วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รองนายกรัฐมนตรี ร้อยตำรวจเอก ดร. เฉลิม อยู่บำรุง ลงพื้นที่จังหวัดยโสธร เร่งรัดติดตามปัญหายาเสพติด

รองนายกรัฐมนตรี ร้อยตำรวจเอก ดร. เฉลิม อยู่บำรุง ลงพื้นที่จังหวัดยโสธร เร่งรัดติดตามปัญหายาเสพติด ที่หอประชุมโรงเรียนยโสธรพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร รองนายกรัฐมนตรี ร้อยตำรวจเอก ดร. เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ได้ประชุม มอบนโยบาลเร่งรัด การดำเนินงานปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ปี 2556 ของจังหวัดยโสธร ให้กับกำนัน/ ผู้ใหญ่บ้าน/ ผู้นำชุมชน/ และผู้เกี่ยวข้อง ได้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยมีนายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อม สส.พรรคเพื่อไทย นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ เขต 1 / นายบุญแก้ว สมวงศ์ เขต 2 และ ดร.พีระพันธ์ พาลุสุข เขต 3 ให้การต้อนรับ สถานการณ์ยาเสพติดจังหวัดหวัดยโสธร ขณะนี้ยังไม่มีผู้ค้ารายใหญ่ที่สามารถยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมาก โดยมีเพียงกลุ่มนักค้ารายย่อยที่มีทรัพย์สินไม่มาก เน้นค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดให้เข้ารับการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจ และจังหวัดยโสธรยังได้มีการบูรณาการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหายา เสพติดในระยาว ทั้งในโรงงานหรือสถานประกอบการ เพื่อเป็นให้โรงงานสีขาวปลอดยาเสพติด จังหวัดยโสธรเป็นเส้นทางผ่านของยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป. ลาว เข้า กทม. ซึ่งจะเห็นได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดจับได้หลายครั้ง ด้านรองนายกรัฐมนตรี ร้อยตำรวจเอก ดร. เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวว่า การลงพิ้นที่ในครั้งนี้ มีความพอใจมากที่จังหวัดยโสธรเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด และพร้อมจะช่วยเหลือสนับสนุนอย่างต็มที่ในการแก้ไข้ปัญหายาเสพติดอย่างยัง ยืนต่อไป

เยาวชนยโสธรรักนวลสงวนตัว

ยโสธรรณรงค์ส่งเสริม เยาวชนวัยใส หัวใจเข้มแข็งรักนวลสงวนตัว ปี ๒๕๕๖ วัน ที่ 7 มิถุนายน 56 เวลา 10.00ที่หอประชุมโรงเรียนยโสธรพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร นายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดอบรมส่งเสริม เยาวชนวัยใส หัวใจเข้มแข็งรักนวลสงวนตัว ปี ๒๕๕๖นางสมรัก ศรีคง วัฒนธรรมจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ในปัจจุบัน วัฒนธรรมตะวันตกได้แพร่กระจายไปทั่วโลกร่วมถึงประเทศไทยวัฒนธรรมการแต่งกาย ตามแฟชั่น บางประเทศที่แต่งกายล่อแหล่ม ทำให้เยาวชนไทยนำมาแต่งกัน ทำให้เกิดปัญหาทางเพศ และปัญหาทางสังคม ประกอบกับ การแสดงต่างๆที่พบเห็นจากภาพยนตร์ ละครทีวี จะมีบทรักที่แสดงทั้งแบบสุภาพและไม่สุภาพหรือมีอนาจารให้เห็นมากมาย การสร้างค่านิยมและปลูกจิตสำนึกในการรักนวลสงวนตัว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรีบดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างค่านิยมให้แก่นักเรียน นักศึกษา ได้ตระหนักถึงคุณค่าขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงานของคนไทยให้คง อยู่ การจัดอบรมในครั้งนี้ มีสถานศึกษาส่งนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วม จำนวน ๕ แห่งประกอบด้วย โรงเรียนยโสธรพิทยาคม /โรงเรียนยโสธรพิทยาสรรค์ /โรงเรียนศรีธรรมวิทยา/ โรงเรียนเทศบาล ๑ สุขวิทยากรตั้งตรงจิตร ๑๕ / และวิทยาลัยเทคนิคยโสธร / รวมทั้งสิ้นจำนวน ๕00 คน โดยได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์สุรเดช รัตนเมธี ทีมธรรมะ เดริเวอรี่ เป็นวิทยากร

จังหวัดอำนาจเจริญให้การต้อนรับคณะอนุกรรมการตัดสินการประกวด จังหวัด/ชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำ ปี 2556

นายอภิชาติ  งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ให้การต้อนรับคณะอนุกรรมการตัดสินการประกวด จังหวัด/ชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่น ระดับประเทศ  ณ  หอประชุมพญานาครินทร์  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นำโดย นายไพบูลย์  ทาสระคู ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนโยบายและยุทธศาสตร์  สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์  กระทรวงมหาดไทย  โดยมีสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE ในจังหวัดอำนาจเจริญ  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แกนนำ ครอบครัว ชุมชน อสม. ครู นักเรียน นักศึกษา และสถานประกอบการที่ดำเนินงานกิจกรรม TO BE NUMBER ONE ให้การต้อนรับ กว่า 1,000 คน

นายอภิชาติ  งามกมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับการติดตามประเมินผลจังหวัด TO BE NUMBER ONE มาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงิน        ซึ่งจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวดประเภทจังหวัด TO BE NUMBER ONE ดีเด่นระดับประเทศในปี 2554 และในปี 2555  และผลการประกวดระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเภทจังหวัด TO BE NUMBER ONE  เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556  ณ โรงแรมพูลแมน จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอำนาจเจริญได้รับพระราชทานเกียรติบัตรจังหวัด TO BE NUMBER ONE ที่รักษามาตรฐานดีเด่นพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงิน ปีที่ 2 จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ผลการประกวดระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเภทชมรม ประจำปี 2556 วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ ชนะเลิศการประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา-อุดมศึกษา ได้รับพระราชทานเกียรติบัตรจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท และโรงเรียนชานุมานวิทยาคม  อำเภอชานุมาน ชนะเลิศการประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน(มัธยมศึกษา) ได้รับพระราชทานเกียรติบัตรจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท และในวันนี้คณะอนุกรรมการตัดสินการประกวด จังหวัด/ชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับ ประเทศ ได้เดินทางมาประเมินให้คะแนนรอบลงพื้นที่ ที่วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญและที่โรงเรียนชานุมานวิทยาคม อำเภอชานุมาน 


จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรงพยาบาลตำรวจออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

พันตำรวจตรี โชคชัย เหล่าอารยะ นายแพทย์(สบ.๒)กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจนำคณะแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหาร ตามโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ณ วัดศรีสุมังค์ ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร

พันตำรวจตรี โชคชัย เหล่าอารยะ นายแพทย์(สบ.๒) กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลในครั้งนี้เกิดขึ้นจากโครงการของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้โรงพยาบาลตำรวจออกหน่วยบริการประชาชนตามจังหวัดต่างๆ และในถิ่นทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก เห็นว่าประชาชนมีความยากลำบาก ทุกข์ยากเมื่อยามเจ็บป่วยจึงได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลตำรวจ ออกให้บริการแก่ประชาชนเพื่อเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้าร่วม กิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลตำรวจ โดยมีประชาชนมารับการตรวจรักษาโรคทั่วไปจำนวน ๑๐๐ ราย ซึ่งเป็นการทำให้ให้ส่วนราชการได้รับทราบปัญหาความจำเป็นและความเดือดร้อน ของประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างถูกต้องและ ยั่งยืน



 ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว 

สถานการณ์ไข้เลือดออกจังหวัดมุกดาหารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นางจินตวีร์ จินตนกุล หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ เทศบาลเมืองมุกดาหาร เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในจังหวัดมุกดาหารว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี ๒๕๕๖ มีการระบาดเพิ่มขึ้น พบว่ามุกดาหารมียอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมจากเดือนมกราคม – เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖ จำนวน ๙๑ ราย มีผู้ป่วยสูงที่สุด เดือนพฤษภาคม เขตเทศบาลเมืองมุกดาหารมีผู้ป่วยไข้เลือดออก ๖๐ ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มผู้ป่วยที่พบมากที่สุดเปลี่ยนจากกลุ่มเด็กเล็กเป็นกลุ่มเด็กโตอายุ ระหว่าง ๑๐ – ๑๔ ปี รองลงมาอายุระหว่าง ๑๕ – ๑๙ ปี และ ๒๐ – ๒๔ ปี ตาลำดับ และในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารสถานการณ์ไข้เลือดออกมีแนวโน้นที่สูงขึ้น

นางจินตวีร์ จินตนกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการเฝ้าระวังป้องกันแก้ไขปัญหา ได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างเข้มงวด โดยเน้นไปที่การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในโรงเรียน โรงเรือน และโรงพยาบาล อีกทั้งแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทาง ๕ ป. คือ ปิดภาชนะที่บรรจุน้ำไม่ให้ยุงลายไปวางไข่ เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่มีน้ำขังทุก ๗ วัน ปล่อยปลาหางนกยูงในแจกันดอกไม้หรืออ่างน้ำปลูกพืชตลอดจนแหล่งน้ำต่างๆ ปรับปรุงให้บ้านเรือนให้สะอาด คว่ำฝาภาชนะขังน้ำและปฏิบัติให้เป็นนิสัย ทั้งนี้เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างยั่งยืนต่อไป


 

 ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามนำนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการกรรมการหมู่บ้านปล่อยปลาและปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ กรรมการหมู่บ้านและประชาชน ปล่อยปลาและปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 85 พรรษา ที่บริเวณที่ดินสาธารณประโยชน์ บ้านหนองโก หมู่ 6 ตำบลแพง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยปลัดจังหวัดมหาสารคาม ได้นำนายอำเภอโกสุมพิสัย กรรมการหมู่บ้าน ผู้บริหาร อบต.แพง หัวหน้าส่วนราชการและประชาชน บ้านหนองโก ร่วมกันปล่อยจำนวน 5,000 ตัว ลงในหนองน้ำหนองโก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงมีพระชนมพรรษา 85 พรรษา และเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่า ในโอกาสนำคณะกรรมการคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็นเป็นสุข ของจังหวัดมหาสารคามลงพื้นที่ให้คะแนน เพื่อพิจารณาคัดสรรหาหมู่บ้านชนะเลิศ ประจำปี 2556 เข้ารับรางวัลโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี


สำหรับบ้านหนองโก หมู่ 6 ตำบลแพง อำเภอโกสุมพิสัย เป็น 1 ใน 4 หมู่บ้าน ที่ผ่านการคัดสรรรอบแรกของคณะกรรมการจาก 13 อำเภอของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อคัดสรรให้เหลือเพียงหมู่บ้านเดียวให้เป็นหมู่บ้านชนะเลิศระดับจังหวัด เข้ารับโล่รางวัลพระราชทาน โดยหมู่บ้านหนองโก เป็นหมู่บ้านที่ราษฎรได้พร้อมใจกันนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติมีการลดรายได้ เพิ่มรายจ่าย ปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ ทำปุ๋ยหมัก ทำอาชีพเสริมทอผลิตภัณฑ์จากกก ทอผ้าห่อ ตั้งกลุ่มออมทรัพย์ มีกองทุนหมู่บ้าน ประชาชนมีการประชุมประชาคมร่วมกันทุกเดือน เป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด และมีการจัดตั้งกองทุนแม่ของแผ่นดิน เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้ลูกหลาน เยาวชนห่างไกลยาเสพติด



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว ศิรินทรา แก้วบุญเรือง/พิมพ์

มหาสารคาม พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 547 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยตัวเลขพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในปี 2556 พบมีผู้ป่วย 547 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 10-14 ปี ส่วนอำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมือง ตามลำดับ

ที่ห้องประชุม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านเวชกรรมป้องกัน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม พร้อมประชุมหาแนวทางในการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนทั้ง 13 อำเภอ ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน 2556 พบว่า มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้วจำนวน 547 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 57.09 ต่อประชากรแสนคน แยกเป็นเพศหญิง 291 ราย ชาย 256 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ กลุ่มที่พบส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 10-14 ปี ซึ่งสถานการณ์โรคไข้เลือดออกขณะนี้ มีการแพร่ระบาดครบทั้ง 13 อำเภอในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามแล้ว อำเภอที่พบมากที่สุด คือ อำเภอกันทรวิชัย อำเภอเมือง อำเภอวาปีปทุม และอำเภอพยัคภูมิพิสัย ตามลำดับ

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดได้ประกาศเขตภัยพิบัติการระบาดโรคไข้เลือดออกแล้ว 9 อำเภอ เนื่องจากมีการระบาดของโรคเกินกว่า 4 สัปดาห์ และได้เร่งดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยผ่านทางผู้นำชุมชน หมู่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมมีการประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์

ด้านนายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขอให้ประชาชนได้ดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด หากมีอาการไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือมีจุดเลือดขึ้นที่ผิวหนัง ให้รีบมาพบแพทย์หรือสถานีอนามัยใกล้บ้านโดยด่วน


 

ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว / ภาพ

เทศบาลตำบลโคกพระ ปลูกบัวในแหล่งน้ำ สร้างความสมดุลทางระบบนิเวศน์

เทศบาลตำบลโคกพระ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม นำชาวบ้านปลูกบัวในแหล่งน้ำ ตาม โครงการ คืนบัวให้หนองบัว หลังจากที่มีการขุดลอกหนองน้ำ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สร้างความสมดุลทางระบบนิเวศน์

นายประทีป บุญน้อม นายอำเภอกันทรวิชัย นายธวัชชัย ฉัตรานุสรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลโคกพระ พร้อมด้วยส่วนราชการ และประชาชน ในเขตเทศบาลตำบลโคกพระ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ร่วมใจกันปลูกบัวลงในอ่างเก็บน้ำหนองบัว ตามโครงการ "คืนบัวให้หนองบัว” ที่เทศบาลตำบลโคกพระจัดขึ้น หลังจากที่ได้มีการขุดลอกหนองน้ำ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สร้างความสมดุลทางระบบนิเวศน์ ตามคำขวัญของอำเภอกันทรวิชัยที่ว่า "กันทรวิชัยเมืองพระ สระบัวคู่บ้านเกษตรฟูเฟื่อง พลเมืองอยู่เป็นสุข”

ทั้งนี้ ในอดีต หนองบัว ถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป เป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนในชุมชนได้นำมาใช้ในการอุปโภคบริโภค ตลอดจนประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม การประมง อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยบัวนานาพันธุ์ แต่ปัจจุบันบัวเหล่านั้นได้หายไปจากหนองบัว เพราะมีการปรับปรุงโดยการขุดลอกหนองน้ำเพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดความสมดุลทางระบบนิเวศน์ และให้สอดคล้องกับชื่อว่า "หนองอบัว” เทศบาลตำบลโคกพระและประชาชนจึงได้จัดโครงการคืนบัวให้หนองบัวขึ้น



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯ มหาสารคาม เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อผู้ไม่หวังดี หลอกเข้ากลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม แจ้งว่า ขณะนี้ปรากฏข่าวในพื้นที่อำเภอบรบือ ว่า มีผู้แอบอ้าง เป็นกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ไปเชิญชวนประชาชนในเขตอำเภอบรบือ และอำเภออื่นๆ ให้ร่วมสมัครเพื่อเข้ารับเงินช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และได้ขอบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สนใจเข้าร่วมโครงการไปด้วย พร้อมเชิญชวนมารวมกลุ่มที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในวันที่ 9 มิถุนายน 2556 เพื่อเข้าพบรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง) ที่จะเดินทางมาปฏิบัติราชการที่จังหวัดมหาสารคาม

จังหวัดมหาสารคาม จึงขอชี้แจงดังนี้ 1. การช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ทาง กอ.รมน.จังหวัดมหาสารคาม มีรายชื่อผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยไว้หมดแล้ว ซึ่งในจังหวัดมหาสารคามมีจำนวนไม่มากนัก และกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ ส่วนผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างไร 2. การยึดบัตรประจำตัวประชาชน ถือว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

จึงขอแจ้งให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อพฤติกรรมดังกล่าว และสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ กอ.รมน.จังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข 0-4377-7271 , ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข 0-4377-7320 , 0-4377-7356 ขณะนี้จังหวัดมหาสารคาม ได้ให้อำเภอบรบือ เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว และหากประชาชนท่านใด พบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้แจ้งทางจังหวัดมหาสารคามด้วย ตามหมายเลขโทรศัพท์ข้างต้น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย


 

ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

รมช.สาธารณสุข” เปิดงานรวมพลังการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดเมื่อไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ยาสมุนไพรจะดึงเงินเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท

วันนี้ (7 มิ.ย. 56) เวลา 10.30 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานรวมพลังการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มิถุนายน 2556 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เครือข่ายพื้นที่บริการสุขภาพที่ 9 และนพ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 19 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมจัดงาน ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู นครพนม สกลนคร ชัยภูมิ สุรินทร์ อำนาจเจริญ ศรีษะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี และมุกดาหารและ อสม.กว่า 6,000 คน ให้การต้อนรับ
 
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า การจัดงานนี้เพื่อพัฒนางานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยใช้ชื่องานว่า "การแพทย์พื้นบ้านอีสาน สืบสานสมุนไพร สร้างรายได้สู่อาเซียน” วัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และเครือข่ายบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทย เพื่อเป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการและบุคคลที่มีภูมิปัญญาดีเด่นของแต่ละ จังหวัด รวมทั้ง การแสดงนิทรรศการการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การเสวนาร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเครือข่ายบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทย เพื่อการพัฒนาให้ยั่งยืน และเป็นการสร้างกระแส การดูแลสุขภาพ ด้วยการแพทย์แผนไทย และการใช้สมุนไพรในประชาชนทั่วไปภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การใช้สมุนไพร ในแต่ละท้องถิ่น ล้วนมีคุณค่าแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทย โดยเฉพาะวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพ แบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ การใช้ศาสตร์แพทย์แผนไทยและการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพนั้น ยั่งยืนและสืบเนื่องมานานนับพันปี แสดงว่าเป็น แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ อันเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ยังคงรักษาศาสตร์การแพทย์ของชาติไว้ได้ ท่ามกลางการแสวงหาทางเลือกในการดูแลรักษาสุขภาพ และกระแสการเข้ามาของศาสตร์การแพทย์ทางเลือกต่างๆ ซึ่งกิจกรรมในงานประกอบด้วย ต้นแบบคลินิกเวชกรรมไทย บริการตรวจรักษาและให้ความรู้กับประชาชนนิทรรศการแพทย์แผนไทย และศูนย์เรียนรู้การดูแลตนเอง จากเครือข่าย ๒๐ จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การนวดเพื่อสุขภาพปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "เภสัชกรยิปซีกับการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์” โดย ศ.ดร.ภญ.กฤษณา ไกรสินธุ์ บรรยายพิเศษ ในหัวข้อ "สุขภาพกับดวงดาว” โดย นพ.ทีปทัศน์ ชุนหสวัสดิกุล ฤาษีดัดตนภาวนา/โยคะภาวนา โดย อ.ธนวัชร์ เกตน์วิมุต การแสดงผลงานวิชาการทางด้านแพทย์แผนไทย การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ด้านการส่งเสริมการแพทย์แผนไทย การสาธิตให้ความรู้ในการผลิตยาสมุนไพร, ผลงานด้านการสนับสนุนตลาดกลางสมุนไพร, งานวิจัยสมุนไพรต่างๆ ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
 

 รมช.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า การจัดงานรวมพลังการแพทย์แผนไทยในครั้งนี้ นอกจากบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยจะได้มีเวทีนำเสนอผลงาน ได้แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ ซึ่งแต่ละจังหวัดต่างก็มีภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านมานำเสนอ ยังเป็นการสืบสาน ค้นหา และขยายเครือข่ายภูมิปัญญาฯ และบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทย อีกด้วย ซึ่งการรวมกลุ่มเครือข่ายในระดับจังหวัด/ระดับภาคครั้งนี้ จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการประสานงาน และพัฒนางานด้านการแพทย์ แผนไทยอย่างยั่งยืน และทุกกิจกรรมในงานนี้นับว่าครอบคลุมและตอบโจทย์ของชื่องาน คือ "การแพทย์พื้นบ้านอีสาน สืบสานสมุนไพร สร้างรายได้สู่อาเซียน” ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระรวงสาธารณสุขในด้านการส่งเสริมการแพทย์แผนไทย เพื่อเข้าถึงประชาชนทุกชุมชน และขยายบริการด้านการแพทย์แผนไทย ในสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ คาดว่าเมื่อไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ยาสมุนไพรจะดึงเงินเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท "อีกทั้ง การรวมกลุ่มเครือข่ายในระดับจังหวัด ระดับภาค จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการประสานงาน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดเป็นหน่วยงานกลางที่จะให้การสนับสนุนจังหวัดในเรื่องขององค์ความรู้ การสร้างกระแสการแพทย์แผนไทย การสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งการผลักดันเชิงนโยบายให้มีแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ระดับตำบลครอบคลุมทุกแห่งทั่วประเทศ และเป็นที่น่ายินดีว่าหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ดำเนินการสอดรับกับนโยบายดังกล่าวแล้ว” นพ.ชลน่านกล่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา จัดโครงการเด็กโคราช “รู้จักรัก 56” แล้ว

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัด นครราชสีมา ส่วนราชการ หน่วยงาน ภาคเอกชนและภาคีเครือข่ายต่างๆ จัดโครงการเด็กโคราช "รู้จักรัก 56”

 นางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดทำโครงการเด็กโคราช รู้จักรัก 56 เพื่อสร้างความตระหนักให้กับเยาวชนเกี่ยวกับการรู้จักรักที่ถูกต้องและดูแล ตนเองให้มีความปลอดภัย ป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รู้จักโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยาเสพติด และยังเป็นการประชาสัมพันธ์บริการ”คลินิกวัยรุ่น” สร้างความรู้ ความเข้าใจ ยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสุข สมบูรณ์ มีความรัก ต่อบิดามารดา และบุพการี รู้บทบาทหน้าที่ที่มีต่อครอบครัว การทำหน้าที่ของลูกที่ดี มีความรักต่อชุมชนและสังคม ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ถูกต้อง รวมถึงการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่น ชุมชน และประเทศชาติด้วย

ทั้งนี้ได้กำหนดวันเวลาในการจัดโครงการเด็กโคราช "รู้จักรัก 56” จำนวน 5 ครั้ง ดังนี้

                วันที่ 10 มิถุนายน 2556 ณ โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน
                วันที่ 26 มิถุนายน 2556 ณ โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ 1 อำเภอโนนไทย
                วันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ณ โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี
                วันที่ 9 สิงหาคม 2556 ณ โรงเรียนสีคิ้ว สวัสดิ์ผดุงวิทยา อำเภอสีคิ้ว
                วันที่ 20 กันยายน 2556 ณ โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่

จึงขอเชิญชวนเยาวชนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมโครงการเด็กโคราช "รู้จักรัก 56” ตามวัน เวลา ดังกล่าว

กกต.กาฬสินธุ์ เปิดเวทีเสวนา ค้นหาแนวทางการส่งเสริมสตรีให้มีบทบาททางการเมืองมากยิ่งขึ้น

วานนี้ ( 7 มิ.ย. 56 ) ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ นายประทีป ชาญสมัย กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการอบรม "โครงการส่งเสริมสตรีให้มีบทบาททางการเมือง” โดย ดึงสตรีผู้นำชุมชน และ ผู้นำนักศึกษาหญิง เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน
ดร.วิทยา จิตรมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสตรีไทยเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น มีสัดส่วนน้อยกว่าผู้ชายมาก ดังนั้นหากสังคม มีทัศนคติที่ดี เปิดโอกาสให้สตรีเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น จะทำให้การพัฒนาของการเมืองไทยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ดังนั้นการจัดอบรมส่งเสริมสตรีให้มีบทบาททางการเมือง และเปิดเวทีเสวนา สตรีกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดทำขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายเน้นไปที่ ผู้นำสตรีจากชุมชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ , ผู้นำสตรีจากชุมชนในเขตเทศบาลตำบลกลางหมื่น ,และผู้นำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ รวม 52 คน ทั้งนี้เพื่อให้สตรีมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมือง รวมถึงการระดมความคิดเห็น กำหนดแนวทางในการพัฒนาบทบาทสตรีชาวกาฬสินธุ์ให้มีส่วนร่วมทางการเมืองมาก ยิ่งขึ้น สำหรับผู้ร่วมเวทีเสวนา ประกอบด้วย นางสุนิตย์ รุทเทวิน นายกเทศบาลตำบลกลางหมื่น , ผศ.พรพิมล พิมพ์แก้ว อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ , และนางสาววิภาดา รัตนโรจนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินรายการโดย ดร.เนติรัฐ วีระนาคินทร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์
 


วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

จ.กาฬสินธุ์เรียกประชุมผู้ประกอบการป้องกันมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม

จังหวัดกาฬสินธุ์เรียก ประชุมผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลและโรงงานแป้งมัน เพื่อขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังและป้องกันการบำบัดน้ำเสีย ฝุ่นละออง และกลิ่น ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้าน

บ่ายวันนี้ 7 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แก่ โรงงานน้ำตาล โรงงานแป้งมัน และเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและป้องกันมลพิษต่างๆ เช่น น้ำเสีย ฝุ่นละออง และกลิ่น ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนในพื้นที่โรงงานและใกล้เคียง โดยเน้นให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงโรงงานให้ได้รับ ความเดือดร้อน

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในปีนี้ฝนที่ตกในจังหวัดกาฬสินธุ์มีปริมาณมากกว่าปกติตั้งแต่ต้นปี จึงเป็นห่วงประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงโรงงานอุตสาหกรรมจะได้รับความเดือด ร้อนจากการปล่อยน้ำเสียของแต่ละโรงงาน จึงได้ขอความร่วมมือจากสถานประกอบการทุกแห่งได้เฝ้าระวังป้องกันระบบบำบัด น้ำเสียไม่ให้ได้รับความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์จะได้แต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อกำกับดูแลอย่าง ใกล้ชิด หากพบโรงงานใดปล่อยปะละเลยจนส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนรำคาญจะ ดำเนินการตามกฎหมายทันที
 



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ ข่าว

โรงเรียนเทศบาล 1 กาฬสินธุ์พิทยาสิทธิ์ จัดกิจกรรมธนาคารความดีน้องพี่ทำดีร่วมกัน

โรงเรียนเทศบาล 1 กาฬสินธุ์พิทยาสิทธิ์ จัดกิจกรรมธนาคารความดีน้องพี่ทำดีร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียน สร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมแบบมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง สานต่อวาระจังหวัดกาฬสินธุ์เมืองคนดี สุขภาพดี รายได้ดี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2556 ที่ห้องโสตทัศนศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 กาฬสินธุ์พิทยาสิทธิ์ นายฉลอง ฆารเลิศ ปลัดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการอบรมกิจกรรมธนาคารความดีน้องพี่ทำดีร่วมกัน ซึ่งเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมกิจกรรมสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะมีค่านิยมการดำเนินงานแบบมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง โดยมีคณะครูแกนนำของโรงเรียนในสังกัด นักเรียนแกนนำของโรงเรียนในสังกัด เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ จำนวน 100 คน เข้ารับการอบรม

นายฉลอง ฆารเลิศ ปลัดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันความสงบสุขในสังคมของเราลดน้อยลงไปทุกขณะ คดีอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด เยาวชนขาดความรับผิดชอบ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุง พัฒนาตามแนวทางของพระพุทธศาสตร์ และการจัดโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียน (กิจกรรมธนาคารความดี) ที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายคุณธรรมกับศูนย์คุณธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่ง เป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะเสริมสร้างศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม จะทำให้เด็กนักเรียนได้เปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมใหม่ และยังเป็นเกราะป้องกันให้นักเรียนรู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนดี มีศีลธรรม และยังเป็นการร่วมขับเคลื่อนวาระจังหวัดกาฬสินธุ์เมืองคนดี สุขภาพดี รายได้ดี ของ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์อีกด้วย
โอกาสนี้ได้มีการมอบรางวัลการประกวดคำขวัญ การประกวดวาดภาพเกี่ยวกับการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา, การฝึกปฏิบัติเพื่อเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ นอกจากนี้ก็มีวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับธนาคารความดีให้กับผู้เข้ารับ การอบรมด้วย
 



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์จัดแข่งขันตอบปัญหาประชาธิปไตย Young DPR Award ปีที่ 3

นางสาววิภาดา รัตนโรจนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แจ้งว่า ในวันที่ 14 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับกองการศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดกิจกรรมแข่งขันตอบปัญหาประชาธิปไตย Young DPR Award ปีที่ 3 ตามโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้ ความเข้าใจในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่ของ พลเมือง รวมถึงการแสดงออกตามวิธีทางประชาธิปไตย อย่างถูกต้อง เหมาะสม ก่อให้เกิดกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 12 แห่ง สำหรับวิธีการด้วยการคัดเลือกนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 12 ทีม ๆ ละ 3 คน จาก 12 โรงเรียน และผู้เข้าร่วมสนับสนุนอีกโรงเรียนละ 5 คน เข้าแข่งขันตอบปัญหาเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ปัญหาเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองที่ดี การแสดงออกตามวิธีประชาธิปไตยที่ถูกต้องเหมาะสม และปัญหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนจังหวัดเข้าแข่งขันในระดับเขต 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเพื่อหาทีมชนะเป็นตัวแทนเขตเข้าแข่งขันใน ระดับประเทศต่อไป โดยนักเรียนที่เข้าแข่งขันภาคทฤษฎีตอบคำถาม 15 ข้อ ภาคปฏิบัติ ให้แต่ละทีมสมมุติเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองขึ้นปราศรัยหา เสียง แสดงวิสัยทัศน์ พร้อมโชว์นโยบายหรือสโลแกน ทีมละ 3 นาที และสามารถนำอุปกรณ์ประกอบ เช่น ป้าย แผ่นพับ มาประกอบการหาเสียงได้

ส่วนผลที่คาดว่าจะได้รับ ได้แก่ ประชาชนเกิดความรู้ ความเข้าใจและกระตุ้นให้รู้จักสิทธิ หน้าที่ของตนเองตามระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมีจิตสำนึกที่ดีในการเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่นรวมถึงการแสดงออก ตามวิธีทางประชาธิปไตยอย่างถูกต้องเหมาะสม
 



สุรพล คุณภักดี / ข่าว

ผู้การฯชัยภูมิส่งชุดสืบสวนพิเศษลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงบ้านผี

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ จัดกำลังตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ 5 ชุด ลงพื้นที่ หาข้อมูลเชิงลึก ประกอบสสำนวนดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ไม่หวังดี กระทำการมิชอบเพื่อหวังเงินค่าเวนคืนจากการสร้างอ่างเก็บน้ำ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ 7 มิ.ย.2556 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และนายนิพนธ์ สาธิตสมิธพงษ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบนโยบายการทำงานเชิงบูรณาการด้านต่างๆ แก่ส่วนราชการทุกส่วน เพื่อให้เกิดภาพการทำงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ การทำงานสนองนโยบายรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มประชาชน กลุ่มต่างๆ การแก้ไขปัญหายาเสพติด การจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย และการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีกลุ่มคน เข้าไปก่อสร้างบ้านเรือน ปลูกต้นไม้ และขุดบ่อน้ำ ในพื้นที่ จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร ยางนาดี และอ่างเก็บน้ำลำสะพุง ในพื้นที่อำเภอหนองบัวระเหว บ้านเขว้า เทพสถิต และหนองบัวแดง เป็นการกระทำส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ เพื่อหวังรับเงินค่าชดเชย จากการสร้างอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ตัวเลขขณะนี้ มีจำนวนกว่า 600 หลัง ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางชลประทานจังหวัด ในฐานะเจ้าของโครงการก่อสร้าง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน ในพื้นที่ทุกอำเภอดังกล่าวไว้แล้ว จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องลงไปดำเนินการสอบสวนเชิงลึก

ด้านพล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว กรณีชลประทานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน จึงเตรียมชุดสืบสวนชุดพิเศษของจังหวัดไว้ 5 ชุด ลงไปช่วยตำรวจพื้นที่ นอกจากนี้ยังจัดชุดสืบสวนหาข่าวเชิงลึก เพื่อขยายผลการสืบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นนายทุน หรือข้าราชการ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการตำรวจภาค3 ได้กำชับ ให้ดำเนินการเต็มที่ ตรงไปตรงมา และให้คำนึงถึงชาวบ้านผู้เดือดร้อนตัวจริงด้วย ต้องมีการคัดแยกชาวบ้านที่อยู่ดั้งเดิม ออกจากผู้มาสร้างบ้านหวังค่าชดเชย นอกจากนี้ยังกำชับให้ทุกอำเภอรีบตรวจสอบ ว่ากรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในพื้นที่หรือไม่ ถ้ามีต้องรีบตรวจสอบ และรายงานทันที


สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

วุฒิสภาสร้างผู้นำ นักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมแก่เยาวชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เปิดโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่น หลักสูตร กระบวนการเสริมผู้นำ นักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ครั้งที่ 9 เป้าหมายเยาวชน คนรุ่นใหม่ กว่า 120 คน

เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 7 มิถุนายน 2556 นางพรทิพย์ โล่ห์วีระจันทร์รัตนปรีดา สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชัยภูมิ เปิดโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่น หลักสูตร กระบวนการเสริมผู้นำ นักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ครั้งที่ 9 ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 7-9 มิถุนายน 2556 ที่ โรงแรมชัยภูมิปาร์ค ซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจัดขึ้น เป้าหมายเพื่อให้เด็กและเยาวชน วัยก่อนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ตามสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 120 คน ได้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการเมือง การปกครองในการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทย รวมถึงบทบาทหน้าที่ของวุฒิสภา และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกัน สามารถนำแนวคิดที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และขยายผลต่อไป

นางพรทิพย์ โล่ห์วีระจันทร์รัตนปรีดา สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า เยาวชนที่มาวันนี้เป็นผู้นำเยาวชน จากสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นกลุ่มที่จะก้าวเข้ามมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่ออายุครบ 18 ปี และเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในอนาคต จึงจำเป็นต้องรู้และเข้าใจในการปกครองระบอบประชาธิปไตย และเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างถูกต้อง ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว