วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผู้ว่าฯมุกดาหาร ให้โอวาทนักกีฬาและครูผู้ฝึกสอน ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 32


ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้ให้โอวาท มอบเงินสนับสนุนให้แก่นักกีฬาคนพิการทางการได้ยิน และผู้ฝึกสอน โรงเรียนโสตศึกษา ก่อนเข้าร่วมแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ ๓๒ หรือศรีสุพรรณบุรีเกมส์ ระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2557 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

วันนี้ ( 5 ก.พ.57) ที่ห้องประชุม 203 ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานมอบเงินสนับสนุนให้แก่นักกีฬาและครูผู้ฝึกสอนที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 32 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ในระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2557

นางณัฐชภา ทองเฟือง พนักงานบริหารงานทั่วไป ๓ ปฏิบัติหน้าที่ราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ด้วยจังหวัดสุพรรณบุรีได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 32 (ศรีสุพรรณเกมส์) ระหว่างวันที่ 10 -14 กุมภาพันธ์ ในประเภทกีฬาที่ทำการแข่งขัน 17 ชนิดกีฬา จังหวัดมุกดาหาร โดยโรงเรียนโสตศึกษาร่วมกับสมาคมกีฬาจังหวัดมุกดาหารและศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร ได้จัดส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขัน 2 ชนิดกีฬา คือ เซปักตะกร้อทีมชายพิการทางหู และวอลเลย์บอลทีมหญิงพิการทางหู รวมนักกีฬา 15 คน ครูผู้ฝึกสอน 6 คน และในการแข่งขันทุกครั้งที่ผ่านมา นักกีฬาตัวแทนจังหวัดมุกดาหารได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดด้วยดีเสมอมา โดยเฉพาะกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ประเภทความพิการทางการได้ยิน ได้รับรางวัลเหรียญทอง 5 สมัยซ้อน ส่วนนักกีฬาเซปรัคตะกร้อ ในการแข่งขันครั้งล่าสุดที่จังหวัดขอนแก่น ได้คว้าเหรียญทองมาครองด้วย

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้ให้กำลังใจและโอวาทแก่นักกีฬาและครูผู้ฝึกสอนที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 32 (ศรีสุพรรณบุรีเกมส์)ที่จังหวัดสุพรรณบุรีครั้งนี้ว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่นักกีฬาจังหวัดมุกดาหาร ได้เป็นตัวแทนภาคไปแข่งขันในระดับชาติ และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดโดยเฉพาะกีฬาวอลเลย์บอลหญิงพิการทางหู ที่ครองแชมป์คว้าเหรียญทองมาแล้วถึง 5 สมัยซ้อน และหากรักษามาตรฐานและการเตรียมความพร้อมที่ดี ก็เชื่อว่าจะสามารถรักษาและครองแชมป์ได้อีกสมัย แต่ทั้งนี้ต้องมีสปิริตในการแข่งขัน คือการรู้แพ้ รู้ชนะ และยึดในกติกา การแพ้และการชนะเป็นเพียงการตัดสินที่เกิดขึ้นเฉพาะการแข่งขันเท่านั้น และที่สำคัญจะทำให้จังหวัดอื่น ๆรู้จักจังหวัดมุกดาหารมากขึ้น

ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชกากรจังหวัดมุกดาหาร นายเอกอมร ศรีลาศักดิ์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดมุกดาหาร การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดมุกดาหารได้มอบเงินค่าเดินทางค่าเบี้ยเลี้ยงแก่นักกีฬาครูผู้ฝึกสอนจำนวน 70,986 บาท และเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัว หรือ Pokket Money แก่นักกีฬาและครูผู้ฝึกสอนคนละ 2,500 บาท รวมเป็นเงิน 52,500 บาท เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในระหว่างเข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมทั้งขอให้เดินทางโดยความปลอดภัยทั้งไปและกลับ และนำชื่อเสียงมาสู่จังหวัดต่อไป

จ.สุรินทร์ขอให้ประชาชนป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในช่วงนี้

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน พื้นที่เกือบทุกภาคของประเทศไทยมักประสบปัญหาไฟป่า โดยที่ไฟป่ายังเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตมลพิษหมอกควันส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งตามยุทธศาสตร์/มาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี 2557 ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและหมอกควัน จำนวน 65 จังหวัด โดยจังหวัดสุรินทร์เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าระดับปานกลาง ทั้งนี้ จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจและแก้ไปปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดสุรินทร์ขึ้นตั้งอยู่ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์กิโลเมตรที่ 9 ถนนสุรินทร์-ปราสาทตำบลเฉนียงอำเภอเมืองจังหวัดสุรินทร์โทรศัพท์ /โทรสาร 0-4414-3057-9 และโทรศัพท์สายด่วนนิรภัย 1784 หากพื้นที่ใดประสบเหตุดังกล่าวขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และสายด่วนนิรภัย 1784 โดยด่วน

จังหวัดสุรินทร์ ออกโครงการสุรินทร์สร้างสุขสร้างรอยยิ้ม และมอบบ้านธารน้ำใจที่อำเภอท่าตูม

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้มประจำปี 2557 เพื่อนำหน่วยบริการเคลื่อนที่ของส่วนราชการต่าง ๆ ไปให้บริการประชาชนเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกล เพื่อพบปะเยี่ยมเยือนรับทราบปัญหาต่างๆ จากประชาชนในท้องถิ่น และดำเนินการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์กล่าวอีกว่า ในเดือนกุมภาพันธ์จังหวัดสุรินทร์ กำหนดออกหน่วยบริการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้ม ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ที่องค์การบิหารส่วนตำบลบะ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ จะมอบบ้านธารน้ำใจสร้างสุขสร้างรอยยิ้มให้แก่นางนิภาพร จำปาทอง บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 15 ตำบลบะ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ด้วย

นอกจากนั้น ยังจัดให้บริการด้านต่างๆ แก่ประชาชนที่มาร่วมงานมอบเงินสร้างและซ่อมแซมบ้านจากบัญชีบ้านธารน้ำใจสร้างสุข สร้างรอยยิ้ม มอบให้นายอำเภอท่าตูมเพื่อให้กับราษฎรยากจนไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองจำนวน 10,000 บาท มอบรถจักรยานให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนโดยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ มอบเครื่องอุปโภค – บริโภค และถุงยังชีพให้คนยากจนจำนวน 100 ชุด จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ มอบทุนการศึกษาจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 4 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจน มอบทุนการศึกษาจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 10 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจน มอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้แทนชุมชน โดยสำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ มารับบริการได้ในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

มหาลัยรามคำแหงสุรินทร์ จัดพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีฯพ่อขุนรามคำแหง

วันที่ (3 ก.พ. 57) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะประธานชมรมรามคำแหงสุรินทร์ พร้อมด้วยนายธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ร่วมพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีฯ พ่อขุนรามคำแหง ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์

โดยพิธีการบวงสรวงจัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ นักศึกษา และคณาจารย์ โดยการสร้างพระบรมราชานุสาวรีฯ พ่อขุนรามคำแหงในครั้งนี้ ทางมหาลัยรามคำแหงได้รับอนุญาตให้ดำเนินการจากกรมศิลปากรเรียบร้อยแล้ว ทางชมรมรามคำแหงจึงจะจัดสร้างฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหงสุรินทร์ สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงอัจฉริยภาพทั้งด้านการปกครอง เศรษฐกิจ ศาสนาและศิลปวิทยา และทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย ดังนั้น จึงเป็นสิ่งมงคลอย่างยิ่งที่ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณูปการแห่งประเทศไทย

นายนิรันดร์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ชมรมรามคำแหงสุรินทร์ ได้จัดทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อหารายได้สมทบทุนก่อสร้างฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ยอดเงินจำนวน 888,244 บาท และจะทำการจัดหาและรวบรวมให้ได้เท่ากับจำนวนประชากรของจังหวัดสุรินทร์คือ 1,300,000 บาท โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถติดต่อสอบถามได้มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์ หรือที่สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ โทร.0-4451-5427


นายอรรถสิทธิ์ ยินดี ภาพ / ข่าว สวท.สุรินทร์ 

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กำหนดแผนออกรับบริจาคโลหิต เดือนกุมภาพันธ์ นี้

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ สถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ และธนาคารเลือดโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ ออกรับบริจาคโลหิตในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดสุรินทร์

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ และธนาคารเลือดโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ จัดทำแผนรับบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อออกรับบริจาคโลหิตตามหน่วยงาน ราชการ อำเภอ และสถานศึกษา ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ สำหรับกำหนดการออกรับบริจาคโลหิต ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2557 มีดังนี้ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอเขวาสินรินทร์ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมวิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมโรงเรียนจอมพระประชาสรรค์ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอบัวเชดวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอชุมพลบุรี วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมอำเภอสังขะ และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ที่หอประชุมโรงเรียนสุรวิทยาคาร

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่บริจาคโลหิตครบ 50, 75 และ 100 ครั้ง จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 3, 2 และ 1 ตามลำดับ ส่วนผู้ที่บริจาคโลหิตครั้งแรก และครบครั้งที่ 7 จะได้รับเข็มผู้บริจาคโลหิตครบครั้ง และสิทธิอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคโลหิตได้ตามวัน และสถานที่ดังกล่าว


สุวิทย์ เอี่ยมสอาด /ข่าว

โรงพยาบาลจิตเวชนคราชสีมาราชนรินทร์ เชิญร่วมประกวดโลโก้สุขภาพจิตชุมชน

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลสุรินทร์จิตเวชนคราชสีมาราชนรินทร์ ว่า โรงพยาบาลสุรินทร์จิตเวชนคราชสีมาราชนรินทร์ ขอเชิญ นิสิต นักศึกษา ประชาชน บุคลกรกรมสุขภาพจิต ร่วมประกวดโลโก้ สุขภาพจิตชุชน โดยสื่อให้เห็นถึง เสริมพลัง การมีส่วนร่วมทั้งในและนอกระบบสาธารณสุข สุขภาพจิตชุมชน บูรณาการ โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 17 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดติดตามราเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลสุรินทร์จิตเวชนคราชสีมาราชนรินทร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 044-233999 หรือทาง www.jvkorat.go.th

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดการแข่งขันฟุตบอล อบจ.สุรินทร์ คัพ

 นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า เห็นความสำคัญของการส่งเสริมกีฬาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทำให้มีการเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง ห่างไกลจากสิ่งเสพติด อบายมุขทั้งปวง และเสริมสร้างสุขภาพพลามัยที่ดี อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้จักหน้าที่ ซื่อสัตย์ ตลอดจนสร้างความรับผิดชอบให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชน รวมไปถึงสนับสนุนให้ประชาชนในจังหวัดสุรินทร์ได้แสดงออกถึงความสามารถทางด้านกีฬาอย่างถูกวิธีเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศในอนาคต ซึ่งจะมีการแข่งขันในระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน 2557 โดยจะแบ่งการแข่งขันของแต่ละพื้นที่ออกเป็น 8 โซน สำหรับผู้ที่สนใจยังอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป สมัครเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล อบจ.สุรินทร์ คัพ (ประเภทประชาชนชาย) โดยติดต่อขอรับใบสมัครได้ที่กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทร 044-514524 www.surinpao.org และหน่วยงานจัดการแข่งขันของแต่ละโซนพื้นที่จัดการแข่งขันได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ แจ้งความเคลื่อนไหวราคาซื้อขายสินค้าเกษตร ประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน มกราคม 2557

นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้แจ้งราคาสินค้าเกษตรที่มีการซื้อขายในเขตอำเภอเมืองจังหวัดสุรินทร์ ประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน มกราคม 2557 ดังนี้ ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ (ใหม่) โรงสีรับซื้อ ตันละ 13,500 - 13,900 บาท, ข้าวสารหอมมะลิ 100 กก. โรงสีขาย ราคา 3,300 – 3,400 บาท ส่วนประเภทพืชไร่ มันสำปะหลัง-หัวมันสด (คละ) ลานมันซื้อ กก. ละ 1.90 - 2.15 บาท ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพ 3 กก.ละ 66.53 บาท ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพ 4 กก.ละ 63.85 บาท

สำหรับราคาเนื้อสัตว์ ไก่มีชีวิต พันธุ์พื้นเมือง พ่อค้าขาย กก.ละ 65 - 70 บาท, ไก่บ้านชำแหละ (ไก่ทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน) กก.ละ 120 - 130บาท, ไก่ชำแหละ (ไก่ทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน) กก.ละ 75 - 80 บาท, สุกรมีชีวิต พันธุ์พื้นเมือง นน. 90 - 100 กก.ๆ ละ 60 - 65 บาท, สุกรชำแหละเนื้อแดง กก.ละ 140 - 150 บาท ปรับเพิ่มขึ้น กก.ละ 10 บาท และเนื้อสามชั้น 130 - 140 บาท, เนื้อโคชำแหละ กก. 250 - 260 บาท, และเนื้อกระบือชำแหละ กก. 220 – 240 บาท  ส่วนราคาก๊าซหุงต้มและน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซขนาดบรรจุสุทธิ 15 กก. (ปตท.) ร้านค้าขาย ถังละ 345 – 362 บาท

ทั้งนี้ ราคาที่ซื้อขายในเขตอำเภออื่นๆ อาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ขึ้นอยู่กับค่าขนส่ง  และราคาที่แจ้งนี้ไม่มีสภาพบังคับตามกฎหมาย  แต่เพื่อผู้ซื้อขายใช้ประโยชน์ประกอบการตัดสินใจซื้อขายตามแนวโน้มราคาสินค้าในแต่ละช่วงเท่านั้น



สุวิทย์  เอี่ยมสอาด  สวท.สร./ข่าว

จ.สุรินทร์ จัดงานวันนัดพบแรงงานย่อย มีตำแหน่งงานว่างรองรับผู้ว่างงานจำนวนมาก 12 ก.พ. นี้

นายเทพบัญชา เกตุวิเศษกูล จัดหางานจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานวันนัดพบแรงงานย่อยครั้งที่ 1 ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณด้านหน้าห้างบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาสุรินทร์ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้คนหางานได้มีงานทำ ภายในงานมีกิจกรรม การรับสมัครงานมีตำแน่งงานว่างภาครัฐและบริษัทเอกชน ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดจำนวนมาก โดยมีสถานประกอบการมารับสมัครเองโดยตรง มีตำแหน่งงานว่างสำหรับผู้พิการ รวมทั้งกิจกรรมการทดสอบความถนัดทางอาชีพ และลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศด้วย จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจไปร่วมงานและเตรียมหลักฐานไปสมัครงานได้หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์ 044-516017-8 ต่อ 12

อ.บ.จ.สุรินทร์ ขอเชิญชาวสุรินทร์ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สจ.สุรินทร์ 22 กุมภาพันธ์ นี้

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนชาวสุรินทร์มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ 22 กุมภาพันธ์นี้

นายเกรียงไกร วงศ์วิบูลเศรษฐ์  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 ราย ได้ลาออกจากตำแน่ง คือ นายพันธ์เทพ ฐานุพงศ์ชรัช สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอปราสาท และนางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่ง นายไกรศักดิ์ วรทัต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 และได้ทำการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ในระหว่างวันที่ 6 - 10 มกราคม 2557 ที่ผ่านมาปรากฏว่ามีผู้แสดงความจำนงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ รวมจำนวน 5 ราย และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 เขตเลือกตั้ง รายละเอียดดังนี้    
          1. เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอปราสาท จำนวน 2 ราย ดังนี้ หมายเลข 1 นางสาวพรนภา ธีระวงศ์ไพศาล หมายเลข 2 นายกังวาฬ ธัญธนาพล
          2. เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอกาบเชิง จำนวน 3 รายดังนี้ หมายเลข 1 นายศิริชัย ตันติรัตนานนท์ หมายเลข 2 นายธนเทพ ตั้งทอง หมายเลข 3 นายยุทธศาสตร์ ศาสตรา

ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนในเขตอำเภอปราสาท และอำเภอกาบเชิง ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้ง ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น.



สุวิทย์  เอี่ยมสอาด  สวท.สร./ข่าว

จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง”ยิ่งใหญ่แห่งเดียวในโลก ในวันวาเลนไทน์

เตรียมจัดงาน "จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง”ยิ่งใหญ่แห่งเดียวในโลก ในวันวาเลนไทน์

วันนี้ (5 ก.พ.57) นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายก อบจ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า การเตรียมจัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ครั้งที่ 8 ขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์คชศึกษาหมู่บ้านช้าง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเสริมสร้างความเข้มแข็งของครบครัว โดยกิจกรรมในงาน "จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” เป็นพิธีการแต่งงาน สำหรับชาวกวยหรือ กูย เป็นพิธีมงคลสมรสของคนเลี้ยงช้าง อันมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อาทิ การแต่งกายของคู่บ่าว – สาว ที่เจ้าบ่าวจะสวมเสื้อแขนยาว ไหมพาดบ่า ด้ายมงคล 3 สี นุ่งโสร่งผ้าไหม ส่วนเจ้าสาวจะสวมเสื้อแขนกระบอกสีอ่อน สไบสีแดง ศรีษะสวม จะลอม (มงกุฎที่ทำจากใบตาล) นุ่งผ้าซิ่นไหมลายชาวกวย ด้านพิธีมงคลสมรสหรือ "พิธีซัตเต” อันยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งเดียวในโลก ที่เจ้าบ่าวจะนั่งช้างพร้อมขบวนขันหมากอันเอิกเกริกมายังบ้านเจ้าสาว เพื่อประกอบพิธีมงคลจากพราหมณ์ ตลอดจนถึง "พิธีถอดคางไก่เสี่ยงทาย” ชีวิตคู่ในอนาคตอันศักดิ์สิทธิ์ โดยปัจจุบันหลังจากเสร็จพิธีซัตเตแล้ว คู่สมรสจะนั่งช้างเพื่อไป จดทะเบียนสมรสบนหลังช้างกับนายทะเบียนอำเภอ ก่อนจะถ่ายรูปหมู่ร่วมกันของคู่บ่าวสาวที่มาร่วมงานเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาด

สำหรับการจัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างใน ปีนี้ตั้งเป้าหมายจะรับคู่รัก /คู่สมรส จำนวน 30 คู่ รวม 60 คน โดยคุณสมบัติและหลักฐานในการรับสมัคร คือ ชายและหญิงที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์ สมัครเข้าร่วมโครงการ พร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนทั้งชายและหญิง พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง โดยคู่สมรสทุกคู่ที่เข้าร่วมในงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ประจำปี 2557 นี้ จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และคู่สมรสทุกคู่จะได้ร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสหมู่แสนหวาน ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สถานที่สุดหรูใจกลางเมือง และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 คู่สมรสทุกคู่จะได้ร่วมพิธีอันเป็นมงคลแบบชาวกวย "พิธีซัตเต” และร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างพร้อมบันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่ 1 ปี มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น สนใจ ขอรับใบสมัครได้ที่ สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4451-1975 และที่ว่าการอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4459-1141 ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 และเว็ปไซต์ www.surinpao.org



อุทัย  มานาดี / รายงาน

ภัยแล้งเริ่มเยือนสุรินทร์

ภัยแล้งเยือนสุรินทร์ ห้วยหนองคลองบึงเริ่มแห้งขอด เกษตรกรเร่งสูบน้ำกักตุน หวั่นภัยแล้งรุนแรง

วันนี้ (5 ก.พ.57) สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เริ่มส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ ห้วยหนองคลองบึงเริ่มแห้งขอด ขณะที่ เกษตรกรเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำเข้าแปลงข้าวนาปรัง รวมถึงเกษตรกรที่มีบ่อเลี้ยงปลาต่างเร่งสูบน้ำที่พอจะเหลืออยู่บ้างในคลองมากักเก็บไว้ในบ่อของตนเอง เนื่องจากเกรงจะไม่มีน้ำไว้ทำการเกษตรและเลี้ยงปลา หลังสถานการณ์ภัยแล้งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น นายเจษฏา บุญสุยา ผู้อำนวยการชลประทานสุรินทร์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ทั้ง 18 อ่างของจังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้น 121.7 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณความจุ 145 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือ คิดเป็นร้อยละ 83.92 เปอร์เซนต์ ของความจุทั้งหมด ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งเป็นอ่างฯที่ใช้น้ำในการผลิตน้ำประปาและสนับสนุนน้ำเพื่อการเกษตรของอำเภอเมืองสุรินทร์ ปัจจุบันวัดปริมาณน้ำได้ 15.75 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณความจุ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 78.70 เปอร์เซ็นต์ของความจุ

อย่างไรก็ตาม ชลประทานสุรินทร์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัด เตรียมรถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่ 4 คันและเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ พร้อมออกให้ความช่วยเหลือประชาชนทันทีที่ได้รับการร้องขอ พร้อมฝากเตือนเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเป็นหลักประกันหากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งทางชลประทานสุรินทร์จะสามารถจ่ายน้ำช่วยเหลือเกษตรกรได้ตลอดฤดูแล้งที่จะมาถึงนี้



อุทัย  มานาดี /รายงาน

เกษตรกรเลี้ยงปลาคร๊าฟ ปลาสวยงามรายได้ดี

เกษตรกรผู้ปลูกข้าว แบ่งที่มาขุดบ่อเลี้ยงเลี้ยงปลาคร๊าฟ และปลูกดอกดาวเรือง สร้างรายได้งาม ขายปลาตัวละ 200 บาท ในแต่ละครั้งได้หลายหมื่นบาท สามารถส่งลูกจบมหาวิทยาลัย

นายสง่า สามพิมพ์ อายุ 57ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่24 บ้านโสน ต.แสลงพันธุ์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอีกคนหนึ่ง ที่หันมาแบ่งพื้นที่จำนวนหนึ่งมาเลี้ยงปลาสวยงาม พร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา ตนเองได้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการเลี้ยงปลา ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งช่วงนั้นได้ไปชมทัศนศึกษาที่กรมประมงและที่สวนจัตุจัก กรุงเทพ ในเรื่องการเลี้ยงปลาสวยงาม เมื่อเดินทางกลับบ้านสุรินทร์ ได้ซื้อปลาดังกล่าวกลับมาบ้านด้วยคู่หนึ่ง เมื่อมาถึงบ้านได้นำปลาไปปล่อยที่สระน้ำกลางทุ่งนาตามยถากรรม หนึ่งปีผ่านไปปรากฏว่าปลาสวยงาม มีการขยายพันธุ์ ตัวโต สวยงาม เมื่อมาถึงตรงนี้จึงได้คิดว่าปลาสวยงามตัวโต ไม่ตาย สามารถนำมาเลี้ยงที่ทุ่งนาได้ จึงได้เริ่มต้นในการเพาะพันธุ์อย่างจริงจัง พร้อมทั้งนำความรู้ที่ได้ไปอบรมมาใช้ในการเลี้ยงปลาคร๊าฟ

ลุงสง่า สามพิมพ์ เล่าให้ฟังอีกว่า ตนได้แบ่งพื้นที่นา จำนวน 15 ไร่ ที่ใช้ในการทำนาปลูกข้าวมาขุดบ่อเลี้ยงปลา จำนวน 8 ไร่ โดยได้ขุดบ่อปลาขนาด 14 คูณ 35 เมตร ลึก เมตรครึ่ง จำนวน 2 บ่อ ในปีต่อมาขุดบ่อ เพิ่มอีก 2 บ่อ กว้างขนาดเท่ากันแต่มีความลึก 3 เมตร จำนวน 2 บ่อ รวมทั้งสิ้น ณ.ปัจจุบัน มีบ่อทั้งที่มีอยู่แล้วและขุดเพิ่มเติม จำนวน 9 บ่อ พร้อมกันนี้ยังมีบ่อเลี้ยงปลาอนุบาล(บ่อซีเมนต์)ขนาดกว้างเมตรครึ่ง ยาว 3เมตร จำนวน 10 บ่อ ในขณะพื้นที่ที่เหลือได้ปลูกดอกดาวเรือง ปลูกผัก และปลูกพืชผักทุกชนิดที่กินได้

สำหรับปลาคร๊าฟ ได้เลี้ยงเป็นเวลามากว่า 7 ปี ปีแรกได้นำไปขายและได้ส่งขายตามตลาดนัดทั้งแจกทั้งแถม ในราคาตัวละ 10 บาท อายุ 2-3 เดือน ส่วนอายุ 2-3 ปี จำหน่ายในราคาตัวละ 200 บาท ในขณะที่พ่อแม่พันธุ์ หนักประมาณ 20-30 กิโลกรัม ไม่จำหน่าย แต่มีชาวต่างชาติได้มาขอซื้อไปประดับในตู้กระจกที่บ้าน ในราคาหลายพันบาท ทุกวันนี้ปลาที่มีในบ่อของลุงสง่า มีปลาระดับอนุบาล นับไม่ถ้วน ขนาด 2-3 เดือนมีหลายพันตัว ส่วนอายุ 2-3 ปี มีกว่าพันตัว และปลาพ่อแม่พันธุ์อีกนับร้อยตัว

ในด้านอุปสรรคนั้นแน่นนอนเรื่องน้ำที่นำมาใช้เลี้ยงปลา แต่ตนได้เจาะบ่อบาดาล ถึง 3 จุด เพื่อนำน้ำบาดาลมาใส่ไว้ในบ่อและใช้ปลุกพืชในช่วงหน้าแล้ง สำหรับเรื่องโรคของปลาก็มีบ้าง แต่ตนนั้นได้ศึกษาในเรื่องโรคเกี่ยวกับปลามาจึงไม่มีความวิตกแต่อย่างใด ในส่วนของรายได้การเลี้ยงปลานั้น ลุงสง่า สามพิมพ์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่หันมาเลี้ยงปลาสวยงาม กล่าวว่า พอไปได้สามารถเลี้ยงลูกสาวที่เป็นลูกแฝด ทั้งสองคนสามารถส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย ถึงแม้นตนเองจะเรียนหนังสือจบแค่ ป.4 แต่ตนก็ภูมิใจที่สามารถส่งลูกทั้งสองคนและปัจจุบันได้ทำงานมีอาชีพที่ดี อย่างน่าภาคภูมิ ลุงสง่า กล่าวในที่สุด



อุทัย  มานาดี / รายงาน

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ตรวจติดตามการดำเนินการก่อนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกที่จังหวัดสุรินทร์

วันนี้ (5 ก.พ. 57) ที่ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 พร้อมด้วย นายโอภาส กลั่นบุศย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ 2557 รอบที่ 1 โดยกำหนดตรวจติดตามนโยบายการดำเนินการก่อนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 และการตรวจติดตามนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน ด้านพืชโดยมีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน สำหรับการตรวจราชการในครั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์มีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข เนื่องจากจังหวัดสุรินทร์มีดินแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีความพร้อมในด้านการให้บริการสาธารณสุข ทำให้ประชาชนในประเทศกัมพูชาเดินทางเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลกาบเชิงและโรงพยาบาลสุรินทร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางโรงพยาบาลมีบุคลากรที่มีความสามารถในการรักษา และมีการประชาสัมพันธ์โดยจัดทำป้าย แผ่นพับ แผ่นปลิว เป็นภาษาไทยและกัมพูชา แนะนำให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ ส่วนทางด้านแรงงานนั้น หน่วยงานทางการศึกษามีความพร้อมด้านบุคลากรในการให้ความรู้อย่างเต็มที่ มีการส่งเสริมความรู้ด้านภาษาให้กับเยาวชนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะแรงงานฝีมือได้มีการสอนด้านวิชาชีพที่ตลาดต้องการ ทำให้นักเรียน นักศึกษาสามารถเข้าทำงานได้ทันทีที่จบการศึกษา ในด้านการท่องเที่ยว ปรากฏว่าในช่วงงานมหัศจรรย์งานช้างที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาเข้ามาชมการแสดงของช้างเป็นจำนวนมากและคาดว่าในปีต่อ ๆ ไป เมื่อเส้นทางคมนาคมสะดวกขึ้น มีการสร้างที่พัก รีสอร์ท โฮมสเตย์มากเพียงพอกับความต้องการของนักท่องเที่ยวจะทำให้จังหวัดสุรินทร์มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงยิ่งขึ้น จากนั้น ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 และคณะ ได้เดินทางไปตรวจติดตามการดำเนินงานก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ และติดตามการดำเนินงานโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก ที่ร้านขนมบ้านสาลี หมู่ที่ 1 ตำบลแกใหญ่ อำเภอเมืองสุรินทร์ และการปลูกผักอินทรีย์ ที่บ้านกระเบื้อง หมู่ที่ 3 ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ประสบผลสำเร็จในการตรวจราชการในครั้งนี้

ประกันสังคมสุรินทร์ แจ้งการเปลี่ยนสถานพยาบาลลูกจ้าง/ผู้ประกันตน ประจำปี 2557

นางอุสนีย์ ศิลปศร ประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดส่งคำชี้แจงการเปลี่ยนสถานพยาบาล ประจำปี 2557 ให้กับนายจ้าง และผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 ในเขตจังหวัดสุรินทร์เพื่อให้ลูกจ้าง/ ผู้ประกันตน ที่ประสงค์จะเปลี่ยนสถานพยาบาล ดำเนินการเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่ 31 มีนาคม 2557 โดยยื่นคำขอตามแบบขอบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล(สปส.9-02) ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ และเตือนผู้ประกันตนให้พกบัตรรับรองสิทธิการักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ให้เข้ารักษาได้ทันทีในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและแจ้งโรงพยาบาลตามบัตรฯ ทราบโดยด่วน สำนักงานประกันสังคมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใน 72 ชั่วโมงแรก จึงขอประชาสัมพันธ์มาเพื่อให้ นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ เลขที่ 219 หมู่ 13 ตำบลเฉนียง ถนนสุรินทร์ – ปราสาท อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ งานทะเบียนและประสานการแพทย์ หมายเลขโทรศัพท์ 044-520936-7 , 044-153037-8 ต่อ108-112 และสายด่วนประกันสังคม 1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการ24 ชั่วโมง)

สภากาชาดไทย ออกหน่วยบริการตรวจสุขภาพและฝังเข็มประยุกต์ให้ประชาชนที่จังหวัดสุรินทร์

วันนี้ (5 ก.พ. 57) ที่สถานีกาชาดที่ 1 จ.สุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ มีพญ.อมรรัตน์ ประเสริฐกุล  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม  นายแพทย์ฐปกรณ์  แหนบนาค แพทย์ด้านกายภาพบำบัด พร้อมด้วยหน่วยแพทย์ทางเลือกฝังเข็มประยุกต์ ฝ่ายบริการทางการแพทย์ สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้ออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพและฝังเข็มประยุกต์ให้ประชาชนที่จังหวัดสุรินทร์ โดยมีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยด้านกระดูก ข้อ ในจังหวัดสุรินทร์ เข้ารับบริการจำนวนมาก

ทั้งนี้สภากาชาดไทย  โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ได้จัดทำโครงการหน่วยแพทย์ทางเลือกฝังเข็มประยุกต์ นำหน่วยแพทย์ทางเลือกฝังเข็มประยุกต์ มาให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป และการรักษาโดยวิธีฝังเข็มประยุกต์แก่ประชาชนทั่วไปที่มีอาการเกี่ยวกับเรื่องการปวดบริเวณต่างๆ เช่น ปวดหลัง ปวดเข่า ไมเกรน หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ที่เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ หรือแตก ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องอาการชาบริเวณต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณปลายมือปลายเท้า โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

โดยที่จังหวัดสุรินทร์  กำหนดให้บริการจำนวน 4 ครั้ง ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 4 – 6 กุมภาพันธ์ 2557 และครั้งต่อไปในระหว่างวันที่ 6 – 8 พฤษภาคม 2557 ผู้ที่สนใจสามารถ เข้ารับบริการตรวจรักษาฟรี ได้ที่ สถานีกาชาดที่ 1 จ.สุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น.



สุวิทย์ เอี่ยมสอาด /ข่าว

พาณิชย์สุรินทร์ แจ้งราคาซื้อขายสินค้าเกษตร ประจำสัปดาห์ พบพืชผักหลายชนิดปรับราคาสูงขึ้น

นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้แจ้งราคาสินค้าเกษตรที่มีการซื้อขายในเขตอำเภอเมืองจังหวัดสุรินทร์ ประจำสัปดาห์มีดังนี้ ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ (ใหม่) โรงสีรับซื้อ ตันละ 13,500 - 13,900 บาท, ข้าวสารหอมมะลิ 100 กก. โรงสีขาย ราคา 3,300 – 3,400 บาท ส่วนประเภทพืชไร่ มันสำปะหลัง-หัวมันสด (คละ) ลานมันซื้อ กก. ละ 1.90 - 2.15 บาท ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพ 3กก.ละ 66.53 บาท ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพ 4 กก.ละ 63.85 บาท

สำหรับผักสด พบพืชผักหลายชนิดปรับราคาสูงขึ้น อาทิ ผักคะน้า ขายปลีกกก.ละ 20-25 บาท ปรับขึ้น กก.ละ 5 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 40-50 บาท ปรับขึ้น กก.ละ 10 บาท ผักชี กก.ละ 70-80 บาท ปรับขึ้น กก.ละ 20 บาท แตงกว่า กก.ละ 20-25 บาท ปรับขึ้น กก.ละ 5 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 20-30 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 15-20 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 20-25 บาท

ส่วนราคาเนื้อสัตว์ ไก่มีชีวิต พันธุ์พื้นเมือง พ่อค้าขาย กก.ละ 65 - 70 บาท, ไก่บ้านชำแหละ (ไก่ทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน) กก.ละ 120 - 130บาท, ไก่ชำแหละ (ไก่ทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน) กก.ละ 75 - 80 บาท, สุกรมีชีวิต พันธุ์พื้นเมือง น้ำหนัก 90 - 100 กก.ๆ ละ 60 - 65 บาท, สุกรชำแหละเนื้อแดง กก.ละ 140 - 150 บาท ปรับเพิ่มขึ้น กก.ละ 10 บาท และเนื้อสามชั้น 130 - 140 บาท, เนื้อโคชำแหละ กก. 250 - 260 บาท, และเนื้อกระบือชำแหละ กก. 220 – 240 บาท  ส่วนราคาก๊าซหุงต้มและน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซขนาดบรรจุสุทธิ 15 กก. (ปตท.) ร้านค้าขาย ถังละ 345 – 362 บาท  ทั้งนี้ เป็นราคาที่ซื้อขายในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ เขตอำเภออื่นๆ อาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ขึ้นอยู่กับค่าขนส่ง  และราคาที่แจ้งนี้เพื่อผู้ซื้อขายใช้ประโยชน์ประกอบการตัดสินใจซื้อขายตามแนวโน้มราคาสินค้าในแต่ละช่วง




สุวิทย์  เอี่ยมสะอาด /ข่าว 

จังหวัดสุรินทร์ แจ้งเตือนอัคคีภัย ไฟป่า และหมอกควัน ช่วงภัยหนาว

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในห้วงระหว่างเดือนธันวาคม ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี สภาพอากาศของประเทศไทย จะเกิดความแห้งแล้งและมีลมกระโชกแรง ประกอบกับความผันผวนของสภาพอากาศโลกอันเป็นผลเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน และบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศหนาวเย็น รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศป่าไม้ ซึ่งมีสาเหตุจากการประกอบอาชีพหาของป่า ล่าสัตว์ การทำการเกษตรกรรมใกล้พื้นที่ป่า และการเผาในที่โล่งในพื้นที่ชุมชนและเกษตรกรรม จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอัคคีภัย ไฟป่า และหมอกควันได้ง่าย ซึ่งการเกิดภัยพิบัติในแต่ละครั้งสร้างความเสียหาย ต่อชีวิต ทรัพย์สิน ทั้งของประชาชนและทางราชการ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม จังหวัดสุรินทร์ จึงประกาศแจ้งเตือนอัคคีภัย ไฟป่า และหมอกควัน ให้ส่วนราชการ เอกชน และประชาชน ตระหนักถึงความปลอดภัยโดยการป้องกันและลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยในบ้านเรือนและชุมชน ไฟป่า และหมอกควัน โดยการช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้มีการเผาตอซังข้าว เศษใบไหม้ การเผาทำลายป่า เพื่อให้จังหวัดสุรินทร์เป็นเมืองปลอดภัยน่าอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในปัจจุบัน ระดับการเกิดอัคคีภัย ไฟป่าและหมอกควัน ในประเทศไทยมีความรุนแรงมาก จนเกิดผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศอย่างรุนแรง ทั้งพืช ดิน น้ำ สัตว์ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมไปถึงเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ของประเทศไทย นอกจากนี้อัคคีภัย ไฟป่าและหมอกควัน ยังก่อให้เกิดวิกฤตมลพิษหมอกควันจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อนามัย และชีวิตของประชาชนเป็นวงกว้าง และในปัจจุบันเนื่องจากปรากฏการณ์ภาวะโลกร้อนส่งผลให้สภาพภูมิอากาศผันผวน ทำให้การคาดการณ์สภาพอากาศและสถานการณ์ภัยพิบัติในระยะยาวทำได้ยากมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเฝ้าติดตามสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องต่อไป

จังหวัดสุรินทร์ ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมระดับประเทศและระดับเขต

นายสอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินงานกิจกรรมสรรหาสุดยอดส้วมระดับประเทศ ปี 2555 เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของส้วมสาธารณะบำรุงรักษาส้วมให้ได้มาตรฐาน สะอาด เพียงพอ และปลอดภัยเป็นแบบอย่างที่ดีของการพัฒนาส้วมสาธารณะ นั้นปรากฏว่าส้วมสาธารณะในจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี ระดับเขตและประเทศ ดังนี้ 1. รางวัลสุดยอดส้วมระดับประเทศ จำนวน 1 รางวัล คือ สุดยอดส้วมแห่งปีประเภทโรงเรียนมัธยมสังกัดโรงเรียนรัฐบาล ได้แก่ โรงเรียนรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ 2. รางวัลสุดยอดส้วมระดับเขต (นครชัยบุรินทร์) จำนวน 2 รางวัล ดังนี้ ประเภทสถานที่ราชการ ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอจอมพระ อำเภอจอมพระ และ ประเภทโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอู่โลก อำเภอลำดวน

ตลาดนัดสีเขียว ตลาดนัดพอเพียงทุกวันเสาร์ของชาวสุรินทร์

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการตลาดนัดสีเขียว เป็นโครงการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเช้าวันเสาร์ ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการต้องมีเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง อาทิ สินค้า OTOP ของชาวสุรินทร์ ทั้งผ้าไหม เครื่องเงิน เครื่องอุปโภค บริโภค ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายในตลาดจะต้องเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดจากสารพิษ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพเป็นช่องทางการสื่อสารที่ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาและเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ กระชับความสัมพันธ์ของผู้บริโภคในชุมชนเมืองกับคนท้องถิ่นที่เป็นเกษตรกรให้เกิดความเข้าใจตรงกัน นโยบายด้านสุขภาพที่ทางจังหวัดสุรินทร์ ดำเนินอยู่ในขณะนี้คือ รักษาวิถีการปลูกข้าวหอมมะลิแบบปลอดสารพิษ จัดระเบียบให้ตลาดสด สะอาดตรงตามมาตรฐานที่วางไว้ ขณะที่ ตลาดนัดสีเขียวจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เหมือนเป็นการรณรงค์ทางอ้อม เพื่อให้ทุกคนรู้จักหลักคิดและเห็นตัวอย่างที่ดีเมื่อชาวบ้านหันมายึดหลักเกษตรอินทรีย์สิ่งที่ตามมาคือ การกินอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่อสิ่งแวดล้อมเกิดความสมดุล คนมีความสุข สังคมก็จะดี ทั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ยังคงนิยมจับจ่าย ซื้อหาสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภค ในตลาดสีเขียวเป็นประจำทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 06.00 น. – 14.00 น. นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาร่วมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยาว์กับผู้ผลิตโดยตรงอีกด้วย

ตำรวจ และทหารอุบลฯ สนธิกำลังสกัดจับขบวนการขนไม้พะยูง ได้ผู้ต้องหา และของกลางจำนวนมาก อ้างเป็นชาวนาไม่ได้รับเงินค่าข้าวเปลือก จึงตัดสินใจรับจ้างขับรถขนไม้พะยูงล็อตใหญ่ มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท

วันที่ (4 ม.ค.) พ.ต.อ.ตะวันกฤตฐ์ เทียมฟ้าพลกรัง ผกก.สภ.ตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยทหารกองกำลังสุรนารี และชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี สกัดจับขบวนการลักลักลอบขนไม้พะยูง ไปลงเรือข้ามแม่น้ำโขง โดยใช้เส้นทางตามถนนอุบลราชธานี-ตระการพืชผล

ต่อมา พบขบวนรถขนไม้ จำนวน 5 คัน มีทั้งรถตู้ รถกระบะ และรถเก๋ง แล่นผ่านมาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 5 เขตตำบลนาพิน หน้าสวนเสือ อำเภอตระการพืชผล จึงเรียกให้หยุดรถแล้วจับกุมได้ผู้ต้องหาเป็นชาย 5 คน หญิง 1 คน โดยทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง     

โดยนายสำเนียง ยี่เข้ง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 13 ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี สารภาพว่า มีอาชีพทำนา แต่ไม่ได้รับเงินค่าข้าวเปลือกจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล จึงถูกชักชวนให้มาขับรถขนไม้พะยูงจากเขตป่าสงวนแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย เพื่อนำไปลงเรือที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เข้าไปยังประเทศลาว แล้วส่งต่อไปประเทศจีน ในราคาเที่ยวละ 10,000 บาท

เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไม้ทั้งหมดที่มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีฐานร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายทุนที่ว่าจ้างรายนี้ทราบว่า มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี




อังกฤษ ทองสัมฤทธิ์  สวท.อบ.

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดย สาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ จัดกิจกรรมงานสวัสดีปีใหม่ สุขใจวันตรุษจีน

วันที่ 31 มกราคม 2557 รองศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีนและการสื่อสารเปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดย สาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ จัดกิจกรรมงานสวัสดีปีใหม่ สุขใจวันตรุษจีน มีคณาจารย์ และนักศึกษา ร่วมจัดงานนี้ขึ้น เพื่อให้นักศึกษาสาขาภาษาจีน และผู้สนใจ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีน อีกทั้งร่วมเฉลิมฉลองประเพณีตรุษจีน โดยมีกิจกรรมของนักศึกษา การแสดงบนเวที และการสาธิตการถักเชือก เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก ณ โรงละครคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย



มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ต้อนรับคณะผู้บริหาร คณาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย ในลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง ไทย กัมพูชา จีน ลาว และเวียดนาม

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อินทิรา ซาฮีร์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ต้อนรับ คณะผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษา จาก มหาวิทยาลัยพระตะบองและ มหาวิทยาลัยเมียนเจย และมหาวิทยาลัยพระตะบองราชอาณาจักรกัมพูชา ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมโครงการ การแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ไทย กัมพูชา จีน ลาว และเวียดนาม จัดโดยสำนักงานส่งเสริมบริหารงานวิจัย บริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ณ โรงละคร คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วันที่ 31 มกราคม 2557

ในการนี้ การจัดงานดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ และ พันธกิจของมหาวิทยาลัยที่ว่า มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเป็นสถาบันชั้นนำแห่งการเรียนรู้ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียน และ การบริการวิชาการ และเสริมสร้างความร่วมมือกับชุมชน สังคม ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทำนุบำรุง ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยจึงจัดให้มีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมระหว่างชาติในแถบลุ่มน้ำโขงประกอบด้วย ไทย กัมพูชา จีน ลาว และเวียดนาม โดยมีกิจกรรมอาทิ นิทรรศการประเทศในเขตลุ่มน้ำโขง การเสวนา การแสดงศิลปวัฒนธรรมประเทศต่างๆ และการประกาศผลและมอบรางวัลการประกวดการแต่งกายชุดประจำชาติลุ่มน้ำโขง เป็นต้น โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก



มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดยุทธศาสตร์ แก้ไขไฟป่าและหมอกควัน ปี 2557

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าแล้ง ของทุกปี ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน พื้นที่เกือบทุกภาคของประเทศมักประสบปัญหาไฟป่า นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดปัญหาวิกฤติมลพิษหมอกควัน ส่งผลต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจ สังคมและสุขภาพอนามัยของประชาชน

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไฟป่าในปี 2557
โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันปี2557 ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ การป้องกันไฟป่าและหมอกควัน การจัดการเชื้อเพลิง การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่า และการดับไฟป่า
ทั้งนี้ จะมีการเพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถควบคุมไฟป่าอยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามกลายเป็นสถานการณ์รุนแรงและช่วยให้การเกิดไฟป่าลดลง



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน 

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กำหนดเปิดรับสมัครเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 25 มิถุนายน 2557

ผศ.ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้เปิดรับสมัคร นักศึกษา ระดับบัณฑิต ศึกษา รอบแรก ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 – 2 เมษายน 2557 รอบที่สอง ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2557 – 25 มิถุนายน 2557 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ www.grad.mju.ac.th หรือหมายเลขโทรศัพท์0-5387-5470-2



มหาวิทยาลัยแม่โจ้

จ.หนองคาย เจ้าท่าเตือนจีนปิดซ่อมเขื่อน 15 วัน น้ำโขงลดต่ำกว่าปกติ

สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาหนองคาย แจ้งเตือนจีนจะทำการซ่อมเขื่อนที่กั้นลำน้ำโขงภายในประเทศ และจะทำการปิดการระบายน้ำ อาจจะส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ลดต่ำลงผิดปกติ

สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาหนองคาย ได้มีหนังสือที่ คค.0313.2/038 ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เรื่องรายงานระดับน้ำในแม่น้ำโขง ลงนามโดยนายสุริยา กิตติมณฑล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาหนองคาย ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดว่า ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไประยะเวลาประมาณ 15 วัน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จะทำการซ่อมเขื่อนภายในประเทศ และจะทำการปิดการระบายน้ำ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ลดต่ำลงผิดปกติ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชน ผู้ประกอบการเดินเรือ และผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงได้ทราบโดยทั่วกัน

หนังสือดังกล่าวได้สอดคล้องกับสถานการณ์ระดับน้ำในลำแม่น้ำโขงที่เกิดขึ้น คือในช่วงปลายปี 2556 ช่วงวันที่ 17 – 20 ธันวาคม 2556 ระดับน้ำโขงสูงขึ้นอย่างฉับพลัน จากระดับน้ำโขง 4 เมตรกว่า เป็น 8 เมตรกว่า เนื่องจากทางจีนมีการปล่อยน้ำจากเขื่อน ที่คาดว่าต้องการให้น้ำเหนือเขื่อนต่ำสุด เพื่อที่จะได้ทำการซ่อมเขื่อนภายในประเทศในช่วงนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคายวันนี้มีระดับลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับน้ำอยู่ที่ 2.77 เมตร ลดลงจากเมื่อวานนี้ 4 ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง 10.53 เมตร ซึ่งถือว่าลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับ 5 วันย้อนหลังที่ทรงตัวหรือลดลงเพียงวันละประมาณ 1 ซม. เท่านั้น ก็ต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลกระทบชัดเจนในอีกไม่เกิน 5 วันข้างหน้านี้


                       
 ข่าว/พิมพ์ 
จุมพล สายแวว 

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามการรองรับประชาคมอาเซียน

วันที่ 5 ก.พ. 57 ที่ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 พร้อมด้วย นายโอภาส กลั่นบุศย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ 2557 รอบที่ 1 โดยกำหนดตรวจติดตามนโยบายการดำเนินการก่อนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 และการตรวจติดตามนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน ด้านพืช โดยมีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานผลถึงการดำเนินงาน

จากนั้น ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 และคณะ ได้เดินทางไปตรวจติดตามการดำเนินงานก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อรับฟังข้อมูลและศักยภาพของการให้บริการสาธารณสุขของจังหวัดสุรินทร์ ที่มีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากจังหวัดสุรินทร์มีจังหวัดที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ศักยภาพในด้านการให้บริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ทำให้ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา เดินทางเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลของจังหวัดสุรินทร์ คือ โรงพยาบาลอำเภอกาบเชิงและโรงพยาบาลสุรินทร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบุคลากรที่มีความสามารถในการรักษา และมีการประชาสัมพันธ์โดยจัดทำป้าย แผ่นพับ แผ่นปลิว เป็นภาษาไทยและกัมพูชา แนะนำให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ ส่วนทางด้านแรงงานนั้น หน่วยงานทางการศึกษามีความพร้อมด้านบุคลากรในการให้ความรู้อย่างเต็มที่ มีการส่งเสริมความรู้ด้านภาษาให้กับเยาวชนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะแรงงานฝีมือได้มีการสอนด้านวิชาชีพที่ตลาดต้องการ ทำให้นักเรียน นักศึกษาสามารถเข้าทำงานได้ทันทีที่จบการศึกษา ในด้านการท่องเที่ยว ปรากฏว่าในช่วงงานมหัศจรรย์งานช้างที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาเข้ามาชมการแสดงของช้างเป็นจำนวนมากและคาดว่าในปีต่อ ๆ ไป เมื่อเส้นทางคมนาคมสะดวกขึ้น มีการสร้างที่พัก รีสอร์ท โฮมสเตย์มากเพียงพอกับความต้องการของนักท่องเที่ยวจะทำให้จังหวัดสุรินทร์มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงยิ่งขึ้น



ส.ปชส.สุรินทร์   กำชัย วันสุข ข่าว/ไวยวิทย์  สุขเก่า ภาพ

ศรีสะเกษ ประชุมคณะอนุกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ศรีสะเกษ ประชุมคณะอนุกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน จังหวัดศรีสะเกษ โดย คณะอนุกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ครั้งแรกของปีงบประมาณ 2557

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 57 ณ ห้องประชุมสำนักงานแรงงานจังหวัดศรีสะเกษ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่ารากชารจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ครั้งแรกของปีงบประมาณ 2557 โดยมีคณะอนุกรรมการฯที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการ ที่ 28/2556 ลงวันที่ 30 เมษายน 2556 ประกอบด้วย อุตสาหกรรมจังหวัด, สาธารณสุขจังหวัด, โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, แรงงานจังหวัด ผู้แทนนายจ้าง ผู้แทนลูกจ้าง และสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด อนุกรรมการและเลขานุการ รวม 15 คน

สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้มีเรื่องที่หาหรือ และแจ้งให้ทราบ ได้แก่ การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานภาคราชการ กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานนากรบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2556 กฎกระทรวง กากรเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นตน และการเป็นหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ พ.ศ. 2556 โครงการรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ (Zero Accident Campaign) ปี 2557 โครงการประกวดสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวะอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2557

ส่วนในเรื่องพิจารณานั้น คือสถานการณ์ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานจังหวัดศรีสะเกษ
                                             


 ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/พิมพ์

ศรีสะเกษ ประชุมคณะอนุกรรมการจัดประชุมสมัชชาสตรีระดับจังหวัด

วันที่ (5 กุมภาพันธ์ 57) ณ ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่ารากชารจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการจัดประชุมสมัชชาสตรีระดับจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีคณะอนุกรรมการฯที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาสถานภาพสตรี ที่ 3/2553 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด(ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม), พัฒนาการจังหวัด, ประชาสัมพันธ์จังหวัด, เกษตรจังหวัด, ท้องถิ่นจังหวัด, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด, สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด, สถิติจังหวัด, สาธารณสุขจังหวัด, ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1, พาณิชย์จังหวัด, ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 54 จังหวัด, และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด อนุกรรมการและเลขนุการ จำนวนทั้งสิ้น 15 คน ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานในระดับจังหวัดมีความสอดคล้องกับคำสั่งคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาสถานภาพสตรี

สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้มีเรื่องที่หาหรือ และแจ้งให้ทราบ ได้แก่ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดประชุมสมัชชาสตรีระดับจังหวัด ตามคำสั่งจังหวัดศรีสะเกษ ประเด็นปัญหาด้านตรีและครอบครัว ซึ่งเป็นสถานการณ์ปัญหาของสตรีและครอบครัวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ที่คณะอนุกรรมการฯ เมื่อปี 2556 ได้ให้ความสำคัญลำดับความเร่งด่วน ทีทุกภาคส่วนต้องช่วยกันนำไปเป็นประเด็นในการช่วยกันแก้ไขปัญหา ได้แก่ ลำดับที่ 1 ประเด็นการค้ามนุษย์ ลำดับที่ 2 ประเด็นการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น ลำดับที่ 3 ประเด็นยาเสพติด และลำดับที่ 4 ประเด็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัว

ส่วนในเรื่องพิจารณานั้น คือประเด็นปัญหาด้านสตรีและครอบครัว ที่เป็นปัญหาสังคมที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันของภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาเด็ก และเยาวชน ปัญหาสตรีและครอบครัว ปัญหาผู้สูงอายุ ปัญหาคนพิการฯลฯ รูปแบบการจัดประชุมสมัชชาสตรีระดับจังหวัด ประจำปี 2557 จัดประชุม 1 วัน (ภายในเดือนกุมภาพัน์ 2557) กำหนดจัดเป็น 2 ช่วง ช่วงเข้า จัดเวทีวิชาการ มีการบรรยาย เรื่องสถานการณ์ปัญหาเด็กและสตรีในปัจจุบัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เวทีเสวนา เรื่อง สตรีไทยก้าวไกลสู่อาเซียน โดย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด, ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด ผู้แทนแกนนำสตรีนักพัฒนา ประชาสัมพันธ์จังหวัด ช่วงบ่าย จัดเวทีประชุมระดมความคิดเห็น เพื่อให้ได้ประเด็นการขับเคลื่อนงานด้านสตรีและครอบครัวของจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งเป้าหมายเพื่อ ประเด็นงานสำคัญเร่งด่วนที่เกี่ยวกับสตรีและครอบครัวของจังหวัดศรีสะเกษนำเสนอเข้าเวทีระดับภาค ระดับชาติ และเพื่อให้ได้ประเด็นปัญหาที่กลุ่มสตรี องค์กรสตรีในจังหวัดจะร่วมบูรณาการทำงานเพื่อลดปัญหาครอบครัวให้น้อยลง สร้างชุมชนให้มีความตระหนักร่วมกัน


ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/พิมพ์ 

มูลนิธิหลวงปู่สรวงมอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่ราษฎรที่ยากจนตำบลธาตุ

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายธรรมยุติ ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง และนายสนั่น วรินทราวาท นายอำเภอรัตนบุรี ได้เป็นประธานมอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่ราษฎรที่ยากจนในเขตตำบลธาตุ โดยมีนายสมหวัง สันวัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลธาตุ นำราษฎรจาก 10 หมู่บ้านของตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เดินทางไปรับมอบผ้าห่มกันหนาวหมู่บ้านละ 20-25 คนรวมทั้งสิ้นจำนวน 280 ผืน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยลมหนาวต่อไป
                                           


บุญทัน ธุศรีวรรณ ข่าว/ ภาพ

ททท.อุบล จัดนักปั่นจักรยานเสือภูเขา ท่องเที่ยวการทำมาลัยข้าวตอก ที่ยโสธร

นายวิชุกร กุหลาบศรี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี จัดโครงการ "สองน่องท่องเที่ยวอีสานใต้” นำนักปั่นจักรยานเสือภูเขา 70 คัน ปั่นชมแหล่งท่องที่ยวในพื้นที่จังหวัดยโสธร ในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 ออกจากจังหวัดอุบลราชธานี เวลา 07.00 น. ตามถนนแจ้งสนิท ถึงที่ว่าการอำเภอคำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร มารวมกับนักปั่นจักรยานเสือภูเขาจังหวัดยโสธร อีก 40 คัน

แล้วทำพิธีปล่อยขบวนนักปั่นท่องเที่ยว ไปที่เทศบาลตำบลฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย เข้าเยี่ยมชมการทำมาลัยข้าวตอก ที่คุ้มวัดฟ้าหยาด คุ้มวัดหอก่อง ซึ่งทางเทศบาลตำบลฟ้าหยาด กำลังเตรียมจัดงานประเพณี แห่มาลัยข้าวตอก ประเพณีอันยิ่งใหญ่ของชาวอำเภอมหาชนะชัย กำหนดจะจัดขึ้นก่อนวัน "มาฆบูชา” 1 วัน คือ ในวันที่ 11 – 13 กุมภาพันธ์ นี้ (กำหนดพิธีเปิดการแห่มาลัยข้าวตอก ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11.00 น.)

และหลังจากนั้น จะปั่นจักรยานไปท่องเที่ยว วัดพระพุทธบาทยโสธร นมัสการรอยพระพุทธบาท และพระพุทธรูปหยกขาวที่สวยงาม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยโสธร และประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก อำเภอมหาชนะชัย

ติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่เทศบาลตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร โทร.045-799103
                                                 

                                  ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์

สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดมุกดาหาร จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน

นางสาววิลาสินิ  สิงหภักดี นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดมุกดาหาร นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดมุกดาหาร จะดำเนินการขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน ๘ รายออกจากทะเบียนตามประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดมุกดาหาร ดังนี้ บริษัทเจษฎา ๙๒ จำกัด บริษัทเจษฎา ๒๙ จำกัด บริษัท โรงไฟฟ้ามุกดาหาร จำกัด บริษัทกลางประพันธ์อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิตยามุกดาหารการก่อสร้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒณวัฎฐ์ คอนสตรัคชั่น และห้างหุ้นส่วนจำกัด มุกดาค้าไม้ ๒๐๐๔ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มุกดาสวรรค์ กอล์ฟคลับ ซึ่งเห็นว่ามิได้ทำการค้าขายหรือประกอบการงานแล้ว

ดั้งนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒๗๓/๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดมุกดาหาร จึงขอประกาศว่าเมื่อพ้น ๙๐ วันนับแต่วันที่๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ นี้ ห้างหุ้นส่วนดังกล่าวข้างต้นจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น



สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร /ข่าว

อบจ มุกดาหาร ร่วมสืบสานประเพณีบุญข้าวจี่ มหัศจรรย์ ข้าวจี่ยักษ์

วันนี้ (5 ก.พ. 57) นางมลัยรัก ทองผา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานพิธีเปิดงานสืบสานประเพณีบุญข้าวจี่ประจำปี 2557 "มหัศจรรย์ ข้าวจี่ยักษ์ โดยมี นาย ชัยรัตน์ ไทยดำรงค์เดช  นายอำเภอ คำชะอี จังหวัดมุกดาหาร นายวิริระ ทองผา ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร และ คณะผู้บริหาร อบจ. สมาชิกสภา อบจ. หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น คณะกรรมการและชาวบ้านค้อ หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่11  จำนวน 15 คุ้ม กว่า 500 คน ร่วมเปิดงานสืบสานประเพณีบุญข้าวจี่ ณ บ้านค้อ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร

โดยงานสืบสานประเพณีบุญข้าวจี่ประจำปี 2557 ที่วัดชัยภูมิของค้อ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร นั้นจัดขึ้นในเดือนสาม  มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานประเพณีบุญข้าวจี่ของชุมชนชาวอีสาน ให้คงอยู่ตลอดไป  เพื่อแสดงถึงความรักความสามัคคีของชุมชนในการรวมพลังร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมด้าน ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีที่ดีงามของชาวอีสานบ้านค้อ ฮีต12 คอง 14 ให้มั่นคงสืบไป จรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา  เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และ เพื่อความเป็นสิริมงคล  เป็นขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้านได้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข  อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของอำเภอคำชะอี  โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย  การทำบุญตักบาตรข้าวจี่ การทำข้าวจี่ยักษ์ การแข่งขัน ปิ้งข้าวจี่  การประกวดขบวนแห่ของคุ้มต่าง ๆ การประกวดพาแลงอีสานการตกแต่งซุ้มของคุ้มต่าง ๆ และรำวงย้อนยุค การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ขบวนแห่วัฒนธรรมอีสานบ้านค้อ  แห่ไปรอบหมู่บ้าน  โดยได้รับการสนับสนุนการจัดงานจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร

นาย อานุภาพ พลยะเรศ ผู้อำนวยการกองการศึกษาและศาสนาวัฒนธรรม อบจ.มุกดาหารเปิดเผยว่า สำหรับประวัติประเพณีบุญข้าวจี่ นั้นเดิมเป็นงานประเพณีท้องถิ่นของภาคอีสาน ชาวบ้านจะมีการเก็บเกี่ยวข้าวเหนียวในท้องนาเพื่อมาเก็บไว้ในยุ้งข้าวแต่ก็มีการแบ่งไว้ส่วนหนึ่ง พอถึงวัน ขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 ของในทุกๆปี ชาวบ้านจะนำข้าวมารวมกันแล้วเอาไปสีเป็นข้าวสารเหนียว เพื่อมาทำข้าวจี่ โดยส่วนประกอบหลักของข้าวจี่เป็นน้ำผึ้งจากป่า และทาด้วยไข่ แล้วจึงนำมาปิ้ง ซึ่งพิธีงานบุญข้าวจี่นั้นจะมีพิธีการที่เรียบง่ายโดยช่วงเช้าจะเป็นการทำบุญเลี้ยงพระและช่วงสาย จะมีการแห่ข้าวจี่ และเครื่องเซ่นไหว้ประกอบด้วย ข้าวหลาม เหล้าขาว ไข่ต้มสุก หวายเผา และอาหารคาวหวานอื่นๆ มาทำพิธีไหว้สักการะพระที่วัด ในหมู่บ้าน ตามความเชื่อที่ศรัทธา ดังปาฏิหาริย์และสิ่งลี้ลับที่ปรากฏขึ้น

                                         
พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

มุกดาหาร จัดงานเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๕๗

จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหารจัดงานเทศกาลวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง สำหรับปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ ถือเป็นวันพระธรรม เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ ๔ ประการ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า " วันจาตุรงคสันนิบาต ” เป็นวันที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงวาทปาติโมกข์ ซึ่งเป็นหลักคำสอนสำคัญอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา สรุปใจความสำคัญมีเนื้อหาว่า " ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชจังหวัดมุกดาหาร จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ร่วมบำเพ็ญกุศลเวียนเทียน และฟังพระธรรมเทศนา ในวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๓๐ น. เป็นต้นไป ณ วัดศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร
ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว

มุกดาหาร เปิดการฝึกอบรมโครงการ “ หนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย ” ( OTOS ) จังหวัดมุกดาหาร ประจำปี 2557 รุ่นที่ 1

วันนี้ (5 ก.พ. 57) นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม โครงการ " หนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย ” ( ONE TAMBON ONE SEARCS AND RESCUE : OTOS ) จังหวัดมุกดาหาร ประจำปี 2557 รุ่นที่ 1 ณ วิทยาการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

นายเวชสุวรรณ อาจวิชัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร เผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดโครงการ " หนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย ”  (OTOS) ขึ้นโดนมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบกู้ชีพกู้ภัย และเป็นการเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

สำหรับการอบรมในครั้งนี้ต้องการให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างยั่งยืนและได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งเป็นอุบัติเหตุทางถนนและภัยพิบัติต่างๆ ประชาชนทุกคนมีสิทธิได้รับการบริการจาภาครัฐอย่างทั่งถึง เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน และบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นทีมกู้ภัยหรือหน่วยเผชิญเหตุมีความรู้ เจตคติ และทักษะในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพต่อไป




          พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มห/ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มห/เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ภาพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มอบเงินสนับสนุนให้แก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอนเข้าร่วมแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ ๓๒ (ศรีสุพรรณบุรีเกมส์)

050257 ห้องประชุม 203 ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร ได้นำคณะนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 32 (ศรีสุพรรณบุรีเกมส์) จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นนักกีฬาคนพิการและผู้ฝึกสอนจากโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหารร่วมกับสมาคมกีฬาจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 21 คน จาก 2 ชนิดกีฬา คือกีฬาเซปักตะกร้อทีมชายพิการทางหูและกีฬาวอลเลย์บอลทีมหญิงพิการทางหู เพื่อรับมอบเงินสนับสนุนจากทางจังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารพร้อมด้วยนายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานมอบเงินสนับสนุนในครั้งนี้ให้กับตัวแทนนักกีฬา และให้โอวาทแก่นักกีฬา ทั้งนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหารได้จัดสรรเงินเบี้ยเลี้ยงและค่าพาหนะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เป็นเงินจำนวน 70,986 บาทและสมาคมกีฬาจังหวัดมุกดาหารสนับสนุนเงินสดติดตัว(Pocket Money) คนละ 2,500 บาทเป็นจำนวนเงิน 52,500 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 32 (ศรีสุพรรณบุรีเกมส์) ต่อไป ในโอกาสนี้นายเอกอมร ศรีลาศักดิ์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดมุกดาหาร ได้มอบชุดวอร์มแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย

สำหรับนักกีฬาคนพิการตัวแทนจังหวัดมุกดาหารได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดด้วยดีเสมอมาโดยเฉพาะกีฬาวอลเลย์บอลหญิงประเภทความพิการทางหูได้รับรางวัลเหรียญทองมาแล้ว 5 สมัยซ้อน
 



          พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มห/ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มห/เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ภาพ

กสน.เซกา สร้างเยาวชนช่วยเหลือสังคม

วันนี้ (04-02-57) เวลา 09.30 น. ณ ศูนย์ประสานงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ บ้านเหล่าหนองยาง ตำบลเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ผศ.วรุณวรรณ ผาโคตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมอาสายุวกาชาดหลักสูตรพื้นฐานยุวกาชาด ซึ่งสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย ร่วมกับ กสน.อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ได้ดำเนินการจัดอบรมโดยมีเยาวชนในอำเภอเซกาที่เป็นนักเรียน กสน.อำเภอเซกาเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 80 คน ดำเนินการอบรมระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ. 57 โดยให้ความรู้ด้านการกาชาด การป้องกันชีวิตและสุขภาพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

นางนิชา คำชมพู ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเซกากล่าวถึงการจัดอบรมในครั้งนี้ว่าด้วยสภากาชาดไทยโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยทรงโปรดเกล้าฯ ให้สำนักงานยุวกาชาดดำเนินการพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจเลื่อมใสศรัทธา และเป็นกำลังสำคัญของสภากาชาดไทย โดยบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมตามหลักการกาชาดและยุวกาชาดอีกทั้งจะได้ร่วมกิจกรรมกับสภากาชาดไทยอย่างต่อเนื่อง (จึงโปรดเกล้าฯพระราชทานผ้าผูกคอยุวกาชาดนอกโรงเรียนไว้เป็นสัญลักษณ์ของผู้สำเร็จการอบรม ซึ่งปัจจุบันกิจกรรมอาสายุวกาชาดได้แพร่หลายไปสู้เยาวชนกลุ่มต่างๆทั่วทุกภูมิภาค กสน.อำเภอเซกาได้ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของกิจกรรมอาสายุวกาชาดและเพื่อเป็นการเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทยในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีแก่เยาวชนของชาติจึงได้จัดอบรมขึ้นในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ให้เยาวชนมีอุดมคติในศานติสุขมีความจงรักภักดีต่อชาติ สาสนา พระมหากษัตริย์ มีความรู้ความชำนาญในการรักษาอนามัยของตนเองและผู้อื่นตลอดจนพัฒนาตนเองทางร่างกาย จิตใจ และคุณธรรมและธำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ มีความรู้ความเข้าใจในหลักการและอุดมการณ์กาชาด บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ได้

กาชาดบึงกาฬร่วมกับโรงพยาบาลบึงกาฬ ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต

วันนี้ ( 04-02-57) เวลา 09.00 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ศูนย์การศึกษาบึงกาฬ ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ นำทีมโดย ผศ.วรุณวรรณ ผาโคตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบึงกาฬ จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ออกรับบริจาคโลหิต โดยมี อาจารย์ นักศึกษา ของมหาลัยราชภัฏอุดรธานี ศูนย์การศึกษาบึงกาฬ ที่มีจิตอาสา ร่วมบริจาคโลหิตในครั้งนี้ จำนวน 80 คน ได้โลหิต 31,200 ซีซี ซึ่งการจัดหาโลหิต เป็นภารกิจหลักประการหนึ่ง ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด ได้รับมอบหมายจากสภากาชาดไทยให้ดำเนินการ โดยจัดทำแผนการออกหน่วยรับบริจาคเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มความต้องการโลหิตมีประมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโลหิตที่ได้รับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ ได้มอบให้กับโรงพยาบาลบึงกาฬ สำรองไว้ในธนาคารโลหิต เพื่อไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้โลหิตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬได้รับความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการประสานและจัดหาโลหิตเป็นอย่างดี การบริจาคโลหิตถือเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะที่เ

ทหารพรานสนธิกำลังยึดกัญชามูลค่า 3 ล้านบาท

แก๊งค้ายาเสพติดขนกัญชาใส่เรือข้ามโขง เพื่อแลกไม้พะยูงกับพ่อค้าคนไทยหวังนำไปขายต่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ใช้รถยนต์ขนกลางดึกถูกทหารพรานสนธิกำลังสกัดจับแต่ขับหนีฝ่าวงล้อมไปได้ ทิ้งกัญชาที่นำไปไม่ได้ 3 กระสอบ 100 กิโลกรัมมูลค่า 3 ล้านบาท

เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 4 ก.พ. 57 พ.อ.มงคล หอทอง ผบ.ฉก.กรม.ทหารพรานที่ 21 สืบทราบว่าจะการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาส่งมอบให้กับกลุ่มพ่อค้าคนไทย บริเวณถนนริมฝั่งน้ำโขง หมู่ที่ 11 บ้านใหม่ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ ร.อ.กล้า ชัยวงษ์ ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2109 บึงกาฬ ประสานกับ พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ พ.ต.ต.อดุลย์ ฉิมทับ สว.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย ตชด.244 พ.ต.ท.สรรเสิรญ ศิริพันธุ์ สว.กก.3 บก.ปทส. พ.ต.ท.วัลลภ ขุนหมื่น สวญ.ตม.บึงกาฬ น.ต.การันต์ มินวงษ์ หน.สถานีเรือบึงกาฬเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร ออกทำการหาข่าวจุดที่แก๊งค้ายาเสพติดกับแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาตินัดพบกับ เวลาดังกล่าวพบเรือหาปลาขนาดใหญ่ขนาดกว้างประมาณ 1.5 เมตร ยาว 14 เมตรติดเครื่องยนต์วิ่งข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว วิ่งขึ้นลงในแม่น้ำโขงอยู่ 2 เที่ยวประมาณ 30 นาดี ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นการหาจุดนัดพบ จากนั้นได้วิ่งเข้ามาจอดอยู่ริมฝั่งโขง มีกลุ่มชายฉกรรจ์แบกกระสอบขึ้นมาจากเรือโยนขึ้นรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า ไม่ทราบสีและทะเบียนที่พึ่งขับเข้าจอด อยู่ห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งซุ่มรออยู่ประมาณ 30 เมตร จึงแสดงตัวเข้าจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ได้วิ่งแยกย้ายกันหลบหนี ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวคนขับก็ได้ขับหนีฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือขับหนีข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจตรงจุดที่รถจอดพบถุงพลาสติกสีดำ 3 ถุง ด้านในเป็นถุงปุ๋ยที่บรรจุกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 100 แท่งน้ำหนัก 100 กิโลกรัมที่คนร้ายขนไปไม่ทัน จึงยึดไว้เป็นของกลางนำส่ง พ.ต.ท.ฉายยนต์ ชาวดอน พนักงานสอบสวน สภ.บึงกาฬ ดำเนินคดีต่อไป

ด้าน ร.อ.กล้า ชัยวงษ์ ผบ.ทพ.2109 กล่าวว่า แก๊งค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ ได้นำกัญชาคาดว่าเที่ยวนี้จะมีถึง 400 กิโลกรัม เป็นกัญชาพึ่งตัดมาและบรรจุใหม่ๆ มีคุณภาพดี เพื่อนำมาแลกกับไม้พะยูงที่ทั้ง 2 กลุ่มค้าขายร่วมกันอยู่ จะเห็นจากการนำเรือขนาดใหญ่ขนกัญชามาเพื่อที่จะเตรียมมาบรรทุกไม้พะยูงขนกลับฝั่ง สปป.ลาว ส่วนไม้พะยูงที่จะนำมาแลกกับกัญชานั้นคาดว่าจะซุกซ่อนอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ แต่เมื่อกัญชาถูกสกัดจับจึงไม่นำไม้พะยูงลงเรือ

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบหมายให้นายชโลธร ผาโคตร ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดบึงกาฬ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานจำนวน 500 ผืนให้กับประชาชนอำเภอโซ่พิสัย โดยมี นายชัยวัฒน์ โอชนานนท์ นายอำเภอโซ่พิสัย กล่าวรายงาน ณ หอประชุมอำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ

วันนี้( 05-02-57 )เวลา 10.00 น. นายชโลธร ผาโคตร ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดบึงกาฬ เดินทางมามอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานจำนวน500 ผืน ให้กับประชาชนอำเภอโซ่พิสัยพร้อมกับพบปะพูดคุยกับกับประชาชนเพื่อให้กำลังใจ โดยจังหวัดบึงกาฬได้ประกาศให้พื้นที่อำเภอโซ่พิสัยเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยหนาวตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 56 และจากการสำรวจมีประชาชนที่เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยหนาวและต้องการเครื่องกันหนาวทั้งจังหวัดจำนวน 150,953 ชิ้น ซึ่งจังหวัดบึงกาฬได้ให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนไปแล้วในเบื้องต้นในส่วนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยได้รับการแจกจ่ายเครื่องกันหนาวจากภาครัฐและเอกชนไปแล้ว 25,112 ชิ้น และยังมีความต้องการอีก 125,841 ชิ้น สำหรับอำเภอโซ่พิสัยมีความต้องการ 45,150 ชิ้น ได้รับความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนไปแล้ว 5,382 ยังต้องการอีก 39,768 ชิ้น ซึ่งในส่วนที่ยังต้องการทางอำเภอโซ่พิสัยจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนต่อไป

เดือนแห่งความรัก อำเภอวังน้ำเขียว โคราช จัดงานเบญจมาศบานในม่านหมอก ระหว่างวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2557 ชมความงามของดอกเบญจมาศมากมายกว่า 30 ชนิด บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่

วันนี้ (5 ก.พ. 57) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ได้แถลงข่าวการจัดงานเบญจมาศบานในม่านหมอกครั้งที่ 12 ประจำปี 2557 โดยมีนายไพรัตน์ ลิ่มสกุล นายอำเภอวังน้ำเขียว เป็นประธานแถลงข่าว ซึ่งกำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของอำเภอวังน้ำเขียว โดยสถานที่ที่ใช้จัดงานยังคงเป็นพื้นที่เดิมที่จัดเป็นประจำทุกปี อยู่บริเวณรอบๆ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว บนเนื้อที่ที่ใช้จัดงานกว่า 40 ไร่ ซึ่งขณะนี้บริเวณพื้นที่จัดงานทั้งหมดได้ถูกปรับปรุง และปลูกเป็นสวนดอกเบญจมาศจนเต็มพื้นที่ โดยขณะนี้ดอกเบญจมาศบางส่วนเริ่มผลิดอกบานสะพรั่งแล้ว และช่วงวันงานดอกเบญจมาศก็จะออกดอกบานสะพรั่งสวยงามจนมองเห็นเป็นทุ่งลานดอกเบญจมาศตระการตา ซึ่งนอกจากดอกเบญจมาศแล้วบริเวณพื้นที่จัดงานยังมีการจัดแสดงสวนดอกไม้นานาพันธุ์จำนวนมากให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

สำหรับการจัดงานดอกเบญจมาศบานในม่านหมอกนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี ได้ร่วมกับหน่วยงานราชการภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2557 นี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 12 ในคอนเซ็ปต์ เบญจมาศบานในม่านหมอก มากระซิบบอกคนที่คุณรัก ณ วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นโอกาสดีในเทศกาลเดือนแห่งความรักที่คู่รัก หรือครอบครัว จะได้มีโอกาสเดินทางมาสัมผัสกับทุ่งดอกไม้เบญจมาศ และดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยวของอำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งถือว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งแดนอีสาน เพราะอำเภอวังน้ำเขียวมีระดับโอโซนบริสุทธิ์เป็นอันดับ 7 ของโลก

นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อบต.ไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว หมายเลขโทรศัพท์ 044-228238 หรือ ททท.สำนักงานนครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ 044-213666

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวขอนแก่นให้บริการทำหนังสือเดินทางได้ 200 คิว/วัน

ที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวขอนแก่น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำหนังสือเดินทางให้แก่ผู้ที่มารับคิวตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเปิดให้บริการทั้งวันไม่มีการพักเที่ยง โดยเปิดบริการทั้ง 10 ช่องบริการ แต่อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวขอนแก่นจำกัดการทำหนังสือเดินทางได้เพียงวันละ 200 คิวเท่านั้น

นางสาวพรทิพย์ กวีกิจปัตติพร รักษาราชการหัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวขอนแก่น เปิดเผยกับผุ้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ต้องจำกัดจำนวนการทำหนังสือเดินทางเพราะเนื่องจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะระบบออนไลน์ในการทำหนังสือเดินทางไม่สามารถทำได้ เบื้องต้นทางกรมการสุลได้แก้ไขปัญหาโดยเปิดสำนักงานชั่วคราวที่กรุงเทพฯ 2 แห่ง คือที่เซ็นทรัลบางนาให้บริการวันละ 1,750 คิว และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ให้บริการวันละ 1,300 คิว ขณะที่ตามภูมิภาคที่ภาคเหนือใช้สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวเชียงใหม่ ภาคใต้ที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวสงขลา และภาคอีสานที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวขอนแก่น โดยในส่วนภูมิภาคสามารถรองรับได้เพียงวันละ 200 คิวเท่านั้น ซึ่งต้องรอให้ กรมการกงสุลจึงจะเปิดให้บริการตามปกติ เสียก่อน



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ขอนแก่น กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดธาตุ พระอารามหลวง และพุทธมณฑลอีสานขอนแก่น

ขอนแก่น  กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา  เนื่องในวันมาฆบูชา  14  กุมภาพันธ์  2557  พิธีทำบุญตักบาตรเช้า ณ วัดธาตุ  พระอารามหลวง  และบ่ายเวียนเทียน  ณ  พุทธมณฑลอีสานจังหวัดขอนแก่น

นายประเสริฐ  ลือชาธนานนท์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เปิดเผยในการประชุมเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา  เนื่องในวันมาฆบูชา ว่า  เนื่องจากในวันที่  14  กุมภาพันธ์  2557 ตรงกับวันขึ้น  15  ค่ำ เดือน 3  เป็นวันมาฆบูชา  หรือวันที่สมเด็จพระสัมมนาพุทธเจ้าได้แสดงพระธรรมเทศนา  โอวาทปาติโมกข์  แด่พระอรหันต์สาวกของพระองค์ จำนวน  1,250 รูป  ที่มาประชุมกันเป็นครั้งแรกโดยมิได้นัดหมาย  ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา  คณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่น  ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวขอนแก่น  จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสตรา เนื่องในวันวิสาขบูชา ขึ้น ในวันศุกร์ที่  14  กุมภาพันธ์ 2557  โดยแบ่งการจัดกิจกรรมออกเป็น  2  ช่วง  ช่วงแรก  เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. จังหวัดขอนแก่นจะจัดให้มีการทำบุญตักบาตร  แด่พระภิกษุสงฆ์  ณ  วัดธาตุ  พระอารามหลวง  ส่วนช่วงที่ 2  ในช่วงบ่ายจะจัดกิจกรรมที่พุทธมณฑลอีสานขอนแก่น ตำบลกุดน้ำใส อำเภอเมืองขอนแก่น  เริ่มตั้งแต่เวลา  14.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เดินทางไปถึงบริเวณพิธี จากนั้นพระราชปริยัติโสภณ  เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น  จะแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์  จบแล้วพระสงฆ์  9  รูป  เจริญพระพุทธมนต์  จากนั้นจะมีการเจริญจิตภาวนา และประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์พุทธมณฑลอีสาน  3 รอบ  เป็นเสร็จพิธี

รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแกน  เปิดเผยเพิ่มเติมว่า  จังหวัดขอนแก่น  จึงขอเชิญชวน ข้าราชการ พ่อค้า  ประชาชน นักเรียน  นักศึกษา  และพุทธศาสนานิกชนทุกท่าน  ไปร่วมกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา  เนื่องในวันมาฆบูชา ทั้ง 2 จุด  โดยพร้อมเพรียงกัน  และท่านที่มีจิตศรัทธาจะร่วมทำบุญถวายน้ำปานะ หรือตั้งโรงทาน  ติดต่อได้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น  วัดธาตุ  พระอารามหลวง  หมายเลขโทรศัพท์ 0-4327-1055  ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



สมพงษ์ ปัตตานี/ ข่าว/อารมย์/พิมพ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นให้การต้อนรับคณะข้าราชการระดับสูง สปป.ลาว

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าคณะข้าราชการระดับสูง/ระดับกลางของกระทรวงแผนการและการลงทุน และกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ จากนครหลวงเวียงจันทร์ จังหวัดหลวงน้ำทา จังหวัดไชยะบุลี และจังหวัดอัตปือ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเยี่ยมและเข้าพบพร้อมได้บรรยายสรุปให้กับคณะจาก สปป.ลาว เรื่อง“กระบวนการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แผนการผลิตพืชและการดึงดูดการลงทุนสู่การปฏิบัติ” ในโอกาสที่คณะข้าราชการฯได้เดินทางมาศึกษาดูงานสถาบันฯลุ่มน้ำโขงและจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-8 กุมภาพันธ์ 2557ซึ่งการศึกษาดูงานนี้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ร่วมศึกษาดูงานมีความรู้ ความเข้าใจ ในการวางแผนและการลงทุนด้านการเกษตรของประเทศไทย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหน่วยงานในประเทศของต้น ซึ่งมีหัวข้อย่อยในการศึกษาดูงาน ดังนี้ 1การมีส่วนร่วมในกระบวนการกำหนดยุทธศาสตร์การผลิตพืชและการลงทุนกับส่วนกลาง2. กระบวนการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนการวางแผนดำเนินงานด้านการเกษตรและการลงทุนในระดับจังหวัด3. บทบาทการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน4. การวางแผนการชักนำและสร้างแรงจูงใจการลงทุนในประเทศและต่างประเทศและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น5. แนวทางของรัฐบาลและกลยุทธ์สำหรับการส่งเสริมการลงทุน6.ปัญหา อุปสรรค ปัจจัยความสำเร็จ



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นจัดงานเสวนาทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนสู่ AEC

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่างานสัมมนา รู้ทันเศรษฐกิจ&เจาะทิศทางการลงทุน ต้อนรับ AEC ณ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่จำนวนมาก กอปรกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการค้าโลก บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) เล็งเห็นถึงประโยชน์การให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนในการเตรียมความพร้อมที่จะตอบรับกับเศรษฐกิจและการค้าในปีนี้ถึงปีหน้า จึงมีความประสงค์จัดสัมมนาในหัวข้อดังกล่าวขึ้น ซึ่งในการสัมมนาได้รับเกียรติจาก ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและเจ้าหน้าที่จากฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างดี มาให้ความรู้และแนวทางการประกอบธุรกิจในการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน(AEC)จากหัวข้อการสัมมนาดังกล่าว ต้องขอขอบคุณบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) และหอการค้าจังหวัดขอนแก่นได้เล็งเห็นและให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกระดับให้เกิดความพร้อมเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้และปีหน้า รวมถึงเพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ การขยายกิจการ ตลอดจนเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการให้มากขึ้นอันจะมีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่นขยายตัวเพิ่มยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำความเจริญและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาสู่จังหวัดขอนแก่นในลำดับต่อไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ชาวนายุคใหม่ ต้องไถกลบฟางข้าว

 นายสมบูรณ์ ซารัมย์ เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งกับประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ว่า การไถกลบฟางข้าวเป็นการเพิ่มปุ๋ยให้แก่ดิน โดยสัดส่วนระหว่างน้ำหนักเมล็ดข้าวและฟางข้าว สำหรับนาปี คือ 1 : 2 (เมื่อเปรียบเทียบผลผลิตข้าวนาปีของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉลี่ย 361 กิโลกรัมต่อไร่) ดังนั้น จึงมีฟางข้าวในพื้นที่นา 1 ไร่ เท่ากับ 722 กิโลกรัมในฟางข้าวมีธาตุอาหารพืช ประกอบด้วย ไนโตรเจน 0.7% ฟอสฟอรัส 0.15% โปรตัสเซี่ยม 1.8% ซิริก้า 11% แมกนีเซี่ยม 0.25% และซัลเฟอร์ 0.80% กล่าวคือ ในพื้นที่ 1 ไร่มีฟางข้าวน้ำหนัก 722 กิโลกรัม หรือเทียบกับปุ๋ยอินทรีย์ 722 กิโลกรัม  และปุ๋ยอินทรีย์เหล่านี้มีธาตุอาหารพืชรวมกัน 106.13 กิโลกรัม ฟางข้าวจึงเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีคุณค่ามากมายมหาศาล การเผาฟาง คือ การเผาปุ๋ยในนาทิ้ง ถ้าเกษตรกรลงทุนไถกลบฟางข้าว  ไร่ละ  300 บาท จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ 722 กิโลกรัม  คิดเป็นมูลค่า กิโลกรัมละ 2 บาท คิดเป็นเงิน 1,444 บาท ซึ่งเกษตรกรจะมีกำไร 1,144 บาทต่อไร่

เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ บอกอีกว่า การไถกลบฟางข้าวมีประโยชน์มากกว่าที่คิด นอกจากเพิ่มปุ๋ยในการปรับปรุงบำรุงดินแล้ว ยังช่วยลดมลพิษทางอากาศและลดปัญหาโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง เป็นการคืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน โดยช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้ 10% ดินอุ้มน้ำและเก็บรักษาความชื้นได้ดียิ่งขึ้น และช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งได้ ดังนั้นชาวนายุคใหม่ต้องไถกลบฟางข้าว หากเกษตรกรท่านใดสนใจและต้องการไถกลบฟางข้าวสามารถแจ้งความประสงค์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้ท้องถิ่นของตนได้



ยุพดี ภูมูลเมือง / ข่าว

จ.กาฬสินธุ์ ประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ปี 2557

จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะและบรรยายธรรม เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 เพื่อคัดเลือกหาตัวแทนระดับจังหวัดเข้าประกวดระดับภาคคณะสงฆ์ ที่จังหวัดมหาสารคามต่อไป

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ศาลาการเปรียญวัดประชานิยม อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะและการประกวดบรรยายธรรมระดับจังหวัด เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 โดยมีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดดังกล่าว โอกาสนี้ พระมหาวัฒนวงศ์ อาภสสรเมที เจ้าอาวาสวัดอนุเขตตาราม ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวสัมโมทนียกถา เพื่อเป็นข้อคิด หลักธรรมให้กับผู้เข้าร่วมงานด้วย

นายบัญญัติ แสวงดี วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การสวดมนต์เป็นพิธีกรรมทางศาสนา เป็นการเชื่อมโยงระหว่างศาสนิกชนกับหลักธรรมคำสอนเข้าด้วยกัน ซึ่งบทสวดเป็นทำนองสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ที่เป็นองค์ประกอบของพระรัตนตรัย และในเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ และการประกวดบรรยายธรรม โดยประเภทสวดมนต์หมู่ มีโรงเรียน สถานศึกษา เข้าร่วมประกวด จำนวน 63 แห่ง แยกเป็นระดับประถมศึกษา 33 แห่ง มัธยมศึกษา 30 แห่ง , ประเภทบรรยายธรรม มีสถานศึกษา เข้าประกวด 42 แห่ง แยกเป็นระดับประถมศึกษา 20 แห่ง มัธยมศึกษา 22 แห่ง ซึ่งคณะกรรมการจะได้พิจารณาหาทีมชนะเลิศทั้ง 2 ประเภทเป็นตัวแทนจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร่วมประกวดระดับคณะสงฆ์ ณ จังหวัดมหาสารคามต่อไป



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว