วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชน

เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการดำเนินงานของอาสาสมัครไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ 2 สิงหาคม 2556 ที่หอประชุมธรรมาภิบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนา เชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการดำเนินงานของอาสาสมัครไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชน โดยที่สำนักงานเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกับ สำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม และสร้างทางเลือกในการระงับข้อพิพาทให้แก่ประชาชนในชุมชนเขตเทศบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งเป็นการเพิ่มทักษะให้กับอาสาสมัครไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชนที่ได้รับการฝึกอบรมในปีงบประมาณ 2555 ตลอดจนรับทราบปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินงานของอาสาสมัครไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชนที่ผ่านมา โดยสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯในวันนี้มีประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทั้ง 36 ชุมชนเข้าร่วมชุมชนละ 5 คนรวมทั้งสิ้น 180 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจากศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ และสำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์




สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ขอนแก่นจัดงานมหกรรมเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค " บริโภคปลอดภัย 2556 "

นายวินัย สิทธิมณฑล รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานมหกรรมเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค "บริโภคปลอดภัย 2556” Safety Consumption 2013 Khon Kaen ณ โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น เตรียมพัฒนาจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์ รับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้านนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า งานมหกรรมเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภายในมหกรรมมีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อย.น้อย ขอนแก่น การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น การอบรมเทคนิค วิธีการในการให้บริการคำปรึกษา ลด ละ เลิกบุหรี่ สำหรับบุคลากรร้านยาโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นและเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรมเพื่อควบคุมยาสูบ การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "แนวทางการผลิตผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์” และการออกบูธจำหน่ายสินค้าที่ปลอดภัยและถูกต้องตามหลักองค์การอาหารและยา (อย.) รวมถึงจังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภูมิภาคกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค พัฒนาศักยภาพผู้บริโภคมีความรู้เท่าทันข่าวสารในปัจจุบัน งานมหกรรมเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นระดมหน่วยงานจัดงานมหกรรมเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค "บริโภคปลอดภัย 2556 รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558

เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้หารือเชื่อมความสัมพันธ์กับจังหวัดขอนแก่น

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมาเวลา 15.00 น. ณ ห้องรับรองพงษ์พาณิช นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับนายจอง แจ มัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยและคณะ มีโอกาสได้เดินทางมาเยือนจังหวัดขอนแก่นและขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับจังหวัดขอนแก่นในเรื่องต่างๆ ในด้านเศรษฐกิจ ด้านการค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวรวมทั้งทิศทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน โดยทางเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเมืองไทยมาอย่างยาวนานและเป็นมิตรที่ดีกับประเทศไทยด้วยและทางเกาหลีใต้มีเปิดการสอนภาษาเกาหลีในมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพราะถือว่าขอนแก่นเป็นศูนย์กลางของอินโดจีนในอนาคตจะเจริญเติบโตอย่างมากและในโอกาสเดียวกันก็เชิญชวนชาวขอนแก่นไปท่องเที่ยวที่เกาหลีใต้ด้วยเพราะคนเกาหลีมาเที่ยวเมืองไทยปีหนึ่งล้านกว่าคน สำหรับเกาหลีใต้ก็ถือว่าเป็นเมืองที่คนไทยชอบไปเที่ยวมากที่หนึ่งเหมือนกัน

9-12 สิงหาคม 2556 มหกรรม Dog Show หมายิ้มกันเด้อที่ขอนแก่น

พันธมิตรคนรักสุนัขร่วมกับภาคเอกชนและสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทยจัดงาน Dog Show หมายิ้มกันเด้อที่ขอนแก่นรองรับการเป็นเมืองแห่งการจัดสัมมนา บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจคนรักสุนัขทั้งในและต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนหลักของ บริษัทเพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ปจำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "สมาร์ทฮาร์ท” ได้จัดงาน SmartHeart presents Thailand International Dog Show ภายใต้แนวคิด "หมายิ้มกันเด้อ” มหกรรมรวมพลสำหรับคนรักสุนัขแดนดินถิ่นอีสานครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี โดยจัดระหว่างวันที่ 9 - 12 สิงหาคม 2556 ช่วงเวลา 11.00น. – 18.00น. ที่ชั้น 5 ขอนแก่นฮอล์ ศูนย์การค้าเซ็ลทรัล ขอนแก่น คุณพรพรรณ บุลเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายโครงการ บจก. อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นห้วงแห่งความสุขที่น้องหมาและเจ้าของหมาที่รอคอยงานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศในภาคอีสานในงานจะมีการประกวดสุนัขทุกสายพันธุ์แบบทั่วไปการประกวดแฟชั่นสุดฮาดันดาราสุดเจ๋งชิงเงินรางวัลกว่าห้าหมื่นบาทพบกับแฟชั่นสุนัขสายพันธุ์น่ากอดที่สุด อลาสกัน มาลามิวท์พร้อมทั้งความบันเทิงตลอดทั้งงานในงานมีการตรวจสุขภาพน้องหมามีการเลี้ยงอาหารแบบบุฟเฟ่สำหรับน้องหมาแบบอิ่มไม่อั้นพร้อมด้วยสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่นำมาจำหน่ายในราคาถูกสุดพิเศษ และกิจกรรมน่ารักๆ ภายในงาน พร้อมร่วมชมไฮไลท์น่ารักๆ จากเหล่ากองทัพแม่หญิงงามชะม้อยกับหมาน้อยดิสนีย์แลนด์ตัวแทน 10 สุดยอดแก็งค์ ค.คนรักหมาของภาคอีสาน งานนี้พลาดไม่ได้สำหรับคนรักสุนัขงานด็อกโชว์( Dog Show )หมายิ้มกันเด้อที่ขอนแก่น 9 – 12 สิงหาคม 2556 ที่เซ็นทรัลขอนแก่นการเลือกจัดงานที่ขอนแก่นถือเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานและเป็นเมืองที่มีความพร้อมในการจัดงานประชุมสัมมนาต่างๆเป็น1ใน 5 เมืองของประเทศไทยที่มีความพร้อมทุกๆด้านในการจัดงานต่างๆถือเป็นเมืองแห่งการประชุมสัมมนาในประเทศไทย MICE CITY




ชยุต อนุสุริยา / ข่าว

จังหวัดนครราชสีมา ให้ความรู้เกี่ยวกับภัยของยาเสพติดแก่นักศึกษากลุ่มเสี่ยง ตามโครงการ ลดกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษาต้านภัยยาเสพติด ประจำปี 2556

วันนี้ (2 ส.ค. 56) เวลา10.30 น. ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมา นายอุกริช พึ่งโสภา รอง ผู้ว่าราการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการปิดการอบรมและให้โอวาทแก่นักศึกษา กศน. จำนวน 80 คน ที่ผ่านการอบรมตามโครงการ ลดกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษาต้านภัยยาเสพติด ประจำปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงนอกสถานที่ศึกษาก่อปัญหา ทั้งด้านอาชญากรรมยาเสพติดและด้านอื่นๆ สามารถสร้างระเบียบวินัย รวมทั้งปรับปรุงบุคลิกภาพของผู้เข้ารับการอบรมจนสามารถสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายปกครอง และตำรวจรวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกส่วนได้ อีกทั้งเป็นการเพิ่มมวลชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอีกทางหนึ่ง โดยในการอบรมได้มีการจัดการอบรมให้ความรู้พิษภัยของยาเสพติด การฝึกอาชีพ การแนะนำส่งเสริมอาชีพ รวมทั้งการฝึกระเบียบวินัยและการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

จังหวัดนครราชสีมาจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติหว่านวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ พร้อมให้ความรู้แก่เกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตข้าว

วันนี้ ( 2 ส.ค. 56 ) เวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา นายวิรัช รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม หว่านวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ และการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตข้าวตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร โดยมีเกษตรกรในพื้นที่อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานกว่า 500 คน

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมหว่านวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ และการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตข้าวตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่ประชาชนชาว อ.โนนสูง มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเนื่องในวันแม่แห่งชาติ รวมทั้งเพื่อให้เกษตรในพื้นที่นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการเพิ่มผลผลิตข้าวได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการเป็นการลดต้นทุนในการผลิต

สำหรับกิจกรรมภายในงานได้มีการอบรมให้ความรู้ในการเพิ่มผลผลิตข้าว การจัดนิทรรศการด้านการเกษตร การมอบพันธุ์ปลา พันธุ์กล้าไม้ และน้ำหมักชีวภาพ ให้กับเกษตรกร นอกจากนี้นายวิรัช รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ยังได้นำประชาชนที่มาร่วมงาน ดำนาและหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว ลงในแปลงนาสาธิต จำนวน 5 ไร่ ในกิจกรรมหว่านวันแม่ เก็บเกี่ยวในวันพ่อ อีกด้วย 

มทส. มอบปุ๋ยฯ สนับสนุนโครงการปลูกต้นโพธิ์เฉลิมพระเกียรติฯ

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ส่งมอบปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ มทส. ผลงานการวิจัยจากศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านชีวมวล มทส. แด่ นายชุณห์ ศิริชัยครรีโกศล สจ. อ.วังน้ำเขียว และคณะ จำนวน 16 ตัน มูลค่า 96,000 บาท เพื่อร่วมสนุนสนุนโครงการปลูกป่าต้นโพธิ์เฉลิมพระเกียรติฯ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา




จังหวัดบึงกาฬจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬและวันภาษาไทยแห่งชาติ 2556

วันนี้ (29 กรกฎาคม 2556) เวลา 10.00 น. ณ โรงเรียนบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬและวันภาษาไทยแห่งชาติ 2556 โดยมีนายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงานซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียนในจังหวัดบึงกาฬเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เนื่องจากวันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปีรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ เพื่อกระตุ้นให้ชาวไทยทั้งชาติเห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย และใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเพื่ออนุรักษ์ให้เป็นเอกลักษณ์อยู่คู่ชาติไทยตลอดไป ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬได้ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬได้ตะหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและภาษาไทยจึงได้จัดงานในครั้งนี้ขึ้นเพื่อจัดเวทีให้เยาวชนในจังหวัดบึงกาฬได้แสดงออกถึงภูมิปัญญามรดกทางวัฒนธรรมของไทยและเสริมสร้างทักษะด้านภาษาไทยให้กับเยาวชน ซึ่งภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆคือ การประกวดขับร้องเพลงชาติ การประกวดคัดลายมือ การประกวดแกะสลักผลไม้ การประกวดพานบายศรีจากใบตองสด การสาธิตจินตลีลาประกอบเพลงอัคราภิรักษ์ นิทรรศการและการแสดงกิจกรรมอาเซียนโรงเรียนบึงกาฬ นอกจากนี้ ยังมีการจัดซุ้มอาหารสาธิตและเครื่องดื่มสมุนไพรให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมและได้ชิมด้วยซึ่งได้รับความสนใจจากสถานศึกษาทุกระดับในจังหวัดบึงกาฬส่งนักเรียนนักศึกษาเข้าประกวดในแต่ละกิจกรรมและเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

จังหวัดบึงกาฬจัดโครงการพัฒนาเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมวินัยและจรรยาบรรณ ภายใต้ครูดีศรี กศน.

กศน.บึงกาฬ จัดโครงการพัฒนาเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมวินัยและจรรยาบรรณ ภายใต้ ครูดีศรี กศน. โดยมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรทุกระดับ ให้มีสมรรถนะการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตามจรรยาบรรณและระเบียบวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นที่นับถือศรัทธาแก่ศิษย์และสังคมได้เป็นอย่างดี

วันที่ 29-7-56 เวลา 09.00 น. ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอล โรงแรมเดอะวัน อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รอง ผวจ.บึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดอบรมโครงการพัฒนาเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมวินัยและจรรยาบรรณ ภายใต้ครูดีศรี กศน. โดยมี ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน ครู กศน.ตำบล และบุคลากรในสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ เข้าร่วมอบรมกว่า 175 คน จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายพัฒนาบุคลากรทุกระดับ ทุกประเภทให้มีสมรรนถนะการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตามจรรยาบรรณและระเบียบวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นผู้นำของสังคมจำเป็นต้องมีจุดยืนที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิต ตลอดจนวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มีสติและมีวินัยในตนเองอยู่ตลอดเวลา มุ่งสร้างสรรค์และพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมในจิตใจให้มีความเป็นครู ทั้งชีวิต จิตวิญญาณ เพื่อให้สามารถประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่นับถือศรัทธาแก่ศิษย์และสังคมได้เป็นอย่างดี

เปิดแล้วอย่างยิ่งใหญ่การแข่งขันจักรยาน “บึงกาฬ เมาเท่นไบค์ ชาเลนจ์ 2013” ชิงเงินรางวัลสุงสุด100,000 บาท

วันที่ (27 กรกฎาคม 2556) เวลา 09.00 น. นายพินิจ จารุสมบัติ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย – จีนเป็น และอดิตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดพิธีการแข่งขันจักรยาน "บึงกาฬ เมาเท่นไบค์ ชาเลนจ์2013” รอบที่ 1ณ บริเวณโรงเรียนประสานมิตรวิทยา ตำบลชัยพร อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีนายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวต้อนรับ นายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงานการจัดการแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการแข่งขันจักรยานที่มีการชิงเงินรางวัลสูงสุด 100,000 บาทซึ่งมีนักกีฬาทั่วประเทศเดินทางมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้กว่าพันคน นอกจากมีการแข่งขันจักรยานแล้วยังมีการมอบจักรยานให้กับนักเรียนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬจำนวน 200 คัน เพื่อใช้ในการออกกำลังกายและเดินทางไปโรงเรียน

นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานจัดการแข่งขันจักยาน"บึงกาฬ เมาเท่นไบค์ ชาเลนจ์ 2013” กล่าวถึงการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจและเหตุผลอีกประการหนึ่งคือต้องการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คนหันมาออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานเพื่อเป็นตัวอย่างในการประหยัดพลังงานและส่งเสริมให้ประชาชนสนใจการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการใช้จักยานมากขึ้น ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท คือรุ่นแข่งขัน A รุ่นท่องเที่ยว B และรุ่นเยาวชน C บรรยากาศของการแข่งขันเป็นไปด้วยความตื่นเต้นโดยมีฝนตกตลอดการแข่งขันและเส้นทางในการแข่งขันสร้างความประทับใจให้กับนักแข่ง
         
ชนะเลิศ ได้แก่ พีรพล ชาวเชียงขวาง รับเงินรางวัล 100,000 บาท ซึ่งเอาชนะธวัชชัย จีระเดชาธรรม(ทีมชาติ) รับ 17,000บาท เนื่องจากแฉลบล้มก่อนถึงเส้นชัยเพียง 20 เมตรเท่านั้น ที่ 3สุรเกียรติ บุญโสม รับรางวัล 5.000 บาท ที่ 4 กีรติ สุขประสาท รับรางวัล 4,000 บาท และที่ 5ณัฐวัฒน์ศุภชึวะกุล รับรางวัล 3,000 บาท ส่วนทีมชาติหญิง ที่ 1 จุฑามาศ วงศ์พาดกลาง รับรางวัล 50,000 บาท ที่ 2ศิริลักษณ์ วาระเบียบ รับรางวัล 7,000 บาท ที่ 3 ว่าที่ร้อยตรีหญิงศิริขวัญ ห่างภัย รับรางวัล 5,000 บาท ที่4 สัตยานันท์ อังอุลการี รับรางวัล 4,000 บาท และ ที่ 5สกัญญา สุวรรณราคะ รับรางวัล3,000 บาท

จังหวัดบึงกาฬจัดอบรมเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าว

เมื่อวันที่ (26 กรกฎาคม 2556) เวลา 09.00 น. ณ หอประชุมอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ นายสรวิศ ทำเนาว์ นายอำเภอเซกา เป็นประธานในพิธีเปิดอบรมอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หลักสูตรการลดต้นทุนการผลิตข้าว จัดโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬ โดยมีนายทรงพันธ์ จันสว่าง เกษตรจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงาน ซึ่งมี อกม. ในอำเภอเซกาเข้ารับการอบรม 135 คน และได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจากศูนย์วิจัยข้าวจังหวัดหนองคายมาอบรมให้ความรู้เรื่องการลดต้นทุนการผลิตข้าวและจัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องข้าวแก่ผู้เข้าร่วมอบรม

ด้วยสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาดของข้าวไทยต้องประสบกับสภาพปัญหา อุปสรรค ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตต่ำ คุณภาพไม่ดี ราคาไม่มีเสถียรภาพ ราคาตกต่ำ การแข่งขันตลาดข้าวสูง ประสบปัญหากับภัยธรรมชาติ โรคและแมลงระบาด มีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ทำให้มีรายได้ต่ำ ซึ่งจังหวัดบึงกาฬมีพื้นที่ทำนาจำนวน 550,000 ไร่ เกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวจำนวน 42,734 ราย ผลผลิตข้านาปี จำนวน 350 กิโลกรมต่อไร่ ผลผลิตข้าวนาปรัง จำนวน 500 กิโลกรัมต่อไร่ ต้นทุนผลผลิตข้าวนาปีจำนวน 9 บาท ต่อกิโลกรัม ต้นทุนการผลิตข้าวนาปรัง จำนวน 7 บาท ต่อกิโลกรัม เป็นต้นทุนการผลิตที่สูง ดังนั้นการจัดอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ อกม. มีความรู้เกี่ยวกับการลดต้นทุนการผลิตข้าวและให้ อกม. นำความรู้ที่ได้ไปขยายผลในพื้นที่ ซึ่ง อกม.ทั้งหมดในจังหวัดบึงกาฬ ทั้ง 8 อำเภอมีจำนวน 615 คน และวันนี้ได้จัดอบรมเป็นรุ่นสุดท้ายที่อำเภอเซกา มีจำนวน 135 คน ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้มาเข้าร่วมอบรม

อป.มช. รุ่น ปี ๕๕ จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ อป.มช. รุ่น ปี ๕๖ จัดตั้งชมรมอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชนจังหวัดบึงกาฬ

วันนี้ (๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง อป.มช. รุ่นปี ๕๕ และ อป.มช.รุ่นปี ๕๖ ของจังหวัดบึงกาฬ เพื่อพิจารณาในการจัดตั้งเป็น ชมรมอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน เพื่อยกระดับการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ และเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน ๗๐ คน

นายบุญเถิง คำมณี ในฐานะประธานชมรมอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชนจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า การจัดตั้งชมรมฯ ดังกล่าวเกิดจากแนวคิดของคณะกรรมการ อป.มช. ที่ประชุมร่วมกันเป็นประจำทุกเดือน มีความต้องการที่จะผลักดันให้การทำงานด้านการประชาสัมพันธ์เกิดประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และที่สำคัญสมาชิก อป.มช. ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ทั้งหมด จำนวน ๙๐ คน เกิดความสมัครสมาน สามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยการประชุมในวันนี้เป็นการคัดเลือกประธานชมรมฯ รองประธานชมรมฯ และกรรมการอื่น ๆ จำนวน ๑๙ ท่าน ซึ่งประธานชมรมฯ ที่ได้รับการคัดเลือกคือ นายบุญเถิง คำมณี รองประธานชมรมฯ คนที่ ๑ คือ นางดุษฎี วรรัตน์ และรองประธานชมรมฯคนที่ ๒ คือ นายสมยศ แสงตะวัน

ด้านนายสาโรช บุญบุตร ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ และ สวท. บึงกาฬ จะร่วมกันเป็นทีมที่ปรึกษาของชมรมฯ เพื่อให้การทำงานของชมรมฯ เป็นไปวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และที่สำคัญ กรมประชาสัมพันธ์ จะมีเครือข่ายงานประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอีก ๑ เครือข่าย



ส.ปชส.บึงกาฬ / ข่าว
๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖

จังหวัดบึงกาฬออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน”

เมื่อวันที่  (25 กรกฎาคม 2556) นายธวัชชัย รักขนาม ปลัดจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยนางประภาศิริ สัจจชลพันธ์นายกเหล่ากาชาดและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดบึงกาฬ นำทีมหน่วยงานราชการในจังหวัดบึงกาฬออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ "บำบัดทุก บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” ณ โรงเรียนบ้านพรสวรรค์ ตำบลโนนศิลา อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีส่วนราชการในอำเภอมารอต้อนรับและประชาชนมารอรับบริการเป็นจำนวนมาก

ซึ่งการออกหน่วยจังหวัดเคลื่อนที่ในครั้งนี้ปลัดจังหวัดบึงกาฬได้นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หลังจากนั้นได้มีการมอบทุนการศึกษาและชุดนักเรียนให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนและสภากาชาดจังหวัดบึงกาฬได้มอบถุงยังชีพและเวชภัณฑ์ให้กับประชาชนจากนั้น ร่วมปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโรงเรียน จากนั้นได้เดินพบปะประชาชน ตรวจเยี่ยมบูธที่หน่วยงานต่างๆออกให้บริการเช่นสาธารณสุขออกตรวจสุขภาพ ปศุสัตว์ บริการทำหมันรักษาสัตว์และจำหน่ายไข่ไก่ราคาถูก ธกส.ให้บริการฝากและเงินพร้อมทั้งมอบบัตรสินเชื่อเกษตรกร พาณิชจังหวัดออกร้านจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด และหน่วยงานราชการอื่นๆที่ออกบูธบริการให้ความรู้และคำปรึกษาต่างๆ เมื่อตรวจเยี่ยมบูธและพบปะประชาชนเสร็จก็ได้เข้าประชุมหัวหน้าส่วนระดับจังหวัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นในตำบลโนนศิลา อำเภอปากคาด เพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป

วงโยธวาทิต โรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคามออกเดินทางร่วมแข่งขันที่สหรัฐอเมริกา

วงโยธวาทิต โรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม "อีสาน ดรัม ไลน์ "เป็นตัวแทนประเทศไทย เดินทางไปร่วมแข่งขันการประกวดวงโยธวาทิตนานาชาติ รายการ drumline battle ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยออกเดินทางแล้วเมื่อเวลา 01.35 น. ของวันที่ 3 สิงหาคม

นายมีศิลป์ ชินภักดี ผู้อำนวยการโรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนายชูชาติ ชัยอาสา รองผู้อำนวยการฯในฐานะผู้ควบคุมนำคณะนักเรียนวงโยธวาทิต โรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม "อีสาน ดรัม ไลน์๊". ออกเดินทางไปร่วมแข่งขันการประกวดวงโยธวาทิตนานาชาติ  รายการ drumline battle ที่เมืองอินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยออกเดืินทางแล้วเมื่อเวลาประมาณ01.35น. วันที่ 3 สิงหาคม 2556

ทั้งนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดให้มีการแข่งขันวงโยธวาทิตรายการ drumline battle international ครั้งที่1ในงาน DCI World ระหว่างวันที่8-10 สิงหาคม2556 โดยเชิญทีมจากโรงเรียนผดุงนารีจังหวัดมหาสารคามร่วมแข่งขันในฐานะตัวแทนประเทศไทย ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภทการประชันกลอง ระดับนานาชาติที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี2555  รวมแข่งขันกับอีก40ทีมจาก15ประเทศทั่วโลก




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปี ๒๕๕๖

นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหาร กำหนดจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปี ๒๕๕๖ และโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน”ในวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนชุมชนบ้านหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในด้านการเกษตรและการแก้ไขปัญหาการผลิตทางการเกษตร โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วงงานวิชาการและงานส่งเสริมด้านการเกษตร ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล เพื่อให้บริการเกษตรลุล่วง ณ จุดเดียว โดยมีกิจกรรมหลักด้านคลินิกเกษตร คลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี คลินิกชลประทาน และมีการจัดประกวดอาหารสำหรับหญิงให้นมบุตร จัดนิทรรศการการเกษตร นิทรรศการโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ มีการจำหน่ายสินค้าเกษตร/ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแม่บ้านสายใยรักแห่งครอบครัวและวิสาหกิจชุมชน




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดดาหาร/ข่าว

ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร ตอบแบบสอบถามลุ้นรับ iPad

นางสาววลี วณิชย์วรนันต์ ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม จะสอบถามความคิดเห็นต่อการใช้บริการจากนายจ้าง และผู้ประกันตน เพื่อนำข้อมูลไปพัฒนาปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์สอบถามความคิดเห็น ตามชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ที่ให้ไว้ หลังจากนั้นจะหาผู้โชคดีโดยใช้วิธีการสุ่ม เพื่อลุ้นรับ iPad และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนนายจ้าง และผู้ประกันตน ลงทะเบียนร่วมตอบแบบสอบถามเพื่อลุ้นรับโชคได้ที่งานเงินสมทบและการตรวจสอบ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๔๒-๖๑๒๒๘๗ หรือ ๐๔๒-๖๓๐๗๐๒-๓ ในวันและเวลาราชการ




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

อาชีวะยโสธรร่วมกับสถานประกอบการ

วิทยาลัยเทคนิคเกษตรและเทคโนโลยียโสธร ร่วมกับสถานประกอบการ ลงนามข้อตกลงจัดระบบการเรียนการสอนแบบทวิภาคี  ที่ห้องประชุมอาคารวิทยาบริหาร วิทยาลัยเทคนิคเกษตรและเทคโนโลยี ยโสธร นายรณฤทธิชัย   คานเขต อดีต ส.ส จังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงานการลงนาม บันทึกข้อตกลง ความร่วมมือการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ระหว่างวิทยาลัยเทคนิคเกษตรและเทคโนโลยียโสธร กับสถานประกอบการ  นายสัญญา  ไชยประเสริฐ    ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร กล่าวถึงการจัดการลงนามในครั้งนี้ว่า เป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาให้สถานการศึกษาในสังกัดทุกแห่ง ดำเนินการภายในปีการศึกษา 2556  โดยเป็นหลักสูตรที่สถานศึกษาร่วมกับสถานประกอบการจัดขึ้น นักเรียน นักศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช) ต้องเรียนในสถานประกอบการไม่ต่ำกว่า 3 ภาคเรียนในสาขาวิชาช่างต่างๆ  เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้ฝึกประสบการณ์จริงในสถานประกอบการ /และเป็นการสร้างเครือข่ายทางการศึกษากับสถานประกอบการ พร้อมตอบสนองนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  โดยวันนี้มีสถานประกอบการที่มาร่วมลงนาม MOU กับวิทยาลัยเทคนิคเกษตรและเทคโนโลยียโสธร ประกอบด้วย  หจก. ภาคอิสาณอุบล (ตังปัก) ยโสธร  เครือซ้งพันธุ์ปลากรุ๊ป จังหวัดฉเชิงเทรา  สวนประกายมาศ จังหวัดยโสธร ทามกลางสักขีพยานเป็นผู้ปกครองนักเรียนมา ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

เรือนจำร้อยเอ็ด ซ้อมแผนปฏิบัติการป้องกันการก่อเหตุจลาจลของผู้ต้องขังในเรือนจำ

เมื่อเวลา 17.00 น. (1 สิงหาคม 2556) นายบัญญัติ อักษรครบุรี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เปิดโครงการซ้อมแผนปฏิบัติการป้องกันการก่อเหตุจลาจลของผู้ต้องขังในเรือนจำ  จังหวัดร้อยเอ็ด บริเวณภายในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากสถานกักขังกลางจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่พยาบาลจากโรงพยาบาลร้อยเอ็ด   เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันการก่อเหตุของผู้ต้องขังโทษร้ายแรง  กรณีถูกพิพากษาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

โดยได้จำลองสถานการณ์ ให้ผู้ต้องขัง ชายคดียาเสพติด จำนวน  3 คน คดีพยายามฆ่า จำนวน 1 คน   ถูกควบคุมตัวเดินทางมาจาก ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เข้ามาในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด แล้วถอดเครื่องพันธนาการเพื่อส่งตัวเข้าสู่ที่คุมขังแล้วเกิดเหตุการณ์ใช้เหล็กแหลมจี้เจ้าหน้าที่ควบคุมเป็นตัวประกันหลังจากนั้นได้มีการเจราจาต่อรองระหว่างเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขัง  ผู้ต้องขัง 2 คน ยอมรับการเจรจาต่อรองของเจ้าหน้าที่และอีก 2 คน ไม่ยอมรับเงื่อนไขการเจรจาและน่าจะเกิดเหตุสุดวิสัย ผู้บัญชาการเรือนจำจึงได้ตัดสินใจ ใช้หน่วยปฏิบัติการจู่โจม ใช้กระสุนแบงค์ ยิงผู้ต้องขัง สามารถเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ควบคุมของเรือนจำได้

นายบัญญัติ อักษรครบุรี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด  กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ก่อเหตุจลาจลภายในเรือนจำหลายแห่งหลายครั้ง แต่ละครั้งได้มีการต่อรองระหว่างผู้ต้องขังกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ทุกเหตุการณ์

และระหว่างการเจรจาอาจเกิดเหตุการณ์สุดวิสัย ไม่ควบคุมสถานการณ์ได้ อาจส่งผลถึงชีวิตของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และการสูญเสียทรัพย์สินของทางราชการได้ ดังนั้น เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด จึงต้องเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการป้องกันการก่อเหตุจลาจลของผู้ต้องขังในเรือนจำ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการประสานงานและสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง มีการประสานงานที่รวดเร็ว การตัดสินใจที่เด็ดขาด

จึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้




คมกฤช  พวงศรีเคน ข่าว

กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด  043-527117

การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินสายชี้แจงโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สาย บ้านไผ่ – นครพนม ที่ จ.ร้อยเอ็ด

การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัทที่ปรึกษา เดินสายชี้แจงโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ – นครพนม ที่ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นเสนอแนะจากผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และสถานประกอบการธุรกิจเอกชน จำนวนมาก

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 56 ที่ผ่านมา นายนันทชัย  หวังเลี้ยงกลาง ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย นำกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ – นครพนม เข้าพบ นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และหัวหน้าส่วน ผู้ประกอบการธุรกิจ จังหวัดร้อยเอ็ด เกือบ 50 คน ที่ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อรับฟังการชี้แจงรายละเอียดภาพรวม เพื่อสำรวจออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรม และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ – มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด – ยโสธร –  มุกดาหาร – นครพนม จำนวน 14 สถานี คลอบคลุม 14 อำเภอ ในระยะ 347 กิโลเมตร งบประมาณกว่า 42,000 พันล้านบาท ซึ่งต้องทบทวนความเหมาะสม ด้านเศรษฐกิจ, วิศวกรรม, สิ่งแวดล้อม, สังคม, การเงินและ แนวทางการลงทุนที่เหมาะสม ทั้งนี้ สถานีรถไฟที่ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ดมี 4 สถานี ได้แก่ สถานี อ.เมืองร้อยเอ็ด, อ.เชียงขวัญ, อ.โพนทอง และอำเภอหนองพอก คาดว่าจะดำเนินการภายในระยะเวลา 6 ปี จะแล้วเสร็จภายในปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้เพิ่มความสะดวกและเชื่อมต่อโครงข่ายในการเดินทางและการขนส่งสินค้า ขยายโอกาสทางสินค้าทางการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม จากภาคอีสานสู่ภาคอื่นๆ ของประเทศ, รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ, ลดต้นทุนการขนส่งและการประหยัดพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ สร้างโอกาส สร้างงานให้กับประชาชนต่อไป



กมลพร  คำนึง/ข่าว
บุญมี  เพ็งรัตน์/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
1 ส.ค. 56 

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมตำรวจเลยแถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรม

นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมกับ นายมนัธสะวัชร์ บุญสมวัฒนวงศ์ นายอำเภอเมืองเลย พ.ต.อ.ภุชงค์ ภัทรพงศ์สินธิ์ ผกก.สภ.เมืองเลย ร่วมกันทำการแถลงข่าวการกวาดล้างอาชญากรรมในท้องที่อำเภอเมืองเลย ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจอำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ในการกลวดล้างตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึงเช้าวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ทางอำเภอเมืองเลยได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายกมลชัย สิงห์ประเสริฐ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 391 หมู่ 8 ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่วยยาบ้า จึงออกหาข่าวจนสามารถจับกุมตัวขณะที่เดินอยู่หน้าบ้าน ค้นตัวพบยาบ้าจำนวน 44 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 2 กรัม อยู่ในถุงพลาสติกที่ถืออยู่ จึงคุมตัวไปสอบสวน ที่จุดตรวจหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎเลย และทราบว่าส่วนหนึ่งซ่อนไว้ในห้องนอน จึงไปทำการตรวจค้นยึดได้ยาบ้าอีก 1,736 เม็ด อาวุธปืนดัดแปลง 1 กระบอก พร้อมกระสูนขนาด .38 จำนวน 30 นัด จากการขยายผลสามารถจับนายไกรราช มูลวัฒน์ อายุ 30 ปี และนายวัชระ สุวรรณชัย อายุ 26 ปี ตำบลน้ำหมาน อำเภอเมืองเลย พร้อมยาบ้า 64 เม็ด นางเตือนใจ บุญกอง อายุ 44 ปี ตำบลน้ำหมาน ได้ยาบ้าจำนวน 5,953 เม็ด นายบุญเหลือ ต้นมณี อายุ 61 ปี ตำบลน้ำหมาน พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง นายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่จังหวัดมหาสารคาม และนายวรายุทธ แปลงกระโทก อายุ 18 ปี อยู่จังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาร่วมกันให้คนอื่นยืมเงิน โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สำหรับนายกมลชัย สิงห์ประเสริฐ เคยถูกจับยาบ้าจำนวน 150 เม็ด อยู่ในระหว่างประกันตัวสู่คดี และยังเป็นหัวหน้าแก็งเงินกู้โหด โดยมีนายไก่และนายวรายุทธ ซึ่งเป็นลูกน้องปล่อยเงินก็โหด เพื่อการฟอกเงินที่ได้มีจากค้ายาบ้า ทางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

จังหวัดเลยเศร้าสูญเสียหลวงพ่อผจญ อสโม พระอริยสงฆ์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย รายงานว่า นับเป็นข่าวเศร้าสะเทือนใจของพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเลย และบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ที่ต้องสูญเสียพระที่ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบ อีกรูป คือ หลวงพ่อผจญ อสโม ประธานสงฆ์ วัดป่าสิริปุญญาราม บ้านหมากแข้ง จังหวัดเลย ท่านได้ละสังขารเมื่อวันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 แรม 9 ค่ำ เดือน 8 เวลา 21.10 น. ด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลเจ้าพระปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร รวมสิริอายุได้ 70 ปี 6 เดือน พรรษา 50 พรรษา ขณะนี้คณะสงฆ์กำลังนำศพของหลวงพ่อผจญกลับไปจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศล และเตรียมพิธีประชุมเพลิงศพฯ ในเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 ที่วัดป่าสิริปุญญาราม บ้านหมากแข้ง ตำบลหนองงิ้ว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย หลวงพ่อผจญ อสโม เดิมเป็นคนจังหวัดขอนแก่น เป็นศิษย์ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอริยสงฆ์ ผู้ปฏิบัติปฏิบัติชอบ แห่งวัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมา ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง และหลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง บ้านนาแก ตำบลผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง หลวงปู่ดำดี ประภาโส วัดถ้ำผาปู่ อำเภอเมือง จังหวัดเลย ท่านเป็นพระป่าธรรมยุต สายวิปัสสนา กัมมัฏฐาน มักน้อยสันโดษ เรียบง่าย พอเพียง ไม่สะสมทรัพย์ เมื่อได้มาก็สละออก ไม่เรี่ยไรทางวัด จึงไม่เคยจัดงานแจกซองผ้าป่าหรือกฐินใด ๆ เมื่อท่านจะละสังขาร ท่านได้สั่งเสียกับพระอาจารย์สำราญ เจ้าอาวาสวัดป่าสิริปุญญาราม ว่า "อย่าเก็บผมไว้นานนะ ถ้าผมตายให้เผาภายใน ๗ วัน อย่าทำอะไรใหญ่โตวัดเราจน ให้ทำเมรุเล็ก ๆ พอ ทำง่าย ๆ ให้ท่านนิพนธ์ (พระอาจารย์นิพนธ์ อภิปสันโน แห่งวัดป่าศาลาน้อย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย) เป็นธุระจัดการให้ ห้ามให้มีการเรี่ยไรให้ทำง่าย ๆ ก็พอ" หลวงพ่อผจญเคยออกเที่ยวธุดงค์ทั้งทางภาคใต้และ ภาคอีสาน ตลอดจนไปถึงภาคเหนืออยู่กับพวกกระเหรี่ยง พวกมูเซอ สหธรรมิตรที่ออกเที่ยวธุดงค์ด้วยในยุคนั้นมี หลวงปู่คูณ สุเมโธ, หลวงพ่อสุพจน์ ชินวโร, หลวงพ่อขันตี ญาณวโร และหลวงพ่อมงคล สิริมังคโล เป็นต้น หลวงพ่อผจญท่านเคยได้เข้ารับการอบรมศึกษาธรรมจากสำนักของพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่หลาย ๆ ที่ เช่น ที่วัดถ้ำผาปู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส , หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร ผู้สร้างวัดป่าสิริปุญญาราม , หลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกลองเพล , หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าอุดมสมพร , หลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่วัดถ้ำผาบิ้ง และหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ตามสถานที่ต่าง ๆ (เพราะหลวงปู่ชอบท่านไม่อยู่ติดที่ ออกวิเวกไปเรื่อย ๆ) เป็นต้น นายภานุ แย้มศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ที่เดินทางมาเป็นประธานรดน้ำศพกล่าวว่า เนื่องจากหลวงพ่อผจญ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติปฏิบัติชอบ สายหลวงปู่ชอบ เป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดเลย และพุทธศาสนิกชน อย่างมาก ทางจังหวัดจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบ และร่วมกันมาทำบุญอุทิศส่วนกุศล และร่วมสวดพระอภิธรรมร่วมกันทุกคืน ตั้งแต่เวลา 19.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2556 และประชุมเพลิงในวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 เวลา 13.00 น.

กรมอุทยานสัตว์ป่าฯมอบเงินเยียวยาชาวบ้าน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย รายงานว่า ที่หน่วยพิทักษ์ป่าน้ำทบ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ภูหลวง ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง และที่ อบต. ท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ทางกองอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้นายไพบูลย์ รัตนเจริญธรรม ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 8 (ขอนแก่น) มอบเงินชดเชยชาวบ้าน ที่มีที่ทำกินอยู่รอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่ถูกช้างป่าใน ภูหลวงลงมากินและทำลายผลผลิตทางการเกษตร ที่ชาวบ้านปลูกติดกับเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูหลวง นายไพบูลย์ รัตนเจริญธรรม ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับชาวบ้านที่ได้รับการเยียวยาในครั้งนี้มี 3 ตำบล คือ ตำบลทรายขาว ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง และ ตำบลท่าศาลา อำเภอเรือ จังหวัดเลย โดยมีชาวบ้านที่ได้รับเงินชดเชยช่วยเหลือในครั้งนี้จำนวน 52 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 241,450 บาท โดยมอบเป็นเช็คเงินสดในการเยียวยาให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกช้างป่าทำลายผลผลิตทางการเกษตร ที่มีพื้นที่ทำกินอยู่รอบภูหลวง ซึ่งได้รับผลกระทบเป็นประจำ และนับวันจะยิ่งรุนแรงขึ้น แม้ในปัจจุบันจะมีโครงปลูกอาหารช้าง ตามแนวพระราชดำรอของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ มีการสร้างป่าเทียม และมีการกั้นไม่ให้ช้างลงมาทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน แต่บางส่วนก็ไม่ทั่วถึง ช้างจึงลงมาทำลายเป็นประจำ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จึงได้รายงานความเสียหายไห้ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทราบ และมีการตั้งคณะกรรมร่วมพิจารณาในการช่วยเหลือ แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นการปลอบขวัญแก่ประชาชนที่ทำกินอยู่รอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง

ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุข เปิดงานมหกรรม “ปิงปองจราจรชีวิต 7 สี เพื่อลดความแออัดในกลุ่มผู้ป่วย จังหวัดศรีสะเกษ”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 56 ที่ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตตรวจราชการที่ 10 เป็นประธานเปิดมหกรรม "ปิงปองจราจรชีวิต 7 สี สู่การลดความแออัดผู้ป่วย จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยทีเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยมีนายแพทย์ ประวิ อ่ำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยตัวแทนของภาคีเครือข่ายจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ นายแพทย์ ประวิ กล่าวว่า ปัจจุบันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดความพิการและตายก่อนวัยอันควร มีสาเหตุจากปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัย ที่เกิดจากพฤติกรรม วิถีชีวิตสิ่งแวดล้อมและพันธุกรรม ได้แก่การบริโภคอาหารที่ไม่ได้สัดส่วน การขาดการออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน และอ้วน การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เกิน ความเครียดเรื้อรัง ซึ่งมีอิทธิพลจากกระแสโลกาภิวัฒน์ ระบบทุนนิยม ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทางด้านวัตถุ ทำให้ค่านิยม วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลง นายแพทย์ ประวิ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยดำเนินการแบบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการนำปิงปองจราจรชีวิต 7 สี เข้ามาใช้ เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยมีการคัดกรองประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป นำผลการคัดกรองมาจัดกลุ่ม บอกระดับอาการป่วย เพื่อลดความแออัดอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยการกระจายสัดส่วนผู้ป่วยจากโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และในปี พ.ศ. 2556 มีการส่งต่อผู้ป่วยเบาหวานไปรับการรักษาที่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง(ศสม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ร้อยละ 50.03 และส่งต่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ร้อยละ 55.37 ตามลำดับ และการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพมีส่วนสำคัญในการป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดนโยบายให้เจาหน้าที่เป็นต้นแบบในการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน โดยได้จัดทำสวนสร้างสุข ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่และประชาชนออกกำลังกาย เพื่อความมีสุขภาพดีทั้งนี้ สำหรับการจัดมหกรรม "ปิงปองจราจร 7 สี สู่การลดความแออัด จังหวัดศรีสะเกษ” มีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดแสดงผลงานปิงปองจราจร 7 สี จากโรงพยาบาลศรีสะเกษ, เมืองจันทร์, อุทุมพรพิสัย, ห้วยทับทัน, ยางชุมน้อย,กันทรลักษ์, โนนคูณ, ศรีรัตนะ, กันทรารมย์, ไพรบึง, ราศีไศล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกระเดา, การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิตสูง(ปิงปองจราจร 7 สี) ของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จังหวัดศรีสะเกษ, เปิด "สวนสร้างสุข” สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ ติวเข้มบรรณารักษ์น้อย หวังกระตุ้นเยาวชนให้มีนิสัยรักการอ่าน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 56 ที่ห้องประชุมราชาวดี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการจัดโครงการอบรมบรรณารักษ์อาสา หรือ บรรณารักษ์น้อย รุ่นที่ 1 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ จัดขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้น และปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน รักการศึกษา มีเทคนิคในการค้นคว้า รวมทั้งมีใจรักห้องสมุด ตลอดจนมีทัศนคติที่ดีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีนายมงคล คำเพราะ กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ นำนักเรียนจากโรงเรียนที่มีศูนย์เรียนรู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนสตรีสิริเกษ โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย โรงเรียนราษีไศล โรงเรียนกำแพง โรงเรียนปรางค์กู่ โรงเรียนขุขันธ์ โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ โรงเรียนกันทรลักษ์ และโรงเรียนกันทรารมย์ จำนวน 40 คน เข้าร่วมฝึกอบรม นายมงคล กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเยาวชน เพื่อให้มีความรักในการอ่าน ตลอดจนมีความรู้ด้านประชาธิปไตย จึงได้จัดโครงการ อบรมบรรณารักษ์อาสา หรือ บรรณารักษ์น้อย รุ่นที่ 1 ขึ้น เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายและการประชาสัมพันธ์ไปยังโรงเรียนที่เป็นศูนย์เรียนรู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยการจัดโครงการฝึกอบรมในครั้งนี้ ได้มีการนำวิทยากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ และวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อมาให้ความรู้เยาวชนที่เข้าฝึกอบรม ซึ่งตนหวังว่า การจัดฝึกอบรมในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการที่เยาวชน จะได้ความรู้และทักษะในด้านการอ่านสอดแทรกความรู้ในเรื่องของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดจนมีจิตสำนึกในการ รักการอ่าน เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายบรรณารักษ์ประจำโรงเรียนเพื่อเป็นศูนย์กลาง ในการเรียนรู้การเมืองการปกครอง ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ ตลอดจนสามารถช่วยเหลือคณะครูอาจารย์ ในสถานศึกษาได้

จังหวัดศรีสะเกษ ผุดโครงการ " กบนาปลาไทยในโรงเรียน " เพื่อสนับสนุนอาหารกลางวันให้กับนักเรียน

จังหวัดศรีสะเกษ ผุดโครงการ กบนาปลาไทยในโรงเรียน เพื่อสนับสนุนอาหารกลางวันให้กับนักเรียน และเสริมสร้างประสบการณ์ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้กับเยาวชน สามารถนำไปประกอบอาชีพแบบพึ่งพาตนเอง ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 56 ที่โรงเรียนบ้านโนนสมบูรณ์ ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการเปิดโครงการกบนาปลาไทย ซึ่งศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัดศรีสะเกษ กรมประมงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์การบริหารส่วนตำบลปรือใหญ่ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ร่วมกันสนับสนุนโครงการ โดยมีเป้าหมาย มุ่งเน้นให้นักเรียนตามโรงเรียนชนบทได้รับการพัฒนาความรู้ด้านการเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำ และการเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประกอบอาชีพในอนาคต ตลอดจนผลผลิตที่ได้จากสัตว์น้ำในโครงการ สามารถนำมาประกอบอาหารกลางวันให้กับนักเรียน สร้างรายได้หมุนเวียนเพื่อพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมี นางเยาวลักษณ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 พร้อมด้วย นายปอง ปรือปรัก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปรือใหญ่ และ คณะครูอาจารย์ นักเรียน โรงเรียนบ้านโนนสมบูรณ์ และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ นางเยาวลักษณ์ กล่าวว่า โครงการกบนาปลาไทยในโรงเรียน นับเป็นแนวทางสำคัญหนึ่งที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารโปรตีน ประเภทสัตว์น้ำ เสริมสร้างให้เยาวชนมีสติปัญญา และร่างกายที่แข็งแรง โดยใช้ผลผลิตสัตว์น้ำที่จะได้ไปสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันแก่นักเรียน และเป็นศูนย์กลางเรียนรู้กิจกรรรมเกษตรกรสาขาประมงแห่งหนึ่งของชุมชน มุ่งหวังเพื่อให้โรงเรียนเป็นต้นแบบสำหรับการสอบทักษะอาชีพ และปลูกฝังพื้นฐานอาชีพ สำหรับเด็ก และประชาชนในชุมชน โดยยึดหลักการช่วยเหลือตัวเองได้อย่างยั่งยืน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สำนักงานเทศบาลตำบลปทุม เปิดศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุในชุมชน เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมและระบบการดูแลผู้สูงอายุ

วันที่ 2 สิงหาคม 2556 โดยมีนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายมนตรี กัลป์ตินันท์ นายกเทศมนตรีตำบลปทุม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชนและประชาชนทั่วไป ร่วมกันประกอบพิธีตัดลิพบิ้นเปิดแพรคลุมป้ายเปิดศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุในชุมชน ที่ สำนักงานเทศบาลตำบลปทุมหลังเก่า อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมและระบบการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการสร้างกลไกลระดับชุมชนและการคุ้มครองผู้สูงอายุ นายกเทศบาลตำบลปทุม เปิดเผยว่า การจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุมีแผนการให้บริการ 5 ภารกิจ 3 กลุ่มอายุ ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กลุ่มผู้สูงอายุที่พอจะช่วยเหลือตัวเองได้ และกลุ่มที่ 3 กลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นคอยดูแล ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ สามารถมาใช้บริการที่ศูนย์ได้ซึ่งทางเทศบาลตำบลปทุม ได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไป ยังสามารถมาใช้ประโยชน์ในการจัดกิจกรรมร่วมกันได้ ซึ่งเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลปทุมจะต้องมีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในการดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้สูงอายุ และประชาชน ได้มีความอยู่ดี กินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ มอบนโยบายการทำงานแก่ข้าราชการสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 เน้นย้ำการทำงานเป็นทีมแบบมืออาชีพ ศึกษาเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร พร้อมเป็นประธานปิดการสัมมนาสร้างความรู้ เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

วันที่ 1 สิงหาคม 2556 นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 อุบลราชธานี โดยช่วงเข้า มอบนโยบายแก่ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 ทั้ง 9 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ มุกดาหาร และนครพนม ย้ำให้ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร ที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ให้ทำงานเป็นทีมแบบมืออาชีพ ศึกษาเทคโนโลยีการสื่อสารและเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อนำมาพัฒนางาน และพัฒนาศักยภาพบุคลากร ทำงานอยู่ในระเบียบวินัย ของข้าราชการและจรรยาบรรณสื่อสารมวลชน ใช้หลักครองตน ครองคน ครองงาน มีความสามัคคี และสร้างเครือข่ายการทำงานให้เข้มแข็ง รวมทั้งให้มีความรักในองค์กร

จากนั้น ช่วงบ่าย นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เดินทางไปที่โรงแรมลายทอง อำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีปิดการสัมมนาสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและบทบาทภารกิจของกรมคุ้มครอง สิทธิและเสรีภาพให้กับสื่อมวลชนในส่วนภูมิภาค การจัดสัมมนาความนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมประชาสัมพันธ์และกรมคุ้มครอง สิทธิและเสรีภาพ เพื่อให้ความรู้แก่สื่อมวลชน เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งกรณีประชาชนถูกละเมิดสิทธิสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างทั่ว ถึงและเท่าเทียม ก่อให้เกิดความสมาฉันท์ ความสงบสุข ปรองดอง ในสังคมมากยิ่งขึ้น





จักรกฤษณ์  ลามาสาย / ภาพ
กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 
สปข.2 รายงาน / 1 ส.ค. 56 

องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี จัดกรรมสินค้าเกษตร อ.ก.ต. จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพจากทั่วประเทศ ได้มีโอกาสพบกับผู้บริโภคโดยตรง โดยเน้นผลผลิตที่มีคุณภาพ

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 เวลา 17.00 น. ที่บริเวณลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเว็ลทรัลพลาซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัน สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานพิธีเปิดมหกรรมสินค้าเกษตร อ.ก.ต.จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้ยกขบวนสินค้าเกษตรคุณภาพมากกว่า 100 ร้านค้า ถึงมือผู้บริโภคชาวจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงโดยตรง โดยเป็นศูนย์รวมสินค้าเกษตรที่คัดเกรดคุณภาพจากทั่วประเทศ และเดินสายโรดโชว์ไปตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีจัดงานระหว่างวันที่ 1 ถึง 4 สิงหาคม 2556 เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพจากทั่วประเทศ ได้มีโอกาสพบกับผู้บริโภคโดยตรง โดยเน้นผลผลิตที่มีคุณภาพจากองค์กรเกษตร และความหลากหลายของสินค้าจากเครือข่ายองค์กรเกษตร ทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่จังหวัด รวมทั้งจะเชื่อมโยงประสานการดำเนินงานกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอีกด้วย

สำหรับภายในงานได้เชิญดารานักร้องนักแสดงเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก พร้อมร่วมชมสินค้าเกษตรที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ ชมการแสดงโปงลาง แฟชั่นโชว์ และยังได้รับความรู้มากมายบนเวทีเสวนาวิชาการเกษตร โดยมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตรสมัยใหม่ การตลาดและการออกแบบผลิตภัณฑ์ พร้อมร่วมลุ้นรับของรางวัลกว่า 1,000 รายการ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อการเกษตร กล่าวว่า จากการจัดงานที่ผ่านมาได้รับกาต้อนรับที่ดีและก่อให้เกิดรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยไม่ต่ำกว่าปีละ 40 ล้านบาท นอกจากนั้นยังเป็นเวทีสำคัญที่ก่อให้เกิดการจับคู่เจรจาทางการค้าเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ ระหว่างกลุ่มเกษตรกรกับผู้ซื้อจริงโดยตรง อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพให้กับเกษตรกร สถาบันการเกษตร วิสาหกิจชุมชนและเอกชน โดยนำสินค้าที่ๆได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานส่งออก ปลอดสารพิษมาจำหน่าย รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย สามรถสร้างรายได้เพิ่ม และเพิ่มทักษะการเรียนรู้ด้านการตลาดให้เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศต่อไป

จ.สุรินทร์ย้ำโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก ให้ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ในเด็ก

นางสาวกัญญรัตน์  เกียรติสุภา เปิดเผยว่า  ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา ว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน และเป็นช่วงเปิดภาคเรียนจะมีเด็กนักเรียนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นจากการมาอยู่รวมกันได้แก่ โรคมือ เท้า ปาก ซึ่งโรคนี้มักเกิดในเด็กเล็กทั่วไป เด็กที่ติดเชื้อโรคมือเท้าปาก จะมีไข้ 1-2  วัน จากนั้นจะมีตุ่มหรือแผลในปากคล้ายแผลร้อนใน อาจมีหลายแผล ส่วนใหญ่จะพบที่บริเวณคอหอยหรือใกล้ต่อมทอนซิล หากอาการรุนแรงจะลามมาที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม ทำให้เด็กเจ็บในปากและคอ ไม่ยอมดูดนม กินอาหารไม่ได้ ส่วนใหญ่เด็กที่ป่วยอาการจะค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ  และหายได้เองภายใน 7 วัน มีจำนวนน้อยที่มีอาการรุนแรง คือมีไข้สูง อาจมีอาการชัก แขนขาอ่อนแรง    โรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ  จึงขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยดูแลลูกหลานไม่ให้ป่วย เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ง่าย โดยใช้หลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากเข้าไปในที่ชุมชนหรือใช้ห้องน้ำสาธารณะ โดยสามารถสังเกตอาการของเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ได้ คือเด็กมีไข้ปานกลางถึงไข้สูง ร่วมกับมีอาการเบื่ออาหาร กินอาหารไม่ได้ มีแผลในปาก มีตุ่มแดง ตุ่มพองขึ้นตามมือเท้า ลักษณะไม่คัน ขอให้พาไปพบแพทย์ โรคนี้รักษาได้ ส่วนใหญ่มักอาการไม่รุนแรง หายได้เองภายใน 7-10 วัน มีจำนวนน้อยมากที่จะมีโรคแทรกซ้อนในการรักษาจะใช้แบบประคับประคองบรรเทาอาการ เช่น ลดไข้ แก้ปวด ผู้ปกครองควรเช็ดตัวลดไข้เป็นระยะๆ ให้เด็กกินอาหารเหลวหรืออาหารอ่อน ย่อยง่าย รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไอศกรีม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ ให้เด็กนอนหลับพักผ่อนให้มากๆ หากเป็นเด็กอ่อนอาจต้องป้อนนมให้แทนการดูดนม เพื่อลดอาการปวดแผลภายในปาก




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ แนะโรงเรียนเฝ้าระวังไข้เลือดออก

นางสาวกัญญรัตน์  เกียรติสุภา เปิดเผยว่า  ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา ว่า  ปีนี้ประเทศไทยมีการระบาดของไข้เลือดออกอย่างรุนแรงโดยพบผู้ป่วยมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่าตัว สืบเนื่องจากภาวะโลกร้อนและมีฝนตกเป็นระยะๆ มาตั้งแต่ต้นปี ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำไข้เลือดออก โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและยังไม่มียารักษาเฉพาะ การป้องกันจึงมีความสำคัญโดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญมากที่สุด อาการที่สำคัญของไข้เลือดออก คือ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงลอยติดต่อกันหลายวัน หน้าแดง ทานยาลดไข้แล้วไข้ก็ยังไม่ลด  ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก บางรายมีจุดเลือดออกตามแขนขา และเมื่อไข้ลดมีอาการซึม เบื่ออาหาร

สำหรับแนวทางปฏิบัติของโรงเรียน คือ ต้องให้ความรู้เรื่องไข้เลือดออกหน้าเสาธงทุกสัปดาห์ช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม    ในทุกเช้าให้คัดกรองเด็กที่มีไข้สูงติดต่อกัน 2 วัน ให้ทานยาลดไข้พาราเซตามอนและส่งพบแพทย์  ให้นักเรียนทำกิจกรรมทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในโรงเรียนและที่บ้านทุกสัปดาห์ตลอดเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เน้นกิจกรรม 5 ป 1 ข ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้านทุกสัปดาห์ จัดบริเวณโรงเรียนให้โล่ง มีแสงสว่างเพียงพอ หมั่นสำรวจอย่าให้มียุงภายในโรงเรียน   และอาจแนะนำให้นักเรียนใช้ยาทากันยุง หรือใช้ตะไคร้หอมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ถุงผ้าวางไว้ตามมุมอับชื้น    หากมีเด็กป่วยเป็นไข้เลือดออกในห้องเรียน   ควรใช้สเปรย์กระป๋องพ่นในห้องภายใน 24 ชั่วโมง   และปิดอบห้อง 30 นาที และควรประสาน อบต. หรือเทศบาล ขอความร่วมมือมาพ่นหมอกคลังป้องกันยุงภายในบริเวณโรงเรียน





สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ แจ้งเตือนฝนตกหนัก ในช่วงนี้

นายวิเชียร  จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า  ช่วงวันที่ 5-7  สิงหาคม  2556  จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ  40-60  ของพื้นที่  ส่วนในช่วง  2-4  สิงหาคม  2556  มีฝนฟ้าคะนองกระจายเกือบทั่วไปร้อยละ  60-80  ของพื้นที่  และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง  จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก  ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเกษตรกร   บ้านเรือน   โรงเรือน และพืชผลทางการเกษตร และให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในช่วงนี้   นอกจากนี้ขอให้ระมัดระวังการใช้เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ เครื่องประดับ อย่าอยู่กลางที่โล่งแจ้งในขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากฟ้าผ่าได้ พร้อมทั้งขอให้เตรียมเสื้อกันฝนหรือร่มไว้ด้วย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนขอให้ตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง โดยเฉพาะระบบเบรก ต้องสามารถหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย ยางรถยนต์ ต้องสามารถรีดน้ำและยึดเกาะถนนได้ดี พร้อมเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ ไม่ขับรถเร็ว ไม่เปลี่ยนช่องทางหรือหยุดรถกะทันหัน ใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด กรณีฝนตกหนักจนทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ไม่ควรจอดรถพักใกล้ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการโค่นล้มทับ และเพื่อความปลอดภัยให้จอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

สำนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ ติวเข้ม ผู้อำนวยการ / นายทะเบียน หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น ทุกอำเภอ เพื่อเตรียมความพร้อม สร้างความเข้าใจ สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น กรณีครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2556

วันที่ 1 ส.ค. 2556 ที่โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายวรเชษฐ สุขแสวง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฎิบัติการ หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่นเพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำปี 2556” เพื่อเตรียมความพร้อม สร้างความเข้าใจ สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น กรณีครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2556 และสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการสรรหาและแต่งตั้งตลอดจนการอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง แก่หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่นในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองคืกรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบถึงปัญหาข้อบกพร่องในการเลือกตั้งโดยเฉพาะที่เกิดจากการปฎิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อทราบวิธีการป้องกันและแก้ปัญหา รวมทั้งการบริหารจัดการเลือกตั้ง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ประกอบด้วยนายทะเบียนอำเภอ จำนวน 17 คน หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น จำนวน 105 คน และผู้สังเกตการณ์ 6 คน

นายหิรัณย์  ชูทรงเดช หัวหน้าฝ่ายจัดการเลือกตั้งสำนักงาน กกต.สุรินทร์ กล่าวว่า หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองคืกรปกครองส่วนท้องถิ่น( ผอ.กต.ท้องถิ่น) และยังเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกต.ท้องถิ่น) มีหน้าที่สำคัญในการจัดการเลือกตั้งในทุกขั้นตอนทั้งการเตรียมบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ กำกับดูแลและดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งยังมีหน้าที่ในการรณรงค์ให้ความรู้เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และยังสร้างจิตสำนึกแก่ประชาชนอันจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรมและเป็นการเลือกตั้งที่มีคุณภาพ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายให้มีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่น อีกด้วย




iNews NBT / ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ จัดแถลงข่าวโครงการความร่วมมือด้านการสื่อสารการดำเนินงานจังหวัดดีเด่น จังหวัดสุรินทร์ 6 นี้

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์  ได้รับการคัดเลือก ให้เป็น 1 ใน 10 จังหวัดดีเด่น ในโครงการสังคมไทยร่วมกันคืนครูดีให้ศิษย์ เชิดชู ยกย่องครูสอนดี ภายใต้การดำเนินงาน ของคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกครูสอนดีและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจังหวัด พร้อมกันนี้ได้มีการจัดทำฐานข้อมูล ด้านการศึกษาเพื่อเห็นระดับความรุนแรงของปัญหาในแต่ละพื้นที่และเป็นพื้นที่นำร่องของการแก้ไขปัญหาโดยพบว่ามี เด็กจำนวน 564 คน ทั่วทั้งจังหวัดที่ยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับ ด้วยเหตุนี้จังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคม แห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ จัดแถลงข่าวโครงการ ความร่วมมือด้านการสื่อสารการดำเนินงานจังหวัดดีเด่นจังหวัดสุรินทร์ สร้างโอกาสเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลการดำเนินการของคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกครูสอนดีและลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษาจังหวัดสุรินทร์

สำหรับผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย  นายทองสุข รวยสูงเนิน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเรียนรู้จังหวัดสุรินทร์ นางวิมลมาลย์ รินไธสง ผู้อำนวยการ กศน. จังหวัดสุรินทร์ นายไกรศักดิ์ วรทัต ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ นายสุพรรณ์ ศรชัย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โดยมี นายประนนท์ ไม้หอม นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และมีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย




ศริณภาพร  จันทสุข  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

รองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ตรวจเยี่ยมและติดตามการแก้ปัญหาความยากจนแบบบูรณาการจังหวัดสุรินทร์ กองทุนแม่ของแผ่นดิน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และโครงการพัฒนาขีดความสามารถของชุมชน

วันที่ 1 ส.ค. 56 ที่โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต้อนรับนายอรรถพร สิงหวิชัย รองอิบดีกรมพัฒนาชุมชน และคณะ ในการติดตามโครงการ การบริหารจัดการครัวเรือนยากจนแบบบูรณษการ “ชี้เป้าชีวิต จัดทำเข็มทิศชีวิต บริหารจัดการชีวิต และดูแลชีวิต” จังหวัดสุรินทร์ มีผลิตภัณฑ์ 0TOP ได้ 5 ดาว จำนวน 80 ผลิตภัณฑ์ มากที่สุดในประเทศไทย(ไม่รวมกรุงเทพ) ในส่วนกองทุนแม่ของแผ่นดินตั้งแต่ปี 2547-2556 มีจำนวน 242 หมู่บ้าน/ชุมชน เงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 10,939,408 บาท กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล จำนวนเงิน 130 ล้านบาท ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 195,920 คน คิดเป็นร้อยละ 35.52% ของเป้าหมาย ได้อนุมัติเพื่อดำเนินการเป็นเงินอุกหนุน และเงินทุนหมุนเวียนแบบบูรณาการและเชื่อมโยงกับกองทุนอื่นๆเช่นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เอสเอ็มแอล SML และ OTOPในการสนับสนุนฐานข้อมูลและงบประมาณ และโครงการร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทรืกับประเทศญี่ปุ่น ดำเนินโครงการพัฒนาชนบทด้วยการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในจังหวัดสุรินทร์

นายกสิณ นวลโคกสูง พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้จังหวัดสุรินทร์ ได้ให้ความสำคัญในการดำเนินโครงการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาพอเพียงครบทุกอำเภอ เพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้และขยายผลแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนจังหวัดสุรินทร์ โดยการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาสให้แก่กลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นประชากรหลักของจังหวัดสุรินทร์ อีกด้วย จากนั้น คณะของรองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ได้ออแกติดตามการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาขีดความสามารถของชุมชน และติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ ที่บ้านปราสาท ตำบลตาอ็อง อำเภอเมือง และที่ตำบลสลักได อำเภอเมืองสุรินทร์ ตามลำดับ ต่อไป




News NBT  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ จัดแถลงข่าวโครงการความร่วมมือด้านการสื่อสารการดำเนินงานจังหวัดดีเด่น จังหวัดสุรินทร์ 6 นี้

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์  ได้รับการคัดเลือก ให้เป็น 1 ใน 10 จังหวัดดีเด่น ในโครงการสังคมไทยร่วมกันคืนครูดีให้ศิษย์ เชิดชู ยกย่องครูสอนดี ภายใต้การดำเนินงาน ของคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกครูสอนดีและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจังหวัด พร้อมกันนี้ได้มีการจัดทำฐานข้อมูล ด้านการศึกษาเพื่อเห็นระดับความรุนแรงของปัญหาในแต่ละพื้นที่และเป็นพื้นที่นำร่องของการแก้ไขปัญหาโดยพบว่ามี เด็กจำนวน 564 คน ทั่วทั้งจังหวัดที่ยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับ ด้วยเหตุนี้จังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคม แห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ จัดแถลงข่าวโครงการ ความร่วมมือด้านการสื่อสารการดำเนินงานจังหวัดดีเด่นจังหวัดสุรินทร์ สร้างโอกาสเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลการดำเนินการของคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกครูสอนดีและลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษาจังหวัดสุรินทร์

สำหรับผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย  นายทองสุข รวยสูงเนิน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเรียนรู้จังหวัดสุรินทร์ นางวิมลมาลย์ รินไธสง ผู้อำนวยการ กศน. จังหวัดสุรินทร์ นายไกรศักดิ์ วรทัต ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ นายสุพรรณ์ ศรชัย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โดยมี นายประนนท์ ไม้หอม นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน เป็นผู้ดำเนินการดำเนินการเสวนา และมีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย




ศริณภาพร  จันทสุข  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ ขอเชิญทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมโครงการ "สภากาแฟ" 15 ส.ค. นี้

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์  ได้กำหนดโครงการ “สภากาแฟ“ ประจำปี 2556 เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในการปฏิบัติงาน โดยจัดให้มีการพบปะระดมความคิดจากทุกภาคส่วนในรูปแบบการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ทุกเดือน

สำหรับเดือนสิงหาคม 2556 กำหนดจัดขึ้นใน 15 สิงหาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องรัตนสยาม โรงแรมทองธารินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ โดยมีหน่วยงานในสังกัด ศาลยุติธรรม สังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงยุติธรรมร่วมเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ จึงขอเชิญเข้าร่วมงานในวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน




ศริณภาพร  จันทสุข  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์เตรียมจัดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ

นายวันชัย  ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์  เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร ฯ ในวันที่ 8 สิงหาคม  2556 ณ บริเวณสนามกีฬาโรงเรียนบ้านสะกาด  ตำบลสะกาด  อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์  เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตการเกษตรอย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์   สอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร  ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ  หน่วยงานส่งเสริม  ร่วมกันพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน  โดยมีหน่วยงานต่างๆ ร่วมให้บริการ เช่น คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกหม่อนไหม คลินิกยางพารา คลินิกดิน คลินิกประมง คลินิกปศุสัตว์ คลินิกสายใยรักแห่งครอบครัว คลินิกกฎหมาย คลินิกบัญชี  คลินิกสหกรณ์

นอกจากนั้นยังมีคลินิกเสริมจากหน่วยงานอื่น ๆ  ได้แก่ คลินิกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และคลินิก ธ.ก.ส. โรงพยาบาลชุมชน  สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์  กิจกรรมสนับสนุนโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว  ซึ่งแบ่งกิจกรรมเป็นอาชีพเสริมสำหรับแม่  นิทรรศการเกษตรสมบูรณ์เพิ่มพูนสุขภาพแม่ลูก  กิจกรรมการประกวดอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กวัยเรียน   ประกวดโค   ประกวดกระบือ  การแข่งขันส้มตำลีลา การจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร  กลุ่มวิสาหกิจชุมชน  และภาคเอกชน




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ เตรียมอบบ้านอยู่สุข 80 พรรษาบรมราชินีนาถ 80 ปี ยูนิลีเวอร์ 2 หลัง วันที่ 22 สิงหาคม นี้

พิภพ  ดำทองสุข  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้จัดทำโครงการบ้านอยู่สุข 80 พรรษา บรมราชินีนาถ 80 ปี ยูนิลีเวอร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมถึงการแสดงความจงรักภักดีเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา แห่งองค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และเพื่อมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้หรือผู้ได้รับผลกระทบทางวิกฤติต่าง ๆ ในพื้นที่ทุกภูมิภาค 30 จังหวัด จำนวน 80 หลัง ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ 2 หลัง งบประมาณหลังละ 4 แสนบาท ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้พิจารณาคัดเลือกราษฎรผู้ได้รับความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย เข้ารับมอบบ้านอยู่สุข 80 พรรษา บรมราชินีนาถ 80 ปี ยูนิลีเวอร์ จำนวน 2 ราย คือ นางสุมณทา แก้วประเสริฐ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 148 หมู่ที่ 8 บ้านยางบ่อภิรมย์ ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี และ นางหมั่น พลโททอง อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 8 บ้านหนองไม้งาม ตำบลโนน อำเภอโนนนารายณ์

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า  ขณะนี้การก่อสร้างบ้านทั้ง 2 หลังเสร็จเรียบร้อยแล้ว   ซึ่งจะทำพิธีมอบในวันที่ 22  สิงหาคม  2556 เวลา 10.00 น.  โดยจังหวัดสุรินทร์ได้คัดเลือกบ้านของนางสุมณทา แก้วประเสริฐ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 148 หมู่ที่ 8 บ้านยางบ่อภิรมย์ ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี  เป็นสถานที่จัดพิธีมอบ จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนร่วมในพิธีมอบบ้านดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว