วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จังหวัดมุกดาหารจัดโครงการยกย่องเชิดชูบุคคล เครือข่าย และองค์กร ที่ทำประโยชน์ในด้านการพัฒนาเด็ก และเยาวชน

วันนี้ (๑๕ ส.ค.๕๖) ที่ห้องประชุมโรงแรมพลอยพาเลซ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร จัดโครงการยกย่องเชิดชู บุคคล เครือข่าย และองค์กร ที่ทำประโยชน์ในด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ โดยมีนายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธาน ซึ่งการพัฒนาเด็กและเยาวชน จำต้องอาศัยการขับเคลื่อนการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมสนับสนุน ให้เกิดขบวนการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของเด็ก

นายสวัสดิ์ ชูสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่าจากกระแสความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงอิทธิพลของโลกาภิวัตน์ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน จึงจำเป็นต้องพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความพร้อม โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคม ซึ่งได้ประพฤติตนเป็นต้นแบบในการทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม และขยายผลในการทำความดี และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อเป็นตัวอย่างต้นแบบของสังคม ชุมชน พื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อให้เกิดพลังในการทำความดี ก่อให้เกิดสังคมที่เข้มแข็งและเป็นสังคมที่น่าอยู่ต่อไป




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหาร จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปี 2558 – 2561

ที่ห้องมุจรินทร์ โรงแรมมุกดาหารแกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปี 2558 – 2561 ซึ่งการประชุมฯครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อซักซ้อมความเข้าใจในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจำปีจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจำปีกลุ่มจังหวัด เพื่อทบทวนและระดมความคิดเห็นในการค้นหา ศักยภาพ โอกาส สภาพปัญหาความต้องการของประชาชนโดยยึดการมีส่วนร่วม และบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดตามแผนพัฒนาจังหวัด ปี 2558–2561 และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ผู้เข้าร่วมประชุมฯประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนภาคเอกชนและผู้แทนภาคประชาสังคม ร่วมทั้งสิ้น 80 คนมาประชุมร่วมกัน จำนวน 2 วัน แบ่งการประชุมเป็น ในวันแรกเป็นการบรรยายหัวข้อ การเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ประเทศกับแผนยุทธศาสตร์จังหวัด/กลุ่มจังหวัด และทบทวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด และในวันที่สองเป็นการนำเสนอผลการฝึกการปฏิบัติงานโดยมีวิทยากรจากสำนักพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือดำเนินการตลอดการประชุม



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว 

จังหวัดมุกดาหาร จัดงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านพร้อมมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ

ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงานวันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำปี ๒๕๕๖ โดยจัดพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ประชาชน และผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้อ่านสารของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และอ่านสารของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายจิรพงษ์ แก้วมณี นายอำเภอเมืองมุกดาหาร กล่าวภายหลังการจัดงานว่า เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานกำเนิดสถาบัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๔๓๕ ที่อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน รวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้กระทำความดี เสียสละ ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ราษฏร ที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ หลังจากนั้นได้มีการมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ ยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพิ่มสร้างขวัญกำลังใจ ในการทำงานเพื่อประทศชาติต่อไป




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว 

ยโสธรคลีนิกเกษตรเคลื่อนที่วันพระราชสมภพ

จังหวัดยโสธรเปิดคลินิกเกษตรกรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร   ที่โรงเรียนบ้านเหมือดขาว  ตำบลม่วง  อำเภอมหาชนะชัย  จังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล  เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร  15 สิงหาคม พ.ศ. 2556  กิจกรรม ประกอบด้วยการให้บริการพี่น้องเกษตรกรในการแก้ปัญหาด้านเกษตรกรรม โดยเปิดเป็นคลินิกต่างๆ อธิ คลินิกพืช/  คลินิกดิน/คลินิกน้ำ/ คลีนิกสัตว์   นอกจากนี้เปิดให้มี  กิจกรรมสนับสนุนโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว  กิจกรรมการแปรรูปอาหาร  นิทรรศการของส่วนราชการและภาคเอกชน  การจำหน่ายสินค้าแปรรูปสินค้าเกษตร  โดยมีเกษตรกรจากพื้นที่อำเภอมหาชนะชัยและอำเภออื่น ๆ  มารับบริการและร่วมงาน  จำนวนกว่า 400  คน

ประกาศสืบหาบิดามารดาเด็กถูกทอดทิ้ง

โรงพยาบาลศิริราช ได้นำส่ง เด็กชายอัครพงศ์ ภูสาย เกิดวันที่ 11 กันยายน 2552 เข้าไว้ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท เนื่องจากบิดาเด็กมีพฤติกรรมติดสุราและมารดาเด็กประสบปัญหาไม่ได้ประกอบ อาชีพ ไม่มีรายได้ ไม่สามารถให้การดูแลเด็กได้ ขอฝากเด็กไว้เป็นการชั่วคราว จากการตรวจสอบหลักฐานระบุว่าบิดาเด็กชื่อนายมนูญ อาวรณ์ อายุ 47 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดยโสธร ส่วนมารดาเด็กชื่อ นางสาวกาญจนา ภูสาย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 3 ตำบลวังใหม่ อำเภอบรบือ จังหวัด มหาสารคาม

ดังนั้น หากผู้ใดเป็นบิดาหรือผู้ปกครองของเด็ก โปรดนำหลักฐานสูติบัตรเด็ก บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ไปติดต่อที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดยโสธร หรือสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท เลขที่ 78/24 หมู่ที่ 1 ถนนภูมิเวท ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หมายเลขโทรศัพท์ 02-5847253 ในวันเวลาราชการด่วน




ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 15 ส.ค. 56

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวอุบลราชธานี ปิดให้บริการชั่วคราว

นายเสกสรรค์ สโรบล หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวอุบลราชธานี มีกำหนดจะปิดให้บริการหนังสือเดินทาง ในวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2556 เพื่อประเมินผลการเปิดให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางระบบ E-Passport โครงการระยะที่ 2 และจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนตามปกติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป




ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 15 ส.ค. 56

ยโสธรกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือน

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 3 เรื่อง พายุไต้ฝุ่น "อูตอร์” ว่า พายุจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน ในวันที่ 14 สิงหาคม 2556 ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก และชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังการเดินรือในระยะนี้

จังหวัดยโสธร ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบต่ำริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 3-4 วันนี้ (13-16 สิงหาคม 2556)



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 15 ส.ค. 56

ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ดระบุรถไฟรางคู่ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ดจะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดร้อยเอ็ดดีขึ้น

นางบัณจง ธนะแพสย์ ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึงการที่รัฐบาลจะให้มีรถไฟรางคู่ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด ว่ารถไฟรารงคู่จะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดร้อยเอ็ดดียิ่งขึ้น ตรงกับความต้องการของประชาชนจะทำให้การคมนาคมสะดวก การขนส่งสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะการขนส่งข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ออกสู่ตลาดโลกได้สะดวกมากขึ้นและการท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ด อีกทางหนึ่งด้วย

ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ขอบคุณรัฐบาลและส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะทำให้จังหวัดร้อยเอ็ดมีความเจริญขึ้น โดยะเฉพาะการมีรถไฟรางคู่จะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดร้อยเอ็ดดีขึ้นดังกล่าว




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
15 ส.ค. 56

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมต้อนรับนองเมย์ แชมป์โลกแบดมินตันกลับบ้านเกิด

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมรับน้องเมย์ แชมป์โลกแบดมินตันกลับบ้านเกิด แห่รอบเมืองให้ชาวร้อยเอ็ดแสดงความยินดี ทุกภาคส่วนเตรียมรับขวัญ ขึ้นป้ายแสดงความยินดีทั่วเมือง

วันนี้ (15 ส.ค. 56) เวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และ นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนางบัณจง ธนะแพสย์ ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด นายสถาพร มงคลศรีสวัสดิ์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร่วมแถลงข่าว การเตรียมการจัดพิธีต้อนรับนางสาวรัชนก อินทนนท์ หรือน้องเมย์ แชมป์โลกแบดมินต้นหญิงเดี่ยวขวัญใจชาวไทยลูกหลานของจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า นางสาวรัชนก อินทนนท์ หรือน้องเมย์ ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ด้วยการชนะเลิศการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก กว่างโจว 2013 (แชมป์แบดมินตันโลก ประเภทหญิงเดี่ยว) ในฐานะที่น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เป็นขวัญใจของชาวไทยลูกหลานของจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดได้เตรียมจัดพิธีแสดงความชื่นชมและยินดีกับน้องเมย์ ในวันที่ 26 สิงหาคม 2556 เพื่อมอบประกาศนียบัตร เยาวชนดีเด่นจังหวัดร้อยเอ็ด ด้วยการจัดรถสโมสรฟุตบอลร้อยเอ็ดยูไนเต็ด รับน้องเมย์ รัชนกฯ ที่สนามบินร้อยเอ็ด เพื่อนำไปนมัสการพุทธรัตนมงคลมหามุณี วัดบูรพาพิราม จัดพิธีต้อนรับที่สวนสมเด็จพระศรีนครรินทร์ร้อยเอ็ด ส่วนราชการ ภาคเอกชน บริษัทห้างร้าน มอบรางวัล แสดงความยินดี และจะจัดขบวนแห่รอบเมืองร้อยเอ็ด ก่อนเข้าที่พัก ณ โรงแรมเพชรรัตน์การ์เด้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ขณะที่ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด โดยส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ขึ้นป้ายแสดงความยินดี ประกาศเกียรติคุณในความสามารถของน้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ขวัญใจชาวไทยลูกหลานของจังหวัดร้อยเอ็ด ตามถนนสายสำคัญและหน้าอาคารสถานที่ราชการต่างๆ

นางบัณจง ธนะแพสย์ ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า ในฐานะหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ดมีความยินดีกับน้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ที่ได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และเป็นตัวอย่างแก่เยาวชนทั่วไปถือว่าเป็นทูตวัฒธรรมของประเทศไทย ทุกครั้งที่น้องเมย์ชนะการแข่งขันจะแสดงการไหว้ผู้ชม นับว่าเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยน่ายกย่องชมเชยเป็นอย่างยิ่ง และได้จัดเตรียมผ้าลายสาเกตุเพื่อมอบให้กับน้องเมย์ในวันดังกล่าวด้วยแล้ว

นางสาวรัชนก อินทนนท์ เกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2538 บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 8 บ้านปอภาร ตำบลปอภาร อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นคนร้อยเอ็ดโดยกำเนิด พ่อเป็นชาวจังหวัดยโสธร แม่เป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด สามารถคว้าแชมป์แรกได้ตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่ขวบ ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

15 ส.ค.56 

ผวจ.ศรีสะเกษ ติวเข้ม ดีเจประชาธิปไตยชุมชน เพื่อสร้างเครือข่าย และแนวคิด อุดมการณ์ ในวิถีประชาธิปไตย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ส.ค.56 ที่ห้องประชุมโรงแรมศรีลำดวน อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดฝึกอบรม ตามโครงการดีเจ ประชาธิปไตย ปี 2556 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดขึ้น เพื่อสร้างแนวคิดและอุดมการณ์ วิถีประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมของสื่อมวลชนท้องถิ่น ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายประชาธิปไตย ในการสนับสนุนภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยมีนาย ทรงเกียรติ เสนาพันธุ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการ และ เครือข่ายวิทยุชุมชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 20แห่ง เข้าร่วมฝึกอบรม

นาย ทรงเกียรติ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดศรีสะเกษ ได้ตระหนักว่า ดีเจ เป็นสื่อบุคคลที่มีอิทธิพลต่อประชาชนเป็นอย่างมาก หากดีเจได้รับการปลูกฝังแนวความคิด อุดมการณ์ และความรู้เกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ย่อมจะนำไปสู่การเผยแพร่ให้แก่ประชาชนผู้ฟังได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่องเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้งท้องถิ่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมเป็นอย่างมาก

 ทั้งนี้ สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ มีวิทยากรมากปะสบการณ์ที่จะมาให้ความรู้กับผู้เข้าอบรม เพื่อสามรถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ประกอบด้วย การสัมมนาในหัวข้อเรื่อง อำนาจหน้าที่ของ กกต.กับกระบวนการเลือกตั้ง และการเลือกตั้งท้องถิ่น กับการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง โดยวิทยากรสำนักงาน กกต.จว.ศรีสะเกษ และในช่วงบ่าย จะมี การบรรยายในหัวข้อเรื่อง บทบาทของดีเจ เมื่อมีการเลือกตั้ง โดยนายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ และการบรรยายในหัวข้อเรื่อง บทบาทสื่อที่ดีในการส่งเสริมประชาธิปไตยแบบบูรณาการสู่ชุมชน โดยนายอาลัย หงษ์ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนประชาพัฒนศึกษา




จิรภัทร  หมายสุข
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

สระแก้วประชุมการค้าชายแดนระหว่างภาคเอกชนไทยและกัมพูชา

วันนี้ (15 ส.ค.) ที่โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายพิษณุวัตร  วรรธนะกุล นายอำเภออรัญประเทศเป็นประธานเปิดการประชุมในวันนี้โดยมีนางสาวจันทร์เพ็ญ  สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว นำหัวหน้าส่วนราชการ ด่านตม.สระแก้ว ด่านศุลกากร สมาชิกหอการค้าไทยและสมาชิกหอการค้ากัมพูชาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ สำหรับการประชุมในวันนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งสองฝ่ายสร้างความเข้าใจเพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าและเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

นางสาวจันทร์เพ็ญ  สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จังหวัดสระแก้วมีอำเภอติดกับชายแดนกัมพูชา 4 อำเภอคือ อ.ตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศและอ.คลองหาดและมีจุดผ่านแดนถาวร 1 แห่ง คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกและจุดผ่อนปรน 3 แห่งซึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญส่วนมากเป็นอะไหล่รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ รถไถเดินตาม อาหารสัตว์และสินค้าที่นำเข้าได้แก่มันสำปะหลัง เศษอลูมิเนียม ซึ่งมีมูลค่า35 ,238.28 ล้านบาท

จังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดอำนาจเจริญจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารร่วมกับโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

ที่จังหวัดอำนาจเจริญ นายอภิชาติ งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธานเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 4/2556 เนื่องในวันคล้ายวันวันพระราชสมภพ  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ร่วมกับโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข  สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน  ณ โรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ  เพื่อให้บริการแก่เกษตรกร  และพี่น้องประชาชนที่สนใจทางด้านการเกษตร  โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดมาให้บริการ

นายอภิชาติ งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  กล่าวว่า  การจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 4/2556 เนื่องในวันคล้ายวันวันพระราชสมภพ  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดอำนาจเจริญร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดขึ้น เพื่อให้บริการแก่พี่น้องและเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตทางการเกษตร ของเกษตรกร ตลอดจนการเสริมสร้างความรู้ที่จำเป็นในการผลิตที่เกษตรกรต้องการ  เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาด้านการเกษตรที่หลากหลาย  ซึ่งได้มีการศึกษาวิเคราะห์พื้นที่ โดยชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อให้ทราบถึงสภาพปัญหา พร้อมทั้งจัดลำดับความต้องการการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร เพื่อให้การบริการเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด  ในการจัดงานครั้งนี้มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดคลินิก เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย คลินิกพืช คลินิกดิน  คลินิกสัตว์  คลินิกประมง  คลินิกสหกรณ์  คลินิกบัญชี คลินิกชลประทาน  และคลินิกกฎหมาย สปก.

โอกาสนี้ นายอภิชาติ งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับเหล่ากาชาด และหัวหน้าส่วนราชการ  มอบเงินสงเคราะห์ให้แก่ราษฎรผู้ยากไร้และด้อยโอกาส จำนวน 20 รายๆละ 1,000 บาท  และมอบถุงยังชีพ เครื่องนุ่งห่ม ให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส จำนวน 150 ราย มอบพันธ์ปลาจำนวน ๑ แสนตัว ให้แก่ผู้นำหมู่บ้านปล่อยลงแหล่งน้ำสาธารณะ และปล่อยพันธุ์ปลาลงในสระน้ำของโรงเรียนเพื่อเป็นแหล่งอาหารให้แก่ครู และนักเรียน โรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม นอกจากนี้ยังมีส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชน นำกิจกรรมต่างๆไปให้บริการแก่พี่น้องประชาชน อีกเป็นจำนวนมาก   และในงานยังได้จัดกิจกรรมสนับสนุนโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว  พร้อมทั้งจัดจำหน่ายสินค้าโอท็อป  ผลิตผลทางการเกษตรในราคาถูก ให้ผู้มาร่วมงานได้ซื้อไปรับประทาน

สำหรับสภาพปัญหาและความต้องการของประชาชนตำบลสร้างนกทา คือ ปัญหาถนนหนทางและสะพานชำรุด ทำให้การเดินทางไม่สะดวก น้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรไม่เพียงพอ ระบบไฟฟ้าไม่ทั่วถึง นายอภิชาติ งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาให้การช่วยเหลือตามลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนต่อไป  



จรูญ  พิตะพันธ์/ข่าว

ผู้ทรงคุณวุฒิ สสค. ตรวจติดตามผลการดำเนินงานกิจกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในเด็กและเยาวชน อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ

ที่จังหวัดอำนาจเจริญ คณะผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) นำโดย นายนคร ตังตะพิภพ ตรวจเยี่ยมโครงการยกระดับการพัฒนาการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชนในการดำเนินงานกิจกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในเด็กและเยาวชน ที่อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีคณะกรรมการฯ อำเภอหัวตะพานให้การต้อนรับและสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในเด็กและเยาวชนของอำเภอหัวตะพาน ให้คณะผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชนทราบ  จากนั้นคณะผู้ทรงคุณวุฒิได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของ อบต.สร้างถ่อน้อย  และการดำเนินงานของ อบต.เค็งใหญ่ อำเภอหัวตะพาน

อำเภอหัวตะพานอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร สภาพสังคมเป็นสังคมกึ่งเมืองกึ่งชนบท ครอบครัวปัจจุบันเป็นครอบครัวเดี่ยว พ่อแม่ต้องทำงานต่างจังหวัด ฝากลูกอาศัยอยู่กับปู่ย่า-ตายาย, ป้าลุง หรือญาติ  เป็นจำนวนมาก และมากกว่าพ่อและแม่เลี้ยงเอง ในกลุ่มเด็กต่ำกว่า 5 ปี พบร้อยละ 35.7 ส่วนในกลุ่มวัยรุ่นพบร้อยละ 54.36  จากเหตุปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานด้านสุขภาพหลายประเด็นเช่น  ปัญหาการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในเด็กและเยาวชน, ปัญหายาเสพติด, ปัญหาการทะเลาะวิวาท เป็นต้น ทำให้งานอนามัยแม่และเด็ก ตัวชี้วัดที่มารดาตั้งครรภ์อายุต่ำ 20 ปี ยังเป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นระยะเวลายาวนาน  จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา 3 ปีย้อนหลัง ปัญหาการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในเด็กและเยาวชน อำเภอหัวตะพาน  อยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุขกำหนด คือร้อยละการตั้งครรภ์ในมารดาที่อายุ  น้อยกว่า 20 ปีไม่เกิน ร้อยละ 10  สำหรับอำเภอหัวตะพาน โดยภาพรวม ปี 2554,2555,2556 มีมารดาที่อายุน้อยกว่า 20 ปีตั้งครรภ์ คิดเป็นร้อยละ 13.70, 20.53, และ 17.89 ตามลำดับ  ซึ่งเกินเกณฑ์ตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุข  โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่มีการตั้งครรภ์ในกลุ่มอายุน้อยกว่า 20 ปี  สูงสุดคือ  รพ.สต สร้างถ่อใน,โคกเลาะ และขุมเหล็ก  สำหรับ รพ.สต. ที่ผ่านเกณฑ์มีเพียงแห่งเดียว คือ รพ.สต.คำพระ คือ ร้อยละ 8     จากผลการดำเนินงานโครงการการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในเด็กและเยาวชน  ปี 2556 ของอำเภอหัวตะพานพบว่าอัตราร้อยละการตั้งครรภ์ในเด็กและเยาวชนลดลง คิดเป็นร้อยละ 17.8




จรูญ  พิตะพันธ์/ข่าว
ประกาศิต  สุวะทอง/ภาพ

สสว. สนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงาน 300 บาท

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม ประชาสัมพันธ์โครงการสนับสนุนดอกเบี้ย แก่ SMEs ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เชิญชวนเข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ 3 % ลดภาระค่าจ้างแรงงานพร้อมจับมือ 7 ธนาคารเสริมสภาพคล่องให้ SMEs

ที่โรงแรมเซ็นทารา อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เช้าวันนี้ (15 ส.ค. 56) นายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานเปิดโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวันในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม หรือ สสว.ได้ดำเนินมาตรการภายใต้ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการช่วยบรรเทาปัญหาด้านต้นทุนการผลิต และคงสภาพการจ้างงานให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยดำเนินโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงาน ในอัตรา 300 บาท ต่อวัน ซึ่งเป็นการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในอัตราร้อยละ 3 ของวงเงินสินเชื่อ ระยะเวลา 1 ปี วงเงินกู้ยืมไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท

เพื่อลดภาระต้นทุนด้านการผลิตให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถปรับตัวได้ในระยะสั้น สามารถบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างโอกาสและรักษาสภาพการจ้างงานให้แก่ SMEs ในภาคการผลิต ภาคการค้าปลีก-ค้าส่งและภาคบริการ ที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นจำนวน 12 กลุ่มธุรกิจ อาทิ กลุ่มธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะประดิษฐ์ กลุ่มธรุกิจภัตตาคาร ร้านขายอาหาร กลุ่มธุรกิจผลิตไม้ ผลิตภัณฑ์จากไม้และไม้ก๊อก กลุ่มธุรกิจการก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ยางและผลิตภัณฑ์พลาสติก กลุ่มธุรกิจการขายปลีก กลุ่มธุรกิจโรงแรมและที่พักชั่วคราว กลุ่มธุรกิจกิจการขนส่ง กลุ่มธุรกิจบำรุงรักษษ ซ่อมแซมยานยนต์ และจักรยานยนต์ การขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์และกลุ่มธุรกิจการผลิตเครื่องเรือนรวมถึง ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อัญมณีเครื่องประดับ และอยู่ในพื้นที่ที่มีการปรับค่าจ้างแรงงานมากกว่าร้อยละ 20 รวมทั้งสิ้น 51 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ ให้สามารถดำเนินกิจการและรักษาสภาพการจ้างงานได้ต่อไป

สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว สสว. ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยมีวงเงินงบประมาณดำเนินการ 193 ล้านบาท คาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 6,300 ราย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทุกสาขาของสถาบันการเงินที่เข้าร่วม โครงการ ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 หรือดูรายละเอียดได้ที่ http://www.sme.go.th/




ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

แม่จันดีน้องสาวหลวงตาบัวสิ้นอายุขัยแล้ว

คุณแม่จันดี โลหิตดี น้องสาวหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน สิ้นอายุขัยด้วยความสงบที่กุฏิภายในสถานปฏิบัติธรรมแม่ชี วัดป่าบ้านตาด ด้วยโรคชรา ด้วยอายุ 82 ปี

ที่ศาลาการเปรียญหลังใหญ่บริเวณลานหน้าวัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี คณะลูกศิษย์และญาติ ได้ร่วมกันประกอบพิธีรดน้ำและบรรจุศพ คุณแม่จันดี โลหิตดี น้องสาวคนที่ 9 ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด หลังจากที่คุณแม่จันดีฯ ได้ถึงแก่กรรมลงแล้วด้วยความสงบ เมื่อเวลา 01.03 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2556 ที่กุฎิพักอาศัยภายในสถานปฏิบัติธรรมแม่ชี บริเวณวัดป่าบ้านตาด หลังจากมีอาการป่วยด้วยโรคชรามาเป็นเวลากว่า 1 ปี ด้วยอายุ 82 ปี 11 เดือน 3 วัน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาลูกศิษย์ ญาติๆลูกหลานของแม่จันดี

สำหรับศาลาการเปรียญหลังใหญ่ บริเวณลานหน้าวัดป่าบ้านตาดแห่งนี้ เป็นบริเวณเดียวกันที่เคยจัดงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของ พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อตั้งจัดพิธีรดน้ำสังขาร และบำเพ็ญกุศล โดยมีหลวงพ่ออินถวาย สันตัสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เดินทางมาร่วมพีธี พร้อมด้วยพระสายวัดป่าและพระเกจิอาจารย์ในจังหวัดอุดรธานี และญาติโยมลูกศิษย์ที่เคารพนับถือที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

นายวิเดช พิมพ์สี อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายคนโต ของคุณแม่จันดี โลหิตดี เปิดเผยว่า คุณแม่มีลูกทั้งหมด 7 คน ชาย 4 หญิง 3 ท่านมีอาการป่วยด้วยโรคชรามากว่า 1 ปี เข้าออกโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เป็นประจำ จนล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ถึงแก่กรรมด้วยอาการสงบ โดยทางญาติๆได้พูดคุยกัน จะตั้งศพบำเพ็ญกุศล จนถึงวันที่ 18 สิงหาคม ถึงจะประชุมเพลิง

สำหรับประวัติย่อๆของคุณแม่จันดี โลหิตดี เกิดเมื่อวันพุธที่ 12 กันยายน 2473 เป็นบุตรคุณพ่อทองดี-คุณแม่แพงสี โลหิตดี เกิดที่หมู่บ้านตาด ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นน้องสาวของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน น้องสาวคนที่ 9 ที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้เข้ามาศึกษาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านตาด โดยหลวงตามหาบัว ซึ่งเป็นพระพี่ชายและครูบาอาจารย์เป็นผู้อบรมสั่งสอน

ครอบครัวของแม่จันดีฯ เป็นครอบครัวที่ให้การช่วยเหลือดูแลวัดป่าบ้านตาด และหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ด้วยดีมาโดยตลอด จนกระทั้งคุณแม่แพงสีฯ ได้บวชชีเข้ามาอาศัยอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้จนสิ้นชีวิต ทำให้คุณแม่จันดีฯดำเนินรอยตาม ด้วยการเข้ามาปฏิบัติธรรมโดยไม่ได้บวชและเป็นผู้ที่เคารพธรรมวินัย ถือแบบอย่างเช่นเดียวกับพระอย่างเคร่งครัด ให้ความเมตตาและความอบอุ่นต่อลูกศิษย์และญาติโยมทั้งหลาย ท่านได้มีส่วนร่วมในการเกื้อกูลหนุนงานขององค์หลวงตามหาบัวจนสำเร็จลุล่วงด้วยดีเสมอมา



เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.

ประชุมสภา อบจ.อุดรธานี

องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2556

ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เช้าวันนี้ ( 15 ส.ค. 56 ) นายไพโรจน์ บุษราคัม ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี โดยมีนายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีใน 20 อำเภอ ร่วมประชุม

ในการประชุมในครั้งนี้ที่ประชุมได้มีการรับรองรายงานการประชุมสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี สมัยวิสามัญ สมัยที่สาม ประจำปี 2556 วันที่ 4 มิถุนายน 2556 สมัยวิสามัญ สมัยที่สี่ ประจำปี 2556 วันที่ 9 กรกฎาคม 2556 การเสนอญัตติขออนุมัติต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี อาทิ ญัตติขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2556 หมวดค่าครุภัณฑ์ กองพัสดุและทรัพย์สิน ในการจัดซื้อเรื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งไว้ 434,000 บาท และญัตติขอใช้พื้นที่ตลาดทับกุงเป็นการชั่วคราว ขององค์การบริหารส่วนตำบลทับกุง เป็นเวลา 3 ปี



 ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

สอบทานการปฏิบัติราชการ

คณะอนุกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ กลุ่มจังหวัด คณะที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการสอบทานกรณีปกติ และกรณีพิเศษ ที่จังหวัดอุดรธานี

ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี รศ.ครรชิต มาลัยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ กลุ่มจังหวัด คณะที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการสอบทานกรณีปกติ ที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีนายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับและร่วมประชุม

สำหรับประเด็นการสอบทานการปฏิบัติราชการกรณีปกติในครั้งนี้ ประกอบด้วย เรื่อง ข้อตรวจพบจากการตรวจสอบภายในภาพรวมของผู้ตรวจสอบภายในจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ทั้งด้านการเงิน การบัญชี การปฏิบัติตามกฏระเบียบและข้อบังคับ รายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานและรายงานผลการตรวจสอบการจัดซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Aution ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายในจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 รายงานผลการควบคุมภายในและบริหารความเสี่ยง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 การวางแผนการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงของแผนงาน โครงการ ที่สำคัญของจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ยกตัวอย่าง 2 โครงการ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้านการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2556 การดำเนินการเพื่อจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานและข้อเสนอแนะ รายงานการเงิน ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้านการจัดทำรายงานการเงินของกรมและจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ พ.ศ.2556 ของจังหวัด ของส่วนราชการ ปัญหาอุปสรรคในการเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัดและของส่วนราชการ

พร้อมกันนี้ได้ทำการสอบทานกรณีพิเศษในประเด็น โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของจังหวัด โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในประเด็นรายละเอียด โครงการ แผนงาน ในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ความกว้าหน้าในการดำเนินโครงการฯ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการฯ ความสอดคล้องเชื่อมโยงของโครงการต่อยุทธศาสตร์ ความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ของยุทธศาสตร์ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ




ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

อ.เมืองอุดธานีจัดอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด 25 ตาสับปะรด

ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมืองอุดรธานี จัดอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ประจำปี 2556 ตามแผนการสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด

ที่หอประชุมอำเภอเมืองอุดรธานี วันนี้ ( 15 ส.ค.56 ) นายสาโรช แสงอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดธานี เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ประจำปี 2556 ตามแผนการสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด หรือ 25 ตาสับปะรด

นายมาลัยวรณ์ ตั้งอรุณสวัสดิ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมืองอุดรธานี ได้จัดทำโครงการฝึกอบรมดังกล่าวตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดยั่งยืน 2556 ตามกลยุทธดำเนินงาน 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้ประสานพลังแผ่นดินจากตำบลกุดสระ ตำบลนาข่า ตำบลเชียงยืน ตำบลบ้านเลื่อม ตำบลโคกสะอาด ตำบลนิคมสงเคราะห์ ตำบลนาดี รวม 395 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เครือข่ายผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดในพื้นที่ เพื่อให้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อพัฒนาระบบป้องกันและเฝ้าระวังยาเสพติดในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการติดตามประเมินผลการปฏิบัติภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถเฝ้าระวังและป้องกันปัญหายาเสพติดได้ ตลอดจนเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลตามแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืนปี 2556




ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี จัดงานแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 25 (ระดับภาค) ขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนและกำลังแรงงานที่เป็นช่างฝีมือไปร่วมการแข่งขัน ในระดับชาติ ระดับอาเซียน และระดับนานาชาติ


วันที่ 15 สิงหาคม 2556 ณ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี นายนภดล รอดเรืองเดช ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานเปิดงานแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 25 ระดับภาค กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี จัดงานแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 25 (ระดับภาค) ขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนและกำลังแรงงานที่เป็นช่างฝีมือไปร่วมการแข่งขัน ในระดับชาติ ระดับอาเซียน และระดับนานาชาติ โดยการแข่งขันในครั้งนี้ได้จัดให้มีการแข่งขัน จำนวน 24 สาขาประกอบด้วย ประเภทเยาวชน 23 สาขา และประเภทบุคคลทั่วไป จำนวน 1 สาขา ทั้งนี้รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติที่สำคัญประการหนึ่งคือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพ การจัดแข่งขันฝีมือแรงงานเป็นวิธีการหนึ่งของการพัฒนาแรงงานให้สังคมเห็นคุณค่าและเป็นที่ยอมรับ อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้มีความทัดเทียมกับนานาอารยประเทศทั่วโลก โดยการแข่งขันฝีมือแรงงานถูกจัดแบ่งไว้ 4 ระดับ ได้แก่ การแข่งขันฝีมือแรงงานระดับภาค เป็นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกผู้ชนะจากระดับภาคเข้าร่วมแข่งขันในระดับชาติ การแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ เป็นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกผู้ชนะจากระดับภาคเข้าร่วมการแข่งขันในระดับอาเซียน การแข่งขันฝีมือแรงงานระดับอาเซียน เป็นการนำเยาวชนผู้ชนะจากการแข่งขันกับประเทศในอาเซียน การแข่งขันฝีมือแรงงานระดับนานาชาติ (โอลิมปิก) เป็นการนำเยาวชนผู้ชนะจากการแข่งขันระดับชาติและระดับอาเซียนเข้าร่วมการแข่งขันกับประเทศสมาชิกองค์การฝึกอาชีพนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 67 ประเทศ

การดำเนินการจัดงานแข่งขัน ในครั้งนี้ มีกิจกรรมและจัดนิทรรศการเป็นอย่างดีทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเครือข่ายภาค 7 ประกอบด้วย จังหวัดศรีสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ มุกดาหาร และนครพนม รวมทั้งหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับคณะวิจัยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีและวิทยาลัยสิรินธรประชุมกำหนดแผนทิศทางงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดอุบลราชธานี

วันนี้ (15 ส.ค. 56) ที่ห้องประชุม 1669 ศูนย์ OTOP องค์กรบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมกำหนดทิศทางงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์ 1669 คณะวิจัยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาลัยสิรินธรและภาคเอกชน ร่วมประชุมเพื่อกำหนดแผนงานการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดอุบลราชธานี ตาม 5 ยุทธศาสตร์ 6 แผนงาน คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านการบังคับใช้กฎหมาย เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านวิศวกรรมจราจร เร่งปรับปรุงแก้ไข ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระบบถนน และยานพาหนะที่มีลักษณะเป็นอันตรายและก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้) ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการให้ความรู้ การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม เป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการบริการทาง การแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ยุทธศาสตร์ที่ 5 ด้านการประเมินผลและระบบสนเทศ บริหารจัดการระบบการรายงานและประเมินผล และแผนงาน 1. แผนงานด้านการวางพื้นฐานสังคมสู่วัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้อง, ปรับเปลี่ยนทัศนคติและความเข้าใจ, ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย 2. แผนงานด้านการพัฒนาระบบที่เอื้อต่อความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนามาตรการที่ส่งเสริมระบบที่เอื้อต่อความปลอดภัย 3. แผนงานด้านนิติบัญญัติและการบังคับใช้กฎหมาย (เพื่อทบทวนและปรับปรุงข้อกำหนด เกณฑ์ มาตรฐาน กฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับปัญหา 4. แผนงานด้านการจัดการความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ เพื่อยกระดับความรู้และศักยภาพของพื้นที่, ตอบสนองความต้องการของชุมชน, มีถนนและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย 5. แผนงานด้านระบบสารสนเทศ การติดตาม ประเมินผล และพัฒนางานวิจัย เพื่อให้มีระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ, สนับสนุนด้านงบประมาณ 6. แผนงานการจัดการความปลอดภัยสำหรับรถจักรยานยนต์ เพื่อส่งเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัย, สนับสนุนบทบาทภาคประชาชนในการเข้ามาร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมพัฒนา




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดงานโครงการจัดกิจกรรมศึกษาดูงาน และส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค “เสน่ห์วันวาน เริงสำราญเมืองระยอง” เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจังหวัดระยองและจังหวัดอุบลราชธานี

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 ที่โรงแรมสุนีย์แกนด์ นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดงาน โครงการจัดกิจกรรมศึกษาดูงาน และส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค "เสน่ห์วันวาน เริงสำราญเมืองระยอง” ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระรอง และส่วนราชการศึกษาดูงานด้านการท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้จังหวัดระยอง สำนักงานท่งเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยองจึงได้กำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อสนองนโยบายด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด จังหวัดระยองจึงกำหนดจัดกิจกรรมโครงการศึกษาดูงาน และส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองให้มีชื่อเสียง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดระยอง กระตุ้นสภาพเศรษฐกิจของภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองให้เติบโตสูงขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ระหว่างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและจังหวัดอุบลราชธานี

โครงการจัดกิจกรรมศึกษาดูงาน และส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ในครั้งนี้ ได้จัดงานภายใต้แนวคิด "เสน่ห์วันวาน เริงสำราญเมืองระยอง” โดยเชิญผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยว และผู้ผลิตสินค้าพื้นเมือง ในจังหวัดระยอง

จังหวัดทหารบกสุรินทร์ ร่วมกับ อบจ.สุรินทร์ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้น้อมเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

จังหวัดทหารบกสุรินทร์ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ นำนักเรียน นักศึกษา ประชาชน และ ข้าราชการทหาร ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ โครงการ ครอบครัวต้นไม้ และ โครงการ รวมใจภักดิ์ รักษ์พื้นที่สีเขียว เพิ่มพื้นที่สีเขียว น้อมเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

วันที่ 15 ส.ค.56 ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิด กิจกรรม ครอบครัวต้นไม้ น้อมเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำข้าราชการทหารกองทัพบก นักเรียน นักศึกษา ประชาชน กว่า 600 คน ร่วมกันนำกล้าไม้ไปปลูกบริเวณสวนสาธารณะ เพื่อสร้างความร่มรื่น สีเขียว ให้กับพื้นที่สวนสาธารณะ ซึ่งเป็นปอดของคนเมือง และ ให้กำลังพลในสังกัดปลูกต้นไม้อย่างน้อยคนละ 1 ต้น ภายในครัวเรือนของตน รวมทั้งปลูกฝังให้ประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้ อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดย กองทัพบก ได้จัดทำกิจกรรม ครอบครัวต้นไม้ น้อมเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 เพื่อแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ ซึ่งเป็นวิถีทางที่ดีที่สุดในการลดปัญหาภาวะโลกร้อน

จังหวัดทหารบกจังหวัดสุรินทร์ จึงได้ร่วมมือกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ พร้อมใจจัดกิจกรรมครอบครัวต้นไม้ และ โครงการองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ รวมใจภักดิ์ รักษ์พื้นที่สีเขียว เพื่อปลูกต้นไม้ น้อมเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในครั้งนี้ขึ้น




ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว / อนุชา  หาญนึก ภาพ

คลิบสั้น เรื่อง วทน.สคยร.ของนายทรงพล หอมพนาได้รับการตัดสินให้เป็นคลิปสั้นชนะเลิศได้รับเงิน รางวัล 30,000 บาท

คลิปสั้น เรื่อง วทน.สคยร. (วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนวัตกรรมสำคัญอย่างไร) ของ นายทรงพล หอมพนา ได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการให้เป็นคลิปสั้นชนะเลิศจะได้รับเงิน 30,000 บาท ตามโครงการประกวดคลิปสั้น วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมกับการพัฒนาจังหวัดขอนแก่น

บ่ายวันนี้ (15 ส.ค. 56) ที่ห้องประชุมศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ร่วมกับคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดให้มีการพิจารณาตัดสินการประกวดคลิปสั้น หัวข้อ วิทยาศาสาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมกับการพัฒนาจังหวัดขอนแก่น ตามโครงการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมกับการพัฒนา โดยมีคณะกรรมการตัดสินการประกวดประกอบด้วย อาจารย์ จากคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายสมพงษ์ ปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น ,นายเจริญลักษ์ เพ็ชรประดับ บรรณาธิการอำนวยการหนังสือพิมพ์อีสาน บิซวิค และผู้แทนจากสำนักงาน สวทน. เป็นกรรมการ มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา ส่งคลิปสั้นเข้าร่วมประกวด จำนวน 19คลิป

นายสมพงษ์ ปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ผลการตัดสินของคณะกรรมการปรากฏว่า คลิปสั้น ความยาว 3 นาที เรื่อง วทน.สคยร.(อ่านว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม สำคัญอย่างไร) ของ นายทรงพล หอมพนา ซึ่งเป็นการนำเสนอบอกเล่าผ่านการ์ตูนให้เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ครอบครัว สังคม เมืองขอนแก่น รวมถึงประเทศชาติและโลกได้อย่างไร ได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการให้เป็นคลิปสั้นชนะเลิศ โดยจะได้รับรางวัลเงินสด 30,000 บาท และใบประกาศเกียรติคุณ ส่วนรองชนะเลิศ เป็นคลิปสั้น เรื่อง พัฒนาบ้านเรา ของ นางสาวกนกวรรณ เขม้นงาน จะได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร




สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/อารมย์/พิมพ์/15 ส.ค. 56

เหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นจัดโครงการน้ำพระทัยพระราชทานสู่ภูมิภาค 76 จังหวัดน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่นโดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานและนำกล่าวถวายพระพรหน้าพระบรมสาทิศลักษณ์ทั้งสองพระองค์ นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดขอนแก่นกล่าวว่าโครงการนำสิ่งของธารน้ำใจมามอบให้กับสมาชิกผู้รับการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยควบคุมตัวแบบไม่เข้มงวดหญิงของโรงพยาบาลธัญญารักษ์เป็นโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน ซึ่งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมมือกับ 76 จังหวัดจัดกิจกรรมเป็นโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงานผู้ประสบความทุกข์ยากไร้ ผู้เดือดร้อน เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งจังหวัดขอนแก่นร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัด สมาคมแม่ดีเด่น สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยจังหวัดขอนแก่น หอการค้าจังหวัด ห้างแฟรี่พลาซ่า โรงโม่หินเทพประทานพร ได้สมทบทุนและร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์จัดเลี้ยงอาหารผู้เดือดร้อน ผู้ยากลำบากเป็นขวัญกำลังให้กับพวกเขาและนำกิจกรรมความบันเทิงต่างๆเข้ามาสร้างสีสันความสนุกสนานให้กับทุกคนได้มีส่วนร่วมเพื่อให้มีสุขภาพจิตที่ดีรวมทั้งสร้างความสามัคคีในกลุ่มเพราะผู้ที่มาพัฒนาสมรรถภาพในโรงพยาบาลแห่งนี้ต้องอยู่พัฒนาตนเองจำนวน 120 วันก่อนกลับไปเป็นคนดีคนเดิมของครอบครัวและของสังคมต่อไปผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวเพิ่มเติมว่าทุกคนไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรือเดินทางผิดแต่ผู้ที่เข้ามาพัฒนาสมรรถภาพถือว่าโชคดีกว่าคนอื่นที่ต้องติดคุกดังนี้ความโชคดีจะมีมาไม่บ่อยจึงขอให้ทุกคนตั้งใจพัฒนาตนเองเพื่อรอวันกลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขเหมือนเดิมและหวังว่าคงไม่มีใครกลับมาอยู่ที่นี่หรืออยู่ในคุกอีก

กาชาดขอนแก่นช่วยผู้เดือดร้อน

เมื่อวันที่15 ส.ค. 2556 ที่ผ่านมานางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นนำคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นออกไปเยี่ยมครอบครัวนางอ้อยทิพย์ พลบำรุง ที่อาศัยอยู่ในชุมชนสามเหลี่ยมในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นครอบครัวที่ยากจนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปซึ่งมีภาระเลี้ยงดูแม่ 1 คนและลูกอีก 4 คนตอนนี้ป่วยเป็นเบาหวานลูกสาว 3คนก็ป่วยเป็นสายตาสั้นเอียง โรคธารัสซีเมีย โรคหอบหืด ลูกชายป่วยมีน้ำในสมอง ฐานะยากจนไม่มีนมให้ลูกกินซึ่งเมื่อทางเหล่ากาชาดขอนแก่นทราบเรื่องก็รีบเข้าไปช่วยเหลือนำของใช้เครื่องนุ่งห่ม อาหารรวมทั้งนมสำหรับเด็กและเงินจำนวนหนึ่งมอบให้เป็นถือเป็นโครงการจังหวัดขอนแก่นไม่ทอดทิ้งกันจากนั้นคณะของนายกเหล่ากาชาดขอนแก่นก็เดินทางต่อไปที่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 10 ตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่นเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวนายเฉลียว สาชิต อายุ 49 ปีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ล้มป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง มานานหลายปีทำให้ตาบอดทั้งสองข้างและต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้งและภรรยาก็ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมีลูก 2 คนคนหนึ่งท้องแก่ทำงานไม่ได้คนหนึ่งต้องหยุดเรียนมาดูแลแม่ที่ป่วยทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเมื่อทางกาชาดจังหวัดทราบเรื่องก็เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพ เสื้อผ้า เครื่องกันหนาว และเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในระดับหนึ่งและทางเทศบาลตำบลพระลับก็มีการช่วยเหลือด้วยในระดับหนึ่งเหมือนกัน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งชี้แจงทำความเข้าใจการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี 2556/2557

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งทำความเข้าใจเกษตรกรเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2556/57 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น วันที่ 17 สิงหาคมนี้

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาซักซ้อมความเข้าใจการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวรอบปี 2556/57 แก่เจ้าหน้าที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่นโดยในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2556 ณ โรงแรมเซ็นทาราแอนคอนเวนชั่นขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อร่วมโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/57แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถขึ้นทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556- 30 มิถุนายน 2557 การประชาคม ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2556-14 กรกฎาคม 2557และการออกใบรับรองตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2556-15 กันยายน 2557 เพื่อให้การขึ้นทะเบียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลถูกต้อง ตรงกับความจริง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเจ้าหน้าที่ เป็นเกษตรอำเภอ และเกษตรตำบล 2,250 คน ใน 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หากเกษตรกรมีการแจ้งข้อมูลเท็จ ให้เพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวจาก 1 ปี เป็น 3 ปี และมีความผิดตามกฎหมาย สำหรับผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2555/2556ทั่วประเทศ ตัดยอดข้อมูล ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2556 มีขึ้นทะเบียนไว้ 4,215,426 ครัวเรือรน ผ่านประชาคม 4,170,049 ครัวเรือน ออกใบรับรอง 4,129,104 ครัวเรือน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด มีขึ้นทะเบียน 2,391,899 ครัวเรือน ผ่านประชาคม 2,375,393 ครัวเรือน ออกใบรับรอง 2,364,603 ครัวเรือน ดังนั้นการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวชาวนาต้องให้ความร่วมมือแจ้งข้อมูลที่เป็นจริงให้ครบ ไม่ให้ใครมาสวมสิทธิแทน โครงการนี้จะอยู่คู่เกษตรกรต่อไป




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

วิทยาลัยการอาชีพขอนแก่นจัดงาน สืบสานตำนานผ้าไหมมัดหมี่ อำเภอชนบท

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานเปิดงาน สืบสานตำนานผ้าไหมมัดหมี่ อำเภอชนบท ที่บริเวณอาคารศาลาไหมไทย ซึ่งทางวิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น จัดขึ้นในวาระโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมพรรษาครบรอบ 81 พรรษาและสืบเนื่องจากศาลาไหมไทยที่ตั้งอยู่ในวิทยาลัยการอาชีพขอนแก่นได้ดำเนินตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการทอผ้าไหมมัดหมี่ของกลุ่มผู้เลี้ยงไหมในอำเภอชนบทซึ่งเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมชั้นดีของเมืองขอนแก่นปัจจุบันผ้าไหมของอำเภอชนบทมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศและขยายไปสู่ต่างประเทศ เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านทางคณะครูอาจารย์และกลุ่มผลิตผ้าไหมในอำเภอชนบทจึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรม สืบสานตำนานผ้าไหมมัดหมี่ของดี อำเภอชนบทขึ้นมาโดยมีกิจกรรมเดินแบบชุดผ้าไหมมัดหมี่ของดีเมืองชนบทของนักศึกษาอาจารย์ของวิทยาลัยการอาชีพขอนแก่นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นิทรรศการสื่อประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมูลค่าผ้าไหมมัดหมี่ รวมทั้งขั้นตอนการผลิตผ้าไหมแต่ละขั้นตอนทั้งการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การย้อมผ้าไหมการปั้นหลอดผ้าไหมและการทอผ้าไหมโดยภูมิปัญญาชาวบ้าน                      

สำหรับผ้าไหมของอำเภอชนบทขณะนี้ทางกลุ่มเซนทรัลได้มาสนับสนุนทั้งขั้นตอนการผลิต การตลาด การออกแบบลวดลายสีสันให้มีความทันสมัยและนำไปจำหน่ายในห้างสรพสินค้าในเครือทั่วประเทศและทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็เลือกผ้าไหมชนบทนำไปตัดให้กับคณะรัฐมนตรีใส่ในการประชุมวาระต่างๆด้วย 

จังหวัดขอนแก่นประกาศเตือนประชาชนระวังพายุไต้ฝุ่น "อูตอร์" 3-4 วันนี้

จังหวัดขอนแก่นประกาศเตือนประชาชนระวังพายุ อูตอร์ ภายใน 3-4 วัน ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศทาง สถานีวิทยุท้องถิ่นและโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด

นายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่น รับแจ้งจากกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 3 เรื่องพายุใต้ฝุ่น "อูตอร์ เคลื่อนตัวใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน ในวันที่ 14 สิงหาคม 2556 ขณะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหนึ่งใน 20 จังหวัดรวมจังหวัดขอนแก่น ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกและชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังการเดือนเรือในระยะนี้ เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มอันเกิดจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่ราบริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก ถึงหนักมากให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 3-4 วัน โดยประชาสัมพันธ์ผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำถิ่น สถานี โทรทัศน์ และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เตือนประชาชนเตรียมความพร้อม เฝ้าระวังตรวจสอบ เส้นทาง เขื่อน ฝาย และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีประชาชนไปใช้บริการจำนวนมาก เช่นบางแสนสอง พัทยาสอง เป็นต้น
 ข่าว-พิมพ์ /นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

กองทุนอสังหาริมทรัพย์ TNPF เพิ่มทุนขอนแก่น 694 ล้านบาท 20-26 ส.ค. 56 เปิดบริการฯ

กองทุนอสังหาฯ TNPF เพิ่มทุน จัดโรดโชว์นักลงทุนขอนแก่น เพิ่มทุนรอบใหม่ 694 ล้านบาท เปิดจองซื้อกับนักลงทุนทั่วไป 20-26 สิงหาคมนี้

นางศันสนีย์ หุตานุวัตร รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่สายงานลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้ (TNPF) เปิดเผยว่า กองทุน TNPF อยู่ระหว่างระดมทุนรอบใหม่มูลค่า 694 ล้านบาท โดยเสนอขายให้กับผู้ถือหน่วยเดิมจำนวน 75.43 ล้านหน่วย ในอัตรา 1 หน่วยลงทุนเดิมต่อ 1.06245 หน่วยลงทุนใหม่ ราคา 9.20 บาท ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ ก่อนนำเสนอขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไปในระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคมนั้น ล่าสุดทางกองทุนได้เดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (โรดโชว์) ในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเริ่มต้นพบนักลงทุนที่จังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรกในวันนี้ (14ส.ค.56) "ถือเป็นโอกาสที่ดีกับการลงทุนในกองทุน TNPF เนื่องจากสินทรัพย์ที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมนั้น ถือเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพทั้งด้านทำเลซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ในซอยละลายทรัพย์ เชื่อมต่อ ถนนสายเศรษฐกิจสำคัญ 3 สาย ได้แก่ถนนสีลม ถนนสาทร และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ขณะเดียวกัน โครงการที่เข้าไปลงทุนครั้งนี้ ยังเป็นการผสมผสานสินทรัพย์ 3 ประเภทไว้ด้วยกันได้แก่ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และShopping Mall”

นางศันสนีย์กล่าว ทั้งนี้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้ (TNPF) ได้ระดมทุนรอบใหม่มูลค่า 694 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลงทุนใน 3 โครงการประกอบด้วย ซื้อกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ (Freehold) ของอาคารตรีทิพย์ 2 ประกอบไปด้วย 1. โครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ (Glow studio) 2. โครงการวิลล่า มาร์เก็ต 3. ตรีนิตี้ มอลล์ 1 (บี) และลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) อายุ 30 ปี ในโครงการตรีนิตี้ มอลล์

นางศันสนีย์ กล่าวต่อว่า หลังการเพิ่มทุน สัดส่วนการถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (Freehold) จะอยู่ที่ 82% ขณะที่สิทธิการเช่า (Leasehold) จะอยู่ที่ 18% ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของกองทุน TNPF เนื่องจากทรัพย์สินที่กองทุนเข้าลงทุนตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางธุรกิจย่านสีลม-สาทร ซึ่งเป็นทำเลที่มีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี ดังนั้นการลงทุนที่เน้นการถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะส่งผลดีต่อการเติบโตของกองทุนในระยะยาว ที่สำคัญกองทุนยังได้รับประกันรายได้เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี

ด้านนางสาวอรนารถ เชิดบุญชาติ ผู้บริหารกลุ่มบริษัทตรีนิตี้ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ในการบริหารทรัพย์สินของกลุ่มตรีนิตี้ รวมถึงการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์อย่างเป็นมืออาชีพจากบริษัท อินวิชั่น ฮอสพิทาลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรม GLOW รวมถึงผลงานที่ผ่านมาของกองทุน TNPF จะช่วยย้ำความมั่นใจให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม ที่จะยังคงรักษาสิทธิ์และรักษาสัดส่วนในการเป็นเจ้าของกองทุนต่อไป สำหรับระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุน TNPF ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ ส่วนประชาชนทั่วไป วันที่ 20-26 สิงหาคมนี้ ซึ่งผู้สนใจจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้ (TNPF) สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด โทร. 02-352-4050 และบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) โทร. 02-638-5500 หรือติดต่อผ่านห้องค้าหลัก




ทรัพย์ทั้งสองแห่งในต่างจังหวัด
ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณีส.ปชส.ขอนแก่น

คืบหน้าโจรปล้นธนาคารกรุงเทพ ที่ชัยภูมิ

ตำรวจชัยภูมิตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวในห้างบิ๊กซี กระจายกำลังสายสืบ ล่าตัวมือปืนบุกเดี่ยวจี้เงินแบงค์กรุงเทพ ในห้างบิ๊กซี

จากเหตุโจรบุกเดี่ยว สวมหมวกกันน๊อก สวมถุงมือ สวมแว่นตาดำ สวมเสื้อแจ็คเก็ต สะพายกระเป๋า จี้เงิน จากเค้าท์เตอน์ธนาคารกรุงเทพ สาขาชัยภูมิ ภายในห้างบิ๊กซี อ.เมืองชัยภูมิ กวาดเงินสดไปได้ กว่า 1 แสนบาท ขับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีชพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีอย่างลอยนวล เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ นำโดย พ.ต.อ. ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้นำวงจรปิดทุกมุม ทั้งภายในและภายนอกห้าง มาทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งพบว่า ทางห้างไม่มียามรักษาการณ์ แต่ใช้กล้องวงจรปิดแทน ทำให้คนร้ายมีเวลาในการสำรวจลาดเรา ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปเค๊าท์เตอร์ พร้อมชักอาวุธปืน ขู่เจ้าหน้าที่ธนาคาร บังคับให้หยิบเงินในลิ้นชัก ยัดใส่กระเป๋าที่เตรียมมา แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ซึ่งในทางสืบสวน เบื้องต้นหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลของคนร้ายได้ ต้องระดมสายสืบ ออกไปสืบสวน ตามเบาะแสที่ได้จากพยานบุคคล รอบข้าง รวมถึงแกะรอยจากรถจักรยายนต์ ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะยังอยู่ในพื้นที่ พฤติกรรมการก่อเหตุมือความคล่องแคล่ว ไม่แน่ในว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่น แต่เท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิด อาวุธที่ใช้น่าจะเป็นอาวุธปืนปลอม และเชื่อว่าจะสามารถติดตามจับกุมได้เร็วนี้




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ผวจ.หนองบัวลำภู เชิญชม “มหกรรมรวมพลคนกินข้าวเหนียว” ที่ เดอะมอลล์โคราช 15-21 ส.ค. นี้

วันนี้ (15 ส.ค. 56) นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นำสินค้าเด่นของจังหวัดหนองบัวลำภูมาจัดงาน "มหกรรมรวมพลคนกินข้าวเหนียว” ที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา บริเวณลานอีเว้นฮอลล์ ชั้น 1

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า จังหวัดหนองบัวลำภู กำหนดยุทธศาสตร์พื้นที่เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ใช้สโลแกนว่า "หนองบัวลำภู...มีดี เมืองราชินีข้าวเหนียว...ข้าวผัวหลง” เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวเหนียวของจังหวัดหนองบัวลำภูที่มีคุณสมบัติหอม อร่อย จนได้ชื่อว่า "ผัวหลง” ให้เป็นที่รู้จัก แพร่หลายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นอาหารแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวเหนียว และเป็นการส่งเสริมเพิ่มมูลค่า และเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารจากข้าวเหนียวของจังหวัดหนองบัวลำภูมากยิ่งขึ้น จึงนำมาจัดงาน "มหกรรมรวมพลคนกินข้าวเหนียว” ที่นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 15 – 21 สิงหาคม 2556 ที่ ลานอีเว้นท์ฮอลล์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา ชั้น 1
             
กิจกรรมภายในงาน มีการแสดงนิทรรศการภูมิปัญญาชาวบ้าน ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากข้าวเหนียว "ผัวหลง”นานาชนิด การออกเป็นซุ้มสินค้าโอทอป ต่างๆ และอาหารลือชื่อ อาทิเช่น ต้มเห็ด ยำเห็ด ลาบเห็ดต่างๆ ข้าวเม่า ส้มตำ ขนมบราวนี่ผลิตจากข้าวเหนียว "ผัวหลง” และอาหารอื่นๆอีกมากมาย โดยเฉพาะ ข้าวเหนียว "ผัวหลง” ที่บรรจุถุงแบบสุญญากาศ จำหน่ายในราคาย่อมเยาว์ ด้วย

จึงขอเชิญชวนชาวโคราชทุกท่าน ไปชม ชิม และซื้ออาหารในงาน "มหกรรมรวมพลคนกินข้าวเหนียว” ของจังหวัดหนองบัวลำภู ระหว่างวันที่ 15 – 21 สิงหาคม 2556 ที่ ลานอีเว้นท์ฮอลล์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา ชั้น 1 นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ฝากเชิญชวน 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) กำหนด จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์’ 56” 17-18 สิงหาคม นี้

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) โดย สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ประจำปี 2556 ในวันที่ 17-18 สิงหาคม 2556 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย และยังจัดให้มีการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วย

ทั้งนี้ กำหนดจัดให้มีพิธีถวายพานพุ่มเพื่อเป็นราชสักการะและอาศิรวาทเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย เนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ วันที่ 18 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 น.

พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกับ กองทัพภาคที่ 2 และมูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จัดการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 11 ประจำปีการศึกษา 2556 โดยมีนักเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย จากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมจัดแสดงโครงงานด้านวิทยาศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์ และภาษาอังกฤษ รวมทั้งนิทรรศการด้านดาราศาสตร์และอวกาศ นิทรรศการสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ หลักสูตรก้าวหน้า มทส. เพื่อส่งเสริมความรู้และกระตุ้นให้เยาวชนตื่นตัวทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเปิดให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจเข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคม 2556 ณ อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัด
นครราชสีมา

ศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา จัดกิจกรรม“ลดน้ำหนัก สร้างบุญ สร้างสุขภาพ” หวังปรับพฤติกรรมป้องกันและลดโรคเรื้อรังด้วยการทำความดีช่วงเทศกาลเข้าพรรษา

ศูนย์อนามัยที่5นครราชสีมา จึงได้จัดกิจกรรม "ลดน้ำหนัก สร้างบุญ สร้างสุขภาพ” ขึ้นช่วงระหว่างเทศกาลเข้าพรรษา 24 กรกฎาคม – 30 ตุลาคม 2556 โดยจัดทำตารางการออกกำลังกายทุกวัน อาทิ แอโรบิค ฟิตเนต เดิน วิ่ง เป็นต้น

นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา กล่าวว่า ศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ส่งเสริมให้คนไทยดูแลและป้องกันสุขภาพตนเองไม่ให้เจ็บป่วย สำหรับกิจกรรม "ลดน้ำหนัก สร้างบุญ สร้างสุขภาพ” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในโครงการพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพบุคลากรสู่องค์กรต้นแบบไร้พุง ซึ่งจากผลวิจัยองค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency Of Research On Cancer หรือ IARC) ได้วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับโรคอ้วนกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง พบว่า ความอ้วน เป็นสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ ร้อยละ 11 เกิดมะเร็งเต้านมในวัยหมดประจำเดือน ร้อยละ 9 มะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 39 มะเร็งที่ไต ร้อยละ 25 และมะเร็งหลอดอาหาร ร้อยละ 37 ซึ่งตรงกับรายงานของสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งอเมริกา และมูลนิธิวิจัยโรคมะเร็งโลก ที่รายงานว่า ความอ้วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งที่อวัยวะหลายส่วน ได้แก่ หลอดอาหาร ตับอ่อน ลำไส้ เต้านมในวัยหมดประจำเดือน มดลูก และไต นอกจากนั้นยังมีการศึกษาพบว่าคนอ้วนจะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากที่รุนแรงอีกด้วย

และเพื่อให้เกี่ยวเนื่องและมีแรงจูงใจ ศูนย์อนามัยที่ 5 จึงกำหนดจัดกิจกรรมลดความอ้วนในช่วงเทศกาลบุญเข้าพรรษา โดยเริ่มจากเจ้าหน้าที่ทุกคนในองค์กรต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นตัวอย่าง ด้วยการจัดตารางการออกกำลังกายทุกวัน อาทิ แอโรบิค ฟิตเนต เดิน วิ่ง เป็นต้น และมีการวัดรอบเอวรวมกับชั่งน้ำหนักทุกๆวันพุธที่สามของเดือนด้วย โดยผู้ที่สามารถลดน้ำหนักได้ 5 กก.ขึ้นไป ก็จะได้รับเงินรางวัล ที่สามารถนำรางวัลที่ได้รับไปต่อยอดด้วยการทำบุญได้ด้วย ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา กล่าว 

หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จัดสัมมนายุทธศาสตร์เชิงรุกสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและการค้าไทย-จีน เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์ของไทย

วันนี้ (15 ส.ค. 56) เวลา 10.00 น.  ที่โรงแรมวีวีน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนายุทธศาสตร์เชิงรุกสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและการค้าไทย-จีน ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์วิจัยโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นเพื่อศึกษาและประเมินศักยภาพด้านโลจิสติกส์และการลงทุนเพื่อการจัดทำยุทธศาสตร์เชิงรุกสำหรับเครือข่ายภาคเอกชนไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและการเปิดการค้าเสรีกับจีนและเพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์ของไทย ภาคใต้การเปิดเสรีภาคบริการโลจิสติกส์ ตาม กรอบของ AEC

ด้านนายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า งานวิจัยและผลการศึกษาเพื่อรองรับ AEC และการเปิดเสรีการค้ากับจีน ของประเทศไทย เน้นเพียงการศึกษาเชิงตั้งรับและปรับโครงสร้างพื้นฐานรอการรุกจากต่างชาติ แต่ไม่ทำการศึกษาเชิงรุกเพื่อให้นักลงทุนหรือผู้ประกอบการไทยเข้าไปแสวงหาโอกาส ซึ่งผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยยังขาดข้อมูลที่สำคัญเพื่อประกอบการลงทุนในประเทศสมาชิกว่าควรลงทุนประเทศใด ประเทศไหนควรลงทุนธุรกิจอะไร มีอุปสรรคหรือความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนต่อการลงทุน ซึ่งหากผู้ประกอบการไม่ทราบข้อมูลเหล่านี้จะทำให้การเข้าไปลงทุนในประเทศสมาชิกจะเป็นการเสี่ยงและไม่มีทิศทาง ทำให้เสียโอกาสและความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการศึกษาและประเมินศักยภาพการลงทุนในแง่เชิงรับ ปรับตัว เพื่อเตรียมความพร้อมและเชิงรุกเพื่อแสวงหาโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้กับผู้ปรกอบการของไทย นายจักริน กล่าว