วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ขอเชิญร่วมประกวดภาพถ่าย “มหัศจรรย์พรรณไม้งามเทิดพระเกียรติ” ครั้งที่ 2

องค์การวนพฤกษศาสตร์ ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมประกวดภาพถ่าย "มหัศจรรย์พรรณไม้งาม เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ครั้งที่ 2 ชิงเงินรางวัลกว่า 50,000 บาท

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากองค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.สง่า สรรพศรี เพื่อการวิจัยและมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย "มหัศจรรย์พรรณไม้งามเทิดพระเกียรติสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ครั้งที่ 2 ขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทของสวนพฤกษศาสตร์ในการเป็นแหล่งเรียนรู้ด้าน คุณค่าของทรัพยากรพืชอีกด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าถ่ายภาพดอกไม้ พรรณไม้ ในพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่, สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลกในพระราชดำริ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก, สวนพฤกษศาสตร์เมืองพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น, สวนพฤกษศาสตร์ระยอง อำเภอแถลง จังหวัดระยอง และสวนพฤกษศาสตร์พระแม่ย่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ได้ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ถึง 31 มกราคม 2557 เวลา 05.00-19.00 น.

สำหรับภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพที่ถ่ายในสวนพฤกษศาสตร์ฯ จำนวน 5 แห่งขององค์การสวนพฤกษศาสตร์ และเป็นภาพของช่างภาพที่ไปลงทะเบียนด้วยตนเองที่สวนพฤกษศาสตร์ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ถึง 31 มกราคม 2557 ถ่ายด้วยกล้องดิจิทัล ขนาดของไฟล์ต้องมีความละเอียดอย่างน้อย 6 ล้านพิกเซล และรูปแบบของไฟล์ในแบบมาตรฐาน TIFF หรือ JPEG ส่งภาพเข้าประกวดได้คนละไม่น้อยกว่า 3 ภาพ แต่ไม่เกิน 10 ภาพ และสามารถตกแต่งภาพพื้นฐานได้ และภาพถ่ายจะต้องดูเป็นธรรมชาติ ขนาดภาพ 12x18 นิ้ว ติดการ์ดแข็งสีดำและให้ส่งภาพถ่ายที่เข้าร่วมประกวดมาพร้อมไฟล์ภาพที่บันทึก ลงแผ่นซีดี และกรอกแบบฟอร์มนำส่งภาพ โดยสามารถส่งผลงานได้ทางไปรษณีย์หรือส่งด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 1-28 กุมภาพันธุ์ 2557 งานประชาสัมพันธ์องค์การสวน พฤกษศาสตร์ 100 หมู่ที่ 9 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180 โทรศัพท์ 053-841234 สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.qsbg.org โดยรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 50,000.-บาทพร้อมเกียรติบัตร รางวัลดีเด่น 3 รางวัล ๆ ละ 20,000.-บาท, รางวัลชมเชย 81 รางวัล ๆ ละ 1,000.-บาท พร้อมเกียริบัตร




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

กศน.กาฬสินธุ์ จัดงานมหกรรมอาชีพสู่อาเซียน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2556

นายจำลอง สุวรรณเรือง ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สำนักงาน กศน.จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำนักงาน กศน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำหนดจัดงานมหกรรมอาชีพสู่อาเซียน กศน.กาฬสินธุ์ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2556 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของสำนักงาน กศน.ทั้ง 18 แห่ง และหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชน กว่า 20 องค์กร เช่น สำนักงานจัดหางานจังหวัดกาฬสินธุ์ มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์อาชีพและจัดกิจกรรมการแข่งขันอาชีพต่าง ๆ

ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ของชุมชนเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ภายในงายยังมีการแข่งขันมากมาย อาทิ การประกวดร้องเพลง, การออกแบบปักลายเสื้อผ้าพื้นเมือง, การทำปลาร้าบอง, การสานกระติบข้าว, การทำเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ, การประดิษฐ์พานพายศรีจากใบตอง, การทำกล้วยฉาบ, การทำกระถางจากยางรถยนต์, การแต่งกายชุดประจำชาติอาเซียน และการประกวดของใหญ่ตามนโยบายกล้วย 9 หน่อ มะละกอ 9 ต้น คนกาฬสินธุ์ ชมการแสดงโปงลางจาก กศน.เมืองกาฬสินธุ์ และวิทยาลัยนาฎศิลปกาฬสินธุ์ ฟังเพลงจากวงดนตรี กศน. ชมมายากลอินเตอร์ "STONE MAN” Got Talen กศน.โชว์ (ชาญชัย อรัญโชติ) และพบการประชันระหว่างเพลงโคราชซิ่ง (กำปั่นบ้านแท่น) ปะทะ หมอลำซิ่ง (ภูไทกาฬสินธุ์) สำนักงาน กศน.กาฬสินธุ์ จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ นักเรียน นักศึกษา เข้าชมงานมหกรรมอาชีพสู่อาเซียน กศน.กาฬสินธุ์ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2556 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เตือนชาวนาระวังการระบาดของโรคไหม้ข้าว

นายปัญญา ศิลปะ เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่อากาศร้อนและแห้งแล้ง ปริมาณฝนน้อยและล่าสุด พี่น้องเกษตรกรที่ทำนาจึงประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำทำนา และทำนาล่าช้ากว่าปกติ หลังจากมีฝนตกลงมาบ้างพอที่จะทำนาได้ พี่น้องเกษตรกรจึงเร่งการเจริญเติบโตของข้าวด้วยการใส่ปุ๋ยเคมีในปริมาณค่อนข้างสูง โดยเฉพาะปุ๋ยไนโตรเจนหรือปุ๋ยยูเรีย ประกอบกับช่วงนี้มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการเกิดโรคไหม้ข้าว และที่ผ่านมาพบว่ามีเกษตรกรมาขอรับบริการตรวจวินิจฉัยศัตรูพืชเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่พบว่าเป็นอาการของโรคไหม้ข้าว สำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืชออกตรวจสอบการระบาดของโรคในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กบการเกิดโรคไหม้ข้าวกระจายอยู่ทั่วไป รุนแรงบ้าง ไม่รุ่นแรงบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาดลุกลามเป็นบริเวณกว้าง และสามารถควบคุมโรคไหม้ข้าวได้ สำหรับโรคไหม้ข้าว เกิดจากเชื้อรา Pyricularia grisea Saec. ลักษณะอาการในระยะกล้า ใบมีแผลจุดสีน้ำตาลลักษณะคล้ายรูปตาคนมีสีเทากลางแผล ถ้ารุนแรงกล้าข้าวจะแห้งฟุบตาย ระยะแตกกอ พบอาการได้ที่ใบ กาบใบ ข้อต่อใบ แผลลุกลามติดต่อกัน ข้อต่อใบลักษณะแผลช้ำ สีน้ำตาลดำ ใบมักหลุดจากกาบใบ ระยะคอรวง ข้าวเริ่มให้รวง จะทำให้ข้าวเมล็ดลีบ ถ้าเป็นโรคตอนข้าวแก่ใกล้เก็บเกี่ยว คอรวงจะเป็นผลช้ำ สีน้ำตาล เปราะหักง่าย รวงข้าวร่วงหล่นเสียหาย พบการระบาดในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ระบาดในนาหว่านที่ข้าวหนาแน่น อับลม ใส่ปุ๋ยอัตราสูง เชื้อสามารถติดไปกับเมล็ดข้าว น้ำ ลม เศษฟางข้าว และระบาดรุนแรงในช่วงที่มีความชื้นสูง ฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน

เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการป้องกันกำจัด ในช่วงที่มีความชื้นสูง ฝนตกต่อเนื่องควรงดการใส่ปุ๋ยเคมีที่มีไนโตรเจนสูงโดยเฉพาะปุ๋ยยูเรีย, สำรวจแปลงนา หากพบอาการของโรคไม่รุนแรง ประมาณ 5-10% อาจควบคุมด้วยการใช้เชื้อแบคทีเรีย หรือ B.S (ลาร์มินา) ในอัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นในเวลาเย็น ควรฉีดพ่น 2-3 ครั้ง ห่างกัน 10-14 วัน , หากอาการของโรคไม่รุนแรงประมาณ 10% อาจใช้สารเคมี เช่น บลาสติซิดินเอส (บลาเอส), อีดิเฟนฟอส (ฮีโนซาน) อัตรา 15-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร หรือไตรไซคลาโซ (บีม) อัตรา 15 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นขณะที่มีน้ำในนา, และหากระบาดรุนแรง มากกว่า 50% ให้ทำการเผาหรือไถทำลายเพื่อยับบั้ง หรือป้องกันการแพร่ระบาด หากพี่น้องเกษตรกรมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ โทร. 043-811714 หรือสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอใกล้บ้านท่านในวันและเวลาราชการ



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ชัยภูมิเลือก ผ้าไหม หม่ำ ดอกกระเจียว เป็นโอทอปเด่นประจำจังหวัด รับเปิด AEC

จังหวัดชัยภูมิ เลือกสินค้าโอทอปเด่น 3 ชนิด ขึ้นมาเป็นสิ่งบ่งบอก ตัวตนของชัยภูมิ เมื่อนึกถึงชัยภูมิ ต้องนึกถึงผ้าไหมมัดหมี่ หม่ำ และดอกกระเจียว หวังให้เกิดการพัฒนา สู่มาตรฐานสากล รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน ปี 2558

วันนี้ 19 ก.ค. 56 ที่ห้องประชุมโรงแรมชัยภูมิปาร์ค อำเภอเมืองชัยภูมิ นายบรรยงค์ วงศ์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานเปิดการคัดสรรค์สุดยอดผลิตภัณฑ์โอทอป เด่น ของจังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2556 ภายหลังสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดชัยภูมิ เข้าไปพัฒนาเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าโอทอป ประเภทต่างๆ ให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีความโดดเด่นสร้างมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญเพื่อให้ผู้ประกอบการ มีโอกาสพัฒนาสินค้า สู่มาตรฐานสากล รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน ปี 2558

ผลการคัดเลือก คณะกรรมการได้เลือกผลิตภัณฑ์เด่น ที่เป็นอัตลักษณ์ สามารถบ่งบอกตัวตนที่แท้จริงของจังหวัดชัยภูมิ เมื่อนึกถึงชัยภูมิ เป็นต้องนึกถึง โอทอปเด่น 3 ตัว คือ ผ้าไหมมัดหมี่ หม่ำ และดอกกระเจียว นอกจากนี้ยังคัดเลือกผลิตภัณฑ์โอทอป เด่น จาก 5 ประเภทๆละ 1 ผลิตภัณฑ์ เพื่อส่ง เข้าประกวดระดับประเทศ ในงานศิลปาชีพ ประทีปไทย โอทอปก้าวไกล ด้วยพระบารมี และยังจะนำไปวางจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์อีกด้วย โดยประเภทอาหาร ได้เลือก ผลิตภัณฑ์ข้าวอารมณ์ดี อ.แก้งคร้อ ,ประเภทเครื่องดื่ม เลือก ชาเชียกู่หลาน อ.หนองบัวระเหว, ประเภทสมุนไพรไทย เลือก สบู่ทำจากรังไหมภูสจี อ.ภูเขียว, ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ได้เลือก ผ้าพันคอ ที่ทำจากวัสดุเหลือใช้จากผ้าไหมมัดหมี่ อ.บ้านเขว้า, และประเภทของใช้ของที่ระลึก ได้เลือก ผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาช้างทำจากผ้าฝ้าย อ.ภูเขียว

นายบรรยงค์ วงศ์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล ภายใต้โครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (otop) เชื่อว่าหลังจากนี้ไป ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้บุคลทั่วไปรู้จักมากขึ้น อันจะนำมาสู่ การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในจังหวัดชัยภูมิอย่างยั่งยืน




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ผู้ว่าฯชัยภูมิ ปรับกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยกับนางธัญญรัตน์ โรจนหัสดิน ประชาสัมพันธ์      
จังหวัดชัยภูมิ ว่า ในช่วงนี้จังหวัดชัยภูมิได้จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม ซึ่งดอกกระเจียวกำลังบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งรอรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั้งที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว และในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จังหวัดชัยภูมิได้เตรียมปรับกลยุทธ์และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาแล้วเกิดความประทับใจด้วยการจัดพิธีทำบุญ ตักบาตร ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เพื่อให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวได้มีโอกาสทำบุญในวันสำคัญทางพุทธศาสนา พร้อมได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับภูมิทัศน์และจัดกิจกรรมเสริมต่าง ๆ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมาก รวมทั้งได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอีกช่วงหนึ่งที่มีวันหยุดติดต่อกันนั่นก็คือช่วงวันแม่แห่งชาติ จังหวัดชัยภูมิก็ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและความกตัญญู โดยผู้ที่พาแม่ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมาท่องเที่ยวในเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม ทางอุทยานฯ จะยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ และค่าบริการรถนำเที่ยวให้ฟรี นอกจากนี้จะมีของที่ระลึกมอบให้เป็นของขวัญวันแม่อีกด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จังหวัดชัยภูมิยังได้วางแผนส่งเสริมและสนับสนุนงานเทศกาล งานประเพณีที่สำคัญของจังหวัดเพื่อจัดทำเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เช่น มหกรรมช้างคืนถิ่น งานประเพณีบุญเดือนสี่ประเพณีไทคอนสาร งานบวงสรวงพระใหญ่ทวารวดี ประเพณีแห่นาคโหด ประเพณีแห่ กระธูป ประเพณีตีคลีไฟ เป็นต้น พร้อมได้วางแผนจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว อาทิ จัดงานเคาท์ดาวน์ในช่วงปีใหม่และจัดแต่งงานในช่วงวันวาเลนไทน์ที่มอหินขาว งานสงกรานต์ที่น้ำตกตาดโตน เป็นต้น โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวให้ครบตลอดทั้งปี เพื่อประชาสัมพันธ์ในนักท่องเที่ยวได้ รับทราบและจะได้วางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตรงตามช่วงวันเวลาของเทศกาลนั้น ๆ นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 อีกด้วย.



เพชรรินทร์ เขียวเขว้า..ข่าว

ชัยภูมิจัดพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ จัดพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน ตามโครงการ "หนึ่งใจ ให้ธรรมะ”มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลน์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี

เมื่อเวลา 10.00น. วันนี้ 18 ก.ค.56 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ เป็นประธานในพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน ตามโครงการ "หนึ่งใจ ให้ธรรมะ”มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลน์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี และนำชาวชัยภูมิ กล่าวคำปฎิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา และลงนามงดเหล้าเข้าพรรษา

โดยในปีนี้ทางมูลนิธิฯ ได้ร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดโครงการ"หนึ่งใจ ให้ธรรมะ” เนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ณ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลน์ ในการนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี ทรงมีพระเมตตาพระราชทานเทียนจำนำพรรษาให้แก่วัดต่างๆทั่วประเทศ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

ในส่วนของจังหวัดชัยภูมิ ทรงพระราชทานเทียนจำนำพรรษา ให้แก่วัดชัยภูมิพิทักษ์ (ผาเกิ้ง) ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ และได้จัดพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทานอย่างสมพระเกียรติ ที่หน่วยวิทยบริการจังหวัดชัยภูมิ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

หลังพิธี นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ นำชาวชัยภูมิ นำชาวชัยภูมิ ประกอบพิธีเทเหล้าเผาบุหรี่ ซึ่งปีนี้ใช้สัญลักษณ์ชูนิ้วก้อย สัญญาว่าจะงดเหล้า เข้าพรรษา




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล/ข่าว

ชัยภูมิ สาวลึกถึงผู้เกี่ยวข้องการการทุจริตจำนำข้าว ส่วนเจ้าของโรงสียังเบี้ยวไม่มาให้ปากคำตามนัด

คืบหน้ากรณีข้าวหายที่จังหวัดชัยภูมิหลังจากที่จังหวัดได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อติดตามคดีนี้อย่างจริงจังและรัดกุม เพื่อสาวไปให้ถึงตัวผู้กระทำความผิดที่อยู่เบี้องหลัง เนื่องจากเป็นคดีที่เป็นนโยบายของรัฐบาลและเป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

ล่าสุดวันนี้ 18 ก.ค.56 เวลา 09.00น. พ.ต.อ.ไอศูรย์ สิงหนาท รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้เตรียมเปิดห้องสอบสวน ที่สำนักงานกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เพื่อรอรับการเดินทางมามอบตัวของนางนพภร รูปชัยภูมิ เจ้าของโรงสีนพภร อำเภอบ้านเขว้า หลังถูก เจ้าหน้าที่ อคส.แจ้งความ คดียักยอกข้าวเปลือก ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/2556 รอบ 2 (นาปรัง) โดยนัดหมายกันเวลา 09.00น. จนเวลา 10.00น. นางนพภร รูปชัยภูมิ ได้โทรศัพท์แจ้งกับ พตอ.ไอศูรย์ฯ รอง ผบกภ.จว.ชัยภูมิ ขอเลื่อนการเข้ามามอบตัว หลังรับแจ้ง ตำรวจจึงออกหมายเรียกแทน นอกจากนี้ วันเดียวกันยังมีชาวนา จากอำเภอบ้านเขว้า จำนวน 4 ราย เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกในคดีสวมสิทธิ์ ฉ้อโกงทรัพย์ โดย พ.ต.อ.ไอศูรย์ฯ ได้อธิบายและชี้แจงถึงเหตุผลที่เชิญตัวมาวันนี้นั้นว่า วันนี้เป็นการเชิญตัวมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้วปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องควบคุมตัว หลังจากรับทราบแล้ว ทั้ง 5 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทุกคนยืนยันจะขอไปให้การในชั้นศาล เบื้องต้นยังยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าเป็นข้าวของตนเอง แต่ทางตำรวจก็มั่นใจ ในหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิด เสียงพูดคุย และหลักฐานอื่นๆ ในทางสืบสวน ตำรวจ พบหลักฐาน มีชาวนาเกี่ยวข้องในคดีสวมสิทธิ์ ฉ้อโกงทรัพย์ ในลัก

ษณะ ซื้อข้าวจากโรงสีหนึ่ง ไปขายให้กับโรงสีหนึ่ง จำนวน 9 คน วันนี้ เชิญมา 4 แต่ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ ออกหมายเรียกผู้ต้องหา เป็นชาวนา 5คน ซึ่งทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงมีความเห็นสั่งฟ้อง ส่งพนักงานอัยการ และพนักงานอัยการได้ส่งฟ้องต่อศาล และอยู่ระหว่างการสืบเสาะของศาล




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

เจ้าอาวาสวัดในโคราชไอเดียเจ๋ง ให้วัยรุ่นออกแบบเทียนพรรษาสุดแนว มีสารพัดทรงผมเกาหลี พั้งค์ โทมาฮอก ไถข้าง หัวเกรียน ระเบิดหู และแก๊งค์พี่มาก

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า บรรยากาศการแกะสลักเทียนพรรษาตามคุ้มวัดต่างๆ ของจังหวัดนครราชสีมา ยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยแต่ละคุ้มวัดต่างก็โชว์ทีเด็ดตกแต่งรูปขบวนกันอย่างสุดฝีมือ เพื่อเรียกความสนใจจากผู้ชมขบวนแห่เทียนพรรษาประจำปีนี้ อย่างเช่นที่วัดบ้านบัว ต.โนนสูง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้มีพระ – เณร และกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 18 คน ช่วยกันแกะสลักต้นเทียน และตกแต่งขบวนเทียนพรรษากันอย่างคึกคัก ซึ่งขบวนเทียนพรรษาของวัดบ้านบัวปีนี้ เน้นรูปแบบวัยรุ่นตามยุคสมัย โดยขบวนเทียนมีความยาวถึง 11 เมตร และมีต้นเทียนเอกความยาว 9 เมตร ถือว่าเป็นต้นเทียนพรรษาที่ยาวที่สุดในโลก จนไม่สามารถตั้งตรงได้ ต้องวางในแนวนอน ส่วนโดยรอบจะแสดงถึงเนื้อหาของพญากาเผือก ตามตำนานในพระพุทธศาสนา และมีเทียนรูปวัยรุ่นไว้ทรงผมทันสมัยหลายทรง อาทิ ทรงเป๋แบบนักร้องเกาหลี, ทรงพั้งค์ ระเบิดหู, ทรงไถข้าง, ทรงหัวเกรียน และทรงโทมาฮอก นอกจากนี้ยังมีเทียนรูปดารามาริโอ้ เมาเร่อ ในชุดพี่มากห้อยพระสมเด็จองค์ใหญ่ กับแก๊งค์เพื่อนพี่มาก ยืนแบกต้นเทียนพรรษา สร้างสีสันให้กับขบวนเทียนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้พระพิพัฒน์พงษ์ ปัญญาทีโป พระลูกวัดบ้านบัว อายุ 26 ปี เล่าให้ฟังว่า เนื่องจากปีนี้ทางเจ้าอาวาสวัดบ้านบัว และคณะกรรมการวัดทุกคนได้ประชุมกันแล้วเห็นว่าต้องการให้เทศกาลเข้าพรรษานี้ มีเยาวชนหันมาเข้าวัดมากขึ้น โดยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ห่างไกลจากอบายมุขและยาเสพติด จึงได้มีมติให้ตน ซึ่งเป็นพระวัยรุ่นบวชใหม่ ชักชวนเยาวชนในชุมชนวัดบ้านบัว อายุระหว่าง 16 – 25 ปี มาช่วยกันออกแบบขบวนเทียนพรรษา เพื่อให้ตรงใจวัยรุ่น สามารถดึงดูดความสนใจของวัยรุ่นให้มาชมขบวนเทียนของวัดบ้านบัวกันให้มาก ดังนั้นทุกคนจึงได้ออกแบบเทียนตามยุคสมัยที่วัยรุ่นกำลังนิยม โดยเฉพาะเทรนด์เกาหลี สไตล์เคป๊อบ ขณะนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังมีแก๊งค์พี่มาก ซึ่งเป็นขวัญใจวัยรุ่นยุคนี้มาร่วมสร้างสีสันให้กับขบวนเทียนพรรษานี้ด้วย พระพิพัฒน์พงษ์ฯ กล่าว ด้านนายรณชัย กำเนิดกลาง อายุ 24 ปี หนึ่งในวัยรุ่นที่มาช่วยแกะเทียนพรรษา กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นตนก็ไม่ค่อยได้เข้าวัดนัก เนื่องจากไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรให้ทำ และเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเข้าวัด แต่เมื่อทางวัดประกาศให้วัยรุ่นช่วยกันออกแบบขบวนเทียนพรรษาปีนี้ เพื่อนำไปแห่ในตัวเมืองโคราช จึงอยากมาแสดงฝีมือการแกะเทียนตามรูปแบบที่ตนถนัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมฝีมือของตนในเทศกาลแห่เทียนพรรษาโคราช ประจำปีนี้ นายรณชัยฯ กล่าว สำหรับขบวนเทียนพรรษาของวัดบ้านบัว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา จะเข้าร่วมขบวนแห่เทียนพรรษา จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2556 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 23 กรกฎาคมนี้ ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ร่วมกับขบวนเทียนพรรษาจากคุ้มวัดต่างๆ กว่า 60 ขบวน จาก 32 อำเภอทั่วจังหวัดนครราชสีมา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา12สิงหาคม 2556

วันนี้ (19 ก.ค. 56) เวลา 09.00 น.  ที่โรงแรมราชพฤกษ์แกรนด์โฮเตล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมบันทึกเทปถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา12สิงหาคม 2556 ที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแด่พสกนิกร ชาวไทยทุกหมู่เหล่า และแสดงออกถึงความจงรักภักดี ซึ่งทำการบันทึกเทปโดย สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี (DTV) นครราชสีมา

จังหวัดนครราชสีมา มอบประกาศนียบัตรให้กับนักเรียน กศน ที่ผ่านการอบรมตามโครงการ ลดกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษาต้านภัยยาเสพติด ประจำปี 2556

วันนี้ (19 ก.ค. 56) เวลา 10.30 น.  ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมา นายอุกริช พึ่งโสภา รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการมอบประกาศนียบัตรและให้โอวาทแก่ นักเรียน กศน. จำนวน 80 คน ที่ผ่านการอบรมตามโครงการ ลดกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษาต้านภัยยาเสพติด ประจำปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด นครราชสีมา ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงนอกสถานที่ศึกษาก่อปัญหา ทั้งด้านอาชญากรรมยาเสพติดและด้านอื่นๆ สามารถสร้างระเบียบวินัย รวมทั้งปรับปรุงบุคลิกภาพของผู้เข้ารับการอบรมจนสามารถสนับสนุนการปฏิบัติ หน้าที่ของฝ่ายปกครอง และตำรวจรวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกส่วนได้ อีกทั้งเป็นการเพิ่มมวลชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอีกทางหนึ่ง โดยในการอบรมได้มีการจัดการอบรมให้ความรู้พิษภัยของยาเสพติด การฝึกอาชีพ การแนะนำส่งเสริมอาชีพ รวมทั้งการฝึกระเบียบวินัยและการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เป็นต้น

อธิบดีกรมการข้าว เชื่อมั่นข้าวไทยยังครองอันดับ 1 ของโลก ระบุปัญหาข้าวถุงไทยปนเปื้อนสารพิษเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค แนะถึงเวลาทบทวนการใช้สารเคมีในข้าวทั้งระบบ

นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการค้าข้าว กล่าวถึงภาพลักษณ์ข้าวไทยหลังมีข่าวการปนเปื้อนสารพิษในข้าวบรรจุถุงว่า กรมการข้าวมีหน้าที่ดูแลเรื่องภาคผลิตเป็นหลัก ฉะนั้นเราเองต้องยอมรับว่าพอมีกระแสข่าวนี้ออกมากรมการข้าวมีความห่วงใยเป็น อย่างมาก เพราะผลกระทบสุดท้ายจะมาที่พี่น้องชาวนา แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วข้าวไทยมีภาพลักษณ์ที่ดี มีชื่อเสียงมานาน ทั่วโลกยอมรับ ข้าวไทยเป็นที่หนึ่งในโลก เป็นความภาคภูมิใจมาช้านาน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิยังเป็นอันดับหนึ่งของโลกอยู่ ส่วนข้าวขาวที่ไปทำเป็นข้าวนึ่งในการส่งออกไทยก็ครองอันดับหนึ่งของโลกมาโดย ตลอดเช่นกันเพราะเป็นข้าวคุณภาพดีเบอร์หนึ่งของโลก ฉะนั้น จากกระแสข่าวปัจจุบันคิดว่ามันเป็นกระแสข่าวที่ค่อนข้างคลาดเคลื่อนในบาง ประการ แต่ในบางประการอาจจะใช่ แต่เป็นความผิดพลาดในทางเทคนิคมากกว่า โดยส่วนตัวมองว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่เราจะได้ทบทวน การผลิตข้าวทั้งระบบในเรื่องการใช้สารเคมี ส่วนการใช้สารเคมีในนาข้าวนั้นขอยืนยันได้เลยว่าในกระบวนการผลิตข้าวของ ชาวนาเรามีความปลอดภัย เพราะการผลิตข้าวมีเรื่องของสภาพแวดล้อม เรื่องน้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญการใช้สารเคมีในนาข้าวจะยุติลงเมื่อข้าวออกดอก และหลังจากข้าวออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยวใช้เวลาประมาณ 30 วัน จากนั้นนำไปเก็บรักษาอีกเป็นระยะเวลาเกือบ 30 วัน ซึ่งในช่วงเวลา 45-60 วันนี้ จากการวิจัยของกรมการข้าวในเรื่องปัญหาสารเคมีตกค้างในข้าวในแปลงนาไม่พบเลย ตรงนี้กรมการข้าวกล้ายืนยันได้เพราะมีผลงานวิจัยรองรับ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคิดว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคมากกว่าและ คิดว่าแก้ไขได้ไม่ยาก และจากนี้ไปควรถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยเราจะทบทวนเรื่องกระบวนการใช้สารเคมี ทั้งระบบตั้งแต่ในแปลงนาไปจนถึงการเก็บรักษา สิ่งที่เกิดขึ้นเชื่อว่าในเวลาไม่ช้านี้ความจริงจะปรากฏทุกอย่าง และข้าวไทยเรายังมีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นที่เชื่อถือของตลาดโลกแน่นอน” นายชัยฤทธิ์กล่าว

ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมาเปิดงานการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว และเปิดอาคารข้าวและชาวนา เพื่อยกระดับในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558

ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ถ.ราชสีมา-โชคชัย ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการค้าข้าว เป็นประธานในพิธีเปิดงานการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว และเปิดอาคารข้าวและชาวนา โดยมีพี่น้องเกษตรกรชาวนาเข้าร่วมงานกว่า 500 คน


นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการค้าข้าว กล่าวว่า เพื่อยกระดับในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งชาวนาไทยต้องช่วยตัวเอง ก่อนเป็นอันดับแรกในส่วนที่ทำได้ เช่น การรักษาคุณภาพผลผลิต การลดต้นทุนผลผลิต ขณะเดียวกันรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อจำหน่ายผลผลิตแล้วยังไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ฉะนั้นทางกรมการข้าวมีแนวทางในการเสริมสร้างความรู้ทางวิชาการควบคู่ไปด้วย จึงมีการจัดงานดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ลดต้นทุนการผลิตของชาวนา ไทยลดลงส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ สำหรับอาคารข้าวและชาวนาเป็นศูนย์ข้อมูลศึกษา และพัฒนาการผลิตข้าวปลอดภัยเป็นแหล่งศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับข้าวของ จังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง มีทั้งศูนย์บริการชาวนา ห้องสมุดชาวนา ศูนย์เตือนภัยการระบาดศัตรูข้าว นายชัยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า การเปิดงานครั้งนี้เป็นนโยบายของกรมการข้าวเป็นที่ทราบกันดีว่า ชาวนาทั้งหมดในปัจจุบันมีประมาณ 3.7 ล้านครัวเรือน เรามีภารกิจดูแลเรื่องภาคการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ตั้งแต่เรื่องการวิจัยพัฒนา เรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยี เรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือเรื่องเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ ทำอย่างไรที่จะให้องค์ความรู้เหล่านี้ไปถึงมือชาวนาโดยตรงได้ ตรงนี้คือปัญหาใหญ่มาก เราพยายามจะใช้หลายช่องทางในการเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนชาวนา โดยเฉพาะสื่อทุกทาง แต่มันก็ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกรณีที่เราต้องการฟีดแบ๊ก หรือสะท้อนกลับมาเรื่องปัญหาข้อร้องเรียนที่เราจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเร็ว นโยบายเราจึงต้องจัดตั้งศูนย์ชาวนาขึ้นในศูนย์วิจัยข้าวที่มีอยู่ 27 ศูนย์ และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว 23 ศูนย์ รวมแล้วเรามีศูนย์กลางบริการชาวนาทั้งหมด 50 ศูนย์ รวมทั้งส่วนกลางที่จัดตั้งขึ้นด้วย รวมทั้งสิ้น 51 ศูนย์/หน่วย โดยมีนโยบายสร้างความพร้อมไม่ว่าเรื่ององค์ความรู้ต่างๆ เครื่องมืออุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยในการสนับสนุน เอกสารข้อมูลที่จะเผยแพร่ได้ แม้แต่องค์ความรู้ที่สามารถดึงออกมาจากคอมพิวเตอร์ได้ขณะนี้กำลังสร้างตู้ คีย์ออส ต่อไปเกษตรกรชาวนาสามารถมากดหาข้อมูลความรู้จากตู้ คีย์ออสได้ รวมทั้งเรื่องห้องสมุดชาวนาที่กำลังจะสร้างขึ้น

ผู้ช่วย .รมว.สาธารณสุข ตรวจเยี่ยมศูนย์แพทย์ชุมชนวัดป่าสาลวัน พร้อมให้ความมั่นใจประชาชนในประสิทธิภาพการให้บริการ ช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี

ที่ศูนย์แพทย์ชุมชนวัดป่าสาลวัน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายแพทย์ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะซึ่งประกอบไปด้วย นายแพทย์คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 9, นายแพทย์วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์แพทย์ชุมชนวัดป่าสาลวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์แพทย์ชุมชนต้นแบบ ที่ให้บริการแก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ลดความแออัดของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้นายแพทย์ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานในวันนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เน้นย้ำให้มีศูนย์แพทย์ชุมชนขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะชุมชนในเขตเมือง ซึ่งมักมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก ดังนั้นศูนย์แพทย์ชุมชน จึงมีบทบาทสำคัญมาก ในการให้บริการแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง นอกเหนือจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งจะช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทั้งนี้เนื่องจากผลการสำรวจพบว่า ผู้ป่วยที่ไปใช้บริการในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ส่วนมากร้อยละ 90 เป็นผู้ป่วยเล็กน้อย มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่ป่วยหนักมาก ดังนั้นหากมีศูนย์แพทย์ชุมชนเกิดขึ้นและจัดการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยรองรับผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี 

ผลการตัดสินการประกวดโครงการยุวชนประกันภัย ประจำปี 2556 จังหวัดนครราชสีมา

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. จัดโครงการยุวชนประกันภัย ประจำปี 2556 ใน 4 รูปแบบนั้น วันนี้ (19 กค.56) มีการคัดเลือกเพื่อประกาศผลการตัดสินชนะเลิศระดับจังหวัด

นางชนัดดา แฮร์รีส ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ กล่าวว่า โครงการยุวชนประกันภัย เป็นการดำเนินการจัดประกวดแข่งขันและมอบรางวัล 4 กิจกรรม คือ กิจกรรมที่ 1ให้กับโรงเรียน/สถานศึกษากับคณะครู – อาจารย์ ที่รับผิดชอบโครงการที่มีผลงานการบูรณาการการเรียนการสอนด้านการประกันภัย และอีก 3 กิจกรรมเป็นการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีผลงานดีเด่นในการแสดง การร้องเพลง และการพูดแบบทอล์คโชว์ ชิงชนะเลิศในในระดับจังหวัด เพื่อส่งไปแข่งขันในระดับภาค และระดับประเทศต่อไป

คปภ. จัดโครงการยุวชนประกันภัย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการประกันภัยให้กับกับนักเรียน ครู อาจารย์ และเพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัย ใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือให้เกิดประโยชน์กับตนเอง ครอบครัวและสังคม เป็นการพัฒนาความรู้ด้านการประกันภัยที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันและสามารถให้คำแนะนำแก้ผู้อื่นได้

ซึ่งวันนี้ (19 กค.) คณะกรรมการตัดสินการประกวดโครงการฯ ได้ร่วมกัยพิจารณาตัดสินหาผู้ชนะเลิศ โดยมีนางนรา วงษ์สวัสดิ์ คลังจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน ที่สำนักงาน คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จ.นครราชสีมา)            

ผลการตัดสิน : รางวัลโรงเรียน/สถานศึกษาและคณะครูอาจารย์ที่รับผิดชอบโครงการ ปรากฏว่า ชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนหนองบุญมากประสงค์วิทยา, รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่โรงเรียนปากชิ่งพิทยาคม,รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด

ผลการพิจารณาการประกวดรางวัลทุนการศึกษา

ประเภทรูปแบบเพลง ชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนหนองบุญมากประสงค์วิทยา, รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่โรงเรียนขามสะแกแสง, รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่โรงเรียนปากช่องพิทยาคม

รางวัลประเภทรูปแบบการแสดง รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนปากช่องพิทยาคม, รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่โรงเรียนเทพาลัย รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด

รางวัลประเภทรูปแบบทอล์กโชว์ ชนะเลิศ คือ โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต, รองชนะเลิศอันดับ 1 จากโรงเรียนหนองบุญมากประสงค์วิทยา, รองชนะเลิศอันดับ 2 จากโรงเรียนเมืองยางศึกษา

บุรีรัมย์จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ และปล่อยปลา เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง

จังหวัดบุรีรัมย์ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ และปล่อยปลาลงในอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๖

ที่บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พันเอก ธณเศรษฐ์ (อ่านว่า-ทะ-นะ-เสด)ว่องโชติกุล รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ร่วมกันปลูกต้นไม้ และปลูกหญ้าแฝก โดยรอบของอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างความอุดมสมบูรณ์ ให้กับพื้นที่ ก่อนจะร่วมกันปล่อยปลาชนิดต่างๆอีกจำนวน ๕ หมื่นตัว ลงในอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด เพื่อคืนความสมดุลย์ให้กับธรรมชาติ และยังเป็นการเพิ่มแหล่งอาหารให้กับประชาชนอีกด้วย

ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นเนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๖ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในคราวที่เสด็จทางชลมารค เพื่อทรงตรวจสภาพคลองแสนแสบและทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรสองฝั่งคลอง ตั้งแก่กรุงเทพมหานคร จนถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๗ ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้วันที่ ๒๐ กันยายน ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

หมอบุรีรัมย์เปิดคลินิกตรวจรักษาโรคฟรี ให้ชาวบ้านที่ยากจน ถวายสมเด็จย่า-ในหลวง

แพทย์ชาวบุรีรัมย์ เปิดคลินิกให้บริการตรวจรักษาโรคฟรีแก่ชาวบ้านที่ยากจน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ๑๘ กรกฎาคม และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตลอดทั้งวันได้มีประชาชน ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และเด็ก แห่มาใช้บริการหลายร้อยคน ขณะที่แพทย์ใจบุญรายนี้เปิดเผยว่าได้ทำติดต่อกันมาเป็นปีที่ ๑๘แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนทั้งเด็ก คนชรา และผู้ยากไร้จำนวนมาก ต่างทยอยเดินทางเข้ามารับการตรวจรักษาโรคอย่างไม่ขาดสาย ที่ "คลินิกนายแพทย์สนธยา" ซึ่งเป็นคลินิกรักษาโรคของ นายแพทย์ สนธยา วัฒนโกศล อายุ ๕๒ ปี ตั้งอยู่ถนนนิวาศ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้เปิดให้บริการตรวจรักษาโรคฟรีแก่พี่น้องประชาชน และผู้ยากไร้ เป็นประจำทุกวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่า ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการ "ทำดีเพื่อพ่อหลวง" ที่ทางนายแพทย์สนธยา ได้ทำติดต่อกัน มาเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๓๙ ที่ผ่านมา จนถึงถึงปัจจุบันเป็นปีที่ ๑๘ แล้ว โดยมียอดจำนวนของผู้ป่วยเข้ามารับบริการกว่า หนึ่งหมื่นคน ซึ่งตลอดทั้งวันของการให้บริการตรวจรักษาโรคฟรีในครั้งนี้ ยังได้มีผู้มีจิตศรัทธา จากห้างร้านต่างๆ ได้นำอาหาร และน้ำดื่ม มาแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่มารับบริการตรวจรักษาในครั้งนี้ด้วย โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่มารับบริการตรวจรักษาโรคส่วนมาก จะเป็นชาวบ้าน และเกษตรกรที่เจ็บป่วย เนื่องจากการทำงานหนัก

ขณะที่ นายแพทย์สนธยา หมอใจบุญรายนี้ ได้บอกว่า อดีตเคยเป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ และได้ลาออกมาเปิดคลินิกนานกว่า ๑๐ ปีแล้ว หลังจากที่สมเด็จย่าทรงสวรรคต เมื่อปี ๒๕๓๘ จากนั้นจึงได้เปิดให้บริการตรวจรักษาฟรี แก่ประชาชนที่เจ็บป่วย และมีฐานะยากจนต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีๆละ ๒ ครั้ง คือทุกวันที่ ๑๘ กรกฎาคมของทุกปี และทุกวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี โดยใช้งบประมาณส่วนตัว ในการซื้อเวชภัณฑ์ยา นอกจากนั้นยังได้มีทีมแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ และผู้มีจิตอาสา ได้มาช่วยให้บริการตรวจรักษา และแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการอีกด้วย




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

บุรีรัมย์ระดมฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย

เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ออกทำการ ฉีดพ่นหมอกควัน เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก ตามโรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในโรงเรียน หลังพบในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกแล้ว ๑๕ ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก

ที่โรงเรียนเทศบาล ๓ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นางสิรินันท์ มณีราชกิจ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้นำเจ้าหน้าที่ออกบรรยายให้ความรู้ เกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาตนเองให้ปลอดภัย รวมถึงวิธีการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย เพื่อเป็นการป้องกันการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก แก่เด็กนักเรียน คณะครู และบุคลากรของโรงเรียน พร้อมทั้งได้ออกทำการหยอดทรายอะเบท และฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย ตามอาคารเรียน ห้องสุขา และบ้านพักครู รวมถึงบริเวณโดยรอบของโรงเรียนเทศบาล ๓ เพื่อเป็นการป้องกัน และกำจัดแหล่งเพราะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำโรคของโรคไข้เลือดออก ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในโรงเรียน หลังพบว่าช่วงนี้ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มมีการเปิดภาคเรียนเป็นต้นมา ได้มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีอาการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกแล้วจำนวน ๑๕ ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก

ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากจำนวนผู้ป่วยในขณะนี้ถือว่าเป็นจำนวนที่สูง อีกทั้งจำนวนผู้ป่วยยังจะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีน้ำขังตามภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย จึงได้มีการระดมฉีดพ่นหมอกควัน และหยอดทรายอะเบท เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะตามโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ๆมีเด็กอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในโรงเรียน




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

บุรีรัมย์เปิดตัวหมู่บ้านไหม เพื่อการท่องเที่ยวอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทอผ้าเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ไหม

จังหวัดบุรีรัมย์เปิดตัวหมู่บ้านไหมเพื่อการท่องเที่ยว และบ้านพัก Home Stay สืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทอผ้าไหมและวัฒนธรรมพื้นบ้าน พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าและช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไหม

ที่บ้านสนวนนอก ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ นายปรัชญา จินต์จันทรวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีเปิดตัวหมู่บ้านไหมเพื่อการท่องเที่ยว และบ้านพัก Home Stay จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวหมู่บ้านไหมเพื่อการท่องเที่ยวแห่งที่ 3 ของจ.บุรีรัมย์หลังจากก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวหมู่บ้านไหมเพื่อท่องเที่ยวไปแล้วที่อ.นางรองและอ.พุทไธสง หลังจากที่จ.บุรีรัมย์ได้อนุมัติงบประมาณกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2556 เพื่อพัฒนาหมู่บ้านไหมเพื่อการท่องเที่ยว โดยปรับปรุงภูมิทัศน์และจุดเรียนรู้ท่องเที่ยวผลิตภัณฑ์ไหม โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับกระบวนการทอผ้าไหมครบวงจรผ่านจุดเรียนรู้ ตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม ฟอกย้อม ทอผ้าไหม จนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าไหม นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตคนทอผ้าไหมและพักค้างในรูปแบบบ้านพัก Home Stay ซึ่งนอกจากเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจ.บุรีรัมย์แล้ว ยังเป็นการสืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทอผ้าไหมและวัฒนธรรมพื้นบ้าน พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ไหม และขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไหมของจ.บุรีรัมย์ด้วย

โดยจากข้อมูลยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โอทอปของจ.บุรีรัมย์ในปี 2556 ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 706 ล้านบาท ขณะนี้จ.บุรีรัมย์ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปแล้วกว่า 531 ล้านบาท คิดเป็น 76 เปอร์เซ็นต์ โดยผลิตภัณฑ์ผ้า โดยเฉพาะผ้าไหมยังครองแชมป์มียอดขายกว่า 262 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกระแสความนิยมผ้าบุรีรัมย์ จากการขับเคลื่อนโครงการพลิกฟื้นคืนชีพผ้าไทย ผ้าไหมบุรีรัมย์ ซึ่งส่งผลให้ทั่วทั้งจังหวัดนิยมสวมใส่ผ้าไหมและผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดอย่างมาก




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

จังหวัดบึงกาฬจัดพิธีหล่อเทียนพรรษาเนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา


วันที่  (18 กรกฎาคม 2556) เวลา 16.30 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีหล่อเทียนพรรษาเนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาประจำปี 2556 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 61 พรรษาในวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ที่จะถึงนี้

สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬและสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาประจำปี 2556 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 61 พรรษา ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2556 โดยงานในวันนี้เป็นการทำพิธีหล่อเทียนพรรษาโดยเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปร่วมกันหล่อเทียนพรรษาเพื่อนำเทียนที่ได้ไปถวาย ณ วัดเซกาเจติยาราม พระอารามหลวงและวัดภายในจังหวัดบึงกาฬ ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 ซึ่งจะมีกิจกรรมขบวนแห่เทียนพรรษารอบเมืองบึงกาฬและทำพิธีถวายเทียนพรรษา ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นอกจากการทำพิธีหล่อเทียนพรรษาในวันนี้แล้วยังมีการแกะสลักเทียนพรรษาซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มาร่วมพิธีได้แกะสลักเทียนพรรษาโดยมีช่างแกะสลักเทียนพรรษามืออาชีพจากจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นต้นกำเนิดงานแห่เทียนพรรษาที่ยิ่งใหญ่มาช่วยสอนการแกะสลักเทียนพรรษาด้วย

จังหวัดบึงกาฬจัดกิจกรรม “ชาวบึงกาฬร่วมใจยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง”

วันที่ (17 กรกฎาคม 2556 ) เวลา 13.30 น. สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดบึงกาฬ ได้จัดกิจกรรมเปิดป้ายและรณรงค์ตามโครงการ "ชาวบึงกาฬร่วมใจยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง” โดยมีนายนรชัย วรนุช อัยการจังหวัดบึงกาฬ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมดังกล่าว ณ หอประชุมโรงเรียนบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ


ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งพระองค์ทรงเป็นทูตสันถวไมตรี ของกองทุนเพื่อพัฒนาสตรีขององค์กรสหประชาชาติ (UNIFEM) และเป็นการขยายเครือข่าย "ร่วมเป็นหนึ่งเสียงหยุดความรุนแรงต่อผู้หญิง” โดยการจัดกิจกรรมในวันนี้มีการเปิดป้ายและรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง รวมถึงการร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง มีการแสดงละครต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงของสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดบึงกาฬ นอกจากนี้แล้วยังมีการมอบเกียรติบัตร ครอบครัวต้นแบบยุติความรุนแรงดีเด่นในจังหวัดบึงกาฬ คือครอบครัวนายเคน อรกุล อาศัยอยู่ที่บ้านนาสะแบงหมู่ 1 ตำบลนาสะแบง อำเภอศรีวิไล ซึ่งเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจกันซึ่งเป็นต้นแบบที่ดี ของคนทั่วไป ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการและเจ้า หน้าที่ของหน่วยงานราชการในจังหวัดบึงกาฬ อาจารย์ นักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬและมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี วิทยาเขตบึงกาฬ นักเรียนจากโรงเรียนบึงกาฬและประชาชนทั่วไปมาเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประทานเทียนจำนำพรรษา แก่วัดป่าวังเลิง จังหวัดมหาสารคาม เนื่องในวันเข้าพรรษาประจำปี 2556

เช้าวันที่ (19 ก.ค. 56) ที่วัดป่าวังเลิง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีพระเมตตาประทานเทียนจำนำพรรษา แก่วัดในเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม โดยมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ในทูลทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดโครงการ "หนึ่งใจ...ให้ธรรมะ” เนื่องในวันเข้าพรรษาประจำปี 2556 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

ด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเล็งเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ จึงทรงพระกรุณาโปรดให้นายนพวัชร สิงห์ศักดาผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นประธานในพิธีอัญเชิญเทียนจำนำพรรษาพระราชทานถวายแด่วัดป่าวังเลิง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเป็นพุทธบูชาและให้คณะสงฆ์ได้ใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติศาสนากิจในช่วงเข้าพรรษา



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ชาวมหาสารคามร่วมงานประเพณีแห่เทียน รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2556

ชาวจังหวัดมหาสารคามทุกภาคส่วน ในเขตเทศบาลเมือง ร่วมงานประเพณีแห่เทียน รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ประจำปี 2556 โดยแต่ละชุมชนนำเทียนพรรษาไปทอดถวายวัด พร้อมร่วมลงนามปฎิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา

ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม นำผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองมหาสารคาม บุคลากรสำนักงานสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนา สำนักงานวัฒนธรรม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาและการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ประจำปี 2556 เพื่อเป็นการลด ละ เลิก อบายมุขทั้งปวง ทำความดี ถวายในหลวง

โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้นำประชาชนร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา พร้อมปล่อยขบวนแห่เทียนเข้าพรรษา เคลื่อนไปตามเส้นทางต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เพื่อให้ประชาชนในชุมชนได้นำเทียนพรรษาไปทอดถวาย ณ วัดในพื้นที่ของตน รวม 17 วัด โดยมีนักเรียน นักศึกษาและชาวชุมชน ร่วมพิธีทอดถวาย เพื่อเสริมมงคลชีวิตในเทศกาลสำคัญดังกล่าว

ทั้งนี้ ในการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ปี 2556 จังหวัดมหาสารคาม ยังได้มอบเข็มเชิดชู เกียรติ รางวัลอีสานทองคำ มอบให้กับบุคคลที่ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อเป็นต้นแบบแก่ผู้อื่น รวม 8 คน




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เยาวชนมหาสารคาม ร่วมกิจกรรมค่ายครอบครัวอบอุ่น “บ้านนี้มีรัก”

อำเภอโกสุมพิสัย นำเยาวชนในสถานศึกษา ร่วมกิจกรรมค่ายครอบครัวอบอุ่น "บ้านนี้มีรัก” เพื่อส่งเสริมความรักความเข้าใจในครอบครัว ให้ข้อมูลด้านเพศศึกษา เสริมทักษะการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และการควบคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

เยาวชนจากสถานศึกษาในอำเภอโกสุมพิสัย พร้อมด้วยผู้ปกครอง และ อสม. รวมกว่า 100 คน ร่วมกิจกรรมค่ายครอบครัวอบอุ่น "บ้านนี้มีรัก” ที่โรงพยาบาลโกสุมพิสัย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรัก ความเข้าใจในครอบครัว ให้มีการสื่อสารด้านอาชีวอนามัยเจริญพันธุ์ อย่างเหมาะสม บุตรหลานในครอบครัวสามารถดูแลตนเอง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และการควบคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี ป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างถูก ต้อง โดยมีนายนายนราธร ศรประสิทธิ์ นายอำเภอโกสุมพิสัย เป็นประธาน

นางทิพยาภา ดาหาร หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัวฯ โรงพยาบาลโกสุมพิสัย กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มวัยรุ่น มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากวัยรุ่นจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านเพศศึกษาได้อย่างถูก ต้อง จึงทำให้ไม่สามารถดูแลหรือควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ซึ่งการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาสังคม ดังนั้นการได้รับความรู้ในการป้องกันตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับ วัยรุ่น โดยมีครูนกเอี้ยง หรือนายอาทิดชัย โรมพันธ์ ผู้จัดการโรงเรียนคนฮู้จังหวัดยโสธร พร้อมคณะ ร่วมเป็นวิทยากร




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กาชาดมหาสารคามสร้างเครือข่ายชมรมอาสายุวกาชาด 1 อำเภอ 1 ชมรม ภาคอีสาน

เหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับสภากาชาดไทย สร้างเครือข่ายชมรมอาสายุวกาชาด 1 อำเภอ 1 ชมรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการตั้งชมรมฯในพื้นที่ สร้างความรู้แก่เยาวชนในสถานศึกษา เพื่อให้มีจิตอาสาในการช่วยเหลือผู้อื่น

นางพูลทรัพย์ สิงห์ศักดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นำเครือข่ายชมรมอาสายุวกาชาด ซึ่งประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรในสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบกิจกรรมยุวกาชาดหรือกิจกรรมเยาวชนในสถานศึกษา ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา การศึกษานอกโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 25 แห่ง รวมทั้งปลัดอำเภอผู้ประสานงานแต่ละอำเภอ รวมทั้งสิ้น 61 คน เข้าร่วมสัมมนา "การสร้างเครือข่ายชมรมอาสายุวกาชาด 1 อำเภอ 1 ชมรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เพื่อให้นำความรู้ในการสัมมนาไปขยายเครือข่ายและขับเคลื่อนการตั้งชมอาสายุวกาชาดในสถานศึกษาและในพื้นที่อำเภอ สนับสนุนกิจการของเหล่ากาชาด ให้เยาวชนมีจิตอาสาในการช่วยเหลือผู้อื่น และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย

การสัมมนา"การสร้างเครือข่ายชมรมอาสายุวกาชาด 1 อำเภอ 1 ชมรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ครั้งนี้ จะเป็นการบรรยายให้ความรู้ โดยวิทยากรจากสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคามร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จัดประกวดคัดเลือกสื่อสร้างสรรค์ เรื่องสั้น / เสริมสร้างค่านิยมพื้นฐาน พอเพียง เสียสละ มีน้ำใจ ประจำปี 2556

โรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์ชนะเลิศคัดเลือกสื่อสร้างสรรค์ ภาพยนตร์สั้น เสริมสร้างค่านิยมพื้นฐาน พอเพียง เสียสละ มีน้ำใจ

18 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ชั้น 3 ห้อง 302 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม ได้จัดโครงการคัดเลือกสื่อสร้างสรรค์ ภาพยนตร์สั้น / เสริมสร้างค่านิยมพื้นฐาน พอเพียง เสียสละ มีน้ำใจ ประจำปี 2556 โดยให้สถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่ผ่านการอบรมเชิงปฎิบัติการส่งผลงานภาพยนตร์สั้นเข้าประกวด โดยมีโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาส่งผลงานเข้าคัดเลือกสื่อสร้างสรรค์ จำนวน 8 โรงเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อในการถ่ายทอดเนื้อหา สาระความรู้สึก การสร้างสรรค์โดยผ่านเป็นภาพยนตร์สั้น เป็นการเผยแพร่งานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมสู่สาธารณชน ตลอดจนส่งเสริมให้นักเรียน เยาวชน ได้เห็นความสำคัญด้านคุณธรรม จริยธรรมผ่านสื่อด้วยการผลิตภาพยนตร์สั้นและนำเทคโนโลยีมาใช้กับยุคสมัย ซึ่งผลการพิจารณาคัดเลือกสื่อสร้างสรรค์ เรื่องสั้น / เสริมสร้างค่านิยมพื้นฐาน พอเพียง เสียสละ มีน้ำใจ ประจำปี 2556 ซึ่งรางวัลชนะเลิศได้แก่ เรื่องชีวิต จากโรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์ รองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่องหน้าที่ จากโรงเรียนนาดูนประชาสรรค์ รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่องเล่าวันสุดท้าย จากโรงเรียนพยัคฆภูมิวิทยาคาร และรางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ เรื่องจื้น จากโรงเรียนผดุงนารี และเรื่องโอกาส จากโรงเรียนกันทรวิชัย ซึ่งการรับรางวัลทั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม




ภาณุวัชร คนเชี่ยว ข่าว/ ส.ปชส.มค.

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จับมือเครือข่ายฮักแพงเบิ่งแญงคนสารคาม จัดทำแผนพัฒนาระบบยา เพื่อสร้างกลไกทำงานเรื่องยาในพื้นที่ และสร้างเครือข่ายสู่ชุมชนอย่างทั่วถึง

มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดประชุมเพื่อสรุปผลและจัดทำแผนพัฒนาระบบยาจังหวัดแบบมีส่วนร่วม ปี 2556-2557 เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจการใช้ยาที่ถูกต้อง

18 กรกฎาคม 2556 ณ.ห้องประชุมสโมสรบุคลากร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วยเครือข่ายวิชาชีพในระดับอำเภอและจังหวัด และโครงการฮักแพงบิ่งแญงคนสารคามร่วมชุมชนเพื่อสรุปผลและจัดทำแผนพัฒนาระบบยาจังหวัดแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลเกิดกลไกการเฝ้าระวังยาในชุมชน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องยา ในระดับจังหวัดและในพื้นที่ และมีพื้นที่เป้าหมายต้นแบบ 3 แห่ง คือองค์การบริหารส่วนตำบลดอนกลาง อำเภอโกสุมพิสัย ,องค์การบริหารส่วนตำบลวังแส อำเภอแกดำ และองค์การบริหารส่วนตำบลเหล่าดอกไม้ อำเภอชื่นชม โดยการรณรงค์ส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ยาที่มีคุณภาพและปลอดภัย

ปัจจุบันประชาชนจำนวนมากยังใช้ยาไม่ถูกต้อง การเข้าไม่ถึงยา เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่ขาดความรู้ความเข้าใจการใช้ยาที่ถูกต้อง ทำให้เกิดอันตรายจากการใช้ยา เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ รวมทั้งยังมีแหล่งกระจายยาที่ไม่เหมาะสม การรณรงค์ส่งเสริมเพื่อการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการ มีองค์กรเกี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบาย จนถึงองค์กรท้องถิ่น ในชุมชน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันทั้งพื้นที่และระดับนโยบายการรณรงค์เผยแพร่ความรู้การใช้ยาที่ถูกต้อง จึงต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการดำเนินงานอื่นๆเช่น การเฝ้าระวังยาในชุมชน การทำงานเครือข่าย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้รวมทั้ง การปรับปรุง/การบังคับใช้กฎหมาย การกำหนดนโยบาย ดังนั้น ความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ องค์ภาครัฐ องค์กรวิชาชีพ สถาบันวิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และเกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผล



ภาณุวัชร คนเชี่ยว /ข่าว ส.ปชส. มค.

ผู้ว่าฯมหาสารคาม นำหน่วยบริการประชาชนลงพื้นที่ เตือนระวังไข้เลือดออก

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำหน่วยบริการประชาชน และ พอ.สว.ลงพื้นที่อำเภอแกดำ เตือนประชาชนระวังโรคไข้เลือดออก หลังพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยให้นอนกางมุ้ง ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ให้ท้องถิ่นออกฉีดพ่นหมอกควัน กำจัดยุงลาย

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวในโอกาสที่ได้นำหน่วยบริการประชาชนเคลื่อนที่ออกไปให้บริการ ที่โรงเรียนบ้านป่าข่างโนนลาน ตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม ว่า ขอให้ประชาชนได้ระมัดระวังโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่ปีนี้มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และจังหวัดมหาสารคาม พบผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นเด็กนักเรียน จึงขอให้ประชาชนได้ร่วมมือกัน ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ขอให้ อสม.เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ออกไปแนะนำถึงวิธีในการป้องกันโรคไข้เลือดออก แจกจ่ายทรายอะเบทให้ประชาชนนำไปวางในตุ่มน้ำ อ่างน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายไปวางไข่ ให้ประชาชนนอนกางมุ้ง และขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สาธารณสุข ได้ออกไปฉีดพ่นหมอกควัน เพื่อทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

ในโอกาสเดียวกันนี้ นอกจากจังหวัดมหาสารคาม จะได้นำหน่วยบริการออกไปให้บริการแก่ประชาชนตามโครงการเยี่ยมเยียนประชาชนแล้ว ยังได้นำหน่วยบริการแพทย์เคลื่อนที่ หรือ พอ.สว. ออกไปให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป โรคตา โรคทางทันตกรรมและบริการแพทย์แผนไทยแก่ประชาชนด้วย

สำหรับการให้บริการตามโครงการเยี่ยมเยียนประชาชนของจังหวัดมหาสารคาม ครั้งนี้ ประกอบด้วย การให้บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย บริการด้านฝึกอาชีพ ของวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม บริการแจกพันธุ์กล้าไม้ คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ การจำหน่ายสินค้า เครื่องอุปโภค บริโภค ในราคาถูก ตามโครงการธงฟ้าราคาประหยัด การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน และการมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ราษฎรที่ยากจน โดยเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคามและห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี




สมพงษ์ ปัตตานี ข่าว /สิงหา โพธิแท่น /ภาพ

ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม จับกุมผู้ต้องหาฆ่าคนตาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม จับกุมผู้ต้องหาฆ่าคนตาย เหตุไม่พอใจหลังโดนต่อว่าและตบหน้าอย่างแรง

(18-7-56) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม โดย พ.ต.ท.ทรงฤทธิ์ เวียงบาล สารวัตรสืบสวน พ.ต.ท.โอฬาร สีตะปัน สารวัตรฝ่ายป้องกันปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายอภิชาตหรือตี๋ สีหจิตร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.1 ต.โนนหอม อ.เมือง จังหวัดสกลนคร ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน , พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางคือ อาวุธมีดพกสั้น แบบพับได้ จำนวน 1 เล่ม

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 เวลาประมาณ 03.30 น. มีเหตุฆ่ากันตายที่บริเวณห้องพัก สถานที่ก่อสร้างโครงการศรัญญาโฮเทล ซ.29 ถ.ศรีสวัสดิ์ดำเนิน ต.ตลาด อ.เมืองมหาสารคาม จากการการสืบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิต คือนายอุดม เอี่ยมคง อายุ 61 ปี ที่อยู่ 151 ม.10 ต.โคกก่อ อ.เมือง มหาสารคาม ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการฯ และสาเหตุของการฆ่ากันตายครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. นายอภิชาตหรือตี๋ฯ ผู้ต้องหา ได้มาหาภรรยา ซึ่งทำงานก่อสร้าง ที่สถานที่เกิดเหตุ และมีเรื่องทะเลาะวิวาท กับนายอุดม ผู้ตาย จนถูกนายอุดม ซึ่งเป็นนายจ้าง ของภรรยา นายอภิชาต ผู้ต้องหา ตบหน้าอย่างแรง จนนายอภิชาต ผู้ต้องหา กล่าวอาฆาต ว่าจะกลับมาเอาเรื่องผู้ตาย นายอุดมจึง ได้โทรศัพท์ ให้ลูกน้องมาอยู่เป็นเพื่อนเพราะเกรงว่านายอภิชาต จะกลับมาเอาเรื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. นายอุดม คิดว่านายอภิชาต คงไม่กลับมา จึงให้ลูกน้องไปนอน จนกระทั่งเวลา 03.00 น.นายอภิชาต ผู้ต้องหา เห็นปลอดคน จึงย่องเข้าไปยังที่พัก ของผู้ตาย แล้วใช้มีดจ้วงแทง ผู้ตายด้วยมีดพกสั้น เข้าที่ราวนมด้านซ้าย 1 ครั้ง จนเป็นเหตุให้นายอุดม ถึงแก่ความตาย และนายอภิชาตจึงได้หลบหนีไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกสืบสวนหาข่าว ติดตามตัวนายอภิชาต และสามารถจับกุมได้ที่ที่ เดอะเบสท์อิน รีสอร์ท ห้องหมายเลข 1 บ้านโนนสะอาด ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งจากการสอบถาม นายอภิชาต ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนงานในโรงงานผลิตปลาร้า ในอำเภอโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวรับสารภาพว่า ทำไปเนื่องจากถูกผู้ตาย ตบหน้าอย่างแรง จึงเกิดความเจ็บแค้น ก่อนที่จะกลับไปดื่มเบียร์ ย้อมใจ แล้วขับรถจักรยานยนต์ ย้อนกลับมาก่อเหตุฆ่านายอุดม เสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามเตรียมจัดการแข่งขันวิทยุการบินมินิวอลเล่ย์บอลนักเรียนประถมศึกษาถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รอบคัดเลือกระดับจังหวัด

จังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดการแข่งขันวิทยุการบินมินิวอลเล่ย์บอลสำหรับ นักเรียนระดับประถมศึกษารุ่นอายุไม่เกิน 12 ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่าง 13 – 17 สิงหาคม 2556 ณ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตมหาสารคาม

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 13 – 17 สิงหาคม 2556 จังหวัดมหาสารคามร่วมกับบริษัทวิทยุการบินและสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขต มหาสารคาม จะได้จัดให้มีการแข่งขัน "วิทยุการบิน มินิวอลเล่ย์บอล ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2556” สำหรับระดับนักเรียนระดับประถมศึกษารุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี รอบคัดเลือกระดับจังหวัด เพื่อหาทีมชนะเลิศระดับจังหวัดทั้งประเภทชาย และประเภทหญิง จังหวัดละ 1 ทีม เข้าไปร่วมแข่งขันในระดับภูมิภาค และระดับประเทศ เพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยจะจัดแข่งขัน ณ อาคารพลศึกษาสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตมหาสารคาม


ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยต่อไปว่า ผู้สนใจติดต่อสอบถามส่งทีมวอลเล่ย์บอล สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ทั้งประเภทชาย และประเภทหญิง เข้าร่วมแข่งขันติดต่อได้ที่ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดมหาสารคาม ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ชั้น 2 หมายเลขโทรศัพท์ 043-777494 ได้ในเวลาราชการ



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว ศิรินทรา แก้วบุญเรือง/พิมพ์

ปฏิบัติการฝนหลวงพื้นที่มหาสารคาม 8-14 กค.56 มีฝนตกเล็กน้อย-ปานกลาง

ศูนย์ ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรจังหวัดมหาสารคาม ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วง ระหว่างวันที่ 8-14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบบางพื้นที่ไม่มีฝน และบางพื้นที่มีฝนตกเล็กน้อย-ปานกลาง

นายปิยะพัทธ์ โมวพรหมานุช นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รายงานผลการปฏิบัติการฝนหลวงของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเติมน้ำลงในอ่างเก็บน้ำ ต่างๆ ของพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ระหว่างวันที่ 8-14 กรกฎาคม 2556 ผลการปฏิบัติการฝนหลวง ในวันที่ 9 และ 11 กรกฎาคม ไม่มีฝนตก ส่วนวันที่ 8 ,10, 12-14 มีฝนตกเล็กน้อย-ปานกลาง

โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม จะได้มีการติดตามและประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดขอนแก่น อย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานต่อไป




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดพิธีเททองหล่อพระพุทธกันทรวิชัยและพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดพิธีเททองหล่อพระพุทธกันทรวิชัยและพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก มงคลเพื่อเป็นที่สักการะบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

คํ่าวันที่ (17-07-56) ที่บริเวณมณฑลพิธี ด้านหน้าอาคารคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พระราชรัตนมงคล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธันทรวิชัยและพระราชานุสาวรีย์สมเด็จ พระมหิตลาธิเบศร อดุลเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการสาธารณสุขไทย โดยมีนายยิ่งยศ. ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม รศ.ดร.ศุภชัย. สมับปิโต อธิการบดี พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่และประชาชนถวายการต้อนรับ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สงครามชัย. ลีทองดี คณบดีคณะสารธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่าการจัดสร้างพระพุทธกันทรวิชัย พระพุทธรูปประจําคณะสาธารณสุขศาสตร์และการจัดสร้างพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการสารธารณสุขไทย เนื่องในวาระฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกและในโอกาสที่ครบรอบหนึ่งทศวรรษ การสถาปนาคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามและเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสสําคัญดังกล่าว

คณะสาธารณสุขศาสตร์ จึงจัดสร้างสิ่งที่เป็นมงคลเพื่อเป็นที่สักการะบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิต ใจของคณาจารย์ บุคลากร นิสิตและประชาชนทั่วไป จึงได้จัดสร้างพระพุทธกันทรวิชัยเพื่อเป็นพระประธานประจําคณะสาธารณสุข ศาสตร์และพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกเพื่อประดิษฐาน ณ บริเวณหน้าอาคาร คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยโครงการจัดสร้างพระพุทธกันทรวิชัยและพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยได้ผ่านการเห็นชอบการออกแบบจากกรมศิลปากร




ส.ปชส.มหาสารคาม/ ข่าว

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหารประกวดภาพถ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ครั้งที่ ๑๙ ประจำปี ๒๕๕๖

นายพิงค์พันธ์ คำนา เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร ได้รับการประสานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช และบริษัท TRUE เชิญประกวดภาพถ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ครั้งที่ ๑๙ ประจำปี ๒๕๕๖ ในหัวข้อ สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ ระดับบุคคลทั่วไป และระดับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมสิทธิ์พิเศษในการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ พร้อมที่พักและค่าเข้าชม โดยเปิดรับภาพตั้งแต่วันนี้ – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ทีมีความสนใจจะส่งประกวดภาพถ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.trueplookpanya.com , www.dnp.go.th หรือ App : true Photo Contest ผ่าน Smart Phone ที่ Appstore และ Google Play Store โดยส่งผลงานและสอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม กลุ่มบริษัท ทรู โทร.๐๒-๖๑๕๙๖๑๐ หรือ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.๐๒-๕๗๙๖๖๖๖ ต่อ ๑๖๔๑-๒ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร สนธิกำลังจับกุมขบวนการลักลอบนำรถส่งประเทศเพื่อนบ้าน

พ.ต.อ.พัลลภ สุริยะกุล ณ อยุธยา ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร พร้อมชุดงานสืบสวนปราบปราม มี พ.ต.ท.วิเชียร ลี้ไพโรจน์ รอง ผกก.ตม.สนธิกำลัง พันเอกยุทธนา ม่วงพูลสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.มุกดาหาร นาวาตรีกรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เจ้าหน้าที่ นรข.มุกดาหาร ศุลกากรมุกดาหารวางกำลังที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2มุกดาหาร-สะหวันนะเขต หลังสืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบนำรถยนต์ออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย จนกระทั่งได้พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น พรีรันเนอร์ สีดำ ทะเบียน กล 9652 นครราชสีมา ขับขี่สวนทาง ฝั่งรถยนต์ขาเข้าด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าข้ามสะพานไปยังประเทศเพื่อนบ้านเจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตาม อย่างกระชั้นชิด จนสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ที่บริเวณ กลางสะพาน ทราบชื่อคนขับ คือ นายสราวุธ ดรพล อายุ 42ปี อยู่บ้านเลขที่ 10ซ.สามัคคี 1 ถ.วงศ์คำภา อ.เมือง จ.มุกดาหาร ตรวจสอบเอกสารประจำรถ พบว่า ทะเบียนเป็นทะเบียนปลอม หนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศปลอม ตรวจสอบหมายเลขเครื่อง 1kd s199596 ส่วนหมายเลขตัวรถคือMROEZ39G308061567ซึ่งมีชื่อนางสาว วาสนา โตเขียว เป็นผู้เช่าซื้อ จากบริษัทโตโยต้า ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11กรกฎาคม 2556ส่วนทะเบียน กล 9652 นครราชสีมา ผู้ครอบครอบตัวจริง คือนายณรงค์ ถิ่นนอก อยู่บ้านเลขที่ 43/2 ม.6 ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา จากการสอบสวนนายสราวุธให้การรับสารภาพว่า มีนายเดช ไม่ทราบนามสกุล ว่าจ้างให้ขับรถคันดังกล่าวไปประเทศเพื่อนบ้านใน ราคา 3,000บาท โดยให้ไปรับรถที่ ซ.ตาดแคน11แล้วขับแหกด่านตรวจของสะพานมิตรแห่งที่ 2สะหวันนะเขตไปที่ สปป.ลาว โดยใช้เอกสารปลอมทั้งหมด จากนั้นได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารเปิดแผนตะลุมบอนไข้เลือดออกหลังมีการระบาดมากขึ้น

ที่ศาลาวัดอรุณรังษี อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารร่วมกับเทศบาลเมืองมุกดาหารและแกนนำชุมชน ประชาชนได้ร่วมกันรณรงค์ป้องกันและควบคุมการระบาดของไข้เลือดออกกันอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง สามารถควบคุมได้ดีในบางพื้นที่ ยังมีพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก คือพื้นที่เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอรอบนอก ต้องใช้แผน "ตะลุมบอน” ใช้ ๕ ยุทธวิธีหลัก คือ ประชาสัมพันธ์ก่อนวันตะลุมบอน โดยเสียงตามสายชุมชน รถเคลื่อนที่ ประชาสัมพันธ์วันตะลุมบอนโดยรถเคลื่อนที่ รณรงค์ทำความสะอาดจัดการสิ่งแวดล้อม โดยทีมเทศบาล สำรวจลูกน้ำยุงลาย ทำลาย และใส่ทรายอะเบท พร้อมเก็บทำลายภาชนะ ขยะที่เป็นแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายโดยมีทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมุกดาหาร สาธารณสุขอำเภอเมือง เทศบาล กรรมการชุมชน พ่นเคมีพิชิตยุงตัวแก่โดยทีมพ่นจาก สตม.ที่7.3สกลนคร

สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยสถานการณ์ไข้เลือดออกในจังหวัดมุกดาหารในปี ๒๕๕๖ นี้ระบาดหนัก และรุนแรงมาตั้งแต่ ๑ มกราคม –๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ มีรายงานผู้ป่วยแล้วจำนวน ๖๖๐คน คิดเป็นอัตราป่วย ๑๙๒.๔๙ ต่อแสนคน (ซึ่งสูงกว่าปี ๒๕๕๕ในช่วงเดียวกันกว่า ๑๐เท่า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ) และมีผู้เสียชีวิตแล้ว ๑คน พักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ช่วงในปีที่ผ่านมา ไม่มีผู้เสียชีวิตติดต่อกันหลายปีแล้ว พื้นที่ที่พบผู้ป่วยต่อประชากรมากที่สุด ๓ ลำดับแรก คือ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จำนวน ๑๘๒ ราย เขตอำเภอเมือง (นอกเขตเทศบาล) จำนวน ๒๔๔ ราย โดยมีรายงานอย่างต่อเนื่องทุกวัน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เป็นต้นมา




ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหารเตรียมพร้อมกระบวนการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร

นางสาวนุชนาถ ด้วงสงฆ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร หรือ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๖ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำหนดให้ดำเนินการดำเนินการตามกระบวนการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด หรือ ป.ป.จ.ซึ่งในระยะที่ ๑ กำหนดในพื้นที่ ๓๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก นครปฐม สุราษฎร์ธานี สงขลา กระบี่ จันทบุรี ชัยนาท ชุมพร เชียงราย ตรัง นครพนม นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ เพชรบุรี แพร่ ยะลา ร้อยเอ็ด ลพบุรี ลำปาง ศรีสะเกษ สระแก้ว สุโขทัย สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี สำหรับระยะที่ ๒ประกอบด้วยจังหวัดที่เหลือ ๔๔จังหวัด รวมจังหวัดมุกดาหารด้วย ซึ่งจะเริ่มการสรรหาตามขบวนการในวันที่ ๒๔กรกฏาคม ๒๕๕๖  

ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.จ.ว่าต้องต้องให้ความสำคัญโดยยึดหลัดความโปร่งใส เพื่อผลประโยชน์ของชาติในการขจัดการทุจริต ซึ่งกระบวนการสรรหา ป.ป.จ.เริ่มตั้งแต่คัดเลือกกรรมการสรรหาจากผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรในจังหวัด จาก ๙ กลุ่มสาขาอาชีพ และขั้นตอนสุดท้าย จะเป็นการคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเพื่อเสนอชื่อให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.จ.ทั้งนี้ สำหรับองค์กรในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดกระบวนการสรรหาเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด มุกดาหาร ชั้น ๒อาคารฝ่ายป้องกันรักษาความสงบ ถนนวิวิธสุรการ อำเอภเมือง จังหวัดมุกดาหาร โทร. ๐๔๒ ๖๒๐๙๐๕ โทรสาร ๐๔๒ ๖๒๐๙๐๖




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารพร้อมนายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ร่วมรายการบันทึกเทปถวายพระพร วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ที่ห้องแสดง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และนางสุธิดา บุญประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ร่วมรายการบันทึกเทปถวายพระพรวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในนามพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารทุกหมู่เหล่า




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว/ภาพ

จังหวัดมุกดาหารแจ้งเตือนประชาชนในการบริโภคก๋วยเตี๋ยวที่ปลอดภัย

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมคุ้มครองผู้บริโภคว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ประกอบการบางส่วนใช้วัตถุดิบที่มีการปนเปื้อนสารอันตรายมาใช้ประกอบ อาหาร เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวมีการใช้สารกันเสียชนิดเบนโซอิกเกินค่ามาตรฐาน ผักมีการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช พริกป่นและถั่วลิสงมีเชื้อรา ซึ่งสารพิษดังกล่าวหากเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ได้ ประกอบกับการใช้อุปกรณ์และภาชนะสำหรับปรุงหรือบรรจุอาหารไม่มีคุณภาพ มาตรฐาน โดยเฉพาะหม้อก๋วยเตี๋ยวที่ใช้ตะกั่วประสานรอยเชื่อมต่อ หากนำมาใช้งานอุณหภูมิสูงสารตะกั่วละลายปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีคำสั่งห้ามขายสินค้าภาชนะสำหรับปรุง หรือบรรจุอาหารที่ใช้ตะกั่วประสานรอยเชื่อมแล้ว ในการนี้ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่บริโภคก๋วยเตี๋ยวอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารจึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทราบเกี่ยวกับ การเลือกรับประทานก๋วยเตี๋ยวจากร้านจำหน่ายก๋วยเตี๋ยวที่ได้มาตรฐาน สะอาด และถูกสุขลักษณะ





สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าของฝากในจังหวัดมุกดาหาร

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าในร้านจำหน่ายสินค้าของฝากไม่มีคุณภาพ เนื่องจากถูกเก็บไว้เป็นเวลานานจนใกล้หมดอายุซึ่งหากรับประทานไปแล้วอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงการซื้อของฝากแล้วถูกร้านค้าเอาเปรียบ เช่น สินค้าบางอย่างบรรจุในกระเช้าใบใหญ่แต่สินค้ากลับมีจำนวนไม่กี่ชนิด ที่เหลือเป็นเศษกระดาษที่ยัดไว้ข้างในเพื่อให้สินค้าดูมีจำนวนมาก ในการนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(นายวราเทพ รัตนากร) ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีบัญชาให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยและเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ รวมทั้งมิให้ผู้ประกอบธุรกิจกระทำการอันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าของฝากโดยเฉพาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านต้องมีคุณภาพถูกสุขอนามัย มีปริมาณที่เหมาะสมกับราคา และมีการจัดทำฉลากสินค้าโดยแสดงข้อความต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้จังหวัดบูรณาการงานคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ในการรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ประกอบการในพื้นที่ไม่ให้มีการกระทำอันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค การจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน รวมทั้งมีการตรวจสอบร้านจำหน่ายตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าของฝากในจังหวัดเป็นระยะๆอย่างต่อเนื่อง หากพบเห็นร้านจำหน่ายสินค้าของฝากจำหน่ายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ได้มาตรฐานอันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคสามารถแจ้งให้จังหวัดหรือแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่สายด่วน ๑๑๖๖ หรือ www.ocpb.go.thเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารขอความร่วมมือให้การสนับสนุนกิจกรรมวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ๒๕๕๖ และเชิญชวนประชาชนลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยให้สนับสนุนการจัดกิจกรรมวันงดดื่มสุราแห่งชาติ โดยการเชิญชวนประชาชนลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา ในวันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ซึ่งในส่วนกลางกำหนดจัดกิจกรรม ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น ๔ เดอะมอลล์บางกะปิ กรุงเทพมหานคร และในส่วนภูมิภาคจัดกิจกรรมทุกจังหวัดเพื่อแสดงความจงรักภักดีและถวายเป็น พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเป็นการทำความดีในช่วงเข้าพรรษา

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนส่วนราชการแจ้งบุคลากรในหน่วยงานและร่วมลงนามปฏิญาณตนงดดื่มสุราใน ช่วงเข้าพรรษา โดยสามารถลงนามได้ที่สมุดลงนามปฏิญาณตน หรือ ทางเว็บไซต์ www.1king1heart.netและ www.thaiantialcohol.com





สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่พักสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า กรมป่าได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๓๘ และโครงการอนุรักษ์และพื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเข้าไปอยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ของที่พักสงฆ์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายแต่เนื่องจากในปัจจุบันยังปรากฏว่ามีการตั้งที่พักสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นก่อให้เกิดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และความขัดแย้งในการครอบครองที่ดินระหว่างพระสงฆ์และชุมชนในพื้นที่และไม่สอดคล้องกันแนวทางการจัดตั้งที่พักสงฆ์ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดมุกดาหารได้ประชาสัมพันธ์แจ้งให้พระสงฆ์ หรือประธานที่พักสงฆ์ที่ตั้งที่พักสงฆ์อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ที่ยังไม่มีมติจำแนกประเภทการดำเนินการตามแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ระดับจังหวัด และไม่มีหนังสือสำคัญแสดงการเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ได้ยื่นแบบรายงานที่พักสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ให้กับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๗(ขอนแก่น)หรือศูนย์ประสานงานป่าไม้มุกดาหาร หรือหน่วยป้องกันรักษาป่าทุกหน่วยในท้องที่จังหวัดมุกดาหาร หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ ๒๗ มิถุนายน-๒๗ กันยายน ๒๕๕๖ หากที่พักสงฆ์ใดไม่ยื่นแบบรายงาน และไม่มีชื่อที่พักสงฆ์ในระบบฐานข้อมูลของกรมป่าไม้ กรมป่าไม้จะไม่อนุญาตให้มีการดำเนินกิจกรรมสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ต่อไป




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารการสมัครเป็นสมาชิกสามัญสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และการขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ขอความร่วมมือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์การรับสมัครเป็นสมาชิกสามัญสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ตามประกาศ หลักเกณฑ์วิธีการสมัครเป็นสมาชิก ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังเคราะห์รับอนุญาตและกำหนด ประชุมเพื่อเลือกกรรมการ ดังนี้ รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางสังคมสงเคราะห์ และผู้ผ่านการอบรมด้านสังเคราะห์เพื่อเป็นนักสังคมสงเคราะห์ตามกฎหมายว่า ด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๑๐แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ.๒๕๕๖เป็นสมาชิกสามัญสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ สมาชิกสามัญที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคม ของนักสังคมสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสวัสดิการสังคม สามารถขอประเมินความรู้เพื่อรับการพิจารณาขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต

กำหนดประชุมสมาชิกสามัญเพื่อเลือกตั้งสมาชิกสามัญที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบ อนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตเป็นกรรมการสภาวิชาชีพ สังคมสงเคราะห์ ในวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖เวลา ๑๓.๓๐ น.ณ โรงแรมปริ๊นซ พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ

ผู้ประสงค์สมัครเป็นสมาชิกสามัญ สมัครขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับ อนุญาต สามารถยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ ได้ที่ สำนักงานสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ โดยศึกษารายละเอียดและขอรับใบสมัครได้จากสำนักงานสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ หรือพิมพ์แบบใบสมัครได้จาก www.m-society.go.th/msosocial.php





สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

คลังจังหวัดมุกดาหารจัดอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการคลังท้องถิ่น

ที่ห้องพลอยบอลรูม โรงแรมพลอยพาเลซ จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานคลังจังหวัดมุกดาหาร ได้จัดอบรมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการคลังท้องถิ่น ในการปฏิบัติงานด้านระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) และระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) แก่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการอบรม ซึ่งการจัดอบรมครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงานและการบริหารงานด้านการพัสดุและการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นไปอย่างถูกต้องเกิดความคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะสามารถรองรับมาตรการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินพร้อมทั้งการติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายของหน่วยงานภาครัฐได้อย่างครอบคลุม และเป็นไปตามเป้าหมาย

นางศศกร ลออศรีสกุลไชย คลังจังหวัดมุกดาหารได้กล่าวว่าในการจัดอบรมนี้ มีวิทยากรจากสำนักงานตรวจแผ่นดินจังหวัดมุกดาหาร สำนักงานธนารักษ์พื้นที่มุกดาหารและจากสำนักงานคลังจังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้มาให้ความรู้ ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจะสามารถนำความรู้ไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้ตามกระบวนการและขั้นตอน ตามที่กรมบัญชีกลาง ในฐานะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐได้มีการพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป




พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

จังหวัดมุกดาหาร เปิดโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครอง รุ่นที่ 4/2556

ที่ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดมุกดาหารที่1 นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมค่ายบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติด โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดมุกดาหาร รุ่นที่ 4ประจำปี 2556โดยมีนายวีระ จรูญพิทักษ์พงศ์ ป้องกันจังหวัดมุกดาหาร กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ ว่าเป็นโครงการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดในระบบสมัครใจบำบัดใช้ระยะเวลาบำบัด 15วัน ในลักษณะการผสมผสาน ด้วยการใช้กระบวนการชุมชนบำบัด และหลักสูตร FastModel อย่างย่อของกระทรวงสาธารณะสุข เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย จิตใจ และการฝึกอบรมอาชีพให้ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลับมาเป็นคนดี มีคุณภาพของสังคมและไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวว่าหลังจากพิธีเปิดว่า กรมการปกครองเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ที่ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อที่จะรองรับและสนับสนุนเป้าหมาย ด้านการบำบัดฟื้นฟูตามนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดให้ที่ทำการปกครองจังหวัด เป็นหน่วยงานดำเนินการ มีชุดครูฝึก ครูพี่เลี้ยง คณะวิทยากรกระบวนการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ เป็นผู้ให้คำปรึกษา คำแนะนำ ในการเสริมสร้างกำลังกายกำลังใจ ให้แก่ผู้เข้าการอบรมทุกคนซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปหลายอำเภอและประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง และที่ผ่านมา จังหวัดฯ สามารถนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดและเข้ารับการบำบัดปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เข้ามามีส่วนร่วมเป็นแกนนำพัฒนาชุมชนต้านยาเสพติดในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติด รุ่นที่ 4 นี้ จะใช้ระยะเวลา 15 วันในการอบรมซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15-29 กรกฎาคม 2556 และมีผู้เข้ารับการอบรม 60 คน




พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

ยโสธรถวายเทียนจำนำพรรษา

จังหวัดยโสธรถวายเทียนพรรษาพระราชทาน มูลนิธิราเคิล ออฟไลฟ์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ณ อุโบสถวัดสิงห์ท่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดยโสธรนายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด นำข้าราชการ/พ่อค้าประชาชน/เหล่าพสกนิกร นักเรียน นักศึกษา ถวายเทียนจำนำพรรษาแด่พระพระภิกษุสงฆ์ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2556 เทียนจำนำพรรษาเป็นเทียนพระราชทาน ในมูลนิธิราเคิล ออฟไลฟ์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  เสด็จ ทรงเป็นประธานหล่อเทียนจำนำพรรษา ซึ่งมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และสำนักงานพระพุทธศาสนาจัดขึ้น ตามโครงการหนึ่งใจให้ธรรมะ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2556 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ถึงขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เป็นการทำนุบำรุงส่งเสริมกิจกรรมด้านพุทธศาสนา และประเพณีการหล่อเทียนพรรษา ที่มีมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีให้คงอยู่สืบไป ทั้งส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้หลักธรรม คำสอนของพระพุทธองค์ สามารถนำมาปฏิบัติต่อการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง โดยพระราชทานให้หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ เชิญไปถวายยังพระอารามในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด

ยโสธรเปิดคลินิค SMEs

จังหวัดยโสธรนำคลินิก  SMEs  เคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่โรงแรมเดอะกรีนปารค์  แกรน์  อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดคลินิก  SMEs  เคลื่อนที่ นางเพชรรวง  พวงแก้ว  ประธานหอการค้าจังหวัดยโสธร  กล่าวว่า การจัดคลินิก  SMEs  เคลื่อนที่ ในครั้งนี้ เพื่อ เสริมสร้างความรู้ด้านนโยบายของรัฐ ในมาตรการและกฎระเบียบ แนวทางการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  (SMEs)  ของจังหวัดยโสธร  และ  เพื่อส่งเสริมบรรยากาศด้านการค้าและการลงทุนของจังหวัดยโสธร   ตลอดจนรับฟังปัญหา  และวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยมีผู้ประกอบการจากอำเภอเมือง  อำเภอทรายมูลและอำเภอป่าติ้ว  รวมทั้งหมด 90  คน  เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้