วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จังหวัดนครพนม งานวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  ประธานพิธีเปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ  จังหวัดนครพนม  ประจำปี 2557  ได้จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและวางพุ่มดอกไม้สด  ถวายสักการะพระรูปและกว่าสดุดีพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์  พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย ที่ทรงจัดตั้งสหกรณ์  เพื่อช่วยกู้ฐานะชาวนาให้พ้นจากภาวะหนี้สินพอกพูน  ทรงส่งเสริมให้มีการทดลองจัดตั้งสหกรณ์เป็นแห่งแรก  คือ สหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้  จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2459 ทรงดำรงตำแหน่งนายทะเบียนสหกรณ์พระองค์แรก ทรงเป็นผู้นำในการเผยแพร่อุดมการณ์สหกรณ์  การช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นที่แพร่หลายทั่วราชอาณาจักร  ทรงส่งเสริมให้มีการกำหนดระเบียบ ข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ต่างๆ  ควบคุม ตรวจสอบ บัญชี การรับส่งเงิน  แนะนำวิธีการดำเนินงานสหกรณ์รวมทั้งพัฒนางานสหกรณ์จนมีการตั้งสหกรณ์อื่นๆ ส่งผลให้เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์พ้นจากภาวะหนี้สิน  มีทุนในการประกอบอาชีพ มีความเป็นอยู่ที่พอกิน ก่อให้เกิดผลดีในการพัฒนาประเทศ

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  กล่าวว่า สหกรณ์ถือเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า  ด้วยการช่วยเหลือสมาชิกในการประกอบอาชีพ ยกระดับรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  โดยสหกรณ์ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่พึ่งของมวลสมาชิกได้  จากนั้นได้มอบเกียรติบัตรและเงินอุดหนุนแก่สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มอาชีพที่เข้าร่วมโครงการภายใต้การแนะนำของกรมส่งเสริมสหกรณ์

กลุ่มวัยรุ่นขว้างระเบิดหน้าเวทีหมอลำคณะประถมบันเทิงศิลป์ หลังเกิดการเขม่นกันขณะออกเต้นกวนใจเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 25 คน

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 03.30 น. เกิดเหตุวัยรุ่นปาระเบิดหน้าเวทีหมอลำรายนี้เกิด พ.ต.ท.ปัตตะพงษ์ พัฒนวิบูลย์ พงส.ผนพ.สภ.สุวรรณภูมิ รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่หน้าเวทีหมอลำ ภายในวัดบ้านตาแหลว หมู่ 14 ตำบลนาใหญ่ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ และอาสากู้ภัยต่าง ๆ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในวัด บริเวณหน้าเวทีหมอลำคณะประถมบันเทิงศิลป์ พบหลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร กว้าง 30 เซ็นติเมตร ใกล้กันมีเศษเสื้อผ้ากระจายอยู่ พร้อมรองเท้าตกอยู่หลายคู่ ท่ามกลางชาวบ้านและคณะหมอลำจำนวนมากต่างยืนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีได้ช่วยลำเลียงส่ง รพ.สุวรรณภูมิ และ รพ.ร้อยเอ็ด ก่อนหน้าแล้วจำนวน 28 คน และในจำนวนนี้มีผู้ถูกสะเก็ดระเบิดทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตจำนวน 3 ราย ประกอบด้วยนางวิริวรรณ สีบัวลา อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 4 นายสราวุฒิ อุตลา อายุ 16 ปี บ้าน เลขที่ 147 หมู่ที่ 4 และนายอภิสิทธิ์ แสงเนตร อายุ 16 ปี บ้านเลขที่ 43 หมู่ 4 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

ต่อมาเช้าวันเดียวกัน พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุและดูความคืบหน้าของคดี ซึ่ง พ.ต.อ.สุริเดช วรรณสุทธิ์ ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ รายงานว่า ก่อนเกิดเหตุทางวัดได้จัดงานสมโภชน์ เฉลิมฉลองอุโบสถหลังใหม่ โดยการจ้างหมอลำคณะประถมบันเทิงศิลป์มาทำการแสดง และคณะกรรมการจัดงานได้มีการเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มแข็ง มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหาร อปพร.และผู้นำชุมชนดูแลความสงบกว่า 50 นาย ระหว่างเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่หมอลำออกเต้ย เดินกลอน จังหวะเร้าใจ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ข้างเวทีซ้ายขวา ออกเต้นโชว์ลีลาอย่างสนุก และจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทหลายครั้ง กระทั่งมีฝ่ายตรงข้ามอาศัยจังหวะซุ่มอยู่ในมุมมืดขว้างระเบิดเข้าไปข้างเวทีด้านขวาเสียงระเบิดดังสนั่น เป็นเหตุให้กลุ่มที่เต้น และนั่งอยู่ใกล้เคียงถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดขว้างสังหาร เอ็ม 67 เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวมรวมเป็นหลักฐานและติดตามมือขว้างระเบิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ประเสริฐ อินทา/ข่าว

กองพลทหารราบที่ 6 ตรวจความพร้อมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ก่อนออกปฏิบัติการช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยแล้ง

วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 10.00 น. ที่หน้ากองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด พันเอก ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 6 ได้เป็นประธานพิธีตรวจความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ก่อนออกปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยมีรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 6 ผู้บังคับหน่วย นายทหาร นายสิบ นำรถบรรทุกน้ำนับ 10 คันเข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันในหลายพื้นที่ของประเทศไทย กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง และกำลังขยายวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลกระทบให้แก่ประชาชน ประชาชนขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ได้มีคำสั่งให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เตรียมพร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ จึงให้หน่วยที่จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ ดำเนินการตรวจความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ และส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีความพร้อมสำหรับออกให้บริการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

กกต. เตรียมทำหนังสือเชิญพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมสัมมนาหาทางออกจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย มีท่าทีปฏิเสธร่วมสัมมนาหาทางออกการจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ ที่จังหวัดสงขลา ว่า อยากให้ทราบวัตถุประสงค์และรอจดหมายเชิญจาก กกต.ก่อนออกมาปฏิเสธ ซึ่งในวันสัมมนา กกต.จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจมาประเมินสถานการณ์ และกำหนดแผนงานให้การจัดการเลือกตั้งประสบความสำเร็จ

ผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงผ่านช่อง 5 ขอทุกฝ่ายเร่งหารือหาทางออกให้ประเทศ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ โดยระบุว่า ความขัดแย้งในปัจจุบัน มีความซับซ้อนมากกว่าความขัดแย้งเมื่อปี 2553 จึงมีความจำเป็นเร่งด่วน ที่ทุกฝ่ายต้องหารือร่วมกัน โดยเลิกใช้กฎหมายมาต่อสู้กัน แต่ให้ยึดประเทศชาติเป็นหลัก ยืนยัน ทหารไม่ต้องการใช้อาวุธมาต่อสู้กับคนไทยด้วยกัน โดยไม่จำเป็น ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบัน กฎหมายรัฐธรรมนูญ ยังมีผลบังคับใช้ จึงเกรงว่า หากมีการต่อสู้ระหว่างประชาชน และเกิดการสูญเสียขึ้นอีก ประเทศชาติจะล่มสลายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ คาดหวังว่า ทุกฝ่ายจะนำข้อเท็จจริงมาพิสูจน์ทราบให้ชัดเจนขึ้น ไม่ให้เกิดความสับสน หรือถูกนำไปขยายเป็นความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดการยอมรับร่วมกัน และนำไปสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมด ต้องเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว ภายใต้สันติวิธี ก่อนที่ทุกระบบในประเทศไทย จะสูญเสียไปอย่างถาวร

กขช.เตรียมเสนอแนวทางช่วยเหลือชาวนาเพิ่มเติมต่อที่ครม.วันนี้

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการระบายข้าวเดือนมกราคมที่ผ่านมา สามารถระบายได้ 1 ล้านตัน คาดว่าเดือนกุมภาพันธ์ระบายได้อีก 1 ล้านตัน ขณะนี้รัฐบาลยังมีสตอกข้าวอีก 12-13 ล้านตัน จะเร่งระบายให้ได้เดือนละ 1 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 10,000 ล้านบาทต่อเดือน และจากการระบายข้าวที่ผ่านมา ได้ส่งเงินคืนให้กระทรวงการคลัง ในฤดูการผลิตปี 2556/2557 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ถึงมกราคม 2557 และจากนี้จะทยอยส่งเงินจากการระบายข้าวให้ได้เดือนละประมาณ 8,000 ล้านบาท

ททท. เดินหน้าแผนเชิงรุกปี 58 เน้นเจาะกลุ่มสินค้าหลัก

นายพงศธร เกษสำลี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แผนการตลาดหลักปี 2558 จะเริ่มให้ความสำคัญการเจาะตรงไปยังกลุ่มสินค้าหลัก ที่ต้องการส่งเสริมมากขึ้น โดยให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องบูรณาการส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยว สำหรับปี 2557 จะเริ่มจัดทำแผนโครงการนำร่องเป็นตัวอย่าง โดยเลือกส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มลักชัวรี พร้อมมอบหมายให้ ททท.สำนักงานโฮจิมินห์ จัดทำแผนตลาด คาดว่าภายในปีนี้จะเห็นเป็นแผนเชิงปฏิบัติการ

กระทรวงพาณิชย์ จัดงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไทย เพื่อยืนยันความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ

นางดวงกมล เจียมบุตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้ว่าประเทศจะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปในทิศทางใด แต่ผู้จัดงานยังคงกำหนดจัดงาน แสดงสินค้าและเฟอร์นิเจอร์ TIFF 2014 ตามกำหนดเดิม วันที่ 12-16 มีนาคม ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพค เมืองทองธานี คาดว่าวันเจรจาธุรกิจจะมียอดขายประมาณ 520 ล้านบาท

กรมการศาสนา จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทภาคฤดูร้อน

นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า กรมการศาสนาจัดโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุ สามเณร และบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2557 โดยเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธ ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่กรมการศาสนา โทร 0-2-422-8793

จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานประเพณีขึ้นเขาสวาย ประจำปี 2557 ณ บริเวณวนอุทยานพนมสวาย

นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า  จังหวัดสุรินทร์มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งผูกพันกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองมาอย่างยาวนานแห่งหนึ่ง คือ เขาสวาย หรือ พนมสวาย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาสวาย ในพื้นที่ตำบลนาบัวอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 20 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเนินเขาเตี้ยๆ ติดต่อกันรอบๆ บริเวณมีเวิ้งน้ำใหญ่ มีทิวทัศน์สวยงามพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ของทุกปี ต้นหมากหม้อหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ต้นอั๊ดจรู๊ก จะออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม เขาสวายมียอดเขาที่สำคัญ 3 ยอด โดยยอดเขาที่ 1 พนมเปร๊าะ หรือเขาชาย สูงประมาณ 220 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสุรินทรมงคล, ปราสาทหินพนมสวายพร้อมบาราย 3 ลูก และเจดีย์ศิลาแลงโบราณ จำนวน 1 องค์ ยอดเขาที่ 2 พนมสรัย หรือเขาหญิง สูงประมาณ 210 เมตร ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลารามและยังมีสระน้ำโบราณจำนวน 2 ลูกที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเต่าศักดิ์สิทธิ์จำนวน 2 ตัว ยอดเขาที่ 3 พนมกรอล หรือเขาคอก เป็นที่ตั้งศาลาอัฎฐมุข, ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง, สถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล และเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่กวนอิม ส่วนชื่อเขาคอกนั้นได้มาจากอดีตบนเขาลูกนี้จะมีศิลาแลงวางเป็นชั้นๆ รูปทรงสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะคล้ายคอก จึงเรียกกันว่า "เขาคอก”

เขาสวาย มีความสำคัญต่อชาวสุรินทร์มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล กล่าวคือ เมื่อถึงเดือนห้าของทุกปี บรรพบุรุษชาวสุรินทร์จะถือว่าเป็นงานประเพณีหยุดงาน ในภาษาเขมรเรียกว่า ตอม ภาษาลาวเรียกว่า ขลำ ภาษากวยเรียกว่า ตรัย ซึ่งการหยุดงานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ตอมตู๊จ ซึ่งหมายถึงวันหยุดงานเล็ก จะมีการหยุดงาน และทำงานเพียง 3 วัน นับตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 5 ช่วงที่ 2 ช่วงตอมธม หมายถึง วันหยุดงานใหญ่ จะมีการหยุดทำงานทั้งหมด 7 วัน นับแต่วันแรม 1 ค่ำถึงแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งประเพณีการหยุดงานตามช่วงระยะเวลาดังกล่าว ชาวสุรินทร์มีความเชื่อว่าต้องหยุดการทำงานทั้งหมด หากใครไม่หยุดทำงานก็จะมีอันเป็นไป ประกอบกับในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ ดังนั้น ชาวสุรินทร์จะหยุดงานและพากันเดินทางไปขึ้นเขาสวายเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลชีวิตต่อตนเองและครอบครัว และในปี 2549 การจัดงานประเพณีขึ้นเขาสวายได้เพิ่มกิจกรรมการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสุรินทร์เคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล 9 สิ่ง ประกอบด้วย พระใหญ่หรือพระพุทธสุรินทรมงคล, รอยพระพุทธบาทจำลอง, อัฐิหลวงปู่ดุลย์ อตุโล, พระพุทธรูปองค์ดำ, หลวงปู่สวน, ปราสาทหินพนมสวาย, ศาลเจ้าแม่กวนอิม, เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหากกราบไหว้ครบทั้ง 9 สิ่งจะเป็นการเสริมสิริมงคลชีวิตได้เป็นอย่างดี

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันช้างไทย 88 ไอยรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน ประจำปี 2557

 นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2541 กำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันช้างไทย โดยได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2541 ซึ่งเป็นการริเริ่มของคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงานองค์การภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทย คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น และผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้างไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติที่ช้างเคยได้รับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติหรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์

ดังนั้น เพื่อเป็นการยกย่องและให้เกียรติช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุรินทร์มาตลอดกว่า 50 ปีที่ผ่านมา จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดงานวันช้างไทยขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม เป็นประจำทุกปี และในปี พ.ศ. 2557 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของช้างไทยที่ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณูปการเป็นอย่างยิ่งต่อแผ่นดินไทย จึงมีแนวความคิดที่จะจัดงานวันช้างไทย ปะจำปี 2557  ภายใต้ชื่อว่า "วันช้างไทย 88 ไอยรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน” ให้ยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการเฉลิม         พระเกียรติเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมีกิจกรรมดังนี้

- วันที่ 12 มีนาคม 2557 ชมขบวนแห่คุณูปการช้างสารไทย จำนวน 88 เชือก และริ้วขบวนรถที่ประดับประดาตกแต่งสวยงามอลังการ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป โดยเริ่มเคลื่อนขบวนจากบริเวณหลังสถานีรถไฟสุรินทร์มายังอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง

- วันที่ 13 มีนาคม 2557 เชิญร่วมตักบาตรบนหลังช้าง โดยพระสงฆ์ 88 รูปนั่งบิณฑบาตรบนหลังช้าง ซึ่งมีที่เดียวในโลก ณ อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งจะเริ่มพิธีตักบาตรบนหลังช้าง ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ช้างที่ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณูปการต่อผืนแผ่นดินไทย

สกู๊ป “วนอุทยานพนมสวาย “ อดีตภูเขาไฟที่หลับแล้ว ถูกพัฒนาให้เป็นแห่ลงท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา

วนอุทยานพนมสวาย อดีตภูเขาไฟที่หลับแล้ว ถูกพัฒนาให้เป็นแห่ลงท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา ไม่ไกลจากตัวเมือง และในทุกปีจะมีประเพณี ขึ้นเขาสวาย เคาะระฆังพันใบ กราบไหว้สิ่งศักดิ์ ชาวสุรินทร์นับหมื่นพร้อมใจหยุดงานแห่ทำบุญคึกคัก

วันนี้ (25 ก.พ.57 จ.สุรินทร์จะมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง อาทิ หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม รวมถึงโบราณสถานต่างๆ เช่น ปราสาทศรีขรภูมิ อ.ศรีขรภูมิ ปราสาทตาควาย และกลุ่มปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรักแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา ที่สำคัญอีกแห่ง คือวนอุทยานพนมสวาย ตั้งอยู่ที่ตำบลนาบัว อำเภอเมือง ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 22 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายสุรินทร์-ปราสาท (ทางหลวงหมายเลข 214) ระยะทาง 14 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นภูเขาเตี้ย ๆมียอดเขาอยู่3ยอดใน และอดีตกาลพนมสวายแหง่นี้เคยเป็นภูเขาไฟแต่ได้ดับลงมานานแล้ว

สำหรับยอกเขายอดที่ 1 มีชื่อว่ายอดเขาชาย (พนมเปราะ) สูง 210 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมสวาย มีบันไดก่ออิฐถือปูนขึ้นถึงวัด ระหว่างทางเรียงรายไปด้วยระฆังจำนวน 1,080 ใบให้ผู้มาเยือนเคาะเพื่อความเป็นสิริมงคล มีสระน้ำกว้างใหญ่และร่มรื่นด้วยต้นไม้ บนเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสุรินทรมงคล เป็นพระพุทธรูปสีขาว ปางประทานพร ภปร. ขนาดหน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 21.50 เมตร มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุที่บริเวณพระนาภี

ยอดที่ 2 มีชื่อว่ายอดเขาหญิง (พนมสรัย) สูงระดับ 228 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลาราม ทางวัดได้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์ขนาดกลางประดิษฐานบนยอดเขา และยังมี สระน้ำโบราณ 2 สระที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเต่าศักดิ์สิทธิ์

ยอดที่ 3 มีชื่อว่าเขาคอก (พนมกรอล)พุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์ได้ จัดสร้างศาลาอัฏฐะมุข เป็นอนุสรณ์ฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เพื่อประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง จากยอดเขาชายมาประดิษฐานไว้ในศาลา โดยเริ่มทำการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2524 และสำเร็จบริบูรณ์ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2525 ใกล้กันนั้นมีสถูปที่เก็บอัฐิธาตุพระราชวุฒาจารย์ หรือหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระเกจิสายวิปัสสนา วัดพนมศิลาราม และศาลเจ้าแม่กวนอิม ให้ประชาชนได้เคารพบูชา

ในอดีตบรรพบุรุษชาวสุรินทร์ถือว่าเขาพนมสวายเป็นสถานที่แสวงบุญ โดยการเดินทางไปขึ้นยอดเขาในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งเป็นวันหยุดงานตามประเพณีของชาวจังหวัดสุรินทร์มาแต่โบราณกาล และจวบจนปัจจุบันชาวสุรินทร์ยังถือปฏิบัติเรื่อยมา ผู้ที่มาเยือนเขาพนมสวายจะได้สักการะ9สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเพื่อ ความเป็นสิริมงคล คือพระใหญ่หรือพระพุทธ สุรินทรมงคล รอยพระพุทธบาทจำลอง อัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ หลวงปู่สวน ปราสาทหินพนมสวาย ศาลเจ้าแม่กวนอิม เต่าศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในทุกปีจะมีการจัดงานประเพณี ขึ้นเขาสวาย เคาะระฆังพันใบ กราบไหว้สิ่งศักดิ์ จัดขึ้นโดยจังหวัดสุรินทร์ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ได้ร่วมกันจัดขึ้น สำหรับประเพณีขึ้นเขาสวาย กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญของชาวจังหวัดสุรินทร์มาแต่โบราณ เมื่อถึงเดือนห้าของทุกปี บรรพบุรุษชาวสุรินทร์จะถือว่าเป็นงานประเพณีหยุดงาน ซึ่งประเพณีการหยุดงานตามช่วงระยะเวลาดังกล่าว

ในทุกปีชาวจังหวัดสุรินทร์จะร่วมมือร่วมใจจัดงานบุญประเพณีขึ้นเขาสวาย ประกอบกับวันดังกล่าว ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ ดังนั้นชาวสุรินทร์จะหยุดงานและพากันเดินทางไปขึ้นเขาสวายเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลชีวิตต่อตนเองและครอบครัว โดยจะพากันประกอบกิจกรรมกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาสวายหลัก ทั้ง 9 คือ พระใหญ่หรือพระพุทธสุรินทรมงคล รอยพระพุทธบาทจำลอง อัฐิหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ หลวงปู่สวน ปราสาทหินพนมสวาย ศาลเจ้าแม่กวนอิม เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ และร่วมเคาะระฆัง 1,080 ใบ เพื่อเป็นสิริมงคลด้วย ซึ่งเมื่อถึงเดือนห้าของทุกปีบรรพบุรุษชาวสุรินทร์จะถือว่าเป็นงานประเพณีหยุดงาน ซึ่งการหยุดงานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ตอมตู๊จ ซึ่งหมายถึงวันหยุดงานเล็ก จะมีการหยุดงาน ทำงานเพียง 3 วัน นับตั้งแต่วันขึ้น 1ค่ำ ถึงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือนห้า ช่วงที่ 2 ช่วงตอมธม หมายถึง วันหยุดใหญ่ จะมีการหยุดทำงานทั้งหมด 7 วัน นับแต่วันแรม 1 ค่ำ ถึงวันแรม 7 ค่ำ เดือนห้า ซึ่งประเพณีการหยุดงานตามช่วงระยะเวลาดังกล่าว ชาวสุรินทร์มีความเชื่อว่า ต้องหยุดการทำงานทั้งหมด หากใครไม่หยุดทำงานก็จะมีอันเป็นไปและในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ชาวจังหวัดสุรินทร์จะร่วมมือร่วมใจจัดงานบุญประเพณีขึ้นเขาสวายขึ้น ประกอบกับวันดังกล่าวถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ

ต่อมาเมื่อปี 2551 จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราช โดยได้ดำเนินการจัดหาระฆัง จำนวน 1,080 ใบ จากวัดทุกวัดในจังหวัดสุรินทร์ และวัดสำคัญอีก 10 วัด นำไปติดตั้งบริเวณทางขึ้นบันไดไปนมัสการพระพุทธสุรินทรมงคล และบริเวณรอบ ๆ สถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ สวยงาม ปรากฏต่อสื่อสาธาณะอย่างกว้างขวาง และคาดว่าน่าจะเป็นจำนวนมากที่สุดในโลกอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้เคาะระฆังเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนั้นในวันขึ้นเขาสวาย จะมีกิจกรรมการประกวดขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ขบวนรถบุปผาชาติ ขบวนธงชาติธงเฉลิมฉลองฯ ตวง (ตุง) ขบวนรถแห่นางงาม และการประกวดขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น หมู่บ้าน จาก 4 องค์การบริหารส่วนตำบล และในทุกปีจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานและเที่ยวชมงานนับหมื่นคน

นางถวิล ทรงงาม อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยววนอุทยานพนมสวาย กล่าวว่า ที่เขาสวายแห่งนี้ นอกจากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องงเที่ยวได้กราบไหว้หลายจุดแล้ว ยังมีสถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักต้องเข้าไปกราบไหว้ขอพรกัน ซึ่งในอดีต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชนินาถ เคยเสด็จ มาพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ดูลย์ อตุโล เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2558 จากนั้นจึงได้สร้างเป็นสถานที่บรรจุอัฐิหลวงปู่ดูลย์ให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพรจนถึงปัจจุบัน จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยงเชิงพุทธศาสนาแห่งนี้นอกจากจะได้ความสุขแล้วยังได้บุญอีกด้วย พร้อมกับชมป่าไม้ธรรมชาติไปพร้อมๆกัน ซึ่งในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ อบจ.สุรินทร์กำลังพัฒนาสร้างทางเดินคอนกรีตขึ้นเขาสวาย อีกเส้นทาง โดยจะมีระฆังให้ประชาชนได้เคาะอักนับพันใบซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้อีกด้วย



อุทัย  มานาดี / รายงาน

โจรอาละวาดขโมยข้าวเปลือก รายที่สามในช่วงหนึ่งสัปดาห์

โจรอาละวาดขโมยข้าวเปลือก-ชาวนายังทุกข์ซ้ำโจรออกอาละวาดขโมยข้าวเปลือกในยุ้งเก็บข้าว ต่อเนื่อง พบเป็นรายที่สามในช่วงหนึ่งสัปดาห์ พื้นที่อำเภอเดียวกัน ครั้งนี้ข้าวถูกขโมยไป จำนวน 2 ตัน มูลค่า 60,000 บาท

วันที่ 24 ก.พ.57 ที่บ้านเจ้าคุณ หมู่ 3 ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท ได้รับแจ้งจากนางอำนวย เหมือนจิตเวทย์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 188 บ้านเจ้าคุณ ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เข้ามาตรวจสอบยุ้งข้าว บ้านสวนใกล้ทุ่งนา พบว่าประตู้เข้าบ้านสวน ถูกโจรงัดแงะ เข้าไปภายในบ้านสวน เป็นที่ตั้ง ของยุ้งข้าว โจรได้เข้าไปงัดประตูยุ้งเก็บ ข้าวเปลือก หอมมะลิ กข 105 (กอขอ หนึ่งร้อยห้า) และได้ตักเอาข้าวเปลือกไป กว่า 2,000 กิโลกรัม หรือ 2 ตัน มูล กว่า 60,000 บาท ยุ้งเก็บข้าวตั้งอยู่บริเวณบ้านสวน ห่างจากชุมชนในหมู่บ้านราว 500 เมตร นางอำนวยได้นำ เข้าตรวจสอบ ประตูเข้าบ้านสวน พบว่าประตูถูกงัดแงะเอาน็อตที่ล็อคประตูไว้หลุดออก ก่อนจะนำรถยนต์ เข้ามาใกล้ยุ้งข้าว และได้งัดประตูยุ้งข้าวเก็บข้าวเปลือกเข้าไปขโมยตักข้าวเปลือกจำนวนมากขึ้นรถยนต์ หลบหนีไป

นางอำนวย บอกว่า ข้าวที่หายไป น่าจะมากกว่า 2 ตัน เพราะข้าวที่เก็บไว้ในยุ้งข้าวก่อนหาย ประมาณ 5 ตัน คิดเป็นเงินก็ประมาณ 60,000 บาท อย่างไรก็ตามในช่วงหนึ่งสัปดาห์ นี้ พบว่า โจรได้ออกอาละวาด ขโมยข้าวเปลือกในยุ้งข้าวชาวบ้าน ที่บ้านละเบิก ต.ตาเบา อ.ปราสาท ขโมยข้าวชาวบ้าน ไปสองราย ข้าวหายไป 24 กระสอบป่าน หรือสองตันเศษ มูลค่ากว่า 60,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ ซึ่งเหตุการณ์ขโมยข้าวในช่วงนี้เกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่เขตอำเภอปราสาท เท่านั้นเอง


อุทัย  มานาดี / รายงาน

แก๊งค์ทุบกระจกอาละวาดต่อเนื่อง

แก๊งค์ทุบกระจกอาละวาดต่อเนื่อง ก่อเหตุตระเวนทุบกระจกรถยนต์ ฉกพระดังมีราคา ตร.เมืองช้างเร่งไล่ล่า 2 แก๊ง นำพระเกจิดังขายเอาเงินไปเที่ยวเตร่ พนันบอลและซื้อยาเสพติดเสพ

วันที่ (24 ก.พ.57) พ.ต.ท.พัสกร โพธาราม ร้อยเวรสอบสวนคดีอาญา สภ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุทุบกระจกรถยนต์แล้วขโมยพระเลี่ยมทองหนัก 1 บาทและพระเกจิอาจารย์ดัง อีกนับ 10 องค์ ที่บ้านเช่า หน้าร้านI.Q เคมีคอล ขายอุปกรณ์ดับเพลิง เลขที่ 551/2 บ้านสลักได ม.2 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงนำกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรตัน สีดำ หมายเลยทะเบียน บท.7857 มหาสารคาม ถูกทุบที่กระจกข้างด้านขวาฝั่งคนขับ จนกระจกแตกละเอียด พบร่องรอยลายนิ้วมือชัดเจนที่บานประตูทั้งสองข้างและที่กระจกหน้า ขณะคนร้ายส่องเพื่อมองหาว่ามีพระดังในตัวเก๋งหรือไม เมื่อพบและสบโอกาสจึงได้ทำการใช้ของแข็งแหลมทุบกระจกแล้วกระชากเอาพวงพระเลี่ยมทองและพระเกจิอาจารย์ที่ห้อยไว้นับสิบองค์หลุดออกจากหูกระจกส่องมองหลังแล้วหลบหนีไป

นางกัลยานิล โพธิ์พรหม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 ม.2 ต.เหลา อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ภรรยาผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อคืนตนได้ยินเสียงประมาณเกือบ 24.00 น.ได้ยินเสียง ตุบ-ตุบ 2-3ครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรเลยนอนต่อ พอดีวันนี้พากันตื่นสายเพราะเป็นวันหยุด ตื่นเกือบ 9 โมงเช้า มองออกมาก็เจอรถตัวเองถูกทุบกระจก แฟนบอกว่าไม่เคยเจอเหตุแบบนี้มาก่อน และไม่เคยเปิดไฟหน้าบ้านทิ้งไว้ ของที่หายไปมีพระสีวลีเลี่ยมทองคำ หนัก 1 บาท และพระที่อยู่หน้ารถทุกหลวงปู่ล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ถูกขโมยเอาไปหมดเกลี้ยง เป็นพวงห้อยกับกระจกส่องมองหลังส่วนพระสีวลีเลี่ยมทองอยู่ในถุงสีดำในพวงที่ถูกขโมยไปด้วย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ เผยพอทราบตัวคนร้ายแล้ว เป็น 2 แก๊งวัยรุ่นติดยา ตระเวนทุบกระจกรถยนต์ขโมยพระเกจิอาจารย์ดัง นำไปขายเอาเงินไปเที่ยวเตร่ เล่นพนันบอลและซื้อยาเสพติดเสพ พร้อมกับขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงเซียนพระทั้งหลายและประชาชน โปรดใช้ความระมัดระวังหรืองดเช่าพระกับกลุ่มวัยรุ่น อาจเป็นการรับของโจรเพราะพระได้มาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป


อุทัย  มานาดี / รายงาน

จ่อยิงหนุ่มตายข้างถนนใกล้มอเตอร์ไซค์แต่งคู่ใจ

ยิงหนุ่มสุรินทร์ ตายข้างถนนใกล้มอเตอร์ไซค์แต่งคู่ใจ หลังเลิกกับเมียไม่นาน ตำรวจตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็นทั้งเรื่องชู้สาวและแก๊งค์แต่งรถมอเตอร์ไซค์ซิ่ง เตรียมล่าตัวคนร้าย

วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 03.05 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ทวี แย้มศรี ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งว่าพบศพคนเสียชีวิตอยู่ริมถนนหน้าศาลาริมทาง เยื้องบริษัท ไอคิวโมเดิร์นเทรด จำกัด จำหน่าย วัสดุก่อสร้าง สุขภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ แยกสุรินทร์-สังขะ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นำตำรวจรุดมายังที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25 ปี เนื่องจากไม่พบเอกสารใดๆในร่างกาย พบเพียงโทรศัพท์มือถือและหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกเขียนไว้ในเศษกระดาษติดอยู่ในกระเป๋ากางเกง สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด เนื่องจากถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด โดย จนท.ตำรวจสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นปืนปากกา ที่บริเวณหน้าอกเหนือราวนมขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น นูโว สีขาว หมายเลขทะเบียน ขตว 866 สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในลักษณะจอดตั้งขาตั้งไว้ปกติ

จากการสอบปากคำผู้ที่มามุงดูเหตุการณ์ซึ่งพบว่ามีหญิงสาววัยรุ่นรายหนึ่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อนามสกุลระบุว่า รู้จักกับแฟนสาวของผู้ตาย ซึ่งเคยมีลูกด้วยกันกับผู้ตายอายุประมาณ 2 ปี ก่อนจะเลิกรากันได้ประมาณ 2 เดือนและต่างคนต่างมีไปมีคนใหม่ ก่อนที่จะมาเกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าวขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

พ.ต.ท.ประกิจ เหลืองวิลัย รอง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า จากการสันนิษฐานในเบื้องต้น คนร้ายน่าจะนัดหมายผู้ตายมาเจรจาปัญหาที่ไม่ลงตัวอะไรสักอย่าง จากนั้นเมื่อเจรจาไม่ลงตัวคนร้ายจึงใช้อาวุธปืน ซึ่งยังไม่ทราบชนิดต้องรอผลตรวจของแพทย์อีกครั้งยิงผู้ตายก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ต่อไป


อุทัย  มานาดี / รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานประเพณีขึ้นเขาสวาย ประจำปี 2557 ณ บริเวณวนอุทยานพนมสวาย

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งผูกพันกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองมาอย่างยาวนานแห่งหนึ่ง คือ เขาสวาย หรือ พนมสวาย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาสวาย ในพื้นที่ตำบลนาบัวอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 20 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเนินเขาเตี้ยๆ ติดต่อกันรอบๆ บริเวณมีเวิ้งน้ำใหญ่ มีทิวทัศน์สวยงามพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ของทุกปี ต้นหมากหม้อหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ต้นอั๊ดจรู๊ก จะออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม เขาสวายมียอดเขาที่สำคัญ 3 ยอด โดยยอดเขาที่ 1 พนมเปร๊าะ หรือเขาชาย สูงประมาณ 220 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสุรินทรมงคล, ปราสาทหินพนมสวายพร้อมบาราย 3 ลูก และเจดีย์ศิลาแลงโบราณ จำนวน 1 องค์ ยอดเขาที่ 2 พนมสรัย หรือเขาหญิง สูงประมาณ 210 เมตร ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลารามและยังมีสระน้ำโบราณจำนวน 2 ลูกที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเต่าศักดิ์สิทธิ์จำนวน 2 ตัว ยอดเขาที่ 3 พนมกรอล หรือเขาคอก เป็นที่ตั้งศาลาอัฎฐมุข, ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง, สถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล และเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่กวนอิม

ส่วนชื่อเขาคอกนั้นได้มาจากอดีตบนเขาลูกนี้จะมีศิลาแลงวางเป็นชั้นๆ รูปทรงสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะคล้ายคอก จึงเรียกกันว่า "เขาคอก” เขาสวาย มีความสำคัญต่อชาวสุรินทร์มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล กล่าวคือ เมื่อถึงเดือนห้าของทุกปี บรรพบุรุษชาวสุรินทร์จะถือว่าเป็นงานประเพณีหยุดงาน ในภาษาเขมรเรียกว่า ตอม ภาษาลาวเรียกว่า ขลำ ภาษากวยเรียกว่า ตรัย ซึ่งการหยุดงานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ตอมตู๊จ ซึ่งหมายถึงวันหยุดงานเล็ก จะมีการหยุดงาน และทำงานเพียง 3 วัน นับตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 5 ช่วงที่ 2 ช่วงตอมธม หมายถึง วันหยุดงานใหญ่ จะมีการหยุดทำงานทั้งหมด 7 วัน นับแต่วันแรม 1 ค่ำถึงแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งประเพณีการหยุดงานตามช่วงระยะเวลาดังกล่าว ชาวสุรินทร์มีความเชื่อว่าต้องหยุดการทำงานทั้งหมด หากใครไม่หยุดทำงานก็จะมีอันเป็นไป ประกอบกับในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ

ดังนั้น ชาวสุรินทร์จะหยุดงานและพากันเดินทางไปขึ้นเขาสวายเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลชีวิตต่อตนเองและครอบครัว และในปี 2549 การจัดงานประเพณีขึ้นเขาสวายได้เพิ่มกิจกรรมการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสุรินทร์เคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล 9 สิ่ง ประกอบด้วย พระใหญ่หรือพระพุทธสุรินทรมงคล, รอยพระพุทธบาทจำลอง, อัฐิหลวงปู่ดุลย์ อตุโล, พระพุทธรูปองค์ดำ, หลวงปู่สวน, ปราสาทหินพนมสวาย, ศาลเจ้าแม่กวนอิม, เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหากกราบไหว้ครบทั้ง 9 สิ่งจะเป็นการเสริมสิริมงคลชีวิตได้เป็นอย่างดี

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันช้างไทย 88 ไอยรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน ประจำปี 2557

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2541 กำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันช้างไทย โดยได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2541 ซึ่งเป็นการริเริ่มของคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงานองค์การภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทย คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น และผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้างไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติที่ช้างเคยได้รับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติหรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ ดังนั้น เพื่อเป็นการยกย่องและให้เกียรติช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุรินทร์มาตลอดกว่า 50 ปีที่ผ่านมา

จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดงานวันช้างไทยขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม เป็นประจำทุกปี และในปี พ.ศ. 2557 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของช้างไทยที่ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณูปการเป็นอย่างยิ่งต่อแผ่นดินไทย จึงมีแนวความคิดที่จะจัดงานวันช้างไทย ปะจำปี 2557 ภายใต้ชื่อว่า "วันช้างไทย 88 ไอยรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน” ให้ยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมีกิจกรรมดังนี้ - วันที่ 12 มีนาคม 2557 ชมขบวนแห่คุณูปการช้างสารไทย จำนวน 88 เชือก และริ้วขบวนรถที่ประดับประดาตกแต่งสวยงามอลังการ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป โดยเริ่มเคลื่อนขบวนจากบริเวณหลังสถานีรถไฟสุรินทร์มายังอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง- วันที่ 13 มีนาคม 2557 เชิญร่วมตักบาตรบนหลังช้าง โดยพระสงฆ์ 88 รูปนั่งบิณฑบาตรบนหลังช้าง ซึ่งมีที่เดียวในโลก ณ อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งจะเริ่มพิธีตักบาตรบนหลังช้าง ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ช้างที่ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณูปการต่อผืนแผ่นดินไทย

สสจ.สุรินทร์ ขอให้ผู้สูงอายุดูแลสุขภาพและออกกำลังกายที่เหมาะสมป้องกันโรคข้อเสื่อม

 นายสอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดสุรินทร์มีประชาชนที่มีอายุยืนยาว 101 ปีขึ้นไป สูงถึง 78 คน เป็นชาย 30 คน หญิง 48 คน จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันคนจะมีอายุยืนยาวขึ้น จึงจำเป็นควรหันมาใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ควรใส่ใจโรคข้อเสื่อมให้มากขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อป่วยเป็นโรคข้อและกระดูก มักไม่ใส่ใจรักษา เข้าใจว่าเป็นโรคธรรมดาทั่วไป และคิดว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดจนทำให้กระดูกเสื่อมลงเรื่อยๆ และอาจพิการถาวรได้ สำหรับการป้องกันที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้ข้อต่อของร่างกายมีการเคลื่อนไหว ได้แก่ การเดิน การว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก อย่างไรก็ดีควรเลือกวิธีการออกกำลังกาย ที่เหมาะสมกับร่างกายตัวเอง สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคข้อแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ลดหรืองดอาหารที่ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ง่าย เช่น อาหารที่มีรสหวาน รสมัน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้ข้อได้รับความกระทบกระเทือน หรือเกิดการกระแทก เช่น ยกหรือแบกของหนักมากๆ หรือเล่นกีฬาที่มีการวิ่งกระโดด หมั่นบริหารข้อ และควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงตลอดไป

สคร.5 แนะวัณโรครักษาหาย

 นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 ว่า เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เล็กมาก สามารถเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย ต่อมน้ำเหลือกระดูก เยื่อหุ้มสมอง แต่ที่พบและเป็นปัญหามากที่สุด วัณโรคปอด มักพบในคนแก่ คนที่ร่างกายอ่อนแอจากการเป็นโรคอื่นๆ มากก่อน ติดต่อกันได้โดยเมื่อผู้ป่วยไอ จาม ออกมา เชื้อวัณโรคจะล่องลอยอยู่ในอากาศได้นาน 7-10 วัน เมื่อคนทั่วไปสูดเอาละอองเสมหะของผู้ป่วยที่ไอ จาม หรือหายใจรด ก็จะได้รับเชื้อโรคนี้ โดยมีอาการไข้ต่ำๆเรื้อรัง มักมีเหงื่อออกในตอนกลางคืนถึงแม้อากาศเย็น มีอาการไอเกิน 3 สัปดาห์ ช่วงแรกจะไอแห้งๆ ต่อมาจะมีเสมหะออกมาบางครั้งมีเลือดปนเสมหะออกมาด้วย สคร.5 ยังกล่าวต่อไปว่า ปีนี้มีคำขวัญในการรณรงค์ว่า "วัณโรค ค้นให้พบ จบด้วยหาย” การรักษาวัณโรค สามารถรักษาได้ ด้วยการกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง ในระยะ 2 เดือน แรกหลังจากเริ่มรักษา ผู้ป่วยควรนอนแยกห้องกับสมาชิกในครอบครัว รวมถึงแยกภาชนะ ถ้วยชามอาหาร เสื้อผ้าแยกซักต่างหาก ควรงดเหล้า บุหรี่ สวมผ้าปิดจมูกป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น และเปลี่ยนผ้าปิดจมูกบ่อยๆ บ้วนเสมหะลงในภาชนะที่มีฝา ปิดมิดชิด จัดบ้านให้อากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อให้แสงแดดส่องถึง และหมั่นนำเครื่องนอนออกตาก

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดรับสมัครนักเรียนศิลปชีพ รุ่นที่ 80

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมว่า ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดรับสมัครนักเรียนศิลปชีพ รุ่นที่ 80 สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยและยากจนให้มีโอกาสเข้ารับการอบรมความรู้ เพื่อนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้กับตนเอง และครอบครัวในสาขาอาชีพต่างๆ จำนวน 31 แผนก ระหว่างเดือนมีนาคม-ตุลาคม 2557 รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 15 มีนาคม 2557 ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นางชนันนัทธ์ ช้างหมื่นไวย โทรศัพท์ 08-9849 4472

สวท.สุรินทร์ เชิญชวนร่วมงาน“รวมพลคนรักวิทยุ เซราะเซร็น” เนื่องในวันวิทยุกระจายเสียงไทย

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุรินทร์(สวท.สุรินทร์) เชิญชวนร่วมงาน"รวมพลคนรักวิทยุ เซราะเซร็น” เนื่องในวันวิทยุกระจายเสียงไทย พบปะนักจัดรายการวิทยุรุ่นเก่า- ใหม่
นางผุสดี เสริมใหม่ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วันวิทยุกระจายเสียงไทย ตรงกับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สืบเนื่องจากเป็นวันที่ประเทศไทย มีการกระจายเสียงทางวิทยุเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2473 ด้วยพระดำริของ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน บิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย สวท.สุรินทร์ ร่วมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงทั้งสถานีวิทยุหลัก และสถานีวิทยุชุมชน ตลอดจนนักจัดรายการวิทยุจังหวัดสุรินทร์ จัดงาน "วันวิทยุกระจายเสียงไทย” ขึ้น ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงการกำเนิดก่อตั้งวิทยุกระจายเสียงขึ้นในประเทศไทย การแสดงให้เห็นถึงบทบาทของวิทยุกระจายเสียงที่มีต่อสังคม

ตลอดจนเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของบุคลากรวงการวิทยุกระจายเสียงในจังหวัดสุรินทร์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะมีนักจัดรายการวิทยุในจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก จนถึงนักจัดรายการวิทยุรุ่นใหม่ มาร่วมงานกันเป็นครั้งแรก โดยกิจกรรมในภาคเช้า เวลา 11.00 น. จะมีพิธีทางศาสนา ทำบุญเลี้ยงพระ การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยุกระจายเสียงไทย ภาคบ่าย จัดการเสวนา " ก้าวต่อไปวิทยุกระจายเสียงไทย" เริ่มเวลา 13.30 น. จากนั้น ร่วมแข่งขันกีฬาสัมพันธ์ ส่วนภาคค่ำ งานเลี้ยงสังสรรค์ "รวมพลคนรักวิทยุ เซราะเซร็น” ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จึงขอเชิญชวนนักจัดรายการวิทยุ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในวงการวิทยุ และผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ เปิดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557 มุ่งสู่ความเป็นสากล

วันนี้ ( 25 ก.พ.57)  ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ นายเอกรัฐ อังคสิทธิ์ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิด มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557 โดยจังหวัดสุรินทร์ได้กำหนดแผนพัฒนาจังหวัด และมอบให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ดำเนินงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านเกษตรอินทรีย์ ให้ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการ ได้มีช่องทางการตลาด สร้างเครือข่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ถึงภาพลักษณ์เกษตรอินทรีย์ของจังหวัดสุรินทร์ อีกทั้งยังเป็นการเสริมองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านเกษตรอินทรีย์แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การเสวนา การสัมมนา เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์และการตลาดเกษตรอินทรีย์เมื่อเข้าสู่ AEC การจัดนิทรรศการด้านการเกษตรอินทรีย์ ทั้งภาครัฐและเอกชน การแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ยา อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม จากทั่วประเทศกว่า 80 คูหา มาแสดงและจัดจำหน่ายให้ประชาชนผู้ที่สนใจได้เลือกซื้อ และ การแสดงบันเทิงตลอดทั้งวัน รวมทั้งมีการจัดทัวร์แหล่งเกษตรอินทรีย์ ของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้ชมการดำเนินงานด้านวิถีเกษตรอินทรีย์ จนประสบความสำเร็จในอีกด้านหนึ่งของการทำการเกษตร โดยงาน "มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2557” จะมีไปจนถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 นี้

สวท.สุรินทร์ จัดงานวันวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุรินทร์(สวท.สุรินทร์) ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน "รวมพลคนรักวิทยุ เซราะเซร็น” เนื่องในวันวิทยุกระจายเสียงไทย พบปะนักจัดรายการวิทยุรุ่นเก่า- ใหม่ วันนี้

(25 ก.พ.57) ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถ.เทพสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นางผุสดี เสริมใหม่ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าวิทยุชุมชน เจ้าหน้าที่และมิตรรักแฟนเพลง ร่วมงาน วันวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ "รวมพลคนรักวิทยุ เซราะเซร็น” ซึ่งในช่วงเช้าได้มีพิธีสงฆ์ ได้นิมนต์พระมาฉันท์เพล จากวัดเทพสุรินทร์ จำนวน 9 รูป ร่วมทำบุญเพื่อเป็นศิริมงคลแก่เจ้าหน้าที่และผู้มาร่วมงาน จากนั้นในช่วงกลางวันได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าวิทยุชุมชน กว่า 20 สถานี และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมงาน จำนวนมาก

ในส่วนของช่วงบ่าย นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้มาเป็นประธานเปิดงาน วันวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ "รวมพลคนรักวิทยุ เซราะเซร็น” และร่วมวงการเสวนา " ก้าวต่อไปวิทยุกระจายเสียงไทย" สำหรับ "วันวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ”ตรงกับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สืบเนื่องจากเป็นวันที่ประเทศไทย มีการกระจายเสียงทางวิทยุเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2473 ด้วยพระดำริของ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน บิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย สวท.สุรินทร์ ร่วมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงทั้งสถานีวิทยุหลัก และสถานีวิทยุชุมชน ตลอดจนนักจัดรายการวิทยุจังหวัดสุรินทร์ จัดงาน "วันวิทยุกระจายเสียงไทย” ขึ้น ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงการกำเนิดก่อตั้งวิทยุกระจายเสียงขึ้นในประเทศไทย การแสดงให้เห็นถึงบทบาทของวิทยุกระจายเสียงที่มีต่อสังคม ตลอดจนเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของบุคลากรวงการวิทยุกระจายเสียงในจังหวัดสุรินทร์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

จากนั้น ร่วมแข่งขันกีฬาสัมพันธ์ ส่วนภาคค่ำ งานเลี้ยงสังสรรค์ "รวมพลคนรักวิทยุ เซราะเซร็น” ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จึงขอเชิญชวนนักจัดรายการวิทยุ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในวงการวิทยุ และผู้สนใจ ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์



อุทัย มานาดี / รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ ประชุมเตรียมการรับเสด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ

 นายนิรันดร์ กัลยณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ จะเสด็จทรงปฏิบัติพระกรณียกิจประทานถุงยังชีพแก่ราษฎร ตำรวจตระเวนชายแดน และประทานทุนการศึกษา พร้อมทั้ง อุปกรณ์กีฬาแก่นักเรียน ณ โรงเรียนบ้านระไซร์ ตำบลตั้งใจ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2557 โดยประทับแรม ณ เรือนรับรองอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง โครงการชลประทานสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ โดยกำหนดประชุมวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมเกียรติศักดิ์-รักษ์วินัย ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ จึงขอเชิญประชุมในวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

จังหวัดศรีสะเกษ จัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ สหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งมายังสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษว่า สำนักงานสหกรร์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดศรีสะเกษ และชมรมผู้จ้ดการสหกรณ์ในจังหวัดศรีสะเกษ กำหนดจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2557 ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ ถนนศรีสะเกษ-กันทรลักษ์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการถวายราชสักการะและปลูกจัติสำนึกให้สมาชิกสหกรณ์และครอบครัว เกิดความรักความสรัทธา ในสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของ พระราชวรวงค์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย” โดยมีกิจกรรมพิธีการทางศาสนา ,พิธีถวายสักการะพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์กไทย” ,การรับบริจาคโลหิต,นิทรรศการเผยแพร่ความรู้ด้านสหกรณ์ การสาธิตผลิตภัณฑ์อินทรีย์ การการมอบเกียรติบัตรแก่สถาบันเกษตรกรที่มีการดำเนินกิจกรรมดีเด่นด้านต่าง ๆ

 คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2527 กำหนดให้ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันสหกรณ์แห่งชาติ”เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย”



สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์

กงสุลใหญ่แห่ง สปป.ลาว เข้าเยี่ยมคาราวะผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ

วันนี้ (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗) เวลา ๐๙.๓๐ น. นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ นายบุญยืน คำหงส์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับนายบุนสี วงบัวสี กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ประจำขอนแก่น ราชอาณาจักรไทย ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ เข้าคาราวะ หารือ ในการสื่อสาร เชื่อมความสัมพันธไมตรี สมัครสมาน ในการปฎิบัติหน้าที่ร่วมกันทั้งสองประเทศ ให้มั่นคง ราบรื่น ปึกแผ่นยิ่งๆขั้นไป นายบุนสี วงบัวสี กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ประจำขอนแก่น กล่าวว่า ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี ๒๕๕๘ นั้น ขอให้การค้าชายแดน ไทย-ลาวทั้งสองประเทศ ระหว่างจังหวัดที่ติดกับชายแดนของแขวงต่างๆ จงเคารพกฎหมายการค้าระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ซื่อตรง ซื่อสัตย์ ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว การค้าขาย ยั่งยืนสืบไป  


สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ

เทศบาลนครอุบลฯ เชิญร่วมส่งผลงานการออกแบบตราสัญลักษณ์ อุบลราชธานี 222 ปี

นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จะครบกำหนดการก่อตั้ง 222ปี ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2557 ดังนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงการก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี และประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้พร้อมใจกันจัดงาน อุบลราชธานี 222 ปีขึ้น ในระหว่างวันที่ 11 – 16 กรกฎาคม 2557 เพื่อเป็นส่งเสริมการมีร่วมของประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานีจึงได้จัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ อุบลราชธานี 222 ปีขึ้น

โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้ ตราสัญลักษณ์ (โลโก้) มีความทันสมัย สวยงามทางศิลปะชัดเจน มีเอกลักษณ์และมีความเป็นสากล สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และมีพร้อมในการไปต่อยอดเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือใช้ในสิ่งพิมพ์อื่นๆต้องประกอบด้วยข้อความ "อุบลราชธานี 222 ปี” ที่แสดงอัตลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี ห้ามลอกเลียนแบบและดัดแปลงตราสัญลักษณ์ของหน่วยงานอื่น ผู้ที่ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 1 หมื่นบาท และผลงานดังกล่าวถือเป็นลิขสิทธิ์ของเทศบาลนครอุบลราชธานี

จึงขอเชิญชวน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ร่วมส่งผลงานการออกแบบตราสัญลักษณ์ อุบลราชธานี 222 ปี เข้าร่วมประกวด ได้ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุบลราชธานี โทร 045-246060-2 ต่อ 129,139



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ จัดงาน "84 ปี วันวิทยุกระจายเสียงไทย" เพื่อระลึกถึงพระบิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จัดงาน "84 ปี วันวิทยุกระจายเสียงไทย" ระลึกถึงพระบิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานในพิธีสักการะพระรูป พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระบิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย เนื่องในงาน 84 ปี วันวิทยุกระจายเสียงไทย ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธี เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณพระบิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย และความสำคัญของการเริ่มต้นกิจการกระจายเสียงในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2473 โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 7.00 น. มีพิธีพราหมณ์ พิธีสักการะพระรูปพระบิดาฯ และพิธีสงฆ์ นอกจากนี้ ยังจัดนิทรรศการ และรายการพิเศษ "84 ปี วิทยุกระจายเสียงไทย...ก้าวต่อไปสู่วิทยุดิจิตอล" ออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เอฟเอ็ม 92.5 เมกะเฮิรตซ์ เอเอ็ม 819 ,891 ,837 กิโลเฮิรตซ์ ตั้งแต่เวลา 8.00 - 10.00 น. สำหรับการจัดงานปีนี้ สวท.งดรับกระเช้า โดยขอรับเป็นเงินบริจาค เพื่อสมทบทุนมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้ทุกจังหวัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งหมอกควันและไฟป่า รองรับภัยแล้งและปัญหาไฟป่าหมอกควัน

นายอนุสรณ์ แก้วกังวาน รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยแล้งและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว 13 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ประกาศภัยแล้งมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคตะวันออก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นับว่าไม่รุนแรงเนื่องจากปีที่ผ่านมามีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 33 จังหวัด และยังพบปัญหาจากฝนทิ้งช่วง น้ำทะเลหนุนสูง มีความเค็มของน้ำเข้าพื้นที่ชุมชน อากาศแห้ง มีลมพัดรุนแรงก่อนเข้าหน้าร้อน ประกอบกับมีการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร ซึ่งเป็นสาเหตุไฟป่าและหมอกควัน มีพื้นที่เสี่ยงไฟป่าและหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ ส่วนคุณภาพอากาศขณะนี้ ยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ให้ทุกจังหวัดรวมถึงระดับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง หมอกควัน และไฟป่า เพื่อจัดทำระบบบัญชีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งที่ชัดเจน ให้การช่วยเหลืออย่างตรงเป้า เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือประชาชน ทั้งภัยแล้ง ไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงให้ประชาชนเตรียมภาชนะเก็บกักน้ำ ซ่อมแซมจัดหาอุปกรณ์เก็บน้ำให้เพียงพอ รณรงค์ให้เกษตรกรปลูกพืชน้ำน้อย ตามแผนหน่วยงานด้านการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน 

ทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ To Be Number One ที่จังหวัดสุรินทร์

ค่ำวานนี้ ( 24 ก.พ. 2557 )  ทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จทรงเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ To Be Number One ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ณ โรงเรียนปราสาทวิทยาคาร อ ปราสาท จ. สุรินทร์ โดยมีนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำหัวหน้าส่วนราชการ และพสกนิกรชาวจังหวัดสุรินทร์เฝ้ารับเสด็จ ทั้งนี้เสด็จทรงติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพระราชทานขวัญกำลังใจแก่เยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และจะทรงเปิด ชมรม TO BE NUMBER ONE และ ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อ. ปราสาท จ. สุรินทร์


ประนนท์ ไม้หอม/ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ พร้อมในการจัดงานวันข้าวหอมมะลิ และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7

โดยจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 1-9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสาธารณเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอเมืองสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลผลิตของข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์ และผ้าไหมสุรินทร์ ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในจังหวัดสุรินทร์ โดยมีกิจกรรมต่างๆเช่นการแสดงนิทรรศการเกษตรอินทรีย์ การแสดงนิทรรศการข้าสสารหอมมะลิอินทรีย์ การแสดงนิทรรศการผ้าไหม การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และการเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์ได้ประชุมหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อเช้าวันนี้วัน( 25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในภาพรวมแล้วทุกฝ่ายมีความพร้อมที่จะจัดงานในครั้งนี้


ประนนท์ ไม้หอม / ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

งาน "มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557"

สุรินทร์จัดงาน มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557 สร้างความเข้มแข็งด้านเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดให้เป็นรากฐานสู่สากล

วันที่ 25 ก.พ.57 ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ นายเอกรัตน์ อังคสิทธิ์ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิด มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ปี 2557 โดยจังหวัดสุรินทร์ได้กำหนดแผนพัฒนาจังหวัด และให้พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ดำเนินงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านเกษตรอินทรีย์ ให้ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการ ได้มีช่องทางการตลาด สร้างเครือข่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ถึงภาพลักษณ์เกษตรอินทรีย์ของจังหวัดสุรินทร์ อีกทั้งยังเป็นการเสริมองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านเกษตรอินทรีย์แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย           

ในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การเสวนา การสัมมนา เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์และการตลาดเกษตรอินทรีย์เมื่อเข้าสู่ AEC การจัดนิทรรศการด้านการเกษตรอินทรีย์ ทั้งภาครัฐและเอกชน การแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ยา อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม จากทั่วประเทศกว่า 80 คูหา มาแสดงและจัดจำหน่ายให้ประชาชนผู้ที่สนใจได้เลือกซื้อ และ การแสดงบันเทิงตลอดทั้งวัน รวมทั้งมีการจัดทัวร์แหล่งเกษตรอินทรีย์ ของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้ชมการดำเนินงานด้านวิถีเกษตรอินทรีย์ จนประสบความสำเร็จในอีกด้านหนึ่งของการทำการเกษตร โดยงาน "มหกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2557” จะมีไปจนถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 นี้



ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข  ข่าว ไวยวิทย์  สุขเก่า ภาพ

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดเวทีประชาคม ภายใต้โครงการบูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชน

วันนี้ (25 ก.พ.57 ) เวลา 10.30 น.ที่นิคมโรคเรื้อนอำนาจเจริญ นายอภิชาติ  งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธานจัดเวทีประชาคม ภายใต้โครงการบูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชน

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่องานควบคุมโรคเรื้อน ทำให้อัตราความชุกของโรคเรื้อนลดลงจนไม่เป็นปัญหาสาธารณสุขอีกต่อไป การดูแลฟื้นฟูสภาพผู้ได้รับผลกระทบจากโรคเรื้อนให้สามารถอยู่ในสังคมชุมชนได้อย่างปกตินั้น จะต้องมีการถ่ายโอนหรือบูรณาการกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่ในนิคมโรคเรื้อนให้หลอมรวมเข้าสู่ระบบปกติเช่นเดียวกับชุมชนโดยทั่วไป

ดังนั้น การพัฒนานิคมโรคเรื้อนอำนาจเจริญ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จึงเป็นการบูรณาการนิคมโรคเรื้อนสู่ชุมชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคเรื้อนและครอบครัวที่อาศัยอยู่ในนิคมโรคเรื้อน เข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขที่มีอยู่ในพื้นที่ขจัดความไม่เท่าเทียม ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ส่งผลให้ชุมชนรอบข้างมีทัศนคติที่ดีต่อสมาชิกที่อาศัยอยู่ในนิคมฯ และช่วยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคเรื้อนพร้อมครอบครัวได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับประชาชนในชุมชนทั่วไป ทั้งนี้การที่จะเป็นชุมชนปกติทั่วไปหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ป่วยและสมาชิกในนิคมอำนาจเจริญ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้เรียนเชิญหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อใช้ในการตัดสินใจครั้งนี้



                                                                                                                      กฤษดา  เนตรพันธ์/ข่าว/ภาพ                                                                           

ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองทัพบก พร้องด้วยคณะ ลงพื้นที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจเยี่ยม และติดตามผลการปฏิบัติงาน และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557 ) ณ ห้องประชุมโครงการศูนย์พัฒน าการเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พลเอกสถิต แจ่มจำรัส ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระรา ชดำริ กองทัพบก พร้อมด้วยคณะ เป็นประธานในการตรวจเยี่ยมติดตามผลการปฏิบัติงาน และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานฯ พร้อมกับรับฟังบรรยายสรุปขอ งโครงการศูนย์พัฒนาการเกษตร ภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอภูสิงห์ โดยมีนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, นายไพโรจน์ อินทร์แก้ว นายอำเภอภูสิงห์, นายสวัสดิ์ สมสะอาด ผู้อำนวยการโครงพัฒนาการเกษ ตรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อ ให้การต้อนรับ ซึ่งการตรวจเยี่ยมและติดตาม ผลการปฏิบัติงานนั้น เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงาน และแนวทางในการแก้ไข และรับฟังคำแนะนำ ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งตอบข้อซักถาม และมอบนโยบายและให้กำลังใจแ ก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในศูนย์ฯ

สำหรับศูนย์พัฒนาการเกษตรภู สิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น ในปี 2532 ด้วยจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับอนุญาตให้เข้าใช้พื้น ที่จัดตั้ง โครงการระบบผลติพลังงานชีวม วลในชนบท ปี 2533 โครงการดังกล่าวยุติลง กองกำลังสุรนารี จึงจัดตั้งเป็นศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่อพัฒนาอาชีพแก่ราษฎร ในพื้นที่ตามแนวชายแดน และโดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จเยี่ยมราษฎร เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 มีพระราชดำริว่า ให้ส่วนราชการต่างๆ ร่วมกันพิจารณาจัดตั้งศูนย์ พัฒนาการเกษตรแบบเบ็ดเสร็จขึ้น เพื่อช่วยเหลือราษฎร ประกอบอาชีพทำนาไม่ได้ผล โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนองพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นสถานที่ให้บริการทางด้า นวิชาการเกษตรและสนับสนุนพั นธุ์พืช พันธุ์สัตว์ แก่เกษตรกร เป็นศูนย์กลางสาธิต ฝึกอบรมและเป็นตัวอย่าง เผยแพร่ความรู้ทางด้านเกษตร  ให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้พัฒนาอาชีพทางการเกษตรของตนเ อง และเพื่อพัฒนาและยกระดับราย ได้ และคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ ให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ขึ้น ซึ่งมีพื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์ 21 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่เป้าหมายเร่งด่ว นอันดับที่ 1 พื้นที่ในเขตอำเภอภูสิงห์ 47 หมู่บ้าน คือหมู่บ้านโครงการทับทิมสย าม 04, 06, 07 เป็นหมู่บ้านเป้าหมายเร่งด่ วนอันดับ 2 หมู่บ้านนอกเขตอำเภอภูสิงห์  14 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านโครงการส่งเสริมศิล ปาซีพ และหมู่บ้าน ปชด.ไทย-กัมพูชา ในจังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิง ห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะ เกษ เป็นประธาน ซึ่งในศูนย์ฯ ได้ดำเนินโครงการ โดยคัดเลือกเมนูเด็ดของศูนย์ จำนวน 15 เมนู ประกอบด้วย การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวด อกมะลิ 105, การปลูกมะนาวนอกฤดู, การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ, การปลูกยางพารา, เกษตรทฤษฎีใหม่, ระบบวนเกษตร, การเลี้ยงปลานิลในกระชัง, การเลี้ยงกบ, การเพาะเห็ดในไม้วงศ์ยาง, การปลูกหวายเพื่อใช้ประโยชน์จากหน่อ, การผลิตผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ, การผลิตชาเขียวใบหม่อน, การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร (กล้วยตากอบน้ำผึ้ง และกล้วยกรอบเค็ม) และการเลี้ยงไก่พื้นเมืองใน ระดับครัวเรือน


ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ

ร้อยเอ็ด โครงการ “วัน RVP รักความปลอดภัยทางถนน (RVP Road Safety Day)”

จังหวัดร้อยเอ็ด โดยบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาร้อยเอ็ด ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง จัดโครงการ "วัน RVP รักความปลอดภัยทางถนน (RVP Road Safety Day)”  ณ บริเวณหน้าสำนักงาน บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาร้อยเอ็ด   เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุจากรถ หรือ จากการจราจร บนท้องถนน

เมื่อ ช่วงเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557  นายผดุงศักดิ์  พวงช้อย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด  เป็นประธานเปิดโครงการ "วัน RVP รักความปลอดภัยทางถนน (RVP Road Safety Day)”  เพื่อรณรงค์ลดปัญหาอุบัติเหตุจากรถ หรือ จากการจราจร  และได้กล่าวว่า นับว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียหายและ สูญเสีย ต่อร่างกาย ชีวิต ต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน อย่างมหาศาล โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการจราจรนั้น ได้แก่ คน – รถ  - ถนน – สภาพแวดล้อม โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดใน 4 ปัจจัยที่กล่าวมาคือ "คน” คนที่ขาดความพร้อมทางด้านร่างกาย คนที่ประมาท หรือ ขาดสติ และคนที่ขาดความรู้ความเข้าใจ และขาดจิตสำนึกในเรื่องของความปลอดภัย จากความสูญเสียของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รัฐบาลได้ประกาศให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ และ ได้ขยายระยะเวลาการดำเนินการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยออกไปอีก 3 ปี โดยให้ทุกภาคส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ และ ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ผลระยะยาว

กิจกรรม  ในวันนี้ ได้มีการรณรงค์ มอบหมวกนิรภัยฟรี สำหรับรถจักรยานยนต์ ให้กับผู้ที่สัญจรไป - มา ผ่านบริเวณ  ด้านหน้าของ บริษัท  กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาร้อยเอ็ด และจำหน่ายหมวกนิรภัยราคาถูก ใบละ 79 บาท เท่านั้น  เพื่อสร้างกระแสค่านิยมในการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยให้แก่เยาวชน และ ประชาชนโดยทั่วไป  มีองค์กรหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อป.พร และตำรวจจราจร  ร่วมกิจกรรม มากมาย



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ  กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

ร้อยเอ็ด มหกรรมสินค้าชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สู่ตลาดอาเซียน

เมื่อช่วงค่ำวันนี้ 24 กุมภาพันธ์  2557  นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมสินค้าชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด สู่ตลาดอาเซียน”  ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยการดำเนินงานของคณะกรรมการสินค้าชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด

 นางสาวพัชร์ชิสา  ไชยวีรวัฒน์ ผู้แทนคณะกรรมการดำเนินงานฯ  กล่าวว่า การ จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าชุมชนของจังหวัด เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ให้ใช้ภูมิปัญญาและทรัพยากรในชุมชนผลิตและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมีมาตรฐาน ตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้น อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นรวมไปถึงการส่งเสริมสินค้าทั้งหมดให้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายแก่นักท่องเที่ยวโดยกำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2557  นี้

นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  กล่าวว่า การจัดงาน "มหกรรมสินค้าชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด” นับว่าเป็นประโยชน์เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า OTOP ที่จะนำไปสู่การสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้แก้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ดให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นยังได้ใช้เวทีนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เรื่องการผลิตและการตลาด เพื่อนำไปปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาด นำที่จะนำเสนอสู่ประชาคมอาเซียน ต่อไป

นางสาวพัชร์ชิสา  ไชยวีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่สนใจ สามารถ เดินทางมาเลือกซ้อสินค้าได้ทุกวัน ณ บริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดร้อยเอ็ด  พร้อมรับชมกิจกรรมบนเวทีประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ 1) กิจกรรมรำวงย้อนยุค โดย ชมรมลีลาศเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดและการแสดงบนเวทีทุกคืน   2) การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตในแต่ละจังหวัด มีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นเข้าร่วมจำหน่าย จำนวน 90 ราย



คมกฤช   พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพกมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

เกิดเหตุระเบิดในงานฉลองพระอุโบสถวัดมีผู้เสียชีวิตทันที 3 ศพ บาดเจ็บ 28 ราย

 นายปณิธาน สุนารัตน์ นายอำเภอสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (25 ก.พ.57) ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น ณ บริเวณลานวัดบ้านหนองตาแหลว ตำบลนาใหญ่ อำเภอสุวรรณ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน และบาดเจ็บสาหัส 10 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 15 คน ผู้บาดเจ็บสาหัสส่งเข้ารักษาตัวพยาบาลที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยหลังทำบาดแผลได้กลับบ้านแล้ว ตั้งแต่เช้า

นายอำเภอสุวรรณภูมิ เปิดเผยด้วยว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นในคืนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่ประชาชนจำนวนมากกำลังเที่ยวงานฉลองพระอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งทางวัดหนองตาแหลวได้จัดขึ้น ทันทีที่เกิดเหตุกองพิสูจน์หลักฐานจากจังหวัดและอำเภอ ได้เข้าพิสูจน์หลักฐานการเกิดเหตุ และสันนิฐานว่า ผู้พกพาวัตถุระเบิดเข้ามาภายในงานเป็นวัยรุ่นชาย และซุกซ้อนระเบิดไว้ในกระเป๋า เล็ดรอดการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และด้วยความเผลอเลอมือไปกดสลักระเบิด ทำให้ระเบิดที่พกพามาเกิดระเบิดขึ้นจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็ดจำนวนดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเก็บหลักฐานเพื่อพิสูจน์และเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อไป ส่วนศพของผู้เสียชีวิตญาติพี่น้องได้นำกลับไปบำเพ็ญกุศล ณ ภูมิลำเนาแล้ว



วิมล เร่งศึก/ข่าว กมลพร คำนึง/ข่าว

ยโสธรเสริมสร้างความปองดอง

ยโสธรปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ที่ศูนย์ฝึกอาชีพบ้านหนองคู หมู่ที่ 1 ตำบลหนองคู อำเภอเมืองยโสธร นายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองของคนในชาติ นายวัชเรนทร์ สืบสิทธิ์ ปลัดจังหวัดยโสธร กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้เยาวชนและผู้นำกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ร่วมปรึกษาหารือกัน โดยใช้กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้เกิดจิตสำนึกรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ หลักสูตรการฝึกอบรมในครั้งนี้ใช้ระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 22 – 26 กุมภาพันธ์ 2557 โดยมีประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลหนองคู อำเภอเมืองยโสธร จำนวนกว่า 100 คน ประกอบด้วย กลุ่มเยาวชน, กลุ่มผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตัวตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมฝึกอบรม

ยโสธรสร้างเกษตรกรเป็นมืออาชีพ

ยโสธรนำเกษตรกรเข้าสู่การพัฒนาให้เป็นเกษตรกรที่ปราดเปรื่อง ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเจพีเอ็มเมอรัลด์ อ.เมืองยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเกษตรกรโครงการพัฒนาเกษตรกรสู่เกษตรกรปราดเปรื่อง (smart farmer) นายธานินทร์ จุฑาทิพย์ชาติกุล ปศุสัตว์จังหวัด กล่าวว่า โครงการ smart farmer เป็นนโยบายเฉพาะของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานหนึ่งที่สนองนโยบายและให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ให้เป็น smart farmer โดยมี smart officer เป็นเพื่อนคู่คิด มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรไทยมีความรู้ มีความพร้อม และเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร โดยการนำเอาองค์ความรู้และข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ และการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น นำเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ ในการทำการเกษตร ให้ได้คุณภาพมาตรฐานและปริมาณตามความต้องการของตลาด มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ สำหรับการอบรมในครั้งนี้ มี smart farmer ผู้ประกอบอาชีพด้านปศุสัตว์ได้แก่ การเลี้ยงโคเนื้อ /กระบือ /โคนม /สุกร/ แพะ-แกะ และสัตว์ปีกที่เลี้ยงระบบฟาร์ม ไก่พื้นเมือง /เป็ดไล่ทุ่ง ทั้งหมด 9 อำเภอ จำนวนกว่า 400 คน เข้ารับการอบรม

จังหวัดมุกดาหาร ออกตรวจติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของ ศพส.อ.พื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

วันที่ (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗) เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ ศาลาประชาคม อำเภอนิคมคำสร้อย ดร.ธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ประธานอนุกรรมการกำกับติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานออกตรวจติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของ ศพส.อำเภอดอนตาล พร้อมคณะอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการเร่งรัดติดตามการดำเนินงานของ ศพส.ระดับต่างๆรวมถึงหน่วยงานในพื้นที่ นำเสนอผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์และปัญหาอุปสรรค ในการดำเนินงาน โดยจังหวัดมุกดาหาร ได้ติดตามแผนการออกตรวจติดตามตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

จากนั้นในเวลา ๑๓.๓๐ น. เดินทางไปที่ว่าการอำเภอเมืองมุกดาหาร เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงานและยุทธศาสตร์รวมถึงรับทราบปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินงาน


สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

มหาสารคามจัดงาน “เวียงสะอาดแตงโมหวาน ตำนานพยัคฆภูมิพิสัย”ขยายช่องทางการตลาดแตงโม GAP

อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงสะอาด กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมตำบลเวียงสะอาด จัดงาน "เวียงสะอาดแตงโมหวานตำนานพยัคฆภูมิพิสัย” ครั้งที่ 2ส่งเสริมการปลูกพืชระยะสั้นหลังฤดูเก็บเกี่ยว ขยายช่องทางการตลาดแตงโมที่ผ่านมาตรฐาน GAP

(25-2-57) ที่บริเวณสนามโรงเรียนบ้านนาค่าย ตำบลเวียงสะอาด อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน "เวียงสะอาดแตงโมหวานตำนานพยัคฆภูมิพิสัย” ครั้งที่ 2 ที่ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงสะอาด กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมตำบลเวียงสะอาด ภาครัฐ ภาคเอกชน ได้จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการปลูกพืชระยะสั้นหลังฤดูเก็บเกี่ยว เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ลดปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานหลังฤดูเก็บเกี่ยว และขยายช่องทางการตลาดแตงโมที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน GAP ซึ่งที่นี่มีเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมรวมกว่า 200 ราย และได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน GAP แล้ว 110 ราย

การจัดงานดังกล่าวนอกจากจะมีการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนแล้ว ยังมีการมอบเกียรติบัตรแก่เกษตรกรดีเด่น การประกวดแตงโม แข่งขันกินแตงโมและประกวดธิดาแตงโม พร้อมการแสดงดนตรีพื้นบ้านอีสานให้กับผู้มาเที่ยวงานได้ชมกันด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

อุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ระดมสมองจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ระดมสมองจัดทำแผนยุทธศาตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมผลักดันการดำเนินการตามนโยบายที่วางไว้ให้สอดคล้องกับนโยบายของจังหวัด

(25 ก.พ.57)  ที่ห้องประชุมโรงแรมมาเมซองโฮเทล อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการเปิดประชุมระดมสมองการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์จัดขึ้น เพื่อเป็นกรอบและทิศทางในการทำงาน ผลักดันให้การดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ที่ตั้งไว้ให้ประสบผลสำเร็จ เช่น นโยบายด้านลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสของรัฐบาล โดยมียุทธศาสตร์รองรับเพื่อให้เกิดการนำไปสู่การปฏิบัติและบังเกิดผล มีหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการ เข้าร่วมประชุมกว่า 50 คน

โดยในการจัดทำแผนพัฒนาอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของจังหวัด มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงจุดเด่น ศักยภาพที่มี เพื่อใช้กำหนดทิศทางในการพัฒนาอุตสาหรรมของจังหวัดให้มีความชัดเจน สามารถนำไปจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อรับการสนับสนุนงบประมาณและผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การประชุมระดมสมองครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆเพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ตอบสนองต่อปัญหาความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริงและเพื่อเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

พมจ.บุรีรัมย์ ประชุมจัดทำแผนปฏิบัติการ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประจำปี 2557

พมจ.บุรีรัมย์ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ประจำปี 2557 ภายใต้แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555 – 2559 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ

(25 ก.พ.57) ที่ห้องประชุมพิมานทอง โรงแรมพนมพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการ ประจำปี 2557 ภายใต้แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555-2559 ที่ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้น โดยเน้นกระบวนการ การมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาถึงความเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2555-2559 แผนพัฒนาจังหวัด สถานการณ์ และแนวโน้มของปัญหาการดำเนินงานด้านคนพิการ ในบริบทจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน กว่า 150 คน

นายไกวัล เดือนจำรูญ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ เพื่อกำหนดแผนงานด้านผู้พิการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ และเป็นการบูรณาการให้เข้ากับแผนพัฒนาจังหวัดรวมถึงแผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ องค์กรคนพิการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน

วันนี้ (25 ก.พ.57)  ที่โรงเรียนบ้านท่าช้าง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชน กว่า 1,000 คน ร่วมปฏิญานตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และจะร่วมกันสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชนทุกพื้นที่ ตามโครงการ ตามโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน โดยภายหลังจากพิธีปฏิญาณตน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบนโยบายให้กับ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งได้เน้นย้ำในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด และการสร้างความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชน รวมถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ทั้งนี้ภายให้จากการมอบนโยบายผ็ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ จำนวน 20 ทุน ทุน ละ 1,000 บาท มอบแว่นสายตาและถุงยังชีพให้กับผู้ยากไร้

ผวจ.นครราชสีมา เปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระบรมราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แนะเกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง

วันนี้ (25 ก.พ. 57)  ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ โรงเรียนบ้านท่าช้าง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อปรับฐานคติ และค่านิยมในการใช้เทคโนโลยีทางการเกษตร เป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการพัฒนาการเกษตรที่จะช่วยเพิ่มผลผลิต และสร้างแรงจูงใจในการกระตุ้นเศรษฐกิจการผลิตภาคการเกษตร เพื่อให้ความรู้ ให้คำปรึกษาแนะนำ แก้ปัญหาด้านการบัญชี

โดยกิจกรรมภายในงานมีกิจกรรมให้บริการเกษตรกร ได้แก่ คลินิกดิน บริการตรวจวิเคราะห์ดิน การให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาเรื่องดิน แจกปุ๋ยน้ำฟรี คลินิกพืช ให้คำแนะนำเรื่องการปลูกพืช การใช้ปุ๋ย การดูแลพืช การตรวจวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาโรคแมลงศัตรูพืช แจกกล้าพันธุ์ผักฟรี คลินิกปศุสัตว์ บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำหมันสัตว์เลี้ยง ให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงสัตว์ ตรวจวินิจฉัยโรคปศุสัตว์ คลินิกประมง ให้บริการคำแนะนำเรื่องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การตรวจคุณภาพน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลินิกให้บริการแนะนำการทำบัญชีครัวเรือน บัญชีฟาร์ม กฎหมายเกษตร เครื่องจักรกลการเกษตร การจัดตั้งสหกรณ์ การตรวจสุขภาพและทันตกรรม นิทรรศการด้านสาธารณสุขจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และ ประกวดผลผลิตทางการเกษตร โดยได้รับความสนใจจากประชาชนร่วมงาน จำนวนมาก อีกทั้ง ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้มอบถุงยังชีพ จำนวน 100 ชุด ให้กับประชาชน มอบพันธุ์ปลา จำนวน 1,000 ตัว ให้กับผู้นำชุมชน อีกด้วย พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้แนะเกษ๖รกรในพื้นที่ให้งดทำนาปรังในช่วงนี้และหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวแทนการทำนา โดยทางจังหวัดได้มีการประสานกับเกษตรอำเภอทุกอำเภอในการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชให้น้ำน้อยให้กับเกษตรกร

ผู้ว่าโคราช ประกาศวาระจังหวัด รณรงค์ใส่ชุดทอจากผ้าหางกระรอก ลายเอกลักษณ์สีประจำจังหวัด ภายใต้คำขวัญ ลูกหลานย่าโม แต่งตัวโก้ ด้วยผ้าหางกระรอกสีดอกจาน หวังอนุรักษ์ผ้าทอโบราณของจังหวัด

วันนี้ (25 ก.พ.57)  ที่โรงแรมโกลเด้นแลนด์รีสอร์จ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีประกาศวาระจังหวัดรณรงค์เชิญชวนประชาชนใช้ผ้าหางกระรอกลายเอกลักษณ์ประจำจังหวัด ภายใต้คำขวัญ ลูกหลานย่าโม แต่งตัวโก้ ด้วยผ้าหางกระรอกสีดอกจาน โดยรณรงค์เชิญชวนให้ทุกส่วนราชการ องค์กรต่างๆ ร่วมใส่ชุดที่ผลิตจากผ้าหางกระรอก สีดอกจาน ทุกวันพฤหัสบดี เพื่อยกระดับความสำคัญของการรณรงค์สวมใส่ผ้าหางกระรอกลายเอกลักษณ์สีประจำจังหวัดนครราชสีมา และระดมการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผ้าและเครื่องแต่งกาย ผู้นำชุมชน และประชาชน ร่วมกันสวมใส่ชุดผ้าหางกระรอกสีประจำจังหวัดทุกวันพฤหัสบดี และในกิจกรรมสำคัญๆของจังหวัดนครราชสีมา

ด้าน ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ผ้าหางกระรอก เป็นผ้าทอโบราณที่มีลักษณะลวดลายเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความประณีตงดงาม โดยใช้เทคนิคการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าไท คือ การตีเกลียว เส้นพุ่ง ทำให้เกิดลวดลายของผ้าทอที่มีลักษณะเนื้อผ้าที่มีความเหลือบสีเห็นเป็นลายเส้นเล็กๆในตัว ซึ่งมองดูแล้วคล้ายกับขนของหางกระรอก จึงได้มีการคัดเลือกใช้ผ้าหางกระรอกเป็นผ้าเอกลักษณ์สีประจำจังหวัดนครราชสีมา และประกาศเป็นวาระของจังหวัดในการร่วมกันใส่ชุดที่ทอจากผ้าหางกระรอกทุกวันพฤหัสบดี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างกระแสรณรงค์ให้ผ้าหางกระรอกเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่

มอบทุนมูลนิธิคุณพุ่ม ในจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 185 ทุนๆละ

ผู้ปกครองเด็กออทิสติก สัญญาว่าจะนำทุนที่ได้รับในครั้งนี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า เพื่อให้ผู้พิการได้รับการพัฒนา ตามศักยภาพของตนเอง ในพิธีมอบทุนการศึกษาแก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการ ในมูลนิธิคุณพุ่ม

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที 25 ก.พ. 57 ที่ศาลาประชาคมจังหวัดชัยภูมิ นางนภา สกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้แทนพระองค์ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานมูลนิธิคุณพุ่ม สำหรับเด็กออทิศติกและเด็กพิการทุกประเภท เพื่อ สนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนผู้พิการ มอบทุนมูลนิธิคุณพุ่ม ในจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 185 ทุนๆละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 579,000 บาท โดยมีพ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กออทิสติก พร้อมใจกันสวมเสื้อสีชมพู ต่าง นำบุตรหลาน เข้ารับทุน เบื้องหน้าพระรูปทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ด้วยความปราบปลื้มใจ มูลนิธิคุณพุ่ม สำหรับเด็กออทิศติกและเด็กพิการทุกประเภท เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนผู้พิการ จากครอบครัวยากจนและขาดโอกาส จากทั่วประเทศ จำนวน 10,681 ทุน

สำหรับจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดสรรทุนดังกล่าวตามเกณฑ์ จำนวน 185 ทุน รวมเป็นเงิน 579,000 บาท ดังกล่าวข้างต้น ในโอกาสนี้นางชนกกนก บุญญาสถิตสถาพร ได้เป็นผู้แทนผู้ปกครอง ได้กล่าวคำแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทีทรงเห็นความจำเป็น และความต้องการพิเศษทางการศึกษา ที่มีต่อการดำรงชีวิตของผู้พิการ ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ให้สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติ ในสังคมได้อย่างปกติสุข การพัฒนาศักภาพผู้พิการแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายมากกว่าคนปกติหลายเท่า พร้อมสัญญาว่าจะนำทุนที่ได้รับในครั้งนี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า เพื่อให้ผู้พิการได้รับการพัฒนา ตามศักยภาพของตนเอง ตามพระประสงค์ของทูลกระหม่อม และของมูลนิธิต่อไป



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล/ข่าว

ตัวแทนชาวนาขอนแก่นยื่นถวายฎีกาผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น

วันนี้ ( 25 ก.พ.2557) เวลา 10.00 น. ณ ศาลากกลางจังหวัดขอนแก่น ตัวแทนชาวนาขอนแก่นนำโดยนายภาณุพงศ์ ภัทรคนงาม พสกนิกรชาวนา นำตัวแทนชาวนาขอนแก่นมายื่นหนังสือถวายฎีกาผ่านนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นยื่นขอพระบารมีปกเกล้าคุ้มครอง ชาวนาไทย ไม่อยากให้นำชาวนาเป็นตัวประกันเกี่ยวข้องกับการเมือง ชาวนาขอปลดพันธการจากกลุ่มนักการเมืองประกาศเจตนารมณ์เป็นการต่อสู้เพื่อร่วมส่งเสริมคนดี ร่วมพูดร่วมคิดร่วมตรวจสอบ เพื่อทำนุบำรุงรักษาราชอาณาจักรไทยไว้ให้มั่นคง มีสันติสุขอย่างยั้งยืน เพื่อแก้ปัญหาสร้างความเข้มแข็งศักยภาพการผลิต กำหนดแนวทางในการดำรงชีวิตของชาวนา ในอนคาคตอย่างมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีอย่างยั่งยืนต่อไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่น คัดเลือกสตรีดีเด่นสาขาแรงงานนอกระบบปี 2557

วันนี้ ( 25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 14.00 น ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น นายประเสริฐ ลือชาธนานทท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมคณะกรรมการคัดเลือกสตรีที่ทำงานในภาคแรงงานนอกระบบดีเด่นจังหวัดขอนแก่นประจำปี 2557 โดยพิจารณาคัดเลือกสตรีที่ทำงานในภาคแรงงานนอกระบบเพื่อยกย่องและเผยแพร่เกียรติคุณให้เป็นที่รู้จักในสังคม ให้สังคมได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่อันสำคัญส่งเสริมให้ได้รับการปกป้องคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย และเพื่อรณรงค์พัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในภาคแรงงานนอกระบบจังหวัด ส่งชื่อให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้ที่ได้รับคัดเลือกต้องเป็นสตรีที่ไม่ได้เป็นนายจ้างและลูกจ้างจากสถานประกอบกิจการที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานพ.ศ. 2541ปรากฏว่า นางวิจิตรา ศิรินาถ ประธานกลุ่มตัดเย็บกระเป๋าผ้าฝ้าย อ.เปือย น้อยอายุ 58 ปี ได้รับการคัดเลือกเป็นสตรีทำงานนอกระบบดีเด่นประจำปี 2557 จังหวัดขอนแก่น ที่เข้ารับรางวัลระดับประเทศและอีก 4 ท่านคือ นางสาวนุชนภา บำรุงนา อาชีพจักรสานแหอวน อายุ 39 ปี มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพภาคอีสาน นางสุธาทิพย์ ย่อยกลาง ผู้ปรกอบธุรกิจโอทอป อ.ภูเวียง อายุ 32 ปี นางธนันพร สมโสก ตัดเย็บเสื้อผ้า อ.ชุมแพอายุ 46ปี และ นางพิทยาภรณ์ สุขขโข กลุ่มทอผ้าไหมมัดหมี่ อ.ชนบท อายุ 47 ปี เข้ารับใบประกาศในวันที่ 4 มีนาคม 2557 เนื่องในวันสตรีสากล ขอนแก่น ณ ศาลาประชาคม กับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น