วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

“กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชวนผู้กู้ยืมรุ่นพี่ชำระหนี้เพื่อรุ่นน้อง ร่วมลุ้นโชคจาก ธนาคารกรุงไทย”

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่า ขณะนี้ใกล้ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระเงินคืนกองทุนฯ ประจำปี ผู้กู้ยืมที่จบการศึกษาแล้วจำนวนกว่า 3 ล้านราย ต้องมีหน้าที่จ่ายชำระเงินคืนเพื่อเป็นการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป กองทุนฯ จึงได้ร่วมมือกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย จัดโครงการ “พี่เพื่อน้อง” ขึ้น โดยให้สิทธิลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท จำนวน 22 รางวัล อาทิเช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โน้ตบุค กล้องถ่ายรูป เป็นต้น เพื่อเป็นการตอบแทนรุ่นพี่ผู้กู้ยืมที่มีความรับผิดชอบต่อเงินกู้ยืมและเป็นการจูงใจให้ผู้กู้ยืมมาติดต่อชำระเงินคืนตามกำหนดผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารกรุงไทย ก่อนวันที่ 25 มิถุนายนนี้ หรือแจ้งหักบัญชีออมทรัพย์อัตโนมัติในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้

สำหรับการจับสลากผลรางวัลดังกล่าว  จะมีขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สำนักนานาเหนือ ซึ่งจะประกาศผลการจับรางวัลในวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ทางเว็บไซต์ www.studenloan.ktb.co.th , www.studentloan.or.th , www.mua.go.th , www.moe.go.th , www.prd.go.th ทั้งนี้ กองทุนฯ จึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดการผ่อนชำระหนี้ รวมถึงผู้กู้ยืมเงินจากกองทุนฯ ที่ยังไม่ครบกำหนดการผ่อนชำระหนี้คืน แต่มีความประสงค์จะชำระหนี้คืนมาติดต่อเข้าร่วมโครงการดังกล่าว นอกจากจะเป็นการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษารุ่นน้องได้เรียนต่อ เป็นแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่ที่มีความรับผิดชอบและมีวินัยทางการเงินแล้วยังมีโอกาสได้ลุ้นรางวัลที่ธนาคารกรุงไทยจัดให้เป็นการตอบแทนอีกด้วย โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เบอร์โทรศัพท์ 02-2088699 หรือ 02-6104888




กัญญรัตน์  เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์  / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ ได้ติดตามช่วยเหลือนักเรียนออกกลางคันระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อเร่งเข้าสู่การศึกษานอกระบบโรงเรียน

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในอีก 5-10 ปี อยากให้เยาวชนทุกคนในจังหวัดสุรินทร์ ต้องจบการศึกษาภาคบังคับในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือเด็กได้เรียนรู้ด้านภาษาเพื่อแข่งขันสู่อาเซียน ซึ่งการทำงานทุกอย่างจึงต้องเกิดจากความร่วมมือรวมทั้งประสานงานเป็นอย่างดี ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำระบบติดตามช่วยเหลือนักเรียนออกกลางคันระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยจังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ คณะกรรมการเพื่อคัดเลือกครูสอนดี และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์  ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการยกระดับการพัฒนาการเรียนรู้ระดับจังหวัด และมอบหมายงานให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครูประจำศูนย์การเรียนชุมชนประจำตำบล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ ท้องถิ่นอำเภอ ดำเนินการติดตามกลุ่มเป้าหมายตามบัญชีรายชื่อที่แจกจ่ายให้และเชิญชวนมาสมัครเรียนให้จบการศึกษาภาคบังคับกับศูนย์ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างภาคีเครือข่ายติดตามและเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายมาสมัครเรียน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายมาสมัครเรียนแล้วบางส่วนแต่ยังไม่ครบถ้วน สำหรับศูนย์ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยได้ทำการเปิดสอนไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ที่ติดตามตัวยังไม่มาสู่ระบบการเรียนนอกระบบ ก็สามารถเข้าเรียนได้ในโอกาสต่อไป โดยสมัครได้ที่ กศน.อำเภอ รวมทั้งตำบลใกล้บ้านในทุกพื้นที่




กัญญรัตน์  เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์  / ข่าว

โรงเรียนศรีสุขวิทยา สุรินทร์ จัดกิจกรรมขับขี่ปลอดภัย ห่วงใยนักเรียน

นางจารุวรรณ บุญโต ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสุขวิทยา  อำเภอสำโรงทาบ  จังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า  โรงเรียนศรีสุขวิทยา ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ สาขารัตนบุรี บริษัทคุณเฮงยานยนต์ (1999) จำกัด และสถานีตำรวจภูธรสำโรงทาบ ได้ร่วมกันจัดอบรมโครงการขับขี่ปลอดภัยในสถานศึกษา ให้กับนักเรียนโรงเรียนศรีสุขวิทยาและประชนชนในเขตพื้นที่บริการ โดยการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร  ให้บริการสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์  และให้บริการตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะทำให้นักเรียนมีความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องกฎหมายจราจร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยการอบรมดังกล่าวมีนักเรียนผ่านการทดสอบและได้รับใบขับขี่รถจักรยนต์มากกว่า 100 คน.




นายเลิศฤทธิ์ ด่านกระโทก โรงเรียนศรีสุขวิทยา อ.สำโรงทาบ / ข่าว
สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์  / เรียบเรียง

ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ จัดโครงการร่วมใจไกล่เกลี่ยและสมานฉันท์เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของคู่ความในการยุติข้อพิพาท

นายเพชรา  ทองเยิ้น  ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า  ศาลยุติธรรมมีนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนการระงับข้อพิพาททางเลือกโดยเฉพาะด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการสมานฉันท์และสันติวิธี  เพื่อให้คู่ความได้มีโอกาสเลือกใช้ควบคู่ไปกับการพิจารณาคดีของศาลในการยุติคดีหรือข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ตลอดจนการสร้างความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินการ  รวมทั้งสิทธิหน้าที่ของจำเลยและผู้เสียหายในคดีอาญา   โดยมีบุคลากรในศาลและบุคคลภายนอกที่มีความรู้ด้านการระงับข้อพิพาททางเลือกต่าง ๆ ร่วมดำเนินการ

ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดโครงการร่วมใจไกล่เกลี่ยและสมานฉันท์  ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2556 เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของคู่ความในการยุติข้อพิพาท  โดยการระงับข้อพิพาททางเลือกควบคู่ไปกับการพิจารณาคดีของศาลในการยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นด้วยความสะดวก  รวดเร็ว  ประหยัด  และเป็นธรรม  ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น  สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักงานประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์  / ข่าว

ร.ร.หนองสนิทวิทยาจัด “ฟรีเดย์”ให้ครูนักเรียนแต่งกายฟรีสไตล์แต่สุภาพ สวยงาม ทุกวันพฤหัสบดีแรกของเดือน เพื่อให้ครูนักเรียน เรียนและสอนอย่างมีความสุข

นายสาโรจน์  พฤษภา ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองสนิทวิทยา  เปิดเผยว่า  คณะครู โรงเรียนหนองสนิทวิทยา  จังหวัดสุรินทร์  ได้มีมติร่วมกันให้คณะครูและนักเรียนแต่งชุดแบบฟรีสไตล์สวยที่สุดของแต่ละคนมาเรียนตามปกติ เดือนละ 1 วัน โดยยึดวันพฤหัสบดีแรกของเดือน   เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่  6  มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป  โดยทุกคนต้องแต่งกายตามระเบียบอันดีงาม และสุภาพตามขอบเขตจำกัดของทางโรงเรียน  ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนอย่างมีความสุข




นายเวโรจน์  สาแก้ว ร.ร.หนองสนิทวิทยา  / รายงาน
สมทรง  เผือกผล  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ / เรียบเรียง

โรงเรียนสินรินทร์วิทยา ฝึกพูดภาษาอังกฤษอาทิตย์ละครั้งกับเจ้าของภาษาเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

นางสาวกัญญรัตน์  เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า โรงเรียนสินรินทร์วิทยา ร่วมกับมูลนิธิฟันด์อีสาน (Fund Isaan) กำหนดจัดโครงการอบรมฝึกพูดภาษาอังกฤษอาทิตย์ละครั้งกับเจ้าของภาษา ให้กับบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนทุกคน เพื่อสนองนโยบายการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะให้บุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนได้มีความรู้พื้นฐานในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้

ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันจังหวัดสุรินทร์ ได้เร่งรัดให้บุคลากรทุกหน่วยงานดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 ทั้งด้านการฝึกทักษะด้านภาษา และการเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทุกคน  มีความพร้อมเมื่อไทยก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน




ปิยรัตน์  ไพรสินธุ์ โรงเรียนสินรินทร์วิทยา /ข้อมูล
สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์  /เรียบเรียง

โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย สุรินทร์ เตรียมจัดกิจกรรมวันไหว้ครูเพื่อให้นักเรียนแสดงความระลึกถึงบุญคุณของครู

นางสาวกัญญรัตน์  เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากโรงเรียนศีขรภูมิพิสัย  จังหวัดสุรินทร์ ว่า  โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย  กำหนดจัดกิจกรรมวันไหว้ครู  ในวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2556 เพื่อให้นักเรียนแสดงความระลึกถึงบุญคุณของครู

สำหรับพิธีไหว้ครู เป็นพิธีกรรมที่เป็นประเพณีของไทยที่นิยมปฏิบัติมาแต่สมัยโบราณ แสดงถึงความระลึกถึงบุญคุณของครู  การไหว้ครูมีการปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาตามประเพณีของศิษย์มีครู วันที่จะทำพิธีถือหลักว่าต้องเป็นวันพฤหัสบดี เพราะเชื่อว่าพระพฤหัสบดีเป็นเทพฤษี วันพฤหัสบดีจึงถือเป็นวันครู  โดยเครื่องสักการะที่ศิษย์จะต้องทำมามอบแก่ครูในวันไหว้ครู ได้แก่ พานดอกไม้ ธูปเทียนดอกไม้ในพานที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ขอการไหว้ครูซึ่งถือปฏิบัติกันมาช้านานแต่โบราณ คือดอกมะเขือ หญ้าแพรก ดอกเข็ม รวมทั้งข้าวตอก ซึ่งดอกไม้และข้าวตอกเป็นเครื่องสักการะในพิธีไหว้ครู เป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความหมายของการแสดงออกถึงการเป็นศิษย์ที่ดีของครูได้ครบถ้วน ทั้งในด้านการฝากตัวเป็นศิษย์ การให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นลูกศิษย์ที่ดีมีความกตัญญูกตเวทีและเป็นการขอพรให้เจริญรุ่งเรืองด้วย




ภิญญาพัชญ์  แบบอย่าง ร.ร.ศีขรภูมิพิสัย / ข้อมูล
สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์  /เรียบเรียง

สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำเตรียมจัดงานโครงการสานฝันวัยใสแก่นักเรียนจังหวัดสุรินทร์ ที่โรงเรียนสุรวิทยาคาร วันที่ 22 มิถุนายน นี้

สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำเตรียมจัดงานโครงการสานฝันวัยใสเน้นแนะแนวแก่นักเรียนจังหวัดสุรินทร์ที่สนใจ  เพื่อทราบแนวทาง  เสริมสร้างความมุ่งมั่นตั้งใจ  เตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถนำพาตนเองเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ

นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า  กองบัญชาการกองทัพไทย  โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาร่วมกับมูลนิธิรัฐบุรุษ  พลเอกเปรม  ติณสูลานนท์  ได้ขอความร่วมมือจังหวัดสุรินทร์ร่วมจัดงานตามโครงการสานฝันวัยใสโดยนำสมาชิกค่ายอาสาจากสถาบันอุดมศึกษาทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดรวมทั้งในจังหวัดสุรินทร์  ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัย  วิทยาลัยพยาบาล  และโรงเรียนนายทหารของเหล่าทัพ  เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  มหาวิทยาลัยรามคำแหง  มหาวิทยาลัยฮั่วเฉียว  มหาวิทยาลัยพยาบาลกาชาดไทย  มหาวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก  กองทัพเรือ  กองทัพอากาศ  โรงเรียนนายร้อย จปร. โรงเรียนนายเรือ  โรงเรียนนายเรืออากาศ  และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ  มาจัดกิจกรรมแนะแนวแก่นักเรียนในจังหวัดสุรินทร์ที่สนใจ  เพื่อทราบแนวทาง  เสริมสร้างความมุ่งมั่นตั้งใจ  เตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถนำพาตนเองเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ  และโรงเรียนนายทหารของเหล่าทัพต่าง ๆ   โดยเชิญนักเรียนชั้น ม.3-ม.6 จำนวน  2,000 คน  ร่วมกิจกรรมในวันที่ 22 มิถุนายน  2556 ระหว่างเวลา 08.00-12.00 น. ที่โรงเรียนสุรวิทยาคาร  ในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ  เช่น  การประกวดเรียงความ  การประกวดบทกลอน   การแข่งขันตอบปัญหา   ประกวดจัดบอร์ดนิทรรศการ   และการแสดงของนักเรียน นักศึกษา  เป็นต้น




สมทรง  เผือกผล  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์  / ข่าว

จ.สุรินทร์ เตรียมจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย 2 เวที ระหว่าง 22-23 มิถุนายน นี้

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า รัฐบาลกำหนดจัดเวที “พูดจาหาทางออกประเทศไทย” จำนวน 108 เวทีทั่วประเทศ ใน 76 จังหวัดๆ ละ 1 – 3 เวที รวม 100 เวที และ กทม. อีกจำนวน 8 เวที ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม 2556 โดยมีเป้าหมายผู้เข้าร่วมเวทีเป็นตัวแทนของภาคส่วนต่างๆ ในสังคม ได้แก่ ภาคเกษตร ภาคแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม การบริการและการค้า เจ้าหน้าที่ของรัฐ แพทย์ พยาบาล นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ ผู้นำชุมชน องค์กรภาคประชาชน ภาคการเมือง ผู้นำศาสนา สื่อมวลชน และอีกส่วนหนึ่งเป็นประชาชนที่สนใจจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็น เพื่อร่วมกันหาแนวทางที่สร้างสรรค์ในการลดความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจในการ อยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคม

สำหรับการจัดเวที  พูดจาหาทางออกประเทศไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัด 2 เวที ณ โรงแรมเพชรเกษม เวทีที่ 1 จัดในวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 และเวทีที่ 2 จัดในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556 โดยในช่วงเช้าจะมีการฉายวีดีทัศน์สร้างความเข้าใจร่วมกันของผู้เข้าร่วมเวที และวิทยากรเกริ่นนำความสำคัญของการพูดคุยกันในสังคม เพื่อแลกเปลี่ยน และรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนนำมาสู่ข้อเสนอที่เป็นทางออกของประเทศ และภาคบ่ายเป็นการแบ่งกลุ่มย่อย เพื่อให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ไม่มีผิดไม่มีถูก ไม่มีการลงมติ ไม่มีแพ้ไม่มีชนะ ทุกความเห็นมีความหมายทุกคนทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเปิดรับข้อคิดเห็นที่สะท้อนจากผู้ที่รับฟังการถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ ด้วย

ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่สร้างสรรค์  อันจะเป็นทางออกของประเทศไทย เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม จากการจัดเวที พูดจาหาทางออกประเทศไทย ในครั้งนี้แล้ว ยังมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมกันเผยแพร่แนวคิดที่จะช่วยกันสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในเวทพูดคุย (dialogue) เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในสังคม เกิดสังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืนสืบไป




สมทรง เผือกผล /ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

วันนี้ (11 มิ.ย. 56) นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 14 พร้อมด้วยนายจุมพล สงวนสิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายธวัช ชลารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2556 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและนายอำเภอร่วมเสนอผลการดำเนินงาน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจังหวัดสุรินทร์มีสตรี ลงทะเบียนสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระหว่างวันที่ 18 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2556 จำนวน 195,642 คน คิดเป็นร้อยละ 35.46 ของจำนวนเป้าหมายหญิงอายุ 15 ปี ทั้งหมด 551,616 คน

ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้รับการจัดสรรงบประมาณกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน 130 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสุรินทร์ ได้ประชุมพิจารณาเพื่ออนุมัติงบประมาณให้สมาชิกแล้ว จำนวน 5 ครั้ง โดยอนุมัติโครงการประเภทเงินอุดหนุน จำนวน 124 โครงการ เป็นเงิน 10.7 ล้านบาท อนุมัติโครงการประเภทเงินหมุนเวียน จำนวน 1,421 โครงการ เป็นเงิน 80.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 77.32 ซึ่งในขณะนี้ได้รับการโอนเงินแล้ว 780 โครงการ เป็นเงิน 41.66 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ 795 โครงการ เป็นเงิน 49.77 ล้านบาท ส่วนการดำเนินงานกองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ได้รับการจัดสรรเงินแล้ว 2,003 แห่ง คงเหลือ 149 แห่ง สาเหตุเนื่องจากมีปัญหาการร้องเรียน และการทำประชาคมไม่ถูกต้อง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้สั่งการให้หมู่บ้านและชุมชนเร่งรัดการดำเนินการ ตลอดจนกำชับให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติต่อไป




สมทรง เผือกผล /ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

ประชาชนจังหวัดสุรินทร์ ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนการดำเนินงานมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) กว่า 3 ล้านบาท

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงตรวจเยี่ยมการดำเนินงานหน่วยแพทย์ พอ.สว. จังหวัดสุรินทร์ ที่โรงเรียนห้วยจริงวิทยา อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ประชาชนจังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยแพทย์ พอ.สว. จังหวัดสุรินทร์ เป็นเงินมากถึง 3,251,757 บาท

สำหรับปัจจุบันหน่วยแพทย์  พอ.สว. จังหวัดสุรินทร์ ประกอบด้วย แพทย์ 57 คน ทันตแพทย์ 80 คน เภสัชกร 56 คน พยาบาลวิชาชีพ 328 คน อาสาสมัครสายแพทย์และสาธารณสุขประเภทอื่นๆ 752 คน อาสาสมัครสายสนับสนุน 265 คน รวมทั้งสิ้น 1,538 คน ได้ดำเนินการปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. 12 หมู่บ้าน 24 ครั้ง มีผู้ป่วยมารับบริการจำนวน 3,840 ราย รวมทั้งขอเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ จำนวน 25 ราย ให้การรักษาผู้ป่วยเฉพาะโรค ได้แก่ ตาต้อกระจก จำนวน 1,961 ราย ปากแหว่ง-เพดานโหว่ จำนวน 12 ราย ฟันคุด จำนวน 21 ราย ใส่แขน-ขาเทียม จำนวน 9 ราย โรคหัวใจ จำนวน 194 ราย ทั้งนี้มีการจัดกิจกรรมทันตกรรมเคลื่อนที่มีผู้มารับบริการ จำนวน 624 ราย และจัดกิจกรรมเฝ้าระวังทางทันตสุขภาพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 6 โรงเรียน มีนักเรียนได้รับบริการทันตกรรม 640 ราย




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส. สุรินทร์ รายงาน

การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ จำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้าให้แก่ผู้บริโภค

นายวิรัตน์  นามวงษา การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาไข่ไก่ได้ปรับสูงขึ้น ส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน  เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค  สำนักงานการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ จึงจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้าให้แก่ผู้บริโภค เป็นประจำทุกวันอังคารของเดือนมิถุนายน 2556 รวม 3 ครั้ง โดยเริ่มจำหน่ายครั้งที่ 1 ในวันที่ 11 มิถุนายน 2556 ส่วนครั้งที่ 2 ในวันที่ 17 มิถุนายน 2556 และครั้งที่ 3 ในวันที่ 25 มิถุนายน 2556 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 เป็นต้นไป ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ถนนเทศบาล 4 เขตเทศบาสลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยจำหน่ายไข่ไก่เบอร์ 3 ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4451-3454




ศริณภาพร  จันทสุข  ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

จ.สุรินทร์ ขอเชิญรับสมัครคัดเลือกเป็นสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2556

นายวิเชียร  จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมวันสตรีไทยอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี 2547 วัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556 และเฉลิมฉลองวันสตรีไทย วันที่ 1 สิงหาคม 2556 โดยจัดให้มีโครงการคัดสรร “สตรีไทยดีเด่น” เพื่อสรรหา ยกย่อง และประกาศเกียรติคุณสตรีไทยที่ได้อุทิศตนสร้างผลงานดีเด่น มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม

การรับสมัครคัดเลือกเป็นสตรีไทยดีเด่น  สามารถสมัครได้ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ ตั้งแต่วันที่ 7-12 มิถุนายน 2556 ในวันและเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์หมายเลข 0 4451 1424 ต่อ




กรรณิกา สำราญจริง/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

โครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ เพื่อชิงถ้วยพระราชทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร

นายนิรันดร์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ด้วยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ จัดทำโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ปี 2556 เพื่อชิงถ้วยพระราชทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับเยาวชน ประชาชน ได้ทราบถึงแนวทางในการลดปริมาณขยะ รวมทั้งการนำขยะหรือของเหลือใช้มาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ก่อนนำไปกำจัด โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีเวทีในการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ให้ทันสมัยตลอดจนใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น โดยกำหนดส่งผลงานและจัดการประกวดระดับจังหวัด ในวันที่ 16 สิงหาคม 2556 ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ นางสาวกัญญาวีร์ บุ้งทอง โทรศัพท์ 044-713473 เบอร์โทรศัพท์มือถือ 083-3652727 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.deqp.go.th




สุจิตรา สีคำ /ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ออกหน่วยสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้มพร้อมมอบบ้านธารน้ำใจที่อำเภอศีขรภูมิ

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์  ร่วมกับคณะส่วนราชการต่าง ๆ ในจังหวัดสุรินทร์ออกหน่วยสุรินทร์สร้างสุข  สร้างรอยยิ้มพร้อมมอบบ้านธารน้ำใจ จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ในวันที่ 19 มิถุนายน 2556 ที่ โรงเรียนบ้านสะโน หมู่ที่ 4 ตำบลหนองบัว อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ สำหรับการออกหน่วยให้บริการจากส่วนราชการต่าง ๆ การจำหน่ายสินค้าราคาถูก การมอบรถจักรยานให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน มอบเครื่องอุปโภค – บริโภคและถุงยังชีพให้คนยากจนจำนวน 100 ชุด และมอบทุนการศึกษา ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจน จำนวน 4 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด มอบพันธุ์ปลา จากสำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์ และร่วมปลูกต้นไม้ จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญประชาชน อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ร่วมโครงการจังหวัดสุรินทร์สร้างสุข สร้างร้อยยิ้ม ในวันที่ 19 มิถุนายน 2556 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. ที่โรงเรียนบ้านสะโน หมู่ที่ 4 ตำบลหนองบัว อำเภอศีขรภูมิ โดยพร้อมเพรียงกัน




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ /ข่าว

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ระบุ ปี 2556 สุรินทร์ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก 1,137 ราย ตายแล้ว 3 ราย

นายสะอาด  วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม –28 พฤษภาคม 2556 งานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจำนวนทั้งสิ้น 1,137 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 82.18 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ 2 ราย อำเภอสังขะ 1 ราย กลุ่มอายุที่ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกสูงสุดคือกลุ่มอายุ 10-14 ปี ป่วยจำนวน 411 ราย รองลงมาอายุ 5-9 ปี ป่วยจำนวน 294 ราย อายุ 15-24 ปี ป่วยจำนวน 237 ราย อายุ 0-4 ปี ป่วยจำนวน 106 ราย

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์อาชีพที่มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสูงสุด  คือ นักเรียนป่วยจำนวน 785 ราย รองลงมาคืออาชีพเกษตรกรรมป่วยจำนวน 57 ราย อาชีพรับจ้าง 40 ราย นักบวช 4 ราย ข้าราชการ 3 ราย พบผู้ป่วยสูงสุดในเดือนมีนาคม จำนวน 279 ราย โดยมีรายงานผู้ป่วยเดือนมกราคม 223 ราย กุมภาพันธ์ 207 ราย มีนาคม 279 ราย เมษายน 253 ราย พฤษภาคม 175 ราย ส่วนอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ อำเภอโนนนารายณ์อัตราป่วยเท่ากับ 218.35 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคืออำเภอลำดวน อำเภอท่าตูม อัตราป่วยต่อประชากรแสนคนเท่ากับ 184.47 และ 137.67 ตามลำดับ




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ /ข่าว

จ.สุรินทร์ เชิญชวนสมัครเข้าร่วมเป็นผู้ประกอบการในเทศกาลของดีเมืองสุรินทร์ ครั้งที่ 2

นายกสิณ นวลโคกสูง  พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้จัดโครงการเทศกาลของดีเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ของดีของจังหวัดสุรินทร์ อ้นเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า เช่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณี วัฒนธรรม โบราณสถาน วิถีชีวิต แหล่งธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวของชุมชน เป็นต้น โดยมีรูปแบบการจัดกิจกรรมให้ผู้สนใจสามารถร่วมลงมือทำกิจกรรม ทุกขั้นตอนในแต่ละโปรแกรมตามความสมัครใจ โดยเทศกาลของดีเมืองสุรินทร์ ครั้งที่ 1 ดำเนินการไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2556 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดกิจกรรม 94 ราย มีกิจกรรม 97 โปรแกรม มีผู้สนใจเข้าร่วมโปรแกรมมากกว่า 1,000 คน

พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานเทศกาลของดีเมืองสุรินทร์ ครั้งที่ 2 ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2556 ถึง มกราคม 2557 เพื่อให้ชาวสุรินทร์และคนนอกพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมกันค้นหาทรัพยากร-ภูมิปัญญาท้องถิ่นในท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นของดีของจังหวัด และร่วมกันเติมเสน่ห์ให้กับจังหวัดสุรินทร์ โดยเทศกาลของดีเมืองสุรินทร์ได้ส่งเสริมสร้างคุณค่าของปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างแรงกระตุ้นให้ชุมชนเกิดความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนเองมี และสามารถนำสิ่งที่ชุมชนมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบุคคล ประเพณี วัฒนธรรม สร้างให้เกิดคุณค่าและปลูกฝังจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้ชุมชน สามารถส่งต่อไปยังผู้มาเยือนได้ อีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ทรงคุณค่าในท้องถิ่นอีกด้วย เทศกาลของดีเมืองสุรินทร์รับสมัครผู้ประกอบการไม่จำกัดจำนวน ภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2556

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่  สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ  ทุกอำเภอ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์  โทรศัพท์ 044 511438 โทรสาร 044 518810




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ /ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ จัดงานเทศกาลของดีชายแดนใต้ และถนนคนเดิน OTOP ประทายสะเร็น ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 21 – 30 มิถุนายน นี้

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้กำหนดจัดงาน เทศกาลของดีชายแดนใต้ และถนนคนเดิน OTOP ประทายสะเร็น (OTOP MOBILE TO THE FACTORY AND FESTIVAL) ประจำปี 2556 โดยจัดแสดงพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งสินค้าของดีชายแดนใต้ ศอ.บต. ปี 2556 จาก 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และจังหวัดสตูล ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 21 – 30 มิถุนายน นี้ สำหรับกิจกรรมภายในงานมี ผู้ประกอบการจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 159 บูธ และผู้ประกอบการจากจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดชลบุรี อีกว่า 90 บูธ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่นำมาร่วมงานแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้ ผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกาย เช่น กระเป๋าผ้าปาเต๊ะ หมวกกะปิเยาะ เครื่องประดับมุก ฯลฯ ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น ข้าวเกรียบปลา ลูกหยี น้ำพริก กรือโป๊ะ ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด กล้วยหินฉาบ ฯลฯ ผลิตภัณฑ์อาหารปรุงสด เช่น ชาชัก โรตี นาชิดาแม ผัดไท แกงเหลือง ข้าวหมกไก่ ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ของใช้ประดับตกแต่ง เช่น ใบไม้สีทอง ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย กระจูด ฯลฯ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น ยาสีฟันเทพไทย โลชั่น น้ำนมแพะ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงต่างๆ อาทิ การแสดง เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ การเล่นเกมส์ นาทีทอง และการนำเสนอสินค้าเป็นรายบูธ การจับฉลากรางวัลแก่ผู้มาเยี่ยมชมงานตามบูธต่างๆ ในงานด้วย




กิติวรรณ  มณีล้ำ  สวท.สุรินทร์ /ข่าว

ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ จัดโครงการร่วมใจไกล่เกลี่ยและสมานฉันท์ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของคู่ความในการยุติข้อพิพาท

นายเพชรา  ทองเยิ้น ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ศาลยุติธรรมมีนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนการระงับข้อพิพาททางเลือก โดยเฉพาะด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการสมานฉันท์และสันติวิธี เพื่อให้คู่ความได้มีโอกาสเลือกใช้ควบคู่ไปกับการพิจารณาคดีของศาลในการยุติคดีหรือข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ตลอดจนการสร้างความรู้ ความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินการ รวมทั้งสิทธิหน้าที่ของจำเลยและผู้เสียหายในคดีอาญา โดยมีบุคลากรในศาลและบุคคลภายนอกที่มีความรู้ด้านการระงับข้อพิพาททางเลือกต่าง ๆ ร่วมดำเนินการ

ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดโครงการร่วมใจไกล่เกลี่ยและสมานฉันท์ ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2556 เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของคู่ความในการยุติข้อพิพาท โดยการระงับข้อพิพาททางเลือกควบคู่ไปกับการพิจารณาคดีของศาลในการยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักงานประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ /ข่าว

โรงพยาบาลสุรินทร์ ขอเชิญร่วมกิจกรรมโครงการ "สภากาแฟ"

นายธงชัย  ตรีวิบูลย์วณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์  ได้กำหนดดำเนินโครงการ “สภากาแฟ“ ประจำปี 2556 เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในการปฏิบัติงาน โดยจัดให้มีการพบปะระดมความคิดจากทุกภาคส่วนในรูปแบบการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ โดยมอบหมายให้โรงพยาบาลสุรินทร์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุมสระโบราณ โรงพยาบาลสุรินทร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป สำหรับการประชุมสภากาแฟในวันดังกล่าว จะมีการนำเสนอผลงานของโรงพยาบาลสุรินทร์ พร้อมทั้งมีกิจกรรมบริการตรวจพิเศษแก่ผู้มีเกียรติที่ร่วมประชุมทุกท่าน เช่น การตรวจวัดความดันโลหิต ตรวจวัดสายตา ความดันลูกตา ตรวจคลื่นหัวใจด้วยระบบไฟฟ้า และเอกซเรย์ปอด

ทั้งนี้ ท่านใดมีความประสงค์อยากเจาะเลือด เพื่อตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจไขมันในเลือด ดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจการทำงานของไตและตับ สามารถติดต่อได้ที่ งานเลขาหน้าห้องผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ โทร.044-521200 ก่อนวันที่ 13 มิถุนายน 2556 เพื่อจะได้อำนวยความสะดวกในการให้บริการ




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมจัดพิธีถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี วันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ที่บ้านทับทิมสยาม 04

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์  โดย ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดพิธีถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 เวลา 10.00 น. ณ อาคารอเนกประสงค์ หมู่บ้านทับทิมสยาม 04 หมู่ที่ 10 ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ โดยจะมีการทำบุญตักบาตร การวางพานพุ่มสักการะ การกล่าวถวายพระพรชัยมงคล ร่วมร้องเพลงเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์

นอกจากนี้ ยังมีการปลูกหญ้าแฝกและปลูกต้นไม้บริเวณพื้นที่ส่วนกลางโครงการทับทิมสยาม 04 และการปล่อยพันธุ์ปลา ณ อ่างเก็บน้ำห้วยเสน เป็นต้น ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงจัดตั้งหมู่บ้านทับทิมสยาม 04 จังหวัดสุรินทร์ โดยมีพระประสงค์เพื่อช่วยเหลือราษฎร ให้มีที่อยู่และที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง เพื่อยกฐานะราษฎรให้มีรายได้ดีขึ้น ยุติการบุรุกตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำลำธาร กระตุ้นให้ราษฎรเกิดความรู้สึกหวงแหนแผ่นดินบ้านเกิด และร่วมพัฒนาความมั่นคงตามแนวชายแดน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้




สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 14 พร้อมคณะติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 14 พร้อมคณะติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

วันที่ 11 มิ.ย. 56 นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 14 พร้อมด้วยนายจุมพล สงวนสิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายธวัช ชลารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2556 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและนายอำเภอร่วมเสนอผลการดำเนินงาน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ซึ่งจังหวัดสุรินทร์มีสตรี ลงทะเบียนสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระหว่างวันที่ 18 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2556 จำนวน 195,642 คน คิดเป็นร้อยละ 35.46 ของจำนวนเป้าหมายหญิงอายุ 15 ปี ทั้งหมด 551,616 คน

ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้รับการจัดสรรงบประมาณกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน 130 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสุรินทร์ ได้ประชุมพิจารณาเพื่ออนุมัติงบประมาณให้สมาชิกแล้ว จำนวน 5 ครั้ง โดยอนุมัติโครงการประเภทเงินอุดหนุน จำนวน 124 โครงการ เป็นเงิน 10.7 ล้านบาท อนุมัติโครงการประเภทเงินหมุนเวียน จำนวน 1,421 โครงการ เป็นเงิน 80.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 77.32 ซึ่งในขณะนี้ได้รับการโอนเงินแล้ว 780 โครงการ เป็นเงิน 41.66 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ 795 โครงการ เป็นเงิน 49.77 ล้านบาท ส่วนการดำเนินงานกองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ได้รับการจัดสรรเงินแล้ว 2,003 แห่ง คงเหลือ 149 แห่ง สาเหตุเนื่องจากมีปัญหาการร้องเรียน และการทำประชาคมไม่ถูกต้อง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้สั่งการให้หมู่บ้านและชุมชนเร่งรัดการดำเนินการ ตลอดจนกำชับให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติต่อไป


 

สมทรง เผือกผล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ รายงาน

คณะกรรมการ To be Number One ระดับประเทศ ลงพื้นที่ประเมินให้คะแนนระดับทองและเงิน ครั้งที่ 1

คณะกรรมการ ระดับประเทศ โครงการ TO BE NUMBER ONE ติดตามเยี่ยมประเมินให้คะแนนจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 1 ในการขึ้นรักษามาตรฐานต้นแบบสู่ทองปีที่ 1 และ รักษามาตรฐานต้นแบบสู่เงินปีที่ 1 ของตัวแทนประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE
วันที่ 11 มิ.ย.56 ที่ ห้องประชุมศรีณรงค์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ คณะกรรมการระดับประเทศโครงการ TO BE NUMBER ONE ลงพื้นที่เพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงาน และเก็บคะแนนในระดับประเทศ รอบแรก ในการขึ้นรักษามาตรฐานต้นแบบสู่ทองปีที่ 1 และ รักษามาตรฐานต้นแบบสู่เงินปีที่ 1 ของตัวแทนประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE โดยมีนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์พร้อมหัวหน้าส่วน ร่วมต้อนรับ และกล่าวสรุปผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ในห้วงที่ผ่านมา เพื่อให้คณะกรรมการได้รับทราบโดยสรุป

ซึ่งจังหวัดสุรินทร์มีกิจกรรม ที่ได้ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการระดับภาค ที่จะต้องเตรียมตัวในการคัดเลือกเพื่อรักษามาตรฐานสู่ระดับที่สูงขึ้น ณ เวทีมหกรรมรวมพลคน TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 2 ประเภทได้แก่ ประเภทจังหวัด TO BE NUMBER ONE โดยสถานภาพของจังหวัดสุรินทร์จะขึ้นรักษามาตรฐานต้นแบบสู่ทองปีที่ 1 และจะคัดเลือกเป็นปีแรกจาก 3 ปี คือ ตั้งแต่ ปี 2556 ถึง 2558 ในการรักษาเกณฑ์การบูรณาการและดำเนินกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่องและพัฒนาไปจน ถึงการรับการพิจารณาสู่มาตรฐานที่สูงกว่าเมื่อครบ 3 ปีการประเมิน และอีก ประเภทหนึ่งคือ ประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา คือ โรงเรียนมัธยมศรีสำเภาลูน อำเภอบัวเชด ตัวแทนที่ได้ผ่านการคัดสรรจากจังหวัดและเข้ารอบผ่านระดับดีเด่น โดยคณะกรรมการได้ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนและติดตามดูกิจกรรม เพื่อประเมินและให้คะแนน โดยจะเข้าสู่การพิจารณาคัดเลือกให้รักษามาตรฐานต้นแบบสู่เงินปีที่ 1 ทั้งหมดนี้จะต้องแสดงการต่อยอด การพัฒนา ไปสู่ความยั่งยืนให้เห็นเด่นชัด ผ่านตัวชี้วัดต่างๆตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้



กำชัย วันสุข ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงยกปลียอดฉัตรวิหารเจดีย์ศรีชมพู ณ วัดวิหารเจดีย์ศรีชมพู ตำบลกุดชมพู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

เมื่อวานนี้ เวลา 17.30 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธียกปลียอดฉัตรขึ้นประดิษฐานวิหารเจดีย์ศรีชมพู ณ วัดวิหารเจดีย์ศรีชมพู ตำบลกุดชมพู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเสด็จถึงทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร จากนั้น นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กราบทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน เสร็จแล้วทรงเสด็จไปยังที่ประดิษฐานปลียอดฉัตรวิหารเจดีย์ศรีชมพู ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ทรงปิดทองที่ปลียอดฉัตรวิหารเจดีย์ศรีชมพู ทรงถือสายสูตร เจ้าหน้าที่กว้านปลียอดฉัตรวิหารเจดีย์ศรีชมพูขึ้นประดิษฐานยังวิหาร

สำหรับวัดวิหารเจดีย์ศรีชมพู เดิมเรียกว่าวัดกุดชมพู เป็นวัดราษฎร์ ตั้งเมื่อ พุทธศักราช 2456 ได้รับประกาศฯจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปลี่ยนแปลงชื่อวัดเป็น วัดวิหารเจดีย์ศรีชมพู เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555 เป็นวัดที่มีบทบาทและความสำคัญยิ่ง ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ปัจจุบันมีพระครูพิบูลนวกิจ หรือหลวงปู่คำบุ คุตตะจิตโต เป็นเจ้าอาวาส และเมื่อปี 2551 ทางวัดได้ดำเนินการก่อสร้างวิหารเจดีย์ศรีชมพู มีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย 4 ชั้น ขนาดกว้าง 12 เมตร ยาว 12 เมตร สูง 30 เมตร แล้วเสร็จด้วยงบประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปหยก และเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาวัตถุมงคลหลวงปู่คำบุ คุตตะจิตโต เพื่อเป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

โอกาสเดียวกันนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงประทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบทุนก่อสร้างวิหารฯ จำนวน 150 ราย และทรงเยี่ยมราษฎร พร้อมมอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฎรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จอีกด้วย


 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย /ข่าว

ทองปัก ทวีสุข / ภาพ

ประชุมเตรียมรับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคารที่ทำการศาลปกครองอุบลราชธานี

วันนี้ (10 มิ.ย 56) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารศาลปกครองอุบลราชธานี พลอากาศตรีธีระพงษ์ วรรณสำเริง รองหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ ร่วมกับนายนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการอุบลราชธานี และนาวาเอกวุฒิ มีช่วย อธิบดีศาลปกครองอุบลราชธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือเตรียมความพร้อมกับคณะส่วนล่วงหน้าฯของกองกิจการในพระองค์ฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อเตรียมความพร้อมรับเสด็จฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการรับเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเปิดอาคารที่ทำการศาลปกครองอุบลราชธานี เวลา 15.00 น. ในวันศุกร์ที่ 19 กรกฏาคม 2556 ณ ที่ทำการศาลปกครองอุบลราชธานี ตำบลแจระแม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

รองหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ เปิดเผยว่าการประชุมได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่อง การสำรวจพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารบริเวณที่ใช้ประกอบพิธี การประดับตกแต่งสถานที่ การคัดกรองผู้เข้าร่วมพิธี และการจัดทำแผนการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้พิธีการดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และจัดเตรียมแผนการสำรองล่วงหน้าหากมีปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้น
 


จักรกฤษณ์ มาลาสาย /ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

โครงการเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนในการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี จัดอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นครูแม่ไก่ขยายผลและขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอ เพียงในพื้นที่รับผิดชอบสร้างหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบครอบคลุม 20 อำเภอในพื้นที่


ที่โรงแรมอุดรโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เช้าวันนี้ ( 11มิ.ย.56) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานเปิดการอบรมโครงการเพิ่มศักยภาพเจ้า หน้าที่พัฒนาชุมชนในการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2556
นายธนิต แสงพันธุ์ พัฒนาจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีได้ส่งเสริมสนับสนุน ให้ผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน และประชาชนน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนิน วิถีชีวิตประจำวัน เพื่อให้ประชาชนมีความรัก ความสามัคคี อยู่ร่วมกันด้วยความเอื้ออาทร อันจะนำไปสู่ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนพึ่งตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียง เพื่อขยายผลการดำเนินงานดังกล่า จังหวัดอุดรธานี โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานีจึงจัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพเจ้า หน้าที่พัฒนาชุมชนในการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อขยายผลการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับผู้นำหมู่ บ้าน /ชุมชน และประชาชนได้น้อมนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินวิถีชีวิตประจำวัน และเพื่อลดครัวเรือนยากจนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ จปฐ.ให้ลดน้อยลงหรือหมดไปจากจังหวัดอุดรธานี ด้วยการจัดอบรมเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน 100 คน งบประมาณตามยุทธศาสตร์จังหวัดอุดรธานี 639,200 บาท
นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การขับเคลื่อนและพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบมีความ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมดำเนินการ ขอให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกคน ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอพียง เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน มีการดำเนินวิถีชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ 

ตลาดสดมีมาตรฐานอาหารปลอดภัยผู้บริโภคมั่นใจ

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 24 จัดงาน "ตลาดสดมีมาตรฐาน อาหารปลอดภัย ผู้บริโภคมั่นใจ” เสริมภาพลักษณ์ การจำหน่ายและผลักดันเชื่อมโยงการซื้อขายในตลาดสดดีเด่น ให้มีความมาตรฐานสามารถแข่งขันกับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่

วันนี้ (11 มิ.ย. 56) ที่ตลาดสดสวัสดิการมณฑลทหารบกที่ 24 พลตรีสิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 เป็นประธานเปิดงาน "ตลาดสดมีมาตรฐาน อาหารปลอดภัย ผู้บริโภคมั่นใจ” โดยมีนายสุรพล แจ่มวุฒิปรีชา รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี พันเอกอำนวย จุลโนนยาง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 สมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชน ร่วมงาน นายนคร บุตรดีวงศ์ การค้าภายในจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการให้หน่วยงานของรัฐพัฒนาระบบตลาดทุกขั้นตอน กรมการค้าภายในจึงได้จัดทำโครงการตลาดสดดีเด่น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาตลาดสดให้มีความเป็นมาตรฐานสามารถแข่งขันกับธุรกิจค้า ปลีกสมัยใหม่ รวมทั้งสร้างโอกาสและให้ความเป็นธรรมทางการค้าและบริการ เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมการค้าวิถีไทย เพื่อสนองนโยบายดังกล่าว สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอุดรธานีจึงจัดทำโครงการกิจกรรมส่งเสริมการ จำหน่ายและผลักดันเชื่อมโยงการซื้อขายในตลาดสดดีเด่น ในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน โดยคัดเลือกตลาดสดสวัสดิการมณฑลทหารบกที่ 24 ซึ่งอยู่ในความดูแลของมณฑลทหารบกที่ 24 เป็นสถานที่จัดงาน เพื่อให้ตลาดสดสวัสดิการมณฑลทหารบกที่ 24 สามารถรองรับและจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ราคาเป็นธรรม และผลักดันให้ตลาดเป็นเครื่องมือในการดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของ เกษตรกรและประชาชน รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับด้านคุณภาพของสินค้า ส่งผลให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภคและประชาชน เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจอาทิ การประกวดของดีของอร่อย การจำหน่ายสินค้าราคาธงฟ้า เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน อาทิ ไข่ไก่ เบอร์ 3 แผงละ 90 บาท เนื้อหมู กิโลกรัมละ 100 บาท น้ำมันพืช ขนาด 1 ลิตร ขวดละ 30 บาท น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 20 บาท การจำหน่ายสินค้าเกษตรราคาประหยัด ผักปลอดสารพิษ ข้าวสาร และอาหารแปรรูป



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

แถลงข่าวการจัดการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลกคิงส์คัพ ครั้งที่ 28

จังหวัดอุดรธานี เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คิงส์คัพ ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2556 นี้

บ่ายวันนี้ ( 11 มิ.ย.56 ) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานแถลงข่าว การจัดการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลกคิงส์คัพ ครั้งที่ 28 โดยมีนายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายธนดร พุทธรักษ์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดอุดรธานี พันโทอภิศักดิ์ หมั้นทรัพย์ กรรมการสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย และนางสาวดวงสมร เจริญบัณฑิตชัย ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาอุดรธานี ร่วมแถลงข่าว ทั้งนี้สืบเนื่องจากจังหวัดอุดรธานีได้รับคัดเลือกจากสมาคมตะกร้อแห่งประเทศ ไทย ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คิงส์คัพ ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2556 ณ อุดรธานีฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ซึ่งการแข่งขันในครั้งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 8 ประเภทการแข่งขัน ประกอบด้วย เซปัคตะกร้อชาย /หญิง ทีมชุด ,เซปัคตะกร้อ ชาย/หญิง ทีมเดี่ยว ,เซปัคตะกร้อคู่ชาย/คู่หญิง ทีมเดี่ยว,ตะกร้อลอดห่วงสากลชาย และตะกร้อลอดห่วงสากลหญิง ซึ่งในการแข่งขันดังกล่าวคาดว่าจะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จาก 34 ประเทศ ที่จะเข้ามาพักอาศัยในช่วงระหว่างวันที่ 15-23 กันยายน 2556 มากว่า 1,000 คน

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดอุดรธานีจะกว้าเข้าสู่ปีที่ 121 หรือ ทศวรรษที่ 13 ของการก่อตั้งจังหวัด ในวันที่ 18 มกราคม 2556 นับแต่วันที่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงย้ายที่ตั้งบัญชาการมณฑลลาวพวน จากเมืองหนองคาย มาตั้งที่บ้านเดื่อหมากแข้ง จนกลายเป็นจังหวัดอุดรธานีในวันนี้ ในโอกาสนี้ จังหวัดจึงถือเอาการจัดการแข่งขันกีฬาตะกร้อชิงแชมป์โลกชิงถ้วยพระราชทานพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คิงส์คัพ ครั้งที่ 28 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2556 นี้เป็นปฐมฤกษ์ของการเฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นศิริมงคลอย่างยิ่ง พร้อมฝากพี่น้องประชาชนร่วมกันคนละไม้ละมือเป็นเจ้าภาพที่ดี ทำให้การจัดการอข่งขันครั้งนี้ออกมาดีที่สุด สมพระเกียรติแก่พระองค์ท่าน และเป็นการประกาศความพร้อมของจังหวัดอุดรธานี ว่าเราเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เป็นเมืองแห่งโอกาสสำหรับคนทุกคน หรือ The City of opportunities for all 

นายวิเชียร ขาวขำ กล่าวว่า องค์การบริการส่วนจังหวัดอุดรธานี สนับสนุนงบประมาณในการแข่งขันฯครั้งนี้ 9,045,200 บาท และสนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดในการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการ แข่งขันกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รวมทั้งกีฬาคนพิการแห่งชาติ ที่สำคัญยังขอใช้พื้นที่สาธารณทุ่งลีตาห้า บริเวณหนองบุ เนื้อที่ 130 ไร่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสนามกีฬากลางของจังหวัดอุดรธานีที่ได้มาตรฐาน และเป็นสำนักงานของสมาคมกีฬาจังหวัด พัฒนาเป็นศุนย์ฝึกและเก็บตั้วของนักกีฬาตัวแทนจังหวัดอุดรธานี



ทีมข่าวส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ 

ทบ.สร้างเครือข่ายทหารกองหนุนป้องกันยาเสพติด

กองทัพบก โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน มอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี จัดฝึกอบรมทบทวนสมาชิกสมาคมทหารกองหนุน จากจังหวัดอุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่
บ่ายวันนี้ (11 มิ.ย. 56)ที่สโมสรนายทหารค่ายประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี พลตรี สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกทบทวนสมาชิกสมาคมทหารกองหนุน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด จากจังหวัดอุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภูและบึงกาฬ
พ.ท.วุฒิชัย สุคนธวัฒน์ รองหัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.24 กล่าวว่า จากปัญหาสังคมปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติในหลากหลายมิติ กองทัพบกโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และมีแนวคิดที่จะส่งเสริมอุดมการณ์ให้กับคนในชาติ เกิดความรักความสามัคคี โดยมุ่งเน้นให้สมาชิกทหารกองหนุนซึงปลดประจำการไปอยู่ตามภูมิลำเนา ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือปัญหาสังคม การพัฒนาประเทศ การสร้างเครือข่ายช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกด้วยกัน ภายใต้กรอบแนวทางส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ได้เข้าใจหน้าที่ของคนไทย ในการเทิดทูน พิทักษ์ และรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
กองทัพบก โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้มอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 24 จัดฝึกอบรมทบทวทนให้กับสมาชิกสมาคมทหารกองหนุน จำนวน 1 รุ่น 100 คน ห้วงระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2556 วัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกสมาคมทหารกองหนุน เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย เกิดความรัก ความสามัคคี และหวงแหนในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ได้รับการเสริมสร้างความมีระเบียบ วินัย ความซื่อสัตย์สุจริต การเคารพสิทธิผู้อื่น และการใช้ชีวิตร่วมกันตามเกณฑ์ของสังคม นอกจากนั้น เป็นการสร้างพลังให้สังคมในหมู่สมาชิก ที่ได้รับการจัดตั้งเป็นกลุ่มก้อน ให้สามารถเผชิญกับปัญหาสังคมต่างๆได้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนของตนเอง


พลตรี สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผบ.มทบ.24 กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันปัญหาความมั่นคงของประเทศ เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามสภาพของเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ตลอดจนการแพร่ระบาดของยาเสพติดก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมามากมาย กองทัพบกจึงมีโครงการที่จะดึงสมาชิกสมาคมทหารกองหนุนมามีส่วนร่วมในเรื่อง ความมั่นคงและการพัฒนาประเทศ โดยการฝึกอบรมทบทวน แม้จะมีระยะเวลาสั้นๆเชื่อว่าสมาชิกสมาคมทหารกองหนุนทุกคนจะได้รับความรู้ ประสบการณ์ ตลอดจนได้ทบทวนความเป็นชายชาติทหารอีกครั้งหนึ่ง และได้ตระหนักอยู่เสมอว่าตนเองยังเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหา



เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.

หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดอุดรธานี

หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ปรับแผนตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 1 กรกฏาคม 2556 นี้เป็นต้นไป เพื่อเติมน้ำลงในอ่างสำคัญๆ กักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงกลางฤดูทำนา และให้บริการบินสำรวจ คาดปีนี้อาจเกิดฝนทิ้งช่วงเหมือนปีที่ผ่านมา
เช้าวันนี้ ( 11 มิ.ย. 56 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีมอบหมายให้นายสุขพล อินตาพรหม เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี ร่วมบินสำรวจสภาพพื้นที่การเกษตรและปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญๆและประชุม พบปะผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่ท้ายโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวงอุดธานี เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรคด้านน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร ตลอดจนรับทราบข้อเสนอแนะจากผู้แทนเกษตรกร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม      


ทั้งนี้สืบเนื่องจากเดือนมิถุนายนได้เข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว แต่ปีนี้จังหวัดอุดรธานีทางตอนล่างและทิศตะวันตกมีปริมาณน้ำฝนต่ำมาก กระทงนาและไร่อ้อยยังแห้งแล้งขาดน้ำขัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดูแลให้บริการปฏิบัติการฝนหลวงเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 หน่วย คือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงขอนแก่น อุบลราชธานี และนครราชสีมา แต่เนื่องจากการบินสำรวจพื้นที่จังหวัดอุดรธานี พบว่าอ่างเก็บน้ำสำคัญๆยังขาดน้ำและต้องการให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ มาตั้งหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี นายปนิธิ เสมอวงษ์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออเกฉียงเหนือจังหวัดขอนแก่นจึงปรับ แผนมาตั้งที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556เป็นต้นไป โดยหน่วยดังกล่าวจะปฏิบัติการครอบคลุมพื้นที่อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย และสกลนคร
นายพิทยา กุดหอม หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในปี 2555 มีพื้นที่ฝนทิ้งช่วง 3 อำเภอ 313 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 15,983 คน พื้นที่เกษตร 122,618 ไร่ และมีพื้นที่ภัยแล้ง 18 อำเภอ 131 ตำบล 1,277 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเสียหาย 40,715 คน พื้นที่ได้รับความเสียหาย 254,301 ไร่ ซึ่งในปี 255มีฝนตกตลอดปี 107 วัน ปริมาณน้ำในอ่างสำคัญ 15 แห่ง ที่ปริมาณกักเก็บรวม 275.830 ล้าบลูกบาศเมตร ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บเพียง 55.498 ล้านลูกบาศเมตร คิดเป็น 20.1 %
และจากรายงานสถานการณ์น้ำ ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2556 พบว่า ปริมาณน้ำฝนตกสะสมในปี 2556 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2556- 9 มิถุนายน 2556 มีปริมาณน้ำฝนตกสะสมเท่ากับ 301.0 มิลลิเมตร มากกว่าปริมาณน้ำฝนตกสะสมในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555 ซึ่งปริมาณฝนตกรวม 272.5 มิลลิเมตร ในขณะที่ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556-9 มิถุนายน 2556 เท่ากับ 5.15 ล้านลูกบาศเมตรน้อยกว่าปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555 ซึ่งมีปริมาณ เท่ากับ 23.47 ล้านลูกบาศเมตร ส่วนสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2556 มีปริมาณทั้งสิ้น 16.68 ล้าบลูกบาศเมตร



 ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา

จังหวัดอำนาจเจริญประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย

นาย วิฑูรย์  ศิริบูรย์ภักดี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนา ชาติไทย จังหวัดอำนาจเจริญ  เพื่อให้การเตรียมความพร้อมการคัดกรองผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  โดยจัดประชุม  ณ ห้องประชุมฝ้ายขิดคำพระ  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ   จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ทางราชการได้ให้ความช่วยเหลือ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ในจังหวัดอำนาจเจริญ  ทั้งในด้านการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย  การมอบเงินช่วยเหลือ ดังนี้ ก่อนปี 2545  ได้จัดที่ดินที่อยู่อาศัยให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จำนวน 403 ครอบครัว  806 คน ปี 2550 มอบเงินช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จำนวน 2,440 ราย รายละ  125,000 บาท เป็นเงิน  305,000,000 บาท  ปี 2554  มอบเงินช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จำนวน 5,484 ราย รายละ  225,000 บาท เป็นเงิน  1,233,900,000 บาท

สำหรับ ในปี 2556  กอ.รมน.จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ดำเนินการเปิดรับคำร้องของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จังหวัดอำนาจเจริญ มีมติให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่มีปัญหาความเดือดร้อนมาลงทะเบียนรับคำร้อง จากคณะกรรมการด้วยตนเอง และยื่นคำร้องด้วยตนเอง  โดยตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2556 ถึง วันที่ 15 พฤษภาคม 2556  มีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย มาลงทะเบียนรับคำร้อง จำนวน 5,625 ราย  และมายื่นคำร้อง จำนวน 4,731 ราย  สำหรับแนวทางการดำเนินการของคณะกรรมการคัดกรอง  พันเอกณรงค์ฤทธิ์  วิจิตร  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอำนาจเจริญประธานคณะทำงาน ได้กำหนดจะเริ่มดำเนินการคัดกรองผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป  โดยมีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ทีปฏิบัติงานในเขตงานจังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 2,949 ราย แยกเป็นลำดับ ดังนี้  ลำดับที่ 1  ได้แก่อำเภอหัวตะพาน, อำเภอลืออำนาจ, อำเภอพนา, และอำเภอเมือง จำนวน 532 ราย  ลำดับที่ 2  อำเภอปทุมราชวงศา จำนวน 334 ราย  ลำดับที่ 3  อำเภอชานุมาน จำนวน 528 ราย  ลำดับที่ 4  อำเภอเสนางคนิคม จำนวน 1,554 ราย  และลำดับสุดท้าย ได้แก่ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ยื่นคำร้องจากจังหวัดอื่นๆ และผู้ตกค้าง  สำหรับสถานที่คัดกรอง มีดังนี้ 1. หอประชุมพญานาครินทร์  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ  2. ห้องสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (เดิม) ชั้น 2  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นที่พักคอย  3. ห้องประชุมสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ  ชั้น 2  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นห้องสัมภาษณ์ 



                                                                                                                                 จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว

ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอำนาจเจริญจัดโครงการ “ร่วมใจไกล่เกลี่ยและสมานฉันท์”

วันนี้ (11 มิ.ย. 56) เวลา 09.00 น. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอำนาจเจริญ นายสุเจตน์           ส่งสัมพันธ์สกุล  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิด โครงการ "ร่วมใจไกล่เกลี่ยและสมานฉันท์  โดยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอำนาจเจริญ ได้จัดขึ้น  วัตถุประสงค์ เพื่อรณรงค์เผยแพร่ความรู้และประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และเป็นที่ยอมรับของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรมและความพึงพอใจให้แก่คู่ความทุกฝ่ายที่มีอรรถคดีในศาล

นายสุเจตน์        ส่งสัมพันธ์สกุล  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าว่า การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้กำหนดให้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสำนักงานศาลยุติธรรม โดยเป็นกระบวนการสำคัญในการเป็นเครื่องมือเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินคดีของศาล เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่คู่ความและประชาชน ซึ่งจะได้มีทางเลือกในการระงับข้อพิพาทโดยเร็วประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นธรรม ลดความขัดแย้งของคู่ความ ตลอดจนการสร้างความรู้ ความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินคดี รวมทั้งสิทธิ หน้าที่ของจำเลยและผู้เสียหายในคดี อันจะส่งผลให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ในสังคม ชุมชน และองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของการเสริมสร้างประสิทธิภาพและพัฒนางานไกล่เกลี่ยข้อพิพาท คือการประชาสัมพันธ์เผยแพร่งานด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเป็นที่ยอมรับของคู่ความและประชาชน ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอำนาจเจริญ  จะดำเนินการให้ความรู้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556  เพื่อจะได้นำความรู้ไปใช้ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนและสังคม ในชุมชนต่อไป




จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว

ร้อยเอ็ดเตือนสภาวะฝนตกหนัก 4-5 วันนี้ สาเหตุจากมรสุมตะวันออกเฉียงใต้

นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้จะมีฝนตกหนัก สาเหตุจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและต่างประเทศ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรงบางแห่ง ระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน นี้

จังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรง ประชาชนควรติดตามรับฟังข่าวสารจากสถานีวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่นและอาสาสมัครในพื้นที่อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยให้ดูแลบ้านเรือนโรงเรือนสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ให้แข็งแรง ตัดแต่งต้นไม้และกิ่งไม้ ไม่ควรใช้เครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์มือถือกลางที่โล่งแจ้งในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง คอยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากอาคารสิ่งก่อสร้างไม่มั่นคงแข็งแรง พิจารณาแล้วเป็นอันตรายให้แจ้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน

ทั้งนี้ ควรระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาพของคนในครอบครัว หากเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์หรือรักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลใกล้บ้าน สำหรับสัตว์เลี้ยงและพืชการเกษตรให้ระมัดระวังโรคระบาดพืช
และสัตว์ หากพบเห็นหรือสงสัยว่าจะเกิดโรคระบาด ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอทันที หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเขตพื้นที่นั้น ๆ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น ๓ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ตามหมายเลขโทรศัพท์ ๐-๔๓๕๑-๕๑๑๘ โทรสาร
๐-๔๓๕๑-๓๐๙๗



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว
 กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 

ร้อยเอ็ด เดินหน้าบูรณาการจัดสรรงบประมาณ พร้อมสู่การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 “ร้อยเอ็ดเกมส์” 2 - 11 ก.ย. นี้

จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานคลังจังหวัดร้อยเอ็ด ประชุม คณะทำงานเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 "ร้อยเอ็ดเกมส์” ด้านการควบคุมงบประมาณ การรับและการเบิกจ่าย รวมทั้งการพิจารณาอนุมัติจัดสรรงบประมาณ

วันนี้ เวลา 10.00 น. (11 มิ.ย. 56) นายพงศ์พิตร์ ฤทธิแสง คลังจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการควบคุมงบประมาณ การรับและการเบิกจ่าย รวมทั้งการพิจารณาอนุมัติจัดสรรงบประมาณ  ณ  ห้องประชุมพระเวสสันดร ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้  คณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามข้อบังคับคณะกรรมการดำเนินการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 "ร้อยเอ็ดเกมส์” ว่าด้วยงบประมาณและการเงิน พ.ศ. 2556 และว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2556 โดยคณะกรรมทั้ง 16 ฝ่าย ให้มีความเข้าที่ถูกต้องตรงกัน

นายพงศ์พิตร์ ฤทธิแสง คลังจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ให้คณะทำงานทุกคณะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่การเงิน  บัญชีและเจ้าหน้าที่พัสดุ  เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานก่อนที่จะเบิกเงินต่อประธานคณะ กรรมการฝ่าย   
 งบประมาณและการเงิน ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายงบประมาณและการเงิน จะดำเนินการ รับ  เบิก - จ่าย โดยใช้ข้อบังคับคณะกรรมการดำเนินการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 "ร้อยเอ็ดเกมส์” ว่าด้วยงบประมาณและการเงิน พ.ศ. 2556 และว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2556, ระเบียบการเงินการคลังและระเบียบสำนักนานยกรัฐมนตรีว่าด้วยการ พ.ศ.2535 ต่อไป

 

คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 043-527117   

อุตุนิยมวิทยาเตือนฝนตกหนักฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 3 เรื่อง "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ทั่วประเทศมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในช่วงวัน ที่ 9 - 14 มิถุนายน 2556 ขณะที่ยโสธร เกิดฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 3 เรื่อง "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรง ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้ร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ทั่วประเทศมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในช่วงวัน ที่ 9 - 14 มิถุนายน 2556

สำหรับสภาพอากาศจังหวัดยโสธร ในรอบสัปดาห์นี้ มีเมฆเป็นส่วนมาก จะเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 25-37 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-12 และ15-16 มิ.ย. จะมีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ประชาชนควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับพืชผลทางการเกษตร ตลอดจนเกษตรกรผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ รวมทั้งดูแลโรงเรือนไม่ให้ฝนสาดและอับชื้นเพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย



ส.ปชส.ยโสธร / ปิยะนุช 11 มิ.ย.56

จังหวัดมุกดาหารลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติร่วมกัน เพื่อเป็นการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิและป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและความรุ่นแรงในครอบครัว

ที่โรงแรมมุกดาหารแกรนด์ จังหวัดมุกดาหารนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติร่วมกัน เพื่อเป็นการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิและป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ความรุนแรงในครอบครัวและการค้ามนุษย์ และงานวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายสวัสดิ์ ชูสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าการค้ามนุษย์เป็นภัย อันร้ายแรงต่อสังคมและประเทศชาติ เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ และเป็นเรื่องที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและจับตามองเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งรัฐบาลไทยถือว่าการค้ามนุษย์เป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังเด็ดขาด จากนั้นเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและองค์กร ต่างๆ 19 หน่วยงานโดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน

นายสวัสดิ์ ชูสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวว่าการป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ความรุนแรงในครอบครัวและการค้ามนุษย์จะเกิดผลดีและมีประสิทธิภาพ ทั้งการป้องกันปัญหา การรับแก้ไขปัญหา และการเยียวยาความเดือนร้อนเสียหาย จะต้องอาศัยการบูรณาการ การทำงาร่วมกัน ทั้งในระดับพื้นที่ ชุมชน ตำบล อำเภอและจังหวัด รูปแบบทีมสหวิชาชีพ และต้องมีมาตรการป้องกันปัญหา การแก้ไขปัญหาและการเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายที่เกิดจากปัญหาดังกล่าว จึงสมควรมีกรอบและแนวทางปฏิบัติร่วมกันและพัฒนาความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
 


พิพัฒน์ เพชรสังหาร สปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สุระณรงค์ อ่อนสนิท สปชส.มุกดาหาร/ภาพ

อุตุฯเตือน มหาสารคาม มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 3 เรื่อง "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ทั่วประเทศมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในช่วงวัน ที่ 9 - 14 มิถุนายน 2556 ขณะที่มหาสารคาม เกิดฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 3 เรื่อง "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรง ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้ร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ทั่วประเทศมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในช่วงวัน ที่ 9 - 14 มิถุนายน 2556

สำหรับสภาพอากาศจังหวัดมหาสารคาม ในรอบสัปดาห์นี้ มีเมฆเป็นส่วนมาก จะเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 24-36 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 10-12 และ15-16 มิ.ย. จะมีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ประชาชนควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับพืชผลทางการเกษตร ตลอดจนเกษตรกรผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ รวมทั้งดูแลโรงเรือนไม่ให้ฝนสาดและอับชื้นเพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและ เป็นโรคได้ง่าย
 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามปล่อยขบวนรถลงพื้นที่ตามหมู่บ้านทำหมันสุนัข - แมว แก้ปัญหาสุนัข - แมวจรจัด

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ปล่อยคาราวานหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ออกไปตามหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อทำหมันให้กับสุนัขและแมว ตามโครงการวางแผนครอบครัวสุนัขและแมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัข-แมว จรจัด อย่างยั่งยืน จังหวัดมหาสารคาม

ที่อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม นายธนิตย์ เอนกวิทย์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในการปล่อยคาราวานหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ออกไปตามหมู่ บ้าน/ชุมชน เพื่อทำหมันให้กับสุนัขและแมว ตามโครงการวางแผนครอบครัวสุนัขและแมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัข-แมว จรจัด อย่างยั่งยืน จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นโครงการที่จังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ผ่าตัด ทำหมัน สุนัข และแมว และเริ่มเปิดโครงการดังกล่าวที่อำเภอบรบือ เมื่อเช้านี้ (11-6-56)

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า โครงการวางแผนครอบครัวสุนัขและแมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัข-แมว จรจัด อย่างยั่งยืน จังหวัดมหาสารคาม เป็นแนวทางหนึ่งในการลดจำนวนสัตว์พาหะของโรคพิษสุนัขบ้า ตามนโยบายกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2563 อีกทั้งยังเป็นการลดจำนวนประชากร สุนัข และแมว จำกัดจำนวนให้เหมาะสมกับผู้เลี้ยงที่สามารถดูแลได้โดยไม่เกิดปัญหาการทิ้ง ให้เป็นสุนัข หรือแมวจรจัด ตลอดจนแก้ไขปัญหาสุนัขที่ผู้เลี้ยงไม่ต้องการ แล้วถูกส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ

โครงการวางแผนครอบครัวสุนัขและแมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัข-แมว จรจัด อย่างยั่งยืน จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม จะดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในระหว่างวันที่ 11-30 มิถุนายน 2556 เป้าหมายดำเนินการ จำนวน 142 แห่ง ครอบคลุม 13 อำเภอ จำนวน 3,000 ตัว
 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

รพ.มหาสารคามจัดโครงการพัฒนาระบบการคุ้มครองสิทธิประชาชนด้านการรักษาพยาบาลและการจัดการเรื่องร้องเรียนและแก้ไขข้อขัดแย้ง

โรงพยาบาลมหาสารคามเปิดโครงการพัฒนาระบบการคุ้มครองสิทธิประชาชนด้าน การรักษาพยาบาลและการจัดการเรื่องร้องเรียนและแก้ไขข้อขัดแย้งเพื่อสร้าง เครือข่ายภาคประชาชนในการรับเรื่องร้องเรียนของผู้มาใช้บริการ  

11-06-56 ที่ห้องประชุมตักสิลา โรงพยาบาลมหาสารคามเปิดโครงการพัฒนาระบบการคุ้มครองสิทธิประชาชนด้านการ รักษาพยาบาลและการจัดการเรื่องร้องเรียนและแก้ไขข้อขัดแย้งเพื่อสร้างเครือ ข่ายภาคประชาชนในการรับเรื่องร้องเรียนของผู้มาใช้บริการโดยมีนายแพทย์ ไพบูลย์ อัศวธนบดี รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม ฝ่ายบริการเป็นประธานเปิดโครงการ


นายแพทย์เสน่ห์ บูรณวรศิลป์ ประธานคณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียนและแก้ไขข้อขัดแย้งโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า ด้วยพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคคือได้แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทั้งยัง ป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นซ้ำ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการฟ้องร้องในทางคดีความยุ่งยากได้ รวมทั้งไม่ขยายความขัดแย้งระหว่างประชาชนและผู้ให้บริการโรงพยาบาลมหาสารคาม ซึ่งมีผู้มาใช้บริการจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทำให้ยังพบเหตุการณ์ไม่พึง ประสงค์และข้อร้องเรียนอยู่ ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลมหาสารคามจะมีการพัฒนาคุณภาพทุกด้านอย่างต่อเนื่องมาโดย ตลอดทั้งด้านมาตรฐานวิชาชีพ ด้านระบบบริการ ด้านบุคลากร อาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม แต่ยังพบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์และข้อร้องเรียนจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ข้อร้องเรียนส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสื่อสารและความไม่เข้าใจในขั้นตอนการ บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขและประชาชนบางส่วนยังขาดความรู้เรื่องการใช้ สิทธิด้านการรักษาพยาบาลจึงทำให้เกิดข้อขัดแย้งเกิดขึ้น ในการแก้ปัญหาดังกล่าวมีความจำเป็นต้องอาศัยสัมพันธภาพที่ดีระหว่างโรง พยาบาลมหาสารคามและเครือข่ายภาคประชาชนและต้องมีการประชาสัมพันธ์ความรู้ ด้านสิทธิและสวัสดิการสาธารณสุข ขั้นตอนการใช้สิทธิแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความร่วมมือจากเครือข่ายภาค ประชาชนและยังเป็นการฟื้นฟูสัมพันธภาพระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณ สุขกับประชาชน
ด้านนายแพทย์ไพบูลย์ อัศวธนบดี รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามฝ่ายบริการกล่าวว่าการดำเนินโครงการพัฒนา ระบบการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านสวัสดิการการรักษาพยาบาลและการ จัดการเรื่องร้องเรียนและแก้ไขข้อขัดแย้งของโรงพยาบาลมหาสารคามในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการบริการแบบมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเป็นการสร้างเครือข่าย รับฟังข้อเสนอแนะข้อร้องเรียนในชุมชน เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาคุณภาพการบริการของโรงพยาบาลมหาสารคามและรักษาความ สัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการละประชาชน ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน การจัดโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากภาคีเครือข่าย แกนนำภาคประชาชน ผู้นำชุมชน สื่อมวลชน ตัวแทนองค์การบริหารส่วนตำบลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใน เขตอำเภอเมืองมหาสารคามจำนวนกว่า 150 คน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์มหาสารคาม สร้างเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด

ตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ร่วมกับ อบจ.มหาสารคาม สร้างเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ด้วยการอบรมสมัชชาแกนนำ หวังเป็นกำลังสำคัญให้เข้ามาทำหน้าที่เฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหายาเสพติดขึ้น ในหมู่บ้าน/ชุมชน

ระหว่างวันที่ 11-12 มิถุนายน 2556 สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ได้นำสมัชชาแกนนำต่อต้านยาเสพติดจากหมู่บ้านและชุมชนในเขตอำเภอเมือง ที่มีจิตอาสา รวม 295 คน มาเข้ารับการอบรมตามโครงการตำรวจชุมชนสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างพลังสังคมและชุมชนเอาชนะยาเสพติด พัฒนาแกนนำหมู่บ้าน/ชุมชนเหล่านี้ให้เข้ามาทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังป้องกัน มิให้เกิดปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดในพื้นที่

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวในโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมแกนนำสมัชชาต่อต้านยาเสพติดว่า โครงการตำรวจชุมชนสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เป็นการผนึกกำลังภายใต้ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดของหมู่ บ้าน/ชุมชน โดยเน้นด้าน กายบำบัด จิตบำบัด อาชีวะบำบัดและชุมชนบำบัด พร้อมสร้างกฎเหล็กของหมู่บ้าน/ชุมชนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ ป้องกันไม่ให้ผู้ติดยาเสพติด ขณะเดียวกันนำผู้เสพ ผู้ติดยาเข้ารับการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพร่างกาย จิตใจ ลดจำนวนผู้ติดยาให้หมดไป ตลอดจนสร้างแนวทางการแจ้งข่าว ความเคลื่อนไหว หรือพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ค้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม รับรางวัล “ระฆังทอง” บุคคลดีเด่นแห่งปี

นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบุคคลดีเด่น สาขาผู้นำท้องถิ่น ประจำปี 2556 รางวัล "ระฆังทอง” โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นองค์ประธานมอบเกียรติบัตร ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์

(11-6-56) ที่ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เข้ารับรางวัลระฆังทอง (บุคคลแห่งปี) ครั้งที่ 6 ประจำปี พ.ศ.2556 สาขาสาขาผู้นำท้องถิ่นดีเด่น ซึ่งจัดโดยสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นองค์ประธานในการมอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้ารับรางวัล

สำหรับรางวัลระฆังทอง ประกอบด้วย ประเภทสาขาสื่อสารมวลชน ประเภทบุคคลและองค์กร นักพัฒนาองค์กร นักประชาสัมพันธ์ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ผู้นำท้องถิ่น โดยบุคคลที่ได้รับรางวัลได้เป็นตัวอย่างการประพฤติในวัฒนธรรมไทยอันดีงาม ซึ่งจะส่งผลต่อประชาชนและเยาวชนที่จะมีแบบอย่างที่ดีทั้งด้านความประพฤติ และวัฒนธรรม



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี หรือ พอ.สว.จังหวัดนครราชสีมา

เมื่อวันที่ 8 มิย56 เวลา 14.02 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมัครสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี เสด็จไปยังโรงเรียนเมืองพลับพลาพิทยาคม บ้านหนองแวงน้อย อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว.ที่โปรดให้ออกหน่วยบริการแก่ราษฎรผู้เจ็บป่วยยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร

บ้านหนองแวงน้อย มีราษฎร 178 หลังคาเรือน 774 คนประกอบอาชีพเกษตรกรรม สำหรับการเสด็จครั้งนี้ โปรดให้แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุขจากโรงพยาบาลต่างๆ ร่วมกับหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ให้บริการแก่ราษฎร โดยมีผู้บริจาคการตรวจโรค และด้านทันตกรรม รวม 197 คนโรคที่พบมากที่สุดเป็นโรคเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ มีผู้ป่วยที่ต้องส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลในพื้นที่ และส่วนกลางจำนวน 24 คน และมีผู้ป่วยนำเฝ้า เพื่อมีพระวินิจฉัยในการหาแนวทางการรักษา จำนวน 8 คนป่วยเป็นโรคต่างๆ อาทิ โรคผิวหนังพุพอง, โรคลิ้นหัวใจรั่วและลิ้นหัวใจตีบ, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ข้อเท้าผิดรูป, โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง โดยทรงซักถามอาการ พร้อมพระราชทานกำลังใจแก่ผู้ป่วย ซึ่งจะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์, โรงพยาบาลศิริราช, สถาบันโรคผิวหนัง และ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นอกจากนี้ ยังมีสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ไปให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยงด้วย โอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้สมาชิก พอ.สว.จังหวัดนครราชสีมา เฝ้าซึ่งเป็นจังหวัดแพทย์อาสาลำดับที่ 42 ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2517 ในการนี้มีพระดำรัสเรื่องการแบ่งปัน ซึ่งควรปลูกฝังแต่ยังเด็ก

สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง จัดการประชุมมันสำปะหลังนานาชาติ และนิทรรศการมันสำปะหลังแห่งชาติ ที่ มทส.

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า จังหวัดนครราชสีมา จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่ระดับนานาชาติ อีกครั้ง คือการประชุมสัมมนามันสำปะหลังนานาชาติหรือมันสำปะหลังโลก วันที่ 20 – 23 มิถุนายน นี้

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การประชุมสัมมนามันสำปะหลังนานาชาติ จะมีการจัดนิทรรศการมันสำปะหลังแห่งชาติด้วย คือ "World Tapioca Conference and Thailand Tapioca Exhibition 2013” จัดระหว่างวันที่ 20 – 23 มิถุนายน 2556 ที่ อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา มีการเรียนเชิญนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาฯ จะมีผู้ค้ามันสำปะหลังจากต่างประเทศ และผู้ประกอบการในประเทศ เดินทางมาร่วมสัมมนาฯ ครั้งนี้ด้วย
 
การประชุมสัมมนาฯและการจัดนิทรรศการฯครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมการค้าต่างประเทศ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย จังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพความเป็นผู้นำของไทยด้านการผลิต การค้า และการส่งออกมันสำปะหลัง ให้กับผู้ประกอบการค้าต่างประเทศ ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ผลิตมันสำปะหลังมากที่สุดในประเทศ จึงมีการจัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่เทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง ให้แก่เกษตรกร ซึ่งจะมีการจัดสัมมนาย่อยในคราวเดียวกัน
 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงขอเชิญชวนเกษตรกรและผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมสัมมนามันสำปะหลังนานาชาติ และชมนิทรรศการมันสำปะหลังแห่งชาติ "World Tapioca Conference and Thailand Tapioca Exhibition 2013” ระหว่างวันที่ 20 – 23 มิถุนายน 2556 ที่ อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา และรับฟังการอภิปรายกลุ่มย่อยที่ท่านสนใจได้ทุกกลุ่ม 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันนายเอกยุทธหายตัวไปไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล ระบุรัฐบาลไม่นิยมให้ความรุนแรง

วันนี้ (11 มิ.ย. 2556) เวลา 12.30 น. ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวภายหลังจากมอบนโยบายด้านยาเสพติดที่จังหวัดนครราชสีมา ถึงกรณีการหายตัวไปของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังว่า นายเอกยุทธเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และมีศัตรูมาก ซึ่งหลังจากควบคุมตัวคนขับรถของนายเอกยุทธไว้ได้แล้ว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนวิเคราะห์สาเหตุที่นายเอกยุทธหายตัวไป อยู่ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่อย่างไรก็ตามตนยืนยัน หากเกิดอะไรขึ้นกับนายเอกยุทธ ไม่ได้เกิดจากฝีมือของรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งที่มีคนกล่าวว่ารัฐบาลไปคุกคามนายเอกยุทธไม่เป็นความจริง รัฐฐาลไม่นิยมการใช้ความรุนแรง เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องทำแบบนั้น ตรงกันข้ามการมีนายเอกยุทธถือว่าเป็นมีสีสันในระบอบประชาธิปไตย ส่วนเรื่องที่มีการพาดพิงว่านายเอกยุทธมีปัญหาฟ้องร้องกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นั้น ตนยืนยันว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นคนดี และไม่เกี่ยวข้องกับการที่นายเอกยุทธหายตัวไปแน่นอน

ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมปรับกฏหมายเพื่อจัดการขั้นเด็ดขาดกับขบวนการค้ายาเสพติด

วันนี้ (11 มิ.ย. 56) เวลา 10.00 น. ที่มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ร้อยตำรวจเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด แห่งชาติ (ศพส.) พร้อมด้วย พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ดร.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการคณะ กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) ได้เดินทางมามอบนโยบาย เร่งรัดการดำเนินงานแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยมี ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กว่า 4,800 คน เข้าร่วมรับฟังนโยบาย ในโอกาสนี้ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำผู้เข้าร่วมรับนโยบายกล่าวประกาศแสดงเจตนารมย์ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในการที่จะร่วมพลังแผนดินต่อสู้เอาชนะปัญหายาเสพติดด้วยจิตอาสาร่วมกันแก้ไข ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังให้หมดสิ้นไปจากจังหวัดนครราชสีมา โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เร่งดำเนินการแก้ไขในส่วนที่ยังเป็นจุดอ่อน โดยเน้นการปราบปรามยาเสพติด ควบคู่ไปกับการบำบัดรักษาผู้ติด เพื่อลดจำนวนผู้ติดยาเสพติดให้ลดลง โดยให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดนำร่องในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังมีแนวคิดที่จะปรับแก้กฎหมายให้ร่นระยะเวลาการลงโทษผู้ค้ายา เสพติด จากเดิมที่ต้องต่อสู้คดีกัน 3 ศาล ให้เหลือเพียงศาลชั้นต้น กับศาลอุทธรณ์ ซึ่งหากศาลทั้งสองตัดสินตรงกันก็ไม่ต้องให้ศาลฎีกาตัดสิน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดลดระยะเวลาการประหารชีวิตแก่ผู้ค้ายาเสพติด จากเดิมที่ให้ลงโทษประหารชีวิตนักโทษค้ายาเสพติดภายหลังจากมีคำพิพากษาถึง ที่สุดแล้ว 60 วัน ให้เป็นประหารชีวิตภายใน 7 วัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สร้างเอกลักษณ์ การแต่งกายของข้าราชการ

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กำหนดการแต่งกายให้ข้าราชการ เพื่อเชิดชูเอกลักษณ์ผ้าไหมนครราชสีมา และผ้าพื้นเมืองให้โดดเด่น ตามนโยบายส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไหม

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ เรื่องขอเชิญชวนให้แต่งกายชุดผ้าไหมหรือผ้าไทย และการแต่งกายด้วยเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยจังหวัดนครราชสีมา ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกส่วนราชการแต่งกายไปแล้ว นั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาพิจารณาแล้วเห็นว่า การแต่งกายมาปฏิบัติราชการของข้าราชการมีความหลากหลายและมีการแต่งกาย เครื่องแบบราชการเป็นส่วนน้อย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดความพร้อมเพรียงและเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมกลุ่มอาชีพผลิตผ้าไหม ผ้าฝ้ายของชุมชนต่างๆ จึงได้ขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ข้าราชการ, เจ้าหน้าที่ ในสังกัด แต่งกายมาปฏิบัติราชการโดยพร้อมเพรียงกัน โดยกำหนดการแต่งกายตามวันดังนี้

๑. ทุกวันจันทร์ ให้แต่งกายชุดปฏิบัติราชการสีกากี

๒. ทุกวันอังคาร แต่งกายชุดผ้าไหมหางกระรอก ผ้าไหมโคราชสีแสดหรือสีอื่นๆ ตามความเหมาะสม

๓. ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี แต่งกายสุภาพ

๔. ทุกวันศุกร์ ใส่เสื้อ TO BE NUMBER ONE

๕. วันประชุมกรมการจังหวัดนครราชสีมาและหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด นครราชสีมา นายอำเภอ และวันงานประเพณีสำคัญ ให้แต่งกายผ้าไหมหางกระรอกสีแสด ซึ่งเป็นผ้าเอกลักษณ์ประจำจังหวัดนครราชสีมา

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือ ก็จะเป็นการส่งเสริมอาชีพการทอผ้า ร้านค้าตัดเย็บ และผ้าไหมหางกระรอก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของจังหวัดนครราชสีมา จะเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น 

จังหวัดขอนแก่นทำพิธีมอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนตามโครงการ มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย ถวายไท้พ่อหลวงของปวงชน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานมอบโฉนดที่ดินให้กับราษฎรในเขตอำเภอ อุบลรัตน์3 ตำบลจำนวน 299 แปลงตามโครงการ มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย ถวายไท้ พ่อหลวงของปวงชนที่นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ นายวิโรจน์ เตชะจันตะ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าทางกรมที่ดินได้โครงการ มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย ถวายไท้ พ่อหลวงของปวงชน เพื่อเป็นกิจกรรมน้อมถวายแดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล ที่พระองค์ทรงพระชนมพรรษา 86 พรรษา ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายในการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ใน ที่ดิน เพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ครอบครองที่ดินทุกคนสามารถประกอบอาชีพของตนเอง เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินหลังจากที่ดังกล่าวแต่ก่อนอยู่ในความดูแลของนิคม สร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวแสดงความยินดีกับทุกคนที่มารับในครั้งนี้ และได้เตือนให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สามารถนำไปแปลงทรัพย์สินเป็นทุนได้แต่ มันจะเหมือนดาบสองคมหากใช้จ่ายไม่ระวังโฉนดอาจหายไปจากเราได้เพราะแต่ก่อน เป็นหนังสือการทำกินนิคมสร้างตนเอง ยังไงก็อยู่กับเราแต่เมื่อเป็นโฉนดแล้วอาจจะไม่ใช่ของเราก็ได้ดังนั้นจึงฝาก ทุกคนหากนำไปแปลงสินทรัพย์ให้ใช้จ่ายด้วยความระวังแล้วท่านจะไม่เดือดร้อน