วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากระตุ้นการท่องเที่ยวโดยจัดกิจกรรมกีฬาและหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในภาคอีสาน

นายสมศักย์  ภูรีศรีศักดิ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  เดินทางมาตรวจราชการและติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายการบริหารการดำเนินการท่องเที่ยวและกีฬา  กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  โดยที่จังหวัดนครพนมได้ตรวจสนามกีฬาระดับอำเภอโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย  เพื่อสร้างสนามฟุตบอล  พร้อมลู่วิ่ง  โรงยิมเอนกประสงค์  ลานกีฬาเอนกประสงค์  จากนั้นตรวจเยี่ยมพิพิธภัณฑ์บ้านโฮจิมินห์  ที่บ้านนาจอก  ต.หนองญาติ  อำเภอเมืองนครพนม  โดยจะจัดสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านโฮจิมินห์  เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่โฮจิมินห์ได้มาพำนักในประเทศไทยก่อนกลับไปกู้ชาติเวียดนาม   ซึ่งทางพรรคคอมมิวนิสต์สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้ให้งบประมาณไว้แล้ว  45 ล้านบาท

นายสมศักย์  ภูรีศรีศักดิ์  กล่าวว่า  การมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้  เป็นการหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เลียบแม่น้ำโขง  แก้ปัญหานักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ได้ในขณะนี้   โดยส่งเสริมจังหวัดในภูมิภาคเพื่อรองรับการแข่งขันจักรยานเลียบแม่น้ำโขงเหมือนการแข่งขันจักรยานของประเทศฝรั่งเศส  เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจลงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  โดยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้สนใจร่วมกิจกรรมและได้เห็นศักยภาพของแต่ละจังหวัดด้วย

วันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดนครพนม ประจำปี 2557

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  ประธานพิธีเปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ  จังหวัดนครพนม  ประจำปี 2557  ได้จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและวางพุ่มดอกไม้สด  ถวายสักการะพระรูปและกว่าสดุดีพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์  พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย ที่ทรงจัดตั้งสหกรณ์  เพื่อช่วยกู้ฐานะชาวนาให้พ้นจากภาวะหนี้สินพอกพูน  ทรงส่งเสริมให้มีการทดลองจัดตั้งสหกรณ์เป็นแห่งแรก  คือ สหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้  จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2459 ทรงดำรงตำแหน่งนายทะเบียนสหกรณ์พระองค์แรก ทรงเป็นผู้นำในการเผยแพร่อุดมการณ์สหกรณ์  การช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นที่แพร่หลายทั่วราชอาณาจักร  ทรงส่งเสริมให้มีการกำหนดระเบียบ ข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ต่างๆ  ควบคุม ตรวจสอบ บัญชี การรับส่งเงิน  แนะนำวิธีการดำเนินงานสหกรณ์รวมทั้งพัฒนางานสหกรณ์จนมีการตั้งสหกรณ์อื่นๆ ส่งผลให้เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์พ้นจากภาวะหนี้สิน  มีทุนในการประกอบอาชีพ มีความเป็นอยู่ที่พอกิน ก่อให้เกิดผลดีในการพัฒนาประเทศ

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  กล่าวว่า สหกรณ์ถือเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า  ด้วยการช่วยเหลือสมาชิกในการประกอบอาชีพ ยกระดับรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  โดยสหกรณ์ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่พึ่งของมวลสมาชิกได้  จากนั้นได้มอบเกียรติบัตรและเงินอุดหนุนแก่สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มอาชีพที่เข้าร่วมโครงการภายใต้การแนะนำของกรมส่งเสริมสหกรณ์

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๗ (ขอนแก่น) ประกวดป่าชุมชน คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี ๒๕๕๗

นายพิชญะ ยั่งยืน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๗ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ร่วมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจัดให้มีการประกวดป่าชุมชน ตามโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๗ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการป่าชุมชน ตลอดจนเพื่อเฟ้นหาป่าชุมชนที่มีแผนงานระบบ และกระบวนการในการอนุรักษ์และพัฒนาป่าอย่างเข้มแข็ง โดยการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน สามารถเป็นชุมชนตัวอย่างและศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนอื่นได้ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ – ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครได้ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑ – ๑๓ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ในเวลาราชการ หรือส่งทางไปรษณีย์ถึงกรมกรมป่าไม้ เลขที่ ๖๑ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ ภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ โดยมิต้องเสียค่าธรรมเนียมการสมัครแต่อย่างใด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนจัดการป่าชุมชน โทร.๐๔๓-๓๓๐๓๘๒ เว็บไซต์ www.forest.go.th




สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ขนส่งจังหวัดมุกดาหาร งดให้บริการรับชำระภาษีประจำปี ในวันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗

นายพิชิต ศรีสว่าง นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร เปิดให้บริการรับชำระภาษีในวันเสาร์แรกของทุกเดือน ในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ – กันยายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ของดให้บริการรับชำระภาษีประจำปี ในวันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากอยู่ในระหว่างที่มีการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด มอบเสื้อกันหนาวให้ราษฎรพื้นที่อำเภอโพนทอง

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลโพนทอง อำเภอโพนทอง
จังหวัดร้อยเอ็ด นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานมอบเสื้อกันหนาวให้ราษฎรในพื้นที่อำเภอโพนทอง โดยมีนายทัศนัย ไวนิยมพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายกิติศักดิ์ เลิศศิริรังสรรค์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เขตอำเภอโพนทอง นางสิรีนาถ เกิดเหมาะ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมมอบเสื้อกันหนาวในครั้งนี้ จำนวน 1,000 ตัว ให้กับราษฎรในพื้นที่ตำบลโพธิ์ทอง ตำบลโพธิ์ศรีสว่าง ตำบลสระนกแก้ว เทศบาลตำบลโพนทอง และตำบลโคกสูง
นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า นอกจากนำเสื้อกันหนาวมามอบให้แล้ว องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด จะดำเนินการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน 3 ประกอบด้วย เรื่องการศึกษา อบจ.ร้อยเอ็ด ได้จัดให้มีการกวดวิชา เป็นปีที่ 6 โดยอาจารย์ที่มีความรู้มากวดวิชาที่ศูนย์อำเภอต่าง ๆ เพื่อให้ลูกหลานได้มีโอกาสได้เรียนสูงขึ้น และมีการแนะแนวอยากให้ลูกหลานสอบให้ได้ และเรียนสูงๆ เรื่อง จน อบจ.ร้อยเอ็ด อยากให้พี่น้องมีความยั่งยืนหายจน โดยส่งเสริมการปลูกข้าวหอมมะลิ เพราะข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องให้ ประชาคมยุโรปให้การรับรอง เป็นแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ได้รับเครื่องหมาย จีไอ

ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิที่ทางยุโรปรับรองว่าเป็นสินค้ามีคุณภาพ ทำอย่างไรเราจะขายได้ตันละ 30,000 บาท ได้นำนางสาวไทยมาเป็นนางแบบในการโฆษณาข้าวหอมมะลิ ส่งเสริมการปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ โดยนำเกษตรกรไปศึกษาดูวิธีการผลิต วิธีการจัดเก็บรักษา และจะนำน้ำเชื้อวัวจากประเทศญี่ปุ่นมา ผสมกับวัวพื้นเมือง จะได้เนื้อที่มีคุณภาพได้ราคาสูง สุดท้าย เรื่องเจ็บ สุขภาพดีไม่มีขายอยากได้ต้องทำเอา อบจ.ร้อยเอ็ด จัดให้มีรถตรวจร่างกายเคลื่อนที่เอ็กเรย์เคลื่อนที่ มีหมอพยาบาล มี อสม.มาช่วย ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้ป่วยเป็นโรคมะเล็งท่อน้ำดีอันดับหนึ่งของประเทศไทย รถตรวจร่างกายมาตรวจให้ ถ้าเป็นระยะแรกจะรักษาหาย รถกู้ชีพ อบจ.ร้อยเอ็ด จะเช่ารถกู้ชีพ 40 คัน เช่า 3 ปี อบต.หาพยาบาลและคนขับ ช่วยเรื่องอุบัติเหตุฉุกเฉินลดพิการ และเสียชีวิตได้


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

ตำรวจร้อยเอ็ด จับได้แล้วพลทหารมือระเบิด หน้าเวทีหมอลำตาย 3 ศพเจ็บ 25

จากกรณีวัยรุ่นปาระเบิด หน้าเวทีหมอลำ ที่วัดบ้านตาแหลว หมู่ 14 ตำบลนาใหญ่ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในงานฉลองอุโบสถ โดยการจ้างหมอลำชื่อดังวงใหญ่ คณะประถมบันเทิงศิลป์ ไปทำการแสดงมีกลุ่มวัยรุ่นออกไปเต้นหน้าเวทีอย่างสนุกสนาน แล้วเกิดเขม่นจนมีการปาระเบิดเข้าใส่ เป็นเหตุให้ทั้งวัยรุ่นและประชาชนที่ไปชมหมอลำได้รับบาดเจ็บจำนวน 25 ราย นอนรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด 10 ราย เสียชีวิตรวม 3 ราย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 25 ก.พ. 2557 และ พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมสั่งการให้ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน

ต่อมาเช้ามืดวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 พ.ต.อ.สุริเดช วรรณสุทธิ์ ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ พ.ต.ท.ธวัช ทองสุข รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เตยหล้า รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุรัตน์ จันทศิลป์ หน.งานสอบสวน พร้อมชุดสืบสวน สภ.สุวรรณภูมิ ได้สอบสวนจนทราบจากกลุ่มวัยรุ่นในท้องถิ่นว่า มีพลทหารมนตรา หรือแม็กซ์ ผลาผล (ทหารสังกัดค่ายแห่งหนึ่ง) บ้านเลขที่ 147 ม. 7 บ้านโนนหมากแงว ต.น้ำคำ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เคยมาติดต่อขายลูกระเบิดให้ในราคา 500 บาท จึงนำกำลังเข้าจับกุม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางไปดูจำนวนมาก

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชากลับบ้านเพื่อร่วมงานฉลองอุโบสถในและได้พกเอาระเบิดแบบขว้าง ลข.88 บ 67 หรือที่เรียกว่า M 67 ที่แอบขโมยออกจากคลังอาวุธ ไปเที่ยวงานเพื่อป้องกันตัว และหลบหลีกการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในงาน โดยนำไปซ่อนไว้ในทุ่งนาข้างวัด จากนั้นเข้าไปชมหมอลำและนั่งดื่มสุราไปด้วย กระทั่งเห็นกลุ่มคู่อริ คนบ้านตาแหลว ซึ่งเคยมีเรื่องรุมชกต่อยตนเมื่อครั้งยังไม่เป็นทหารเกณฑ์ เต้นอยู่กับเพื่อนๆประกอบกับความเมาจึงอยากแก้แค้น เลยออกไปเอาระเบิดที่ซ่อนไว้ก่อนดึงสลักขว้างระเบิดข้ามรั้วสังกะสีเวทีหมอลำใส่กลุ่มอริเสียงระเบิดดังสนั่นก่อนหลบหนี

ประเสริฐ อินทา/ข่าว

จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ปล่อยรถบรรทุกน้ำตามโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง”

วันนี้ (26 ก.พ.57) เวลา 10.00 น. ณ หน้ากองบังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด พลตรี นคร สุขประเสริฐ
ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด เป็นประธาน พิธีปล่อยรถบรรทุกน้ำตามโครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2557 โดยมีรองผู้บังคับการ เสนาธิการ รองเสนาธิการ คณะนายทหาร และกำลังพลร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

พลตรี นคร สุขประเสริฐ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด กล่าวว่า ปัญหาความแห้งแล้ง เป็นปัญหาที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ประสบปัญหาเป็นประจำทุก ๆ ปี สาเหตุสำคัญอยู่ที่ทำเลที่ตั้ง ทางภูมิศาสตร์ สภาพลมฟ้าอากาศของภูมิภาคนี้ และการพัฒนาระบบชลประทาน การแก้ปัญหาความแห้งแล้งในระยะยาว ของรัฐบาลยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนั้น การแก้ปัญหาในระยะสั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่หน่วยงานของรัฐ ได้ให้ความสำคัญเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” เป็นโครงการหนึ่งที่หน่วยงานของรัฐ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ขาดแคลนน้ำในห้วงฤดูแล้ง การดำเนินงานจะประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการประสาน และการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง และเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทุกระดับ โดยการนำรถบรรทุกน้ำ ออกไปแจกจ่ายให้กับพี่น้อง ประชาชนในหมู่บ้านเป้าหมาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ให้เบาบางลงได้ในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งทำให้ประชาชนเหล่านั้น สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของตนเอง


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

บุรีรัมย์ น้ำมูลตื้นเขินเน่าเสียและอากาศร้อนกระทบปลากระชังไม่กินอาหารเริ่มน็อคตายขณะจังหวัดจ่อประกาศภแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอ

บุรีรัมย์น้ำมูลตื้นเขินเน่าเสียและอากาศร้อนกระทบปลากระชังไม่กินอาหารเริ่มน็อคตายขณะจังหวัดจ่อประกาศภแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอ น้ำมูล อ.สตึก จ.บุรีรัมย์วิกฤตหนักตื้นเขินแห้งขอดในรอบกว่า 10 ปี ซ้ำบางจุดที่มีน้ำเหลืออยู่ยังเน่าเสียมีกลิ่นเหม็นกระทบกับผู้เลี้ยงปลากระชังที่ยังเสี่ยงเลี้ยงอยู่ไม่ถึง 10 รายจากทั้งตำบลกว่า 100 ราย ไม่กินอาหารและเริ่มน๊อคตายแล้ว ขณะจังหวัดจ่อประกาศภัยพิบัติแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอเป็น 3 อำเภอ (26 ก.พ.57) สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามลำน้ำมูล บ.ท่าเรือ ต.ท่าม่วง ที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร และประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขินจนมองเห็นตอหม้อสะพานโผล่ และบางจุดแห้งขอดจนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้ จากกรณีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรตำบลท่าม่วงกว่า 100 ราย ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังได้ ต้องปล่อยกระชังทิ้งร้าง จากทุกปีจะเลี้ยงได้ถึง 3 รอบ ส่งผลทำให้ขาดรายได้

ส่วนเกษตรกรที่ยังเสี่ยงเลี้ยงอยู่ไม่ถึง 10 ราย เพราะหวังจะนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวและชำระหนี้ที่กู้ยืมมาลงทุน ก็ต้องประสบปัญหาน้ำไม่ไหลเวียน เน่าเสีย เป็นกรดแก๊ส ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ไม่กินอาหาร และเริ่มทยอยน็อคตาย โดยเกษตรกรเชื่อว่าหากปลายังทยอยตายต่อเนื่อง ก็จะประสบปัญหาขาดทุนอย่างแน่นอน นอกจากนี้สภาพน้ำมูลที่ตื้นเขินเน่าเสียดังกล่าว ยังส่งผลทำให้ปลาธรรมชาติลอยตายอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ด้านนายทวน โยงรัมย์ บอกว่า ได้ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว และจากผลกระทบดังกล่าว จึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งเข้ามาสำรวจ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยการขุดลอกหรือทำเขื่อนยางเพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำมูลไว้ใช้ทั้งการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร และเลี้ยงปลากระชังได้ตลอดทั้งปี ก่อนที่อาชีพเลี้ยงกระชังจะสูญหาย และต้องอพยพไปขายแรงงานยังต่างถิ่น ขณะที่นายสัญญ์ธวัชช์ ริ้วเหลือง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ที่มาเร็วกว่าทุกปี ส่งผลให้แหล่งน้ำต่างๆ มีสภาพตื้นเขินและแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดก็ได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากภาวะภัยแล้งไปแล้ว 1 อำเภอ คือ อ.พุทไธสง และล่าสุดขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอ คือ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ และ อ.ปะคำ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11 ตำบล 140 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 24,054 ครัวเรือน 56,144 คน



สุรชัย พิรักษา สวท.. บุรีรัมย์

สาธารณสุขอำเภอและจ.บุรีรัมย์ แต่งดำพร้อมขึ้นคัชเอาท์ต่อต้านคอรัปชั่นประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

สาธารณสุขอำเภอและจ.บุรีรัมย์แต่งดำพร้อมขึ้นคัชเอาท์ต่อต้านคอรัปชั่นประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ สาธารณสุขอำเภอ และสาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ ขึ้นคัชเอ้าท์ขนาดใหญ่หน้าสำนักงานประกาศเจตนารมณ์พร้อมสร้างกระแสต่อต้านการคอรัปชั่น สนับสนุนการปฏิรูปประเทศ ขณะเจ้าหน้าที่พร้อมใจแต่งชุดดำประณามการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ( 26 ก.พ.57) สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ขึ้นคัชเอ้าท์ขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า "ต่อต้านคอรัปชั่นสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ ประชาคมสาธารณสุขจ.บุรีรัมย์” และข้อความว่า "หยุดยั้งความรุนแรงทุกรูปแบบ สนับสนุนการปฏิรูประเทศไทย” ที่บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ถนนจิระ ในเขตเทศบาลเมือง เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์และสร้างกระแสให้ประชาชนร่วมกันออกมาต่อต้านการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ และทุกสาขาอาชีพ ที่จะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมือง พร้อมทั้งสนับสนุนการปฏิรูปประเทศเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

ซึ่งก็สร้างความสนใจให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ขณะเดียวกันที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ก็ได้มีการขึ้นคัชเอาท์ขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า "ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ต่อต้านคอรัปชั่น สนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทย” ด้วย พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสาธารณสุขอำเภอเมือง ยังได้พร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดสีดำ เพื่อแสดงพลังต่อต้านการคอรัปชั่น และการใช้ความรุนแรงด้วย ด้านนายรังสรรค์ พนานุสรณ์ ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยจ.บุรีรัมย์ ระบุว่า การขึ้นป้ายหรือคัชเอ้าท์ที่มีข้อความต่อต้านการคอรัปชั่น หยุดยั้งการใช้ความรุนแรง และสนับสนุนการปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ เป็นมติของประชาคมสาธารณสุข ที่ต้องการประกาศเจตนารมณ์และสร้างกระแสให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านการคอรัปชั่นในทุกรูปแบบ ที่จะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมือง พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มใดแต่เป็นการแสดงพลังในฐานะประชาชนคนไทยเท่านั้น พร้อมกันนั้นยังได้เรียกร้องรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมได้หันหน้าเจรจรากันอย่างสันติโดยเร็ว เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง


สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

สธ.บุรีรัมย์ จัดมหกรรมฟิตหุ่นวันนี้สุขภาพดีรับปีใหม่หวังกระตุ้น ปชช.ออกกำลังกายลดอัตราเสี่ยงป่วยตาย

สธ.บุรีรัมย์จัดมหกรรมฟิตหุ่นวันนี้สุขภาพดีรับปีใหม่หวังกระตุ้น ปชช.ออกกำลังกายลดอัตราเสี่ยงป่วยตาย สาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ จับมือภาคีเครือข่ายสุขภาพ จัดมหกรรมฟิตหุ่นวันนี้ สุขภาพดีรับปีใหม่ 2557 หวังกระตุ้นประชาชนใส่ใจสุขภาพหันมาออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเสียชีวิต หลังพบสถิติประชาชนมีภาวะอ้วนลงพุงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ( 26 ก.พ.57) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อสุขภาพ จัดมหกรรม "ฟิตหุ่นวันนี้ สุขภาพดีรับปีใหม่ 2557” ที่บริเวณสวนรมย์บุรี ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อหวังกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพ โดยการออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตหรือการบริโภคอาหาร ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง จนนำไปสู่อัตราเสี่ยงเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และเสียชีวิตด้วยโรคภัยต่างๆ ตามมา หลังพบสถิติจากจำนวนประชากรทั้งจังหวัดกว่า 1,600,000 คน มีภาวะอ้วนลงพุงถึงร้อยละ 30 หรือประมาณ 480,000 คน ซึ่งการจัดมหกรรมฟิตหุ่นในครั้งนี้ มีเป้าหมายลดภาวะอ้วนลงพุงร้อยละ 80 โดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 อ. 2 ส. ในการขับเคลื่อน คือ ใช้องค์ความรู้และทักษะ เป็นพลังเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้านออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา ตลอดจนผลักดันให้เกิดมาตรการหรือนโยบายในระดับองค์กรท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรอื่นๆ รวมทั้งภาคีเครือข่ายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนในชุมชนด้วย

โดยภายในงานได้มีกิจกรรมเต้นแอโรบิค จัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ มอบรางวัลบุคคลต้นแบบที่สามารถลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย และจำหน่ายผักปลอดสารพิษด้วย โดยมีข้าราชการ บุคลากรในสังกัดสาธารณสุข อสม.และประชาชนเข้าร่วมกว่า 700 คน นายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคนไทย ได้เปลี่ยนจากวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไปสู่สังคมสมัยใหม่ที่เอื้อให้คนสบายขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ การบริโภคอาหารเกินพอดี บริโภคอาหารหวาน มัน เค็มเพิ่มขึ้น บริโภคผักและผลไม้น้อยลง ขาดการออกกำลังกาย การดื่มสุราและสูบบุหรี่ ส่งผลทำให้เกิดเจ็บป่วย และลุกลามเป็นโรคเรื้อรัง เกิดความพิการ สูญเสียเงิน และเวลาในการรักษา ดังนั้นเชื่อว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะสามารถกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพได้มากขึ้น


สุรชัย พิรักษา / สวท.บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ ติวเข้มพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครแรงงานเป็นเครือข่ายประสานช่วยเหลือแรงงานในหมู่บ้านตำบล

บุรีรัมย์ติวเข้มพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครแรงงานเป็นเครือข่ายประสานช่วยเหลือแรงงานในหมู่บ้านตำบล สำนักงานแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ติวเข้มเพิ่มศักยภาพอาสาสมัครแรงงาน เพื่อเป็นเครือข่ายเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านสิทธิประโยชน์ และประสานงานในการให้ความช่วยเหลือแรงงานในหมู่บ้าน ตำบล (26 ก.พ.57) สำนักงานแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน จัดสัมมนาโครงกร "เสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานส่วนภูมิภาค” ที่ห้องประชุมโนนสุวรรณ โรงแรมเทพนคร อ.เมือง โดยมีไชยวัฒน์ พันธ์นรา รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้อาสาสมัครแรงงาน ที่ประกอบไปด้วยผู้นำชุมชน ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้ความเข้าใจในการประสานงานด้านการให้ความช่วยเหลือแรงงานในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั่วถึงครบถ้วน และเป็นการส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน เช่น การคุ้มครองดูแลแรงงานในพื้นที่ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายสูงสุด ทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านอาสาสมัครแรงงานซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันและก่อให้เกิดประโยชน์กับแรงงานมากที่สุด ด้านนางสาวอรนุช จันทรชิต นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า อาสาสมัครแรงงานดังกล่าวมีบทบาทหน้าที่หลัก เป็นเสมือนตัวแทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ ที่จะเป็นตัวจักรสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐกับประชาชน ในด้านการส่งเสริมการมีงานทำ พัฒนาฝีมือแรงงาน คุ้มครองแรงงาน โดยนำข้อมูลข่าวสารไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ให้แรงงานในหมู่บ้าน ตำบลได้รับทราบอย่างทั่วถึง และเป็นเครือข่ายดูแลช่วยเหลือแรงงาน โดยเฉพาะปัญหาการหลอกลวงแรงงานที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดมีอาสาสมัครแรงงานอยู่ทุกตำบลกว่า 180 คน และในอนาคตจะมีการจัดตั้งอาสาสมัครแรงงานให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มแรงงานได้มากขึ้นต่อไป


สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์

เครือข่ายสถานีวิทยุจ.บุรีรัมย์ จัดงานวันวิทยุกระจายเสียงไทยเพื่อรำลึกถึงบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย

เครือข่ายสถานีวิทยุจ.บุรีรัมย์จัดงานวันวิทยุกระจายเสียงไทยเพื่อรำลึกถึงบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย เครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงในจังหวัดบุรีรัมย์จัดกิจกรรมวันวิทยุกระจายเสียง เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพลเอกพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร พระบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย นายไชยวัฒน์ พันธ์นรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานวันวิทยุกระจายเสียงไทย ประจำปี 2557 ซึ่งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ สถานีวิทยุกระแสหลัก เครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน วิทยุชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันจัดขึ้นที่ลานกีฬา ภายในมหาววิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พลเอกพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร ซึ่งถือเป็นพระบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย และเพื่อส่งเสริมให้ผู้เกี่ยวข้องในวงการวิทยุกระจายเสียงได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น รวมทั้งเสริมสร้าง เครือข่ายความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพื่อร่วมกันใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงไปในทางที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง และความสงบสุขของประชาชนชาวบุรีรัมย์สืบไป ซึ่งการจัดงานวันวิทยุกระจายเสียงประจำปี 2557 ของเครือข่ายสถานีวิทยุในจังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบด้วยการจัดเวทีเสวนา”จากอดีต สู่ปัจจุบัน มุ่งมั่นสู่อนาคต วิทยุกระจายเสียงจังหวัดบุรีรัมย์ ” มีนักวิชาการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ประกอบการวิทยุภาคประชาชน กลุ่มผู้ฟัง ร่วมเวทีแลกเปลี่ยน พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้นักจัดรายการวิทยุจากสถานีต่างๆ ได้ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย


สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์

สคร.5 ชวนคนรักสุขภาพออกกำลัง งดอาหารมัน ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก สคร.5 ว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้น หนึ่งในนั้น คือ โรคหัวใจขาดเลือด สคร.5 มีความห่วงใย อยากให้คนรักสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก งดอาหารหวานจัด และมันจัด ตรวจเช็คสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด สำหรับการป้องกันไม่ให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ควรออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารมันจัด หวานจัด และเค็มจัด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ลดภาวะเครียดทางอารมณ์ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รักษาค่าความดันโลหิตไม่เกิน 10/80 มิลลิเมตรปรอท และควรตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

จ.สุรินทร์ มีราษฎรประสบภัยหนาวกว่า 2 แสนคน ได้เร่งแจกจ่ายครบทุกพื้นที่แล้ว

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้เริ่มมีอากาศหนาวเย็น โดยมีอากาศหนาวสลับอากาศอุ่น และร้อน ซึ่งคาดว่าจะมีลักษณะเช่นนี้ไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 โดยในขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยหนาว ครอบคลุม 17 อำเภอ 158 ตำบล 2,120 ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สังขะ ศรีณรงค์ จอมพระ เขวาสินรินทร์ ศีขรภูมิ ท่าตูม รัตนบุรี สำโรงทาบ ลำดวน บัวเชด กาบเชิง สนม ปราสาท โนนนารายณ์ ชุมพลบุรี และอำเภอพนมดงรัก โดยมีราษฎรประสบภัยหนาวกว่า 2 แสนคน ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ยังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว โดยได้มอบเครื่องกันหนาว การขอรับการสนับสนุนเครื่องกันหนาว ผ้าห่ม เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภค-บริโภคตามความจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังอัคคีภัยจากสภาพอากาศแห้งแล้ง และอุบัติเหตุจากการเดินทาง เนื่องจากหลายพื้นที่มักมีหมอกเกิดขึ้น การดูแลรักษาสุขภาพโดยเฉพาะคนชรา คนพิการ เด็ก สตรีมีครรภ์ ซึ่งอาจเจ็บป่วยจากอากาศหนาวเย็นด้วย

อบจ.สุรินทร์ จัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์ มหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 เพื่อให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่าจังหวัดสุรินทร์ มีชื่อเสียงในเรื่องของข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และผ้าไหม จนเป็นที่ยอมรับของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งประชาชนมากกว่าครึ่งมีอาชีพที่ดำรงอยู่ได้โดยมีความเกี่ยวข้องกับการทำการเกษตร โดยมีศักยภาพและความได้เปรียบทั้งทางด้านพื้นที่ฐานการผลิตการเกษตรที่หลากหลาย ข้าวหอมมะลิเป็นพืชหลักและเป็นสินค้าส่งออกของจังหวัดสุรินทร์ เพราะความมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น คือ "หอม ยาว ขาว นุ่ม” ในการทำนาของจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านมา มีการใช้ทั้งปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตจากการสังเคราะห์ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูง เกษตรกรมีหนี้สินมากขึ้น คุณภาพของผลผลิตต่ำลงก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพของผู้บริโภคและผู้ผลิต ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาสุขภาพ และปัญหาสิ่งแวดล้อมของพี่น้องเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ คือการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี และหันกลับมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้เอง เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เพื่อให้เกษตรกรพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด

สำหรับ ผ้าไหมไทยเป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่ผลิต ผ้าไหมพื้นเมืองที่มีลวดลาย เอกลักษณ์โดดเด่น เป็นที่ยอมรับแก่นานาอารยะประเทศ โดยผู้ทอใช้วิธีการทอทุกขั้นตอนด้วยแรงงานและฝีมือของคนที่มีอาชีพทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ความรู้ ความสามารถและภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ ผ้าไหมสุรินทร์มีคุณสมบัติพิเศษ ดูแลรักษาง่าย และใช้ได้ในทุกโอกาส เช่น ใช้กับงานในหน้าที่ประจำ โอกาสพิเศษ เป็นของฝากของที่ระลึก และเป็นสิ่งตอบแทน เป็นต้น

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 ขึ้น เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์และผ้าไหมสุรินทร์ ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน ส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดให้มีกิจกรรมในระหว่างวันที่ 1 – 9 มีนาคม 2557 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษาหรือสวนใหม่

สคร.5 เตือนเด็กไทยจมน้ำเฉลี่ยวันละ 4 คน แนะ ผู้ใหญ่ปลูกฝังเด็กไทย รักษาความปลอดภัยทางน้ำ”

 นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมาว่า เด็กจมน้ำในแต่ละปีโดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม/พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอม ฤดูร้อนมักจะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตทุกปี ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตพร้อมกันหลายคน เนื่องจากไม่รู้วิธีการเอาชีวิตรอดในน้ำและวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง จึงมักกระโดลงไปช่วยคนที่จมน้ำ เพศชายมีอัตราจมน้ำเสียชีวิตมากกว่าเพศหญิง ภาคที่มีเด็กจมน้ำมากที่สุดคือภาคอีสานช่วงเวลาที่เกิดเหตุมักจะเป็นช่วงเที่ยงวันจนถึงช่วงเย็น เพราะมีอากาศร้อน ทำให้เด็กแอบไปเล่นน้ำ สคร.5 กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ป้องกันเด็กจมน้ำว่า " ปลูกฝังเด็กไทย รักษาความปลอดภัยทางน้ำ” ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กว่ายน้ำเป็น สอนกฎแห่งความปลอดภัย

จังหวัดสุรินทร์ เตือนภัย “โรคพิษสุนัขบ้า แนะผู้เลี้ยงต้องพาสุนัข แมว ไปฉีดวัคซีนทุกปี

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในแต่ละปีคนไทยถูกสุนัขกัดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน หากสุนัขที่กัดเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องเสียชีวิตทุกราย โดยปีนี้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าทั่วประเทศ ภายในปี 2558 ซึ่งโรคนี้ป้องกันได้ด้วยวัคซีน โดยฉีดให้สัตว์เลี้ยงทุกปี ส่วนในคนหากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคทันที สำหรับโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่พบได้ตลอดปี เป็นแล้วเสียชีวิตทุกราย ในประเทศไทยพบว่าสุนัขและแมวป่วยเป็นโรคนี้มากที่สุด ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งสร้างพื้นที่ในชนบทและเขตเมืองทั่วประเทศให้ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2558 เพื่อกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย ภายใน พ.ศ.2563 โดยร่วมมือกับกรมปศุสัตว์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป ขึ้นทะเบียนการเลี้ยงทุกหลังคาเรือนและทำหมัน เพื่อควบคุมจำนวนสุนัขโดยเฉพาะสุนัขจรจัด และให้เจ้าของนำสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี ส่วนอาการของสุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คือ สุนัขจะมีอารมณ์หงุดหงิด หางตก น้ำลายไหล อาจมีอาการคล้ายกระดูกหรือก้างติดคอ ซึ่งอาจทำให้เจ้าของเข้าใจผิด เอามือไปล้วงที่ปาก คลำหาก้างหรือกระดูก หากพบสุนัขมีอาการดังกล่าว ขอให้นึกถึงโรคพิษสุนัขบ้า และแยกสุนัขไว้ไม่ให้คลุกคลีกับสุนัขอื่นหรือคน และรีบแจ้งปศุสัตว์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากคนถูกสุนัขกัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีบาดแผล ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด และไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับ บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

จังหวัดสุรินทร์ ยังคงมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ยาเสพติดและผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดสุรินทร์ พบว่าในเดือน มกราคม 2557 สถานการณ์ยาเสพติดของจังหวัดสุรินทร์ ยังคงปรากฏความเคลื่อนไหวด้านการค้าและการแพร่ระบาดของยาเสพติด ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักค้ารายย่อยลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาจากจังหวัดใกล้เคียงที่ติดแนวชายแดน นำเข้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มอาชีพรับจ้าง กลุ่มว่างงาน กลุ่มเด็กนักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า พื้นที่แพร่ระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ที่สาธารณะ สถานบันเทิง โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ห้องพัก ห้องเช่า โรงแรม รีสอร์ท หน้าโรงเรียน ในเขตเทศบาล ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอปราสาท อำเภอรัตนบุรี อำเภอสังขะ อำเภอกาบเชิง อำเภอศีขรภูมิ อำเภอจอมพระ อำเภอท่าตูม และอำเภอชุมพลบุรี ชนิดยาเสพติดที่มีแพร่ระบาดได้แก่ยาบ้า ตัวยาที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น และกำลังเข้ามาทดแทนยาบ้าคือยาไอซ์ สำหรับพื้นที่ที่มีการจับกุมได้มากที่สุดในเดือนมกราคม 2557 ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอปราสาท อำเภอรัตนบุรี อำเภอสังขะ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอศีขรภูมิ อำเภอท่าตูม และอำเภอเขวาสินรินทร์ ส่วนใหญ่เป็นข้อหาเสพยาเสพติด ชนิดยาเสพติดที่มีจับกุมได้มากที่สุด ได้แก่ ยาบ้า จับกุมได้ 91 ราย ผู้ต้องหา 104 คน ของกลาง ยาบ้า 4,727 เม็ด รองลงมาได้แก่ ยาไอซ์ จับกุมได้ 4 ราย ผู้ต้องหา 5 คน สารระเหย จับกุมได้ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน กัญชาแห้ง จับกุมได้ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน

จ.สุรินทร์ จัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ

จังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติเพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยลงกรณ์ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย” มีกิจกรรมแข่งขันชิงทุนการศึกษา กีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างขบวนการสหกรณ์ และจัดผ้าป่าสามัคคี ได้ทุนร่วม 2000,000บาท

วันนี้ (26 ก.พ.57)  ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เป็นประธานวางพานพุ่มถวายสักการะพระรูปพระราชวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557 พร้อมกล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติฯ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย”ที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ทรงวางรากฐานการสหกรณ์ไทย และมีความเจริญก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู นักเรียนและพี่น้องประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

จากนั้นประธานในพิธี ได้มอบเกียรติบัตรสหกรณ์ดีเด่นระดับจังหวัด ปี2556/2557 มอบโล่รางวัลให้โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้สหกรณ์ ปี 2556 รางวัล และได้มอบรางวัลการตอบปัญหาชิงทุนการศึกษา อาทิ การประกวดวาดภาพ การประกวดบันทึกรายงานการประชุมสหกรณ์ มอบเกียรติบัตรครูผู้รับผิดกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน และมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนโรงเรียน ตชด.ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่เรียนดีแต่ยากจน จำนวน40 ทุนๆละ 1,000 บาท นอกจากนี้ประธานในพิธียังมอบเงินสมทบองค์ผ้าผ้าป่าสามัคคีร่วมกับ ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชน ครู ขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดสุรินทร์ ที่ตั้งกองผ้าป่าฯ

นายวิโรจน์ ภู่ไพบูลย์ สหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดวันสหกรณ์ แห่งชาติ มาเป็นปีที่7 ทั้งนี้เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย”ที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ทรงวางรากฐานการสหกรณ์ไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดพิธีทางสงฆ์ ในช่วงเช้า พร้อมทั้งมีกิจกรรม แข่งขันชิงทุนการศึกษา กีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างขบวนการสหกรณ์ และจัดผ้าป่าสามัคคี เพื่อเป็นทุนการศึกษาและกิจกรรมของโรงเรียน ตชด.ท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์แห่งนี้ ซึ่งได้เงินร่วมกว่า 200,000 บาท อีกด้วย


อุทัย  มานาดี / รายงาน

จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 แห่งใหม่

นายนิรันดร ชัยศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค จัดตั้งขึ้นตามคำสั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ 362/2556 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2556 เป็นหน่วยงานภายในและราชการส่วนกลางขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่อมาได้มีคำสั่งที่ 486/2556 ลงวันที่ 9 เมษายน 2556 แต่งตั้งผู้อำนวยการนิรันดร ชัยศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 เป็นคนแรก และดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฯ สำเร็จเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556 มีข้าราชการมาปฏิบัติราชการประจำและให้บริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 โดยมีกรอบอันตรากำลัง รวม 33 คน (ข้าราชการ 25 คนและลูกจ้าง) ศพป. ภาค 3 มีภารกิจ อำนาจ หน้าที่ รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัด ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร ที่อยู่ 3164 ข้างวัดราชสีมาราม ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30000 โทรศัพท์/โทรสาร 044-351494 Email:dsiregion@gmail.com

จัดหางานจังหวัดสุรินทร์ แจ้งการเก็บเงินประกันเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับประเทศ

นายเทพบัญชา เกตุวิเศษกูล จัดหางานจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้ออกกฎกระทรวงกำหนดงานและจำนวนเงินที่ลูกจ้างซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว ต้องส่งเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร หลักเกณฑ์และวิธีการในการส่งเงิน การออกใบรับ หนังสือรับรอง และใบแทนหนังสือรับรองการส่งเงิน (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการมีหน้าที่ต้องหักค่าจ้างจากแรงงานต่างด้าวสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ที่ทำงานในตำแหน่งผู้รับใช้ในบ้าน และตำแหน่งกรรมกร เข้ากองทุนเพื่อส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร คนละ 1,000 บาท โดยสามารถแบ่งจ่ายได้เป็น 4 งวด หรือจ่ายครั้งเดียวก็ได้ จัดหางานจังหวัดสุรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า นายจ้างต้องเริ่มหักเงินค่าจ้างจากลูกจ้างตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 และส่งเงินเข้ากองทุนฯ ผ่านธนาคารกรุงไทย หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุรินทร์ ภายในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 และงวดต่อๆไป ภายในวันที่ 15 ของเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม 2557 ตามลำดับ แต่หากนายจ้างหรือลูกจ้างประสงค์จะส่งเงินเข้ากองทุนฯ น้อยกว่า 4 เดือน ให้ตกลงกันและทำเป็นหนังสือให้ชัดเจนและนำเงินส่งภายในกำหนด สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติม โทร. 0 4415 3021-2 ในวันและเวลาราชการ

ช้างพังน้องพลอย ตกลูกน้อยน่ารัก สุขภาพแข็งแรง

ช้างพังน้องพลอย ตกลูกน้อยน่ารัก สุขภาพแข็งแรง ควาญช้าง ฝึกให้ดูดนมแม่ แต่เป็นแม่ช้างมือใหม่ ยังให้ลุกดุดนมไม่เป็น และคอยขยับหนี ควาญช้างใช้ความพยายามนำลูกช้างเข้าดูดนมแม่ตลอดทั้งวัน เพื่อให้ลูกช้างได้ดื่มนม แต่ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก

วันนี้ 26 ก.พ.57 ที่โครงการคชอาณาจักร (คต-ชะ-อา-นา-จัก) องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ช้างพังน้องพลอย อายุ 18 ปี ซึ่งต้องท้องมานาน 24 เดือน ได้มีกำหนดตกลูก ในช่วงนี้ บรรดาควาญช้าง และคนเลี้ยงช้าง เจ้าของช้าง เจ้าหน้าที่โครงการคชอาณาจักร ได้พบว่า ช้างพังน้องพลอย ได้แสดงอาการ คล้ายกับจะตกลูก มีน้ำคล่ำ ไหลออกทางอวัยวะเพศ อย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งวาน เมื่อวานนี้ จึงได้ นำช้าง เข้าไปพัก ที่สำนักสงฆ์ ป่าอาเจียง ใกล้กับโครงการคชอาณาจักร และจัด เวรยาม ดุแลอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่า ช้างพังน้องพลาย เมื่อลูกตกออกมาจากท้องแม่แล้ว จะทำร้ายลูกน้อยได้ จนกระทั่งเวลาผ่านมาถึง วันใหม่ เวลา 01.00 น. ลูกช้างได้ตกออกมาจากท้องแม่อย่างง่ายดาย บรรดาควาญช้าง ที่เผาดุแลอยู่ พากันรีบวิ่งเข้าไปดึงช้างลูกน้อย ออกห่างจากตัวแม่ เกรงว่า ช้างแม่จะหวงลูก สำหรับช้างน้อย มีสุขภาพแข็งแรง ดีมาก น้ำหนัก กว่า 800 กิโลกรัม พอตกจากท้องแม่ได้ สามชั่วโมงก้เริ่มหันเดิน ควาญช้าง คนเลี้ยงช้าง ได้ดุแล คอยนำลุกช้างเข้าหาแม่เพื่อให้ดูดน้ำนมจากเต้า แต่ช้างน้อยยังไม่สามารถดูดน้ำนมจากเต้า ของแม่ได้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาและ ตลอดทั้งวันของวันนี้ ควาญช้างได้ช่วยกันพยุงช้างน้อย เข้าหาแม่ช้าง พร้อมนำกระสอบปุ๋ย บรรจุฟางข้าวข้างใน ให้สูงขึ้น ให้ช้างน้อย ได้เหยียบ ให้สูงขึ้น เพื่อให้ลูกช้าง ได้เข้าดูด น้ำนม จากเต้าแม่ช้างได้ อย่างไรก็ตาม ลุกช้างน้อย ยังไม่ได้มีการตั้งชื่อแต่อย่างใด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่โครงการคชอาณาจักร และประชาชนทั่วไปได้มีการแข่งขันตั้งชื่อลูกช้างน้อยในโอกาสต่อไป

และในบริเวณใกล้เคียงกัน พบว่า ช้างพังทอง อายุ 19 ปี ปี ก็ได้ตั้งท้องมีกำหนดใกล้ตกลูก ในปลายเดือนนี้ หรือ กลางเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้ ช้างพังทองใบ จึงได้นำมาเลี้ยงไว้ที่สำนักสงฆ์ป่าอาเจียง เพื่อให้ง่ายในการดูแลช้างท้องแก่อย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของช้าง ต่อไป



อุทัย  มานาดี /รายงาน

จับขบวนการขนไม้พะยูง ได้ผู้ต้องหา พร้อมยึดรถฟอร์จูนเนอร์ และ รถจักยานยนต์อีก 6 คัน

จับขบวนการขนไม้พะยูงส่งขายต่างประเทศ จับกุมผู้ต้องหา พร้อมยึดรถฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถนายทุน และ รถจักยานยนต์อีก 6 คัน ให้การรับสารภาพว่าให้ขนไม้พะยูงไปส่งยังจังหวัดมุกดาหารสุรินทร์

วันนี้ 26 ก.พ.57 เมื่อเวลา 01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรกาบเชิงร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่าที่ สร. 4 (สุรินทร์ หน่วยที่ 4) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกาบเชิง เข้าตรวจยึดไม้พะยูง บริเวณริมป่าชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คนกำลังขนย้ายไม้พะยูงขึ้นรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาวหมายเลขทะเบียน ฮง-8196 กรุงเทพมหานคร อยู่ริมชายป่า เมื่อชายฉกรรจ์ดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต่างก็ทิ้งรถ จักรยานยนต์ไว้ในที่เกิดเหตุจำนวน 6 คัน แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในไร่อ้อย หลบหนีเข้าป่า พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ติดตามและสามารถ จับกุมตัว 2 วัยรุ่นที่เป็นคนขับรถตู้ได้ 2 คน ทราบชื่อคือ นายธีระยุทธิ์ ลุสำเร็จ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 462 หมู่ 7 ตำบลกระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และ นายดนัย ทองหนุน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 13 ตำบลกระจาย อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนไม้พะยุงจากนายทุนไม่ทราบชื่อที่อยู่ เพียงแต่ทราบว่าให้มารับจ้างขับรถขนไม้พะยูงไปส่งให้ที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้ค่าจ้างจากการขับรถตู้ขนไม้ไปส่งคนละ 3,000 บาทเท่านั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวค้นภายในรถยนต์ตู้พบไม้พะยูงตัดเป็นท่อนๆยาวประมาณ 3 เมตร รวมจำนวนทั้งสิ้น 242 ท่อนกลม และวิทยุสื่อสารไอค่อมจำนวน 2 เครื่อง นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์สีขาว หมายเลขทะเบียน กน-5151 ขอนแก่น จอดอยู่ คาดว่าอาจเป็นรถยนต์ของนายทุนรับซื้อไม้พยุงและทิ้งรถไว้แล้วหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวได้นำรถยนต์ทั้ง 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 6 คัน พร้อมไม้พะยูง มาเก็บไว้ยัง ที่สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร. 4 พร้อมกับนำตัว 2 ผู้ต้องหาขนไม้พะยูงดังกล่าวมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง มอบให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกาบเชิงดำเนินคดีต่อไป.


อุทัย  มานาดี / รายงาน

ม.อุบลฯ บูรณาการการเรียนการสอน ป้องกัน ควบคุม ปัญหาโรคไข้เลือดออกร่วมกับชุมชน

ม.อุบลฯ บูรณาการการเรียนการสอน ป้องกัน ควบคุม ปัญหาโรคไข้เลือดออกร่วมกับชุมชน เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

ผู้ช่วยศาสตราจารย์จารุวรรณ วงบุตดี นำคณาจารย์ และนักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์ชั้นปีที่ ๓ วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ลงพื้นที่ให้บริการสำรวจลูกน้ำยุงลาย ยุงลายตัวเต็มวัย และแมลงวัน ณ บ้านดอนกลาง ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการบริการสำรวจดัชนีลูกน้ำยุงลายเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกแบบมีส่วนร่วมของชุมชน ในการประเมินผลกระทบและการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องปีที่ ๓ การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมให้บริการวิชาการแก่สังคมที่บูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชาการควบคุมแมลงและสัตว์แทะทางสาธารณสุข เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักศึกษา อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และเจ้าที่หน้าสาธารณสุขที่รับผิดชอบในพื้นที่ ผลจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะนำไปสู่การป้องกัน ควบคุม ปัญหาโรคไข้เลือดออกในพื้นที่บ้านดอนกลาง และชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย โดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน กิจกรรมครั้งต่อไปจะเป็นการจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันปัญหาโรคไข้เลือดออกในชุมชน โดยนักศึกษาและชุมชน

พระเทพกิตติมุนี พระเถระชั้นผู้ใหญ่จังหวัดอุบลราชธานี มรณภาพด้วยโรคชรา

พระเทพกิตติมุนี พระเถระชั้นผู้ใหญ่จังหวัดอุบลราชธานี พระผู้สร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี มรณภาพด้วยโรคชรา

เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.57) พระเทพกิตติมุนี พระเถระชั้นผู้ใหญ่ อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ฝ่ายมหานิกาย และเจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองอุบลราชธานี ได้มรณภาพแล้วอย่างสงบที่โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เมื่อเวลา 17.55 น. ของวานนี้ ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคชราในวัย 86 ปี 62 พรรษา
สำหรับพระเทพกิตติมุนี มีนามเดิมว่า สมเกียรติ นามเกษ เป็นบุตรของนายหนา-นางเพ็ง นามเกษ เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2470 ที่บ้านดอนนกชุม ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี โดยบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 14 ปี ที่วัดกระโสบ ต.กระโสบ และอุปสมบทที่วัดพิชัยญาติการาม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เมื่อปี 2490 สอบได้นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม ๖ ประโยค ครุศาสตรบัณฑิต (กิตติมศักดิ์)
พระเทพกิตติมุนี ได้มาเป็นรองเจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม ตั้งแต่ปี 2511 และเป็นเจ้าอาวาสในปี 2529 ต่อมาปี 2542 เป็นเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายมหานิกาย และ พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพกิตติมุนี เมื่อชราภาพได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเมื่อปี 2551 และเป็นผู้สร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี เพื่อให้การศึกษาธรรมะกับสามเณรและภิกษุสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัด ใกล้เคียง

สำหรับสรีระสังขารพระเทพกิตติมุนี ทางคณะศิษยานุศิษย์เคลื่อนมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมหาวนาราม อ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อประกอบพิธีน้ำหลวงสรงศพ ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 16.00 น. ณ พระวิหารพระเจ้าใหญ่อินแปง วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง (วัดป่าใหญ่) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และให้ลูกศิษย์ประชาชนได้กราบไหว้บูชาอย่างน้อย 100 วัน


กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

ม.อุบลฯ ขอเชิญชมละครเวที “พิศม์พยาบาท” 26 ก.พ.นี้ ณ โรงคณะศิลปศาสตร์

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยนักศึกษารายวิชาวรรณกรรมการละคร หลักสูตรภาษาไทยและการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ ขอเชิญผู้สนใจชมการแสดงละครเวที เรื่อง "พิศม์พยาบาท” ในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 กำหนดแสดง 2 รอบ รอบเวลา 14.00 น. และรอบเวลา 18.30 น. ณ โรงละครคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

อาจารย์สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาวิชาภาษาไทยและการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวถึงละครเวทีในครั้งนี้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของของการศึกษารายวิชา วรรณกรรมการละคร ผู้สอนได้มอบหมายให้ผู้เรียนเขียนบทละคร และนำเสนอในรูปแบบ"ละครเวที” เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจลักษณะ ขั้นตอนการผลิต และข้อจำกัดในการผลิตละครเวทีจนสามารถสร้างสรรค์บทละครที่เหมาะกับการจัดแสดงในรูปแบบละครเวทีด้วยตนเอง "พิศม์พยาบาท” ละครเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการ หาได้มีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ใดๆมาเกี่ยวข้องไม่ เพียงแต่อาศัยพื้นภูมิของสมัยอยุธยาตอนกลางเป็นฉากของเรื่องเท่านั้น โดยนำเสนอเรื่องราวโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น จากการใช้เล่ห์เหลี่ยมและความร้ายกาจของผู้คนที่อยู่แวดล้อม ผู้เป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจและความรักที่ทุกคนต้องการได้ครอบครองมาศจึงวางอุบายต่างๆ เพื่อให้เพื่อนรักของตนสมหวัง และพยายามกำจัดขวากหนามทุกอย่างที่จะเข้ามาแผ้วพานซึ่งขวากหนามเหล่านั้นก็คือเหล่าศัตรูที่มาศสงสัยว่าคือผู้ที่สังหารบิดา และทำลายชีวิตของตนจนย่อยยับ จากอุบายที่ใช้เพื่อเอาตัวรอดกลายเป็นอุบายที่มาศใช้ประหัตประหารฝ่ายตรงข้าม จนเริ่มถลำลึกเข้าไปในความมืด เขาจะหยุดยั้งสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากฝีมือตนได้อย่างไร จุดจบของโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเป็นเช่นไร? ไม่มีใครอาจรู้

สำหรับผู้สนใจ เข้าชมละครเวที เรื่อง "พิศม์พยาบาท” ในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 รอบเวลา 14.00 น. และรอบเวลา 18.30 น. ณ โรงละครคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี


กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน

ศาลปกครองอุบลฯ เปิดทำการแผนกคดีบริหารงานบุคคล

ศาลปกครองอุบลราชธานี เปิดทำการแผนกคดีบริหารงานบุคคล ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่ม วันที่ 10 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป

นายพัลลภ รัตนจันทรา อธิบดีศาลปกครองอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ปัจจุบันคดีปกครองที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น สมควรให้ดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีปกครองที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลเป็นไปโดยรวดเร็ว ทันต่อการเยียวยา แก้ไขความเดือดร้อนหรือความเสียหายแก่คู่กรณีอันจะเป็นประโยชน์ ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยศาลปกครองสูงสุดได้ออกประกาศ เรื่อง การจัดตั้งแผนกคดีบริหารงานบุคคลในศาลปกครองชั้นต้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2557
คดีปกครองเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล หมายถึง คดีพิพาททางปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 อันเกี่ยวกับการสรรหา การบรรจุ การแต่งตั้ง การย้าย การโอน การเลื่อนตำแหน่ง การเลื่อนเงินเดือน การดำเนินการทางวินัย การออกจากราชการ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และคดีอื่นตามประกาศของศาลปกครองสูงสุด
แผนกคดีบริหารงานบุคคลศาลปกครองอุบลราชธานี จะทำหน้าที่พิจารณาพิพากษา และดำเนินการ ทั้งปวงในคดีปกครองเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลภายในเขตอำนาจของศาลปกครองอุบลราชธานี ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทรศัพท์หมายเลข 045-319600-4ต่อ 110-113 ในวันเวลาราชการ


กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

กสิกรไทย แจกแล้ว ทองล้านแรก!!! จากแคมเปญ “เทศกาลเบิกบานใจแก๊ง 3 ช่าคาร์นิว้าว”

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557    นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย มอบทองคำแท่งมูลค่า 1 ล้านบาทให้กับนายธนบัตร ปั้นเทียน ลูกค้าผู้โชคดีจากจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้รับรางวัลใหญ่ครั้งที่ 1 จากแคมเปญ "เทศกาลเบิกบานใจแก๊ง 3 ช่าคาร์นิว้าว” มอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้ารายใหม่ในต่างจังหวัดที่มาเปิดใช้บริการกับธนาคารฯ ร่วมสิทธิ์ลุ้นกับรางวัลใหญ่ทองคำ 1 ล้านบาททุกเดือนตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2557 นี้

1. เพียงแค่เปิดบัญชีออมทรัพย์พร้อมสมัครบัตรเดบิต แล้วส่ง SMS ลุ้นรับทองคำ มูลค่า 1,000,000 บาท ทุกเดือน และสิทธิ์รับบัตรชมคอนเสิร์ต "แก๊ง 3 ช่า คาร์นิว้าว” นำทีมความฮาโดย หม่ำ เท่ง โหน่ง และเดอะแก๊ง ซึ่งธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ เวิร์คพอยท์ และเฟรชแอร์ เปิดการแสดงใน 50 จังหวัด

2. ยังไม่พอ แค่สมัครเพิ่ม "บริการ SMS ขยันบอก” รับไปอีก ของที่ระลึกสุดว้าวจากแก๊ง 3 ช่า คาร์นิว้าว


สอบถามเพิ่มเติมที่ 02 888 8888 เงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารกำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม (สำหรับสื่อมวลชน) ติดต่อ : ประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ ธนาคารกสิกรไทย พรรณราย ทวีโชติกิจเจริญ (อ๋า) โทร. 02-470-1344 หรือ 081-735-779 รจิตร พุทธิพงษ์ (ตุ้ย) โทร. 02-470-1380 หรือ 081-801-1501

สำนักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2557

สำนักงาน ก.พ. จะเปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2557 สำหรับผู้สำเร็จการศึกษา หรือผู้ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2557 ในระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) อนุปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกับกับคุณวุฒิดังกล่าวข้างต้นที่ ก.พ. รับรอง ผู้ประสงค์จะสมัครสอบจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกำหนดการดังต่อไปนี้ คือ สมัครสอบและพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน ระหว่างวันที่ 4-24 มีนาคม 2557 ที่เว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th/ ชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบและเลือกศูนย์สอบ ที่เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 4-25 มีนาคม 2557 ดูประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ กำหนดวัน เวลา สถานที่สอบ และพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป ที่เว็บไซต์ดังกล่าว

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากประเทศรับสมัครสอบได้ที่ศูนย์ข่าวสำนักงาน ก.พ. http://job3 .ocsc.go.th หรือ http://job.ocsc.go.th/ หรือ http://www.ocsc.go.th/



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมออกสลากสัญจรงวดวันที่ 1 มี.ค.57 ที่จังหวัดอุบลราชธานี

อุบลราชธานี : เชิญชวนชาวอุบลราชธานีและใกล้เคียง ร่วมชมการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 มี.ค.57 เพื่อชมขั้นตอนและวิธีการออกสลากตลอดทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกสลาก วันที่ 1 มี.ค.57 นี้ ที่โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ ตั้งแต่เวลา 14.30 น.

พลตำรวจตรี อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีนโยบายออกสลากรางวัลสัญจร ซึ่งงวดประจำวันที่ 1 มีนาคม 2557 นี้ ได้กำหนดทำการออกสลากที่ห้องทับทิมสยาม 1 โรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเต็ลแอนด์คอนเวนชั่น จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัดได้เห็นขั้นตอนและวิธีการตลอดจนอุปกรณ์ในการออกสลากรางวัลด้วยตนเอง จะได้ไม่หลงเชื่อข่าวลือเรื่องเลขเด็ดจากกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงต้มตุ๋นโดยการส่งจดหมายแอบอ้างว่าสามารถให้ตัวเลขที่จะออกรางวัลได้ โดยการออกรางวัลในวันที่ 1 มีนาคม 2557 นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย เป็นประธานกรรมการออกรางวัล พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชนและผู้แทนสื่อมวลชนจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมเป็นคณะกรรมการออกรางวัล ส่วนการหมุนวงล้อสลับกับพนักงานหมุนวงล้อของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เชิญข้าราชการหญิงของส่วนราชการในจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมทำหน้าที่หมุนวงล้อด้วย

สำหรับประชาชนทั่วไป ที่สนใจสามารถเข้าชมการออกสลากรางวัลได้ด้วยตนเอง พร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชนแสดงในวันออกสลาก วันที่ 1 มีนาคม 2557 ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการออกสลากรางวัล โดยการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์และทางสถานีโทรทัศน์ข่าวสปริงนิวส์ ระหว่างเวลา 15.00 – 16.00 น. และรับฟังการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

สคร.7 เตือนระวังโรคพิษสุนัขบ้า

อุบลราชธานี : เตือนประชาชนให้ระวังโรคพิษสุนัขบ้า ใช้หลัก 5 ย. อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าหยิบ อย่ายุ่งและอย่าแยก หลังพบแต่ละปีคนไทยถูกสุนัขกัดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน แต่มีประมาณร้อยละ 50 เท่านั้น ที่มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.7) เปิดเผยว่าในแต่ละปีคนไทยถูกสุนัขกัดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 50 เท่านั้นที่มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ในปี 2556 ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 6 ราย ซึ่งทุกรายถูกสุนัขกัดและไม่ได้ฉีดวัคซีนหลังถูกกัด จึงขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ช่วยสอดส่องดูแลสุนัข แมว เนื่องจากระยะหลังพบว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสาเหตุของโรคพิษสุนัขบ้าในคนมากกว่าสุนัขจรจัด ผู้ปกครองควรดูแลอย่าให้บุตรหลานไปเล่น หรือคลุกคลีกับสุนัขและแมวไม่มีเจ้าของ และลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการถูกสุนัขกัดโดยใช้หลักคาถา 5 ย คือ 1.อย่าแหย่ ให้สุนัขหรือสัตว์โกรธ 2.อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือทำให้สุนัขตกใจ 3.อย่าหยิบจับ จานข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร 4.อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้สุนัขที่ไม่รู้จักหรือไม่มีเจ้าของ 5.อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า

นพ.ศรายุธ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ เกิดจากเชื้อไวรัสก่อโรคในสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น สุนัข แมว วัว ควาย ลิง ชะนี เป็นต้น ในไทยพบว่าสุนัขป่วยเป็นโรคนี้มากที่สุดร้อยละ 96 รองลงมาคือแมว เชื้อติดต่อสู่คนจากการถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัด ข่วน เลีย น้ำลายกระเด็นเข้าทางตา ปาก หรือบาดแผลตามผิวหนัง โดยเชื้อไวรัสจะเพิ่มจำนวนที่บริเวณแผลถูกกัด หลังจากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์ - 4 เดือน จะมีอาการป่วย บางรายอาจเร็วเพียง 4 วัน การป่วยจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับจำนวนเชื้อที่เข้าไปในร่างกาย ตำแหน่งบาดแผลหากอยู่ใกล้สมอง เชื้อจะเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง หรือเข้าสู่สมองได้เร็ว ผู้ป่วยจะมีอาการคลุ้มคลั่ง ดุร้าย กระวนกระวาย หากเชื้อเข้าสู่ไขสันหลังจะทำให้สมองและไขสันหลังทำงานผิดปกติ มีอาการอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด

ทั้งนี้ ยังไม่มียาใดที่รักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว จะเสียชีวิตทุกราย แต่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน หากถูกสุนัขกัด ถูกเล็บข่วน หรือถูกเลียบริเวณที่มีบาดแผล ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ ใส่ยาใส่แผลสด และรีบไปพบแพทย์ รวมทั้งเฝ้าระวังสุนัขหรือแมวที่มากัดเป็นเวลา 10 วัน หากสัตว์ตายระหว่างดูอาการ ให้แจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่เพื่อตัดหัวสุนัขส่งตรวจหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และทำการป้องกันควบคุมโรคในชุมชน หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ 1422 หรือศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค 0-2590-3333



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดอบรมสัมมนา “การพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าอย่างยั่งยืน”

วันนี้ (26 ก.พ.57 ) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมชิตสกนธ์ ฟลาวเวอร์แลนด์ จังหวัดอำนาจเจริญ        นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานการอบรมสัมมนา "การพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าอย่างยั่งยืน”

จังหวัดอำนาจเจริญ มีวิสัยทัศน์ พันธกิจ และประเด็นยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาข้าวหอมมะลิให้มีความเป็นเลิศ และมีคุณภาพดี มีมาตรฐาน เพื่อให้เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของผู้บริโภคทั้งภายในและภายนอกจังหวัดอำนาจเจริญ ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดระดับสากลและมีศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าทั้งระดับภายในและภายนอกประเทศ

โดยข้าวหอมมะลิเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรของจังหวัด โดยในปีการผลิต 2556/57 มีพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ 816,942 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด มีผลผลิต 341,481 ตัน ซึ่งจังหวัดอำนาจเจริญมีพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกข้าวหอมมะลิ ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี ซึ่งผลผลิตเหล่านี้ยังต้องการองค์ความรู้ที่เหมาะสมในการจัดการ เพื่อการพัฒนาเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ พัฒนาช่องทางการตลาด สร้างโอกาสทางการค้าที่มากขึ้น

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ภายใต้โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กิจกรรมอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อเสริมศักยภาพของกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การอบรมสัมมนาเรื่อง "การพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าอย่างยั่งยืน”  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาความรู้ความสามารถ เสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาสินค้าให้มีมาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์สร้างโอกาสและขยายช่องทางการตลาดให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าอย่างยั่งยืนให้กับผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิของจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสี หน่วยงานจากภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน 200 คน

การอบรมสัมมนาในวันนี้ ได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรบรรยายให้ความรู้ จากกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานชั่งตวงวัดเขต 2-4 อุบลราชธานี กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ชมรมโรงสีข้าวจังหวัดอำนาจเจริญ สมาคมเกษตรอินทรีย์จังหวัดอำนาจเจริญ กลุ่มผลิตข้าวอินทรีย์บ้านนาเวียง และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

จังหวัดอำนาจเจริญประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินและโครงการทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

วันนี้ (26 ก.พ.57 ) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายบุญยืน  คำหงษ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินและโครงการทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ได้จัดให้มี "โครงการทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ” เนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินงานโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดินครบรอบ 10 ปี ในปี 2556 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน รวมทั้งสร้างกระแสความร่วมมือของประชาชนทั่วประเทศให้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

จังหวัดอำนาจเจริญมีหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2547-2554 จำนวน 198 หมู่บ้าน และมีการขยายหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน ปี 2555-2556 ปีละ 20 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 40 หมู่บ้าน            มีการขยายผลศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน อำเภอละ 10 ศูนย์ รวม 7 ศูนย์ และมีการตรวจสุขภาพหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 218 หมู่บ้าน



ประกาศิต  สุวะทอง/ข่าว/ภาพ

จังหวัดศรีสะเกษ จัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติประจำปี 2557

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวาลา 10.00 น. ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานเปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติประจำปี 2557 จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีข้าราชการและลูกจ้างของสำนักงานสหกรณ์ในจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนประมาณ 500 คน มีกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย พิธีวางพานพุ่มพระมาลาสักการะพระบิดาแห่งสหกรณ์ไทย การจัดนิทรรศการสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ และร่วมบริจาคโลหิต โดยมีสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ นำเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจังหวัดศรีสะเกษและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษออกรับบริจาคโลหิต มีข้าราชการและลูกจ้างของสำนักงานสหกรณ์ในจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมบริจาคโลหิตจำนวน 300 ราย จำนวน ได้โลหิตทั้งสิ้น 90,000 ซี.ซี. เพื่อนำไปช่วยเหลือคนไข้ในโรงพยาบาลศรีสะเกษ และการจัดนิทรรศการและนำผลผลิตของสหกรณ์มาร่วมจำหน่าย การจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติประจำปี 2557 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแป็นการน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติประจำปี 2557 และเป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานของสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษด้วย


ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ

คณะนายอำเภอจอมกระสาน เข้าเยี่ยมคารวะ ผวจ.ศรีสะเกษ

วันนี้ (26 ก.พ.57)  ณ ห้องปฏิบัติการผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัด จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับพร้อมกับปรึกษา หารือแลกเปลี่ยนข้อราชการ กับคณะนายอำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ที่ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสที่ทางอำเภอกันทราลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้เชิญชวนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างส่วนราชการของทั้งสองอำเภอ ณ สนามกีฬากลางอำเภอกันทราลักษ์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งนำโดย นายซก ไฮ นายอำเภอจอมกระจาน นางเอียง รินดา ภริยานายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่อำเภอจอมกระสานทุกส่วนราชการ ประกอบด้วย รองนายอำเภอ, หัวหน้าสำนักงานฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หัวหน้าแผนกป่าไม้, รองผู้บกำกับการตำรวจประจำอำเภอ, รองผู้บังคับการทหารประจำอำเภอ, ผู้อำนวยการ วิทยาลัยจอมกระสาน, รองหัวหน้าแผนกป่าไม้, ผุ้อำนวยการฝ่ายปกครองอำเภอ, หัวหน้าสำนักงานเกษตร, เจ้าหน้าที่สำนังานการศึกษาประจำอำเภอ, ผู้บังคับการหน่วยสารวัตรทหาร, เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานสภาที่ปรึกษาจังหวัด และครูอนุวิทยาลัย รมเต๊าะแสร ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

สำหรับการเข้าเยี่ยมคารวะ และปรึกษาหารือข้อราชการในครั้งนี้ ทางจังหวัดศรีสะเกษพร้อมให้ความช่วยเหลือ และยินดีให้ความร่วมมือ หากทางอำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหารร้องขอ และที่สำคัญในการประสานงาน การแก้ไขปัญหาต่างๆในท้องที่ระหว่างอำเภอต่ออำเภอนั้น ทางจังหวัดศรีสะเกษเปิดให้ดำเนินการได้เต็มที่ พร้อมนี้ได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับทางนายอำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชาอีกด้วย



ฉัตรชัย พรหมมาศ /ข่าว/ภาพ

จังหวัดร้อยเอ็ด ประชาสัมพันธ์งานประเพณีบุญผะเหวด ประจำปี 2557 ในงาน “เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก”

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มอบให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมออกคูหาประชาสัมพันธ์งานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ในงาน "เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก ครั้งที่ 14” ระหว่างวันที่ 20 – 23 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ สมาคมบริการเที่ยวไทย ด้วยการแจกจ่ายเอกสาร และรายละเอียดของงาน เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศรับทราบข้อมูลอย่างแพร่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวสนใจและซื้อแพ็กเกจทัวร์เที่ยวงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ปี 2557 กว่า 40 ท่าน

โอกาสนี้ ทีมงานสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ยังได้ประสานภาคส่วนต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น อาทิ การแจกจ่ายสปอตวิทยุ/โทรทัศน์,ข่าวประชาสัมพันธ์ รวม 13 รายการดัง และยังติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ ณ การท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ


วิมล เร่งศึก/ข่าว กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมหมอกวัน

 จังหวัดร้อยเอ็ดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมหมอกควัน ป้องกันมิให้เกิดความเสียหายจากไฟป่า และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมหมอกควันโดยเคร่งครัด

นายพลากร บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เนื่องจากในฤดูแล้งของทุกปี จะเกิดไฟป่าเป็นประจำ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ทั้งที่ตั้งใจและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การเผ่าป่าหรือกระทำการใดๆ ทำความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า ตลอดจนทรัพย์สินของประชาชน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันมิให้เกิดความเสียหายจากไฟป่าดังกล่าว จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาป่า และปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันไฟป่าและควบคุมหมอกควันโดยเคร่งครัด ประสานความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่ ผู้ช่วยใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สอดส่องดู และประสานยังหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีควบคุมไฟป่าร้อยเอ็ด ,สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) ,สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด,สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร้อยเอ็ด,กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า กรณีการจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มีความผิดต้องระวางโทษทั้งจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง15 ปี และ โทษปรับสูงสุดที่ 150,000 บาท



วิมล เร่งศึก/ข่าว กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

สำนักสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด รับขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร

 สำนักสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด รับขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ณ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 2 นางสาวชมพูนุช ญาณะนันท์ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด รับขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร โดยสถาบันเกษตร หรือคณะของเกษตรกรใดที่ประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรเกษตรตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 ให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตร ตามแบบและเอกสารหลักฐานประกอบการขึ้นทะเบียน ณ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 2 ถนนเทวาภิบาล อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.00 น.ถึง 16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ สถาบันเกษตร หรือคณะของเกษตร ที่มีสิทธิขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตร ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบอาชีพตามความหมายในพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553,เป็นสถาบันเกษตรกรที่จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ ประเภทสหกรณ์การเกษตร ประเภทสหกรณ์นิคม ประเภทสหกรณ์ประมง หรือกลุ่มเกษตรกร ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 เกษตรกรรวมกลุ่มกันตั้งแต่ 100 คนทั่วไป มีที่ตั้งเป็นสำนักงาน หรือที่ทำการเป็นหลักแหล่งชัดเจน

หลักฐานประกอบการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตร ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนสถาบันเกษตรกร หรือคณะของเกษตรกร,สำเนาเอกสารแสดงที่ตั้งของสถาบันเกษตรกรหรือคณะของเกษตรกร,สำเนาเอกสารแสดงวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการของเกษตรที่ประกอบเกษตรกรรมของสถาบันเกษตรกร หรือคณะของเกษตรกร,สำเนาการจดทะเบียนพร้อมสำเนารายชื่อคณะกรรมการ กรณีการยื่นคำขอของสถาบันเกษตร ตามแบบ ทอก.2,บัญชีรายชื่อคณะกรรมการและบัญชีรายชื่อสมาชิก กรณีการยื่นคำขอของคณะของเกษตร ตามแบบ ทอก.3,สำเนารายงานการประชุมที่แสดงมติให้สถาบันเกษตรกร หรือคณะของเกษตรกรขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตร

สอบถามรายละเอียดที่สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 0 -4351-9865 โทรสาร 0-4351-9866 หรือ E-mail : nfc.ret@nfc.or.th



วิมล เร่งศึก/ข่าวกมลพร คำนึง/บก.ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนาแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน

 จังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนาแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกับน้ำไว้ใช้ในการเกษตร อุปโภค – บริโภค บรรเทาปัญหาภัยแล้ง เพิ่มผลผลิตสร้างรายได้แก่เกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด

นายชาติชาย ประสาระวัน ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด ได้ดำเนินงานโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกับน้ำไว้ใช้ในการเกษตร อุปโภค – บริโภค บรรเทาปัญหาภัยแล้ง เพิ่มผลผลิตสร้างรายได้แก่เกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยให้เกษตรกร สมทบบ่อละ 2,500 บาท ใช้พื้นที่ในการขุดสระน้ำ จำนวน 1 ไร่ ซึ่งมีให้เลือก 2 รูปแบบ เป็นแบบรูปตัว I และแบบรูปตัว L

ทั้งนี้เกษตรกรที่ประสงค์จะร่วมโครงการสามารถแจ้งความประสงค์ ตามแบบฟอร์มที่กำหนดได้ที่ สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด เลขที่ 9 หมู่ 21 ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด หรือโทรศัพท์ หมายเลข 0 – 4353 – 2533 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


วิมล เร่งศึก/ข่าวกมลพร คำนึง/บก.ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด ติวเข้มกุ๊กมืออาชีพกว่า 200 คน ขานรับปีท่องเที่ยว โครงการครัวร้อยเอ็ดสู่ครัวโลก

เมื่อเวลา 11.30 น. (วันที่ 26 กุมภาพัน 2557 ) นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการาจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน เปิดการอบรมกุ๊กมืออาชีพโกอินเตอร์ ขานรับปีท่องเที่ยว โครงการครัวร้อยเอ็ดสู่ครัวโลก ที่ห้องประชุมวิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด โดย แรงงานจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดร้อยเอ็ดได้จัดโครงการครัวร้อยเอ็ดสู่ครัวโลก เพื่อขานรับปีท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ด รับอาเซี่ยนสู่ครัวโลก โดยนำกุ๊กระดับมืออาชีพ ตามสถานประกอบการ ร้านอาหาร โรงแรมชื่อดัง กว่า 200 คนเพื่อติวเข้มในการประกอบอาหาร ที่อร่อย สะอาด สามารถแข่งขันกับนานาอารยประเทศได้ โดยใช้ วิทยาการจาก ศุนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดร้อยเอ็ดและจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด สถานที่ในการอบรม ในครัวของวิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด ใช้เวลา 5 วัน



บุญมี / ข่าว/ ภาพกมลพร คำนึง บก ข่าว

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมเขตที่ 7 ฝึกอบรมโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กำหนดจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม (คพอ.) รุ่นที่ 278 จังหวัดยโสธร ระหว่างวันที่ 6-27 มีนาคม 2557 ระยะเวลาฝึกอบรม 19 วัน ณ โรงแรม เจ.พี.เอ็มเมอรัลด์ อำภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมให้มีความรู้และทักษะในการบริหารจัดการธุรกิจสูงขึ้น สามารถประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งใบสมัครได้ที่ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาคที่ 7 ถนนคลังอาวุธ ตำบลขามใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี หรือสอบถามโดยตรงได้ที่ นางเปลี่ยน จำปาหอม โทรศัพท์ 087-2594455 นายจิรณัฐกานต์ ซาหา โทรศัพท์ 084-4447455 ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์ 

ตำรวจยโสธรซ้อมควบคุมฝูงชน

ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรเตรียมพร้อม ฝึกกองร้อยควบคุมฝูงชน ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร พ.ต.อ ถวาย บูรณรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร เป็นประธานการฝึกทบทวนเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุก่อความไม่สงบภายในจังหวัดขึ้น และเป็นกำลังสนับสนุนในส่วนกลาง กทม. จากสถานการณ์ในปัจจุบัน มีการแบ่งแยกแนวความคิด ทำให้มีการเกิดการชุมนุมเรียกร้องเพิ่มขึ้นและรุนแรงมากขึ้น มีการปลุกปั่น ปลุกระดม ให้เกิดอารมณ์ร่วม และก่อความไม่สงบเกินขอบเขตที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด เช่น การก่อการจลาจล การล้อมกรอบเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ การบุกรุกทำลายสถานที่ราชการ ปิดกั้นการจราจร เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการใช้มาตรการในการควบคุมฝูงชนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้อยู่ในระดับสากล โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และหลีกเลี่ยงการสูญเสียทุกรูปแบบให้มากที่สุด ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดยโสธรจึงได้จัดฝึกทบทวนการควบคุมฝูงชนขึ้นในครั้งนี้

พิธีเปิดงานวันสถาปนาและงานกาชาดจังหวัดยโสธร ประธานเปิดโดย ดร.พีระพันธุ์ พาลุสุข

จังหวัดยโสธร และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร กำหนดจัดงานวันสถาปนาและ งานกาชาดจังหวัดยโสธร ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 1 – 10 มีนาคม 2557 ที่บริเวณสวนสาธารณะบุ่งน้อย – บุ่งใหญ่ โดยจะมีพิธีเปิดงาน ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม นี้ เวลา 19.00 น. ประธานพิธีเปิดโดย ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมมีพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานราชการ บริษัท ห้างร้าน ที่ให้การสนับสนุนการจัดงานกาชาด และมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ ภูมิปัญญาไทย "คนดีศรีเมืองยศ” ประจำปี 2557 ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร

ก่อนพิธีเปิดงานและหลังพิธีเปิดงาน ชมการแสดงวง Symphonic Band ยโสธร จากวิทยาลัยเทคนิคยโสธร และโรงเรียนยโสธรพิทยาคม



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์

DSI ภาค 3 ประชุมชี้แจงภารกิจ อำนาจ หน้าที่ ให้กับส่วนราชการจังหวัดยโสธรทราบ

 DSI ภาค 3 นครราชสีมา ประชุมชี้แจงภารกิจ อำนาจ หน้าที่ ให้กับส่วนราชการในจังหวัดยโสธรรับทราบ

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมหมอนขิต ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายนิรันดร ชัยศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา มาประชุมชี้แจงภารกิจ อำนาจ หน้าที่ ให้กับส่วนราชการ ในจังหวัดยโสธรรับทราบ โดยมีนายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ เข้าร่วมรับฟัง

ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 3 นครราชสีมา สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม มีเขตอำนวยดูแลจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 8 จังหวัด (ชัยภูมิ,นครราชสีมา,บุรีรัมย์,สุรินทร์, ศรีสะเกษ,อุบลราชธานี,อำนาจเจริญ และยโสธร)

คดีพิเศษ เป็นคดีความผิดอาญา ที่มีความซับซ้อน มีผลกระทบรุนแรง ด้านความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง, ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ , ระบบเศรษฐกิจการคลังของประเทศ, การกระทำผิดข้ามชาติ มีผู้มีอิทธิพลเป็นตัวการ และคดีที่มีพนักงานฝ่ายปกครอง หรือ ตำรวจ เป็นผู้ต้องสงสัยในการกระทำความผิด

การจะเป็นคดีพิเศษ ได้นั้นจะต้องมีผู้เสียหายร้องขอ แล้วองค์คณะพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษได้ หรือ DSI พบเห็นพิจารณาเอง เมื่อDSI ดำเนินการสอบสวนแล้ว ถ้าเป็นข้าราชการกระทำผิดจะส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ถ้าเป็นประชาชน เมื่อสอบสวนเสร็จ จะส่งให้ อัยการสั่งฟ้องต่อไป

หากท่านมีข้อสงสัย ติดต่อศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 3 นครราชสีมา โทร.044-351494



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์

จังหวัดมุกดาหาร ประชุมเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนก

นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนกจังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เพื่อให้คณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ สถานการณ์ การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนก และเตรียมความพร้อมสถานการณ์หากมีการแพร่ระบาดในประเทศไทย

จากรายงานขององค์กรอนามัยโลก ช่วงวันที่ ๒๐-๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ทั่วโลกพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H๗N๙ เพิ่มขึ้น ๙ ราย โดยผู้ติดป่วยทั้งหมดมีประวัติการสัมผัสสัตว์ปีก รวมทั้งมีการรายงานข่าวแล้วว่า เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ พบสัตว์ปีกที่สงสัยติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H๕N๘ โดยสัตว์ปีกที่พบมี นก เป็ด และไก่ ในฟาร์มขนาดใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้โรคไข้หวัดนก จะยังไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งจะต้องให้ข้อมูลข่าวสารความรู้แก่ประชาชนในการดูแลป้องกันจากไข้หวัดนกอย่างถูกวิธี



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

เยาวชนมหาสารคามจาก 4 สถาบัน ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมค่ายยุวชนประชาธิปไตย 57


นักเรียน นักศึกษา จำนวน 4 คน จาก 4 สถาบันการศึกษาในจังหวัดมหาสารคาม ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมกิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557

นายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเยาวชน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557 กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการโครงการพัฒนาประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ ประชาชน กิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557 ได้จัดโครงการพัฒนาประชาธิปไตย เพื่อเผยแพร่ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา และเข้าใจช่องทางการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนมีวิสัยทัศน์ มีวิถีความคิด วิถีชีวิต คุณธรรม จิตสำนึกและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยได้ขอความร่วมมือให้จังหวัดมหาสารคาม พิจารณาคัดเลือกเยาวชน เพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมกิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตยประจำปี 2557 จำนวน 4 คน รุ่นละ 2 คน และสำรองอีก รุ่นละ 3 คน

จังหวัดมหาสารคาม จึงได้ประกาศรับสมัครเยาวชนจากสถานศึกษาต่าง ๆ ส่งประวัติและผลงานเข้ารับการคัดเลือก พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาคัดเลือกเยาวชนเป็นตัวแทน จังหวัด และเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่ นางสาวลลิตา ภานุรักษ์ โรงเรียนมหาชัยพิทยาคาร นายศุภวัฒน์ วิชัยดิษฐ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นางสาวณัฐริกา ทิพยวัฒน์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) และนางสาวธยานี ดีเชียง โรงเรียนนาดูนประชาสรรพ์ โดยได้สำรองไว้อีก 6 คน จากโรงเรียนมหาชัยพิทยาคาร นาเชือกพิทยาสรรค์ สาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) นาดูนประชาสรรพ์ และโรงเรียนวาปีปทุม



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 9 มุกดาหาร เปิดตัวกับภาครัฐ ภาคเอกชนที่มหาสารคาม

สำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 9 มุกดาหาร ลงพื้นที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเพื่อแนะนำบทบาทภารกิจของหน่วยงานกับภาครัฐ ภาคเอกชน จังหวัดมหาสารคาม พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับภาคเอกชนที่ต้องการขยายการลงทุนรองรับ AEC

(26-2-57) นายเขมทัต อาชวธำรง ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 9 มุกดาหาร เข้าพบ นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม โดยมีผู้แทนส่วนราชการ และภาคเอกชน ในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือด้านการขยายการลงทุน รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 9 มุกดาหาร กล่าวว่า สำนักงานการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้า การลงทุนกับต่างประเทศ และรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำหรับ สำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 9 (มุกดาหาร) เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค มีเขตพื้นที่รับผิดชอบ 5จังหวัด ได้แก่ มุกดาหาร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม และเป็นตัวแทนของกรมการค้าต่างประเทศในพื้นที่

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สำหรับจังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา หรือ ตักสิลานคร ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ สำหรับด้านการค้า การลงทุน จะมีสถานประกอบการประเภทโรงสีอยู่กว่า 10 แห่ง และเป็นจังหวัดที่มีที่ตั้งอยู่กึ่งกลางภาคอีสาน ผลผลิตทางการเกษตรสำคัญที่เป็นสินค้าส่งออกและพืชเศรษฐกิจก็คือ ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี พร้อมทั้งยังมีโรงงาน สถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่ ดังนั้น การที่มีสำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 9 (มุกดาหาร) เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค คาดว่าจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการที่จะปรึกษา หารือ หรือหาช่องทางการตลาด ขยายการลงทุนรองรับ AEC ในอนาคต



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ททท. ขอเชิญร่วมเดินเท้าสร้างบุญ เคาะระฆังต่อทุนบารมีบนเขาพนมสวายจังหวัดสุรินทร์




การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ ขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วมงาน “ประเพณี ขึ้นเขาสวาย” ประจำปี 2557 ในวันที่ 31 มีนาคม 2557 ณ วนอุทยานพนมสวาย อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

เขาสวาย หรือพนมสวาย เป็นภูเขาที่ไม่สูงชันนัก อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยยอดเขาสาม แต่เดิมในอดีตบรรพบุรุษของชาวสุรินทร์เชื่อว่าพนมสวายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสถานที่แสวงบุญ ดังนั้นในทุกปีเมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำเดือนห้า ที่ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ ชาวสุรินทร์จะพร้อมใจกันหยุดงานแล้วเดินทางจากตัวเมืองไม่ว่าจะด้วยการเดินเท้าหรือทางเกวียน ขึ้นไปกราบไหว้ขอพรเสริมสร้างบารมีให้ชีวิตตนเองและครอบครัวประสบความสุข ความสำเร็จใน ทุก ๆ ด้านบนยอดเขาพนมสวายเป็นประจำทุกปีจวบ  จนปัจจุบัน

ททท. สำนักงานสุรินทร์ จึงขอเชิญสืบสานงานบุญท้องถิ่น ชวนนักท่องเที่ยวร่วมงาน “ประเพณีขึ้นเขาสวาย” เสริมศรัทธาบารมี พร้อมกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 แห่งบนยอดเขาอันได้แก่ 1.พระใหญ่หรือพระสุรินทร มงคล 2.รอยพระพุทธบาทจำลอง 3.อัฐิหลวงปู่ดูลย์ อตุโล 4.พระพุทธรูปองค์ดำ 5.อัฐิพระครูพนมศิลคุณ (สวน สารธมฺโม) 6.ร่องรอยแห่งปราสาทหินพนมสวาย 7.ศาลเจ้าแม่กวนอิม 8.เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ 9.สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงระฆังศักดิ์สิทธิ์ 1,080 ใบ ซึ่งเป็นระฆังจากวัดทั่วจังหวัดสุรินทร์ 1,070 ใบ และอีก 10 ใบ จากวัดชื่อดังในกรุงเทพมหานคร เชื่อว่าหากใครได้มาเคาะระฆังเหล่านี้จะมีชื่อเสียงขจรไกลเหมือนดังเสียงระฆังที่ก้องกังวานออกไป

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงเช่น ปราสาทบ้านพลวง อำเภอปราสาท ชมปราสาทหินขนาดเล็กแต่มีความโดดเด่นด้านลายสลักที่วิจิตรงดงามและสมบูรณ์ กลุ่มปราสาทตาเมือน อำเภอพนมดงรัก พบกับโบราณสถานศิลปะขอมสามหลังสามแบบ ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เชื่อว่าในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นชุมชนเพราะเป็นเส้นทางผ่านช่องเขาสำคัญระหว่างเมืองพระนครไปยังพิมายปุระ หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง อำเภอเมือง เรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีผ้าไหมจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์ และตื่นตาไปกับศิลปะการถักทอเส้นไหมอันสลับซ้อนดิ้นทองผสมผสานลายราชสำนักโบราณ จำนวน 1,416 ตะกอ หมู่บ้านช้าง อำเภอท่าตูม เรียนรู้วิถีชีวิตชาวกวยหรือกูย ความสัมผัสความผูกพันระหว่างคนกับช้าง ที่เลี้ยงช้างเป็นเสมือนดั่งสมาชิกในครอบครัว มากกว่าการเลี้ยงมุ่งเน้นการเลี้ยงช้างไปเพื่อการงานหรือธุรกิจ


นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
• ททท. สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0 44 51 4447 - 8 โทรสาร. 0 4451 8530










ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จัดการประชุมสภากาแฟสัญจร ครั้งที่ 2 ประจำปี 2557

วันนี้ (26 ก.พ.57)  เวลา 07.30 น. ที่ อาคาร 100 ปี โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมสภากาแฟสัญจร ครั้งที่ 2 ประจำปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นโดย กระทรวงศึกษาธิการ ยมีหัวหน้าส่วนระดับจังหวัดเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานของแต่ละกระทรวงในระดับจังหวัด สำหรับในการประชุมสภากาแฟสัญจรในครั้งนี้ นอกจากจะมีการหารือข้อราชการและการดำเนินงานในด้านต่างๆแล้วได้มีการจัดเลี้ยงอาหาร และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มาบริการตรวจสุขภาพ ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งยังได้มีการบริการนวดเพื่อสุขภาพผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย สำหรับการประชุมสภากาแฟสัญจรครั้งต่อไป จะจัดขึ้นที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 19 มี.ค.57 โดย ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 นครราชสีมา (BOI) 

โคราช จัดงานสหกรณ์แห่งชาติ รำลึกถึงพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย

วันนี้ (26 ก.พ.57)  ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย และส่งเสริมให้สมาชิกได้ตระหนักถึงคุณค่า ศรัทธา และเชื่อมั่นระบบสหกรณ์ ตลอดจนเพื่อประชาสัมพันธ์งานสหกรณ์สู่สาธารณชนอย่างกว้างขวาง นับแต่สหกรณ์แห่งแรกได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2459 จวบจนปัจจุบันนี้ มีอายุครบ 98 ปี การสหกรณ์ได้พัฒนาก้าวหน้ามาเป็นลำดับ ปัจจุบันมีสหกรณ์รวมทุกประเภทกว่า 8,087 แห่ง

โดยสหกรณ์มีบทบาทในการช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้มวลสมาชิกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสอดคล้องกับแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความสำคัญของงานสหกรณ์ คณะรัฐมนตรีจึงกำหนดให้วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ของทุกปี โดยภายในงาน ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายการสักการะพระบรมรูปพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดา แห่งการสหกรณ์ไทย และกล่าวสดุดีพระเกียรติคุณพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย จากนั้นได้มอบโล่รางวัลให้แก่กลุ่มสหกรณ์ดีเด่นระดับจังหวัด กลุ่มเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด และคนดีศรีสหกรณ์ นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการเปิดรับบริจาคโลหิต และการจำหน่ายสินค้าของสมาชิกสหกรณ์ อีกด้วย

ผอ.ลำตะคองโคราช ยืนยันน้ำในเขื่อนมีเพียงพอตลอดฤดูแล้ง แนะเกษตรกรไม่ต้องปิดกั้นน้ำเพื่อการเกษตร

วันนี้ (26 ก.พ.57)  ที่ห้องประชุมสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมานายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองจังหวัดนครราชสีมา เรียกประชุมหัวหน้าและเจ้าหน้าที่ เขื่อนระบายน้ำในลุ่มน้ำลำตะคองทั้ง 12 แห่ง เพื่อประเมินสถานการณ์ภัยแล้งและวางแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง พร้อมเปิดเผยถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนละตะคอง ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง มีทั้งสิ้น 240 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 76 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ 314 ล้าน ลบ.ม. ในแต่ละวันจะมีการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ ประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน หรือ 12 ลบ.ม. ต่อวินาที สำหรับการจัดสรรน้ำมีการบริหารจัดการ 4 ส่วน ประกอบด้วย ด้านอุปโภค-บริโภค ด้านโรงงานอุตสาหกรรม ด้านการเกษตร และด้านระบบนิเวศน์ ทั้งนี้น้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ 5 อำเภอลุ่มน้ำลำตะคอง ประกอบด้วย อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมือง และอ.เฉลิมพระเกียรติ นั้น ยืนยันว่ามีน้ำใช้ตลอดช่วงดูแล้งนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากปริมาณน้ำในช่วงนี้มีปริมาณมากกว่าในช่วงเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา ส่วนน้ำทีใช้ในการเกษตรทางเขื่อนได้มีการวางแผนการปล่อยน้ำเพื่อการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งไว้ จำนวน 100,000 ไร่ จากพื้นที่ที่อยู่ในโครงการทั้งหมด 150,000 ไร่ เพื่อเป็นการชดเชยพื้นที่บางส่วนที่ผลผลิตเสียหายและได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจากพายุนารีในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นการชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง

นายกิติกุล กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการระบายน้ำของเขื่อนลำตะคองสู่เขื่อนระบายน้ำต่างๆ คือสิ่งก่อสร้างที่กีดขวางทางน้ำที่สร้างไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งมีอยู่มากกว่า 30 แห่ง ตลอดลุ่มน้ำ อย่างไรก็ตามอยากฝากไปถึงประชาชนและพี่น้องเกษตรที่อาศัยอยู่2ฝั่งลุ่มน้ำลำตะคองว่า อย่าสร้างสิ่งกีดขวางหรือปิดกั้นทางน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร ทางเขื่องมั่นใจว่าตลอดฤดูแล้งนี้น้ำภายในเขื่อนมีเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร อย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต่อปิดกั้นทางน้ำ เพื่อประโยชน์ตัวเองฝ่ายเดียว ควรแบ่งปันผู้ที่อาศัยในพื้นที่ปลายน้ำด้วย ซึ่งหากจะต้องใช้น้ำควรที่จะใช้น้ำตามหลักเกณฑ์และวิธีที่ทางจังหวัดหรือทางเขื่อนแนะนำ นายกิติกุล กล่าว

ตำรวจทางหลวงขอนแก่น จับผู้ต้องหาค้าไม้พยุงได้ ไม้พยุง 11 ท่อนมูลค่ากว่า 2 แสนบาท

พ.ต.อ.ไผ่พนา เพ็ชรเย็น ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ตรวจจับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ทะเบียน กค 6557 สกลนคร ได้ที่บริเวณถนนมิตรภาพ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น พร้อมควบคุมตัวนายราชันย์ พิมปัดชา เป็นผู้ขับขี่ พร้อมด้วย นางสงวน พิมปัดชา เป็นผู้นั่งโดยสารมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในห้องโดยสาร ซึ่งนำเบาะนั่งด้านหลังออก พบไม้พะยูงลักษณะท่อนและเหลี่ยมจำนวน 11 ท่อน ปริมาตร 0.72 ลูกบาศก์เมตร มูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยหากข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จะมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้าน ถึง 2 ล้านบาท นายราชันย์ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากนางสมเพียร สมบูรณ์ เป็นเงิน 10,000 บาท ให้ขนส่งไม้พะยูงดังกล่าวจากอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ไปยังอำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีนายพร ขับรถเก๋งเชฟโรเลต สีขาว ทำหน้าที่นำทาง และคอยแจ้งเหตุเมื่อพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งมาถูกจับดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันมีไม้แปรรูปชนิดอื่น 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 48 ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของนายฉัททันต์ สายาพัฒน์ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 4 ขอนแก่น (ภูพานคำ) ระบุตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงส่งดำเนินคดีไปแล้ว 23 คดี โดยของกลางทั้งหมดจะเก็บไว้ที่หน่วยพื้นที่รับผิดชอบจนกว่าจะสิ้นสุดคดี



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ผลการคัดเลือกยอดสตรีศรีขอนแก่นประจำปี 2556

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่าจังหวัดขอนแก่นจะจัดงานวันสตรีสากลในวันอังคารที่ 4 มีนาคม 2557 ที่จะถึงนี้ที่ศาลาประชาคมขอนแก่นในวันนั้นจะมีการมอบเกียรติบัตรให้กับยอดสตรีศรีขอนแก่นประจำปี 2556  ซึ่งจังหวัดขอนแก่นทำการคัดเลือกโดยคณะกรรมการระดับจังหวัดแล้วโดยมีรายชื่อดังนี้

 ยอดสตรีศรีขอนแก่นสาขาเกษตรกร ได้แก่นางหนูเรียน ศิริจันทร์
 สาขาสิ่งแวดล้อม ได้แก่ นางพิทยาภรณ์ สุขโข
 สาขาพัฒนาชุมชน/นักพัฒนา ได้แก่ นางนวลจันทร์ วิชัยเนาว์และนางประภัสสร ดาวจันทึก
 สาขาผู้ริเริ่มธุรกิจ ได้แก่ นางสิรินันท์ วัชรสุตานนท์
 สาขาผู้นำแรงงาน ได้แก่ นางกาญจนาภรณ์ ลีพฤติ
 สาขานักการเมือง ได้แก่ นางวงเดือน ชูเนตร
 สาขานักบริหาร ได้แก่ นางสาวศิริกุล กุลเรียบและ ดร. ณัฏฐพร ชินบุตร
 สาขาสื่อมวลชน ได้แก่ นางสมบูรณ์ กลิ่นขจร
 สาขาสาธารณสุข ได้แก่ นางทองวัฒนา สุขวิชัยและนางจันทร์พิมพ์ วุฒิธนโชติ
 สาขาสังคมสงเคราะห์ ได้แก่ดร.อรวรรณ จิววัฒนารักษ์ และนางมุกดาวัลย์
เยาวะโพธิ์
 สาขาการศึกษา ได้แก่ นางสาวประภัสศรี ชาวงษ์ และนางพิศมัย ทินเต
 สาขาการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรม  ได้แก่ นางสรัญญา ขาวไชยมหา

สำหรับในวันที่ 4 มีนาคมทางจังหวัดขอนแก่นได้เชิญศาสตราจารย์พิเศษนายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ มาปาฐกถาพิเศษ พลังสตรี พลังสร้างสรรค์ ประเทศ  ก็ขอเชิญผู้สนใจมาร่วมงานได้

ขอนแก่นเปิดปฏิบัติการไล่ล่าขบวนการตัดไม้พยุง

เมื่อเร็วๆนี้ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานตรวจเยี่ยมและพิธีดื่มน้ำสาบานของอาสาสมัครของอำเภอสีชมพู ในการปฏิบัติการไล่ล่าขบวนการลักลอบตัดไม้พยุงในพื้นที่ อำเภอสีชมพูบนอุทยานแห่งชาติภูเวียงซึ่งมีการประสานงานกับชุดไล่ล่าของอำเภอเวียงเก่า อำเภอภูเวียง อำเภอหนองนาคำ ซึ่งตอนนี้มีขบวนการเข้ามาลักลอบตัดทุกวันเจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักแต่ไม่ย่อ ท้อทำให้มีผลการจับกุมทุกอาทิตย์ ขบวนการตัดก็เป็นขบวนการมี    เส้นทำให้การจับกุมก็ยากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่จะไม่ย่อท้อแน่นอน และในหลายอำเภอได้เปิดยุทธการเชิงรุกหลายอย่างทั้งจัดทำบัญชีผู้ที่ตัดไม้ ผู้ที่เป็นเจ้าของเลื่อยยนต์การขึ้นอุทยานต้องขออนุญาตก่อนแต่ว่าไม้พยุงมีราคาดี ราคาดีกว่าการปลูกอ้อยปลูกมันสำปะหลังทำให้เป็นสิ่งล่อใจให้มีการกระทำผิดกฎหมาย

บ้านพักเด็กกาฬสินธุ์ อบรมทีมงานวิทยากรป้องกันการค้ามนุษย์

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ทีห้องทศพร โรงแรมริมปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการอบรมวิทยากรเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ โดยมีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธาน

นายสมพงษ์ เย็นแก้ว อัยการเชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย วิทยากร ได้บรรยายว่า สถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทยเป็นที่จับตามองจากต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกา ตั้งแต่ปี 2553-2555 ประเทศไทยอยู่ในระหว่างเทียร์ 2 คือเป็นประเทศที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษ และเป็นประทศต้นทาง ปลายทาง และทางผ่าน สำหรับการบังคับค้าแรงงานและค้าประเวณี จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหากประเทศไทยถูกยกระดับในขั้นเทียร์ 3 ก็จะเกิดผลกระทบจากการกีดกันสินค้าที่เกี่ยวกับการใช้แรงงาน เช่น สินค้ากุ้ง ปลา อ้อย สิ่งทอและอื่น ๆ ส่วนรูปแบบที่ประเทศไทยถูกจับตามองมากที่สุดคือการค้าประเวณี แสวงหาประโยชน์ทางเพศ การบังคับใช้แรงงาน โดยเฉพาะด้านประมง และขอทาน

ส่วนรูปแบบการค้ามนุษย์ในปัจจุบันมี 8 รูปแบบ ได้แก่ การค้าประเวณีเด็กทั้งหญิงและชาย รูปแบบที่ 2 การแสวงหาประโยชน์วิธีอื่น ๆ โดยใช้เพศเป็นเครื่องมือล่อให้คนเข้ามาใช้บริการ เช่น ผับ บาร์ การจัดโคโยตี้ รูปแบบที่ 3 การผลิตเผยแพร่สื่อลามก ที่มีมนุษย์เป็นผู้แสดงแล้วนำไปแสวงหาประโยชน์โดยผิดกฎหมาย รูปแบบที่ 4 การเอามนุษย์เป็นทาส รูปแบบที่ 5 การบังคับขอทาน หรือนำเด็กไปขอทานเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ รูปแบบที่ 6 การบังคับใช้แรงงานหรือบริการที่ทำให้บุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ รูปแบบที่ 7 คือการบังคับตัดอวัยวะเพื่อการค้าซึ่งจะเกิดในกลุ่มของโรงพยาบาล หรือหมอเท่านั้น และรูปแบบที่ 8 คือ รูปแบบการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั่นจะยินยอมหรือไม่ ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับแบบที่ 1 ถึง 7 แต่ไม่เข้ารูปแบบอื่น ๆ สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ นางจิราภรณ์ สุวรรณไตร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เผยว่า ตั้งแต่ได้ดำเนินการมาในจังหวัดกาฬสินธุ์ พบผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ จำนวน 6 คดี ซึ่งทุกคดีก็ได้รับการดูแลเหยื่อหรือผู้เสียหายเป็นอย่างดีในทุกขั้นตอน



สุรพล คุณภักดี / ข่าว

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เอาจริงกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เตรียมดำเนินการทางกฎหมายและวินัยกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกรายไม่มียกเว้น

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ด้วยศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดระดับพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ (ศพส.จ.กาฬสินธุ์) ได้มีการจัดประชุมคณะทำงานโต๊ะข่าวกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประจำทุกเดือน และจากการประชุมดังกล่าว ศพส.จ.กาฬสินธุ์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น ลูกจ้าง พนักงาน เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งเป็นผู้ค้า ผู้เสพ เสียเอง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่มีความไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่งผลเสียหายต่อภาพรวมของหน่วยงานและของจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นอย่างมากทีเดียว ประกอบกับส่วนราชการต่าง ๆ ได้มีการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดของบุคลากรในสังกัดอย่างเป็นประจำและต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งผลการตรวจพบว่ามีบุคลากรเกี่ยวข้องเป็นผู้เสพติดยาเสพติดหลายราย และได้ดำเนินการทางกฎหมาย ทางวินัยไปแล้ว จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความสำคัญในการกำกับ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ให้ดำเนินการทางกฎหมายและทางวินัยโดยเคร่งครัด หากมีหลักฐานไม่เพียงพอให้ใช้มาตรการทางปกครองในการแก้ปัญหา



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว