วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557

ส.ปชส.สุรินทร์ อบรมทำความเข้าใจสื่อมวลชน เพื่อความร่วมมือการประชาสัมพันธ์แก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต

วันที่ 11 มี.ค. 57 นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการประชาสัมพันธ์สนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤติ 2557 ที่ห้องราชาวดี สวนป่ารีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภัยสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ที่ส่งผลกระทบกับประชาชน การเฝ้าระวังภัย การรับมือกับสาธารณภัย เช่น อุทกภัย วาตภัย ภัยแล้ง ไฟป่า ดินโคลนถล่ม รวมทั้งมาตรการของรัฐบาลในการเฝ้าระวังป้องกันภัย และการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ สื่อมวลชนทุกแขนง อาสาสมัครประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จากส่วนราชการ จำนวน 60 คน โดยมี นายแพทย์ธงชัย ตรีวิบูลย์วณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ และวิทยากรจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ ร่วมบรรยายให้ความรู้และความเข้าใจในการประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ ในสภาวะวิกฤตนั้นๆ

ด้านนางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมการอบรมสื่อมวลชนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ว่าการเกิดสาธารณภัยที่นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมหาศาล เช่น อุทกภัย ภัยแล้ง ไฟป่า ดินโคลนถล่ม การเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนภัยอื่นๆ ทั้งหมดส่งผลกระทบต่อสาธารณชนทั้งสิ้น ถือเป็นภาวะวิกฤตที่ส่งผลกระทบอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนเกิดการรับรู้และตระหนักถึงภัยดังกล่าว กรมประชาสัมพันธ์ได้มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดทุกจังหวัด จัดโครงการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติ ประจำปีงบประมาณ 2557 ขึ้น เพื่อที่จะให้สื่อสารมวลซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา โดยการช่วยเผยแพร่และทำความเข้าใจแก่ประชาชน ในเรื่องของการป้องกันและแก้ไขสภาวะวิกฤตนั้นต่อไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบูรณาการช่วยเหลือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหานั้นๆ


ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/ไวยวิทย์ สุขเก่า ภาพ

จังหวัดสุรินทร์เปิดอบรมโครงการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ระบุปัญหาสำคัญคือในเยาวชน พร้อมกำชับพ่อแม่ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานเคร่งครัดช่วงปิดภาคเรียน

วันที่ 10 มี.ค.57 ที่ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุรินทร์ ที่ 1 นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด จังหวัดสุรินทร์ ปี พ.ศ. 2557 โดยการนำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ได้รับการประชาคม ของศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอ ทุกแห่ง จำนวน 100 คน มาดำเนินการอบรม บำบัด ฟื้นฟู ไม่ให้หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ อีกทั้งเพื่อที่ต้องการขยายผลการดำเนินการด้านการปราบปรามและกดดันให้ยุติการค้าและการเสพอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญเพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรม พัฒนาทักษะด้ารครอบครัว สังคม อาชีพ ให้ผู้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูกลับไปดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เกี่ยวกับสภาพปัญหายาเสพติดของจังหวัดสุรินทร์ ในขณะนี้ โดยภาพหลักก็เหมือนว่าจะอยู่ในสภาพที่เบาบาง แต่เมื่อเจาะลึกลงไปในบางพื้นที่ก็ยังพบว่ามีความหนาแน่นของปัญหายาเสพติดอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่เขตอำเภอเมือง อ.รัตนบุรี อ.ชุมพลบุรี อ.ปราสาท ซึ่งเป็นอำเภอที่ยังพบปัญหาเรื่องยาเสพติดที่ค่อนข้างมาก เพราะเป็นอำเภอที่มีพลเมืองค่อนข้างมาก

โดยส่วนใหญ่ที่ทางจังหวัดมีมาตรการคุมเข้ม ทั้งมาตรการตรวจค้น มาตรการจับกุม ก็จะพบว่ามีกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เริ่มมีมากขึ้น แต่ก็เป็นกลุ่มอายุน้อยลง ประมาณ 14-15 ก็พบการกระทำผิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาหลักของจังหวัด ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไข ทั้งนี้รัฐบาลก็ให้โอกาสว่าผู้เสพฯ คือผู้ป่วยต้องเข้ารับการบำบัดรักษา และสร้างความเข้าใจ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้เป็นการปิดเทอมภาคฤดูร้อน สถาบันการศึกษาต่างๆ ก็ปิดการเรียนการสอน นักเรียน นักศึกษา และเยาวชน ก็จะมีการรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยเท่านั้น ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จังหวัดก็พยายามที่จะเฝ้าระวัง เพราะจังหวัดมีเป้าหมายที่จะเข้าไปกวดขันและจับกุมอย่างไร แต่ก็ยังฝากกำชับ พ่อแม่ผู้ปกครอง และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยกันดูแลบุตรหลานให้อยู่ในสายตา สิ่งใดที่ไม่ดี ก็ให้ว่ากล่าวตักเตือนกับบุตรหลานบ้าง แต่หากไม่ได้ผล จะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ ก็ยินดีที่จะเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่



ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/ไวยวิทย์ สุขเก่า ภาพ

จังหวัดอุบลราชธานี บูรณาการจัดฝึกอบรม ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนด้วยระเบียบวินัยสร้างชีวิตใหม่ด้วยสายใยรักแห่งครอบครัว รุ่นที่ 2 ประจำปี 2557

จังหวัดอุบลราชธานีบูรณาการจัดฝึกอบรม ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนด้วยระเบียบวินัยสร้างชีวิตใหม่ด้วยสายใยรักแห่งครอบครัว รุ่นที่ 2 ประจำปี 2557

วันที่ 12 มีนาคม 2557 ที่กองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนด้วยระเบียบวินัย สร้างชีวิตใหม่ด้วยสายใยรักแห่งครอบครัว รุ่นที่ 2 ประจำปี 2557 โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุบลราชธานีศูนย์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานีและกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อให้เยาวชนผู้เข้าค่าย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมระเบียบวินัย มีทักษะในการดำเนินชีวิต และเกิดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองทั้งร่างกายและจิตใจ สังคม อารมณ์ สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ปกติสุข เพื่อเสริมสร้าง ฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในจังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ครอบครัวที่เข้มแข็ง เอาชนะยาเสพติด และเป็นพลังแผ่นดินที่สำคัญของประเทศชาติ

โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนที่ถูกคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 51 คน ระยะการอบรม 7 วัน 6 คืน ระหว่างวันที่ 10-16 มีนาคม 2557 ที่กองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาอุบัติเหตุและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุศึกษาดูงานที่อุบลฯ

คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาอุบัติเหตุและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุศึกษาดูงานที่อุบลฯ

อุบลราชธานี : เพื่อรับทราบข้อมูลและปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนน มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ พร้อมศึกษาดูงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดอุบลราชธานี เช้าวันนี้ ( 12 มี.ค.57) นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน วุฒิสภา พร้อมคณะเดินทางประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบข้อมูลและปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนน มาตรการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดอุบลราชธานี โดยนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และหัวหน้าส่าวนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและชี้แจงผลการดำเนินงาน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำเสนอผลการดำเนินงานของจังหวัดอุบลราชธานี ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการและการบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งสามารถลดจำนวนครั้งและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสำคัญ ลงได้ พร้อมนี้ได้เสนอสภาพปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน เช่น เครื่องตรวจจับความเร็ว,เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์และอุปกรณ์ชะลอความเร็วรถในการตั้งจุดหรือด่านตรวจ ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน อีกทั้งการขาดวินัยจราจรและสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน

นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานผลการดำเนินงาน ประกอบด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด,ตำรวจภูธรจังหวัด,สำนักทางหลวงที่ 7 อุบลราชธานี,ขนส่งจังหวัด,แขวงการทางอุบลราชธานี แขวง 1 และ แขวง 2 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน วุฒิสภา ได้รับทราบผลการดำเนินงานพร้อมให้ข้อเสนอแนะและแนวทางดำเนินการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดอุบลราชธานี และคณะฯ ได้ลงพื้นที่ดูการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของตำรวจภูธรจังหวัด ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ด้วย

จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมเตรียมการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประจำปี 2557

จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมเตรียมการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประจำปี 2557 อุบลราชธานี : เชิญหน่วยงานราชการ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,รัฐวิสาหกิจ,ภาคเอกชนและช่างทำเทียน ร่วมหารือเตรียมการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ปี 2557 ภายใต้ชื่องาน 113 ปี งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ฮุ่งเฮืองเมืองธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ภูมิปัญญาชาวอุบล โดยเน้นปรับปรุงรูปแบบการจัดงานให้น่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยว

นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมหารือเตรียมการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 โดยเชิญส่วนราชการ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,รัฐวิสาหกิจ,ภาคเอกชนและช่างทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมปทุมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ที่ประชุมเห็นชอบใช้ชื่อการจัดงานว่า 113 ปี งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ฮุ่งเฮืองเมืองธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ภูมิปัญญาชาวอุบล โดยสืบเนื่องมาจากชาวอุบลราชธานี ได้ร่วมใจกันจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 112 ปี ในปี 2557 นี้ จะเป็นการจัดงานปีที่ 113 โดยกำหนดจัดงาน ตลอดเดือนกรกฎาคม 2557 โดยกำหนดพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาในวันที่ 11 กรกฎาคม 2557 และเปิดขบวนแห่เทียนเข้าพรรษาในวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 โดยเฉพาะการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปี 2557 นี้ จะมีปรับปรุงรูปแบบและวิธีการจัดงานจากปี 2556

ตลอดทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2557 ให้มีความน่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมงานเพิ่มมากขึ้น เช่น กิจกรรม เอ้เมืองเรืองโรจน์,ลั่นกลองโฮม ฮ่วมบุญเข้าพรรษา,เยือนชุมชน คนทำเทียน,ถนนสายธรรม ถนนสายเทียนพิธีรับเทียนหลวงและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน,เสพงันมโหรีมหาดุริยางค์,สืบสานศิลป์ เทียนถิ่นไทยดี, ของฝากของต้อน,งานพาแลง เบิ่งแญงสาวงามเทียนพรรษา,มหาเวียนเทียนวันอาสาฬบูชา,วิจิตรอลังกางามล้ำเทียนพรรษา,สว่างไสว ฮุ่งเฮืองเมืองธรรม,แห่ฟ้อนบูชา ราชธานีแห่เทียน ตลอดทั้งพิธีเปิดขบวนแห่เทียนเข้าพรรษา,พิธีมอบรางวัลต้นเทียนและการตั้งแสดงต้นเทียนที่ชนะการประกวดได้รับรางวัลทุกประเภท จังหวัดอุบลราชธานีถือเป็นต้นแบบของการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา โดยมีนายช่างทำต้นเทียนที่มีฝีมือในการทำต้นเทียนให้มีความสวยงาม จุดเด่นของต้นเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีที่แตกต่างไปจากจังหวัดอื่นๆ คือ ความสวยงาม วิจิตร พิสดาร ของต้นเทียน และเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธชาดก คำสอนทางพุทธศาสนา ที่นำมาถ่ายทอดออกมาในรูปลักษณ์ต้นเทียน และชุมชนจะมีการร่วมใจกันทำต้นเทียนพรรษา และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้มีโอกาสมาเยี่ยมชม มีส่วนร่วมในการทำต้นเทียนพรรษากับคนในชุมชน จะทำให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิตคนทำเทียนที่จังหวัดอุบลราชธานีอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองสมโภชเทียนพรรษาพระราชทาน ทั้ง 25 อำเภอ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพจัดทำต้นเทียนของอำเภอและทุกอำเภอจะมีขบวนต้นเทียนเข้าพรรษาร่วมขบวนแห่ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 ด้วย


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี

จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมทางไกลการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ปี 57

อุบลราชธานี : เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำคำรับรองร่วมประชุมรับฟังคำชี้แจง จาก ก.พ.ร. ตามกรอบการประเมินตามตัวชี้วัดยุทธศาสตร์จังหวัด,คุณภาพการให้บริการ,การเบิกจ่ายงบประมาณ,การประหยัดพลังงาน,การพัฒนาสมรรถนะองค์กรและการสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ

เช้าวันที่ (11 มี.ค.57) นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมทางไกลการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการของจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ซึ่ง ก.พ.ร. ได้แจ้งกรอบ ปฏิทินการปฏิบัติงาน แนวทางการจัดทำคำรับรองและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของจังหวัด รายละเอียดตัวชี้วัดตามกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 และร่างตัวชี้วัดตามคำรับรองฯ เพื่อให้จังหวัดใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการ และร่วมรับฟังการประชุมชี้แจงกรอบ หลักเกณฑ์และแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล ที่ห้องประชุมจินดารัตน์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี

ในปีงบประมาณ พ.ศ.2557 จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปี พศ.2557 ตามตัวชี้วัดยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดได้แก่มูลค่าการค้าชายแดนและรายได้จากการท่องเที่ยว ส่วนคำรับรองตามยุทธศาสตร์จังหวัดได้แก่ รายได้จากการท่องเที่ยว,มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรสำคัญ เช่นมันสำปะหลัง,ยางพาราและการจัดการขยะมูลฝอย การประเมินคุณภาพการให้บริการ ได้แก่ ความพึงพอใจของผู้รับบริการ เช่น งานบัตรประประชาชนและทะเบียนราษฎร์,งานจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม,งานบริการจัดหางาน,งานบริการผู้ป่วยนอก,งานการถ่ายทอดความรู้และการให้บริการทางการเกษตรและงานประกันสังคม การประเมินประสิทธิภาพ ได้แก่การเบิกจ่ายงบประมาณ ,การประหยัดพลังงาน และการประเมินการพัฒนาองค์การ ได้แก่ การพัฒนาสมรรถนะองค์การและการสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ

พร้อมนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในแต่ละตัวชี้วัดตามคำรับรองดังกล่าว ได้ทบทวนกรอบและหลักการประเมินในแต่ละตัวชี้วัดพร้อมจัดส่งให้จังหวัดทราบเพื่อรวบรวมนำเสนอ ก.พ.ร.ดำเนินการต่อไป


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

กรมวิทยาศาสตร์บริการ จับมือ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์

กรมวิทยาศาสตร์บริการ จับมือ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ "โครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOPประเภทผ้าทอสู่การรับรองมาตรฐานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร สุรินทร์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา สกลนคร และอุดรธานี” โดยมี นางสาวเสาวณี มุสิแดง อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธานเปิดการประชุม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อินทิรา ซาฮีร์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม รองศาสตราจารย์ ดร.อุทิศ อินทร์ประสิทธิ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวรายงาน และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันทร์เพ็ญ อินทรประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นที่ปรึกษาโครงการ สำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการย้อมสี ยกระดับกระบวนการผลิตสินค้า OTOP ประเภทผ้าทอ เป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ซึ่งเป็นการนำวิทยาศาสตร์สู่ชุมชน เพื่อช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม และต่อเนื่อง ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและบุคลากรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมากเข้าร่วมการประชุม เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ โรงแรมยูเพลส มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

จังหวัดอุบลราชธานีเตรียมจัดงานบุญประเพณีปิดทอง สรงน้ำ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง แห่ขบวนผะเหวด ตักบาตรดอกไม้ ฟังเทศน์มหาชาติ และทอดผ้าป่าสามัคคี ประจำปี2557 ในระหว่างวันที่ 5-15 เมษายน 2557 นี้

วันที่ 11 มีนาคม 2557 ที่ ห้องประชุมวัดมหาวนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ทหารตำรวจ พ่อค้า ประชาชน คณะสงฆ์ ทายก ทายิกา วัดมหาวนาราม โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมกัน ประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดงานบุญประเพณีปิดทอง สรงน้ำ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง แห่ขบวนผะเหวด ตักบาตรดอกไม้ ฟังเทศน์มหาชาติ และทอดผ้าป่าสามัคคี ประจำปี2557 โดยมี พระราชธีราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม รักษาการเจ้าอาวาศวัดมหาวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยงานดังกล่าว กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5 เมษายน 2557 ภายในกิจกรรมประกอบด้วย พิธีอัญเชิญน้ำสรง พระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ประกอบพิธีสรงน้ำ ปิดทอง พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง พิธีเฉลิมฉลองมหาสงกรานต์ ปีใหม่ไทย พิธีรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เนื่องใน วันผู้สูงอายุไทย ขบวนแห่ผะเหวด จากวัดหลวง เข้าสู่วัดมหาวนาราม พิธีตักบาตรดอกไม้ ถวายพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลว และฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ วันเดียวจบ สำหรับงานบุญประเพณี ปิดทอง สรงน้ำ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง แห่ขบวนผะเหวด ตักบาตรดอกไม้ ฟังเทศน์มหาชาติ และทอดผ้าป่าสามัคคี ได้จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี และกำหนดเป็นการบุญประเพณีประจำจังหวัดอุบลราชธานี บุญผะเหวด หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า บุญมหาชาติ หรือ บุญเดือนสี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเพณีการทำบุญตามฮีต 12 ของชาวอีสาน เป็นการทำบุญเพื่อรำลึกถึง พระเวสสันดร ผู้บำเพ็ญเพียรอันยิ่งใหญ่ ด้วยทานบารมีในชาติสุดท้าย 

ประธานคณะกรรมการด้านข้าว ประชุมสมาชิกสภาเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ให้กับเกษตรกร

วันที่ (10 มี.ค.57) ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการด้านข้าว ประธานประชุมคณะกรรมการด้านข้าว ครั้งที่ 4 /2557 โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยสมาชิกสภาเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวเปลือกจากการจำนำ การพิจารณาร่างกรอบแนวทางการบริหารจัดการเรื่องข้าวอย่างเป็น ระบบ ครบวงจร เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเรื่องข้าวอย่างยั่งยืนในระยะยาว การรับฟังความเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องระดับพื้นที่ เพื่อปรับปรุงร่างกรอบแนวทางการบริหารจัดการเรื่องข้าวอย่างเป็นระบบ การยกร่างกฎหมายว่าด้วยชาวนาและการพัฒนาเรื่องข้าวอย่างเป็นระบบครบวงจร การเตรียมมาตรการรองรับการผลิตผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ ทั้งนี้ได้พิจารณาข้อเรียกร้องร้องเรียนข้อเสนอแนะของสภาเกษตรจังหวัดเพื่อเป็นแนวทางเสนอให้รัฐบาลได้รับทราบปัญหาของเกษตรกรโดยเฉพาะโครงการรับนำข้าว ปี 2556/2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวในครั้งนี้อีกด้วย

สำนักงานแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการกระทรวงแรงงานพบประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 10 มีนาคม 2557 ที่ หอประชุมโดมใหญ่ วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดงาน โครงการกระทรวงแรงงานพบประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอุบราชธานีกำหนดจัดงาน โครงการกระทรวงแรงงานพบประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นเพื่อบูรณาการภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐและเอกชน การให้บริการประชาชนในพื้นที่ ที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการของภาครัฐ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับการบริการด้านแรงงานอย่างรวดเร็วและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดปัญหาการว่างงานให้แก่ประชาชน ที่เพิ่มทางเลือกในการประกอบอาชีพ ตลาดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกระทรวงแรงงานให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานประกอบด้วย นายจ้าง ลูกจ้าง เครือข่ายอาสาสมัครแรงงาน แรงงานนอกระบบ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป

โดยมีกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การให้บริการของหน่วยงานสังกัด กระทรวงแรงงานและหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมนัดพบแรงงาน การสาธิตการประกอบอาชีพอิสระ การรับการลงทะเบียนผู้แจ้งประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ กิจกรรมคลินิกการเกษตร โชว์รถจักรยานยนต์ การให้บริการนวดไทย การรับสมัครฝึกอาชีพ การให้บริการคำปรึกษาแนะนำในด้านต่างๆ เช่นด้านข้อกฎหมาย การให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยในการทำงาน การบริการงานประกันสังคมเคลื่อนที่ การรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตร 40 การตรวจสุขภาพฟรีจากโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมในจังหวัดอุบลราชธานี

กกต. จังหวัดอำนาจเจริญเปิดตัวผู้สมัคร และประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

วันที่ (10 มี.ค.57 )  เวลา 08.00 น. นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  เป็นประธานงานเปิดตัวผู้สมัคร  และประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.)  ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอำนาจเจริญ

นายสมบูรณ์   โหมดม่วง  ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง จังหวัดอำนาจเจริญ  กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลง  เมื่อถึงคราวออกตามวาระ ในวันที่ 2 มีนาคม 2557 ซึ่งตามมาตรา 118  วรรคหนึ่ง  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  บัญญัติว่า เมื่อวาระของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลง  พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกตั้งใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่วาระของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลง  และวันเลือกตั้งต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอำนาจเจริญ  ได้ประกาศการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เปิดรับสมัคร  ตั้งแต่วันที่  4 เดือนมีนาคม  ถึงวันที่  8 มีนาคม  2557  โดยจังหวัดอำนาจเจริญ  ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอำนาจเจริญ  โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของจังหวัดอำนาจเจริญ  จำนวน 4 ราย   ดังนี้  หมายเลข  1  นางญาณีนาถ    เข็มนาค   หมายเลข  2  นายชาญณรงค์  คณาเสน  หมายเลข  3  นายคชาเทพ  ดอกไม้   หมายเลข  4  นายธนกร  อิงคนินันท์   หลังจากนั้นได้ประชุมชี้แจงซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง  และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้กับผู้สมัครทุกคน จำนวน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งของจังหวัดอำนาจเจริญ  จำนวน 283,021 คน และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 30 มีนาคม 2557 นี้


ประกาศิต  สุวะทอง/ข่าว/ภาพ

จังหวัดศรีสะเกษ แถลงข่าวการจัดงานเทศกาล”ดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทยศรีสะเกษ” ประจำปี 2557

วันนี้ (12 มี.ค. 57) เวลา 10.00 น. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายวัฒนา พุฒิชาติ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ และนายชูเกียรติ โพธิโต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุรินทร์ แถลงข่าวการจัดงานเทศกาล "ดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทยศรีสะเกษ” ประจำปี 2557

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ปีนี้จังหวัดศรีสะเกษ จัดงานยิ่งใหญ่พิเศษกว่าทุกปี ปกติการจัดงานเทศกาล จะจัดในศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แรกของเดือนมีนาคม ของทุกปี แต่ปีนี้เนื่องจากว่าจังหวัดศรีสะเกษ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 "ศรีสะเกษเกมส์” ระหว่างวันที่ 13-23 มีนาคม 2557 จึงมีมติให้เลื่อนมาจัดในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ 14-15-16 มีนาคม 2557 ให้ตรงช่วงการแข่งขันกีฬา เพื่อจะให้นักกีฬา ผู้ปกครองของนักกีฬา ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬา ฯ ได้มีโอกาสเข้ามาเที่ยว และชมการแสดงแสง สี เสียง "ศรีพฤทเธศวร” ได้มานั่งรับประทานอาหารพาแลงระหว่างการชมการแสดง และในปีนี้ จังหวัดฯ ได้รับเกียรติจากพระเอกละครชื่อดังช่อง 7 ภูมิภาทิต นิตยารส ผลงานละครเรื่อง นางฟ้ามาเฟีย แสดงเป็นพระเจ้าสุริยะวรมัน ร่วมกับดาราหญิงช่อง 3 สิรินาถ สุคันธรัต (น้องกิ๊บ) ไทยซูปเปอร์โมเดล 2008 ผลงานละครเรื่อง ไฟมาร,บอดี้การ์ดสาว รับบทเป็นพระนางศรีเทวี ในคืนวันที่ 14 มีนาคม ส่วนในคืนที่ 2 แสดงโดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษศรีสะเกษ พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงษ์สมาน คืนวันที่ 16 มีนาคม แสดงโดยพ่อเมืองศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนในภาคกลางวันก็มีการจัดนิทรรศการวัฒนธรรม "ของดีบ้านฉัน” ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม มุมอาเซียน การแสดงศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตของสี่ชนเผ่า เขมร ส่วย ลาว เยอ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย



สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์ฉัตรชัย/สุรศักดิ์/บุญทัน ภาพ

จังหวัดศรีสะเกษ จัดพิธีบวงสรวงเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับทัพนักกีฬา ที่ร่วมการแข่งขัน ศรีสะเกษเกมส์ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 - 23 มี.ค. 57 นี้

จังหวัดศรีสะเกษ จัดพิธีบวงสรวงเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับทัพนักกีฬา ที่ร่วมการแข่งขัน ศรีสะเกษเกมส์ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 - 23 มี.ค. 57 นี้

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 มี.ค.57 ที่บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดศรีสะเกษ ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการประกอบพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่30 ศรีสะเกษเกมส์ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 - 23 มีนาคม 2557 ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ โดยมี นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองศรีสะเกษ พร้อมตัวแทน จากทัพนักกีฬา ร่วมพิธีบวงสรวงในครั้งนี้

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยสมาคมกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดส่งคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ สังกัดจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะ ตัวแทนภาค 3 เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 23 มีนาคม 2557 รวม 30 ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑา กาบัดดี้ คาราเต้โด จักรยาน เซปักตะกร้อ ( ตะกร้อลอดห่วง) เทควันโด เทนนิส เทเบิลเทนนิส บาสเกตบอล เปตอง ฟุตบอล ฟุตซอล มวยไทยสมัครเล่น มวยปล้ำ มวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก ยูโด เรือพาย ลีลาศ วอลเล่ย์บอลในร่ม - ชายหาด ว่ายน้ำ หมากล้อม แฮนด์บอลในร่ม - ชายหาด ฟันดาบสากล คริกเก้ต วู้ดบอล ซอฟท์บอล บริดจ์ ปันจักสีลัต รักบี้ฟุตบอล และกีฬาฮอกกี้ โดยมีทัพนักกีฬา ที่เข้าร่วมการแข่งขันจำนวนทั้งสิ้น 714 คน

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งเป้า ไว้อยู่ในอันดับ 1 -3 ของประเทศ ในฐานะเจ้าบ้าน เพื่อนำชื่อเสียงด้านการกีฬามาสู่จังหวัดศรีสะเกษ ต่อไป

จังหวัดร้อยเอ็ด แถลงข่าวเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพสถานที่ทัศนศึกษากองประกวด Miss Universe Thailand 2014

วันนี้ (12 มี.ค.57) เวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในการแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพสถานที่ทัศนศึกษากองประกวด Miss Universe Thailand ณ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีผู้เข้าร่วมการแถลงประกอบด้วย นายมังกร ยนต์กระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายเรืองรัตน์ รัตนโภคาสถิต รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด นางบัณจง ธนะแพสย์ ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด นายวิรุฬ มงคลศรีสวัสดิ์ ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด และนางประณม ถาวรเวช ผู้จัดการกองประกวด Miss Universe Thailand 2014

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด หอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดเป็นเจ้าภาพสถานที่ทัศนศึกษากองประกวด Miss Universe Thailand โดยจะมีกองประกวด Miss Universe Thailand และผู้เข้าร่วมประกวด Miss Universe Thailand จำนวน 120 คน เก็บตัวและทำกิจกรรมถ่ายทำ VTR ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 8 – 14 พฤษภาคม 2557 ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพสถานที่และทัศนศึกษาของประกวด ทั่งนี้ เพื่อส่งเสริมปีการท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ดขานรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 โดยผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand ทั้ง 44 สาวงามจะมีกิจกรรมในหลายพื้นที่ของจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อทำ VTR ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ดทุกด้าน ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวนาทุ่งกุลา ขั้นตอนขบวนการผลิตข้าวหอมมะลิที่ขึ้นชื่อของจังหวัดร้อยเอ็ด แหล่งท่องเที่ยวด้านโบราณสถาน ด้านศาสนา และศิลปวัฒนธรรม วิถีของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดมีความพร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ภายในเขตเทศเมืองร้อยเอ็ดและอำเภอรอบนอกทั้ง 20 อำเภอ โดยหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดให้มีการจัดงาน กาลาดินเนอร์ เดินแบบของสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 44 สาวงาม ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2557 ณ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้นร้อยเอ็ด เพื่อจัดหารายได้สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพสถานที่ทัศนศึกษากองประกวด Miss Universe Thailand ครั้งนี้ด้วย


วิมล เร่งศึก/ข่าวกมลพร คำนึง/บก.ข่าว

ยโสธรแกนนำเด็กและเยาวชนเข้าพบผู้ว่า

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร นางสาววัชรี กุลราช นำแกนนำเด็กและเยาวชน ในโครงการพัฒนาทักษะเด็กและเยาวชนสู่อาเซียน เข้าพบ นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด ในโอกาสที่เดินทางไปทัศนศึกษาดูงาน ตามแหล่งเรียนรู้ จาก 9 อำเภอ ของจังหวัดยโสธร ซึ่งแหล่งเรียนรู้ ทั้ง 9 อำเภอ ประกอบไปด้วย แหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม/ ด้านความเป็นอยู่วิถีอีสาน เพื่อให้แกนนำเด็กและเยาวชน ในโครงการพัฒนาทักษะเด็กและเยาวชนสู่อาเซียน ได้เกิดความรักและหวงแหนศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ได้ซึบซับวัฒนธรรม ประเพณีพื้นบ้านอันเก่าแก่ของชุมชน เพื่อการอนุรักษ์ให้คงอยู่ และลดปัญหาในกลุ่มเด็กและเยาวชนในการที่จะก้าวเข้าไปสู่ประชาคมอาเซียน ก่อนที่แกนนำเด็กและเยาวชน ในโครงการฯ จะได้ออกทัศนศึกษา นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ให้โอวาส ขอให้แกนนำเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ เก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาดูงาน มาปรับใช้ในการพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นของตนเองให้เจริญก้าวหน้า และนำไปขยายผลต่อไปยังชุมชนอื่นๆให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถตอนรับอาเซียนได้อย่างภาคภูมิใจต่อไป

ยโสธรชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจัดประชุม

ยโสธรชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จัดประชุม วาระแก้ไขระเบียบและบทบาทหน้าที่ โดยมีตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมสังเกตการณ์ ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้โอวาท กำนันผู้ใหญ่บ้าน ในโอกาสที่จัดประชุมสัมมนา ด้วยนายกสมาคมชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดยโสธรคนเก่า ได้หมดวาระลง ทางสมาคมจึงได้จัดประชุมเพื่อดำเนินการคัดเลือกนายกสามาคมคนใหม่ และมีวาระในการปรับปรุงระเบียบข้อบังคับของสมาคมให้ทันสมัย เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้มีความเข้าใจในระเบียบข้อบังคับของสมาคม รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การประชุมสัมมนาในครั้งนี้มีตัวแทนชมรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมสังเกตการณ์

ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่ยโสธร

ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ยโสธร ที่ห้องสื่อการเรียนการสอน วิทยาลัยเทคนิคยโสธร นายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรทางการศึกษา ให้การต้อนรับ ดร.จิรพรรณ ปุณเกษม ผู้ตรวจราชการกระทวงศึกษาธิการ เขต 11 /เขต 13 และคณะ จากการลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดยโสธรในครั้งนี้ ด้วยรัฐบาลมีแนวทางตรวจราชการแบบบูรณาการ เพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ ติดตามนโยบายของรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 คณะผู้ตรวจราชการกระทวงศึกษาธิการ เขต 11 /เขต 13 จึงได้เดินทางมาตรวจราชการในครั้งนี้ โดยเน้นการตรวจ ด้านผลกระทบต่อการจัดการศึกษา ปัญหาอุปสรรค ต่างๆ พร้อมรับข้อเสนอแนะนำไปแก้ไขปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา ต่อไป

พระมหาสมปอง บรรยายธรรมะในวันสตรีสากลที่ยโสธร

จังหวัดยโสธรนิมนต์พระมหาสมปอง แสดงธรรมะเดลิเวอรี่ ในวันสตรีสากล ที่ห้องประชุมวิถีอีสาน หน้าศาลากลางจังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเปิดงาน วันสตรีสากล โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร ได้จัดงานวัน สตรีสากล ประจำปี 2557 ขึ้น นางสาววัชรี กุลราช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร กล่าวว่า สหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล เพื่อเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรี ที่ได้มาซึ่งความเสมอภาค และสันติภาพ จังหวัดยโสธรจึงได้จัดงานวันสตรีสากล เพื่อประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีดีเด่นของ จังหวัดยโสธร ซึ่งกิจกรรมวันนี้ประกอบไปด้วย การมอบใบประกาศเกียรติคุณ แก่สตรีดีเด่นจังหวัดยโสธร จำนวน 80 คน ฟังธรรมะบรรยาย ในหัวข้อ พลังสตรีกับการยุติความรุนแรง บรรยายโดยพระมหาสมปอง ตาลปุตโต พร้อมจัดให้มีตลาดนัดสีเขียว/ ตลาดนัดสินค้าราคาถูก ธงฟ้า และชมนิทรรศการ/ ออกร้านผลิตภัณฑ์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมี กลุ่มสตรีทั้งทั่งจังหวัดยโสธร จำนวน 9 อำเภอ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 600 คน

ยโสธร จัดกระทรวงแรงงานพบประชาชนให้มีงานทำช่วยภัยแล้ง

นางสาวจินตนา ทังศิริ แรงงานจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธรอนุมัติให้สำนักงานแรงงานจังหวัดยโสธร จัดโครงการกระทรวงแรงงานพบประชาชน โดยร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน และอำเภอเลิงนกทา องค์การบริหารส่วนตำบลสามแยก จัดกิจกรรมให้บริการด้านแรงงานแก่ประชาชน ร่วมกับโครงการอำเภอยิ้มเคลื่อนที่ ของอำเภอเลิงนกทา ในวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ที่องค์การบริหารส่วนตำบลสามแยก อำเภอเลิงนกทา กิจกรรมประกอบด้วย
              1. ให้บริการจัดหางานเคลื่อนที่
              2. สาธิตการประกอบอาชีพอิสระกว่า 10 สาขาอาชีพ
              3. บริการตรวจซ่อม เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ และตรวจซ่อมเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า
              4. บริการตัด ซอย ผมสุภาพสตรี
              5. บริการทางการแพทย์
              6. จำหน่ายสินค้าราคาถูก และสินค้า OTOP
              7. ให้คำปรึกษาแหล่งเงินกู้
              8. คลินิกแรงงาน โดยการประชาสัมพันธ์ จัดนิทรรศการ ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับภารกิจของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน และรับเรื่องร้องทุกข์/ร้องเรียนด้านแรงงาน และให้บริการอำเภอเคลื่อนที่ของอำเภอเลิงนกทา ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลสามแยก

จึงขอเชิญชวนประชาชนวัยแรงงาน นักเรียน นักศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ กลุ่มแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ กลุ่มแม่บ้าน ผู้รับงานไปทำที่บ้าน
ไปงานกระทรวงแรงงานบริการประชาชน วันที่ 13 มีนาคม นี้ ที่ อบต.สามแยก
อ.เลิงนกทา


ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์ 

ผลการออกสลากกาชาดจังหวัดยโสธร ปี 2557

ผลการออกสลากกาชาดจังหวัดยโสธร ในงานวันสถาปนาและงานกาชาด คืนสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 10 มีนาคม 2557 ที่บริเวณสวนสาธารณะบุ่งน้อย – บุ่งใหญ่ ดังนี้

             รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล 40722 รถยนต์บรรทุกกระบะ โตโยต้า รุ่น vigo 2.5 j (cab) ขนาดเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี
             รางวัลที่ 2 มี 2 รางวัล 30713 , 12135 รถจักรยานยนต์ yamaha รุ่น spark nano
             รางวัลที่ 3 มี 5 รางวัล 52289 , 20342 , 11620 , 14826 , 25530 ทองคำมูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท
             รางวัลที่ 4 มี 10 รางวัล 19237 , 19884 , 19622 , 28823 , 45114 , 37614 , 23232 , 49211 , 18051 , 41834 ทองคำมูลค่ารางวัลละ 2,500 บาท
             รางวัลเลขท้ายสามตัว มี 50 รางวัล เลขที่ออก 118  เป็นทองคำมูลค่า 500 บาท
             และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว มี 500 รางวัล เลขที่ออก 45 เป็นทองคำมูลค่า 200 บาท

ผู้ที่ถูกรางวัล ติดต่อรับรางวัลได้ที่ เหรัญญิกเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร ชั้น 4 ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง วันที่ 10 พฤษภาคม 2557 โทร. 045-712726 หากพ้นกำหนดนี้ถือว่าสละสิทธิ์


ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์ 

สรุป สว.ยโสธร

รายชื่อผู้สมัคร สว. จังหวัดยโสธร สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธร ได้เปิดรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดยโสธร ซึ่งรับสมัครตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2557 ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2557 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธร โดยมีผู้มารับสมัคร ทั้งหมด 4 คน ผู้สมัครได้ หมายเลข 1 คือนายวิฑูรย์ วงษ์ไกร หมายเลข 2 นางประยูร เหล่าสายเชื้อ / หมายเลข 3 นายอนุสรณ์ โพธิ์ไพร / และ หมายเลข 4 นายศราวุธ พาลพล ปรากฏว่า ผู้สมัครหมายเลข 3 นายอนุสรณ์ โพธิ์ไพร ขาดคุณสมบัติ สรุป การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดยโสธร มีผู้มาสมัครทั้งสิ้น 3 คน คือ ผู้สมัครได้ หมายเลข 1 คือนายวิฑูรย์ วงษ์ไกร หมายเลข 2 นางประยูร เหล่าสายเชื้อ /และหมายเลข 4 นายศราวุธ พาลพล พร้อมกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 30 มีนาคม 2557 นี้

เตือนเกษตรกรป้องกันการระบาดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง

นายสกล คุณอุดม เกษตรจังหวัดยโสธร แจ้งเตือนเกษตรกรที่กำลังปลูกมันสำปะหลังเตรียมตัวป้องกันการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม เนื่องจากสภาพอากาศโดยทั่วไปจะแห้งแล้ง และมีลมพัดแรงซึ่งเอื้อต่อการระบาดของเพลี้ยแป้ง โดยเฉพาะในมันสำปะหลังที่ปลูกอายุไม่เกิน 4 เดือน ซึ่งเริ่มแตกยอดอ่อนและลำต้นมีขนาดเล็กเหมาะสำหรับเป็นที่อาศัยของเพลี้ยแป้งเป็นอย่างดี จากการติดตามสถานการณ์การระบาดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังของจังหวัดยโสธร ประจำเดือนมกราคม พบว่ามีการระบาดของเพลี้ยแป้งในพื้นที่อำเภอทรายมูล อำเภอมหาชนะชัย อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอค้อวัง อำเภอป่าติ้ว และอำเภอเลิงนกทาเพียงเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นระบาดรุนแรง และเพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้เพลี้ยแป้งระบาดรุนแรง จึงขอแนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติ ดังนี้
               - หากพบเพลี้ยแป้ง 1 – 2 จุด ให้เด็ดยอดและทำลายนอกแปลง
               - ถ้าหากพบเพลี้ยแป้ง 3 จุดขึ้นไป ให้ปล่อยแมลงช้างปีกใส 200 – 500 ตัวต่อไร่ หรือใช้เชื้อราบิวเวอร์เรียฉีดพ่นบริเวณโคนต้น อัตราส่วน 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
               - หากพบการระบาดในมันสำปะหลังที่มีอายุ 4 – 8 เดือน ให้ตัดยอดที่มีเพลี้ยแป้งใส่ถุงมัดปาก และนำไปเผาทำลายนอกแปลง พร้อมทั้งให้รีบเก็บเกี่ยวผลผลิตทันที และทำลายซากต้นมันสำปะหลังทั้งหมดนอกแปลง
               - สำหรับมันสำปะหลังอายุ 8 เดือนขึ้นไป หากพบการระบาดให้เก็บเกี่ยวันสำปะหลังทัรนทีและเผาทำลายซากต้นมันสำปะหลังนอกแปลง
               - ในกรณีที่ปลูกใหม่ แนะนำให้เกษตรกรแช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีก่อนปลูกทุกครั้ง แต่ไม่ควรนำสารเคมีไปฉีดพ่นในแปลงเพื่อกำจัดเพลี้ยแป้งเนื่องจากจะทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธร โทร.045- 773020 หรือสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์ 

ประมงจังหวัดยโสธร เตือนภัยแล้งแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

นายไพรัตน์ ขนันไทย ประมงจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธร ได้เกิดภาวะแห้งแล้งขึ้น ส่งผลกระทบให้ปริมาณน้ำมีน้อยทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งน้ำเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และเกิดผลกระทบต่อการประมงตลอดจนสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมต่อการแพร่ขยายพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ จึงให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเตรียมป้องกันและแก้ไขล่วงหน้าโดยมีวิธีปฏิบัติดังนี้

              1. ควบคุมการใช้น้ำและรักษาปริมาณน้ำในที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด ป้องกันการรั่วซึมของบ่อ หรือจัดทำร่มเงาให้กับบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ
              2. จัดเตรียมหาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้เพิ่มเติม
              3. ลดปริมาณการให้อาหารสัตว์น้ำลงโดยเฉพาะอาหารสด เพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย
             4. จับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นจำหน่าย/บริโภค เพื่อลดปริมาณสัตว์น้ำในบ่อ/กระชัง
             5. ควรงดเว้นการขนถ่ายสัตว์น้ำ ถ้าจำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก เนื่องจากจะมีผลกระทบกับการกินอาหาร และการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำโดยตรง
             6. ควรปล่อยสัตว์น้ำลงเลี้ยงในปริมาณไม่แน่นเกินไป และควรปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ เพื่อลดช่วงระยะเวลาการเลี้ยงให้น้อยลง
             7. ต้องสนใจสังเกตอาการต่าง ๆ ของสัตว์น้ำ หากมีอาการผิดปกติจะได้แก้ไข และให้การรักษาได้ทัน
             8. ควรมีการวางแผนการเลี้ยง หรืองดเว้นการเลี้ยงในช่วงดังกล่าว โดยทำการตากบ่อ และตกแต่งบ่อเลี้ยงกระชังปลาในช่วงดังกล่าว เพื่อเตรียมไว้เลี้ยงสัตว์น้ำในรอบต่อไป
             9. มีปัญหาด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

ติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัดยโสธร ถนนแจ้งสนิท 92 หมู่ที่ 12 ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร 35000 โทร/โทรสาร 045-712741  ,045-722096 หรือสำนักงานประมงอำเภอทุกอำเภอ



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์

ประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร พาสื่อสัญจรดูงานโครงการพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง ยโสธร – อำนาจเจริญ

นายไพชยนต์ ชนะกาญจน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า วันที่ 12 – 13 มีนาคม นี้ จะพาสื่อมวลชน,นักจัดรายการวิทยุ,ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์,หนังสือพิมพ์ จำนวน 30 คน ไปเยี่ยมชมโครงการ ตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นโครงการของกรมประชาสัมพันธ์ ให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดดำเนินงานในช่วง 2-3 เดือนนี้ทั่วประเทศ เป็นหนึ่งในแผนประชาสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สื่อมวลชนขยายผลประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นประโยชน์ของการดำเนินชีวิต แบบเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักประหยัด ปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ ไว้รับประทานเอง

วันที่ 12 มีนาคม 2557 เวลา 09.00 น. ไปเยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่หนองอึ่ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัด ชมการสาธิตการอัดไข่มดแดงกระป๋อง และชมกลุ่มเลี้ยงปลาในกระซังที่ได้มาตรฐาน GAP ในการดูแลของสำนักงานประมงจังหวัดยโสธร ณ บ้านแจ้งน้อย ต.ค้อเหนือ อ.เมืองยโสธร

หลังจากนั้น เวลา 13.00 น. เดินทางไปเยี่ยมชมครอบครัวต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง บ้านของนายสมบูรณ์ เจริญตา อายุ 62 ปี บ้านห้องแซง ต.ห้องแซง อ.เลิงนกทา และนอนพักแบบพอเพียง ที่หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ บ้านโฮมสเตย์ บ.ห้องแซง อ.เลิงนกทา ของเทศบาลเลิงนกทา

วันที่ 13 มีนาคม 2557 เวลา 09.00 น. เดินทางไปเยี่ยมชม "ศูนย์ส่างฝัน” เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ที่มีชื่อเสียงของ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มีความเด่นเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเชิงธรรมะ สมาชิก จะปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ผลิตข้าวกล้อง ทานอาหารแบบมังสวิรัต

การพาสื่อเดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงที่ยโสธร และจังหวัดอำนาจเจริญ ครั้งนี้ สื่อมวลชนจะได้ความรู้ถึงความแตกต่าง 2 – 3 ประการคือ การดำเนินชีวิตแบบคนในเมือง.กับอยู่แบบชาวบ้าน ปลูกพืช-ผัก-เลี้ยงสัตว์กินเอง ก่อให้เกิดความประหยัด มีรูปแบบและวิธีการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงหลากหลาย แต่เป้าหมายอันเดียวกัน คือ ความประหยัด อยู่อย่างพอเพียง....


ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์

จังหวัดยโสธร แจ้งเตือนระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งการติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าระหว่างวันที่ 10-15 มีนาคม 2557 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่บริเวณดังกล่าวมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอยู่ ซึ่งมีอากาศร้อนตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวน ซึ่งเป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา

จังหวัดยโสธร แจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระวังภัยอันเกิดจากสภาวะอากาศแปรปรวน เป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน บ้านเรือน โรงเรือน และพืชผลทางการเกษตร ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 5-6 วันนี้ (10 – 15 มีนาคม 2557) และให้ระมัดระวังการใช้เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ กลางที่โล่งแจ้งในขณะเกิดฟ้าคะนอง



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหารจัดกิจกรรมเสวนาและศึกษาดูงาน ศูนย์ศิลปาชีพอุบลราชธานี

วันนี้ (๑๒ มี.ค.๕๗) เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ศูนย์ศิลปาชีพอุบลราชธานี บ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี นายแสงทอง อนันตภักดิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร นำกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายสื่อมวลชน ผู้นำชุมชน จัดเวทีเสวนาและศึกษาดูงานโครงการตามพระราชดำริศูนย์ศิลปาชีพอุบลราชธานี ซึ่งเป็นการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณีกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตามโครงการประชาสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมาหากษัตริย์ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจาก พลโทวีระ สินธุวงศานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปาชีพอุบลราชธานี และเยี่ยมชมกลุ่มการทอผ้า การชุบเงินชุบทอง ชมศูนย์นิทรรศการ และชมกิจการฟาร์มตัวอย่าง เพื่อเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

นายแสงทอง อนันภักดิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวในโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทุกพระองค์ทรงมีพระปณิธานที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรของพระองค์มาโดยตลอด การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ รวมทั้งสร้างความตระหนักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยผ่านเครือข่ายสื่อมวลชนและผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ให้เป็นโครงข่ายที่กว้างไกล



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว 
พิพัฒน์ เพชรสังหาร สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

จังหวัดมุกดาหาร ประกาศเตือนภัย “พายุ ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง จากวาตภัย”

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ ๑๐-๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่บริเวณดังกล่าวมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอยู่ ซึ่งมีอากาศร้อนตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวน ซึ่งเป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ต่อจากนั้นอุณภูมิจะลดลง ๓-๕ องศา

ทั้งนี้ ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดมุกดาหาร ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ในระยะ ๕-๖ วันนี้(๑๐-๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗) โดยให้ดูแลบ้านเรือนโรงเรือนสิ่งก่อสร้างต่างๆให้แข็งแรง ตัดแต่งต้นไม้และกิ่งไม้ ระมัดระวังการใช้เครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์มือถือกลางที่โล่งแจ้งในขณะเกิดฟ้าคะนองด้วย หากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่และขอความช่วยเหลือเบื้องต้น ที่ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัยโทร ๐๒-๒๔๓๗๔๕-๖  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หมายโทรศัพท์ ๐๔๒-๖๓๓๑๐๑ ๐๔๒-๖๑๒๒๔๓


สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหาร จัดอบรมพัฒนาและขยายเครือข่ายประชาชนด้านการข่าวเพื่อสร้างฐานมวลชนในการสนับสนุนข้อมูลข่าวสาร

ตามที่จังหวัดมุกดาหารมีสภาพพื้นที่เป็นจังหวัดชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวของปัญหาต่างๆ ไม่ว่าปัญหายาเสพติด การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ การหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งที่ทำการปกครองจังหวัดมุกดาหารได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดอบรมโครงการพัฒนาและขยายเครือข่ายประชาชนด้านการข่าว เพื่อสร้างฐานมวลชนในลักษณะเครือข่ายสนับสนุนข้อมูลข่าวสารในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมและความมั่นคงรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ ขึ้น ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดมุกดาหารที่ ๑ โดยมีนายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการอบรม ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายรักษาความสงบ กรรมการหมู่บ้านฝ่ายป้องกัน เจ้าหน้าที่แหล่งข่าวที่ทางอำเภอได้จัดตั้ง จำนวน ๖๖ คน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน ๑๔ คน รวม ๘๐ คน ใช้ระยะเวลาในการอบรมระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๗

นายพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ปลัดจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวว่า คาดว่าผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์บ้านเมือง รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในความร่วมมือเพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยอย่างดีที่สุด


พิพัฒน์  เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ลม ฟ้า อากาศ : วันที่ 11 มีนาคม 2557

สภาวะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางแห่งในระยะนี้ลม ฟ้า อากาศ : บริเวณ จ.มุกดาหาร - พยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันนี้ ถึงเวลา 12.00 น. วันพรุ่งนี้ - อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 20-23 องศาเซลเซียส ช่วงบ่ายท้องฟ้ามีเมฆมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ประมาณ 10% ของพื้นที่จึงจะต้องระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ไว้ด้วย อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ทัศนวิสัยทั่วไป 10-12 กม.และลดลง 5-7กม.ในบริเวณที่ฝนตก ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. คาดว่า อุณหภูมิสูงสุดบ่ายวันนี้ 32.0°C คาดว่า อุณหภูมิต่ำสุดเช้าพรุ่งนี้ 20.0°C ลม ฟ้า อากาศ: การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ และด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศคลายความร้อนลงอุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร - ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย เนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน

รวมทั้งดูแลอุณหภูมิในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย - สำหรับในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชก แรงเกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของพืชที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง ลม ฟ้า อากาศ : สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดมุกดาหาร เช้าวันนี่ - ความชื้นสัมพัทธ์ 78 % ลม สงบ เมฆ มีเมฆเต็มท้องฟ้า ทัศนวิสัย 9.0 กม. ความกดอากาศ 1015.2 hPa พระอาทิตย์ขึ้นเช้าพรุ่งนี้ 06:10 น. พระอาทิตย์ตกเย็นวันนี้ 18:11 น. อุณหภูมิสูงสุดบ่ายวานนี้ 33.8°C อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ 22.0°Cปริมาณฝนรวมทั้งจังหวัดตั้งแต่ต้น ปี-ปัจจุบัน 78.4 มิลลิเมตร



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จัดหางานจังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์ ปัญหาการทำงานในประเทศลิเบีย

นางสาวจรัสศรี  อิฏฐกุล จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี รายงานเกี่ยวกับแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศลิเบีย จำนวน ๖๐ คน ร้องเรียนบริษัทนายจ้างชื่อบริษัท General Construction Company Misurata ประเทศลิเบีย เนื่องจากได้รับค่าจ้างล่าช้าและได้ทำงานไม่ตรงตามตำแหน่งงานที่ระบุในสัญญาจ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับแรงงานไทย

สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร แจ้งให้คนหางานที่สนใจเดินทางไปทำงานในประเทศลิเบียทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นขณะทำงาน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเดินทางไปทำงานประเทศลิเบีย ได้แก่ ปัญหาการจ่ายเงินเดือนล่าช้า (กรณีเป็นบริษัทลิเบีย) นายจ้างบางบริษัทอาจติดค้างค่าจ้าง ๑ – ๓ เดือน ปัญหาความไม่สะดวกในการโอนเงินกลับประเทศ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังใช้การโอนเงินผ่านบริษัท ปัญหาด้านความปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันประเทศลิเบียยังมีกลุ่มติดอาวุธ รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างชนเผ่า ซึ่งรัฐบาลยังไม่สามารถปลดอาวุธกลุ่มกองกำลังเหล่านี้ได้ จึงอาจเกิดปัญหาการจี้ ปล้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติจะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจถูกจี้ปล้นได้ง่ายเพราะไม่มีอาวุธป้องกันตนเอง

ทั้งนี้ ผู้สนใจมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลางจังหวัด (ชั้น ๑) โทร. ๐๔๒-๖๑๓๐๓๗-๘ ในวันเวลาราชการ


สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา รับสมัครนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๕๗

นายอุดมโชค ชูรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา เปิดเผยว่า โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา เป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพในด้านเทคโนโลยีทันสมัยหลากหลายหลักสูตรให้กับคนพิการทางเคลื่อนไหว เช่น แขนขาด ขาขาด อัมพาต โปลิโอ ในการเข้าศึกษาตั้งแต่ชั้นการสมัครและเข้าเรียนจนจบการศึกษา นักเรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เมื่อเรียนจบแล้วโรงเรียนยังช่วยหางานเพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสนำความรู้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว

เปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน และกันยายน – ตุลาคม โดยมีการทดสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ สอบคัดเลือก ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๗ ณ โรงเรียนพระมหาไถ่ พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่คนพิการที่อยู่ในจังหวัดห่างไกล โรงเรียนจึงจัดสอบนอกสถานที่ โดยจะทำการสอบช่วงเดือนมีนาคม ๒๕๕๗ ใน ๗ จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น ศรีสะเกษ สงขลา และหนองคาย ส่งใบสมัครมาที่ งานรับสมัครนักเรียนโรงเรียนพระมหาไถ่ พัทยา หรือที่ ศูนย์จัดหางานคนพิการพระมหาไถ่ ตู้ ป.ณ. ๑ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ๒๐๒๖๐ โทร.๐๓๘-๗๑๖๒๔๗ – ๙ ต่อ ๖๑๐๑ – ๔, ๖๓๐๘

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณมงคล จินาวรณ์ โทร.๐๓๘-๗๑๖๒๔๗ – ๙ ต่อ ๖๒๐๒ หรือ ๐๘ – ๖๖๑๖๓๕๐๑ และทางเว็บไซต์ www.rvsd.ac.th , School@rvsd.ac.th



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

มหาสารคาม ประกวดบรรยายธรรมและสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทํานองสรภัญญะ ระดับภาคคณะสงฆ์ กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์

สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามประกวดบรรยายธรรมและสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทํานองสรภัญญะ ระดับภาคคณะสงฆ์ กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝนด้านการบรรยายธรรมและสวดมนต์เพื่อนําหลักธรรมมาใช้เสริมสร้างให้มีคุณธรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิต

12-03-57 ที่วัดมหาชัย พระอารามหลวง จังหวัดมหาสารคาม สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามร่วมกับสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่นและกาฬสินธุ์ประกวดบรรยายธรรมและสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทํานองสรภัญญะ ระดับภาคคณะสงฆ์ โดยพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม ประธานสงฆ์ กล่าวสัมโมธนียกถาและกล่าวเปิดงาน

นายชูชาติ ราชจันทร์ ผู้อํานวยการกลุ่มส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมกล่าวว่ากรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมได้ดําเนินการจัดประกวดบรรยายธรรมและสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทํานองสรภัญญะ เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝนด้านการบรรยายธรรมและสวดมนต์เพื่อนําหลักธรรมมาใช้เสริมสร้างให้มีคุณธรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิต อันจะนําไปสู่การทํานุบํารุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญมั่นคงและมีจิตใจยึดมั่นในหลักธรรมคําสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งมีเป้าหมายคือนักเรียน นักศึกษาที่กําลังศึกษาอยู่ในโรงเรียน สถานศึกษา ศูนย์การศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์และหน่วยเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนา

สําหรับการประกวดบรรยายธรรมและสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทํานองสรภัญญะระดับภาคคณะสงฆ์ประจําปี 2557 กรมการศาสนามอบหมายให้สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามดําเนินการคัดเลือกเด็กและเยาวชนเป็นตัวแทนระดับภาคคณะสงฆ์ไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ก.ธ.จ.มหาสารคาม สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการ พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาสร้างเครือข่ายภาคประชาชน อีสานตอนกลาง ปลาย พ.ค.57

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม (ก.ธ.จ.) พิจารณาโครงการตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดมหาสารคาม งบปี 2557 เพื่อเตรียมลงพื้นที่สอดส่อง พร้อมเตรียมเป็นเจ้าภาพในการจัดสัมมนาเครือข่ายภาคประชาชน ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ปลายเดือนพฤษภาคม นี้

(12-3-57) นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 ในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม (ก.ธ.จ.) เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมนำเสนอข้อมูลโครงการตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดมหาสารคาม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ที่ ก.ธ.จ.มหาสารคาม ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว รวม 7 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาคุณภาพผลผลิตข้าวหอมมะลิจังหวัดมหาสารคาม ด้วยระบบ GAP งบประมาณ 9,700,000 บาท โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสื่อกก งบประมาณ 1,479,600 บาท โครงการพัฒนาระบบการผลิตโคเนื้อเพื่อสร้างอาหารปลอดภัยจังหวัดมหาสารคาม งบประมาณ 3,000,000 บาท โครงการพัฒนาฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวและสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดมหาสารคาม งบประมาณ 10,265,000 บาท โครงการศูนย์บริการวิชาการจังหวัดมหาสารคาม งบประมาณ 3,000,000 บาท โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก อำเภอแกดำ งบประมาณ 2,000,000 บาท และโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก อำเภอชื่นชม งบประมาณ 5,445,000 บาท ซึ่งแต่ละโครงการได้มีส่วนราชการที่รับผิดชอบมาชี้แจงข้อมูลเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการลงพื้นที่เพื่อสอดส่อง

ประธาน ก.ธ.จ.จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขอให้ผู้รับผิดชอบในแต่ละโครงการติดตามในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง อันเนื่องมาจากสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ เพราะจะทำให้โครงการประสบผลสำเร็จตามเจตนารมณ์และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด

ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาการจัดสัมมนาสร้างเครือข่ายภาคประชาชนของภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนกลาง ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ กำหนด ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ณ โรงแรมตักสิลา จังหวัดมหาสารคาม


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม จัดอบรมเกษตรกรตามโครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนปี 57

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคามจัดอบรมเกษตรกรตามโครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนประจำปีงบประมาณ 2557เพื่อเสริมสร้างความรู้ในการดําเนินกิจกรรมทางการเกษตรและฝึกปฏิบัติผ่านกิจกรรมสาธิตแบบมีส่วนร่วม

12-03-57 ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจชุมชนบ้านสมศรี อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคามสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคามจัดอบรมเกษตรกรตามโครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนประจำปีงบประมาณ 2557 แก่ตัวแทนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ

นายวรพล ภูภักดี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าปัจจุบันศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนนับได้ว่าเป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นสถานที่เพื่อการทดลองปฏิบัติเบื้องต้นในการประกอบอาชีพทางการเกษตรให้กับเกษตรกรและสมาชิกในชุมชนได้เป็นอย่างดีโดยมีลักษณะการดําเนินงานที่สําคัญกล่าวคือ เป็นแหล่งในการถ่ายทอดความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมีวิทยากรผู้มีองค์ความรู้ประจำศูนย์ รวมถึงวิทยากรเฉพาะทางจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ปราชญ์ชาวบ้านและภาคส่วนต่างๆ มาร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ในรูปแบบของการมีส่วนร่วม และผู้เข้ามาเรียนรู้สามารถฝึกทักษะด้วยการลงมือปฏิบัติจริงในพื้นที่ของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน ภายใต้การดูแลและให้คําแนะนําของวิทยากรที่กล่าวไว้ข้างต้นตลอดระยะเวลาการดําเนินกิจกรรมก่อนการนําไปปฏิบัติจริงในพื้นที่ของตนเอง

การดําเนินกิจกรรมภายใต้โครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน เป็นการเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติจริงแบบมีส่วนร่วมและเป็นแหล่งบูรณาการความรู้จากภาคส่วนต่างๆ ในชุมชนโดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรและสมาชิกในชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่จะนําไปสู่การพัฒนาตนเอง ชุมชนและสังคมซึ่งจะเป็นแหล่งในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนและสังคมได้อย่างยั่งยืน


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดค่ายวิศวะอาเซียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษา

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดค่ายสำรวจภาคสนาม "Serveying Camp” สำหรับนิสิตวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียน ระหว่างวันที่ 10-21 มีนาคม เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภาษา ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558

ที่ห้องประชุมอินทรานนท์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการค่ายสำรวจภาคสนาม "Serveying Camp” สำหรับนิสิตวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยต่างชาติในภูมิภาคอาเซียน 4 ประเทศ คือ ประเทศเวียดนาม ลาว มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ในระหว่างวันที่ 10 - 21 มีนาคม 2557 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย สมัปปิโต ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวต้อนรับ รองศาสตราจารย์ ดร. สัมพันธ์ ฤทธิเดช คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งมีสถาบันเข้าร่วมโครงการจำนวน 5 สถาบัน ประกอบด้วย University of Danang ประเทศเวียดนาม , Universitas Gajah Mada ประเทศอินโดนีเซีย , National University of Laos สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว , Universiti Teknologi Maylaysia ประเทศมาเลเซีย และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประเทศไทย เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้และทบทวนวิธีใช้กล้องสำรวจ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงการลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลภาคสนามในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม โดยทำการถ่ายระดับจากหมุดหลักฐานของกรมทางหลวง มายังหมุดหลักฐานที่ได้ก่อสร้างขึ้นทุกจุด มีการรวบรวมข้อมูลภาคสนามทั้งหมด มาจัดทำแผนที่ภูมิประเทศของโครงการ และนำเสนอข้อมูลและสรุปผลโครงการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชำนาญด้านเทคโนโลยีการสำรวจให้กับนิสิตที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 95 คน ภายใต้ระบบการเรียนการสอนในอาเซียน (ASEAN) และมีทักษะในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

เยาวชนชมรมอาเซียนศึกษา มรภ.ร้อยเอ็ด เปิดโลกอาเซียนที่ศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนมหาสารคาม

เยาวชนชมรมอาเซียนศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ร่วมเปิดโลกอาเซียน ด้วยการเรียนรู้ด้านประชาคมอาเซียนที่ศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม

(11-3-57) เยาวชน จำนวน 120 คน จากชมรมเยาวชนอาเซียนศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด เดินทางมาทัศนศึกษา ตามโครงการทัศนศึกษาแหล่งองค์ความรู้เกี่ยวกับอาเซียน ที่ศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม โดยมีนายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม ร่วมต้อนรับและบรรยายแนวทางการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 ของจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งการมาเปิดโลกทัศน์ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของกลุ่มเยาวชนชมรมอาเซียนศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหน่วยงานภายนอก ในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

สำหรับศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม (ASEAN Community Information Center of Mahasarakham Province) ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 2 ห้อง 201 อาคารศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม โดยได้รับความร่วมมือในการออกแบบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมือง และนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และการจัดหาอุปกรณ์ สื่อประชาสัมพันธ์ เอกสาร ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้รับการสนับสนุนจากกองการต่างประเทศและกองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้สนใจสามารถเข้ามาใช้บริการ หรือค้นคว้าข้อมูลได้ โดยเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม จัดอบรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมบทบาทสตรีกับการเลือกตั้ง ที่ อบต.แก่งเลิงจาน

คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม จัดอบรมกลุ่มสตรีในพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของกลุ่มสตรีกับการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(11-03-57) ที่ห้องประชุมองค์การบริการส่วนตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นางวัชรี ละครศรี ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลแก่งเลิงจาน ได้นำสมาชิกและกลุ่มผู้นำสตรีตำบลแก่งเลิงจานทั้ง 17 หมู่บ้าน จำนวน 50 คน เข้าอบรมตามโครงการให้ความรู้เรื่องบทบาทสตรีกับการเลือกตั้ง โดยมีนางสาวทิพสุคนธ์ ปทุมพร ปลัดองค์การบริการส่วนตำบลแก่งเลิงจาน เป็นประธานเปิดและบรรยายพิเศษ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงบทบาท สิทธิหน้าที่ ของสตรีในการเข้ามามีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งการเลือกตั้งในระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น ให้กลุ่มสตรีได้รับทราบและสามารถแสดงออกถึงสิทธิ หน้าที่และบทบาททางการเมืองได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งเป็นการส่งเสริมวิถีประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกลุ่มสตรีตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 พร้อมทั้งนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ขยายผล สร้างความเข้มแข็ง และเป็นพลังเครือข่ายสตรีกับการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง ภายในชุมชนหมู่บ้านของตนเองอย่างยั่งยืน



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

มหาสารคาม ส่งทัพนักกีฬาสู้ศึก “ศรีสะเกษเกมส์”

จังหวัดมหาสารคามส่งทัพนักกีฬากว่าร้อยชีวิตเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์

10-03-57 ที่ห้องประชุม 409 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ เข้ารับโอวาทผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามก่อนอำลาและเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 30 ที่จังหวัดศรีสะเกษ                นางสาววันดี อิสรางกูล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามมีนักกีฬาที่ผ่านการรอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 และเป็นตัวแทนของจังหวัดมหาสารคาม ไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในครั้งจำนวน 144 คนจาก 16 ชนิดกีฬา

ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าให้นักกีฬาแข่งขันกีฬาด้วยความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา "รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” ปฏิบัติตามกฎ กติกาการแข่งขันและสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีแก่นักกีฬาทุกทีม                                

และมอบเงินสนับสนุนแก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอนจากทั้ง 16 ชนิดกีฬา สำหรับการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-23 มีนาคม 2557 ชิงชัยกันรวม 38 ชนิดกีฬาและ "กูปรี” สัตว์พื้นเมืองประจำจังหวัดเป็นมาสคอตประจำการแข่งขัน


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม เปิดตัวกองทุนช่วยเหลือชาวนา คาดสิ้น มิย.57 มีเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ธ.ก.ส.มหาสารคาม เปิดตัว กองทุนการช่วยเหลือชาวนา บรรเทาความเดือดร้อนทางด้านการเงินของเกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 เปิดตัววันแรกมีเงินเข้ากองทุนแล้วมากกว่า 6 ล้านบาท คาดสิ้นสุดโครงการ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

(10-3-57) โดยนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย นายชวลิต การรื่นศรึ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดมหาสารคาม (ธ.ก.ส.) ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว "โครงการกองทุนช่วยเหลือชาวนา” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางด้านการเงินของเกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 และยังไม่ได้รับเงินตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวน โดยเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศสมทบเงินเข้ากองทุนใน 3 รูปแบบ คือ กองทุนช่วยเหลือชาวนาแบบบริจาค แบบไม่มีผลตอบแทน และแบบมีผลตอบแทน ดอกเบี้ยร้อยละ 0.63 ต่อปี โดยกองทุนจะจัดสรรเงินให้ ธ.ก.ส.เพื่อจ่ายให้เกษตรกรตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวน ซึ่งการจัดสรรเงินดังกล่าว เป็นไปตามวิธีปฏิบัติที่กองทุนกำหนด และเรียงตามลำดับที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้กับ ธ.ก.ส.

ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดมหาสารคาม (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดมหาสารคาม มีเกษตรกร ที่มีใบประทวนอยู่จำนวน 35,000 ใบ มูลค่าเงินที่ต้องจ่ายให้เกษตรกรตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลผลิต 2556/57 รวมกว่า 2 พัน 2 ร้อยล้านบาท โดยคาดว่า เงินกองทุนดังกล่าว จะนำมาจ่ายเป็นเงินกู้แบบปลอดดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการผลิตทางการเกษตร ฤดูกาลผลิตรอบใหม่ และค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่จำเป็น เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินจากการจำนำข้าว

ทั้งนี้ ในวันแรกของการเปิดตัวกองทุนช่วยเหลือชาวนาที่จังหวัดมหาสารคาม มีผู้บริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ทั้ง 3 รูปแบบ รวมแล้วมากกว่า 6 ล้านบาท คาดว่าภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 เมื่อสิ้นสุดโครงการ จะมีเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยทาง ธ.ก.ส. มั่นใจว่าจะสามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่นำข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกในปีการผลิต 2556/57 ครบทุกราย


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กกต.บึงกาฬจัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานท์

คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จังหวัดบึงกาฬ ดำเนินการโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์และการประชุมผู้สมัครรับเลือกตั้งการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเขตเลือกตั้งจังหวัดบึงกาฬ ณ.ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬ มีผู้สมัคร สว.และตัวแทนเข้าร่วม 5 คน

วันที่ 11 มี.ค.57 เวลา 10.00 น. นายสรวิศ ทำเนาว์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬกล่าวว่า ด้วยมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2557 ในวันที่ 30 มีนาคม 57 และได้มีการรับสมัครเมื่อวันที่ 4-8 มีนาคม 57 ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ขึ้นมาในวันนี้ เพื่อเป็นให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมาย การจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งการเลือกตั้งที่ดำรงความเป็นมิตร การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย จึงเรียนเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้สนับสนุนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ สำหรับจังหวัดบึงกาฬที่เป็นจังหวัดน้องใหม่การเลือกตั้งวุฒิสภาครั้งนี้นับเป็นการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรก มีผู้รับสมัครจำนวน 5 คน มีผู้สมัครตัวจริงเข้าร่วม 3 คน มีตัวแทนผู้สมัครเข้าร่วมประชุม 2 คน กกต.บึงกาฬคากว่าการเลือกตั้ง สว.ครั้งนี้ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่า 75 เปอร์เซ็นต์

การสมัคร ส.ว.บึงกาฬวันสุดท้ายเงียบเหงา

จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดตั้งใหม่จังหวัดล่าสุดของประเทศไทยการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการรับสมัครครั้งแรกของจังหวัดบึงกาฬ สำหรับบรรยากาศการรับสมัครวันสุดท้ายเป็นไปด้วยความเงียบเหงายังไม่มีผู้สมัครเพิ่มจากที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ 5 คน

บ่ายวันที่ 08-03-57 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานที่รับสมัครสมาชิกวุฒิสภา จุดรับสมัครตั้งอยู่ที่ห้องประชุมสำราญรมณ์ ภายในโรงเรียนบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เมื่อไปถึงสถานที่รับสมัครบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา พบเพียงเจ้าหน้าที่ผู้หญิงประจำ กกต.จังหวัดบึงกาฬ เพียงคนเดียวที่รออำนวยการรับสมัครในวันสุดท้าย ซึ่งสอบถามตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายโมงยังไม่มีผู้สมัครเข้ามารับสมัครเพิ่มและต้องรอจนกว่าถึงเวลาปิดรับสมัคร

สำหรับผู้สมัครในวันแรกคือวันที่ 4 มีนาคม 2557 ถึงบ่ายวันนี้มีผู้มารับสมัครแล้ว 5 คน เรียงตามหมายเลขผู้สมัครดังนี้ ผู้สมัครหมายเลข 1 นายบุญมา พันดวง หมายเลข 2 นายอัคเนย์ แถวบุญตา หมายเลข 3 นายณัฐพล เนื่องชมภู หมายเลข 4 นายกันยา แต้เจริญวิริยะกุล หมายเลข 5 นายวิทยา ยุติมุลตรี สรุปหลังจากปิดการรับสมัคร ส.ว.รวม 5 คน ส่วนสถานการณ์โดยทั่วไป ตั้งแต่เริ่มรับสมัครมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ปปสภาค 4 รวบ 2 ชาวลาวพร้อมยางกัญชา 5 กิโลมูลค่า 3 ล้านบาทชี้เป็นนวัตกรรมใหม่ของแก๊งค้ายาเสพติด

เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดภาค 4 สนธิกำลังจับกุมท้าวจันดี สีทอง อายุ 64 ปี และท้าวตัน ไซยะเพ็ด อายุ 19 ปี ชาวสปป.ลาว พร้อมยางกัญชา 30 ก้อนน้ำหนักรวม 5 กิโลกรัมเรือหางยาวพร้อมเครื่องยนต์ 1 ลำรวมมูลค่า 3 ล้านบาท หลังเจ้าหน้าที่ติดต่อล่อซื้อยางกัญชาที่สกัดมาจากกัญชาแห้งอัดแท่งซุกมาในซองบุหรี่ บริเวณภายในวัดศรีสว่าง หมู่ 6 บ้านเหล่าหมากผาง ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ชี้เป็นนวัตกรรมใหม่ของแก๊งค้ายาเสพติด

วันที่ 7 มี.ค.57 เวลา 05.00 น. นายภิญโญ โฆษิต ผอ.สบก.ปปส.ภาค 4 สืบทราบว่าท้าวจันดี ชาวสปป.ลาว ว่ามียางกัญชาต้องการจะขายในราคา 3 ล้านบาท จึงประสานกับ พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย ตชด.244 ร้อย.ทพ.2105 บึงกาฬ ร.ต.อ.บันเทิง คงชยะนันท์ สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ พ.ต.ท.วัลลภ ขุนหมื่น สวญ.ตม.บึงกาฬ น.ต.การันต์ มินวงษ์ หน.สถานีเรือ นรข. พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา สวญ.สภ.เหล่าหลวง และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.บึงกาฬ สนธิกำลังวางแผนติดต่อล่อซื้อและจับกุม กระทั่งเวลา 05.30 น. เจ้าหน้าที่พบเรือหางยาวติดเครื่องยนต์วิ่งข้ามมาจากฝั่งเมืองปากกะดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว เข้ามาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าวัดศรีสว่าง หมู่ที่ 6 บ้านเหล่าหมากผาง ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จากนั้นท้าวจันดี ได้เดินหิ้วตะกร้าพลาสติกขึ้นมาพร้อมยื่นตะกร้าให้กับเจ้าหน้าที่ เมิ่อเปิดออกดูพบว่ามีกล่องบุหรี่จำนวน 8 ห่อโดยมียางกัญชาห่อด้วยพลาสติกสีใสบรรจุอยู่จำนวน 30 ก้อน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมพร้อมนำของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่หมวด ตชด.2444 บ้านท่าไร่ จากการสอบสวนท้าวจันดี สารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากท้าวพน ไม่ทราบนามสกุลชาวสปป.ลาวในราคา 5,000 บาทให้นำยางกัญชามาส่งให้ลูกค้าชาวไทยบริเวณดังกล่าวและตนได้ว่าจ้างท้าวตัน ในราคา 100 บาทให้ขับเรือหางยาวข้ามมายังฝั่งไทย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ยางกัญชา) ไว้เพื่อจำหน่ายและนำเข้าราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เหล่าหลวงดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย.ตชด.244 บึงกาฬ กล่าวว่า ยางกัญชาจำนวนดังกล่าวผลิตมาจากกัญชาแห้งอัดแท่ง 30 กิโลกรัมต่อยางกัญชา 1 ก้อนถือได้ว่าเป็นหัวเชื้อของกัญชาแห้ง และเป็นนวัตกรรมใหม่ของแก๊งค้ายาเสพติด มีขนาดที่เล็กเท่ากับซองบุหรี่ อีกทั้งยังง่ายต่อการขนส่ง หลีกเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่

ตชด.244 จับหนุ่มขับแท็กซี่ขนกัญชาหาเงินคลอดลูก

นายชโลธร ผาโคตร ผวจ.บึงกาฬ พ.ต.อ.สมบัติ บุญโสภา ผกก.ตชด.24 พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ พลพุทธา ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ แถลงข่าวการจับกุมนายไวยวิทย์ หรือหนุ่ม สุทโทวา อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 8/3 หมู่ที่ 12 ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม หลังใช้รถแท๊กซี่สีเหลือง-ม่วง ทะเบียน ทข 34 มหาสารคาม มาขนกัญชาแห้ง 295 กก.มูลค่า 9 ล้านบาทที่ริมแม่น้ำโขงบ้านห้วยดอกไม้ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ รับสารภาพทำมาแล้ว 2 ครั้งเพื่อหาเงินให้เมียคลอดลูก

เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 7 มี.ค.57 พ.ต.อ.สมบัติ บุญโสภา ผกก.ตชด.24 อุดรธานี สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนกัญชาข้ามน้ำโขงมาจากประเทศ สปป.ลาว เพื่อส่งมอบให้กับพ่อค้าชาวไทยบริเวณท่าน้ำใกล้กับโรงเรียนบ้านห้วยดอกไม้ หมู่ที่ 4 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ จึงสั่งให้ พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย ตชด.244 บึงกาฬ ร.ต.อ.รามสูรย์ บุญข่าย รอง ผบ.ร.ต.อ.ประดุง วงชารี หน.ชปข.ตชด.244 สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ พลพุทธา ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.อ.พริพล อัจกลับ ผกก.สืบสวน กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.วัลลภ ขุนเหมื่น สวญ.ตม.บึงกาฬ พ.ต.ท.กลกร รวบรวม สว.ส.ทล.3 กก.4 บก.ทล. พ.ท.บุญณรงค์ บุญญประภา รอง ผบ.กรม.ทพ.21 ร.ต.อ.บันเทิง คงยะนันท์ สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ เรือเอกสากล สารัตน์ รก.แทน หน.สถานีเรือ นรข.บึงกาฬ จนท.กอ.รมน.บึงกาฬ และนายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากร วางแผนจับกุม เวลาดังกล่าวได้พบรถแท็กซี่ยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีเหลือง-ม่วง ทะเบียน ทข 34 มหาสารคาม วิ่งวนเวียนบนถนนเรียบฝั่งโขงอยู่ 2 รอบ ก่อนที่จะวิ่งมาจอดอยู่บนถนนใกล้กับโรงเรียนบ้านห้วยดอกไม้ จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ได้แบกกระสอบเข้าไปวางในรถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่คนขับได้เร่งเครื่องขับหนีไปทางบ้านท่าอินทร์แปลง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ชุดสกัดนำรถยนต์ 4 คันมาปิดถนน พร้อมกับขับรถไล่ตามไป เมื่อรถแท็กซี่วิ่งไปถึงคนขับได้ขับเบียดรถที่จอดขวางทางอยู่ แต่เกิดเสียหลักตกถนนวิ่งเลยไปชนเสาไฟฟ้าข้างทางจึงยอมหยุด ควบคุมตัวคนขับรถชื่อ นายไวยวิทย์ หรือหนุ่ม สุทโทวา อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 8/3 หมู่ที่ 12 ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ค้นในรถพบกระสอบปุ๋ยสีขาวอยู่ด้านข้างคนขับ 3 กระสอบ ด้านหลังคนขับ 5 กระสอบ และที่ท้ายรถอีก 1 กระสอบ เปิดดูเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งรวม 295 แท่ง น้ำหนัก 295 กิโลกรัม มูลค่า 9 ล้านบาท

สอบสวนนายไวยวิทย์ รับสารภาพว่า ได้รับจ้าง "เฮียเลน” เสี่ยชาวลาว เป็นเงิน 100,000 บาทให้ขนกัญชาไปส่งที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทำมาแล้ว 2 ครั้งโดยครั้งแรกเมื่อต้นเดือนขนกัญชา 3 กระสอบ แต่ได้รับค่าจ้างเพียง 29,000 บาท ตนจึงโทรศัพท์ไปทวงเงินส่วนที่เหลือ แต่ได้รับคำตอบว่าหากอยากได้เงินอีกให้ขนกัญชาอีกรอบ จึงยอมตกลงเนื่องจากภรรยาจะคลอดลูกไม่มีเงินจ่ายโรงพยาบาล จากนั้นไปเช่ารถแท็กซี่ 5,000 บาท เฮียเลนโอนเงินมาให้ 30,000 บาท ส่วนที่เหลือให้รับหลังส่งมอบงานเสร็จ แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน จึงถูกแจ้งข้อหามียาเพสติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง ร.ต.ท.ธนะพงษ์ ชาวเชียงตุง ร้อยเวร สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินคดีต่อไป

จัดแข่งขันตำส้มตำลีลาในวันสตรีสากล

 ภาพบรรยากาศการแข่งขันส้มตำรสแซบและส้มตำลีลา ของกลุ่มสตรีจังหวัดบึงกาฬ ในงานสานสัมพันธ์ "วันสตรีสากล” จังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2557 เพื่อเป็นการรักษาศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสาน รู้จักการปรุงอาหารให้สะอาด รสชาติอร่อย สร้างความน่าสนใจไปพร้อมกับการประกอบลีลาตำส้มตำ โดยมีกลุ่มสตรีจากทั้ง 8 อำเภอเข้าประกวด รวม 16 ทีม ตัดสินจากหลักเกณฑ์ด้านความสะอาด รสชาติอร่อย ลีลา การแต่งกาย และกองเชียร์ สร้างความสนุกสนานให้ผู้มาร่วมชมงานอย่างมาก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว

วันที่ 06 มีนาคม 2557 เวลา 09.00 น. นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเป็นประธานในการเปิดการแข่งขันตำส้มตำลีลาประกอบเพลงและส้มตำรสแซบ ในงานสานสัมพันธ์ "วันสตรีสากล” จังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2557 ณ สนามฟุตบอลโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า การจัดประกวดส้มตำรสแซบ และส้มตำลีลา ในงานรวมพลัง "วันสตรีสากล” จังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2557 เพื่อเป็นการรักษาศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสาน รู้จักการปรุงอาหารให้สะอาด รสชาติอร่อย สร้างความน่าสนใจไปพร้อมกับการประกอบส้มตำ โดยมีกลุ่มสตรีจากทั้ง 8 อำเภอส่งประกวดทั้ง 2 ประเภท รวม 16 ทีม ตัดสินจากหลักเกณฑ์ด้านความสะอาด รสชาติอร่อย ลีลา การแต่งกาย และกองเชียร์ สร้างความสนุกสนานให้ผู้มาร่วมชมงานอย่างมาก สำหรับการประกวดส้มตำรสแซบและส้มตำลีลา ทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล ทีมละ 3,000 พร้อมถ้วยเกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 2,500 พร้อมถ้วยเกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และรางวัลชมเชย 5 รางวัล ๆ ละ 500 บาท ซึ่งผลการประกวดปรากฏว่า ในประเภทส้มตำลีลา ทีมสตรีจากอำเภอเซกา ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมสตรีอำเภอปากคาด รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมสตรีอำเภอโซ่พิสัย และรางวัลชมเชย อ.บุ่งคล้า อ.บึงโขงหลง อ.เมืองบึงกาฬ อ.พรเจริญ และอ.ศรีวิไล

จ.บึงกาฬ จัดงานวันสตรีสากล

กลุ่มพลังสตรีจังหวัดบึงกาฬ กว่า 2,000 คน ออกเดินรณรงค์แสดงพลังในวันสตรีสากล เฟื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง ป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหง ทางสังคม แสดงให้เห็นถึงพลังและศักยภาพของสตรีจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งไม่แพ้สตรีอื่นใดในโลก พร้อมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับสตรีที่ทำคุณประโยชน์ให้กับท้องถิ่นในด้านต่างๆ ของจังหวัดบึงกาฬ จำนวน 25 ท่าน

วันที่ (6 มี.ค. 57) เวลา 09.00 น. นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดงานรวมพลัง "วันสตรีสากล” จังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2557 ที่หอประชุมโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีนางแว่นฟ้า ทองศรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดบึงกาฬ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่า เนื่องจากวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็น "วันสตรีสากล” มติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดบึงกาฬ ได้กำหนดให้มีการจัดงานสานสัมพันธ์ "วันสตรีสากล” ประจำปี 2557 ขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2557 เพื่อให้สตรีจังหวัดบึงกาฬรวมตัวกันแสดงพลังในวันสตรีสากล ซึ่งเมื่อก่อนสตรีจะถูกเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหง ค่าจ้างแรงงานต่ำ และถูกมองว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ จนกระทั่งสตรีจำนวนหนึ่งได้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง พร้อมให้สตรีทั่วโลกได้ลุกขึ้นมาปกป้องความเป็นสตรีให้มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับชาย จนเกิดการยอมรับความเท่าเทียมกันจนถึงปัจจุบัน

สำหรับการจัดงานในวันนี้มีสตรีจังหวัดบึงกาฬทั้ง 8 อำเภอ ประมาณ 2,000 คน มาร่วมงานและเดินรณรงค์แสดงพลังของสตรีจังหวัดบึงกาฬ ให้ทุกคนได้เห็นถึงพลังและศักยภาพของสตรีจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งไม่แพ้สตรีอื่นใดในโลก และเพื่อเฉลิมฉลองเชิดชูเกียรติและร่วมรำลึกถึงการทำงานของสตรี ให้โอกาสเสริมสร้างศักยภาพการทำงานในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และเพื่อให้สตรีทุกระดับในจังหวัดบึงกาฬ ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองและสังคมให้มากขึ้น เป็นการเสริมสร้างความเข็มแข็งของชุมชน และความสามัคคีในหมู่องค์กรสตรี พร้อมกันนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับสตรีที่ทำคุณประโยชน์ให้กับท้องถิ่นในด้านต่างๆ จำนวน 25 ท่าน

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จัดประกวดการฝึกยุทธวิธี ประจำปี 2557

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จัดประกวดการฝึกยุทธวิธี ประจำปี 2557 เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ และประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย พึ่งตนเองอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ให้บริการประชาชน ตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พร้อมคัดเลือกสถานีตำรวจในสังกัด ที่ได้ลำดับที่ 1 ของแต่ละระดับ เข้าร่วมการประกวดการฝึก ของ ตำรวจภูธรภาค 3 ต่อไป

พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีการประกวดการฝึกยุทธวิธี ประจำปี 2557 โดยมี รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ หัวหน้าสถานีตำรวจ และข้าราชการตำรวจร่วมพิธีดังกล่าว สืบเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมด้านต่างๆ เป็นปัญหาที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมีนโยบายในการป้องกันและปราบปราม ทางตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ โดยสถานีตำรวจในสังกัด ได้มีการฝึกยุทธวิธีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและจิตใจ มีการกำชับ กำกับดูแล อบรมให้ความรู้ สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ผู้บังคับบัญชา กับ ผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาของหน่วยต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เข้าอบรมและควบคุมการฝึกแต่ละครั้งอย่างจริงจัง สามารถตรวจสอบการปฏิบัติได้ เป็นการเสริมสร้างระเบียบวินัยให้เกิดขึ้นแก่ข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมด้านต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา และให้การสนับสนุนในการดำเนินกิจการต่างๆ ของตำรวจเป็นอย่างดี

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดการประกวดการฝึก ประจำปี 2557 ของตำรวจ ภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ในระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม 2557 โดยได้รับความร่วมมือจากสถานีตำรวจในสังกัด ส่งข้าราชการตำรวจเข้าร่วมประกวดการฝึก และคัดเลือกสถานีตำรวจในสังกัด ที่ได้ลำดับที่ 1 ของแต่ละระดับ มีระดับ ผู้กำกับการ สารวัตรใหญ่ และ สารวัตร เป็นหัวหน้าสถานี เข้าร่วมการประกวดการฝึก ประจำปี 2557 ของ ตำรวจภูธรภาค 3 ต่อไป

พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สนองนโยบายรัฐบาล และเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาประสิทธิภาพของบุคลากร โดยเฉพาะด้านการพัฒนาตำรวจและครอบครัวซึ่งเป็นการพัฒนาบุคลากร และกระตุ้นให้หน่วยในสังกัดได้ให้ความสนใจในการฝึก มีการดำเนินการประกวดการฝึก และการพัฒนาระบบการฝึกให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งมีความมุ่งหวังที่จะให้ข้าราชการตำรวจในทุกระดับมีการฝึกแบบตำรวจและยุทธวิธีอย่างสม่ำเสมอเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ และประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยพึ่งตนเองอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี มีจิตวิญญาณที่จะให้บริการประชาชน ตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ "เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีระเบียบวินัย อันจะส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา และให้การสนับสนุนในการดำเนินกิจการต่างๆ ของตำรวจเป็นอย่างดี ทำให้การดำเนินงานในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งเป็นภารกิจหลักของตำรวจ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สมดังเจตนารมณ์ ที่ได้มุ่งหวังไว้

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้านเฉลิมพระเกียรติ

ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้านเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556

(12 มี.ค.2557) เวลา 09.00 น. ที่หอประชุม ร.23 พัน 4 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว.บุรึรัมย์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้านเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 ประจำปี 2557 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้น เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนเพื่อสร้างเป็นเครือข่ายลักษณะปฏิบัติการ ช่วยเหลืองานในหน้าที่ของตำรวจในการป้องกันภัยระงับเหตุและช่วยเหลือหรือกู้ภัยจากอุบัติภัยต่างๆ โดยให้ประชาชนและองค์กรมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพตามความเหมาะสมและความต้องการของแต่ละพื้นที่และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ปัจจัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย สภาพทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม ประเพณี วัฒนธรรมและวิธีการดำรงชีวิตของแต่ละท้องถิ่นและชุมชนเป็นสำคัญ ตามนโยบาย ดังกล่าว

ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ จะพิจารณาจากประชาชนที่มีจิตอาสาช่วยเหลืองานตำรวจที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ จำนวน 50 คน ในพื้นที่ สภ. เมืองบุรีรัมย์,ห้วยราช และ สภ.หนองสองห้อง เข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการฯ ในวันที่ 12 – 13 มีนาคม โดยมี พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ปิยะชาติ ศิริมณฑา ผกก.ฝอ.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีดังกล่าว

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในครั้งนี้ เพื่อนำความร่วมมือจากประชาชนมาสร้างเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังและ ป้องกันอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความปลอดภัยให้แก่ชุมชน/ท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าผู้เข้ารับการอบรม จะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวัน และนอกจากนั้นยังสามารถนำไปช่วยเหลืองานของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรมส่งเสริมการเกษตรมอบชุดเครื่องจักรกลการเตรียมดินด้วยวิธีการไถระเบิดดินดาน ให้กับเกษตรกรเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง

วันนี้ (12 มี.ค.57)  ที่ศูนย์จัดการศัตรูพืชบ้านหนองตะลุมปุ๊ก ต.หนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา นายนำชัย พรหมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานในพิธีมอบชุดเครื่องจักรกลการเตรียมดินเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง ภายใต้โครงการพัฒนาการเตรียมดินเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง ให้กับศูนย์จัดการศัตรูพืช ในพื้นที่ 4จังหวัด ประกอบด้วยศูนย์จัดการศัตรูพืชบ้านหนองตะลุมปุ๊ก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ศูนย์บริหารจัดการศัตรูพืชชุมชน ต.หนองไม้งาม อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราและมันสำปะหลัง ต.บุ้งคล้า อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และสหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

นายนำชัย พรหมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากการที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้เริ่มทำการสาธิตการเตรียมดินด้วยการไถระเบิดดินดานมาตั้งแต่ปี 2540 จนกระทั่งเป็นที่ยอมรับจากเกษตรกร และในปี 2551-2552 กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการสาธิตการพัฒนาการเตรียมดินด้วยชุดเครื่องมือไถระเบิดดินดานในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังอย่างชัดเจน ถึง 5 พันไร่ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว และกำแพงเพชร ผลปรากฏว่าเกษตรกรยอมรับในเทคโนโลยีดังกล่าว เนื่องจากสามารถเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้ถึง ร้อยละ 16.52 ส่งผลให้เกษตรกรมีความต้องการใช้เทคนิคและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการไถระเบิดดินดานเพื่อการเตรียมดินในการปลูกพืชเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวยังไม่มีผู้ประกอบการรับจ้างในท้องถิ่นทั่วไป ดังนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ส่งเสริมการพัฒนาระบบการเตรียมดินในรูปแบบศูนย์การให้บริการเตรียมดินเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังที่มีการบริหารจัดการโดยองค์กรเกษตรกร เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินการใช้เทคนิคดังกล่าวด้วยองค์กรเกษตรกร และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เกษตรและผู้ประกอบการรับจ้างในท้องถิ่นสำหรับพัฒนาเทคนิคและวิธีการเตรียมดินด้วยวิธีการไถระเบิดดินดาน ทำให้เกิดการพัฒนาผลผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรม