วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ก.ธ.จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เข้ม ติดตาม 3 โครงการเด่น และพร้อมเปิดตัว ก.ธ.จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 17 คน

เช้าวันนี้ ( 8 ก.ค. 56 ) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ มีการประชุมของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ ก.ธ.จ.กาฬสินธุ์ โดยมี นายไชยพล ไชยคำมิ่ง กรรมการผู้แทนภาคธุรกิจเอกชนเป็นประธานการประชุม โดยมีคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร่วมประชุม จำนวน 16 คน ซึ่งการประชุมในวันนี้เน้น 2 ประเด็น ได้แก่การวางแผนประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และรายงานผลการติดตามสอดส่องโครงการต่างๆตามมติของคณะกรรมการธรรมาภิบาล จังหวัดกาฬสินธุ์ระบุ ซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้ดำเนินการติดตามสอดส่อง 2 โครงการเด่นของจังหวัดกาฬสินธุ์ไปแล้ว ประกอบด้วย โครงการขุดลอกลำห้วยตามลำน้ำสายรอง พร้อมก่อสร้างฝายน้ำล้น วงเงิน 27 ล้าน 8 แสนบาท และโครงการปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะแก่งดอนกลางเป็นพุทธมณฑลอีสานจังหวัด กาฬสินธุ์ วงเงิน 15 ล้านบาท ทั้งนี้ ก.ธ.จ.กาฬสินธุ์ ได้นำเรียนข้อสังเกตต่างๆแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และในช่วงบ่ายวันนี้( 8 ก.ค.56) จะเป็นการลงพื้นที่เพื่อติดตามสอดส่องโครงการ คนดี สุขภาพดี รายได้ดี ในวงเงิน 27 ล้าน 8 แสนบาท

นายไชยพล ไชยคำมิ่ง กล่าวว่า ก.ธ.จ.กาฬสินธุ์ มีการการทำงานเป็นขั้นตอน ซึ่งทุกกระบวนงานจะต้องได้รับอนุญาต จาก ประธาน ก.ธ.จ. คือ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชอบธรรมแก่ทุกฝ่าย จึงขอฝากถึงส่วนราชการและประชาชน ขอให้มีความเชื่อมั่นในการทำงานของก.ธ.จ.กาฬสินธุ์และในเร็วๆนี้จะมีการติด ป้ายประชาสัมพันธ์ และจัดทำโปสเตอร์แนะนำ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ทั้ง 17 คนให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อการติดต่อประสานข้อมูลและแจ้งสถานการณ์ต่างๆใน พื้นที่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติขอเชิญส่งบุคคลและองค์กรดีเด่นเข้ารับรางวัล

สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แจ้งกับสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ว่า เนื่องในโอกาสวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม 2556 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงขอเชิญบุคคลและองค์กรส่งผลงานดีเด่นด้าน การส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เข้าคัดเลือกเพื่อรับรางวัล ประจำปี 2556 เพื่อยกย่อง เชิดชู และประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อสร้างขวัญ กำลังใจแก่บุคคลและองค์กรที่อุทิศตนในการปฏิบัติงานฯ ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ประวัติและผลงานของบุคคลและองค์กรที่ได้รับรางวัลให้เป็นตัวอย่างแก่ สารธารณชน ผู้สนใจติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานได้ที่สำนักส่งเสริมและ ประสานงานเครือข่าย โทร. 0 2141 3925 , 0 2141 3922 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2556



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว

กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี อำเภอยางตลาด จัดประชุมเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพสมาชิก

กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ พัฒนาทักษะด้านต่างๆ ให้กับสมาชิก เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพ ศักยภาพของสมาชิกให้มีความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และร่วมขับเคลื่อนโครงการกาฬสินธุ์เมืองคนดี สุขภาพดี รายได้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (8 กรกฎาคม 2556) ที่ห้องทศพร โรงแรมริมปาว อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพสมาชิกกองทุน พัฒนาบทบาทสตรีอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของสตรี ให้มีความรู้ ทักษะด้านต่างๆ ได้แก่ การพูดในที่ชุมชน การแต่งกาย มารยาททางสังคม และการคิดเชิงบวกในการทำงาน โดยมีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอยางตลาด จาก 15 ตำบล 208 หมู่บ้าน จำนวน 500 คน เข้าร่วมประชุม

นางสาวปราณี สุทธิศรี ประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เครือข่ายคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอยางตลาด ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพสตรีที่เป็นพลังสำคัญในการขับ เคลื่อนทางสังคม ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาสตรี โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรีไว้อย่างชัดเจน ปัจจุบันสตรีมีสิทธิ เสรีภาพ ทัดเทียมกับบุรุษ ซึ่งจะเห็นได้จากกฎหมายรัฐธรรมนูญ กำหนดไว้อย่างชัดเจน ตลอดทั้งระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ ได้เปิดโอกาสให้สตรีได้เข้าไปมีบทบาทอย่างหลากหลาย เท่าเทียม เครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จึงได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพสมาชิกกองทุนฯ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พบปะแลกเปลี่ยนผลการปฏิบัติงานร่วมกัน มีความรู้ ความเข้าใจ ตลอดทั้งทักษะในการพูดในที่ชุมชน การแต่งกายที่เหมาะสม และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมี อาจารย์พสิษฐ์ เรืองวิริยะกุล วิทยากรและทีมที่ปรึกษามาให้ความรู้

ด้านนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวว่า สตรีเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในสังคมไทยในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการเมือง การปกครอง ด้านธุรกิจ ดังนั้น การจัดโครงการดังกล่าวของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอยางตลาด จึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี เพราะสมาชิกจะได้เตรียมพร้อมทั้งด้านความรู้ บุคลิกภาพในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการกาฬสินธุ์เมืองคนดี สุขภาพดี รายได้ดี ให้ประสบผลสำเร็จ


ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

ชาวบ้านเหล็ก ตำบลเหนือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ แห่นางแมวขอฟ้าขอฝน

ชาวบ้านเหล็ก หมู่ 10,12 ตำบลเหนือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำพิธีแห่นางแมวตามความเชื่อแต่โบราณ เพื่อขอให้ฝนตก หลังฝนตกเล็กน้อยเท่านั้น คลองชลประทานก็ไม่มีน้ำ

ที่วัดสว่างอรุณบ้านเหล็ก ตำบลเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายประทวน สนอุทา กำนันตำบลเหนือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชาวบ้านเหล็กหมู่ที่ 10, 12 ทำพิธีแห่นางแมวขอฝน ตามความเชื่อมาแต่โบราณหลังพื้นที่ตำบลเหนือฝนไม่ค่อยตก หรือฝนบ้างเล็กน้อย ทำให้ชาวนาไม่มีน้ำทำนา โดยมีพระอธิการสมศรี สุปฺนโน เจ้าอาวาสทำพิธีปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ ก่อนชาวบ้านจะแห่นางแมวไปตามถนนรอบหมู่บ้าน สำหรับการแห่นางแมวครั้งนี้ใช้ชาวบ้านเชื่อว่าต้องใช้แมว 99 ตัว เพื่อให้ฝนตกลงมา จึงใช้แมวในหมู่บ้านที่จำนวน 1 ตัว ส่วนอีก 98 ตัว ใช้กระดาษวาดเป็นรูปแมวแทน และชาวบ้านก็หวังว่าเมื่อมีแห่นางแมวแล้ว จะทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ตำบลเหนือ

นายประทวน สนอุทา กำนันตำบลเหนือ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตำบลเหนือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ตั้งแต่ปลายปี 2555 มีฝนตกบ้างประปราย แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอสำหรับการทำนา และคลองชลประทานก็ไม่มีน้ำ เนื่องจากเขื่อนลำปาวมีน้ำไม่เพียงพอที่จะปล่อยให้กับประชาชนได้ และจากความเชื่อของชาวบ้านเหล็ก ตำบลเหนือ ที่มีมาแต่โบราณจึงได้ทำพิธีแห่นางแมว ขอน้ำ ขอฝน จากเทวดา หากเมื่อแห่นางแมวแล้วเกิดฝนตกลงมา ก็จะช่วยให้ชาวบ้านที่ทำนามีน้ำได้ปักดำ โดยพิธีแห่นางแมวตามความเชื่อจะใช้แมวจำนวน 99 ตัว ซึ่งในหมู่บ้านที่มีอยู่จำนวนมาก แต่ใช้แมวจริงเพียง 1 ตัว ส่วนที่เหลือใช้แมวกระดาษแทน ถือว่าเป็นครั้งแรกของบ้านเหล็กที่ได้ทำพิธีแห่นางแมวขอฝน
 



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

เขื่อนลำปาว ประกาศชะลอการส่งน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากมีน้ำเพียงร้อยละ 14

นายปิยปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว แจ้งว่า เนื่องจากในขณะนี้ฝนตกน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์มีปริมาณน้อยมาก จนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเพียง 278 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ประมาณร้อยละ 14 มีปริมาณน้ำใช้ได้เพียง 178 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับการส่งน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงนี้ จึงขอประกาศชะลอการส่งน้ำฤดูฝนปี 2556 ไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าปริมาณน้ำในอ่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ ในช่วงนี้จึงขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสาร ฝน ฟ้า อากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและวางแผนในการเพาะปลูกในช่วงฤดูฝนปี 2556 ต่อไป




สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นร่วมประชุมผลการดำเนินงานโครงอำเภอเกษตรพัฒนานำร่องที่อำเภอซำสูง

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานการประชุมหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดขอนแก่นรวมทั้งนายอำเภอ ผู้นำชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 5 ตำบลของอำเภอซำสูงเพื่อสรุปผลโครงการอำเภอเกษตรพัฒนาซึ่งซำสูงเป็นอำเภอนำ ร่องของจังหวัดขอนแก่นที่ส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการเป็นโครงการปลูก พืชเกษตร การเลี้ยงสัตว์ การประมงโดยเน้นการมีส่วนร่วมของเกษตรกรและเป็นโครงการเกษตรปลอดภัย ขณะนี้หลายหน่วยงานเข้ามาพัฒนาเกษตรกรและส่งเสริมให้จัดโซนนิ่งการเลี้ยง สัตว์เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่จะทำการปลูกพืชผักสวนครัวและพืชไร่ซึ่งถือว่าซำ สูงเป็นอำเภอผลิตอาหารปลอดภัยของจังหวัดขอนแก่นก็ว่าได้ส่วนหนึ่งของผลผลิต การเกษตรปลอดสารพิษตอนนี้ทางเครือเซนทรัลสั่งซื้อจากกลุ่มเกษตรกรและผลิตส่ง ทุกวันส่งไปขายในห้างเครือเซนทรัลทั่วประเทศและก็มีหลายแห่งเริ่มเข้ามาดู งานและศึกษาแล้วโดยเมื่อเร็วๆนี้ทางรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ สปป.ลาวก็นำคณะมาดูงานเพื่อนำไปขยายผลส่งเสริมการปลูกพืชให้กับเกษตรของ สปป.ลาว ตอนนี้ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการลงมือทำงานและขยายผลไป สู่เกษตรกรในกลุ่มแรกประมาณ 1,000 ครัวเรือนเพื่อขับเคลื่อนโครงการอำเภอเกษตรพัฒนาตามนโยบายของผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่นเรียบร้อยแล้วและจะมีการสรุปผลงานทุกเดือนและมีการประเมินผล งานด้วยก่อนที่จะขยายไปสู่อำเภออื่นๆต่อไปโดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นฝาก ให้ทุกหน่วยงานที่เข้ามาส่งเสริมและพัฒนาเกษตรที่ซำสูงให้มุ่งเน้นคุณภาพ มากกว่าสิ่งอื่นอย่าเน้นเพื่อทำให้เสร็จเท่านั้น      

จังหวัดขอนแก่นจัดกิจกรรมจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดของเครือข่ายวัฒนธรรมในพื้นที่

นางเกศนี  สวัสดี วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าในวันศุกร์ 12 กรกฎาคม2556 ทางจังหวัดขอนแก่นโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจะจัดโครงการ จังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดของเครือข่ายวัฒนธรรมในจังหวัดขอนแก่น เพราะปัจจุบันปัญหายาเสพติดได้ขยายเครือข่ายมาสร้างปัญหาให้กับสังคมจนเป็น สิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนทุกภาคส่วนต้องทำงานบูรณาการร่วม กันเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปหรือลดน้อยลงจังหวัดขอนแก่นได้ให้ความสำคัญเป็น อย่างมาก ทางสำนักงานวัฒนธรรมและหน่วยงานในสังกัดได้ใช้หน่วยทุกหน่วยจัดการกับปัญหา ในด้านวัฒนธรรมก็ใช้มิติทาง ศาสนา และวัฒนธรรมต่างๆมาร่วมมือกันตามที่ประกาศเจตนารมย์ร่วมกันว่า จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดเป็นวาระจังหวัดร่วมกันมีเครือข่ายด้าน วัฒนธรรมเฝ้าระวัง ควบคุมพื้นที่เสี่ยง ส่งเสริมพื้นที่สร้างสรรค์โดยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดร่วมกัน สำหรับงานนี้จะจัดที่มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน อำเภอเมืองขอนแก่นโดยมีนายสุระ   เตชทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรเป็นประธานในงานนี้จะมีเครือข่าย วัฒนธรรมทั้งสื่อมวลชนผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ต สื่อพื้นบ้านมาร่วมงานจำนวนมากและจะมีการมอบเกียรติบัตรให้กับหน่วยงานบุคคล ที่ร่วมดำเนินงานโครงการจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดมีโบสถ์/มัสยิด สีขาว 21 แห่ง ร้านเกมส์ร้านคาราโอเกะสีขาวระดับ 3 ดาว 79 แห่งองค์กรเครือข่ายวัฒนธรรมด้านการจัดกิจกรรมป้องกันปัญหายาเสพติดในมิติ ศาสนา และวัฒนธรรมดีเด่น 26 องค์กร เครือข่ายผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมในการส่งเสริมโครงการป้องกันปัญหายา เสพติด และวัฒนธรรมดีเด่น 49 รายก็ขอเชิญชวนเครื่อข่ายวัฒนธรรมในจังหวัดขอนแก่นและชาวขอนแก่นมาร่วมงาน และร่วมปฏิญาณตนไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดในวันดังกล่าวได้มีกิจกรรมดีๆทั้ง วิชาการ บันเทิงมากมายในรายงานนี้

รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดอบรมลดต้นทุนผลิตข้าว ที่จังหวัดนครราชสีมา

ที่ห้องประชุม บริษัท สงวนวงศ์อุตสาหกรรม จำกัด อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หลักสูตร การลดต้นทุนการผลิตข้าว โดยมี ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมการข้าว อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ประธานกรรมการใหญ่ บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เกษตรอำเภอทุกอำเภอ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านทุกหมู่บ้านในพื้นที่ 32 อำเภอ จำนวนกว่า 1,000 คนเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ จ.นครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีประชากร 606,275 ครัวเรือน รองจากกรุงเทพฯ และเป็นจังหวัดที่มีจำนวนเกษตรกรมากที่สุดในประเทศถึง 310,184 ครัวเรือน พื้นที่ทำการเกษตร 8 ล้านไร่ โดยเฉพาะข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีเกษตรกรปลูกมากถึง 195,131 ครัวเรือน การจัดอบรมอาสาสมัครหมู่บ้าน หลักสูตร "ลดต้นทุนการผลิตข้าว” ในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านจำนวน 1,000 คน ในพื้นที่ 32 อำเภอ นำเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าว ไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรทำนาในจังหวัดฯ สามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวไม่น้อยกว่า 1,500 บาทต่อไร่ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 5,850 ล้านบาท ซึ่งต้นทุนการผลิตข้าวใน จ. นครราชสีมาอยู่ที่ประมาณ 3,200 - 3,500 บาท /ไร่

นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนทั่วประเทศ ว่า ถึงแม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วแต่ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ยังมีน้อยโดยเฉพาะภาค อีสานเช่นที่ จ.นครราชสีมา อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่ง มีปริมาณน้ำแค่ 32 เปอร์เซ็นต์ ของความจุเท่านั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงขึ้นทำการบินโปรยฝนหลวงทันทีที่ สภาพอากาศมีความชื้นเหมาะสมโดยเน้นการเติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำเป็นหลัก ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะมีพายุลูกใหญ่ 2 ลูก เข้ามาอาจส่งผลให้มีฝนตกหนัก และคาดว่าจะทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นแต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่คาดหวังมาก ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาน้อยส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี บ้างแต่ช่วงนี้ยังเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝนจึงอยากให้เกษตรกรรอดูสถานการณ์ไป ก่อน ก่อนลงมือเพาะปลูกเพื่อไม่ให้พื้นที่นาข้าวเสียหาย นายยุคล กล่าว

ป.ป.ช.บุรีรัมย์ประชุมชี้แจงการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เชิญนายก อบต. /รองนายก อบต. และสมาชิกสภาท้องถิ่น เข้ารับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ให้ถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.แห่งชาติ

ที่ห้องนารายณ์บรรทมศิลป์ ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายพีร์ ฉัตรกันภัย เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตเชี่ยวชาญ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เชิญนายก อบต. ,รองนายก อบต. และสมาชิกสภาเทศบาลตำบล ของจังหวัดบุรีรัมย์ เข้ารับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการยื่นภาษีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ ที่กำหนดให้ตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ต้องแสดงรายการทรัพย์และหนี้สิน ภายใน ๓๐ วันหลังเข้ารับตำแหน่ง เพื่อสร้างความเข้าใจและสามารถยื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ถูก ต้องตามที่กฏหมายกำหนด รวมทั้งเรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต กรณีมาตรา ๑๐๐ และมาตรา ๑๐๓ เรื่องการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเรื่องการห้ามมิให้ดำเนินการที่เป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวม

นายพีร์ ฉัตรกันภัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบการแสดงบัญชีรายการทรัพย์และหนี้สินของ นายก อบต./รองนายก อบต. และสมาชิกสภาท้องถิ่นของจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า ยังมีบางรายที่ไม่ได้แสดงรายการฯ หรือแสดงรายการบัญชีฯ ไม่ครบถ้วน ตามที่กฎหมายกำหนด จึงได้จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ขึ้น เพื่อให้เข้าใจและสามารถยื่นแบบแสดงรายการฯ ได้อย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป



 

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

สหกรณ์บึงกาฬจัดประชุม “การขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์”

วันนี้ ( 8 กรกฎาคม 2556) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมทรายเงินรีสอร์ท อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชี้แจง "การขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์” และมอบเงินชดเชยดอกเบี้ยสำหรับสถาบันเกษตรกรตามมาตรการให้ความช่วยเหลือด้าน หนี้สินแก่สมาชิกสหกรณ์ / กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ปี 2554 จำนวน 4 สหกรณ์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 410,260 บาท ซึ่งดำเนินงานโดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ

สหกรณ์ในประเทศไทยเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเศรษฐกิจและ สังคม สร้างการมีส่วนร่วม ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันของประชาชน สร้างการเรียนรู้แห่งวิถีแห่งประชาธิปไตย โดยยึดหลักการช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันนับตั้งแต่การจัดตั้ง สหกรณ์แห่งแรกในปี 2459 จนกระทั่งปัจจุบัน มีสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจมากกว่า 7,900 แห่ง มีสมาชิกรวมมากกว่า 10.80 ล้านคนปริมาณธุรกิจรวมมากกว่า 2 ล้าน ล้าน บาทต่อปีคิดเป็นร้อยละ 18.95 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ และเมือวันที่ 22 ตุลาคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักยุทธศาสตร์และแนวทางในการดำเนินงานตามข้อ เสนอวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ วัตถุประสงค์หลักของการประกาศวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์เพื่อให้ประชาชนในชาติ ได้รับรู้และเข้าใจการสหกรณ์ พร้อมทั้งนำไปใช้ในวิถีชีวิตและการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทยอย่างยั่งยืน


ซึ่งการจัดประชุมในวันนี้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบ เข้าใจ วาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ และร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมทางสหกรณ์ กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์อย่างเป็นรูปธรรมและเพื่อ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาท ภารกิจ ของกรมส่งเสริมสหกรณ์และขบวนการสหกรณ์ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมของประเทศผ่านระบบสหกรณ์ อีกทั้งให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ประกอบด้วย ผู้แทนสหกรณ์ทุกประเภทในจังหวัดบึงกาฬ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ และผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ รวมทั้งสิ้นจำนวน 75 คน 

ธกส.บึงกาฬ จัดงานมหกรรมสินเชื่อเกษตรกร

วันนี้ (8 กรกฎาคม 2556) เวลา 09.45 น. ณ บริเวณอาคารสำนักงาน ธกส.บึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมบัตรสินเชื่อเกษตรกรและงานมหกรรม สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรปี 2556 จัดโดย ธกส.บึงกาฬ ร่วมกับ สกต.บึงกาฬ ซึ่งมีเกษตรกรในจังหวัดบึงกาฬให้ความสนใจมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

การจัดงานในครั้งนี้นายธนู โตสัจจะ ผอ. ธกส.บึงกาฬ ได้กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่ต้องการให้เกษตรกรมีบัตรสินเชื่อเพื่อใช้ในการซื้อปัจจัยการผลิต เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน อันทำให้เกิดความสะดวกความปลอดภัยและเพิ่มวงเงินหมุนเวียนแก่ระบบเศรษฐกิจใน ภาคชนบทและเพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับเกษตรกรผู้ถือบัตรสินเชื่อเกษตรกร สร้างความพึงพอใจให้แก่เกษตรกรลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อ อำนวยความสะดวกรวดเร็วในการซื้อปัจจัยการผลิต ด้วยบัตรสินเชื่อเกษตรกรของธนาคาร ซึ่งธนาคารจะกำหนดวงเงินบัตรสินเชื่อให้แก่เกษตรกรลูกค้าและเกษตรกรลูกค้านำ บัตรสินเชื่อเกษตรกรดังกล่าวไปใช้ชำระสินค้าหรือบริการกับร้านค้าที่ขึ้น ทะเบียนไว้กับธนาคารได้ทุกวันตามที่ต้องการ ปัจจุบัน ธกส.บึงกาฬได้อนุมัติสินเชื่อเกษตรกรไปแล้ว จำนวน 38,145 ราย ในวงเงิน 805,778,000บาท ส่งมอบบัตรให้เกษตรกรไปแล้ว 32,317 ราย มียอดเงินใช้จ่ายผ่านบัตร จำนวน 68,519,397 บาท     


และอีกเหตุผลประการของจัดงานในวันนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกร บุคคลทั่วไป ผู้ประกอบการ ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเครื่องจักรกลสนับสนุนให้ลูก เกษตรกร บุคคลทั่วไป และผู้ประกอบการ สามารถจัดหาเครื่องจักรกล เครื่องยนต์ ที่ใช้ในการผลิตการแปรรูป และการขนส่ง เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เป็นการนำพาเกษตรกรผู้ต้องการจะซื้อสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตร มาพบผู้ผลิตสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรโดยตรง โดยมี สกต.บึงกาฬ เป็นสื่อกลางและมี ธกส.บึงกาฬเป็นผู้อำนวยการสินเชื่อให้แก่เกษตรกร

จังหวัดบึงกาฬจัดแข่งขันเปตองชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จย่า

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2556 เวลา 10.30 น. ณ แขวงการทางจังหวัดบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬนายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเปตองชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จังหวัดบึงกาฬประจำปี 2556 ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ


การจัดงานในครั้งนี้สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมพัฒนาชุมชน ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาเปตองเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช ชนนี ซึ่งกรมพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี สำหรับปี 2556 จังหวัดบึงกาฬได้จัดทำโครงการแข่งขันกีฬาเปตองชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระศรี นครินทราบรมราชชนนี โดยกำหนดการแข่งขันเพื่อคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาจำนวน 3 ประเภท ได้แก่ทีมชาย ทีมหญิง และทีมอาวุโสผสม จำนวนละ 1 ทีมเพื่อเข้าร่วมแข่งขันในระดับประเทศต่อไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน ผู้นำชุมชนกลุ่มองค์กร เครือข่าย ในชุมชนได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและเพื่อเสริมสร้างระบบความสัมพันธ์ของ ชุมชน โดยอาศัยกีฬาเปตองเชื่อมสัมพันธ์ความรัก ความร่วมมือ และความสามัคคีระหว่างผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กร เครือข่ายในชุมชน ซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันประกอบด้วย เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ผู้นำชุมชน อาสาพัฒนาชุมชน ผู้นำชุมชนรุ่นใหม่ กลุ่มองค์กร เครือข่ายในชุมชน จำนวน 90 คน การแข่งขันในวันนี้เพื่อคัดเลือกหาตัวแทนในแต่ละประเภทเพื่อเป็นตัวแทนเข้า แข่งขันในระดับประเทศต่อไป

บึงกาฬนำร่องหนึ่งในสามของประเทศทำแผนด้านสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (5 กรกฎาคม 2556) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมเดอะวันคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬนำโดย นายสา แสงสว่าง จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น(ร่าง)แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่ง แวดล้อมในระดับจังหวัดประจำปี 2556 – 2560 โดยมีนายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม


ด้วยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 9 (อุดรธานี) ได้คัดเลือกจังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดนำร่องเพื่อการขยายผลการจัดทำแผน ปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดประจำปี 2556 – 2560 ซึ่งบึงกาฬเป็น 1ใน 3 ของประเทศ ที่ได้รับการคัดเลือกให้จัดทำแผนดังกล่าวซึ่งการดำเนินงานได้แต่งตั้งคณะทำ งานจัดทำกรอบแผนปฏิบัติการและมีการดำเนินงานตามกรอบแผนที่กำหนดคือ 1.การประชุมเตรียมการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของ จังหวัดรวม 60แห่ง 2.ประชุมระดมความคิดเห็นความคิดเห็นการจัดทำแผนปฏิบัติการ นำเสนอสถานการณ์ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย รวบรวมข้อมูลสภาพปัญหาและการจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและระดมความคิดเห็น พร้อมจัดทำ roadmap ในการดำเนินงานร่วมกัน 3.ประชุมคณะทำงานจัดทำกรอบร่างแผนปฏิบัติการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 และการประชุมในวันนี้เพื่อให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและระดมความคิดเห็นพิจารณาร่างดังกล่าว ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมในระดับจังหวัดและในระดับท้องถิ่นและไห้องค์กรดังกล่าวได้รับทราบและ เกิดความรู้ความเข้าใจในแนวทางการจัดทำโครงการด้านการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ช่วยผลักดันสนับสนุนการจัดทำแผนงาน โครงการในพื้นที่ตนเอง นำไปสู่การจัดทำแผนปฏิบัติการและเสนอข้อรับการสนับสนุนงบประมาณทั้งในระดับ ท้องถิ่นและระดับจังหวัด กลุ่มจังหวัด ส่วนกลาง รวมถึงคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งจะได้รับการ สนับสนุนงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นคณะ กรรมการจัดทำแผนและคณะทำงานจัดทำกรอบแผนปฏิบัติการ นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล เจ้าหน้าที่อง๕กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งของจังหวัดบึงกาฬ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งในจังหวัดส่วนกลางและส่วน ภูมิภาค องค์กรเอกชน เครือข่ายภาคประชาชน รวมผู้เข้าร่วมประชุม 150 คน 

อดีต รมช.เกษตรฯเปิดหน่วยบริการทางสังคมช่วยเหลือเด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส

หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในจังหวัด มหาสารคาม ออกหน่วยบริการทางสังคม ช่วยเหลือกลุ่มเด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ที่อำเภอพยัคฆภูมิสัย โดยมีอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงานและเยี่ยมชมกิจกรรม
 
นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำหน่วยบริการทางสังคม ออกให้บริการประชาชนที่โรงเรียนบ้านเหล่า ตำบลเม็กดำ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ตามนโยบายของรัฐบาล (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) และยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้านสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิต บูรณาการเพื่อช่วยเหลือเด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ที่ประสบปัญหา ให้สามารถเข้าถึงการบริการอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกันทุกกลุ่มเป้าหมาย

นายวิศิษฐ์ เดชเสน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จาก การออกหน่วยบริการทางสังคมครั้งนี้ ได้บูรณาการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 41 จังหวัดมหาสารคาม บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมหาสารคาม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัยและองค์การบริหารส่วนตำบลเม็กดำ ตลอดจนภาคีเครือข่าย ร่วมกันออกให้บริการ

โดยมี การมอบทุนการศึกษา มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย มอบชุดนักเรียน มอบเงินทุนประกอบอาชีพ มอบเงินทุนกลุ่มสตรีสร้างชีวิตใหม่ เงินทุกฝึกอาชีพระยะสั้น กิจกรรม oscc 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กิจกรรมวาดภาพ ระบายสี การสาธิตอาชีพ ตลอดจนนิทรรศการความรู้ และการตอบปัญหาวัยรุ่น 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคามเตรียมความพร้อมรับนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามยุทธศาสตร์การพัฒนา จังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้เชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาลและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ

ในการประชุมคณะกรรมการเตรียมการตรวจราชการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ที่มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 14-15 กรกฎาคม 2556 ในครั้งนี้ มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานการประชุม ร่วมกับ ส่วนราชการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม และผู้แทนคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในการเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดมหาสารคาม ครั้งนี้ ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมทั้งในด้านสถานที่พัก สถานที่จัดการประชุม การรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก รวมทั้งข้อมูล การนำเสนอโครงการสำคัญที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรี โดยวันแรกกำหนดลงพื้นที่ ณ โครงการพัฒนาบึงกุย สะดืออีสาน อำเภอโกสุมพิสัย ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 ที่จังหวัดอุดรธานี ในวงเงิน 35 ล้านบาท โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณประตูระบายน้ำกุดเชียงสา ตำบลท่าตูม อำเภอเมืองมหาสารคาม รวมทั้งการติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเส้นทางคมนาคม สาย 208 บริเวณอำเภอเมือง-อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม-ท่าพระ จังหวัดขอนแก่น และเส้นทางอำเภอบรบือ-อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ยุทธศาสตร์การศึกษาของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้จังหวัดมหาสารคาม เป็นศูนย์กลางการศึกษาในระดับภูมิภาค (HUB) โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม เป็นเจ้าของเรื่อง พร้อมเปิดป้ายอาคารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ส่วนภารกิจวันที่สอง จะเป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด โดยมีคณะทำงานของจังหวัดมหาสารคามและบุรีรัมย์เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมตักสิลามหาสารคาม .




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

รายงานพิเศษ... ประเพณีบุญซำฮะจังหวัดมหาสารคาม

บุญซำฮะ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรก รกรุงรังออกจาก บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ร่างกาย จิตใจให้สะอาด สดใส โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ริเริ่มจัดงานประเพณีบุญซำฮะขึ้นเป็นครั้งแรก หวังให้ชาวมหาสารคามร่วมกันสร้างบุญ ชำระกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ ติดตามได้จากรายงาน......

ในฮีตสิบสองกล่าวไว้ว่า เมื่อถึงเดือนเจ็ดให้พากันบูชาเทวดาอารักษ์หลักเมือง อีกทั้งมเหศักดิ์ เพื่อขอความคุ้มครองจากเทวดาอารักษ์ ให้ปกปักรักษาบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเหตุเภทภัยต่าง ๆ มากล้ำกราย ครั้นถึงวันทำบุญ ชาวบ้านจะพากันมารวมกันที่ศาลากลางบ้าน โดยนำดอกไม้ ธูปเทียน ขันน้ำ ขันใส่กรวดทราย และฝ้ายผูกแขน มารวมที่ศาลากลางบ้าน ตอนเย็นนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ เช้าวันรุ่งขึ้น ชาวบ้านจะนำข้าวปลา อาหารมาทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหาร เมื่อพระสงฆ์ฉันเสร็จ จะให้พรและรดน้ำมนต์ให้กับชาวบ้านที่มาในงาน ทุกคนจะนำขันน้ำมนต์ ฝ้ายผูกแขน ขันกรวดทรายกลับไปที่บ้านเรือนของตนเอง เพื่อนำน้ำมนต์ไปประพรมให้แก่คนในครอบครัว บ้านเรือน สัตว์เลี้ยง ส่วนฝ้าย ก็นำไปผูกแขนลูกหลานทุกคน เชื่อว่าจะนำความสุขและสิริมงคลมาสู่สมาชิกทุกคน และกรวดทราย นั้น จะนำไปหว่านรอบ ๆ บริเวณบ้าน เรือกสวนไร่นา เพื่อขับไล่เสนียด จัญไร และสิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้หมดสิ้นไป

ด้วยสาระสำคัญดังกล่าว นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม จึงมีแนวคิดที่จะสืบสานประเพณีบุญซำฮะขึ้นเป็นปีแรกของจังหวัดมหาสารคาม ด้วยเพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก อีกทั้งเพื่อเป็นการร่วมกันสร้างบุญกุศล ชำระกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาดเรียบร้อย

คำว่า "ซำฮะ” เป็นภาษาไทยอีสานตรงกับภาษาไทยภาคกลางว่า "ชำระ” หมายถึง ทำให้สะอาด ปราศจากมลทิน ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม กำหนดจัดงานประเพณีบุญซำฮะ ในระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2556 ที่บริเวณหอพระประธานกันทรวิชัย โดยวันแรกก่อนเริ่มพิธีกรรม เวลา 09.00 น. จะเป็นพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง ช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 16.00 น. จะมีการตรวจดวงชะตา พิธีสะเดาะเคราะห์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ปฏิบัติธรรม โดยพุทธศาสนิกชนจะต้องเตรียมหินกรวด ทราย น้ำมนต์ ฝ้ายผูกแขน มาร่วมพิธีดังกล่าวด้วย

เช้าวันรุ่งขึ้น ตั้งแต่ เวลา 07.00 น. พุทธศาสนิกชนก็ได้จัดเตรียมอาหาร เพื่อมาร่วมทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ เมื่อฉันเสร็จพระสงฆ์อนุโมทนาและประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่ผู้ร่วมพิธี จากนั้นก็จะเป็นพิธีปัดรังควาน โดยพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสาราม เจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง เป็นองค์ประธานในการประกอบพิธี เสร็จแล้วชาวบ้านก็จะนำกรวด หิน ทราย น้ำมนต์ ที่เตรียมมาเข้าร่วมในพิธีปัดรังควาน ไปประพรมที่บ้านเรือน หรือสถานที่ทำงานของตนเองเพื่อความเป็นสิริมงคล

ช่วงสายวันเดียวกันก็จะเป็นพิธีแห่ กระทงสามเหลี่ยมใส่อาหารคาว หวาน และเครื่องบัตรพลีสังเวย ขบวนแห่ทั้งหมดก็จะแยกไปรอบเมืองทั้ง 4 ทิศ เพื่อประกอบพิธีปัดรังควาน พร้อมเป็นการร่วมสร้างบุญ ชำระกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์



ชนกพร โพธิสาร ส.ปชส.มหาสารคาม...รายงาน

คลังจังหวัดมุกดาหารเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานพัสดุ

สำนักงานคลังจังหวัดมุกดาหาร จัดอบรมการพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP)ระยะที่ 2และระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านพัสดุ ของส่วนราชการในจังหวัดมุกดาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการในทำงาน

ที่ห้องมรกต โรงแรมพลอยพาเลซ จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานคลังจังหวัดมุกดาหาร ได้จัดอบรม การพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP)ระยะที่ 2และระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS)แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านพัสดุของส่วนราชการในจังหวัด มุกดาหาร โดยมีนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการอบรม ซึ่งการจัดอบรมครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงานและการบริหารงานด้านการพัสดุและการ จัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการในจังหวัดมุกดาหาร เป็นไปอย่างถูกต้องเกิดความคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะสามารถรองรับมาตรการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินพร้อมทั้งการติดตาม ความคืบหน้าและเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายของหน่วยงานภาครัฐได้ อย่างครอบคลุม

นางศศกร ลออศรีสกุลไชย คลังจังหวัดมุกดาหารได้กล่าวว่าในการจัดอบรมนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะสามารถนำความรู้ไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้ตาม กระบวนการและขั้นตอน ตามที่กรมบัญชีกลาง ในฐานะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐได้มีการ พัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพต่อไป




พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

จังหวัดมุกดาหารเตรียมจัดพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ เห็นชอบให้วันให้วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และให้ทุกจังหวัดจัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะในวันดังกล่าว

เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ทรงต่อแผ่นดินไทย จังหวัดได้กำหนดจัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๘.๐๐ น. ณ หอประชุมโรงเรียนมุกดาหาร จึงขอเชิญส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปถวายราชสักการะตามกำหนดการดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน





สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์ประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตน มาตรา ๔๐

นางสาวสรินทร งามอารมณ์ ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ และประชาชนทั่วไปทุกกลุ่มสาขาอาชีพ มีหลักประกันความมั่นคงด้วยการสมัครเป็นผู้ประกันตนตาม มาตรา ๔๐ เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ปัจจุบันยังมีผู้ประกันตนส่วนหนึ่งเข้าใจการมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนคลาด เคลื่อนจากความเป็นจริง โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เงินค่านอนโรงพยาบาล ผู้ประกันตนจะมีสิทธิต้องมีองค์ประกอบ คือ จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วอย่างน้อย ๓ เดือน ภายในระยะเวลา ๔ เดือน ก่อนเดือนที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ประเภทคนไข้ใน(นอนรักษาตัวในโรง พยาบาล)จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลประเภทคนไข้ใน(นอนในโรงพยาบาล) ตั้งแต่ ๒ วันขึ้นไป จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ได้รับทราบสิทธิประโยชน์การเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด มุกดาหาร หรือสอบถามทางโทรศัพท์ที่หมายเลข ๐๔๒-๖๑๒๒๘๗ หรือ ๐๔๒-๖๓๐๐๗๒-๓





สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร

สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารเตือนประชาชนระมัดระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในฤดูฝน

นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้จะย่างเข้าสู่ฤดูฝนสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและมักมีฝนตกหนัก ติดต่อกันทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันได้ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หากประชาชนดูแลรักษาอนามัยไม่ถูกต้องโดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นต้นว่า โรคไข้เลือดออก โรคติดต่อของระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อทางผิวหนัง โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ อันตรายที่เกิดจากสัตว์ พืชที่มีพิษ ตลอดจนอันตรายจากการจมน้ำและไฟฟ้าดูด

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีอาการผิดปกติ มีไข้สูงติดต่อกันหลายวัน ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก ขอให้ดูแลอย่างใกล้ชิด



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารโดยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดประชุมร่างบทบันทึกความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ๓ จังหวัด/แขวง ๓ ประเทศ ครั้งที่ ๙

วันนี้ (๕ ก.ค.๕๖) ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหาร นายพิเชฐ เดชะคำภู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมเตรียมร่างบทบันทึกความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ๓ จังหวัด/แขวง ๓ ประเทศ ครั้งที่ ๙ จังหวัดมุกดาหาร ราชอาณาจักรไทย แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จังหวัดกวางตรี สาธารณรัฐสังคมเวียดนาม พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการประชุม เพื่อเตรียมการของฝ่ายเลขานุการ ๓ จังหวัด ๓ ประเทศ

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหารมีกำหนดการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมความร่วมมือด้านการท่อง เที่ยว ๓ จังหวัด/แขวง ๓ ประเทศ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๙ กำหนดจัดประชุม ๒ ครั้ง โดยกำหนดประชุมเพื่อเตรียมการของฝ่ายเลขานุการ ๓ จังหวัด ๓ ประเทศ ระหว่างวันที่ ๙ -๑๑ กรกฏาคม ๒๕๕๖ และจัดประชุมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ระหว่าง ๖-๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ โดยจะได้เชิญจังหวัดและแขวงต่าง ๆ ของ ๓ ประเทศ ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก เข้า ร่วมการประชุมและลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ครั้งที่ ๙ ที่จะมีขึ้น



 

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

แรงงานไทยในประเทศมาเลเซียถูกจับกุมด้วยข้อหายาเสพติด

ว่าที่ร้อยโท อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย แจ้งว่า มีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซียจำนวนหนึ่งถูกจับกุมด้วยข้อหา ยาเสพติด ส่งผลให้ถูกนายจ้างยกเลิกสัญญาจ้างงาน โดยแรงงานจะต้องจ่ายค่า Levy คืนให้กับนายจ้างและถูกหักเงินประกันที่วางไว้ทั้งหมดรวมทั้งต้องรับผิดชอบ ค่าโดยสารเครื่องบินในการเดินทางกลับประเทศไทยเอง ทั้งนี้ แรงงานที่ถูกจับกุมดังกล่าวมีการตั้งวงเล่นการพนัน ดื่มสุราและส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นในยามวิกาล ส่งผลให้มีผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจในบ้านพักของคนงานและจากการ ตรวจปัสสาวะขงคนงานพบว่ามีสารเสพติด ถึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและถูกดำเนินคดีด้วยข้อหายาเสพติดส่งผลให้นาย จ้างยกเลิกสัญญาจ้างงานเนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดตามเงื่อนไขการจ้างงาน ซึ่งนายจ้างได้ขึ้นบัญชีดำไว้เพื่อจะไม่รับเข้าทำงานกับบริษัทอีกต่อไป

จากกรณีดังกล่าว สำนักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร จึงขอเตือนประชาชนคนหางานที่จะเดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซียให้เคารพ กฎหมายและปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น เพราะถ้าหากกระทำผิดกฎหมาย นอกจากจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายแล้วจะต้องเสียทั้งเงิน เวลา และโอกาสการทำงานในอนาคต อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศ มาเลเซียอีกด้วย ทั้งนี้หากประสบปัญหาขณะทำงานในประเทศมาเลเซียให้แจ้งสำนักงานแรงงานใน ประเทศมาเลเซียเพื่อให้ความช่วยเหลือ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร เลขที่ 98 ม.12 ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร โทรศัพท์หมายเลข 045-722057 ในวันและเวลาราชการ




ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 8 ก.ค. 56

ยโสธรจัดงานวันนัดพบแรงงาน 16 ก.ค. นี้

สำนักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร ได้กำหนดจัดงานวันนัดพบแรงงานย่อย ในวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2556 เวลา 09.00-16.30 น. ณ บริเวณศูนย์อาหารห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ (สาขายโสธร) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน คนหางานทั่วไปได้สมัครงานกับนายจ้าง/สถานประกอบการโดยตรงเพื่อลดปัญหาการ ว่างงาน ลดค่าใช้จ่ายในการสมัครงานและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้สนใจ การจัดงาน ดังกล่าวมีกิจกรรม เช่น การรับสมัครงาน ซึ่งมีตำแหน่งงานว่างมากกว่า 1,000 อัตรา, ให้คำแนะนำผู้ประกันตนกรณีว่างงาน, การรับลงทะเบียนผู้ประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศ, รับเรื่องราวร้องทุกข์ , การแนะแนวอาชีพ และการรับลงทะเบียน ผู้พิการ นักเรียน นักศึกษา ที่ประสงค์ทำงานช่วงปิดภาคเรียน

ผู้สนใจจะสมัครงานในครั้งนี้ ให้เตรียมหลักฐานการสมัครงานไปด้วย อาทิ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาหลักหลักฐานการศึกษา, รูปถ่าย, สำเนาหลักฐานทางทหาร เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 045-580216-7 ในวันและเวลาราชการ




ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 8 ก.ค.56

สระแก้วเปิดศูนย์ข้อมูลข่าวสาร และศูนย์ประสานงานกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอวังน้ำเย็น

วันที่ ก.ค. 56  นางสาวตรีนุช  เทียนทอง  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎณจังหวัดสระแก้ว เขต 2 เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ข้อมูลข่าวสารของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลวังน้ำเย็น ประกอบไปด้วยนายอำเภอวังน้ำเย็น  นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น หัวหน้าส่วนราชการ  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้ โดยนายมลฑล  น้อยจันทร์  กำนันตำบลวังน้ำเย็น กล่าวรายงาน 


นายมลฑล  น้อยจันทร์  กำนันตำบลวังน้ำเย็น  กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลวังน้ำเย็น  ก็เพื่อเป็นศูนย์เชื่อมโยงประสานงานกับองค์กรต่างๆในตำบลวังน้ำเย็นและตำบลที่ใกล้เคียงพร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานของภาครัฐ  ด้วยระบบอินเตอร์เน็ตและวิทยุสื่อสาร เป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทระดับตำบล  และเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์ของประชาชนทั่วไป ยังสามารถให้ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านใช้เป็นสถานที่ในการจัดทำเอกสารของหมู่บ้านตำบลของตัวเองอีกด้วย

สาธารณสุขสระแก้ว รณรงค์กำจัดยุงลายป้องกันไข้เลือดออก ในวันที่ 10 – 17 กรกฎาคม 2556 เพื่อลดจำนวนยุง และลดจำนวนผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

นายแพทย์สมยศ ศรีจารนัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข จัดรณรงค์กำจัดยุงลายป้องกันไข้เลือดออกครั้งใหญ่พร้อมกัน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10 – 17 กรกฎาคม 2556 นี้ โดยจะใช้พลังอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม. กว่า 1 ล้านคน เป็นแกนนำในการกำจัดยุงและลูกน้ำในบ้านทุกหลังคาเรือน โรงเรียนศูนย์เด็กเล็ก วัด และศาสนสถาน ทุกพื้นที่ทั้งในเขตเมืองและชนบท และให้ความรู้โรคไข้เลือดออก ทั้งอาการป่วย และการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เนื่องจากผู้ป่วยไข้เลือดออกที่มีอาการรุนแรง จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมีเพียง 1 ใน 3 อีก 2 ใน 3 อาการจะไม่รุนแรง และจะหายได้เอง สามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้เช่ นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้เพิ่มความเข้มงวดติดตาม

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้วกล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สระแก้ว ได้เพิ่มความเข้มงวดติดตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วย 3 มาตรการหลัก ได้แก่

1. การขจัดยุงตัวเต็มวัย และลูกน้ำ เพื่อลดจำนวนยุงลายที่เป็นตัวการแพร่เชื้อไข้เลือดออก เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

2. ให้ส่งหน่วยสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ ที่พบผู้ป่วยเพื่อควบคุมไม่ให้โรคแพร่ระบาด ไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มในพื้นที่เดิม

3. ให้โรงพยาบาลทุกแห่งจัดจุดตรวจคัดกรองผู้ป่วยไข้เลือดออกตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข แจกยาทากันยุง และให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการ ดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกอย่างถูกต้อง เพื่อลดการเสียชีวิต ซึ่งโรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัส ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ จะรักษาเพื่อประคับประคองอาการให้ร่างกายฟื้นตัว พ้นระยะอันตรายในช่วงสัปดาห์แรก  ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีไข้สูงต่อเนื่อง 2 วัน กินยา หรือเช็ดตัวแล้วไข้ไม่ลด ให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัย หากมีอาการรุนแรงแพทย์จะรับไว้รักษาในโรงพยาบาล หากไม่รุนแรงแพทย์อาจจะไม่ได้รับตัวนอนรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ประมาณร้อยละ 70 จะหายได้เอง โดยแพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน และการสังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบกลับมาพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผู้ป่วยซึมลง อ่อนเพลียมาก ปวดท้อง กินอาหาร และดื่มน้ำได้น้อย อาเจียน หรือพบว่ามีเลือดออก เช่น เลือดกำเดา เลือดออกตามไรฟัน ประจำเดือนมากผิดปกติ หรือถ่ายเป็นสีดำ

ซึ่งมักเกิดในวันที่ 3 หรือวันที่ 4 หากมีอาการใดอาการหนึ่งดังที่กล่าวมา ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ที่ผู้ป่วยจะเริ่มเข้าสู่ภาวะช็อค เนื่องจากมีเลือดออกในอวัยวะภายใน ซึ่งมักจะเกิดในระยะหลังไข้ลง หากได้รับการรักษาช้าอาจเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้หากหลังไข้ลดแล้ว ผู้ป่วยมีอาการยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุย กินอาหารได้มากขึ้น แสดงว่าอาการดีขึ้นเริ่มฟื้นตัว  และจะหายเป็นปกติ
สำหรับการดูแลผู้ป่วยในระยะ 1-2 วันแรกที่มีไข้สูง ขอให้เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา กินยาพารา เซตามอล ยาที่ห้ามกินเด็ดขาด คือ แอสไพริน  และ ไอโบรบรูเฟน เพราะจะกัดกระเพาะอาหาร ทำให้เลือดออกง่ายขึ้น โดยให้ผู้ป่วยกินอาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก และห้ามกินน้ำหรือผลไม้ที่มีสีแดง เช่น น้ำแดง แตงโม เนื่องจากจะทำให้แยกอาการเลือดออกในกระเพาะ และลำไส้ได้ยากขึ้น

จังหวัดอำนาจเจริญจัดอบรมขยายผลผู้ปฏิบัติงาน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม

วันนี้ เวลา 09.30 น. นายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานโครงการอบรมขยายผลผู้ปฏิบัติงาน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ซึ่งจัดขึ้นที่ ห้องหอประชุม พญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ

ทั้งนี้จากความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ มีโอกาสได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาสำคัญใน 4 เรื่องได้แก่ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม การค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก การกระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนับวันจะทวีความรุนแรง และมีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งได้ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และการพัฒนาของประเทศโดยรวม นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการป้องกัน และแก้ปัญหาสังคม ตลอดจนความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนารูปแบบการให้บริการระบบ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอำนาเจริญ จึงจัดอบรมขยายผลผู้ปฎิบัติงาน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ขึ้น โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจาก หน่วยงานในสังกัด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด สำนักงานยุติธรรมจังหวัด สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่ทำการปกครองอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สถานีตำรวจภูธร จำนวน 250 คน

โดยเนื้อหาในการอบรมมุ่งเน้นเรื่อง การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคม อย่างเต็มองค์รวมและดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน ให้ประชาชนที่ประสบปัญหา ได้รับความคุ้มครองอย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยในการขอรับความช่วยเหลือ ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เชื่อมโยงกับการดำเนินงาน ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันวางระบบ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม เพื่อให้การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมโดยพัฒนาช่องทางการับเรื่องราวและส่งต่อ เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้โดยสะดวก 3 ช่องทาง คือ แจ้งด้วยตนเองโดยตรงที่ส่วนราชการ และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศซึ่งมีมากกว่า 20,000 หน่วย แจ้งแบบฮอตไลน์ 1300 ศูนย์ประชาบดี แจ้งทางเว็บไซน์ www.osccthailand.go.th  และนอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรในการรับเรื่อง การให้บริการ และกาติดตามผล เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด



สุรพล  บุตรวงศ์/ข่าว
บก.ข่าว

จังหวัดอำนาจเจริญเตือนประชาชนป้องกันและควบคุมการระบาดโรคไข้เลือดออก

นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในภาพรวมของประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ พบผู้ป่วยแล้วจำนวน ๔๓,๖๐๙ ราย อัตราป่วย ๖๘.๐๖ ต่อแสนประชากร เสียชีวิต ๕๐ ราย  สำหรับจังหวัดอำนาจเจริญ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ พบผู้ป่วยจำนวน ๒๓๖ ราย อัตราป่วย ๖๓.๔๐ ต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย โดยพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก กระจายในทุกพื้นที่อำเภอและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ ๕ ป ๑ ข  คือ ๑. ปิดภาชนะที่ใช้เก็บน้ำให้มิดชิดป้องกันยุงลายไปวางไข่ ๒. เปลี่ยนน้ำในแจกัน ถังเก็บน้ำ ทุก ๗ วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำที่จะกลายเป็นยุง  ๓. ปล่อยปลากินลูกน้ำในอ่าง ภาชนะเก็บน้ำ เช่นปลาหางนกยูง  ๔. ปรับปรุงสภาพแวดล้อม กำจัดขยะที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย  ๕. ปฏิบัติเป็นประจำจนเป็นนิสัยและลงมือทำทันที และ ๑ ข คือ ขัดล้างไข่ยุงลายที่อาจติดอยู่กับภาชนะต่างๆ ที่ใส่น้ำ เช่น อ่างปลา แจกันดอกไม้ อ่างน้ำ และอย่าให้ยุงลายกัด นอนในมุ้ง หลีกเลี่ยงมุมมืด อับลม  ในช่วงนี้หากพบว่าคนในครอบครัวมีไข้สูง มากกว่า ๑ วัน ให้รีบนำไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาโดยเร็ว เพื่อให้การรักษาได้ทันท่วงที




สุรพล บุตรวงศ์ /ข่าว

จังหวัดอำนาจเจริญจัดอบรมผู้นำกลุ่มพลังมวลชนและเยาวชนปลูกจิตสำนึกสร้างความสามัคคีและปรองดอง

เวลา ๐๙.๓๐ น. วันนี้ (๘ ก.ค. ๕๖)  ที่ห้องประชุมโรงแรมฝ้ายขิด อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ  นายวิฑูรย์ ศิริบูลย์ภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ประจำปี ๒๕๕๖ จัดโดยสำนักงานจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าอบรม ประกอบด้วย ผู้นำหมู่บ้าน ชุมชน ผู้นำกลุ่มต่างๆ และเยาวชนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ  จำนวน ๑๐๐ คน
นายวีรศักดิ์ สะท้านพล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอำนาจเจริญ รายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความ ปรองดอง ขึ้นเป็นที่ ๒ เพื่อขับเคลื่อนแผนงานส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุขและการธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ โดยการอบรมความรู้หลักการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย เน้นให้ตระหนักประโยชน์สุขส่วนรวมมากกว่าส่วนตน โดยน้อมนำหลักการทรงงาน และแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ แก่พื้นที่ของตนเอง รวมทั้งการธำรงปกป้องรักษาสถาบันภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันนำไปสู่ความรักสามัคคีปรองดองของคนในพื้นที่
ทางด้านนายวิฑูรย์ ศิริบูลย์ภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการแสดงออกทางการเมืองมากขึ้น แต่อยากให้อยู่ในกรอบของการถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ประนีประนอมกัน โดยถือเสียงส่วนใหญ่และเคารพเสียงส่วนน้อย คือทุกคนมีความคิดแตกต่างกันได้ทางการเมืองแต่อย่าแตกแยกความสามัคคีในควาเป็นคนไทยด้วยกัน ดังนั้น การส่งเสริมให้เยาวชนและผู้นำกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ได้มีหลักคิดของการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย และสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็จะเป็นการสร้างความรัก สมัครสมาน สามัคคี หรือความปรองดอง สมานฉันท์เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างยั่งยืน


สุรพล บุตรวงศ์ /ข่าว

โครงการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและระบบดูแลเอดส์

กระทรวงสาธารณสุข และโครงการเอดส์โลก พัฒนาศักยภาพบุคลากร และเสริมระบบบริการให้เข้มแข็ง ลดช่องว่างในการทำงานด้านการป้องกันเอชไอวี และการดูแลรักษาแก่ประชาชน กลุ่มชายรักชายและโสเภณีแฝง

ที่โรงแรมเซ็นทาราคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายแพทย์สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนาโครงการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและระบบการ ดูแลสุขภาพ เพื่อการเข้าถึงการป้องกันและดูแลรักษาเอชไอวีในกลุ่มประชากรที่ได้รับผล กระทบสูงชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย และพนักงานบริการหญิงอิสระ ต่อเนื่องปีที่ 2 ซึ่งสำนักงานโรคเอดส์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดขึ้นเพื่อติดตามความกว้าหน้าในการดำเนินการป้องกันและดูแลรักษาเอชไอวี ในพื้นที่เป้าหมายจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น ภูเก็ต ชลบุรี และกรุงเทพ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยผู้รับผิดชอบด้านงานป้องกันและดูแลโรค เอดส์ในพื้นที่ 5 จังหวัดเป้าหมายในสังกัด โรงพยาบาลจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการ เพิ่มการเข้าถึงบริการตรวจเอชไอวีในกลุ่มประชาชนที่มีแนวโน้มการติดเชื้อสูง โดยเน้นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และพนักงานบริการหญิงอิสระ และเพิ่มการเข้าถึงบริการด้านการดูแลรักษาสำหรับชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และพนักงานหญิงอิสระที่มีเชื้อเอชไอวี พัฒนาระบบการใช้ข้อมูลยุทธศาสตร์ให้เข้มแข็ง ด้วยการติดตามการทำงาน การเฝ้าระวังโรค และการประเมินผลโครงการ ทั้งนี้ภายหลังการประชุมทีมผู้ติดตามความกว้าหน้าโครงการจะลงพื้นที่เพื่อ เก็บรวบรวมข้อมูลจริง ในชุมชน เพื่อนำไปวิเคราะห์ วางแผน ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ 

โครงการพัฒนาผู้ประกอบการตามแนวพระราชดำริ

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสมาคมการพิมพ์ไทย จัดสัมมนาผู้ประกบการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยกระดับมาตรฐานสินค้า รองรับ AEC

ที่ห้องทุ่งศรีเมือง 1 โรงแรมเซ็นทาราคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาโครงการพัฒนาผู้ประกอบการตามแนวพระราชดำริ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจัดสรรงบประมาณผ่านสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม หรือ สสว.และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดขึ้นเพื่อสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และ บรรจุภัณฑ์ ยกระดับมาตรฐานสินค้าของผู้ประกอบการไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ เพื่อรองรับการเปิดเสรีของ Asian Economy Community หรือ AEC ในปี พ.ศ.2558 และปลุกตจิตสำนึกให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ โดยได้จัดให้มีการอบรมสัมมนาให้ความรู้จากบรรดาวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในแขนง ต่างๆและการจัดนิทรรศการ การออกแบบและบรรจุภัณฑ์

พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้สมาคมการพิมพ์ไทย เป็นผู้ดำเนินการจัดอบรม ซึ่งมีการจัดอบรมไปแล้วในหลายจังหวัดอาทิ พะเยา แพร่ สุราษฎร์ธานี สำหรับการจัดอบรมที่จังหวัดอุดรธานี จัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2556 โดยในวันแรกเป็นการจัดอบรมให้กับผู้ประกอบการทั่วไปที่มีความสนใจที่จะพัฒนา ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของตนเอง และวันที่ 2 เป็นการจัดอบรมหลักสูตรทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยทีมคณาจารย์ภาควิชามีเดีย อาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และหลักสูตรการสร้างอัตลักษณ์มีผลต่อภาพลักษณ์สินค้าอย่างไร การตลาดมีความสำคัญอย่างไรต่อผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจ เปิดมุมมองใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ ให้สามารถนำไปพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ของตนเอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ผู้ประกอบการ สินค้าชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

หน่วยงานภาคการศึกษาของจังหวัดสุรินทร์ จับมือภาคเอกชน ยกระดับมาตรฐานด้านภาษารองรับประชาคมอาเซียน

สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานเขต 3 จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และ ภาคเอกชน จัดโปรแกรมการฝึกอบรมการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษแก่บุคคลากรและเยาวชน 6 อำเภอตามแนวชายแดน รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ที่โรงแรมทองเพกา อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 3 ร่วมกับ ภาคเอกชน อย่าง นายพัฒนฌาน วิเชียรรัตน์ วิทยากรที่มีประสบการณ์ในการใช้ภาษาอังกฤษ ได้มีการจัดอบรมพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษแก่เยาวชนและบุคคลากรทางการศึกษา เพื่อการพัฒนารองรับประชาคมอาเซียน จำนวน 234 คน ในเขตสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปราสาท สังขะ กาบเชิง บัวเชด พนมดงรัก และศรีณรงค์ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษามากที่สุดและเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้เพิ่มทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษในการดำรงชีวิตและสามารถสร้างศักยภาพการเรียนรู้รองรับประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้  หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพความสามารถในการสื่อสารด้านภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติงานสำหรับบุคลากร และเสริมสร้างความพร้อมในการพัฒนาบุคลากรสายสายสนับสนุนสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งในหลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ และเข้าใจในบทสนทนาภาษาอังกฤษทั่วไปที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันโดยเน้นที่กิจกรรมการฟังและการพูด อย่างไรก็ตาม ยังคงมีกิจกรรมการอ่านและการเขียนในห้องเรียนควบคู่ไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเรียนภาษาอังกฤษ

หลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษโครงการนี้จะว่าด้วยบทสนทนาทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น หัวข้อในการสนทนาเกี่ยวกับการทักทาย การแนะนำตัวเอง การสั่งอาหาร การแนะนำอาหารเรื่องสุขภาพ การใช้บริการที่โรงแรม การท่องเที่ยว การจองสินค้า การให้บริการ บทสนทนาในองค์กร การสนทนาทางโทรศัพท์ การโต้ตอบทาง E-mail คำถามที่จะต้องเจอที่สนามบิน ด่าน Check in หรือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง สนทนาเกี่ยวกับการจัดประชุมสัมมนารวมทั้งเรียนรู้ถึงการสร้าง และการพูดนำเสนอหน้าห้องด้วย PowerPoint

ซึ่งบทสนทนาเหล่านี้เป็นบทสนทนาทั่วไปที่จะต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ผู้เรียนควรเข้าใจและเรียนรู้ถึงประโยคสนทนาพื้นฐาน เพื่อเสริมทักษะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ถึงการใช้รูปประโยค ไวยกรณ์ และคำศัพท์ใหม่ๆ

การฝึกให้ครูได้เรียนรู้ภาษาที่ใช้เมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะไม่เน้นการเขียน แต่จะเน้นให้ครูสามารถใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันได้ การฝึกภาษาอังกฤษของครูจะเป็นการฝึกการพัฒนาอย่างเข้มข้น ซึ่งครูที่ผ่านการอบรมทุกคนจะต้องไม่ใช้ภาษาอังกฤษแค่งูๆปลาๆเท่านั้น แต่ทุกคนจะต้องออกเสียงและสำเนียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง เพราะครูจะต้องนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่นักเรียน หากใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องก็จะทำให้เรียนรู้แบบผิดๆ ตั้งแต่เด็ก

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นความคิดที่จะได้มีการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความพร้อมและความมั่นใจ ในการที่จะส่งผ่านความคิดที่จะบูรณาการองค์ความรู้ในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ก็จะช่วยพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ในการพูดติดต่อสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้านและหากมีความจำเป็นต้องออกจากระบบการศึกษาก็จะสามารถพัฒนาอาชีพให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยทำงานที่มีคุณภาพรองรับประชาคมอาเซียนในปี 2558 นี้

อบจ.สุรินทร์ประกาศใช้แผนพัฒนา 3 ปี พ.ศ. 2557-2559

นายกิตติภัทร์  รุ่งธนเกียรติ  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หรือ อบจ.สุรินทร์  เปิดเผยว่า  คณะกรรมการพัฒนา อบจ.สุรินทร์  มีมติเห็นชอบในการนำร่างแผนพัฒนาสามปี พ.ศ. 2557-2559 ของ อบจ.สุรินทร์  เสนอต่อนายก อบจ.สุรินทร์  เพื่อพิจารณาอนุมัติและประกาศใช้   โดยได้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 ข้อ 17

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารงานของ  อบจ.สุรินทร์  เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน  โดยการใช้แผนพัฒนาสามปีเป็นกรอบในการจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปีและงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม   อาศัยอำนาจตามความในข้อ 17 (4) แห่งระเบียบดังกล่าว นายก อบจ.สุรินทร์  จึงประกาศใช้เป็นแผนพัฒนาสามปี พ.ศ. 2557-2559 ของ อบจ.สุรินทร์  ต่อไป

สนใจตรวจสอบรายละเอียดทางเว็บไซด์ของ อบจ. สุรินทร์ ที่ www.surinpao.org ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

อบจ.สุรินทร์ประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2557-2561

นายกิตติภัทร์  รุ่งธนเกียรติ  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หรือ อบจ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า  คณะกรรมการพัฒนา อบจ.สุรินทร์  มีมติเห็นชอบในการนำร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2557-2561  ของอบจ.สุรินทร์  เสนอต่อนายก อบจ.สุรินทร์  เพื่อพิจารณาอนุมัติและประกาศใช้   โดยได้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 ข้อ 16

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารงานของ อบจ.สุรินทร์  เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน  โดยการใช้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเป็นกรอบในการจัดทำแผนพัฒนาสามปี  และการจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปีและงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม  อาศัยอำนาจตามความในข้อ 16 (4) แห่งระเบียบดังกล่าว  นายก อบจ.สุรินทร์  จึงประกาศใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา พ.ศ. 2557-2561 ของ อบจ.สุรินทร์  ต่อไป

สนใจตรวจสอบรายละเอียดทางเว็บไซด์ของ อบจ. สุรินทร์ ที่ www.surinpao.org ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

สำนักงาน ป.ป.ช.สุรินทร์ เชิญประชาชนตรวจสอบประวัติผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็น กรรมการ ป.ป.จ.สุรินทร์

นายมงคล  สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน  ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า  สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการรับสมัครกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน  -2 กรกฎาคม 2556 โดยมีผู้สมัครกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์ จำนวนทั้งสิ้น 55 คน ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบผู้สมัคร สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุรินทร์ จึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและพฤติการณ์ของผู้สมัครได้ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุรินทร์  อาคารนครชัยบุรินทร์ ชั้น  2  ถนนคชสาร  ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์  0 4451  4891 โทรสาร  0 4451 4890  ภายในวันที่ 17 กรกฎาคม  2556




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์ขอเชิญร่วมโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2556

นางสาวกัญญรัตน์  เกียรติสุภา  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า  ได้รับแจ้งจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า  80 พรรษา มหาราชินี  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  ที่ทรงให้ความสำคัญกับกรมป่าไม้มาโดยตลอด  โดยมีเป้าหมายปลูกต้นไม้ทั่วประเทศเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้า ฯ ถวาย จำนวน 800 ล้านกล้า ตั้งแต่ปี 2555-2560

กรมป่าไม้และจังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน  นักคึกษา พ่อค้า ประชาชนทุกคน  ร่วมโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี โดยพร้อมเพรียงกัน




สมทรง เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ /ข่าว

จ. สุรินทร์เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” วันที่ 24-30 กรกฎาคม 2556 มีนักกีฬา 3,500 จาก 20 จังหวัดเข้าร่วมการแข่งขัน

นายอรัญ  สิงห์คำ  ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพท่าตูม  ในฐานะประธานกรรมการอาชีวศึกษาจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า อาชีวศึกษาจังหวัดสุรินทร์  ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ครั้งที่ 8 “อาชีวะเมืองช้างเกมส์” ระหว่างวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2556  ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ และสนามของส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์  โดยกำหนดจัดการแข่งขันรวม 9 ชนิดกีฬา ได้แก่  ฟุตบอลชาย   ฟุตซอล  บาสเกตบอลชาย-หญิง  วอลเลย์บอลชาย-หญิง  เซปักตะกร้อชาย-หญิง  มวยไทยสมัครเล่น   มวยสากลสมัครเล่น  กรีฑา และหมากล้อม  โดยมีนักกีฬา ครูผู้ฝึกสอน  และผู้ควบคุมทีม จำนวน  3,500  คน จากสถานศึกษาจำนวน 116  แห่ง จาก 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมการแข้งขัน




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

สถานศึกษาจังหวัดสุรินทร์ 5 แห่ง ชนะเลิศการประกวด สถานศึกษาร่วมใจสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ประจำปี 2556 ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายจรรโลง หลักคำ ขนส่งจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้จัดทำบันทึกความตกลงว่าด้วยการจัดประกวด สถานศึกษาร่วมใจสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน  ประจำปี 2556 เพื่อคัดเลือกสถานศึกษาที่มีผลงานเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาทั่วประเทศ  และคณะกรรมการคัดเลือกสถานศึกษาในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ดำเนินการคัดเลือกสถานศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ปรากฏว่าจังหวัดสุรินทร์มีสถานศึกษาที่ชนะเลิศ รวม 5 แห่ง ดังนี้

        โรงเรียนนิคมสร้างตนเองปราสาท
        โรงเรียนสุรพินท์พิทยา
        โรงเรียนบ้านท่าศิลา
        โรงเรียนบัวเชดวิทยา
        โรงเรียนบ้านรุน




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

เกษตรจังหวัดสุรินทร์แนะวิธีป้องกันการระบาดของหนอนกระทู้ เน้นเกษตรกรต้องศึกษาวิธีกำจัดแมลงให้ถูกวิธี

นายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จากการที่มีการระบาดของหนอนกระทู้กล้าในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ คาดว่าจะมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรขาดความเข้าใจในการใช้สารเคมีจัดการศัตรูพืชอย่างถูกต้อง และไม่มีประสิทธิภาพตามหลักวิชาการ ทำให้เกิดศัตรูใหม่และมีพิษภัยต่อสิ่งมีชีวิต เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ พร้อมได้ติดตามสถานการณ์ศัตรูพืชอย่างถูกต้องเป็นระบบ ตั้งแต่การออกสำรวจที่นา ติดตามและประเมินสถานการณ์ การเลือกวิธีวิธีควบคุมโดยผสมผสาน การเฝ้าระวังและการวางแผนจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของหนอนกระทู้กล้าระบาดในนาข้าวที่หว่าน และป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดหนอนกระทู้คอรวงในระยะข้าวออกรวง

ซึ่งในขณะนี้ได้จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ตัดวงจรชีวิตของผีเสื้อหนอนกระทู้กล้าและกระทู้คอรวง ให้กับสมาชิกศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน จำนวน 51 ศูนย์ มีอาสาสมัครเกษตรกรในพื้นที่ 17 อำเภอ กว่า 5,000 คน จะลงกำจัดหนอนกระทู้กล้าที่ระบาดในพื้นที่ 9 อำเภอ 20,764 ไร่ ซึ่งจะได้ใช้เครื่องพ่นแรงดันสูง จำนวน 60 เครื่อง และอุปกรณ์ชุดไฟแบคไลท์ ใช้งบประมาณกว่า 4 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้แนะนำเกษตรกรไม่ต้องตื่นตระหนก และให้ออกสำรวจพื้นที่นาตนเอง หากพบเห็นว่ามีหนอนกระทู้กล้าในนาข้าว ให้รีบแจ้ง เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลหรือเกษตรอำเภอในทุกพื้นที่รับผิดชอบโดยด่วน เพื่อจะได้ทำการช่วยเหลือทันที และขอให้เกษตรกรทำตามคำแนะนำโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันการระบาดหนองกระทู้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป




กัญญรัตน์ เกียรติสุภา  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนข้าราชการแต่งกายชุดผ้าไทยเป็นแบบอย่างเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ดีงาม

นายณัฐพงษ์  สงวนจิตร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดการแต่งกายมาปฏิบัติราชการประจำสัปดาห์ของข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ดีงาม และความเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการ นั้น จังหวัดสุรินทร์ พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมเอกลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบุคลากร ในการสวมเสื้อปฏิบัติราชการประจำสัปดาห์ จึงเห็นควรกำหนดการแต่งกายมาปฏิบัติราชการ ดังนี้

1. วันจันทร์ เครื่องแบบปฏิบัติราชการ หรือเครื่องแบบตามสังกัด

2. วันอังคาร เสื้อผ้าไหม ผ้าไทย หรือเสื้อจังหวัดสุรินทร์

3. วันพุธ เสื้อสโมสรฟุตบอลสุรินทร์ ซิตี้ เสื้อกีฬา หรือเสื้อจังหวัดสุรินทร์

4. วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เสื้อพื้นเมืองชุดสุภาพ หรือเสื้อจังหวัดสุรินทร์

5. ผู้เข้าร่วมประชุมประจำเดือนของหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ให้แต่งเครื่องแบบปฏิบัติราชการ สีกากีคอพับ หรือเครื่องแบบตามสังกัด

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สำหรับอำเภอทุกอำเภอขอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่






กัญญรัตน์   เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญแสดงความคิดเห็นกรณีการพัฒนาที่ราชพัสดุ แปลงที่อำเภอสังขะ

นายวิเชียร  จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ด้วยกรมธนารักษ์ โดยจังหวัดสุรินทร์ มีโครงการจะพัฒนาที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สร.991 (บางส่วน) ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา โดยเทศบาลตำบลสังขะ ได้ขอพัฒนาปลูกสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง และเพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นด้วยตนเองผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ระบบสารสนเทศหรือ ทางไปรษณีย์ ภายใน 7 วัน นับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดระยะเวลาประกาศ ณ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุรินทร์ ถนนเทศบาล 1 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 32000 หรือ โทรศัพท์ 044-511448 โทรสาร 044-518362 และที่อีเมลล์ rtsur@treasury.go.th

ทั้งนี้ จึงประกาศให้ประชาชนหรือชุมชนท้องถิ่นโดยทั่วไปรับทราบ และดำเนินการแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยมีกำหนด 15 วัน นับแต่วันประกาศ




อนุชา หาญนึก ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ รณรงค์เด็กสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นสาเหตุเสียชีวิตมากที่สุด

นายวิเชียร  จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า การเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จังหวัดสุรินทร์จึงกำหนดแผนเร่งด่วน ในการดำเนินโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ และขอความร่วมมือผู้ปกครองดูแลบุตรหลานให้สวมหมวกนิรภัย ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย และขับขี่ด้วยความเร็วตามที่กฏหมายกำหนด โดยเฉพาะเยาวชนในสถานศึกษาขอให้กำชับเป็นพิเศษด้วย เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เสียชีวิตมากที่สุด

นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกท่าน โดยเฉพาะวิทยุหลักและวิทยุชมชนช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้ทุกหน่วยงานประกาศเป็นเขตสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนต่อไป




กัญญรัตน์ เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ออกหน่วยสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม พร้อมมอบบ้านธารน้ำใจ

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับคณะส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ออกหน่วยให้บริการประชาชนตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม เพื่อนำการบริการของส่วนราชการต่างๆ ออกไปให้บริการประชาชนแบบเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกล เป็นการพบปะเยี่ยมเยือนรับทราบปัญหาต่างๆ จากประชาชนในท้องถิ่น รวมทั้งดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำหนดออกให้บริการในวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ที่โรงเรียนบ้านชาต หมู่ 10 ตำบลระเวียง อำเภอโนนนารายณ์ สำหรับการให้บริการดังกล่าว จะมีการส่วนราชการต่างๆ ทั้งระดับอำเภอและจังหวัดร่วมให้บริการ โดยจะมีการมอบรถจักรยานให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน มอบเครื่องอุปโภค – บริโภคและถุงยังชีพให้คนยากจน มอบทุนการศึกษา มอบพันธุ์ปลาให้กับผู้นำชุมชน รวมทั้งมอบบ้านธารน้ำใจ จากเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และบ้านท้องถิ่นไทย เทิดไท้องค์ราชันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้กับราษฎรยากไร้ในพื้นที่ด้วย




กัญญรัตน์ เกียรติสุภา  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ จัดทำป้ายถวายพระพรและขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมประดับธงตราสัญลักษณ์งานฉลอง 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติแต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองพระชันษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 100 ปี 3 ตุลาคม 2556 โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งแนวทางในการจัดงานนั้น จะจัดงานตลอดทั้งปี 2556 นั้น จังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ จัดทำป้ายถวายพระพร โดยมีข้อความว่า “ ทีฆายุโก โหตุ สังฆราชา เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชันษา 100 ปี 3 ตุลาคม 2556 ขอประทานถวายพระพรให้ทรงเจริญพระชันษายิ่งยืนนาน เกล้ากระหม่อม ..........” ติดไว้ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์

นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ จึงแจ้งขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน พร้อมใจกันประดับธงตราสัญลักษณ์งานฉลอง 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก 3 ตุลาคม 2556 ตามอาคารของหน่วยงานและบ้านเรือนในบริเวณที่เหมาะสม เพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 โดยสามารถดาวน์โหลดภาพตราสัญลักษณ์ฯ ได้ที่เวปไซต์ www.opm.go.th




กัญญรัตน์ เกียรติสุภา  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว