วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ศพส.เมืองอุดรธานี ร่วมกับ ทม.โนนสูงน้ำคำค่ายพลังอาสาทำความดีเพื่อแผ่นดิน ปี 56

ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมืองอุดรธานี ร่วมกับเทศบาลเมืองโนนสูง-น้ำคำ จัดค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด โครงการค่ายพลังอาสาทำความดีเพื่อแผ่นดิน ประจำปี 2556

ที่ค่ายพระยาสุนทรธรรมธาดา ตำบลโนนสูง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เช้าวันนี้ ( 20 พ.ค.56 ) นายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานเปิดการฝึกอบรมค่ายบำบัดฟื้นฟู ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ตามโครงการค่ายพลังอาสาทำความดีเพื่อแผ่นดิน ประจำปี 2556 ซึ่งเป็นการอบรมให้กับเยาวชนในพื้นที่ตำบลโนนสูง 50 คน

นายมานิต แสงศีลา นายกเทศมนตรีเมืองโนนสูง-น้ำคำ กล่าวว่า การจัดฝึกอบรมครั้งนี้จัดขึ้นตามหลักยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนได้รับรู้และทราบถึงปัญหาและพิษภัย ของยาเสพติด สร้างผู้นำเยาวชน ในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนและสถาน ศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ทักษะความคิดและสร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกายและจิตใจให้กับเยาวชน ไม่ให้ตกเป็นทาสยาเสพติด สนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดและร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถาน ศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน


ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยูธยา ข่าว/ภาพ

เครือข่ายองค์กรประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเพื่อสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ปี 56

ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี ฝ่ายความมั่นคง จัดอบรมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายองค์กรประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยา เสพติด เพื่อสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ประจำปี 2556 รุ่นที่ 1

ที่ห้องดาวลดา โรงแรมอุดรโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธายนี นายสาโรช แสงอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายองค์กรประสานพลัง แผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เพื่อสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้านและชุมชน ประจำปี 2556 รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นการจัดอบรมให้กับเครือข่ายองค์กรประสานพลังแผ่นดินใน10 อำเภอของจังหวัดอุดรธานี อาทิ อำเภอกุมภวาปี หนองหาน บ้านดุง ศรีธาตุ สร้างคอม วังสามหมอ ทุ่งฝน ไชยวาน โนนสะอาด และอำเภอกู่แก้ว

นายพงสิทธิ์ เปรยะโพธิเดชะ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ยกระดับการแก้ไขปัญหายาเสพติดจากวาระแห่งชาติ เป็นวาระแห่งภูมิภาค ที่ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องมีความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 154/2554 ลงวันที่ 9 กันยายน 2554 เรื่องยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติคำสั่งศูนย์อำนวยการพลัง แผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติที่ 1/2554 เรื่องแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พ.ศ.2555 และคำสั่งศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติที่ 23/2555 เรื่องปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ปี 2556 ซึ่งกำหนดแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้กลยุทธ์ 7 แผน งานหลัก

โดยแผนงานที่ 1แผนการสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด กำหนดให้มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้าน/ชุมชน ทั่วประเทศ เพื่อป้องกัน เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจ จากประชาชน ในหมู่บ้าน เพื่อเป็นพลังแผ่นดินทำหน้าที่ขับเคลื่อนร่วมกับกลไกลภาครัฐ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้สามารถลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินแห่งชาติ กำหนดให้มีการจัดตั้งเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ผู้ประสานพลังแผ่นดิน 25 ตาสับปะรดและมีศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเพื่อเอาชนะยาเสพติดหมู่บ้าน ( ศพส.ม.) เป็นคณะทำงานเพื่อเป็นพลังแผ่นดินในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายา เสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกระตุ้น ส่งเสริม และเน้นย้ำยุทธศาสตร์ แนวทาง การดำเนินงาน อีกทั้งเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ด้านวิชาการและเสริมสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับผู้ปฏิบัติงานในหมู่บ้าน /ชุมชน ได้มีความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน /ชุมชน มีความชัดเจน เป็นไปในแนวทางเดียวกัน


ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

อุดรธานีประชุมเตรียมงานเนื่องในเทศกาลวินวิสาขบูชา


จังหวัดอุดรธานีขอเชิญชวนชาวอุดรธานีทุกหมู่เหล่า แต่งชุดขาว หรือเสื้อขาว 20-24 พ.ค.56 พร้อมร่วมกิจกรรม เดินรณรงค์ ลด ละ เลิก อบายมุข ร่วมพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ฟังพระธรรมเทศนา ทอดผ้าป่าสมทบทุนกองทุนพุทธชยันตี 2,600 ปีกระทรวงมหาดไทยที่วัดโพธิสมภรณ์และสมทบกองทุนอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนา พุทธมณฑล ณ วัดมัชฌิมาวาส และร่วมทำบุญตักบาตร เวียนเทียนวัดใกล้บ้านในวันวิสาขบูชา 24 พ.ค.56

ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี บ่ายวันนี้ ( 20 พ.ค.56 ) นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานการประชุมการจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ ลด ละ เลิก อบายมุข เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2556จังหวัดอุดรธานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับคณะสงฆ์ ประชาชน ในพื้นที่กำหนดจัดสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวินวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก ประจำปี 2556 ตามมติมหาเถรสมาคม ระหว่างวันที่ 20-24 พฤษภาคม 2556 โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ประกอบด้วยการปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ นักเรียนและคฤหัสถ์ การทำบุญตักบาตร เวียนเทียน การแสดงพระธรรมเทศนา การบรรยายธรรม สนทนาธรรม ถวายสังฆทาน การจัดกิจกรรมเผยแพร่พระพุทธศาสนา และพิธีเจริญพระพุทธมนต์นานาชาติถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชันษาครบ 100 ปี ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556

ในการนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีทุกหมู่เหล่าร่วมแต่งชุดขาว หรือเสื้อขาว ประดับธงชาติ และธงธรรมจักร ที่สถานที่เหมาะสมระหว่างวันที่ 20-24 พฤษภาคม 2556 และในวันที่ 24 พฤษภาคม 2556 ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เชิญชวนชาวอุดรธานี ร่วมทำบุญตักบาตร ร่วมแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เข้าวัดฟังพระธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรม เวียนเทียน ณ วัดใกล้บ้าน ร่วมทอดผ้าป่าสมทบทุนกองทุนพุทธชยันตี 2,600 ปี ของกระทรวงมหาดไทย ที่วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง และร่วมทอดผ้าป่าสมทบกองทุนอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ณ วัดมัชฌิมาวาส

อนึ่งเพื่อเป็นการร่วมรณรงค์ ลด ละ เลิก อบายมุข เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2556จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษาได้ร่วมกันจัดขบวนเดินรณรงค์ฯจากลานน้ำพุสนามทุ่งศรีเมือง ไปตามถนนประจักษ์ ไปถนนอุดรดุษฎี มาสิ้นสุดที่วัดมัชฌิมาวาส และจัดให้มีการเปิดงานเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2556จังหวัดอุดรธานี อย่างเป็นทางการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในเวลา 10.00 น. และในเวลา 19.00 น.เชิญชวนร่วมเวียนเทียนที่วัดมัชฌิมาวาสและวัดโพธิสมภรณ์



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

สุรินทร์เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันนี้ ( 20 พ.ย. 56 ) ที่ห้องประชุมรัตนสยาม โรงแรมทองธารินทร์ จ. สุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์เป็นเจ้าภาพในการจัดการ ประชุมสัมมนาหัวข้อการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคตะวันออก เฉียงเหนือ โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้บริหาร และนายกเทศมนตรีเทศบาล เมือง เทศบาลตำบลจาก 20 จังหวัด เข้าร่วมประชุมกันอย่างคึกคักเป็นจำนวนมาก โดยมีการชี้แจงทบทวนแนวทางการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยทีมผู้บริหารสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาพันธ์สันติบาตรเทศบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการนำของ นายชัยมงคล ไชยรบ ประธานสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสมาพันธ์ อบจ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีมติในการประชุมปรึกษาหารือกันเรื่องของ นโยบายรัฐบาลที่มีแนวทางการกระจายอำนาจให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนี้ เรื่องแรกเสนอให้รัฐบาลจัดสรรรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสามรูป แบบ 30 ของรายได้งบประมาณของแผ่นดิน พ.ศ. 2557 เรื่องที่ 2 เงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามนโยบายแห่งรัฐส่งผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ด้านอาสาสมัครสาธารณสุข ( อปม. ) ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ไม่ให้นำมารวมเข้ากับเงินที่รัฐบาลจัดสรรรายได้ให้กับองค์การปกครองส่วนท้อ องถิ่น ( 30 % ) เรื่องที่ 3 ให้สมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัดดำเนินการติดตามความเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวต่อไป



ประนนท์ ไม้หอม / ข่าว / ส.ปชส.สุรินทร์ 

ผวจ.ศรีสะเกษ ตรึงมาตรเข้ม สั่งเอ็กซเรย์ โรงเรียนทุกพื้นที่ หวั่นยาเสพติด ระบาดในสถานศึกษา


นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 พ.ค.56 ที่ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดใน สถานศึกษา เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษา และสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด ตามแผนปฏิบัติการ รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องเยาวชนให้พ้นภัยยาเสพติด และโครงการสถานศึกษาปลอดยาเสพติด และอบายมุข โดยมีนายวัฒนา พุฒิชาติ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศรีสะเกษเขต 1-4 เข้ารับมอบนโยบายในครั้งนี้

นายประทีป กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ไดจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ โดยมีเป้าหมายเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนวัยก่อนเสี่ยงในระดับชั้น ป.5-ป.6 ทุกคน จำนวน 36,255 คน และกระจายไปสู่โรงเรียนและสถานศึกษาในระดับขยายโอกาสขึ้นไป จนถึงระดับอุดมศึกษา จำนวน 318 แห่ง และเพื่อให้การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปตามมี ประสิทธิภาพ ตนจึงได้สั่งการไปยังสถานศึกษา ทุกพื้นที่ในจังหวัดศรีสะเกษ ให้สอดส่องดูแลนักเรียนที่มีพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง ค้นหานักเรียนที่เสพยาเสพติด แล้วนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสมต่อไป



จิรภัทร หมายสุข / ภาพ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

โรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดศรีสะเกษ จัดอบรมส่งเสริม เพิ่มศักยภาพ ให้คณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) รุ่นที่ 5 ประจำปี 2556


นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 พ.ค.56 โรงเรียนนักปกครองจังหวัดศรีสะเกษ(ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดศรีสะเกษ) นายประทีป กีรติเรขา ผู้วาราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) รุ่นที่ 5 ประจำปี 2556 โดยมีนายวัฒนา พุฒิชาติ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการหมู่บ้านที่เข้ารับการอบรมให้การต้อนรับ นายวัฒนา กล่าวว่า กรมการ ปกครอง ได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) คือ การจัดตั้ง โรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัด ให้ทุกจังหวัดดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำ จังหวัดให้ครบทุกจังหวัด โดยจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดตั้ง ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2 ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา และกำหนดให้มีการฝึกอบรมวิทยากรประจำโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำ จังหวัด รวม 8 ท่าน และให้คณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) ที่ผ่านการฝึกอบรมในระดับจังหวัดนำไปขยายผล ให้ กม.ในพื้นที่เพื่อให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบที่มีการบริหารจัดการภายในหมู่บ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับหมู่บ้านอื่นต่อไป และในปีงบประมาณ 2556 กรมกรปกครองได้กำหนดเป้าหมายให้จังหวัดศรีสะเกษดำเนินการพัฒนาศักยภาพ กม. รวม 7 รุ่น ๆละ 100 คน ด้าน นายประทีป กล่าวว่า เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) และเพื่อรองรับการดำเนินงานของทุกภาคส่วนให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 ซึ่งมีมติให้ทุกภาคส่วนใช้คณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ในพื้นที่ และคณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นองค์กรของประชาชนที่บริหารจัดการในหมู่บ้านได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับการฝึกอบรมฯในครั้งนี้ มีคณะกรรมการหมู่บ้าน(กม.) ประจำปี 2556 เป็นรุ่นที่ 5 เข้ารับการฝึกอบรมจากอำเภอขุนหาญ 7 หมู่บ้าน, อำเภอปรางค์กู่ 7 หมู่บ้าน และอำเภอไพรบึง 6 หมู่บ้าน จำนวนทั้งสิ้น 100 คน ใช้ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน



จิรภัทร หมายสุข /ภาพ/ข่าว
บุญทัน ธุศรีวรรณ / บรรณาธิการข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ 

พ่อเมืองลำดวน ติวเข้ม บุคลากรในจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558


นายพินิจ วงษ์โสภา รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 พ.ค.56 ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้วาราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาในหัวข้อ การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ส่วนราชการ และประชาชนชาวศรีสะเกษ ได้รับรู้ถึงผลกระทบ และ ปัญหา รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 นี้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 200 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้

นายประทีป กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ มีบทบาทสำคัญโดยตรงในการสร้างความรู้ความเข้าใจและเตรียมความพร้อมรับผล กระทบทั้งด้านบวกและลบให้แก่ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน จึงได้จัดทำโครงการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมของจังหวัดในการเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน ขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้บุคลากรในจังหวัด ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ในการเตรียมความพร้อมของจังหวัดเพื่อรองรับผลกระทบในการเข้าสู่ประชาคมเซียน ในด้านต่างๆ เช่นการท่องเที่ยว โลจิสติกส์ อุตสาหกรรม และการพัฒนาสินค้า OTOP และเพื่อให้ผู้เข้ารับการประชุมสัมมนาสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้ กับบุคลากรในหน่วยงาน องค์กร และประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

นายประทีป กล่าวจ่อไปว่า สำหรับการสัมมนาในวันนี้ มี ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ (สมาชิกสภาทีปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวศรีสะเกษ) บรรยายให้ความรู้ ในเรื่อง ประวัติความเป็นมา บทบาทหน้าที่ของอาเซียน การสื่อสารประเทศไทยกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและการปรับตัวของจังหวัด การเพิ่มศักยภาพของจังหวัดด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว ทักษะการเป็นวิทยากร การเพิ่มศักยภาพของสินค้า OTOP และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในกาเข้าสู่ประชาคมอาเซียน



จิรภัทร หมายสุข / ข่าว
สุรศักดิ์ สร้อยเพชร /ภาพ
บุญทัน ธุศรีวรรณ / บรรณาธิการข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ 

ลำดวนเพลิง เผา ปูพิฆาต 1 ประตูต่อ 0


เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 19 พ.ค.56 ที่สนามศรีนครลำดวน สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ศึกการแข่งขันฟุตบอลเอไอเอสลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ปี 2013 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่าง ลำดวนเพลิง ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด เจ้าบ้าน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ปูพิฆาต มหาสารคาม ยูไนเต็ด โดยมีแฟนบอลศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ที่เดินมาให้กำลังใจ ท่ามกลาง ฝนที่ตกโปรยปราย ตลอดการแข่งขัน เริ่มเกมส์ในครี่งเวลาแรกเป็นศรีสะเกษ เจ้าบ้าน ที่ได้ครองบอล และมีจังหวะทำประตูได้มากกว่า แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ ด้านมหาสารคาม อาศัยจังหวะลูกกลางอากาศเพื่อทำประตู โดยมีโอกาสอยู่หลายครั้งเช่นกัน แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ หมดเวลาในครึ่งแรกทั้งสองทีม ยังไม่สามารถทำประตูได้ เสมอกันที่ 0 ประตูต่อ 0 ศรีสะเกษ มาได้ประตูชัยในครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 62 โดยเป็น หมายเลข 27 ราฟาเอล โมเรทโต้ เปิดบอลมาทางกาพซ้ายของ ก่อนที่ ผู้เล่นหมายเลข 7 คิ ดอง มิน โหม่งบอลผ่านผู้รักษาประตูเข้าไป อย่างสวยงาม ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ มหาสารคาม ยูไนเต็ด 1 ประตูต่อ 0 ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้ง 2 ทีม ไม่สามารถทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน ลำดวนเพลิง ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ชนะ ปูพิฆาต มหาสารคาม ยูไนเต็ด 1 ประตูต่อ 0 คว้า 3 แต้มไปครอง///////////



จิรภัทร  หมายสุข /ภาพ/ข่าว
บุญทัน  ธุศรีวรรณ / บรรณาธิการข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ 

ร้อยเอ็ด เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) รุ่นที่ 1 ปี 2556


จังหวัดร้อยเอ็ด โดยโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดการฝึกอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) รุ่นที่ 1 ปี 2556 ณ โรงแรมสาเกตุนคร
 
เมื่อช่วงเช้าวันนี้( 20 พ.ค.56) นายสมเกียรติ รัตนเมธาธร ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะผู้อำนวยการ โรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) รุ่นที่ 1 ปี 2556 ณ ห้องคอนแวนชั่นฮอลล์ โรงแรมสาเกตุนคร ได้กล่าว่า หมู่บ้านเป็นหน่วยการปกครองที่เล็กที่สุด การดำเนินการพัฒนาและกิจกรรมต่างๆ ของส่วนราชการ/หน่วยงาน องกรปกครองส่วนท้องถิ่นถือว่าหมู่บ้านเป็นจุดแตกหักที่จะชี้วัดว่าการดำเนิน การจะประสบความสำเร็จหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานในหมู่บ้านหลายฉบับ และภายในหมู่บ้านมีผู้นำที่หลากหลาย โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นองค์กรหลัก หากผู้นำหมู่บ้านมีความรู้ความเข้าใจบทบาท อำนาจหน้าที่ขององค์กรต่างๆสามารถประสานและบูรณาการแผน รวมทั้งกิจกรรมต่างๆเข้าด้วยกัน โดยใช้หลักวิถีประชาธิปไตยและมีแผนพัฒนาเป็นเครื่องมือ จะทำให้หมู่บ้านมีความสมานฉันท์ สามัคคี มีความสงบเรียบร้อย ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถขับเคลื่อนพัฒนาหมู่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
การฝึกอบรมในครั้ง นี้ ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ระว่างวันที่ 20 – 21 พฤษภาคม 2556 มีผู้ที่ได้รับการอบรมได้คัดเลือกจากคณะกรรมการคณะกรรมการหมู่บ้านที่มีผล การปฏิบัติงาน ระดับดีเด่น หมู่บ้านละ 5 คน ประกอบด้วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 1 คน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 1 คน และกรรมการหมู่บ้านผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 คน รวมจำนวน 400 คน จาก 10 อำเภอและจะมีการอบรมในรุ่นที่ 2 อีก 10 อำเภอ ระหว่างวันที่ 22 – 23 พฤษภาคม 2556 นี้
 


 
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ/พิมพ์
กมลพร คำนึง บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 043-527117

ร้อยเอ็ด เดินหน้าประชาธิปไตยยุวชนแบ่งบาน ที่ อบต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด


จังหวัดร้อยเอ็ด โดยองค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง จัดโครงการประชาธิปไตยแบ่งบาน "กระบวนการเลือกตั้งของสภาเด็กและยาวชนตำบลเหนือเมืองหอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง  อ.เมือง จ.ร้อยอ็ด

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 09.30 น. (18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556) นายวินัย  ไวประเสริฐ  นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธนเปิดโครงการประชาธิปไตยแบ่งบาน "กระบวนการเลือกตั้งของสภาเด็กและยาวชนตำบลเหนือเมือง องค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมืองอ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายเชาว์  บำรุงชัย  ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง  ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง  กล่าวให้การต้อนรับ และกล่าวว่า อบต.เหนือเมือง ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเพื่อเป็น การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง   ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กและเยาวชนตำบลเหนือเมืองมีส่วนร่วมในการให้ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งแก่ประชาชนในชุมชน ตำบลเหนือเมือง      เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งแบบ ประชาธิปไตย  .เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ของประชาชนภายใต้ กฎหมาย   เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งให้มากขึ้นโดยไม่ซื้อ สิทธิขายเสียง

ทั้งนี้ กิจกรรมในวันนี้ มีวิทยากร ร่วมบรรยายเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดร้อยเอ็ด โดยนายสุวิทย์  ญาตินิยม ผอ.กกต.จังหวัดร้อยเอ็ด .ส.ต.อ. นวัต บุญศรี และทีมงาน ให้ความรู้ แก่สภาเด็กและยาวชนตำบลเหนือเมือง ตลอดโครงการ เช่นกัน



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ/พิมพ์
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
ส.ปชส.ร้อยเอ็ด  043-515374

มมส. จัดอภิปรายศาลโลกกับคดีปราสาทเขาพระวิหาร เสริมสร้างความเข้าใจระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านอาเซียน


คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดอภิปรายศาลโลกกับคดีปราสาทเขาพระวิหารเสริมสร้างความเข้าใจกับเพื่อนบ้าน อาเซียนพร้อมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับวิทยากรและผู้ร่วมอภิปราย

20-05-56 ที่ห้องประชุมแม่น้ำของ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดอภิปราย "ศาลโลกกับคดีปราสาทเขาพระวิหาร” โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณดามพ์ บุญธรรม ผู้อำนวยการกองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศและคุณนนทวัฒน์ นำเบญจพล ผู้กำกับภาพยนตร์ Boundary (ฟ้าต่ำ แผ่นดินสูง) มาให้ความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับศาลโลกกับคดีปราสาทละเขาพระวิหาร พร้อมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ร่วมอภิปราย

ซึ่งในปัจจุบันสาธารณชนทั่วไปได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานะและ ปัญหาเขตแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายซึ่งมี ความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในด้านความถูกต้อง และความครบถ้วนของข้อมูล จนทำให้เกิดความสับสน ไม่แน่ใจ ไม่เข้าใจ รวมถึงความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนรอบด้านและนำมาซึ่งความวิตกกังวลกับการสูญเสียดินแดนในเขตอธิปไตย ของประเทศ รวมไปถึงการเกิดอคติต่อประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้เกิดอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการเจรจา การสำรวจ และการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่ดำเนินการอย่างต่อ เนื่องมาโดยตลอด

ปัญหาเขตแดนเหล่านี้มีแนวโน้มจะนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน ปัญหาความสัมพันธ์และความขัดแย้งระหว่างผู้คนทั้งภายในประเทศและระหว่าง ประเทศ ซึ่งกระทบต่อผลประโยชน์และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของนานาอารยะประเทศ ได้ในที่สุด

การอภิปรายศาลโลกกับคดีปราสาทเขาพระวิหารจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความ เข้าใจอันดีระหว่างกันในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับสถานะและแนวทางการแก้ไขปัญหาเขตแดนระหว่าง ประเทศ ให้เกิดขึ้นกับสาธารณชนในวงกว้าง ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และในมุมมองที่ปราศจากอคติ โดยตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วนและรอบด้าน ทั้งในทางกฎหมาย และประวัติศาสตร์ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการนำไปสู่ความเข้าใจที่ดีระหว่างกันและสานต่อความ สัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไปในอนาคต

ด้านอาจารย์ทม เกตุวงศา รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวถึงความสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ว่า สิ่งที่เราอยากจะเผยแพร่ในครั้งนี้คือความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวกับเรื่อง คดีปราสาทและเขาพระวิหาร ซึ่งคนไทยและสังคมไทยยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ ซึ่งในวันนี้ถ้าเราได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญก็จะทำให้เราเข้าใจมากยิ่ง ขึ้น และเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เป็นการสร้างความรู้ให้กับสังคม สิ่งสำคัญเราต้องเตรียมตัวถ้าศาลโลกจะตัดสินคดีปราสาทและเขาพระวิหารในปลาย ปีนี้ แต่ถ้าเราไม่มีความรู้เรื่องคดีปราสาทเขาพระวิหารที่ถูกต้อง เราอาจจะเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เราก็อาจจะอยู่ร่วมกันแบบไม่มีความสุข แต่ถ้าเราเข้าใจแล้วว่าคดีปราสาทและเขาพระวิหารเป็นอย่างไร เราก็จะได้มีท่าที มีการตอบรับ ยอมรับกับการตัดสินของศาลโลกในปลายปีนี้ต่อไป


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม ชาวบ้านโนนสะอาด ประท้วงขับไล่ผู้ใหญ่บ้าน


ชาวบ้านโนนสะอาด ตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม กว่า 50 คน ยืนหนังสือประท้วงขับไล่ผู้ใหญ่บ้าน

(20-05-56) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ชาวบ้านโนนสะอาด ตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ กว่า 50 คน นำโดย นายหนู ราศีทัศน์ ยืนถือป้ายประท้วงขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กรณีผู้ใหญ่บ้านตัดและขายต้นไม้ขนาดใหญ่ในที่สาธารณะของหมู่บ้าน คือต้นจามจุรี หรือต้นก้ามปู หรือต้นฉำฉา ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร และเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่หมู่บ้านโนนลาน และบ้านโนนสะอาด มาช้านาน   ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2556 และไม่มีการสอบถามหรือประชาคมชาวบ้านในพื้นที่แต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อตัดขายแล้ว ไม่มีการประชุมชี้แจงบอกกล่าวข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเหตุผล และการนำเงินไปใช้ประโยชน์ ในการตัดและขายต้นไม้ดังกล่าว ชาวบ้านจึงเกิดความไม่พอใจ และเดินทางมาร้องเรียนขับไล่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 และ หมู่ที่ 16 ตำบลมิตรภาพ ที่ศาลากลางจังหวัดในครั้งนี้ โดยมีนายนันทวิทย์ นาคแสง จ่าจังหวัดมหาสารคาม มาสอบถามรายละเอียด สภาพปัญหา ข้อเท็จจริงจากชาวบ้าน และรับหนังสือร้องเรียน พร้อมชี้แจงกระบวนการ ขั้นตอนในการดำเนินงานให้กับชาวบ้านได้รับทราบ  ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายที่กล่าวหา และฝ่ายถูกกล่าวหา  และหากผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน กระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยช่วงนี้จังหวัดจะเร่งให้ทางอำเภอแกดำ ดำเนินการสอบสวนสืบสวนเรื่องนี้โดยเร่งด่วน

 

ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

รองปลัด มท.เปิดศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม


จังหวัดมหาสารคามจัดทำศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม ที่บริเวณศาลากลางจังหวัด เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนแก่ประชาชน โดยมีรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ฯดังกล่าว

(20-5-56) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม (ASEAN Community Information Center of Mahasarakham) ซึ่งศูนย์ฯแห่งนี้ จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเมื่อประเทศไทย เข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้ เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนของจังหวัดมหาสารคาม ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจไปสู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง พร้อมเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูล องค์กรที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน สำหรับเผยแพร่ในเวบไซต์จังหวัดมหาสารคาม เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทราบผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

สำหรับศูนย์สารสนเทศประชาคมอาเซียนจังหวัดมหาสารคาม (ASEAN Community Information Center of Mahasarakham Province) ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 2 ห้อง 201 อาคารศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม โดยได้รับความร่วมมือในการออกแบบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมือง และนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และการจัดหาอุปกรณ์ สื่อประชาสัมพันธ์ เอกสาร ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้รับการสนับสนุนจากกองการต่างประเทศและกองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้สนใจสามารถเข้ามาใช้บริการ หรือค้นคว้าข้อมูลได้ โดยเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

หม่อมหลวงปนัดดา บรรยายพิเศษยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดมหาสารคาม สู่การเป็นศูนย์กลางบริการทางการศึกษารองรับการร่วมกลุ่มประชาคมอาเซียน


จังหวัดมหาสารคาม นำบุคลากรส่วนราชการ สถาบันการศึกษาภาคเอกชน ร่วมประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดมหาสารคาม สู่การเป็นศูนย์กลางบริการทางการศึกษา เพื่อรองรับการร่วมกลุ่มประชาคมอาเซียน โดยมีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมบรรยายพิเศษ

(20-5-56)ในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดมหาสารคาม สู่การเป็นศูนย์กลางบริการทางการศึกษา เพื่อรองรับการร่วมกลุ่มประชาคมอาเซียน (ASEAN Community:AC) มีบุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาของจังหวัดมหาสารคาม กว่า 200 คน เข้าร่วมสัมมนา ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับทราบและมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบ การปรับบทบาทให้สอดคล้องและสอดรับ รวมทั้งเพื่อระดมความคิดเห็นในการกำหนดแนวทางการพัฒนาจังหวัดมหาสารคามสู่ การเป็นศูนย์กลางบริการทางการศึกษา เพื่อรองรับการร่วมกลุ่มประชาคมอาเซียน

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวบรรยายพิเศษในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ว่า จังหวัดมหาสารคาม ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา หรือตักสิลานคร ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรง ราชานุภาพ ทรงนิพนธ์เอาไว้ว่า คนที่มีความรู้ มีการศึกษา อย่างความหมายของมหาสารคาม เมืองแห่งตักสิลา แสดงว่าเป็นผู้มีความรู้ มีเหตุมีผล รักชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะดำรงประเทศไทยให้ไปสู่ความสันติสุข ดังนั้น การที่จะให้จังหวัดมหาสารคาม เป็นศูนย์บริการทางการศึกษาเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จากสภาพบริบทที่เป็นอยู่ดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ไม่ยาก

ขณะที่นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามมีจุดแข็งและมีตำแหน่งยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด (Positioning) ในด้านการศึกษาระดับภูมิภาคเป็นสำคัญ มีสถาบันการศึกษาที่หลากหลาย ตลอดจนยังเป็นศูนย์กลางด้านอาชีวศึกษาของกลุ่มจังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียง เหนือตอนบน ดังนั้นในการสัมมนาครั้งนี้ จึงเป็นการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้ร่วมสัมมนาที่มาจากหลากหลายหน่วย งาน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางของการที่จะให้จังหวัดมหาสารคามเป็นศูนย์บริการทาง การศึกษา รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 

จังหวัดกาฬสินธุ์ พัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ประจำปี 2556


จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ประจำปี 2556 รุ่นที่ 1 และ รุ่นที่ 2 เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่คณะกรรมการหมู่บ้าน ในเรื่องบทบาท อำนาจหน้าที่ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้เป็นแนวทางการทำงานในหมู่บ้านให้ มีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ประจำปี 2556 โรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดจังหวัดกาฬสินธุ์ รุ่นที่ 1 / รุ่นที่ 2 ซึ่งปกครองจังหวัดกาฬสินธุ์จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2556 เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน และเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยการนำเข้ารับการศึกษาอบรมในโรงเรียนนัก ปกครองท้องที่ประจำจังหวัด เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาท อำนาจหน้าที่และสามารถนำความรู้ เทคนิค วิธีการ ประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาอบรมไปปรับใช้เป็นแนวทางในการทำงานในหมู่บ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสันชัย จันทร์นวล ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่กรมการปกครองได้ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ (กม.) โดยการจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัด (ร.ร.นปท.จ.) ขึ้นทุกจังหวัด เพื่อให้เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการปกครองท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ให้มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทอำนาจหน้าที่ของตนเองตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ประกอบจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมบทบาทของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) พร้อมขอความร่วมมือทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพและส่ง เสริมบทบาทของคณะกรรมการหมู่บ้าน จึงได้จัดโครงการ จัดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ประจำปี 2556 รุ่นที่ 1 และ 2 โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และกรรมการหมู่บ้านผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นตัวแทนคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ของหมู่บ้าน B ที่มีผลการปฏิบัติงาน ดี จากทุกอำเภอ จำนวน 200 คน เข้ารับการอบรม มีคณะวิทยากรจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ตลอดการอบรม 2 วัน 1 คืน
 

ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว 

จ.กาฬสินธุ์ประชุมชี้แจงลูกหนี้เงินกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการหลังพบหนี้ค้างชำระกว่า 23 ล้านบาท


สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดกาฬสินธุ์จัดประชุมชี้แจงลูกหนี้เงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตคนพิการ หลังพบมียอดค้างชำระจำนวน 1,432 รายรวมเป็นเงินกว่า 23 ล้านบาท

วันนี้ 20 พฤษภาคม 2556 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงลูกหนี้ ค้างชำระเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์จัดขึ้นเพื่อ ให้ลูกหนี้ค้างชำระจากอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ดอนจาน กมลาไสย ร่องคำ สหัสขันธ์ สมเด็จ คำม่วง และอำเภอสามชัยจำนวน 565 ราย มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อผูกพันด้านกฎหมายตามสัญญากู้เงินและทำ หนังสือรับสภาพหนี้เพื่อเป็นการต่อสัญญา และให้ลูกหนี้เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญของการชำระหนี้คืนกองทุนฯ รวมทั้งเพื่อให้คำแนะนำปรึกษาในด้านการชำระหนี้คืนกองทุนส่งเสริมและพัฒนา คุณภาพชีวิตคนพิการ และให้คำแนะนำด้านการประกอบอาชีพแก่ลูกหนี้เงินกองทุนฯ

ซึ่งจากข้อมูลลูกหนี้กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จังหวัดกาฬสินธุ์ ปี 2539- 2556 พบว่ามีลูกหนี้กองทุนฯจำนวนทั้งสิ้น 1,516 ราย วงเงินกู้ยืมจำนวน 33,049,200 บาท มียอดค้างชำระจำนวน 1,432 รายรวมเป็นเงิน 23,223,342 ล้านบาท
 

สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว/ภาพ

ชาวตำบลหนองตูมอนุกรักษ์แห่นาคโหดแห่งเดียวในโลก


นักท่องเที่ยวแห่ชม ความแปลก และตื่นเต้น ของขบวนแหนาคแบบพิสดาร แห่งเดียวในโลก เป็นความเชื่อของชาวบ้าน ก่อนที่ลูกชายจะเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร จะต้องผ่านกระบวนการทดสอบจิตใจ

โดยการขึ้นคานหามแห่ไปรอบหมู่บ้าน และถูกโยกขึ้น โยกลง หลายสิบครั้ง การจัดงานประเพณีอุปสมบทหมู่-แห่นาคโหด ปีนี้จัดขึ้นที่วัดตาแขก บ้านโนนเสลา –โนนทัน ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อบ่ายวันที่ 20 พ.ค. 2556 มีนาคเข้าอุปสมบททั้งสิ้น 14 นาค โดยก่อนที่เริ่มขบวนแห่ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตูม ได้จัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 สส.ชัยภูมิ เป็นประธานเปิดงาน ปีนี้มีความคึกคักเป็นพิเศษ ได้จัดคานประธานในพิธี และนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เข้ามาในงานด้วย ท่ามนักท่องเที่ยว และชาวบ้าน มาร่วมงาน และรอชมนาทีระทึกใจอย่างคึกคัก

โดยก่อนจะมีพิธีแห่นาค ทางคณะกรรมการวัดได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ เรียกขวัญนาค ตามประเพณีที่เคยสืบทอดกันมา เสร็จจากพิธีสู่ขวัญ นาคทั้ง 14 นาค ถูกญาติพี่น้องช่วยกันจับขึ้นขี่หลัง เดินลงจากศาลาวัด ไปขึ้นคานหามที่ทำจากไม้ไผ่ ลักษณะทำเป็นแคร่เล็กๆ ไว้ตรงกลาง แต่ละคานหาม มีนาคขึ้นนั่ง 1-2 คน จากนั้นเพื่อนๆ ส่วนมากจะเป็นชายฉกรรจ์ 10-20 คน จะช่วยกันหาม แห่ออกจากวัดตาแขก ไปรอบหมู่บ้าน ท่ามกลางขบวนแห่ นางรำ เดินนำหน้าอย่างสนุกสนาน

ชุมชนแห่งนี้ เป็นชุมชนเก่าแก่ อยู่รวมกันหลายหมู่บ้าน กว่า 1,000 ครอบครัว จึงมีการอนุรักษ์ฟื้นฟูสืบสานงานประเพณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะงานประเพณีบุญเดือนหกหรือประเพณีบวชนาค ที่ได้ร่วมกันสืบทอดและจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่กับชาติไทย เชื่อกันว่า แคร่ เป็นตัวแทนของแม่ ครั้งที่แม่คลอดลูก จะนั่งบนแคร่เล็กๆ เพื่ออยู่ไฟ ดังนั้นตอนลูกโตขึ้น จึงบวชทดแทนพระคุณแม่ ขณะที่แห่นาคไปรอบหมู่บ้าน ผู้ที่หามจะพร้อมใจกันโยกคานหาม ในท่าพิสดารต่างๆ บางครั้งก็ยกขึ้นสูงสุดแขน บางครั้งก็เอียงซ้าย เอียงขวา และที่เสียวสุดๆ เป็นการโยกขึ้น โยกลง อย่างรุนแรง 2-3 ครั้ง ติดต่อกันเป็นจังหวะ ทำให้นาคที่นั่งบนคานหาม แทบจะลอยละลิ่วตามแรงโยก

ตรงนี้เองเป็นจุดที่สร้างความตื่นเต้นหวาดเสียว ให้กับผู้ชม ทำให้ปีนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินทางไปชมกันอย่างคึกคัก กว่าจะแห่รอบหมู่บ้าน นาคแต่ละนาค ถูกโยกหลายสิบครั้ง ประเพณีอุปสมบทหมู่-แห่นาคโหด บ้านโนนเสลา –โนนทัน ถือว่ามีแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้ มีประวัติการจัดงานมานาน การจัดงานในปีแรกๆ ก็แห่ธรรมดา แต่บังเอิญมีคนนึกสนุก โยกคานหามเล่น ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าสนุกสนาน ตื่นเต้นดี จึงปฎิบัติกันเรื่อยมา นับเวลาได้ 40 กว่าปี เป็นความเชื่อของชาวบ้านแถบนี้ว่า เมื่อมีลูกชายถึงวัยที่ต้องบวชเรียน จะต้องผ่านกระบวนการ เพื่อทดสอบความเข้มแข็งของจิตใจ เป็นประเพณีที่แปลก หาดูได้ยาก นอกจากหมู่บ้านโนนเสลา –โนนทัน ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ แห่งนี้เท่านั้น และจะจัดเป็นประจำทุกปี ในช่วงของเดือน 6


สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

รพ.มหาราชนครรคาชสีมา ประกาศ อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ) ฉบับที่ ๕


ประกาศโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ) ฉบับที่ ๕
 
วันนี้ (๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖) คณะแพทย์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ตรวจร่างกายพระเทพวิทยาคม เพื่อติดตามผลการรักษา สรุปได้ ดังนี้ ๑. หลังหยุดยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ ๔๘ ชั่วโมง อาการโดยรวมดี ไม่มีไข้ สัญญาณชีพปกติ รู้ตัวดี รับอาหารได้ดี แต่ยังมีเสมหะ ๒. คณะแพทย์ให้การรักษาแนวทางเดิม ยังคงเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนในระบบต่างๆ โดยใกล้ชิด ๓. งดเยี่ยมอาการอาพาธ เพื่อให้พระเทพวิทยาคมได้พักผ่อน
 
จึงประกาศมาเพื่อทราบ
 
ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ 

นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.เดอะมอลล์นครราชสีมา ได้รับเลือกเป็นบุคคลส่งเสริมพระพุทธศาสนา วิสาขบูชาโลก 2556

สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยใน อุปภัมถ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ในโอกาสวันวิสาขบูชา 2556 ได้มอบประกาศนียบัตร ให้แก่ นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์นครราชสีมา เป็นบุคคลส่งเสริมพระพุทธศาสนา วิสาขบูชาโลก 2556 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ณ ตำหนักสมเด็จฯ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมา พร้อมมอบเกียรติบัตรให้กับผู้เข้าร่วมอบรม


ข่าวที่ 568/2556
 
ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพสมาชิกกองอาสารักษาดิน แดน ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมา พร้อมมอบเกียรติบัตรให้กับผู้เข้าร่วมอบรม
 
วันที่ ๒๐ พ.ค. ๕๖ เวลา ๑๑.๐๐ น. ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพสมาชิกกองอาสารักษาดิน แดน ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๖ รุ่นที่ ๑ ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมา ที่ ๑ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งการฝึกอบรมในครั้งนี้ ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ถึงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ มีผู้เข้าฝึกอบรม ๑๐๐ คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความผิดพลาดของการปฏิบัติงานและป้องกันการสูญเสีย กำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและด้านความมั่นคงภายใน และเพื่อสนองต่อนโยบายของศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) ได้กำหนดกรอบแนวคิดแบบยุทธศาสตร์ต่อเนื่อง ยุทธศาสตร์ป้องกัน ยุทธศาสตร์ปราบปราม ยุทธศาสตร์เสริมสร้างพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ยังได้มอบเกียริบัตรแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าว อีกด้วย
 

นางสาวอริสา เคนดา/นิสิตฝึกงาน/ข่าว/พิมพ์ 
ไพชยนต์ คลังสิน ตรวจทาน 20 พ.ค.56/com7