วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ เปิดฝึกอบรมวิชาชีพให้กับผู้ว่างงาน

นางชไมพร ตุ้มพงษ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ กล่าวว่า วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ จัดโครงการฝึกอบรมวิชาชีพในสถานศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพประชาชนให้สอดคล้องกับ นโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมฝึกอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชนที่ไม่มี งานทำ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้ที่กำลังอยู่ในข่ายเลิกจ้าง ผู้ที่สำเร็จการศึกษาที่ยังไม่มีงานทำ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ เพื่อพัฒนาศักยภาพของประชาชนให้มีความรู้ ทักษะวิชาชีพเพิ่มขึ้นเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน


ทั้งนี้ วิทยาลัยฯ จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมวิชาชีพในสถานศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพประชาชน ประจำปี 2556 จำนวน 10 หลักสูตร รุ่นที่ 1 เปิดรับสมัครจำนวน 8 หลักสูตร อาทิ ขนมปังแป้งข้าวก้องงอกและเบเกอรี่เพื่อการค้า, การเพ้นท็เล็บและต่อเล็บ,การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์และงานกราฟิก และเริ่มฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 8 มิ.ย. – 7 ก.ค. 56 (เฉพาะเสาร์ – อาทิตย์) ส่วนรุ่นที่ 2 เปิดรับสมัครจำนวน 2 หลักสูตร ประกอบด้วย การนวดแผนไทย, การเย็บกระเป๋าด้นมือหลากหลายรูปแบบ เริ่มฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. – 7 ก.ค. 56 (เรียนทุกวัน) ผู้สนใจ สามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2556 หรือสอบถามเพิ่มเติมรายละเอียด ได้ที่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ โทรศัพท์หมายเลข 081-9996325 หรือ 087-4578122

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยแพทย์ พอ.สว. ในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานตอนใต้

วันนี้ (4 มิ.ย. 56) เวลา 12.55 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง จากสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง โครงการชลประทานสุรินทร์ เสด็จทรงไปปฏิบัติพระกรณียกิจในกิจกรรมของมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรี นครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ที่โรงเรียนร่มเกล้าปราจีนบุรี หมู่ที่ 1 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เฝ้าส่งเสด็จ


ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จะทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ ทอดพระเนตรการทำงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรี นครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ในพื้นที่ จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ นครราชสีมาและจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 3 – 10 มิถุนายน 2556 โดยจะประทับแรม ณ เรือนรับรองอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง โครงการชลประทานสุรินทร์ สำหรับในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จะเสด็จทรงปฏิบัติพระกรณียกิจที่โรงเรียนห้วยจริงวิทยา อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ในวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2556

ป.ป.ช.สุรินทร์ ประกาศผลคัดเลือกตัวแทนกรรมการสรรหา ป.ป.จ. พร้อมเปิดให้คัดค้าน

นายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ประกาศให้มีการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กร เป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์ (ป.ป.จ.) เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ.2555 ข้อ 24 ซึ่งได้ประกาศผลการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กร เป็นกรรมการสรรหาของแต่ละภาคส่วนมาแล้ว


ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้เสียผู้ใด ประสงค์จะโต้แย้งหรือคัดค้านการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กร เป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์ สามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองตามแบบ ป.ป.จ.18 ต่อผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ ภายใน 7 วัน นับต้งแต่วันที่ 4 -10 มิถุนายน 2556 ในเวลาราชการ เพื่อให้การดำเนินสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด สุรินทร์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไป

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ เตือนภัยแมลงวันผลไม้ในมะม่วง

นายนพรัตน์ พงศ์กิตติโชติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ เผยว่า จากข้อมูลจากศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งเตือนภัยแมลงวันผลไม้ในมะม่วง ในบางพื้นที่มีมะม่วงอยู่ระหว่างผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยว แมลงศัตรูที่สำคัญ คือ แมลงวันผลไม้ ซึ่งทำความเสียหายโดยเพศเมียใช้อวัยวะวางไข่แทงเข้าไป ในผลมะม่วง ตัวหนอนที่ฟักจากไข่จะอาศัยและชอนไชอยู่ภายใน ทำให้ผลเน่าเสียและร่วงหล่น ตัวหนอนจะเข้าดักแด้ในดินแล้วออกเป็นตัวเต็มวัย แมลงวันผลไม้ชอบวางไข่ใน ผลมะม่วงที่ใกล้สุกและมีเปลือกบาง ผลมะม่วงที่ถูกทำลายนี้มักจะมีโรคและแมลงชนิดอื่นๆ เข้าทำลายซ้ำ ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ ตัวห้ำ ตัวเบียน ตัวห้ำ เช่น มดคันไฟ ตัวเบียน เช่น แตนเบียนหนอน-ดักแด้ กรมส่งเสริมการเกษตรขอแนะนำวิธีการป้องกันกำจัด ดังนี้

1. ทำความสะอาดบริเวณสวน โดยรวบรวมทำลายมะม่วงที่เน่าเสียจากการถูกแมลงวันผลไม้เข้าทำลาย ไปเผานอกแปลงปลูก เพื่อลดการเพิ่มจำนวนประชากรของแมลงวันผลไม้

2. อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติของแมลงวันผลไม้ เช่น การใช้สารเคมีที่ถูกวิธีตรงกับชนิดศัตรูพืชพ่นเฉพาะจุดที่มีศัตรูพืช ไม่ทำลายตัวห้าตัวเบียน

3. กำจัดแมลงวันผลไม้เพศผู้ด้วยเมทธิล ยูจินอล ผสม มาลาไทออนิ 83 % อีซี 2:1 ต่อน้ำ 20 ลิตร ชุบสำลี วางไว้ในขวดพลาสติกหรือกระบอกน้า แขวนไว้โดยรอบแปลงมะม่วง


4. การใช้เหยื่อโปรตีน โดยการนาเอายีสต์โปรตีนออโตไลเสท (Protein autolysate) ผสมกับสารฆ่าแมลงมาเป็นเหยื่อล่อแมลงวันผลไม้ โดยใช้ยีสต์โปรตีนออโตไลเสท 800 ซีซี ผสมสารฆ่าแมลง malathion 83 เปอร์เซ็นต์จานวน 280 ซีซีผสมน้ำ20 ลิตริพ่นเป็นจุดๆเท่านั้น วิธีการนี้ให้ผลที่ดีมาก นอกจากจะประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายในการใช้สารฆ่าแมลงและแรงงานแล้ว ยังเป็นพิษต่อสภาพแวดล้อม แมลงผสมเกสร รวมทั้งตัวห้ำตัวเบียนน้อยลง ที่สำคัญคือสารนี้สามารถดึงดูดได้ทั้งแมลงวันผลไม้ตัวผู้และตัวเมีย ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเข้าทำลายของแมลงวันผลไม้ได้อย่างดี

สภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ รับสมัครผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้านจนถึงวันที่ 7 มิถุนายนนี้

นายทองคำ ปิ่นแก้ว หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ 1 ของระเบียบสภาเกษตรกรแห่งชาติว่าด้วย หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไข การเลือกตั้งสภาเกษตรกรจังหวัดแทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2555 จึงประกาศรับสมัครผู้แทนเกษตรกร ระดับหมู่บ้าน ทั้งนี้เกษตรกรผู้ใดมีความประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรระดับ หมู่บ้าน ต้องมีรายชื่อตามประกาศรายชื่อเกษตรกรผู้มีสิทธิเลือกตั้ง


โดยยื่นใบสมัครด้วยตนเองพร้อมหลักฐานและเอกสารซึ่งรับรองความถูกต้อง ตามรายละเอียดดังนี้ วัน เวลา รับสมัครผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2556 ถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2556 เวลา 08.30 น. - 16.30 น. สถานที่รับสมัครผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ ส่วนหลักฐานการรับสมัครเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน ประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รูปถ่ายหรือรูปภาพหน้าตรงไม่สวมหมวกไม่สวมแว่นตา ขนาด 2X3 นิ้ว จำนวน 3 รูป ซึ่งถ่ายมาแล้วไม่เกินหกเดือนจนถึงวันรับสมัคร พร้อมหลักฐานอื่น ๆ เช่น เอกสารใบเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล สูติบัตร และใบรับรองการเกิด เป็นต้น

การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุรินทร์ ขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดแม้จะมีฝนตกมาบ้างแล้ว

นายคมสัน บุญเอี่ยม ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุรินทร์ เปิดเผยว่า ประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์ มีสาขาอยู่ใน 11 อำเภอ เช่นที่อ่างเก็บอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว ที่อำเภอรัตนบุรี ซึ่งผลิตน้ำประปาให้บริการในพื้นที่อำเภอสนมด้วย ที่อำเภอสังขะ ซึ่งรับผิดชอบ อำเภอบัวเชดและอำเภอกาบเชิง ปัจจุบันมีระดับน้ำในเกณฑ์ต่ำมาก แม้จะมีฝนตกมาบ้างแล้วก็ตาม จึงได้มีการวางแผนการประหยัดน้ำดิบให้ใช้ได้นานขึ้น เพื่อให้สามารถผลิตน้ำประปาได้อย่างเพียงพอและจะต้องเร่งขุดลอกหนองน้ำที่ ตื้นเขิน เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ต่อไป


ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า การผลิตน้ำประปาบริการประชาชนในเขตตัวเมืองสุรินทร์ว่า ปัจจุบันใช้น้ำจากห้วยเสนงในการผลิตประปา วันละ 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปริมาณน้ำในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอให้ประชาชนจะต้องร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด และสำรองน้ำไว้ใช้ให้ได้นานที่สุด

จ.สุรินทร์ ขอให้ทุกพื้นที่ร่วมโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี

นายนิรันดร์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ด้วยปี พุทธศักราช 2555 อันเป็นปีมหามงคลที่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา รัฐบาลจึงได้จัดทำ "โครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมี พระราชปณิธานมุ่งมั่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินีฯ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2555 (ปี พ.ศ.2556 – 2560)


โดยวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาเป็นกรอบแนวทางในการฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำซึ่งปัจจุบัน มีสภาพเสื่อมโทรมให้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์และเกิดความสมดุลของระบบนิเวศและ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม เอกชน ชุมชนและประชาชน ทุกหมู่เหล่าร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟูและเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนให้ทุกพื้นที่ อปท.ทุกแห่ง จัดโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี โดยจัดกิจกรรมปลูกป่าชุมชนในพื้นที่ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติตามโครงการดังกล่าวต่อไป

การท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดสุรินทร์ แจ้งย้ายที่ตั้งใหม่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์

นางอัจรินทร์ เมืองจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ด้วย สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดสุรินทร์ ได้ย้ายที่ตั้งสำนักงานใหม่ จากที่ตั้งเดิมสนามแสดงช้าง ถนนคชสาร ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นที่ตั้งใหม่ อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนครชัยบุรินทร์ สนามกีฬาศรีณรงณ์ ถนนคชสาร ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 32000 โทรศัพท์ 044-520-979 โทรสาร 044-515-823 E-mail:surin@moth.go.th 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.วารินชำราบ และเจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.จว.อุบลราชธานี สนธิกำลังบุกเข้าจับกุม 3 ผู้ต้องหาขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง ได้จากที่พัก พบของกลางไม้พะยูงจำนวน 30 ท่อน คิดเป็นมูลค่ากว่าล้านบาท

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.56 ที่ สภ.วารินชำราบ นำโดย พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.วารินชำราบ พ.ต.ท.ธนชัย แก้วเสนา รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน สภ.วารินชำราบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.วารินชำราบ

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายทองมี สุโกพันธ์ อายุ 77 ปี อยู่ที่ 92 ม.2 ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายอุทัย คำอำ อายุ 37 ปี อยู่ที่ 28 ม.4 ต.หนองกินเพลน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และนางคำหมูน สดชื่น อายุ 36 ปี อยุ่ที่ 70 ม.2 ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาในคดีมีไม้พะยูงไว้ในครอบครอง พร้อมของการ ไม้พะจำนวน 30 ท่อน ขวานด้ามยาว จำนวน 3 เล่ม สายไฟฟ้า ที่ใช้ต่อเชื่อมต่อจากกระท่อมที่พักมายังจุดเลื่อยไม้ของกลาง ยาวประมาณ 200 เมตร

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.วารินชำราบ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.56 เวลา 17.30 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนส่งไม้พะยูง จะนำไม้มาพักไว้ในเขตพื้นที่ อ.วารินชำราบ เป็นการชั่วคราว จากนั้นเจ้าที่ก็ได้ลงพื้นที่ติดตามสืบหาข่าวจนทราบว่าที่บริเวณเตาเผาอิฐ บ้านขัวไม้แก่น ม.2 ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีนายทองมี สุโกพันธ์ เป็นเจ้าของ ซึ่งมีไม้พยุงซุกซ่อนอยู่จำนวนหลายท่อน จึงได้แจ้งต่อผู้บังคับบัญชาทราบ และได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงจุดดังกล่าว พบนายอุทัย คำอำ และนางคำหนุน สดชื่น เป็นผู้ดูแลและพักอาศัยอยู่ในกระท่อมที่พักบริเวณเตาเผาอิฐดังกล่าวและจาก การสอบสวน นายอุทัย และ นางคำหนุน ผู้ต้องหาทั้ง2ราย ให้การว่า เตาเผาอิฐดังกล่าว เป็นของนายทองมี สุโกพันธ์ จากการตรวจสอบพบไม้พยุง 30 ท่อน คิดเป็นมูลค่าประมาณล้านกว่าบาท ลักษณะไม้ของกลางเป็นไม้สดเพิ่งมีการตัดมาจกโคนต้นใหม่ๆ ซุกซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังเตาเผาอิฐ ห่างจากกระท่อมที่พักประมาร 100 เมตร และพบมีการต่อสายไฟฟ้าจากกระท่อมดังกล่าว ออกมายังจุดเลื่อยไม้ของกลาง ยาวประมาณ 200 เมตร ซึ่งทั้ง 3 คนได้ให้การว่าไม้พะยูงของกลางดังกล่าวนั้นไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด ทราบเพียงแต่เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน มีชายสองคนเข้ามาขอใช้ไฟฟ้ากับ นางคำหนุน ซึ่งนางคำหนุนก็อนุญาตให้ใช้ไฟฟ้าได้ และก็ไม่ได้สนใจว่าเป็นผู้ใดมาทำไม้ของกลางดังกล่าว 

แต่ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนไม้พะยูง เนื่องจากพบของกลางอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เจ้าหน้าจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ว่า ร่วมกันทำไม้และมีไว้ในความครอบครองซึ่งไม้ท่อนหวงห้าม(ไม้พะยูง 30 ท่อน) อันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองวารินชำราบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


 

จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว/ภาพ 

หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดงานวันเกษตรกรและวันอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) จังหวัดอุบลราชธานี

เมื่อเช้าวันนี้ ( 4 มิ.ย. 56 ) ที่หอประชุมไพรพะยอมมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี นายนำชัย พรหมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ประธานเปิดงานวันเกษตรกรและวันอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) จังหวัด อุบลราชธานี กรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้ความสำคัญกับกาพัฒนาอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ให้เป็นเครือข่ายในการมีส่วนร่วมช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติงานส่งเสริม การเกษตรของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรใน พื้นที่ ทั้งในด้านการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานด้านการเกษตรของหมู่บ้าน การจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน การประสานงานในการถ่ายทอดความรู้และการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรในหมู่บ้าน จังหวัดอุบลราชธานี การจัดงานวันเกษตรกรและวันอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ดังกล่าว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ยกย่องเชิดชูเกียรติเกษตรกร อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน(อกม.) และสถาบันเกษตตรกร เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานที่ประสบความ สำเร็จของอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน(อกม.) เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตรได้นำไปปรับใช้และขยายผลเพื่อ ส่งเสริมการตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ มีประชาชน อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกลุ่มส่งเสริมอาชีพ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ข้าร่วมงาน ประมาณ 2 พันคน โดยมีกิจกรรมการเสวนาการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน นิทรรศการผลงานอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านดีเด่น นิทรรศการผลงานส่งเสริมการเกษตรดีเด่น นิทรรศการหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นิทรรศการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรนิทรรศการภาคเอกชน การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรและวิสาหกิจชุมชน พร้อมทั้งได้มอบประกาศนียบัตรอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านดีเด่น เกษตรกรดีเด่น สถาบันเกษตรกรดีเด่น.


 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ 

หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง และชมรมธนาคาร ร่วมเป็นเจ้าภาพจัด เสวนายามเช้า อุบลฮักแพง

เพื่อให้หน่วยงานราชการ,รัฐวิสาหกิจ ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมแจ้งภารกิจและการดำเนินงานของหน่วยงานให้ เป็นที่รับทราบ และนำไปสู่การทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงาน

เช้าวันนี้ (๔ มิ.ย. ๕๖) นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุม เสวนายามเช้า อุบลฮักแพง ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่อุบลราชธานี ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังและชมรมธนาคาร ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยมีหน่วยงานราชการ,ตำรวจ,ทหารและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ร่วมงาน ซึ่งการจัดงาน ดังกล่าว เพื่อให้ส่วนราชการได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรึกษา หารือข้อราชการและการทำงาน รวมทั้งเพื่อให้หน่วยงานที่เข้าร่วมได้แจ้งภารกิจและการดำเนินงานของหน่วย งานให้เป็นที่รับทราบ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติและการทำงานแบบบูรณาการก่อเกิดความ สมานฉันท์ระหว่างหน่วยงาน

พร้อมนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวถึงภารกิจที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและภารกิจที่จะดำเนินการในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ และในการจัดเสวนายามเช้า อุบลฮักแพง ครั้งต่อไป ซึ่งจะจัดในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ ที่สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ อุบลราชธานี โดยมีหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๒ อุบลราชธานี, สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี,สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัด อุบลราชธานี,สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเพื่อการศึกษา จังหวัดอุบลราชธานีและสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
๐๘๑ – ๙๒๔ ๘๖๐๙ /ข่าว/ ๔ มิ.ย.๕๖ 

คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงขึ้น ในภูมิภาคประจำปี 2556 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด

วันนี้ ( 3 มิ.ย. 56) ที่โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานเปิดการศึกษาอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ระดับภูมิภาค รุ่นที่ 11 ประจำปี 2556 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ได้บัญญัติถึงบทบาทและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งทุกระดับให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ส่งเสริมและสนับสนุนในการให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สำนักงานคณะกรมการการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งให้สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดโครงการศึกษาอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและ การเลือกตั้งระดับสูงขึ้น โดยใช้ชื่อย่อหลักสูตรว่า พตส. ที่ใช้เวลาอบรมรวมทั้งสิ้น 8 เดือน ซึ่งถือเป็นหลักสูตรที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและประสบความ สำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง จึงนำมาสู่การจัดทำหลักสูตรระยะสั้นตามโครงการฝึกอบรมในหลักสูตรการพัฒนาการ เมืองและการเลือกตั้งระดับภูมิภาค ประจำปี 2556 ที่จัดทำขึ้นโดยใช้ระยะเวลาการศึกษาอบรม 5 วัน ระหว่างวันที่ 3-7 มิถุนายน 2556 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้คัดเลือกเนื้อหาความรู้หัวข้อวิชาสำคัญ ประกอบ ความรู้เกี่ยวกับการเมือง การปกครอง พรรคการเมือง และการเลือกตั้ง การเสริมสร้างจิตสำนึกในระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ ในแต่ละหัวข้อวิชามีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการผู้มีชื่อเสียงและนักการเมืองระดับชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการเมืองการปกครองพรรคการเมืองและ การเลือกตั้ง บรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์กับผู้เข้ารับการศึกษาอบรมประกอบด้วย นักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน นักวิชาการและประชาชน คาดว่าผู้เข้ารับการศึกษาอบรมจะมีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับ เรื่องระบบการเมือง การปกครอง ระบบพรรคการเมืองและการเลือกตั้งของไทย และสามารถเสริมสร้างทัศนคติบวกต่อการมีส่วนร่วม ทางการ เมือง ตลอดจนสามารถที่จะพัฒนาบุคลิกภาพและทักษะของการเป็นผู้นำทางการเมืองยุคใหม่ รวมทั้งจะช่วยในการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาการเมืองและการ เลือกต่อไป.
 


จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

พช.อด.เตรียมขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านมั่นยืน

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี ประชุมพัฒนาการอำเภอ 20 อำเภอในพื้นที่เตรียมความพร้อมบุคลากรในการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านมั่น ยืน สร้างศูนย์เรียนรู้หนึ่งอำเภอหนึ่งหมู่บ้านมั่นยืน

ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี วันนี้ (4 มิ.ย.56) นายประจักษ์ จอมทรักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมพัฒนาการอำเภอในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีทั้ง 20 อำเภอ เพื่อหารือการดำเนินโครงการหมู่บ้านมั่นยืน โดยมีการวางรูปแบบการจัดกิจกรรมออกเป็น 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมต้นน้ำ กิจกรรมกลางน้ำ และกิจกรรมปลายน้ำ

โดยกิจกรรมต้นน้ำเป็นการพัฒนาสมรรถนะองค์กรในการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้าน มั่นยืนทั้งด้านทักษะ ความรู้ ความเข้าใจและการสื่อสารทั่วทั้งองค์กร การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม โดยการส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่เจ้าหน้าที่ พัฒนชุมชน ผู้นำชุมชน หลักสูตรโรงเรียนหมู่บ้านมั่นยืน กิจกรรมกลางน้ำ ให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนและผู้นำชุมชนที่ผ่านหลักสูตรโรงเรียนหมู่บ้านมั่น ยืน เป็นแกนนำในการพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นหมู่บ้านมั่นยืน อำเภอละ 1 หมู่บ้าน จัดเวทีประชาคมหาอัตลักษณ์ แนวทางการพัฒนาหมู่บ้าน ทบทวนแผนปฏิบัติการ บูรณาการการทำงานทุกภาคส่วน และจัดองค์ความรู้หมู่บ้านมั่นยืน จัดตั้งทีมนิเทศ ติดตาม ประเมินผล ประกวด ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ หมู่บ้านมั่นยืนดีเด่นระดับจังหวัด และกิจกรรมปลายน้ำ จัดตั้งศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านมั่นยืน เพื่อพัฒนาหมู่บ้านมั่นยืนให้เป็นศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านประจำอำเภอ และแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์ฯ แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ ดำเนินกิจกรรมของศูนย์ ตามปฏิทินการปฏิบัติงาน และจัดการศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ จัดเวทีประชาคมหมาบ้าน ทบทวนองค์ความรู้ จัดทำฐาน จัดระบบข้อมูล องค์ความรู้อย่างเป็นระบบ ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นแก่เยาวชน จัดตั้งทีมนิเทศ ติดตาม ประเมินผล ประกวดและประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ ศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านมั่นยืน ในพื้นที่ทั้ง 20 อำเภอ



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

จังหวัดอุดรธานีจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย “พูดจาหาทางออกประเทศไทย”

จังหวัดอุดรธานี จัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย "พูดจาหาทางออกประเทศไทย” เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหาของชาติ ร่วมสร้างสรรค์ประชาธิปไตยแสวงหาความเป็นธรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ในวันที่ 29 มิถุนายน และวันที่ 30 มิถุนายน 2556
 
นายธนิต แสงพันธุ์ พัฒนาการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้จังหวัดจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย "พูดจาหาทางออกประเทศไทย” โดยคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ อิสระ ตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ให้ความเห็นชอบ ดำเนินการจัดเวทีประชาเสวนาฯ ทุกกลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ 1 – 3 เวที โดยใช้เขตเลือกตั้งเป็นตัวกำหนดจำนวนเวที จังหวัดที่มี 1 เขตเลือกตั้ง จัดเวที 1 ครั้ง จำนวนผู้ร่วมเวที จำนวน 300 คน จังหวัดที่มี 2-4 เขตเลือกตั้ง จัดเวที 1 ครั้ง 400-1,000 คน (จำนวน 200 คนต่อเขตเลือกตั้ง) จังหวัดที่มี 6-10 เขตเลือกตั้ง จัดเวที 2 ครั้ง และจังหวัดที่มี 11-15 เขตเลือกตั้ง จัดเวที 3 ครั้ง สำหรับจังหวัดอุดรธานี มีเขตเลือกตั้ง 9 เขต ดำเนินการจัดเวที 2 ครั้ง โดยเวทีแรกจะจัดในวันที่ 29 มิถุนายน 2559 กำหนดกลุ่มเป้าหมายจำนวน 983 คน เวทีที่ 2 จัดในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 กลุ่มเป้าหมายจำนวน 817 คน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี วิทยากรกระบวนการประกอบด้วย ผศ.ดร.กฤษฎา ณหนองคาย ผศ.ดร.กิตติยาภรณ์ โชคสวัสดิ์ภิญโญ อาจารย์ณัฎฐานุช เมฆรา อาจารย์พงศธร แสงสี อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา อาจารย์มัทนียา กายแก้ว อาจารย์สอนประจันทร์ เสียงเย็น อาจารย์ณัฎฐนันธ์ สุวรรณวงษ์ และนายสำเนียง เดชศร ประธานเครือข่ายผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัด
 
พัฒนาการจังหวัดอุดรธานี กล่าวต่อไปว่า กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย "พูดจาหาทางออกประเทศไทย”ผู้สมัครเข้าร่วม ภาคเกษตร ภาคแรงงาน ข้าราชการ /เจ้าหน้าที่ของรัฐ ภาคอุตสาหกรรม (เจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการ) แพทย์ พยาบาล นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ ผู้นำทางความคิด ผู้นำชุมชน (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนชุมชน) องค์กรภาคประชาชน ภาคการเมือง (สส. ส.อบจ. สท. ส.อบต.) พระภิกษุ ผู้นำศาสนา นักบวช สื่อมวลชน และอื่น ๆ ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย "พูดจาหาทางออกประเทศไทย” ไปลงชื่อได้ที่พัฒนาชุมชนอำเภอทุกอำเภอ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
 



พัฒนเดช ยศกรกุล ข่าว / ส.ปชส.อุดรธานี

ขอเชิญชวนมูลนิธิ สมาคมหรือองค์กรเอกชนยื่นคำขอรับรองรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์

นายธำรง  ธวัชวะชุม  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อำนาจเจริญ  เปิดเผยว่า  ด้วยคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ  ได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการยื่นคำขอและการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์เพื่อให้มูลนิธิ หรือสมาคมที่มีวัตถุประสงค์ในการจัดสวัสดิการสังคม หรือองค์กรภาคเอกชนที่มีผลงานด้านการจัดสวัสดิการสังคม  เกี่ยวกับการป้องกัน  การแก้ไขปัญหา  การพัฒนา  และการส่งเสริมความมั่นคงทางสังคม  เพื่อตอบสนองความจำเป็นขั้นพื้นฐานของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งตนเองได้   ให้สามารถยื่นขอคำรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ได้  

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอำนาจเจริญ  จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรภาคเอกชนที่มีความประสงค์จะยื่นคำขอรับรองเพื่อเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ.2556 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2540  ให้ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอำนาจเจริญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



สุรพล  บตรวงศ์

ขอเชิญเยาวชนสมัครคัดเลือกเข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนอาเซียน ประจำปี 2556

นางพวงคำ  ทองทั่ว  วัฒนธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ  เปิดเผยว่า  ด้วยคณะกรรมการมรดกแห่งชาติ สาธารณรัฐสิงคโปร์ จะเป็นเจ้าภาพจัดโครงการค่ายเยาวชนอาเซียน ประจำปี 2556 (ASEAN Youth Caamp 2013) ในหัวข้อ "เฉลิมฉลอง : เยาวชนอาเซียนร่วมเป็นหนึ่ง” (In Celebration : ASEAN Youths Unite) ระหว่างวันที่26 สิงหาคม 2556 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนที่มีความสามารถทางด้านวัฒนธรรมในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ นาฏศิลป์ ดนตรีพื้นบ้าน ศิลปะภาพถ่าย และจิตรกรรม มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานทางด้านวัฒนธรรมร่วมกันและสร้างเครือ ข่ายสำหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างเยาวชนในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุซาลาม  กัมพูชา  อินโดนิเซีย  ลาว  มาเลเซีย  เมียนมาร์  ฟิลิปปินส์  สิงคโปร์  ไทย เวียดนาม  และประเทศคู่เจรจาของอาเซียน 3 ประเทศเทศได้แก่  จีน เกาหลี ละญี่ปุ่น

ในการนี้  สำนัก งานวัฒนธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ จึงประชาสัมพันธ์ประกาศการคัดเลือกเยาวชนไทยเข้าร่วม โครงการค่ายเยาวชนอาเซียน ประจำปี 2556 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์  เพื่อคัดเลือกผู้แทนเยาวชนไทยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว  ทั้งนี้  ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดพร้อมดาวน์โหลดใบสมัครได้ทางเว็บไซต์  www.m-culture.go.th


สุรพล  บตรวงศ์

ศรีสะเกษ ติวเข้ม เยาวชน สร้างเกาะป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกอุดมการณ์ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.56 ที่โรง เรียนกันทรารมย์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายพยม ธารีชาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรเสริมสร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของกองอำนวยการรักษามั่นคงภายในราชอาณาจักร ประจำปี 2556 โดยการจัดฝึกอบรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชน มีอุดมการณ์รักชาติ ยึดมั่นในความจงรักภักดี และเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีพันเอกพิศิษฐ์ ศรีสังข์ รองผู้อำนวยการส่วนแผนและกิจการมวลชน สำนักงานกิจการมวลชนและสารสนเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำนักเรียน ในระดับชั้นมัธยมตอนปลาย จากโรงเรียนกันทรารมย์ จำนวน 200 คน เข้าร่วมฝึกอบรมในครั้งนี้

นายพยม กล่าวว่า เยาวชนคืออนาคตของชาติที่จะต้องเติบโตไปในภายภาคหน้าและต้องเป็นผู้ที่พัฒนา ชาติไทยต่อไป การปลูกฝังความรู้ในด้านต่างๆจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการแต่งเติมอนาคตและความเข้าใจที่ถูกต้อง ให้กับเยาวชน เพื่อเอาไปใช้เป็นแนวทางในการดำรงชีวิตในวันข้างหน้า การจัดฝึกอบรมครั้งนี้ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนไทย สามารถเผชิญกับปัญหาและภัยคุกคามต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดไปทุกพื้นที่ของประเทศไทย และสร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยการสอดแทรก ความรู้ความเข้าใจ ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อไม่ให้หลงผิด และถูกชักนำไปเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง หรือผู้ที่กระทำไม่เหมาะสมต่อสังคมไทยอีกทางหนึ่งด้วย

ด้าน พันเอกพิศิษฐ์ กล่าวว่า การฝึกอบรมหลักสูตรเสริมสร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของกองอำนวยการรักษามั่นคงภายในราชอาณาจักร ประจำปี 2556 นั้น มีกำหนดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน คือ ตั้งแต่วันที่ 4 -6 มิ.ย.56 โดยกิจกรรมในการฝึกอบรมประกอบด้วย การบรรยายจากวิทยากร ในหัวข้อเรื่อง วิกฤติบ้านเมืองกับภัยคุกคามแบบใหม่ ,ประวัติศาสตร์ชาติไทย และ ยุทธศาสตร์พระราชทานและแนวทางแก้ไขปัญหาของชาติ รวมไปถึงการจะมีการจัดครูฝึกเพื่อฝึกฝนในด้านระเบียบวินัย เพื่อให้เยาวชนที่เข้าฝึกอบรมสามารถนำใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันต่อ ไป




จิรภัทร หมายสุข / ข่าว 
บุญทัน ธุศรีวรรณ / ภาพ 
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ 

ข่าวกีฬาศรีสะเกษ - กุนซือลำดวนเพลิง มั่นใจ คว้าชัย เหนือ ยักษ์แสด ประเดิมเลกสอง

ปิดฉากในเลกแรกอย่างสวยหรู สำหรับลำดวนเพลิง ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด หลังบุกไปคว้า 3 แต้มในถิ่นของ ยักษ์แสด อุดรธานี เอฟซี 2 ประตู ต่อ 0 ในศึกการแข่งขันฟุตบอล เอไอเอส ดิวิชั่น2 โซนภาคตะวันออกเฉียง ทำให้จบเลกแรก ลำดวนเพลิง ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด อยู่ใน อันดับที่ 11 ของตาราง แข่ง 15 นัด ชนะ 5 นัด เสมอ 3 นัด แพ้ 7 นัด มี 18 คะแนน ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ของทางสโมสร
 
 นายสมชาย มากมูล กุนซือลำดวนเพลิง เปิดเผยถึงกลยุทธ์ เพื่อลุยศึกการแข่งขันฟุตบอล เอไอเอส ดิวิชั่น2 โซนภาคตะวันออกเฉียง ในเลกสอง ว่า ในนัดต่อไป ศรีสะเกษ มีคิวเปิดบ้านต้อนรับการเยือนของ ยักษ์แสด อุดรธานี เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2556 เวลา 18.00 น. ที่สนามศรีนครลำดวน สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตศรีสะเกษ ซึ่งในขณะนี้ตนได้ทำเรื่องเสนอตัวผู้เล่นที่จะนำมาเสริมทัพให้ทางฝ่ายบริหาร สโมสร ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ดึง กิมบ้า บราวน์ อาลี ผู้เล่นตำแหน่ง กองกลาง จากสโมสร พิษณุโลก เอฟซี , คิม ดอง มิน ผู้เล่นชาวเกาหลี จากสโมสรสมุทร สาคร เอฟซี และได้ยืมตัวนักเตะมากประสบการณ์ จากสโมสรปตท.ระยอง สาธร จุนเสริม มาเป็นกองหน้า เพื่อถล่มประตูทีมคู่แข่ง แต่ทั้งนี้ ต้องรอผลการตัดสินใจจากบอร์ดผู้บริหารสโมสร ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด อีกครั้ง เนื่องจาก อาจมีการดึงตัวผู้เล่น จาก ทีมพี่ กรูอันตราย ศรีสะเกษ เอฟซี ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องศาลปกครองจังหวัดอุบลราชธานี สั่งระงับการแข่งขันอยู่ในขณะนี้ มาเสริมทัพเพิ่มเติม ซึ่งทางบอร์ดผู้บริหารสโมสร ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด จะให้คำตอบกับตน ภายในสัปดาห์นี้
 

กุนซือลำดวนเพลิง กล่าวต่อไปว่า สำหรับการออกสตาร์ทในเลก 2 นั้น แม้จะเจอศึกหนัก อย่าง ทีมอุดรธานี เอฟซี ทีมสุรินทร์ เอฟซี และทีมหนองคาย เอฟซี แต่ตนก็มั่นใจในศักยภาพ ของนักเตะศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ซึ่งมีทีมเวิร์คในการทำเกมส์ที่เป็นอย่างดี อีกทั้งก่อนจบเลกแรก ยังสามารถบุกไปคว้าชัย ในถิ่นของอุดรธานี เอฟซี ได้ถึง 2 ประตูต่อ 2 ทำให้นักเตะของศรีสะเกษ ยูไนเต็ด มีขวัญกำลังใจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการประเดิมเลกสอง ในนัดแรก ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด จะต้องเปิดบ้าน ต้อนรับการมาเยือน ของ อุดรธานี เอฟซี ถึงแม้ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ต้องประสบกับปัญหาในเรื่องตัวผู้เล่น อย่างปราการหลัง ศุภเทพ สุรเกษ ที่ติดโทษแบน และ สุรศักดิ์ ทองเกาะ กองหน้า ที่มีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่ตนเชื่อมั่นใจว่า จะสามารถคว้าชัยชนะ เหนือ อุดรธานี เอฟซี ได้ เพื่อเป็นการประเดิมผลงาน เลก 2 และเป็นของขวัญให้กับแฟนบอลลำดวนเพลิง

วัดวิมลนิวาสจังหวัดร้อยเอ็ด..กำหนดแถลงข่าวการประกวดขบวนแห่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในวัน ที่ 5 มิ.ย.นี้

กมลพร คำนึง ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตามที่มูลนิธิรักษ์แผ่นดินไทย ในพระสังฆราชูปถัมป์ ได้จัดทำครงการรวมพลังศรัทธาไทย...ใต้ร่มเย็น โดยได้รับความเมตตาจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประธานพระบรมสารีริกธาตุ 45 สัณฐาน เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ วัดต่างๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ,มาประดิษฐานชั่วคราว ที่ วัดวิมลนิวาส จังหวัดร้อยเอ็ดระหว่างวันที่ 11 – 14 มิถุนายน นี้ ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับมูลนิธิบุญโกศล ได้จัดให้มีการประกวดขบวนแห่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในวันที่ 14 มิถุนายน 2556 เวลา 07.30 น. เริ่มต้นขบวนแห่หน้าบึงพลาญชัย ไป สิ้นสุดที่วัดวิมลนิวาส โดยมีโล่รางวัลจากสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก จำนวน 9 โล่ และเงินขวัญถุงจากมูลนิธิรักษ์แผ่นดินไทย ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จำนวน 40,000 บาท สำหรับมอบให้ผู้เข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ด้วย
จึงขอเชิญสื่อมวลชนทุกแขนงและประชาชน ร่วมรับฟังการแถลงข่าวการจัดงาน ดังกล่าว ที่ วัดวิมลนิวาส อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ในวันที่ 5 มิถุนายน 2556 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป

คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว 
กมลพร คำนึง บก.ข่าว 

4 มิ.ย. 56

หน่วยตำรวจสันติบาลมุกดาหาร ปลุกกระแสเชิงรุก สร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

วันนี้ (๔ มิ.ย. ๕๖) ณ ห้องประชุมโรงเรียนนวมินทราชูทิศอีสาน มุกดาหาร พ.ต.อ อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการ สถานีตำรวจอำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดโครงการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งหน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดมุกดาหาร กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จัดขึ้น เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกและค่านิยมให้กับประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา มีความเคารพรัก เทิดทูน มีความจงรักภักดีและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ นักเรียน นักศึกษาในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อนำไปสู่การดำเนินการสร้างจิตสำนึกสถาบันพระมหากษัตริย์

พ.ต.อ อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการ สถานีตำรวจอำเภอเมืองมุกดาหาร ได้กล่าวว่าการอบรมครั้งนี้เป็นการเตรียมเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของชาติให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อจะทำหน้าที่เป็นสื่อบุคคลในการเผยแพร่ความรู้ให้กับคนใกล้ชิด ทั้งในสถาบันการศึกษา ครอบครัว ชุมชน ในการรณรงค์สร้างจิตสำนึก เพื่อสร้างค่านิยมให้เกิดความจงรักภักดี การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติให้ ยั่งยืนตลอดไป  

สำหรับหน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดมุกดาหารได้รับมอบหมายให้ดำเนินการฝึกอบรม หลักสูตรการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รุ่นที่ 1/2556ให้กับนักเรียนโรงเรียนนวมินทราชูทิศอีสานมุกดาหาร จำนวน 100คน โดยมีเป้าหมายทั้งหมดรวม 6รุ่น 6 โรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอหนองสูงและอำเภอคำชะอี
 

 
พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

โรงพยาบาลมุกดาหารบริการคลินิกนอนกรน

นายแพทย์ศุภชัย จรรยาผดุงพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมุกดาหารมีความห่วงใยต่อประชาชนที่นอนกรน ซึ่งการนอนกรนก่อปัญหาให้ทั้งผู้มีอาการ และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดคนนอนกรน การนอนกรนเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายๆ โรค เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคสมอง โรคอัมพฤกษ์อัมพาต โรคสมรรถภาพทางเพศเสื่อม หลับในง่าย ปวดศีรษะตอนเช้าทำให้คนข้างเคียงนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท เมื่อตื่นนอนมารู้สึกเพลีย หงุดหงิด ง่วงนอนบ่อยเหมือนคนอดนอน การนอนกรนนั้นส่งผลทั้งสุขภาพและสุขภาพใจก่อความรำคาญหลับไม่เป็นสุข

ดังนั้น โรงพยาบาลมุกดาหาร ได้มีการเปิดให้บริการคลินิกนอนกรนทุกวันพุธ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๕.๓๐ น. โทร ๐๔๒-๖๑๑๓๗๙ ต่อ ๒๒๗ ซึ่งการนอนกรนสามารถรักษาได้ โรงพยาบาลมุกดาหารจึงเปิดโอกาสให้ผู้มีปัญหานอนกรน ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพ และวางแผนการรักษา ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหู คอ จมูก จะทำการวิเคราะห์ผล และแนะนำวิธีการรักษา ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาผู้ที่เข้ามารับการรักษามีความพึงพอใจและมีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าการนอนกรนรักษาได้ โรงพยาบาลมุกดาหาร ยินดีให้บริการ ถ้าผู้มีปัญหานอนกรนมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญวันนี้ รักษาได้ทันท่วงทีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคุณ และคนที่คุณรัก


 

 พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดบึงกาฬเพิ่มความรู้ ทักษะ และศักยภาพเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน

วันนี้ ( 4 มิถุนายน 2556 ) ณ ศิริอัมพรโฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ซึ่งดำเนินงานโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีผู้เข้าร่วม อบรมประกอบด้วย เครือข่ายที่ทำงานด้านเด็ก จากหน่วยงานภาครัฐ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน จำนวน 100 โดยเป็นการให้ผู้ปฏิบัติงานดังกล่าวทราบบทบาทหน้าที่ วิธีการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและส่งเสริมความประพฤติเด็กในทางสร้างสรรค์ให้เด็กได้ รับประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและเป็นการฝึกปฏิบัติในกระบวนการ สงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง


สำหรับสถานการณ์เด็กและเยาวชนของจังหวัดบึงกาฬพบว่าประเด็นที่ควรเฝ้าระวัง เป็นการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของเด็ก จากสถิติการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในเด็กอายุ 10 – 19 ปี สูงถึงร้อยละ 18.61 ปัญหาเยาวชนในครอบครัวยากจนไม่มีทุนการศึกษา และปัญหาเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม การเสพยาเสพติด อบายมุข มีเด็กและเยาวชนอายุ 19 – 25 ปี เสพยาเสพติดร้ายแรงประเภทเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า )มากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นกัญชา และสารระเหย นอกจากนี้ยังพบเด็กติดเกมส์ปัญหาต่างๆเหล่านี้มาจากสิ่งเร้าและสิ่งยั่วยุ ประกอบกับปัจจัยสภาพครอบครัว สภาพสังคมและสื่อต่างๆรวมถึงลักษณะการใช้ชีวิตของเด็กจึงเป็นการเพิ่มปัจจัย เสี่ยงในขณะที่เด็กและเยาวชนเป็นผู้ด้อยประสบการณ์ ขาดทักษะชีวิต จึงเป็นเรื่องท้าทายและต้องอาศัยเครือข่ายการทำงานประสานความร่วมมือและ บูรณาการการทำงานร่วมกันในการป้องกัน แก้ไข พิทักษ์และคุ้มครองสิทธิให้แก่เด็กและเยาวชน จึงจำเป็นจะต้องให้ความรู้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆเพื่อให้สามารถทำ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับเด็กต่อไป

จังหวัดบึงกาฬเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันภัยจากการค้ามนุษย์

วันนี้ (4 มิถุนายน 2556) ณ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 จัดโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ โดยผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยข้าราชการตำรวจจากทุกสถานี ทีมสหวิชาชีพรวมทั้งหน่วยงานซึ่งลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติ ร่วมกันเพื่อการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิและป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก และความรุนแรงในครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2556 รวม 170 คน โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก ชัชวาล สุขสมจิตร ที่ปรึกษา (สบ 10) (ด้านการสืบสวน) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นวิทยากรบรรยายเรื่องนโยบายและแผนระดับชาติในการป้องกันและปราบปรามการ ค้ามนุษย์และ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องและนางวาสนา เก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก บรรยายเรือง การคัดแยกเพื่อช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และบทบาททีมสห วิชาชีพในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการดำเนินคดีผู้กระทำผิด รวมถึงการฝึกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการ ดำเนินคดีผู้กระทำผิด


นางพัชรี จิตบุณยโชติ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ รักษาการ พมจ.บึงกาฬ ได้กล่าวถึงการอบรมในวันนี้ว่า พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ประกาศใช้ วันที่ 5 มิถุนายน 2551 ดังนั้นคณะรัฐมนตรีกำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศต้นทาง ปลายทางและทางผ่านของการค้ามนุษย์เพื่อบังคับใช้แรงงาน การแสวงหาประโยชน์ บังคับใช้แรงงาน หรือในธุรกิจทางเพศหรือค้าประเวณีและสถานการณ์การค้ามนุษย์มีแนวโน้มเพิ่ม สูงขึ้นทุกปีแม้จะไม่มากเมื่อเทียบกับคดีอาญาประเภทอื่นแต่มีความรุนแรง เนื่องจากเป็นคดีอาญาที่มีความซับซ้อน เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ผู้กระทำความผิดทำงานเป็นเครือข่าย มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ผู้เสียหายไม่ให้ความร่วมมือทำให้การดำเนินคดีมีความยุ่งยาก จังหวัดบึงกาฬมีความเสี่ยงต่อสถานการณ์การค้ามนุษย์ เพราะพื้นที่ 4 อำเภอ คือปากคาด เมืองบึงกาฬ บุ่งคล้าและบึงโขงหลงติดแม่น้ำโขงยาวกว่า 120 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับสปป.ลาว อาจทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายและอพยพของหญิงและเด็กชาวลาวเข้ามาในประเทศไทย เพื่อการเข้ามาหางานทำหรือถูกนายหน้าหลอกลวง การฝึกอบรมในครั้งนี้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2556 และวิธีปฏิบัติต่างๆเกี่ยวกับการคัดแยกเพื่อช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจาก การค้ามนุษย์และวิธีดำเนินคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ให้กับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้ปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที ถูกต้อง รวดเร็วและแม่นยำในการทำงาน

บุรีรัมย์จัดตลาดนัดการค้าชายแดนช่องสายตะกู เพื่อความร่วมมือทางการค้ากับกัมพูชา และรองรับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

จังหวัดบุรีรัมย์จัดงานตลาดนัดการค้าชายแดนช่องสายตะกู เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ราชอาณาจักรกัมพูชา และเตรียมความพร้อมรองรับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

เมื่อวัน ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่บริเวณชายแดนช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นายทำนอง  ศรีเมือง  ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงาน "ตลาดนัดการค้าชายแดนช่องสายตะกู” โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ราชอาณาจักรกัมพูชา และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ ทั้งนี้ ในปี ๒๕๕๕ การค้าชายแดน มีมูลค่าสูงถึง ๙๑๐,๕๐๐ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖ ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้ตลาดอาเซียนมีขนาด ใหญ่ขึ้น ซึ่งหากพัฒนาระบบการเชื่อมโยงทางการค้าและการลงทุนได้สมบูรณ์ มูลค่าการค้าชายแดนจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๕ ถึงร้อยละ ๓๐ โดย จังหวัดบุรีรัมย์ได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาและยกระดับให้ช่องสายตะกู เป็นช่องผ่านแดนถาวร เพื่อให้พี่น้องประชาชนสองประเทศ สามารถเดินทางเข้า-ออก และติดต่อค้าขายได้อย่างถูกต้อง สะดวก และรวดเร็วขึ้น




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

จังหวัดบุรีรัมย์จัดพิธีเททองหล่อพระหัตถ์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบพิธีเททองหล่อพระหัตถ์พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก สูง ๘๔ เมตร และลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
(๓ มิถุนายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๗.๓๐ น. ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ (หลังเดิม) อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้ นายอภินันท์  จันทรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้แทนพระองค์ ประกอบพิธีเททองหล่อพระหัตถ์พระโพธิสัตว์กวนอิม และลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา โดย มูลนิธิ มิราเคิลออฟไลฟ์ฯ ร่วมกับสมาคมวัฒนธรรมวิถีพุทธไทยจีน ๒๐๐๘ จัดสร้างพระอวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์กวนอิม องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดความสูง ๘๔ เมตร และได้อัญเชิญเจ้าแม่กวนอิมองค์ต้นแบบ ขนาดความสูง ๒.๑๐ เมตร ไปให้ประชาชนทั้ง ๗๗ จังหวัดได้สักการะ และเปิดให้ประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา ปิดทองพระหัตถ์ทั้งสองข้าง โดยส่วนของพระหัตถ์ทั้งสองข้าง เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะนำไปประกอบองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม และประดาษฐานที่บ้านหินสี ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์   

ระดมกวดขันแก๊งเด็กแว้นกวนเมือง ยึด 38 คัน

ตำรวจงานจราจร สภ.เมืองมหาสารคาม ออกระดมกวดขันแก๊งเด็กแว้นกวนเมือง ตั้งด่านตรวจสกัดรถ จยย.ซิ่ง และท่อไอเสียดัง เผยผลตั้งด่านตรวจแค่ 1 ชั่วโมง ยึดรถของกลางได้จำนวน 38 คัน โดย พ.ต.อ.ชัยญัติ สายถิ่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุดมศักดิ์ เปลี่ยนขำ ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม พ.ต.ท.ฐิติพงศ์ อนุพงศ์พิพัฒน์ สว.จร.สภ.เมืองมหาสารคาม และงานจราจร สภ.เมืองมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ดัดแปลงอุปกรณ์ และท่อไอเสียส่งเสียงดัง จำนวน 38 คัน ตามนโนบายของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้กวดขันบรรดารถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง และท่อไอเสียเสียงดังที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยผลการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเมื่อคืนที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 20.30-21.30 น. เพียง 1 ชั่วโมง สามารถยึดรถแต่งซิ่ง และท่อไอเสียเสียงดังได้ทั้งหมด 38 คัน ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเยาวชนทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาทำประวัติก่อนเรียกให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับไป พ.ต.อ.ชัยญัติ สายถิ่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าที่ผ่านมา สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีกลุ่มวัยรุ่นตั้งแก๊งแข่งรถจักรยานยนต์ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และอาจเป็นต้นเหตุของปัญหาอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อไม่ให้แก๊งวัยรุ่นเหล่านี้ออกมาก่อกวนสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้อีก


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว      

รองผู้ว่าฯสารคาม ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่

เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือชาวมหาสารคามร่วมกันรักษาสภาพแวดล้อม จัดการน้ำเสียอย่างถูกวิธี ตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทิ้งขยะ พร้อมเคารพกฎหมาย ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่

นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่กำกับดูแลด้านการจัดการรักษาสภาพแวดล้อมของ จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันจะเริ่มแผ่ขยายวงกว้างออกไปมากขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ที่ทำลายสภาพแวดล้อมให้เสียหาย โดยเฉพาะการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ป่าเสื่อมโทรม ฝนไม่ตกตามฤดูกาล เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร นอกจากนี้จากการขยายชุมชนให้มีความเจริญ ก็ได้ส่งผลต่อภาวะวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งการจัดการน้ำเสีย ขยะมูลฝอย ดังนั้น เนื่องในวันที่ 5 มิถุนายน นี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก จึงขอความร่วมมือจากประชาชนจังหวัดมหาสารคาม ได้ร่วมกันรณรงค์รักษาสภาพแวดล้อม ด้วยการหามาตรการ แนวทาง ในการจัดการน้ำเสียอย่างถูกวิธี สร้างความตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทิ้งขยะให้ถูกที่ เคารพกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้สิ่งแวดล้อมในชุมชน หมู่บ้าน ที่เราอาศัยมีความน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ได้ร่วมกับหน่วยงาน องค์กร 14 แห่ง ลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อลดปริมาณขยะมูลฝอยและจัดการมลพิษขยะมูลฝอย ด้วยการร่วมกันกำหนดแนวทางและวางมาตรการลดปริมาณขยะมูลฝอยร่วมกัน เพื่อให้พื้นที่กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลเมืองมหาสารคาม และเครือข่าย สามารถรองรับขยะได้นานมากขึ้น ก่อนจะกลายเป็นปัญหาขยะล้นเมืองในอนาคต




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

บรรยากาศรับน้องประชุมเชียร์ ม.มหาสารคาม เป็นไปอย่างคึกคัก

บรรยากาศการประชุมเชียร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นไปอย่างคึกคัก รุ่นพี่ได้สอนรุ่นน้องร้องเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกิจกรรมสันทนาการและกิจกรรมอบรมระเบียบวินัย ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีต่อสถาบัน และอัตลักษณ์ความเป็นอีสาน

โดยกิจกรรมประชุมเชียร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) เพื่อเป็นการรับน้องใหม่ ได้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-8 มิถุนายน 2556 ซึ่งรุ่นพี่ได้สอนรุ่นน้องร้องเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมนำเข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการ อบรมระเบียบวินัย ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีต่อสถาบัน และอัตลักษณ์ความเป็นอีสาน ตลอดจนการแนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักซึ่งกันและกัน กิจกรรมประชุมเชียร์ในปีนี้ ได้แบ่งโซนบริหารจัดการออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มหนองบึงภูเลยธานี , กลุ่มนครมุกสกล, กลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์, กลุ่มนครชัยบุรินทร์ และกลุ่มศรีโสธรเจริญราชธานี โดยรูปแบบกิจกรรมเป็นการบูรณาการ ความเป็นอีสาน เฟรชชี่ และ มมส. เข้าด้วยกัน สร้างความสมัครสมานสามัคคี และความสัมพันธ์ภายในรุ่นของนิสิตใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ได้ย้ำรุ่นพี่ เรื่องการรับน้องอย่างสร้างสรรค์ ปราศจากความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ และปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งตามโซนต่างๆ ที่ได้แบ่งนั้น ก็มีอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการประชุมเชียร์ร่วมดูแลอย่างใกล้ชิด



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามเตรียมจัดกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก รณรงค์สวมเสื้อสีขาว

คณะกรรมการจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ปี 2556 เตรียมจัดนิทรรศการและกิจกรรมการประกวดต่าง ๆ ภายใต้คำขวัญ ยาเสพติดจะพินาศ คนไทยทั้งชาติต้องร่วมมือกัน พร้อมรณรงค์สวมเสื้อสีขาว เพื่อแสดงออกถึงการร่วมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด

(4-6-56) ในการประชุมคณะกรรมการจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ปี 2556 ของฝ่ายจัดกิจกรรมและนิทรรศการ ซึ่งมีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานการประชุมและประธานคณะกรรมการ ได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จังหวัดมหาสารคาม โดยศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมืองมหาสารคาม ได้ร่วมกันจัดขึ้นเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก วันที่ 26 มิถุนายน 2556 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคามและอุทยานการเรียนรู้จังหวัด มหาสารคาม ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

สำหรับกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ปี 2556 จังหวัดมหาสารคาม จะเริ่มด้วยการเดินขบวนรณรงค์ของนักเรียน นักศึกษา กลุ่มพลังมวลชน เพื่อกระตุ้นและสร้างความตระหนักในการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายในงานจะมีพิธีมอบธงสัญลักษณ์ต่อต้านยาเสพติดแก่หมู่บ้าน ชุมชน การกล่าวปฏิญาณตน การจัดนิทรรศการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นิทรรศการทู บี นัมเบอร์วัน การแสดงบนเวที การประกวดแดนเซอร์ รุ่นอายุ 10-15 ปี และ 15-22 ปี ประกวดละครสั้นระดับมัธยมและชุมชน การประกวดพูด ระดับประถมศึกษา และการแข่งขันฟุตซอล

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ปี 2556 กำหนดขึ้นภายใต้คำขวัญ ยาเสพติดจะพินาศ คนไทยทั้งชาติต้องร่วมมือกัน พร้อมนี้ยังจะได้รณรงค์ให้ประชาชนสวมเสื้อสีขาว เพื่อแสดงออกถึงการร่วมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากีฬาจังหวัดระยะ 5 ปี เพื่อก้าวสู่เมืองแห่งการกีฬาภาคอีสาน

จังหวัดมหาสารคามจัดประชุมคณะทำงานจัด ทำแผนยุทธศาสตร์พัฒนากีฬาจังหวัดระยะ 5 ปี (2555 -2559) เพื่อก้าวสู่เมืองแห่งการกีฬาควบคู่กับเมืองตักสิลาภาคอีสาน

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์กีฬาจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยในการประชุมคณะทำงานจัดทำยุทธศาสตร์กีฬาจังหวัดมหาสารคามระยะ 5 ปี (ปี 2555 -2559) ว่าตามที่คณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภาเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการพัฒนาและ ส่งเสริมกีฬาของจังหวัดมหาสารคาม ตลอดจนเข้าร่วมประชุมปรึกษา หารือ กับคณะผู้บริหารของจังหวัดและสมาคมกีฬาจังหวัด และคณะกรรมาธิการมีมติเห็นชอบที่จะส่งเสริมสนับสนุนและยกระดับจังหวัด มหาสารคาม ให้เป็นนครแห่งการกีฬาควบคู่ไปกับนครแห่งการศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนากีฬาแห่งชาติลงสู่แผนพัฒนากีฬาจังหวัดให้ สำเร็จผลเป็นรูปธรรม และมีผลต่อการนำกีฬามาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพของ ประเทศอย่างจริงจัง โดยให้จังหวัดมหาสารคาม นำเสนอร่างแผนในการพัฒนากีฬาของจังหวัดต่อคณะกรรมาธิการได้รับทราบอย่างเป็น ทางการ เพื่อให้การสนับสนุนแผนงานและงบประมาณต่อไปนั้น


รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยต่อไปว่า จังหวัดจึงได้จัดตั้งคณะทำงานร่างยุทธศาสตร์การกีฬาจังหวัดมหาสารคามระยะ 5 ปี (2555-2559) เพื่อจัดทำแผนและนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภาที่จะเดินทางมาติดตามใน วันที่ 10 มิถุนายน 2556 ซึ่งผลจากการประชุมคณะทำงานได้กำหนดเป็นวิสัยทัศน์ว่า "จังหวัดมหาสารคามจะเป็นจังหวัดศูนย์กลางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มุ่งส่ง เสริมสนับสนุนความเป็นเลิศทางด้านการกีฬาและการออกกำลังกายให้เป็นวิถีชีวิต เพื่อพัฒนาคนในสังคมอย่างมีคุณภาพ พร้อมสู่ระดับนานาชาติ” และกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ไว้ 6 ประเด็นยุทธศาสตร์ คือ 1.พัฒนาการออกกำลังกายและการกีฬาขั้นพื้นฐาน , 2.พัฒนาการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาเพื่อมวลชน , 3.พัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ , 4.พัฒนาการกีฬาเพื่อการอาชีพ , 5.แผนพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา และ 6.แผนพัฒนาการบริหารการกีฬาและการออกกำลังกาย โดยได้มอบหมายให้คณะทำงานไปจัดทำโครงการ และงบประมาณให้สอดคล้องและรองรับประเด็นยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ประเด็นก่อนนำเสนอคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภาพิจารณาต่อไป


สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว ศิรินทรา แก้วบุญเรือง/พิมพ์ 

ผวจ.นม.เชิญทุกท่านร่วมเปิดงานและชมนิทรรศการ“Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก”

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ตามที่ จังหวัดนครราชสีมาจะจัดนิทรรศการและ การสัมมนา "Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 30 มิถุนายน 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. ณ อาคารเรียนรวมใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานนั้น

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมาเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ และร่วมสัมมนา "Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก” ในวันแรกคือ วันเปิดงานวันที่ 6 มิถุนายน 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น. ที่อาคารเรียนรวมใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา


ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมระดมความคิดเห็นเพื่อชาวอีสานตอนล่างร่วมพัฒนาโครง สร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ในวันที่ 6 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00 – 12.00 น. ในหัวหัวข้อ "แผนงาน/โครงการภายใต้แผนการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2556-2563” และในวันเดียวกันเวลา 13.00 – 16.00 นจะมีการสัมมนาในหัวข้อ "การขับเคลื่อนโคราชสู่มหานคร” เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมาร่วมระดมสมองในเรื่องที่เกี่ยวข้องในภาคอีสาน ตอนล่าง มาให้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อแผนลงทุนฯ และโครงการสำคัญต่าง ๆ ภายใต้แผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจมาร่วมสัมมนาและ ชมนิทรรศการ"Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก” ซึ่งกระทรวงคมนาคมนำมาจัดให้ชุมตลอดเดือนระหว่างวันที่ 6 – 30 มิถุนายน 2556 ณ อาคารเรียนรวมใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมขอเชิญร่วมพิธีเปิดงานและร่วมสัมมนาในวันที่ 6 มิถุนายน 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. ด้วย
 
นอกจากนี้ ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังขอเชิญทุกท่าน ชม และ เลือกซื้อสินค้า OTOP / สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ในงานนิทรรศการ "Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก” ณ อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 6 – 9 มิถุนายน 2556 ด้วย โดยจะมีไข่ไก่ ข้าวสาร น้ำปลา น้ำตาล มาจำหน่ายในราคาถูกจากโรงงานโดยตรง

ชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลหนองหลัก อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา บุกศาลากลาง ขอความเป็นธรรม หลังเจ้าหน้าที่รัฐออกหนังสือที่ดินหลวงทับที่ทำกินประชาชน

ข่าวที่ 703/2556 ชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลหนองหลัก อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา บุกศาลากลาง ขอความเป็นธรรม หลังเจ้าหน้าที่รัฐออกหนังสือที่ดินหลวงทับที่ทำกินประชาชน
 
วันนี้ (๔ มิ.ย. 56) นายพรศิวะ ธนโชติกิตติพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตรวจสอบอำนาจรัฐ นำชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลหนองหลัก อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา เข้าพบและยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอความเป็นธรรม หลังได้รับความเดือดร้อน จากเจ้าหน้าที่รัฐออกหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินหลวงทับที่ดินของราษฎร ที่ครอบครองทำประโยชน์ทำเกษตรกรรม ซึ่งมีจำนวนเนื้อที่กว่า ๒,๖๐๐ ไร่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบไม่มีที่ดินทำกินจำนวน ๗๖๐ ราย ที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านดังกล่าว ได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือ เพื่อแก้ไขปัญหามาแล้ว ๑ ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งการมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในครั้งนี้ เพื่อเร่งรัดให้ทางจังหวัดแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยมี นายประภาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัด จังหวัดนครราชสีมา เข้ามารับเรื่องจากชาวบ้านพร้อมรับปากจะเร่งนำเรื่องที่ชาวบ้านได้รับความ เดือดร้อนเสนอทางจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป ด้าน นายพรศิวะ ธนโชติกิตติพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตรวจสอบอำนาจรัฐ แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลหนองหลัก อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาไม่มีที่ดินทำกิน เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ออกหนังสือที่ดินหลวงทับที่ดินของประชาชน ซึ่งเป็นที่ทำการเกษตรของประชาชนในพื้นที่มานานแล้ว ทั้งนี้ ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า การออกหนังสือที่ดินหลวงทับที่ดินของราษฎรในครั้งนี้ น่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีการรู้เห็นกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มนายทุนในพื้นที่ ในการจะหวังผลประโยชน์ในการหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ ดังนั้น จึงอยากให้ทางจังหวัดเข้ามาตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหา




นางสาวอริสา เคนดา/นิสิตฝึกงาน/ข่าว/พิมพ์ ไพชยนต์ คลังสิน ตรวจทาน 4 มิ.ย. 56/com7

วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย เตรียมจัดนครราชสีมา เดือนกันยายน นี้

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ในช่วงเดือนกันยายนนี้ จังหวัดนครราชสีมาจะได้เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย หลังจากถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก

จังหวัดนครราชสีมา เตรียมจัดการแข่งขันรายการใหญ่ระดับเอเชียอีก 1 รายการ คือ วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 13 - 21 กันยายน 2556 นายสุวัฒน์ ลิปตพัลลพ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้มีการพูดคุยกับคณะตัวแทนของจังหวัดนครราชสีมา ในการปรึกษาหารือการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก ซึ่งนอกเหนือจากนั้น ได้มีการสรุปถึงการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียด้วยว่าจะให้ จังหวัดนครราชสีมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอีก เนื่องด้วยองค์ประกอบความพร้อมหลายๆด้าน ซึ่งนาย สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จะได้มีหนังสือถึง ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

อนึ่งสนามจัดการแข่งขัน จังหวัดนครราชสีมา มีการเสนอสนามเอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์นครราชสีมา และ โรงยิมส์ชาติชายฮออล์ เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน

ผวจ.นม. แจงพร้อมแล้วเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุ 14-16 มิย.๕๖ ที่จะถึงนี้

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเกียรติจาก กรมพลศึกษา ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุ ประจำปี ๒๕๕๖ ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ นั้น

กรรมการทุกฝ่ายรายงานที่ประชุมว่าพร้อมแล้ว การแข่งขันกำหนดจัดระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ และสนามกีฬากีฬาภายในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งการแข่งขันกีฬาฯ ดังกล่าว มีจังหวัดที่ส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน ๗๗ จังหวัด โดย กรมพลศึกษา สนับสนุนงบประมาณให้จังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินการเป็นค่าเตรียมการดำเนินการ และเป็นเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกคน

สำหรับการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุนี้ นักกีฬาจะมีทั้ง หญิง – ชาย อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้น ( ปี ๒๔๙๖ ) การแข่งขันไม่ได้มุ่งความเป็นเลิศทางการกีฬา แต่มุ่งให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ด้วยการมุ่งเน้นการท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ที่คณะเดินทางผ่าน แล้วเขียนรายงานเพื่อนำมาเบิกเป็นค่าเดินทาง โดยทุกคนจัดให้พักที่โรงแรมในตัวเมืองนครราชสีมา กีฬาที่จัดให้มีการแข่งขันมี ๙ ชนิดกีฬา คือ กรีฑา , กอล์ฟ , แบดมินตัน , เปตอง , ลีลาศ , วู้ดบอล , หมากรุกไทย ร้องเพลงคาราโอเกะ และ แข่งขันแอโรบิคมวยไทย 

มทส. ทำบุญสังฆทานใหญ่แด่ครูใหญ่ ผู้ไร้วิญญาณ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จัดพิธีทำบุญสังฆทานใหญ่ รับร่างครูใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2556 เพื่ออุทิศส่วนกุศล และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อครูผู้ไร้วิญญาณ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา (พ.ค.)

 อาจารย์ ดร.วุฒิ ด่านกิตติกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร เป็นประธานในพิธีและกล่าวสดุดีถึงความเสียสละของครูใหญ่ คือ ผู้อุทิศร่างกายเมื่อเสียชีวิตแล้วเพื่อเป็นวิทยาทานต่อการศึกษาของนักศึกษา แพทย์ นับเป็นผู้ที่มีความเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ เพราะถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว ก็ยังอุทิศร่างกายของตนให้เป็นประโยชน์แก่การศึกษา เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้เข้าใจเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ ทำให้นักศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการรักษา ซึ่งการเสียสละนี้เท่ากับเป็นการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พลตรีหญิงวณิช วรรณพฤกษ์ คณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มทส. บอกว่า "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดย สำนักวิชาแพทยศาสตร์ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ และสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ จัดพิธีทำบุญสังฆทานใหญ่หรือพิธีรับร่างอาจารย์ใหญ่เป็นประเพณีปฏิบัติทุกปี เพื่อรำลึกถึงพระคุณและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่ออาจารย์ใหญ่ ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาและประกอบการเรียนการสอนของหลักสูตรแพทยศาสตร บัณฑิตและพยาบาลศาสตรบัณฑิต อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจให้กับนักศึกษา สำหรับในปีการศึกษา 2556 ในการศึกษากายวิภาคศาสตร์ มทส. ได้รับความร่วมมือจาก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบร่างอาจารย์ใหญ่ รวม 15 ร่าง และร่างโครงกระดูก จำนวน 1 โครง จากการบริจาคร่างกายของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอมอร ทัศนศร ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารและอาจารย์ของ มทส. โดยนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 จะได้ศึกษากายวิภาคศาสตร์จากร่างกายของอาจารย์ใหญ่เป็นเวลาหนึ่งปี และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาระดับชั้นคลินิก เพื่อการตรวจรักษาผู้ป่วยต่อไปในอนาคต

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัด

วันนี้ (4 มิ.ย. 56) ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณฯ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 14 เดินทางมาตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และการแก้ไข ปัญหาภัยของจังหวัดนครราชสีมา และรับฟังรายงานผลการดำเนินงานต่างๆ ของทางจังหวัด จากนายอุกริช พึ่งโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยภายหลังจากการรับฟังรายงานการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในด้าน ต่างๆ นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ลงพื้นที่เทศบาลมุขมนตรี อ.เมือง บ้านท่ากระสังฆ์ ต.หัวทะเล และบ้านพะเนาว์ ต.จอหอ เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานในโครงการกองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและ ชุมชนผ(SML)ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนจะลงพื้นที่ อ.โนนไทย เพื่อติดตามโครงการเลี้ยงจิ้งหรีดสร้างรายได้ และโครงการผลิตถ้วยน้ำดื่ม ตามโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 

ยุติธรรมกาฬสินธุ์เตรียมจัดโครงการยุติธรรมทางเลือกต้นแบบวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ณ โรงแรมริมปาว

นายประเสริฐ สงขาว ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดกาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กระทรวงยุติธรรม ได้กำหนดจัดโครงการสำคัญตามแผนปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรมระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556"โครงการยุติธรรมทางเลือกต้นแบบ” ในวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2556 ณ ห้องทศพร โรงแรมริมปาว อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดชุมชนต้นแบบที่นำงานยุติธรรมทางเลือกเข้า มาใช้ในชุมชนอย่างเข้มแข็งและให้ประชาชนเลือกที่จะใช้ยุติธรรมทางเลือกในการ แก้ปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นและก่อให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์และสังคมที่สงบสุขและยั่งยืน สำหรับการจัดโครงการดังกล่าวนี้มีวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้เรื่อง งานยุติธรรมทางเลือกกับสังคมไทย, เครือข่ายยุติธรรมชุมชนกับยุติธรรมทางเลือก, บทบาทหน้าที่ของเครือข่ายยุติธรรมชุมชน และกิจกรรมกลุ่มตั้งคณะกรรมการเครือข่ายยุติธรรมชุมชน
 


ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ทุ่มทุนผลักดันพัฒนาบึงอร่ามเป็นศูนย์กลาง OTOP แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนและกีฬา

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เผยว่า ตามที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้วางยุทธศาสตร์พัฒนาบึงอร่าม อำเภอยางตลาด เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดนั้น ขณะนี้การดำเนินการได้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ และสามารถเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการได้ประมาณเดือนกรกฎาคม 2556 โดยกำหนดไว้เป็นโซน ประกอบด้วย โซนอาหาร โซนต้นไม้ ผลไม้ยืนต้น โซนเครื่องแต่งกาย และโซน OTOP ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการแสดงความจำนงเข้ามาขายสินค้าเป็นจำนวนมากแล้ว และในอนาคตจะได้จัดเป็นแหล่งเผยแพร่ทางวัฒนธรรม ศิลปกรรมต่าง ๆ ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ของดีกาฬสินธุ์ เข้าไปอยู่ในบริเวณเดียวกัน สำหรับจุดแข็งในการพัฒนาบริเวณบึงอร่ามเป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้นประกอบด้วย บริเวณบึงอร่ามเป็นจุดที่เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ที่เชื่อมโยงจากเวียดนาม ลาว ไทย พม่า เป็นพื้นที่อยู่จุดศูนย์กลางระหว่างจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และมีสถานที่ออกกำลังกายทั้งสวนเฉลิมพระเกียรติ สนามกอล์ฟไดโนซอร์ล ขนาด 18 หลุมมาตรฐานอยู่ในแหล่งเดียวกัน และอนาคตทางจังหวัดได้มีโครงการสร้างหาดทรายเทียมสำหรับท่องเที่ยวและพัก ผ่อน

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตอันใกล้ผู้ที่ต้องการพักผ่อน ท่องเที่ยว เล่นกีฬากอล์ฟ หาซื้อสินค้าของดีกาฬสินธุ์ทุกประเภท และหารับประทานอาหารที่ขึ้นชื่อ อร่อย ต้องมารับบริการที่แหล่งท่องเที่ยวบึงอร่าม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เท่านั้น
 



สุรพล คุณภักดี / ข่าว

ขนส่งกาฬสินธุ์ออกหน่วยบริการประชาชนที่โรงเรียนนาเชือกวิทยาคม อ.ยางตลาด วันที่ 6 มิถุนายนนี้

นางวิไลลักษณ์ ศรีวณิชชากร ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ จะจัดหน่วยออกร่วมให้บริการประชาชน ร่วมกับจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามโครงการ "จังหวัดกาฬสินธุ์ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ครั้งที่ 20/2556 ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2556 ณ โรงเรียนนาเชือกวิทยาคม บ้านนาแก หมู่ที่ 6 ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สำหรับบริการที่สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ จะออกไปให้บริการประชาชน ได้แก่ เปิดรับต่อภาษีรถเก๋ง รถตู้ รถปิกอัพ และรถจักรยานยนต์ โดยแนบหลักฐาน คือสมุดคู่มือจดทะเบียนรถหรือภาพถ่ายฯ หลักฐานประกันภัย และใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน เฉพาะรถยนต์ที่ใช้งานมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป และรถจักยานยนต์ที่ใช้งานมาแล้วตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังให้บริการแนะนำการดำเนินการทางทะเบียนรถยนต์อีกด้วย และพี่น้องประชาชนท่านใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายทะเบียนรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ หมายเลขโทรศัพท์ 043-821703-4 ต่อ 14 ในวันและเวลาราชการ
 



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

จ.กาฬสินธุ์เร่งแก้น้ำท่วมและการจราจรในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

ผู้ว่าราชการจังหวัด กาฬสินธุ์ เรียกประชุมผู้บริหารเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัดใน เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หลังเกิดปัญหาหนัก  เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัดในเขตเทศบาลเมือง กาฬสินธุ์ หลังเกิดปัญหาน้ำท่วมและการจราจรติดาขัดหนัก เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยเกิดน้ำท่วมขังในถนนหลายสาย เช่น ถนนทุ่งศรีเมือง บริเวณสี่แยกป่าไม้ และที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ และนอกจากนั้นยังส่งผลให้การจราจรในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ตัดขัดอย่างหนัก นานกว่าชั่วโมง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ที่ประชุมได้ระบุสาเหตุของปัญหามาจากการระบายน้ำไม่ทัน จึงได้แก้ปัญหาในเบื้องต้นด้วยการขุดลอก ร่องระบายน้ำ และลอกท่อระบายน้ำตามเส้นทางการระบายน้ำ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนในระยะยาวจะแก้ไขท่อระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และแก้ไขแนวท่อระบายน้ำให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมมากยิ่งขึ้น ส่วนการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดนั้นมีแนวทางการแก้ไขหลายแนวทาง เช่น จะมีการปรับเปลี่ยนการจาราจรให้มีการเดินรถทางเดียวในชั่วโมงเร่งด่วนบนถนน หลายสาย เช่น ถนนภิรมย์ ถนนประดิษฐ์ และอีกหลายสายตามความเหมาะสม เพื่อให้การจรจาไหลลื่นมากขึ้น และนอกจากนั้นจะได้มีการปรับเปลี่ยนเวลาของสัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องการกับ จราจรที่หนาแน่นในแต่ละเส้นทาง
 



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ ข่าว

โรงเรียนกัลยาณวัตรรักษาแชมป์ตอบปัญหาประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น จัดตอบปัญหาประชาธิปไตยปีที่ 3 Young DPR Award ” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเยาวชน และประชาชนทั่วไป ในเรื่องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข มีตัวแทนนักเรียนจาก 9 โรงเรียนเข้าร่วมแข่งรอบคัดเลือกระดับจังหวัดตามโครงการประชาสัมพันธ์ส่ง เสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ประจำปี 2556 โดยมีนายเสรี จูบุญส่ง ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิด ที่ห้องประชุมเสียงแคน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น สำหรับกิจกรรมมีการแข่งขันตอบปัญหาประชาธิปไตย และการจำลองการหาเสียงเลือกตั้งของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ กระตุ้นจิตสำนึกและตระหนักถึงสิทธิหน้าที่ของตนเอง ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ได้เข้าเรียนรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ร่วมกันในเรื่องของการเมืองการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยแก่เยาวชน และเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ ระบอบประชาธิปไตย รวมถึงการแสดงออกตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างถูกต้องเหมาะสม ผลการแข่งขันทีมชนะเลิศได้แก่โรงเรียนกัลยาณวัตร รับเงินรางวัล 3,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยเงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับสองได้แก่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนและโรงเรียนหนองเรือวิทยา ได้ เงินรางวัล จำนวน 1,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร และรางวัลชมเชยอีก 5 โรงเรียนได้แก่โรงเรียน เทศบาลวัดกลาง โรงเรียนเทพศิรินทร์ขอนแก่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการขอนแก่น โรงเรียนนครขอนแก่น และโรงเรียนขามแก่นนคร สำหรับโรงเรียนกัลยาณวัตร ที่ชนะเลิศการแข่งขันในระดับจังหวัดขอนแก่นจะเป็นตัวแทนจังหวัดขอนแก่นเข้า แข่งขันตอบปัญหาประชาธิปไตยในระดับเขตร่วมกับอีก 11 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ในวันที่ 25 มิถุนายน 2556 ซึ่งสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่นจะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันที่โรงเรียนขามแก่นนครชิงเงินทุนการศึกษา รางวัลที่ 1 หนึ่งหมื่นบาทพร้อมโล่รางวัล ซึ่งปีที่แล้วโรงเรียนสกลราชวิทยาลัย จังหวัดสกลนครได้แชมป์ไปครองส่วนกัลยาณวัตรได้รองแชมป์    

ผู้ว่าฯขอนแก่นนำคณะต้อนรับการตรวจเยี่ยมทูบีนัมเบอร์วันระดับทองที่โรงรียนขามแก่นนคร

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00 น.  นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำคณะทูบีนัมเบอร์จังหวัดขอนแก่นต้อนรับคณะอนุกรรมการ ตรวจประเมินโรงเรียนขามแก่นนคร นำโดย นางกฤษณา จันทร์ตรี ผู้เชี่ยวชาญกรมสุขภาจิต อนุกรรมการ กระทรวงสาธารณสุขและคณะ ที่เดินทางลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ตรวจประเมินโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น เพื่อเก็บคะแนนการประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศที่โรงเรียนขามแก่นนครซึ่งเข้ารับการประเมินเป็นโรงเรียนทูบี นัมเบอร์วันระดับทอง โดยมีนายวีระเดช  ซาตา อำนวยการโรงเรียนขามแก่นนคร นำนักเรียนเข้ารับการเสนอผลงาน มีการแสดงของชมรมทูบีนัมเบอร์วันสร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการที่มี ตรวจประเมินด้วย      

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนใหม่

นายอภินันท์ จันทรังษี  อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนใหม่

ประวัติ
บ้านเกิด นครศรีธรรมราช
ครอบครัว ภรรยา ชื่อ นางน้อยคนิษฐ์ จันทรังษี
มีบุตรชาย 1 คน 

ประวัติการศึกษา
- ระดับปริญญาตรี : ศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ระดับปริญญาโท : พัฒนาบริหารศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

การฝึกอบรม
- โรงเรียนนายอำเภอรุ่นที่ 34 พ.ศ. 2536
-โรงเรียนนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 36 พ.ศ. 2540
-วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วปอ.2550 ประจำปี 2550-2551

การรับราชการ
2522 ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.3) อ.คง จ.นครราชสีมา
2531 หัวหน้างานการเมืองและมวลชนสัมพันธ์ กองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง
2535 ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม
2537 นายอำเภอหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์
2539 หัวหน้าฝ่ายประสานงานมวลชน สำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง
2540 นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
2542 นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
2545 ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ สำนักอำนวยการอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง
2547 ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กรมการปกครอง
2548 ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง
2549 รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
2550 รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี
2551 รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2555 รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
2555 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์
มิ.ย. 2556 อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์


เกียรติประวัติ
- พ.ศ. 2532 รางวัล "ข้าราชการตัวอย่าง" กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย
- พ.ศ. 2534 รางวัล"ข้าราชการพลเรือนดีเด่น” กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- พ.ศ. 2544 รางวัล "ข้าราชการพลเรือนดีเด่น” จังหวัดฉะเชิงเทรา
- พ.ศ. 2545 รางวัล "นายอำเภอของประชาชน” (นายอำเภอแหวนเพชร) กระทรวงมหาดไทย
- พ.ศ. 2545 รางวัล "คนดีของแผ่นดิน” คณะกรรมการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
- พ.ศ. 255 0รางวัล "คนดีศรีราม” คณะกรรมการคัดเลือก มหาวิทยาลัยรามคำแหง