วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สำนักงาน ก.พ. ดำเนินการรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาล

สำนักงาน ก.พ. จะดำเนินการรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาลเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาในประเทศ ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 7 มกราคม 2557

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://uis.ocsc.go.th/ จำนวน 89 ทุน และศุนย์สรรหาและคัดเลือก กลุ่มงานบริหารการสอบทุน โทร. 0 2547 1916 โทรสาร. 0 2547 1346

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประกาศตามหาบุคคลสูญหาย

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม ได้รับการประสานจากสำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ว่าได้รับแจ้งจากนายภากร สงวนวงศ์ อายุ 23 ปี ทนายบริษัทพิทักษ์ธรรมที่ปรึกษากฎหมายและการบัญชี จำกัด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ แจ้งได้รับมอบอำนาจจากนายสมปอง โก่งลำ ให้มาแจ้งบุคคลสูญหาย จำนวน 2 ราย คือ

     1. นางน้ำเงิน ฟักศรี อายุ 43 ปี รูปร่างอ้วน ผิวดำ ผมสั้น สูงประมาณ 145 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม (มีอาการป่วยทางจิต)
     2. เด็กหญิงมะลิ โก่งคำ อายุ 4 ปี รูปร่างผอม ผิวดำ ผมสั้น ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรของนายสมปอง โก่งคำ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ที่ 9 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ โดยมีนางน้ำเงินฯ และเด็กหญิงมะลิฯ ได้หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556และเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 และมีผู้เห็นบุคคลลักษณะคล้ายนางสาวน้ำเงินฯ และเด็กหญิงมะลิฯ บริเวณหมอชิต กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้นายสมปองฯ ไม่มีญาติพี่น้อง จึงไม่ทราบว่าจะไปตามหาภรรยาและบุตรได้ที่ใด ปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งเกรงว่าอาจได้รับอันตราย และถูกล่อลวงไปในทางเสียหายและอาจตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์

หากผู้ใดมีข้อมูล เบาะแส หรือพบเห็นบุคคลดังกล่าว กรุณาแจ้ง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม โทรศัพท์ 042-511022,042-511506 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ โทรศัพท์ 046-803532-5 หรือ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 หรือแจ้งไปยังนายสมปอง 087-7346363,046-255093

ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระกุศล สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

  คณะกรรมการจัดงานพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้กำหนดให้จังหวัดมีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระกุศล สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 และ 100 วัน ในวันที่ 31 มกราคม 2557

จังหวัดนครพนมกำหนดจัดพิธีทำบุญตักบาตรฯ ในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 และวันที่ 31 มกราคม 2557 ในเวลา 06.30 น. ณ บริเวณลานกันเกรา อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรโดยพร้อมเพรียงกัน

มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ รับสมัครนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2557

สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ กำลังรับสมัครนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2557 ซึ่งจะเปิดเรียนในเดือนสิงหาคม 2557 มีการจัดการเรียนการสอนด้วยทีมคณาจารย์ผู้มีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกละปริญญาโทจากทั้งในละต่างประเทศ ที่พร้อมจะปั้นผู้เรียน ให้เป็นผู้ "รู้จริง จบจริง มีงานทำจริง” ด้วยประสบการณ์การสอนและการวิจัยที่ผ่านมา เราได้ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงาน ด้วยจุดเด่นของวุฒิการศึกษา "เศรษฐศาสตร์บัณฑิต” จะทำให้ผู้จบการศึกษาสามารถสมัครงานได้อย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในภาคธนาคาร เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทยธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์หลายบริษัท และหน่วยงานราชการด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ในระหว่างเรียน ทางสาขาก็ยังมีกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมธนาคารโรงเรียนหรือธนาคารจำลองภายในมหาวิทยาลัย และที่สำคัญคือผู้เรียนจะได้เข้าฝึกงานกับสถานที่ทำงานจริงเป็นเวลา 1 เทอม ซึ่งทางสาขาวิชามีความร่วมมือกับธนาคาร เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานสรรพสามิต สำนักงานสรรพากร ในระดับเขต และหน่วยงานอื่นๆ

ผู้สนใจสามารถสมัครได้ทางเว็บไซต์มหาวิทยาลัย ที่ http://vichakarn.phrae.mju.ac.th/Quota/main.asp

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ โทร.091-2122949

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาพอากาศหนาวเย็น

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และระมัดระวังอัคคีภัยจากสภาพอากาศแห้งในระยะนี้ไว้ด้วย

เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาพอากาศหนาวเย็นและมีหมอกหนาอาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน ผลผลิตทางการเกษตร และสัตว์เลี้ยง ที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูงและพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดให้ทราบถึงสภาวะอากาศหนาวเย็นและมีหมอกหนา โดยให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง นุ่งห่มเสื้อผ้ากันหนาว ดูแลผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง ตลอดจนระมัดระวังการเกิดอัคคีภัย สำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะและประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไป-มา บริเวณที่มีหมอกหนาให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และแจ้งเตือนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ และเฝ้าติดตามรายงานสถานการณ์เพื่อเตรียมรับสถานการณ์อุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น

สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม โทร.0-4251-6226,0-4251-1025

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัย

 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2556 คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ขณะที่มวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวน เป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเกิดลูกเห็บตกในระยะนี้ได้หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 6 – 8 องศา ทำให้มีอากาศหนาวเย็นอีกต่อไปอีก

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันจะเกิดจากวาตภัย และภัยจากอากาศหนาวเย็น เป็นลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตก ต่อจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลงอีก ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินบ้านเรือนของประชาชน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร

สามารถสอบถามรายละเอียดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ โทรศัพท์ 0-4251-1025 โทรสาร 0-4251-4065 จังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม

ตม.นครพนมจับชาวเวียดนามหลบหนีเข้าเมือง

 พันตำรวจโทเศรษฐภัทร ณ สงขลา  สารวัตรใหญ่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม  แถลงข่าว การจับกุมชาวเวียดนามหลบหนี้เข้าเมือง ว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่ามีชาวเวียดนามที่เข้าเมืองผิดกฎหมายแล้วจะลักลอบเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรทางด้านจังหวัดนครพนม  จึงได้ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่วางแผนจับกุม  โดยนำกำลังไปตรวจตระเวนตามริมฝั่งแม่น้ำโขงตั้งแต่บ้านท่าควายไปจนถึงบ้านห้อม  อ.เมือง จ.นครพนม  ตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันที่ 11 ธันวาคม 2556 ต่อมา 05.30 น. ตรวจพบชาวเวียดนามกลุ่มหนึ่ง จำนวน 20 คน  นั่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง  ในหมู่บ้านสำราญ  ต.อาจสามารถ  อ.เมือง จ.นครพนม  จึงตรวจเอกสาร ปรากฏว่าไม่มีเอกสารใดแสดงว่าเข้าเมืองถูกต้อง  จึงทำการสอบสวนชาวเวียดนาม  ซึ่งชาวเวียดนามทั้งหมดนี้ได้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย  เพื่อไปรับจ้างทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียแล้วอยู่เกินกำหนด  จึงลักลอบเดินทางผ่านประเทศไทยเพื่อกลับไปประเทศเวียดนาม  จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนมเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ขอเชิญเกษตรกรนำข้าวเปลือกไปจำนำตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556/5

 นายรักสกุล  สุริโย  เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  ขณะนี้โรงสีในจังหวัดนครพนม  ได้เปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี  ปีการผลิต 2556/57 แล้ว  จำนวน 18 แห่ง ได้แก่  1. บริษัทโรงสีนาแกพงษ์เจริญ  จำกัด  ถนนนาแก  -หนองญาติ  ต.นาคู่ อ.นาแก

          2. โรงสี  ส.อำนวยค้าข้าว  ต.พระซอง  อ.นาแก

          3. ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีเทียมศักดิ์พาณิชย์ (นครพนม) ต.อาจสามารถ  อ.เมืองนครพนม

          4. ห้างหุ้นส่วนจำกัด  โรงสีข้าวธนทรัพย์  ต.คำเตย  อ.เมืองนครพนม

          5. ท่าข้าวประเสริฐค้าข้าว  ต.กุรุคุ  อ.เมืองนครพนม

          6. ท่าข้าวบุญญฤทธิ์ค้าข้าว  ต.ขามเฒ่า  อ.เมืองนครพนม

          7. สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส.นครพนม  ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม

          8. สหกรณ์การเกษตรธาตุพนม  ต.พระกลางทุ่ง  อ.ธาตุพนม

          9. สหกรณ์การเกษตรเรณูนคร  ต.โพนทอง  อ.เรณูนคร

          10. ท่าข้าวกนกค้าข้าว  ต.หนองฮี  อ.ปลาปาก

          11. ท่าข้าวเฮงเจริญค้าข้าว  ต.ปลาปาก  อ.ปลาปาก

          12. สหกรณ์การเกษตรปลาปาก  ต.ปลาปาก  อ.ปลาปาก

          13. ท่าข้าวชีวาพืชผล  ต.โพนสวรรค์  อ.โพนสวรรค์

          14. ท่าข้าว ต.ทรัพย์เพิ่มพูน  ต.ท่าบ่อสงคราม  อ.ศรีสงคราม

          15. สหกรณ์การเกษตรบ้านแพง  ต.ดอนเตย  อ.นาทม

          16. ท่าข้าวธนทรัพย์สมบูรณ์  ต.ดอนเตย  อ.นาทม

          17.  สหกรณ์การเกษตรนาหว้า  ต.นาหว้า  อ.นาหว้า

          18. ท่าข้าวก้อนทรัพย์พืชผล  ต.เหล่าพัฒนา  อ.นาหว้า


จึงขอเชิญเกษตรกรนำข้าวเปลือกไปจำนำได้ทั้ง  18 แห่ง  โดยให้เกษตรกรนำข้าวเปลือกของตนเองพร้อมเอกสารต้นฉบับและสำเนาไปยื่นที่จุดรับจำนำด้วยตนเอง  ได้แก่ หนังสือรับรองเกษตรกร  บัตรประจำตัวประชาชน  ทะเบียนบ้าน  สมุดเงินกู้  ธ.ก.ส.(เล่มสีเหลือง)  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม  สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม โทรศัพท์ 0-4251-5556

เตือนประชาชนอากาศแปรปรวนเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอุณหภูมิลดลง 6-8 องศา (สวท.นครพนม)

นายวีระศักดิ์   วิเชียรแสน  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  จากการติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าในช่วงวันที่ 12-15 ธันวาคม  2556  คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  และภาคกลางตอนบน  ขณะที่มวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมบริเวณดังกล่าว  ทำให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวน  เป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง  ลมกระโชกแรง  และเกิดลูกเห็บตกในระยะนี้ได้หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศา  ทำให้มีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก  เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจาก วาตภัย และภัยจากอากาศหนาวเย็น  เป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง  ลมกระโชกแรง  และมีลูกเห็บตก  ต่อจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลงอีก ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินบ้านเรือนของประชาชน  รวมพืชผลทางการเกษตรจึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัด  ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะ 3-4 วันนี้ ( 12-15 ธ.ค.56 ) และเฝ้าติดตามรายงานสถานการณ์เพื่อเตรียมรับสถานการณ์อุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นต่อไป 

จังหวัดมุกดาหารจัดแข่งขันเซปักตะกร้ออินโดจีน ชิงเงินรางวัล 30,000 บาท

จังหวัดมุกดาหารเชิญประชาชน เยาวชน เข้าร่วมแข่งขันเซปักตะกร้ออินโดจีน ประเภทประชาชนทั่วไปและประเภทเยาวชน ทีมเดี่ยวชิงเงินรางวัล 30,000 บาท ในงานกาชาดและของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ระหว่างวันที่ 9 – 17 มกราคม 2557

( 11 ธ.ค.56) นายพิเชษฐ์ เดชะคำภู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหารเปิดเผยว่า สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหาร กำหนด จัดแข่งขันเซปักตะกร้ออินโดจีน ครั้งที่ 3 ในงานกาชาดและของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ระหว่างวันที่ 9-17 มกราคม 2557 ณ สนามกีฬาหน้าศาลากลางจังหวัด การแข่งขันดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือประเภททีมเดี่ยว ประชาชนทั่วไปชาย ชิงเงินรางวัล ชนะเลิศเงิน จำนวน 10,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 5,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินจำนวน 3,000บาท รองชนะเลิศอันดับ 3 เงินจำนวน 2,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล

ประเภททีมเดียวรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชิงเงินรางวัล ชนะเลิศเงิน จำนวน 4,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 3,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินจำนวน 2,000บาท รองชนะเลิศอันดับ 3 เงินจำนวน 1,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล ทั้งนี้โดยใช้กติกาการแข่งขันของสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกากรแข่งขันได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 8 มกราคม 2557 ณ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหาร และกับเจ้าหน้าที่พลศึกษา ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง

งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดมุกดาหารและนครพนมเริ่มแล้ว คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนหลายล้านบาทบาทตลอดช่วงระยะเวลาจัดงาน 11-13 ธันวาคม นี้

จังหวัดมุกดาหารเปิดบ้านต้อนรับ คณะครู นักเรียน ผู้ปกครองจาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มาร่วมงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 63 ซึ่งจังหวัดนครพนมและมุกดาหารเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ทั้งนี้โดยมีพิธีเปิดงานที่จังหวัดนครพนมในเช้าวันนี้ ( 11-12-56 ) และจะมีพิธีปิดงานในวันสุดท้ายที่จังหวัดมุกดาหาร โดยงานกำหนดระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม นี้ ตั้งแต่ภาคค่ำของวานนี้ นักเรียนแต่ละโรงเรียนที่จะมาเข้าแข่งขันทักษะต่างๆในงานนี้จะ  เริ่มทยอยเดินทางมายังจังหวัดมุกดาหาร ขณะที่จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถามศึกษามุกดาหาร ได้เปิดเว็บไซต์การแข่งขันเพื่อรายงานผลการแข่งขัน และอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลที่พักและเส้นทาง งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 63 จึงจะมีผลทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัดมุกดาหารหลายล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ที่พักและร้านอาหารต่างๆ

   นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดมุกดาหาร ที่ขึ้นชื่อเช่น หอแก้วมุกดาหาร ตลาดอินโดจีน ก็มีผู้เดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่บริเวณพระธาตุพนม พบว่า มีคณะ นักเรียน ผู้ปกครองเดินทางไปนมัสการขอพร จนการจราจรทั้งบริเวณรอบวัดและในวัด ติดขัด แต่เจ้าหน้าที่ก็คอยดูและควบคุมการจราจรอย่างต่อเนื่อง

  สำหรับจังหวัดมุกดาหาร เป็นสนามแข่งขันทักษะที่สำคัญหลายอย่าง เช่น การประกวดวงดนตรีลูกทุ่งระดับมัธยม การแข่งขันวงดนตรีพื้นเมืองโปงลาง ทักษะคณิตศาสตร์ และภาษาต่างประเทศ ฯลฯ

จ.สุรินทร์ ติวเข้ม การเตรียมความพร้อมโครงการคลินิคเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร

จังหวัดสุรินทร์ ติวเข้ม ในการจัดเตรียมความพร้อมในการจัดงานโครงการคลินิคเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จัดขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2556 นี้ ที่บ้านคูขาด อ.ศรีณรงค์ มี18 คลินิคไว้บริการพี่น้องประชาชน

วันนี้(11 ธ.ค. 2556) ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานประชุมในการจัดเตรียมความพร้อมงานโครงการคลินิคเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในวันที่9 ธันวาคม โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยกระทรวงสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อให้บริการทางด้านการเกษตรแก่เกษตรกร เน้นการแก้ไขด้วยการวิเคราะห์ วิจัยให้คำปรึกษา แนะนำ ซึ่งมีวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือในการปฎิบัติการ ให้กับเกษตรกรและพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2556 นี้ที่ บริเวณสระน้ำสาธารณะบ้านคูขาด หมู่ที่ 5 ตำบลหนองแวง อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์

นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวภายหลังจากประชุม ว่า งานโครงการคลินิคเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร ในครั้งนี้ ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่าง ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะมีหน่วยงานต่างๆให้บริการคลินิคเคลื่อนที่ฯ จำนวน 18 คลินิค อาทิ คลินิคข้าว , คลินิคหม่อนไหม , คลินิคยางพารา , คิลคิพืชผัก-ไม้ผล-พืชไร่,คิลนิคพืชสวน ,คลินิคพืชพันธ์เพาะเลี้ยง ,คลินิดิน,คลินิคประมง ล คลินิคปศุสัตว์ , คลินิคสายใยรักแห่งครอบครัว ล คลินิคกฎหมาย , คลินิคกฎหมาย, คลินิคบัญชี ,คลินิคชลประทาน, คลินิคสหกรณ์ , คลินิคบริหารศัตรูพืช และคลินิคอื่นๆ จึงเรียนเชิญเกษตรกรและพี่น้องที่อยู่ในเขตอำเภอศรีณรงค์และใกล้เคียงเข้ารับการบริการจากหน่วยงานของทางราชการในครั้งนี้ ด้วย



อุทัย  มานาดี / รายงาน

ตลาดปลานา ใหญ่สุดในจังหวัดสุรินทร์ สร้างรายได้วันละนับหมื่นบาท

ตลาดปลานา อ.ชุมพลบุรี ใหญ่สุดในสุรินทร์ มีจำนวน 60 ราย สร้างรายได้ให้แต่ละราย ถึงวันละ 6,000 – 10,000 บาท สร้างรายได้เป็นอย่างดี

วันนี้ ( 11ธ.ค.56 ) ที่บริเวณสี่แยกทางพาด  บ้านหนองพิมานเหนือ ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นสี่แยกไปจังหวัดบุรีรัมย์ มหาสารคาม และจังหวัดสุรินทร์  ริมถนนสองข้างในระยะ 200 เมตร ได้มีพ่อค้าแม่ค้า จำนวน 60 รายได้ตั้งเพิงหมาแหงน ตากปลานาทุกชนิดและจำหน่ายปลานาทุกชนิด อาทิ ปลาช่อน ปลาดุก ปลาไหล ปลาหมอ ปลาซิว ปลาสร้อยและปลานาทุกชนิดทุกขนาด มีทั้งปลาสดๆและปลาตากแห้ง ในราคาที่ผู้ซื้อต่อรองกันได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผู้คนมีจำนวนมากให้ความสนใจ ซึ่งผู้สัญจรผ่านไปผ่านมาอดใจไม่ไหวต้องชะลอรถและต้องเข้าแวะชมและซื้อไปบริโภคเป็นอาหารและเป็นของฝากได้เป็นอย่างดี   ทำให้ตลาดปลานาแห่งนี้ สร้างรายให้พ่อค้าแต่ละรายได้ถึงวันละ 6,000 – 10,000 บาทเมื่อหักต้นทุนแล้วพ่อค้าทุกคนบางรายได้กำไลถึง 3,000- 8,000 บาท/วัน  ส่งผลให้ตลาดปลานาริมถนนแห่งนี้มีเงินสะพัดหลายล้านบาทต่อวัน  



อุทัย  มานาดี / รายงาน

งานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (งานงิ้ว) จัดเชิดสิงโต ยิ่งใหญ่

 จังหวัดสุรินทร์ จัดเชิดสิงโตของคณะลูกท้าวมหาพรหม บริเวณอนุสาวรีย์ สุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ในงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จ.สุรินทร์ ปี 56  อย่างยิ่งใหญ่

วันนี้ ( 11 ธ.ค.56 )  เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 10ธ.ค.56 ) ที่บริเวณบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง  อ.เมือง  จ.สุรินทร์   นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้นำคณะกรรมการจัดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จ.สุรินทร์ ปี 56 บวงสรวงแลพกราบไหว้สักการะ อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง เพื่อเป็นสิริมงคลในการจัดงานฯ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสของประชาชนทุกเชื้อชาติของชาวไทย และเป็นสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้เพื่ออนุรักษ์ประเพณีการสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จ.สุรินทร์(งานงิ้ว)ให้คงอยู่คู่จังหวัดสุรินทร์ ตลอดไป

ภายหลังจากประธานและคณะกรรมการจัดงานฯ ร่วมสักการะพระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวางและประกอบพิธีไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ได้มีการแสดงการเชิดสิงโตและการแสดงมังกร จากคณะลูกท้าวมหาพรหม จากกรุงเทพฯ ซึ่งมีฉากการแสดงตื่นตาตื่นใจ  โดยมีพี่น้องประชานเข้าร่วมชมจำนวนมาก

นายชาญสิทธิ ธนะสกุลประเสริฐ คณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า การจัดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จ.สุรินทร์ ปี 56   จังหวัดสุรินทร์ ในครั้งนี้มีกิจกรรมมากมาย อาทิ การจัดขบวนแห่งสิงโต มังกรและขบวนแห่อันเชิญกระถางธูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วย ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ศาลปู่ตายาย ศาลเจ้าพ่อไต่ฮงกง  โป๊ยเซียนโจวชือ  แห่ไปตามเส้นทางในตัวเมืองสุรินทร์ เพื่อให้คนสุรินทร์ได้กราบไหว้สักการะ และการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อป  ได้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคมนี้  และจะมีการประมูลวัตถุมงคล ในวันที่ 18 ธันวาคม 2556 เพื่อนำรายได้ไปดำเนินการด้านการกุศลหรือด้านสาธารณประโยชน์ตลอดงานอีกด้วย



อุทัย  มานาดี / รายงาน

พลิกวิกฤติเป็นโอกาส งมหอยเชอรี่ศัตรูข้าว จับมาทำยำ

พ่อครัวหัวนา พลิกวิกฤติเป็นโอกาส งมหอยเชอรี่ศัตรูข้าว จับมาทำยำและลาบหอยเชอรี่ เมนูเด็ดเป็นที่ถูกปากชาวบ้าน สั่งซื้อก็มี

วันนี้ ( 11 ธ.ค.56 ) ถึงแม้ในช่วงนี้ฤดูกาลทำนาและการเก็บเกี่ยวข้าวได้สิ้นสุดลงไปแล้วในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีอีกหลายพื้นที่ๆติดแหล่งน้ำก็ได้เริ่มมีการปลูกข้าวนาปรังอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่เกษตรกรชาวนามักจะพบในช่วงที่ต้นกล้ากำลังเติบโต คือปัญหาหอยเชอรี่ระบาดในนาข้าวจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาให้กับ นายนึก ประจวบสุข อายุ 58 ปี ชาวนาบ้านกรูด ม.4 ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ผู้นี้แต่อย่างใด

นายนึกฯ กลับพลิกวิกติเป็นโอกาส ออกงมหาหอยเชอรี่ในทุ่งนาที่ปลูกข้าวนาปรัง นำมาประกอบอาหารเมนูเด็ด ทั้งลาบทั้งยำ ได้อย่างเอร็ดอร่อยและถูกปากชาวบ้านหลายคนที่ได้มาชิมเมนูยำหอยเชอรี่และลาบหอยเชอรี่ของนายนึกพ่อครัวหัวนา รายนี้ได้เป็นอย่างดี

นายนึก ประจวบสุข พ่อครัวหัวนา กล่าวอีกว่า ปกติชาวบ้านก็ชอบกินหอยอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มักจะนำไปต้มไปแกง  ตนก็พยายามคิดว่า หอยน่าจะทำอาหารอย่างอื่นได้ อีกทั้งเนื้อของหอยมีความนุ่มและกรอบคล้ายปลาหมึก ก็เลยลองทำลาบและยำดูก็พบว่ามีรสชาติอร่อยใช้ได้ ไม่แพ้ยำปลาหมึกเลยทีเดียว จากนั้นลองทำให้เพื่อนบ้านทาน หลายคนก็ชอบ บางครั้งชาวบ้านมาสั่งให้ทำไปขายก็มี  ซึ่งหากใครสนใจจะนำหอยเชอรี่ไปทำยำและลาบดูบ้างก็ไม่ยาก เครื่องปรุงเหมือนกับทำลาบหมูและยำทั่วไปทุกอย่าง โดยหลังจากงมหอยเชอรี่มาก็นำไปต้มให้สุก แล้วนำมาแคะเอาเนื้อหอยออกมา สับให้เป็นชิ้น จากนั้นก็เตรียมเครื่องเคียงเครื่องปรุงต่างๆก่อนนำมาคลุกเคล้ากับเนื้อหอย ก็จะได้ยำหอยและลาบหอยเชอรี่เมนูเด็ด ที่สามารถเสิร์ฟให้รับประทานได้เลย


อุทัย  มานาดี / ร่ายงาน

จ.สุรินทร์ เปิดรับสมัครอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำชุดใหม่

จังหวัดสุรินทร์ เปิดรับสมัครผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง เป็นอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำชุดใหม่ นายเกรียงไกร อาภาบุษยพันธุ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้แจ้งมติคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 19 เห็นชอบให้ดำเนินการสรรหาคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 19 โดยเปิดรับสมัครผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง เป็นอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด อาทิ มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ยี่สิบห้าปีขึ้นไป ต้องมีหนังสือรับรองสมาชิกภาพจากองค์กรนายจ้าง ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เคยต้องโทษจำคุก เป็นต้น ผู้สนใจ ติดต่อสมัครได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 12 ธันวาคม นี้ โดยจะแจ้งผลการคัดเลือกเป็นอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 6 มกราคม 2557 ทางไปรษณีย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-4451-8890



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 จังหวัดนครราชสีมาปูพรมทั่วประเทศยาวส่งท้ายปี สศก. ลุยทุกจังหวัด เจาะพื้นที่สำรวจผลผลิตข้าวนาปี 56/57

นายอนันต์ ลิลา เลขาสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีของเกษตรกร ซึ่ง สศก. ได้เริ่มกำหนดการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลผลผลิตข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2556 / 57 มาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดการสำรวจในเดือนธันวาคม 2556 โดยการสำรวจครั้งนี้ จะใช้วิธีตั้งแปลงเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือ Crop Cutting จากเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่เพื่อวัดพื้นที่จริง และนำผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมาชั่งน้ำหนักเพื่อหาค่าผลิตที่ได้ต่อไร่ ณ ความชื้น 15% จากเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างทุกจังหวัดทั่วประเทศมากกว่า 1 หมื่นจุด




สิดาพร สำราญใจ สปชส.สร./ข่าว

จ.สุรินทร์ ออกโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และมอบบ้านธารน้ำใจ ที่ อ.สำโรงทาบ

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้มประจำปี  2557 เพื่อนำหน่วยบริการเคลื่อนที่ของส่วนราชการต่าง ๆ ไปให้บริการประชาชนแบบเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกล เพื่อพบปะเยี่ยมเยือนรับทราบปัญหาต่าง ๆ จากประชาชนในท้องถิ่น และดำเนินการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน สำหรับเดือนพฤศจิกายน ออกหน่วยในวันที่ 18 ธันวาคม 2556 ที่บ้านเกาะแก้ว หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งโครงการดังกล่าวนอกจากการจัดให้บริการด้านต่าง ๆ แก่ประชาชนที่มาร่วมงานแล้ว จังหวัดสุรินทร์ มอบเงินสร้างและซ่อมแซมบ้านจากบัญชีบ้านธารน้ำใจสร้างสุข สร้างรอยยิ้ม มอบให้นายอำเภอสำโรงทาบ เพื่อให้กับราษฎรยากจน ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง จำนวน  10,000 บาท และมอบบ้านธารน้ำใจ ให้กับ นางสาวยุพาวดี สาทิพย์จันทร์ บ้านเลขที่ 92 บ้านโนนสวรค์ หมู่ที่ 7 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ มอบรถจักรยานให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน มอบเครื่องอุปโภค –บริโภคและถุงยังชีพให้ คนยากจน จำนวน 100 ชุด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด มอบทุนการศึกษา จำนวน 4 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจนด้วย มอบพันธุ์ปลาให้แก่ชุมชนด้วย ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ มารับบริการได้ในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไทย (ททท.) สุรินทร์ ประกาศเพิ่มความสุขเที่ยวสนุก ตามรอยอารยธรรมขอมอีสานใต้

นายชูเกียรติ โพธิโต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไทย (ททท.) สุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา จำนวน 5 แห่ง อันมีจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศกัมพูชา โดยมีเวลาเปิด – ปิด ด่านจากเดิมเวลา 07.00 - 20.00 น. เป็น เวลา 06.00 – 22.00 น. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นโอกาสอันดี จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวผู้สนใจเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสกลิ่นไอวิถีชีวิตวัฒนธรรม ประเพณีอันงดงาม และน่าหลงใหลแห่งอีสานใต้ ไม่ว่าจะเป็นสายสัมพันธ์วิถีคนกับช้างหมู่บ้านช้าง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หมู่บ้าทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ อัศจรรย์แห่งภูมิปัญญาของคนโบราณในการสังสรรค์ปราสาทพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ หรือปราสาทแห่งความศรัทธาของชุมชนหมู่บ้านโบราณปราสาทเมืองต่ำ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รื่นรมย์พร้อมชื่นชมดงดอกลำดวนนับหมื่นต้นที่ยามผลิบานจะส่งกลิ่นหอมอบอวล ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และชมอัศจรรย์อันซีนไทยแลนด์ ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผู้สนใจสามารถเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ และจ.ศรีสะเกษ อันมีความชำนาญ ได้มาตรฐาน และจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายกรมการท่องเที่ยว ในการจะพาท่านท่องเที่ยวตามเส้นทางอารยธรรมขอมทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับได้อย่างประทับใจมิรู้ลืม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ททท. สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0 44 51 4447 - 8 โทรสาร. 0 4451 8530 e-mail : tatsurin@tat.or.th ,http://www.tourismthailand.org/surin www.facebook.com/TATSurinOffice หรือโทร. 1672

จังหวัดสุรินทร์ เตือนดื่มสุราแก้หนาวเป็นความเชื่อที่ผิด อันตรายถึงเสียชีวิต

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ทำให้มีประชาชนบางกลุ่มนิยมดื่มเหล้าแก้หนาว เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นร่างกาย และเชื่อว่าไม่ต้องสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นก็ได้ เพราะเหล้าทำให้อุ่นอยู่แล้ว ซึ่งในทางการแพทย์จัดว่าเป็นความเชื่อที่ผิด และมีข่าวผู้เสียชีวิตจากความเชื่อดังกล่าวทุกปี เพราะความร้อนวูบวาบที่เกิดขึ้นหลังดื่ม ไม่ใช่ความอบอุ่น แต่เป็นผลจากหลอดเลือดฝอยขยายตัวเพราะฤทธิ์เหล้า และเป็นช่องระบายความร้อนออกจากร่างกาย ยิ่งดื่มมากเท่าใด ความร้อนในร่างกายจะถูกระบายออกมาก ทำให้อุณหภูมิในตัวลดต่ำกว่าปกติ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง เมื่อสัมผัสอากาศเย็นเป็นเวลานาน สำหรับ การทำให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ขอให้ประชาชนออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ  30 นาที  รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ไม่ควรก่อไฟผิง เพราะควันจากการผิงไฟจะระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และควรเพิ่มความอบอุ่นโดยเฉพาะเวลานอน อาจต้องสวมเสื้อผ้า หรือผ้าห่มหลายชั้น เพื่อป้องกันความหนาว

ปภ.สุรินทร์ เตือนหนาวผิงไฟอย่างระวัดระวัง ป้องกันอัคคีภัย

นายนิรันดร์ บุญสิงห์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศของจังหวัดสุรินทร์เริ่มหนาวเย็นในหลายพื้นที่ และมีความแห้งแล้ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟไหม้ เนื่องจากประชาชนมักจะมีการก่อไฟผิงอยู่ใกล้ๆ บ้านเพื่อคลายความหนาวเย็นให้กับร่างกาย โดยเฉพาะกองฟางแห้งที่เก็บรักษาไว้ใกล้บ้านเรือนหากเกิดไฟไหม้จะลุกลามไฟไหม้บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังการจุดไฟผิง และช่วยกันสอดส่องดูแลบ้านเรือน และบริเวณที่อยู่อาศัยให้ดีก่อนออกจากบ้านไปทำงาน หรือเดินทางไปต่างจังหวัดหลายวัน และควรสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้า ถอดปลั๊ก หรือปิดสะพานไฟ และปิดถังแก๊สหุงต้มให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้

จังหวัดสุรินทร์ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เห็นชอบให้มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน และ 100 วัน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดพิธีทำบุญตักบาตรวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 และ 100 วัน ในวันที่ 31 มกราคม 2557 เวลา 07.00 น. ณ วัดบูรพาราม พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชน และข้าราชการ พนักงาน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในครั้งนี้โดยทั่วกัน ตามวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ในการเสด็จออกมหาสมาคมในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2556

นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เปิดเผยว่า ด้วยพระบาทสมเด็จ                      พระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้มีพระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคมในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ณ ท้องพระโรง ศาลาประชาสมคมวังไกลกังวล วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2556 ดังนี้

พระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2556

ณ ท้องพระโรง ศาลาประชาคม วังไกลกังวล วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2556

ขอขอบพระทัยและขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พร         วันเกิด  รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาโดยประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอสนองพรและไมตรีทั้งนั้น ด้วยใจจริงเช่นกัน

บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคง และร่มเย็นเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ คนไทยทุกคน จึงควรให้ตระหนักในข้อนี้ให้มาก แล้วตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงาน ให้สมแก่ฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย

ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีแต่ความผาสุกร่มเย็นตลอดไป

ในการนี้ จังหวัดอำนาจเจริญขอให้หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอทุกอำเภอ  ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า           ได้เผยแพร่พระราชดำรัสและน้อมนำกระแสพระราชดำรัสไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองต่อไป  อนึ่ง  สำหรับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้แจ้งส่วนราชการในสังกัดทราบด้วย



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว   

ขอเชิญพุทธศาสนิกชนจังหวัดอำนาจเจริญร่วมพิธีทำบุญถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน

นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  แจ้งว่า  ด้วยจังหวัดอำนาจเจริญ ได้กำหนดจัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556 ณ วัดสำราญนิเวศ (พระอารามหลวง) อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ  โดยเวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10รูป  สวดถวายพรพระ , จบแล้วฉันภัตตาหาร , พิธีประเคนผ้าไตร พระสงฆ์ 20 รูป สดับปกรณ์ เป็นเสร็จพิธี

ในการนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการ  พนักงาน  ลูกจ้าง  ทั้งภาครัฐ  ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปทราบ และไปร่วมทำบุญในวัน  เวลาและสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว 

จังหวัดอำนาจเจริญ ปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกชั่วคราวจำนวน ๖ แห่ง จากทั้งหมด ๑๘ แห่ง ปีการผลิต ๒๕๕๖-๒๕๕๗

ตามจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี จำนวน 15 แห่ง คือ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จำนวน 9 โรง คือ โรงสีรุ่งทรัพย์เจริญผล โรงสีเกษตรธัญญเจริญ โรงสีพยงค์พืชผล โรงสีพงษ์วัฒน์การเกษตร(ไทยเจริญ) โรงสีพงษ์วัฒน์การเกษตร(ไทยสิน) โรงสีอุบลถาวรค้าพืช(กิจตรง) โรงสีเกษตรธัญญเจริญ บจก.ธัญญทรัพย์ สาขา 1 หจก.ไทยสามัคคีไรซ์ บจก.โรงสีข้าวเกษตรธัญญรุ่งเรือง อำเภอปทุมราชวงศา จำนวน 4 โรงคือ หจก.พงษ์วัฒน์การเกษตร หจก.โรงสีโชคประเสริฐอำนาจเจริญ หจก.กิเลนทอง ส่วนโรงสีโชคทวี 2 ค้าข้าวรอการอนุมัติจากส่วนกลางอยู่ อำเภอเสนางคนิคม จำนวน ๑ โรง คือ บริษัท ข้าวเสนางค์ จำกัด และอำเภอลืออำนาจ จำนวน ๑ โรง คือ โรงสีทวีธัญญา และจุดรับจำนำนอกพื้นที่ มีอยู่ ๓ แห่ง คือ สหกรณ์การเกษตรหัวตะพาน อ.หัวตะพาน สหกรณ์การเกษตรพนา อ.พนา และท่าข้าวพงษ์วัฒน์การเกษตร อ.เสนางคนิคมนั้น นางสาววัลลภา โต๊ะถม หัวหน้าหน่วย บจก.โรงสีเกษตรธัญญรุ่งเรือง เปิดเผยว่า บจก.โรงสีเกษตรธัญญรุ่งเรือง ขอหยุดรับจำนำข้าวเปลือกจากเกษตรกรเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ เนื่องจากโรงสีรับข้าวเปลือกเกินวงเงินค้ำประกันที่วางไว้กับองค์การคลังสินค้า โดยมีโรงสีที่ปิดรับจำนำในครั้งนี้ ประกอบด้วย หจก.โรงสีเกษตรธัญญเจริญ หจก.โรงสีพงษ์วัฒน์การเกษตร(ไทยสิน) หจก.โรงสีพงษ์วัฒน์การเกษตร(ไทยเจริญ) บจก.โรงสีข้าวเกษตรธัญญรุ่งเรือง สหกรณ์การเกษตรหัวตะพาน อ.หัวตะพาน และท่าข้าวพงษ์วัฒน์การเกษตร อ.เสนางคนิคม ทั้งนี้ทางหน่วย บจก.โรงสีเกษตรธัญญรุ่งเรือง ได้ประสานกับผู้ประกอบการโรงสีที่ปิดรับจำนำทั้ง ๖ แห่ง ให้เร่งดำเนินการวางหลักค้ำประกันสัญญาเพิ่มเติมและเร่งส่งมอบข้าวสารเข้าคลังสินค้าต่อไป


สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ

จ.อำนาจเจริญ ปลูกกล้าไม้พยุงไทยพยุงธรรม เพื่อแผ่นดิน ถวายแด่พ่อหลวง และอันเชิญกล้าไม้พะยุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันที่ ( ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ ) ณ บริเวณเสาธงศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานปลูกกล้าไม้พยุงไทยพยุงธรรม เพื่อแผ่นดิน ถวายแด่พ่อหลวง และอันเชิญกล้าไม้พะยุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดอำนาจเจริญ นำโดย นางสาว ปวีณา คันธะมาลา ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดอำนาจเจริญพร้อมสมาชิกร่วม ๒๐ คน ส่วนราชการที่เกี่ยวร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๖ พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิร่วมร้อยใจไทย ได้จัด โครงการรักษ์ป่าพยุงไทยพยุงธรรม เพื่อแผ่นดินถวายแด่พ่อหลวง ได้ขอพระราชทานกล้าไม้มงคล จำนวน ๙ ต้น พระราชทานให้สภาเด็กและเยาวชนทั้ง ๗๗ จังหวัด นับรวมทั้งหมด ๘๖ ต้น ซึ่งเดินทางไปรับพระราชทานต้นกล้าไม้ที่ทรงพระราชทานให้เป็นการส่วนพระองค์ ณ วัดถ้ำคิ้ว จังหวัดนครพนม เพื่ออัญเชิญกลับไปปลูกที่จังหวัดของตนเอง โดยจังหวัดอำนาจเจริญ ได้จัดพิธีปลูกกล้าไม้พยุงขึ้นที่หน้าบริเวณเสาธงชาติไทย ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน ๙ ต้น

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ร่วมกับภาคีเครือข่าย อบรมพัฒนาศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชน ในชุมชนท้องถิ่น

( 11ธ.ค.56 )  ผู้ช่วยศาสตราจารย์สนธยา  เกาะสมบัติ    ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี  เปิดเผยว่า  มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี  ร่วมกับภาคีเครือข่ายการดำเนินงานด้านเด็กและเยาวชนในจังหวัดอุบลราชธานี ทั้ง 5 ภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน  เครือข่ายด้านวิชาการและเครือข่ายองค์กรเด็กและเยาวชน ได้ดำเนินโครงการขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชนแบบบูรณาการระดับจังหวัด:อุบลราชธานี ซึ่งดำเนินการมาแล้วเป็นระยะเวลา 1 ปี มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการ 25 แห่ง และจะมีการขยายผลในปีที่ 2 อีก 20 แห่ง

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าว ประสบความสำเร็จ และบรรลุวัตถุประสงค์ จึงมีกำหนดการจัดอบรมพัฒนาศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 13 – 15 ธันวาคม  2556  ณ ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน  มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

สำหรับแกนนำเยาวชนที่เข้ารับการอบรม จะได้รับความรู้ที่หลากหลาย เช่น  การเรียนรู้ตนเองและรู้จักคนอื่น  กิจกรรมเสริมพลังกลุ่มเพื่อการเรียนรู้  การบรรยายเกี่ยวกับบทบาทของเด็กและเยาวชนในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น กระบวนการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านเด็กและเยาวชน  การเรียนรู้เทคนิคการเขียนโครงการสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน                          



กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯ
สปข.2 รายงาน 

สถาบันฝีมือแรงงานภาคที่ 7 อุบลราชธานี เปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการฝึกอาชีพ

อุบลราชธานี : นายสรรชัย ชอบพิมาย นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี เปิดเผยว่า สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคที่ 7 อุบลราชธานี จะเปิดรับสมัคร บุคคลทั่วไป อายุ 18 ปีขึ้นไปสำเร็จการศึกษาวุฒิ ม. 3 เพื่อเข้ารับการฝึกอาชีพในหลักสูตร การฝึกเตรียมเข้าทำงาน รุ่นที่ 35 (2/2557) จำนวน 3 สาขาช่าง ดังนี้ 1.สาขาช่างซ่อมตัวถังรถยนต์ ระดับ 1 รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2556 จำนวน 20 คน 2. สาขาช่างสีรถยนต์ ระดับ 1 รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2556 จำนวน 20 คน 3. สาขาช่างเย็บจักรอุตสาหกรรม รับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่จำกัดคน สามารถยื่นใบสมัครด้วยตนเองตั้งแต่บัดนี้ ถึง วันที่ 24 ธันวาคม 2556 เวลา 08.30 น. – 16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ หรือสอบถามที่ กลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาฝีมือและศักยภาพแรงงาน อำนวยการ ชั้น 1 สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค ที่ 7 อุบลราชธานี ถนนคลังอาวุธ ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000 โทร 0-4531-9559 หรือที่เว็บไซต์ www.ubisd.go.th

ศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ดอนจิก จังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการสืบสานวัฒนธรรมไทย สร้างสายใยรักสถาบัน

ศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ดอนจิก จังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการสืบสานวัฒนธรรมไทย สร้างสายใยรักสถาบัน เนื่องในวโรกาสคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายาฯ

นางอภิญญา  ชมภูมาศ  ผู้จัดการศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ดอนจิก จังหวัดอุบลราชธานี ในพระอุปถัมภ์ฯ  เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิ์การ โดยกองประสานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวได้กำหนดให้ศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ดอนจิก จังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการสืบสานวัฒนธรรมไทย สร้างสายใยรักสถาบัน เนื่องในวโรกาสคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรราชายาฯ เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเป็นการเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรองค์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เนื่องในวโรกาสคล้ายวันประสูติ 9 กันยายน 2556 เพื่อให้การดำเนินงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว สามารถสร้างครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็งได้ ตามพระราชบัณฑูร ควรมีศูนย์กลางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เน้นความต่อเนื่องเชื่อมโยงเป็นวงจรทุกช่วงวัย โดยร่วมบูรณาการการดำเนินงานทุกภาคส่วน ให้มีการพัฒนาที่เหมาะสมตามช่วงวัย โดยจัดทำเป็นโมเดล/รูปแบบ ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนและสอดคล้องกับสภาพทางสังคมในพื้นที่

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย   พิธีสำนึกรักชาติ/ศาสนา/พระมหากษัตริย์    มอบใบประกาศเกียรติบัตรพ่อตัวอย่าง    มอบรางวัล ต้นแบบมารยาทไทย   การกราบบุพการี  มอบป้ายครัวเรือนตัวอย่าง 30 ครัวเรือน  และกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์



กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯ
สปข.2 รายงาน

ศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชธานี รับสมัครพนักงานตำแหน่งช่วยเหลือคนไข้

 อุบลราชธานี : นางภัทรภร เอี่ยมอุตมะ นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการพิเศษ รักษาการแทน ผู้อำนวยการ ศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชธานี รับสมัคร ตำแหน่ง พนักงานช่วยเหลือคนไข้ จำนวน 1 อัตรา ผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครได้ที่ งานหารเจ้าหน้าที่กลุ่มอำนวยการ ศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชาธานี เลขที่ 45 ถนนสถลมาร์ค หมู่ที่ 4 บ้านบัว ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 34190 โทร 0-4528-8586-8 ต่อ 220 (ทางไปมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2556 ในเวลาราชการ ภาคเช้า ตั้งแต่ 08.30 น. ถึงเวลา 11.45 น. และภาคบ่าย 13.00 น. ถึงเวลา 16.00 น.

มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ประกาศรับสมัครนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2557

ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ประธานอาจารย์สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย แม่โจ้-แพร่ จะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ทางด้าน เศรษฐศาสตร์ โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์

http://vichakarn.phrae.mju.ac.th/Quota/main.asp หรือติดต่อโดยตรงที่ ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ โทร 091-212949

สปข.2 อบรมผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ระดับกลาง (รุ่นที่ 2)

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2(อุบลราชธานี) เปิดการฝึกอบรมหลักสูตร "ผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์” ระดับกลาง( รุ่นที่ 2) เพื่อส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์

วันที่ 11 ธ.ค.56 เวลา 09.15 น. ที่ห้องปทุมรัตน์ สวนป่ารีรีสอร์ท อำเภอเมืองสุรินทร์ นายบัณฑิต ตั้งประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร "ผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์” ระดับกลาง โดยมีนายดุสิต สิงห์คีรี ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 เป็นผู้กล่าวรายงานถึงรายละเอียดและวัตถุประสงค์ของการจัดการฝึกอบรม               สืบเนื่องจาก กรมประชาสัมพันธ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับการจัดรายการ หรือผลิตรายการวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ ให้มีคุณภาพและเป็นมืออาชีพ ประกอบกับประกาศสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง การอบรมและทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2556 ซึ่งกำหนดให้ผู้เข้ารับบัตรผู้ประกาศได้นั้น จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตร "ผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์” ใน 3 ระดับ คือระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูง

ด้วยเหตุนี้ กรมประชาสัมพันธ์ จึงได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลง กับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เพื่อจัดอบรมหลักสูตร "ผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 ได้จัดอบรมระดับต้น ระหว่างเดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม 2556 รวม 4 รุ่น

ซึ่งในวันนี้ เป็นการจัดอบรมระดับกลาง (รุ่นที่ 2) มีผู้เข้ารับการอบรมรวมทั้งสิ้น จำนวน 40 คน ประกอบด้วยผู้จัดรายการ ผู้ประกาศ บุคลากรด้านการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานภาครัฐ วิทยุชุมชน อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน ประชาชนทั่วไป จำนวน 21 คน และบุคลากรในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดในพื้นที่อีก จำนวน 19 คน โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ จากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงาน กสทช. มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และกรมประชาสัมพันธ์ มาอบรมและให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อุบลราชธานี : ติดตามผลการดำเนินงานในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก โดยเน้นการดำเนินการตามขั้นตอนรับจำนำข้าวให้มีความถูกต้อง ด้านโครงการตามที่ประชุม ครม.สัญจร ทั้งขยายถนน 4 ช่อง,สร้างสะพานและสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ล้วนดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

เช้าวันนี้ ( 11 ธ.ค.56 ) นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 13 เป็นประธานการประชุมตรวจติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลด้านการจำนำสินค้าเกษตร โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 และการติดตามการดำเนินงานแผนงาน/โครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1 ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2557 ที่ห้องประชุมจินดารัตน์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ในการติดตามผลการดำเนินงานในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ซึ่งผู้ตรวจราชการได้เน้นการปฏิบัติตามขั้นตอนการรับจำนำนับให้มีความถูกต้องและสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตรกร,การจัดทำประชาคมและการออกใบรับรองเกษตรกร ซึ่งในการปฏิบัติหน่วยงานทีเกี่ยวข้องได้รายงานความคืบหน้าให้จังหวัดทราบเป็นประจำทุกสัปดาห์ จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรขึ้นทะเบียน จำนวน 197,956 ราย ผ่านการประชาคม จำนวน 194,244 ราย และออกใบรับรองเกษตรกรได้แล้ว จำนวน 193,593 ราย และสามารถออกใบประทวนให้เกษตรกรแล้ว จำนวน 84,413 รายและกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอีกจำนวนมาก ส่วนการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ขณะนี้ ธ.ก.ส.กำลังเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินโดยด่วน พร้อมนี้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหาในการปฏิบัติงานในพื้นที่พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติและจะนำปัญหาและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่ปฏิบัติในพื้นที่เสนอรัฐบาลรับทราบต่อไป

ส่วนการติดตามการดำเนินงานแผนงาน/โครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างทางสายหลัก 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 2178 ตอน อ.วารินชำราบ-บ้านหนองงูเหลือม อ.สำโรง ซึ่งดำเดินการแล้วเสร็จและบางส่วนได้รับความเสียหายจากการเกิดอุทกภัยในช่วงเดือนกันยายน 2556 ซึ่งได้ประสานผู้รับจ้างเร่งซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้โดยสะดวก ส่วนโครงการก่อสร้างสะพาน คสล. ข้ามห้วยข้าวสาร สายบ้านนาดี ม.1 ต.นาดี อ.นาเยีย – บ้านโพธิ์ออก ม.1 ต.โพธิ์ใหญ่ อ.วารินชำราบ,โครงการก่อสร้างสะพาน คสล. ข้ามห้วยยาง สายบ้านสว่างโนนโพธิ์ ม.13 ต.นาเยีย อ.นาเยีย – บ้านคำนาแซง ม.9 ต.กุดประทาย อ.เดชอุดม, โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบระบายน้ำ ต.นาแวง อ.เขมราฐ, โครงการอาคารบังคับน้ำห้วยสลึง (ท่าแตง) ต.นาคำ อ.ศรีเมืองใหม่, โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านปากกะหลาง ต.สองคอน อ.โพธิ์ไทร,โครงการแก้มลิงนาแซงพร้อมอาคารประกอบ (ระยะที่1) ต.สว่าง       อ.สว่างวีระวงศ์ ซึ่งทุกโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จและมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่รับผิดชอบบริหารจัดการ ส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำท่วมขังบริเวณโรงพยาบาลม่วงสามสิบและโรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา ก็ดำเนินการได้แล้วเสร็จเช่นกัน


 พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ขอความร่วมมือเกษตรกรทั้ง 25 อำเภอ ไถกลบตอซังข้าว เพราะเป็นการปรับปรุงสภาพดิน ทำให้ดินร่วนซุย ง่ายต่อการเตรียมดินเพื่อการเพาะปลูก

นายวันชัย  สุทธิวรชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  เปิดเผยว่า ในช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวขอความร่วมมือเกษตรกรทั้ง 25 อำเภอ ในจังหวัดอุบลราชธานี ให้งดเผาตอซังข้าว เนื่องจากการเผาตอซังข้าว เกิดผลเสียหลายประการ เช่น  สภาพดินเสื่อมโทรม สูญเสียอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารในดิน  สูญเสียน้ำในดิน เกิดมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ  เกิดอันตรายต่อสุขภาพทางร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคตาแดง โรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ นอกจากนี้ ยังเป็นอันตรายต่อการขึ้น – ลง ของอากาศยานหรือการขนส่งทางอากาศ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด รวมทั้งผิดต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  จะดำเนินการแจ้งให้นายอำเภอ  ทำการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชน เกษตรกรได้รับทราบ อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอพิบูลมังสาหาร และ อำเภอนาเยีย ซึ่งในช่วงตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2556 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเยือนจังหวัดอุบลราชธานี    

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แนะนำว่า หากเกษตรกรเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ขอให้เกษตรกรทำการไถกลบตอซังข้าว เพราะเป็นการปรับปรุงสภาพดิน ทำให้ดินร่วนซุย ง่ายต่อการเตรียมดินเพื่อการเพาะปลูก  การระบายอากาศของดินเพิ่มมากขึ้น ลดความเป็นพิษจากดินเค็ม ลดมลพิษทางอากาศ ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

จังหวัดอำนาจเจริญจัดอบรมวิทยากรระดับตำบล ตามโครงการเผยแพร่ผลการจัดเวทีประชาชนเสวนาหาทางออกประเทศไทย

วันนี้  ( 11 ธ.ค. 2556 ) เวลา 09.30 น.  ที่โรงแรมฝ้ายขิดอำนาจ   อำเภอเมืองอำนาจเจริญ              จังหวัดอำนาจเจริญ  นายบุญยืน  คำหงส์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานพิธีเปิดการอบรม วิทยากรระดับตำบล ตามโครงการเผยแพร่ผลการจัดเวทีประชาชนเสวนาหาทางออกประเทศไทย

ตามที่  คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ประกอบด้วย คณะที่ปรึกษาทางวิชาการในสถาบันอุดมศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ฯลฯ  สนับสนุนในการจัดเวที .”พูดจาหาทางออกประเทศไทย”  โดยมีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้อำนวยความสะดวก และดำเนินการเปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วทั้งประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหา อันเป็นกุญแจสำคัญ ในการก้าวไปสู่ทางออกประเทศไทยร่วมกัน โดยการจัดเวทีพูดจาหาทางออกประเทศไทย 108 เวที ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน - 28 กรกฎาคม 2556  มีประชาชนผู้เข้าร่วมเวทีทั่วประเทศ จำนวน 101,683 คน และจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ดำเนินการในวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 มีผู้เข้าร่วมเวที จำนวน 400 คน

เพื่อให้การเผยแพร่ผลการจัดเวทีประชาชนเสวนาหาทางออกประเทศไทย ได้มีการเผยแพร่ ถึงพี่น้องประชาชน จึงได้มีการฝึกอบรมวิทยากรระดับตำบล โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างทีมวิทยากรระดับตำบล ให้สามารถชี้แจงผลการจัดเวทีประชาชนเสวนาฯ ปี 2556 ในระดับหมู่บ้านได้  เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ
ในผลการจัดเวทีประชาชนเสวนาหาทางออกประเทศไทย  สู่ประชาชนในระดับพื้นที่หมู่บ้าน

กลุ่มเป้าหมาย วิทยากรระดับตำบล ประกอบด้วย พัฒนาการอำเภอ , นักวิชาการพัฒนาชุมชนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ  ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) , ผู้นำชุมชน รวมจำนวน 168 คน ระยะเวลาดำเนินงาน 1 วัน  ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจาก  วิทยากรกระบวนการระดับจังหวัด จากวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดอำนาจเจริญ  สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ



กฤษดา  เนตรพันธ์ ข่าว/ภาพ

ผลการออกสลากรางวัลกาชาดการกุศล ในงานประเพณีฮีตสิบสองและงานกาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี 2556


เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2556  ที่เวทีร้านกาชาด ในงานประเพณีฮีตสิบสองและงานกาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ  ได้มีการหมุนวงล้อออกหมายเลขรางวัลสลากกาชาดการกุศล ประจำปี 2556  โดยมีนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วย นางนิภาภรณ์ ชื่นวาริน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธาน ซึ่งผู้ที่ขึ้นหมุนวงล้อเป็นตัวแทนนักศึกษาหญิงจากวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ จำนวน 5 คน และนักศึกษาหญิงจากวิทยาลัยโปลีเทคอำนาจเจริญ  จำนวน 5 คน สลับหมุนเวียนกันหมุนวงล้อเพื่อให้การออกหมายเลขสลากเป็นไปด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส โดยมีคณะกรรมการสักขีพยานในการออกสลากรางวัลการกุศล รวมทั้งสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ ,หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนจำนวนมากร่วมเป็นสักขีพยาน

และผลการหมุนวงล้อออกสลากกาชาดการกุศล ประจำปี 2556 ปรากฏผลดังนี้
รางวัลที่ 1 เป็น รถยนต์โตโยต้า CAP   มี 1 รางวัล  หมายเลขสลากที่ออก ได้แก่  03848

รางวัลที่ 2 เป็น สร้อยคอทองคำมูลค่า 80,000 บาท  มี 1 รางวัล  หมายเลขสลากที่ออก

ได้แก่   34000

รางวัลที่ 3 เป็น รถจักรยานยนต์   มี 3 รางวัล  หมายเลขสลากที่ออก

ได้แก่  52155  ,  56958   ,   26081

รางวัลที่ 4 เป็น โทรทัศน์จอ LCD  มี 5 รางวัล หมายเลขสลากที่ออก

ได้แก่  37076  ,  48917  ,  20422  ,  02555  ,  49755

รางวัลที่ 5 เป็น ตู้เย็นขนาดไม่ต่ำกว่า 5 คิว  มี 20 รางวัล หมายเลขสลากที่ออก

 ได้แก่  10266  ,  33199  ,  28607  ,  03403  49724  ,  24234  ,  40284  ,  32472  ,  14732  ,  22984  , 24574  ,  40751  ,  26682  ,  19148  ,  04821  05873  ,  58791  ,  12253  ,  40253  ,  21823

รางวัลเลขท้าย 3 ตัว เป็น พัดลม มี 60 รางวัล  หมายเลขสลากที่ออก  ได้แก่   046

สำหรับผู้ที่ถูกรางวัลให้นำสลากไปรับรางวัลได้ภายใน 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป    ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดอำนาจเจริญ กลุ่มงานการเงินและบัญชี ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ ชั้น 4

ในโอกาสนี้ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และนางนิภาภรณ์ ชื่นวาริน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ  กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนกิจการของเหล่ากาชาด รวมทั้งการซื้อสลากรางวัลกาชาดการกุศลในครั้งนี้ เพื่อเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการสาธารณกุศลของจังหวัด และการดำเนินกิจการของเหล่ากาชาดจังหวัดในการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยต่างๆ พร้อมกันนี้ ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้โชคดีทุกท่านที่ถูกรางวัล มา ณ โอกาสนี้ด้วย

                                                         
              

                                                                                                          สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

ยโสธรเพิ่มเติมจุดเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2556/57

 นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า การรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/57 ซึ่งมีระยะเวลารับจำนำตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับถัดจากเดือนที่จำนำ โดยมีราคารับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิ (ใบประทวนที่โรงสี) ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ราคาตันละ 18,800 – 20,000 บาท (ชนิดสีได้ต้นข้าว 36-42 กรัม) ปรับเพิ่มลดกรัมละ 200 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดสั้น ราคาตันละ 15,000 บาท

           ขณะนี้ จังหวัดยโสธรมีโรงสีที่เปิดเป็นจุดรับจำนำข้าวเปลือก จำนวน 18 ราย ดังนี้
           1. หจก.โรงสีกิจทวียโสธร เลขที่ 76 หมู่ 1 ถนนวารีราชเดช ตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมืองจังหวัดยโสธร
           2. บจก.ยโสธรอินเตอร์เทรดไรซ์ 2010 เลขที่ 167 หมู่ 5 ตำบลเดิด อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
           3. บริษัท โรงสีทรัพย์สิริธร จำกัด เลขที่ 44 หมู่ 7 ถนนแจ้งสนิท ตำบลแคนน้อย อำเภอ
คำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
           4. หจก.โรงสีไฟสหพืชผลยโสธร เลขที่ 241 ถ.แจ้งสนิท ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร
           5. บจก.กิจทวียโสธรไรซ์ เลขที่ 162 หมู่ 1 ถนนวารีราชเดช ตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
           6. สหกรณ์การเกษตรมหาชนะชัย จำกัด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย (โดย บจก.กิจทวียโสธรไรซ์ อ.เมือง จ.ยโสธร)
           7. หจก.พงษ์ชัยธัญญาพืช ต.สามแยก อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
           8. หจก.โรงสีพงษ์เจริญ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
           9. หจก.โรงสีกิจพงษ์ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
         10. บจก.พงษ์นิธิทิพ 1 อ.กุดชุม จ.ยโสธร
         11. โรงสีกิจเจริญ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร
         12. ท่าข้าวเจริญทองการเกษตร อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร
         13. สหกรณ์การเกษตรกุดชุม จำกัด อ.กุดชุม จ.ยโสธร
         14. ท่าข้าวโชคอำนวยผลการเกษตร อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร
         15. โรงสีจิรังกุลรุ่งเรือง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร
         16. บจก.พี.เค.เค.ไรซ์มิลล์ 2001 อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
         17. สหกรณ์การเกษตรทรายมูล จำกัด อ.ทรายมูล จ.ยโสธร
         18. ท่าข้าวยนต์เจริญ เลขที่ 207 หมู่ 11 ตำบลดู่ทุ่ง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร

หากโรงสีใดไม่มีธงฟ้า กขช. และป้ายแสดงข้อความจุดรับซื้อข้าวไม่ใช่จุดของรัฐบาล ให้เกษตรกร พึงระมัดระวัง

สำหรับเกษตรกรที่จะนำข้าวเปลือกไปจำนำที่โรงสีให้นำหนังสือรับรองเกษตรกร บัตรประจำตัวประชาชนและสมุดลูกค้า ธ.ก.ส. ไปแสดงด้วย หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยประการใด ติดต่อสอบถามสำนักงานการค้าภายในจังหวัดยโสธร โทร.045-586083 หรือสายด่วน 1569 ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.
                                                     


                                                               ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 

ศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดารหาร สอบราคาจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสำนักงาน ศูนย์ กกท. จังหวัดมุกดาหาร

 นายฉลอง เผ่าแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดารหาร เปิดเผยว่า มีความประสงค์ประกาศราคาจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสำนักงาน ศูนย์ กกท. จังหวัดมุกดาหาร โดยมีราคากลาง ๙๐๐,๐๐๐ บาท ( เก้าแสนบาทถ้วน ) งบประมาณประจำปี ๒๕๕๗ ผู้มีสิทธิ์เสนอราคาจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ ผู้เสนอราคาต้องเป็นผู้มีอาชีพตามประกาศสอบราคาดังกล่าว ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของทางราชการ และได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้รับเอกสิทธิหรือความคุ้นกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้เสนอราคาได้มีคำสั่งให้สละสิทธิความคุ้มกันเช่นว่านั้น ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้มีประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ที่เข้าเสนอราคาให้แก่ศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา ณ วันประกาศสอบราคาหรือไม่เป็นผู้กระทำการ อันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมในการสอบราคาจ้างครั้งนี้ ผู้เสนอราคาต้องเป็นผู้ที่มีผลงานก่อสร้างทั่วไป ที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชน สัญญาเดี่ยว ในวงเงินไม่น้อยกว่า ๓๐๐,๐๐๐ .-บาท โดยผลงานดังกล่าวได้ดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญานับจากวันที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นตามสัญญา จนถึงวันยื่นซองสอบราคาจ้างฯ ไม่เกิน ๕ ปี

กำหนดรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ในการเสนอราคาพร้อมกัน ในวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๓๐ น.-๑๑.๓๐ น. ณ สำนักงานศูนย์ กกท.จังหวัดมุกดาหาร อัฒจันทร์มีหลังคา สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร ผู้ไม่มารับฟังคำชี้แจงจะไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น หากมีข้อสงสัยประการใด ให้ติดต่อสอบถามที่ ศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ ๐๔๒๖๑ ๓๘๒๗          กำหนดขายแบบและยื่นซองสอบราคา ตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร และกำหนดพิจารณาเอกสารเสนอราคาในวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๓๐ น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมสมาคมกีฬาจังหวัดมุกดาหาร สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคาในราคาชุดละ ๓,๕๐๐  บาท ได้ที่ ศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร(ศูนย์ กกท. จังหวัดมุกดาหาร โทร ๐๔๒๖๑ ๓๘๒๗) ในวันราชการ ตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐-๑๕.๐๐ น.


สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มห/ข่าว

กรมชลประทาน ประกาศผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยตาเปอะ (EIA) อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร

ตามที่ กรมชลประทาน ได้ให้สถาบันที่ปรึกษา มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ดำเนินการแทนในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากการประชุมปฐมนิเทศโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยตาเปอะ (EIA) อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ไปแล้ว เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุมมุจลินท์ โรงแรมมุกดาหาร แกรนด์ โฮเทล อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงขอรายงานผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ดังนี้ จากผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสิ้น ๑๐๘ คน จากจำนวนที่เชิญ ๑๐๐ คน ประกอบด้วย กลุ่มเป้าหมาย แยกเป็นผู้แทนจากหน่วยงานราชการ จำนวน ๕๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๖.๘ ผู้นำชุมชน/ผู้ได้รับผลกระทบทางบวกและทางลบ จำนวน ๒๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๓ สถาบันที่ปรึกษา จำนวน ๒๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐.๔ สื่อมวลชน จำนวน ๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๖.๕ และองค์การบริหารส่วยตำบล/องค์กรพัฒนาเอกชน/สถาบันการศึกษา จำนวน ๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๕.๕ ของจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด

ในการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ประกอบไปด้วยประเด็นเกี่ยวกับข้อมูลโครงการและแผนการดำเนินงาน แนวทางการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพและสังคม รวมทั้งการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และมีส่วนร่วมของประชาชน โดยประชาชนได้รับทราบเเละส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการศึกษาโครงการ

หากมีความสงสัย หรือต้องการแก้ไข กรุณาติดต่อที่ นางดรรชณี เฉยเพ็ชร นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กลุ่มงานสิ่งแวดล้อม ๒ สำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน ๘๑๑ ถนนสามเสน อำเภอดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ หรือโทรศัพท์/โทรสารหมายเลข ๐ ๒๒๔๑ ๔๔๒๑ หรือทาง E-mail address: ae_duchanee@hotmail.com



แสงทอง อนันตภักดิ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ชาวมุกดาหารร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล


วันนี้ ( 11 ธ.ค.56 ) เวลา 08.00 น .ณ บริเวณที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร นำโดย นางคะนึงนิจ ฤทธิ์สรไกร รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร นำบุคลากรในสังกัดเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหารและโรงพยาบาลมุกดาหาร ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ตามโครงการบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 86 พรรษา

โดยมีข้าราชการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหารและประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารร่วมบริจาคโลหิตจำนวน 173 คน เพื่อแสดงความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทั้งนี้ได้ปริมาณโลหิตทั้งสิ้น 51,900 ซีซี



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิทส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

มุกดาหาร ทหารสนธิกำลังตรวจยึดเรือหางยาว2ลำเตรียมลำเลียงไม้พะยูงออกนอกประเทศ


เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2556 ร้อยโท สุสันต์ หาญรักษ์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 2101 พันเอกยุทธนา ม่วงพูลสวาสิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหารนาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าหน่วยเคลื่อนที่เร็ว นรข. เขตนครพนม ได้รับรายงานว่า จะมีผู้ลักลอบขนไม้พะยูงผิดกฎหมาย ส่งออกนอกประเทศ บริเวณ ริมน้ำบ้านนาตาล หมู่ 8 ตำบลดอนตาล อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร จึงได้ประสาน พันตำรวจโท อุดม พูลวงษ์ สารวัตรตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ10 ร้อยตำรวจตรี วัชรินร์ อินไซยา รองผู้บังคับหมวด ตชด 234 นาย สมาน ภูบุญ ปลัดป้องกันอำเภอดอนตาล จ.ส.อ.ประพันธ์ นิโสดา หมวดทหาร ที่ 3 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ประประชุมวางแผนและได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ไปยังที่ได้รับรายงาน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังออกไปดักซุ่มที่บริเวณ ริมน้ำบ้าน นาตาล หมู่ 8 ตำบลดอนตาล อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้องส่อง พบเรือกีบเพลายาว จำนวน 2 ลำ และมีชายนั่งอยู่บนเรือลำละ 2 คน แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาจอดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ใกล้กับจุดเจ้าหน้าที่ ซุ่มอยู่ จากนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 5 -6 คน ช่วยกันลำเลียงไม้พะยูงออกมาจากป่าละเมาะอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ลงเรือเพลายาว ที่จอดรออยู่ริมฝั่ง เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มจึงออกมาแสดงตัว กลุ่มชายดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ จึงตกใจและได้ทิ้งไม้พะยูงและวิ่งหนีไป เจ้าจึงทำการตรวจยึดไม้พะยูง จำนวน ไม้ท่อน 44 ท่อน ไม้แปรรูป 65 แผ่น  รวมไม้พะยูง 109 ท่อน/เหลี่ยม คิดมูลค่า 5 แสนบาท  เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา  มาตรา 11 ฐานร่วมกันทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต  มาตรา 48 ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดไม่ได้รับอนุญาต  มาตรา 70 ฐาน ร่วมกัน ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทบัญญัตินี้  เจ้าหน้าที่จึงได้นำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ. ดอนตาล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

พระนิสิต นักศึกษา มจร.มหาสารคาม ขอนแก่น ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานถวายเป็นพระกุศลแด่พระสังฆราช

พระนิสิต นักศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น และหน่วยวิทยบริการจังหวัดมหาสารคาม ร่วมปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระพุฒจารย์ ณ ป่าสาธารณะประโยชน์ โคกหนองรัก อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม

ที่บริเวณป่าสาธารณะประโยชน์โคกหนองรัก ตำบลคันธารราษฎร์ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม พระนิสิต นักศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น และหน่วยวิทยบริการจังหวัดมหาสารคาม ร่วมปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ประจำปี 2556 เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระพุฒจารย์ โดยมีพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

พระมหาประเสริฐพร ฐิติสิริ หัวหน้าฝ่ายกิจการนิสิต หน่วยวิทยบริการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า โครงการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ประจำปี 2556 กำหนดดำเนินการในระหว่างวันที่ 11-20 ธันวาคม 2556 โดยมีพระนิสต นักศึกษา ตลอดจนผู้บริการ คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น และหน่วยวิทยบริการจังหวัดมหาสารคาม ร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 306 คน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯมหาสารคาม รับรางวัลดีเด่น Prime Minister Road Safety Awards ในงานสัมมนาระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนนครั้งที่ 11

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม รับรางวัลดีเด่น Prime Minister Road Safety Awards ประเภทบุคคล ในงานสัมมนาระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนนครั้งที่ 11 หัวข้อ "สิทธิกับความปลอดภัยทางถนน” ที่ไบเทค บางนา กทม.

งานสัมมนาระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนนครั้งที่ 11 หัวข้อ "สิทธิกับความปลอดภัยทางถนน” ซึ่งจัดโดยศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) และภาคีป้องกันอุบัติเหตุ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคม 2556 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ โดยพิธีเปิดในวันนี้ (11-12-56) มี หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน โดยมีการมอบรางวัล ดีเด่น Prime Minister Road Safety Awards ทั้งในประเภทบุคคล ประเภทองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประเภทสื่อมวลชน ซึ่งในปี 2556 นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้รับรางวัลในประเภทบุคคล

สำหรับด้านการรณรงค์เพื่อลดอุบัติภัยทางถนน ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลง ร้อยละ 50 ภายในปี 2563 ให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบกับคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบให้ปี พ.ศ. 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน มีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคนในปี 2563 ด้วย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯมหาสารคามขอให้เพื่อนข้าราชการน้อมนำแนวพระราชดำรัสในหลวงไปปฏิบัติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ขอให้เพื่อนข้าราชการ ได้น้อมนำแนวพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5ธันวาคม 2556ไปปฏิบัติ โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จออกท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบรอบ86พรรษา และทรงมีพระราชดำรัส ตอบผู้มาเฝ้ารอรับเสด็จใจความตอนหนึ่งว่า "บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความเป็นปึกแผ่นในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใ จประพฤติตัว ปฏิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย” ในนามของข้าราชการ จึงขอให้เพื่อนข้าราชทุกคน ได้น้อมนำพระราชดำรัสดังกล่าว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ

ทั้งนี้ พสกนิกรจังหวัดมหาสารคามทุกหมู่เหล่า ที่ได้ติดตามรับชมและรับฟังการถ่ายทอดสด การเสด็จออกท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพร้อมน้อมนำพระราชดำรัสดังกล่าว มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

18 สาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทยปี 2556 เดินทางสู่เมืองย่าโม เพื่อร่วมทำกิจกรรมเก็บตัวในระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม

18 สาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทยปี 2556 เดินทางสู่เมืองย่าโม เพื่อร่วมทำกิจกรรมเก็บตัวในระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มกิจกรรมแรกกับการกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี วีรสตรีแห่งโคราช โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาการต้อนรับอย่างอบอุ่น

วันนี้(11ธค56)เวลา 09.30 น ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เหล่าสาวงามทั้ง 18 คน ที่ผ่านการคัดเลือกการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 ได้เดินทางมาจังหวัดนครราชสีมาแล้ว โดยมี ดร . วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวต้อนรับสาวงาม ทั้ง 18 คน และคณะ ซึ่งบรรยากาศในการต้อนรับก็เป็นไปอย่างอบอุ่น สำหรับกิจกรรมแรกของบรรดาสาวงามทั้ง 18 คน คือการกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรานรี หรือ คุณย่าโมวีรสตรีแห่งเมืองโคราช ก่อนทั้งหมดจะเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญๆต่างๆของจังหวัดนครราชสีมา อาทิ อุทยานปราสาทหินพิมาย หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา ด่านเกวียน การร่วมทำขนมจีนประโดกที่ขึ้นชื่อ กราบสักการะขอพรหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด และเข้าชมความสวยงามภายในพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน เป็นต้น สำหรับกิจกรรมเก็บตัวสาวงามทั้ง 18 คน ที่ผ่านการคัดเลือกในการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 ที่จังหวัดนครราชสีมาจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 ธ.ค. 2556 นี้

จังหวัดนครราชสีมาจัดโครงการ MHeart สายโลหิต สายใจถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของแผ่นดิน

วันนี้ ( 11 ธ.ค.56 ) เวลา 11.00 น.ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นาย แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการ MHeart สายโลหิต สายใจ ขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 อีกทั้งเพื่อเป็นการให้ความร่วมมือ และสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และจัดหาอวัยวะและโลหิต เพื่อสำรองคลังของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภายในงานได้มีประชาชนมาร่วมบริจาคโลหิตและร่วมบริจาคอวัยวะ เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้นาย แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ยังได้มอบโล่ให้กับผู้สนับสนุน มอบเงินบริจาคให้แก่องค์กรการกุศล และมอบพันธุ์ให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา อีกด้วย

อ.ปักธงชัย โคราช เปิดงานเทศกาลไหมไทย Thai Silk Festival 2013

ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานงานเทศกาลไหมไทยที่โคราช (Thai Silk Festival 2013) ระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม 2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมไหมไทยให้มีช่องทางการตลาด และการจำหน่ายมากขึ้น โดยภายในงานได้มีการจัดบูธแสดง และจำหน่ายผ้าไหมจากร้านผ้าไหมชื่อดังจากทั่วประเทศกว่า 60 ร้าน พร้อมทั้งบูธแสดงสินค้าโอทอป และของดีจากทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาอีกกว่า 40 ร้านค้า ซึ่งงานดังกล่าวได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมเลือกซื้อสินค้าในราคายุติธรรมตลอดทั้งกลางวัน และกลางคืน สำหรับอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพความสวยงามของผ้าไหม และมีผลผลิตผ้าไหมออกสู่ตลาดมากกว่า 10 ล้านหลาต่อปี ทำรายได้ในการค้าขายผ้าไหมไม่ต่ำกว่าปีละ 4,000 ล้านบาท สำหรับงานเทศกาลไหมไทยที่โคราช (Thai Silk Festival 2013) ในปีนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในงานมากกว่า 50 ล้านบาท

นางงามไหมขอนแก่น ปี 2556 สาวงามจากรั้วมข.คว้ามงกุฎไปครอง

นางงามไหมขอนแก่น 2556 ประกาศผลแล้ว ได้แก่ นางสาวสิรินธร ดีชัยธน สาวงามจากรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เวทีกลางในเทศกาลงานไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ได้มีการจัดกิจกรรมประกวดนางงามไหม ประจำปี 2556 โดยมีสาวงามผู้เข้าประกวด 62 คน โดยสาวงามทั้งหมดได้เดินโชว์ตัวบนเวทีในชุดราตรีที่ผลิตจากผ้าไหม หลังจากนั้นคัดเหลือ 32 คน ก่อนจะคัดเหลือ 10 คน ต่อมาประกาศรางวัลผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย และมีการตอบคำถามบนเวทีเพื่อดูปฎิภาณไหวพริบของผู้เข้าประกวด ผลปรากฎว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นนางงามไหมขอนแก่น 2556 คือ นางสาวสิรินธร ดีชัยธน สาวงามจากรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ และเงินรางวัล 70,000 บาทรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาวเพชรลดา ประสงค์ผล ได้รับสายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ เงินรางวัล 40,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวสุทธิพร ง่าวดี ได้รับสายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาทรางวัลเครื่องแต่งกายสวยงาม ได้แก่ นางสาวสุทธิพร ง่าวดี รางวัลป๊อปปูล่าร์โหวต ได้แก่ นางสาวกัลยาณี สมบูรณ์น้อยรางวัลขวัญใจประชาชน (วัดจากดอกไม้หน้าเวที) ได้แก่ นางสาวสุลัคนา ปทุมวัน รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่ นางสาวอิงฟ้า เกดคำ ทั้งนี้ สำหรับนางงามไหมขอนแก่น 2556 จะเดินสายเป็นฑูตวัฒนธรรมของจังหวัดขอนแก่นเพื่อเผยแพร่ผลงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นให้คนต่างถิ่นได้รับรู้วาระการทำงาน 1 ปี เพื่อรอนางงามไหมปีต่อไปเข้ามารับตำแหน่งแทน



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ประกาศประชาสัมพันธ์การรักษาความปลอดภัยศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

 จังหวัดขอนแก่นได้กำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ เพื่อปกป้องทรัพย์สินของทางราชการ ให้หน่วยงานราชการสามารถทำงานให้บริการประชาชน อำนวยประโยชน์ต่อประชาชนที่มาติดต่อราชการได้ จึงกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ข้าราชการ พนักงานลูกจ้าง ทุกส่วนราชการติดบัตรผ่านเข้า-ออก ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นทุกครั้งที่มาปฏิบัติงาน หากยังไม่มีบัตร ดังกล่าวติดต่อขอรับได้ที่สำนักงานจังหวัดขอนแก่น จังหวัดกำหนดให้มีการจัดตั้งกองรักษาการณ์ โดยใช้กำลังสมาชิกอส.คอยตรวจสอบเฝ้าระวังและอำนวยความสะดวกในการผ่านเข้าออก-ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น จึงขอความร่วมมือยังส่วนราชการ ทุกส่วนให้เน้นย้ำ กำชับให้ทราบถึงมาตรการดังกล่าว และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาตรการรักษาความปลอดภัย จึงประกาศมาโดยทั่วกัน ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป กองบัญชารักษาดินแดนจังหวัดขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์

นายจำเนียร มูลสาร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวนสองเท่าที่จะพึงมีในจังหวัดเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ. 2555 ข้อ 31 ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงประกาศบัญชีรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อ เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ดังนี้ นายคมคิด ตัณฑสิทธิ์ นายไพศาล วานิชสุจิต นายฤทธิรงค์ พิลาไชย นายวีระศักดิ์ ภูครองหิน นายสุรเดช เคราะห์ดี และนายอุดม สมรส



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว