารคาม ได้รับแจ้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า ให้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ระหว่าง พ.ศ.2548-2553 ที่ได้มีการลงทะเบียนไว้แล้ว จำนวน 15,220 ราย พร้อมขอให้ผู้ที่มีทรัพย์สินเสียหาย จากเหตุการณ์ดังกล่าวตรวจสอบรายชื่อและยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2556 นั้น จังหวัดมหาสารคาม ได้รับแจ้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่งรายชื่อผู้ที่มีทรัพย์สินเสียหายฯ ที่ได้มีการลงทะเบียนไว้ เพิ่มเติมอีกจำนวน 154 ราย โดยได้มีการประกาศผ่านทางเวบไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมปิดประกาศไว้ที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดด้วย

ดังนั้น จังหวัดมหาสารคาม จึงขอให้ผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง พ.ศ. 2548-2553 ที่ได้มีการลงทะเบียนไว้แล้ว ตรวจสอบรายชื่อเพิ่มเติม พร้อมยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือภายในวันที่ 30 กันยายน 2556 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม ชั้น 2 ศาลากลางมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข 0 4377 7314



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามประกาศผลประกวด สำนักงานน่าอยู่

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม และสำนักงานคลังจังหวัดมหาสารคาม ได้รับคัดเลือกให้เป็นสำนักงานน่าอยู่ โดยหลักการ 5 ส.

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่จังหวัดมหาสารคาม ได้จัดทำโครงการสำนักงานน่าอยู่ โดยหลักการ 5 ส. เพื่อเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้น่าอยู่ น่าทำงาน ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการทำงานให้กับบุคลากรทุกระดับ ให้บุคลากรได้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีวินัยในการปฏิบัติงาน อันจะก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ โดยจังหวัดมหาสารคาม ได้มีการเชิญชวนส่วนราชการที่มีที่ตั้งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดและสำนักงานเอกเทศ ร่วมประกวดสำนักงานน่าอยู่ตามโครงการดังกล่าว ทั้งในระดับดีเยี่ยมและดีมาก พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการออกตรวจประเมินไปแล้วนั้น

ผลการคัดเลือกปรากฏว่า ประเภทอาคารสำนักงานเอกเทศ ที่มีที่ตั้งอยู่ภายนอกศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ระดับดีเยี่ยม ได้แก่ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม ระดับดีมาก มี 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานขนส่งจังหวัดมหาสารคาม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดมหาสารคาม และเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม ส่วนสำนักงานที่อยู่ภายในอาคารศาลากลางจังหวัด ระดับดีเยี่ยม ได้แก่ สำนักงานคลังจังหวัดมหาสารคาม ระดับดีมาก มี 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่มหาสารคาม สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม

ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม กำหนดมอบรางวัลแก่ส่วนราชการที่มีผลการประเมินระดับดีเยี่ยมและดีมาก ในวันที่ 27 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันประชุมคณะกรรมการจังหวัดประจำเดือนกันยายน 2556



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กาฬสินธุ์รับสมัครและคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน

นายชาญชัย จันทร์วรชัยกุล รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า กระทวงสาธารณสุขร่วมกับทบวงมหาวิทยาลัย ได้จัดทำโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ประจำปี 2557 เพื่อรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรแพทย์ศาสตร์บัณฑิต ในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดรับสมัครและคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ODOD จังหวัดกาฬสินธุ์ ในระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 2 ตุลาคม 2556 นี้ ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มได้ที่ http://kalasin.moph.go.th/ และสมัครได้ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกแห่งที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาในพื้นที่ ยกเว้นเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว

กาฬสินธุ์รับสมัครและคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน

นายชาญชัย จันทร์วรชัยกุล รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า กระทวงสาธารณสุขร่วมกับทบวงมหาวิทยาลัย ได้จัดทำโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ประจำปี 2557 เพื่อรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรแพทย์ศาสตร์บัณฑิต ในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดรับสมัครและคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ODOD จังหวัดกาฬสินธุ์ ในระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 2 ตุลาคม 2556 นี้ ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มได้ที่ http://kalasin.moph.go.th/ และสมัครได้ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกแห่งที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาในพื้นที่ ยกเว้นเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว

เครือข่ายจิตอาสากาฬสินธุ์ขอเชิญร่วมบริจาคเสื้อผ้า สิ่งของ สมทบโครงการอุ่นกายไม่หนาวใจปี 5

เครือข่ายจิตอาสาจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอเชิญชวนร่วมบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์กีฬา ของเล่นกับโครงการอุ่นกายไม่หนาวใจปี 5 เพื่อนำไปมอบให้กับน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านเหล่าภูพานวิทยา และโรงเรียนเหล่าภูพานวิทยา สาขาหนองหญ้าป้อง ตำบลแซงบาดาล อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2556

นางสาวดารุณี สุดาอิ้ง ผู้ประสานงานเครือข่ายจิตอาสาจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีก็จะมีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวนมากที่ประสบปัญหาภัยหนาวและขาดแคลนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มกันหนาวอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อแบ่งปันน้ำใจไปสู่ผู้ประสบภัยหนาว เครือข่ายจิตอาสาจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้จัดโครงการ "อุ่นกาย ไม่หนาวใจ” ขึ้นเพื่อรับบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มกันหนาว อุปกรณ์กีฬา ชุดนักเรียน ของเล่น เพื่อนำไปมอบให้กับน้อง ๆ นักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ขาดแคลน โดยโครงการอุ่นกาย ไม่หนาวใจปีที่ 1 จัดที่โรงเรียนคำอีหงส์ ตำบลนาขาม อำเภอกุฉินารายณ์, ปีที่ 2 โรงเรียนหนองบัววิทยาสรรพ์ ตำบล ผาเสวย อำเภอสมเด็จ, ปีที่ 3 บ้านหนองกุงกลาง ตำบลสำราญ อำเภอสามชัย, ปีที่ 4 โรงเรียนเขื่อนภูมิพล  ตำบลสำราญใต้  อำเภอสามชัย  จังหวัดกาฬสินธุ์และปีที่ 5 โรงเรียนบ้านเหล่าภูพานวิทยา และ โรงเรียนบ้านเหล่าภูพานวิทยา สาขาหนองหญ้าปล้อง ตำบลแซงบาดาล อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2556

นางสาวดารุณี สุดาอิ้ง กล่าวอีกว่า เครือข่ายจิตอาสาจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์กีฬา ของเล่น สมทบโครงการ "อุ่นกาย ไม่หนาวใจ" ปี 5 โดยท่านที่ต้องการบริจาคเป็นสิ่งของ เสื้อผ้า ร่วมบริจาคได้ที่ นางสาวดารุณี สุดาอิ้ง สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ 46000 หรือร่วมบริจาคเป็นเงินสดได้ที่บัญชีห้องสมุดบ้านหนังสือ ชื่อบัญชี "นายธนัญชัย ชูเดชวัฒนา และ นางสาวดารุณี สุดาอิ้ง ธนาคารกรุงไทย สาขากาฬสินธุ์พลาซ่า เลขที่บัญชี 392-0-07671-0 และเงินที่ได้รับบริจาคจะนำไปจัดซื้อชุดนักเรียน, รองเท้านักเรียน, อุปกรณ์กีฬา ให้กับน้อง ๆ นักเรียนทั้ง 126 คน  เป็นของขวัญพิเศษด้วย  โดยสามารถโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่  พี่เวช 086-4509175, จ๊ะเอ๋ 088-5642542, ตั้ม 083-1440999 หรือ Line : tatum-livekalasin มาร่วมกันปลุกจิตอาสาในตัวคุณ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเรา แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขจากการได้เป็นผู้ให้นั้นยิ่งใหญ่เพียงใด สำหรับโรงเรียนเหล่าภูพานวิทยา เปิดทำการสอนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน จำนวน 77 คน ส่วนโรงเรียนเหล่าภูพานวิทยา สาขาหนองหญ้าปล้อง เปิดสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียน 49 คน อยู่ห่างจากโรงเรียนเหล่าภูพานวิทยา 7 กม. แต่เส้นทางคมนาคมลำบากใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

เพลิงไหม้พิมานคอนโด 1 ใกล้ มข. สามารถดับเพลิงไว้ได้

เพลิงไหม้พิมานคอนโด 1 ใกล้ มข. นักศึกษาหนีกันอลหม่าน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมไว้ได้

วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้ที่พักอาศัยภายในพิมานคอนโดมิเนียม อาคาร 1ซอยกังสดาล ติดมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ต้องวิ่งหนีลงมาบริเวณชั้นล่าง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้นที่ 6 โดยต้นเพลิงมาจากห้องที่ 6165 ชั้น 6 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6ขอนแก่น และเทศบาลนครขอนแก่นใช้เวลา 10 นาที ช่วยกันดับไฟจนสงบลง จากตรวจสอบภายในห้องต้นเพลิง ทรัพย์สินภายในห้องเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องดูดควันออกจากบริเวณชั้น 6 และ 7 ด้วย ส่วนสาเหตุจะให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ และเชิญเจ้าของห้องต้นเพลิงสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

คณะแพทย์ศาสตร์ มข.จัดงานวันมหิดล ปี 2556

คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วางพวงมาลา ถวายสักการะสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2556

ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ หน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี นำคณะผู้บริหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้บริหารคณะแพทย์ศาสตร์ หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกสมาคม สโมสร องค์กรการกุศลต่างๆ ร่วมถวายพวงมาลัย และวางพวงมาลา ถวายสักการะสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2556 โดยประธานในพิธีถวายพวงมาลัยและวางพวงมาลา วางพานพุ่มดอกไม้และเปิดกรวยกระทงดออกไม้ เสร็จแล้วจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย สักการะเป็นเวลา 1 นาที จากนั้น นางสุธิรา พิมพ์รส พยาบาลชำนาญการพิเศษ หน่วยการรุณรักษ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ่านทำนองเสนาะบทอาศิรวาท สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก วันที่ 24 กันยายน เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญานามจากแพทย์และประชาชนทั่วไปว่า "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย" คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ขนานนาม วันอันเป็นที่ระลึกสำคัญนี้ว่า "วันมหิดล" เเละทุกปี นักศึกษาวิทยาเขตบางกอกน้อย (คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ คณะกายภาพบำบัด และคณะเทคนิคการแพทย์) ทุกหลักสูตร จะร่วมกันทำ "ธงวันมหิดล" ซึ่งปีนี้ 24 กันยายน ตรงกับ วันอังคาร ธงวันมหิดล เป็นสีชมพู จะเดินสายออกรับบริจาคทั่วประเทศ



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการภาครัฐให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปี 2556

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดขอนแก่นสัมมนาเรื่อแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐแก่เจ้าหน้าที่

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดขอแก่นจัดการฝึกอบรมสัมมนาเรื่อง แนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรายรับจ่ายของโครงการที่มีบุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ และแนวทางการเปิดเผยรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้าง ราคากลาง และการคำนวณราคากลาง ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดขอนแก่น จัดโดยสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น ณ โรงแรมเจริญธานี อำเภอเมืองขอนแก่น มีเป้าหมายที่เข้ารับการฝึกอบรม ประกอบด้วย นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำนวยการกองคลัง/หัวหน้าส่วนการคลัง หรือผู้อำนวยการกองช่าง/หัวหน้าส่วนโยธา ในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จำนวน 225 แห่ง ๆ ละ 3 คน รวม 675 คน มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐตามหลักเกณฑ์การเปิดเผยราคากลาง การคำนวณราคากลาง และการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่มีบุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ รวมถึงเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับความรู้ ความเข้าใจ ได้รับข่าวสารความเคลื่อนไหว ระเบียบข้อกฎหมาย นโยบายและแนวทางการปฏิบัติของทางราชการให้แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นสั่งการให้ ปภ.เตรียมพร้อม 24 ชม.

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นพร้อมด้วยนางนิภา สุวรรณสุจริต นายอำเภอกระนวน ร่วมกันมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตรตามโครงการลดรายจ่ายครัวเรือนเกษตรกรตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพร้อมทั้งร่วมเปิดโครงการ คนกระนวนฮักแพง ซึ่งเป็นโครงการของอำเภอกระนวนในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากจนที่ไม่ผ่าน จปฐ.เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพชีวิตและทุนทางสังคมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้โดยใช้กลไกศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของอำเภอ ซึ่งมีทีมงานลงพื้นที่ไปสำรวจและค้นหาจนพบว่าอำเภอมีครัวเรือนที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือจำนวน146 ครัวเรือนจาก 9 ตำบลโดยมีการร่วมแรงร่วมใจกันทั้งภาครัฐภาคเอกชนในอำเภอกระนวน สนับสนุนโครงการคนกระนวนฮักแพง เพื่อช่วยเหลือทั้ง 146 ครัวเรือนโดยมีการให้ความช่วยเหลือ ในการช่วยซ่อมแซมที่อยู่อาศัย การให้ปัจจัยการประกอบอาชีพ มอบอุปกรณ์ช่างช่วยพัฒนาอาชีพ มอบปัจจัยการเลี้ยงเลี้ยงหมูรวมทั้งมอบพันธุ์ผัก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 450,000 บาทโดยทำการมอบที่หอประชุมอำเภอกระนวน




ข่าว/พิมพ์   นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

อำเภอกระนวนมอบปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรลดรายจ่ายภาคครัวเรือนช่วยแก้ปัญหายากจน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นพร้อมด้วยนางนิภา สุวรรณสุจริต นายอำเภอกระนวน ร่วมกันมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตรตามโครงการลดรายจ่ายครัวเรือนเกษตรกรตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพร้อมทั้งร่วมเปิดโครงการ คนกระนวนฮักแพง ซึ่งเป็นโครงการของอำเภอกระนวนในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากจนที่ไม่ผ่าน จปฐ.เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพชีวิตและทุนทางสังคมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้โดยใช้กลไกศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของอำเภอ ซึ่งมีทีมงานลงพื้นที่ไปสำรวจและค้นหาจนพบว่าอำเภอมีครัวเรือนที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือจำนวน146 ครัวเรือนจาก 9 ตำบลโดยมีการร่วมแรงร่วมใจกันทั้งภาครัฐภาคเอกชนในอำเภอกระนวน สนับสนุนโครงการคนกระนวนฮักแพง เพื่อช่วยเหลือทั้ง 146 ครัวเรือนโดยมีการให้ความช่วยเหลือ ในการช่วยซ่อมแซมที่อยู่อาศัย การให้ปัจจัยการประกอบอาชีพ มอบอุปกรณ์ช่างช่วยพัฒนาอาชีพ มอบปัจจัยการเลี้ยงเลี้ยงหมูรวมทั้งมอบพันธุ์ผัก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 450,000 บาทโดยทำการมอบที่หอประชุมอำเภอกระนวน

จังหวัดขอนแก่นประกาศให้เรือนจำกลางขอนแก่นเป็นเรือนจำสีขาวนำร่องตามวาระของจังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหลังผ่านการประเมินจากคณะกรรมการระดับจังหวัด

( 24 ก.ย. 56 ) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีประกาศให้เรือนจำขอนแก่น เป็นเรือนจำสีขาวปลอดยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ซึ่งเรือนจำกลางขอนแก่นได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการพัฒนาเรือนจำสู่การเป็นเรือนจำสีขาวปลอดยาเสพติดมาตั้งแต่ต้นปี 2556มีการดำเนินการปราบปรามและป้องกันยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดวางกรอบให้เจ้าหน้าที่ในเรือนจำและผู้ต้องขังได้ปฏิบิติ ด้านการป้องกันมีการแยกแดนขัง มีการกันผู้ต้องขังที่มีพฤติกรรมไม่ดีออกจากกลุ่ม ติดตั้งกล้องวงจรปิดมีการลาดตระเวนรอบเรือนจำตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการหาข่าวในกลุ่มผู้ต้องขังด้วย ด้านการปราบปรามมีการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำทุกเดือน ทำการตรวจปัจสาวะ การดักฟังโทรศัพท์ การตัดสัญญาณโทรศัพท์ในเรือนจำ มีการควบคุมดำเนินการตามกฎหมาย ดำเนินการทางวินัยรวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ต้องขังมีการจัดโครงการนำร่องห้องนอนสีขาวมีการให้รางวัลห้องนอนใดมีระเบียบวินัยไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดก็จะได้รางวัลเป็นทีวี ตู้เย็น เครื่องเล่นวีดีโอทำให้ผู้ต้องขังมีแรงจูงใจและปฏิบัติตามกฎ และผลจากการดำเนินงานนำมาสู่การปฏิบัติที่ผ่านมาสรุปได้คือตั้งแต่ต้นปี2556เป็นต้นมามีการตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง 5,253 คนพบสารเสพติดมีผลยืนยันจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 198 คน มีการดำเนินคดีทุกรายมีการตรวจค้นจับกุมผู้ลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำได้ยาบ้า 296 เม็ด ยาไอซ์ 4 หลอดกาแฟ ตรวจค้นจู่โจมจับกุมได้เครื่องโทรศัพท์ 151 เครื่องมีการดำเนินคดี ไป 61 คน มีการดำเนินโครงการห้องนอนสีขาวได้ผล 100 %และทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี ปัจจุบันเรือนจำขอนแก่นถือว่าเป็นเรือนจำที่มีการติดตั้งวงจรตัดสัญญาณโทรศัพท์ทำให้การทำงานเป็นผลที่น่าพอใจอย่างมาก ทางเรือนจำขอนแก่นจึงมีความพร้อมที่จะประกาศว่าเรือนจำกลางขอนแก่นพร้อมแล้วที่จะเป็นเรือนจำสีขาวตามนโยบายของรัฐบาลและตามวาระจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดและได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดขอนแก่นมาร่วมเป็นสักขีพยานในวันนี้

ประกาศ กกพ. เรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากการกำเนิดไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ออกประกาศ กกพ. เรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา

นายวินิจ ศรีอุบล ผู้อำนวยการเขต 4 (ขอนแก่น) ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยว่าตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 เห้นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ( กพช.) ในการประชุมครั้งที่ 2 / 2556 (ครั้งที่ 145 ) วันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ให้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (SOLaR PV RooFtop) ในรูปแบบFeed in –Tariff โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( กกพ.) เป็นผู้ดำเนินการออกระเบียบ กฏเกณฑ์ การรับซื้อฟ้าและออกประกาศเชิญชวนรวมทั้งกำกับดูแลขั้นตอนการคัดเลือกให้เกิดความเป็นธรรม กกพ.ได้ออกระเบียบว่าด้วยการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา พ.ศ. 2556 และออกประกาศกกพ.เรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ประกาศ ณ วันที่ 6 กันยายน 2556 เพื่อเชิญชวนผู้สนใจประสงค์จะขายไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าบนหลังคา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งประเภทบาทพักอาศัย อาคารธุรกิจขนาดเล็ก หรืออาคารธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ โรงงาน สามารถยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าได้ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2556ถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2556 เวลา 09.00-15.00 น ที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ในการนี้ สำนักกกพ.ประจำเขต 4 (ขอนแก่น) จึงประชาสัมพันธ์และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าได้ที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ( การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ) ตามวัน เวลา ดังกล่าวโดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะเรียงลำดับคำขอขายไฟฟ้า ตามที่ได้รับเอกสารครบถ้วนสมบุรณ์หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็ปไซด์ สำนักงานกกพ. www.erc.or.th โทร. 043-228338-9 ,โทรสาร 043-228-338



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประกาศเรือนจำกลางขอนแก่นเป็นเรือนจำสีขาว

วันที่ 24 กันยายน 2556  เวลา 09.00 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานในพิธีประกาศเรือนจำสีขาวเรือนจำกลางขอนแก่น จากนโยบายจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดและนโยบายด้านการปฏิบัติงานของกรมราชทัณฑ์ ที่เน้นหนักปี 2556 ให้เรือนจำทุกแห่งในประเทศไทยต้องเป็นเรือนจำสีขาวตามนโยบายของรัฐบาล นายวิธาน สุขเกษม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่นกล่าวรายงานว่า นายวุฒิชัย เจนวิริยะกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่นนำนโยบายของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้โครงการเรือนจำทุกแห่งในประเทศไทยต้องเป็นเรือนจำสีขาวของพ.ตอ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ดำเนินการปราบปรามและป้องกันยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และสิ่งต้องห้ามในเรือนจำ 4แนวทางทั้ง การป้องกัน ปราบปราม มาตรการควบคุม แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน มีสวัสดิการ จัดหาทีวี 32 นิ้ว เครื่องทำน้ำเย็น เครื่องเล่นดีวีดี สรุปผลการดำเนินงานดำเนินการจากห้องนอนสีขาวทีละห้อง เป็นเรือนนอนสีขาว ทุกแดนสีขาว และเป็นเรือนจำสีขาว ด้านการปราบปรามเรือนจำกลางขอนแก่นดำเนินการมาตั้งแต่มกราคม 2556 สุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง 24 ครั้ง 5,253 คน พบสารเสพติดเบื้องต้น 368 คน ยืนยันผลจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จำนวน 194 คน ตรวจค้นจู่โจม 36 ครั้ง จู่โจมกรณีพิเศษ จำนวน 2 ครั้งพบโทรศัพท์มือถือ 151 เครื่อง พบยาบ้า 296 เม็ด ยาไอซ์ 4 กรัม ดำเนินงานห้องนอนสีขาว ผู้ต้องขังชาย 2,199 คน ผู้ต้องขังหญิง 429 คน มีการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังค้นหาข้อมูลเครือข่าย มีมาตรการป้องกันปัจจุบันมีพฤติการณ์เป็นเครือข่ายยาเสพติด 74 คน ทำผิดวินัยแล้ว 117 คน ติดตั้งอุปกรณ์ดักสัญญานโทรศัพท์? ถึง 20 กันยายน 2556 จับกุม 38 เครื่องตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดในระดับที่น่าพอใจ



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ราคาไข่ธงฟ้าราคาประหยัด ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 99 บาท

นางสาวนงค์นุช อุดมคำ การค้าภายในจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาไข่คละหน้าฟาร์ม ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาขายปลีกไข่ไก่ในตลาดสดทั่วประเทศปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในระดับส่งผลกระทบประชาชนต่อผู้บริโภค จังหวัดขอนแก่นร่วมกับสำนักงานการค้าภายในขอนแก่นดำเนินการจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้า เพื่อบรรเทาภาวะด้านค่าครองชีพของประชาชน ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 99 บาท (30 ฟอง) จำหน่ายทุกวันพุธและพฤหัสบดี วันที่ 25,26 กันยายน และ 2,3 ตุลาคม 2556 เวลา 10.00-15.00 น ณ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดขอนแก่น สถานที่ติดกับโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง ถนนเหล่านาดี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 043-220941 ,043-223334



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

คณะกรรมาธิการกระทรวงวิทยาศาสตร์ สภาผู้แทนราษฎรส่งเสริมพลังงงานแสงอาทิตย์เพื่อชุมชน

คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สภาผู้แทนราษฎรสัมมนาการประยุกต์ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cells) เพื่อชุมชน

ณ วัดศรีสว่างโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ผู้แทนคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สภาผู้แทนราษฎร ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ เดินทางมาเป็นประธาน การเปิดสัมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง "การประยุกต์ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cells) เพื่อชุมชน” โดยนางไพฑูรย์ พีรกมล ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ เพื่อให้ชุมชนได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานทดแทนตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สร้างความร่วมมือด้านวิชาการเพื่อการเรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนภาครัฐ ภาคเอกชนและหน่วยงานวิชาชีพ และให้ชุมชนเรียนรู้การนำกลับมาใช้ใหม่ (RepireRevred Recyele ) ของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้แล้ว โดยมีกลุ่มเป้าหมายจากตัวแทนและคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทุกชุมชน 83 คน วิทยากรและเจ้าหน้าที่ 10 คน กลุ่มสตรีตำบลในเมือง กลุ่มผู้นำชุมชน พระภิกุสงฆ์ เยาวชนและประชาชนทั่วไป จำนวน 157 คน รวม 250 คน



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น