วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ตรวจสถานที่ก่อสร้างสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยอำเภอหัวหิน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ส.ค. 2556 นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วย นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และคณะเดินทางขึ้นไปยังบนเขาหินเหล็กไฟ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิวของเมืองหัวหิน ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หัวหิน
นายอภินันท์ กล่าวหลังจากตรวจดูพื้นที่แล้ว เปิดเผยว่า "ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมการตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงอย่างถาวร ซึ่งเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2544 เดิมที่ถ่ายทอดสัญญาณวิทยุมาจากกรุงเทพมหานคร คลื่นความถี่ที่ 92.5 เม็กกะเฮริ์ซ ใช้มาระยะหนึ่งแต่เนื่องจากห่างไกลหลายร้อยกิโลเมตรไม่สามารถบริการประชาชนได้อย่างดีเท่าที่ควร จึงปรับมาใช้คลื่นที่ จ.ประจวบฯแทน ซึ่งก็ใช้มาเรื่อยๆโดยใช้สถานที่ของบริษัททีโอทีอยู่เป็นการชั่วคราว ตอนนี้เราได้รับใบอนุญาต จาก กสทช.ให้ใช้คลื่นความถี่เฉพาะที่ อ.หัวหิน จึงจำเป็นต้องเร่งรัดหาสถานที่ตั้งสถานีอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลเมืองหัวหิน ขออนุญาตกรมป่าไม้ใช้พื้นที่บนเขาหินเหล็กไฟ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสูงจากระดับน้ำทะเลหลายร้อยเมตร ตั้งสถานีอย่างถาวรในพื้นที่ราว 4 ไร่เศษ มีอาคารสถานที่ของเราเอง พร้อมที่พักและระบบอุปกรณ์ ที่ผ่านมาเราใช้ระบบถ่ายทอดสัญญาณ ต่อไปนี้ถ้าเราตั้งสถานีเองก็จะเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หัวหิน จะสามารถดำเนินรายการต่างๆได้เป็นอย่างดี ประชาชนจะรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากทางราชการได้อย่างกว้างขวางขึ้นครอบคลุมไปถึงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ขณะเดียวกันคลื่นของ จ.ประจวบฯ ก็จะขยับไปไกลถึง อ.บางสะพาน และ จ.ชุมพร ที่สำคัญคือเมื่อเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หัวหิน แล้วการดำเนินรายการก็จะมีส่วนให้ท้องถิ่นเข้ามาร่วมได้ด้วยซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เบื้องต้นจะใช้งบประมาณปี 58 ราว 6 ล้านบาท ซึ่งอาจจะไม่ทันต่อการพัฒนาก็จะพยายามผลักดันใช้งบประมารปี 57 หรือหางบประมาณมาปรับเปลี่ยนได้ เพราะถือว่าจุดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่เป็นเขตติดต่อกับพระราชฐานด้วย โครงการพระราชดำริอีกมากมายหลายโครงการที่สมควรเปิดข้อมูลข่าวสารแพร่ไปสู่ประชาชน ได้เป็นอย่างดี

อบจ.ชัยภูมิส่งเสริมชาวบ้านปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์

อบจ.ชัยภูมิส่งเสริมชาวบ้านปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ส่งเสริมชาวบ้านในพื้นที่ทุกอำเภอ ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์นอกฤดู เป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ และสามารถพัฒนาไปสู่การทำเป็นอาชีพได้

โดยในปีนี้นายมนตรี ชาลีเครือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ได้มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกร ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ สามารถผลิตมะนาวไว้บริโภคในครัวเรือน และเหลือไว้จำหน่ายได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงที่มะนาวตามท้องตลาดขาดแคลน และมีราคาสูง จึงมอบหมายให้ นางจันทิพย์ วงศ์ฮาด ผู้อำนวยการกองส่งเสริมคุณภาพชีวิต จัดโครงการส่งเสริมอาชีพการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ขึ้น เน้นกลุ่มผู้สนใจ และมีความพร้อม เป้าหมายกระจายในในทุกอำเภอ โดยครั้งนี้จัดเป็นครั้งแรก เกษตรกรกรมาจาก 9 อำเภอ รวม 367 คน ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากสำนักงานเกษตรจังหวัดชัยภูมิ มาให้ความรู้ทั้งภาคทฤษีและปฎิบัติ หวังเพิ่มทางเลือกอาชีพแก่เกษตรกร ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สำหรับเทคนิคการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมต์ สำคัญอยู่ที่การดูแลรักษาตั้งแต่เลือกกิ่งพันธุ์ ต้องเป็นกิ่งมะนาวพันธุ์ดี ตลาดมีความต้องการ มีระบบรากสมบูรณ์ ลำต้นแข็งแรง ช่วงแรกต้องบำรุงให้ลำต้นและใบสมบูรณ์ ตัดแต่งให้เป็นทรงพุ่ม และใช้สารไดโครเดอร์ม่า หรือราเขียว ราดที่โคลนต้น เพื่อป้องกันโรครากเน่า เริ่มทำมะนาวนอกฤดูได้ครั้งแรกเมื่อมะนาวมีอายุ 8 เดือน และนิยมทำนอกฤดูช่วงเดือนตุลาคม โดยใช้ถุงดำคลุมบ่อซีเมต์ ตั้งแต่ใต้ใบลงมา ป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้า เป็นการงดน้ำ พอใบเริ่มร่วง ให้ปลดผ้าคลุมออก ใส่ปู๋ยสูตร 8-24-24 ประมาณ 1 กำมือ ต่อต้น รดน้ำ ให้ชุ่ม จากนั้นทั้งใบและดอกจะออกพร้อมกัน ช่วงนี้ต้องหมั่นดูแลอย่าให้ขาดน้ำ อีก 4-5 เดือน จึงสามารถเก็บผลผลิตได้

โรคที่พบบ่อยคือหนอนชอนใบ โรคแคงเกอร์ ช่วงแรกต้องใช้สารเคมีฉีดพ่น สัก 2-3ครั้ง จึงเปลี่ยนมาใช้สารสะเดา หรือน้ำส้มควันไม้ ฉีดพ่นเพื่อควบคุมไม่ให้กลับมาเป็นอีก




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

จังหวัดนครราชสีมา เตรียมจัดงานเลี้ยงอาหารพระราชทานแก่ประชาชน ในโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 2556

วันที่ 5 ส.ค. 2556 เวลา 15.30 น.  ที่ห้องประชุมสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมการเตรียมการจัดงานเลี้ยงอาหารพระราชทานแก่ประชาชน ทั่วไปเนื่องในโอกาสสัปดาห์ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 ในโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด จัดขึ้นโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยจังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดเลี้ยงอาหารพระราชทานแก่ประชาชนทั่วไปเนื่องในโอกาสสัปดาห์ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 ในโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด ในวันพฤหัสบดี ที่ 8 สิงหาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 10.00 น ถึง 12.30 น โดยมีนางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้กิจกรรมภายในงานได้มีการเลี้ยงอาหารกลางวันพระราชทาน จำนวน 40 ซุ้ม แก่ประชาชนทั่วไป และผู้ยากไร้ รวมทั้งยังจะได้มีการมอบข้าวสาร อาหารแห้ง แก่ผู้ยากไร้ อีก จำนวน 100 ชุด อีกด้วย

จังหวัดนครราชสีมา เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556

วันที่ 5 ส.ค. 2556 เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน จังหวัดนครราชสีมา จึงกำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2556 ดังนี้

เวลา 06.30 น พิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง แด่ พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 99 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมี ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

เวลา 08.00 น ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเหล่าข้าราชการกล่าวราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และถวายเครื่องราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เวลา 09.00 น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ภายใต้ชื่องาน ปลูกต้นไม้คืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน 12 สิงหามหาราชินี 56 ณ กองบิน 1 นครราชสีมา

เวลา 19.00 น ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

อัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานถวายวัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

ที่วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ฯ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดโครงการหนึ่งใจให้ธรรมะ เนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2556 โดย นายประสาร มาลีนนท์ รองประธานกรรมการบริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้อัญเชิญเทียนจำนำพรรษาพระราชทานของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ไปถวายให้แก่วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม และร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีถวายวัด พร้อมกันนี้ยังได้จัดโรงทานลานบุญลานธรรมเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้อิ่มบุญ อิ่มธรรมะอีกด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารสร้างความสัมพันธ์อันดีในนามภาครัฐกับผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม โดยออกตรวจเยี่ยมโรงงานอุตสาหกรรมบริษัทสหเรืองจำกัด

วันนี้ (๕ ส.ค. ๕๖) นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในการออกตรวจเยี่ยมบริษัทสหเรือง จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตน้ำตาลทรายดิบและน้ำตาลทรายขาวในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายประมวลศิลป์ โภคสวัสดิ์ ประธานกรรมการบริษัทสหเรืองจำกัด พร้อมผู้บริหารให้การต้อนรับ

นายประชา มีธรรม อุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร กล่าว่า การออกตรวจเยี่ยม บริษัทสหเรืองซึ่งเป็น โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐกับผู้ประกอบกิจการ ตลอดทั้งรับทราบความต้องการ ปัญหา อุปสรรค ตลอดจนแนวทางแก้ไขให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแนวทางหลักของจังหวัดมุกดาหาร บริษัทสหเรืองจำกัดนับเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีพนักงานเป็นจำนวนมาก และผลิตน้ำตาลขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร/สระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

ยโสธร จัด 4 กิจกรรมใหญ่ เฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2556 จังหวัดยโสธร กำหนดจัดกิจกรรม/โครงการสำคัญ 4 กิจกรรม ได้แก่

วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556 เวลา 10.30 น. จัดพิธีปลูกป่าโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินีฯ ณ บริเวณที่สาธารณประโยชน์ บ.คำเกิด ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว เป็นต้น พยุง,ยางนา,ไผ่,สะเดา จำนวนทั้งสิ้น 2,000 ต้น

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2556 เวลา 10.30 น. จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานสู่ภูมิภาค 76 จังหวัด จัดโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดยโสธร,นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร โดยการจัดเลี้ยงอาหารมื้อกลางวันพระราชทาน ให้กับผู้ต้องขังหญิง ในเรือนจำจังหวัดยโสธร อาหารประกอบด้วย ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ต้มยำปลา ผลไม้ ของหวาน

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมวิถีอีสาน ภายในบริเวณศาลากลางจังหวัด จัดกิจกรรมโครงการ 65 ล้านดวงใจ บริจาคโลหิต ถวายพ่อของแผ่นดิน ฉลอง 120 ปี สภากาชาดไทย โดยเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธรและโรงพยาบาลยโสธร ขอเชิญชวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมกันบริจาคโลหิตในครั้งนี้ด้วย

และระหว่างวันที่ 5-10 สิงหาคม นี้ นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ก็จะเดินทางไปเป็นประธานมอบบ้านให้กับราษฎรที่ยากจน จำนวน 9 หลัง 9 ราย ใน 9 อำเภอ




ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 5 ส.ค. 56

ศาลยโสธรจัดโครงการไกล่เกลี่ยคดีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

ศาลจังหวัดยโสธร ขอเชิญชวนประชาชนที่ถูกฟ้องในคดีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา นำคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยขอให้ไปศาลตามกำหนดนัดที่ระบุไว้ในหมายศาลที่ส่งถึงท่าน ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2556 ซึ่งท่านจะได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้

1. คดีของท่านสามารถสำเร็จด้วยความรวดเร็ว ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย และชนะทั้งสองฝ่าย

2. จำเลยจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจำนวนประมาณ 4,000 บาท

3. จำเลยสามารถผ่อนชำระได้เป็นเวลา 8-9 ปี หากไม่ผิดนัดจะไม่ถูกยึดทรัพย์บังคับคดี

4. เมื่อได้รับหมายศาล อย่าพึ่งนำเงินไปชำระที่ธนาคาร ให้มาดำเนินการไกล่เกลี่ยก่อน

5. หากไม่สามารถไปศาลได้ให้มอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทนได้ (ตามตัวอย่างใบมอบอำนาจ และใบมอบอำนาจที่ส่งไปพร้อมหมาย)

หากมีข้อสงสัย โทรสอบถามได้ที่ ศาลจังหวัดยโสธร หมายเลขโทรศัพท์ 045-712560 ต่อ 54,35 ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2556



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 5 ส.ค. 56

รับสมัครไปทำงานประเทศอิสราเอล

ด้วยรัฐบาลไทยโดยกระทรวงแรงงานและสถานเอกอัครราชทูตอิสราเองประจำประเทศไทย ได้ลงนามความตกลงด้านแรงงาน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 เพื่อจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตร ณ ประเทศอิสราเอง ด้วยวิธีการดำเนินงานที่ยุติธรรม และโปร่งใส ซึ่งกำหนดให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานมีหน้าที่ในการรับสมัครเพื่อสุ่มคัดเลือก และจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรในอิสราเอล ซึ่งจะดำเนินการรับสมัคร ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม 2556 ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด

ตำแหน่งงานที่รับสมัคร คนงานภาคเกษตร

คุณสมบัติของผู้สมัคร เพศชาย อายุ 23-39 ปี, ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา,ไม่มีประวัติอาชญากรรม,ไม่เคยทำงานในประเทศอิสราเอล/ไม่มีคู่สมรส บุตร หรือบิดามารดา พำนักอยู่ในประเทศอิสราเอล

หลักฐานในการรับสมัคร ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน,หนังสือเดินทาง (ถ้ามี), สำเนาหลักฐานทางการพ้นภาระการรับราชการทหาร,สำเนาเอกสารแสดงสถานภาพการสมรส,สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี),ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์พร้อมสำเนา (ถ้ามี) , (สำเนาเอกสารอย่างละ 2 ชุด), รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 ใบ (รูปถ่ายครึ่งตัวหน้าตรง ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน)

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร โทรศัพท์ 045-580216-7 ในวันและเวลาราชการ




ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 5 ส.ค. 56

จัดหางานยโสธรจัดงานวันนัดพบแรงงาน 15 สิงหาคม นี้

สำนักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร กำหนดจัดงานวันนัดพบแรงงานย่อย ครั้งที่ 7/2556 ในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00-16.30 น. ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน คนหางานทั่วไปได้สมัครงานกับนายจ้าง/สถานประกอบการโดยตรง เพื่อลดปัญหาการว่างงาน ลดค่าใช้จ่ายในการสมัครงานและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้สนใจการจัดงานดังกล่าว โดยมีกิจกรรม การรับสมัครงาน ซึ่งมีตำแหน่งงานว่างมากกว่า 1,000 อัตรา , ให้คำแนะนำผู้ประกันตนกรณีว่างงาน, การรับลงทะเบียนผู้ประสงค์จะทำงานต่างประเทศ, รับเรื่องราวร้องทุกข์, การแนะแนวอาชีพ และการรับลงทะเบียน ผู้พิการ นักเรียน นักศึกษา ที่ประสงค์ทำงานช่วงปิดภาคเรียน

สำหรับผู้ที่สนใจจะสมัครงานในครั้งนี้ให้เตรียมหลักฐานการสมัครงานไปด้วย อาทิ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาหลักฐานการศึกษา, รูปถ่าย, สำเนาหลักฐานทางทหาร เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร โทรศัพท์หมายเลข 045-580216-7 ในวันและเวลาราชการ



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 5 ส.ค. 2556

โรงเรียนเชียงคานจัด “ศึกวันรวมใจสองฝั่งโขง ครั้งที่ 12”

สำนักงาปนระชาสัมพันธ์จังหวัดเลย รายงานว่า โรงเรียนเชียงคานร่วมกับสภาเมืองเชียงคาน จังหวัดเลย (ภาคประชาชน) และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเชียงคาน ได้จัดให้มีการแข่งขันชกมวยมิตรภาพแบบยกทีม ระหว่างนักมวยไทยกับนักมวย สปป.ลาว จากนครเวียงจันทร์ "ศึกวันรวมใจสองฝั่งโขง ครั้งที่ 12” รวม 8 คู่ ในวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 เวลา 19.30 น. ณ สนามโรงเรียนเชียงคาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหารายได้สร้างศูนย์ฝึกกีฬามวนเชียงคาน ลานกีฬาต้านยาเสพติด ปปส.ภาค 4 และจัดตั้งสถานีวิทยุชมชนคนเชียงคาน FM 106 MHz. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ร.อ.จริวัฒน์ มาศแก้ว โทรศัพท์ 08-6499-5054

ชาวบ้านพบเศียรพระขนาดใหญ่ถูกทิ้งไว้ริมถนน

ร.ต.ท.สาคร ชินนาค หัวหน้าชุดสายตรวจ สภ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเศียรพระขนาดใหญ่กว่า 1 เมตร ถูกทิ้งไว้ริมถนน หลัก ก.ม.ที่ 7 บ้านหนามแท่ง-หนองสิม หลังได้รับแจ้งพร้อมด้วยสายตรวจจำนวนหนึ่งเดินทางไปตรวจสอบทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณดังกล่าว พบเศียรพระขนาดใหญ่ ถูกทิ้งไว้ริมถนน ตรวจสอบพบว่าสร้างด้วยปูนซิเมนต์ ขนาดสูงกว่า 1.20 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 ก.ก. สอบถามชาวบ้านไม่ทราบว่าว่าเศียรพระมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร เจ้าหน้าที่จำนวน 4 คน จึงได้ช่วยกันยกขึ้นรถนำมาไว้ที่ สภ.ด่านซ้าย พร้อมประสานไปยังนายอนันย์ มงคลเดช วัฒนธรรมอำเภอด่านซ้าย ร่วมตรวจสอบ นายอนันย์ มงคลเดช วัฒนธรรมอำเภอด่านซ้าย กล่าวว่า จากการที่ดูเศียรพระองค์นี้ เป็นปางสมาธิ สร้างด้วยปูนซิเมนต์ สร้างได้ไม่นาน คาดว่าได้ขโมยมาจากที่อื่น เมื่อรู้ว่าไม่มีราคา จึงทิ้งไว้ข้างทาง หรืออาจจะสร้างผิดรูปแบบ ไม่เป็นมงคล ก็อาจมาทิ้งก็เป็นไปได้ เพราะดูจากหน้าผากเศียรพระมีการปิดทองและเขียนยันต์ไว้ ส่วนตัวองค์พระน่าจะใหญ่มาก น่าจะสร้างไว้ในอุโบสถของวัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเศียรพระไปเก็บรักษาไว้ที่วัดโพนชัย อำเภอด่านซ้าย เพื่อติดตามสอบถามว่าวัดใดในจังหวัดเลย ที่เศียรพระหายไป เพื่อนำส่งคืนต่อไป

เลยร่วมกับอุตสาหกรรมป่าไม้ปลูกป่าถวายในหลวง

นายภานุ แย้มศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานในการปลูกป่า ที่ส่วนป่าภูสวรรค์ องค์การอุตสาหกรรมป่าบ้าน บ้านภูสวรรค์ตำบลเสี้ยว อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร่วมกับทางจังหวัดเลย ได้ดำเนินโครงการ ร่วมในภักดิ์ ปลูกมเหสักข์ สักสยาม ถวายเป็นพระราชกุศล ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีนักศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเลย มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย นักเรียนในเขตพื้นที่ ตำบลเสี้ยว อำเภอเมืองเลย และประชาชน ตำบลเสียว อำเภอเมืองเลย ร่วมกันทำพิธีปลูก โดยมี นายชัยภัฎ สมบูรณ์ดำรงกุล ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวว่า โครงการที่มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามราชกุมารี ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาพเอกชน และพสกนิกรชาวไทย ตระหนักถึงความสำคัญของไม้สักต้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีอายุมากกว่า 1,500 ปี อยู่ที่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ทรงพระราชทานนามว่า มเหสักข์ และสักต้นลูกที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นำมาปลูกไว้ที่ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อคราวเสด็จประภาสหัวเมืองฝ่ายเหนือ เมื่อปี 2444 พระราชทานนามว่าสักสยามมินทร์ โดยได้เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อขยายพันธุ์ต้นสักทั้งสองต้นนำไปปลูกไว้ทั่วประเทศ โดยให้ชื่อว่า "สักไว้ในแผ่นดินไทย” ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพรรษา 84 พรรษา โดยมีเป้าหมาย 8.5 ล้านต้นภายใน 5 ปี องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปลูกสร้างสวนป่า ซึ่งมีพื้นที่อยู่ทั้งประเทศ ได้เล็งเห็นว่า โครงการดังกล่าวนี้ สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ขององค์กร และจะได้มีโอกาสร่วมปลูกไม้สัก "สักไว้ในแผ่นดิน” เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ เพื่อให้ป่ามีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และทำให้ทุกคนหวงแหนรักแผ่นดินถิ่นเกิด ซึ่งสวนป่าภูสวรรค์ อ.เมืองเลย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชองของ ออป. จึงได้ร่วมกับจังหวัดเลย ทำการปลูกมเหสักข์จำนวน 550 ต้น และสักสยามมินทร์ จำนวน 550 ต้น รวมทั้งสิ้น 1,100 ต้น เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ

อบต.กกสะทอน จัดประชาคมหมู่บ้านเน้นการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม

นายวิตชิณ คำนิมิตว์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอด่านซ้าย จัดเวทีประชาคมหมู่บ้าน เสวนา เกี่ยวกับกิจกรรมการพัฒนาชุมชน ที่ศาลากลางบ้านห้วยมุ่น หมู่ 5 ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย โดยเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมคิด ร่วมพัฒนา หมู่บ้านของตนเอง โดยมีประเด็นเสวนา เรื่อง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เน้นให้สตรี และประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาครอบครัว เช่น การป้องกันปัญหายาเสพติดภายในหมู่บ้าน โดยใช้ พลังชุมชน เป็นตัวขับเคลื่อน ใช้ความสัมพันธ์ครอบครัวให้ลูกหลาน บุคคล ห่างไกลยาเสพติด พร้อมกันนี้ได้แจ้งข่าวสารทางราชการให้กับประชาชนให้รับทราบด้วย มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 200 คน

ผู้ว่าฯศรีสะเกษ ติวเข้ม พนักงานขับรถ เสริมทักษะ และวินัยจราจร ลดอุบัติเหตุในสังคม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ส.ค. 2556 ที่ห้องประชุมโรงแรมศรีลำดวน ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดการอบรมตามโครงการ "เสริมสร้างศักยภาพพนักงานขับรถของหน่วยงานราชการในส่วนภูมิภาค จังหวัดศรีสะเกษ” ประจำปี 2556 ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้องและปลอดภัย ควบคู่ไปกับการปลุกจิตสำนึก ความมีน้ำใจและวินัยจราจรในการใช้รถใช้ถนน อันเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการขับรถให้เกิดความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ตลอดจนขยายเครือข่ายรณรงค์ความปลอดภัย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินการด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศให้บรรลุผลที่กำหนดไว้ โดยมีนางสุจิตรา อินดนตรี ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ นำ พนักงานขับรถของหน่วยงานราชการในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 200 คน เข้ารับการอบรม นางสุจิตรา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินการของประเทศไทย ในฐานะประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ให้สอดคล้องกับประกาศเจตนารมณ์ปฏิญญามอสโก ที่ได้กำหนดในปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดย 1 ใน 8 แนวทางการดำเนินการ คือ "พัฒนาสมรรถนะของผู้ใช้รถใช้ถนน (Road Users) ให้มีความปลอดภัย” ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแก่บุคลากรในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนนที่เป็นพนักงานขับรถของหน่วยงานราชการ ในฐานะเป็นบุคลากรภาครัฐที่สมควรเป็นแบบอย่างที่ดีนากรใช้รถใช้ถนนแก่บุคคลภายนอก เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของหน่วยงาน และแม้จะปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขับรถแล้ว ก็ยังคงมีความจำเป็นต้องเพิ่มพูนทักษะความรู้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ รวมทั้งการปลุกจิตสำนึกความปลิดภัยในการใช้รถใช้ถนนความมีน้ำใจและวินัยจราจร เพื่อลดการสูญเสียจากกอุบัติเหตุทางถนน

สำหรับเนื้อหาของการอบรม ประกอบด้วย ขับรถอย่างไร ได้ใจผู้ใช้บริการ, ขับรถอย่างไร ปลอดภัยและถูกกฎจราจร และเทคนิคที่ดี ขับขี่ให้ปลอดภัย

ผู้ประกอบการด้านอาหารทะเล เผย เหตุท่อน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลในพื้นที่จังหวัดระยอง ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคอาหารทะเลของประชาชนชาวศรีสะเกษ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ส.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีท่อน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วไหลลงสู่ทะเลในพื้นที่ จ.ระยอง ส่งผลให้น้ำมันดิบไหลลงสู่ทะเล คราบน้ำมันได้ถูกพัดพาเข้าสู่ชายหาดบริเวณ อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดจนสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่า ที่ตลาดสดเทศบาล 1 ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ประชาชนชาวศรีสะเกษ ตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการร้านอาหารทะเล ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ยังเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้า ประเภทอาหารทะเล เพื่อนำไปประกอบอาหารอย่างคึกคักเช่นเคย โดยจากการสอบถามประชาชนส่วนใหญ่ที่มาเลือกซื้ออาหารทะเล ไม่มีความวิตก หรือหวาดกลัว จากสารพิษที่ปนเปื้อนในน้ำทะเลแต่อย่างใด เพราะส่วนใหญ่ อาหารทะเลที่นำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ไม่ได้นำมาจากพื้นที่จังหวัดระยอง แต่อย่างใด นางอรฤดี ชาติกิตติคุณวงศ์ เจ้าของร้านเฮียซ้งอาหารทะเลสด ซึ่งจำหน่ายอาหารทะเลสด และแปรรูป เปิดเผยว่า ร้านของตนเปิดขายอาหารทะเลมานานกว่า 40 ปี โดยส่วนใหญ่ คนที่มาซื้ออาหารทะเลทีร้านของตน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่มาซื้อเพื่อนำไปประกอบอาหารขาย และมีประชาชนบางส่วนที่เดินทางมาซื้ออาหารทะเล เพื่อนำไปบริโภค ซึ่งจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเล ที่จังหวัดระยอง ไม่ส่งผลต่อการการบริโภคอาหารทะเลของประชาชนชาวศรีสะเกษ อย่างแน่นอน เนื่องจากอาหารทะเลส่วนใหญ่ที่พ่อค้า แม่ค้า นำมาจำหน่าย สั่งมาจากจังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดระยอง ไม่ได้เป็นแหล่งส่งออกอาหารทะเลแห่งใหญ่ แม้จะมีการปรับราคาของอาหารทะเล บางประเภท เช่น ปลาหมึก จากกิโลละ 160 บาท เป็น 170 บาท แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภคอาหารทะเลของชาวศรีสะเกษ

จังหวัดสระแก้วจัดพิธีกราบเท้าขอพรพ่อแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2556 เพื่อสำนึกในพระมาหากรุณาธิคุณ ขออโหสิกรรมและสัญญาจะเป็นคนดี

ที่หอประชุมปางสีดา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายภัครธรณ์ (พัก-คะ-ระ-ทอน)  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประธานในพิธีกราบเท้าขอพร พ่อแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2556 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชน โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระแก้ว หรือ กอ.รนม.ได้นำผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา จำนวน 250 ครอบครัวเข้าร่วมในพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้ประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ กล่าวถวายราชสดุดีและนำกล่าวถวายพระชัยมงคล ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556

การจัดพิธีกราบเท้าขอพรพ่อแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2556 ครั้งนี้ มีตัวแทนเยาวชนนำกล่าวขอขมากราบเท้าขอพรพ่อแม่ ให้สัญญาจะเป็นคนดี โดยพ่อแม่รับการขอขมา ให้อโหสิกรรมรับสัญญาเป็นคนดีของลูก พระสงฆ์จำนวน 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา การมอบร่มเพื่อเป็นของขวัญ จากลูกให้พ่อแม่ ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อแม่ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูก

การจัดงานครั้งนี้เพื่อสำนึกในพระมาหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อปวงพสกนิกร ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน  พระองค์ทรงอุทิศพระวรกาย พระปัญญา และพระราชทรัพย์ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ อำนวยประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร์  ก่อให้เกิดความร่มเย็น ตลอดจนความก้าวหน้า แก่ประเทศชาติและประชาชนตลอดมา จนได้รับพระราชสมัญญาว่า พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน




ดุลยศักดิ์/ภาพ-ข่าว

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดโครงการ “ธรรมสัญจรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ประจำปี 2556

ที่จังหวัดอำนาจเจริญ นายไพศาล  จันทวารา  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดโครงการ "ธรรมสัญจรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ประจำปี 2556  ณ วัดพระมงคลมิ่งเมือง  ตำบลบุ่ง  อำเภอเมือง  จังหวัดอำนาจเจริญ โดยพุทธสมาคมอำนาจเจริญ ร่วมกับเครือข่ายได้จัดขึ้น  เพื่อให้พุทธศาสนิกชนในเขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ และผู้สนใจใผ่ธรรมได้มีโอกาสร่วมทำบุญและปฏิบัติธรรม สวดมนต์เฉลิมพระเกียรติ และร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเพื่อเฉลิมฉลองการสถาปนาจังหวัดอำนาจเจริญครบรอบ 20 ปี ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยการนำเอาหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนามาสร้างคุณค่าทางสังคม ส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนมีค่านิยมและจิตสำนึกที่ดีงาม มีความเอื้ออาทร สมานฉันท์ ห่างไกลจากอบายมุขต่างๆ และดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข ในท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่เกิดจากความต้องการพัฒนาไปสู่สังคมที่ทันสมัย ในโอกาสนี้ ได้มีการมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติให้กับบุคคลที่มีศรัทธามั่นในพระพุทธศาสนา และให้การอุปถัมภ์ค้ำจุลวัด พร้อมทั้งมีการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อถวายปัจจัยบำรุงเสนาสนะและกิจกรรมของคณะสงฆ์  สำหรับโครงการ "ธรรมสัญจร” จะดำเนินการใน 9 วัด ทั้ง 7 อำเภอ โดยวัดพระมงคลมิ่งเมือง  เป็นวัดแรกของโครงการ




จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว / ภาพ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง โครงการพัฒนาศักยภาพในการดำเนินงานโครงการที่สำคัญตามนโยบายของรัฐบาลให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และโครงการตามแผนการตรวจราชการ ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันที่ 5 ส.ค. 2556  ที่โรงแรมลายทอง นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง โครงการพัฒนาศักยภาพในการดำเนินงานโครงกาที่สำคัญตามนโยบายของรัฐบาลให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และโครงการตามแผนการตรวจราชการ ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การประชุมเชิงปฏิบัติการหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า เพื่อร่วมกันวางยุทธศาสตร์วิสัยทัศน์ เป้าหมายและแนวทางในการทำงานร่วมกันในปีงบประมาณ 2556 และเป็นกรอบในการจัดทำงบประมาณปี 2557 รวมทั้งได้มีกาบูรณาการร่วมกับยุทธศาสตร์การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (ASEAN Strategy) เพื่อเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าสู่ปะชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยหลังจากการบูรณาการเป็นยุทธศาสตร์ปะเทศทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องปฏิรูปการเกษตรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อหลุดพ้นจากประเทศร้ายได้ปานกลาง (Growth and Competitive) และยุทธศาสตร์ที่ 3 คือ การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบกระบวนทัศน์ในการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ เพื่อให้การบูรณาการงานในส่วนของจังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายของผู้บริหารกระทรวงฯ รวมทั้งเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานการตรวจราชการ เพื่อปรับปรุงระบบการตรวจราชการในยุคปัจจุบันให้มีคุณค่าและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การประชุมสัมมนาในครั้งนี้ผู้เข้าร่วมการประชุมสัมมนา ประกอบด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ผู้อำนวยการสำนักหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัดและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

ชมรมสงเคราะห์ข้าราชการบำนาญทหารผ่านศึกและพิการเขตจังหวัดอุบลราชธานี อ่านหนังสือแถลงการณ์จะยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ชมรมฯ จะสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

วันที่ 2 สิงหาคม 2556 ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รับหนังสือคำแถลงการณ์ จาก จ่าสิบเอกบัวพันธ์ โภชะนัง ประธานชมรมสงเคราะห์ข้าราชการบำนาญทหารผ่านศึกและพิการเขตจังหวัดอุบลราชธานี เขตจังหวัดอุบลราชธานี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 200 คนโดยได้ อ่านหนังสือแถลงการณ์ 8 ข้อ ประกอบด้วย จะยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน จะสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะสนับสนุนรัฐบาลที่ดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย สนับสนุนรัฐบาลเพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า สนับสนุนให้แก้ไข รัฐธรรมนูญปี 50 สนับสนุนการออก พรบ.นิโทษกรรม ให้ทุกฝ่าย ชมรมฯ จะประสานผู้ที่มีบัตรทหารผ่านศึก ชั้น 3-4 ให้ร่วมกันเป็นชมรมเดียวกันทั้งประเทศ ชมรมฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาหนังสือร้องทุกข์ที่ได้ยื่นร้องเรียน ไว้กับท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว

มอบขาเทียมพระราชทานถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี

สุรินทร์มอบขาเทียมพระราชทานแด่ผู้พิการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี

วันที่ 5 ส.ค. 2556 ที่โรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในการเปิดกิจกรรมออกหน่วยบริการทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ โดยมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จากการนำของ รศ.นพ. เทิดชัย ชีวะเกตุ เลขามูลนิธิฯ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ออกให้บริการแก่ประชาชนคนพิการที่ด้อยโอกาสซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชนบท สามารถได้รับบริการรับขาเทียมได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง เพื่อให้คนพิการดังกล่าวสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวและครอบครัวได้ ทั้งนี้เพื่อถวายเป้นพระราชกุศล แต่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี

สำหรับมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งมีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นประธานพระองค์แรก ปัจจุบันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นมูลนิธิฯทีสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงพระราชทานกำเนิดขึ้มมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำขาเทียมให้แก่คนพิการที่ด้อยโอกาสและยากไร้ทั่วประเทศโดยไม่คิดมูลค่า และไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา เพื่อให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณค่า และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สมารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ โดยตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา มูลนิธิฯได้ออกหน่วยบริการทำขาเทียมเคลื่อนที่ออกให้บริการแก่ประชาชนแล้ว จำนวน 124 ครั้ง จาก 57 จังหวัด ทำขาเทียมมอบคนพิการแล้วจำนวนทั้งสิ้น 29,674 ขา




ประนนท์ ไม้หอม / ส.ปชส.สุรินทร์ / รายงาน