วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เลขา สพฐ.เตรียมยกร่างระเบียนกระทรวงศึกษาธิการให้มีการซ้ำชั้นหากไม่ผ่านวิชาใดวิชาหนึ่งในระดับประถมศึกษา ส่วนมัธยมศึกษาให้ลงเรียนใหม่ในภาคเรียนถัดไป

เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เตรียมยกร่างระเบียนกระทรวงศึกษาธิการให้มีการซ้ำชั้นหากไม่ผ่านวิชาใดวิชาหนึ่งในระดับประถมศึกษา ส่วนมัธยมศึกษาให้ลงเรียนใหม่ในภาคเรียนถัดไป
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึง แนวนโยบายของนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้มีการจัดทดสอบวัดผลกลางโดยใช้ข้อสอบชุดเดียวกันทั้งประเทศในทุกชั้นปี ว่า หากเริ่มดำเนินการพร้อมกันทุกระดับชั้นอาจจะมีปัญหาในเรื่องงบประมาณและความพร้อมของผู้ปฏิบัติ ดังนั้นจะเริ่มใช้ข้อสอบกลางในระดับชั้นที่มีผลต่อการเรียนในระดับสูงขึ้นก่อน คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3, 4 และ 5 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 2 โดยข้อสอบกลางจะเป็นข้อสอบมาตรฐานที่ผ่านกระบวนการพิจารณาตรวจสอบโดยชุมนุมนักวัดผลการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำลังจะตั้งขึ้น ซึ่งจะมีค่าความเชื่อมั่นเพียงพอที่จะส่งผลให้ทราบได้ว่า จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขการจัดการศึกษาในด้านใด เพื่อให้ได้มาตรฐานของนักเรียนทั่วประเทศที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งข้อสอบวัดผลกลางนี้จะใช้ในการสอบปลายภาคของทุกโรงเรียนที่จัดสอบ ปีละ 2 ครั้ง และจะใช้สอบทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เด็กเรียน ทั้งนี้สำนักงานคณะการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะเริ่มใช้ข้อสอบกลางในระดับชั้นดังกล่าวในปีการศึกษา 2557 ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งปีจึงเชื่อว่าจะสามารถออกข้อสอบและดำเนินการเรื่องนี้เสร็จได้ทัน

นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ต้องมีการปรับปรุงระบบการวัดผล ประเมินผลใหม่ด้วย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มอบให้ทบทวนระบบการตกซ้ำชั้น ซึ่งขณะนี้ สพฐ. กำลังปรับปรุงโดยยกร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการวัดผล ประเมินผลการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ เพื่อจะใช้ในปีการศึกษาปี 2557 มีเนื้อหาสาระที่จะให้มีการตกซ้ำชั้นในระดับชั้นประถมศึกษา หากไม่ผ่านวิชาใดวิชาหนึ่ง จะต้องตกซ้ำชั้นเพราะเป็นการเรียนการสอนแบบบูรณาการ ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้นหากไม่ผ่านในรายวิชาใด จะต้องลงเรียนรายวิชานั้นใหม่ในภาคเรียนถัดไป หรือเมื่อโรงเรียนเปิดให้โดยไม่ต้องช้ำชั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อจัดทำร่างแล้วเสร็จจะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะต้องนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยเมื่อประกาศใช้จะมีผลบังคับใช้ในโรงเรียนสังกัด สพฐ. โรงเรียนเอกชน ส่วนโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน สามารถอนุโลมนำไปใช้ได้ ซึ่งปกติแล้วโรงเรียนเหล่านี้จะยึดกฎของกระทรวงศึกษาธิการอยู่แล้ว ส่วนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่กับความสมัครใจว่าจะใช้การวัดผลดังกล่าวนี้หรือไม่



ที่มาสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน – สหรัฐฯ เน้นความร่วมมือเพื่อรับมือภัยพิบัติ

วาสนา ตาระเกตุ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ซึ่งร่วมเดินทางไปรายงานภารกิจนายกรัฐมนตรี รายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 1 โดยนายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้แทนประธานาธิบดีบารัค โอบามา เข้าร่วมประชุมแทน เพื่อติดตามความคืบหน้าของความร่วมมืออาเซียน-สหรัฐฯ และหารือเกี่ยวกับแนวทางการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมทั้งสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาค

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมนโยบายของสหรัฐฯ ในการกลับมามีบทบาทในภูมิภาคอาเซียน และเสนอให้ที่ประชุมได้พิจารณาถึงความร่วมมือระหว่างอาเซียน-สหรัฐฯ ในประเด็นท้าทายใหม่ ๆ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคในด้านระบบพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ และทันเวลา อาเซียนต้องการความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะระบบเตือนภัย และวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ รวมทั้งการเป็นหุ้นส่วนกับสหรัฐฯ และกรรมาธิการลุ่มน้ำโขง เพื่อพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกัน



ที่มาสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ภาคอิสานมีอากาศเย็น อุณหภูมิ 18-23 องศาเซลเซียส

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศภาคตะวันนอกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

คาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า  

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้าทางตอนบนของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันออก และตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส



สำหรับ ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตร ในระยะ 7 วันข้างหน้า  

ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้าทางตอนบนของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันออก และตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

- เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

-ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือน อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม




วันชนะ บุญปก ดาโรจน์/สวท.ยโสธร
9 ตุลาคม  2556

จ.สุรินทร์ จัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชา ข้าราชการฝ่ายปกครอง พนักงานราชการ ลูกจ้าง และสมาชิก อส. จ.สุรินทร์

นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์โดยที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับชมรมคนปกครองจังหวัดสุรินทร์ ชมรมข้าราชการฝ่ายปกครองจังหวัดสุรินทร์ ได้มีโครงการจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชา ข้าราชการฝ่ายปกครอง พนักงานราชการ ลูกจ้าง และสมาชิกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 1/2556 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดได้มีโอกาสออกกำลังกายโดยทั่วกัน และเพื่อสร้างความสัมพันธ์สามัคคี ในหมู่ข้าราชการฝ่ายปกครองทุกระดับ โดยกำหนดจัดการแข่งขันกีฬา "สิ่งห์สุรินทร์เกมส์ 2013” ในวันที่  11  ตุลาคม  2556 ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัด

สุรินทร์ ประเภทกีฬา การแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ มีการแข่งขันกีฬาพื้นเมือง กีฬาตีกอล์ฟ (มะเขือยาว) วิ่งสามขา วิ่งกระสอบ การแข่งขันกีฬาแชร์บอล การแข่งขันกีฬาฟุตบอลชาย การแข่งขันชักเย่อ ก

ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โดยทั่วกัน ตามวันและเวลาดังกล่าว




กรรณิกา  สำราญจริง/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

จ.สุรินทร์ เชิญชวนหน่วยงานราชการ จัดงานทอดกฐิน งานทอดผ้าป่า ให้พิจารณาตู้ยาพระราชทานพร้อมเวชภัณฑ์ เป็นบริวารกฐินหรือผ้าป่า

นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยมูลนิธิโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จำทำโครงการถวายตู้ยาสามัญประจำวัด และเวชภัณฑ์ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา 28 กรกฎาคม  2555 ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญชวนหน่วยงาน หรือผู้ที่สนใจ หากมีการจัดงานทอดกฐิน หรืองานทอดผ้าป่าในปี 2556 ขอให้พิจารณาตู้ยาพระราชทาน เป็นบริวารกฐิน หรือผ้าป่า ในการถวายแด่วัดที่หน่วยงานเป็นเจ้าภาพ โดยสามารถสั่งจองตู้ยาพระราชทานฯ ได้โดยตรงที่มูลนิธิโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์
02 673 9940-3 หมายเลขโทรสาร 02 673 9942-3



กรรณิกา  สำราญจริง
ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

บุรีรัมย์อพยพ 2 หมู่บ้านไปยังศูนย์พักพิงหลังมวลน้ำที่ล้นสปิลเวย์เขื่อนลำนางรองทะลักท่วมอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยว

บุรีรัมย์อพยพ 2 หมู่บ้านไปยังศูนย์พักพิงหลังมวลน้ำที่ล้นสปิลเวย์เขื่อนลำนางรองทะลักท่วมอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยว หลายหน่วยงานเร่งอพยพชาวบ้านอ.โนนดินแดง 2 หมู่บ้าน กว่า 130 ครัวเรือน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังมวลน้ำที่ล้นออกจากสปิลเวย์เขื่อนลำนางรอง ทะลักท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว และไหลเชี่ยวกราดหวั่นได้รับอันตราย ขณะผู้ว่าฯ รุดเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ ( 9 ต.ค.56) เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อำเภอโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาล กำลังทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้อพยพชาวบ้านบ้านส้มป่อย ม.2 และบ้านโคกตะคร้อ ม.7 ต.ส้มป่อย อ.โนนดินแดง จำนวน 139 ครัวเรือน รวมกว่า 270 คน ไปพักพิงยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่หอประชุม ที่ว่าการอำเภอโนนดินแดง และศาลาวัดบ้านหนองกก หลังมวลน้ำที่ล้นออกจากสปิลเวย์เขื่อนลำนางรอง ได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน และไร่นาล้อมรอบหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และไหลเชี่ยวกรากอย่างรุนแรง จนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านเรือนของตัวเองได้ เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ขณะที่นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมเหล่ากาชาดจังหวัด สภากาชาดไทยจังหวัดสุรินทร์ และภาคเอกชน ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน พร้อมนำถุงยังชีพ น้ำดื่ม อาหารปรุงสำเร็จ มามอบให้กับผู้ประสบภัยเพื่อเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ยังได้สั่งการให้อำเภอที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดริมลำน้ำ และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ได้เฝ้าระมัดระวังอันตรายจากภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งให้เตรียมแผนอพยพประชาชน สัตว์เลี้ยง ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ติดตามสถานการณ์น้ำทุกชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น และให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเร่งด่วนด้วย



สุรชัย พิรักษา สวท..บุรีรัมย์

กงสุลใหญ่ สปป.ลาวเข้าพบผู้ว่าฯบุรีรัมย์สานความร่วมมือช่วยเหลือแรงงานลาวที่รอดและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหมู่

กงสุลใหญ่ สปป.ลาวเข้าพบผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ สานความร่วมมือช่วยเหลือแรงงานลาวที่รอด และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหมู่ กงสุลใหญ่ สปป.ลาว เข้าพบหารือผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ประสานความร่วมมือช่วยเหลือแรงงานที่รอด และเสียชีวิต อุบัติเหตุรถปิคอัพประสบอุบัติเหตุหมู่เสียชีวิต 20 คน บาดเจ็บสาหัส 6 คน ทั้งพร้อมจะร่วมกันป้องกันปราบปรามกลุ่มขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติโดยผิดกฎหมาย ( 9 ต.ค. 56) นายสินใจ มณีวรรณ์ รักษาการกงสุลใหญ่ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำราชอาณาจักรไทย ณ ขอนแก่น และคณะฯ ได้เข้าพบนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานความร่วมมือให้ความช่วยเหลือแรงงานชาวลาว ที่รถปิคอัพบรรทุกแรงงาน จากจังหวัดสมุทรปราการ – ปลายทางอุบล เพื่อเดินทางกลับ สปป.ลาว ได้เกิดอุบัติเหตุเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ ที่บริเวณบ้านโนนสวรรค์ หลักกิโลเมตรที่ 20 – 21 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้มีแรงเสียชีวิตแล้วจำนวน 20 ราย บาดเจ็บสาหัสพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ 6 ราย พ้นขีดอันตรายแล้ว 3 ราย จากที่นั่งมาในรถ 26 ราย พร้อมกันนี้ทางกงสุล สปป.ลาว ยังได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ไทย ในการอำนวยความสะดวก ให้กับญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมารับศพ เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนายังบ้านเกิด ที่ประเทศลาวด้วย และขอความร่วมมือให้ติดตามคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับแรงงานที่บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงการรับสิทธิประโยชน์ในการรับเงินสินไหมตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ของบริษัทประกันภัย ของรถที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวด้วย ก่อนที่กงสุล สปป.ลาวจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุ และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ จำนวน 6 ราย ทั้งนี้ทางกงศุล สปป.ลาว พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางการไทยในการ ป้องกันและปราบปรามการค้าแรงงานข้ามชาติโดยผิดกฎหมายดังกล่าวด้วย นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมที่อำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้ตายและผู้บาดเจ็บตามที่ ทางกงสุลใหญ่ สปป.ลาว ที่ได้เข้าร่วมหาลือและร้องขอ ทั้งจะสอบสวนติดตามหาญาติแรงงานลาว เพื่อส่งให้ทางญาติมารับผู้บาดเจ็บและศพที่เสียชีวิตกลังไปยังประเทศบ้านเกิดโดยเร็ว ส่วนคดีและข้อเท็จจริงของแรงงานต่างด้าวยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


สุรชัย พิรักษา สวท.. บุรีรัมย์
9 ต.ค.56 

ตร.บุรีรัมย์ส่งชุดควบคุมฝูงชนกว่า 300 นาย เข้ากรุงรับมือม็อบ กปท.

ตร.บุรีรัมย์ส่งชุดควบคุมฝูงชนกว่า 300 นาย เข้ากรุงรับมือม็อบ กปท. ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ส่งชุดควบคุมฝูงชนกว่า 300 นาย เข้ากรุงเทพฯ ร่วมรับมือการชุมนุมต้านกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เน้นยึดหลักเจรจาประนีประนอม ปฏิบัติตามหลักมาตรฐานสากล เวลา 15.30 วันนี้ (9 ต.ค.56) ที่บริเวณด้านลานหน้า สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.อ.ชัยเดช ปานรักษา รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานส่งกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จำนวน 2 กองร้อย รวม 317 นาย เดินทางโดยรถตู้ จำนวน 33 คัน เพื่อไปปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการรักษาความสงบเรียบร้อยของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ระหว่างวันที่ 9-16 ต.ค.2556 ซึ่งการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนไปในครั้งนี้ เพื่อเดินทางไปร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจของนครบาล ซึ่งได้กำชับ และเน้นย้ำให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเชื่อมั่น เข้มแข็ง มีสติ เป็นมิตรกับประชาชน ยึดหลักการเจราประนีประนอม และให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในเรื่องผู้ที่ไม่หวังดีอาจเข้ามาก่อความวุ่นวายในที่ชุมนุม โดยเฉพาะการตรวจสอบเรื่องอาวุธ วัตถุอันตรายต่างๆ ที่อาจมีผู้ไม่หวังดีนำเข้ามาก่อกวนได้ ทั้งนี้ยังได้กำชับให้ตำรวจที่ส่งไปสนับสนุนในการรักษาความสงบเรียบร้อยทุกนาย ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล จากเบาไปหาหนัก อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่เข้ามาชุมนุมให้ชุมนุมด้วยความสงบเพราะเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ขอให้ปฏิบัติตามกฎกติกาเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่การสูญเสีย ซึ่งหากไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง หรือประกาศของเจ้าพนักงานเชื่อว่าจะไม่มีการกระทบกระทั่งกัน และไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทางตำรวจได้วางแผนการปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก และในแต่ละขั้นตอนจะมีการประกาศให้ประชาชนทราบอย่างชัดเจน



สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์
 9 ต.ค.56

เทศบาลเมืองสุรินทร์จัดหน่วยบริการสาธารณสุขเชิงรุกเยียวยาหลังน้ำลด

นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ มีความห่วงใยในสุขภาพของพี่น้องประชาชนหลังน้ำลด มอบหมายให้ศูนย์บริการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองสุรินทร์ ออกหน่วยบริการสาธารณสุขเชิงรุกสู่ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดูแลสุขภาพอนามัยแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยและได้รับผลกระทบจากภาวะอุทกภัย โดยมีกำหนดการออกให้บริการในช่วงเวลา 16.30 – 20.30 น. ดังนี้ วันที่ 9 ตุลาคม 2556 ชุมชนหนองบัว ณ ที่ทำการชุมชน วันที่ 10 ตุลาคม 2556 ชุมชนดองกะเม็ด ณ ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน วันที่ 11 ตุลาคม 2556 ชุมชนปัทมานนท์ ณ บ้านประธานชุมชน วันที่ 14 ตุลาคม 2556 ชุมชนมั่งมีศรีสุข ณ บ้านประธานชุมชน วันที่ 15 ตุลาคม 2556 ชุมชนไตรรงค์ ณ บ้านประธาน อสม.วันที่ 16 ตุลาคม 2556 ชุมชนหมอกวน ณ ที่ทำการชุมชน วันที่ 17 ตุลาคม 2556 ชุมชนสระโบราณ ณ ที่ทำการชุมชน วันที่ 18 ตุลาคม 2556 ชุมชนโนงปรีง ณ บริเวณกลางซอยป่วนแสงอุทิศ จึงขอเชิญ ประชาชนในชุมชนดังกล่าวไปรับบริการด้านสาธารณสุขตามกำหนดการและสถานที่ที่ดังกล่าว

จ.สุรินทร์ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมพิธีวันปิยมหาราช

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" ซึ่งมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน" ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม เป็น "วันปิยมหาราช" และพสกนิกรทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดงานในวันดังกล่าว

สำหรับจังหวัดสุรินทร์กําหนดจัดงานพิธีวันปิยมหาราชจังหวัดสุรินทร์ประจําปีพ.ศ. 2556 ในวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์โดยมีกําหนดการดังนี้ เวลา 07.50 น. - ข้าราชการพลเรือน ทหารตํารวจข้าราชการบํานาญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชนพร้อมกัน ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ จากนั้น ทุกภาคส่วนวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เวลา 08.49 น. นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณพิธี วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ ประธานถวายพวงมาลัยคล้องพระกร พระบรมราชานุสาวรีย์ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ และวางพวงมาลา จากนั้น ประธานขึ้นสู่แท่นเกียรติยศกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช จบแล้ววงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสรญพระบารมี สำหรับการแต่งกาย - ข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติขาวสวมหมวก หรือเครื่องแบบปฏิบัติราชการสีกากีคอพับแขนยาวสวมหมวก หรือชุดปฏิบัติราชการตามสังกัด พ่อค้า ประชาชน ชุดไทยหรือชุดสุภาพ นักเรียน นักศึกษา แต่งเครื่องแบบตามสังกัด หากหน่วยงานใดประสงค์จะจัดทําพวงมาลาประดับด้วยธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้ในการปรับปรุงพระบรมราชานุสาวรีย์ ร. 5 และงานสาธารณกุศลของจังหวัดกรุณาแจ้งยอดเงินได้ที่ สํานักงานจังหวัดสุรินทร์ โทร. 0-4451-2039

อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ รับสมัครช้างเข้าร่วมแสดงงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี

อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ รับสมัครช้างเข้าร่วมแสดงงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556

นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ นายอำเภอท่าตูม กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556 และงานแสดงช้างในวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2556 ที่ บริเวณสนามแสดงช้าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ และกำหนดให้อำเภอท่าตูมรับผิดชอบควบคุมการแสดงช้าง และจัดหาช้าง จัดทำทะเบียนช้างที่เข้าร่วมแสดง และดำเนินการรับสมัครช้างเข้าร่วมแสดง เพื่อให้สามารถดำเนินการและเตรียมการแสดงช้างให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อำเภอท่าตูม รับสมัครช้างเข้าร่วมแสดงงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556 ดังนี้ เป็นเจ้าของช้าง และต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ เท่านั้น

ทั้งนี้ เริ่มดำเนินการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2556 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ ติดต่อขอรับใบสมัครได้ที่ ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ ที่ทำการปกครองอำเภอท่าตูม ที่ทำการปกครองอำเภอชุมพลบุรี อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอจอมพระ อำเภอกาบเชิง อำเภอสังขะ อำเภอเขวาสินรินทร์ อำเภอศรีณรงค์ และยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ หมายเลขโทรศัพท์ 044-145029 สำหรับหลักฐานที่ต้องนำมายื่นในวันสมัคร สำเนาทะเบียนบ้าน (เจ้าของช้าง) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (เจ้าของช้าง,ควาญช้าง) หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของช้าง ตั๋วรูปพรรณช้าง ถ้ามี ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรับสมัครใด ๆ ทั้งสิ้น และติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ ที่ทำการปกครองอำเภอท่าตูม หมายเลขโทรศัพท์ 044-591141 

จ.สุรินทร์ เชิญชวนหน่วยงานราชการ จัดงานทอดกฐิน งานทอดผ้าป่า ให้พิจารณาตู้ยาพระราชทานพร้อมเวชภัณฑ์ เป็นบริวารกฐินหรือผ้าป่า

จ.สุรินทร์ เชิญชวนหน่วยงานราชการ จัดงานทอดกฐิน งานทอดผ้าป่า

ให้พิจารณาตู้ยาพระราชทานพร้อมเวชภัณฑ์ เป็นบริวารกฐินหรือผ้าป่า นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยมูลนิธิโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จำทำโครงการถวายตู้ยาสามัญประจำวัด และเวชภัณฑ์ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา 28 กรกฎาคม 2555 ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญชวนหน่วยงาน หรือผู้ที่สนใจ หากมีการจัดงานทอดกฐิน หรืองานทอดผ้าป่าในปี 2556 ขอให้พิจารณาตู้ยาพระราชทาน เป็นบริวารกฐิน หรือผ้าป่า ในการถวายแด่วัดที่หน่วยงานเป็นเจ้าภาพ โดยสามารถสั่งจองตู้ยาพระราชทานฯ ได้โดยตรงที่มุลนิธิโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 673 9940-3 หมายเลขโทรสาร 02 673 9942-3

ขนส่งจังหวัดสุรินทร์ เข้มในช่วงงานช้างสุรินทร์

สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์  ออกตั้งด่านตรวจเข้ม ในช่วงงานแสดงช้าง พร้อม วอนผู้ยังไม่เสียภาษีรถยนต์และจักรยานยนต์ ให้รีบดำเนินการด่วน

ว่าที่พันตรีประเสริฐ  กระจ่างจิตร รักษาการหัวหน้าขนส่งจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดจัดงาน "มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ประจำปี 2556 ขึ้นในระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์และสืบสานร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้าง ขึ้นเป็นประจำทุกปี   ในส่วนการรณรงค์ป้องกันเกิดอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลงานช้างฯ ซึ่งทางเราจะมีการจัดตั้งด่านตรวจสภาพรถตาม พรบ.ตรวจสอบรถยนต์และ พรบ.ขนส่ง สำหรับผู้ที่มาเที่ยวในช่วงเทศกาลงานช้าง จนถึงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้   นอกจากนี้ยังจะออกหน่วยตรวจสอบรถยนต์ที่ผิดกฎหมาย รถยนต์ที่ไม่จดทะเบียนเสียภาษีที่ถูกต้อง  และโดยเฉพาะรถที่วิ่งเลนขวา ซึ่งวิ่งด้วยความเร็ว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ว่าที่ พ.ต ประเสริฐ  รักษาการหัวหน้าขนส่งจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า อยากวิงวอนให้ผู้ครองครองรถ ให้รีบไปดำเนินการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยายยนต์ ซึ่งทางสำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับสำนักงานขนส่งสาขารัตนบุรี สาขาศรีขรภูมิ และขนส่งสาขาปราสาท  ได้ออกหน่วยให้บริการทุกวันในเวลาราชการ  ยิ่งช่วงนี้ปิดเทอม ได้มีนักเรียน นักศึกษาพี่น้องประชาชน แห่เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก



อุทัย  มานาดี / ข่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ รายงานว่า ในวันที่ 13 ตุลาคม 2556 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยเวลา 09.30 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ที่ ที่ว่าการอำเภอศิลาลาด อำเภอศิลาลาด จังหวัดศรีสะเกษ และมอบถุงยังชีพจำนวน 1000 ชุด ให้กับผู้ประสบภัย ต่อมา เวลา 11.00 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอราษีไศล ณ ที่ว่าการอำเภอราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ และมอบถุงยังชีพ จำนวน 1000 ชุด ให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย หลังจากนั้น ในเวลา 13.00 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดงานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ประจำปี 2556 ณ ศาลาริมแม่น้ำมูล ภายในบริเวณ ที่ว่าการอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ

ภาคเอกชน ชี้ ผลกระทบจากน้ำท่วม ส่งผลให้เศรษฐกิจทางการเกษตรในจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับความเสียหาย กว่า 800,000,000 บาท

ภาคเอกชน ชี้ ผลกระทบจากน้ำท่วม ส่งผลให้เศรษฐกิจทางการเกษตรในจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับความเสียหาย กว่า 800,000,000 บาท แนะ หลังน้ำลด รัฐบาล ควรเร่งฟื้นฟูและเยียวยาเกษตรกร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ต.ค.56 ที่หอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ขณะนี้ พบว่ามีพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับความเสียหายน้ำท่วมประมาณ 100,000 ไร่ โดยตีเป็นมูลค่าความเสียหายสูงถึง 800,000,000 บาท ส่วนความเสียหายในเชิงเศรษฐกิจ นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของการดำเนินการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งในขณะนี้ ทางหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ได้ประสานขอ ข้อมูลไปยัง สำนักงานพานิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เกี่ยวกับมูลค่าของความเสียหายในจุดนี้ เพื่อทำรายงานส่งไปยัง หอการค้าแห่งประเทศประเทศไทย ตามลำดับต่อไป นายสิริพงษ์ กล่าวต่อไปว่า หลังสถานการณ์กลับสู่สภาวะ ปกติ สิ่งแรกที่ รัฐบาลควรทำ คือการเร่งเยียวยาให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อให้เศรษฐกิจทางการเกษตร พื้นตัวโดยเร็ว เพราะหากมีการดำเนินการที่ล่าช้า อาจส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร ซึ่งเป็นกำลังหลักสำคัญในการผลิตของประเทศไทย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และอีกส่วนหนึ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการแก้ไข คือการฟื้นฟู ถนนหนทาง ที่ได้รับความเสียหาย จากน้ำท่วม เพื่อให้การเดินทางสัญจร ไปมา ของประชาชน เป็นไปด้วยความปลอดภัย เพราะในขณะนี้ ถนนสายหลักของจังหวัดศรีสะเกษ บางเส้นทาง ได้ชำรุดเสียหายแล้ว นายสิริพงษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งยังมีการจัดสรรงบประมาณบางส่วน เพื่อนำถุงยังชีพ ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ทุกอำเภอ ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม และจะมีการดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

มท.3 เตรียมลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในสุดสัปดาห์นี้

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ระดับน้ำ ลดลง อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ หน่วยงานภาครัฐ หารือ เข้ม เตรียมแผนเยียวยาผู้ประสบภัยหลังน้ำลด ด้าน มท.3 เตรียมลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในสุดสัปดาห์นี้ วันที่ 9 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนและทรัพย์สิน ตลอดจนพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ล่าสุดสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ วัดจากสถานีสะพานขาว ระดับน้ำในวันนี้( 9ต.ค.56 ) อยู่ที่ 10.57 เมตร ลดลง 0.23 เมตร จากเมื่อวาน ( 8ต.ค.56 ) ที่มีระดับน้ำอยู่ที่ 10.80 เมตร โดยแนวโน้มระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องประมาณวันละ 20 เซนติเมตร โดยประชาชนบางส่วน เริ่มทยอยกลับเข้าที่อยู่อาศัย ตามปกติ หลังจากที่หลายชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เข้าหารือ ร่วมกับ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินแนวทางในการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ พร้อมทั้ง เตรียมการต้อนรับ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ ที่มีกำหนดลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 13 ตุลาคม 2556 เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย ในพื้นที่ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีประสานไปยังทุกอำเภอ เพื่อให้เร่งสำรวจความเสียหายของที่อยู่อาศัย ทรัพย์สิน และพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นดำเนินการสำรวจความเสียหาย หลังจากนั้น ทางจังหวัดศรีสะเกษ จะได้ดำเนินการจัดสรรเงินเยียวยาให้ ตามลำดับขั้นตอนต่อไป นายสุริยะ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของวันที่ 13 ตุลาคม 2556 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ มีกำหนดลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

โดยเวลา 09.30 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตอำเภอศิลาลาด ณ ที่ว่าการอำเภอศิลาลาด อำเภอศิลาลาด จังหวัดศรีสะเกษ ต่อมา เวลา 11.00 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ คณะ จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอราษีไศล และมอบถุงยังชีพ จำนวน 1000 ชุด ให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ณ ที่ว่าการอำเภอราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากนั้น ในเวลา 13.00 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดงานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ประจำปี 2556 ณ ศาลาริมแม่น้ำมูล ภายในบริเวณ ที่ว่าการอำเภอราษีไศล อำเภอ ราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ

ผู้กำกับการเมืองอำนาจเจริญ เตือนการจุดพลุ ประทัด การเล่นดอกไม้เพลิงในช่วงออกพรรษาปีนี้

ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอำนาจเจริญ เตือนการจำหน่ายประทัด พลุ ดอกไม้เพลิง ในช่วงออกพรรษา ต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น ผู้เล่นต้องเล่นขอบเขต ห้ามเล่นประทัดยัก หรือมีเสียงดังจนเกินไป พันตำรวจเอก สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอำนาจเจริญ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลออกพรรษา มักจะมีกลุ่มวัยรุ่น เล่นจุดประทัด พลุ ตะไล ดอกไม้เพลิงจำนวนมาก เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง ๗ อำเภอได้กวดขันในการเล่นประทัด เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากการจุดประทัด เนื่องจากทุกปีที่ผ่านมา มักมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด ส่วนการจำหน่ายประทัด พลุ ตะไล ดอกไม้ไฟ ตามร้านค้าต่าง ๆ ต้องได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะจำหน่ายได้ และจำหน่ายได้เฉพาะเวลา 06.00-18.00 น. เท่านั้น ร้านที่ไม่มีใบอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งในส่วนของร้านจำหน่ายประทัดต้องมีสถานที่จัดเก็บที่มั่นคง ปลอดภัย สถานที่จัดงานต้องมีบริเวณที่เหมาะสม หากไม่จำเป็นก็ควรห้ามจุดประทัด ดอกไม้เพลิง อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากผู้ปกครองบุตรหลาน ขอให้ตักเตือนบุตรหลานของท่าน ห้ามทำการแก้ไขดัดแปลงพลุ ดอกไม้เพลิง ให้เกิดเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ต้องไม่หล่อแหลม เป็นอันตรายกับผู้อื่น ในปีนี้จะมีการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น มีการจัดชุดตำรวจที่มีความชำนาญในการเก็บกู้วัตถุระเบิดออกตรวจทั้งร้านค้า และสถานที่จัดงาน ผู้ใดฝ่าฝืนมีการเล่นประทัด ดอกไม้เพลิง เป็นอันตรายต่อผู้อื่น อาจได้รับโทษถึงขั้นจำคุก



สิทธิเดช นนทพรหม / ข่าว

ข่าวบริการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ

จังหวัดอำนาจเจริญ โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับหนังสือจากราษฎรชุมชนดอนแดงว่า ชุมชนดอนแดง หมู่ที่ ๑๐ ต.บุ่ง อ.เมือง ได้รับความเดือดร้อนจากถนนเลียบคลองชลประทานเชื่อมต่อถนนอรุณประเสริฐ ผิวจราจรมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่ตรงกลางถนนไม่สามารถขับขี่หลบเลี่ยงได้ ทำให้การสัญจรไป มาไม่สะดวก ซึ่งทางจังหวัดอำนาจเจริญได้พิจารณาในการช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้น โดยมอบหมายให้โครงการชลประทานอำนาจเจริญตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลปรากฏว่า ข้อมูลมีความเป็นจริง โดยทางชลประทานอำนาจเจริญได้จัดแผนเพื่อของบประมาณปี ๒๕๕๗ เพื่อดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมถนนให้มีสภาพใช้งานได้ตามปกติต่อไป จึงแจ้งให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวทราบอย่างทั่วกัน


สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดพิธี วันปิยมหาราช

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดพิธีถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว "พระปิยมหาราช” ๒๓ ตุลาคมนี้ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จังหวัดอำนาจเจริญ จะประกอบพิธีถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว "พระปิยมหาราช”เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระองค์ท่าน วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๗.๐๐น.เป็นต้นไป ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ หน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่กรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ได้รับพระราชทานนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพมหามงกุฎ บุรุษยรัตนราช รวิวงศ์วรุตมพงศบริพัตร สิริวัฒนราชกุมาร ซึ่งคำว่า "จุฬาลงกรณ์" นั้นแปลว่า เครื่องประดับผม อันหมายถึง "พระเกี้ยว" ที่มีรูปเป็นส่วนยอดของพระมหามงกุฎหรือยอดชฎา หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๑๑ เหล่าเสนาบดีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พร้อมใจกันอัญเชิญสมเด็จ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ ขึ้นเถลิงราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพัฒนาการศึกษา การทหาร การสื่อสาร การรถไฟ และทรงโปรดให้มีการเลิกทาส โดยมิได้มีการเสียเลือดเนื้อ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตลอดทั่วขอบขัณฑสีมาปวงประชาราษฎร์ถือว่าพระองค์คือพระราชบิดาแห่งตนและประเทศชาติ รัฐบาลจึงประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่พระองค์สวรรคต เป็นวัน "ปิยมหาราช”



สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว
ตรวจ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติในจังหวัดอำนาจเจริญ 8 ต.ค. 2556

นายพรเทพ เหม็งประมูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอำนาจเจริญ แจ้งว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2556 สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในจังหวัดอำนาจเจริญ มีปริมาณน้ำในอ่างทั้งหมด 36.319 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 96.11 ของความจุอ่าง ขนาดกลางในจังหวัดอำนาจเจริญทั้งหมด ปริมาณน้ำที่ใช้ 34.366 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 90.94 ของความจุอ่าง มากกว่าปี 2555 จำนวน 21.643 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 57.27 ของความจุอ่าง โดยมีรายละเอียดแต่ละอ่าง ดังนี้ อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ร้อยละ100.00 อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์ ร้อยละ 100.01 อ่างเก็บน้ำร่องน้ำซับ ร้อยละ 99.58 อ่างเก็บน้ำห้วยสีโท ร้อยละ 86.13 ฝายลำเซบาย ร้อยละ 102.28 ส่วนลำน้ำธรรมชาติ มีดังนี้ ลำน้ำโขง ณ อำเภอชานุมาน ระดับน้ำ 4.04 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 8.96 เมตร ปกติ) ลำน้ำเซบาย ณ ฝายลำเซบาย ระดับน้ำ 9.10 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.90 เมตร (มาก) ลำน้ำเซบก ณ อำเภอลืออำนาจ ระดับน้ำ 4.00 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.00 เมตร (มาก) ทั้งนี้ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอำนาจเจริญ ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรและประชาชนทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างคุ้มค่าและประหยัด เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำมีน้อย และขอให้เก็บน้ำสำรองไว้ในสระเก็บน้ำใน ไร่นา อ่างเก็บน้ำ หนอง บึง สาธารณะแก้มลิง หรือแหล่งน้ำอื่นๆไว้ใช้ในฤดูแล้งปีนี้



สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ

ประกาศผลการคัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดอำนาจเจริญ

นางอนงค์ หุตานุกูล ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ตามที่ ป.ป.ช.ได้คัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดอำนาจเจริญนั้น ผลปรากฏว่าผู้ที่ได้รับการสรรหา มีดังนี้ สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษา ได้แก่ นายปราโมย์ อินลี สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย ได้แก่ นายสุวิทย์ สีบุญ สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงานหรือสหภาพแรงงาน ได้แก่ นายประวิทย์ บุญจรัส สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพานิชย์จังหวัด ได้แก่ นายอธิการณ์ หริ่งเจริญ กลุ่มอาสาสมัคร ได้แก่ นายคำแปลง เผ่าศรี องค์กรเอกชน ได้แก่ นางเพ็ญศรี ลูกแก้ว องค์กรเกษตรกร ได้แก่ นายเกษมสันต์ แสงสิงแก้ว สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน ได้แก่ นางสาวโสภาพักตร์ ทิพย์อุตร และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดได้แก่ นางมณี สุระสังข์ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้เสีย สามารถโต้แย้งหรือคัดค้านการคัดเลือกของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมสรรหา ได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ภายใน 14 ตุลาคม 2556 โทร.045 523 253-4



สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ

กอ.รมน.อุบลราชธานี ออกประกาศเรื่องการอุทธรณ์และการมอบเงินช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย

อุบลราชธานี :  ขยายเวลารับคำอุทธรณ์ถึงวันที่ 31 ต.ค.56 และต้องยื่นแบบคำขอด้วยตนเอง ส่วนการจ่ายเงินช่วยเหลือให้จ่ายจังหวัดที่ไม่มีการร้องเรียนเป็นอันดับแรกหากมีการร้องเรียนต้องดำเนินเรื่องให้เรียบร้อยก่อนจึงให้จ่ายเงิน

นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่าคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ได้ออกประกาศเรื่องการอุทธรณ์และการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพแก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งได้ขยายเวลารับแบบคำร้องขออุทธรณ์ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ผู้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต้องเป็นผู้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือในฐานะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ต่อ กอ.รมน.จังหวัด หรือ กอ.รมน.ภาค ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 255 – 15 พฤษภาคม 2556 และไม่ผ่านการพิจารณาซึ่งต้องมีหลักฐานใหม่มาแสดงด้วยและยื่นคำขอด้วยตนเอง ที่ กอ.รมน.ที่ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ ซึ่งคณะอนุกรรมการพิจารณากลาง จะพิจารณาตัดสินผลการอุทธรณ์ ระหว่างวันที่ 1 -15 พฤศจิกายน 2556 จนได้ข้อยุติจึงจะแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบ หากมีการตรวจพบการแสดงข้อมูลเท็จ จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและรายงานให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทราบ

ส่วนการจ่ายเงินช่วยเหลือ จะจ่ายให้แก่ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่ไม่มีการร้องเรียนก่อนเป็นลำดับแรกและในจังหวัดที่มีการร้องเรียนให้ดำเนินการเรื่องร้องเรียนจนได้ข้อยุติจึงจะจ่ายเงินและในการจ่ายเงินให้มีตัวแทนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจังหวัด ลงนามรับรองความพร้อมในการจ่ายเงินช่วยเหลือด้วย พร้อมนี้ให้คณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยความรอบคอบ เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้สามารถมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการเป็นไปด้วยความเป็นธรรม รวดเร็ว ตามนโยบายของรัฐบาล



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 9 ต.ค.56

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำหนดตรวจราชการที่อุบลราชธานี วันที่ 12 ต.ค. 56 นี้

อุบลราชธานี :  นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำหนดตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมอบถุงยังชีพและเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ วัดท่าเมือง ต.ทาเมือง อ.ดอนมดแดง,เปิดการแข่งขันเรือยาวนานาชาติสู่อาเซียน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ตรวจสถานที่ก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.นาตาล และมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ให้ข้าราชการ,ผู้นำหมู่บ้าน ผู้บริหาร อปท. ที่ อ.ตระการพืชผล ในวันที่ 12 ต.ค.56 นี้

นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่านายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกำหนดการ ตรวจราชการในวันที่ 12 ตุลาคม 2556 เวลา 09.00 น. มอบถุงยังชีพและเยี่ยมผู้ประสบภัยที่วัดท่าเมือง ต.ท่าเมือง อ.ดอนมดแดง จากนั้นเวลา 10.30 น. เป็นประธานเปิดการแข่งขันเรือยาวนานาชาติสู่อาเซียน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ลำน้ำโขง อ.เขมราฐ และเวลา 11.40 น. ตรวจสถานที่ก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งใหม่ ที่บ้านหินโหง่น ต.พะลาน อ.นาตาล และในเวลา 14.30 น. มอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้แก่ข้าราชการ,ผู้นำหมู่บ้าน ผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เทศบาลตำบลตระการพืชผล อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ก่อนเดินทางกลับ



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 9 ต.ค.56

สนง.สาขาชั่งตวงวัดเขต 2-4 อุบลราชธานี เตือนระวังพ่อค้าเร่ซื้อยางพาราให้ราคาสูงและโกงตาชั่ง โดยใช้รีโมทบังคับ

อุบลราชธานี : เตือนเจ้าของสวนยางพารา ระวังถูกพ่อค้าเร่ซื้อยางพาราในราคาสูงกว่าท้องตลาดโกงตาชั่ง โดยใช้รีโมทบังคับและมีผู้ถูกจับได้แล้วที่ระยองและจันทบุรี

นายสุเมธ วงษ์กระสัน หัวหน้าสำนักงานสาขาชั่ง ตวง วัดเขต 2-4 อุบลราชธานี เปิดเผยว่าในขณะนี้มีพ่อค้าเร่ ออกรับซื้อยางพารากับเกษตรกรตามบ้านหรือตามสวนยางพารา โดยใช้เครื่องชั่ง ที่ไม่ถูกต้อง มีการแก้ไขดัดแปลงให้อ่านค่าน้ำหนักได้น้อยกว่าความเป็นจริง ซึ่งพฤติกรรมที่พบเช่น ให้ราคายางพาราที่สูงกว่าราคาตลาด จะไม่ยอมซื้อยางพาราที่ชั่งไว้แล้วหรือใช้เครื่องชั่งของเกษตรกร และขณะที่กำลังชั่งมักจะพยายามเคลื่อนย้ายเครื่องชั่งโดยการยกเครื่องชั่งให้เทเอียง เพื่อให้กลไกที่ดัดแปลงไว้ทำงาน ทำให้อ่านค่าน้ำหนักผิดไปจากมาตรฐาน บางเครื่องอาจใช้รีโมท คอนโทรล บังคับกลไกที่ดัดแปลงไว้ หากถูกจับได้ว่ามีการเอาเปรียบหรือมีพฤติกรรมที่สงสัยมักจะหาเรื่องเลิกซื้อกลางคันหรือทะเลาะกับผู้ขาย

ดังนั้นในการตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่ง จึงควรวางเครื่องชั่งให้ราบกับพื้น ก่อนชั่งเข็มเครื่องชั่งต้องอยู่ที่เลข 0 อีกทั้งสภาพเครื่องชั่งต้องเรียบร้อย รอยรูปขอบนอกของครุฑที่ประทับไว้ที่ฝาประกับด้านข้างต้องไม่ถูกทำลายและให้ทดลองทดสอบน้ำหนักโดยชั่งสิ่งของที่ทราบน้ำหนักแล้ว เช่นปุ๋ย ปูนซีเมนต์ ก่อนที่จะขายของให้ผู้รับซื้อและในการชั่งทุกครั้งต้องจดบันทึกน้ำหนักไว้เองทุกครั้งเพื่อเปรียบเทียบกับของผู้ซื้อ หากเกษตรกรมีข้อสงสัยหรือพบเห็นการเอาเปรียบหรือมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางไม่สุจริตขอให้แจ้งไปที่สำนักงานสาขาชั่งตวง วัด เขต 2-4 อุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข 045 – 246 - 109 หรือ 089 - 280 – 2404 ได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้วที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดระยอง



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 9 ต.ค.56

เลขาธิการคุรุสภาจัดประกวดข้อเขียน คำขวัญวันครู และบทร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู ในงานวันครู 2557

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จัดการประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู คำขวัญวันครู และบทร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู เนื่องในโอกาสวันครู พ.ศ.2557 ชิงเงินรางวัล โดยผู้สนใจสามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากนายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา ว่า ด้วยคุรุสภา โดยคณะอนุกรรมการจัดงานวันครู พ.ศ.2557 จัดให้มีการประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู คำขวัญวันครู และบทร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู เนื่องในโอกาสวันครู พ.ศ.2557 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูของแผ่นดิน” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างครูกับประชาชน โดยร่วมกันระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อครู รวมทั้งการยกย่องเชิดชูเกียรติครู
ซึ่งการประกวดแบ่งออกเป็นดังนี้

1.การประกวดคำขวัญวันครู คุณสมบัติของผู้เข้าประกวดเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไป โดยคำขวัญเป็นคำคล้องจอง ไม่เกิน 16 พยางค์ และมีคำว่า "ครู” ปรากฏอยู่ด้วย ส่งได้คนละไม่เกิน 1 สำนวน

2. การประกวดร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู ในหัวข้อ "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูของแผ่นดิน” แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ประชาชนและนิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ปวส. บทร้อยกรอง วสันตดิลกฉันท์ 14 จำนวนหกบท , ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย ปวช. และมัธยมศึกษาตอนต้น บทร้อยกรอง กลอนสุภาพ จำนวน หกบท และประเภทประถมศึกษาปีที่ 4-6 บทร้อยกรอง กาพย์ยานี 11 จำนวนหกบท

3. การประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู เนื่องในโอกาสวันครู พ.ศ.2557 คุณสมบัติผู้ส่งเข้าประกวดบุคคลทั่วไป ลักษณะข้อเขียนเป็นร้อยแก้วที่แสดงความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู มิใช่เรียงความหรือบทความ โดยกำหนดชื่อข้อเขียน และเขียนด้วยลายมือความยาวไม่น้อยกว่าครึ่งหน้ากระดาษ แต่ไม่เกินหนึ่งหน้ากระดาษ A4

โดยสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ที่กลุ่มยกย่องวิชาชีพ สำนักยกย่องเชิดชูเกียรติวิชาชีพ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เลขที่ 128/1 ถนนนครราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพน 10300 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โทรศัพท์ 02-2814843 หรือที่ www.ksp.or.th



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ขอเชิญร่วมชมให้กำลังใจวงดนตรีลูกทุ่งโรงเรียนกมลาไสย

นายธนูสินธุ์ ไชยสิริ นายอำเภอกมลาไสย เปิดเผยว่า ด้วยโรงเรียนกมลาไสย อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าร่วมการแข่งขันวงดนตรีลูกทุ่งรายการ "ชิงช้าสวรรค์คอนเทสท์” ของบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ โดยได้ทำการประกวดรอบแรกเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2556 พบกับโรงเรียนศรีสวัสดิ์พิทยาคม จังหวัดกาญจนบุรี ผลปรากฏว่าวงดนตรีลูกทุ่งโรงเรียนกมลาไสยสามารถพิชิตใจคณะกรรมการชนะผ่านรอบแรกไปได้ ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี จะนำเทปมาออกอากาศในวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 16.30-18.00 น. จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมชมรายการดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับลูกหลานชาวอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

ผลการคัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรืองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์

นายจำเนียร มูลสาร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ประกาศผลการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ดังนี้ สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษาผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายนวรัตน์ บุญเรือง สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายชาติชาย จงสมชัย สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงานผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายขันติ ภักดีสุวรรณ สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัดผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายชนินทร์ สังข์วิเศษ กลุ่มอาสาสมัครผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายไสว ภูวานคำ องค์กรเอกชนผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายชาญยุทธ โคตะนนท์ องค์กรเกษตรผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายสุรชัย อาษาราช สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชนผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดผู้ได้รับการคัดเลือกคือ นางสาวพัชราภรณ์ สิริวรเวชยางกูล

ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งอีกว่า ผู้มีส่วนได้เสียผู้ใด ประสงค์จะโต้แย้งหรือคัดค้านการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ สามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองตามแบบ ป.ป.จ.18 ต่อผู้อำนวยการสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ภายใน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม – 14 ตุลาคม 2556 นี้



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

คู่เสี่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด ปี 2556

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า เทศกาลไหมและประเพณีผูกเสี่ยวสืบเนื่องมาจากประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการทำนา คือการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าต่างๆ ซึ่งทางราชการให้การสนับสนุนจังหวัดขอนแก่นเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมที่มีชื่อเสียงประกอบกับประเพณีผูกเสี่ยวซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมเดิมของภาคอีสานให้คนรุ่นเดียวกันรักใคร่เป็นพี่เป็นน้องช่วยเหลือกันเรียกว่าคู่เสี่ยว ประเพณีผูกเสี่ยว คำว่าเสี่ยว หมายถึงเพื่อนรัก เพื่อนสนิท ที่เกื้อกูลและอาทรต่อกันร่วมทุกข์ร่วมสุข เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เหมือนญาติสนิท บางทีเรียกว่า เพื่อนตาย

นางเกศินี สวัสดี วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดขอนแก่นได้กำหนดจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในปีนี้เป็นปีแรกที่จังหวัดขอนแก่นมีการพัฒนาและยกระดับงานไหมฯไปสู่ระดับนานาชาติ โดยร่วมกับสำนักงานคณะอนุกรรมการภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชิญชาติสมาชิกประกอบด้วยกัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม แต่ยังคงอนุรักษ์ประเพณีผูกเสี่ยวที่อยู่คู่กับชาวภาคอีสาน และชาวจังหวัดขอนแก่นให้คงอยู่สืบไป ซึ่งในปีนี้จังหวัดขอนแก่นได้มีการค้นหาคู่เสี่ยวในงานเทศกาลไหม และประเพณีผูกเสี่ยวในปีที่ผ่านๆ มา ที่ได้มาผูกเสี่ยว (เป็นเพื่อกัน) และเชิดชูในงานผูกเสี่ยวปีนี้ สำหรับคู่เสี่ยวกิตติมศักดิ์ที่ทางจังหวัดขอนแก่น คือคู่เสี่ยวของ นายเหงียน ฮิว ดิ้น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น กับ ด.ต.พิชิต ศรีวิไล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขตอำเภอภูเวียง และคู่เสี่ยวของ นายสินใจ มานีวัน รองกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำจังหวัดขอนแก่น คู่เสี่ยวกับ นายวิรัติ นรคนชม ผู้อำนวยการกองช่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น

จึงเชิญชวนชาวอีสานร่วมใจผูกเสี่ยวเพื่อสร้างสัมพันธภาพแห่งความรัก ความผูกพันสืบทอดมรดกวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสานและปีนี้มีคู่เสี่ยวต่างประเทศ ด้วยในเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2556



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

ผู้ว่าฯขอนแก่นเตือนประชาชนสองฝั่งน้ำชีระวังน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนพร้อมเร่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านหลังมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นแจ้งเตือนประชาชน 2 ฝั่งลำน้ำชีในเขตอำเภอแวงน้อย แวงใหญ่ มัญจา ชนบท บ้านไผ่ บ้านแฮดและอำเภอเมืองให้ระวังน้ำชีเอ่อท่วมบ้านเรือนและไร่นาให้ขนย้ายสิ่งของจำเป็นไว้ที่สูงตอนนี้น้ำเข้าท่วมในเขต อำเภอแวงน้อย แวงใหญ่ ชนบทแล้วหลายหมู่บ้านต้องใช้เรือในการสัญจรแล้วโดยขณะนี้ได้สั่งการให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไปสำรวจและเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้วตอนนี้ส่งเรือท้องแบนไปช่วยชาวบ้านแล้ว 13 ลำ สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดขอนแก่นข้อมูล ณ วันที่ 9 ต.ค.2556 มีอำเภอที่ได้รับน้ำท่วม 8 อำเภอ มีสีชมพุ ภูผาม่าน ชุมแพ แวงใหญ่ แวงน้อย โคกโพธิ์ไชย มัญจาคีรี ชนบท จำนวน 31 ตำบล 157 หมู่บ้าน 8,128 ครัวเรือน ผู้ประสบภัย 24,296 คนมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่อำเภอแวงใหญ่ ไร่นาการเกษตรตอนนี้ยังอยู่ระหว่างสำรวจ ส่วนที่สำรวจเสร็จไปแล้วมีจำนวนกว่า 4 หมื่นไรอำเภอมัญจาคีรีเสียหายหนัก 3 หมื่นกว่าไร่ มีพืชไร่ บ่อปลา ถนนขาดหลายสาย สำรวจเสร็จแล้วที่อำเภอสีชมพูและมัญจาคีรีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 10 ล้านบาท สำหรับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณที่ 76 %ของความจุอ่างตอนนี้ปล่อยน้ำออกที่ 19 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน



ข้อมูล ณ 9 ต.ค. 2556

ผู้ว่าฯ ขอนแก่น มอบเงินกู้ยืมกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ผู้พิการ 142 ราย เป็นเงินกวา 5 ล้านบาท เพื่อไปประกอบอาชีพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบเงินกู้ยืมกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้ผู้พิการ 142 ราย เป็นเงิน 5,438,939 บาท เพื่อนำไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว

เช้าวันนี้ (9 ตุลาคม 2556) ที่ศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้เป็นประธานมอบเงินกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ผู้พิการในจังหวัดขอนแก่น จำนวน 142 คน รวมเป็นเงิน 5,438,939 บาท เพื่อให้ผู้พิการไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว

นายสาย เตรียมไธสงค์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่น โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น ในฐานะเลขานุการได้นำเสนอคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดขอนแก่น ได้พิจารณาให้คนพิการในเขตพื้นที่จังหวัด กู้ยืมเงินกองทุน มาตั้งแต่ปี 2539 รวมถึงครั้งนี้ด้วย ได้รับอนุมัติจำนวน 1,675 คน เป็นเงิน 44,936,006 บาท โดยสามารถกู้ได้ในวงเงินไม่เกินคนละ 40,000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย สำหรับการกู้ยืมในครั้งนี้มีคนพิการขอกู้ยืมและได้รับอนุมัติจำนวน 142 คน เป็นเงิน 5,438,939 บาท แบ่งเป็นกลุ่มอาชีพ ดังนี้ 1. เพื่อทำการเกษตร จำนวน 77 คน เป็นเงิน 2,830,000 บาท 2. เพื่อลงทุนค้าขาย,ขายสลาก แบ่งรัฐบาล จำนวน 29 คน เป็นเงิน 1,109,600 บาท 3. เพื่อซื้ออุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ จำนวน 28 คน เป็นเงิน 1,209,339 บาท 4. เสริมสวยและนวดแผนไทย จำนวน 5 คน เป็นเงิน 180.000 บาท 5. เพื่อทำธุรกิจซื้อของเก่า จำนวน 3 ราย เป็นเงิน 110,000 บาท สำหรับคนพิการที่กู้เงินจากกองทุนไปแล้วสามารถส่งใช้เงินเป็นงวด ๆ ตามสัญญาภายใน 5 ปี ซึ่งสามารถส่งได้ด้วยตนเองที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น นาณัติ ธนาคารและร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขาทั่วประเทศที่เซเว่นอีเลฟเว่น



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/อารมย์
พิมพ์/9 ต.ค.56

เผย 2 คู่เสี่ยวกงศุลใหญ่เวียดนาม และรองกงศุลลาวประจำจังหวัดขอนแก่น จากงานไหมและประเพณีผูกเสี่ยว ที่ยังคงติดต่อสื่อสารกันจนปัจจุบัน

เผย 2 คู่เสี่ยว กงศุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดตาม และรองกุงศุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็น ส.อบจ.เขตภูเวียง และผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.ขอนแก่น ที่ยังคงติดต่อสื่อสารเป็นเสี่ยว (เพื่อน) กันมาจนปัจจุบัน

นางเกศินี สวัสดี วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดขอนแก่นได้กำหนดจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในปีนี้เป็นปีแรกที่จังหวัดขอนแก่นมีการพัฒนาและยกระดับงานไหมฯ ไปสู่ระดับนานาชาติ โดยร่วมกับสำนักงานคณะอนุกรรมการภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชิญชาติสมาชิกประกอบด้วยกัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม มาร่วมประชุมสัมมนาวิชาการ ตกลงเจรจาธุรกิจผ้าไหม การแสดงและจำหน่วยสินค้า และผ้าไหมจาก 6 ประเทศ การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากจีน ลาว เวียดนาม และไทย แต่ยังคงอนุรักษ์ประเพณีผูกเสี่ยวที่อยู่คู่กับชาวภาคอีสาน และชาวจังหวัดขอนแก่นให้คงอยู่สืบไป ซึ่งในปีนี้จังหวัดขอนแก่นได้มีการค้นหาคู่เสี่ยวในงานเทศกาลไหม และประเพณีผูกเสี่ยวในปีที่ผ่านๆ มา ที่ได้มาผูกเสี่ยว (เป็นเพื่อนกัน) และยังคงมีการติดต่อสื่อสารจนถึงปัจจุบัน มาเผยแพร่และเชิดชูในงานผูกเสี่ยวปีนี้

วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับคู่เสี่ยวกิตติมศักดิ์ที่ทางจังหวัดขอนแก่น ได้ไปค้นหาและยังคงมีการติดต่อกันอยู่คือคู่เสี่ยวของ นายเหงียน ฮิว ดิ้น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น กับ ด.ต.พิชิต ศรีวิไล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขตอำเภอภูเวียง และคู่เสี่ยวของ นายสินใจ มานีวัน รองกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำจังหวัดขอนแก่น คู่เสี่ยวกับ นายวิรัติ นรคนชม ผู้อำนวยการกองช่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/อารมย์
พิมพ์/9 ต.ค.56

บริษัทผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่นจัดประชุมการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตกระดาษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชน

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้เป็นประธานกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมสัมมนา ไฟร์บัส พลัพ เทคโนโลยี เดย์ 2013 ( Fibrous (Pulp) Technology Day 2013  ) ซึ่งทางบริษัท SCG เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่นร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดขึ้นที่โรงแรมพูลแมนขอนแก่น การจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อนำเสนอผลงานของบริษัทที่ร่วมมือกับทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้กับคู่ค้าที่มาดูงานจากทั่วโลกทั้งในเอเซีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา อเมริกาใต้ โดยเลือกจังหวัดขอนแก่นเป็นสถานที่จัดสัมมนาเพราะมีความพร้อมรองรับการเป็นเมืองแห่งการประชุมสัมมนาและเป็นที่ตั้งของบริษัทผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ของอาเซียนซึ่งทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้เข้ามาดำเนินงานการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆให้กับทางบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่สอดคล้องกับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งเรื่องพลังงาน วัสดุ และสิ่งแวดล้อม โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาจะเน้นด้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต รวมทั้งการเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัยให้เป็นสินค้าและบริการ สู่ผู้บริโภคที่มีความสมดุลย์กันทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้จัด 2 วันวันแรกเป็นการนำเสนอให้ความรู้กับผู้ร่วมสัมนา วันที่ 2 จะนำผู้ร่วมสัมมนาดูงานการพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัท ฟินิคซ พลัพ แอนด์ เพเพอร์จำกัด (มหาชน)บริษัทในเครือ เอสซีจี เปเปอร์ ที่อำเภอน้ำพอง

ขอนแก่นจัดกิจกรรมเรารักขอนแก่น

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานกิจกรรมเรารักขอนแก่นซึ่งสัปดาห์ทางหน่วยงานจากสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 สำนักงาน ปภ.จังหวัด หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ โดยจัดที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล อำเภอเมืองขอนแก่นซึ่งสัปดาห์นี้มีหัวหน้าส่วนราชการย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ที่ขอนแก่นหลายคนมีการแนะนำตัว ไม่ว่าผู้บัญชาการตำรวจภาค 4  รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 รวมทั้งมีการเชิญชวนชาวขอนแก่นร่วมต้อนรับการประชุมเหล่ากาชาดภาค 6 ที่จะมาประชุมที่ขอนแก่นในช่วงวันที่ 25 -27 ตุลาคมนี้และในกิจกรรมเรารักขอนแก่นครั้งต่อไปหน่วยงานกระทรวงศึกษาจะเป็นเจ้าภาพจัดที่โรงเรียนสองภาษา มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายอำเภอเขาสวนกวางสนธิกำลังบุกภูเก้าภูพานคำ ในรอบ 2-3 เดือนถูกลักลอบตัดไม้จำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพันธุ์เทพ สาโกศล นายอำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พร้อมอาสาสมัครฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ขก. 4 (ภูพานคำ) กว่า 50 คน เข้าตรวจยึดไม้พะยูงกว่า 100 ต้น บริเวณเทือกเขาภูเก้า-ภูพานคำ ช่วงทางขึ้นบ้านดงเย็น ต.โนนสมบูรณ์ หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มนายทุนว่าจ้างให้ชาวบ้านขึ้นเขาไปตัดไม้แล้วลำเลียงลงมาจากเขา แต่เมื่อถึงกลุ่มมอดไม้หลบหนีไปได้ พบเพียงรอยชักลากไม้ รถจักรยานยนต์วิบาก รอยรถอีแต๋น อยู่บริเวณตีนเขา ตรวจสอบบนเขาพบไม้พะยูงที่ถูกตัดเหลือแต่ปลายไม้กว่า 100 ต้น บางต้นมีขนาดเล็ก ถูกโค่นเพื่อดูว่าแก่นเนื้อไม้มีหรือไม่อีกหลายสิบต้น ส่วนลำต้นได้ถูกลำเลียงลงจากเขาไปได้ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ชักลากไม้ส่วนที่เหลือลงจากเขาเ พื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน นายพันธุ์เทพ กล่าวว่า ภูเก้า-ภูพานคำ เป็นเทือกเขาที่ทอดยาวกว่า 10 กิโลเมตร อยู่ในรอยต่ออ.เขาสวนกวาง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู อ.หนองแสง จ.อุดรธานี มีพื้นที่กว่า 2,500 ตารางกิโลเมตร บนสันเขาจะมีไม้พะยูงจำนวนมาก แต่ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการลักลอบตัดไม้พะยูงออกไปจำนวนมากอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 2 คันรถกระบะ คิดเป็นมูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งกลุ่มนายทุนที่ว่าจ้างให้ชาวบ้านขึ้นไปตัด จะทำเป็นขบวนการ โดยมีนายหน้ามาว่าจ้างให้ชาวบ้านออกไปสำรวจต้นพะยูงก่อน ว่ามีต้นเล็กต้นใหญ่อยู่ตรงไหน และสามารถที่จะลำเลียงหลบสายตาของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และลำเลียงลงจากเขาออกมาเส้นทางใดได้บ้าง จากนั้นจะมีชาวบ้านอีกชุดเข้าไปตัดไม้ คัดเอาเฉพาะเนื้อไม้ที่มีแก่น ก่อนที่จะชักลากลงมา แล้วใช้รถอีแต๋นขนออกมายังรถยนต์ที่มารับช่วงต่อบนเส้นทางที่สะดวก ซึ่งรถส่วนใหญ่จะเป็นรถตู้ หรือรถหรู รุ่นใหม่ โดยไม้พะยูงเหล่านี้มีตลาดปลายทางต่างประเทศ


ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสพภัยน้ำท่วม อ.จัตุรัส

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2556 ที่วัดบ้านทุ่งเสมียนตรา ตำบลบ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ นายชัชวาล ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภาค 3 นครราชสีมา พร้อมด้วยนายมนตรี ชาลีเครือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบถุงยังชีพ 500 ชุด แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม 12 หมู่บ้าน ในตำบลบ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ซึ่งได้รับผลกระทบน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ลำคันฉู อ.บำเหน็จณรงค์ ล้นทางระบายน้ำฉุกเฉิน ไหลลงมาท่วมพื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัย และถนนระหว่างหมู่บ้าน นานเกือบ 1 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ดังนั้นเพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ชาวบ้านหลังน้ำลด ทาง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังจัดยาสามัญประจำบ้าน และน้ำดื่ม มามอบแก่ผู้ประสบภัยด้วย นอกจากนี้ยังร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพบำเหน็จณรงค์ ปล่อยขบวน ชุดตรวจสอบ และซ่อมบำรุง ระบบไฟฟ้าในครัวเรือน ทุกหลังคาเรือนอีกด้วย



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ผู้แทนพระองค์มอบถุงยังชีพพระราชทานชาวอำเภอบ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 กันยายน 2556 นายบุญเชิด กันภัย ผู้แทนพระองค์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิตติคุณ นำถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบให้ประชาชน ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในเขตตำบลบ้านเหลื่อม และตำบลช่อระกา อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา จำนวน 500 ถุง ประกอบด้วยบ้านโต้น หมู่ 3 , บ้านดอนเปล้า หมู่ 6, บ้านโนนประดู่ ต.บ้านเหลื่อม และบ้านขามเวียน ต.ช่อระกา ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากภาวะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ตั้งแต่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้น้ำจากพื้นที่ต่างๆ ทั้งน้ำจากอำเภอคง จ.นครราชสีมา และน้ำชี จากจังหวัดชัยภูมิ ไหลเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ รวม 3 ตำบล 22 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 675 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 7,625 ไร่ บ่อปลา บ่อกุ้ง 153 บ่อ และมีผู้เสียชีวิต 1 คน

โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดกับลำน้ำชี และบึงละหานลูกนก ประสบปัญหาหนักกว่าทุกหมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำยังท่วมท่วมสูง ถนนเชื่อมหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ บ่อปลา บ่อกุ้ง ถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์นำถุงยังชีพพระราชทานช่วยราษฎรประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา สร้างความปีติยินดีแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

วันนี้ (9 ต.ค. 56) เวลา 11.00 น. นายพร อุดมพงษ์ รองประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายประสงค์ พิฑูรกิจจา เลขามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และนายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ นำถุงยังชีพพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1,000 ชุด ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 500 ชุด และที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 500 ชุด รวม 2,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัย สร้างความปีติยินดีแก่ประชาชนที่ได้รับถุงยังชีพพระราชทาน เป็นอย่างยิ่งโดยมีนายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์จังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมรับถุงยังชีพพระราชทาน 

บุรีรัมย์จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ

จังหวัดบุรีรัมย์ บูรณาการหน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ รับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชน นำมาวิเคราะห์แก้ไขปัญหาน้ำท่วม/น้ำแล้งในพื้นที่อย่างเป็นระบบ

(๘ ตุลาคม ๒๕๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่โรงแรมเทพนคร อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ โดยความร่วมมือของส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการรับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม/น้ำแล้งอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับแผนระดับพื้นที่และระดับชาติ ซึ่งพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประสบปัญหาน้ำท่วมจากสภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมายังเป็นลักษณะแยกส่วน ขาดการบูรณาการ ทำให้บางโครงการเกิดความซ้ำซ้อน ไม่สอดคล้องและเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ จึงได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลทรัพยากรน้ำที่อยู่ และสภาพปัญหา รวมทั้งการใช้ประโยชน์ที่ดิน สภาพภูมิประเทศ และข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและตรงตามความต้องการประชาชนต่อไป



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

เกษตรจังหวัดบึงกาฬ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราตกต่ำ เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล

นายทรงพันธ์ จันทร์สว่าง เกษตรจังหวัดบึงกาฬ แจ้งว่า ในขณะนี้ ได้เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราตกต่ำ โดยดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๔ ก.ย. ๕๖ มีผู้มาขึ้นทะเบียนเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนด ถึง ๑๒๒ %

สำหรับเกษตรกรที่ปลูกยางพาราในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ที่ขึ้นทะเบียนไว้ เมื่อปี ๒๕๕๒ มีจำนวน ๓๔,๑๒๒ ครัวเรือน ในขณะนี้มาขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน ๔๑,๘๓๒ ครัวเรือน ซึ่งคิดเป็น ๑๒๒ % โดยแยกเป็นครัวเรือนที่สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างถูกต้อง จำนวน ๕๘ % อยู่ระหว่างปรับปรุงรอการบันทึก ๑๓ % และไม่สามารถบันทึกได้ ๑๙ % สำหรับครัวเรือนที่ไม่สามารถบันทึกได้ เนื่องจาก ที่ดินที่เป็น สปก.เปลี่ยนมือ และเอกสารสิทธิ์ไม่ตรงกับ หัวหน้าครัวเรือน และสมาชิกในครับเรือน ใช้เอกสารสิทธิ์ซ้ำซ้อน กับการปลูกข้าว ซึ่งในขณะนี้ได้ขยายเวลาการขึ้นทะเบียนไปจนถึงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ หลังจากที่เคยกำหนดไว้ว่าสิ้นสุดการขึ้นทะเบียนในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖

เกษตรจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราเรียบร้อยแล้ว ก็เร่งดำเนินการตรวจสอบแปลงปลูกยางพารา ให้ถูกต้องตามเงื่อนไขที่รัฐบาลได้กำหนด และภายในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เกษตรกรชาวสวนยางพาราน่าจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ไร่ละ ๒,๕๒๐ บาท/ไร่ แต่ไม่เกิน ๒๕ ไร่/ครัวเรือน อย่างแน่นอน



ข่าว/ส.ปชส.บึงกาฬ

จังหวัดนครพนมพร้อมจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด (สวท.นครพนม)

จังหวัดนครพนมพร้อมจัดงานประเพณีไหลเรือไฟ และงานกาชาด  เน้นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีและความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  จังหวัดนครพนมพร้อมจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด  โดยเริ่มการทำความสะอาดบ้านเรือนให้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย  ซึ่งวันที่ 19 ตุลาคม 2556 เป็นวันไหลเรือไฟ  ซึ่งเรือไฟทำจากไม้ไผ่  ตะเกียง ประดิษฐ์เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ  มีการประกวดเรือไฟประเภทสวยงามและสร้างสรรค์  แนวคิดในการสร้างเรือเน้นเรื่องการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัดนครพนมและท้องถิ่นไทย-ลาว  โดยจังหวัดนครพนมได้เตรียมการรองรับท่องเที่ยวด้วยการสร้างอัฒจันทน์ริมฝั่งแม่น้ำโขงให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมได้อย่างใกล้ชิด  และต่อเติมลานจัดงานขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น  สำหรับสถานที่จอดรถสามารถจอดได้ในสถานที่ราชการ  สถานีตำรวจ  หน่วยงานบ้านพักของข้าราชการบริเวณต่างๆ  โดยมีรถรับส่งให้นักท่องเที่ยว   ซึ่งก่อนเริ่มงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจะทำการกวาดล้างอาชญากรรมโดยมีตำรวจชุดนอกเครื่องแบบ  ระดมการกวาดล้างก่อนงาน  สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว

ยโสธรเลือกตั้งสมาชิก อบต. และนายก อบต. 43 แห่ง

นายนเรศ สุวรรณกูฎ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธรจะมีการเลือกตั้งสมาชิก อบต. และนายก อบต. ที่ครบวาระ จำนวน 43 แห่ง ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 รวมมีผู้สมัครนายก อบต. จำนวน 87 คน ผู้สมัครสมาชิก อบต. จำนวน 1,637 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะสามารถเลือกนายก อบต. ได้ 1 หมายเลข และเลือกสมาชิก
อบต. ได้ 2 หมายเลข

ขอเชิญผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งในหมู่บ้านของท่าน ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 เวลา 08.00 - 15.00 น. เลือกคนดี มีฝีมือ มาพัฒนาท้องถิ่นของท่าน



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์
9 ตุลาคม 2556

ต่อใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประจำปี พ.ศ.2557

สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ ขอให้ผู้ประกอบการ ต่อใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี

สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ยโสธร จึงประกาศให้ผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประจำปี พ.ศ.2557 ไปติดต่อขอใบอนุญาต ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาแห่งท้องที่ที่สถานประกบการค้าตั้งอยู่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2556 ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.30 น. โดยไม่หยุดพักเที่ยง ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.045-712721



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 9 ต.ค.56

อด.ประชุมทบทวนแผนพัฒนาจังหวัด 4 ปี

ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ศาลากลางจัหวัดอุดรธานี สำนักงานจังหวัดอุดรธานี จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นแผนพัฒนาจังหวัดอุดรธานี 4 ปี ( พ.ศ.2558-2561 ) เพื่อทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดอีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล เกษตรโซนนิ่ง และแผนบริหารจัดการน้ำ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 78(2) กำหนดให้รัฐต้องจัดระบบการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นให้มีขอบเขตอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ชัดเจนเหมาะสม แก่การพัฒนาประเทศและสนับสนุนให้จังหวัดมีแผนและงบประมาณ เพื่อพัฒนาจังหวัด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุดรธานีได้มีการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด 4 ปี ( 2557-25560 ) ไปแล้ว

และเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 นายกรัฐมนตรีได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวน และจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลและได้มอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทบทวนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ใน 4 มิติ อาทิ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง การลดความเหลื่อมล้ำ การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การบริหารราชการแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล เกษตรโซนนิ่งและแผนบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งให้จัดทำดัชนีตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดให้สอดคล้องกัน ซึ่งจังหวัดอุดรธานี ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดและกำหนดตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ผลการประชุมนำมาซึ่งการกำหนดวิสัยทัศน์จังหวัด คือ เป็นศูนย์กลางภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์หลัก การสร้างความเข้มแข็งในสังคม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม และเทคโนโลยี การพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรให้ได้มาตรฐานในรูปแบบเกษตรกรปลอดภัย การพัฒนาศักยภาพการค้าการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาการท่องเที่ยว การบริการ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับการบริหารราชการภาครัฐ รวมทั้งการจัดทำแผนงานโครงการเพื่อรองรับยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้บรรลุเป้าหมาย  



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ ภาพ

เหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ อ.นาเยีย

อุบลราชธานี : นำถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค จำนวน 1,970. ชุด มอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.นาเยีย ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 3 ตำบล 25 หมู่บ้าน ราษฎรกว่า 3,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย กว่า 4,000 ไร่

วันนี้ (9 ต.ค. 56) นางมัณฑะนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยคณะเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี และ เจ้าหน้าที่ สถานีกาชาดที่ 7 อุบลราชธานี นำถุงยังชีพมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอนาเยีย ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี องค์การบริหารส่วนตำบลนาจาน อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 770 ชุด ซึ่งราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากน้ำในลำน้ำโดมไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน จากนั้น ทางคณะได้เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้กับผู้เดือดร้อนที่ตลาดเทศบาลตำบลนาเยีย จำนวน 500 ชุด และ ที่เทศบาลตำบลนาเรือง 770 ชุด รวมทั้ง สิ้น จำนวน 1,970 ชุด โดยมี นายคำรบ เครือณรงค์ นายอำเภอนาเยีย และ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชนให้การต้อนรับ

นายคำรบ เครือณรงค์ นายอำเภอนาเยีย กล่าวว่า สำหรับอำเภอนาเยียได้รับผลกระทบจากน้ำในลำน้ำโดมไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 18-19 กันยายน 256 ที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 35 หมู่บ้าน กว่า 3,000 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเช่น นาข้าว มันสำปะหลัง และสวนยางพารา เสียหายกว่า 40,000 ไร่, บ่อปลา 600 บ่อ ถนนได้รับความเสียหาย 20 สาย สะพาน 1 แห่ง และ สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ของอำเภอนาเยียในปัจจุบันนี้ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งทางอำเภอ จะได้ประสานไปยังองค์กรครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน ให้สำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตร เพื่อนำข้อมูลมาเสนอต่อรัฐบาล เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือ และเยียวยาต่อไป



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 9 ต.ค.56 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานถุงยังชีพสงเคราะห์ผู้ประสบอุทกภัย ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี จำนวน 228 ถุง

อุบลราชธานี : ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รองสมุหราชองค์รักษ์ นำถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 288 ชุดมอบให้กับผู้เดือดร้อนในพื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี

วันนี้ ( วันที่ 9 ต.ค. 56 ) ที่อาคารป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุบลราชธานี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกเจษฎา ศรีสุภาพ รองสมุหราชองครักษ์ นำถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 288 ถุง มอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี โดยมีนายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีพร้อมด้วยนางมัณฑะนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมในพิธีมอบถุงยังชีพด้วย ซึ่งพื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำในแม่น้ำมูลที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน จำนวน 20 ชุมชน มีราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 1,984 ครัวเรือน ประชากร 7,612 คน มีราษฎรอพยพแล้วจำนวน 440 ครัวเรือน 1,320 คน

ในการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น เทศบาลนครอุบลราชธานี ได้จัดตั้งศูนย์อพยพชั่วคราว ให้กับผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 24 แห่ง พร้อมจัดหาเต้นสำหรับเป็นที่พัก ถังน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค จำนวน 41 ถัง ห้องสุขาเคลื่อนที่ จำนวน 15 ตู้ และเรือท้องแบนสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ยังอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้านตนเองและไม่ยอมย้ายออกมาอยู่ยังจุดอพยพ เนื่องจากยังเป็นห่วงทรัพย์สินที่บ้าน อีกจำนวน 60 ลำ ส่วนระดับน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตย วัดระดับเมื่อเช้าวันนี้ ระดับน้ำที่ 8.75 เมตร ลดลงจาดเมื่อวานนี้ 34 เซนติเมตร ซึ่งสำนักงานชลประทานเขต 7 ได้คาดการณ์ว่า จากนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลจะลดระดับลงเรื่อยๆ และคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้




พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 8 ต.ค.56