น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ 68 % เร่งระบายน้ำ 16-25 ล.ลบ.ม/วัน

เขื่อนอุบลรัตน์ ล่าสุดปริมาณน้ำในอ่างถึง 68% แล้ว แจงต้องระบายน้ำเพิ่มเป็น 16 ล้าน ลบ.ม. แต่จะควบคุมไม่เกิน 25 ล้าน ลบ.ม.ตั้งแต่ 2 ต.ค.เป็นต้นไป

นายภิญโญ ทองสิงห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกต่อเนื่องในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากถึงวันละกว่า 77 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็นชั่วโมงละ 1 ซม. มีปริมาณน้ำกักเก็บ 1,595 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 68% ของความจุอ่าง ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 1,014 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวเพียงพอต่อการใช้ทำนาปรัง ใช้ในการเกษตร พื้นที่ชลประทานโครงการส่งน้ำหนองหวาย ตลอดจนใช้น้ำในกิจกรรมอื่นๆ

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะได้ระบายน้ำเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ (2 ต.ค. 2556) เป็นต้นไป โดยจะทยอยระบายน้ำเพิ่มตั้งแต่ 16 ล้าน ลบ.ม. ไปจนถึง 25 ล้าน ลบ.ม.เพื่อให้ระดับน้ำในเขื่อนเข้าสู่ระดับเส้นควบคุมได้ ป้องกันวิกฤตเขื่อนรับน้ำไม่ไหวไว้ก่อน ซึ่งการระบายน้ำปริมาณน้ำดังกล่าวยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อน้ำในลำน้ำพองจนเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจนเกิดน้ำท่วมอย่างแน่นอน ซึ่งการปล่อยน้ำจะควบคุมไม่ให้เกิน 25 ล้าน ลบ.ม. เพื่อคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกรที่มีที่อยู่อาศัยท้ายเขื่อน สาเหตุที่เขื่อนอุบลรัตน์จำเป็นต้องระบายน้ำเร่งด่วนในปริมาณน้ำเพิ่มเติมจากปกติ ตั้งแต่ วันที่(2 ต.ค.) เป็นต้นไป เนื่องจากสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ล่าสุดวัดระดับน้ำอยู่ที่ 179.53 ม.รทก. (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ซึ่งเกินระดับควบคุมที่ 179 ม.รทก. โดยมีระดับน้ำเก็บกักปกติสูงสุด 182.00 ม.รทก. ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกราฟระดับน้ำจะพบว่าเส้นระดับน้ำในปัจจุบันไม่สูงมาก ต่างจากปี 2554 ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ใน จ.ขอนแก่น ระดับน้ำครั้งนั้นสูงเกิน 182 ม.รทก. อย่างไรก็ตาม กฟผ.ได้ประสานกับโครงการชลประทานขอนแก่น และโครงการส่งน้ำบำรุงรักษาหนองหวายให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนแผนการระบายน้ำตามความเหมาะสมของสถานการณ์และสภาพอากาศต่อไป

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น

ผ.บช.ภ4 คนใหม่ดำเนินโครงการตำรวจชุมชน

การ รับมอบตำแหน่ง ผบช.ภ.4 คนใหม่ ประกาศปัดฝุ่นโครงการตั้งตำรวจชุมชนคุมเข้มอาชญากรรมครอบคลุมทุกพื้นที่ตำบล

ที่ลานฝึกพรหมพิทักษ์ หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 ได้ทำพิธีส่ง-มอบตำแหน่งหน้าที่แก่ พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 คนใหม่ โดยมีข้าราชการตำรวจระดับบังคับบัญชาในสังกัด บช.ภ.4 จากทั้ง 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบนเข้าร่วมต้อนรับแสดงความยินดี พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า การทำงานร่วมกันของข้าราชการตำรวจทุกระดับในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนจากนี้ไปเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต้องปฏิบัติงานตามความรับผิดชอบอย่างเต็มความสามารถ ทั้งในด้านของงานสืบสวน งานป้องกันปราบปราม งานจราจร งานกิจการพิเศษ งานจเรตำรวจ และงานด้านความมั่นคง รวมถึงงานด้านชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน และแผนงานการจัดตั้งตำรวจชุมชนจะถูกนำกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้งในทุกจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น

เทศบาลนครขอนแก่นเตรียมสำรวจประตูระบายน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

เทศบาลนครขอนแก่นตรวจสอบระบบประตูระบายน้ำพื้นที่เทศบาลนครเตรียมป้องกันน้ำท่วม

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นเปิอดเผยว่า เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกส่วนงาน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และการกำหนดมาตรการการให้ความช่วยเหลือประชาชน

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาภาพรวมทั้งจังหวัดขอนแก่นมีพายุฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บพัดพาดผ่านเข้าประเทศไทยอีกระลอก ซึ่งขอนแก่นเป็นพื้นที่จังหวัดที่อิทธิพลของพายุฝนจะได้รับอิทธิพลจากพายุดังกล่าว ซึ่งจะส่งให้หลายพื้นที่ได้เกิดพายุฝนตกเช่นกัน ทำให้เทศบาลฯ ต้องกำหนดแผนรับมือกับภาวะน้ำท่วมฉับพลันที่อาจจะเกิดจากปริมาณกระแสน้ำที่จะไหลเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด ทั้งจากแม่น้ำชี และแม่น้ำพอง รวมไปถึงการระบายน้ำจากพื้นที่ตำบลข้างเคียงที่จะไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นในตามเส้นทางน้ำที่จะไหลเข้าสู่บึงแก่นนคร และบึงทุ่งสร้าง

นายธีระศักดิ์ระบุว่า ปัญหาน้ำท่วมในปี 2554 ส่งผลกระทบในภาพรวมของพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ดังนั้น แผนการรับมือขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งตรวจสอบเส้นทางน้ำทุกสายที่ไหลไปถึงประตูระบายน้ำทั้ง 4 จุด ที่จะต้องพร้อมใช้งานและให้ติดตามปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด โดยยังคงใช้ระบบน้ำวนสำหรับการถ่ายเทน้ำที่จะไหลเข้าสู่เขตชุมชนเมืองจากบึงแก่นนครไปยังบึงทุ่งสร้าง รวมไปถึงการเร่งขุดลอกท่อระบายน้ำทั้งในระดับชุมชนและร่องระบายน้ำหลักเพื่อที่จะรับมือกับปริมาณน้ำที่จะไหลทะลักเข้าพื้นที่ในช่วง 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการรับมือปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ อปพร.ไปประจำทั้งสี่มุมเมืองและพื้นที่จุดเสี่ยงที่ปริมาณน้ำจะเข้าสู่พื้นที่ รวมทั้งการกำหนดพื้นที่สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะต้องอพยพออกนอกพื้นที่ในบางชุมชน เนื่องจากตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำชี และลำน้ำพอง โดยเฉพาะชุมชนหนองใหญ่, ทุ่งเศรษฐี, บะขาม, โนนทัน และพื้นที่แอ่งกระทะบางจุดในเขตตัวเมือง ที่จะต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำสำหรับการระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น

บยส.เตรียมจัดงานมหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมนำสถาบันการเงินให้บริการสินเชื่อ

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เตรียมจัดงาน "มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน จ.ขอนแก่น” พร้อมนำสถาบันการเงินชั้นนำร่วมออกบูทให้คำปรึกษาและให้บริการสินเชื่อ

นายมโนฑ ศรีพรมทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา บสย.สาขาอุดรธานี กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจขอนแก่นขยายตัวในอัตราที่สูงมาก วัดได้จากผลการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.ที่เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2555 เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับผลค้ำประกันสินเชื่อตลอดทั้งปี 2554 ซึ่งปัจจุบัน บสย.ได้ให้บริการค้ำประกันสินเชื่อใน จ.ขอนแก่น รวมทุกโครงการ 1,493 ราย วงเงินอนุมัติค้ำประกัน 4,287.57 ล้านบาท ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่า เศรษฐกิจการค้าและการลงทุนในขอนแก่น มีการขยายตัวสูงขึ้น ซึ่ง บสย.จะรุกเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในเรื่องของการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้ได้รับสินเชื่อตามที่ต้องการ โดยบสย.มีโครงการค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สำคัญ ประกอบด้วย โครงการ Portfolio Guarantee Scheme (PGS5) ระยะที่ 5 วงเงินค้ำประกันรวม 240,000 ล้านบาท ระยะเวลาใช้วงเงิน 3 ปี ที่สำคัญในโครงการนี้ ผู้ประกอบการสามารถนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558

นายมโนฑกล่าวว่า โครงการ New Start-Up SMEs ซึ่งให้บริการค้ำประกันสินเชื่อกับผู้ประกอบการใหม่ ที่จดทะเบียนและดำเนินกิจการมาไม่เกิน 3 ปี และยังขาดเงินทุนในการประกอบการ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น โครงการ PIL เป็นโครงการที่ บสย.ร่วมกับเอสเอ็มอีแบงก์ เข้าไปช่วยหลือพัฒนาเครื่องจักร และพัฒนากระบวนการทำงานในทุกภาคธุรกิจ ภายใต้วงเงิน 20,000ล้านบาท และการร่วมมือกับธนาคารออมสิน ให้บริการโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการเศรษฐกิจฐานราก ใช้ในการลงทุนหรือหมุนเวียนในธุรกิจ มีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท และเพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป้าหมายใน จ.ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่และประเทศ บสย.จึงร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอนแก่น บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หอการค้าจังหวัดขอนแก่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดงาน "มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน จ.ขอนแก่น” เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถขอสินเชื่อได้โดยไม่ติดขัด และเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

อีสานโพลสำรวจรถไฟความเร็วสูงควรนำเงิน 2 ล้านล้านบาทมาใช้

อีสานโพลเผยผลสำรวจ "รถไฟความเร็วสูงกับรถไฟรางคู่ในความคิดของคนอีสาน” พบกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่แนะให้ใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท

ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 28-30 กันยายน ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการหลักที่อยู่ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,210 ราย ในภาคอีสาน 20 จังหวัด

เมื่อถามความเห็นว่าการใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควรผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพื่อรักษาวินัยทางการคลังตามที่ฝ่ายค้านเสนอหรือไม่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 44.5 เห็นว่า ควรผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ร้อยละ 37.9 ไม่แน่ใจ และมีเพียงร้อยละ17.6 เห็นว่าไม่ต้องผ่าน เมื่อถามต่อว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง รัฐบาลควรลงทุนเองหมด หรือร่วมทุนกับเอกชน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 60.4 เห็นว่า รัฐควรร่วมทุนกับเอกชน ขณะที่ร้อยละ 39.6 เห็นว่า รัฐควรลงทุนเองทั้งหมด เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูง แล้วนำงบมาสร้างรถไฟรางคู่ทุกจังหวัดแทนก่อน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 52.0 เห็นด้วยที่จะเน้นสร้างรถไฟรางคู่ให้ครอบคลุมก่อนก่อน รองลงมาร้อยละ 32.7 ตอบว่าไม่แน่ใจ และมีเพียงร้อยละ 15.3 ที่ไม่เห็นด้วย

ดร.สุทิน กล่าวว่า จากผลสำรวจก่อนหน้านี้ พบว่าประชาชนอยากให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม จากผลการสำรวจครั้งนี้จะเห็นว่า คนอีสานส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทอย่างรอบคอบ โดยใช้งบผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย นอกจากนี้ คนอีสานส่วนใหญ่ยังอยากให้รัฐร่วมลงทุนกับเอกชนในการสร้างรถไฟความเร็วสูง แทนที่จะลงทุนทำเองทั้งหมด เพื่อที่จะได้มีงบประมาณเพียงพอในการลงทุนสร้างรถไฟรางคู่ให้ครอบคลุมเชื่อมโยงทุกจังหวัด

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น

ลมหนาวเริ่มมาแล้วปริมาณน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ก็อยู่ในระดับที่ควบคุมได้

เมื่อวานนี้ (2 ต.ค. 2556) ทางเขื่อนอุบลรัตน์ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำ 2 บานเพื่อระบายน้ำลงท้ายเขื่อนหลังจากที่อิมทธิพลจากพายุหวู่ติ๊บไม่ส่งผลกระทบมากทำให้การควบคุมการปล่อยน้ำซึ่งมีคณะกรรมการระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานได้มีการประเมินสถานการณ์แล้วว่าหากเป็นแบบนี้ก็สามารถปล่อยน้ำได้ตามปกติที่ไม่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำใต้เขื่อนและช่วงนี้มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนก็เริ่มมาถึงภาคอีสานแล้วในช่วงเช้าๆอากาศเริ่มเย็นๆแล้ว ซึ่งก็น่าจะส่งผลดีกับผู้ที่ปลูกข้าวในพื้นที่ชลประทานปีนี้น้ำคงไม่ท่วมเสียหายเหมือนกับทุกปีและจะส่งผลดีกับผลิตข้าวปีนี้ของจังหวัดขอนแก่นจะเพิ่มขึ้นด้วย ชาวเมืองขอนแก่นก็จะได้สบายใจได้ว่าปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่นอนและปีการผลิตหน้าช่วงข้าวนาปรังก็จะมีน้ำเพียงพอในการเกษตรอย่างแน่นอน สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์วันที่ 2 ต.ค. 2556 มีปริมาณน้ำ 67 %ของความจุอ่างมีการระบายน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าและการเกษตรจำนวน 13.91 ล้านลูกบาศก์เมตรมีน้ำไหลเข้าเขื่อนอยู่ที่ 75 ล้านลูกบาศก์เมตร

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบถุงยังชีพที่ชัยภูมิ

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมถ์ มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสพภัยน้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ ที่อำเภอจัตุรัส และอำเภอบ้านเขว้า รวม 2,000 ชุด

เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ 3 ต.ค. 56 ที่เฉลิมพระเกียรติ เทศบาลตำบลจัตุรัส อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ นายประสงค์ วิฑูรกิจจา เลขามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ นำถุงยังชีพพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบให้แก่ราษฎร 8 ตำบล ของอำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ จำนวน 1,000 ครัวเรือน หลังประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากลำน้ำชีเอ่อล้น เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร กว่า 5 หมื่นไร่ ราษฎรประสบภัยทุกตำบล โดยมีนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่วข้องให้การต้อนรับ

จากนั้นได้เดินไปยัง รร.บ้านเขว้าวิทยายน อ.บ้านเขว้า นำถุงยังชีพพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบให้แก่ราษฎรชาวอำเภอบ้านเขว้าที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 1,000 ครัวเรือน โดย ในระหว่างวันที่ 19 – 23 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา จังหวัดชัยภูมิได้รับผลกระทบอิทธิพลของดีเปรสชั่น เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากทำให้แม่น้ำสายหลัก เช่นแม่น้ำชี แม่น้ำพรม แม่น้ำเชิญ เอ่อล้นตลิ่งไหล่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎร รวมพื้นที่ประสบภัย 16 อำเภอ 105 ตำบล 1,128 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 98,114 ครัวเรือน จำนวน 269,845 คน

สถานการณ์ล่าสุด ยังมีพื้นที่น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะริมฝั่งแม่น้ำชี ตั้งแต่อำเภอบำเหน็จณรงค์ จัตุรัส บ้านเขว้า เมือง ซับใหญ่ และอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดได้ระดมกำลังเข้าป้องกันและฝ้าระวัง เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล / ข่าว

รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วม

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ตรวจสภาพน้ำท่วมหนัก สองฝั่งแม่น้ำชีและในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ย้ำการสร้างอ่างเก็บน้ำยังมีความสำคัญ ต้องสร้างเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและเก็บกักน้ำช่วงภัยแล้ง วันนี้ (3 ตุลาคม 2556) เวลา 11.30 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธาน กบอ. เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยเข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่สำนักงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ถูกมวลน้ำจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลทะลักลงมาตามลำน้ำสายต่างๆ ถึง 4 สาย ผ่านตัวเมืองชัยภูมิลงสู่ลำน้ำชี ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง 25 ชุมชนในเขตเทศบาล หลายชุมชนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมานานนับสัปดาห์ เทศบาลได้ระดมเครื่องสูบน้ำ 15 เครื่อง รวมกับเครื่องผลักดันน้ำ 10 เครื่อง จากกรมชลประทานเร่งสูบน้ำออกจากตัวเมืองตลอดวันตลอดคืน แต่ก็ยังไม่พ้นวิกฤต เนื่องจากมีมวลน้ำจากลำนี้ซึ่งอยู่ด้านล่างหนุนเข้ามา ทำให้การะบายน้ำออกไปทำได้ยาก

จากนั้นได้นำคณะเดินทางไปยังเทศบาลตำบลลุ่มลำชี อ.บ้านแขว้า จ.ชัยภูมิ ตรวจสภาพน้ำท่วมขังถนน บ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร ตามสองฝั่งแม่น้ำชี แม่น้ำสายสำคัญ หล่อเลี้ยงชีวิตคนอีสาน 9 จังหวัด พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 200 ชุดแก่ผู้ประสบภัยหมู่ 4 วังกุ่ม หมู่ 5 หางเรียง หมู่ 8 ท่าแจ้ง หมู่ 9 วังโพธิ์ทอง หมู่ 17 ซึ่งถูกน้ำชีเอ่อท่วมพื้นที่หนักที่สุดมานานกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากปริมาณน้ำจากลำน้ำชี ได้เอ่อล้นเข้าท่วมเซาะถนนในหมู่บ้านขาดผ่านไม่ได้ ต้องใช้เรือ ราษฎรเดือดร้อน 2,800 กว่า ครอบครัว พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 3 หมื่นกว่าไร่ พืชผักที่เป็นรายได้ชาวบ้านได้รับความเสียหาย มูลค่าหลายล้านบาท

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงประชาชนที่ประสบอุทกภัย จึงมอบหมายให้เดินทางมาตรวจเยี่ยม เพื่อให้ขวัญกำลังใจและรับทราบปัญหา นำไปหาทางแก้ไขจากการติดตามสานการณ์น้ำท่วมที่หนักๆ ในช่วงนี้ ที่จังหวัดปราจีนบุรี ศรีสะเกษ และชัยภูมิ เป็นลักษณะฝนตกเฉพาะที่ ประมาณฝนตกสะสม 4-5 วัน อยู่ที่ 150-300 มม. ทั้ง 3 จุด มีปริมาณน้ำฝนรวมกันประมาณ 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร

ส่วนในช่วงบ่ายเดินทางไปดูสภาพน้ำท่วมที่บ้านห้วยแย้ ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว ซึ่งถูกน้ำป่าทะลักเข้าท่วมถนนเชื่อมบ้านห้วยแย้ ห้วยแย้ รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ต้องใช้เรือท้องแบน การสัญจร ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครอบครัว

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จัดหน่วยสงเคราะห์เคลื่อนที่ออกไปช่วยเหลือราษฎรที่จังหวัดชัยภูมิ

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จัดหน่วยสงเคราะห์เคลื่อนที่ออกไปช่วยเหลือราษฎรที่จังหวัดชัยภูมิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดหน่วยสงเคราะห์เคลื่อนที่ออกไปช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยที่จังหวัดชัยภูมิ โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบให้นายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิฯ และคณะ พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอจัตุรัส จำนวน ๑,๐๐๐ ครอบครัว และที่โรงเรียนบ้านเขว้าวิทยายน จำนวน ๑,๐๐๐ ครอบครัว

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า จังหวัดชัยภูมิมีพื้นที่ประสบภัยแล้ว ๑๖ อำเภอ ๑๐๕ ตำบล ๑,๑๒๘ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๙๘,๑๑๔ ครัวเรือน ซึ่งบางอำเภอสถานการณ์น้ำได้คลี่คลายลงแล้ว ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ๙ อำเภอ คือ อำเภอภูเขียว หนองบัวระเหว บ้านเขว้า จัตุรัส เนินสง่า คอนสวรรค์ บำเหน็จณรงค์ แก้งคร้อ และอำเภอเมืองชัยภูมิ.

เพชรรินทร์ เขียวเขว้า

ส.ปชส.ชัยภูมิ/ข่าว

จังหวัดบุรีรัมย์จัดพิธีทำบุญเฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปี สมเด็จพระสังฆราช

จังหวัดบุรีรัมย์ จัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระกุศลในโอกาสที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชันษา ๑๐๐ ปี

(๓ ตุลาคม ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่ศาลาหอพระไตรปิฎก วัดกลาง (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานนำข้าราชการ ประชาชน และพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โนโอกาสทรงเจริญพระชันษา ๑๐๐ ปี ในวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๕ ให้จัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสดังกล่าวตลอดปี ๒๕๕๖ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้แสดงความสำนึกในพระเมตตาและพระบารมีที่ทรงมีต่อพระบวรพุทธศาสนาและประชาชน ทรงเป็นแบบอย่างอันดีงามในพระจริยวัตรและพระคุณธรรม ที่พุทธศาสนิกชนจะได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ให้เกิดประโยชน์สุข แก่สังคม ประเทศชาติ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์และสันติต่อไป

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

จังหวัดบึงกาฬ แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสถาปนาความสัมพันธ์ เมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) กับเมืองชิงเต่า (Qingdao)

นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า เนื่องจาก จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดชายแดน มีอาณาเขตติดต่อกับแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นแบ่งเขตแดน ระยะทางยาวประมาณ ๑๒๐ กม. มีจุดผ่านแดนถาวร ๑ จุด จุดผ่อนปรน ๒ จุด มีมูลค่าการค้าชายแดน ปีละประมาณ ๕,๔๐๐ ล้านบาท ในด้านการเกษตรยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดได้มากที่สุด เพราะมีพื้นที่เกษตรกรรม ๑,๖๖๖,๐๒๓ ไร่ ปลูกยางพารา ๗๓๑,๓๗๒.๘๕ ไร่ ปัจจุบันเปิดกรีดแล้วประมาณ ๔ แสนไร่ มีปริมาณน้ำยางดิบประมาณปีละ ๑๐๐,๐๐๐ ตัน ซึ่งในจำนวนหนึ่ง ผลิตเป็นยางแผ่นดิบส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ได้ปริมาณมากกว่า ๒๐,๐๐๐ ตันต่อเดือน มีโรงงานยางพารา ๗ แห่ง ตลาดประมูลยางพารา ๙๗ แห่ง เกษตรกรชาวจังหวัดบึงกาฬ ร้อยละ ๗๐ ประกอบอาชีพสวนยางพารา ที่สามารถสร้างรายได้ในภาคเกษตรให้แก่จังหวัดไม่น้อยกว่าปีละ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทางทะเลจากท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ไปยังท่าเรือเมืองชิงเต่า (Qingdao) มณฑลซานตง และกระจายไปในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป จังหวัดบึงกาฬ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การส่งออกยางพาราของจังหวัดบึงกาฬ เกิดความราบรื่นและส่งเสริมการตลาดยางพาราให้กว้างขวางยิ่งขึ้น สมควรกระชับความสัมพันธ์กับเมืองในต่างประเทศ โดยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) กับเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนายางพาราประสิทธิภาพสูง และเป็นศูนย์กลางการสั่งซื้อสินค้ายางพาราระดับโลก เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางพาราต่าง ๆ ตั้งแต่การรับซื้อ การจัดแสดงสินค้านานาชาติ การซื้อขายในระบบดิจิตอล การฝึกอบรม และมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรนานาชาติ เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการที่จะส่งเสริมผลประโยชน์ด้านต่าง ๆ แก่จังหวัดและประเทศไทย ต่อไป จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) กับเมืองซิงเต่า โดยมีหน้าที่กำหนดนโยบาย กรอบยุทธศาสตร์แผนความร่วมมือ แผนงานโครงการกิจกรรมระหว่างกัน โดยให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย โดยประกอบด้วยส่วนราชการต่าง ๆ ๓๕ หน่วยงาน และมีที่ปรึกษาคือ ท่านพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และจะได้มีการเร่งดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ชาวจังหวัดมุกดาหาร พร้อมกันทำบุญตักบาตรฉลองพระชันษา ๑๐๐ ปี สมเด็จพระสังฆราช

วันนี้ (๓ ต.ค. ๕๖) ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานนำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณร ๑๐๙ รูป ฉลองพระชันษา ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระกุศลแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัย ทรงเจริญพระชันษาครบ ๑๐๐ ปี ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ และเพื่อให้พุทธศาสนิกชนในจังหวัดมุกดาหาร ได้น้อมรำลึกถึงวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ ในฐานะที่ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่เจริญพรรษายาวนานที่สุดในประเทศไทย และได้สำนึกในพระเมตตาคุณที่พระองค์ ได้ทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนา ให้เกิดความมั่งคงในประเทศไทย จนได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก รวมทั้งได้ทรงปฏิบัติพระศาสนกิจ นำหลักธรรมเผย แผ่ต่อพุทธศาสนิกชนสู่นานาประเทศ มาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน โดยมุ่งหมายให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้น้อมนำหลักธรรมไปสู่การปฏิบัติ

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

พิพัฒน์ เพชรสังหาร สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

กระทรวงวิทยาศาสตร์ร่วมมือกับจังหวัดยโสธรพัฒนา

จังหวัดยโสธรประชุมร่วมกระทรวงวิทยาศาสตร์ พัฒนาจังหวัด ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่

ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ชั้น 3 ศาลากลางยโสธร นายประวัติ   ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมรองชัยภัทร  หิรัณญเลขา /รองนิรันดร์  สมสมาน และหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับนางสุมาลี  ทั่งพิทยกุล รองอธิบดี กรมวิทยาศาสตร์บริการ และคณะ  ในโอกาสเดินทางมาประชุมร่วมระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโยลี กับจังหวัดยโสธร เพื่อสร้างความร่วมมือ ในการพัฒนาจังหวัดยโสธรด้วยเทคโนโลยี ในที่ประชุมคณะผู้แทนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ได้รับปากช่วยพัฒนาจังหวัดยโสธรในหลายๆด้าน อธิ การนำเทคโนโยลีมาช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เช่นการทำให้ข้าวหอมมะลิ มีกลิ่นหอมทนนาน / การบรรจุภัฑณ์ปลาส้มให้ได้มาตรฐานสากลไม่บูดเน่าเสีย/ ส่วนในด้านแหล่งเรียนรู้ ผู้แทนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ได้รับปากว่า จะช่วยออกแบบตกแต่งด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายในอาคารพญาคันคาก/ อาคารพญานาค ซึ่งจังหวัดยโสธรจะสร้างขึ้นบริเวณลำน้ำทวน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด   สำหรับการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโยลี กับจังหวัดยโสธรในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการ เพื่อหาทางพัฒนาจังหวัดยโสธรให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยังยืนนั้นเอง

วรรณทอง  ภูโสภา

ส ปชส.ยโสธร/ภาพ/ข่าว

ขยายเวลายื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับการเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม ภายใน 31 ตุลาคม 2556

นายชัยภัทร หิรัญยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประกาศขอให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปีที่ 2548-2553 ซึ่งมีการสำรวจและลงทะเบียนแล้ว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 จำนวน 117 คน โดยขอให้ไปติดต่อขอรับเงินเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกจังหวัด ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2556 นั้น เนื่องจากขณะนี้ ได้เกิดปัญหาอุทกภัยขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ประชาชนไม่สามารถไปยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาได้ทัน ภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน คณะทำงานช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองดังกล่าว จึงให้ขยายระยะเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากเดิม ออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556

จึงขอประกาศให้ชาวยโสธร ทั้ง 117 คน (อ.เมืองยโสธร 18 คน,อ.เลิงนกทา 27 คน,อำเภอกุดชุม 17 คน,อ.ป่าติ้ว 4 คน,อ.ทรายมูล 8 คน,อ.คำเขื่อนแก้ว 16 คน,อ.มหาชนะชัย 17 คน,อ.ค้อวัง 6 คน และ อ.ไทยเจริญ 4 คน) ที่ยังไม่ไปติดต่อ ขอให้รีบไปยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร โทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์ 045-715475 ด่วน

ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 3 ต.ค.56

ยโสธรเป็นเจ้าภาพแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด “ยูโร่เค้ก” รอบคัดเลือกระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7-14 ตุลาคม นี้

จังหวัดยโสธร เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดยูโร่เค็ก ไทยแลนด์ บีช 2013 รอบคัดเลือกระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สนามกีฬาวอลเลย์บอลชายหาด บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดยโสธร

นายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกีฬาจังหวัดยโสธร และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลชายหาด "ยูโร่เค็ก ไทยแลนด์ บีช 2013” ที่ห้องประชุมศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดยโสธร เพื่อเตรียมจัดการแข่งขันกีฬา "วอลเลย์บอลชายหาด ยูโร่เค็ก ไทยแลนด์ บีช 2013” ซึ่งจังหวัดยโสธร ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบคัดเลือกตัวแทนระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการแข่งขัน 4 รุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 12,14,16 และ 18 มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน จาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รอบ 128 ทีม จำนวนนักกีฬา 384 คน โดยมีศูนย์พักนักกีฬา ที่วิทยาลัยเทคนิคยโสธร กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 7-14 ตุลาคม นี้ ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดยโสธร เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

เพื่อคัดเลือกทีมชนะเลิศ ระดับภาคไปร่วมแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศที่ โรงเรียนบรบือวิทยาคม จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 17-24 ธันวาคม 2556 ต่อไป

ขอเชิญชาวจังหวัดยโสธรร่วมชมและเชียร์โดยทั่วกัน

ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์

3 ตุลาคม 2556

พุทธศาสนิกชนชาวยโสธรเจริญจิตภาวนา ถวายสมเด็จพระสังฆราช

คณะสงฆ์พร้อมเหล่าพสกนิกร ชาวจังหวัดยโสธร จัดพิธี เจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสฉลองพระชันษา 100 ปี ที่วัดมหาธาตุพระอารามหลวง อ.เมืองยโสธร คณะสงฆ์จังหวัดยโสธรพร้อมด้วย พุทธศาสนิกชน ทุกหมู่เหล่า จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสฉลองพระชันษา 100 ปีโดยพระราชรัตนกวี  เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุพระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัด เป็นประธานสงฆ์ และนายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์  มีพระสงฆ์จำนวน 50 รูปพุทธศาสนิกชนพร้อมใจใส่ชุดขาว จำนวนกว่า 300 คน เข้าร่วมพิธี   การจัดพิธี เจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสฉลองพระชันษา 100 ปี  ในครั้งนี้ จังหวัดยโสธรได้จัดพิธีแล้ว 9 ครั้งโดยจัดพิธีที่วัดประจำอำเภอทุกอำเภอ

วรรณทอง  ภูโสภา

สปชส.ยโสธร/ภาพ/ข่าว

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ นำถุงยังชีพพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ร้อยเอ็ด 2,000 ครัวเรือน

ช่วงเช้าที่ผ่านมา (3 ต.ค. 56) นายพร  อุดมพงษ์  รองประธานฝ่ายบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายประสงค์  วิฑูรกิจจา เลขามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ นำถุงยังชีพพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่ จ.ร้อยเอ็ด ที่วัดบ้านโนนหนามแท่ง ม.4 ต.ศรีวิลัย อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 1,000 ครัวเรือน และที่วัดบ้านมะแว ต.บึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 1,000 ครัวเรือน รวม 2,000 ครัวเรือน โดยมีนายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์จังหวัดร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมรับถุงยังชีพพระราชทานได้อย่างสมเกียรติ ต่อไป

อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ประสบภัยน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง เมื่อ 22 กันยายน เป็นต้นมา  ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำยังเอ่อล้น เข้าท่วมไร่นาเกษตรกร 47,000 ไร่ 11 ตำบล 78 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,343 ครัวเรือน อ.ทุ่งเขาหลวง  พื้นที่การเกษตรเสียหาย 5,000 ไร่ ท้องที่ 4 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 1,500 ครัวเรือน สถานการณ์น้ำท่วมในไร่นาเกษตรกรที่จังหวัดร้อยเอ็ดขณะนี้ มีแนวโน้มลดลง สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของจังหวัดร้อยเอ็ด 11 แห่ง ยังคงสามารถจุน้ำได้เพิ่มอีกจำนวนมาก ด้านการช่วยเหลือเบื้องต้น นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อเร่งรัดช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนต่อไป

คมกฤช  พวงศรีเคน/ภาพ

กมลพร  คำนึง/ข่าว/บก.ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

3 ต.ค. 56

กองบัญชาการกองพลทหารราบที 6 จัดพิธีรับ – ส่ง หน้าที่ และแสดงความยินดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6

วันนี้ 3 ต.ค. 56  เวลา 11.00 น.  กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 ได้จัดพิธีรับ – ส่ง หน้าที่ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 ระหว่างพลตรี ชลิต เมฆมุกดา ผู้บัญชาการทหารราบที่ 6 ดำรงตำแหน่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 และพลตรี ธรากร ธรรมวินทร ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 ณ บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ค่ายสมเด็จพระพุทธยอมฟ้าจุฬาโลกมหาราช อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด

ด้วยมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พลตรี ชลิต เมฆมุกดา ผู้บัญชาการทหารราบที่ 6 ดำรงตำแหน่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 และพลตรี ธรากร ธรรมวินทร ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 จึงได้มีพิธีรับ – ส่ง หน้าที่ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 และงานแสดงความยินดี ขึ้นในวันนี้ (3 ต.ค.56) โดยมีหน่วยขึ้นตรง, หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเป็นเกียรติงาน โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลในสังกัดทุกระดับที่ได้ร่วมแรง ร่วมใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 จนบรรลุผลสำเร็จ และกล่าวแสดงความยินดีกับผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 คนใหม่ ขณะที่ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 คนใหม่ ได้กล่าวขอบคุณและแสดงความยินดีที่พลตรี ชลิต เมฆมุกดา ผู้บัญชาการทหารราบที่ 6 ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งโอกาสนี้ได้จัดให้มีงานเลี้ยงแสดงความยินดีกับผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 คนใหม่ด้วย

วิมล เร่งศึก/ข่าว

กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

3 ต.ค. 56

อดีต ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) ที่ จ.ร้อยเอ็ด

วันที่ 2 ต.ค. 56  นายบรรหาร ศิลปะอาชา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี คนที่ 21 เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) นายถวิล จุรีมาศ (วัย 86ปี) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด ณ เมรุวัดบุรพาภิราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง,หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด,อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัด,คหบดี,พ่อค้า นักธุรกิจ ญาติมิตรและประชาชนร่วมงานอย่างเนืองแน่น

นายถวิล จุรีมาศ ผู้วายชนม์ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คนที่ 38 กลุ่มพิทักษ์ท้องถิ่น มีบัตรชายคือ ดร.สิริพันธุ์ จุรีมาศ เป็น ส.ส.หลายสมัยและนายอนุรักษณ์ จรีมาศ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นหลานชาย นอกจากนั้น เป็นประธานลูกเสือชาวบ้านรุ่น 90 เป็นผู้นำนักธุรกิจคนสำคัญลำดับต้นๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ด และสร้างผลงานทางการเมืองท้องถิ่นได้ผลดีจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งมีนายบรรจง โฆษิตจิรนันทน์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เป็นบุตรเขย สืบทอดเจตนารมณ์ทางการเมืองท้องถิ่น ที่มีผลงานยาวนานจนถึงปัจจุบันกว่า 17 ปี และได้รับรางวัลองค์กรที่มีการบริหารจัดการองค์กรดีเด่นระดับประเทศอีกด้วย

กมลพร คำนึง/ข่าว/บก.ข่าว

อนงค์นาถ ธุระพันธ์/พิมพ์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

2 ต.ค. 56

สระแก้วจัดพิธีฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก

ที่ศาลาการเปรียญวัดสระแก้วพระอารามหลวง นายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วประธานฝ่ายฆาราวาส พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและพระราชธรรมภาณี เจ้าคณะจังหวัดสระแก้วประธานฝ่ายสงฆ์ จัดพิธีฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสระแก้ว

การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระกุศลเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชันษา 100 ปี ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 โดยมีพระสงฆ์ร่วมเจริญจิตตภาวนา จำนวน 109 รูป พร้อมทั้งพระราชธรรมภาณี จังหวัดสระแก้วกล่าวสัมโมทนียกถา

จังหวัดอำนาจเจริญร่วมกับวัดสำราญนิเวศจัดพิธีบรรพชาภิกษุสามเณรถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในมหามงคลพระชันษาครบ ๑๐๐ ปี

วัดสำราญนิเวศ (พระอารามหลวง) ร่วมกับเหล่าพุทธศาสนิกชนชาวอำนาจเจริญ จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณร จำนวน ๑๒๙ รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเวลาแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในมหามงคลพระชันษาครบ ๑๐๐ ปี

๐๙.๐๐ น.วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ที่วัดสำราญนิเวศ (พระอารามหลวง) ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธานในพิธีบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุ สามเณร จำนวน ๑๒๙ รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเวลาแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในมหามงคลพระชันษาครบ ๑๐๐ ปี   โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เหล่าพุทธศาสนิกชน อุบาสก อุบาสิกา เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก  

เนื่องจาก ในวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ เป็นวันครบรอบ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก  ซึ่งนับเป็นมหามงคลยิ่ง ที่คนไทยและพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จะได้มีโอกาสร่วมใจกันทำความดีในกิจกรรมต่างๆ ที่ทุกภาคส่วนจัดขึ้น ทางจังหวัดอำนาจเจริญ โดยวัดสำราณนิเวศ (พระอารามหลวง) ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญ และพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธา ได้ร่วมใจกันนำบุตรหลาน และญาติมิตร เข้าร่วมพิธีอุปสมบท จำนวน ๑๒๙ รูป โดยพระภิกษุและสามเณรที่เข้าร่วมกิจกรรมศึกษา ปฏิบัติธรรม ณ วัดสำราญนิเวศ ตั้งแต่วันที่ ๓ – ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และตั้งใจบำเพ็ญกุศล ตั้งจิตอธิษฐานถวายแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก รวมทั้งให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสกระทำความดี กล่อมเกลาจิตใจให้สะอาด และเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป

กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ประกอบด้วยพิธีถวายพระพรโดยนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ การแสดงพระธรรมเทศนา โดยพระวิชัยมุนี เจ้าอาวาสวัดสำราญนิเวศ เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ (ธรรมยุติ)    เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้น้อมรำลึกถึงวันชาตกาล ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก  ที่พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ยาวนานที่สุด ในบรรดาสมเด็จพระสังฆราชที่มีมาในแผ่นดินสยาม

สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราช 100 พระชันษา

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอุดรธานี ร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 3 ตุลาคม 2556

ที่โถงชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี วันนี้ ( 3 ต.ค.56 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธาน นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ในศาลากลางจังหวัดอุดรธานีร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวันคล้ายวันประสูติครบ 100 พระชันษา ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระนามเดิมว่า เจริญ คชวัตร นามฉายาว่า สุวฑฺฒโน ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นลำดับที่ 6 นับตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2504 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มีชาติภูมิ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นบุตรคนที่ 1 ในจำนวนบุตร 3 คน ของนายน้อย และนางกิมน้อย คชวัตร ชาติกาล ณ บ้านวัดเหนือ ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2456 เวลา 04.00 น.เศษ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์    

เมื่อชนมายุได้ 8 ขวบ ได้เข้าศึกษาชั้นปฐม ณ โรงเรียนประชาบาลวัดเทวสังฆาราม จนจบชั้นประถม ๓ ครั้นถึง ปีพุทธศักราช 2469 มีชนมายุย่างเข้าปีที่ 14 จึงได้เข้ารับบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเทวสังฆาราม โดยมีพระครูอดุลสมณกิจ (ดี พุทธโชติ) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อออกพรรษาแล้วได้ไปศึกษาวิชาบาลีไวยากรณ์ที่วัดเสนหา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน ปีพุทธศักราช 2499 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราชอุปัธยาจารย์ ทรงเลือกสมเด็จฯ เป็นพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง) ของพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในระหว่างที่ทรงผนวช และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวราภรณ์ รักษาการพระวินัยธรชั้นฎีกา ในศกนี้ ปีพุทธศักราช 2504 เป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร สืบต่อจากพระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) ปีพุทธศักราช 2515 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระญาณสังวร ปีพุทธศักราช 2532 ตรงกับวันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2532 ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระญาณสังวร เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" และทรงครองตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน

ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

พิธีทำบุญตักบาตรฉลอง 100 พระชันษา 100ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ

จังหวัดอุดรธานี จัดพิธีทำบุญตักบาตรฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 3 ตุลาคม 2556

ที่วัดทิพยรัฐนิมิตร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี พุทธศาสนิกชนชาวอุดรธานีพร้อมใจกันร่วมทำบุญตักบาตร โดยมีนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยนายณรงค์ พละละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสงฆ์

นายณัฐสิทธิ์ วงศ์ตลาด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองพระชันษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก 100 ปี 3 ตุลาคม 2556 เพื่อเผยแพร่พระประวัติ พระศาสนกิจ และพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน ชื่อ "งานฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก 3 ตุลาคม 2556”จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 เมษษยน -31 ธันวาคม 2556 เนื่องจากวันที่ 21 เมษายน เป็นวันคล้ายวันสถาปนาสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก และเป็นวันครบ 2 รอบ หรือ 24 ปี แห่งการได้รับพระราชทานสถาปนา และมติมหาเถรสมาคมเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2556 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการฯ

ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดอุดรธานีได้กำหนดจัดให้พิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 3 ตุลาคม 2556 ที่ทิพยรัฐนิมิตร มีการตั้งโต๊ะหมู่บูชา และพิธีลงนามถวายพระพร นิทรรศการเผยแพร่พระประวัติ พระศาสนากิจและพระเกียรติคุณ ณ ห้องโถงชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธันวาคม 2556 การปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติตลอดปี 2556 ของสำนักงานปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ตามมติมหาเถรสมาคม 17 แห่ง

ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

จังหวัดอุบลราชธานี เปิดโครงการส่งเสริมปฏิบัติธรรม สังฆราชบูชา ฉลองพระชันษา 100 ปี

อุบลราชธานี :  รอง ผวจ.อุบลราชธานี นำส่วนราชการและประชาชนร่วมทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม เจริญพระพุทธมนต์และชมนิทรรศการพระประวัติ การเผยแพร่พระศาสนากิจและพระเกียรติคุณของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่วัดศรีอุบลรัตนาราม

เช้าวันนี้ (3 ต.ค. 56) ที่วัดศรีอุบลรัตนราม (พระอารามหลวง) นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดเป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมปฏิบัติธรรม สังฆราชบูชา ฉลองพระชันษา ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก จังหวัดอุบลราชธานี และได้นำคณะข้าราชการและประชาชนทุกภาคส่วนร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุ สามเณร

โครงการส่งเสริมปฏิบัติธรรม สังฆราชบูชา ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เป็นโครงการที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี จัดขึ้น โดยการปฏิบัติธรรมเพื่อฉลองพระชันษา 100 ปี ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่ทรงเจริญพระชันษาครบ 100 ปี ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 และให้มีการปฏิบัติธรรมสังฆราชบูชา ณ วัดที่มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี มีวัดที่เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ทั้ง 25 อำเภอๆ ละ 1 แห่ง จึงได้จัดโครงการส่งเสริมปฏิบัติธรรม สังฆราชบูชา ฉลองพระชันษา 100 ปี โดยมีกิจกรรมพิธีทำบุญตักบาตร การปฏิบัติธรรม พิธีเจริญพระพุทธมนต์และการจัดนิทรรศการเผยแพร่พระประวัติ พระศาสนากิจและพระเกียรติคุณ การจัดโครงการส่งเสริมปฏิบัติธรรม สังฆราชบูชา ฉลองพระชันษา 100 ปี จึงเป็นการเทิดพระเกียรติ สดุดีแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในฐานะที่ทรงมีคุณูปการต่อพุทธศาสนาและประเทศชาติ และเพื่อให้ศาสนิกชนทั่วไป รวมทั้งภาคส่วนที่ได้รับประทานพระเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราช เช่นโรงพยาบาล สถาบันการศึกษา ได้บำเพ็ญคุณงามความดี น้อมถวายเป็นพระราชกุศล

สำหรับพระประวัติของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก มีพระนามเดิมว่า เจริญ คชวัตร ทรงมีพระชาติภูมิ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๒ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 14 พรรษา และเข้ามาเรียนพระปริยัติธรรม ณ วัดบวรนิเวศวิหาร จนกระทั่งสอบได้นักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม 9 ประโยค ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเป็นประโยชน์ต่อศาสนา ประเทศชาติ และประชาชนเป็นอเนกประการนับได้ว่าเป็นทรงเป็น ครุฐานียบุคคลของชาติ ทั้งในด้านพุทธจักรและอาณาจักร แสดงถึงพระจริยวัตรอันงดงาม และเนื่องในโอกาสอันสำคัญนี้ รัฐบาลได้ให้ทุกภาคส่วนจัดงานฉลองพระชันษา 100 ปี เพื่อเผยแพร่พระประวัติ และพระศาสนากิจให้สมพระเกียรติ และเพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีตลอดปี 2556 นี้.

พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี

081 924 8609 /ข่าว/ 3 ต.ค. 56

ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ร่วมทำบุญตักบาตรงานฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

วันที่ 3 ต.ค. 56 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เวลา 07.09 น. นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานพิธีฝ่ายฆราวาส นำคณะผู้บริหารองค์กรหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมข้าราชการ และประชาชนชาวทุกหมู่เหล่า ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ 100 รูป เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชันษาครบ 100 ปี ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 จังหวัดสุรินทร์ จึงได้กำหนดจัดงานฉลองพระชันษา 100 ปี โดยมีการจัดกิจกรรมนิทรรศการ ณ ศาลาการเปรียญวัดศาลาลอย พระอารามหลวง และวัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ การปฏิบัติธรรม ณ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสุรินทร์ 26 แห่ง และวัดในจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญประชาชนทั่วไป ร่วมงานฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ภาพ/ข่าว