วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

ขอเชิญร่วมสั่งจองเหรียญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ระลึก 100 ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ขอเชิญร่วมสั่งจองเหรียญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ระลึก 100 ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบราชธานี เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์ราชูปถัมภก สภากาชาดไทย ในโอกาสการก่อตั้งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีอายุครบ 100 ปี ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2557 ได้จัดสร้างเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ระลึก 100 ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

เหรียญสำนักกษาปญ์ 2 แห่ง คือ

1.เหรียญสำนักกษาปณ์โมเน่ เดอ ปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ประกอบด้วย
   1.จำหน่ายเป็นชุด(เหรียญทอง เงิน บรอนซ์) ราคาชุดละ 120,000 บาท
   2.เหรียญเงิน ราคาเหรียญละ 6,900 บาท
   3.เหรียญบรอนซ์ ราคาเหรียญละ 2,000 บาท

2.เหรียญสำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ประกอบด้วย
   1.เหรียญเงิน ราคาเหรียญละ 3,000 บาท
   2.เหรียญทองแดง ราคาเหรียญละ 200 บาท โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกา อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีมังคลาภิเษก ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2557 เวลา 17.00 น. ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวิหาร ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

โดยสั่งจ่ายเช็ค ในนาม "สภากาชาดไทย” โอนเข้าบัญชี ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย สำนักงานจัดหารายได้”

ผ่านธนาคาร ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่ 045-2-48899-3

ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เลขที่ 101-0-11980-6

ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานสีลม เลขที่ 001-2-25888-9

ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรวงศ์ เลขที่ 023-1-41177-4

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gad.moi.go.th หัวข้องานสำคัญ 

จังหวัดอุบลราชธานีประกาศรายชื่อ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดอุบลราชธานี

จังหวัดอุบลราชธานีประกาศรายชื่อ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดอุบลราชธานี

นายชาญชัย พงศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งรายชื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดอุบลราชธานี 5 คน ดังนี้
       1.นาวาอากาศเอก พิสิฐ ประเสริฐศรี ประธานกรรมการ ป.ป.จ
       2.นายศาครินทร์ ดวงตะวัน กรรมการ ป.ป.จ.
       3.นายสวาท สทุธิอาคาร กรรมการป.ป.จ
       4.ว่าที่ร้อยตรี สมศิลป์ สูนานนท์ กรรมการป.ป.จ
       5.นายสมยศ จันทวีสุข กรรมการป.ป.จ

มติจากการประชุมครั้งที่9 -1/2557 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2557




สมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี ร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทย นำสื่อมวลชนในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมโครงการพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสารสาธารณะ เพื่อลดปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี

นายชลธิษ จันทร์สิงห์ นายกสมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี กล่าวว่า สมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี ร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทย นำสื่อมวลชนในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมโครงการพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสารสาธารณะ ระหว่างวันที่ 28 – 29 มีนาคม 2557 ณ โรงแรมกิจตรงวิลล์ จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากปัจจุบันพบว่าแรงงานข้ามชาติสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ในจำนวนนี้ ร้อยละ 2 หรือประมาณ 4 แสนคน ติดเชื้อ เอชไอวี. สาเหตุมาจาก การขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองให้ห่างจากการติดเชื้อ เอชไอวี. ซึ่งนำไปสู่โรคเอดส์ สำหรับการจัดโครงการพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสารสาธารณะ ครั้งนี้ ต้องการให้เครือข่ายสื่อมวลชนในจังหวัดอุบลราชธานี รับทราบสถานการณ์เกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ การติดเชื้อ เอชไอวี.และแนวทางการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี. ไปประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อเป็นการลดอัตราการเกิดโรคเอดส์ในประเทศไทยด้วย




กรกช ภูมี/สวท.อุบล รายงาน/28 มีค.57

เกษตรจังหวัดสุรินทร์ ระดมความช่วยเหลือเพื่อชาวนาไทย

เกษตรจังหวัดสุรินทร์ บูรณาการหลายหน่วยงานผนึกกำลังในการแก้ไขวิกฤต เพื่อช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ มีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 80 คน

วานนี้ (27 มี.ค.57) ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ สำนักงานเกษตรสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายวันชัย  ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยหัวหน้า สนง.พาณิชย์จังหวัด หัวหน้าการค้าภายใน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและตัวแทนหัวหน้าส่วนราชการ ได้ระดมความช่วยเหลือเพื่อชาวนาไทย ทั้งนี้เพื่อเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าว หามาตรการและแนวทาง ช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำน้าว พร้อมทั้งระดมความร่วมมือและทรัพยากรจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือและพัฒนาชาวนา ทั้งระดับนโยบายและปฎิบัติ     โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องธนาคาร ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และเกษตรกร เข้าร่วม จำนวน 80 คน

นายวันชัย  ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ชาวนากำลังประสบปัญหาได้รับเงินล้าช้าจากโครงการรับจำนำข้าววึ่งจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในฤดูกาลผลิตใหม่ มีปัญหาหนี้สินค้างชำระและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ทำให้ชาวนาซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวเลี้ยงคนทั้งประเทศ ต้องประสบปัญหายากลำบากในการดำรงชีวิตประจำวัน ปัญหาเหล่านี้หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที จะส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของภาคการเกษตร และความมั่นคงทางอาหารของประเทศในระยะยาว ดังนั้น กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตร ได้มอบหมายให้ สนง.เกษตรจังหวัดทุกจังหวัด ได้ระดมความช่วยเหลือเพื่อชาวนาไทย ตั้งแต่ปัจจัยการผลิต แหล่งเงินทุน การตลาด ผู้บริโภค สถาบันการศึกษา เกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จ เพื่อให้เกิดการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ ละสอดคล้องความต้องการ โดยมุ่งหวังให้ชาวนาผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้

อย่างไรก็ตาม  การจัดเสวนาระดมความช่วยเหลือเพื่อชาวนไทย ในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม อาทิ กลุ่มด้านการผลิต กลุ่มแหล่งเงินทุน และด้านการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนและทางเลือกใหม่ของชาวนาไทยในอนาคต



อุทัย  มานาดี /รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญทุกภาคส่วนร่วมพิธีสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์

นายถาวร  กุลโชติ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกับพ่อค้า ประชาชน บูรณะซ่อมแซมอาคารสถานที่ศาลหลักเมืองสุรินทร์ เพื่อให้เกิดความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นสถานที่ประชาชนเคารพกราบไหว้ และประกอบพิธีกรรม ซึ่งมีการบูรณะก่อสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ ปัจจุบันได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว และจังหวัดได้ประสาน พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เพื่อปรึกษาหารือเรื่องการจัดทำพิธีสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์ และได้กำหนดให้จัดงานในระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗  ณ ศาลหลักเมืองสุรินทร์  โดยมีกำหนดการ  ดังนี้

- ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗  - มีการจัดขบวนแห่เสาหลักเมืองและดินสำคัญ ๔ มุมเมือง  พระสงฆ์ ๙๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระสงฆ์สวดนครฐานสูตร (อารธนาพระปริตร) โดยในระหว่างประกอบพิธีมีการปลุกเสกเหรียญหลักเมืองลงยา รุ่นสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์ อย่างต่อเนื่อง

- ในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗  – พิธีตักบาตร บวงสรวงเทวดา สงฆ์น้ำเสาหลักเมือง ผู้ทำหน้าที่เชิญดินแต่งชุดขาว ทำหน้าที่แทน นายอิน  นายจัน นายมั่น นายคง มาที่หลักเมืองแล้ววางดิน พระสงฆ์เจริญพระมงคลคาถา ดนตรีประโคมบรรเลง ประธานเชิญแผ่นยันต์ลงในก้นหลุมหลักเมือง พระสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พราหมณ์ถวายน้ำเทพมนต์ พิธีถวายเครื่องไทยธรรม กรวดน้ำ เสร็จพิธี

- ในวันที่ ๑๔ – ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ มีพิธีฉลองสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์ มีมหรสพสมโภชตลอด

ทั้งนี้  จังหวัดขอเชิญร่วมบูชาวัตถุมงคล รุ่นบูรณะศาลหลักเมืองสุรินทร์ ที่คงเหลือ ดังนี้

๑. พระผงจอมสุรินทร์   ราคาบูชา   99 บาท

๒. เหรียญจอมสุรินทร์ เนื้อทองแดงรมดำ   ราคาบูชา   99 บาท

๓. เหรียญจอมสุรินทร์ เนื้อนวโลหะ   ราคาบูชา ๑๕๙ บาท

๔. พระชัยวัฒน์จอมสุรินทร์ เนื้อนวโลหะ   ราคาบูชา ๔๙๙ บาท

และขอเชิญจองวัตถุมงคล เหรียญหลักเมืองลงยา รุ่นสมโภชศาลหลักเมืองสุรินทร์ ซึ่งจะมีการปลุก

เสกอีกครั้งในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ก่อนนำออกให้บูชาในราคา ๑๙๙ บาท สามารถรับเหรียญได้ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗  ณ  สำนักงานคลังจังหวัดสุรินทร์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์  โทร. ๐-๔๔๕๑-๑๒๑๗

จังหวัดสุรินทร์ ชอเชิญร่วมงานวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า และ งานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2557

จังหวัดสุรินทร์ ชอเชิญร่วมงานวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า และ

งานวันข้าราชการพลเรือน  ประจำปี   2557

นายณัฐพงษ์  สงวนจิตร์  หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ได้กำหนดการจัดงานพิธี"วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า” และ งานวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2557  ในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2557  ณ บริเวณหอประชุมจังหวัดสุรินทร์  มีกำหนดการ ดังนี้          

เวลา 08.45  น.   - ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน องค์กรเอกชน ทุกหมู่เหล่า พร้อมกัน ณ หอประชุมจังหวัดสุรินทร์

เวลา 09.00 น.     - โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธี

-  ประธานวางพานพุ่มดอกไม้สด จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะฯ และกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ


วันข้าราชการพลเรือน

เวลา 09.30 น.     - ประธานสงฆ์อ่าน พระวรธรรมคติ สมเด็จพระสังฆราช

- ประธานในพิธี  อ่านสารนายกรัฐมนตรี

- ประธานมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติข้าราชการพลเรือนดีเด่นของจังหวัด

  แก่ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี ๒๕๕6

- ประธาน  และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระสงฆ์

- พระสงฆ์อนุโมทนา  เป็นอันเสร็จพิธี


การแต่งกาย  ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ แต่งเครื่องแบบปกติขาว หรือเครื่องแบบปฏิบัติราชการกากี

คอพับแขนยาว  พ่อค้า ประชาชน  แต่งชุดผ้าไทย

จ.สุรินทร์ ได้รับ 12 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง เป็นลำดับที่ 5 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 “ศรีสะเกษเกมส์”

นายอนุวัตร รุจิยาปนนท์ ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับสมาคมกีฬาจังหวัดสุรินทร์ และศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์  ได้ส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ  ครั้งที่  30  "ศรีสะเกษเกมส์” ระหว่างวันที่  13 – 23  มีนาคม  2557   ณ  จังหวัดศรีสะเกษ  ผลการแข่งขันกีฬาเยาวชนตัวแทนจังหวัดสุรินทร์  ได้รับ  12  เหรียญทอง   7  เหรียญเงิน   9  เหรียญทองแดง  เป็นลำดับที่  5  ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เป็นลำดับที่ 15 ของประเทศ  จากจำนวน  77  จังหวัด  โดยศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย  จังหวัดสุรินทร์ จะได้ดำเนินการมอบค่าเหรียญรางวัลในโอกาสต่อไป

วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันมรดกไทย

นายอุทัย พลพวก วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานวันอนุรักษ์มรดกไทย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2557 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในฐานะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวง ในงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ และเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและเห็นคุณค่า ในด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิใจปัญญาไทย สร้างจิตสำนึกและความภาคภูมิใจในประเพณีของท้องถิ่นโดยมีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายสักการะ และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การจัดการแสดงสินค้าทางวัฒนธรรมตามโครงการรากวัฒนธรรม "ของดี บ้านฉัน” จาก 17 อำเภอ ซึ่งกำหนดจัดงานในวันที่ 2 เมษายน 2557 เวลา 09.00-16.30 น. ณ เวทีเชียงปุม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้ จึงขอเชิญร่วมงานในวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

จังหวัดสุรินทร์ เตือนระวังโรคที่มากับฤดูร้อน เลี่ยงการตากแดดนานๆ รวมทั้งให้ใช้ผลิตพรรณบำรุงผิวช่วย

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก อธิบดีกรมการแพทย์ เตือนประชาชนเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ จากข้อมูลของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ พบว่าช่วงฤดูร้อนโรคผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ผด ผิวไหม้แดด กลาก เกลื้อน ภูมิแพ้ผิวหนัง และกลิ่นตัว ซึ่งโรคเหล่านี้ จะพบมากในเด็กเล็ก และผู้ใหญ่ที่ชอบสวมเสื้อผ้าหนาๆ หรือนักกีฬาที่มีเหงื่อออกมากแล้วไม่รีบทำความสะอาดจนกลายเป็นเชื่อราทำให้เกิดอาการคัน บริเวณผิวในร่มผ้า ซึ่งแต่ละโรคก็จะมีความแตกต่างกันออกไป อาจจะมีเม็ดเล็กๆ แดงๆ ไปจนถึงผิวลอกออกเป็นแผ่นจนเกิดเป็นผิวดำหยาบ

ดังนั้น อยากให้ประชาชนทุกคนดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของตนเองให้มาก ในหน้าร้อนนี้ ด้วยการหลีกเลี่ยงการอยู่ที่บริเวณที่มีแสงแดดเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรใส่เสื้อแขนยาว กางร่มและใส่แว่นกันแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดอยู่เสมอ เมื่อมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำอย่างเร่งด่วน ถ้าหากปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวจะสามารถห่างไกลโรคผิวหนังที่มากับฤดูร้อนได้ 

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำหนดประชุมคณะกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัดสุรินทร์

นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำหนดจัดประชุมคณะคณะกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 3/2557 โดยมีการปรึกษาหารือ เรื่องสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน แจ้งระงับการพิจารณางบสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชน ปีงบประมาร 2557 ไว้ก่อน รายงานผลการดำเนินติดตามความคีบหน้าในการดำเนินงานของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลโคกยาง และกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลบ้านไทร อำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ฯลฯ ซึ่งกำหนดประชุม ในวันพุธที่ 2 เมษายน 2557 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ จึงขอเชิญร่วมประชุมในวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและเอกอัครราชทูตเวียดนาม วางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีเวียดนาม เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีทั้งสองประเทศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  วางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานโฮ จิ มินห์  อดีตประธานาธิบดีเวียดนาม  เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เวียดนาม และเสริมสร้างความก้าวหน้าของความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม   พร้อมด้วย นายฝาม แต่ง นาม อุปทูต  ผู้ทำหน้าที่แทนเอกอัครราชทูต  ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  กรุงเทพมหานคร  เป็นประธานวางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานโฮ จิ มินห์  อดีตประธานาธิบดีเวียดนามผู้นำกู้ชาติ  ที่บริเวณหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม บ้านนาจอก หมู่ 4 ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม  โดยมีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนมต้อนรับ    โดยการวางศิลาฤกษ์ครั้งสืบเนื่องจากนายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์  สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  เดินทางมาเยือนประเทศไทยและหมู่บ้านดังกล่าว  ตามคำเชิญของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา   โดยนาย  เหวียน ฝู จ่อง ได้มอบเงินจำนวน 30,000 ล้านดอง  ให้กับสมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามจังหวัดนครพนม  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง  ทั้งนี้ อนุสรณ์สถานโฮ จิ มินห์  ประกอบด้วยอาคารพิพิธภัณฑ์และอาคารประกอบตามแบบสถาปัตยกรรมไทย

โครงการ “สร้างสุขปลดทุกข์ให้น้อง”

ด้วย The Giver เป็นกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นโดยคณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษากลุ่มหนึ่งในมหาวิทยาลัยนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสังคม และสร้างสำนึกสาธารณะให้กับนักศึกษา และคนในสังคมได้ตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ด้วยการทำกิจกรรมแนวสร้างสรรค์โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่ทางสังคมให้กับกลุ่มคนชายขอบ ภายใต้แนวคิดที่ว่า "สุขเมื่อได้ให้@นครพนม” เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในสังคมคือการอยู่อย่างเห็นอกเห็นใจและเข้าใจกัน เห็นใจกัน

กลุ่ม The Giver จึงได้จัดโครงการ "สร้างสุขปลดทุกข์ให้น้อง” ด้วยการจัดทำบัตรทองการกุศลเพื่อจำหน่ายและนำรายได้จากการขายบัตรมาสร้างห้องน้ำให้แก่เด็กพิการทางสติปัญญา ณ ศูนย์บริการการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพเด็กพิการทางสติปัญญา ต.ยอดชาย อ.วังยาง จ.นครพนม โดยจัดจำหน่ายบัตรในราคาบัตรละ ๑๐๐ บาท มีทั้งหมดจำนวน ๑,๐๐๐ ใบ โดยรางวัลทั้งหมดมีด้วยกัน ๓ รางวัล คือรางวัลที่ ๑ ทองคำมูลค่า ๕๐ สตางค์ จากเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่ ๑ ส่วนรางวัลที่ ๒ และ ๓ ทองคำมูลค่า ๑ สลึง จากการหมุนเลขท้ายสามตัวครั้งที่ ๑ และ ๒ โดยผลการออกบัตรทองใช้การออกผลสลากกินแบ่งรัฐบาล วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ผู้สรใจสามารถสั่งซื้อบัตรทองการกุศลในครั้งนี้ได้ที่ คุณปฐมพร ปานลักษณ์ โทรศัพท์ ๐๘-๔๓๓๕-๓๖๖๖

ธ.ก.ส.รับสมัครผู้ช่วยพนักงานบริการยานพาหนะ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ประสงค์จะรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานบริการยานพาหนะ จำนวน ๑ ตำแหน่ง สังกัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขานาทม โดยมีรายละเอียดดังนี้
เอกสารการสมัคร

๑. สำเนารายงานผลการศึกษา (Transcript) ระบุวันที่สำเร็จการศึกษา ภายในวันที่สิ้นสุดการรับสมัคร (๑๘ เมษายน ๒๕๕๗) จำนวน ๑ ชุด

๒. สำนวนบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน ๑ ชุด

๓. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อของตนเองอยู่ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับถึงวันสิ้นสุด การรับสมัครจำนวน ๑ ชุด

๔. สำเนาใบอนุญาตขับรถยนต์ พร้อมต้นฉบับ

๕. ภาพถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก และไม่ใส่แว่นตาดำ ขนาด ๑ นิ้ว หรือ ๒ นิ้ว ซึ่งถ่ายมาแล้วไม่เกิน ๖ เดือน จำนวน ๓ รูป

๖. สำเนาหลักฐานอื่นๆ เช่น ใบสำคัญจดทะเบียนสมรส ใบสำคัญเปลี่ยน ชื่อ-สกุล (ถ้ามี)

๗. เอกสารรับรองประสบการณ์ทำงาน ที่ตรงกับหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งที่สมัคร (ถ้ามี)
การรับสมัคร

๑. สมัครด้วยตนเองได้ที่ ธ.ก.ส. สาขาบ้านแพง และสาขานาทม และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาใน สังกัด สนจ.นครพนม ระหว่างวันที่ ๒-๑๘ เมษายน ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๕.๐๐ น. (เว้นวันหยุดราชการ)

๒. ค่าธรรมเนียมการสอบ ๑๐๐ บาท สำหรับผู้ที่ยังมิได้รับการเรียกตัว ธนาคารจะขึ้นบัญชีสำรองไว้ไม่เกิน ๑ ปี นับจากวันประกาศผล สามารถติดต่อได้ที่ สนจ.นครพนม โทร. ๐๔๒-๕๒๒-๖๒๗ โทรสาร ๐๔๒-๕๒๒-๖๒๘

อบจ.นครพนมประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย

ตามที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ได้ประกาศรับสมัครเยาวชน ผู้ด้วยโอกาส ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป เพื่อเข้าประกวดร้องเพลงตามโครงการประกวดร้องเพลงลุกทุ่งไทย ห่างไกลยาเสพติด ภายใต้ชื่อกิจกรรม "อบจ.นครพนมสานฝัน เทิดไท้องค์ราชัน” โครงการ ๕ TO BE NUMBER ONE ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แสดงความสามารถในเวทีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมจัดขึ้น และส่งเสริมให้ผู้ที่ชนะการประกวดก้าวขึ้นไปสู่ระดับสากลจนถึงสามารถบันทึกแผ่นเสียงและพัฒนาไปสู่ระดับสูงยิ่งๆ ขึ้นไป รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ห่างไกลจากยาเสพติด และส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป ซึ่งได้ประกาศรับสมัครในระหว่างวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์-๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ และดำเนินการประกวดรอบคัดเลือกในวันเสาร์ที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ เวทีชั่วคราวบริเวณสำนักงานสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นั้น

บัดนี้ คระกรรมการตัดสินการประกวดร้องเพลงได้ดำเนินการคัดเลือกนักร้องที่เข้าประกวดในรอบคัดเลือก ตามกระบวนการคัดเลือกเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย

ประเภทรุ่นเล็ก อายุ ๑๕-๑๙ ปี จำนวน ๒๙ คน คัดเลือกเหลือเพียง ๑๖ คน

ประเภทรุ่นใหญ่ อายุ ๒๐-๔๐ ปี จำนวน ๒๑ คน คัดเลือกเหลือเพียง ๑๖ คน

ประเภทรุ่นพิเศษ (อาวุโส) อายุตั้งแต่ ๔๑ ปีขึ้นไป จำนวน ๒๑ คน คัดเลือกเหลือเพียง ๑๐ คน

ทั้งนี้ ให้ผู้ผ่านการคัดเลือกรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ไปรายงานตัวและเข้าประกวดร้องเพลง ณ สถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือ ๗ นครพนม (ส.ทร.๗) เพื่อเข้าประกวดร้องเพลงในรอบ ๒ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๖,๒๓,๓๐ มีนาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐-๑๒.๐๐ น. และรุ่นพิเศษ (อาวุโส) ไปรายงานตัวและเข้าประกวดร้องเพลง ณ เวทีชั่วคราวบริเวณสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ในวันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ฝ่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตและพัฒนาสังคม โทร/โทรสาร. ๐-๔๒๕๑-๖๒๙๓

สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนมจัดกิจกรรมช่วงสงกรานต์

นายยุทธนา อนันตเดโชชัย ขนส่งจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม ได้จัดให้มีกิจกรรม รณรงค์ป้องกันและลดอุบติเหตุทางถนน ดังนี้

1 กิจกรรม "ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน” โดยดำเนินการดังนี้

๑.๑ ตรวจเช็ดสภาพรถเบื้องต้น ๒๐ รายการ ฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย ยกเว้นค่าอะไหล่ (ถ้ามี) โดยสามารถใช้บริการได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนมสำนักงานขนส่งสาขาอำเภอธาตุพนม สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) และศูนย์จำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่เข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ – ๑๐ เมษายน ๒๕๕๗ ในวันเปิดทำการ

๑.๒ ให้คำปรึกษาและตรวจสอบรถที่ติดตั้งแก๊ส LPG/CNG ฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยสามารถใช้บริการได้ที่ สถานติดตั้ง และทดสอบระบบแก๊ส LPG/CNG ติดตั้งป้ายเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ – ๑๐ เมษายน ๒๕๕๗ ในวันเปิดใบทำการ

๑.๓ ให้บริการตรวจเช็คสภาพรถเบื้องต้น ร่วมกับวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการนครพนม บริเวณแยกหนองญาติ และวิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง บริเวณทางเข้าน้ำตกตากขาม ให้บริการระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง



๒. ตั้งศูนย์คุมครองผู้โดยสารรถสาธารณะ สายด่วนหมายเลย ๑๕๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จังหวัดนครพนม และสำนักงานขนส่งสาขาอำเภอธาตุพนม เพื่ออำนวยความสะดวก และคุ้มครองผู้โดยสาร ที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ให้บริการข้อมูลการเดินทาง และรับแจ้งเหตุรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ โดยบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครพนม โทร. ๐๔๒-๕๑๓-๔๔๔ สำนักงานขนส่งสาขาอำเภอธาตุพนม โทร. ๐๔๒-๕๔๑-๑๕๐ และที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม โทร. ๐๔๒-๕๑๓-๕๘๙ หรือโทรศัพท์สายด่วนหมายเลข ๑๕๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

๓. จัดให้มีการตรวจความพร้อมของรถโดยสาร และพนักงานขับรถโดยสาร ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จังหวัดนครพนม จุดจอดรถ และบนถนนสายหลัก สายรอง

๔. ร่วมกับโรงพยาบาลนครพนม เทศบาลเมืองนครพนม ตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ ตรวจปัสสาวะ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครพนม

๕. จัดส่งผู้ตรวจการเข้าร่วม บูรณาการกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประจำจังหวัด ณ หมวดการทางนครพนม

๖. จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ข้อความรณรงค์ เพื่อสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทุกอำเภอ

๗. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อลดจำนวนรถบรรทุกขนส่งในการจราจรให้ลดน้อยลง สามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง โทรศัพท์ ๐-๔๒๕๑-๓๕๘๙ โทรสาร ๐-๔๒๕๑-๑๕๖๑

จับกุมรับคนต่างด้าวเข้าทำงานและคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2557 เวลา 19.30 น. บริเวณเนื้อย่างเพื่อสุขภาพ เท็นเท็นจัง เลขที่ 21 ถนนเทศาประดิษฐ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม จับกุมรับคนต่างด้าวเข้าทำงานและคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง ภาค 4 กล่าวว่า ตามนโยบายของสำนักงาตรวจคนเข้าเมือง ให้ดำเนินการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิด พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พรบ.ทำงานของคนต่างด้าว พรบ.ป้องกันและปราปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จากสายลับแจ้งว่า ชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ มีบุคคลทำงานอยู่จำนวนมากในร้านเนื้อย่างเพื่อสุขภาพ เท็น เท็น จัง เลขที่ 21 ถนนเทศาประดิษฐ์ ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม พบผู้ต้องหากำลังยกเตาปิ้งและเสิร์ฟอาหารเครื่องดื่ม จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบคนสัญชาติเวียดนาม 2 คน ลาว 1 คน และสอบถามใบอนุญาตทำงานบุคคลต่างด้าวทั้ง 3 คนไม่มีแสดง นายธนินท์รัฐ จังปิยะทัศพร เป็นเจ้าของร้าน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหารับคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานด้วย 

สรรพากรพื้นที่ยโสธรแจ้งการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2556

นายกู้ศักดิ์ จันทราช สรรพากรพื้นที่ยโสธร แจ้งว่า ด้วยประมวลรัษฏากร ได้กำหนดให้ผู้มีเงินได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จ บำนาญ ค่านายหน้า ค่าลิขสิทธิ์ ดอกเบี้ย การให้เช่าทรัพย์สิน การประกอบวิชาชีพอิสระ การรับเหมาก่อสร้าง การประกอบธุรกิจการพาณิชย์ การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มาโดยมุ่งในทางการค้า หรือหากำไรที่เป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 90,91 ตั้งแต่วันที่ 1 มค.-31 มีค. ของทุกปี ฉะนั้นเพื่อประโยชน์ของทางราชการและตัวท่าน จึงขอให้ไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ ในเวลาราชการ ซึ่งท่านยังมีทางเลือกใหม่ คือการยื่นแบบแสดงรายการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะช่วยให้ท่านประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย สะดวกและใช้บริการได้ตลอดเวลา 24 ชม. ไม่มีวันหยุด ท่านสามารถยื่นผ่านทางเว๊ปไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th/ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึง 31 มีค.57 หากมีปัญหา หรือข้อสงสัยประการใด โปรดติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทุกแห่ง หรือที่งานบริการผู้เสียภาษีและประชาสัมพันธ์ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ยโสธร หมายเลขโทรศัพท์ 045-714601 045-714620 ต่อ 303



วันชนะ บุญปก ดาโรจน์
สวท.ยโสธร 28 มีนาคม 2557

สำนักงานประกันสังคมแจ้งผู้ประกันตนยื่นเปลี่ยน รพ. ได้ถึง 29 มีนาคม 2556 นี้

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) แจ้งผู้ประกันตนที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำปี 2556 สามารถยื่นแบบเลือกสถานพยาบาล (สปส.9-02) ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 29 มีนาคม 2556 แนะผู้ประกันตนเลือกสถานพยาบาลด้วยตนเอง คำนึงถึงความสะดวก พึงพอใจ และความพร้อมของสถานพยาบาลที่ใช้บริการทางการแพทย์

นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าสำนักงานประกันสังคมได้ให้ผู้ประกันตนสามารถเลือกสถานพยาบาลในระบบประกันสังคมเพื่อใช้บริการทางการแพทย์ มีอายุคราวละ 2 ปี โดยผู้ประกันตนจะขอเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่ได้ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลปี 2554 – 2555 สำนักงานประกันสังคมจะออกบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลฉบับใหม่ให้กับผู้ประกันตนเพื่อแทนบัตรรับรองสิทธิฯที่จะหมดอายุวันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยระบุสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯเดิม หากผู้ประกันตนรายใดมีความประสงค์เปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่ สามารถยื่นคำขอตามแบบเลือกสถานพยาบาล (สปส.9-02) ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวกได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 29 มีนาคม 2556 โดยยื่นแบบเลือกสถานพยาบาลได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่งทั่วประเทศ และขอให้ผู้ประกันตนถ่ายสำเนาบัตรรับรองสิทธิฯ ฉบับเดิมไว้ก่อนเพื่อนำไปใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์ในช่วงรอการเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่ ณ สถานพยาบาลที่เลือกไว้เดิม สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานพยาบาล สามารถใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯเดิมได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557

สำหรับในปี 2556 นี้ มีสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมทั่วประเทศ จำนวน 241 แห่ง แบ่งเป็นสถานพยาบาลรัฐบาล 154 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน 87 แห่ง อย่างไรก็ตามในกรณีเร่งด่วนในช่วงเปลี่ยนสถานพยาบาลนี้ หากผู้ประกันตนจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลให้ตรวจสอบสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ก่อน ซึ่งรายชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบได้จากสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา

ทั้งนี้ ในการเลือกสถานพยาบาล สำนักงานประกันสังคมแนะนำให้ผู้ประกันตนควรเลือกด้วยตนเอง โดยคำนึงถึงความสะดวก ความพึงพอใจและประโยชน์ในการขอรับบริการทางการแพทย์และสถานพยาบาลที่เลือกจะต้องเป็นสถานพยาบาลในจังหวัดที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่ หรือพักอาศัยในเขตรอยต่อจังหวัดดังกล่าว มีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) 

ร้อยเอ็ด มอบรางวัลและเกียรติบัตรการประกวดภาพถ่ายงานประเพณีบุญผะเหวด ปี 57

เมื่อเวลา  10.30 น. วันที่ 28 มีนาคม 2557  นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นมอบรางวัลและเกียรติบัตรการประกวดภาพถ่ายงานประเพณีบุญผะเหวด ปี 2557 หัวข้อ"งานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม" ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

นางกมลพร  คำนึง  ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด   กล่าวว่า ตามที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ปี 2557 เมื่อวันที่ 7 - 9 มีนาคม 2557  ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เพื่อสืบสาน วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม สืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่  สืบไปและส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด  นั้น   สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดและชมรมถ่ายภาพจังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดการประกวดถ่ายภาพหัวข้อ "งานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม" เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนสนใจการจัดงานประเพณีบุญผะเหวดให้ปรากฏแก่สายตาชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีผู้สนใจส่งภาพถ่ายเข้าประกวด 48 ผลงานและคณะกรรมการได้ติดสินแล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 รวมรางวัลเงินสด 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร โดยมีรางวัลอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

1.ประเภทประชาชนทั่วไป มี 5 รางวัล ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ นางสาวพิมลรัตน์  วรรณพัฒน์  รับเงินรางวัล 6,000 บาท  พร้อมเกียรติบัตร,รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง นายสุรัตน์  มุสิกสูตร รับเงินรางวัล 2,000 บาท  พร้อมเกียรติบัตร ,รองชนะเลิศอันดับสอง  นายคมสันต์  ธานีวรรณ รับเงินรางวัล 1,000 บาท  พร้อมเกียรติบัตร  , รางวัลชมเชย นายเสถียรอาจ  ประเสริฐสังข์ และนายสุวัฒน์  ลีขจร รับเงินรางวัล 500 บาท  พร้อมเกียรติบัตร

2. ประเภทเยาวชน  มี 7 รางวัล ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ นายอรรถพล  มหาราช รับเงินรางวัล 5,000 บาท  พร้อมเกียรติบัตร ,รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง นายเกียรติศักดิ์  มหาราช รับเงินรางวัล 2,000 บาท  พร้อมเกียรติบัตร,รองชนะเลิศอันดับสอง   นายศุภกร  ไกรษร  รับเงินรางวัล 1,000 บาท  พร้อมเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย   ได้แก่ นายศุภกร  ไกรษร ,นายเกียรติศักดิ์  มหาราช,นายศุภกร  ไกรสอน,นายเกียรติศักดิ์  มหาราช รับเงินรางวัล 500 บาท  พร้อมเกียรติบัตร




คมกฤช  พวงศรีเคน ข่าว
บุญมี  เพ็งรัตน์ /ภาพ
กมลพร คำนึง บก ข่าว
ส.ปชส. ร้อยเอ็ด

ร้อยเอ็ดอบรมเยาวชนป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด

เมื่อเวลา  14.00 น.  วันที่ 27 มีนาคม 2557 นายพลากร  บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นประธานปิดการอบรมโครงการสร้างเครือข่ายสมาชิกสภาเด็กและเยาวชนป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ณ  ห้องประชุมสาเกตุนคร  วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด  อำเภอธวัชบุรี  จังหวัดร้อยเอ็ด

นายอธิสรรค์   อินทร์ตรา     ป้องกันจังหวัดร้อยเอ็ด   กล่าวว่าการอบรมโครงการสร้างเครือข่ายสมาชิกสภาเด็กและเยาวชนป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด  ในด้านคุณธรรมจริยธรรม  จังหวัดร้อยเอ็ด   การดำเนินการจัดอบรมดังกล่าว  มุ่งหวังที่จะบังเกิดผลเป็นรูปธรรม  โดยสามารถปลูกฝังค่านิยมเรื่องความซื่อสัตย์  สุจริต  ในระดับเยาวชน  และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม  ตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดร้อยเอ็ด  อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชนในการป้องกันการทุจริต   ต่อยอดองค์ความรู้  ให้ผู้เข้ารับการอบรม  เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปขยายผล หาแนวร่วม    แลกเปลี่ยนความรู้  เป็นพลังที่ขาดสะอาดและเข้มแข็ง  เป็นอนาคตที่งดงามของครอบครัว  ชุมชน  สังคม   และประเทศชาติ  สืบไป

ในการดำเนินการจัดการอบรม  จังหวัดได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดร้อยเอ็ด  รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากทีมวิทยากร จาก  สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด   /  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด   /   ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด     และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด



บุญมี/ข่าว/ภาพ
กมลพร คำนึง บก ข่าว
ส.ปชส. ร้อยเอ็ด 

พลังสตรีอำเภอด่านซ้ายร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day

นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดโครงการพลังสตรีด่านซ้าย ร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย โดยมีประธานสตรีอำเภอด่านซ้าย พัฒนาชุมชนอำเภอด่านซ้าย เทศบาลตำบลด่านซ้าย สาธารณะสุข หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มพลังสตรีอำเภอด่านซ้าย และผู้ที่เกี่ยวข้อง 1,200 คน ร่วมงานโครงการดังกล่าว องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล กลุ่มสตรีอำเภอด่านซ้ายได้ร่วมกันทำกิจกรรม เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน มีการจัดนิทรรศการจำหน่ายสินค้าของกลุ่มพัฒนาบทบาทสตรี และเป็นการเชิดชูสตรีที่ยอมเสียสละอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และพร้อมใจกันร่วมทำกิจกรรม Big Cleaning Day เก็บขยะและล้างถนนแก้วอาสา ตลอด 1 ก.ม. 

อำเภอนาแห้วเปิดโครงการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด

นายกิตติ ขันธะมิตร กรมวังผู้ใหญ่ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รองผู้อำนวยการโครงการตามพระราชดำริ เป็นประธานตรวจเยี่ยมดูงาน และเปิดโครงการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด โดยมี พ.ต.อ.วิรุตติ์ เย็นสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เลย พ.ต.อ.สมชาย พิมพ์ชู ผกก.สภ.นาแห้ว นายจตุรศักดิ์ โกมลวิภาค นายอำเภอนาแห้ว ตชด.247 ทพ.2107 จนท.ฝ่ายป้องกัน อสที่ 11 อำเภอนาแห้ว จนท.หน่วยป้องกันป่า ลย.9 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รอต้อนรับพร้อมเข้าร่วมโครงการ ที่ สภ.นาแห้ว อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย พ.ต.อ.สมชาย พิมพ์ชู ผกก.สภ.นาแห้ว กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการมาได้ 2 เดือนแล้ว โดยเน้นการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายด้านอาชญากรรม และสิ่งเสพติดให้หมดไปในพื้นที่อำเภอนาแห้ว โดยเฉพาะเยาวชนที่หลงผิดไปเสพยาบ้า กลุ่มคนพวกนี้ถือว่าเป็นผู้ป่วย จึงต้องระดมกวาดล้างมาเข้าค่ายอบรม โดยมีกติกาข้อตกลงกันว่า เยาวชนคนใดที่หลงผิดไปเสพยาบ้ามา เมื่อถูกจับกุมเป็นครั้งแรก จะให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัวเป็นเยาวชนและลูกที่ดีของพ่อแม่ โดยให้มารายงานตัวที่ สภ.นาแห้ว ทุก 7 วัน เป็นเวลา 10 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจปัสสาวะทุกครั้ง เมื่อตรวจพบว่าเยาวชนใดมีการกลับไปเสพยาเสพติดก็จะส่งไปดำเนินคดี ส่วนผู้ที่หลงผิด หรือเยาวชนที่มาเข้าอบรมและเข้าร่วมโครงการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนปัจจุบันผู้เสพเหลือน้อย ประสบความสำเร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

เด็กสาธิต มรภ.จังหวัดเลย สอบโอเน็ตคณิตศาสตร์คะแนนเต็ม 100

ผศ.ศศิธร ขันติธรางกูร ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เปิดเผยว่า หลังจากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ.ประกาศผลแบบทดสอบทางการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ปีการศึกษา 2556 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปรากฏว่า ผู้ที่สอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน คือ เด็กหญิงพรหมพร ทองเพชร หรือ น้องขิม อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 5 บ้านโป่ง ตำบลนาแขม อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย โดยมีนางปิยมาภรณ์ ทองเพชร มารดา เป็นครูสอนหนังสืออยู่โรงเรียนบ้านหัวฝาย-วังเลา ตำบลเอราวัณ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เล่าให้ฟังว่า ปกติน้องขิมมีนิสัยสุภาพร่าเริง ชอบเล่นดนตรีหลายชนิด เช่น อคูเรเร่ ขิม และรำไทย ซึ่งจะทำให้มีสมาธิในการเรียน และสามารถเข้าใจง่าย ทางบ้านคอยเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ เพราะมีลูกสาวคนเดียว คอยไปรับส่งทุกวัน ต้องขับรถไปสอนที่โรงเรียนไปกลับวันละ 160 ก.ม. เมื่อก่อนน้องไม่ชอบคณิตศาสตร์ แต่คอยส่งเสริมให้เรียน โดยทุกวันจะสรรหาบททดสอบทางคณิตศาสตร์ให้ทำทุกวัน นอกเหนือจากที่เรียนในชั้นเรียน แต่ไม่ให้นอนดึก จะปลุกตั้งแต่ตีสี่ เพื่อมาทบทวน และเตรียมการเรียนก่อนไปโรงเรียนทุกวัน เพราะตอนเช้ามืดจะไม่มีเสียงรถยนต์ หรือเสียงรบกวน ขณะทบทวน ส่วน น้องขิม กล่าวว่า การที่สามารถทำคะแนนได้เต็ม 100 ทีแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ เพียงแต่ตั้งใจทำ และทำความเข้าใจกับโจทย์ที่ให้มา พอตอบเสร็จแล้วก็ทบทวนคำตอบอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจ ส่วนในเวลาเรียนตั้งใจฟังคุณครูอธิบาย ในชั้นเรียน ถ้าไม่เข้าใจก็จะถามคุณครู จนกว่าจะเข้าใจ พอเข้าใจแล้ว ก็จะสามารถทำการบ้านได้ โดยไม่ได้ใช้ความจำอย่างเดียว ทุกวันจะทำแบบฝึกหัดวันละ 3 ข้อ คุณแม่จะหาแบบฝึกหัดวิชาคณิตศาสตร์มาให้ทำบ่อยบ่อย ส่วนตอนนี้สามารถสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนเลยพิทยาคม ได้แล้วในสายคณิต-วิทย์ ห้องโปรแกรมพิเศษ โดยตั้งใจว่าในอนาคตจะเป็นผู้พิพากษา ซึ่งจะสามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับชาวบ้านได้ นางสาวชุติวรรณ บุญใหญ่ ครูประจำชั้น กล่าวถึงน้องขิมว่า เป็นคนเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่กับเพื่อนทุกคนในห้อง นิสัยเงียบแต่ไม่เก็บกด เวลาเรียน หรือไปศึกษานอกสถานที่ จะขอจองแถวหน้าเสมอ เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปตอบปัญหา แสดงวิสัยทัศน์ จนถึงการแสดงออกทุกด้าน แม้แต่ท่องบททำนองเสนาะได้ไพเราะมาก การเรียนทุกวิชา สามารถทำคะแนนสูงอย่างสม่ำเสมอ เป็นความภาคภูมิใจของชั้นและของโรเรียน

ผู้ว่าเลยจู่โจมตรวจค้นเรือนจำ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย สนธิกำลังตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และ ราชทัณฑ์ จู่โจมเข้าตรวจค้นเรือนจำจังหวัดเลยเช้าตรู่ พบสิ่งของผิดระเบียบ ทั้งโทรศัพท์มือถือ อาวุธดัดแปลง และเหล้าหมัก นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตำรวจ สภ.เมืองเลย , กองกำลังทหารพราน อาสารักษาดินแดนจังหวัดเลย รวม ๑๕๒ นาย พร้อมสุนัขดมกลิ่น จู่โจมเข้าตรวจค้นภายในเรือนนอน โรงฝึกวิชาชีพ และตู้เก็บของผู้ต้องขัง รวมทั้งตรวจปัสสาวะ และตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขัง ภายในเรือนจำจังหวัดเลย ทั้งผู้ต้องขังชายและหญิง รวม ๑,๗๕๕ คน ตรวจพบสิ่งของผิดกฎหมายและผิดระเบียบของราชทัณฑ์ คือ โทรศัพท์มือถือไม่มีซิม ๑ เครื่อง , อาวุธดัดแปลงประเภทมีด ๑๔ เล่ม , หมึกสักลาย ๓๓ หลอด , เข็มสักลาย ๕ เล่ม นอกจากนี้ยังตรวจพบเหล้าหมักจากข้าวเหนียว ๙ แกลลอน (ประมาณ ๓๐ ลิตร) ตรวจปัสสาวะ ๘๖ ราย พบผู้ต้องมีปัสสาวะสี่ม่วง ๕ ราย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ผลจากการจู่โจมเข้าตรวจค้น ไม่พบยาเสพติด แต่ยังพบสิ่งของผิดระเบียบจำนวนหนึ่ง และทำให้ทราบสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดเลย ว่าอยู่ด้วยความแออัดมาก เนื่องจากเรือนจำจังหวัดเลย เป็นเรือนจำขนาดคุมขัง ๘๐๐ คน แต่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ต้องขังกว่า ๑,๗๐๐ คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติด ซึ่งจะต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาความแออัดของผู้ต้องขังต่อไป

กศน.ศรีสะเกษ รณรงค์เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2557

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2557 ที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองศรีสะเกษ นายมงคล คำเพราะ กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานเปิดโครงการอบรมส่งเสริมความรู้และรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2557 โดยมีนายชนะชาติ เต็งศิริ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองศรีสะเกษ นำผู้บริหาร ครู กศน.เมืองศรีสะเกษ นักศึกษา กศน. 18ตำบลๆละ 25 คน ชมรมปั่นจักยานและชมรมสามล้อดอกลำดวนจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมรณรงค์ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จำนวน 500 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบและวิธีปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางการเมืองวิถีประชาธิปไตย โดยเฉพาะการรู้กฎ กติกา รู้พ้ รู้ชนะ รู้อภัยและรู้รักสมัคคี

สำหรับจังหวัดศรีสะเกษมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 6 คน ถูกตัดสิทธิจำนวน 2 คน และมีผู้สิทธิถูกต้องตามกฏหมายจำนวน 4 คน




บุญทัน/ฉัตรชัย ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ 

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแสดงความยินดีกับ บานเย็น รากแก่น หรือ นิตยา รากแก่น ศิลปินแห่งชาติ ปี 2556 สาขาศิลปินพื้นบ้านหมอลำ

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแสดงความยินดีกับ บานเย็น รากแก่น หรือ นิตยา รากแก่น ศิลปินแห่งชาติ ปี 2556 สาขาศิลปินพื้นบ้านหมอลำ

วันที่ 28 มีนาคม 2557 ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 4 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแสดงความยินดีกับ บานเย็น รากแก่น หรือ นิตยา รากแก่น ศิลปินแห่งชาติ ปี 2556 สาขาศิลปินพื้นบ้านหมอลำ และได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรีที่มีผลงานดีเด่น เนื่องในวันสตรีสากล จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียง และทำคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดอุบลราชธานี

บานเย็น รากแก่น กล่าวว่า อยากให้เยาวชนรุ่นหลังได้อนุรักษ์ศิลปะหมอลำซึ่งวัฒนธรรมภาคอีสาน ที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ให้คงอยู่ตลอดไป

บานเย็น รากแก่น มีชื่อจริงคือ นิตยา รากแก่น เกิดวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2495 ที่บ้านกุดกลอย ตำบลโนนสวาง อำเภอตระการพืชผล (ปัจจุบันคืออำเภอกุดข้าวปุ้น) จังหวัดอุบลราชธานี หลังจบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านท่าวังหิน จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้คลุกคลีอยู่กับคณะหมอลำของคุณป้าหนูเวียง แก้วประเสริฐ หมอลำกลอนชื่อดังของจังหวัด โดยฝึกฝนทักษะการลำ และการร่ายรำท่าต่างๆ อย่างสวยงาม จนเป็นที่ชื่นชมของคุณครู ครอบครัว ญาติผู้ใหญ่ และผู้คนในท้องถิ่น

บานเย็นออกแสดงหมอลำครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ด้วยน้ำเสียงมหาเสน่ห์ รูปร่างหน้าตาสะสวย มีลีลาในการลำและร่ายรำที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ ทองคำ เพ็งดี พระเอกและเจ้าของคณะหมอลำรังสิมันต์ หมอลำหมู่ชื่อดังในขณะนั้น ได้ชวนมาเป็นนางเอกของคณะ ต่อมา บานเย็นแยกตัวมาเป็นหัวหน้าวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำคณะบานเย็น รากแก่น เมื่ออายุเพียง 18 ปี โดยมีงานแสดงตามจังหวัดต่างๆ และต่างประเทศอยู่หลายครั้ง เช่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อีกทั้งยังได้แสดงเพื่อสาธารณกุศลอีกมากมาย ทำให้มีชื่อเสียงในระดับประเทศและระดับโลกเนื่องจากหมอลำบานเย็นได้ประยุกต์การแต่งตัวและการโชว์อย่างอลังการ จึงได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชินีลูกทุ่งหมอลำประยุกต์" คนหนึ่งของเมืองไทย

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณโครงการประกวดผลงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณโครงการประกวดผลงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดอุบลราชธานี

วันนี้ ( 28 มี.ค. 57) ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 4 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการมอบรางวัลโครงการประกวดผลงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดอุบลราชธานี

ตามที่จังหวัดอุบลราชธานีร่วมกับบริษัท โตโยต้าดีเยี่ยม จำกัด ได้จัดทำโครงการประกวดผลงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดอุบลราชธานี โดยแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อดำเนินการคัดเลือก อำเภอ ตำบล ที่ประสบผลสำเร็จด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕7 ให้รับรางวัลระดับอำเภอจำนวน ๕ รางวัลๆ ละ ๒๐,๐๐๐.-บาท ระดับตำบล ๒๐ รางวัลๆ ละ ๕,๐๐๐.-บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ การดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวถือเป็นมาตรการเสริมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของรัฐบาลและยังเป็นการ เพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับอำเภอและตำบล ที่มีผลงานดีเด่นด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยเสริมสร้างสังคมให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง ประชาชนอยู่ดีมีสุข

จังหวัดมุกดาหารจัดกิจกรรมแถลงข่าว”สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน อินโดจีน”

วันนี้ (๒๘ มี.ค. ๕๘) เวลา ๑๕.๐๐ น.   นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน "สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน อินโดจีน”ประจำปี ๒๕๕๗ พร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร และนายอาชว์ ตั้งประกิจ ที่ปรึกษาพิเศษอุสาหกรรมท่องเที่ยว กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๕ เมษายน ๒๕๕๗ ณ ริมฝั่งโขงตลาดอินโดจีน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร ทั้งนี้ ในวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๗ พิธีเปิดเวทีกลางแม่น้ำโขงเชิงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ๒ การแสดงแสง สี เสียง ตำนานอารยธรรมลุ่มแม่น้ำโขง (Light and Sound) และการแสดงจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ ๑๑ – ๑๕ เมษายน ๒๕๕๗ การแสดงม่านน้ำและน้ำพุดนตรี กิจกรรมโฟมปาร์ตี้และอุโมงค์น้ำพุ ๑๓-๑๕ เมษายน ๒๕๕๗ ณ บริเวณวงเวียนน้ำพุ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ภายหลังการแถลงข่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร รวมถึงนักท่องเที่ยว ได้เดินทางมาเที่ยวงาน สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน อินโดจีน” ประจำปี ๒๕๕๗ และร่วมย้อนอดีตวิถีชีวิต ๘ เผ่าชนพื้นเมืองมุกดาหาร ตลอดงานมีมหกรรมอาหารไทย-อินโดจีน เทศกาลกินปาแม่น้ำโขง พบกันที่บริเวณริมแม่น้ำโขง "สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน อินโดจีน”ประจำปี ๒๕๕๗



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดากหาร/-ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร สุระณรงค์ อ่อนสนิท /ภาพ 

การค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร รับสมัครลูกจ้างเหมาบริการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลและสารสนเทศ

นายสุดเขต  จันทรสาขา การค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร เผยว่า สำนักงานการค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร มีความประสงค์รับสมัครและคัดเลือกเพื่อจ้างเหมาบริการบุคคลภายนอกเข้าปฏิบัติงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลและสารสนเทศประจำสำนักงาน โดยอัตราค่าจ้างเดือนละ ๙,๐๐๐ บาท จำนวน ๑ อัตรา

ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะสมัครยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร เลที่ อาคารสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหลังเก่า ชั้น ๒ บริเวณศูนย์ราชการจังหวัด ถนนวิวิธสุรการ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร ๔๙๐๐๐ โทร. ๐-๔๓๖๓-๒๔๔๕ ตั้งแต่วันที่ ๒๕-๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ ในวันเวลาราชการ



สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ทศพร  โล่ห์เงิน  นักศึกษาฝึกงาน/ข่าว

แนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณียากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา จังหวัดมุกดาหาร

ความยากจน เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดของประเทศด้อยพัฒนาหรือกำลังพัฒนา ความกินดีอยู่ดีของประชาชน กลายเป็นตัวชี้วัดของความเจริญรุ่งเรือง และชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศ จากการสำรวจพบว่ามีครัวเรือนที่ประสบปัญหาความยากจนในประเทศอยู่ในทุกพื้นที่ ราวร้อยละ ๑๐ ของประชากรทั้งประเทศ การให้ความช่วยเหลือทางราชการมักกระทำในลักษณะ "ตั้งรับ”ไม่ให้ความสำคัญในการทำงานเชิงรุก เกาะติดปัญหา เข้าไปในพื้นที่การช่วยเหลือทางของราชการจึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่แก้ไขที่ต้นเหตุ หรือไม่ตรงจุด มักสงเคราะห์ช่วยเหลือ(แจก) โดยไม่คำนึงถึงศักยภาพของครัวเรือนเป้าหมาย อุปมาดังการจับปลา ให้ประชาชนกิน หาได้ใช้วิธีการสอนให้รู้จักวิธีการจับปลาไม่ จึงไม่สามารถทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากโซ่ วงจร ปัญหาของความเดือดร้อนยากจน ที่แท้จริงได้ บ่อยครั้งที่ปัญหาความยากจน เดือดร้อน เจ็บป่วย พิการ อนาถา ทางราชการรับทราบเมื่อมีการร้องทุกข์ ร้องเรียน ไปยังส่วนกลาง กระทรวง กรม ต่างๆ รวมทั้งบางกรณี ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่อต่างๆ เหตุเพราะ ทางราชการจำนวนไม่น้อยทำงานเชิง "ตั้งรับ” ต่างแก้ปัญหาไปแต่ละกรณี ทำงานไม่เป็นระบบ ขาดการบูรณาการ

จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จังหวัดมุกดาหาร ภายใต้การนำ ของนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การปฏิบัติราชการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อมุ่งให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม มีการแก้ไขปัญหาที่เป็นระบบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าปัญหา ทุกพื้นที่ แบบเบ็ดเสร็จ เป็นรูปธรรม ไม่เกิดความซ้ำซ้อน ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วได้อย่างทันท่วงที โดยกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาคนและสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร โดยนำแนวคิดจากสภาพปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชน ที่มาจากการขาดปัจจัย ๔ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ประกอบด้วย ด้านยารักษาโรค ด้านอาหาร ด้านเครื่องนุ่งห่ม ด้านที่อยู่อาศัย จังหวัดมุกดาหาร จึงได้จัดตั้ง "ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณียากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา จังหวัดมุกดาหาร”และจัดตั้ง กองทุนช่วยเหลือผู้ยากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา จังหวัดมุกดาหาร” ขึ้น ณ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์   ๐๔๒-๖๑๑๔๘๒



สุภาวดี  อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร กำหนดจัดงานวันพบญาติแบบใกล้ชิดภายในเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร

นายทำนุ ประกิจสุวรรณ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า เรือนจำจังหวัดมุกดาหารกำหนดให้มีการพบญาติแบบใกล้ชิดภายในเรือนจำฯ ขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีอยู่ในระเบียบวินัยของเรือนจำฯ ได้รับการเยี่ยมจากญาติโดยใกล้ชิด ในลักษณะถึงตัวภายในเรือนจำฯเป็นกรณีพิเศษ

ทั้งนี้ผู้ใดมีความประสงค์จะเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในงาน "วันพบญาติ” สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดและยื่นความจำนงต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนประวัติผู้ต้องขัง เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่เดือนเมษายน - ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ทศพร โล่ห์เงิน นักศึกษาฝึกงาน/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๗

วันนี้ (๒๘ มี.ค. ๕๗) เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด (กรมการจังหวัด) ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๗ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ของการดำเนินงานของส่วนราชการ ซึ่งแต่ละส่วนราชการได้นำเสนอผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องตามภารกิจ เป็นไปตามวาระการประชุม

ทั้งนี้ พิธีการก่อนการปะชุม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดมุกดาหาร ได้มอบเกียรติบัตรตามโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข แบ่งเป็น ๒ ระดับ ได้แก่ ระดับดีเด่น จำนวน ๑๒ แห่ง และระดับดี จำนวน ๔ แห่ง

ภายหลังการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมประชุมกรมการจังหวัด ร่วมพิธี วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า งานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี ๒๕๕๗ ในวันจันทร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ และ งาน "สงกรานต์มุกดาหาร ๔ แผ่นดิน    อินโดจีน” ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ เมษายน ๒๕๕๗




สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

พลังมวลชนมหาสารคาม เดินรณรงค์เชิญชวนเลือกตั้ง ส.ว.

กกต.มหาสารคาม ร่วมกับ กศน.มหาสารคาม นำกลุ่มพลังมวลชนกว่า 1000 คน ออกเดินรณรงค์ ไปตามเส้นทางในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม กระตุ้นเตือนและ เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว. วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557

(28-3-57) ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการปล่อยขบวนรณรงค์ของกลุ่มพลังมวลชนในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม นักเรียน นักศึกษา จากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดมหาสารคาม (กศน.)กว่า 1000 คน ที่ถือป้ายข้อความ คำขวัญ เพื่อกระตุ้น และเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง ให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้ง ทั้ง 1737 หน่วย

ซึ่งการเดินรณรงค์เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคามและสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดมหาสารคาม (กศน.) จัดขึ้น เพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามหน้าที่ พร้อมประกาศเจตนารมณ์ที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่ซื้อสิทธิ์ ขายเสียง 

มหาสารคาม บังคับใช้กฎหมาย รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนในเทศกาลสงกรานต์

จังหวัดมหาสารคาม นำมาตรการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ดำเนินการรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2557 ช่วง 7 วันระวังอันตราย 11-17 เมษายน ตามแนวทาง "ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทย ไร้อุบัติเหตุ”

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2557 จังหวัดมหาสารคาม และ อำเภอทั้ง 13 อำเภอ ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2557 เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2557 โดยมีแนวทางการรณรงค์คือ "ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทย ไร้อุบัติเหตุ” มีเป้าหมายให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนลดลงเมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งคณะตรวจเยี่ยมจุดตรวจและติดตามประเมินผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย

ทั้งนี้ ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ จังหวัดมหาสารคาม ได้เน้นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดทั้ง 10 มาตรการ เน้นหนักในเรื่องพฤติกรรมเสี่ยง 3 เรื่อง คือ ความเร็ว เมาสุรา และไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกรณีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ ยังมีการจัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ที่มีความปลอดภัยและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยทางถนนให้แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

วันจักรี

วันจักรี หมายถึง วันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ปฐมบรมราชวงศ์จักรี เสด็จกรีฑาทัพถึงพระมหานครทรงรับอัญเชิญขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ดำรงราชอาณาจักรสยามประเทศ

ประวัติวันจักรี (Chakri day) เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (ร.๑) เสด็จปราบดาภิเษก ขึ้นครองราชย์เป็น กษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และทรงสร้างกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นเมืองหลวงของไทย มาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๕) จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปของพระเจ้าอยู่หัวทั้ง ๔ พระองค์ (ร.๑ – ร.๔) เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อๆ มา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมสักการะ โดยเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เป็นธรรมเนียมปีละครั้ง และได้โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และมีการย้ายที่หลายครั้ง เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ปราสาท และ พระที่นั่งศิวาลัยปราสาท เป็นต้น

ในสมัยรัชกาลที่ ๖ นั้น โปรดให้ย้ายพระบรมรูปทั้ง ๔ ( ร.๑ – ร.๔ ) มาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ ๕ พระชนกนาถ พระที่นั่งองค์นี้ รัชกาลที่ ๖ โปรดให้ซ่อมจากพุทธปรางค์ปราสาทเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ และได้พระราชทานนามดังกล่าว การซ่อมแซมก่อสร้างและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง ๕ รัชกาล สำเร็จลุล่วงในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๖๑ จึงได้มีพระบรมราชโองการ ประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ ๖ เมษายนปีนั้น และต่อมา โปรดฯ ให้เรียกวันที่ ๖ เมษายนว่าเป็น "วันจักรี”

รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเป็นประธานในพิธีเปิดแม็คโคร สาขาบึงกาฬ

วันนี้ (28 มีนาคม 2557) เวลาประมาณ 09.00 น. นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดแม็คโคร สาขาบึงกาฬ ร่วมกับนางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ณ แม็คโคร สาขาบึงกาฬ ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คโคร สาขาบึงกาฬ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร บนพื้นที่ราว 7,000 ตารางเมตร ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป และสินค้าประเภทอื่นๆกว่า 12,000 รายการ ให้แก่สมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการแม็คโครมีนโยบายในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการชำระภาษีต่างๆให้กับท้องถิ่นตามกฎหมาย การจ้างพนักงานในพื้นที่กว่า 100 คน กับการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษ บ้านนาโนน บ้านท่าตะไคร้ บ้านท่าโพธิ์ บ้านแสนเจริญ และกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดบ้านหนองบัว พร้อมกันนี้แม็คโครยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนอนุบาลวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ จำนวน 15 ทุน อีกด้วย

การจัดงานวันสตรีสากลและการประชุมสมัชชาสตรีจังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2557

วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 57 เวลา 08.00 น. นายนายธวัชชัย รักขนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันสตรีสากลและการประชุมสมัชชาสตรีจังหวัดบึงกาฬ ประจำปี  2557 ณ.ห้องประชุมศิริธารา โรงแรมเดอะวัน อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยมี นางสุจิตรา พินดวง หัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าส่วนราชาร ตลอดจนผู้เข้าร่วมงานทุกคนให้การต้อนรับ

ในการจัดงานวันสตรีสากลและการประชุมสมัชชาสตรีจังหวัดบึงกาฬครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังมุมมองข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะแนวทางของคนทำงานด้านสตรีและติดตามความก้าวหน้าในการทำงานด้านสตรีของจังหวัด ตลอดจนการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย มุ่งเน้นให้สถาบันครอบครัวเข้มแข็ง กลไกศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ได้ส่งเสริมและประสานให้ภาคีการพัฒนาได้ตระหนักถึงโอกาศผลกระทบอย่างเป็นธรรมของหญิงและชาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ผู้แทนจากภาครัฐภาคเอกชน ภาคประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน สภาเด็ก เยาวชน และประชาชนรวม 60 คน ซึ่งมีกิจกรรมประกอบด้วย 1.ชมนิทรรศการ 2. เวทีเสวนา 3.แบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นเป็น 4 กลุ่มดังนี้ 1). การตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดย นางสาววิรัลพัชร สนิทศิริวัฒน์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ 2). ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว โดย นางสาวเสาวนีย์ ทิพย์อินพรม นักพัฒนาสังคม 3). การสร้างเสริมความเข้มแข็งของเครือข่าย เพื่อพัฒนาสตรีและครอบครัว โดย นางสาวพรพิมล พูลลาภ นักพัฒนาสังคม 4). การเสริมพลังครอบครัว สร้างสมดุลประชากรอย่างมีคุณภาพ โดย นางสุรศักดิ์ กิจพรประเสริฐ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ

จังหวัดนครราชสีมา ประชุมการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการจัดการและป้องกันอุบัติภัยทางถนนและจากสารเคมี/อันตราย

วันนี้ (28 มี.ค. 2557) เวลา 13.30 น. นางสุวาพร  เสภาศีราภรณ์ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ที่ หอประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการจัดการและป้องกันอุบัติภัยทางถนนและจากสารเคมี/วัตถุอันตราย ระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2557  เพื่อเตรียมความพร้อมในการบุรณาการ และการแบ่งมอบภารกิจระหว่าง หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ให้เจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติงานร่วมกันมีความเข้าใจ ในบทบาทหน้าที่ของตนเอง

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน มูลนิธิ และองค์กรการกุศล ในเขตพื้นที่เสียงอันตรายให้สามารถปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากอุบัติเหตุทางถนนและการจัดการอุบัติภัยจากสารเคมี/วัตถุอันตรายได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน วัตถุประสงค์การใช้แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณกภัย ระดับกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และปราจีนบุรี ต้องถูกนำไปใช้ในกรณีเกิดภัยขึ้น จำเป็นต้องมีการทดสอบแผนดังกล่าว ในด้านต่างๆ  เพื่อทดสอบภารกิจหลักด้านการติดต่อสื่อสาร เพื่อทดสอบภารกิจหลักด้านการประสานงานและควบคุม เพื่อทดสอบภารกิจหลักด้านการปฏิบัติการทางการแพทย์ และทดสอบภารกิจหลักด้านการบริหารทรัพยากร

ในการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการจัดการและป้องกันอุบัติภัยทางถนนและจากสารเคมี/วัตถุอันตรายระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2557 กำหนดดำเนินการ ในวันที่ 9 เมษายน 2557 โดยใช้ ถนนทางหลวงหมายเลข 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี บริเวณ กม.ที่ 55 (กม.79 เดิม) เป็นสถานที่ดำเนินการจัดฝึกซ้อมแผนดังกล่าว



อาฒยา ทองเฟื่อง/ข่าว

พิธีมอบเงินพระราชทานครอบครัวในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีมอบเงินพระราชทานครอบครัวในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ แก่นายประเสริฐ อันดร และเด็กชายชัยพร ดวงมาลา อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 10 ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เนื่องจากเด็กทั้ง 2 คน ต้องชกมวยเพื่อหาเลี้ยงบุพการีและครอบครัว โดยได้พระราชทานเงินช่วยเหลือ เดือนละ 5,000 บาท มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2553 เป็นต้นมา สำหรับการมอบเงินครั้งนี้ เป็นการมอบเงินประจำเดือนเมษายน-มิถุนายน 2556 จำนวน 3 เดือน รวม 15,000 บาท ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้รับเงินพระราชทาน ความว่าขอให้ทั้ง 2 คน ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอยู่ตลอดเวลา และให้น้อมนำแนวพระราชดำริต่าง ๆ มาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้บังเกิดประโยชน์และความสุขแก่ตนเอง ครอบครัว และสังคม รวมทั้งจะต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี มีความขยันหมั่นเพียร ตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อให้อนาคตข้างหน้าจะได้มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง เป็นกำลังสำคัญของสังคมต่อไป




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ออกรายการข่าวข้น รับอรุณ ทางสถานีเนชั่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นออกรายการ "ข่าวข้น รับอรุณ” ช่วง "ตอมแมลงวัน” ทางสถานีเนชั่นและ งาน "มหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย ดร.ทศพร นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ได้ไปประชาสัมพันธ์งาน "มหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น” (THAILAND AMAZING DINOSUAR @ KHONKAEN) ในรายการ "ข่าวข้น รับอรุณ” ช่วง "ตอมแมลงวัน” ทางสถานีเนชั่น โดยจังหวัดขอนแก่นร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี ได้กำหนดจัดงาน "มหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น” ขึ้น ในระหว่างวันที่ ๒๗-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ เซ็ลทรัล พลาซ่า ขอนแก่น เนื่องจากการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ชิ้นแรกในประเทศไทยที่อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น กอปรกับกรมทรัพยากรธรณี ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งแรกของประเทศไทย ณ จังหวัดขอนแก่น และอาจเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งจังหวัดขอนแก่นเป็นจุดศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงจัดงานดังกล่าวขึ้นเพื่อให้ประชาชนของจังหวัดขอนแก่นและจากทั่วประเทศ ได้สัมผัสกับไดโนเสาร์และได้ร่วมกิจกรรมอื่นๆ ภายในงาน



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

การจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว ประจำปี 2557 "ซิดซิดสาดสาด ม่วนขนาดขอนแก่นคึกคัก

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว ประจำปี 2557” ณ บริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงานและจัดกิจกรรม เพื่อแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองขอนแก่น มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และเป็นการเล่นสงกรานต์อย่างสนุกสนาน ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์ โดยการจัดงานสงกรานต์นี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-15 เมษายน 2557 ภายใต้แนวคิด "ซิดซิดสาดสาด ม่วนขนาดขอนแก่นคึกคัก” ใน 2 สนานที่ คือ 5-12 เมษายน 2557 จัดขึ้นบริเวณ บึงแก่นนคร และ 13-15 เมษายน 2557 ณ ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

การประชุมเชิงปฏิบัติการชุดปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอำเภอแวงใหญ่

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การประชุมเชิงปฏิบัติกาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ชุดปฏิบัติการประจำตำบลและ 25 ตาสับปะรด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ และร่วมลงนามในพิธีลงนามสัตยาบันดูแลครัวเรือนในหมู่บ้านไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด นายวีระเดช วิภาษาภรณ์ นายอำเภอแวงใหญ่ กล่าวรายงาน อำเภอแวงใหญ่ได้นำระเบียบวาระจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดไปปฏิบัติ ปรากฏว่า ปัญหายาเสพติดในพื้นที่เบาบางลงอย่างมาก การตรวจจับอย่างเข้มข้นทำให้สามารถจับกุมคดียาเสพติด ตั้งแต่เดือน ต.ค. 55- ก.ย. 56 จำนวน 93 คดี ได้ยาบ้า 3,159 เม็ด ผู้ต้องหาจำนวน 97 ราย ซึ่งเฉพาะในเดือนมีนาคม 57 สามารถจับกุมยาเสพติดถึง 50 คดี ยาบ้า 418 เม็ด ผู้ต้องหา 50 ราย มอบนโยบายการปฏิบัติการ จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดและร่วมลงสัตยาบันดูแลครัวเรือนในหมู่บ้านไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จาก 5 ตำบล ในอำเภอแวงใหญ่ จำนวนกว่า 1,000 คน ณ หอประชุมอำเภอแวงใหญ่ เพื่อสนับสนุนระเบียบวาระของจังหวัดขอนแก่น “จังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอย่างยั่งยืน” ปี 2557 โดยการจัดฝึกอบรมชุดปฏิบัติการประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และผู้ ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด (25 ตาสับปะรด) ในพื้นที่ 5 ตำบล 52 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 1,080 คน พล.ต.ต.ชอบ คิสาลัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมพิธีพร้อมกับพบปะพูดคุยและชี้แจงจุดยืนและแนวทางของตำรวจในการสนองนโยบายของจังหวัดดังกล่าวด้วย



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นจัดโครงการบวชสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติในหลวง

วันนี้ (28 มี.ค. 2557 ) นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานเปิดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนซึ่งทางจังหวัดขอนแก่นร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนา ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดขึ้นที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง อำเภอเมืองขอนแก่น โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและร่วมฉลองอายุวัฒนมงคล 85 ปี 65 พรรษา พระธรรมวิสุทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง  รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนมีค่านิยมที่ถูกต้อง มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นคนดีมีคุณภาพตลอดจนเห็นคุณค่าวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของพระพุทธศาสนา พัฒนาคุณภาพชีวิตอันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมประเทศชาติ ให้มีความสงบสุขถาวรและยั่งยืนในงานมีการมอบผ้าไตรให้กับผู้มาบวชเป็นสามเณรทุกคนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดและพ่อแม่ผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาร่วมพิธีในครั้งนี้โดยจะทำการบวชสามเณรระหว่างวันที่ 28 มีนาคมถึงวันที่ 11 เมษายน 2557 และ สามเณรทุกรูปจะจำวัดที่วัดหนองแวงพระอารามหลวงเพื่อฝึกธรรมปฏิบัติพัฒนาคุณภาพชีวิต ต่อไป 

งานมหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น เปิดแล้วอย่างยิ่งใหญ่

งานมหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น   เปิดแล้วอย่างยิ่งใหญ่  ได้รับความสนใจจากเด็ก ๆ และเยาวชนไปชมงานอย่างคับคั่ง

งานมหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น ซึ่งกรมทรัพยากรธรณี ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น จัดขึ้นระหว่างวันที่  27 – 31  มีนาคม  2557 ณ ชั้น 1  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาชาขอนแก่น  ได้เปิดแล้วย่างยิงใหญ่  โดยมี นายปราณีต  ร้อยบาง  อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี  และนายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน  โดยได้ความสนใจจากผู้ปกครองพาบุตร – หลาน เด็กๆ และเยาวชนมาร่วมชมงานจำนวนมาก

กิจกรรมและนิทรรศการภายในงาน "มหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น  ภายใต้แนวคิด  ร่วมเดินทางย้อนเวลาสู่ห้วงอดีต  สู่ดินแดนแห่งสัตว์โลกล้านปีและ   ป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วย 4  โซน คือ  โซนที่  1  ต้นกำหนดแห่งสายพันธุ์ไดโนเสาร์  มีกิจกรรม AR บาร์โค๊ต  พบกับไดโนเสาร์ชนิดใหม่  สกุลใหม่ของโลกที่พบในประเทศไทย ทั้ง 8 สายพันธุ์  ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน,  เรียนรู้ต้นกำเนิดและสายพันธุ์ไดโนเสาร์  ผ่านนิทรรศการโครงการกระดูกและกิจกรรมต่างๆในรูปแบบ Interactive ผสมผสานมัลติมีเดียตระการตา , กิจกรรมการระบายสีโดโนเสาร์และต่อภาพจิ๊กซอว์ , กิจกรรมวาดภาพบนใบหน้า,  โซนที่ 2  ขุดสำรวจประวัติศาสตร์ผ่านโครงกระดูกไดโนเสาร์ , เรียนรู้การสำรวจ  ขุดค้น  กระดูกไดโนเสาร์ ซ่อมแซมกระดูกในห้องปฏิบัติการ, การขึ้นรูปโครงกระดูกไดโนเสาร์ , โซนที่  3  ผจญภัยบนดินแดนโลกเสมือนจริงของการกลับฟื้นคืนชีพของเหล่าไดโนเสาร์,  การจัดแสดงไดโนเสาร์สายพันธ์ต่างๆ ใน บรรยากาศ  ป่าอันอุดมสมบูรณ์, กิจกรรมสันทนาการ  บนเวทีกลาง  และลานอเนกประสงค์ , กิจกรรมทูตไดโนเสาร์  เล่าเรื่องราวไดโนเสาร์และเดินเล่นไปกับไดโนเสาร์, ร่วมถ่ายภาพ เสมือนว่าอยู่ในยุคไดโนเสาร์,  กิจกรรม RC เข้าฐานประทับตราใน  Passport เพื่อแลกรับของรางวัล  , กิจกรรม  AR Magic  แอปพลิเคชั่นเพื่อประกอบการท่องโลกเสมือนจริงในยุคไดโนเสาร์  ,โซนที่  4  ขุมทรัพย์ฟอสซิล 3 มหายุค, เรียนรู้เกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ในประเทศไทย  3  มหายุค, สัมผัสและรู้จักกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นแรกของประเทศไทย, เรียนรู้แหล่งอนุรักษ์ทางธรณีวิทยา  ร่วมเรียนรู้และตรวจสอบเพชร  พลอย  จากผู้เชี่ยวชาญกรมทรัพยากรธรณี ไฮไลน์ในงานนี้ คือ การนำ AR Magic มาใช้เป็นแอปพลิเคชั่น  เพื่อประกอบการท่องโลกเสมือนจริงในยุคไดโนเสาร์ ครั้งแรกของประเทศไทย




สมพงษ์  ปัตตานี/ข่าว
อารมณ์/พิมพ์/*28 มี.ค.57 

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์มอบเงินแก่องค์กรสวัสดิการสังคม 8 แห่ง เป็นเงิน 420,000.-บาท

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบเงินให้กับองค์กรสวัสดิการสังคม จำนวน 8 แห่ง รวมเป็นเงิน 420,000.-บาท นำไปดำเนินงานตามโครงการเพื่อสร้างเข้มแข็งของชุมชน ท้องถิ่น และประชาสังคมในจังหวัดกาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2557 ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบเช็คเงินสดแก่องค์กรสวัสดิการสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 8 แห่ง รวมเป็นเงินจำนวน 420,000.-บาท ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ได้ประชุมครั้งที่ 8/2556 วันที่ 24 กันยายน 2556 และมีมติอนุมัติจัดสรรเงินกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมในระบบกระจายเงินกองทุนสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น และแผนปฏิบัติงานกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ประจำปี 2557 เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นและประชาสังคม (ระบบกระจาย) ในระดับจังหวัด

นายประณต จันทร์ศรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2557 ได้อนุมัติโครงการเชิงประเด็นและเชิงพื้นที่แก่องค์กรสวัสดิการสังคมที่เสนอขอรับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ รวม 8 องค์กร 8 โครงการ รวมเป็นวงเงิน 420,000.-บาท ได้แก่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ โครงการเสริมสร้างพัฒนาและสนับสนุนเครือข่ายชุมชนเฝ้าระวังความรุนแรงในครอบครัว จำนวน 80,000.-บาท, องค์กรสมาธิสร้างสุขโครงการธรรมสัญจร ร้อยใจชุมชนคนบัวบาน จำนวน 58,000.-บาท, เทศบาลตำบลโนนบุรี โครงการค่ายเยาวชนตำบลโนนบุรีสร้างสรรค์มุ่งสู่อาเซียน ประจำปี 2557 จำนวน 32,000.-บาท, กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลห้วยโพธิ์ โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายในการเสริมสร้างบทบาทครอบครัวเพื่อดูแลเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส จำนวน 50,000.-บาท, สำนักงานเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โครงการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างเครือข่ายเยาวชนและผู้นำชุมชนในการพิทักษ์สิทธิ์ผู้ด้อยโอกาส จำนวน 50,000.-บาท, กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลสหัสขันธ์ โครงการเยาวชนอาสาพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการแบบสัญจร จำนวน 50,000.-บาท, โรงพยาบาลยางตลาด โครงการอบรมเรื่องการเฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 50,000.-บาท และกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลคุ้มเก่า โครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลคุ้มเก่า จำนวน 50,000.-บาท



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

กกต.จังหวัดกาฬสินธุ์เชิญชวนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว. 30 มีนาคม 2557 นี้

เช้าวันนี้ ( 28 มีนาคม 57 ) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือน มีนาคม 2557 เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงาน ภาคส่วนต่างๆของจังหวัดกาฬสินธุ์ และก่อนวาระการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบเงินรางวัลและประกาศนียบัตรแก่เกษตรกรที่ส่งผลผลิตทางการเกษตร เข้าประกวดในงานมหกรรมโปงลาง แพรวา และกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2557 และพิธีมอบเงินกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ในระบบกระจายเงินกองทุนสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ประจำปี 2557

สำหรับ ภารกิจที่มีการติดตามในที่ประชุม อาทิ ความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหินทรายทำให้การขุดลอกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้การส่งมอบพื้นที่ คืนให้กับประชาชนล่าช้ากว่ากำหนด แต่ระหว่างนี้จังหวัดก็ได้มอบหมายให้พัฒนาที่ดินดำเนินการปรับปรุงบำรุงดิน ไปด้วย ทางด้าน กกต. จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ส่วนราชการและประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว. ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 นี้ พร้อมเชิญชวน ผู้สนใจเข้ารับการสมัครบุคคลเพื่อพิจารณาคัดเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจะเปิดรับสมัครตั้งแต่ วันที่ 16 เมษายน 2- ถึงวันที่ 20 เมษายน 2557 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กกต.จังหวัดกาฬสินธุ์ 043 –815-351 , ทางด้านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเรื่องกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างนาม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ หลอกลวงต้มตุ๋นประชาชน ในเขตอำเภอท่าคันโทว่า จะจัดให้มีโครงการจัดจ้างผลิตน้ำดื่มขวดเพต เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนช่วยภัยแล้ง โดยหลอกให้โอนเงินค่ามัดจำขวดน้ำดื่มเป็นเงิน 242,000 บาท ซึ่งเหล่ากาชาดไม่มีโครงการดังกล่าว และขณะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เร่งให้ สภ.ท่าคันโทติดตามแก๊งต้มตุ๋นมาดำเนินคดีโดยเร็ว พร้อมฝากเตือนประชาชน หากได้รับการติดต่อเพื่อดำเนินกิจการใดๆเกี่ยวกับส่วนราชการ หรือองค์กรการกุศล ขอให้มีการติดต่อย้อนกลับไปยังส่วนราชการ หรือองค์กรดังกล่าวเพื่อเช็คข้อมูลกลับอีกครั้งป้องกันการถูกหลอกลวง



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

จ.กาฬสินธุ์ ประกาศผลการประกวดพืช 9 ชนิดในงานมหกรรมโปงลาง แพรวา และกาชาด ปี 2557

นายสมบูรณ์ ซารัมย์ เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดให้มีการประกวดพืชที่นิยมเพาะปลูกในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 9 ชนิด ในงานมหกรรมโปงลาง แพรวา และกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2557 และได้รับความสนใจจากเกษตรกรส่งพืช เข้าร่วมประกวด จำนวนมาก ผลการประกวดมีดังนี้

1. ฟักทอง ชนะเลิศ ได้แก่ นางวิไลวรรณ วิสูงเล จากอำเภอดอนจาน
2. เห็ดฟาง ชนะเลิศ ได้แก่ นางไสว จำเริญสาร จากอำเภอเมืองกาฬสินธุ์
3. มะละกอ ชนะเลิศ ได้แก่ นายไหม มาตรา จากอำเภอสมเด็จ
4. ข้าวโพดหวาน ชนะเลิศ ได้แก่ น.ส.สุพรรณ อะเวลา จากอำเภอฆ้องชัย
5. มะพร้าวน้ำหอม ชนะเลิศได้แก่ นายประธาน สินธุมา จากอำเภอสหัสขันธ์
6. กล้วยน้ำว้า ชนะเลิศ ได้แก่ นายโสฬส สังรวมใจ จากอำเภอสมเด็จ
7. ยางพารา ชนะเลิศได้แก่ นายแสนชัย ศรีแนน จากอำเภอกุฉินารายณ์
8. อ้อยโรงงาน ชนะเลิศ ได้แก่ นายสมพงษ์ เพ็ญนาดี จากอำเภอท่าคันโท
9. มันสำปะหลัง ชนะเลิศ ได้แก่ นายพานิช ชิณคีรี จากอำเภอห้วยผึ้ง

ทั้งนี้ ผู้ที่ชนะเลิศทุกคน ได้รับเงินรางวัลและประกาศนียบัตรจากนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในการประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการ เดือนมีนาคม 2557 เรียบร้อยแล้ว




วิภาดา รัตนโรจนา/ข่าว