วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เกษตรกรบุรีรัมย์กว่าร้อยละ 30 เปลี่ยนใจขายข้าวแทนเข้าร่วมโครงการจำนำหวั่นได้เงินล่าช้า

เกษตรกรบุรีรัมย์กว่าร้อยละ 30 เปลี่ยนใจขายข้าวแทนเข้าร่วมโครงการจำนำหวั่นได้เงินล่าช้า เกษตรกรที่บุรีรัมย์กว่าร้อยละ 30 เปลี่ยนใจขายข้าวแทนเข้าร่วมโครงการจำนำหวั่นได้เงินล่าช้า หลังรัฐบาลประกาศยุบสภา แม้จะได้ราคาต่ำ ขณะเกษตรกรหลายรายที่นำใบประทวนไปขึ้นเงินกับ ธกส.นานกว่า 1 เดือนแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน เดือดร้อนไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างเก็บเกี่ยว และใช้จ่ายในครอบครัว ( 12 ธ.ค.56 ) บรรยากาศที่ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรบุรีรัมย์ จำกัด ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ยังมีเกษตรกรจากหลายอำเภอ นำรถบรรทุกข้าวเปลือกมาเข้าคิวรอวันละกว่า 100 ราย แต่ในจำนวนนี้มากกว่าร้อยละ 30 ได้ตัดสินใจขายแทนการเข้าร่วมโครงการรับจำนำ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับเงินล่าช้าไม่ตรงตามกำหนด หลังนายกรัฐมนตรีได้ประกาศยุบสภา ทำให้มีเพียงรัฐบาลรักษาการจึงเกิดความไม่มั่นใจ ถึงแม้ราคาซื้อขายจะต่ำกว่าราคาจำนำ โดยราคาขายตามท้องตลาดอยู่ที่ประมาณตันละไม่เกิน 16,000 บาท ต่างจากราคารับจำนำในโครงการฯอยู่ที่ตันละ 20,000 บาท หรือเพิ่มลดตามเปอร์เซ็นต์ต้นข้าว นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรหลายรายที่นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำแบบใบประทวนตามจุดรับจำนำต่างๆ และได้นำใบประทวนไปขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรหรือสหกรณ์การเกษตรสาขาต่างๆ นานกว่า 1 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับเงิน ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเพราะส่วนใหญ่ต้องนำเงินไปจ่ายค่าจ้างแรงงาน หรือรถเกี่ยวในการเก็บเกี่ยวข้าว หรือใช้จ่ายในครอบครัว จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรโดยเร็วด้วย ด้านนางรุ่งอรุณ เชาวกรกุล ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรบุรีรัมย์ จำกัด กล่าวว่า ช่วงนี้ได้มีเกษตรกรนำรถบรรทุกข้าวมาเข้าคิวรอวันละกว่า 100 ราย แต่ในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 30 ได้เปลี่ยนใจขายแทนการจำนำ อาจเพราะเนื่องจากเกรงจะได้รับเงินล่าช้า อย่างไรก็ตามทางชุมนุมสหกรณ์สามารถรับจำนำหรือรับซื้อได้ไม่เกินวันละ 200 ตัน เพราะมีข้าวของเกษตรกรหลายรายมีความชื้นสูงและข้าวแดงปน จึงได้แนะนำให้เกษตรกรตากข้าวให้แห้งก่อนนำมาขายหรือจำนำ



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

ตายายในบ้านพักคนชราบุรีรัมย์ออกกำลังกายคลายหนาวป้องกันเจ็บป่วย

ตายายในบ้านพักคนชราบุรีรัมย์ออกกำลังกายคลายหนาวป้องกันเจ็บป่วย ตา ยายอายุตั้งแต่ 60 – 90 ปีที่ถูกทอดทิ้ง ที่เข้ามาอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุบ้านบุรีรัมย์ ออกกำลังกายคลายหนาวในช่วงเช้า เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยหลังอากาศหนาวเย็นลงต่อเนื่อง ( 12 ธ.ค.56 ) นางอรภา พุทธจักร ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และตา ยาย อายุตั้งแต่ 60-90 ปี ที่ถูกบุตรหลานทอดทิ้ง ไม่มีผู้เลี้ยงดู และไม่มีที่อยู่อาศัย ที่เข้ามาอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบุรีรัมย์ ได้ออกกำลังกายด้วยท่าทางต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างความอบอุ่นและเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และมีสุขภาพจิตที่ดี ให้มีภูมิต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บที่จะเข้ามาแทรกซ้อน หลังสภาพหนาวเย็นลง นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ยังได้มีการจัดทีมแพทย์ พยาบาล และทีมกายภาพบำบัด ออกมาให้บริการตรวจรักษาสุขภาพ พร้อมแนะนำวิธีดูแลตนเองให้แก่คนชราภายในศูนย์ดังกล่าวอยู่อย่างต่อเนื่องด้วย โดยวันนี้บุรีรัมย์มีอุณหภูมิลดต่ำอยู่ที่ 17 องศาเซลเซียส ช่วงเช้าจะมีหมอกหนาจัดปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ ด้านนางอรภา พุทธจักร ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบุรีรัมย์ ระบุว่า ปัจจุบันมีคนชราอยู่ในความดูแล 102 คน ในช่วงหน้าหนาวผู้สูงอายุจะมีร่างกายอ่อนแอ เสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย บางคนมีโรคประจำตัว ทางศูนย์ฯจึงได้มีการจัดการดูแลสุขภาพ โดยทุกเช้าจะให้คนชราเดิน หรือออกกำลังกายด้วยท่าทางต่างๆ หรือรำไม้พลองตามความถนัด เพื่อให้คนชรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานต่อโรคที่จะเข้ามาแทรกซ้อนในช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็นได้



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

ปศุสัตว์บุรีรัมย์เตรียมระดม จนท.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อยในโคกระบือช่วงหน้าหนาวปูพรมทั้งจังหวัด

ปศุสัตว์บุรีรัมย์เตรียมระดม จนท.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อยในโคกระบือช่วงหน้าหนาวปูพรมทั้งจังหวัด ปศุสัตว์บุรีรัมย์เตือนเกษตรกรระวังโรคคอบวม และปากเท้าเปื่อยระบาดในโค-กระบือ เตรียมระดมเจ้าหน้าที่ออกฉีดวัคซีนปูพรม 100 เปอร์เซ็นต์ทั้งจังหวัด ทั้งคุมเข้มการลักลอบนำเข้าโค-กระบือ ประเทศเพื่อนบ้านป้องกันการระบาดของโรค ( 11 ธ.ค.56 ) นายพจน์ภิรัตน์ เนียมจุ้ย ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.บุรีรัมย์ สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคง่าย จึงได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ หมั่นดูแลสุขภาพสัตว์ โดยเฉพาะโค-กระบือ เกษตรกรควรดูแลคอกหรือโรงเรือนให้มีความมิดชิด และอบอุ่นอยู่เสมอ ไม่ให้มีสภาพชื้นแฉะ สามารถรับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง เพื่อป้องกันไม่ให้โค-กระบือ เจ็บป่วยด้วยโรคคอบวม และโรคปากเท้าเปื่อย ทั้งนี้ทางปศุสัตว์จังหวัดและอำเภอ ยังจะมีการระดมเจ้าหน้าที่ออกรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเท้าเปื่อยให้กับโค-กระบือที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด แบบปู 100 เปอร์เซ็นต์ ในปลายเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าปัจจุบันบุรีรัมย์มีประชากรโคอยู่กว่า 230,000 ตัว กระบือกว่า 70,000 ตัว กระจายอยู่ในพื้นที่ 23 อำเภอทั้งจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ได้นำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย และโรคคอบวม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอได้ทุกแห่งให้ครบทุกตัว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวด้วย พร้อมกันนี้ยังได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ให้เพิ่มมาตรการคุมเข้มป้องกันการลักลอบนำเข้าโค-กระบือ จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสกัดกั้นการนำเชื้อโรคเข้ามาระบาดสู่สัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในอีกทางหนึ่งด้วย


สุรชัย พิรักษา บุรีรัมย์

สำนักงานบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย เปิดหน่วยแพทย์ทางเลือก ฝังเข็มประยุกต์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย ให้บริการแพทย์ทางเลือก โดยวิธีการฝังเข็มประยุกต์เพื่อการบำบัดและรักษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีความสนใจในการบำบัดและรักษา โดยวิธีแพทย์ทางเลือกในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ที่สถานีกาชาดที่ 1 แยกศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์

จ.สุรินทร์รณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ภายใต้หัวข้อ “อัคคีภัยป้องกันได้ ต้องใส่ใจไม่ประมาท”

นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การเกิดอัคคีภัยมีแนวโน้มความถี่และความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทและขาดความระมัดระวัง สร้างความเสียหายเฉลี่ยมากกว่า 1,100 ล้านบาท / ปี คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 เห็นชอบกำหนดให้ปี พ.ศ. 2557 เป็นปีรณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ภายใต้หัวข้อ "อัคคีภัยป้องกันได้ ต้องใส่ใจไม่ประมาท " เพื่อเป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้และความตระหนักเกี่ยวกับการป้องกันและแกไขปัญหาอัคคีภัยแกประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยจากทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดจากอัคคีภัย และดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น จึงขอให้ปฏิบัติดังนี้ 1.ฝึกอบรมความรู้แก่เจ้าหน้าที่และพนักงาน ด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัย และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ อย่างน้อย 1 ครั้ง / ปี 2.จัดสัปดาห์รณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย 3.กระจายข่าวสื่อสารหรือข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยไปสู่ประชาชนผ่านเครือข่ายภาคประชาชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อส. อปพร. ฯลฯ 4.กำหนดให้มีมาตรการในการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์การป้องกันและระงับอัคคีภัย เส้นทางหนีไฟ และทางเข้าออกอาคารในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน 5.รายงานผลการดำเนินงานของหน่วยงาน

