วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร บริการสู่ชุมชน ณ จัดหางานสาขาคำชะอี

นายสมพัฒน์ โพชนิกร จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์จัดหางานสาขาคำชะอีขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอคำชะอี ชั้น 2ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี เพื่อเป็นการขยายการให้บริการของสำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหารไปสู่ชุมชนในเขตพื้นที่ห่างไกลให้ได้รับข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงานและเข้าถึงการบริการจัดหางานด้วยความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยจัดเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหารออกไปให้บริการจัดหางาน รับลงทะเบียนหางาน ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน รับรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน และให้คำปรึกษาแนะแนวอาชีพ ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ตำแหน่งงานว่าง ตลอดจนประสานแหล่งจ้างงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อหาตำแหน่งงานว่าง

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้นายจ้าง สถานประกอบการที่ต้องการคนหางาน ผู้ที่กำลังหางานทำ นักเรียน/นักศึกษา ที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงได้ทราบและใช้บริการสมัครงาน ได้ที่ศูนย์จัดหางานสาขาคำชะอี ที่ตั้ง ณ ที่ว่าการอำเภอคำชะอี ชั้น 2ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี ในทุกวันจันทร์ถึงวันพุธ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ในการมาใช้บริการจัดหางานด้วย สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมศูนย์จัดหางานสาขาคำชะอี ที่ว่าการอำเภอคำชะอี โทร 042-691333



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ยโสธรม็อบสวนยางบุกศาลากลางซ้อมแผน

ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ฝึกทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่รับมือม็อบสวนยางที่อาจจะเกิดขึ้นได้  ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในการฝึกทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน  ซึ่งเป็นการสนธิกำลัง ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับเจ้าหน้าที่ อส.จาก 9 อำเภอ  โดยสมมุติเหตุการณ์ว่า ได้มีม็อบสวนยางพารา เข้ามาปิดล้อมศาลากลางจังหวัดยโสธร เพื่อมาขอเพิ่มราคายางพารา พร้อมขู่ว่าจะยึดศาลากลาง นายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จึงได้สั่งการให้สนธิกำลัง ระหว่างกองร้อยอาสารักษารักษาดินแดนหรือ อส. จาก 9 อำเภอ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 500 นาย เข้าระงับเหตุ โดยใช้ยุทธวิธีที่ที่ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับฝูงชน  ปรากฏว่าการเข้าระงับเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ อส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 1 ช.ม  จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ ไว้ได้โดยสามารถจับกุมแกนนำม็อบไว้ได้จำนวนหนึ่ง จากนั้นบรรดาลูกม็อบก็ได้สลายตัวกับไป โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

มูลนิธิดำรงชัยธรรม มอบทุนการศึกษาเรียนฟรี จนจบปริญญา 34 ทุน

มูลนิธิดำรงชัยธรรม โดยนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรีให้แก่เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เรียนดี ประพฤติดีและมีความสามารถ มากกว่า 15 ปีแล้ว ขณะนี้มูลนิธิได้เปิดโครงการ "ทุนสร้างคน สร้างบัณฑิต รุ่นที่ 16/2557” ขึ้น โดยมอบทุน จำนวน 34 ทุน เป็นทุนการศึกษาต่อเนื่องให้เปล่า จนจบปริญญาตรี แบ่งเป็นทุนสายสามัญ 20 ทุน และทุนสายอาชีพ 14 ทุน มีกำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่สิงหาคม – 30 กันยายน 2556 ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 และม.6 และปวช.2 ในรายอาชีพ ขอทราบรายละเอียดและติดต่อได้ที่ สถาบันการศึกษาของท่าน

สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.02-669-9711 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลาทำการ 09.00-18.00 น.



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 29 สิงหาคม 2556

ศูนย์ศิลปชีพบางไทรรับนักเรียนเข้าอบรมความรู้ด้านศิลปาชีพ 31 แผนก

ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดนครศรีอยุธยา เปิดรับสมัครนักเรียนศิลปาชีพ รุ่นที่ 79 เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมความรู้ด้านศิลปาชีพ สำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (สพช.กสอ.) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกผู้มีรายได้น้อยและยากจน ที่มีคุณสมบัติตามระเบียบการรับสมัครนักเรียนศิลปาชีพ โดยเข้ารับการฝึกอบรมความรู้ด้านศิลปาชีพ จำนวน 31 แผนก ระหว่างเดือนตุลาคม 2556 – เดือนมีนาคม 2557 รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน เพื่อให้บุคคลมีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมศิลปาชีพ

เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว สามารถสมัครโดยตรงได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดยโสธร ภายในวันที่ 27 กันยายน 2556 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดยโสธร ภายในวันที่ 27 กันยายน 2556 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสมใจ ยาวะโนภาส โทรศัพท์ 087-5009710 คุณทัศนีย์วรรณ มณีท่าโพธิ์ โทรศัพท์ 089-5340662



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 29 สิงหาคม 2556

ศรีสะเกษ - ผวจ.ศรีสะเกษ เสริมความเนี้ยบ ให้กับครูฝ่ายปกครอง เพื่อกระตุ้นระเบียบวินัย และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ส.ค. 56 ที่ห้องประชุมเพชร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต.1 อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 จัดขึ้น โดยมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาบุคลากรครู อาจารย์ ให้สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปปรับใช้ตามบริบทกับนักเรียนในสถานศึกษา เพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังป้องปรามพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน ในการอยู่ร่วมกับสังคม ตลอดจนดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยมี นายชอุ่ม กรไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต1 นำ คณะครู อาจารย์ ในสังกัด เข้าร่วมรับการฝึกอบรม นายชอุ่ม กล่าวว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานด้านการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต.1 จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาในสังกัดทุกแห่ง จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมคุ้มกันปัญหายาเสพติด และสร้างจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา ได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ของตนเอง ตลอดจนให้ครู อาจารย์ ที่เข้าฝึกรับการอบรม นำความรู้ที่ได้ไปปรับเปลี่ยนและสร้างพฤติกรรมเชิงบวกให้เยาวชน เพื่อเป็นการพัฒนาที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียนและชุมชนในภายภาคหน้า ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ปัจจุบันนี้ ปัญหาต่างๆในสถานศึกษา เกิดขึ้นเพราะวิวัฒนาการของโลก และกระแสสังคมที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว จนบางทีผู้ใหญ่ อาจไม่เข้าใจในความคิดเด็กในปัจจุบัน ว่าต้องการในเรื่องใด ซึ่งจะยกหน้าที่การแก้ไขปัญหาทั้งหมด ให้ครูฝ่ายปกครอง เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ผู้ปกครอง ตลอดจน ผู้ที่เกี่ยวข้องในการรับผิดชอบสถานศึกษา ต้องมีส่วนร่วมกันในการดูแล นักเรียน ในสถานศึกษา และสร้างความเข้าใจความถูกต้องเกี่ยวกับสังคม ให้นักเรียนได้เข้าใจ และสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่าง มีความสุขและปลอดภัย

สสวท. ลงพื้นที่ ร.ร.บ้านสดำ ติดตาม โรงเรียนต้นแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการ

วันนี้ (28 ส.ค. 56) ที่โรงเรียนบ้านสดำ ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ นางพรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่ พื้นที่ ที่โรงเรียนบ้านสดำ ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ติดตามการดำเนินงานศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย โรงเรียนต้นแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการปฐมวัย พร้อมทั้งได้เปิดเผยว่า การส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นการวางราฐานการเรียนรู้ทีสนองต่อธรรมชาติ และพัฒนาการทุกด้าน ส่งผลให้เด็กมีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถพัฒนาตนเองและสังคมต่อไปในอนาคต สสวท. จึงได้ดำเนินโครงการบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ในรูปของกิจกรรมบูรณาการู้ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการสืบเสาะหาความรู้ การคิด การลมือแก้ไขปัญหาด้วยปะสบการณ์ตรงอย่างเหมาะสม กับวัย และเป็นไปตามหลักการจัดการศึกษาปฐมวัย โดยได้จัดทำการอบรมมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ปฐมวัย หนังสือคู่มือกรอบมาตรฐาน เอสารตัวอย่างการจัดกิจกรรม ชุดอุปกรณ์และสือบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีปฐมวัย จัดอบรมครู และอื่นๆ

นอกจากนั้น สสวท. ยังได้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย เพื่อให้เป็นต้นแบบนากรเผยแพร่การเรียนรู้ปฐมวัยตามแนวทางของ สสวท. กระจายสู่โรงเรียนต่างๆทั่วประเทได้อย่งทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีศูนย์ดังกล่าว จำนวน 2 แห่ง เมื่อปี พ.ศ. 2554 ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีปฐมวัย รียนเทศบาลวัดปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย โรงเรียนบ้านสดำ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสสะเกษ โดยชุมชนผู้ปกครอง และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับสาถนศึกษาผลักดันและพัฒนาศูนย์ดังกล่าว

ผอ.สสวท. กล่าวอีกว่า ครูปฐมวัยที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในศูนย์ฯ จะมีโอกาสในการพัฒนาวิชาชีพผ่านระบบเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีนักวิชาการของ สสวท. เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาทางวิชาการ ตลอดจนมีการส่งเสริมให้ครูร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์การสอนและพัฒนาวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ โดยนำมาทดลองจัดเป็นกิจกรรมภายในศูนย์ก่อนเผยแพร่สู่ชั้นเรียนต่อไป

จังหวัดอุดรธานี จัดประชุมกรมการจังหวัดประจำเดือนสิงหาคม 2556

จังหวัดอุดรธานี จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา นายอำเภอจังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 8/2556

เช้าวันนี้ ( 29 ส.ค.56 ) ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสถานศึกษา นายอำเภอ จังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 7/2556 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประชุม

โดยก่อนการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้นำเสนอ โครงการ 1 ไร่ได้ 1 แสนชาวนาเงินล้าน ซึ่งเป็นโครงการที่ผู้ว่าฯปรับพื้นที่ 16 ไร่ เป็นไร่นาสวนผสม สร้างเป็นจุดสาธิตและจุดเรียนรู้แก่เกษตรกร และผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ภายใต้สโรแกน ข้าราชการวันธรรมดา ชาวนาวันหยุด ประชาสัมพันธ์การแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คิงส์คัพ โครงการเพลินเพลงเพื่อแผ่นดิน แต่งไทยใส่ผ้าซิ่น ออนซอนเมืองอุดรธานี 121 ปีและโครงการส่งเสริมตลาดผ้านาข่า

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มอบรางวัลการดำเนินงานเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ 2556 โดยรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ ออนซอนอุดร โดยนายกฤษฎา อึ่งมณีประเสริฐ รองชนะเลิศอันดับ1 สื่อโทรทัศน์ เรื่องต้นแบบ โดยนางลักษิกา บุญโนนแต้ รองชนะเลิศอันดับ 2 สื่อสิ่งพิมพ์ เรื่องหวานแหวว โดย นางคำปุ่น ทิพย์โชติ รางวัลประกวดนักประชาสัมพันธ์สื่อปลอดภัยในสถานศึกษา อนุรักษ์อย่างไร เมื่อกว้าไปสู่อาเซียน ระดับประถมศึกษาชนะเลิศ เด็กหญิงปฏิพร มะลิ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 72 หรือ โรงเรียนเทศบาล 8 รองชนะเลิศอันดับ 1 เด็กหญิงสุพรรษา เสมอสาย โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 72 รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงจีระนันท์ จันทร์ศรจักร โรงเรียนบ้านหนองนกเขียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชนะเลิศ เด็กหญิงสิรินภานาถ ใต้กิ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 เด็กหญิงนันทววัน ปัดชาทุม โรงเรียนพันดอนวิทยา รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงเนตรนภา คำเสนา โรงเรียนพันดอนวิทยา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายชนะเลิศ นางสาวปิ่นปินันท์ แสงจันทร์ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 นางสาวพัณณิตา สะอิ้งทอง โรงเรียนสตรีราชินูทิศ รองชนะเลิศอันดับ 2 นางสาวณัฐชยา พาน้อย โรงเรียนสตราชินูทิศ ผลการประกวดหนังสั้น วัยใสห่างไกลยาเสพติด คิด รู้เท่าทันสื่อ ชนะเลิศ เรื่องแค่ใส่ใจ ทีม HD FILM วิทยาลัยสันตพล รองชนะเลิศ เรื่องเกือบ.. ทีมพะยูงฟิลม์ โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1 อุดรธานี รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง ยา ติด ตัว ทีมลูกนิมิตฟิลม์ วิทยาลัยสันตพล ผลการประกวด VTR สื่อพื้นบ้าน รณรงค์สร้างค่านิยมพื้นฐานจังหวัดอุดรธานี ชนะเลิศ เรื่อง บุญบั้งไฟบ้านธาตุ โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม รองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่องน้ำหยดสุดท้าย โรงเรียนอุดรพัฒนาการ รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่องการทำนา โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม มอบประกาศเกียรติคุณสถานศึกษษในจังหวัดอุดรธานี มอบประกาศเกียรติคุณ โครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ซึ่งบริษัทอุดรมาสเตอร์เทค จำกัด ได้รับเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณระดับทอง บริษัท ถาวรอุดร จำกัด หรือโรงแรมเจริญโฮเต็ล ได้รับเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณระดับทองแดง ส่วนเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณระดับต้น มี 5 บริษัทที่ได้รับราวัล อาทิ บริษัท ควอลิตี้ แอสเซ็มบลี่ (ไทยแลนด์ จำกัดอุดรธานี ,บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) คลังน้ำมันอุดรธานี บริษัท พรของแม่ ดี.ซี.จำกัด ,บริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ศูนย์จ่ายปูนซีเมนต์อุดรธานี บริษัท โฮมโปรดักส์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) อุดรธานี
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี แนะนำหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดอุดรธานีในเดือนสิงหาคม 2556 อาทิ นายเริงฤทธิ์ พลนามอินทร์ วัฒนธรรมจังหวัดหนองคายย้ายมาดำรงตำแหน่งวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี สำหรับวาระการประชุมในเดือนสิงหาคม 2556 ประกอบด้วย การชี้แจงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินสวัสกดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครืองไตเทียม ซักซ้อมความเข้าใจการส่งรายงานการใช้จ่ายเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน การติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ประจำปี 2556 รายงานผลการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ลำน้ำห้วยหลวง การจัดทำหนังสือที่ระลึกฉลอง 121 ปี เมืองอุดรธานี 121 แบบผ้าไทยจังหวัดอุดรธานี รายงานผลการดำเนินงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดธานี การขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดอุดรธานี การแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี ประชาสัมพันธ์ผ้าป่าสามัคคีของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี จัดงาน “สหกรณ์ไทย รวมใจ สู่อาเซียน ประจำปีงบประมาณ 2556”

วันที่ 28 สิงหาคม 2556 ณ บริเวณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน สหกรณ์ไทย รวมไทย สู่อาเซียน ปีงบประมาณ 2556 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดทำโครงการ สหกรณ์ไทย รวมใจสู่ อาเซียน ปีงบประมาณ 2556 ในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ งานของขบวนการสหกรณ์ ให้เป็นที่รู้จักไปอย่างแพร่หลาย การจัดงานครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และเครือข่ายกลุ่มอาชีพในจังหวัดอุบลราชธานี กำหนดจัดงานขึ้น ระหว่างวันพุธที่ 28 สิงหาคม – ถึงวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า) อำเภอเมือง กิจกรรมในงานประกอบด้วย จัดเสวนา ในหัวข้อ "คุณได้อะไรจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน” การแข่งขันตอบปัญหา เกี่ยวกับอาเซียน การแข่งขันประกวดวาดภาพสีไม้ ในหัวข้อ "อาเซียนในฝัน” การจัดนิทรรศการ วาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มอาชีพสหกรณ์ สินค้า OTOP จากทั่วประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว จำนวน 110 บูธ โดยมีสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องประดับ หัตถกรรมพื้นบ้าน ของใช้ตกแต่งบ้าน อาหาร เครื่องดื่มสมุนไพร และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จำนวนมาก.




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

จังหวัดสุรินทร์ จะเปิดใช้สนามบินครั้งแรกต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เพื่อฉลองงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 53 อย่างยิ่งใหญ่

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้เร่งดำเนินการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้สนามบินสุรินทร์ภักดี ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ปรับปรุงสนามบินฯให้สามารถเปิดใช้ได้ก่อนการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 53 โดยคาดว่าเที่ยวบินปฐมฤกษ์จะทําการทดสอบการบินในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 และในระหว่างเดือนกันยายนนี้ทางสายการบินนกแอร์จะได้มาตรวจสอบความพร้อมเป็นระยะและหากมีความพร้อมจะได้ทดสอบบินต่อไป

สำหรับการเปิดใช้สนามบินสุรินทร์ภักดีแห่งนี้ เคยเปิดใช้มาแล้ว เป็นการเปิดสนามบินพาณิชย์เพื่อเพิ่มความสามารถ เพื่อรองรับกับการท่องเที่ยว การพาณิชย์ เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์กับกัมพูชาประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเชื่อมต่อไปยังด่านชายแดนถาวรช่องจอมและเป็นก้าวใหม่อีกกิจกรรมหนึ่งขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ที่ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ต่อท้องถิ่นในภารกิจขนาดใหญ่ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เข้าไปดำเนินการในส่วนการบริหารท่าอากาศยาน สนามบินสุรินทร์ภักดี โดยเปิดบริการในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2545 รองรับเทศกาลงานช้างสุรินทร์ ทำการบินโดยสารสายการบินแอร์อันดามัน จนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 สายการบินแอร์อันดามัน ได้หยุดให้บริการเนื่องจากประสบภาระการขาดทุนจากการให้บริการการบินในเส้นทางอื่น

ซึ่งในครั้งนี้ ได้มีการปรับปรุงสภาพพื้นที่เดิมให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อเปิดเส้นทางการคมนาคมทางอากาศในปี 2556 รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน และเป็นประตูสู่อาเซียนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง เป็นศูนย์กลางการบินในอีสานใต้ ส่งนักท่องเที่ยวสู่กัมพูชา เวียดนาม และภูมิภาคต่างๆ และเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยเฉพาะการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 53 ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 รวม 12 วัน ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ และกำหนดจัดงานแสดงของช้างที่ยิ่งใหญ่ในโลก ในวันที่เสาร์ที่ 16 และวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ให้ยิ่งใหญ่และเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่นทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย

จ.สุรินทร์พบผู้เสียจากไข้เลือดออกแล้ว 6 ราย พร้อมจัดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออกให้นายอำเภอเร่งดำเนินการตามมาตรการอย่างเร่งด่วน

นายสอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกงานระบาดวิทยาสสจ.สุรินทร์ ว่า จากข้อมูลระหว่าง ๑ มกราคม – 20 สิงหาคม 2556 พบผู้ป่วย 3,215 รายอัตราป่วย 232.39 ต่อแสนประชากร ผู้ป่วยเสียชีวิต 6 ราย อําเภอเมืองสุรินทร์ 3 ราย ในเขตเทศบาล ตําบลเพี้ยราม และตําบลคอโค อำเภอสังขะ ใตตําบลขอนแตก ,ศีขรภูมิ ใตตําบลระแงง และสนม อําเภอละ 1 ราย อัตราตาย 0.36 ต่อแสนประชากรอัตราป่วยตายร้อยละ 0.16

ซึ่งนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ให้จังหวัดสุรินทร์ดําเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออกโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอําเภอเป็นหัวหน้าศูนย์ดังนั้น พร้อมทั้งมอบให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประสานการทํางานในศูนย์โดยทําหน้าที่เป็นเลขานุการเน้นหนักเรื่องการชี้เป้าในการป้องกันควบคุมโรคการระดมทรัพยากรในพื้นที่ร่วมกันดําเนินการดังนี้ 1. ให้ทุกอําเภอเปิดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออกโดยมีนายอําเภอเป็น ประธาน สาธารณสุขอําเภอเป็นเลขา 2. การกําจัดยุงตัวเต็มวัยในหมู่บ้านที่พบผู้ป่วยในวันที่ 1 และวันที่ 7 โดยให้ดําเนินการ เข้มข้นในทุกหมู่บ้านเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ 3. รายงานการดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง 4. ติดป้ายรณรงค์ในทุกอําเภอ

ผู้แทนสำนักราชเลขาธิการประชุมร่วมกับจังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทาน

ผู้แทนสำนักราชเลขาธิการ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานฯ ซึ่งกำหนดในวันที่ 12 กันยายน นี้ ที่อำเภอกุดรัง

นายฐากร ธรรมประทีป ผู้ช่วยราชการเลขาธิการ พร้อมด้วยนายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัดมหาสารคามและอำเภอกุดรัง ประชุมร่วมกันเพื่อหารือเรื่องการจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานแก่ราษฎรในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตามที่ได้มีราษฎรผู้ฎีกาขอรับความช่วยเหลือตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักราชเลขาธิการ ดำเนินการตามโครงการดังกล่าว เนื่องจากการเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎรตามพื้นที่ต่าง ๆ ในปัจจุบัน ไม่สามารถทำได้เหมือนในอดีต

สำหรับจังหวัดมหาสารคาม มีราษฎรผู้ฎีกาที่ผ่านการคัดเลือกตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางเข็มพร ขันสีโพธิ์ ราษฎรอำเภอบรบือ และนางลาภิส ขาวธรรมา ราษฎรอำเภอเมือง พร้อมทั้งนำสิ่งของพระราชอีก 500 ชุดมามอบให้กับราษฎร โดยสำนักราชเลขาธิการ ได้กำหนดให้จังหวัดมหาสารคาม จัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทาน ในวันที่ 12 กันยายน 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ที่หอประชุมโรงเรียนนาโพธิ์พิทยาสรรพ์ อำเภอกุดรัง โดยพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมนี้สำนักราชเลขาธิการยังได้นำหน่วยแพทย์พระราชทานจากโรงพยาบาลรามาธิบดี มาบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป และโรคทางทันตกรรม ขณะที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ก็จะมาให้บริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะมาให้คำปรึกษาและเผยแพร่ความรู้ในวันดังกล่าวด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม จัดแข่งขัน To be number one teen dancercise

จังหวัดมหาสารคาม จัดกิจกรรม To be number one ด้วยการประกวดชมรม To be number one และแข่งขัน To be number one teen dancercise ประจำปี 2556 พร้อมเชิญชวนผู้ร่วมงานบริจาคคนละ 1 บาท สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม To be number one จังหวัดมหาสารคาม

ที่บริเวณลานกิจกรรม หน้าห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับสถานศึกษา ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน จัดกิจกรรมตามโครงการ To be number one เป็นหนึ่งได้โดยไม่พึ่งพายาเสพติด โดยมีการประกวดชมรม To be number one และแข่งขัน To be number one teen dancercise ประจำปี 2556 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดกิจกรรม ซึ่งการประกวดในครั้งนี้ เพื่อคัดเลือกทีมตัวแทนในระดับจังหวัด เข้าแข่งขันในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คัดเลือกผู้ชนะ ไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป

กิจกรรมตามโครงการ To be number one ของจังหวัดมหาสารคาม นอกจากจะมีการประกวดชมรม To be number one ในชุมชน สถานศึกษา และสถานประกอบการแล้ว ยังมีการแข่งขัน To be number one teen dancercise ทั้งในรุ่นอายุ 6-9 ปี 10-14 ปี และ 15-22 ปี พร้อมเชิญชวนผู้ร่วมงานบริจาคคนละ 1 บาท สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม To be number one จังหวัดมหาสารคามด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดมหาสารคามมอบใบรับรองมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ

ที่ห้องประชุม 406 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯประจำเดือนสิงหาคม 2556 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดมหาสารคามมอบใบรับรองมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ โดยมีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน

นางอรัชพร เทพวัลย์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและกรมคุ้มครองแรงงานได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการจัดทำระบบมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการให้เป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 กำหนดให้สถานประกอบการในจังหวัดมหาสารคาม สามารถสมัครเข้าร่วมจัดทำระบบมาตรฐานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ โดยมีสถานประกอบกิจการที่ผ่านการเกณฑ์การประเมิน 15 แห่งทั้งนี้เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สถานประกอบกิจการในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินจังหวัดกาฬสินธุ์พบเสื่อมโทรมมาก 2 พื้นที่

นายวิชัย ตะวัน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 ได้ติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน พื้นที่แม่น้ำปาว ลำปาวน้อย และลำน้ำยังจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้น 12 จุด ในระหว่างวันที่ 3 -6 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำในห้องปฏิบัติการปรากฏดังนี้ น้ำลำน้ำปาว มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีถึงเสื่อมโทรม พื้นที่พบคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี 1 พื้นที่ คือ ที่บริเวณใต้เขื่อนลำปาว ตำบลลำคลอง อำเภอเมือง คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ 3 พื้นที่ บริเวณบ้านดอนสนวน ตำบลหลุบ อำเภอเมือง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำพาน ตำบลหลุบ อำเภอเมือง และบริเวณพื้นที่ตำบลร่องคำ อำเภอร่องคำ คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม 3 พื้นที่ คือ บริเวณพื้นที่เทศบาลตำบลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย บริเวณใต้สะพานท่าคันโท-วังสามหมอ ตำบลดงสมบูรณ์ บริเวณตำบลกุดจิก อำเภอ ท่าคันโท ส่วนคุณภาพน้ำลำปาวน้อยพบอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม 1 พื้นที่ คือ ที่บริเวณวัดอโนมานที บ้านวังเกาะเหล็ก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง พบอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก 2 พื้นที่ คือ ที่บริเวณสะพานข้ามลำปาวน้อยและบ้านสุขสวัสดิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง และคุณภาพน้ำลำน้ำยังอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ทั้ง 2 พื้นที่ คือ ที่บริเวณตำบลสมสะอาดและตำบลกุดค้าว อำเภอกุฉินารายณ์



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ชมรม อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ มอบโล่แก่ อสม.ดีเด่นระดับจังหวัด

ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 พร้อมมอบโล่ แก่ อสม.ดีเด่นระดับชาติ/ภาคเขต/จังหวัด และมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติ อสม.ที่เสียชีวิตเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัว อสม.

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2556 ที่หอประชุมธรรมาภิบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อสรุปและชี้แจงผลการดำเนินงานของชมรา อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้กับสมาชิกได้รับทราบ พร้อมร่วมกันกำหนดการดำเนินงานในส่วนของ อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ในการขับเคลื่อนโครงการกาฬสินธุ์เมืองคนดี สุขภาพดี รายได้ดี (3D) ของผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีประธาน อสม.ระดับจังหวัด, อำเภอ, ตำบล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กว่า 350 คน เข้าร่วมประชุม โอกาสนี้ นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบโล่ พร้อมเกียรติบัตรแก่ อสม.ดีเด่นระดับชาติ/ภาคเขต/จังหวัด จำนวน 10 คน , มอบเกียรติบัตรแก่คณะกรรมการชมรม อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 20 คน, มอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติ อสม.ที่เสียชีวิต จำนวน 21 คน

นายวิจิตร ภูผาสิทธิ์ ประธานชมรม อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวว่า อสม.มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการ "แก้ข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข บำบัดทุกข์ของประชาชน และทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี” ปัจจุบันจังหวัดกาฬสินธุ์มี อสม.ทั้งสิ้นจำนวน 18,500 คน ทำหน้าที่เฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตลอดจนเป็นแกนนำในการสร้างสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชาชน อันจะส่งผลให้ชาวกาฬสินธุ์มีสุขภาพดีแบบพอเพียง ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการพัฒนา อสม.มาโดยตลอดและต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาสุขศาลาต้นแบบกาฬสินธุ์ ให้เป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนในหมู่บ้าน, การจัดอบรมหลักสูตรต่าง ๆ แก่ อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ให้มีศักยภาพในกาทำงานดูแลประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2556 ได้บูรณาการอบรม อสม.การเจาะเลือดจากปลายนิ้วเพื่อหาระดับน้ำตาล โดยเครื่องเจาะเลือดชนิดพกพา เพื่อให้ อสม.มีความเชี่ยวชาญและทักษะในการดูแลประชาชนในชุมชนต่อไป รวมถึงการมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติ อสม.ที่เสียชีวิตจากมูลนิธิ อสม. เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ อสม.ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ จิตอาสาเพื่อชุมชน




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเน้นประชาสัมพันธ์ยาเสพติดตัวใหม่ ระบาดในเยาวชน

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเน้นประชาสัมพันธ์ยาเสพติดตัวใหม่ TRAMADOL ที่ระบาดในเยาวชนขอนแก่นแล้ว

วันนี้ ( 29 สิงหาคม 2556) 13.30 น. ณ ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่น รับทราบผลการดำเนินงานตามแผนพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่น ทั้ง 3ด้าน การป้องกัน ปราบปรามและการบำบัดรักษาเรื่องพิจารณาในเดือนกันยายน 2556 เป็นการสรุปผลการดำเนินงานด้านยาเสพติด จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด รอบ 6 เดือนในส่วนกระทรวงศึกษาธิการวันที่ 16 กันยายน 2556 ดำเนินการ 2 กิจกรรม คือ 1. กิจกรรมเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เยาวชนไทยหัวใจสีขาว จัดที่ห้องประชุมอาคารหลวงปู่บุญเพ็ง กัลปโก มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และกิจกรรมสรุปผลงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขที่ศูนย์วิทยบริการสิรินธร มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย มี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขวันที่ 11 กันยายน 2556 กิจกรรมจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มีนายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ณ ห้องศรีจันทร์ โรงแรมเจริญธานี พร้อมดูงานการบำบัดรักษา โรงพยาบาลธัญญารักษ์

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดจากการจัดอันดับของปปส.อยู่ที่ 2 ของประเทศ ได้คะแนน 45.13 คะแนนจาก 70 % อันดับ 1 เป็นของอุดรธานี ได้ 49.05 คะแนน และอันดับ 3 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ 43.03 คะแนน แต่ยังเหลือคะแนนอีก 30 % จังหวัดต้องเร่งดำเนินการ และในส่วนที่เป็นรูปธรรมการทำBEST PRATICE การดำเนินการด้านยาเสพติดและฝากประชาสัมพันธ์ยาเสพติดตัวใหม่ TRAMADOL ที่ระบาดในเยาวชนขอนแก่น นิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นยากดประสาทซื้อได้ตามร้านขายยา ชุดละ 65 บาทพร้อมยาแก้ไอน้ำดำกินผสมกับโค๊ก ทำให้ไม่รู้สึกตัวเคลิ้บเคลิ้มเป็นอันตรายมาก ตอนนี้ระบาดที่ขอนแก่นมีผู้ป่วยพื้นที่ อำเภอชุมแพแล้ว




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

งานเทศกาลไหมนานาชาติ ปี 2556 สู่ความเป็นสากลรองรับประชาคมอาเซียน

งานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ที่นิยมเรียกว่า งานไหมหรือ งานเทศกาลไหม จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2522 สมัย นายชำนาญ พจนา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ริเริ่มและผลักดันเป็นที่ยอมรับและได้รับความสนใจเท่าทุกวันนี้ ปี 2556 จังหวัดขอนแก่นยกระดับงานไหมสู่กากลเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สำหรับนับปีการปฏิบัติงานเริ่มเทศกาลไหมไม่รวมผูกเสี่ยวครั้งแรกจัดในปี 2522 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ 2556 รวมทั้งสิ้น 36 ปี )หากนับปีที่เริ่มมีพิธีผูกเสี่ยวเริ่มปี 2523 ปัจจุบัน จะเป็นปีที่ 32การจัดงานในปีนี้ เห็นสมควรที่จะยกระดับงานไหมขอนแก่นสู่ความเป็นสากลเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงในปี 2558 ในปี 2556 ปรับรูปแบบงานสู่ความเป็นสากลภายใต้ชื่องาน "เทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น (International Silk Festival Pook Xiao Traditional and Cross Fair in Khonkaen เชิญสมาชิกในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงประกอบด้วย 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ลาว เวียดนาม พม่า กัมพูชา และไทย รูปแบบการจัดงานจัดประชุมสัมมนาจับคู่ธุรกิจระดับอนุภูมิภาค เรื่องเส้นทางการค้าไหม ณ ลุ่มน้ำโขง(Mekong Silk Road )ระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคม 2556เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจไหม การผลิตไหมสู่ตลาดสากล การเสนานวัตกรรมการผลิตไหมโดยผู้เชี่ยวชาญจากจีน สปป.ลาว ธุรกิจไหมระหว่างประเทศโดยไทย กัมพูชา สปป.ลาว การศึกษาดูงานและเจรจาธุรกิจเยี่ยมชมการผลิตหม่อนไหมในพื้นที่ บ้านหัวฝาย ตำบลปอแดง อำเภอชนบท 75 ครัวเรือนต้นแบบในการผลิตไหม การแสดงและจำหน่ายสินค้าจำหน่ายสินค้าผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมจาก 6 ชาติสมาชิก GMS คือ จีน พม่า ลาว ไทย เวียดนาม กัมพูชา ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณ จาก 6 ชาติสมาชิก GMS คือ จีน พม่า ลาว ไทย เวียดนาม กัมพูชา บริเวณด้าน หน้าพระธาตุขามแก่น ประกอบด้วยบูทต่างประเทศ บูทในประเทศโดมปรับอากาศ การจัดแสดงนิทรรศการผ้าไหมและเดินแฟชั่นผ้าไหม การจัดแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม 6 ชาติสมาชิกลุ่มน้ำโขง 30 พ.ย.-1 ธ. ค. 56 การแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน 3-4 ธ. ค.56 การแสดงของเวียดนาม 5-6 ธ.ค. 56 การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย โขนจากมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ชุดหนุมานชาญกำแหง 8-9 ธ.ค. 56 การแสดง สปป.ลาว จังหวัดขอนแก่นเชิญชวนเที่ยวงานและเลือกซื้อผ้าไหมจากประเทศเพื่อนบ้าน ในงานระหว่างวันที่ 29 พ.ย.2556- 10 ธ.ค. 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่น ขอเชิญชมงานเปิดบ้านวิจัยเกษตรวิศวกรรมเพื่อพัฒนาอีสาน ระหว่าง 5 – 6 กันยายน นี้

จังหวัดขอนแก่น โดยศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ขอเชิญชมงานเปิดบ้านวานวิจัยเกษตรวิศวกรรม เพื่อพัฒนาอีสาน มีการนำเครื่องจักร เครื่องกล และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาแสดง ระหว่าง 5 – 6 กันยายน 2556 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5 – 6 กันยายน 2556 นี้ จังหวัดขอนแก่น โดยศูนย์วิจัยเกษตรขอนแก่น ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ได้กำหนดจัดงานเปิดบ้านงานวิจัยเกษตรวิศวกรรม เพื่อพัฒนาอีสาน "ภายใต้แนวคิด เทคโนโลยีก้าวไกล นำไทยสู่ AEC” ณ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเผยแพร่ความรู้การใช้ ซ่อม สร้าง และบำรุงรักษา เครื่องจักรกลเกษตร เพื่อการผลิตพืชอย่างถูกต้อง เหมาะสม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ สร้างความเข้าใจ และพัฒนาองค์ความรู้ด้านการผลิตพืชระหว่างภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC และเพื่อส่งเสริมการใช้การบริหารจัดการเครื่องจักรกลเกษตรเพื่อผลิตพันธุ์พืชพันธุ์ดีสู่เกษตรกร

นายอนุสร เวชสิทธิ์ ผู้อำนวยการศึกษาวิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในงานจะมีการนำผลงานการวิจัยเกี่ยวกับเครื่องจักรกลเกษตรเพื่อการผลิตพืช ของกรมวิชาการ มาแสดงสาธิต โชว์ มีการแสดงนิทรรศการ ประวัติความเป็นมา และผลงานของศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น การแสดงแปลงสาธิตด้านการเกษตรของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา เช่น พันธุ์ถั่วเหลือง พันธุ์พืชไร่เศรษฐกิจ เครื่องจักรกลการเกษตร การสาธิตการแปรรูปผลผลิตการเกษตรของภาครัฐ เอกชน การประกวดผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิตการเกษตร และการเสวนา "ทิศทางการวิจัย และพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตรอย่างไรถึงจะนำไทยสู่ AEC” จังหวัดขอนแก่นจึงขอเชิญเกษตรกร ผู้สนใจ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรเข้าชมงาน ระหว่างวันที่ 5 – 6 กันยายน 2556 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นจัดแถลงข่าวสื่อมวลชนสรุปผลงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ปี 2556

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นจัดแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่นประจำปี 2556

ในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2556 เวลา 10.00 น ณ ห้องภูผาม่าน โรงแรมขอนแก่นโอเต็ล อ.เมือง จังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่นประจำปี 2556

นายสมพงษ์ ปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น รายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการสรุปผลการดำเนินงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่นประจำปี 2556 (ตุลาคม 2555 –สิงหาคม 2556) ผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นางนภาพร วีระตันติกานนท์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ. พงศ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นายเรืองยศ รัตนอุรดินทร์ ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ฯปปส.ภาค 4 ตามนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี(นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)ได้กำหนดให้การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็น"วาระแห่งชาติ”และเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล รวมพลังทุกภาคส่วนเป็นพลังแผ่นดินในการต่อสู้กับยาเสพติด โดย ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่น จัดทำโครงการจังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด เน้นปฏิบัติการ ๓ ด้าน ได้แก่ การป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษาจังหวัดขอนแก่นเพื่อกำหนดเป็น "ระเบียบวาระของจังหวัดขอนแก่น” ซึ่งทุกภาคส่วนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา พื้นที่ที่มีการค้าและแพร่ระบาด ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอกระนวน อำเภอชุมแพ อำเภอพล และอำเภอบ้านไผ่ ยาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดคือยาบ้า ไอซ์ยังเป็นสารเสพติดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ การสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้าน/ชุมชน หมู่บ้าน/ชุมชนไม่มีปัญหายาเสพติดนอกจากนี้จังหวัดขอนแก่นยังได้พัฒนางานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืน เช่น โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ขยายเครือข่าย ชมรมทูบี ฯ ทุกประเภท การพัฒนาศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เพิ่มหมู่บ้านกองทุนแม่ใหม่ ตลอดจนการสร้างเสริมความพร้อมยกระดับมาตรฐานสถานบำบัดรักษายาเสพติด กิจกรรมหมู่บ้าน/ชุมชนสีขาว 1,011 หมู่บ้าน ศาสนสถานสีขาว 777 แห่ง โรงเรียนสีขาว 876 โรง โรงงานสีขาวจำนวน 38 แห่ง เกมส์สีขาว 428 แห่ง หอพักสีขาว 75 แห่ง เรือนจำสีขาว 19 แห่ง โรงพักสีขาว 19 แห่งส่วนสรุปผลดำเนินงาน ๑ ปี เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ กำหนดจัดในเดือนธันวาคม ๒๕๕๖ โดยกราบเรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) เป็นประธาน



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

กรมทางหลวง เชิญชวนประกวดภาพถ่ายกรมทางหลวง “Green Highway”

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นายสถิตย์ เลาหเจริญยศ รองอธิบดีกรมทางหลวง ว่า กรมทางหลวงได้จัดโครงการประกวดภาพถ่ายกรมทางหลวง "Green Highway” เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมสะท้อนแนวคิดในแง่มุมของการดูแลรักษาธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมในเส้นทางต่างๆของกรมทางหลวงผ่านภาพถ่าย

สำหรับโครงการดังกล่าวมีแนวคิดของภาพ คือ ถนนสีเขียว ซึ่งหมายถึง พื้นที่ทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงพิเศษ ทางหลวงสัมปทาน และสะพานต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง เช่น เส้นทางที่มีความกลมกลืนธรรมชาติ มีต้นไม้และภูมิทัศน์ที่สวยงามบริเวณสองข้างทาง หรือเกาะกลางถนน ที่แสดงถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

กรมทางหลวง จึงขอเชิญผู้รักการถ่ายภาพ ร่วมส่งภาพประกวดในโครงการภาพถ่ายกรมทางหลวง "Green Highway” ชิงเงินรางวัลกว่า 85,000 บาท โดยสามารถส่งภาพประกวดด้วยตนเองได้ที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง ฝ่ายนิทรรศการและโสตทัศนูปกรณ์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-3546668-76 ต่อ 2014, 4059 หรือส่งทางไปรษณีย์มาที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง เลขที่ 2/486 ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2556 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2556

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณกาญจนา ภักดีรุจีรัตน์ 081-4305878, คุณฐิติลักษณ์ คำภา 087-6801614 

ผู้ตรวจ สธ.ประชุมคณะกรรมการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการวิทยาลัยฯ และจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการวิทยาลัยฯ ประจำปี 2556 เพื่อรายงานผลการปฏิบัติงานในรอบปี

นายแพทย์คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม ที่ห้องประชุมวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา เมื่อวานนี้ (28 สค.) โดยมี ดร.กมลรัตน์ เทอร์เนอร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา รายงานผลงานสรุปในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมขอความคิดเห็นจากคณะกรรมการวิทยาลัยฯ เพื่อแนวทางในการพัฒนาวิทยาลัยฯ และให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในวิชาชีพการพยาบาล ดียิ่งขึ้น พร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างภาคภูมิ ซึ่งขณะนี้วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา มีการเรียนการสอนเน้นหลักสูตรภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น เน้นการสอนให้นักศึกษามีภาวะผู้นำ เป็นผู้มีใจรักงานบริการอย่างมีจริยธรรมและคุณธรรม ความอ่อนหวานและเอื้ออาทรในการปฏิบัติงานกับผู้ป่วย เป็นต้น

สำหรับ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2497 ในชื่อเดิมคือโรงเรียนพยาบาลและผดุงครรภ์ จนเมื่อปี 2552 ได้อยู่ในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก จึงได้ชื่อในปัจจุบันว่า วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา โดยทั่วประเทศมี 28 แห่ง

ผู้ว่าบึงกาฬนำทีมผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจราชการแบบบูรณาการ

นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้เดินทางมาต้อนรับ นางสาวสมลักษณ์ ส่งสมพันธ์ ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 10 และคณะซึ่งเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่อำเภอเซกาและอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ และในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬได้นำตรวจราชการในพื้นที่ดังดังกล่าว

วันที่ 28 สิงหาคม 2556   นางสาวสมลักษณ์ ส่งสัมพันธ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 10 และคณะ เดินทางมาตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบ 2 ในเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยในภาคเช้าได้เข้าตรวจติดตามงานในเขตพื้นที่อำเภอเซกาเพื่อรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของอำเภอเซกา และเรื่องการเตรียมความพร้อมของจังหวัดบึงกาฬกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และหลังจากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อการเกษตรในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ณ บ้านผักขะเหนือ หมู่ 22 ตำบลเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ และในภาคบ่ายตรวจติดตามงานในพื้นที่อำเภอบึงโขงหลงร่วมกับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดบึงกาฬ ในโครงการซ่อมสร้างผิวทาง AC สายทาง บก.4015 แยก ทล.2026 ถึงน้ำตกถ้ำพระ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ระยะทาง 0.750 กิโลเมตร และต่อจากนั้นได้เดินทางไปตรวจโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ/พื้นที่ชุ่มน้ำและบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ 2 แห่ง คือ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยทอน บ้านท่าสีไค ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลงจังหวัดบึงกาฬ และโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยทราย บ้านโคกบัว ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งผลการดำเนินงานทุกโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและที่สำคัญชาวบ้านพอใจกับโครงการที่ดำเนินการในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 10 ได้ชื่นชมการทำงานของจังหวัดบึงกาฬว่าถึงจะเป็นจังหวัดพึ่งก่อตั้งใหม่แต่ก็สามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม 

ชาวอำเภอพรเจริญร่วมใจบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ

เหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ได้ออกหน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิต ในเขตพื้นที่อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเก็บสำรองเลือดเข้าคลังเลือดในโรงพยาบาลบึงกาฬ ไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยยามมีเหตุฉุกเฉิน โดยมี ข้าราชการ ครู นักเรียน ประชาชน อีกทั้งพระภิกษุ ร่วมใจกันบริจาคโลหิต เพื่อเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ 109 คน ได้โลหิตเข้าคลังเลือดกว่า 45,000 ซีซี

วันที่ 29-08-56 เวลา 08.30 น. นางประภาศิริ สัจจชลพันธ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ นำทีมแพทย์ออกรับบริจาคโลหิต ณ หอประชุมอำเภอพรเจริญ อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีประชาชน ข้าราชการ ครู นักเรียน รวมถึงพระภิกษุ ต่างร่วมใจกันออกมาบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมาก นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วย สมาชิกเหล่ากาชาดและแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลบึงกาฬ ออกรับบริจาคโลหิต เป็นครั้งที่ 4 ประจำเดือน สิงหาคม 2556 จำนวนยอดผู้บริจาคโลหิต 109 คน ได้โลหิต กว่า 45,000 ซีซี ซึ่งการบริจาคโลหิตถือเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะที่เสียงต่อการเสียชีวิตดังนั้นเลือดทุกหยดที่ได้รับบริจาคถือเป็นการต่อชีวิตอีกหลายชีวิตดังนั้นจึงถือว่าเป็นการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556 วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 ในเดือนนี้ด้วย
คำขวัญ
"One Vision, One Identity, One Community" (หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม)



สัญลักษณ์อาเซียน



ต้นข้าวสีเหลือง 10 ต้น  มัดรวมกันไว้  หมายถึง ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศรวมกัน เพื่อมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยสีที่ปรากฏในสัญลักษณ์ของอาเซียน เป็นสีที่สำคัญของธงชาติของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน

สีน้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง

สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและความก้าวหน้า

สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์

สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง


สำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) ตั้งอยู่ที่ กรุงจากาตาร์  
       
เลขาธิการ 
ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ (เริ่มดำรงตำเเหน่งเมื่อปี พ.ศ.2551)

ปฏิญญากรุงเทพ            8 สิงหาคม พ.ศ. 2510    
กฎบัตรอาเซียน              16 ธันวาคม พ.ศ. 2551  

ประเทศสมาชิก  
อาเซียนเริ่มก่อตั้งครั้งแรก : ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 ประเทศ  ได้แก่ อินโดนีเซีย , มาเลเซีย , ฟิลิปปินส์ , สิงคโปร์ และไทย

     
ปัจจุบันอาเซียน  ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่

1. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย  (Republic of Indonesia)

2. ประเทศมาเลเซีย  (Malaysia)

3. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์  (Republic of the Philippines)

4. สาธารณรัฐสิงคโปร์  (The Republic of Singapore)

5. ราชอาณาจักรไทย  (Kingdom of Thailand)

6. บรูไนดารุสซาลาม  (Brunei Darussalam)

7. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  (The Socialist Republic of Vietnam)

8. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) (The Lao People's Democratic Republic of Lao PDR)

9. สหภาพพม่า  (Union of Myanmar)

10. ราชอาณาจักรกัมพูชา  (Kingdom of Cambodia)

                     
อาเซียน +3 : ประกอบด้วย กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
อาเซียน +6 : ประกอบด้วย กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ กลุ่มประเทศ +3 และประเทศออสเตรเลีย อินเดีย และนิวซีแลนด์
 
กฎบัตรอาเซียน ( ASEAN Charter)
คือ ธรรมนูญอาเซียนที่จะมีการวางกรอบของกฎหมาย และโครงสร้างองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอาเซียนในการขับเคลื่อนเพื่อการรวมตัวเป็นประชาคม อาเซียนภายในปี 2015 (พ.ศ.2558) เพื่อให้อาเซียนเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลในภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพ มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเคารพในกติกาการทำงานระหว่างกันมากยิ่งขึ้น