วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์



วันที่ (๒๓ ม.ค.๕๗) เวลา ๑๔.๐๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด เป็นประธานพิธีมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวพื้นที่อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ณ หอประชุมอำเภอดอนตาล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยพระสกนิกรชาวไทยที่ประสบภัยหนาว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดหน่วยสงเคราะห์ผู้ประสบภัย เพื่อจัดพระราชทานผ้าห่มกันหนาว ในครั้งนี้ ได้จัดส่งผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน ๕๐๐ ผืน เพื่อมอบให้กับ

ราษฏรพื้นที่อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ที่ได้รับความเดือดร้อน ผลจากความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็น ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็น รวมถึงจังหวัดมุกดาหารด้วย


สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ


บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร จัดโครงการให้ความรู้กับหญิงไทยเพื่อป้องกันภัยในต่างประเทศ

วันที่ (๒๓ ม.ค. ๕๗) ที่ห้องดุสิตาโรงแรมมุกดาหารแกรนด์ จังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการให้ความรู้กับหญิงไทยเพื่อป้องกันภัยในต่างประเทศ โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร จัดโครงการดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้จากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างมาก เด็กและสตรีเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และมีจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่าการดิ้นรนเพื่อเดินทางไปทำงานในต่างประเทศเป็นหนทางสุดท้ายเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีหญิงและเด็กไทยจำนวนหนึ่งถูกหลอกลวงจากขบวนการค้ามนุษย์ให้ไปทำงานและค้าประเวณีในต่างประเทศ การอบรมดังกล่าวจึงเป็นการให้ความรู้ความใจปัญหาหญิงไทยในต่างประเทศ รณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาจากขบวนการค้ามนุษย์ รวมทั้งส่งเสริมให้สตรีและชุมชนมีส่วนร่วมทำงานเป็นเครือข่ายในพื้นที่โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น จำนวน ๓๐๐ คน

นางอภิญญา ก้อยทอง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวว่า ในการจัดอบรมในครั้งนี้ จะมีการบรรยายให้ความรู้เรื่องพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑ การนำเสนอวีดิทัศน์ เกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนษย์ การถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้เคยถูกล่อลวงและการเสวนาในประเด็นเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นวิทยากรให้ความรู้ในการอบรม



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ


จ.กาฬสินธุ์ เตรียมรับผู้แทนพระองค์ นำของพระราชทานมอบกแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาว

วันนี้ (24 ม.ค. 57) นายสุรพจน์ รัชชุศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมเตรียมรับผู้แทนพระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมี พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีกำหนดการเดินทางมาในวันอังคารที่ 28 มกราคม 2557 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์

ทั้งนี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับแจ้งจากกองงานพระวรชายาฯ ว่าโปรดให้ พลอากาศเอกโยธิน ประยูรโภคราช ที่ปรึกษากองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์นำของพระราชทานมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 950 คน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลาไสย อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันอังคารที่ 28 มกราคม 2557 โดยที่ประชุมมีการมอบหมายภารกิจ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์ รับหน้าที่ประสานงานเตรียมการรับผู้แทนพระองค์, ตำรวจภูธรกาฬสินธุ์จัดระเบียบจราจร, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดหน่วยปฐมพยาบาล, ที่ทำการปกครองจังหวัดกาฬสินธุ์คัดเลือกราษฎรที่ประสบภัยหนาว 950 คน, สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์, สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดและอำเภอกมลาไสย จัดเตรียมสถานที่และอาหารเครื่องดื่ม, สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์จัดเตรียมรถตู้ เพื่อรับผู้แทนพระองค์ รวมทั้งคณะผู้ติดตามตลอดงาน ส่วนการแต่งกายข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติชุดกากีคอพับแขนยาว และประชาชนชุดสุภาพ

นายสุรพจน์ รัชชุสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์มีประสบการณ์ในการรับเสด็จอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าทุกหน่วยงานจะสามารถทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดียิ่งเหมือนที่เคยปฏิบัติ



วิภาดา รัตนโรจนา รายงาน

เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์จัดโครงการ แอโรบิค เพื่อสุขภาพที่ดีไม่มีโรคภัย

เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จัดโครงการออกกำลังกายแอโรบิค เพื่อสุขภาพที่ดีไม่มีโรคภัย ส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย ช่วงหน้าหนาว สร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย สุขภาพแข็งแรง

ที่ลานกีฬาต้านยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดโครงการออกกำลังกาย "แอโรบิค” เพื่อสุขภาพที่ดีไม่มีโรคภัย ซึ่งกองทุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในเขตเทศบาลและผู้รักการออกกำลังกาย รู้จักดูแลสุขภาพของตัวเอง ได้รู้จักวิธีการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี และเหมาะสมกับวัย อายุ และสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีแก่สมาชิกที่มาร่วมกันออกกำลังกาย สำหรับลานกีฬาต้านยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุมาร่วมกิจกรรมแอโรบิคกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการออกกำลังกาย สุขภาพแข็งแรง และเป็นการออกกำลังกายคลายหนาวได้อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งแต่ละวันก็จะมีผู้นำเต้นแอโรบิค ที่ถูกต้อง ไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ



ดวงใจ   หงษ์จันทร์   ข่าว / ภาพ

กรมปศุสัตว์จัดงานวันกระบือแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ในงานเกษตรภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น

งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มกราคมถึง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ อุทยานเทคโนโลยี การเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่นในงาน มีกิจกรรมน่าสนใจ ได้แก่ การประกวด กระบือ ประกวดโคเนื้อ โคนม   การจัดนิทรรศการ การจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปศุสัตว์ภายใต้ชื่อ "โค-กระบือไทย ก้าวไกลสู่อาเซียน” โดยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ และกระบือจากทั่วประเทศนำ กระบือมาเข้าร่วมการประกวดกระบือสวยงามชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  และในงานนี้ทางกรมปศุสัตว์ร่วมกับหมู่บ้านควายไทยได้จัดให้มีการแข่งขัน กระบือไถนา และ การให้ผู้มาร่วมงานได้ทดลองฝึกหัดการไถนาตามวิถีไทยที่มีมา อย่างยาวนานและปัจจุบันการใช้ควายไถนา เริ่มมีน้อยลง จึงต้องมีการส่งเสริมสนับสนุนเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้รักการทำนาและรักการเกษตร ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่ยังพัฒนาได้อีก และยังสร้างรายได้พัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่องหากมีการศึกษาและนำเทคโนโลยีมาช่วย


ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรโคเนื้อ อยู่ประมาณ 6 ล้านตัว กระบือ 1.5 ล้านตัว สามารถส่งออกไปยัง ต่างประเทศสร้างมูลค่า กว่า 2,000 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเลี้ยงโค และกระบือสอดคล้องกับแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นเวทีพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแสดงผลงานการพัฒนาการผลิตโคเนื้อ และกระบือ กระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจพัฒนาการผลิตโคและกระบืออย่างจริงจังผู้สนในก็มาชมการประกวดได้ทุกวันถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงานวันเกษตรภาคอีสาน ประจำปี 2557 ภายใต้คำขวัญ “50 ปี การพัฒนาเกษตรอีสานสู่มาตรฐานเกษตรอาเซียน”

งานดังกล่าว เปิดขึ้นที่อุทยานเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานและถือเป็น การร่วมฉลองครบรอบ 50 ปี คณะเกษตรศาสตร์ และ 50 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่นด้วย ซึ่งในงานมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมจัดงานและแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย งานวิชาการที่เกี่ยวกับงานเกษตรทุกอย่าง รวมทั้งเป็นเวทีเผยแพร่องค์ความรู้ใหม่ เทคโนโลยี นวัตกรรมด้านการเกษตรล่าสุดแก่ผู้สนใจทั่วไป เกษตรกรไทยและเกษตรอาเซียน ก้าวย่างอย่างมั่นใจนำทางเกษตรไทยสู่อาเซียน มีการจัดนิทรรศการที่หลากหลาย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านการพัฒนาการเกษตร การจัดนิทรรศการองค์ความรู้ และเทคโนโลยีการเกษตร ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เช่น พืชทดแทนพลังงาน ผลงานวิจัยการปรับปรุงพันธุ์พืชชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะพันธุ์พืชเฉลิมพระเกียรติ การปรับปรุงพันธุ์สัตว์ การประมง การนำเทคโนโลยีทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการเกษตร การจัดแสดงระบบการทำฟาร์มที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกร เช่น การจัดแปลงสาธิตไร่นาสวนผสมของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ แปลงสาธิตเกี่ยวกับการปลูกยางพาราร่วมกับพืชเศรษฐกิจอื่นๆ แปลงสาธิตระบบชลประทานแบบประหยัดน้ำของอิสราเอล และการสาธิตฟาร์มเลี้ยงโคนมสำหรับเกษตรกร รวมทั้งการจัดแสดงผลงานวิชาการด้านหม่อนไหมและการใช้ประโยชน์ การจัดแสดงนิทรรศการทางด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการแข่งขันผลผลิตการเกษตร การประกวดภูมิปัญญาอีสานและ จำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตรทุกชนิด  ก็ขอเชิญผู้สนใจไปร่วมชมงานได้ระหว่างวันที่ 24 มกราคมถึง 2 กุมภาพันธ์ 2557

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น เปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส.

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น  กรมประชาสัมพันธ์  เปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์ และข้อมูลการเลือกตั้ง ส.ส.  2  กุมภาพันธ์  2557 เพื่อเป็นศูนย์อำนวยการประชาสัมพันธ์รวบรวมข้อมูลข่าวสาร และรายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส.

บ่ายวันนี้ (24 มกราคม  2557)  ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายโทรทัศน์ขอนแก่น  นายเสรี  จูบุญส่ง ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น ได้เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการประสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะมีขึ้นในวันที่  2  กุมภาพันธ์  2557 โดยมีผู้บริหารและสื่อมวลชน ไปร่วมจำนวนมาก

ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 เปิดเผยภายหลังการเปิดศูนย์ว่า  ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 เมื่อวันที่  9  ธันวาคม  2556  และมีประกาศวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ตรงกับวันอาทิตย์ที่  2  กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2557  สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น  ได้จัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้น  เพื่อทำหน้าที่ในการอำนวยการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งรวบรวมข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้ง ผลิต/แจกจ่ายสื่อประชาสัมพันธ์/รายงานบรรยากาศ และผลการเลือกตั้ง  เป็นศูนย์สั่งการด้านการประชาสัมพันธ์แก่หน่วยงานในสังกัดได้แก่  สถานีวิทยุโทรทัศน์ขอนแก่น  และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย 15 สถานีในพื้นที่  11  จังหวัด  รวมทั้งให้บริการข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งแก่สื่อมวลชน  และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน (อป.มช.)  ใน  11  จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่จังหวัดขอนแก่น  มหาสารคาม  กาฬสินธุ์  สกลนคร  บึงกาฬ  หนองคาย  อุดรธานี  หนองบัวลำภู  เลย  ชัยภูมิ  และจังหวัดนครราชสีมา



สมพงษ์  ปัตตานี/ข่าว/อารมย์/พิมพ์/24 ม.ค.57

จังหวัดขอนแก่นรณรงค์สนับสนุน การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและเชิญชวนให้ ชาวขอนแก่นออกไปเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์

วันนี้ นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานเดินรณรงค์เชิญชวนชาวขอนแก่นออกไปเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจัดที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น สำหรับจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันเดินรณรงค์ สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และเชิญชวนชาวขอนแก่นไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557   โดยมีข้าราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน  กลุ่มสตรี อสม.  พลังมวลชน ประชาชนและนักเรียนนักศึกษา  รวมทั้งผู้พิการมาร่วมเดินรณรงค์ จำนวนมาก โดยเดินไปตามถนนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นเพื่อ เชิญชวนและประชาสัมพันธ์สร้างกระแสการตื่นตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และเน้นย้ำให้คนขอนแก่นสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นระบอบที่ประเทศไทยใช้มาอย่างยาวนาน โดยขอให้ทุกคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งและเลือกคนดีเข้าไปเป็นตัวแทนของเรา

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่นเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง สส. 2 กพ.2557

วันนี้ (24 ม.ค. 2557) เวลา 13.00 น. นายเสรี จูบุญส่ง ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 เป็นประธานเปิด ศูนย์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 กพ2557 ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายโทรทัศน์ขอนแก่น เอฟ เอ็ม 98.50 เมกะเฮิรตซ์ ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 ณ วันที่ 9ธันวาคม 2556 และมีประกาศวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ได้จัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการอำนวยการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง รวบรวมข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้ง ผลิต แจกจ่ายสื่อประชาสัมพันธ์ และรายงานบรรยากาศและผลการเลือกตั้ง โดยเป็นศูนย์สั่งการด้านการประชาสัมพันธ์แก่หน่วยงานในสังกัด ได้แก่ สทท.ขอนแก่น และ สวท.11 จังหวัด 15 สถานี รวมทั้งให้บริการข้อมูลการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งแก่สื่อมวลชน และอป.มช. 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ สกลนคร บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ชัยภูมิ และนครราชสีมา โดยศูนย์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ได้จัดรายการ เกาะติดเลือกตั้ง 57 ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายโทรทัศน์ขอนแก่น เอฟ เอ็ม 98.50 เมกะเฮิรตซ์ และเชื่อมโยงสัญญาณถ่ายทอดเสียงพร้อมกัน อีก15 สถานี ใน 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เน้น สื่อสารสนเทศและสื่อใหม่ (New Media) ผลิต Digital Content เผยแพร่ทาง เวปไซต์ Social Media และ Mobile Device ผลิตและเผยแพร่ข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่(SMS) รวมทั้งการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย 15 สถานี รายงานสดบรรยากาศวันลงคะแนนเลือกตั้ง ความเคลื่อนไหวการเลือกตั้ง ส.ส.


ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ปิดฉากกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 41 มอดินแดงเกมส์

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็น ประธานปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 "มอดินแดงเกมส์” ที่สนามกีฬากลางภายในหาวิทยาลัยขอนแก่น เจ้าภาพ ภายใต้แนวคิด "ขุมปัญญาแห่งอีสาน พื้นตำนานมอดินแดง” ก่อนจะมีการส่งธงเจ้าภาพครั้งต่อไปให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน การแข่งขัน สรุปเหรียญรางวัล 112 สถาบัน 353 เหรียญทอง โดยมหาวิทยาลัยที่ได้เหรียญทองสูงสุด คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 55 เหรียญทอง รองลงมา คือ สถาบันพลศึกษา จำนวน 46 เหรียญทอง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวน 22 เหรียญทอง จากนั้น ได้มีพิธีส่งมอบธงการแข่งขันให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ส่งมอบธงการแข่งขันให้ ศ.ดร.ประสาท สืบค้า ประธานคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ก.ก.ม.ท.) และส่งต่อให้ รศ.ดร.สมบัติ ชิณะวงศ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งใช้ชื่อ "นนทรีเกมส์” ขบวนแห่รับธงของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เข้าสู่สนามพร้อมขบวนกลองยาว โดยมีมาสคอต "แสนรัก" ซึ่งมีที่มาจากโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน หรือน้อง"แสนรัก” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการจัดการแข่งขันครั้งนี้ มีลักษณะนิสัยที่น่ารัก น่าเอ็นดู แข็งแรง ร่าเริงสนุกสนาน เป็นมิตรกับทุกคน ร้อมทั้งขบวนเชิญธงของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีมาสคอตการแข่งขันกีฬา "มอดินแดงเกมส์" น้องกับปพฤกษ์ พี่มอดินแดง พลุไฟที่พุ่งขึ้นเปล่งแสงประกายงดงามลูกแล้วลูกเล่าเหนือสนามกีฬา 50 ปี มข. หลังการแสดงจบลง ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง สร้างความตราตรึงในหัวใจให้กับทัพนักกีฬา ผู้เข้าร่วมชมพิธีปิด ตลอดทั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 เป็นภาพที่จะประทับใจอันยิ่งใหญ่ในความทรงจำของทุกคนตลอดไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปเลือกคั้ง 2 ก.พ. 2557

ในวันนี้ 24 มกราคม 2557 เวลา 08.30 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นาย วิวัฒ เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นหัวหน้าส่วนราชการ เปิดการเดินรณณรงค์ ใหญ่ประชาสัมพันธ์ ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. 2 กุมภาพันธ์ 2557 จากสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เดินรณรงค์ไปตามถนนสายต่าง ๆ ถนนกลางเมือง ถนนหน้าเมือง ถนนมะลิวรรณ ถนนประชาสโมสร ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ในวันที่อาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. เพื่อเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จังหวัดขอนแก่น จึงได้กำหนดให้มีการเดินรณรงค์ครั้งใหญ่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของตนเองตามหน้าที่ โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พลังมวลชน นักเรียน นักศึกษา ออกมาเดินรณรงค์ถือป้ายเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามถนนสายต่าง ๆ ตามเขตชุมชน โรงเรียน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นพร้อมจัดการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ให้ชาวขอนแก่น ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างพร้อมเพรียงที่สุด ทางจังหวัดยังคงประสานการทำงานร่วมกับ คณะกรรการการเลือกตั้งเพื่อเชิญชวนให้ชาวขอนแก่น ออกมาใช้สิทธิกันมากที่สุดแผนการดำเนินงานนอกจากการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แล้วยังคงจะมีการเดินรณรงค์เพื่อให้ความรู้ในการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 มกราคม 2557 และเผยแพร่ความรู้ในด้านกฎหมายของการเลือกตั้งอีกด้วย ได้กำชับให้ข้าราชการทุกฝ่ายวางตัวให้เป็นกลางทางการเมือง แม้สถานการณ์การชุมนุมหรือเหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นในลักษณะใด แต่การจัดการเลือกตั้งยังคงต้องดำเนินการต่อไปซึ่งขณะนี้ความพร้อมของการจัดการเลือกตั้งพร้อมแล้วโดยทั้งหมด โดยยังมั่นใจว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม จังหวัดขอนแก่นมีทั้งหมด 26 อำเภอ 198 ตำบล 2,331 หมู่บ้าน ประชาชน 1.7 ล้านคน มีสส. 10 คน จาก 10 เขตดลือกตั้ง มีหน่วยเลือกตั้ง 2,671 หน่วยเลือกตั้ง บุคลากรประจำหน่วยเลือกตั้ง 32,000 คน ในการเลือกตั้ง 2 กพ.2557 มีพรรคการเมืองสมัคร 12 พรรค จำนวน 40 คน





ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชาสัมพันธ์ผ่านรายการผวจ.พบประชาชนเรื่องมูลนิธิราชประชานุเคราะห์มอบเครื่องกันหนาวให้ราษฎรประสบภัยหนาวในพื้นที่ขอนแก่น

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชาสัมพันธ์ผ่านรายการผู้ว่าพบประชาชน ทางสวท.ขอนแก่น ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกให้ความช่วยเหลือ ราษฏรผู้ประสบภัยหนาว ในอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการไปมอบผ้าห่มกันหนาว พระราชทานให้แก่ผู้ประสบภัยหนาว ณ หอประชุมเทศบาลเมืองชุมแพ อำเภอ ชุมแพ จำนวน 500 ผืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ประสบภัยหนาวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาและหนาวต่อเนื่องมาตลอด สำหรับจังหวัดขอนแก่นได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยครบทั้ง 26 อำเภอ ผู้ประสบภัย 1..8 ล้านคนแต่กลุ่มเสี่ยงเด็กผู้สูงอายุจำนวนกว่า 4 แสนราย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เหล่ากาชาดจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยหนาวมาโดยตลอดและนำคณะไปมอบ ผ้าห่มกันหนาว พระราชทานให้แก่ผู้ประสบภัยหนาว ณ หอประชุมอำเภอโคกโพธิ์ไชยจังหวัดขอนแก่น จำนวน 500 ผืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ประสบภัย จังหวัดขอนแก่นประสบภัยหนาวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาและหนาวต่อเนื่องมาตลอด โดยจังหวัดขอนแก่นได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยหนาวครบทั้ง 26 อำเภอเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาโดยตลอด ตอนนี้มีการช่วยเหลือไปแล้วทั้งผ้าห่มกันหนาวและเสื้อกันหนาวรวม41,059 ชิ้นสำหรับจังหวัดขอนแก่นมีผู้ประสบภัยหนาวกว่า 4 แสนคน





ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขก

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชาสัมพันธ์ผ่านรายการผวจ.พบประชาชนเรื่องงานบุญคูนลานข้าวปี 2557

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชาสัมพันธ์ผ่านรายการผู้ว่าพบประชาชน ทางสวท.ขอนแก่น ว่างานประเพณีบุญคูนลานสู่ขวัญข้าว ประจำปี พ.ศ. 2557 ณ วัดราษฏร์บำรุง บ้านหนองแขม ต.แวงน้อย อ.แวงน้อย โดยมีนางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาด จ.ขอนแก่น ร่วมเป็นเกียรติในงาน

งานประเพณีบุญคูนลาน เป็น 1 ในฮีต 12 ของพี่น้องชาวอีสานที่ยังคงมีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ต่อชีวิตจิตใจของพี่น้องชาวอีสานมาอย่างต่อเนื่อง แสดงออกถึงความรัก ความสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ของหมู่บ้าน ชุมชน เป็นการสืบสาน อนุรักษ์ และเผยแพร่ศิลปะ ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของบรรพบุรุษให้ลูกหลานคนรุ่นหลัง ได้รับรู้ และร่วมสืบสานประเพณีที่ดีให้คงอยู่สืบไปงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่และของดีอำเภอบ้านไผ่ ประจำปี พ.ศ. 2557 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอบ้านไผ่ แสดงออกถึงความสำนึกและเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของพี่น้องประชาชนชาวบ้านไผ่ ผู้นำท้องถิ่น ภาคราชการและภาคเอกชนของอำเภอบ้านไผ่ ที่จะช่วยกันธำรงไว้ซึ่งงานประเพณีที่ปฏิบัติต่อเนื่องมาอย่างยาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษ อันเป็นประเพณีอันดีงามของวิถีชีวิตแบบชาวไทยอีสาน จนเรียกกันว่า “ฮีตสิบสองครองสิบสี่”



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

อุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ปี 2557

วันนี้ (23 ม.ค. 2557) เวลา 10.00 น. ณ ห้องภูผาม่าน โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล อ.เมือง จังหวัดขอนแก่น นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดการสัมมนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ปี 2557 ตามที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นดำเนินโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของประชาชน เสริมสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังการเกิดผลกระทบด้านมลพิษของสถานประกอบการ มีการบรรยายเรื่อง การเฝ้าระวังและบริหารจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในสถานประกอบการ ปัญหาสิ่งแล้อมจากสถานประกอบการ หารทับถมของกรด มลพิษทางน้ำ ทางอากาศ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก กฎหมายสิ่งแวดล้อม การทำ CSR เพราะธุรกิจไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในสังคมที่ล้มเหลว แนวคิดเทคโนโลยีสะอาด ประสบการณ์การสร้างและประสานเครือข่ายจาก นายสำเริง ลอยมณี หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และวันที่ 27-28 มกราคม 2557 ศึกษาดูงานที่จังหวัดสระบุรีและจังหวัดชัยภูมิ






ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปิดสาขาใหม่ที่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมมอบรางวัลแก่เกษตรกรผู้โชคดีที่ฝากเงินออมทรัพย์ทวีโชค

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่นเพื่อให้บริการที่ครบวงจรสำหรับลูกค้าในพื้นที่ให้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้นและ ในงานนี้ ทาง ธกส. ขอนแก่น  ได้จัดให้มีพิธีมอบรางวัลแก่เกษตรกรผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากการฝากเงินออมทรัพย์ทวีโชค ประจำปี 2557 โดยรางวัลที่ 1 รถยนต์เก๋ง นิสสัน อาเมล่า 6 รางวัล  รางวัลที่ 2 รถจักรยานยนต์ 30  คัน และรางวัลอื่นๆ ทั้งทองคำ จักรยาน เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกจำนวนมาก มีเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่นทั้ง 26 อำเภอ ทะยอยมารับรางวัลอย่างต่อเนื่อง และงานนี้มีนักร้องวัยใสขวัญใจลูกหลานชาวขอนแก่น ไอซ์ อูคูเลเล่ มาขับกล่อมเสียงเพลงให้กับผู้มาลุ้นรางวัลตลอดงาน รวมทั้งห้างร้านเครือข่ายลูกค้า ธกส. มาเปิดบูธให้บริการกับเกษตรกรด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิลุ้นรางวัลจาก ธกส. ต้องเป็นผู้ที่เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค มียอดเงินฝากที่เหลือในบัญชีไม่น้อยกว่า 2,000 บาท ถ้ามียอดเงินฝากมากก็มีสิทธิลุ้นรางวัลมากโดย ธกส.จะจับรางวัลปีละ 2 ครั้ง คือเดือนมกราคม และเดือนกรกฎาคม และนอกจากจะมีสิทธิลุ้นรางวัลใหญ่ของจังหวัดแล้วในแต่ละปีเกษตรกรผู้ฝากเงินยังมีสิทธิลุ้นรางวัลระดับประเทศอีกด้วย

การค้าภายในจังหวัดชัยภูมิแจ้งประกาศราคาแนะนำสำหรับการรับซื้อ และจำหน่ายสุกร

การค้าภายในจังหวัดชัยภูมิแจ้งประกาศราคาแนะนำสำหรับการรับซื้อ และจำหน่ายสุกร นางสาวนัชศนันท์ หาญรบ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ รักษาราชการในตำแหน่งการค้าภายในจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยกับนางธัญญรัตน์ โรจนหัสดิน ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ ว่า สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ออกประกาศราคารับซื้อ และราคาจำหน่ายสุกร เนื้ออสุกรแนะนำ ระหว่างวันที่ 24-29 มกราคม 2557 โดยพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เป็นดังนี้ สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ราคารับซื้อกิโลกรัมละ 76 บาท สุกรชำแหละ(หมูซีก) ราคาจำหน่ายไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 90 บาท ชิ้นส่วนหมูเนื้อแดง (ไม่ตัดแต่ง)ราคาจำขายส่งไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 124 บาท ราคาขายปลีกไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 140 บาท (ยกเว้นเนื้อคุณภาพพิเศษ) ชิ้นส่วนหมูเนื้อแดง (ตัดแต่ง)ราคาจำขายส่งไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 151 บาท ผู้จำหน่ายปลีกต้องแสดงราคาจำหน่าย และจำหน่ายให้ตรงกับราคาที่แสดงไว้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 28 แห่ง พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2552 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือผู้รับซื้อหรือผู้จำหน่าย หรือได้รับการร้องเรียนว่ามีการไม่รับซื้อหรือไม่จำหน่ายตามราคาแนะนำข้างต้น อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2552 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



จรุงจิต ฝางชัยภูมิ ข่าว ส.ปชส.ชัยภูมิ

จังหวัดชัยภูมิ นำสื่อมวลชนร่วมเสวนาเพื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง

นางธัญญรัตน์ โรจนหัสดิน ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนผู้แทนราษฎร และได้ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 กรมประชาสัมพันธ์ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเวทีเสวนาสื่อมวลชนตามโครงการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สื่อมวลชนทุกแขนง มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และนำข้อมูลไปประชาสัมพันธ์ยายผลให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจ พร้อมมีข้อมูล ประกอบการตัดสินใจในการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ดีมีคุณภาพ ดังนั้นสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ จึงได้จัดเวทีเสวนาสื่อมวลชนตามโครงการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2556 ณ ห้องแคนา ร้านโสเจ๊ง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ โดยมี นายนิพนธ์ สาธิตสมิตพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานในพิธีเปิดเวทีเสวนาพร้อมบรรยายพิเศษ "การเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดชัยภูมิ” ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชัยภูมิ บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ กฎ ระเบียบและข้อมูลการเลือกตั้ง ส.ส. และวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เรื่อง การดูแล รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมทั้งการเสวนาช่องทางการส่งข่าวและรายงานข่าวความเคลื่อนไหวการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมีสื่อมวลชน ผู้ดูแลหอกระจายข่าว และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน เข้าร่วมการเสวนา จำนวน 40 คน นอกจากนี้ยังได้มีการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดชัยภูมิ ให้ประชาชนได้รับฟังกันอย่างทั่วถึงอีกด้วย.




เพชรรินทร์ เขียวเขว้า.....ข่าว

กกต.โคราช จัดการอบรมโครงการดีเจประชาธิปไตยชุมชนส่งเสริมการเลือกตั้ง 2 กพ 2557

วันนี้ (24 ม.ค. 57) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วัดสุทธจินดา พลโทอัศวิน รัชฏานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการดีเจประชาธิปไตยชุมชนส่งเสริมการเลือกตั้ง โดยนำนักจัดรายการวิทยุชุมชน ผู้ดูแลหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน มาเข้ารับการอบรม เพื่อเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข โดยหวังให้สื่อเหล่านี้ออกไปรณรงค์ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหมู่บ้าน ชุมชน ออกไปใช้สิทธิตามหน้าที่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

ด้าน พลโทอัศวิน รัชฏานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.นครราชสีมา มีความพร้อม ในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 334 แห่ง (มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา เทศบาลเมือง 4 แห่ง เทศบาลตำบล 84 แห่งและองค์การบริหารส่วนตำบล 244 แห่ง) มี ส.ส.ได้ 15 คน มีราษฎรจำนวน 2,609,122 คน (ณ ตุลาคม 2556) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 1,945,991 คน ครัวเรือน จำนวน 866,468 คน มีหน่วยเลือกตั้ง/ที่เลือกตั้ง จำนวน 4,483 หน่วย ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง 32 แห่ง และที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัด 1 แห่ง มีเขตเลือกตั้ง จำนวน 15 เขตเลือกตั้ง พลโทอัศวิน กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งยังได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง และการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัด ซึ่งในจังหวัดนครราชสีมา คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้อาคารเอนกประสงค์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นสถานที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัดนครราชสีมา

โคราชจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหวังสร้างความสามัคคีในชุมชนลดความขัดแย้ง

วันนี้ (24 ม.ค. 57) เวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนชุมชนประโดก-โคกไผ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่าที่ร้อยตรีนิรันดร์ ดุจจานุทรรศน์ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาท้องถิ่นอำเภอเมืองสัมพันธ์ ครั้งที่ 10 ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคน เป็นการสร้างความสามัคคี ความมีน้ำใจเอื้ออาทรกัน และถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นในแต่ละท้องถิ่น และในครั้งนี้ยังเป็นการรวมพลังความสามัคคีขององค์การการปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมาทั้ง 25 แห่ง ทำให้เกิดการผนึกกำลังความสามัคคีในมวลหมู่สมาชิกสภาท้องถิ่น ทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายสภา เจ้าหน้าที่ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในแต่ละองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ทำให้หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานเพื่อให้บริการประชาชน ซึ่งในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน การสร้างความสมัครสมานสามัคคีในท้องถิ่นถือว่ามีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องช่วยกันให้เกิดความสมานฉันท์ในชุมชน และของประเทศโดยรวม.สำหรับกิจกรรมภายในงานได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน การแข่งขันเซปักตะกร้อ การแข่งขันแชร์บอล การแข่งขันเปตอง และการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ซึ่งสร้างความสนุกสนานให้กับ เจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาร่วมการแข่งขันกว่า 1,000 คน

จังหวัดนครราชสีมาจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1

วันนี้ (24 ม.ค. 57) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการอาเซียน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 เพื่อพัฒนาการบริหารงานในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดสุรินทร์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา รวมทั้งเพือ่เป็นการสนับสนุนการพัฒนาเชิงพื้นที่ให้สอดคล้องกับการความร่วมมือในการพัฒนาในประชาคมอาเซียน กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค และยุทศาสตร์ประเทศในปีงบประมาณ 2557

มูลนิธิโครงการหลวง ขอเชิญชวนชาวจังหวัดนครราชสีมา สนับสนุนพืชผักเมืองหนาว ที่นำมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง 27 มกราคม นี้

ด้วยมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการช่วยเหลือชาวเขา โดยการส่งเสริมให้ปลูกพืชเมืองหนาวทดแทนการปลูกฝิ่น และฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรบนพื้นที่สูงมาตั้งแต่ปี 2512 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีผลผลิตหลากหลายชนิดที่เกิดจากผลงานดังกล่าว ทั้งนี้กระบวนการผลิตเน้นความปลอดภัยทั้งต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตลอดจนสนับสนุนผลิตผลของเกษตรกรชาวเขาที่ได้รับการส่งเสริมด้านอาชีพจากมูลนิธิโครงการหลวงให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคมากขึ้น
มูลนิธิโครงการหลวง จึงใคร่ขอเชิญชวนชาวจังหวัดนครราชสีมา สนับสนุนพืชผักเมืองหนาวที่เป็นผลผลิตสดจากยอดดอย มากกว่า 20 ชนิด อาทิ ผักกาดห่อ (สลัดแก้ว) บร็อคโคลี่ บร็อคโคโลนี่ ถั่วหวาน ปวยเหล็ง คะน้าฮ่องกง เบบี้คอส ฯลฯ ซึ่งจะนำมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ราคาย่อมเยา ในวันที่ 27 มกราคม 2557   ตั้งแต่เวลา 08.00 น.  เป็นต้นไป ณ บริเวณหน้าอำเภอเมืองนครราชสีมา  บริเวณหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา  โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  ตลาดหนองไผ่ล้อม  และบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี   

ผู้ว่าโคราชนำหัวหน้าส่วนราชการเข้าวัด ตามโครงการ ผู้ว่าฯพาเยี่ยมวัด ทุกวันพระ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมโครงการสวดมนตร์ข้ามเดือนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งกำหนดจัดขึ้นวันที่ 31 มค 57 นี้

วันนี้ (23 ม.ค. 57) เวลา 07.30 น. ที่วัดช่องอู่ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายประพาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันถวายภัตตาหารเช้าให้กับพระภิกษุสงฆ์ ที่จำพรรษาอยู่ที่วัดช่องอู่ พร้อมรับฟังธรรมเทศนา ตามโครงการผู้ว่าฯพาเยี่ยมวัด ทุกวันพระ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ข้าราชการและประชาชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมทั้งส่งเสริมประเพณีทางพระพุทธศาสนาอันดีงามของชาติไทย และถวายเป็นพุทธบูชา นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มาตรวจสุขภาพให้กับประชาชนและข้าราชการ ที่มาร่วมงาน อีกด้วย

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้เชิญชวนหน่วยงานในระดับจังหวัด ร่วมกับหน่วยงานในระดับอำเภอ และประชาชนในแต่ละพื้นที่ ร่วมโครงการสวดมนตร์ข้ามเดือนที่ทางจังหวัดจะเริ่มจัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 31 มค. 57 นี้ ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ตั้งแต่เวลา 18.00 น-20.00 น.

จังหวัดนครราชสีมา จัดมหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนครัวเรือนที่ยากจนให้สามารถบริหารจัดการชีวิตตนเองได้อย่างเหมาะสม

วันนี้ (23 ม.ค. 57) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ มหกรรมหลุดพ้นความยากจนด้วยคนโคราช ประจำปี 2557 ภายใต้แนวความคิด มหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนครัวเรือนที่ยากจนให้สามารถบริหารจัดการชีวิตตนเองได้อย่างเหมาะสม ดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถพึ่งตนเองและชุมชนได้อย่างยั่งยืน สำหรับกิจกรรมภายในงาน ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการ ศจพ.จ.นม.ซึ่งมาจากหลายหน่วยงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และการลงนามระหว่างกองทุนชุมชนระดับจังหวัดกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากในพื้นที่ให้บรรลุเป้าหมาย การจัดนิทรรศการการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ นิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการการคัดแยกขยะ นิทรรศการประหยัดพลังงานและพลังงานทดแทน และการสาธิตอาชีพเพื่อสร้างรายได้เสริม เป็นต้น ด้าน

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมามีครัวเรือนยากจนที่ตกเกณฑ์ราบได้จากข้อมูล จปฐ. ปี 2556 จำนวน 2,135 ครัวเรือน ใน 32 อำเภอ 310 ตำบล 886 หมู่บ้าน การจัดงานมหกรรมหลุดพ้นความยากจนด้วยคนโคราช ประจำปี 2557 ภายใต้แนวความคิด มหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน และแนวคิด ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส โดยหลักๆคือการนำครัวเรือนยากจนที่มีศักยภาพ และพี่เลี้ยงครัวเรือนที่สามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมระยะสั้นไปเป็นกิจกรรมทางเลือกในการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้หลุดพ้นความยากจนและอาศัยแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เช่น การลด และเลิกอบายมุข การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายครัวเรือน เพื่อรู้รายจ่ายส่วนเกินไปลดส่วนที่ไม่จำเป็น เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ จัดงานวันหัวผักกาดขาว ของดีเมืองกระสัง และงานกาชาดประจำปี 2557

อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ จัดงาน "วันหัวผักกาดขาว ของดีเมืองกระสัง และงานกาชาดประจำปี 2557” พบกับการ ประกวดหัวผักกาดขาว ประกวดข้าวหอมมะลิ การแข่งขันหมี่ยำไทย ประกวดผ้าไหม ประกวดธิดากาชาดกระสัง นิทรรศการผลิตผลทางการเกษตร เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะหัวผักกาดขาวที่ขึ้นชื่อของอำเภอกระสัง

ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดการจัดงานประจำปี "วันหัวผักกาดขาว ของดีเมืองกระสัง และงานกาชาดประจำปี 2557” ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับอำเภอกระสัง เทศบาลกระสัง เทศบาลอุดมธรรม รวมทั้งหน่วยงานสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอกระสัง ได้จัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 22 – 26 มกราคม 2557 โดยมี พล.ต.เสริมศักดิ์ นิยะโมสถ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก นายอำเภอ ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวงานกันเป็นจำนวนมาก

ภายในงานพบกับการ ประกวดหัวผักกาดขาว ประกวดข้าวหอมมะลิ การแข่งขันหมี่ยำไทย ประกวดผ้าไหม ประกวดธิดากาชาดกระสัง การแสดงมหรสพขบวนแห่วัฒนธรรม รำหัวผักกาด นิทรรศการผลิตผลทางการเกษตร การละเล่นพื้นเมืองของตำบลต่าง ๆ นอกจากนั้นยังได้มีการจัดแสดงผลผลิตทางการเกษตรจากทุกพื้นที่ในอำเภอกระสัง การทอผ้าไหม การทำยาสูบ การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง หัวไชโป๊ว ข้าวหอมมะลิ และการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอท๊อป ทั้งในพื้นที่จังหวัดและพื้นที่ข้างเคียง

ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะหัวผักกาดขาดที่ขึ้นชื่อของอำเภอกระสัง และเพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีท่องเที่ยวท้องถิ่น ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

สืบภูธรบึงกาฬจับแก๊งค้ากัญชาคารีสอร์ทผู้ต้องหา 2 คน

สืบภูธรบึงกาฬจับแก๊งค้ากัญชาคารีสอร์ทผู้ต้องหา 2 คน‏ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ สนธิกำลัง ตชด.244 ตำรวจน้ำ ทหารพราน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หน่วย นรข. และบก.ปทส. บุกเข้าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดคาห้องพักรีสอร์ท ได้ผู้ต้องหา 2 คน กัญชา 240 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านบาท ยาบ้า 10 เม็ด อ้างรับจ้าง 20,000 บาท ไปส่งจังหวัดอุดรธานี

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 21 พ.ย.56 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผวจ.บึงกาฬ พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายอภิชาติ รูปดี อายุ 31 ปี อยู่บ้าน 46 หมู่ที่ 7 ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และ นายประวิทย์ ชุมพล อายุ 19 ปี อยู่บ้าน 655/1 ถ.สำราญชายโขง เหนือ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร ของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง 240 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านบาท รถยนต์เก๋งฮอนด้ารุ่น แอคคอร์ดสีเทา ทะเบียน 6686 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง วิทยุสื่อสารคอยดักฟังคลื่นตำรวจ 1 เครื่อง

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก. สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาพักอยู่ในเขตจังหวัดบึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังข์ ผกก.กก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ สนธิกำลังกับ พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย ตชด.244 บึงกาฬ พ.ต.บุญรุ่ง สุทธิสุวรรณ ผบ.ร้อย ทพ.2103 บึงกาฬ พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.หน.ชุด ศพส.ภ.4 พ.ต.ท.วัลลภ ขุนหมื่น สวญ.ตม.บึงกาฬ พ.ต.การันต์ มินวงษ์ หน.สถานีเรือ นรข.บึงกาฬ ร.ต.ต.สันติชัย รมพิพัฒน์ กก.3 บก.ปทส.บึงกาฬ และนายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากร วางแผนจับกุม ภายหลังการออกสืบสวนหาข่าวจนทราบแน่ชัดว่ากลุ่มคนร้ายได้เข้าไปพักยาเสพติด เพื่อเปลี่ยนรถและพักนอนค้างคืนอยู่ที่ห้อง วี 16 ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในบ้านแสนสุข หมู่ที่ 11 ต.บึงกาฬ ถนนสาย 222 บึงกาฬ – พังโคน จึงบุกเข้าไปจับกุมได้ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอน ค้นในกระเป๋าของ นายอภิชาติ พบยาบ้า 10 เม็ด ตรวจค้นในท้ายรถเก๋งพบกระสอบปุ๋ยมีถุงพลาสติกสีดำห่อหุ้มอยู่ชั้นในจำนวน 6 กระสอบ เปิดออกดูเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง 240 แท่ง น้ำหนัก 240 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลางพร้อมโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

สอบสวน นายอภิชาติ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับจ้างเป็นเงิน 20,000 บาท จากเสี่ยไม่ทราบชื่อให้ขับรถมารับกัญชาในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ จ.อุดรธานี โดยได้เข้าพักในรีสอร์ทเพื่อรอเปลี่ยนรถ แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน จึงถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) และยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินคดีต่อไป

จังหวัดบึงกาฬร่วมประชุมไทย-ลาวทำข้อตกลงเรื่องแพขนานยนต์ เรือโดยสาร

วันนี้ (22-01-57) เวลา 14.00 น. ณ ห้องมังกรทอง โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬได้มีการจัดประชุมและทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันเรื่องเกี่ยวกับการขนส่งทางแพขนานยนต์ เรือโดยสาร พาหนะเข้า – ออกด่านจังหวัดบึงกาฬ - แขวงบอริคำไซ ครั้งที่ 1 ระหว่างจังหวัดบึงกาฬโดยมี นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายจังหวัดบึงกาฬ กับ แขวงบอริคำไซ สปป.ลาว โดยมี ดร.สุวันนี ไชชะนะ รองเจ้าแขวงบอริคำไซ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนจากแขวงบอริคำไซ สปป.ลาว

การประชุมในครั้งนี้เป็นการทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้เกิดความสะดวก ความปลอดภัยและปฏิบัติตาม กฎระเบียบของแต่ละประเทศในการขนส่งสินค้า โดยใช้แพขนานยนต์ การเดินทางข้ามแดนโดยการใช้เรือโดยสาร และเป้นการรองรับการขยายตัวของจังหวัดบึงกาฬและแขวงบอริคำไซที่จะเติบโตและเจริญขึ้นในอนาคตอีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองเมืองเพื่อรองรับประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 58 นี้ด้วย ซึ่งถือว่าทั้งสองเมืองเป็นเมืองที่จะเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าที่สำคัญหากสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 บึงกาฬ-ปากซันเกิดขึ้น

ผู้ว่าฯไถ่ชีวิตโคเพื่อมอบให้เกษตรกร

วันนี้ (22-01-57) นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีไถ่ชีวิตโคกระบือเพื่อมอบโคให้กับเกษตรกรอำเภอบึงโขงหลงและอำเภอศรีวิไล ณ วัดป่าบ้านดงเรือ ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬโดยมีหัวหน้าส่วนราชการมาร่วมพิธีและร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย

นายณรงค์ สุทธิสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬกล่าวว่า พิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ ของจังหวัดบึงกาเป้นดำริของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬที่จะดำเนินการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เป็นประจำทุกเดือนอย่างน้อยเดือนละ 1 ตัว โดยจะทำการมอบให้เกษตรกรในจังหวัดบึงกาฬนำไปเลี้ยงเพื่อขยายพันธ์ ในการไถ่ชีวิตโค-กระบือท่านผู้ว่าราชการจะเป็นเจ้าภาพหลักและมีหัวหน้าส่วนราชการและผู้ใจบุญร่วมกับบริจาคทรัพย์เพื่อนำมาไถ่ชีวิตโค-กระบือในทุกๆเดือนถือได้ว่าเป็นการร่วมกันทำบุญและสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกทาง ในวันนี้เป็นการไถ่ชีวิตโค จำนวน 2 ตัว เพื่อมอบให้กับนางลำดวน บอลนด์ เกษตรกรอำเภอศรีวิไลและนางอภัย เตี้ยราษฎร์ เกษตรกรอำเภอบึงโขงหลง สร้างความดีใจให้กับทั้งสองคนเป็นอย่างมากและเกษตรกรทั้งสองคนได้สัญญาว่าจะดูแลโคที่ได้รับเป็นอย่างดี

ผู้ว่าฯนำทีมออกหน่วยบริการประชาชน

วันนี้ (22-01-57) เวลา10.00 น. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วย นายธวัชชัย รักขนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดบึงกาฬ นำทีมหน่วยงานราชการออกพื้นที่ให้บริการประชาชนโดยมีการมอบทุนการศึกษา 20 ทุนและ จักรยาน 5 คัน ให้กับเด็กนักเรียน มอบถุงยังชีพ ผ้าห่ม ให้กับประชาชน มอบพันธ์ปลาให้กับผู้นำชุมชนไปปล่อยในพื้นที่แหล่งน้ำสาธารณะและพบปะประชาชนเตือน ให้รักษาสุขภาพเพราะช่วงนี้อากาศที่บึงกาฬหนาวมากและอุณหภูมิน่าจะลดลงเรื่อยๆ อีกทั้งได้ปลูกต้นไม้พะยุงเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโรงเรียนและได้มีการให้บริการต่างๆเช่น ให้คำปรึกษา ให้ความรู้ ตรวจสุขภาพประชาชน ตรวจ รักษาสัตว์ จำหน่ายสินค้าราคาถูก จากหน่วยงานราชการต่างๆของจังหวัดบึงกาฬ ณ โรงเรียนบ้านดงเรือ ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ       

นอกจากการออกหน่วยบริการประชาชนแล้วยังลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนโดยได้มอบหมายให้นายสุรสันติ์ เพชรสุวรรณรังสี ปลัดจังหวัดบึงกาฬประชุม นายอำเภอบึงโขงหลงผู้นำท้องถิ่นตำบลดงบังเพื่อรับฟังปัญหาโดยปัญหาที่เกิดขึ้นในตำบลดงบังได้แก่ 1.ปัญหายาเสพติและสิ่งผิดกฎหมายเพราะตำบลดงบังอยู่ติดแนวชายแดนแม่น้ำโขง 2. ปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ต้องการขุดลอกหนองหัวเสือและทำฝายน้ำล้นห้วยสวนหลวงซึ่งในฤดูแล้งไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ 3.การบุกรุกที่สาธารณะ 4.ถนนเพื่อการเกษตรสายบ้านท่าไคสี-บ้านดงสรวง ระยะทาง 2 กม. สายบ้านดงสรวง-บ้านดงเรือ ระยะทาง 3 กม. สภาพถนนเป็นถนนลูกรังช่วงฤดูฝนการสัญจรไปมาลำบากและเป็นอันตราย โดยปัญหาต่างๆได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป

ผู้ว่าฯและผู้การฯบึงกาฬเดินสายแก้ปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา

วันนี้ (22-01-2557) เวลา 08.00น. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และ พ.ต.อ.ธนันทร์ชัย สุขา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ออกพื้นที่พบปะนักเรียนเพื่อสร้างความตระหนัก ความเข้าใจ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและให้ความรู้เรื่องยาเสพติดสร้างแรงบันดาลใจ ชี้แนะแนวทางการศึกษาและรับฟังปัญหาต่างๆกับนักเรียน โรงเรียนท่าดอกคำวิทยา ตำบลท่าดอกคำ และโรงเรียนบ้านดงเรือ ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน นักเรียน โรงเรียนท่าดอกคำวิทยาและโรงเรียนบ้านดงเรือและผู้นำท้องถิ่นในเขตตำบลท่าดอกคำและตำบลดงบังให้การต้อนรับ

การเดินทางพบปะนักเรียนในครั้งนี้เป็นการพบปะแบบเป็นกันเองเพื่อให้นักเรียนได้เห็นและพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดซึ่งหาโอกาสที่จะพบผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดค่อนข้างยากด้วยภาระกิจของท่านซึ่งจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กนักเรียนอีกทางหนึ่งด้วยโดยโรงเรียนแรกที่เดินทางไปคือโรงเรียนท่าดอกคำวิทยาและต่อด้วยโรงเรียนบ้านดงเรือซึ่งเด็กๆนักเรียนต่างรู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้พบกับพ่อเมืองของตังเอง

ส.ปชส.มหาสารคาม เตรียมจัดเสวนาสื่อมวลชน-ประกวดสุนทรพจน์ รณรงค์เลือกตั้ง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม เตรียมความพร้อมรณรงค์เลือกตั้ง ส.ส. ด้วยการจัดเวทีเสวนาสื่อมวลชน โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง และ จัดประกวดสุนทรพจน์ ประเภทนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หัวข้อ "รู้จักสิทธิหน้าที่ของพลเมืองและเคารพสิทธิหน้าที่ของผู้อื่น:รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส.” 2557 ในวันที่ 28และ 29 มกราคม นี้

นายพิชัย คชพิมพ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป นั้น เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยมีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง ในส่วนของจังหวัดมหาสารคาม ได้มีการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ไว้พร้อมแล้ว และฐานะหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส. โดยในวันที่ 28 มกราคม 2557 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม จัดเวทีเสวนาสื่อมวลชน "โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ส.ส.” ซึ่งจะมีสื่อมวลชน นักจัดรายการวิทยุ และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่ บ้านชุมชน เข้าร่วมในเวทีเสวนา เพื่อร่วมเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งสร้างความตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง ในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้ประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับทราบ

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม จึงได้จัดประกวดสุนทรพจน์ หัวข้อ "รู้จักสิทธิหน้าที่ของพลเมืองและเคารพสิทธิหน้าที่ของผู้อื่น:รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส.” 2557 ตามโครงการประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักถึงสิทธิหน้าที่พลเมือง และเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ออกไปใช้สิทธิตามหน้าที่ โดยกำหนดจัดกิจกรรมดังกล่าวในวันที่ 29 มกราคม 2557 ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดมหาสารคาม



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

องค์กร ภาคีเครือข่าย ร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่ขบวนการจังหวัด เพื่อเสริมสร้างสุขภาพแบบบูรณาการ ขยายสู่การทำงาน ภาคประชาชนในระดับจังหวัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเข้าร่วมรับฟังสรุปผลการดำเนินและสร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง การดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพแบบบูรณาการ เพื่อจังหวัดมหาสารคามน่าอยู่ "โครงการฮักแพง เบิ่งแงง คนสารคาม”                  

24/1/57 ที่ห้องประชุมตักศิลา โรงพยาบาลมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ประธานการประชุมสรุปผลการดำเนินงานและสร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง การดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพแบบบูรณาการเพื่อจังหวัดมหาสารคามน่าอยู่ เพื่อรับฟังทิศทางการทำงาน เสริมสร้างสุภาพของชาวจังหวัดมหาสารคาม และพัฒนาให้เกิดกลไกบูรณาการระดับจังหวัดโดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาให้เกิดพื้นที่ต้นแบบด้านการสร้างเสริมสุขลักษณะ แบบบูรณาการ

โครงการฮักแพง เบิ่งแญง คนสารคาม เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่ม องค์กร ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานต่างๆ โดยการประสานความร่วมมือ เสริมพลังและหาแนวทางร่วมกันในการจัดทำแผนเพื่อสร้างสังคมสุขภาวะให้เกิดขึ้นในจังหวัดมหาสารคาม ภายใต้การสนับสนุนทรัพยากรบางส่วนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. ) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกระบวนการทำงานระหว่างภาคีเครือข่ายต่างๆ ภายในจังหวัด และก่อให้เกิดการต่อยอดในมิติของการเสริมสร้างสุขภาพอย่างบูรณาการ มีเป้าหมายของการร่วมทำงานคือ สร้างแนวทางการทำงานร่วมกันในรูปแบบภาคีเครือข่าย ในลักษณะการเสริมพลังการทำงานร่วมกัน อย่างใช้ระบบ เริ่มต้น 3 ประเด็นนำร่องคือ เด็กและเยาวชน เกษตรกรรมยั่งยืน และการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น อันจะส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดมหาสารคามทุกกลุ่มมีสุขภาวะที่ดีและมีคุณธรรม                  



ภาณุวัชร คนเชี่ยว / ข่าว – ส.ปชส.มค.

กองทัพปราบกบฏ นำขบวนรถจักรยานยนต์-สามล้อสกายแลป รณรงค์เลือกตั้งที่จังหวัดมหาสารคาม

กองทัพปราบกบฏ นำขบวนรถจักรยานยนต์-สามล้อสกายแลป รณรงค์เลือกตั้งที่จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มกองทัพปราบกบฏร่วมกับพลังเสียงประชาชน นำขบวนรถจักรยานยนต์-สามล้อสกายแลป รณรงค์เรียกร้องให้ชาวจังหวัดมหาสารคาม ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

(24-1-57) เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ที่บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มกองทัพปราบกบฏ ร่วมกับพลังเสียงประชาชนสนับสนุนการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยใช้ธงสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของพลังอันบริสุทธิ์ พร้อมนำรถ 6 ล้อติดตั้งเครื่องขยายเสียง ตามด้วยขบวนสามล้อสกายแลป ขบวนรถจักรยานยนต์ รณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง

การรณรงค์ครั้งนี้ นายบุญถม เวียงภักดิ์ ตัวแทนกลุ่มกองทัพปราบกบฏฯ ได้อ่านคำแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่ม กปปส. ที่ทำการปิดกรุงเทพมหานคร ไม่ยอมรับประชาธิปไตย และขัดขวางการเลือกตั้ง โดยเชิญชวนให้ชาวจังหวัดมหาสารคาม ได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

ทั้งนี้ กองทัพปราบกบฏร่วมกับพลังเสียงประชาชนสนับสนุนการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ได้รณรงค์มาที่จังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่ 13 และจะเดินทางไปรณรงค์ให้ครบ 20 จังหวัดในภาคอีสาน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคามคุมเข้มร้านเหล้าต้อนรับงานบุญเบิกฟ้าและกาชาด ห้ามจำหน่ายเกินเวลา ห้ามโฆษณา จับปรับแล้ว 25 ราย

วันนี้ (24 ม.ค. 57) ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมแอลกอฮอล์จังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือกวดขันปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด

โดยระหว่างวันที่ 25 มกราคม 2557 ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2557 จังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดจัดงานบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557 และกำหนดให้เป็นงานปลอดเหล้า 100 % ซึ่งได้กำชับกวดขันให้พื้นที่เป้าไม่มีการจำหน่ายสำราและห้ามดื่มสุราในงานอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ ในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ 25 ราย และปรับเป็นเงิน 75,000 บาท นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าจังหวัดมหาสารคาม มีสถานบริการที่จำหน่ายสุราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่อำเภอกันทรวิชัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานศึกษา และหอพักนักศึกษาจำนวนมาก สถานบริการเหล่านี้ มีบางส่วนที่ไม่ควรปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงต้องเข้มงวดกวดขันอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันอันตรายอันอาจจะเกิดจากการดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา จังหวัดมหาสารคามเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีอัตราการดื่มสุราในเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15 – 19 ปี อยู่ในระดับ 24 ของประเทศ ซึ่งมีการสำรวจเป็นประจำทุกปีและมีแนวโน้มว่าจังหวัดมหาสารคามมีอัตราลดลงเป็นลำดับจากเคยเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เมื่อปี 2549



พิชัย คชพิมพ์/ข่าว

มหาสารคาม สร้างเครือข่ายประชาชน เสริมความรู้ประชาธิปไตยและกระบวนการเลือกตั้ง

จังหวัดมหาสารคาม โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านประชาธิปไตยและกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แก่ผู้นำชุมน กลุ่มองค์กร กลุ่มสตรีและเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วม เสริมความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

(23-1-57) ในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านประชาธิปไตยและกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้นในวันนี้ มีผู้นำชุมน กลุ่มองค์กร กลุ่มสตรีและเครือข่ายภาคประชาชน จากทั้ง 13 อำเภอ มาร่วมประชุม โดยมีนายสาโรช ไพเราะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม มาเป็นวิทยากร เพื่อสร้างกระบวนการในการมีส่วนร่วมตามแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

นายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดการประชุม ว่า การเป็นพลเมืองไทย ภายใต้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นั้น บุคคลจะต้องเรียนรู้สิทธิ เสรีภาพ และปฏิบัติหน้าที่ของตนตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้อย่างถูกต้อง เช่น สิทธิในการออกไปเลือกตั้ง เสรีภาพในการกระทำที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย และหน้าที่ที่บุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นอกจากจะได้รับความรู้ดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ทุกคนได้ตระหนักถึง สิทธิและหน้าที่ในการออกไปเลือกตั้ง ด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ตำรวจภูธรมหาสารคาม เพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรพัฒนายุทธวิธีการใช้อาวุธปืนพกประจำกาย

ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม อบรมเชิงปฏิบัติการแก่บุคลากร เพื่อพัฒนายุทธวิธีการใช้อาวุธปืนพกประจำกาย ของกองกำกับการสืบสวน เป็นการป้องกันเหตุร้าย และความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ สร้างประสิทธิภาพและความปลอดภัย แก่ผู้ใช้อาวุธปืน

(23-1-57) ที่ศูนย์ฝึกอบรม สนามยิงปืน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนสมรรถนะและความรู้แก่บุคลากรเจ้าหน้าที่ ของกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ในการพัฒนายุทธวิธีการใช้อาวุธปืนพกประจำกายของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในสังคมไทยมีแนวโน้มในการแบ่งแยกความคิดที่แตกต่างกันเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ความไม่สงบตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนในประเทศรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ดังนั้น หากผู้ปฏิบัติหน้าที่มีขีดความสามารถ ใช้ความระมัดระวังและมีความพร้อมอยู่เสมอ จะทำให้การสูญเสียดังกล่าวลดลง

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในการก่อความไม่สงบ หรือการก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ได้มีการพัฒนาและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความยากลำบาก เสี่ยงต่ออันตราย การตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้อาวุธปืนพกประจำกาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อจะได้ป้องกันเหตุร้าย และความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ตลอดจนสร้างประสิทธิภาพและความปลอดภัย แก่ผู้ใช้อาวุธปืน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษาครั้งที่14 “ฮีตฮอยศิลป์ ถิ่นตักสิลา”

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แถลงข่าวเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษาครั้งที่14 "ฮีตฮอยศิลป์ ถิ่นตักสิลา” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 27 มกราคม 2557 ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ที่ลานพิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ราชันย์ นิลวรรณาภา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปราโมทย์ ด่านประดิษฐ์ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์พีรพงศ์ เสนไสย คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าว จัดงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษาครั้งที่14 "ฮีตฮอยศิลป์ ถิ่นตักสิลา” ซึ่งมีกำหนดขัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 – 27 มกราคม 2557

สำหรับชื่องานที่ใช้ในปีนี้ คือ "ฮีตฮอยศิลป์ ถิ่นตักสิลา” ซึ่งหมายถึง ร่องรอยแห่งจารีตประเพณี และศิลปะด้านต่างๆ ในจังหวัดมหาสารคาม และแนวคิดการจัดงานคือ "อาณาจักรแห่งศิลป์ ซึ่งเป็นการร้อยแรงผสานใจ สร้างและสานศิลป์จากทุกอณูมาตุภูมิไทย” เพราะจังหวัดมหาสารคาม เป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน และเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา และการจัดงานในครั้งนี้ ไม่ได้เน้นเฉพาะดนตรี นาฏศิลป์ และการแสดงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงศิลปะด้านอื่นๆ อาทิเช่น ประติมากรรม หัตถกรรม วรรณกรรม ด้วย

กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคอีสาน นิทรรศการจะจัดแสดงเรื่องราวต่างๆของกลุ่มชาติพันธุ์ การจัดสัมมนาทางวิชาการ การแสดงของสถาบันและกลุ่มภูมิภาค ณ เวทีต่างๆ โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มภาคเหนือ ภาคกลางรัฐ ภาคกลางเอกชน ภาคอีสาน และภาคใต้ พร้อมการแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของปราชญ์ชาวบ้าน ครูภูมิปัญญา การออกร้านสำหรับองค์กรนิสิต พ่อค้าประชาชน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ มีสถาบันที่เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 76 สถาบัน .



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว