วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

พอ.สว.มหาสารคาม ร่วมกับคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ และจังหวัดเคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนฟรีที่อําเภอชื่นชม

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. มหาสารคาม ร่วมกับคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ และจังหวัดเคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนฟรี

ที่ตำบลหนองกุง อําเภอชื่นชม ที่โรงเรียนบ้านผือ ตำบลหนองกุง อำเภอชื่นชม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดและอำเภอ นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ออกให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคทันตกรรมให้กับประชาชนฟรี พร้อมให้ความความรู้ในการดูแล การป้องกันโรค และการส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพให้กับประชาชนในช่วงฤดูหนาว พร้อมนำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ออกให้บริการประชาชน ทั้งคลินิกดิน ปฏิรูป ประมง พืช และคลินิกสัตว์ นอกจากนี้ยังมีบริการต่างๆ จากหน่วยงานราชการในจังหวัดและอำเภอ ตามโครงการจังหวัดเคลื่อนที่เยี่ยมเยียนประชาชน ออกให้บริการประชาชนด้วย อาทิ การแจกเครื่องอุปโภคบริโภค การแจกทุนการศึกษา การแจกจ่ายอาหารกลางวัน มอบโฉนดที่ดินทำกินแก่เกษตรกร  การบริการตัดแต่งทรงผม การแจกจ่ายเอกสารความรู้ด้านต่างๆ และการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด พร้อมนี้ นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้กล่าวฝากเตือนประชาชนที่มารอรับบริการ ขอให้ระมัดระวังในเรื่องสุขภาพร่างกาย เนื่องจากช่วงนี้ย่างเข้าสู่ฤดูหนาวอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจจะป่วยไข้ได้ง่าย และขอให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดให้ห่างไกลจากยาเสพติดทุกชนิด

สำหรับตำบลหนองกุง อำเภอชื่นชม แบ่งการปกครองออกเป็น 10 หมู่บ้าน ประชากร 4,141 คน 1,039 ครัวเรือน อยู่ห่างจากจังหวัดมหาสารคาม ประมาณ 56 กิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรกรรม ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านความแห้งแล้ง ขาดน้ำเพื่อการเกษตร และเป็นพื้นที่ที่ไม่มีระบบชลประทาน ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

คณะทำงาน PMQA สป.มท.ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน จ.มหาสารคาม

คณะทำงานสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อนิเทศติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMAQ) หลังพบว่าจังหวัดมหาสารคาม เป็น 1 ใน 28 จังหวัด ที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจรับรองคุณภาพ การบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน (Certified Fundamental Level : Certified FL)

(20-11-56) ที่ห้องประชุม 409 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม คณะทำงานสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มานิเทศติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMAQ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ของจังหวัดมหาสารคาม หลังจากที่จังหวัดมหาสารคาม เป็น 1 ใน 28 จังหวัด ที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจรับรองคุณภาพ การบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน (Certified Fundamental Level : Certified FL) โดยเฉพาะใน 2 หมวดหลัก ได้แก่ หมวด 2 การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ และหมวด 6 การจัดการกระบวนการ ที่มีค่าคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ร้อยละ 80

นายเสนอ พิศเพ็ง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMAQ) จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นยุทธวิธีหนึ่งที่จะทำให้หน่วยงานและจังหวัดได้มีการบริหารจัดการองค์กรได้เป็นอย่างดี จังหวัดมหาสารคาม จึงได้ให้ความสำคัญและถือเป็นนโยบายที่จะต้องผ่านเกณฑ์ระดับพื้นฐานให้ได้ภายในปี 2557 ซึ่งในการมานิเทศติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMAQ) ของคณะทำงานฯดังกล่าว จะเป็นประโยชน์อย่างมากที่คณะทำงานฯระดับจังหวัดจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพการทำงานของข้าราชการในจังหวัดมหาสารคาม ให้สามารถดำเนินการตามเกณฑ์ PMQA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งไปสู่องค์กรแห่งคุณภาพ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ปลัดจังหวัดมหาสารคามคนใหม่ย้ำแนวทางแก้ปัญหายาเสพติดเน้นที่สถานศึกษา ควบคู่บำบัดฟื้นฟู

ปลัดจังหวัดมหาสารคามคนใหม่ย้ำ สถานศึกษาต้องมีการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาผู้เสพผู้ติดยาให้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยให้ รพ.สต.ติดตามพฤติกรรมควบคู่ไปด้วย

(20-11-56) ในการประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม หรือการประชุมโต๊ะข่าวยาเสพติด ที่มีนายเมธี สุพรรณฝ่าย ปลัดจังหวัดมหาสารคามคนใหม่ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้มีการนำเสนอยุทธศาสตร์การดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในปีงบประมาณ 2557 โดยเน้นการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ผู้เสพ ผู้ติดยา เพื่อนำเข้าสู่ปกระบวนการบำบัดรักษา ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกำหนดกระบวนการในการติดตามผู้เสพ ผู้ติดยาที่ผ่านกระบวนการบำบัดรักษา ในปีงบประมาณ 2556 เพื่อนำคนดีกลับสู่สังคม

ปลัดจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดมหาสารคาม นั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการติดตาม โดยเฉพาะการติดตามผู้เสพ ผู้ติดยาที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา อาจจัดทำเป็นสมุดคู่มือประจำตัวของผู้บำบัด และให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. เข้ามาร่วมติดตามในการตรวจสุขภาพ สังเกตพฤติกรรมควบคู่ไปด้วย พร้อมเน้นในสถานศึกษาที่จะต้องมีการคัดกรองเพื่อค้นหาผู้เสพผู้ติดยา จะต้อง

ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2557 จะยังใช้ยุทธศาสตร์ 7 แผนงานหลัก 3 ลด 3 เพิ่ม 3 เน้น คือลดปัจจัยปัญหายาเสพติดทั้งผู้ค้า ผู้เสพ เยาวชนกลุ่มเสี่ยง/ปัจจัยเสี่ยง 3 เพิ่ม คือ การเพิ่มระดับปฏิบัติการของกลไกที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลไกปกครองส่วนท้องถิ่น ช่องทางสาธารณะในการร่วมเฝ้าระวังปัญหา และ 3 เน้น คือ การปฏิบัติโดยเน้นหนักต่อกลุ่มเป้าหมายที่เกินกว่าระดับปกติ ได้แก่ พื้นที่ กทม./ปริมณฑล พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่นำเข้ายาเสพติด และพื้นที่ที่มีปัญหาซ้ำซาก



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ภาคเอกชนฯ ผนึกกำลังภาคราชการ มอบผ้าห่มกันหนาวกว่า 15,000 ผืนให้ราษฎรจังหวัดมหาสารคาม

วันนี้ ( 20 พ.ย. 56) ที่หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและตัวแทนจากภาคเอกชนโดยบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนมอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 15,000 ผืนพร้อมร่วมกันแจกผ้าห่มกันหนาวตามโครงการไทยเบฟร่วมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 14 จำนวน 1,000 ผืนให้แก่ราษฎรอำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม

นายวัลลภ เฉยชิด ผู้จัดการอีเวนต์ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทางบริษัทได้มีความห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยหนาวและมีความตั้งใจให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และต่อเนื่อง โดยการส่งต่อความสุขให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยหนาวทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางจังหวัดด้วย

ซึ่งเช้าวันเดียวกันบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มแจกผ้าห่มกันหนาวจุดแรกที่หอประชุม อำเภอกันทรวิชัย โดยนายอดุล จันทนปุ่ม รองผ้าว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นผู้รับมอบและแจกจ่ายให้กับประชาชนเป็นจำนวนกว่า 700 ผืนการมอบผ้าห่มกันหนาวภายใต้โครงการ ไทยเบฟร่วมใจต้านภัยหนาว ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ 14 แล้ว รวมผ้าห่มกันหนาวที่มอบไปแล้ว 2 ล้าน 8 แสน ผืน รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

โดยโครงการไทเบฟฯ รวมใจต้านภัยหนาว ได้เริ่มขึ้นในปี 2543 จากเจตนารมของ นาย เจริญ และ คุณหญิง วรรณา สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชนที่เห็นว่าทุกๆปี ยังมีพี่น้องประชาชนชาวไทยในถิ่นทุรกันดารอีกจำนวนมากที่ต้องประสบภัยหนาว พร้อมประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ในการคัดเลือกจังหวัดและพื้นที่เป้าหมายเพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ผู้ประสบภัยหนาวโดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ศพส.จ.มหาสารคาม ประชุมหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่11/2556

(20-11-56) ในการประชุมเพื่อหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม หรือการประชุมโต๊ะข่าว ครั้งที่ 11 ประจำปีงบประมาณ 2556 มีเมธี สุพรรณฝ่าย ปลัดจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม สถานการณ์การค้า จังหวัดมหาสารคามเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่หลายจังหวัดมีแนวเขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ จึงเป็นช่องทางลำเลียงนำเข้าของยาเสพติดชนิด ยาบ้า ไอซ์ และ กัญชา

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาด เนื่องจากจังหวัดมหาสารคามไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติด และยังไม่พบกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในลักษณะเครือข่าย เป็นพื้นที่ที่ผู้ขายยาเสพติดใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด และยังไม่พบกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในลักษณะเครือข่าย เป็นพื้นที่ที่ผู้ค้ายาเสพติดใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดไปยังภาคอื่น และบางส่วนนำมาจำหน่ายในพื้นที่ กับยังมีนักค้าในและนอกพื้นที่ กลุ่มผู้เสพ ผู้ติด นำนาเสพติดจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และจังหวัดที่มีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อุบลราชธานี มุกดาหาร หนองคาย นครพนม สกลนคร เข้ามาจำหน่ายในพื้นที่

พื้นที่เฝ้าระวัง ผู้ค้า ผู้เสพ ได้แก่พื้นที่อำเภอเมือง , โกสุมพิสัย , บรบือ , กันทรวิชัย , เชียงยืน , พยัคฆภูมิพิสัย , นาเชือก , นาดูน , ชื่นชม เนื่องจากสถานการณ์ยาเสพติดคงอยู่สภาวะที่ต้องเพ่งเล็งและเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในชุมชนเมือง หอพัก สถานบันเทิง สถานบริการ ในเขตพื้นที่ สำหรับ ผู้เสพผู้ติดยาเสพติดมักกระทำผิดในสถานที่ส่วนตัว เช่น หอพัก บ้านเช่า ที่พัก จากสถิติการจับกุมที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะยาบ้าบ่งชี้ว่ามีราคาถูกลง และจำนวนผู้ค้า/ผู้เสพ เพิ่มขึ้น จึงต้องเร่งรัดสืบสวนขยายผลการจับกุมตามพื้นที่ดังกล่าว




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ป.ป.ช.มหาสารคาม พร้อมจัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัคร ป.ป.จ. 25 พ.ย. นี้

สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมหาสารคาม พร้อมจัดเวทีให้ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม ทั้ง 29 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน นี้ โดยมี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม และ สวท.มหาสารคาม ร่วมบันทึกเทปและถ่ายทอดเสียง

นายประทีป จูฑะศร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมหาสารคาม (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้ดำเนินการสรรหาผู้สมัครเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมหาสารคาม (ป.ป.จ.) โดยสำนักงานป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม เปิดรับสมัครผู้มีคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม- 5 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา บัดนี้ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สมัครดังกล่าวแล้ว โดยจังหวัดมหาสารคาม มีผู้มาสมัครรวมทั้งสิ้น 29 คน และในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2556 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม กำหนดให้ผู้สมัครทั้ง 29 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์ พร้อมเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมรับฟัง เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม

ซึ่งในการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการ ป.ป.จ.มหาสารคาม ครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้ขอความร่วมมือสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม บันทึกเทปโทรทัศน์การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณา พร้อมจัดให้มีการถ่ายทอดเสียงผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดมหาสารคาม ระบบ เอฟ เอ็ม ความถี่ 106.50 MHz. ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. เพื่อให้ประชาชนทางบ้านได้ติดตามรับฟัง อีกช่องทางหนึ่งด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

แถลงข่าวการจัดแข่งขัน มมส.-มหาสารคาม มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน เฉลิมพระเกียรติ 86 พรรษา

จังหวัดมหาสารคามร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แถลงข่าวเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขัน มมส – มหาสารคาม มินิ – ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 8 ประจำปี 2556 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2556 ณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (เขตพื้นที่ในเมือง)

ที่ห้องประชุมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม รศ.ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคามศาสตราจารย์ นพ.อนุวัตติ์ ลิ้มสุวรรณ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยมหาสารคามและคณะกรรมการดำเนินการจัดการแข่งขัน มหกรรมเดิน วิ่งการกุศล มมส-มหาสารคาม มินิ-ฮาล์ฟ มาราธอน” ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ 86 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 5 ธันวามหาราช เพื่อแสดงความพร้อมในการจัดงานดังกล่าว

รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากเป็นการเฉลิมพระเกียรติ 86 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 5 ธันวา มหาราช และยังเป็นการจัดหารายได้เพื่อสมทบทุนในการจัดหาเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเป็นการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำหนดแข่งขัน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยมีจุดเริ่มต้นและเส้นชัย อยู่ที่บริเวณด้านหน้าอาคารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ในเมือง

ด้านรองศาสตราจารย์สุรชา อมรพันธุ์ ฝ่ายเทคนิคการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า สำหรับประเภทการแข่งขันแบ่งเป็น ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร ค่าสมัคร 250 บาท ชนะเลิศ (OVERALL) เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทานฯ มินิมาราธอน ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร ค่าสมัคร 100และ 200 บาท ชนะเลิศ (OVERALL ) เงินรางวัล 7,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทานฯ และ เดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพ ระยะทาง 5.7 กม. นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือต้องการสมัคร-บริจาคเพื่อการกุศล คนละ 100 และ 200 บาท และประเภท VIP ค่าสมัคร 500 บาท สามารถลงแข่งขันได้ทุกรายการและ จะได้รับเสื้อพร้อมเหรียญรางวัล ทั้งนี้ ผู้เสียค่าใช้จ่ายในการสมัครในแต่ละประเภทจะได้รับเสื้อสำหรับลงแข่งขันด้วย

ผู้สนใจสมัครและติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานกีฬาและนันทนาการ กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) โทรศัพท์ 043-754388



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดหน่วยออกบริการประชาชนตามโครงการ“จังหวัดกาฬสินธุ์ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน”

นายเกษม ชาวอ่างทอง นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ จะจัดหน่วยออกร่วมให้บริการประชาชนร่มกับจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามโครงการ "จังหวัดกาฬสินธุ์ บำบัดทุกข์  บำรุงสุข  สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” โดยมีกำหนดออกให้บริการในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2556 ณ โรงเรียนบ้านม่วงวิทยายน บ้านม่วงเหนือ หมู่ 2 ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์

ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ จะเปิดรับต่อภาษีรถเก๋ง รถตู้ รถปิกอัพ และรถจักยานยนต์ โดยแนบหลักฐานคือสมุดคู่มือจดทะเบียนรถหรือภาพถ่ายฯ หลักฐานประกันภัย และใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (เฉพาะรถยนต์ที่ใช้งานมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป และรถจักยานยนต์ที่ใช้งานมาแล้วตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการแนะนำการดำเนินการดำเนินการทางทะเบียนรถยนต์อีกด้วย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวตำบลม่วงนาและตำบลใกล้เคียงมาใช้บริการในครั้งนี้ได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป



ละออ อุ่นสา นศ.ฝึกงาน / ข่าว

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ นำพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรถนนสายบุญ

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตักบาตรถนนสายบุญ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2556 เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญ และประพฤติตนเป็นคนดี คิดดี ทำดี ตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 18 กันยายน 2556 นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นาย สุรพจน์ รัชชุศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญตักบาตรถนนสายบุญ ถนนภิรมย์ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร ถึงวงเวียนน้ำพุหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จัดขึ้นทุกวันพุธที่ 1 และ 3 ของเดือน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญตักบาตร สืบทอดทางพระพุทธศาสนา รู้จักการให้ทานที่เป็นบุญอันยิ่งใหญ่

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการถนนสายบุญ นับเป็นถนนสายธรรมที่เปิดโอกาสให้ประชาชน พุทธศาสนิกชน ได้ทำบุญร่วมกัน ส่งเสริมให้ประชาชนได้นำเอาหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปเป็นข้อปฏิบัติในการดำรงชีวิตให้มีความสุขต่อไป ซึ่งสิ่งของจากการทำบุญตักบาตรส่วนหนึ่งจะนำไปมอบให้กับพระสงฆ์ในวัดต่าง ๆ และอีกส่วนหนึ่งนำไปมอบให้กับประชาชนที่อยู่ในชุมชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์เพื่อแบ่งปันความสุขให้กับชาวกาฬสินธุ์ด้วยกัน



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ขอนแก่นมีสาวงามส่งเข้าประกวดนางงามไหมปี 56 แล้ว 10 รายรับสมัครถึง 25 พย 56 นี้

ในวันนี้ (20 พ.ย. 2556) เวลา 15.00 น. ณ ห้องเสียงแคน ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นนายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุม คณะกรรมการจัดการประ กวดนางงามไหมขอนแก่นตามที่จังหวัดขอนแก่นได้มีการจัดประกวดนางงามไหมขอนแก่น ในงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด จังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๖ กำหนดการประกวดรอบปฐมนิเทศ (ภาคกลางวัน) ในวันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น และรอบตัดสิน (ภาคกลางคืน) และงานพาแลง ในวันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่เวทีกลางงานเทศกาลไหม สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น กิจกรรม PR /MISS Popular vote ทางเว็ปไซด์ขอนแก่นลิงค์ ระหว่างวันที่ 3- 7 ธันวาคม 2556 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 180,000 บาท ชนะเลิศ 70,000 40,000 30,000 ตามลำดับขวัญใจประชาชน 20,000 บาท ขวัญใจสื่อมวลชน 10,000 บาท ชุดสวยงาม 2 รางวัล 10,000 บาท คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าประกวด จะต้องเป็นเพศหญิง มีสัญชาติไทย อายุระหว่าง ๑๗ - ๒๕ ปีบริบูรณ์ (แต่ไม่ถึง ๒๖ ปีในวันประกวด) โดยกรณีมีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า ๑๖๐ เซนติเมตร วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่า และต้องมีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ประจำและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดขอนแก่นติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับถึงวันประกวด กรณีผู้สมัครเป็นผู้ที่ไม่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น แต่มีความประสงค์จะสมัครเข้าประกวดจะต้องเป็นผู้เกิดในจังหวัดขอนแก่น มีบิดาหรือมารดามีภูมิลำเนาและมีชื่อในทะเบียนในจังหวัดขอนแก่นติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับถึงวันประกวด (โดยนำหลักฐาน สำเนาทะเบียนบ้านของบิดา หรือ มารดา มาแสดงในวันสมัครด้วย) เป็นนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันของจังหวัดขอนแก่นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานอยู่ในจังหวัดขอนแก่น (โดยมีหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือเป็นผู้ปฏิบัติงานหรือบุคลากรในสังกัดสถาบันการศึกษาที่กำลังศึกษาหรือ จากหน่วยงานที่ปฏิบัติงานอยู่ แล้วแต่กรณีมาแสดงด้วย) ผู้สนใจสมัครเข้าประกวด ต้องยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานประกอบการสมัครด้วยตนเอง ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดขอนแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ชั้น ๔ ตั้งแต่บัดนี้ถึง วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐- ๑๖.๐๐ น ไม่เว้นวันหยุดราชการ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซด์ของจังหวัดขอนแก่น (http:/www.khonkaenpoc.com) หรือ เว็บไซด์ของที่ทำการปกครองจังหวัดขอนแก่น (www.khonkaenonestop.org) หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดขอนแก่น หรือโทรศัพท์หมายเลข ๐-๔๓๒๓-๖๕๐๗ และ ๐-๔๒๒๓-๖๑๔๘



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นออกอากาศรายการผู้ว่าพบประชาชนเน้นประชาสัมพันธ์งานไหมนานาชาติ มีบูธขายผลิตภัณฑ์ทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 70 บูธ

วันนี้ (20 พ.ย. 56 ) ที่ สวท.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นออกอากาศสดรายการผู้ว่าพบประชาชน เวลา 06.00-07.00 น เรื่อง การจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด ปี 2556 ในงานมีการจำหน่ายสินค้าผ้าไหม 6 ชาติ สมาชิก GMS ณ โดมติดแอร์ในบริเวณศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ประเทศกัมพูชา จากพนมเปญและเสียมเรียบจำนวน 4 ราย4 บูธ ส.ปปลาว จากนครเวียงจันทน์จำนวน 5 ราย 5 บูธ ประเทศจีนจากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงและเมืองหนานหนิง มณฑลกวางสี จำนวน 6 ราย 9 บูธ ประเทศเวียดนามจำนวน 10 รายประเทศพม่า จากเมืองมัณฑะเลย์และกรุงย่างกุ้ง จำนวน 3 รายซึ่งจะมีล่ามประจำบูธจำหน่ายสินค้าแต่ละประเภท แฃะไหมจากจังหวัดขอนแก่น จำนวน 10 บูธ ต่างจังหวัด 50 บูธ มาเที่ยวงานยังได้ชมนิทรรศการหม่อนไหม ของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ(ขอนแก่น) เน้นให้คนที่มาเที่ยวงานไหมตักธารากาชาดบัตร 20 บาท ปีนี้ได้รับบริจาคเป็นเงิน 1,999,599 บาท รถจักรยานยนต์ 24 คัน จักยาน 210 คัน พัดลม 356 เครื่อง ตู้เย็น 31 เครื่อง หม้อหุงข้าวไฟฟ้า 87 ใบ เตารีดและอื่นๆ มากมาย งานระหว่างวันที่ 29 พย.2556- 10 ธันวารม 2556 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

จังหวัดขอนแก่นร่วมบันทึกเทปถวายพระพรวันพ่อแห่งชาติ

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยนางนิภา  สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นนำหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดขอนแก่นร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2556 ซึ่งทำการบันทึกเทปโทรทัศน์ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น ถนนมิตรภาพ อำเภอเมืองขอนแก่น

กรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับเหยื่ออาชญากรรม

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 พ.ย. 2556 ที่ศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ศปก.ภ.4) จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับเหยื่ออาชญากรรม ตาม พรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 รวม 2 รายๆละ 100,000 บาท ประกอบด้วยครอบครัวของนายพิพัฒน์ กลางประพันธ์ อายุ 48 ปี พนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานภูผาเทิบ ซึ่งเสียชีวิตจากการยิงปะทะกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาและครอบครัวของ น.ส.มณฑกานต์ สุระพล อายุ 17 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากกระสุนปืนเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ท่ามกลางความโศกเศร้าของคนในครอบครัวผู้สูญเสียที่มารอรับการช่วยเหลือดังกล่าว พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพ กล่าวว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือและเยียวยาให้กับเหยื่ออาชญากรรม ตาม พรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนสำหรับผู้ที่เสียหายสามารถขอรับการช่วยเหลือดังกล่าวจาก กรมฯได้ ประกอบด้วยกรณีที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมถูกยิง ถูกแทง ถูกฆ่า ถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกข่มขืนซึ่งผู้เสียหายไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด โดยจะต้องยื่นคำขอภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่รู้ถึงการกระทำความผิด ซึ่งจากการตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือในปีงบประมาณ2556 พบว่ามีผู้เสียหายยื่นขอรับการช่วยเหลือมากกว่า 10,000 ราย และ กรมฯมีการจ่ายเงินไปแล้วรวมกว่า 275,000,000 บาท

ชาวนาชัยภูมิ เร่งตากข้าวก่อนนำไปจำนำกับรัฐบาล

ชาวนาในจังหวัดชัยภูมิ เร่งตากข้าว ก่อนนำไปเข้าโครงการรับจำนำกับรัฐบาล ใช้พื้นว่างทุกที่เท่าที่หาได้เป็นลานตาก โดยเฉพาะตามท้องถนน ขณะที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) อนุมัติให้โรงสี เปิดจุดรับจำนำข้าวนาปี ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพิ่มอีก 3 แห่ง เริ่มรับจำนำ 21 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป

ที่บริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้าน บ้านซาด ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีนาข้าวบางส่วนรอดจากน้ำท่วม หลังข้าวแก่ชาวนาได้เร่งเก็บเกี่ยว และนำมาผึ่งแดด ไล่ความชื้น ทำให้ท้องถนนทางเข้าหมู่บ้าน และภายในหมู่บ้าน เต็มไปด้วยข้าว บางที่รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ทั้งนี้ทุกคนได้ผลัดกันนำข้าวมาตาก เพื่อรีบให้ทันกับโครงการรับจำนำของรัฐบาล

ขณะที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) อนุมัติให้โรงสีนอกพื้นที่ คือ หจก.รวมทรัพย์ถาวร สาขา 1 จ.สุพรรณบุรี เปิดจุดรับจำนำในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิแล้ว 3 แห่ง เกษตรกรสามารถนำข้าวเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.00น. – 18.00น. โดยจุดรับจำนำทั้ง 3 แห่งดังกล่าวประกอบด้วย 1. ท่าข้าว บจก.วานนท์ธัญญกิจ ต.บ้านเล่า อ.เมืองชัยภูมิ 2. ท่าข้าวเกษการเกษตร ต.โอโล อ.ภูเขียว และท่าข้าวรำไพพืชผล ต.สระโพนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ ได้เปิดจุดรับจำนำไปแล้ว 1 แห่ง คือ หจก.รุ่งเรืองพืชผล ต.ละหาน อ.จัตุรัส ซึ่งเป็น โรงสีในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีนโยบายยกระดับรายได้ของเกษตรกรชาวนา ผ่านโครงการรับจำนำข้าว กาดำเนินการทุกขั้นตอน จึงมุ่งเน้นประโยชน์แก่เกษตรกรสูงสุด หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับจำข้าวของรัฐบาล ติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-4483-0702, 0-4481-6928 หรือ 08-9280-2498 ทุกวันในเวลาราชการ กรณีเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วน 1569



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล //ข่าว

อคส.อนุมัติเปิดจุดรับจำนำข้าว เพิ่มอีก 3 จุด เกษตรกรมาใช้บริการได้ 21 พฤศจิกายนนี้

องค์การคลังสินค้า (อคส.) อนุมัติให้โรงสี เปิดจุดรับจำนำข้าวนาปี ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพิ่มอีก 3 แห่ง เริ่มรับจำนำ 21 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป

นางสาวปณิดา เอกผดุงพงศ์ การค้าภายในจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการ ติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด แจ้งกับประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิถึงความเคลื่อนไหว ของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีกาลผลิต 2556/57 ว่า ขณะนี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) อนุมัติให้โรงสีนอกพื้นที่ คือ หจก.รวมทรัพย์ถาวร สาขา 1 จ.สุพรรณบุรี เปิดจุดรับจำนำในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิแล้ว 3 แห่ง เกษตรกรสามารถนำข้าวเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.00น. – 18.00น.


โดยจุดรับจำนำทั้ง 3 แห่งดังกล่าวประกอบด้วย

1. ท่าข้าว บจก.วานนท์ธัญญกิจ ต.บ้านเล่า อ.เมืองชัยภูมิ

2. ท่าข้าวเกษการเกษตร ต.โอโล อ.ภูเขียว และท่าข้าวรำไพพืชผล ต.สระโพนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์

ก่อนหน้านี้ ได้เปิดจุดรับจำนำไปแล้ว 1 แห่ง คือ หจก.รุ่งเรืองพืชผล ต.ละหาน อ.จัตุรัส ซึ่งเป็น โรงสีในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีนโยบายยกระดับรายได้ของเกษตรกรชาวนา ผ่านโครงการรับจำนำข้าว กาดำเนินการทุกขั้นตอน จึงมุ่งเน้นประโยชน์แก่เกษตรกรสูงสุด หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับจำข้าวของรัฐบาล ติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-4483-0702, 0-4481-6928 หรือ 08-9280-2498 ทุกวันในเวลาราชการ กรณีเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วน 1569




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล //ข่าว

อบจ.โคราช เฟ้นหาผู้ประกอบการกว่า 75 ราย ยกขบวนสินค้าโอทอปและของดีเมืองโคราช สู่ กทม ในงาน ของดีเมืองโคราช @กทม. ครั้งที่ 2 ตั้งเป้า 5 วัน ทะลุ 7 ล้าน

วันนี้ (20 พ.ย. 56) ที่ห้องประชุมร้านอาหาร De Park ถนนสืบศิริ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายประภาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และนายนัฎฐชัยฐ์ ธนกกนนทณ์ ส.อบจ.อ.เมืองนครราชสีมา เขต 6 ร่วมกันแถลงข่าว การจัดงาน ของดีเมืองโคราช@กทม ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่27 พย – 1 ธค 2556 ณ ศูนย์การค้า เจ เจ มอลล์ กรุงเทพมหานคร สำหรับงานดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโอทอปมีช่องทางการจำหน่ายและขยายตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของโคราช และเป็นการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบในพื้นที่ ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และผักปลอดสารพิษ หากแปรรูปเพื่อการส่งออกได้จะเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น และเมื่อประสบความสำเร็จในการเปิดตลาดที่กรุงเทพฯ แล้วจะต่อยอดขยายไปสู่ตลาดอาเซียน และตลาดระดับสากล เพื่อตอกย้ำการเป็นครัวโลกของโคราชและประเทศไทย

ด้านร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับงานของดีเมืองโคราช@กทม. ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยตลอดระยะเวลา 5 วันของการจัดงานตั้งเป้าจะกวาดรายได้ทะลุ 7 ล้านบาท อย่างแน่นอน ซึ่งจะมีการนำผู้ประกอบการออกร้านค้าไม่น้อยกว่า 75 ราย โดยผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปออกบูทในงานนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นและเป็นไฮไลด์ ที่ได้รับความนิยมในจังหวัดนครราชสีมา เป็นสินค้าโอทอป ระดับ 4 –5ดาว ไม่ว่าจะเป็น เป็ดย่างพิมาย ไก่สายพันธุ์โคราช ข้าวเม่าอ่อนปักธงชัย ผัดหมี่โคราชใส่ปลาย่าง หมอนสุขภาพไม้ไผ่ องุ่นไร้เมล็ด พุทรานมสด แหนมเห็ด เห็ดสามรส หมูยอผสมโปรตีนไหม กาแฟพันธุ์อราบิก้า ขนมคุกกี้ที่ใช้ส่วนผสมจากใยมันสำปะหลัง ผ้าไหมหางกระจก ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมบาติก เป็นต้น

กรมปศุสัตว์ออกหน่วยสัตวแพทย์พระราชทาน จ.บึงกาฬ

กรมปศุสัตว์ ร่วมกันหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดโครงการสัตวแพทย์พระราชทาน ในพระราชดำริ สมเด็จพระนางฯ พระบรมราชินีนาถ ออกให้บริการแก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมีนายสัตวแพทย์ธนิตย์ อเนกวิทย์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานเปิดในวันพุธที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ หอประชุมเทศบาลตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

นายสัตวแพทย์ธนิตย์ อเนกวิทย์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ เป็นงานสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการบริการประชาชนชาวไทย ให้มีความอยู่ดีกินดี โดยถ้วนหน้าและเสมอภาคกัน เป็นการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจอีกทางหนึ่ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส โครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ นี้ เป็นความร่วมมือแบบบูรณาการของสัตวแพทย์ไทยและบุคลากรทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของวิชาชีพสัตวแพทย์ และวิชาชีพอื่น ๆ ต่างผนึกกำลังในการใช้เทคโนโลยี และวิทยาการอันทันสมัยของแขนงต่าง ๆ เพื่อบริการประชาชน ให้ได้ผลสำเร็จตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้า ๆ พระบรมราชินีนาถ นับเป็นความโชคดีของเกษตรกรจังหวัดบึงกาฬ ที่จะได้รับบริการจากบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีน้ำใจดีงาม ที่จะมาช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยของสัตว์ และบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องเกษตรกร

ด้านนายณรงค์ สุทธิสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่เสด็จเยี่ยมดูแล ความเป็นอยู่ของราษฎร จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามถวายงานตามรับสั่ง เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชน ทรงแนะนำการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ประชาชนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง

กรมปศุสัตว์ ในฐานะหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันดำเนินงานในโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ขึ้นมาตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๐ จนถึงปัจจุบัน รวม ๒๖ ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒๗ มีเป้าหมายในการออหน่วยให้บริการในเขตพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ

โดยคาดหวังว่าจะมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์มารับบริการประมาณ ๑,๐๐๐ ราย จำนวน โค – กระบือ ๔๐๐ ตัว และสุนัข –แมว ๑,๒๖๐ ตัว โดยมีคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา สัตวแพทย์และนักวิชาการเข้าร่วมโครงการทั้งจากส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวมทั้งสิ้น ๑๕๔ คน กำหนดระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างวันที่ ๒๐- ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ รวมเวลา ๓ วัน กิจกรรมพระราชทานครั้งนี้ ประกอบด้วย การตรวจรักษาพยาบาลสัตว์ทั้งด้านอายุรกรรม สูติกรรม ศัลยกรรม บริการทำหมัน/ฉีดยาคุมกำเนิด การกำจัดพยาธิภายในทางเดินอาหารและภายนอก การเสวนาปัญหาด้านปศุสัตว์ การให้ความรู้ แนะนำการเลี้ยง และการดูแลสัตว์ให้ถูกสุขลักษณะ เป็นต้น ปศุสัตวจังหวัดบึงกาฬกล่าว




ข่าว/ส.ปชส.บึงกาฬ

จังหวัดมุกดาหารจัดทำแผนปฏิบัติการฉุกเฉินแก้ไขปัญหาจากกระแสไฟฟ้าดับ จังหวัดมุกดาหารประจำปี พ.ศ. 2556

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เผยว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ (Black out) ในภาคใต้ 14 จังหวัด เมื่อช่วงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 ทำให้ทุกระบบต้องเป็นอัมพาต ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว บริการ ร้านอาหาร และโรงงานอุตสาหกรรม สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก

กระแสไฟฟ้า ถือว่าเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการดำรงชีพของคน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับย่อมทำให้เกิดความเสียหาย ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จังหวัดมุกดาหารมีพื้นที่ 7 อำเภอ 30 องค์การบริหารส่วนตำบล 23 เทศบาลตำบล 1เทศบาลเมือง รวม 526 หมู่บ้าน 34 ชุมชน

ทั้งนี้ เพื่อลดความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับให้เกิดน้อยที่สุด และสามารถช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว จังหวัดมุกดาหารจัดทำแผนปฏิบัติการฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาจากเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าว หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินและปัญหาจากกระแสไฟฟ้าดับ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร สามารถแจ้งเตือนภัยไปยังศูนย์อำนวยการรพิเศษจังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ 042-633101 วิทยุสื่อสารความถี่ 150.150 ตามเรียกขาน ปภ.มุกดาหาร



สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

(FAO) สำรวจข้อมูลศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียตริฯ มุกดาหาร เพื่อจัดระบบมรดกทางการเกษตรของโลก

เจ้าหน้าที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) นำโดย นายเกษม ประสุตแสงจันทร์ และ Dr.ParvizKoohatkan ลงสำรวจข้อมูลทั่วไปในพื้นที่ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อจัดระบบมรดกทางการเกษตรของโลก ประกอบการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งอนุรักษ์และจัดระบบมรดกทางการเกษตรของโลก ณ อาคารศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภู ตำบลบ้านเป้า อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหารทั้งนี้จะลงสำรวจเก็บข้อมูลกลุ่มผลิตผ้าไหมดั้งเดิมบ้านหนองสูง ศูนย์เรียนรู้บ้านภู และแปรงเศรษฐกิจพอเพียงบ้านเป้าด้วย

ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรท้องถิ่น  โดยการปกป้องความหลากหลายทางการเกษตร ภูมิทัศน์ ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมท้องถิ่น การประชุมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากชาวบ้านหนองสูง กลุ่มผลิตผ้าไหมดั้งเดิมบ้านหนองสูง สมาชิกศูนย์เรียนรู้บ้านภู และสื่อมวลชนในจังหวัดมุกดาหาร



พิพัฒน์ เพชรสังหาร/ไอลดา สุทธิประภา/ส.ปชส.มห/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/เนตรนภาไยสาร/ส.ปชส.มห/ขภาพ

เหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหารกำหนดจัดงาน วันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ประจำปี ๒๕๕๗

นางสุธิดา บุญประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า เหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหารกำหนดจัดงาน วันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ประจำปี ๒๕๕๗ ในวันอังคารที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร วัตถุประสงค์หลัก คือการขอรับการสนับสนุน การบริจาคเงินและสิ่งของจากส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรการกุศลผู้มีจิตกุศลทั่วไป เพื่อเป็นสิ่งของรางวัลสนับสนุนออกร้านนาวาการชาด ในงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ ในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย สงเคราะห์ผู้ขาดแคลนไร้ที่พึ่ง ผู้ด้อยโอกาส รวมถึงงานสาธารณกุศลอื่นๆ

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหารขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป ผู้จิตกุศลร่วมบริจาคทรัพย์สิ่งของเพื่อสนับสนุนกิจการของเหล่ากาชาดได้ในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ ระหว่างวันที่ ๑๐.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ ๐๔๒-๖๑๑๑๐๙




สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

เทคโนโลยียโสธรลงแขกเกี่ยวข้าว

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดยโสธร นำนักเรียน นักศึกษา สืบสานอนุรักษ์ประเพณี ลงแขกเกี่ยวข้าว ที่แปลงนาสาธิตข้าวหอมมะลิ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดยโสธร นายวัชเรนทร์ สืบสิทธิ์ ปลัดจังหวัด เป็นประธานลงแขกเกี่ยวข้าว นายสัญญา ไชยประเสริฐ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร กล่าวว่า วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดยโสธร เป็นสถานศึกษาที่จัดให้มีการเรียนการสอนด้านการเกษตร โดยมีแปลงนาสาธิตจำนวน 37 ไร่ ซึ่งได้ปลูกข้าวหอมมะลิ พันธุ์ที่ดีที่สุดของจังหวัดยโสธร พอถึงฤดูการเก็บเกี่ยว วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ได้จัดให้มีกิจกกรมลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อสืบสานประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าวให้คงอยู่ และเพื่อให้คณะครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ได้ฝึกภาคปฏิบัติ ตลอดจนเป็นการสร้างความรักความสามัคคีภายในองค์กร และคนชุมชน การจัดกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว ในครั้งนี้ปรากฏว่า มี คณะครู อาจารย์ /นักเรียน นักศึกษา/ ผู้นำชุมชน/ และประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 300 คน



วรรณทอง ภูโสภา
ส ปชส.ยโสธร/ข่าว

ยโสธรตักบาตรโบราณถวายเป็นพระราชกุศล

จังหวัดยโสธรตักบาตรแบบโบราณ ที่ถนนคนเดินเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณานายก ที่บริเวณ ถนนคนเดินเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า อ.เมือง จ.ยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด นำหัวหน้าส่วนราชการ /ประชาสัมพันธ์จังหวัดพร้อมสื่อมวลชน/ ผู้นำชุมชน /ประชาชนทั่วไป ออกมาตักบาตรแบบโบราณ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณานายก โดยมีพระสงฆ์ สามเณรจำนวน 15 รูป ออกมาบิณฑบาต การตักบาตรโบราณเป็นการตักบาตรแบบดังเดิม ด้วยการปูเสื่อนั่งคุกเข่ากับพื้น แล้วยกสิ่งของที่เตรียมมาขึ้นเหนือหัว แล้ววางลงในบาตรพระสงฆ์ การตักบาตรแบบนี้เป็นประเพณีดังเดิมที่ยึดถือปฏิบัติกันมา ซึ่งเป็นประเพณีดังเดิมของชุมชนเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑฒโน) สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 ประชาชนชาวจังหวัดยโสธร มีความโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง ที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้บำเพ็ญสรรพกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ยิ่งแก่บวรพระพุทธศาสนา และการปกครองคณะสงฆ์ในสังฆมณฑล ตลอดจน พุทธศาสนิกชนชาวไทยตลอดมา ประชาชนชาวจังหวัดยโสธร จึงได้ออกมา จัดกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศลในครั้งนี้



วรรณทอง ภูโสภา
ส ปชส.ยโสธร/ภาพ/ข่าว

ยโสธรจัดงานงิ้ว

มูลนิธิรวมสามัคคีจังหวัดยโสธร จัดงานงิ้วสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยโสธร ในวันที่ 19-24 พฤศจิกายน 2556 ที่ ศาลามูลนิธิรวมสามัคคียโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน เปิด งานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยโสธร (งานงิ้ว ) ประจำปี 2556 พร้อมมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับผู้มาร่วมงาน ด้วยมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร ได้กำหนดจัดงานขึ้น ซึ่งเป็นประเพณีที่คนไทยเชื้อสายจีน ได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา เป็นการอัญเชิญเจ้า-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลงมาบวงสรวง สักการบูชา กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 - 24 พฤศจิกายน 2556 ณ ศาลามูลนิธิรวมสามัคคียโสธร ถ.นครปทุม อ.เมืองยโสธร กิจกรรมในงานประกอบด้วย การแสดงสิงโตดอกเหมย / การแสดงอุปรากรจีนชื่อดัง/ และยังมีการแสดงอีกเป็นจำนวนมาก ขอเชิญชวนทุกท่านได้เข้าร่วมงาน งิ้ว ของจังหวัดยโสธร ซึ่งจะทำให้ท่านได้บุญกุศลอันอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้



วรรณทอง ภูโสภา
ส ปชส.ยโสธร/ภาพ/ข่าว

การจัดซื้อที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดยโสธร มีความประสงค์จะจัดซื้อที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เพื่อนำมาดำเนินการจัดให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์โดยวิธีการปฏิรูปที่ดิน

ผู้มีสิทธิยื่นคำเสนอขายที่ดินต้องมีคุณสมบัติ เป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งมีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ได้แก่ โฉนดที่ดิน โฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง ตราจองที่ตราว่าได้ทำประโยชน์แล้ว, น.ส.3, น.ส.3ก และ น.ส.3ข อยู่ในเขตท้องที่ ทุกอำเภอในเขต จังหวัดยโสธร

กำหนดยื่นคำเสนอขายที่ดิน ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ถึง 28 ธันวาคม 2556 ในเวลาราชการ ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดยโสธร ถนนแจ้งสนิท ตำบลสำราญ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร โทร.045-761043



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 20 พฤศจิกายน 2556

ข้อความประชาสัมพันธ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556

ขอเชิญร่วมประดับธงชาติไทยคู่กับธง ภปร. พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมตั้งเครื่องสักการะบูชา ตามหน่วยงาน อาคาร และบ้านเรือน เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556

ขอเชิญจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล เพื่อแสดงความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556

ขอเชิญร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 เวลา 19.19 น. ส่วนกลางกรุงเทพฯ ที่บริเวณท้องสนามหลวง ส่วนภูมิภาคตามสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยดูเวลาจากส่วนกลางกรุงเทพฯ เป็นหลัก

ขอเชิญร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ในวันพุธที่ 5 ธันวาคม 2556 เวลา 16.30 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง และสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนดพร้อมกันทั่วประเทศ

ขอเชิญร่วมลงนามถวายพระพรออนไลน์ http://www.ocse.go.th/ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 20 พฤศจิกายน 2556

ขอเชิญประชาชนรับการแสดงวิสัยทัศน์ ของผู้สมัครเป็น ป.ป.จ.ยโสธร

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร ขอเชิญประชาชนและทุกภาคส่วนเข้าร่วมฟังการแสดงวิสัยทัศน์ ของผู้สมัครเป็นกรรมการ ป.ป.จ.ยโสธร

ตามที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร ได้เปิดรับสมัครกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดยโสธร โดยมีผู้สมัครทั้งสิ้น จำนวน 24 ราย ดังนี้

          1. นายบพิตร โสมณวัฒน์                 2. นายดิเรก ศรีวะโสภา
          3. นายชาญวิทย์ แสงงาม                 4. พล.ต.ต.พรชัย ตรีสุผล
          5. นายวุฒิชัย คุรุพันธ์                      6. นายสังขตะ มรรคญาณ
          7. นายณัฐนันท์ พงษ์ภูริพัฒน์           8. นายชวดล เพ็ญชรี
          9. นายชัยฤกษ์ ช่วงกรุด                 10. นายนิพัทธ์เดช ไชยช่วย
        11. นายยุทธชัย ครองสิน                 12. นายมนต์ศักดิ์ สร้อยสิงห์
        13. นายสัมฤทธิ์ กัลปดี                    14. นายประดิษฐ รักเสรี
        15. นายจำรูญ ผายพิมพ์                  16. นายทองเรือง อินทร์ทอง
        17. พลตรี สมมาตร สังขะรมย์          18. นางริยา เด็ดขาด
        19. นายศิลป์ ชื่นนิรันดร์                  20. นายสาคร เหล็กกล้า
        21. นายทองหมุน น้อยนนท์            22. นายวิจิตร สายเชื้อ
        23. นายไพชยนต์ ชนะกาญจน์         24. นายเรียง จันทร์แจ้ง

ในการนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร จะจัดให้ผู้สมัครกรรมการ ป.ป.จ. แสดงวิสัยทัศน์ เพื่อให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเข้าร่วมฟังการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ณ ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร (ห้งประชุมสีเงิน) องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และ
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป จึงขอเชิญผู้ที่สนใจเข้ารับฟัง



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 20 พฤศจิกายน 2556

ร้อยเอ็ด ขับเคลื่อนกิจกรรมศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวธงธานี

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ 20 พฤศจิกายน 2556 นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนกิจกรรมศูนย์ 3 วัย สายใยรักแห่งครอบครัวธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด  ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

นางสุจิตรา  พินดวง ผู้จัดการศูนย์ 3 วัย สานสายใยแห่งรักครอบครัวธงธานี กล่าวว่า ศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวธงธานี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 สังกัดกรมพัฒนาสังสมและสวัสดิการ เพื่อเปิดให้บริการแก่บุคคล 3 วัย ได้แก่ วัยเด็ก  วัยทำงาน และผู้สูงอายุ เพื่อให้บุคคลทั้ง 3 วัย ได้มีกิจกรรมสร้างความอบอุ่นขึ้นในครอบครัว ตามแนวคิดที่ว่า เตรียมพร้อมก่อนครองคู่ เรียนรู้ร่วมกันแต่ในครรภ์ คิดสร้างสรค์แต่เยาววัย ครอบครัวเสริมกายใจ ผู้สูงวัยสานสายใยรัก เปิดให้บริการสมาชิกศูนย์สามวัย ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกทั้งสิ้น 737 คน อายุ 0 - 18 ปี จำนวน 162 คน อายุ 19 - 59 ปี จำนวน 416 คน  อายุ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 159 คน มีผู้มาใช้บริการทั้งสิ้นประมาณ 1,400 คน ทั้งบุคคลในพื้นที่และต่างจังหวัด เช่น สุรินทร์มหาสารคามแและนครรราชสีมา

นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การดำเนิการสายใยรักแห่งครอบครัวในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร และดำเนินกิจกรรมศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในภารกิจของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนครอบครัว ทั้ง 3 วัย ในพื้นที่เป้าหมายให้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาและสนับสนุนกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เข้มแข็ง ยั่งยืน ตามปณิธานของพระเจ้าวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และในปี 2556 นี้ จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับการประสานแจ้งจากกองประสานสายใยรักแห่งครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อย่างไม่เป็นทางการว่า เป็นจังหวัดที่อยู่ในแผนสำรองที่ พระเจ้าวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จะเดินทางมาพิธีเปิด ศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวธงธานี อย่างเป็นทางการอีกด้วย



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานรับฟังสวดพระอภิธรรมศพนางจันทร์ นาเมืองรักษ์

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 เวลา 19.00 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานรับฟังสวดพระอภิธรรมศพ นางจันทร์ นาเมืองรักษ์ โดยมีนายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พลตำรวจตรีณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด,หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และแขกผู้มีเกียรติ ตลอดจนญาติ มิตร ลูกหลาน เข้าในพิธี เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์ เป็นจำนวนมาก

นางจันทร์ นาเมืองรักษ์ หรือ คุณยายจันทร์ นาเมืองรักษ์ เป็นมารดา ของนายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนจังหวัดร้อยเอ็ด  ได้ถึงแก่กรรม ด้วยอายุ 92 ปี ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ระหว่างวันที่ 17 – 22 พฤศจิกายน 2556 ณ บ้านเลขที่ 82 หมู่ ถนนเสลภูมิ -โพนทอง ตำบลขวัญเมือง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทุกวัน เวลา 19.00 น. และจะพระราชทางเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) ในวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556 เวลา 16.00 น. ณ ฌาปนสถานวัดสามัคคีนาเมือง บ้านนาเมือง ตำบลนาเมือง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

จึงขอกราบเรียนเชิญท่านที่เคารพนับถือของลูกหลานคุณยายจันทร์ นาเมืองรักษ์ ไปร่วมเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์ครั้งนี้ด้วย ตามกำหนดดังกล่าวข้างต้น




 วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
19 พ.ย.56

ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจเข้ม มาตรการ 5 ด้าน ตามนโยบายของรัฐบาล

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 พ.ย.56 ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายพิเชษฐ์ ไพบูลย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามการดำเนินงาน ตลอดจนรับฟังปัญหาอุปสรรคต่างๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายสนิท ขาวสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย ข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทุกภาคส่วน ร่วมให้การต้อนรับ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาในวันนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงานของทางจังหวัดศรีสะเกษ ใน 5 ด้าน ประกอบด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการจัดระเบียบสังคม , การดำเนินการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี , การทูลเกล้าถวายฏีกา , การรักษาคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ , การป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยต่างๆ และ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในเรื่องของโครงการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ซึ่งหลังจากรับทราบการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรค ต่างๆ แล้ว จะได้นำเรื่องเสนอไปยัง ส่วนกลาง เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงาน เป็นลำดับต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมคณะกรรมการเตรียมความพร้อมจัดงานปีใหม่และงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานีประจำปี 2557 รับตะวันก่อนใครในสยาม

อุบลราชธานี  : วันนี้ (19 ธ.ค.56) ที่ห้องประชุมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดงานปีใหม่และงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานีประจำปี 2557 รับตะวันก่อนใครในสยาม โดยจังหวัดอุบลราชธานีได้กำหนดจัดงานกาชาดและปีใหม่ ประจำปี 2557 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2557 รวม 10 วัน 10 คืน ที่ บริเวณศาลากลาง(หลังเก่า) จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งการจัดงานดังกล่าว นอกจากเป็นกิจกรรมที่เฉลิมฉลอง ปีใหม่ในการส่งความสุขให้แก่ประชาชนช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ยังเป็นการหารายได้สนับสนุนกิจการสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดเพื่อให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ประสบภัยต่าง ๆ สำหรับกิจกรรมภายในงานปีนี้ ประกอบด้วย การประกวดนิทรรศการของส่วนราชการต่าง ๆ การออกร้านผลิตภัณฑ์ชุมชน การประกวดผลิตภัณฑ์ชุมชน การประกวดทางการเกษตร การแสดงบนเวที การประกวดสาวงามเมืองอุบล การประกวดธิดาท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี โดย ผู้เข้าประกวดจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกหลานของหน่วยงานในสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจาก ทุกแห่งกว่า 200 หน่วยงาน และพิเศษปีนี้จะมีการประกวดร้องเพลง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทีมงานหางเครื่อง ส่วนที่ขาดไม่ได้คือการออกร้านกาชาดที่ให้ประชาชนทุกคนได้มีโอกาสร่วมทำบุญกับเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี และหากโชคดีจะได้รับโชครางวัลใหญ่ ทั้งนี้เพื่อหาทุนสบทบให้กับเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้คณะกรรมการจัดงานปีใหม่และงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานีประจำปี 2557 รับตะวันก่อนใครในสยาม ได้กำหนดรับบริจาควันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี โดยเริ่มรับบริจาค ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น ขอเชิญหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมบริจาคสิ่งของ วันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ในวันเวลาดังกล่าว



จ.ส.ต.พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ 19 พ.ย.56

ประชุมทิศทางการบริหารงานของสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับการพัฒนาจังหวัดพัฒนาจังหวัดในพื้นที่สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประจำปี 2556

นายคุมพล บรรเทาทุกข์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จังหวัดนครพนมจัดประชุมทิศทางการบริหารงานของสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับการพัฒนาจังหวัดในพื้นที่สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประจำปี 2556เพื่อให้ทราบแนวทางการบริหารการปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การแก้ไข เปลี่ยนแปลง กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องและเตรียมความพร้อมในพื้นที่ก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยจัดประชุมระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2556 ณ โรงแรมนครพนมริเวอร์วิว จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม บรรยายพิเศษเรื่อง "การบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการพัฒนาจังหวัดในเขตพื้นที่สู่ประชาคมอาเซียน” ต่อด้วยการบรรยาย "ปัญหาและผลกระทบจากการประกาศใช้บัญชีเงินเดือนข้าราชการพนักงานท้องถิ่น เงินเพิ่มตามคุณวุฒิ ระเบียบ และหนังสือสั่งการ ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กับทิศทางในอนาคตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเป็นอย่างไร” โดยนายชนินทร์ ราชมณี ผู้อำนวยการส่วนประสานถ่ายโอน สำนักงานมาตรฐานการบริหารงานบุคคลท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครอง และเสวนาเรื่อง "แนวคิดและทิศทางการบริหารงานของสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ประกอบด้วย ดร.จีราวุฒิ เข็มพรมมา นายกสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายทรงศักดิ์ โอษะคลัง ผู้แทนคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล นายสายสิทธิ์ ไท้ทอง ผู้ก่อการรวบรวมเพื่อนๆ ในการจัดตั้งสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พันจ่าโท ธงชาติ ลิ้มทองสุด ที่ปรึกษาสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายชัยพิชิต เย็นกลาง ที่ปรึกษาสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 การบรรยายเรื่อง "แนวโน้มการบริหารงานบุคคล สิทธิ อำนาจหน้าที่ การสั่งการ และปัญหาที่เกิดขึ้นมีผลต่อความก้าวหน้าของข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างไร” โดยนายเชื้อ ฮั่นจินดา ประธานสมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย และสรุปกรอบแนวคิดและทิศทางการบริหารงานของสมาคมปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย ดร.จีราวุฒิ เข็มพรมมา

ประกาศผลการออกรางวัลสลากกาชาดการกุศล "มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ 2556"


ตามที่เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดทำสลากกาชาดการกุศลจำหน่ายเนื่องในงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556 เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจการเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และกิจกรรมอันเป็นสาธารณกุศลจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2,000 เล่ม ๆ ละ 100 ฉบับ รวม 200,000 ฉบับ โดยกำหนดออกรางวัล ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 เวลา 21.00 น. ณ บริเวณเวทีกลาง งานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ สนามกีฬาศรีณรงค์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ผลการออกรางวัลปรากฏดังนี้

รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล หมายเลข 168392

รางวัลที่ 2 มี 1 รางวัล หมายเลข 090096

รางวัลที่ 3 มี 7 รางวัล หมายเลข 182645 140668 066190 048812 068633 136309 147597

รางวัลที่ 4 มี 10 รางวัล หมายเลข 053290 164606 095707 027422 089653 085185 011989 080698 031897 115800

รางวัลที่ 5 มี 10 รางวัล หมายเลข 161562 066256 031108 053866 142179 005420 171389 111529 064588 061314

รางวัลที่ 6 มี 20 รางวัล หมายเลข 069133 085151 134778 008391 129696 195104 114323 088313 163601 003651 183595 098277 073133 166200 045896 032017 161085 002192 197229 108954

รางวัลเลขท้าย 4 ตัว 1 ครั้ง มี 20 รางวัล หมายเลข 7132

รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 1 ครั้ง มี 200 รางวัล หมายเลข 984


ให้ผู้ที่ได้รับรางวัล นำสลากที่ได้รับรางวัลและบัตรประจำตัวประชาชน ไปติดต่อรับรางวัลได้ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ในวันและเวลาราชการ ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ออกรางวัล เป็นต้นไป หากพ้นกำหนดถือว่าสละสิทธิ์ และผู้ที่ได้รับรางวัลจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ด้านหลังสลากการกุศล ทุกประการ

กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันกองทัพเรือและวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยเรือรักษาความเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง

พลเรือตรี อารักษ์ แก้วเอี่ยม ผู้บัญชาการกองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันกองทัพเรือและวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยเรือรักษาความเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงหรือนรข. ที่ห้องศรีประดู่ อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อำเภอเมือง จ.นครพนม โดยมีพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป สวดบำเพ็ญกุศล โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมพิธี

ทั้งนี้ หน่วยเรือ นรข. ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๓ โดยแรกเริ่มมีฐานะเป็นหน่วยงานต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ สนับสนุนงานการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ อยู่ในความควบคุมบังคับบัญชาของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง" คำย่อว่า "นรข." เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม๒๕๔๗ โดยมีภารกิจและบทบาทในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และตลอดแนวชายฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่รับผิดชอบเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย และการกระทำอื่น ๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คุ้มครองและช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่าง ๆ ด้วยหลักมนุษยธรรม รวมทั้งการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศเพื่อนบ้าน

กีฬาสีโรงเรียนเมืองนครพนม

นายเชิดชัย สินพูน ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองนครพนม เปิดเผยว่า คณะครู นักเรียนโรงเรียนเมืองนครพนม คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน จัดการแข่งขันกีฬาสีภายใน ประจำปี 2556 ในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2556 เวลา 09.00-16.30 น. โดยมีการแข่งขันกีฬา ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล กรีฑา เปตอง เซปักตระกร้อ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ออกกำลังกายเป็นการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ จึงขอเชิญผู้ปกครอง ประชาชนร่วมชมและเชียร์นักกีฬาในวันดังกล่าว