วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

จังหวัดสุรินทร์มีแผนส่งเสริมการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2556 / 2557 ใน 17 อำเภอ กว่า 100,000 ไร่


นายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ เผยจังหวัดสุรินทร์มีแผนส่งเสริมการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2556 / 2557 ใน 17 อำเภอ กว่า 110,000 ไร่ เกษตรกรจำนวน 12,000 ราย การเพาะปลูกอยู่ในเขตชลประทาน จำนวน 1,000 ราย พื้นที่ 5,000 ไร่ นอกเขตชลประทาน จำนวน 22,000 ราย ซึ่งสูบน้ำด้วยไฟฟ้า , แหล่งน้ำบาดาล และแหล่งน้ำอื่นๆ รวมพื้นที่ กว่า 60,000 ไร่ โดยปัจจุบันได้มีเกษตรกรปลูกพืชแล้วในพื้นที่ กว่า 65,000 ไร่ คิดได้ 56 % สำหรับพืชที่ปลูกทั้ง 17 อำเภอ ได้แก่ข้าวนาปรัง จำนวน 90,000 ไร่ , พืชไร่และพืชผักอื่นๆ ทั้งในเขตชลประทาน และนอกเขตชลประทาน จำนวน 18,000 ไร่

จังหวัดสุรินทร์ รับสมัครคู่สมรสร่วมงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ครั้งที่ 8


นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างขึ้นในวันแห่งความรัก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ที่ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยในปี 2557 นับเป็นครั้งที่ 8 ของการจัดงาน โดยคู่สมรสทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะได้เข้าพิธีสมรสอันศักดิ์สิทธิ์แบบชาวกวย หรือ "พิธีซัตเต” ซึ่งเป็นพิธีแต่งงานแบบพื้นบ้านของชนชาวกวย ที่มีรูปแบบการทำพิธีและการแต่งกายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวกวย และคู่สมรสทุกคู่จะได้เลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคลของการเริ่มต้นชีวิตคู่ รวมทั้งการร่วมพิธีจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า การจัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ประจำปี 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ และประชาสัมพันธ์ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง และโครงการโลกของช้าง ELEPHANT WORLD แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลกให้เป็นที่รู้จัก อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีการแต่งงานของชนพื้นเมืองสุรินทร์ (ชาวกวย) ให้คงอยู่ ส่งเสริมสถาบันครอบครัว ให้มีความผูกพันด้านจิตใจ และแสดงออกให้ผู้อื่นรับรู้ว่าได้มีการใช้ชีวิตคู่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งเป็นการสร้างความประทับใจ ผูกใจบ่าวสาวให้ได้รำลึกถึงและประทับใจในการมาร่วมจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้ สำหรับการจัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างในปีนี้ ตั้งเป้าหมายจะรับคู่รัก / คู่สมรส จำนวน 30 คู่ รวม 60 คน โดยคุณสมบัติและหลักฐานในการรับสมัคร คือ ชายและหญิงที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์ สมัครเข้าร่วมโครงการ พร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนทั้งชายและหญิง พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง โดยคู่สมรสทุกคู่ที่เข้าร่วมในงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ประจำปี 2557 จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และคู่สมรสทุกคู่จะได้ร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสหมู่แสนหวาน ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สถานที่สุดหรูใจกลางเมือง และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 คู่สมรสทุกคู่จะได้ร่วมพิธีอันเป็นมงคลแบบชาวกวย "พิธีซัตเต” และร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างพร้อมบันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่ 1 ปี มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ผู้สนใจขอรับใบสมัครได้ที่ สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4451-1975 และที่ว่าการอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4459-1141 ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 และเว็ปไซต์ www.surinpao.org





กกต. มุกดาหาร จัดโครงการเลือกตั้ง ส.ส.เชิงสมานฉันท์


กกต.มุกดาหาร จัดโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ นำผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.มุกดาหาร ทั้ง 2 เขต ลงนามบันทึกพันธสัญญาและกล่าวปฏิญาณตนต่อหน้าสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่จะหาเสียงเลือกตั้งด้วยความสุจริต

วันที่ (14 ม.ค.57) ที่โรงแรมพลอยพาเลช จังหวัดมุกดาหาร กกต.จังหวัดมุกดาหาร ได้จัดให้มีการลงนามบันทึกพันธสัญญาและกล่าวปฏิญาณตน ของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมุกดาหาร ที่จะหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยความสุจริตต่อหน้าสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์โดยมี นาย สกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายวิเชียร ทวีโคตร ประธาน กกต.มุกดาหาร และ คณะกรรมการการ กกต.มุกดาหาร เป็นสักขีพยาน พร้อมทั้งได้นิมนต์พระราชรัตโนภาส เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร มาเทศสนา ในหัวข้อธรรมกับการเลือกตั้งที่สุจริต มาซื้อสิทธิขายเสียงและสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ตลอดจน กกต.มุกดาหาร ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ระเบียบ ข้อกฎหมาย สร้างการยอมรับ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้รักสามัคคี รักษาความเป็นมิตรก่อนและหลังการเลือกตั้ง การไม่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มุกดาหาร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้ง 2 เขต จำนวน 9 คน รวมทั้ง ผู้สนับสนุนผู้สมัคร และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง เข้าร่วมโครงการ จำนวน 150 คน

นาย ศิริพงษ์ มุขศรี ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง จังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหารมีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มุกดาหาร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้งหมด 9 คน โดยแยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายสมยศ มุสิกภัทร หมายเลข 1 พรรคชาติพัฒนา นายชาญฤทธิ์ กุลสาร หมายเลข 5 พรรคพลังสหกรณ์ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ หมายเลข 15 พรรคเพื่อไทย และนางยุพาภร คล่องแคล่ว หมายเลข 24 พรรคประชาธิปไตยใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายวัชรา อาษาศรี หมายเลข 5 พรรคพลังสหกรณ์ นายวิทยา บุตรดีวงศ์ หมายเลข 14 พรรคชาติไทยพัฒนา นายบุญฐิน ประทุมลี หมายเลข 15 พรรคเพื่อไทย นายหหาดชัย คนเพียร หมายเลข 22 พรรคดำรงไทย และ นายฉลอง สอดศรี หมายเลข 50 พรรคเงินเดือนประชาชน ทั้งนี้ หวังสร้างวัฒนธรรมการเมืองที่ดี ลดปริมาณเรื่องร้องเรียน และให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สนับสนุน ตระหนักถึงพันธะสัญญาที่ได้ปฏิญาณ และการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และเกิดความสมานฉันท์ภายหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จ

กกต.ร้อยเอ็ด จัดเวทีปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 8 เขต พร้อมถ่ายทอดเสียงทาง สวท.ร้อยเอ็ด



นายสุวิทย์ ญาตินิยม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ด้วยได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป กำหนดให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันเลือกตั้ง โดยมี ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 8 เขต จำนวน 25 คน จาก 9 พรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดเวทีปราศรัยหาเสียงของผู้สมัคร เพื่อสนับสนุนผู้สมัครในการหาเสียง ตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเท่าเทียม ซึ่งผู้สมัครแต่ละคนจะได้เวลาหาเสียงคนละ 20 นาที พร้อมถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดร้อยเอ็ด ระบบ เอฟ.เอ็ม 94 MHz ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. โดยมีวิทยุชุมชนในพื้นที่แต่ละเขต ร่วมเป็นเครือข่ายถ่ายทอดเสียง

เขตเลือกตั้งที่ 8 วันที่ 21 มกราคม 2557 เวลา 08.00 - 12.00 น. ณ หอประชุมโรงเรียนจุตรพักตรพิมานรัชดาภิเษก

เขตเลือกตั้งที่ 7 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ หอประชุมอำเภอเกษตรวิสัย

เขตเลือกตั้งที่ 6 วันที่ 16 มกราคม 2557 เวลา 08.00-12.00 น. ณ หอประชุมอำเภอสุวรรณภูมิ

เขตเลือกตั้งที่ 5 เวลา 13.00 -1 6.00 น. ณ หอประชุมอำเภอพนมไพร

เขตเลือกตั้งที่ 4 วันที่ 17 มกราคม 2557 เวลา 08.00-12.00 น. ณ หอประชุมอำเภอเสลภูมิ

เขตเลือกตั้งที่ 3 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ หอประชุมอำเภอโพนทอง

เขตเลือกตั้งที่ 2 วันที่ 20 มกราคม 2557 เวลา 08.00 - 12.00 น. ณ หอประชุมอำเภอโพธิ์ชัย

เขตเลือกตั้งที่ 1 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ หอประชุมโรงเรียนขัติยะวงษา




                                                                                                        ประเสริฐ อินทา/ข่าว
   

บุรีรัมย์ระดมกำลัง ตร.ตชด.ทหารร่วม 3 พันนายดูแลเลือกตั้งพร้อมจัดชุดเคลื่อนเร็วระวังเหตุวุ่นวาย

บุรีรัมย์ระดมกำลัง ตร.ตชด.ทหารร่วม 3 พันนายดูแลเลือกตั้งพร้อมจัดชุดเคลื่อนเร็วระวังเหตุวุ่นวาย จังหวัดบุรีรัมย์ระดมกำลังตำรวจทุก สภ.กว่า 2,400 นาย และขอสนับสนุนกำลังจาก ตชด. อส.และทหารอีก 500 นาย รวมเกือบ 3 พันนายดูแลความเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้ง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วกว่า 30 ชุดทั้งจังหวัดป้องกันระงับเหตุวุ่นวายของกลุ่มต่อต้านเลือกตั้ง (14 ม.ค.57) พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุถึงมาตรการเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ที่จะถึงขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่จะถึงนี้ว่า ขณะนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดได้มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจจากทั้ง 34 สภ. ไว้คอยดูแลความเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้ง ที่มีอยู่ทั้งหมด 2,442 หน่วย พร้อมกันนี้ยังได้ขอสนับสนุนกำลังจากตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัครรักษาดินแดน และทหารจากจังหวัดทหารบกอีกประมาณ 500 นาย รวมทั้งสิ้นเกือบ 3,000 นาย เพื่อร่วมปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในการเลือกตั้งในครั้งนี้ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมกันนี้ยังได้มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วไว้ประจำทุก สภ.กว่า 30 ชุด เพื่อคอยระงับเหตุความวุ่นวายต่างๆ ที่อาจจะขึ้น ทั้งจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี และกลุ่มที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย ส่วนการป้องปรามการทุจริตซื้อสิทธิ์ ขายเสียงนั้น ก็ได้ส่งชุดสืบสวนหาข่าวเข้าไปฝังตัวในพื้นที่ เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหวในเชิงลึกแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างใด ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ยังยอมรับว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้เป็นปัญหาอุปสรรคในการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งพอสมควร เพราะประชาชนบางกลุ่มยังเกิดความสับสนว่าในวันที่ 2 ก.พ.นี้จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ยอดผู้มาใช้สิทธิ์ลดลงกว่าการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทาง กกต.ก็จะได้เร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ตามเป้า




                                                                                                สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์
   

บุรีรัมย์เร่งสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องโรงสียักยอกข้าวในโครงการฯรัฐเสียหายกว่า 38 ล้านในสัปดาห์หน้า

บุรีรัมย์เร่งสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องโรงสียักยอกข้าวในโครงการฯรัฐเสียหายกว่า 38 ล้านในสัปดาห์หน้า คณะพนักงานสอบสวนภูธรจ.บุรีรัมย์ เตรียมส่งสำนวนฟ้องผู้จัดการฯ และบริษัทแสงอีสานการเกษตรในสัปดาห์หน้า ข้อหายักยอกทรัพย์ไม่ส่งมอบข้าวให้กับ อคส.ครบตามจำนวนตามวันเวลาที่กำหนด จำนวนกว่า 1,260 ตัน ทำให้รัฐเสียหายมูลค่ากว่า 38.6 ล้านบาท (14 ม.ค.57) พ.ต.อ.สมดุลย์ ลึกประโคน คณะพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รวบรวมสำนวนการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตจำนำข้าวปี 2555/56 ตามที่นายการุณ มณีโชติ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า เข้าแจ้งความที่ สภ.ประโคนชัย ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย และนายกิติพงศ์ แสนวรางกุล ในฐานะนิติบุคคล และฐานะส่วนตัว เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2556 โดยกล่าวหาว่า "ยักยอกทรัพย์” ข้าวท่อนหอมมะลิ ชั้น 2 จำนวนกว่า 1,008 ตัน ข้าวท่อนหอมมะลิ จำนวนกว่า 252 ตัน เป็นข้าวที่แปรสภาพแล้วได้หายไปจากโกดัง ที่ทางบริษัทไม่ส่งมอบให้กับ อคส. ตามวันเวลาที่กำหนด รวมกว่า 1,260 ตัน ทำให้รัฐเสียหายรวมทั้งสิ้นเป็นมูลค่ากว่า 38.6 ล้านบาท ส่งมอบให้กับ พ.ต.ต.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน เพื่อตรวจสอบสำนวนก่อนจะส่งให้อัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลพิจารณาคดี ซึ่งก่อนหน้านี้นายกิติพงศ์ ได้เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ประโคนชัยแล้ว พร้อมให้การว่าตนได้แปรสภาพข้าวดังกล่าวส่งให้กับ อคส. แล้ว แต่ถูกตีกลับเพราะข้าวไม่ได้คุณภาพ จึงนำกลับมาปรับปรุง แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าข้าวจำนวนกว่า 1,260 ตันได้หายไปจากโกดัง โดยนายกิติพงศ์ ไม่สามารถชี้แจงได้ พ.ต.ต.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน มั่นใจว่าพยานหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมส่งอัยการ จะสามารถเอาผิดดำเนินคดีกับบริษัท แสงอีสานการเกษตร และนายกิติพงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาได้อย่างแน่นอน เพราะบริษัทดังกล่าว และนายกิตติพงศ์ มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต โดยการเบียดบังเอาทรัพย์สินของทางราชการ ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวทำให้งบประมาณของรัฐเสียหาย



                                                                                                สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์
   
   

ตร.บุรีรัมย์ระดมกวาดล้างยาเสพติดต่อเนื่องรวบผู้ค้าพร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1,200 เม็ด

ตร.บุรีรัมย์ระดมกวาดล้างยาเสพติดต่อเนื่องรวบผู้ค้าพร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1,200 เม็ด ตำรวจบุรีรัมย์ระดมกวาดล้างยาเสพติดต่อเนื่อง รวบผู้ค้าหลายรายพร้อมยึดของกลางยาบ้ากว่า 1,200 เม็ด อายัดทรัพย์สินที่ได้จากการจำหน่ายยาบ้าหลายรายการ ด้านผู้การฯ กำชับทุกพื้นที่ตั้งจุดตรวจสกัดเข้ม ป้องกันลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปยังจังหวัดชั้นใน (14 ม.ค.57) พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด , พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ ศรีสืบสาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด , พ.ต.อ.ไพศาล สุวรรณทา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมือง , พ.ต.ท.สมยศ ฟื้นชัยภูมิ หัวหน้าศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติด ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง สืบทราบว่านายสมหมาย หรือณัฐ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี พร้อมพวกได้ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ จึงได้ทำการขยายผลจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,203 เม็ด ยาไอซ์ 4.41 กรัม พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 อีกหลายรายการประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ รุ่น ไอโฟน 1 เครื่อง , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง , รถจักรยานยนต์ 1 คัน , สร้อยคำทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น บัตรกดเงินสด 3 ใบ และเงินสดอีก 109,500 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดกว่า 524,500 บาท นอกจากนี้ตำรวจ สภ.นาโพธิ์ ยังสามารถจับกุมผู้ค้าได้อีก 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 60 เม็ด และยึดทรัพย์สินที่ได้จากการจำหน่ายยาบ้าอีกจำนวนหนึ่งด้วย พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ ยังได้กำชับให้ทุก สภ.ตั้งจุดตรวจสกัดตามเส้นทางต่างๆ เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ลักลอบนำยาเสพติดทุกประเภทข้ามเข้าไปยังกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดชั้นในได้อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งให้ระดมกวาดล้างทั้งผู้เสพและผู้ค้าอย่างต่อเนื่องด้วย



สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์

สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ เชิญร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ

นางระวีวรรณ แก้วผลึก เจ้าพนักงานขนส่งอาวุโส ปฏิบัติราชการแทนขนส่งจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ได้จัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ประจำปี 2556 ให้แก่สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ เพื่อมอบให้แก่ผู้พิการ 52 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 2,364,800บาท (สองล้านสามแสนหกหมื่นสี่พันแปดร้อยบาทถ้วน)

ทั้งนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดจัดพิธีมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ประจำปี 2556 ในวันพุธที่ 15 มกราคม 2557 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการตามวัน เวลาดังกล่าว

จังหวัดสุรินทร์จัดประชุมคณะทำงานเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณในเขตพื้นที่สุรินทร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557

นางสาววราภรณ์ ลิ้มทรัพย์ คลังจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประธานในการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ครั้งที่ 1/2557 สืบเนื่องจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 เรื่องมาตรการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กำหนดเป้าหมาย การเบิกจ่ายงบลงทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 82 .00 และภาพรวมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 95.00 ในปีงบประมาณ 2557 เพื่อให้ส่วนราชการในจังหวัดสุรินทร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินการเบิกจ่ายเงินได้ตามเป้าหมายที่กำหนด

จ.สุรินทร์จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดพิธีทำบุญตั้งบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556 และในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 ณ วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

จึงขอเชิญท่าน พร้อมข้าราชการ เข้าร่วมพิธีทำบุญตั้งบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 ณ วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองสุรินทร์ ขอเชิญประชาชนทั่วไปร่วมพิธีในครั้งนี้โดยทั่วกันตามวันและเวลาดังกล่าว



                                                                                       สิดาพร สำราญใจ สปชส.สร./ข่าว

กำนันเจ้าของโรงสี การันตี เห็นใจเกษตรกร รับจำนำข้าวได้เงินแน่ แต่ให้ใจเย็น

เจ้าของโรงสีในพื้นที่สุรินทร์ อดีตกำนันเก่าผู้กว้างขว้างเข้าใจเกษตรกรดี พร้อมการันตี เกษตรกรที่นำข้าวไปจำนำ ได้รับเงินแน่นอน ขอให้พี่น้องใจเย็น ขณะนี้ทางรัฐบาลเร่งรัดอยู่ พร้อมย้ำเตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหากไม่มีสิ่งเจือปน ขายเมล็ดพันธุ์ได้ราคามากกว่าที่คิด

วันนี้ (14 ม.ค.57) ที่โรงสี "ห้างหุ้นส่วนจำกัดสุรินทร์ไชยสิริ” 84 หมู่ 6 ถ.ปัทมานนท์ ต.จอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ นายบรรพต สุรินทร์ศิริรัฐ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอจอมพระ เจ้าของของโรงสีในเครือสุรินทร์ไชยสิริ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวในหลายจังหวัดที่เกษตรกรได้นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวตามนโยบายรัฐบาลไปแล้วนั้น จนถึงปัจจุบัน บางส่วนได้รับแล้ว แต่บางส่วนยังไม่ได้รับเงิน ส่งผลทำให้มีเกษตรกรออกมาเรียกร้องไปแล้วนั้น ในทุกปีที่ผ่านมาเมื่อนำข้าวไปเข้าโครงการดังกล่าว 2-3 อาทิตย์เกษตรจะได้รับเงินทันที แต่ปีนี้ได้รับเงินช้าไปนิดหนึ่ง แต่ถึงถึงอย่างไรเกษตรกรก็จะได้รับเงินอย่างแน่นอน ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง ได้ยินข่าวว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังพยายามหาทางช่วยเหลือในเร็ววัน

นายบรรพต สุรินทร์ศิริรัฐ เจ้าของของโรงสีในเครือสุรินทร์ไชยสิริ กล่าวอีกว่า ในส่วนตัวคิดว่าการจำนำข้าว เกษตรกรได้รับมาตรฐานราคาที่แท้จริง ส่วนการขายทั่วไปราคาจะขึ้นลงตามตลาดในแต่ละวัน ราคาขึ้นลงตามความต้องการของต่างประเทศ ราคาจำนำมั่นคงได้เงินเต็มที่ ได้ราคาดีกว่าที่เราไปปล่อย ในส่วนตัวผมเป็นโรงสีแบบไหนก็ได้ หากราคาต่างประเทศดี หากราคาต่างประเทศสูงเราก็ซื้อสูง หากราคาต่างประเทศต่ำลงเราก็ซื้อต่ำลง แต่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรของเรามากๆ จึงอยากให้เกษตรกรใจเย็นนิดหนึ่ง ผมเข้าใจว่าพวกเราก็เสียดอก เพราะผมอยู่กับเกษตรกรตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรส่วนใหญ่กว่า 50% ในเขต.อ.จอมพระ ได้นำมาจำนำที่โรงสี ตน พร้อมกันนี้ได้แนะนำและรับซื้อข้าว โดยแยกเมล็ดพันธุ์ คัดสรรจนได้เป็นสินค้า OTOP ห้าดาว ของจังหวัดสุรินทร์ ทำให้สร้างมูลค่าส่งขายได้ราคาดีมาก







                                                                                                    อุทัย  มานาดี / รายงาน


แจ้งรับสมัครงานเพื่อไปทำงานไต้หวัน จัดหางานจังหวัดสุรินทร์

จัดหางานจังหวัดสุรินทร์ แจ้งผู้ที่สนใจสมัครงานเพื่อไปทำงานไต้หวัน ระยะเวลาการรับสมัคร เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 15 มกราคม 2557 ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ด้วยตนเอง พร้อมหลักฐานการสมัครงาน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักจัดหางานงานกรุงเทพเขตพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โดยไม่เสียค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2245 1034

สำนักงานบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย เปิดหน่วยแพทย์ทางเลือก ฝังเข็มประยุกต์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย ให้บริการแพทย์ทางเลือก โดยวิธีการฝังเข็มประยุกต์เพื่อการบำบัดและรักษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนผู้ที่ป่วยและมีความสนใจในการบำบัดรักษา โดยวิธีแพทย์ทางเลือก สามารถมารับบริการได้ในวันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 2557 และ วันที่ 6 - 8 พฤษภาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ที่สถานีกาชาดที่ 1 แยกศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์

อบจ.สุรินทร์ เปิดรับสมัครร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดรับสมัครคู่บ่าวสาวร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ครั้งที่ 8 หนึ่งเดียวในโลก ในวันแห่งความรัก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ (อบจ.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างขึ้นในวันแห่งความรัก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ที่ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 8 ของการจัดงาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ และประชาสัมพันธ์ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง และโครงการโลกของช้าง ELEPHANT WORLD แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลกให้เป็นที่รู้จัก อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีการแต่งงานของชนพื้นเมืองสุรินทร์ (ชาวกวย) ให้คงอยู่สืบไป

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า การจัดงานในปีนี้ ตั้งเป้าหมายจะรับคู่รัก / คู่สมรส จำนวน 30 คู่ รวม 60 คน ซึ่งคู่สมรสทุกคู่ที่เข้าร่วมในงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ คู่สมรสทุกคู่จะได้ร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสหมู่แสนหวาน ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สถานที่สุดหรูใจกลางเมือง และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 คู่สมรสทุกคู่จะได้ร่วมพิธีสมรสอันศักดิ์สิทธิ์แบบชาวกวย หรือ"พิธีซัตเต” ซึ่งเป็นพิธีแต่งงานแบบพื้นบ้านของชนชาวกวย ที่มีรูปแบบการทำพิธีและการแต่งกายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้คู่สมรสทุกคู่จะได้เลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคลของการเริ่มต้นชีวิตคู่และร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมบันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่ 1 ปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ผู้สนใจติดต่อสมัครได้ที่ สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4451-1975 และที่ว่าการอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4459-1141 ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว


สถาบันลูกโลกสีเขียว มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน จัดประกวดรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 16

สถาบันลูกโลกสีเขียว มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน จัดประกวดรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 16 ประจำปี 2557 หัวข้อ "วิถีพอเพียง แบ่งปัน ผูกพัน ดิน น้ำ ป่า” ชิงเงินรางวัลกว่า 2 ล้านบาท

นายส่งเกียรติ ทานสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันลูกโลกสีเขียว แจ้งว่า สถาบันลูกโลกสีเขียว มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน ได้จัดประกวดรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 16 ประจำปี 2557 ในหัวข้อ "วิธีพอเพียง แบ่งปัน ผูกพัน ดิน น้ำ ป่า” หรือการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชนเมืองขึ้น เพื่อยกย่องเชิดชูผู้ให้การสนับสนุน และเพื่อเป็นกำลังใจแก่ บุคคล และกลุ่มบุคคลที่ทำความดีเพื่อสังคมในด้านการสร้างสรรค์และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการเปิดเวทีส่งเสริมให้เกิดการแสวงหาแนวคิด และแนวทางใหม่ๆ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสังคมไทย โดยแบ่งการประกวดเป็น 6 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทชุมชน ประเภทบุคคล ประเภทกลุ่มเยาวชน ประเภทงานเขียน ประเภทความเรียงเยาวชน และ ประเภทสื่อมวลชน มีรางวัลการประกวด ประกอบด้วย โล่รางวัล ใบประกาศเกียริคุณ และ รางวัลเงินสดมูลค่ารวมกว่า 2,000,000 บาท แบ่งรางวัลออกเป็น ดังนี้ ประเภทชุมชน 5 รางวัล ๆ ละ 250,000 บาท ประเภทบุคคล 5 รางวัล ๆ ละ 100,000 บาท ประเภทเยาวชน 5 รางวัล ๆ ละ 50,000 บาท ประเภทงานเขียนและประเภทความเรียงเยาวชน แบ่งเป็น รางวัลดีเด่น เงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลชมเชย 20,000 บาท รางวัลดีเด่น 5,000 บาท รางวัลชมเชย 3,000 บาท ประเภทสื่อมวลชน 1 รางวัล เงินสด 100,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษ รางวัล "สิปปนนท์ เกตุทัต รางวัลแห่งความยั่งยืน” 1 รางวัล เงินสด 100,000 บาท สำหรับผู้สนใจ ส่งผลงานที่ได้รับรางวัล สถาบันลูกโลกสีเขียวและมูลนิธิพลังที่ยั่งยืน ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ทั้งนี้ จะมีการประกาศผลการตัดสินและมอบรางวัลในเดือนพฤศจิกายน นี้ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานเข้าประกวด ได้ที่ สถาบันลูกโลกสีเขียว อาคาร 1 ชั้น 5 เลขที่ 555 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพ ฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2537-2146



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว


จังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนร่วมบริจาคเงินสร้างบ้านธารน้ำใจให้ผู้ยากไร้จากทุกอำเภอ

นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ตามโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างรอยยิ้ม จังหวัดสุรินทร์ ประจำปีงบประมาณ 2557 เดือนละ 1 หลัง ในแต่ละอำเภอ โดยมีการทำประชาคมหมู่บ้าน คัดเลือกผู้ที่ยากจน ผู้สูงอายุ ผู้ที่เจ็บป่วย ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือมีแต่บ้านหลังเล็ก เป็นกระต๊อบไม่สามารถคุ้มแดดคุ้มฝนได้ จังหวัดสุรินทร์ จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ตามโครงการดังกล่าวได้ตลอดเวลา และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคได้ 2 ช่องทาง คือโอนเงินเข้าชื่อบัญชี " โครงการบ้านธารน้ำใจสร้างสุข สร้างรอยยิ้มจังหวัดสุรินทร์” หมายเลขบัญชี 310-0-47227-6 ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรินทร์ แล้วกรุณาแจ้งให้จังหวัดทราบด้วยทางโทรสาร 044-515472 และบริจาคโดยตรงได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ (กลุ่มงานปกครอง) ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โทร 044-515472 ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์จะดำเนินการมอบเกียรติบัตรให้ผู้บริจาคในโอกาสต่อไป

จังหวัดสุรินทร์เตือนอากาศหนาวขอให้ดูแลสุขภาพเด็กและผู้สูงอายุเป็นพิเศษ

นายถาวร   กุลโชติ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่ง จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 14-16 มกราคม 2557 นี้ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลงได้ 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป

จังหวัดสุรินทร์จึงขอให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมรับมือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ติดตามการรายงานพยากรณ์อากาศ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น อาสาสมัครประชาสัมพันธ์หมู่บ้าน เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์และเคเบิลทีวี พร้อมทั้งขอฝากให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ระมัดระวังอันตรายจากภัยที่มักเกิดในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะเพลิงไหม้ และไฟป่า สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการขับผ่านเส้นทางที่มีหมอกลงจัดในช่วงเช้า เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี ถ้าประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจังหวัดสุรินทร์ โทร 0-4414-3059 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ รับสมัครพนักงานราชการ

 นายธีระพล อรุณะกสิกร ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ แจ้งมายังสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล จำนวน 1 อัตราปฏิบัติงาน ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ อัตราค่าตอบแทนเดือนละ 9,960 บาท ระยะเวลาการจ้าง ตั้งแต่ที่เริ่มจ้าง จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2557

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครและคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ต้องได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ประเภทพาณิชยกรรม หรือประเภทบริหารธุรกิจเท่านั้น

วัน เวลาและสถานที่รับสมัคร กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 20-28 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ในวันราชการ สมัครด้วยตนเองได้ที่ งานบริหารงานทั่วไป ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ เลขท่ 287 หมู่ที่ 6 ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ หมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 045-617420

                                                     

                                                                                              สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์

กาชาดศรีสะเกษ เป็นเจ้าภาพจัดการจัดประชุมเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 5

 เหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 5 ครั้งที่ 1/2557

นางศิรดา กีรติเรขา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ แจ้งมายังสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษว่า เหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับมอบหมายจากสภากาชาดไทย ให้เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 5 ครั้งที่ 1/2557 ระหว่างวันที่ 23-24 มกราคม 2557 ณ อาคารทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ โดยมีนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม

เหล่ากาชาดจังหวัดภาค 5 ประกอบไปด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ มหาสารคาม สุรินทร์ และศรีสะเกษ ในการประชุมในครั้งนี้ จะมีสมาชิกเหล่ากาชาดจังหว้ด และกิ่งกาชาดอำเภอเข้าร่วมประชุมประมาณ 500 คน

                                                 


                                                                                              สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์

จังหวัดอำนาจเจริญจัดมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ TO BE NUMBER ONE เตรียมการประกวดจังหวัด/ชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับภาค ประจำปี 2557

วันนี้ เวลา 9.30 น. นายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดการจัดงานมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ TO BE NUMBER ONE เตรียมการประกวดจังหวัด/ชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับภาค ประจำปี 2557 ณ หอประชุมพญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ ด้วย โครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นโครงการที่ดำเนินงานเพื่อมุ่งป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเยาวชนและวัยรุ่นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โดยในปี 2557 นี้ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กำหนดจัดการประกวดจังหวัดและชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ณ โรงแรมพูลแมน จังหวัดขอนแก่น เพื่อเตรียมพร้อมในการประกวดจังหวัดและชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับภาคดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ในฐานะเลขานุการโครงการฯ จึงได้จัดให้มีมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประกวดคัดเลือกชมรม TO BE NUMBER ONE จังหวัดอำนาจเจริญ ในวันนี้ จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547 และได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ในปี พ.ศ. 2556 จังหวัดอำนาจเจริญประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งได้รับพระราชทานเกียรติบัตร จังหวัด TO BE NUMBER ONE มาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบปีที่ 2 จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทั้งในระดับภาคและระดับประเทศ ชมรม TO BE NUMBER ONE วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ ชนะการประกวดระดับภาคและระดับประเทศได้รับพระราชทานรางวัลชมเชยในการประกวดระดับประเทศ ประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา-อุดมศึกษา 2 ปีซ้อน (2555-2556) ได้เลื่อนสถานะเป็นชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่น พร้อมเป็นต้นแบบระดับประเทศ ชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนชานุมานวิทยาคม ชนะการประกวดในระดับภาค ในปี พ.ศ. 2556 นอกจากนี้จังหวัดอำนาจเจริญประสบความสำเร็จในการประกวดพิเศษของโครงการ TO BE NUMBER ONE ในระดับภาคและระดับประเทศ เช่น เยาวชนชนะการประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL ระดับประเทศ ประจำปี 2555 และทีม TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE ชนะการประกวดระดับภาคประจำปี 2554 และปี 2556

กกต. จังหวัดอำนาจเจริญจักดการประชุมชี้แจงผู้สมัครตามโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป

วันนี้เวลา 09.00 น ที่ โรงแรมฝ้ายขิต จังหวัดอำนาจเจริญ นายสมบูรณ์ โหมดม่วง ประธาน กกต.จังหวัดอำนาจเจริญเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ การจัดประชุมชี้แจงผู้สมัครตามโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปจังหวัดอำนาจเจริญ ด้วยได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556 โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้ง เชิงสมานฉันท์ พ.ศ.2550 กำหนดให้ เมื่อมีเหตุที่จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งและได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนผู้สมัคร บุคคลผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ประชุมชี้แจงข้อระเบียบ กฎหมาย และวิธีปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ วิธีปฏิบัติในการเลือกตั้ง สร้างการยอมรับเรื่องการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้รักสามัคคี เพื่อให้การหาเสียงเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้จัดทำโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ขึ้นในวันที่ 14 มกราคม 2557 ณ โรงแรมฝ้ายขิต โดยมีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 100 คน ประกอบด้วยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนผู้สมัคร ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง

กกต.จังหวัดอุบลราชธานี แจ้งผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า

ตามที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 และให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งผู้ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีชื่อ

นายสุรพล  สายพันธ์ ประธาน กกต.จังหวัดอุบลราชธานี  กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้ทำการเลือกตั้งอย่างทั่วถึง ในกรณีที่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแต่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เนื่องจาก ทำงาน หรือ อาศัย ในจังหวัดที่ตนเองไม่ได้มีชื่อในทะเบียนบ้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ก็สามารถที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งได้ โดยขอใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดนั้น แต่มีภารกิจในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์2557 จนไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้  ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้าในเขตจังหวัด ซึ่งการเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า นอกเขตจังหวัด และเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า ในเขตจังหวัด กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 26 มกราคม  2557 เวลา 08.00 – 15.00 น.       

สถานที่เลือกตั้ง ล่วงหน้า ส.ส. ในเขตจังหวัด เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ว่าการอำเภอเมืองอุบลราชธานี  เขต 2 ที่ว่าการอำเภอม่วงสามสิบ เขต 3 ที่ว่าการอำเภอเขื่องใน  เขต 4 ที่ว่าการอำเภอวารินชำราบ เขต 5 ที่ว่าการอำเภอตระการพืชผล  เขต 6 ที่ว่าการอำเภอเขมราฐ  เขต 7 ที่ว่าการอำเภอศรีเมืองใหม่  เขต 8 ที่ว่าการอำเภอพิบูลมังสาหาร เขต 9 ที่ว่าการอำเภอบุณฑริก เขต 10 ที่ว่าการอำเภอน้ำขุ่นและที่ว่าการอำเภอสำโรง เขต 11 ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม    สถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส.นอกเขตจังหวัด มีที่เดียวคือ ศูนย์โอทอปเซ็นเตอร์  อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน กกต.จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข 045-355366-7


                                                                                         กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน
                                                                                                               สปข.2 รายงาน


รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมร่วมหารือแนวทางการปลูกต้นไม้บริเวณรอบศาลากลางจังหวัด

วันนี้ 14 มกราคม 2557 ที่ห้องประชุมจินดารัตน์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัด อุบลราชธานี นายธัชชัย สีสุวรรณ ประชุมร่วมหารือแนวทางการปลูกต้นไม้บริเวณโดยรอบอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลฯ เนื่องจากไม่มีต้นไม้ทำให้เกิดความร้อนแห้งแล้ง โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่อยู่ในอาคารศาลากลางและหน่วยงานภายนอกเพื่อเพิ่มความร่มรื่นสวยงามประเภทของต้นไม้มี แคนา 12 ต้น ทองกวาว(ดอกจาน) 2 ต้น ราชพฤกษ์(คูณ)14 ต้น หางนกยูงฝรั่ง 9 ต้น อินทนิล 6 ต้น ปีป 2 ต้น เสลา 2 ต้น และหูกระจก 4 ต้นโครงการ เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ 2557 ขอความอนุเคราะห์ช่วยกระจายข่าวและเชิญชวนผู้ประสงค์ร่วมเป็นเจ้าภาพตอดต่อได้ที่ หน.สมยศ สำนักงานจังหวัด หรือที่ประชาสัมพันธ์จังหวัด

เกษตรกร อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี 100 คน รวมตัวถือป้ายข้อความโจมตีรัฐบาลและอ่านแถลงการณ์เร่งให้รัฐบาลจ่ายเงิน ให้กับชาวนาที่เดือดร้อนไม่ได้รับเงินจำนำข้าว

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 มกราคม 57 นายปรเมศ ศรีหล้า สมาชิกสภาจังหวัดอุบลราชธานี (สจ.)พร้อมด้วยเกษตรกรจาก อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี ร่วม 100 คน ได้รวมตัวกันถือธงชาติผืนใหญ่และป้ายข้อความโจมตีรับบาลที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว หลังเกษตรกรได้นำข้าวเปลือกไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาลเป็นเวลา 3- 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงิน ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน รวมถึงไม่มีเงินชำระหนี้ให้กับธนาคารธนาคารเพื่อการเกษตร ( ธกส. ) จึงได้รวมตัวกันมาชุมนุมประท้วงที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี จากนั้นนายปรเมศ ศรีหล้า สจ.อุบลราชธานี ได้อ่านแถลงการณ์ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งจ่ายเงินโครงการรับจำข้าวให้กับเกษตรกร ภายในวันที่ 15 ม.ค.2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรจากเงินโครงการรับนำข้าวในครั้งนี้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เมื่ออ่านแถลงการณ์เสร็จเกษตรกรได้พากันสลายตัวกลับในเวลาต่อมา ทั้งนี้มีตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวน 100 นาย ได้รักษาความปลอดภัย บริเวณด้านหน้าศาลากลางโดยไม่มีเหตุการณ์แต่อย่างไร ขณะเดียวกันนายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายเกรียงเดช วัฒนวงษ์สิงห์ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมสังเกตการณ์อ่านแถลงการณ์และข้อเรียกร้องจากเกษตรกรที่มาชุมนุมในครั้งนี้

จังหวัดศรีสะเกษ และ องค์กรภาคเอกชน มอบผ้าห่ม ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยหนาว ในถิ่นทุรกันดาร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ม.ค.57 นายสุริยะ อมรโรจน์วรุวฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางอุไร ตุงคเศรวงศ์ และ คณะตัวแทนจากบริษัท ทองเทพแอนด์ไทเทพ จำกัด ร่วมกัน มอบผ้าห่มกันหนาว ให้กับประชาชนที่ประสบภัยหนาว ที่โรงเรียนบ้านหนองแวง ตำบลหนองกุง อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวนทั้งสิ้น 634 ผืน และ ที่โรงเรียนบ้านโนนสมบูรณ์ ตำบลหนองกุง อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 736 ผืน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,370 ผืน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ที่ประสบภัยหนาว

ในเบื้องต้น นายสุริยะ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชน ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในถิ่นธุรกันดาร ซึ่งขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม ต้องประสบกับอากาศที่หนาวจัด ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ โดย นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ลงนามประกาศให้พื้นที่ ทั้ง 22 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นที่พื้นที่ประสบภัยหนาว พร้อมสั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอ เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้ง ให้มีการสำรวจ พื้นที่ ที่ประชาชนขาดแคลน เครื่องนุ่งห่ม เพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ผลิตรายการ “จังหวัดร้อยเอ็ด พบประชาชน” สัญจร เปิดโอกาสให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็น

วันนี้ (14 ม.ค.57) เวลา 13.30 น. สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการบันทึกเทปรายการ "จังหวัดร้อยเอ็ด พบประชาชน” ณ ห้องนนทรี 2 โรงเรียนสตรีศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายพลากร บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับนายผดุงศักดิ์ ไชยอาลา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด นายสุวิทย์ ญาตินิยม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด และ ดร.ธงชัย ธราวุธ นักวิชาการ โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด ร่วมบันทึกรายการ โดยนางกมลพร คำนึง ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียนที่ร่วมบันทึกเทปเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับมอบจากนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ผลิตรายการวิทยุฯ "จังหวัดร้อยเอ็ด พบประชาชน” วันพุธ ทุกสัปดาห์ เวลา ๐๖.๑๐ - ๐๗.๐๐ น. ณ สวท.ร้อยเอ็ด ความถี่ FM ๙๔.๐ MHZ โดยมีสถานีวิทยุฯ หลัก,วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวชุมชน และเคเบิ้ลทีวีในเครือข่าย ร่วมถ่ายทอด และบันทึกเทปออกอากาศด้วยเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของรัฐที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคมส่วนรวม และเพื่อเพิ่มช่องทางการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผลงานความก้าวหน้าของจังหวัดร้อยเอ็ด

การบันทึกรายการดังกล่าว เป็นการผลิตรายการแบบสัญจร ครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน และผู้เข้าร่วมรายได้มีส่วนร่วม รวมทั้ง ได้มีการบันทึกเทปทั้งประเภทรายการวิทยุและรายการโทรทัศน์ ทั้งนี้จะได้นำเทปที่บันทึกแล้วนำไปเผยแพร่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด อาทิ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดร้อยเอ็ด ระบบ FM 94.0 MHz สถานีวิทยุฯกรมประมงจังหวัดร้อยเอ็ด,สถานีวิทยุฯ ตำรวจภาค 4,สถานีวิทยุฯ กองทัพภาคที่ 2,สถานีวิทยุฯ จส.3 และวิทยุชุมชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด 34 แห่ง,เสียงไทยแลนด์เคเบิ้ลทีวี ช่อง 21,กมลเคเบิ้ลทีวี ในหลายช่วงเวลา

                                       


                                                                                                             วิมล เร่งศึก/ข่าว
                                                                                                     กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

กกต.มุกดาหาร จัดพิธีลงนามบันทึกพันธะสัญญาในการหาเสียง

ที่โรงแรมพลอยพาเลซ นายวิเชียร ทวีโคตร ประธานกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดมุกดาหาร ได้เป็น ประธานเปิดโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งสามชิกสภาผู้แทนราษฏร ปี 2557พร้อมทั้งมอบนโยบายแก่ผู้สมัคร โดยมีนายศิริพงษ์ มุขศรี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ของโครงการนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนผู้สมัคร ให้มีความรู้ความเข้าใจกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสร้างความเข้าใจให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครยอมรับในเรื่องรู้แพ้รู้ชนะ และการรู้รักสามัคคี การรักษาความเป็นมิตร เป็นเพื่อนบ้าน และความเป็นญาติพี่น้อง ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง และเพื่อให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจนไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการเลือกตั้งได้รับทราบบทบาท อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วยผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมุกดาหารทั้ง 2เขตจำนวน 9 คน ผู้สนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้นำท้องถิ่นและประชาชน รวมทั้งสิ้น จำนวน 150 คน

ในโอกาสนี้ทาง กกต.จังหวัดมุกดาหารได้นิมนต์พระรัตโนภาสวิมล เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง มากล่าวปาฐกถาธรรม หัวข้อ " ธรรมกับการเลือกตั้งที่สุจริต ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง และสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ” พร้อมกันนี้ นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีกล่าวปฏิญาณตนฯการลงนามบันทึกพันธะสัญญา ในการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. พร้อมกล่าวให้กำลังใจผู้สมัครรับการเลือกตั้งให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายในการหาเสียงในครั้งนี้ด้วย



                                                                           พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว


   

ป.ป.ช.จังหวัดมุกดาหารแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานรอบ ๓ เดือน (ตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๖)ต่อสื่อมวลชน

วันนี้ (๑๔ ม.ค.๕๗) เวลา ๑๔.๐๐ น. นางสาวนุชนาถ ด้วงสงฆ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดมุกดาหาร (ป.ป.ช.) ได้แถลงผลการปฏิบัติงานในไตรมาสแรก ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ โดยในรอบ ๓ เดือนที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น รวม ๑๓ เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ ๒ เรื่อง อยุ่ระหว่างพิจารณาหาข้อเท็จจริง จำนวน ๑๑ เรื่อง

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร ได้รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร หรือ ป.ป.จ. มุกดาหาร ซึ่งได้จัดส่งรายชื่อไปยัง ป.ป.ช. ส่วนกลาง ลิ้ว จำนวน ๖ คน สำหรับการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทั้งในเรื่องการดำเนินการในส่วนที่เป็นการกระทำความผิด การสร้างจิตสำนึก สร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้ประชาชนทราบ เนื่องจากในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน หากยังมีการทุจริตเกิดขึ้นจะส่งผลเสียต่อการแข่งขันกับประเทศในกลุ่มอาเซียน

                                                        


                                                                             สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
                                                                                                 พิพัฒน์ เพชรสังหาร/ภาพ

ชุดเฉพาะกิจ นรข. ร่วมกับกอ.รมน.ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ยิงปะทะแก๊งมอดไม้

วันนี้ 14 มกราคม 2557 นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผู้บังคับการหน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม ได้รับรายงานจากชุดการข่าวกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ว่า  จะมีการ ลักลอบขนไม้พะยูง ส่งออกนอกประเทศ ที่บริเวณป่าท้ายหมู่ บ้านหนองบง ตำบลหนองเอี่ยน  อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร  จึงสั่งการให้ นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าชุด เฉพาะกิจ นรข. เขตนครพนม ประสาน นาวาโท ปรเมศวร์ ไศลบาท ผู้บังคับหมู่เรือที่ 3 มุกดาหาร พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.มุกดาหาร พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร นาย สถิตย์ พิสัยสวัสดิ์ หัวหน้าด่านตรวจ สัตว์ป่าไซเตส มุกดาหาร และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นำกำลังเข้าตรวจสอบ ที่ท้ายหมู่บ้านหนองบง ตำบลหนองเอี่ยน  อำเภอคำชะอี และได้กระจายกำลังออกตรวจสอบบริเวณท้ายหมู่บ้านดังกล่าว พบชายฉกรรจ์ ประมาณ 4-5 คน  กำลังขนไม้พะยูงขึ้นรถกระบะ เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวแต่กลุ่มชายฉกรรจ์ไหวตัวและได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด  เพื่อยิงเปิดทางเพื่อหลบหนี  เจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ไป  จนกระทั่งเสียงปืนสงบเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบกลุ่มชายดังกล่าวอาศัยความมืดหลบหนีไปได้  และได้พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนทอง หมายเลขทะเบียน บก – 8060 บึงกาฬ  พบไม้พะยูงที่ท้ายกระบะจำนวน 6 ท่อน  แต่ละท่อนยาว 3 เมตร หนา 30 เซนติเมตร  คิดมูลค่า 1 ล้านบาท  และได้ตรวจสอบทะเบียนรถบรรทุกไม้เป็นทะเบียนปลอม ตรวจสอบห้องคนขับรถเจอเอกสารการชื้อไม้พะยูงจำนวน 1 แผ่น  ไม้พะยูงดังกล่าวคาดว่าน่าจะมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน  เพื่อเตรียมแปรรูปส่งให้กับนายทุนและส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา   มาตรา 69 มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง(ไม้พะยูงท่อน) โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 11 ฐานร่วมกันทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต  มาตรา 70 ฐาน ร่วมกัน ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทบัญญัตินี้ และปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ  เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์พร้อมไม้พะยูงส่งพนักงานสอบสวน สภ. คำชะอี เพื่อติดตามหาเจ้าของรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




                                                                           พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว



พมจ.มหาสารคามมอบเกียรติบัตรศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ประจำปี 2557

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดประชุมเพื่อถ่ายทอดแนวทางการปฏิบัติงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ประจำปี 2557 และมอบเกียรติบัตรศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานพร้อมเงินอุดหนุน

14-01-57 ที่วัดมหาชัย พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดประชุมเพื่อถ่ายทอดแนวทางการปฏิบัติงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค) ประจำปี 2557และมอบเกียรติบัตรศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน

นายวิศิษฐ์ เดชเสน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจหน้าที่ในการส่งเสริมศักยภาพของสตรี ความเสมอภาคของหญิงและชายและความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว เพื่อความมานคงในการดำรงชีวิต โดยดำเนินการผ่านมาตรการ กลไกต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมทางวิชาการ การวิจัย พัฒนาองค์ความรู้และสนับสนุนทรัพยากรผ่านการดำเนินการของเครือข่าย ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) เป็นองค์กรประชาชนที่มาจากตัวแทนกลุ่มต่างๆในชุมชน มาร่วมกันปกป้องและแก้ไขปัญหาครอบครัวในชุมชน ที่มีการบริหารจัดการในรูปของ คณะทำงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน โดยมีกลุ่มครอบครัวในชุมชนเป็นสมาชิก ภายใต้การกำกับดูแลและสนับสนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ตั้งแต่ปี 2547-2554 จำนวน 142 ศูนย์ในเขตพื้นที่ 142 อปท. จากผลการดำเนินงาน ศพค. ปี2556 ที่ผ่านมาสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวได้คัดเลือกศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินตามมาตรฐาน ศพค. ได้รับคัดเลือกเป็น ศพค.ดีเด่น จำนวน 8 ศูนย์ ระดับดี จำนวน 11 ศูนย์รวม 19 ศูนย์ โดยศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนระดับดีเด่นจะได้รับเงินอุดหนุนศูนย์ละ 30,000 บาท ระดับดี 20,000 บาทเพื่อดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบกิจกรรมที่สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกำหนด


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมขยายผลยึดทรัพย์ กว่า 5 แสนบาท

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลาง ยาบ้ากว่า 1 พันเม็ด ยาไอซ์ 4.41 กรัม นอกจากนั้นยังตรวจยึด รถจักรยานยนต์ สร้อยคอทองคำ เงินสด และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด สั่งทุกพื้นที่เฝ้าระวังโดยเฉพาะแนวชายแดน

(14 ม.ค.57) ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รอง ผบก.ภ.จว และ พ.ต.ต.มานิตย์ สร้อยจิตร รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้เข้าจับกุม นายไอซ์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ภูมิลำเนาอยู่กระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ , นายนรินทร์ หรือบอล จันอินทร์ อายุ 23 ปี ,นายไกรวิน เรืองประโคน อายุ 22 ปี และนายวีรยุทธ หรือหยา ประจันบาล อายุ 23 ปี ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะซัดทอดไปยังผู้ร่วมขบวนการ กระทั่งสามารถจับกุมได้รวมทั้งสิ้น 4 คน จากการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 1,203 เม็ด ยาไอซ์ 4.41 กรัม อุปกรณ์การเสพสารเสพติดจำนวนมาก นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินไว้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จำนวน 1 คัน สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น เงินสด 1 แสนบาท พร้อมทั้งอายัดบัญชีของนายวีรยุทธ หรือ หยา ประจันบาล ซึ่งมีเงินสดอยู่กว่า 3 แสนบาท ไว้ตรวจสอบการได้มา รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ กว่า 5.2 แสนบาท

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ร่วมกันลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น เยาวชน และผู้ใช้แรงงานในเขตพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียงมาเป็นเวลานาน จากนั้นได้ทำการติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 4 กระทั่งสามารถจับกุมได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์)โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ค้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพเท่านั้น เนื่องจากจังหวัดบุรีรัมย์เป็นเพียงเส้นทางผ่าน ไม่ใช่แหล่งผลิต จึงได้สั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่เพิ่มมาตรการเข้มในการตั้งจุดตรวจสกัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ หรือเล็ดลอดเข้าไปยังจังหวัดชั้นใน โดยเฉพาะในพื้นที่แนวชายแดนให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
   
   
   

ผลการประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวเมล็ดยาวจังหวัดขอนแก่น ปีเพาะปลูก 2556/57

ตามที่จังหวัดขอนแก่น ได้จัดให้มีการประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียมเมล็ดยาวของจังหวัดขอนแก่น ปีการเพาะปลูก 2556/57 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์ที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวที่มีคุณภาพดีให้กว้างขวางยิ่งขึ้นทั้งในด้านการผลิตและการตลาดเพื่อส่งออกเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

บัดนี้ทางจังหวัดขอนแก่น โดยคณะกรรมการตัดสินการประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียมเมล็ดยาวของจังหวัดขอนแก่น ปีการเพาะปลูก 2556/57ได้พิจารณาตัดสินชี้ขาดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียมเมล็ดยาวที่เกษตรกรส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น จำนวน 413 ตัวอย่างแล้ว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2556ปรากฏผลการตัดสินชี้ขาดผู้ชนะการประกวดดังนี้

 1.รางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิ

             รางวัลที่ 1 เงินสด 5,000 บาท ได้แก่ นางกัญญาณี คำบึงกลาง บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 10 ต.นาคำ อ.อุบลรัตน์


              รางวัลที่ 2 เงินสด 4,000 บาท ได้แก่ นางสมนึก สมทอง บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 4 ต.พระบุ อ.พระยืน

               รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท ได้แก่ นางแววมยุรา พานิชโกศล บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 21 ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น


                รางวัลชมเชย 1 รางวัลๆละ 1,000 บาท ได้แก่ นางหนูไพร์ พลเสนา บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 4 ต.พระบุ อ.พระยืน

2.รางวัลข้าวเหนียมเมล็ดยาว

                 รางวัลที่ 1 เงินสด 5,000 บาท ได้แก่ นางอุไร จิตต์กระจ่าง บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ที 7 ต.ตะกั่วป่า อ.หนองสองห้อง

                  รางวัลที่ 2 เงินสด 4,000 บาท ได้แก่ นายลม นงมาตย์ บ้านเลขที่ 89 ต.หมู่ที่ 4 ต.บ้านโค้ก อ.โคกพิ์ไชย

                   รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท ได้แก่ นายสายยนต์ คันทา บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 4 ต.น้ำอ้อม อ.กระนวน

                   รางวัลชมเชย 1 รางวัลๆละ 1,000 บาท ได้แก่ นางอรัญญา นนสินชัย บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 8 ต.น้ำพอง อ.กระนวน

3.รางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิ (ประเภทกลุ่มเกษตรกร)

                   รางวัลที่ 1 เงินสด 6,000 บาท ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชน หมู่ที่ 11 ต.ทางขวาง สถานที่ตั้งเลขที่ 101 หมู่ที่ 11 ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย

                   รางวัลที่ 2 เงินสด 5,000 บาท ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรแปรรูปผลผลิตการเกษตร สถานที่ตั้งเลขที่ – หมู่ที่ 5 ต.วังแสง อ.ชนบท

                    รางวัลที่ 3 เงินสด 4,000 บาท ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมการผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน สถานที่ตั้งเลขที่ 109/2 หมู่ 22 ต.สาวถี อ.เมืองจังหวัดขอนแก่น จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน    




ศุภัชญา นศ.ฝึกงาน/ข่าว/พิมพ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดเปิดอนุสรณ์สถานบ้านพักรับรองจอมพลสฤษดิ์ให้ประชาชนและนักศึกษาชมเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์และเกิดความรักสามัคคี

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าจังหวัดขอนแก่นเปิด อนุสรณ์สถานบ้านพักรับรองจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์บริเวณบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ และความสำคัญของอนุสรณ์สถาน บ้านพักรับรองแห่งนี้ของจังหวัดขอนแก่นซึ่งถือเป็นปีแรกที่เปิดให้กับประชาชนและและนักเรียนเข้าชมและศึกษาประวัติศาสตร์เพราะอนุสรณ์สถานจอมพลสฤษดิ์นี้ ถือเป็นแหล่งประวิติศาสตร์ของจังหวัดขอนแก่น ในสมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 11 ของไทยได้เดินทางมาที่ขอนแก่นและพักในบ้านพักแห่งนี้ พร้อมทั้งได้ร่วมกับคณะที่เดินทางมาด้วยกันร่วมกันวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 ขึ้นที่นี่ เป็นแม่แบบของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับต่อมาในปัจจุบัน รวมทั้งแผนพัฒนาเมืองขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการวางแผนการสร้างเขื่อนอุบลรัตน์สร้างโรงผลิตไฟฟ้า การตั้งสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น การตั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่น บ้านพักรับรองแห่งนี้จึงเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น ที่จะระลึกถึงคุณงามความดี ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ซึ่งมีคุณูปการในด้านต่างๆ ต่อประชาชนชาวอีสานและจังหวัดขอนแก่น การเปิดให้ชมเพื่อให้ซึมซับ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อให้เด็กมีจิตสำนึกในการรักชาติ มีความสามัคคีกัน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองขอนแก่นในอนาคต



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

บีโอไอชี้อุตสาหกรรมสีเขียวขอนแก่นเพื่อการพัฒนาเมืองขอนแก่นอย่างยั่งยืน

ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่3จังหวัดขอนแก่นหรือบีโอไอมั่นใจว่านิคมอุตสาหกรรมสีเขียวจ.ขอนแก่นเพื่อให้การพัฒนาเมืองเป็นไปอย่างยั่งยืน

น.ส.รัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 จังหวัดขอนแก่น หรือบีโอไอ เปิดเผยว่านิคมอุตสาหกรรมสีเขียวซึ่งมีการผลักดันร่วมกันมาและมีนักลงทุนเอกชนของจีนมาลงทุนที่ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น บนเนื้อที่กว่า 4,000 ไร่ ขณะนี้ขั้นตอนการยื่นเอกสารทุกอย่างครบหมดแล้ว เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น มั่นใจว่านิคมอุตสาหกรรมสีเขียวจะเกิดขึ้นที่ จ.ขอนแก่นอย่างแน่นอน เพื่อให้การพัฒนาเมืองเป็นไปอย่างยั่งยืน ส่วน ปี 2556 บีโอไอภาค 3 ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 45 โครงการ เงินลงทุนรวม 13,047 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ที่อนุมัติทั้งสิ้น 71 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 27,076 ล้านบาท ยอดการลงทุนลดลง36.62%เงินลงทุนลดลง51.81% สาเหตุที่ยอดอนุมัติส่งเสริมการลงทุนลดลงทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุน เนื่องจากปีที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาจากพิษค่าแรง 300 บาท/วัน ทำให้ต้นทุนผลิตและค่าครองชีพสูง ขาดแคลนแรงงาน ทั้งภาวะเศรษฐกิจประเทศชะลอตัว กระทบภาคการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ค่าเงินบาทที่ผันผวน ที่สำคัญความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนไว้ก่อน ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงงานที่วันละ 300 บาทเท่ากันทั้งประเทศ พบว่าไม่ได้ทำให้แรงงานเคลื่อนย้ายกลับถิ่นฐาน แรงงานอีสานที่เคยทำงานที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลยังคงทำงานอยู่โรงงานเดิม จากความคุ้นเคยในการทำงานรวมถึงสวัสดิการต่างๆที่แรงงานเชื่อว่าโรงงานที่ส่วนกลางให้สวัสดิการดีกว่าโรงงานในต่างจังหวัด

โดยโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติปี 2556 ส่วนใหญ่ตั้งสถานประกอบการอยู่ในจังหวัดขอนแก่นได้รับส่งเสริม 14 โครงการ มูลค่าลงทุน 3,568 ล้านบาท รองลงมาคือ จ.อุดรธานีได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 11 โครงการแต่มีมูลค่าลงทุนถึง 6,537 ล้านบาท และกลุ่มที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมมากที่สุดเป็นประเภทเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร 19 โครงการ เงินลงทุน 7,006 ล้านบาท รองลงมาเป็นประเภทบริการและสาธารณูปโภค 13 โครงการ มูลค่าลงทุน5,230ล้านบาท ทั้งนี้ อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนกำลังได้รับความสนใจมาก เฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 มีผู้ประกอบการยื่นขอรับการส่งเสริมถึง 36 โครงการ เงินลงทุน 7,306 ล้านบาท จ้างงาน 669 คน กระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ของภาคอีสานตอนบน จากศักยภาพของพื้นที่ ที่มีทรัพยากรด้านพลังงานทดแทนจำนวนมาก รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่ผลักดันให้ภาคเอกชนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแล้วขายให้การไฟฟ้าในรูปผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กโดยมีเงินสนับสนุนให้และได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

อบจ.สุรินทร์ ขอเชิญคู่รักสมัครร่วมงาน “จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” ประจำปี 2557

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญชวนคู่รัก คู่สมรส สมัครเข้าร่วม "จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” ประจำปี 2557 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ โทรศัพท์ 044-511975 ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจาก อบจ.สุรินทร์ ว่า ด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดจัดงาน "จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” ประจำปี 2557 ครั้งที่ 8 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง และโครงการโลกของช้าง Elephant World แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลก อนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณีการแต่งงานของชนพื้นเมืองสุรินทร์กลุ่มชาติพันธุ์ กวย "พิธีชัตเต” ส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มีความผูกพันด้านจิตใจ โดยตั้งเป้าหมายคู่สมรสรวมงานไม่น้อยกว่า 30 คู่

สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีฉลองมงคลสมรส ในเย็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557, ขบวนขันหมากบนหลังช้างของเจ้าบ่าวแห่มาขอเจ้าสาว, พิธีแต่งงานแบบชาวกวย "พิธีชัตเต”, พิธีเลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล, การจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ วิวสวยวังทะลุ ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนคู่รัก คู่สมรส เข้าร่วมพิธีจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ประจำปี 2557 สามารถยื่นใบสมัครได้ที่สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 เว้นวันหยุดราชการ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทศัพท์ 044-511599 หรือ www.surinpao.org



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฏราชกุมารและพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มอบถุงพระราชทาน ช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ จังหวัดนครพนม

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา ๑๑.๐๐ น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฏราชกุมารและพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ร้อยเอกไพบูลย์  สุขเจตนี  รองผู้อำนวยการกองงานพระวรชายาฯ  เป็นผู้แทนพระองค์   มอบถุงพระราชทาน อันประกอบด้วยเครื่องกันหนาว  อาทิ  ผ้าห่ม หมวกไหมพรม  ผ้าขนหนู    ถุงมือ และถุงเท้า จำนวน ๑,๐๐๐ ชุด  ไปมอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาว ณ โรงเรียนบ้านขามเตี้ยใหญ่ ตำบลนาขมิ้น อำเภอโพนสวรรค์  จังหวัดนครพนม เพื่อใช้เป็นเครื่องกันหนาว และเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น

ทั้งนี้  ได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฏราชกุมาร  มาตรวจรักษาผู้ประสบภัยที่มีอาการเจ็บป่วย ในครั้งนี้ด้วย

จากสภาพอากาศที่มีความกดอากาศสูงกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน  ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นมา  ทำให้จังหวัดนครพนมมีสภาพอากาศหนาวเย็นทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัด  ราษฎรที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารได้รับความเดือนร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น เบื้องต้นพบราษฎรที่ได้รับความเดือนร้อนและขาดแคลนเครื่องกันหนาวในพื้นที่จำนวน ๑๒ อำเภอ ราษฎร ๑๔๙,๐๕๔ คน แยกเป็นผู้สูงอายุ ๓๙,๓๕๒ คน  เด็กผู้ไร้อุปการะ ๒,๒๓๔ คน  ผู้พิการ ๕,๗๕๘ คน  ผู้มีรายได้น้อย ๑๕,๑๕๙ คน ผู้ประสบความเดือนร้อน ๘๖,๕๕๑ คน

จังหวัดนครพนม  ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาภัยหนาวระดับจังหวัด อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ติดตามสภาพอากาศและเพื่อทำการสำรวจให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนสอดคล้องกับสถานการณ์

กองทัพเรือและบริษัทแอดวาน อินโฟร์ เซอวิช จำกัด มอบผ้าห่มกันหนาวให้กับชาวนครพนม

กองทัพเรือ โดยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง  และบริษัท แอดวาน อินโฟร์  เซอวิช จำกัด มอบผ้าห่มกันหนาวให้กับชาวนครพนม   เพื่อช่วยบรรเทาในภาวะอากาศหนาวเย็น

นาวาโทพงศกร  อิฐสมบัติ  ผู้ช่วยหัวหน้ากิจการพลเรือน  กล่าวว่า  ในช่วงนี้สภาวะอากาศอุณหภูมิลดต่ำลง   อากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่องอีกครั้งหนึ่ง  หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง หรือนรข. ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์  อินโฟร์  เซอร์วิช จำกัด  จึงได้ทำการมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับชาวนครพนม  จำนวน 250 ผืน  เพื่อบรรเทาอากาศหนาว

ทางด้านนางละมุด  วงจวง  อายุ 47 ปี  ชาวนา  อยู่ที่ตำบลอาจสามารถ  อำเภอเมืองนครพนม  ซึ่งได้รับผ้าห่มกันหนาว  กล่าวว่า  การได้รับผ้าห่มเป็นเครื่องช่วยบรรเทาอากาศหนาวลงได้  แต่ยังมีชาวบ้าน  ผู้สูงอายุในหมู่บ้าน  ที่ยังมีความต้องการเครื่องช่วยกันหนาวเพิ่มเติม  เช่น  หมวก  ถุงมือ  ถุงเท้า  ผ้าขนหนูขนาดใหญ่  ยาแก้แพ้  ครีมทาผิว  เป็นต้น  เนื่องจากตำบลอาจสามารถอยู่ติดลำน้ำโขง  นอกจากได้รับผลกระทบจากความหนาวเย็นแล้วยังได้รับกระแสลมด้วย