วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ขอนแก่นจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในสัปดาห์วันอาสาฬบูชา และวันเข้าพรรษา

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำชาวขอนแก่นถวายสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระลับ พระคู่เมืองขอนแก่นในกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ซึ่งจังหวัดขอนแก่นจัดขึ้นทุกปี โดยจะมีขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุ และพระลับ ไปตามถนนในเขตเทศบาล เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้บูชา โดยขบวนเริ่มจากถนนข้างศาลากลางจังหวัดไปจนผ่านตัวเมืองขอนแก่นไปที่วัดธาตุ พระอารามหลวง และในวันที่ 22 ก.ค. 2556 จะมีพิธีทำบุญตักบาตรและถวายเทียนพรรษาซึ่งทางทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประทานมาให้ทอดถวายที่วัดธาตุพระอารมหลวง ขอเชิญชาวขอนแก่นมาร่วมงานได้พิธีตักบาตร เริ่มเวลา 06.30 น. เป็นต้นไป

ศูนย์เฉลิมพระเกียรติเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ขอนแก่น มอบทุนการศึกษาให้ลูกหลานสมาชิก

นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ประธานศูนย์เฉลิมพระเกียรติเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ และผู้ติดเชื้อ เอชไอวี จังหวัดขอนแก่น ได้เป็นประธานธานมอบทุนการศึกษาให้กับลูกหลานสมาชิกของศูนย์ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยภาคตะวันนออกเฉียงเหนือ งานนี้มีผู้มาร่วมมอบจำนวนมาก และลูกหลานมาเข้ารับทุนกว่าพันคนมอบเป็นเงินสด 5 ล้านกว่าบาท ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 12 ที่มีการมอบทุนการศึกษาให้กับลูกสมาชิก ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือสังคมทุกปี รวมแล้วร่วม 100 ล้านบาท

เซ็นทรัลกรุปมอบเงินสนับสนุนพัฒนาชุมชนผลิตไหมพื้นบ้านจังหวัดขอนแก่น 2 แห่ง 1 ล้านบาท

นายประเสริฐ  โกศัลวิตร อธิบดีกรมหม่อนไหมพร้อมด้วยนายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบเงินสนับสนุนกลุมทอไหม พื้นบ้านซึ่งทางคุณสุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์โรงแรมในเครือเซ็นทราราในนาม กลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ปได้มอบเงินสนับสนุนกลุ่มทอผ้าไหมพื้นบ้านของบ้านหนองหญ้า ปล้อง ตำบลโพนเพ็ก อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นโครงการที่ 2 ของเซ็นทรัลที่สนับกลุ่มผู้เลี้ยงไหมและทอผ้าไหมซึ่งบ้านแรกที่ทางเซ็นทรัล ไปสนับสนุนคือบ้านหัวฝาย ตำบลปอแดง อำเภอชนบท ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านนี้ถือเป็นหมู่บ้านต้นแบบและมีกลุ่มทอผ้าไหมที่มีฝีมือ และคุณภาพดีของจังหวัดขอนแก่นจนได้รางวัลสัญลักษณ์ตรานกยุงพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งจากพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่กล่าวว่าการเลี้ยงไหม นอกจากจะเป็นการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรแล้วยังเป็นนวัตกรรมที่เก่าแก่ และดีงามของชาติไทย ที่ได้สืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนานอีกด้วย ไม่ว่าเศรษฐิกจของประเทศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร การพัฒนาการเลี้ยงไหมก็ต้องดำเนินต่อไป ซึ่งทางกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ปได้น้อนนำกระแสพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมาดำเนิน การสานต่อโครงการพระราชดำริเพื่ออนุรักษ์และสืบสานไหมไทยภูมิปัญญาที่ผสม ผสานวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมอันล้ำค่าของคนไทยให้เป็นมรดกสู่ลูกหลานและ ประเทศชาติสืบไปโครงการดังกล่าวทางกลุ่มเซ็นทรัลยังมุ่งหวังการพัฒนาอาชีพ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนด้วยรวมทั้งการลดปริมาณการย้านถิ่นฐาน ในการเข้าไปหางานทำในเมืองหลวงด้วยโดยการสร้างอาชีพและความสัมพันธ์ในครอบ ครัวมีการสืบทอดสู่เยาวชนลูกหลานและมีรายได้เพิ่มขึ้นในแต่ละครัวเรือนซึ่ง ทางกลุ่มเซ็นทรัลเข้ามาพัฒนากลุ่มทอผ้าไหมพื้นบ้านในจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ ปี 2555ผลปรากฎว่าผู้ที่เข้าร่วมกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกครัวเรือนอย่าง น้อย 2-3 พันบาทซึ่งทางเซ็นทรัลจะเข้ามาพัฒนาต่อไปโดยนำนักศึกษามาดูงาน นำดีไซเนอร์มาแนะนำการออกแบบลายผ้าไหมใหม่ไปสู่ความต้องการของลูกค้าภายนอก ซึ่งจะทำให้กลุ่มผลิตผ้าไหมของทั้งสองแห่งมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นและที่หมู่ บ้านหัวฝาย อำเภอชนบทได้พัฒนาไปจนเป็นหมู่บ้านแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางสายไหมของจังหวัด ขอนแก่นไปแล้วรวมทั้งมีการจัดการรูปแบบโฮมสเตย์ให้คนมาพักมาศึกษาดูงานได้ ตามกรรมวิธีการผลิตผ้าไหมแต่ละชิ้นมีกระบวนการอย่างไรบ้างจนได้ผ้าไหมที่สวม ใส่สวยงามอยู่ทุกวันนี้และผ้าไหมจากทั้งสองหมู่บ้านนี้ก็จะนำไปจำหน่ายยัง เครือเซนทรัลด้วยซึ่งถือเป็นการสร้างงาน ส่งเสริมให้เป็นอาชีพหลักที่มั่นคงแก่ชุมชนและสืบทอดเอกลักษณ์ของไทยเราตาม เป้าประสงค์ที่ทุกคนจะร่วมรักษามรดกอันล้ำค่าของคนไทยให้เป็นมรดกสู่ลูกหลาน และประเทศชาติสืบไป      

ผวจ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่บริเวณด่านชายแดนช่องสายตะกู เตรียมเปิดเป็นจุดผ่อนปรนตลาดการค้าชายแดน

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริเวณตลาดการค้าชายแดนช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าตามที่ สมช. อนุมัติ โดยจะหารือร่วมทุกฝ่าย รวมทั้งหารือประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาร่วมกันต่อไป

ที่บริเวณด่านชายแดนช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และคณะ เดินทางลงพื้นที่บริเวณตลาดด่านชายแดนช่องสายตะกู เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าตามที่ได้รับอนุมัติ จากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยจะหารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เพื่อให้มีความพร้อมในทุกด้านและพัฒนาให้มีมาตรฐานก่อนที่จะเปิดเป็นจุดผ่อน ปรน โดยในวันนี้ นายสอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมบริเวณด่านชายแดนช่องสายตะกูด้วยเช่นเดียวกัน และได้พบปะพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการกับผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ใน การจะร่วมมือกันพัฒนาด่านชายแดนช่องสายตะกูให้เป็นจุดผ่อนปรน และพัฒนาเป็นตลาดการค้าชายแดนถาวรต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในโอกาสที่ย้ายมาปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จึงอยากจะลงมาตรวจเยี่ยมในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อศึกษาข้อมูลในพื้นที่จริง โดยในวันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมตลาดชายแดนช่องสายตะกู ซึ่งได้รับอนุมัติจาก สมช. ให้เปิดเป็นจุดผ่อนปรน รวมทั้งเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ จะต้องเตรียมความพร้อมให้มีมาตรฐานสมบูรณ์ในทุกด้าน โดยจะได้หารือร่วมกับทุกฝ่าย รวมทั้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการหาแนวทางพัฒนาร่วมกันต่อไป





สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

นายกองเอก ดร.ดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์

นายกองเอก ดร.ดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่คณะครู นักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์ ในโอกาสได้รับการเปลี่ยนชื่อและได้รับเข้าอยู่ในความอุปถัมภ์ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

(๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ นายกองเอก ดร.ดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่คณะครู นักเรียน และบุคลากร โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโอกาสที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์ เดิมชื่อโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นางรอง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๒ ได้รับการเปลี่ยนขื่อเป็นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ ๘๔ พรรษา โดยได้รับเข้าอยู่ในความอุปถัมภ์ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๘๒๓ คน มีครูและบุคลากร ๘๑ คน

ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบนโยบายและให้โอวาทแก่คณะครู นักเรียน และบุคลากร โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน ว่า จะต้องทำให้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์เป็นโรงเรียนต้นแบบในการทำให้นักเรียนเป็นคนดี และให้ครูเป็นแบบอย่างที่ดี เป็น ครูคนเดิม หรือครูในดวงใจของนักเรียนต่อไป




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดงานมหกรรมกีฬา กศน.ร้อยเอ็ด เกมส์ต้านยาเสพติด ปี 56

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 กรกฎาคม 2556  เวลา 09.30 น. นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดงาน มหกรรมกีฬา กศน.ร้อยเอ็ดเกมส์ต้านยาเสพติด ประจำปี 2556 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยต้อนรับของ การนายศักดิ์ชัย กาญจนะวรรณ รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ร้อยเอ็ดส.ส. เขต 8 และนางสาวประดินันท์ สดีวงศ์ ผู้อำนวยการ กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคณะนักกีฬา กศน.ร้อยเอ็ดนับหมื่น คน
 
นางสาวประดินันท์ สดีวงศ์ ผู้อำนวยการ กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่าดำเนินงานของ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย ผู้บริหาร ข้าราชการครู ข้าราชการพลเรือน บุคลากรทางการศึกษา ครู กศน. พนักงาน และนักศึกษา กศน.จากสถานศึกษาจำนวน 20 อำเภอ รวมทั้งสิ้นกว่า 10,000 คน กีฬาที่แข่งขันได้แก่กรีฑา 8 ประเภท,กีฬาฟุตบอล วอลเล่ย์บอล ตะกร้อ เปตอง แชร์บอล 8 ประเภท โดยจัดการแข่งขันในระดับโซนและศูนย์อำเภอล่วงหน้า พร้อมทั้งมีการประกวดขบวนพาเหรดและกองเชียร์ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา กศน. ครู กศน. และผู้บริหารได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์, ก่อให้เกิดความสามัคคี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง, เสริมสร้างและพัฒนาทัศนคติแก่ นักศึกษา กศน. ครู กศน. และผู้บริหารโดยใช้กิจกรรมกีฬาเป็นสื่อ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นการรณรงค์ให้ นักศึกษา กศน. ครู กศน. ผู้บริหาร เกิดความรักในการเล่นกีฬา และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อต้านยาเสพติด,และตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ที่ส่งเสริมให้ประชาชนทุกระดับ มีโฮกาสออกกำลังกายและเล่นกีฬา เพื่อสร้างเสริมสุขภาพและพลานามัยที่ดี
 

นอกจากนี้มีกิจกรรม การแสดงโดยนักศึกษา ครู กศน. ฟ้อนโหวต ,พิธีมอบโล่เกียรติบัตรผู้นำด้านการส่งเสริมกิจกรรมการแข่งขันกีฬา กศน.ร้อยเอ็ดเกมส์ต้านยาเสพติดและมอบเกียรติบัตรผู้สนับสนุนกิจกรรมลูกเสือ ของสำนักงาน กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด การจุดพลุเปิดงานมหกรรมกีฬา กศน.ร้อยเอ็ด เกมส์ ต้นยาเสพติด ประจำปี 2556 อย่างเป็นทางการ




คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว กมลพร คำนึง บก.ข่าว

โครงการเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมงกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 61 พรรษา 28 กรกฎาคม 2556

จังหวัดสระแก้ว โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับวัดหนองกะพ้อ กำหนดจัดโครงการเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมงกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 61 พรรษา 28 กรกฎาคม 2556 นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า เพื่อให้ส่วนราชการ ภาคเอกชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมกิจกรรมในการเทิดทูนและแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 61 พรรษา 28 กรกฎาคม 2556 ในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2556 เวลา 09.09 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดหนองกะพ้อ ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว รายละเอียดการจัดกิจกรรมมีดังนี้

1. ขอเชิญชวนข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติฯ ในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2556 เวลา 08.30 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดหนองกะพ้อ ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยผู้เข้าร่วมพิธีฯแต่งกายด้วยชุดสีขาว

2. ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคปัจจัย จัดทำโรงทาน และถวายผ้าไตร เพื่อสร้างบุญกุศลในครั้งนี้ โดยแจ้งความจำนงและนำปัจจัยส่งที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม โทร./โทรสาร 0 3742 5029 – 30 ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2556

จังหวัดสระแก้ว เชิญร่วมทำบุญวันธรรมสวนะ เนื่องในเทศกาลอาฬหบูชา และเข้าพรรษา ประจำปี 2556

จังหวัดสระแก้ว โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กำหนดจัดโครงการทำบุญวันธรรมสวนะ เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา จังหวัดสระแก้ว ประจำปี 2556

นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า โครงการทำบุญสวนะ เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา จังหวัดสระแก้ว กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม – 19 ตุลาคม 2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้พุทธศาสนิกชนร่วมกิจกรรมเข้าวัดในวันธรรมสวนะ นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

จังหวัดสระแก้ว จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสระแก้วเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรและเวียนเทียน ดังนี้

 (วันอาฬหบูชา) วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2556

-       เวลา 08.00 น. กิจกรรมทำบุญตักบาตร ข้าราชการ และประชาชน พร้อมกัน ณ ศาลาการเปรียญวัดสระแก้ว พระอารามหลวง

-       เวลา 19.30 น. กิจกรรมการเวียนเทียน ข้าราชการ และประชาชน พร้อมกัน ณ อุโบสถ วัดสระแก้ว พระอารามหลวง

 (วันเข้าพรรษา) วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2556

-       เวลา 08.00 น. ข้าราชการ และประชาชน พร้อมกัน ณ ศาลาการเปรียญวัดสระแก้ว พระอารามหลวง

 (วันออกพรรษา) วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556

-       เวลา 08.00 น. ข้าราชการ และประชาชน พร้อมกัน ณ ศาลาการเปรียญวัดสระแก้ว พระอารามหลวง

ณ วัดสระแก้ว พระอารามหลวง ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว

ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้ว ขอเชิญชวนให้ข้าราชการ ลูกจ้างในสังกัด และหน่วยงานในสังกัด และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรในวันธรรมสวนะ ตามวัดต่างๆ ที่สะดวกในช่วงระหว่างเทศกาลเข้าพรรษา โดยแต่งกายด้วยชุดสุภาพสีขาว และลด ละ เลิกอบายมุขทั้งปวง และรักษาศีล 5 ระหว่างเทศกาลเข้าพรรษา ประชาสัมพันธ์การอุปสมบทโดยสมัครใจตลอดพรรษา 3 เดือนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและประชาสัมพันธ์เรื่องการแต่งการเข้าวัด (ไม่นุ่งสั้น เอวต่ำ คอเว้า เข้าวัด)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด กลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปวัฒนธรรม โทร. 0 3742 5029-30

รชค.พ้อง ชีวานันท์ ตรวจเยี่ยมจังหวัดอุดรธานี

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้โครงการ 2 ล้านล้านบาท เป็นการปฏิรูปโครงข่ายการคมนาคม ประชาชนจะได้รับประโยชน์ เพราะนอกจากจะมีรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูงแล้วยังเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายถนนทางบกให้มีการเชื่อมโยง กันเพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคมและขนส่ง

วันนี้ ( 20 ก.ค. 56 ) นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่อำเภอ ไชยวานและอำเภอกู่แก้วจังหวัดอุดรธานี โดยมีนายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 6 อุดรธานีนายดรุณ แสงฉาย รองอธิบดีทางหลวงชนบท นายสมชาย ชัยสุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงชนบทที่ 15 อุดรธานี นายเรืองเดช ประวัติวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดอุดรธานี นายสมเกียรติ พรหมอารักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์บำรุงทางหลวงชนบทอำเภอศรีธาตุ นายสุวิชาญ ไชยโกมล นายอำเภอไชยวาน นายธวัชชัย แปรงศรี นายอำเภอกู่แก้ว ร่วมให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

โดยจุดแรกที่คณะของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเดินทางไปคืออำเภอไชยวาน เพื่อเปิดถนนลาดยาง สายหนองเรือ-หนองแซง และตรวจสภาพเส้นทางถนนที่บ้านค่ายเสรี หมู่ที่ 11 ตำบลไชยวาน จากนั้นเดินทางไปพบปะประชาชนอำเภอกู่แก้ว ที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนค้อใหญ่ ตำบลค้อใหญ่ นั่งรถสำรวจเส้นทางถนน 3 สายในเขตอำเภอกู่แก้ว ( ถนนสายบ้านค้อใหญ่ –บ้านโยธา ,บ้านค้อใหญ่-บ้านจีต ถนนสาย อด.4056 แยกทางหลวง 2350 –บ้านโนนม่วง ) เยี่ยมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดกู่แก้ว แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม รับประทานอาหารกลางวัน ที่เทศบาลตำบลคอนสายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

นายพ้อง ชีวานันนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในการเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดอุดรธานีในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกหลัง จากเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ครั้งนี้มีความตั้งใจที่จะเดินทางมาดูแล รับทราบปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่อำเภอไชยวานและอำเภอกู่แก้ว ตามข้อหารือของนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานีเขต 6 ซึ่งจากการเดินทางมาตรวจราชการครั้งนี้ทำให้ได้เห็นสภาพปัญหาและความเดือน ร้อนของพี่น้องประชาชนยอมรับว่าประชาชนเดือนร้อน ถนนที่เดินทางมาตรวจสภาพชำรุดทรุดโทรมมากและในการลงพื้นที่ครั้งนี้ก็รู้สึก ดีใจเพราะเป็นการบูรณาการการทำงานของผู้เกี่ยวข้องทุกระดับในการมาดูแล ประชาชน ตั้งแต่หน่วยงานที่รับผิดชอบ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานีและตัวแทนรัฐบาล ทั้งนี้ในการนำเสนอปัญหาอยากเห็นประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมเสนอแนะ ปัญหาและความต้องการภายใต้กรอบแนวคิดเดียวกัน ซึ่งสมัยนายกทักษิณ มาถึงสมัยนายกยิ่งลักษณ์ รัฐบาลเน้นนโยบายสัมผัสจับต้องได้ อาทิ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการ SML กองทุนหมู่บ้าน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งทุน เป็นการดูแลซึ่งกันและกันในสังคม โดยการเมืองสมัยใหม่ต้องให้ประชาชนรับรู้และเข้ามามีส่วนร่วม เพราะตราบใดที่เราไม่ทิ้งประชาชนประชาชนก็จะไม่ทิ้งเรา พร้อมกล่าวถึงโครงการที่รัฐบาลจะดำเนินการโครงการ 2ล้านล้าน ปฏิรูปโครงข่ายการคมนาคม จะถึงประชาชนอย่างไร

รมช.คมนาคม กล่าวว่า ในการดำเนินการดังกล่าวจะมีการทำรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง เครือข่ายถนนทางบก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง การคมนาคมขนส่ง ซึ่งเมื่อทำสำเร็จก็จะทำให้เศรษฐกิจ สัมคมเจริญ และมีการกระจายงานสู่ชนบทมากขึ้น




 ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

อุดรธานีถวายเทียนพรรษาพระราชทาน

จังหวัดอุดรธานี ทอดถวายเทียนพรรษาพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพระราชทานให้กับเทศบาลนครอุดรธานี ประจำปี 2556 อัญเชิญไปถวายเป็นพุทธบูชา ณ พระอารามหลวงอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

วันนี้ ( 20 ก.ค. 56) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานประกอบพิธีถวายเทียนพรรษาพระราชทาน ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้แก่เทศบาลนครอุดรธานี ประจำปี 2556 เพื่ออัญเชิญไปถวายเป็นพุทธบูชา ณ วัดโพธิสมภรณ์ และวัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวงทั้ง 2 แห่งของจังหวัดอุดรธานี โดยมีนายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี คณะผู้บริหารเทศบาลนครอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ร่วมพิธี

เทศบาลนครอุดรธานี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเทียนพรรษา 2 ต้น เพื่ออัญเชิญไปถวายเป็นพุทธบูชา และเพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย และคงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น โดยเทศบาลนครอุดรธานี ได้จัดให้มีพิธีสมโภชเทียนพรรษาพระราชทาน และสมโภชเทียนพรรษาจากคุ้มวัดต่างๆ ในเย็นวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ในโอกาสเดียวกันนี้เทศบาลนครอุดรธานี ชุมชนและหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดทำต้นเทียนพรรษา ไปถวายวัดและสำนักสงฆ์ในพื้นที่ที่กำหนดเพิ่มเติม จำนวน 25 แห่ง ประกอบด้วยวัด 23 แห่ง สำนักสงฆ์ 2 แห่ง




เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด. 

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา และเนื่องใน “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” ประจำปี ๒๕๕๖

วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖  เวลา ๑๑ .๐๐ น. ณ บริเวณหน้ามุขด้านหน้า ศาลากลางจังหวัดหนองคาย  นายวิรัตน์  ลิ้มสุวัฒน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานพิธีลงนามปฏิบัติตนงดดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษา และ “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ”  ปี ๒๕๕๖  โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พนักงาน ลูกจ้าง  ร่วมลงนามปฏิญาณตนโดยพร้อมเพรียง

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘๖  พรรษา และในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในปี ๒๕๕๖ นี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำ "โครงการรณรงค์งดดื่มสุราแห่งชาติ ๒๕๕๖  ภายใต้แนวคิด  "ทำความดีถวายในหลวง" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๙  กรกฎาคม ๒๕๕๖  ได้มีมติเห็นชอบประกาศให้เทศกาลเข้าพรรษา ๓  เดือน เป็นช่วงงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยกำหนดห้ามขายเหล้าทุกชนิดในวันพระใหญ่ คือ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา นอกจากนี้ จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อพ.ศ. ๒๕๕๑  ได้กำหนดให้วันเข้าพรรษา เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖  

จังหวัดหนองคาย จึงได้จัดพิธีลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา และเนื่องใน “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” ประจำปี ๒๕๕๖  ขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์โทษ พิษ ภัย และผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งเสริมให้คนไทยงด ลด ละ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง และทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ  รวมทั้งเป็นการทำความดีในช่วงเข้าพรรษา ๒๕๕๖ นี้




วนิษา นามบุรี   / ข่าว

หนองคาย สภากาแฟ (Morning talk) ประจำเดือน กรกฎาคม ๒๕๕๖

วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๖  เวลา ๐๗.๐๐ น. ที่ ห้องอาหาร ลลิน โรงเรมรอยัลนาคารา หนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย ได้จัดให้มีกิจกรรมสภากาแฟ (Morning talk) ประจำเดือน กรกฎาคม ๒๕๕๖ ขึ้น มีนายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  เป็นประธานฯ ซึ่งเจ้าภาพในครั้งนี้คือสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดหนองคาย, สถานีวิทยุ อสมท.หนองคาย , สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองคาย และ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยหนองคาย เป็นเจ้าภาพร่วมกัน

สำหรับกิจกรรมสภากาแฟที่จัดขึ้นนี้ จังหวัดหนองคายได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดหนองคาย สลับกันเป็นเจ้าภาพ วัตถุประสงค์สำคัญในการจัดกิจกรรมฯ เพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และติดต่อประสานการทำงานกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้งานมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

ในการจัดกิจกรรมสภากาแฟในครั้งนี้ นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้กล่าวถึงจังหวัดหนองคาย  คว้ารางวัล TO BE NUMBER ONE  รองชนะเลิศอันดับ ๑ กลุ่มดีเด่น ระดับประเทศ  ในงาน "มหกรรม รวมพล TO BE NUMBER ONE  ประจำปี ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๔- ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค  เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โอกาสเดียวกัน นายวิเชียร  ปิยะวรากร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  ก็ได้รับรางวัลรองผู้ว่าราชการจังหวัด TO BE NUMBER ONE  ดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๖ พร้อมทั้งได้เข้ารับพระราชทานรางวัลจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในโอกาสทรงเป็นประธานงานมหกรรมรวมพล ทูบี นัมเบอร์วัน" ประจำปี ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖

และ เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘๖  พรรษา และในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในปี ๒๕๕๖ นี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำ"โครงการรณรงค์งดดื่มสุราแห่งชาติ ๒๕๕๖  ภายใต้แนวคิด   "ทำความดีถวายในหลวง" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๙  กรกฎาคม ๒๕๕๖  ได้มีมติเห็นชอบประกาศให้เทศกาลเข้าพรรษา ๓  เดือน เป็นช่วงงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้ทุกส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร และสถานประกอบการร่วมสนับสนุนกิจกรรมนี้ รวมถึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดพิธีลงนามปฏิญาณตนงดดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษาโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อประชาสัมพันธ์โทษ พิษ ภัย และผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งเสริมให้คนไทยงด ลด ละ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง และทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยขณะนี้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ของไทยมีความก้าวหน้า  กำหนดห้ามขายเหล้าทุกชนิดในวันพระใหญ่ คือ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา นอกจากนี้ จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อพ.ศ. ๒๕๕๑ ได้กำหนดให้วันเข้าพรรษา เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖




วนิษา นามบุรี  / ข่าว

จ.หนองคาย คว้ารางวัล จังหวัดทูบีนัมเบอร์วัน รองชนะเลิศอันดับ ๑ กลุ่มดีเด่น ระดับประเทศ พร้อมกับ นายวิเชียร ปิยะวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้รับรางวัลรองผู้ว่าราชการจังหวัดทูบีนัมเบอร์วันดีเด่น ปี ๒๕๕๖

จ.หนองคาย  ได้รับรางวัลทูบีนัมเบอร์วัน รองชนะเลิศอันดับ ๑  กลุ่มดีเด่น ระดับประเทศ  ในงาน "มหกรรมรวมพลทูบี นัมเบอร์ วัน ประจำปี ๒๕๕๖  ในวันที่ ๑๔- ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖  ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี โอกาสเดียวกัน นายวิเชียร  ปิยะวรากร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  ก็ได้รับรางวัลรองผู้ว่าราชการจังหวัดทูบีนัมเบอร์วันดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๖ ด้วย

จากการที่ จ.หนองคาย  ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมการประกวดกิจกรรมโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (ทูบีนัมเบอร์วัน) ระดับประเทศ ในงาน "มหกรรมรวมพล ทูบี นัมเบอร์วัน ประจำปี ๒๕๕๖” ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด  จังหวัดนนทบุรี โดยได้เข้าร่วมประกวด  จำนวน ๒  ประเภท คือ ประเภท จังหวัด ทูบีนัมเบอร์วัน ดีเด่น และ ประเภทสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (มัธยมศึกษา) ซึ่งตัวแทน คือ โรงเรียนท่าบ่อ การประกวดทั้ง ๒ ประเภท จัดแข่งขันในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ในส่วนของการแข่งขันประเภทจังหวัด นั้น นายวิเชียร  ปิยะวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  เป็นผู้นำทีมในการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการ ทูบีนัมเบอร์วันจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย (นายแพทย์เด่นชัย  ศรกิจ), แรงงานจังหวัดหนองคาย (นายไพทูรย์  มีมงคล) และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต ๒๑  (ดร.เบญจมาตย์  ฤาชา) การแข่งขันนอกจากการนำเสนอผลการดำเนินงานแล้ว ยังมีการแสดงบนเวที และมีการจัดบู๊ธนิทรรศการด้วย  ซึ่งผู้จัดการแสดงบนเวทีจังหวัดหนองคาย คือ วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียน ส่วนการจัดบู๊ธนิทรรศการ คือ วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย  การแข่งขันครั้งนี้เป็นการเก็บคะแนนรวมกับการลงพื้นที่ประเมินของคณะอนุกรรมการ เมี่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ ที่หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย  ผลจากการลงพื้นที่ประเมินและการแข่งขันที่อิมแพ็คเมืองทองธานี จังหวัดหนองคาย สามารถนำเสนอผลการดำเนินงาน และผลงานการแสดงรวมทั้งบู๊ธนิทรรศการได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ได้รับรางวัล ทูบีนัมเบอร์วัน รองชนะเลิศอันดับ ๑ กลุ่มดีเด่น ระดับประเทศ จากทั้งหมด ๑๗ จังหวัด ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกของจังหวัดหนองคายที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับประเทศ  และผลจากการดำเนินงานโครงการ         ทูบีนัมเบอร์วันอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาตลอด ยังทำให้ นายวิเชียร  ปิยะวรากร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  ได้รับรางวัล รองผู้ว่าราชการจังหวัดทูบีนัมเบอร์วันดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นรางวัลที่กำหนดเพิ่มครั้งแรกในปีนี้ และยังคงจะมีในปีต่อๆ ไปด้วย ส่วนรางวัลชนะเลิศ คือ จังหวัดนนทบุรี, รองชนะเลิศอันดับ ๑ หนองคาย, รองชนะเลิศอันดับ ๒ นครราชสีมา และรางวัลชมเชย ๒ จังหวัด คือ ยะลา และเพชรบุรี

โอกาสนี้ นายวิเชียร ปิยะวรากร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้เข้ารับพระราชทานรางวัลรองผู้ว่าราชการจังหวัดทูบีนัมเบอร์วันดีเด่น และรางวัลจังหวัดทูบีนัมเบอร์วัน รองชนะเลิศอันดับ ๑  กลุ่มดีเด่น ระดับประเทศ พร้อมคณะ จำนวน ๔ คน จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในงาน "มหกรรมรวมพล ทูบี นัมเบอร์วัน” ประจำปี ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด  จังหวัดนนทบุรี




ข่าว : สุภาพ  นพเก้า