จ.สุรินทร์รณรงค์เด็กสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นสาเหตุเสียชีวิตมากที่สุด

จ.สุรินทร์ รณรงค์เด็กสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นสาเหตุเสียชิวิตมากที่สุด นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า การอุบัติเหตุจากสาเหตุขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จังหวัดสุรินทร์จึงกำหนดแผนเร่งด่วน ในการดำเนินโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย  100 เปอร์เซ็นต์ และขอความร่วมมือผู้ปกครองดูแลบุตรหลานให้สวมหมวกนิรภัย ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย และขับขี่ด้วยความเร็วตามที่กฏหมายกำหนด โดยเฉพาะช่วงเปิดเทอมและใกล้เทศกาลปีใหม่  2557 นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกท่าน โดยเฉพาะวิทยุหลักและวิทยุชมชนช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้ทุกหน่วยงานต่าง ๆ ประกาศเป็นเขตสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนต่อไป

จ.สุรินทร์ร่วมต้อนรับคณะทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เข้าพบ ผวจ. สุรินทร์ เพื่อหารือข้อราชการ และสานสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ประเทศ

จ.สุรินทร์ ร่วมต้อนรับคณะทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เข้าพบ ผวจ. สุรินทร์ เพื่อหารือข้อราชการ และสานสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ประเทศ นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในวันนี้ ( 12 ธ.ค. 56 ) เวลา 11.00 น. ที่ห้องปฏิบัติการผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายลุธฟี ราอุฟ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำราชอาณาจักรไทยและคณะ จะเข้าพบ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างสาธารณรัฐอินโดนีเซียและราชอาณาจักรไทย เพื่อเตรียมพร้อมของจังหวัดสุรินทร์ด้านเศรษฐกิจและการศึกษาในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จังหวัดสุรินทร์ จึงขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนร่วมต้อนรับและสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กับคณะเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำราชอาณาจักรไทยและคณะ โดยพร้อมเพรียงกัน

จังหวัดสุรินทร์ รับสมัครทีมแข่งขันน้ำดื่มสิงห์แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3

นายถาวร  กุลโชติ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยกระทรวงการท่องเที่ยวแลกีฬาร่วมกับ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินการจัดการแข่งขันน้ำดื่มสิงห์แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 ทั้งนี้ บริษัทบุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ได้จัดแผนการดำเนินการและปฏิทินกำหนดวันจัดการแข่งขันน้ำดื่มสิงห์แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย  ครั้งที่ 3 ระดับเขตและระดับประเทศ

ผู้สนใจส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันน้ำดื่มสิงห์แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3ระดับจังหวัดประจำปี 2556 และรับสมัครทีม ระหว่างวันที่ 9-16 ธันวาคม 2556  และส่งใบสมัครกลับคืนสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์ ภายในวันที 18 ธันวาคม 2556 ติดต่อสอบถาม  สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์

โทร 0 4452 0979/โทรสาร 0 4451 5832  Email: surin@most.go.th




มนตรา  รื่นกลิ่น สปชส.สร ข่าว

กกต.สุรินทร์ พร้อมจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57

คณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์(กกต.) พร้อมจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 เพื่อเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรทั้ง 8 เขตเลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด

วันที่ ( 11 ธ.ค.56 ) เวลา 16.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์(กกต.สุรินทร์) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเป็นการทั่วไป ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ มี 8 เขตการเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรทั้งสิ้นรวม 8 คน

นายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาประกาศยุบสภา กกต.สุรินทร์ มีความพร้อมในทุกๆด้าน และวันนี้เป็นการเรียกประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ ในวาระการเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ในวันที่ 2 ก.พ. 57 ตามกำหนดเวลาเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน สิ่งแรกที่มีการพูดคุยในที่ประชุมคือเรื่องของการระดมบุคลากรจากทุกภาคส่วนราชการที่มาช่วยงาน กกต.สุรินทร์ เพราะเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจำเป็นต้องใช้คนเป็นจำนวนมาก และแผนต่างๆในการปฏิบัติงานว่าจะต้องจัดเตรียมแผนการทำงานในเรื่องอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของการเตรียมการเลือกตั้ง เรื่องของการประชาสัมพันธ์ เรื่องของการเผชิญเหตุต่างๆ และวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้พร้อมสูงสุดในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.สุรินทร์ทั้ง 8 เขตการเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 8 คน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสถิติเดิม พ.ศ. 2554 เป็นจำนวนเงินประมาณ 31 ล้านบาท

สำหรับงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน พร้อมเร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 ออกมาใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด และจะมีการรับสมัครส.ส.ในวันที่ 28 ธ.ค.56 - 1 ม.ค.57 กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค.57



อุทัย  มานาดี / รายงาน

จังหวัดอำนาจเจริญการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ระดับจังหวัด ประจำปี 2557

ที่ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญนายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ระดับจังหวัด ประจำปี 2556 สืบเนื่องมาจาก กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ ดำเนินการจัดประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ระดับจังหวัด ประจำปี 2556 เพื่อเป็นการกล่อมเกลาจิตใจ เด็กและเยาวชนของชาติ ให้เป็นผู้มีจิตใจอ่อนโยนและยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน น้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ โดยทำการสวดมนต์เพื่อบูชาพระรัตนตรัยเป็นประจำ เป็นการปลูกฝังเด็กและเยาวชน ได้น้อมรำลึกถึงพระผู้มีพระคุณ คือ บิดา มารดา และครู อาจารย์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับศาสนธรรมทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนได้ฝึกฝนทักษะการพูดต่อที่ชุมชน ในการจัดประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ ระดับจังหวัด ประจำปี 2556 ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 (อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ) โดยแบ่งการประกวดเป็น 2 ระดับ ดังนี้ นักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 9 ทีม นักเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 7 ทีม รวมทั้งสิ้น 16 ทีม

กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตจัดพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556

นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วยคณะประกอบด้วย นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำจังหวัดอำนาจเจริญ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคธุรกิจเอกชนจังหวัดอำนาจเจริญ ได้เดินทางไปร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทางสถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งนายรัศมี ชาลีจันทร์ กงสุลใหญ่ แขวงสะหวันนะเขต และภริยา จัดขึ้น เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 ภายในงานนอกจากคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญแล้ว ยังมีคณะข้าราชการและภาคเอกชน จากจังหวัดมุกดาหาร นครพนม อุบลราชธานี หนองบัวลำภู ไปร่วมพิธีลงนามในครั้งนี้ด้วย โดยมี ดร.สุพัน แก้วมีไช เจ้าแขวงสะหวันนะเขต พร้อมด้วยคณะข้าราชการและภาคพ่อค้าประชาชนของแขวงสะหวันนะเขต ประเทศ ส.ป.ป.ลาว ไปร่วมลงนามถวายพระพรและให้การต้อนรับคณะที่เดินทางไปจากประเทศไทยอย่างอบอุ่น โดยกิจกรรมในงานนอกจากพิธีลงนามถวายพระพรแล้ว มีการรำถวายพระพรของศิลปินประเทศ ส.ป.ป.ลาว การแสดงศิลปวัฒนธรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศตลอดงาน

จังหวัดอำนาจเจริญจัดจัดกิจกรรมเดินวิ่งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 และในโอกาสครบรอบ 20 ปี จังหวัดอำนาจเจริญ

นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดงานการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 และในโอกาสครบรอบ 20 ปี จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน เยาวชนร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายในวันสำคัญของชาติ โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญร่วมกับสโมสรโรตารีจังหวัดอำนาจเจริญ และสมคมกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ ได้จัดขึ้น ณ บริเวณสวนสาธารณมิ่งมงคลจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปล่อยตัว และสิ้นสุดของการจัดการแข่งขัน โดยมีชมรมนักวิ่งจากจังหวัดมุกดาหาร อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ และจังหวัดอำนาจเจริญเข้าร่วมทำการแข่งขัน กว่า 700 คน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 และในโอกาสครบรอบ 20 ปี ของจังหวัดอำนาจเจริญ และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นภายในจังหวัด สำหรับการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ประกอบด้วยประเภทเยาวชนชาย-หญิง อายุไม่เกิน 12 ปี ประเภทอายุไม่เกิน 18 ปี ประเภทอายุไม่เกิน 25 ปี ประเภทอายุไม่เกิน 50 ปี และประเภทอายุ 50 ปีขึ้นไป 

จังหวัดอำนาจเจริญร่วมประชุมความร่วมมือกับแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีและร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว ครั้งที่ 5

การประชุมคณะกรรมการความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว ระหว่างจังหวัดอำนาจเจริญกับแขวงสะหวันนะเขต ครั้งที่ 5  ที่ โรงแรมดาวสะหวันรีสอร์ท แขวงสะหวันนะเขต ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยฝ่ายไทยมี นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานร่วมฝ่ายจังหวัดอำนาจเจริญ และฝ่ายลาว มีท่าน ดร.สุพัน แก้วมีไช เจ้าแขวงสะหวันนะเขต เป็นประธานร่วมฝ่ายแขวงสะหวันนะเขต โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการฝ่ายความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า และด้านศิลปวัฒนธรรม ในที่ประชุมได้มีการปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทบทวนการปฏิบัติตามบันทึกการประชุมครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2551 ณ จังหวัดอำนาจเจริญ และมีความเห็นตรงกันว่า สภาพทั่วไปบริเวณชายแดนระหว่างจังหวัดอำนาจเจริญกับแขวงสะหวันนะเขต มีความสงบเรียบร้อยดี และเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย มีการประสานงานร่วมมือในเรื่องต่างๆ ส่งเสริมความร่วมมือกระชับความสัมพันธ์ เพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เพื่อนำความสมบูรณ์พูนสุขสู่ประชาชนทั้งสองจังหวัด-แขวง โดยส่งเสริมการเชื่อมโยงหลายด้าน ระหว่างภาคประชาสังคม ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยในการประชุมครั้งที่ 5 นี้ ได้มีข้อตกลงร่วมกันทั้งด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนจังหวัดอำนาจเจริญกับแขวงสะหวันนะเขต , การร่วมมืออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้าออกตามจุดผ่านแดน , เห็นชอบการยกระดับด่านผ่านแดน จุดผ่อนปรนบ้านยักษ์คุ อำเภอชานุมาน กับบ้านเหล่าหมากหูด เมือง”ซพูทอง , การร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด , การร่วมมือด้านแรงงาน , ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ,ความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ รวมถึงเรื่องอื่นๆ เช่น ด้านการศึกษา ,ด้านสาธารณสุข และการสนับสนุนด้านวิชาการต่างๆ ซึ่งในการประชุมตกลงความร่วมมือของจังหวัดอำนาจเจริญกับแขวงสะหวันนะเขตในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ท่ามกลางความเข้าใจและสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยการประชุมครั้งต่อไปทางจังหวัดอำนาจเจริญจะเป็นเจ้าภาพซึ่งจะได้กำหนดวันประชุมที่เหมาะสมต่อไป นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า การประชุมและลงนามในข้อตกลงร่วมกันครั้งนี้ นับเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวจังหวัดอำนาจเจริญกับพี่น้องชาวแขวงสะหวันนะเขต เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะเป็นการช่วยกันแก้ไขปัญหาทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า ประชาชนได้รับความสะดวก ในการเดินทางไปมาหาสู่กัน รวมถึงการร่วมกันพัฒนาความผาสุขกับประชาชนทั้งสองฝ่ายต่อไป

สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจะจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของพรรคการเมือง (การจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของสมุห์บัญชีเลือกตั้ง)ประจำปี 2557

 อุบลราชธานี : นายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งเปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของพรรคการเมือง (การจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของสมุห์บัญชีเลือกตั้ง)ประจำปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เข้าใจหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำบัญชีและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา บุคลากรในสังกัดพิจารณายื่นใบสมัครเข้ารับอบรมตามโครงการ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 มกราคม 2557 – 17 มกราคม 2557 ณ โรงแรมในจังหวัดอุดรธานี โดยแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ ไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่งวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2556

จังหวัดอุบลราชธานี จัดประกวดร้องเพลงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในงานปีใหม่และงานกาชาด ประจำปี 2557

อุบลราชธานี : เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ร่วมสมัครเข้าประกวดร้องเพลงพร้อมชุดการแสดง เพื่อส่งเสริมความสามารถและสร้างความสามัคคีของผู้นำ ส่งเข้าประกวดอำเภอละ 1 ทีม ชิงถ้วยพร้อมเงินรางวัล

นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดอุบลราชธานีร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี กำหนดจัดงานปีใหม่และงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 5 มกราคม 2557 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเดิม) และในงานได้จัดให้มีการประกวดร้องเพลงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล พร้อมชุดการแสดง โดยเข้าร่วมประกวดได้อำเภอละ 1 ทีม เพื่อส่งเสริมผู้นำที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงและประชาชนที่มีความสามารถด้านการแสดงออก ได้มีโอกาสแสดงออกถึงความสามารถ อีกทั้งเพื่อให้ผู้นำและประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานและเพื่อหารายได้ช่วยกิจการของเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อการสังคมสงเคราะห์และพัฒนาคุณภาพชีชิตประชาชนผู้ด้อยโอกาส

โดยนักร้องต้องเป็นกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลในตำบลหมู่บ้าน ตำบลของอำเภอนั้นรวมทั้งทีมการแสดงต้องเป็นประชาชนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านของหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอนั้นๆ เช่นเดียวกัน แต่ละทีมต้องมีนักร้อง 1 คน พร้อมชุดการแสดง ทีมละ 12 -15 คน โดยจัดประกวดรอบแรกวันที่ 28 ธันวาคม 2556 และรองชิงชนะเลิศ วันที่ 29 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ เวทีกลางในงาน ซึ่งทีมที่ชนะเลิศ จะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัลดังนี้ ชนะเลิศ เงินรางวัล 100,000.-บาท รองชนะเลิศ เงินรางวัล 50,000.- บาท และ 30,000.-บาท และรางวัลชมเชยอำเภอละ 5,000.-บาท

ซึ่งการจัดประกวดร้องเพลงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล พร้อมชุดการแสดง ในงานปีใหม่และงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกและได้รับความสนใจจากผู้นำหมู่บ้านในทุกอำเภอและประชาชนทั่วไป ที่จะได้ร่วมชมและให้กำลังใจทีมนักร้องซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละอำเภอและเป็นการเพิ่มความหลากหลายและสร้างสีสันในงานอีกด้วย



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 081 924 8609 /ข่าว

สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบชิงทุนรัฐบาล ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ถึง 7 มกราคม 2557

สำนักงาน ก.พ. จะเปิดรับสมัครสอบเพื่อรับทุนรัฐบาลเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาในประเทศ ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 7 มกราคม 2557 ทางอินเตอร์เน็ต ที่ http://uis.ocsc.go.th จำนวน 89 ทุน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครและดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ http://uis.ocsc.go.th

สุรินทร์ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน

วันที่ 12 ธ.ค.2556  เวลา 07.15 น. ทีวัดบูรพาราม พระอารามหลวง อ. เมือง จ.สุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไปชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์จำนวน 100 รูป เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆ์ปริณายก เนื่องในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน

ทั้งนี้คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆ์ปริณายก ได้เห็นชอบมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆ์ปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ในวันที่ 12 ธ.ค. 56 และ 100 วันในวันที่ 31 มกราคม 2556 พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งในวันนี้มีพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสุรินทร์เป็นจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระกุศลดังกล่าว

นักจัดรายการวิทยุผนึกกำลัง ประชาสัมพันธ์งานกาชาดอุบลราชธานี ประจำปี 2557

นักจัดรายการวิทยุผนึกกำลัง ประชาสัมพันธ์งานกาชาดอุบลราชธานี ประจำปี 2557
อุบลราชธานี : ร่วมผนึกกำลังประชาสัมพันธ์การจัดงานปีใหม่และงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ปี 2557 ทางวิทยุอย่างต่อเนื่องและร่วมเป็นโฆษกร้านกาชาด ตลอดงานระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.56 – 5 ม.ค.57 นี้

บ่ายวันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) นางมัณฑะนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานปีใหม่และงานกาชาด จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม ที่ห้องประชุมเจ้าคำผง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานร ในฐานเลขานุการคณะทำงานฯ เชิญนักจัดรายการวิทยุสถานีวิทยุกระจายเสียงหลัก,วิทยุชุมชน ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ เข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมหารือถึงแนวทางการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้มาร่วมงานเข้าร่วมลุ้นรางวัลและร่วมกิจกรรมอื่นๆ ในร้านกาชาดและการแต่งตั้งคณะทำงานโฆษกประจำร้านกาชาด ในการออกร้านของเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ในงานปีใหม่และงานกาชาดฯ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 5 มกราคม 2557 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเดิม) โดยคณะทำงานฯ จะทำการประชาสัมพันธ์การจัดงานฯ การออกรางวัล,ผลการออกรางวัลกาชาดในแต่ละวันรวมทั้งกิจกรรมการประกวด,กิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ ในงาน ผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียงอย่างต่อเนื่องให้ประชาชนได้รับทราบอย่างแพร่หลายและมาเที่ยวชมงาน ในการแต่งตั้งคณะทำงานโฆษกประจำร้านกาชาด ได้กำหนดให้คณะทำงานปฏิบัติหน้าที่ ในแต่ละวัน ดังนี้ วันที่ 27 ธ.ค.56 และวันที่ 5 ม.ค.57 ซึ่งเป็นวันเปิดงานและวันปิดงาน จะเป็นการร่วมทีมงานในแต่ละวันมาร่วมเป็นทีมเดียวกัน, วันที่ 28 ธ.ค.56 คณะทำงานคลื่น 97.50 Mhz , วันที่ 29 ธ.ค.56 คณะทำงานคลื่น 98.50 Mhz, วันที่ 30 ธ.ค.56 คณะทำงานคลื่น 97.00 Mhz, วันที่ 31 ธ.ค.56 คณะทำงานคลื่น 91.50 Mhz, วันที่ 1 ม.ค.57 คณะทำงานคลื่น 102.75 Mhz, วันที่ 2 ม.ค.57 คณะทำงานคลื่น 98.00 Mhz, วันที่ 3 ม.ค.57 คณะทำงานคลื่น 102.00 Mhz, วันที่ 4 ม.ค.57 คณะทำงานคลื่น 89.25 Mhz โดยจะปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำร้านกาชาด ระหว่างเวลา 18.00 – 24.00 น. ทุกวันดังกล่าว ส่วนในภาคกลางวัน จะเป็นทีมงานโฆษกจากแต่ละอำเภอที่ได้รับมอบหมายจากอำเภอมาร่วมปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนผู้มาเที่ยวงานได้ร่วมกิจกรรมกับร้านเหล้ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ในงานปีใหม่และงานกาชาด จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 5 มกราคม 2557 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเดิม)


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 081 924 8609 /ข่าว

ศูนย์อนามัยที่ 7 อุบลราชธานี ร่วมกับศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา/ศูนย์อนามัยที่ 6 อำนาจเจริญ จัดอบรมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชน”สายสัมพันธ์ท้องถิ่นภาคี สร้างสุขภาพดีเด็กไทย

อุบลราชธานี  :   เช้าวันนี้   ( 12 ธ.ค.56 ) ที่โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท อำเภอเมือง จงหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับพร้อมให้โอวาทแก่ผู้เข้ารับการอบรมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชน”สายสัมพันธ์ท้องถิ่นภาคี สร้างสุขภาพดีเด็กไทย โดยมีผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ผู้แทนโรงเรียน/นักวิชาการ จากศูนย์อนามัยที่ 7อุบลราชธานี/ 5 นครราชสีมาและศูนย์ศูนย์อนามัยที่ 6 อำนาจเจริญ ที่เข้ารับการอบรม โดยผู้ว่ารากชารจังหวัดอุบลราชธานี ได้พูดถึงการพัฒนาของเด็กและเยาวชน ที่มุ่งหวังให้เด็กไทยดี เก่ง และมีสุข จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะนำไปสู่การประสานความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชนภายใต้การมีส่วนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นรูปธรรมและเข้มแข็ง อันจะเป็นการสานพลังพัฒนาและดำเนินงานให้เกิดการตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพของเด็กวัยเรียนได้อย่างแท้จริง มีสู่สุขภาวะที่ดีและยั่งยืนต่อไป สำหรับการการอบรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเวทีสร้างพันธสัญญาการขับเคลื่อนงานพัฒนาสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชน นับว่าเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชนซึ่งจะเอื้อต่อการมีสุขภาพดีแก่บุคากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการดำเนินงานและแนวทางปฏิบัติที่ดีด้านสุขภาพในโรงเรียนได้อีกทางหนึ่งด้วย

พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระสังฆราช ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน

 
เช้าวันนี้ (12 ธ.ค.56 ) นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำพุทธศาสนิกชนจังหวัดอุบลราชธานี ทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง ในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 50 รูป ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ที่ หอพระปริยัติธรรมสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดศรีอุบลรัตนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก ทั้งนี้คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เห็นชอบให้มีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณ สังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ในวันนี้ (12 ธันวาคม 2556) ในส่วนกลางกำหนดจัด ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทางจังหวัดจึงร่วมจัดพิธี ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน พร้อมกับจังหวัดอื่น ๆ เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในครั้งนี้

อุดรธานีจัดงานวันคนพิการสากล ปี 56

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดงานวันคนพิการสากลจังหวัดอุดรธานีประจำปี 2556 "ขจัดอุปสรรค เปิดประตู...กว้าสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขสำหรับทุกคน”

ที่บริเวณเต็นท์กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษยภายในบริเวณงานทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายกอบเกียรติ กญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากลจังหวัดอุดรธานี ประจำปี 2556 โดยมีนายณรงค์ คงคำ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน สมาคม/ชมรมคนพิการ ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาคนพิการ กลุ่มคนพิการและผู้ดูแลร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล โดยในปี 2556 ได้กำหนดประเด็นหลักคือ"ขจัดอุปสรรค เปิดประตู...กว้าสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขสำหรับทุกคน”และกำหนดห้วงเวลาในการจัดกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2556-3 มกราคม 2557 เพื่อส่งเสริมให้คนพิการ ชมรม สมาคม ได้แสดงศักยภาพและความสามารถในการพัฒนางานคนพิการ ก่อให้เกิดขวัญ กำลังใจในกลุ่มคนพิการ มีความสนุนกสนานและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามเจตนารมณ์ของประเด็นหลักในการจัดกิจกรรม

จังหวัดอุดรธานีตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดกิจกรรมงานวันคนพิการขึ้น โดยมีกิจกรรมที่สำคัญอาทิ การมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณยกย่องบุคคล องค์กร ที่ให้การสนับสนุนงานด้านคนพิการในระดับจังหวัด การบรรยายและจัดนิทรรศการให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสิทธิตามกฏหมายของคนพิการ การแสดงผลงานกิจกรรมด้านคนพิการ การเสวนาวิชาการ การจัดบริการสำหรับคนพิการ การแสดงความจงรักภักดี เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 86 พรรษา การรับบริจาคของขวัญของราวัล การจัดแสดงบนเวทีเพื่อสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับประชาชนและผู้สนใจที่เดินทางมาเที่วงานประจำปีทุ่งศรีเมืองของกลุ่มชมรมสมาคมคนพิการจาก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอุดรธานี ศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชมรมคนพิการตำบลนาม่วง อำเภอประจักษ์ศิลปาคม สมาคมคนพิการจังหวัดอุดรธานี ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาคนพิการตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

อุดรธานีประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาครบ 50 วันการสิ้นพระชนสมเด็จพระสังฆราช

ที่ศาลาบุญสิงห์ วัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้   ( 12 ธ.ค.56 ) นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาสวดถวายพระพร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชน 50 วัน พร้อมนำส่วนราชการ ประชาชน ประเคนผ้าไตร พระสงฆ์ 20 รูป ที่สดับกรณ์ และนำข้าราชการ ร่วมถวายภัตตาหารเพล พระสงฆ์ 10 รูป ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชน 50 วัน



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. 
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

อุดรธานีจัดประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวปีการเพาะปลูก 2556/57

 จังหวัดอุดรธานีจัดประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวปีการเพาะปลูก 2556/57 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร ชาวนามีศักยภาพในการผลิตข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว ได้ผลิตข้าวคุณภาพดี สนองความต้องการของตลาด

ที่บริเวณซุ้มการค้าภายในจังหวัดอุดรธานี เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานตัดสินการประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวปีการเพาะปลูก 2556/57 โดยมีคณะกรรมการตัดสินการประกวดและคณะทำงานการจัดประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวจังหวัดอุดรธานี ปีการเพาะปลูก 2556/57 ร่วมตัดสิน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอุดรธานี จัดประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวปีการเพาะปลูก 2556/57 ประเภทเกษตรกรรายบุคคล และ กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์ ผลปรากฏว่า มีเกษตรกรส่งข้าวหอมมะลิเข้าประกวดเป็นรายบุคคลจำนวน 14 ราย และ 2 กลุ่ม ส่วนข้าวเหนียว มีเกษตรกรส่งข้าวเข้าประกวด 40 ราย

สำหรับผลการประกวดข้าวเหนียว ประเภทรายบุคคล รางวัลที่ 1 นางวิลัย สิงห์วีระธรรม อำเภอโนนสะอาด ,2 นายณัฐวุฒิ ทามแก้ว อำเภอพิบูลย์รักษ์ และที่ 3 นายณรงค์ ประภาสะโนบล อำเภอศรีธาตุ ผลการประกวดข้าวหอมมะลิ ประเภทเกษตรกรรายบุคคล รางวัลที่ 1 นายสถิตย์ เลิสประเสริฐ อำเภอกุดจับ ,รางวัลที่ 2 นายสุนทร บุญวิเศษ อำเภอกุมภวาปี ,รางวัลที่ 3 นางวงเดือน ศรีกงพาน อำเภอกุมภวาปี โดยผู้ชนะเลิศเงินรางวัลที่ 1 จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร,รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 4,000 พร้อมเกียรติบัตร,รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 3,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร ส่วนผลการประกวดข้าวหอมมะลิประเภทกลุ่มเกษตรกรมีผู้ผ่านเข้ารอบและได้รับรางวัลที่ 2 ได้แก่ศูนย์ข้าวชุมชน ตำบลดอนกลอย อำเภอพิบูลย์รักษ์ เงินสด 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

ประกวดธิดาหมี่ขิดและมหกรรมโฮมพาเลง ปี 2556

จังหวัดอุดรธานีจัดประกวดธิดาผ้าหมี่-ขิดประจำปี 2556 ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ส่งเสริมศิลปหัตถกรรมผ้าทอพื้นเมือง

ที่เวทีกลางสนามทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดงานประกวดธิดาผ้าหมี่-ขิดประจำปี 2556 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ร่วมงานจำนวนมาก

นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ที่ต้องการจะส่งเสริมและสืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาวอุดรธานีคู่กับชาวอุดรธานี เพื่อส่งเสริมศิลปหัตถกรรมผ้าทอพื้นเมือง อันเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละท้องถิ่นซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน และกิจกรรมสาธารณกุศล ร่วมทั้งเป็นการหารายได้สมทบกิจกรรมสาธารณะกุศลของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี มีสาวงามร่วมประกวดในปีนี้ 86 คน โดยจัดให้มีการประกวดรอบคัดเลือกในวันที่ 2 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา เหลือ 50 คน คัดเลือกรอบ 2 ให้เลือก 21 คน ก่อนตัดสินในวันนี้

ซึ่งสาวงามที่เข้ารอบทั้ง 21 คน ที่เข้าร่วมประกวดรอบนี้จะมีสาวงามที่ได้รับรางวัลนางงามขวัญใจมหาชน ขวัญใจสื่อมวลชน ธิดาหมี่ขิดประจำปี 2556 และรองธิดาหมี่ขิดอันดับ 1 และ 2 ซึ่งจากการตัดสินของ คณะกรรมการตัดสินการและคณะกรรมการสื่อมวลชน ผลปรากฏว่า สาวงามหมายเลข 11 นางสาว พิมพ์ชนก เริ่มรักษ์ น้องพิมพ์ บริษัทโตโยต้า ชิณณ์นนท์ อุดรธานีจำกัด ส่งเข้าประกวด คว้ารางวัลขวัญใจมหาชน,สาวงามหมายเลข 5 นางสาวขนิษฐา ชาดา น้องนุ้ย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอบ้านดุง กลุ่มที่ 2 คว้าตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนไปครอง ควบรางวัลชุดแต่งกายผ้าพื้นเมืองยอดเยี่ยม และรองธิดาหมี่ขิดอันดับ 1 ไปครอง ส่วนรองธิดาหมี่ขิดอันดับ 2 เป็นของสาวงามหมายเลข 6 นางสาววันทนา เสาธง น้องปิ๊ก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ส่งเข้าประกวด ส่วนรางวัลธิดาหมี่ขิดประจำปี 2556 ตกเป็นของสาวงามหมายเลข 12 นางสาวเปรมา ทิพย์อักษร ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวโชลีในเครือบริษัทบางกอกบีพีไอ ส่งเข้าประกวด



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

ประกวดไก่พื้นเมืองงานทุ่งศรีเมือง ปี 56

 จังหวัดอุดรธานี จัดประกวดไก่พื้นเมือง ในงานประจำปีทุ่งศรีเมือง ปี 2556 เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรตระหนักในการคัดเลือกปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์พื้นเมืองไทย

ที่ลานกีฬาเอนกประสงค์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดไก่พื้นเมืองในงานประจำปีทุ่งศรีเมืองอุดรธานีปี 2556 ซึ่งถือเป็นวิธีการคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์โดยประเมินคุณภาพพ่อ-แม่พันธุ์ หรือลูกที่จะคัดเลือกไว้ทำพันธุ์ต่อไป โดยพิจารณาจากลักษณะภายนอกของสัตว์ ได้แก่ ลักษณะประจำพันธุ์ เพศ อารมณ์ ซึ่งเกษตรกรสามารถนำหลักของการประกวดสัตว์ไปใช้ในการคัดเลือกสัตว์ของตนเองได้

นายเกียรติศักดิ์ อุ่ยรุ่งโรจน์ ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มีนโยบายให้จัดการประกวดผลผลิตทางการเกษตรด้านพืช สัตว์ และประมงในงานประจำปีทุ่งศรีเมืองอุดรธานีปี 2556 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานีได้ร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาไก้พันธุ์พื้นเมืองจังหวัดอุดรธานี จัดให้มีการประกวดไก่พันธุ์พื้นเมืองขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกรตระหนักในความสำคัญในการคัดเลือกปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์พื้นเมืองของไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนโดยทั่วไป ได้เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมตลอดทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

สำหรับการอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธ่นี ได้เล็งเห็นความสำคัญที่จะให้มีกาอนุรักษ์ไก่สายพันธ์สีแสดซึ่งเป็นไก้พื้นเมืองที่มีสีประจำจังหวัดอุดรธานี จึงได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อเพาะพันธุ์และปรับปรุงไก่สายพันธุ์สีแสด โดยเริ่มโครงการ ในปี 2556 ปัจจุบันวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุดรธานี ได้ทำการเพาะพันธืและปรัปบรุงพันธุ์เพื่อจะขยายการเลี้ยงไปสู่เกษตรกรในชุมชน ถือว่าเป็นความโชคดีของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมืองในจังหวัดอุดรธานี

การประกวดไก่พื้นเมืองในครั้งนี้จัดให้มีการประกวด 5 สายพันธุ์รวม 12 รุ่น อาทิ ไก่พื้นเมืองสายพันธุ์ไก่แสดเมืองอุดรธานีเพศผู้ น้ำหนัก 2.50 กิโลกรัมขึ้นไป และเพศเมีย 2.00 กิโลกรัมขึ้นไป ,ไก่พื้นเมืองสายพันธุ์ไก่แสดเมืองอุดรธานีเพศผู้น้ำหนักต่ำกว่า 2.50 กิโลกรัม และเพศเมียน้ำหนักต่ำกว่า 2.00 กิโลกรัม ,ไก่พื้นเมืองสายพันธุ์ไก้นกแดง เพศน้ำหนัก 2.50 กิโลกรัมขึ้นไป และเพศเมีย 2.00 กิโลกรัมขึ้นไป ,ไก่พื้นเมืองสายพันธุ์เหลืองหางขาวเพศผู้-เพศเมีย น้ำหนัก 3.00กิโลกรัมขึ้นไป,ไก่พื้นเมืองสายพันธุ์ประดู่หางดำเพศผู้-เพศเมีย น้ำหนัก 3 กิโลกรัมขึ้นไป ,ไก่พื้นเมืองสายพันธุ์คละสีเพศผู้ 3.00 กิโลกรัมขึ้นไปและเพศเมีย 2.00 กิโลกรัมขึ้นไป



ทีมข่าว ส.ปชส. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

ซ้อมร้องเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงปลุกใจ

พสกนิกรชาวจังหวัดอุดรธานีทุกหมู่เหล่าร่วมซ้อมใหญ่ การร้องเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงปลุกใจสำนึกรักษาเตรียมความพร้อมแสดงจริงค่ำคืนนี้ ในงานชาวอุดรธานีเทิดพระเกียรติสดุดี ถวายพระพรชัยมงคล 12 ธันวาคม 2556นี้      

ที่ลานเฉลิมพระเกียรติสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี วันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนชาวอุดรธานี ร่วมซ้อมใหญ่เหมือนจริงในการร้องเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงปลุกใจสำนึกรักชาติ ประกอบดนตรีวงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร เพื่อเตรียมความพร้อมในการขึ้นแสดงจริงในค่ำคืนนี้

สำหรับร้องเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงปลุกใจรักชาติคืนนี้ ประกอบด้วย เทศบาลนครอุดรธานี ร้องเพลง สดุดีมหาราชา ,องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ร้องเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน,กระทรวงมหาดไทย ร้องเพลงตื่นเถิดไทย ,คณะศาลจังหวัด รองเพลง รักเมืองไทย ,คณะอัยการจังหวัด ร้องเพลง รักกันไว้เทิด, มณฑลทหารบกที่ 24 สำนักงานพัฒนาภาค 2 และกองบิน 23 ร้องเพลงทหารของชาติ มาร์ช 4 เหล่า ,คณะตำรวจ ร้องเพลงมาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์, คณะนายกเหล่ากาชาด ร้องเพลงยามเย็น,กระทรวงสาธารณสุข ร้องเพลงใกล้รุ่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ร้องเพลงแผ่นดินของเรา ,กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้องเพลง ลมหนาว ,กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม ร้องเพลง ชะตาชีวิต, กระทรวงศึกษาธิการ ร้องเพลงแสงเทียน ,สโมสรไลออน์สโมสรโรตารี่ ร้องเพลง อาทิตย์อับแสง ,หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานีร้องเพลงใต้ร่มธงไทย, ส่วนสโมสรลูกเสือและชมรมอาสาสมัครกองพันนเรศวรร้องเพลงศึกบางระจัน

โดยทั้ง 16 คณะจะขึ้นแสดงในงานอุดรธานีเทิดพระเกียรติสดุดี ถวายพระพรชัยมงคล 12 ธันวาคม 2556 นี้ที่ลานเฉลิมพระเกียรติสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ระหว่างเวลา 18.00-21.00น. โดยจะปิดท้ายการแสดงด้วยการบรรเลงเพลงของวงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร ในเพลงสรรเสริญพระบารมี



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานมหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014

จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ภาคเอกชนมาเลเซีย กำหนดจัดงานมหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014 " Udon Thai International Air and Big bike Fest 2014 ระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2557 ณ ลานจอดเครื่องบินกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี

เช้าวันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดำเนินการจัดงานมหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014 " Udon Thai International Air and Big bike Fest 2014 โดยมีนายพรเทพ ศักดิ์สุจริต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชนในพื้นที่ร่วมประชุม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมให้การสนับสนุนการจัดงาน เพื่อเป็นการยืนยันความเป็นศูนย์กลางการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และศักยภาพด้านโลจิสติกส์ โดยพาะอย่างยิ่งด้านความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการบินของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก จังหวัดอุดรธานีร่วมกับสภสอุตสาหกรรม หน่วยงานภาครัฐและเอกชน กำหนดดำเนินงาน มหกรรมการบินและบิคไบค์นานาชาติ 2014 " Udon Thai International Air and Big bike Fest 2014 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2557 รวม 3 วัน 3 คืน เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชมหาราช พระชนมายุ 86 พรรษา ซึ่งจังหวัดอุดรธานีและปวงชนชาวไทยพร้อมใจกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตลอดมา และร่วมเฉลิมฉลองการตั้งเมืองอุดรธานีลุเข้าสู่ปีที่ 121 ปี ในวันที่ 18 มกราคม 2557 ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของชาวอุดรธานีทุกคนรวมถึงเป็นการรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานีและวางรากฐานการพัฒนาเมืองอุดรธานีให้มีความเจริญกว้าหน้ามาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับกิจกรรมในงานจัดให้มี แอร์โชว์ พารามอเตอร์ กระโดดร่ม บอลลูน เครื่องบินบังคับวิทยุ บิคไบค์ ประกวดมิสแอร์โชว์ อาหารฮาลาล ร๊อคคอนเสริ์ต



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ฯ อยุธยา ข่าว/ภาพ

ศรีสะเกษจัดงานวันรวมน้ำใจสู่ธารากาชาด ร่วมเป็นรางวัลในร้านธารากาชาด

ศรีสะเกษจัดงานวันรวมน้ำใจสู่ธารากาชาด ร่วมเป็นรางวัลในร้านธารากาชาดในงานเทศกาลปีใหม่ สี่เผาไทยศรีสะเกษ ประจำปี 2557

วันนี้ ( 12 ธ.ค. 56 ) เวลา 09.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ  แถลงข่าวการจัดงานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทยศรีสะเกษ ปี 2557 และเป็นวันรวมน้ำใจสู่ร้านธารากาชาด ณ สนามหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และภาคประชาชน นำสิ่งของมาบริจาค เพื่อเป็นรางวัลในร้านธารากาชาดมากมาย

ประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวว่า ในการจัดงานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทยศรีสะเกษ ปี 2557 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ถีงวันที่ 5 มกราคม 2557 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการหารายได้ช่วยเหลือกิจการ ของเหล่ากาชาดจังหวัดและช่วยเหลือกิจการสาธารณกุศลต่างๆ และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานของหน่วยงานส่วนราชการ ในรอบปีที่ผ่านมา มีกิจกรรมที่สำคัญในงานมีการออกร้านธารากาชาด รวมทั้งการจัดออกสลากกาชาดการกุศล มีรางวัลใหญ่ ได้แก่รถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์กระบะ รถไถนาเดินตาม และรางวัลอื่นอีกมากมาย รวมทั้งการออกร้านแสดงนิทรรศการผลงานและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนของทุกอำเภอ และหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ การประกวดกิจกรรม ด้านการเกษตร การประกวดธิดาสี่เผ่าไทย การจัดแสดงมหรสพโดยศิลปินนักร้องชื่อดังทั่วประเทศไปทำการให้ชมทั้ง 10 คืน นอกจากนี้จังหวัดศรีสะเกษ ยังมีการจัดกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลโกหนู 5 คน รุ่นนักเรียน-นักศึกษา, การประกวดคีตะมวยไทย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ประเภททีมไม่เกิน 10 คน และกิจกรรมการเคาท์ดาว์ นับถอยหลัง ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2014 ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2556 และที่สำคัญยังเป็นงานที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอลฮอร์ และปลอดอาวุธ  อีกด้วย
                                                                 
                      
                               
                               
สุรศักดิ์ / ข่าว / พิมพ์ / ภาพ

จังหวัดร้อยเอ็ดจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน

 
วันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) เวลา 06.45 น.นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 100 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และได้กำหนดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน ไว้ในวันที่ 30 มกราคม 2557 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด
                                           


วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

ยโสธรทำบุญครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วันสมเด็จพระสังฆราช

จังหวัดยโสธรจัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน  ที่วัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) อำเภอเมืองยโสธร   จังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์  50 วัน  โดยมีพระราชรัตนกวี  เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ เจ้าคณะจังหวัด  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  กิจกรรมประกอบด้วย พระสงฆ์ 10  รูป สวดพระพุทธมนต์ ต่อจากนั้น ประธานในพิธีนายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด ทอดผ้าไตรสดับปกรณ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการผู้มาร่วมพิธี ถวายภัตตาหารเพล    ( ปิ่นโต ) ถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์

ตำรวจ สภ เมืองมุกดาหารเปิดอาคารศูนย์ปฎิบัติการสายตรวจใหม่

วันที่ 12 ธันวาคม 2556 พันตำรวจเอก ธรรมจักร คงมงคล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิดอาคารศูนย์ปฏิบัติการสายตรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร หลังใหม่ เพื่อเป็น การอำนวยความสะดวกแก่ให้กับประชาชน ผู้มาติดต่อราชการ โดยมี นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร นายทวี กิ่งคำวงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลคำอาฮวน นายทิพย์ ศรีวิชา นายกเทศมนตรีตำบลมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่เทศกิจ อปพร. กว่า 100 นาย ร่วมเปิดอาคารในครั้งนี้

จากที่ พันตำรวจเอก อุกกฤษฎ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร ได้สร้างที่ทำการสายตรวจบริเวณลานจอดรถของสถานีตำรวจเมืองมุกดาหาร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาติดต่อราชการ   เนื่องจากห้องปฎิบัติการสายตรวจเดิมอยู่อาคารหลังเดิน ชั้น 3 ไม่สะดวกในการติดต่อประสานงานของประชาชน  จึงได้สร้างอาคารสายตรวจอยู่ชั้นล่าง  โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างไร ซึ่งงบการสร้างได้รับการสนับสนุนจากพ่อ ค้า ประชาชน ในพื้นที่ที่เห็นความสำคัญและประโยชน์ที่จะได้รับ โดยใช้งบในการก่อสร้างเป็นเงินทั้งสิ้น 350,0000 บาท  ในขณะนี้ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วได้มอบอาคารดังกล่าวให้กับสายตรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร เป็นที่ทำการแห่งใหม่

พันตำรวจเอก อุกกฤษฎ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร  กล่าวว่า เนื่องจากประชาชนที่มาติดต่อราชการ  ไม่สะดวกในการเดินขึ้นลงตึก  ได้เล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นที่จะให้มีการสร้างที่ทำการสายตรวจขึ้นใหม่ เพื่ออำนวยความให้กับประชาชนที่มาติดต่อราชการ และเจ้าหน้าที่สะดวกในการออกปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว ในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อรับแจ้งเหตุ เรื่องราวร้องทุกข์ และการระงับเหตุเบื้องต้น ตอลด 24 ชั่วโมงต่อไป





พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

มุกดาหาร สนธิกำลังจับรถไม้พะยูง 44 ท่อนรถเก๋งขนไม้ 1 คัน


เมื่อวันที่ ( 12 ธ.ค. 56 )  ร้อยโท วรยุทธ คำสี ผู้บังคับกองร้องทหารพรานที่ 2105  ได้รับรายงานว่าจะมีแก็งมอดไม้พะยูง  ลักลอบขนไม้ส่งออกนอกประเทศที่บริเวณบ้านบางทรายใหญ่ ตำบลบางทรายใหญ่อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงได้ประสาน นายจิรพงษ์ แก้วมณี นายอำเภอเมืองมุกดาหาร พ.อ.ยุทธนา  ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.มุกดาหาร นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หน่วยหนาหน่วยเคลื่อนที่เร็ว นรข. เขตนครพนม  ปกครองจังหวัดมุกดาหาร,กองร้อยทหารพราน2105, กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,  นรข.มุกดาหาร กอ.รมน.มุกดาหาร,ตม.มุกดาหาร, ตชด.234 สนธิกำลัง จับกุมรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนดำ ทะเบียน กข -7638 มุกดาหาร ลักลอบขนไม้พะยูง จำนวน 29 ท่อน/เหลี่ยม พร้อมโพยค่าใช้จ่ายในรถ และสามารถยึดได้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้กับจุดที่รถถูกจับกุม อีก 15 ท่อน/เหลี่ยม รวมไม้พะยูงที่ยึดได้ในครั้งนี้  44 ท่อน/เหลี่ยม คิดมูลค่ากว่า 5 แสนบาท

สืบเนื่องจากชุดจับกุมพบรถคันดังกล่าวบริเวณ บ้านบางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงขอตรวจค้นแต่คนขับรถได้ขับหลบหนี ก่อนจะทิ้งรถไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ส่วนคนขับวิ่งหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึง ตรวจสอบพบไม้พะยูงทั้งในรถและกระจัดกระจายบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง  เจ้าหน้าที่คาดว่า กองไม้ที่พบอาจจะกำลังลำเลียงขึ้นเรือแต่รถที่ขับหลบหนีกลับมาจอดทิ้งรถที่จุดดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งข้อกล่าวหา และนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ก่อนจะสืบหาเจ้าของรถมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ต่อไป

                                       
                                 

พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว


                                                                              

เหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหารประชุมคณะกรรมการเตรียมพร้อมการจัดงานวันรวมน้ำใจ ช่วยกาชาด ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ ประจำปี ๒๕๕๗


วันนี้ ( ๑๒ ธ.ค.๕๖ ) ที่ห้องประชุม ๒๐๓ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นางสุธิดา บุญประดิษฐ์  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ประชุมคณะกรรมการ คณะทำงานฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อม ซักซ้อมความเข้าใจ ในการจัดงานวันรวมน้ำใจ ช่วยกาชาด ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ ประจำปี ๒๕๕๗ ในงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร เพื่อการให้ความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย สงเคราะห์ผู้ทุกข์ยากขาดแคลน และงานสาธารณกุศลอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

                                           


                                                                              สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดหาร/ข่าว

มุกดาหารจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ๕๐ วัน

วันนี้ ( ๑๒ ธ.ค.๕๖ ) เวลา ๑๐.๐๙ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ๕๐ วัน ณ ศาลาการเปรียญ วัดศรีมงคลเหนือ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร

ทั้งนี้ได้มีข้าราชการและพ่อค้าประชาชนทุกภาคส่วนพร้อมใจกันบำเพ็ญกุศลในพิธีประเคนผ้าไตรและถวายภัตตาหารเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ เป็นการแสดงออกในความอาลัยอันเป็นเครื่องอนุสรณ์ถึงพระเกียรติคุณ และคุณูปการที่มีต่อพระพุทธศาสนา ทรงได้รับการถวายพระเกียรติคุณ เทิดทูนเคารพบูชา และความอาลัยจากพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งประเทศ
                                         


สุภาวดี อัมไพพันธ์/ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ส.ปชส.มห/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ส.ปชส.มห/ภาพ

จังหวัดมุกดาหารประกาศเตือนภัยหนาว

 นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ ๑๒ – ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ขณะที่มวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวน เป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเกิดลูกเห็บตกในระยะนี้ได้หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ๖ – ๘ องศา ทำให้มีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดมุกดาหารเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ปัญหาวาตภัย และภัยจากอากาศหนาวเย็น สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเกษตรกร บ้านเรือน โรงเรียนและพืชผลทางการเกษตร ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ ๓ – ๔ วันนี้ (๑๒ – ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๖) และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง หากพบว่าไม่ปลอดภัยหรือติดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเคร่งครัดและตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฎิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ และหากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ที่ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย โทร.๐๒-๒๔๑-๗๔๕๐-๕ (โทรสารอัตโนมัติ) สอบถาม โทร.๐๒-๒๔๑-๗๔๕๗-๖๑ หรือทางไปรษณีย์อิเล็กโทรนิกส์ OPERATION@NIRAPAI.COM และรายงานทุกระยะ จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด



 สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของพรรคการเมือง(การจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของสมุห์บัญชีเลือกตั้ง) ประจำปี ๒๕๕๗

นายศิริพงษ์ มุขศรี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของพรรคการเมือง(การจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของสมุห์บัญชีเลือกตั้ง) ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในหลักเกณฑ์ วิธีการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ในรุ่นที่ ๑ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๖ ณ โรงแรมในจังหวัดอุดรธานี

ทั้งนี้ สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์การรับสมัครบุคคลที่สนใจ ผู้คาดว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นสมุห์บัญชีของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และผู้คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ รับสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ในระหว่างวันที่ ๒ – ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ ณ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร เลขที่ ๑ / ๑๙ ถนนวงศ์คำพา อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๔๒-๖๑๓๖๘๐ , ๐๔๒-๖๑๓๖๘๐ , ๐๘๐-๑๗๓๓๓๔๔ , ๐๘๓-๗๔๗๔๑๐๙



 สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

มมส. รวมพลัง Big Cleaning Day เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการ Big Cleaning Day เฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556

ที่บริเวณลานข้างอาคารบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยมหาสารคามโดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยถวายราชสักการะ นำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา พร้อมนำคณาจารย์ บุคลากร นิสิต นักเรียน ร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day บำเพ็ญประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 5 ธันวาคม

โดยมีการพัฒนามหาวิทยาลัย ทำความสะอาด ล้างถนน กำจัดวัชพืชและตัดแต่งกิ่งไม้ เป็นการปลูกจิตสำนึกให้บุคลากรมหาวิทยาลัยได้เห็นคุณค่าในการบำรุงรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งเป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคีและความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคามและชุมชนรอบข้าง นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยให้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

พุทธศาสนิกชนจังหวัดมหาสารคาม ร่วมทำบุญครบ 50 วัน สิ้นพระชนม์ “พระสังฆราช”


พุทธศาสนิกชนจังหวัดมหาสารคาม ร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์เพื่อบำเพ็ญกุศล ปัญญาสมวาร ถวายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบ 50 วัน การสิ้นพระชนม์

( 12-12-56 ) ที่วัดมหาชัย พระอารามหลวง นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ประธานฝ่ายฆราวาส พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกันประกอบพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จำนวน 20 รูป เพื่อบำเพ็ญพระกุศล ปัญญาสมวาร ถวายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบ 50 วัน การสิ้นพระชนม์ โดยมีพุทธศาสนิกชนทุกภาคส่วนเข้าร่วมพิธี

สำหรับการจัดพิธีทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระกุศล สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน จังหวัดมหาสารคาม กำหนดขึ้นในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคาม อบรมวิทยากรระดับตำบล เผยแพร่ผลการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย


จังหวัดมหาสารคาม จัดอบรมวิทยากรระดับตำบล เพื่อเผยแพร่ผลการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทยสู่ประชาชนในชุมชน สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทุกหมู่บ้าน

ในระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม 2556 จังหวัดมหาสารคาม โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ได้นำเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในจังหวัดมหาสารคาม จากทั้ง 13 อำเภอ 131 ตำบล มาเข้ารับการอบรมเป็นวิทยากรระดับตำบล ตามโครงการเผยแพร่ผลการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 198 คน โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดการอบรม และแนะนำแนวทางการเผยแพร่ผลการจัดเวทีประชาเสวนาให้ไปสู่ชุมชนอย่างถูกต้อง ปราศจากการชี้นำ

นายสุบรรณ แสนตรี ผู้เข้ารับการอบรมวิทยากรระดับตำบล ในวันนี้ บอกว่า เวทีประชาเสวนาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทุกฝ่ายได้มาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ซึ่งในการเผยแพร่ผลดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในหมู่บ้านให้ได้มีโอกาสรับรู้ และสะท้อนการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติร่วมกัน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย จำนวน 1 เวที เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2556 มีประชาชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย และการฝึกอบรมในวันนี้ จึงเป็นการนำผลของการจัดเวทีประชาเสวนา เผยแพร่ไปสู่ประชาชนในท้องถิ่น โดยมีวิทยากร มาให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของวิทยากรระดับตำบล และการจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมชี้แจงในระดับหมู่บ้านทุกหมู่บ้านต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จับหนุ่มวิศวะ สถาบันดัง ซื้อยาไอซ์เสพกับเพื่อนในมหาวิทยาลัย


เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กู่ทอง มหาสารคาม ตั้งด่านตรวจค้นยาเสพติด พบหนุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น ซุกซ่อนยาไอซ์เพื่อเตรียมนำไปเสพกับเพื่อนในมหาวิทยาลัย ไปไม่รอดถุกจับหมดอนาคต

เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 11-12-56 ) เวลาประมาณ 19.30 น. ที่จุดตรวจเข้มแข็งประชาอุทิศ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม โดย พ.ต.ท.วิสิทธิ์ จันทร สารวัตรฝ่ายปราบปราม พร้อมด้วย ร.ต.ท.สุนทร ภูโบราณ รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุม นาย กิตติพงษ์ บัวกลม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ที่ 3 ต.บ้านโนน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ ที่บรรจุในถุงพลาสติกแบบกดปิด รวม 6 ถุงเล็ก น้ำหนักรวมประมาณ 3 กรัม ,เงินสด จำนวน 19,800 บาท , โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน4 จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น คลิก 125 ไอ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ในข้อหามียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า จะมีผู้ลักลอบนำยาเสพติดให้โทษ (ยาไอซ์)จากเขต จ.มหาสารคาม ติดตัวไปเพื่อจำหน่ายในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดยจะเดินทางผ่านเขตพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรกู่ทอง จึงได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อจับกุมและพบนายกิตติพงษ์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมา ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงได้แสดงสัญญาณให้หยุดและขอการตรวจค้นตัว พบยาไอซ์ซุกซ่อนในกางเกงในของนายกิตติพงษ์ จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดี

จากการสอบถามนายกิตติพงษ์ ทราบว่าเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ก่อนหน้านี้ได้เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนที่ศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมกับซื้อยาไอซ์ เพื่อนำไปเสพกับเพื่อน ส่วนเงินที่ตรวจค้น อ้างว่าเป็นเงินที่มารดาให้ไปจ่ายค่าเทอม เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกู่ทอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมานำประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน

วันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) ที่วัดสุทธจินดา วรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กว่า 200 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 50 รูป ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน โดยภายหลังจากพิธีตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส และพระธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัสุทธิจินดา วรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกันเป็นประธานประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาส สวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน อีกด้วย

ตามที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เห็นชอบให้มีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ในวันนี้ (12 ธ.ค.) ในส่วนกลางกำหนดจัด ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทางจังหวัดนครราชสีมา จึงร่วมจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน พร้อมกับจังหวัดอื่นๆ เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในครั้งนี้

จังหวัดนครราชสีมาจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ ตามโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน

วันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) เวลา 09.00 น ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหัน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดหน่วยบริการจังหวัดเคลื่อนที่ ตามโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ทั้งนี้การจัดโครงการดังกล่าวเพื่อให้ประชาชน ทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับบริการในด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานราชการ และเป็นการเพิ่มองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่นำไปใช้ในการดำรงชีวิต เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพของประชาชน โดยภายในงานได้มีหน่วยงานราชการ มาตั้งบูทให้คำปรึกษาในด้านการเกษตร การบริการทำหมันให้กับสุนัข การตรวจวัดสายตา และการสอนอาชีพให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน อาทิ การเพาะเห็ด การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติกและการสานเครื่องหวายเป็นต้น ซึ่งมี ประชาชนในพื้นที่ เข้ามารับบริการจำนวนมาก ในโอกาสเดียวกันนี้ ดร.วินัยบัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งมอบนโยบายของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ การแก้ปัญหายาเสพติดของจังหวัด การแก้ปัญหาความยาจน การรักษาศิลปวัฒนธรรม ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ และการรักษาความสงบในพื้นที่ชุมชนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมกันนี้เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ยังได้นำถุงยังชีพ จำนวน 100 ชุด มามอบให้กับผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ อีกทั้งยังได้มีการมอบจักรยานให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน และการมอบพันธุ์ปลา กล้าไม้ ให้กับผู้นำชุมชนในพื้นที่อีกด้วย

จังหวัดนครราชสีมา คัดเลือกสัญลักษณ์กีฬาแห่งชาติและคนพิการแห่งชาติที่โคราช โดยผู้ส่งผลงานร่วมประกวด กว่า 185 ผลงาน

วันนี้ ( 12 ธ.ค.56 ) ที่ห้องประชุมย่อยศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมการประกวดภาพสัญลักษณ์การแข่งขัน สัญลักษณ์สัตว์นำโชค และคำขวัญ ครั้งที่ 2 ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 43 และกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 33 โดยหลังครบกำหนดส่งผลงานเข้าประกวดในวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดในทุกประเภทของทั้งสองรายการ จำนวน 185 ผลงานจาก 148 คน ซึ่งที่ประชุมจะทำการคัดเลือกในเบื้องต้นให้เหลือประเภทละ 2-3 ผลงาน เพื่อนำเข้าที่ประชุมใหญ่ทำการพิจารณาคัดเลือกอีกครั้ง ในรายการกีฬาแห่งชาติ สัญลักษณ์การแข่งขัน ผู้ส่งเข้าประกวด 107 ชิ้นงาน ผลงานที่ผ่านการคัดเลือก 3 ชิ้นคือ ผลงานของนายบำรุงอิศรกุล ,นายยอดศักดิ์ ประชาราษฎร์ และนายถวัลย์ ดิษฐสุธรรม ซึ่งยังมีส่วนที่ปรับในรายละเอียดอีกหลายจุดของทั้งสามชิ้นงาน ,ประเภทสัตว์นำโชค คณะกรรมการเลือกผลงานของนายสมพงษ์ รัตนกุญชร ที่เป็นช้างสี่งายืนยกขาไปข้างหลังหนึ่งข้างในลักษณะจะก้าวเดิน โดยในมือขวาถือคบเพลิงที่มีเลข43อยู่ในเปลวไฟ แต่ยังต้องปรับสีเสื้อ กางเกง รวมถึงสีผิวของตัวช้างให้เหมาะสม ด้านคำขวัญยังไม่มีที่ถูกใจของคณะกรรมการ จึงมีการเลือกมาจำนวน 4 ชิ้นงานและปรับเปลี่ยน ประกอบด้วยผลงานของนายถวัลย์ ดิษฐสุธรรม ปรับเป็น น้ำใจคือชัยชนะ ,นายศุภชัย วงษ์บุตร ปรับเป็น พลังกีฬา พลังสร้างสรรค์ ,นายปฐวี วัชรเดชากุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 โรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย 2ชิ้นงานปรับเป็น สร้างมิตรไมตรี สร้างสามัคคีด้วยกีฬา และปลูกรัก สร้างสามัคคี เพิ่มมิตรไมตรี

 ขณะที่ในรายการกีฬาคนพิการแห่งชาติ สัญลักษณ์ประจำการแข่งขัน ที่ประชุมเลือกผลงานของ นายอดิศักดิ์ ม่วงคง และนายธานี เหมือนนุช สองชิ้นงาน ,สัตว์นำโชคผลงนาของ นายภานุวัฒน์ เสงี่ยม ที่เป็นไดโนเสาร์แฮดโรซอ ยกเท้าซ้ายเหนือพื้นลักษณะก้าวเดิน มือซ้ายชูคบเพลิงมือขวาโชว์เหรียญรางวัลที่ห้อยคอ พร้อมผูกผ้าขาวม้าที่เอว และนายสมพงษ์ รัตนกุญชร ที่เป็นไดโนเสาร์ ราชสีมาซอรัส หรือสุรนารีเอ ยืนเต็มเท้าสองข้าง มือขวากางออก มือซ้ายชูคบเพลิง สุดท้ายคำขวัญยังไม่มีที่ถูกใจคณะกรรมการ จึงมีการเลือกมาจำนวน 4 ชิ้นงานและปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ผลงานของนายกิตติบดี บัวหลวงงาม ใช้ว่า ชนะกายชนะใจ ,นายถวัลย์ ดิษฐสุธรรม ใช้ว่า พลังแห่งมิตรภาพ และความเสมอภาค และนายปัญญา อดุงศิริเทพ ปรับเป็น แรงศรัทธา สร้างชัยชนะ โดยที่การคัดเลือกในเบื้องต้นของคณะกรรมการพิจารณาครั้งนี้ จะนำเสนอในที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม เวลา 14.00 น. เพื่อทำการคัดเลือกและสรุปอย่างเป็นทางการ ให้เหลือเพียงหนึ่งเดียวในแต่ละประเภท ก่อนประกาศผลให้ได้รับทราบ.

จังหวัดขอนแก่น ทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระสังฆราชฯ

จังหวัดขอนแก่น ทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน

ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา

เมื่อเช้าวันนี้ ( 12 ธันวาคม 2556 ) ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดศรีจันทร์พระอารามหลวง อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น พุทธศาสนิกชน ชาวจังหวัดขอนแก่น ได้พร้อมใจกันทำบุญตักบาตร และถวายภัตตาหารเช้า แด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีนายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี มีหน่วยงานส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน มาร่วมพิธีจำนวนมากด้วย



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/วิภาอนงค์ นศ.ฝึกงาน/พิมพ์

ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ คาดปมปาหินใส่รถบรรทุกน่าจะมาจากความโกรธแค้น ไม่ใช่วัยรุ่นคึกคะนอง

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยปมคนร้ายปาหินใส่รถบรรทุกบนถนนกาฬสินธุ์-ห้วยสีทน น่าจะมาจากความโกรธแค้น ไม่ใช่ชิงทรัพย์หรือวัยรุ่นคึกคะนอง เพราะเป็นเวลากลางวัน สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หาข้อมูลเพื่อหาตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว

จากเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าวันที่วันที่ 11 ธันวาคม 2556 เกิดเหตุรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน 81-7997 กาฬสินธุ์ ที่จะไปขนแป้งมันที่โรงแป้งถูกคนร้ายปาหิน ถูกกระจกรถแตกบริเวณคนขับและข้างคนขับ ทำให้ นายสุทัศน์ โลหะบาล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 8 ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บหน้าผากแตก คิ้วด้านขวาแตกเป็นแผล ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 12 ธันวาคม 2556 ) พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และชุดสายตรวจได้เดินทางไปที่บริเวณร้านเสถียรมอเตอร์ ถนนสหัสขันธ์-ห้วยสีทน อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ตรวจสอบเพื่อหาแนวทางสืบสวน สอบสวน หาคนร้ายมาดำเนินคดี และสอบถามนายสุทัศน์ โลหะบาล คนขับรถบรรทุกที่ถูกปาหินเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุการณ์ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากความโกรธแค้น คงไม่ใช่การก่อเหตุเพื่อหวังชิงทรัพย์ หรือความคึกคะนองของวัยรุ่นแต่อย่างใด เพราะนายสุทัศน์ ได้ใช้เส้นทางเส้นนี้มาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว อีกอย่างถนนเส้นนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นทางลูกรัง การขับรถบรรทุกอาจมีก้อนหิน กระเด็นใส่รถที่ขับสวนกลางใช้ถนนด้วยกัน หรืออาจมีการขับไปเบียด แซง ทำให้เกิดความไม่พอใจกันก็เป็นไปทั้งหมด ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายทราบว่าใช้มือขวาถือก้อนหินปาใส่รถ ส่วนมือซ้ายจับแฮนด์รถจักรยานยนต์ คาดว่าคนร้ายน่าจะจอดซุ่มดูอยู่แล้วพอเห็นรถมาจึงปาหินใส่แล้วรีบขับรถหนีไป อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ได้มีการแบ่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลทั้งจากการทำงานของนายสุทัศน์ , หรือแก๊งค์ต่าง ๆ เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวได้รู้สึกปลอดภัยด้วย



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว
ชนะชัย ภูแสงศรี / ภาพ

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ใช้กุศโลบายใช้รถกู้ภัยท้องถิ่นสร้างสถานการณ์ป้องกันอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖ – ๒ มกราคม ๒๕๕๗ เป็นช่วงคุมเข้มในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗ จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดบริการทั้งถนนสายหลัก ถนนสายรองตามหมู่บ้านชุมชน และให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในการจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการ ๓ ม คือ เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย ๒ ข คือ ใบขับขี่ รัดเข็มขัดนิรภัย ๑ ร คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด รวมทั้งแซงในที่คับขัน ขับขี่รถย้อนศร ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง และโทรศัพท์ขณะขับขี่ นอกจากนั้นแล้วยังให้เข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่มีใบอนุญาตใบขับขี่ หากพบให้ยึดรถไว้ก่อน เพื่อให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือเจ้าของรถมารับรถคืนภายหลัง สำหรับผู้ที่อยู่ในอาการเมาสุราให้กักตัวไว้ก่อน จนกว่าจะหายจากอาการเมาสุรา  และหากผู้ที่เมาสุราแล้วเกิดอุบัติเหตุในช่วง  7 วัน อันตราย ให้สืบสวนขยายผลเอาผิดกับร้านค้าหรือสถานที่บริการ ที่จำหน่ายเหล้าหรือเครื่องดื่ม ให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีทุกราย

ผู้ว่าราชารจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุส่วนมากเป็นเวลาพลบค่ำ และกลางคืนในถนนสายรอง ในปีนี้จึงจึงมีคำสั่งให้ เทศบาล อบต. ได้ใช้รถกู้ภัยออกวิ่งเปิดไฟ เปิดไซเรนในช่วงดังกล่าว ให้ประชาชนเกิดความตื่นกลัวว่าเกิดอุบัติเหตุตลอดเวลา จะได้ตระหนักและสำนึกไม่ออกจากบ้าน หรือเมาและขับรถซึ่งนับว่าเป็นกุศโลบายที่ใช้ได้ผลมาแล้วหลายจังหวัดที่ไม่มีอุบัติเหตุ



สุรพล คุณภักดี / ข่าว

แก๊งปาหินใส่รถบรรทุกสิบล้อถนนกาฬสินธุ์-ห้วยสีทน คนขับได้รับบาดเจ็บ

เกิดเหตุคนร้ายปาหินใส่รถบรรทุกสิบล้อ บนถนนสายกาฬสินธุ์-ห้วยสีทน คนขับรถได้รับบาดเจ็บหน้าผากแตก คิ้วแตก คาดเป็นวัยรุ่นคึกคะนอง ด้านตำรวจเร่งสอบสวนลงพื้นที่หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

วันที่ 11 ธันวาคม 2556 พ.ต.ท.สมจันทร์ ภูมี สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกถูกปาหิน คนขับรถได้รับบาดเจ็บ ที่ถนนกาฬสินธุ์-ห้วยสีทน หน้าร้านจำหน่ายรถยนต์มือสอง หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ , หน่วยกู้ภัยมูลนิธิคุณธรรมสงเคราะห์กาฬสินธุ์ เต๊กก่าจีสิ่งเกาะ ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน 81-7997 กาฬสินธุ์ สภาพกระจกด้านหน้าฝั่งคนขับ และคนนั่งข้างแตกเป็นรูขนาดใหญ่ บริเวณเบาะนั่งพบก้อนหินอิฐบล็อก ตกอยู่แตกออกเป็นก้อนจำนวน 5 ก้อน มีนายสุทัศน์ โลหะบาล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 8 ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บหน้าผากแตก คิ้วด้านขวาแตกเป็นแผล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

จากการสอบถามนายสุทัศน์ โลหะบาล คนขับรถบรรทุก ทราบว่า ได้ขับรถออกมาจากบ้านที่อำเภอยางตลาด มุ่งหน้าไปบ้านหนองกุง ตำบลหนองกุง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อไปขนแป้งมันสำปะหลังที่โรงแป้ง นำไปส่งให้กับลูกค้า และเมื่อขับรถมาถึงบริเวณร้านจำหน่ายรถยนต์มือสอง ร้านเสถียรมอเตอร์ ถนนสหัสขันธ์ - ห้วยสีทน เห็นชายสวมเสื้อสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน สวมหมวกกันน๊อคเต็มใบ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ ตนเห็นมื้อด้านหนึ่งถือก้อนหิน มืออีกข้างจับที่รถจักรยานยนต์แล้วปาก้อนหินมาใส่ที่รถของตน ก้อนหินถูกกระจกมองข้าง ทำให้แตกออกถูกกระจกหน้ารถแตก ทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว แต่ถือว่าโชคดีที่ตนขับรถไม่เร็วไม่เช่นนั้นอาจถึงแก่ชีวิตได้ และที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง ทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน ตนก็ยังงงกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เหมือนกัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า น่าจะเป็นวัยรุ่นที่คึกคะนอง และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ต่อไป



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว