วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

นครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์สี่แผ่นดินและตลาดนัดชายแดน ปี 2557

จังหวัดนครพนมมีที่ตั้งในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญซึ่งสามารถเชื่อมโยงการเดินทางและขนส่งสินค้าจากจังหวัดอุดรธานี หรือจังหวัดขอนแก่น-นครพนม-แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จนถึงเมืองวินห์ และเมืองฮาติงห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ก่อนที่จะเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนทางด้านเขตการปกครองตนเองจ้วงกว่างซี ซึ่งปัจจุบันกรมทางหลวงได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) จังหวัดนครพนม และเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 ทำให้เส้นทางคมนาคมระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อเนื่องถึงเวียดนามตอนเหนือและจีนตอนใต้ จึงมีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

จังหวัดนครพนมเห็นถึงความสำคัญเรื่องโอกาสในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงกำหนดจัดงาน "นครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์สี่แผ่นดินและตลาดนัดชายแดน ปี2557” เพื่อดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการ ให้สนใจมาลงทุนและซื้อสินค้าในกลุ่มจังหวัดที่มีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของกิจกรรมทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในภูมิภาค โดยกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-15 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม

การป้องกันไข้หวัดนกในเทศกาลตรุษจีน

เนื่องจากเทศกาลตรุษจีน ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 31 มกราคม 2557 นี้ ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากจะมีพิธีไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งไก่หรือเป็ดเป็นเนื้อสัตว์ที่มักจะมีการนำมาปรุงเป็นของไหว้ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกในเทศกาลตรุษจีน สำหรับผู้บริโภคเนื้อสัตว์ปีก และเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยจากโรคต่างๆ รวมทั้งโรคไข้หวัดนก มีหลักง่ายๆคือ การ เลือก หลีก ล้าง ดังนี้
     1.เลือกบริโภคเนื้อไก่/เป็ด และไข่ที่ปรุงสุกสะอาด
     2.หลีกเลี่ยงนำสัตว์ปีกที่ป่วย มีอาการหงอย ซึม ขนยุ่ง หรือป่วยตาย มาประกอบเป็นอาหาร
     3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ปีก ที่มีอาการป่วยหรือตาย
     4.หากไปตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต ผู้บริโภคควรซื้อสัตว์ปีก จากร้านที่ดูสะอาด ปลอดภัย
     5.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำหรือสบู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสัมผัสสัตว์ และสิ่งคัดหลั่งของสัตว์

หากไปตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต ควรหลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์ รวมทั้งพื้นผิวสัตว์เหล่านั้นอยู่ เพื่อป้องกันโรคเข้าสู่ร่างกายอีกทางหนึ่งด้วย และหากมีอาการเป็นไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และเคยสัมผัสสัตว์ปีก หรือผู้ป่วยปอดบวม ให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติสัมผัสสัตว์ปีก หรือประวัติสัมผัสซากสัตว์ปีก หรือประวัติการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีการระบาดของโรค เพื่อรับการตรวจคัดกรอง และรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

คำแนะนำตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต

ผู้ประกอบการค้าสัตว์ปีกมีชีวิต
     1.ไม่ใช้มือที่เปื้อนมาจับต้องจมูก ตา และปาก และหมั่นล้างมือบ่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับต้องเนื้อสัตว์เครื่องในสัตว์และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อน
     2.ไม่ขังสัตว์ปีกจำพวกไก่ เป็ด ห่าน ฯลฯ ที่รอชำแหละไว้ในกรงใกล้ๆกันเพราะจะเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เชื้อโรคกลายพันธ์ จนอาจเกิดเชื้อสายพันธ์ใหม่ที่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์
     3.ควรทำความสะอาดกรงและอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ ด้วยน้ำผงซักฟอก และนำไปผึ่งกลางแดดจัดๆ นอกจากนั้นอาจราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเดือนละ 1-2 ครั้ง
     4.ดูแลระมัดระวังตนเองอย่างถูกต้อง โดยใช้อุปกรณ์ป้องกันร่าง เช่น พลาสติก หรือผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดปากจมูก ถุงมือ แว่นตา รองเท้าบู๊ด และต้องหมั่นล้างมือบ่อยๆ
     5.รีบอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด และต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งหลังปฏิบัติงานเสร็จส่วนเสื้อผ้าชุดเดิม พลาสติกหรือผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดปากจมูก ถุงมือ แว่นตา ควรนำไปซักและล้างให้สะอาด และผึ่งกลางแดดให้แห้งสนิท ก่อนนำมาใช้อีกครั้ง

ผู้ขนย้ายสัตว์
      1.งดซื้อสัตว์จากฟาร์มที่มีสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ
      2.เมื่อขนส่งสัตว์เสร็จในแต่ละวัน ต้องรีบล้างทำความสะอาดรถให้สะอาดด้วยน้ำผงซักฟอก สำหรับกรงขังสัตว์ควรราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
     3.ควรดูแลระมัดระวังตนเอง โดยใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น ผ้าปิดจมูก ถุงมือ แว่นตา ควรนำไปซักหรือล้างให้สะอาด แล้วผึ่งกลางแดดให้แห้งสนิท ก่อนนำไปใช้อีกครั้ง
     4.รีบอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด และต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งหลังปฏิบัติงานเสร็จ ส่วนเสื้อผ้าชุดเดิม พลาสติกหรือผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดจมูก ถุงมือ แว่นตา ควรนำไปซัก
ผู้เดินทางเข้าไปในตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต
      1.หากผู้บริโภคจะซื้อสัตว์ปีกจากตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิตควรเลือกซื้อจากร้านที่ดูสะอาด ปลอดภัย และทะเบียนค้าสัตว์ปีกมีชีวิตออกจากกรมปศุสัตว์
     2.ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ รวมทั้งพื้นผิวที่สัตว์เหล่านั้นอยู่
     3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกที่มีอาการป่วยหรือตาย โดยเฉพาะเด็ก
     4.ไม่ใช้มือที่เปื้อนสารคัดหลั่งจากสัตว์มาจับต้องจมูก ตา และปาก
     5.หลังจากกลับมาจากตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต รีบล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด
     6.หากมีอาการเป็นไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกายและเคยสัมผัสสัตว์ปีก หรือผู้ป่วยปอดบวมให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติสัมผัสโรค

สามารถติดตามแนวทาง คำแนะนำ และข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เป็นปัจจุบันได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค หมายเลข 1422 หรือเว็บไซต์สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค (http://beid.ddc.moph.go.th)

การจัดประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2557

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ มีความประสงค์จะส่งเสริมการประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ จึงได้จัดให้มีโครงการจัดประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2557 โดยกำหนดหัวข้อสำหรับการประกวด คือ "เครื่องจักรกล พลังงาน และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเกษตร ประจำปี 2557”

มูลนิธิธนาคารกรุงเทพสนับสนุนเงินรางวัลการประกวด ดังนี้

รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล เป็นเงิน 200,000 บาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ

รางวัลที่ 2 มี 1 รางวัล เป็นเงิน 150,000 บาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ

รางวัลที่ 3 มี 1 รางวัล เป็นเงิน 100,000 บาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ

รางวัลเชิดชูเกียรติ มี 4 รางวัล ๆ ละ 50,000 บาท เป็นเงิน 200,000 บาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี โทรศัพท์ 02-333-3958 (เอกศักดิ์) โทรสาร 02-333-3931 E-mail : ekasak 7912 @hotmail.com

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดนครพนม ประชาสัมพันธ์ราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดนครพนม ประชาสัมพันธ์ราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ ระหว่างวันที่ 24-29 มกราคม 2557 ในพื้นที่กรุงเทพฯภาคกลางและภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาที่สมเหตุสมผลสอดคล้องกับต้นทุน รวมทั้งให้พ่อค้าคนกลางมีการกำหนดราคาที่เหมาะสมเป็นธรรมต่อผู้บริโภค

ราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 36 บาท ขายส่งหมูซีกไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 90 บาทขายส่งชิ้นส่วนสะโพกและไหล่ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 124 บาทขายปลีกเนื้อแดงไม่ตัดแต่ง(สะโพกและไหล่)ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 140บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง(สะโพกและไหล่)ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 151 บาท

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดนครพนม โทร. 0-4252-0987-8 โทรสาร. 0-4252-0988

วัฒนธรรมจังหวัดนครพนม จัดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา 2557

กรมการศาสนา กำหนดให้จังหวัดจัดทำโครงการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 10 – 14 กุภาพันธ์ 2557 โดยมีกิจกรรมพิเศษดังต่อไปนี้

1.ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนแต่งกายด้วยชุดขาว รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ เข้าวัดปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชา

2.ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกคนมีสวนร่วม(พลังจิตอาสา)พัฒนาวัดในท้องถิ่น

3.ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกคนนำหลักธรรมตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้เพื่อเกิดความสุขแก่ชีวิตและสังคม

ขอเชิญร่วมกิจกรรมในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 เชิญร่วมกิจกรรมฟังพระธรรมเทศนาและเวียนเทียน กิจกรรมประกวดบรรยายธรรม ระดับจังหวัด ชมนิทรรศการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการเกี่ยวกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ณ วัดมหาธาตุ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร บริเวณลานกันเกรา หน้าตลาดอินโดจีน อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เริ่มเวลา 06.30 น.

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม โทร 0 425106050 โทรสาร 0 4251 6187

คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครพนม จัดโครงการส่งเสริมบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมทางการเมือง

วันนี้ (29 ม.ค. 57)  พลโทสกล  พงศ์พิริยะวนิช  กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม  จัดโครงการส่งเสริมบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมทางการเมือง  ณ โรงแรมนครพนมริเวอร์วิว  อ.เมือง จ.นครพนม  เพื่อให้เครือข่ายสตรี   ได้มีส่วนร่วมในการให้ความรู้ เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย และการเลือกตั้งสร้างเจตคติที่ดีในทางการเมืองการปกครอง ให้เกิดขึ้นแก่กลุ่มสตรีอย่างต่อเนื่อง  และได้มีความรู้เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย  อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ  รวมถึงการต่อต้าน  การซื้อสิทธิ  ขายเสียง และรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้ง โดยสุจริต และเที่ยงธรรม  กลุ่มสตรีที่เข้ามาร่วมในโครงการครั้งนี้ 40 คน          

ทั้งนี้  การพัฒนาจากฐานราก จึงเป็นเงื่อนไขที่สำคัญ "กลุ่มสตรี” เป็นกลุ่มประชาชนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อปัญหาการเมือง   ของประเทศที่เป็นอยู่ คือ ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง เป็นปัญหารากฐานของระบบการเมืองไทย เป็นวงจรของอำนาจ และผลประโยชน์ การแก้ปัญหาซื้อสิทธิขายเสียงที่รากฐานได้ จะทำให้การเมือง มีคุณภาพ พัฒนาสู่ประชาธิปไตยที่มีระบบทำงาน ที่สนองตอบความต้องการของชุมน สังคมอย่างแท้จริง  

จังหวัดนครพนม จัดพิธีทำบุญ 100 สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

จังหวัดนครพนมจัดพิธีทำบุญ 100 สิ้นพระชนม์  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก  และตักบาตรวันตรุษจีน

นายสมนึก  ดีหะสิงห์  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  จังหวัดนครพนมจัดพิธีทำบุญครบ  100  วันสิ้นพระชนม์  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราชสกล  มหาสังฆปรินายก  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  เนื่องในโอกาสวันสิ้นพระชนม์  100 วัน(สตมวาร)  ในวันศุกร์ที่  31  มกราคม  2557  เวลา 06.30 น. ณ อุโบสถวัดโอกาส  เทศบาลเมืองนครพนม และเวลา 07.30 น. ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์  100  รูป เนื่องในวันตรุษจีน  ประจำปี 2557  บริเวณแยกหอนาฬิกา  ถนนสุนทรวิจิตร  จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญพร้อมเพรียงกัน

สำนักงานการค้าในจังหวัดนครพนม ประชาสัมพันธ์ราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกร

 นายสุนทร  ภักดีศรีโฆษิต  การค้าภายในจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคกลางและภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 24 – 29 มกราคม 2557  เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาที่สมเหตุสมผล  สอดคล้องกับต้นทุน  รวมทั้งให้พ่อค้าคนกลางมีการกำหนดราคาที่เหมาะสมเป็นต่อผู้บริโภค   เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ภาคกลาง  และภาคตะวันตก ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม  ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ  ๗2 กิโลกรัม   ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๘5 กิโลกรัม  ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๑7  กิโลกรัม  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๓2  กิโลกรัม  ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๔3  กิโลกรัม  ตะวันออกเฉียงเหนือ  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๗6  กิโลกรัม  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 90  กิโลกรัม  ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑24  กิโลกรัม  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑40  กิโลกรัม  ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 151 กิโลกรัม  ภาคตะวันออก  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 57  กิโลกรัม  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๘9 กิโลกรัม ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก  ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑23  กิโลกรัม  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑4๐  กิโลกรัม  ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ  ๑5๐ กิโลกรัม  ภาคใต้  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๗4 กิโลกรัม ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 88 กิโลกรัม ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๒1 กิโลกรัม ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๓7 กิโลกรัม ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑48  กิโลกรัม  ภาคเหนือ  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 77  กิโลกรัม ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 91 กิโลกรัม ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๒5 กิโลกรัม ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑41 กิโลกรัม ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑52  กิโลกรัม

ทั้งนี้ กรณีจำหน่ายสุกรสูงกว่าราคา มีโทษจำคุก ๗ ปี ปรับไม่เกิน ๑๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่ติดป้ายแสดงราคาจำหน่าย หรือจำหน่ายไม่ตรงตามราคาที่แสดงไว้  มีโทษปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ๐-๔๒๕๒-๐๙๘๗-๘ โทรสาร ๐-๔๒๕๒-๐๙๘๘

เศรษฐกิจของจังหวัดสุรินทร์ขยายตัวเพิ่มขึ้น

 นางสาววราภรณ์ ลิ้มทรัพย์ คลังจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคม 2556 สาขาอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาจากจำนวนทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 2.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนประกอบกับผลผลิตแร่หินบะซอลต์มีปริมาณการผลิตจำนวน 424,622.00 ตัน ขยายตัวร้อยละ 114.25 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวจากเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ขยายตัวร้อยละ 16.73 ด้านการลงทุนในจังหวัดสุรินทร์ขยายตัวพิจารณาได้จากจำนวนทุนจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งใหม่ และจำนวนรถยนต์พาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 299.47 และร้อยละ 27.27 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะจำนวนทุนจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งใหม่ฟื้นตัวมาเป็นแนวบวกจากที่เคยหดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2556 ร้อยละ16.67

กกต.สุรินทร์ เร่งประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 2 ก.พ. นี้ เต็มที่ คาดมีผู้มาใช้สิทธิ์ประมาณร้อยละ 60

 นายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธาน กกต.สุรินทร์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งของจังหวัดสุรินทร์ว่า ขณะนี้ ชัดเจนแล้วว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งส.ส. ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ โดยกกต.สุรินทร์ ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านไว้พร้อมแล้ว ซึ่งจากนี้ไป จะเร่งประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งผ่านสื่อทุกแขนงในท้องถิ่นอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกมาลงคะแนนให้มากที่สุด โดยการเลือกตั้งในครั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แต่คาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งประมาณร้อยละ 60

ประธาน กกต.จังหวัดสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า จากการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา มีผู้ออกมาชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งแต่อย่างใด ซึ่งจะได้นำเหตุการณ์ดังกล่าวมากำหนดเป็นมาตรการรองรับการชุมนุมเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งมีความสำคัญในระบอบประชาธิปไตย จึงขอให้ประชาชนชาวสุรินทร์ ได้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งให้มากที่สุด โดยสามารถกากบาทในบัตรเลือกผู้สมัครแบบแบ่งเขตได้เพียง 1 คนและเลือกผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ได้ 1 พรรค หรือหากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท ลงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนได้



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ เสด็จติดตามการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก ณ โรงพยาบาลสุรินทร์

 เวลา 12.00 น. วันนี้ (29 ม.ค.2557) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จไปทรงเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก เพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ณ โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยมีนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพสกนิกรชาวจังหวัดสุรินทร์ ร่วมรับเสด็จฯ ในการนี้ ได้ประทานเกียรติบัตรแก่คณะกรรมการโครงการฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการผลการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก เพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทยในพระอุปถัมภ์ฯ ของจังหวัดสุรินทร์ และทอดพระเนตรผู้ป่วยที่ตึกคลอด ห้องพัฒนาการเด็ก และห้องดูแลผู้ป่วยใน โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมและมีพระปฏิสันถารกับราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จด้วย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลสุรินทร์ได้เข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ.2552 โดยเริ่มจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพี่อใช้ขับเคลื่อนระบบดูแลหญิงตั้งครรภ์เพื่อป้องกัน และลดอัตราการคลอดก่อนกำหนด ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 เพื่อค้นหา คัดกรองทารกกลุ่มเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดให้ครอบคลุมมากขึ้น ช่วยให้ทารกคลอดก่อนกำหนดมีชีวิตเพิ่มขึ้น และลดภาวะแทรกซ้อน โดยมีกระบวนการพัฒนาระบบคัดกรองและป้องกันการคลอดก่อนกำหนดในสตรีตั้งครรภ์โรงพยาบาลสุรินทร์ เริ่มตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด ดูแลรักษาทารกแรกเกิดระยะวิกฤติ ระยะกึ่งวิกฤติ ทารกแรกเกิดที่มีการติดเชื้อ มีการติดตามดูแลต่อเนื่องโดยใช้ระบบพยาบาลผู้จัดการรายกรณี เพื่อเฝ้าติดตามทารกคลอดก่อนกำหนดจนถึงอายุ 5 ปี และการพัฒนาเพื่อลดความพิการทางสายตาของทารกคลอดก่อนกำหนด



 กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

จ.สุรินทร์ ยังคงมีปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ร้อยละ 18.81 และเด็กถูกทำร้าย 455 คน

 นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ สรุปสถานการณ์เด็กและเยาวชนจังหวัดสุรินทร์ ว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ว่า พบปัญหามารดาที่มาคลอดมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ในปี 2555 ร้อยละ 18.78 และรอบ 6 เดือนแรกของปี 2556 พบร้อยละ 18.81 พบการทำแท้งในกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 14-19 ปี ร้อยละ 25 โดยหญิงตั้งครรภ์อายุน้อยที่สุด คือ 14 ปี มีหญิงตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 9 คน หญิงตั้งครรภ์อายุ 15-19 ปี 447 คน หญิงตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 24 ปี 850 คน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาเด็กที่ถูกกระทำรุนแรงในปี 2555 พบเด็กที่ถูกกระทำรุนแรงจำนวน 455 คน สาเหตุในการกระทำความรุนแรงสูงสุด คือ ความรุนแรงทางเพศร้อยละ 83.63 รองลงมา คือ ความรุนแรงทางกาย ร้อยละ 11.21 ด้านจิตใจ ร้อยละ 2.46 การถูกล่อลวงการบังคับใช้ประโยชน์ ร้อยละ 1.79 ผู้กระทำความรุนแรงส่วนใหญ่เป็นผู้ใกล้ชิดกับเด็ก คือ แฟน ร้อยละ 49.47 รองลงมาเป็นเพื่อนร้อยละ 19.3 และญาติพี่น้องร้อยละ 6.62 ปัจจัยที่มีส่วนในการกระทำความรุนแรงคือ สภาพแวดล้อม การใช้สารกระตุ้น และสัมพันธภาพในครอบครัว

จ.สุรินทร์ เตรียมประชุมสมัชชาสตรี 25 กุมภาพันธ์ นี้ เน้นประเด็นการแก้ไขปัญหาเด็กตั้งครรภ์ไม่พร้อม และการยุติความรุนแรงในเด็ก และสตรี

 นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดการประชุมสมัชชาสตรีจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2557 ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อทบทวนสถานการณ์ด้านสตรี ปัญหาอุปสรรคและรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะการดำเนินงานด้านสตรี อันจะนำไปสู่การกำหนดและผลักดันในเชิงนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางการส่งเสริมสถานภาพสตรี และการแก้ไขปัญหาของสตรี รวมทั้ง เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มองค์กรสตรีและทุกภาคส่วนของสังคม ในการระดมความคิดเห็นและประมวลข้อเสนอสมัชชาสตรีระดับจังหวัด เพื่อเสนอเป็นข้อเสนอสมัชชาสตรีภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป

การจัดการประชุมสมัชชาสตรีจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2557 จังหวัดสุรินทร์ได้เชิญผู้นำสตรีจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และภาคประชาชน ร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยจะมีการระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขและลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม การยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายเพื่อพัฒนาสตรีและครอบครัว และการเสริมพลังครอบครัว เพื่อสร้างสมดุลประชากรอยางมีคุณภาพ เป็นต้น

เกษตรฯ รุก 6 จังหวัดโดดเด่นนำร่อง ดันพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตร ก้าวสู่การเป็นกรีนซิตี้ ปี 57

เกษตรฯ นำร่อง 6 จังหวัดเป้าหมาย ผลักดันโครงการเมืองเกษตรสีเขียว (Green Agriculture City)
ปี 57 ด้าน สศก. รุกพื้นที่ เปิดเวทีสัมมนาขับเคลื่อนโครงการระหว่าง มกราคม - กุมภาพันธ์นี้ เพื่อสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในแต่ละพื้นที่ ชู 3 หัวใจสำคัญสู่การเป็นเมืองเกษตรสีเขียว คือ พัฒนาพื้นที่  สินค้า และคน อย่างบูรณาการครบทุกภาคส่วน

นายอนันต์  ลิลา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งถึงการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การขับเคลื่อนโครงการเมืองเกษตรสีเขียว ในวันที่ 15 มกราคม 2557 ณ โรงแรมเชียงใหม่ออคิด จังหวัดเชียงใหม่ ว่า จากที่กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดให้โครงการเมืองเกษตรสีเขียว (Green Agriculture City) เป็นโครงการสำคัญ (Flagship Project) ของกระทรวงเกษตรฯ ที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) ของรัฐบาล ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่การผลิตและการบริโภค  และมีการคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายจากจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความโดดเด่นในการผลิตสินค้าเกษตรเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง รวม 6จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ หนองคาย ศรีสะเกษ จันทบุรี พัทลุง และราชบุรี เพื่อผลักดันให้เป็นเมืองเกษตรสีเขียว และพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดย สศก. ได้กำหนดจัดการสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนารับทราบถึงนโยบาย การขับเคลื่อนโครงการเมืองเกษตรสีเขียว และรับฟังการชี้แจงแนวทางการดำเนินงานปีงบประมาณ 2557 จากเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ทั้งส่วนกลางและจังหวัด พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัด นักวิชาการ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วม

สำหรับการจัดสัมมนานั้น ได้กำหนดจัดในพื้นที่ 6 จังหวัดเป้าหมายนำร่อง ในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งจังหวัดจะต้องร่วมกันกำหนดพื้นที่ที่จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่สีเขียว โดยอาจจะมีขอบเขตระดับอำเภอหรือระดับตำบลก็ได้ตามแต่ศักยภาพที่สามารถจะขับเคลื่อนให้เป็นพื้นที่สีเขียวอย่างเป็นรูปธรรมเต็มพื้นที่  และจะต้องประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้มีกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) ให้ปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างในสินค้าเกษตรทั้งพื้นที่ การผลิตและแปรรูปอุตสาหกรรมเกษตรในพื้นที่มีการใช้เทคโนโลยีสะอาดในการผลิตสู่เศรษฐกิจการเกษตรสีเขียว (Green and Cool Agricultural Economy) เช่น การนำของเหลือจากกระบวนการผลิตมาผลิตเป็นพลังงานชีวมวล หรือ  ไบโอแมส (Biomass) และการลดของเสียในกระบวนการผลิตให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) รวมถึงกำกับดูแลโรงงานการผลิตและแปรรูปอุตสาหกรรมเกษตร (GMP) โดยมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับจังหวัดและภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนคำนึงความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้ศักยภาพจากการเป็นสินค้าเกษตรเพื่อสิ่งแวดล้อม (Agriculture Ecoproducts)

อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองเกษตรสีเขียวมีอยู่ 3 ประการด้วยกัน ประการแรก คือ การพัฒนาพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย ปราศจากมลพิษรบกวน มีการจัดการของเสียอย่างเป็นระบบ ประการที่สอง คือการพัฒนาตัวสินค้าให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย ไม่มีสารพิษตกค้าง มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต และประการสุดท้าย คือการพัฒนาคน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถทำการผลิต และอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ จะเน้นผลิต ระดับต้นน้ำให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย ส่วนระดับกลางน้ำ และปลายน้ำ ได้แก่ การแปรรูป การกำจัดของเสียโดยนำไปเป็นพลังงานทดแทน ดำเนินการให้เกิดร้าน Q Shop, Q restaurant รวมทั้งการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการจากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกัน และที่สำคัญ คือ เกษตรกรจะต้องมีความเข้าใจ และร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อพัฒนาพื้นที่ของตนเองให้เป็นพื้นที่สีเขียว ซึ่งคาดว่า การสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จะทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจกรอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานโครงการเมืองเกษตรสีเขียว ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาโครงการฯ โดยมุ่งหวังให้จังหวัดเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการในระดับพื้นที่ เพื่อผลักดันให้เกิดเมืองเกษตรสีเขียวนำร่องอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เลขาธิการ กล่าวในที่สุด



สุวิทย์ เอี่ยมสอาด /ข่าว

จ.สุรินทร์ ขอเชิญร่วมการแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุ “สะเร็นเกมส์ ครั้งที่ 4”

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญร่วมการแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุ "สะเร็นเกมส์ ครั้งที่ 4” เพื่อให้ประชาชนได้มีการออกกำลังกายและเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ

ว่าที่ร้อยตรี ภูษิต สิงคนิภา ประธานฝ่ายกีฬา กรีฑาผู้สูงอายุ สมาคมกีฬาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ชมรมกรีฑาผู้สูงอายุสุรินทร์ ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดให้มีการแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุ "สะเร็นเกมส์ ครั้งที่ 4” ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยในวงการกีฬาให้มีสุขภาพพลานามัยและจิตใจที่สมบูรณ์ เพื่อให้ผู้สูงอายุเห็นคุณค่าของตนเองมากขึ้น รู้จักดูแลสุขภาพตัวเอง เพื่อเป็นการสร้างเสริมความเสมอภาคของผู้สูงอายุในสังคมให้มีศักดิ์ศรี

สำหรับประเภทการแข่งขัน อาทิ วิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, 400 เมตร, 800 เมตร, 1,500 เมตร, 5,000 เมตร, วิ่งผลัด 4 x 100 เมตร, 4 x 400 เมตร และเดินทน 2,000 เมตร, นอกจากนี้ยังมีการกระโดดไกลชาย, เขย่งก้าวกระโดดชาย กลุ่ม อายุตั้งแต่ 45 – 59 ปี โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก อายุ 45 – 49 ปี กลุ่มที่ 2 อายุ 50 – 54 ปี และกลุ่มที่ 3 อายุ 55 – 59 ปี

ทั้งนี้ จึงของเชิญชวนประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้มีการออกกำลังกายและเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพพลานามัย



สุวิทย์ เอี่ยมสอาด /ข่าว

ผอ.รพ.สุรินทร์ เผย ผลการดำเนินงานเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก สามารถหยุดยั้งการคลอดก่อนกำหนดได้ถึงร้อยละ 50


 นายแพทย์ธงชัย ตรีวิบูลย์วนิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสุรินทร์ ได้เข้าร่วมเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก เพื่อครอบครัวของเด็กในพระอุปถัมภ์ของพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวกับการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด เพื่อให้มีระบบการฟื้นฟูสภาพและการช่วยเหลือมารดาและทารกที่คลอดก่อนกำหนดอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันพบว่า ทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะมีปัญหาที่ตามมามากมาย ทั้งภาวะแทรกซ้อน การติดเชื้อ การพัฒนาไม่สมวัย ซึ่งถ้าสามารถหยุดยั้งการคลอดก่อนกำหนดได้ เด็กที่คลอดมาก็จะมีสภาพร่างกายที่มีความพร้อม โดยโรงพยาบาลสุรินทร์ได้เข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ.2552 ได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของการดำเนินการต่างๆ เช่น การตั้งคลินิกดูแลมารดาและทารกในวิธีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ทั้งด้านการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟูดูแลตามสาขาวิชาชีพ จนสามารถหยุดยั้งการคลอดก่อนกำหนดได้ถึงร้อยละ 50

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า ภายหลังจากโรงพยาบาลได้เข้าร่วมโครงการฯแล้ว ส่งผลดีต่อประชาชนจังหวัดสุรินทร์อย่างมาก พบว่า อัตราการคลอดก่อนกำหนดลดลง ภาวะแทรกซ้อนของมารดาและทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีแนวโน้มลดลง สงผลให้สุขภาพของมารดาและทากรกได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง และที่สำคัญได้มีการจัดทำเป็นเครือข่ายกับโรงพยาบาลชุมชนและจะขยายให้ครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดต่อไปด้วย



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนชาวสุรินทร์มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ 22 กุมภาพันธ์นี้

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า เนื่องจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 ราย ได้ลาออกจากตำแน่ง คือ นายพันธ์เทพ ฐานุพงศ์ชรัช สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอปราสาท และนางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายไกรศักดิ์ วรทัต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 และได้ทำการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ในระหว่างวันที่ 6 - 10 มกราคม 2557 ที่ผ่านมาปรากฏว่ามีผู้แสดงความจำนงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ รวมจำนวน 5 ราย และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 เขตเลือกตั้ง รายละเอียดดังนี้ 1. เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอปราสาท จำนวน 2 ราย ดังนี้หมายเลข 1 นางสาวพรนภา ธีระวงศ์ไพศาล หมายเลข 2 นายกังวาฬ ธัญธนาพล
2. เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอกาบเชิง จำนวน 3 รายดังนี้ หมายเลข 1 นายศิริชัย ตันติรัตนานนท์
หมายเลข 2 นายธนเทพ ตั้งทอง  หมายเลข 3 นายยุทธศาสตร์ ศาสตรา

ในการนี้ ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้ประสานการปฎิบัติงานกับศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งประจำอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม

ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนในเขตอำเภอปราสาท และอำเภอกาบเชิงเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ แทนตำแหน่งที่ว่าง กรณีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์แทนตำแหน่งที่ว่างในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. ที่หน่วยเลือกตั้ง ทั้งนี้จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์โดยทั่วกัน

ตลาดนัดสีเขียว ตลาดนัดพอเพียงทุกวันเสาร์ของชาวสุรินทร์

 นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการตลาดนัดสีเขียว เป็นโครงการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเช้าวันเสาร์ ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการต้องมีเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง อาทิ สินค้า OTOP ของชาวสุรินทร์ ทั้งผ้าไหม เครื่องเงิน เครื่องอุปโภค บริโภค ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายในตลาดจะต้องเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดจากสารพิษ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพเป็นช่องทางการสื่อสารที่ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาและเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ กระชับความสัมพันธ์ของผู้บริโภคในชุมชนเมืองกับคนท้องถิ่นที่เป็นเกษตรกรให้เกิดความเข้าใจตรงกัน นโยบายด้านสุขภาพที่ทางจังหวัดสุรินทร์ ดำเนินอยู่ในขณะนี้คือ รักษาวิถีการปลูกข้าวหอมมะลิแบบปลอดสารพิษ จัดระเบียบให้ตลาดสด สะอาดตรงตามมาตรฐานที่วางไว้ ขณะที่ ตลาดนัดสีเขียวจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เหมือนเป็นการรณรงค์ทางอ้อม เพื่อให้ทุกคนรู้จักหลักคิดและเห็นตัวอย่างที่ดีเมื่อชาวบ้านหันมายึดหลักเกษตรอินทรีย์สิ่งที่ตามมาคือ การกินอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่อสิ่งแวดล้อมเกิดความสมดุล คนมีความสุข สังคมก็จะดี ทั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ยังคงนิยมจับจ่าย ซื้อหาสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภค ในตลาดสีเขียวเป็นประจำทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 06.00 น. – 14.00 น. นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาร่วมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยาว์กับผู้ผลิตโดยตรงอีกด้วย

จังหวัดสุรินทร์ เชิญเข้าร่วมประกวดการแข่งขัน วงดนตรีสตริง ครั้งที่ 1

 นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ แจ้งว่า จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน วงดนตรีสตริง ครั้งที่ 1 "ชิงถ้วยรางวัล พร้อมเงินสด” ในงานประจำปีวัดโพธิ์ศรีธาตุ ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยการแข่งขันรอบแรก ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 เริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ส่วนรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 เริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป สำหรับรางวัลชนะเลิศจะได้ถ้วยรางวัล พร้อมเงินสดมูลค่า 5,000 บาท รางวัลที่ 2 ได้เงินสดมูลค่า 3,000 บาท และรางวัลที่ 3 ได้เงินสดมูลค่า 2,000 บาท รับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณปรี 082-1594993 และ คุณรัชานนท์ 088-7143140

จ.สุรินทร์ เตือนประชาชนการจุดไฟเผาป่ามีความผิดทางกฎหมาย

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศของประเทศไทยจะเกิดความแห้งแล้ง และมีลมกระโชกแรง ทำให้เกิดไฟฟ่าได้ง่าย จังหวัดสุรินทร์จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ในช่วงฤดูแล้งจังหวัดสุรินทร์ขึ้นที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ ถนนสุรินทร์ - ปราสาท ตำบลเฉนียง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์ ฯ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และมีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ เป็นเลขานุการศูนย์ฯ ทั้งนี้ เร่งให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวเร่งประชาสัมพันธ์ได้ทราบถึงผลกระทบ และร่วมแก้ไขปัญหาไฟป่าหรือหมอกควันในช่วงฤดูแล้ง หากพบเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องขอให้รีบแจ้งอำเภอในท้องที่และจังหวัดทราบทันที

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบกจังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 1 / 2557

 วันนี้ ( 29 ม.ค.57) ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 4 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบกจังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 1 / 2557การประชุมในครั้งนี้ เพื่อติดตามความก้าวหน้า การจัดตั้งธรณีผาชัน สามพันโบก เพื่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานของอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก ให้เกิดประสิทธิภาพและมีการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น พร้อมที่จะพัฒนาผลักดันเป็นอุทยานธรณี ในระดับประเทศ ซึ่งโครงการจัดตั้งอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี มีความเหมาะสมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการด้านธรณีวิทยา สามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชน อำเภอ จังหวัด และเป็นแหล่งในการศึกษาด้านธรณีวิทยา รวมถึงซากดึกดำบรรพ์ที่ได้ทีการค้นพบ ที่เป็นแหล่งความรู้สำคัญและเป็นประโยชน์แก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน รวมถึงนักวิชาการที่มีความสนใจ นับว่าพื้นที่แห่งนี้ที่มีความสำคัญทางด้านธรณีวิทยาเป็นอย่างยิ่ง

จังหวัดอุบลราชธานีได้ทำการศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2554 เป็นต้นมา รวมถึงการจัดทำประชาพิจารณ์ในพื้นที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีพื้นที่คลอบคลุม 4 อำเภอ คือ อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโพธิ์ไทร และอำเภอสิรินธร โดยร่วมทำการศึกษากับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และกรมทรัพยากรธรณี จนได้แหล่งทางธรณีวิทยาที่มีความสนใจจำนวนกว่า 33 แหล่ง จึงได้เสนอการจัดตั้งอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำเสนอในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้โดยคณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม เห็นควรสนับสนุนกรมทรัพยากรธรณี ในการจัดตั้งอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี และได้มีการนำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและรัฐมนตรีเห็นควรให้มีการประกาศจัดตั้งอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานีต่อไป

จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมนายอำเภอ เตรียมความพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ในวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

วันที่ 29 มกราคม 2557 ที่ ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 4 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำนายอำเภอทุกอำเภอ ร่วมประชุมวีดิโอคอนเฟอร์เร้น ร่วมกับ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมนายอำเภอ และข้าราชการในสังดักระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ ในการเตรียมความพร้อม รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ในวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยในที่ประชุม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ประสานงานกับ ผู้บังคับตำรวจภูธรในจังหวัด เตรียมแผน และจัดชุดเฉพาะกิจรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้ง ไม่ให้มีผู้ก่อความไม่สงบขัดขวางการเลือกตั้ง พร้อมเน้นย้ำให้ มีการจัดเวรยามรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะในสถานที่ราชการทุกแห่ง เนื่องจากเป็นสถานที่เก็บเอกสารทางราชการของประชาชน เป็นจำนวนมาก และให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากที่สุด

สำหรับ จังหวัดอุบลราชธานีมี 11 เขตเลือกตั้ง มีผู้ลงสมัครจาก 11 พรรคการเมือง จำนวน 39 คน และถูกตัดสิทธิ 1 ราย เนื่องจากขาดคุณสมบัติเพราะพ้นโทษไม่ครบตามกำหนดระยะเวลาที่ กกต.กำหนด มีหน่วยเลือกตั้ง 2,984 หน่วย ประชากรมีสิทธิลงคะแนน 1,306,038 คน

สวนสัตว์อุบลราชธานี จะประกวดราคาซื้ออาหารสัตว์ 5 ประเภท ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 – 18 กุมภาพันธ์ 2557

 อุบลราชธานี : นายวันชัย ตันวัฒนะผู้อำนวยการสวนสัตว์อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ด้วย สวนสัตว์อุบลราชธานี จะประกวดราคาซื้ออาหารสัตว์ 5 ประเภท กำหนดรับฟังคำชี้แจงเพิ่มเติมในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคาร ดงกลางฟ้า ของสวนสัตว์อุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 13.00 น. กำหนดยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ งานพัสดุฯ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป อาคารดงกลางฟ้าสวนสัตว์อุบลราชธานี กำหนดเปิดซองใบเสนอราคา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.00 ผู้สนใจสามารถติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาในราคาชุดละ 300 บาท (สามร้อยบาท) ได้ที่งานการเงิน ฝ่ายบริหารงานทั่วไป ณ สำนักงานสวนสัตว์อุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.30 ถึง 16.30 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) หรือสอบถามโทรศัพท์หมายเลข 045-252761 หรือ 087-2396611 ในวันและเวลาดังกล่าว หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง www.gprocurement.go.th หรือ www.zoothailand.org

ชูโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีฉลุย เกษตรกรเข้ารับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่า เผย เกษตรกรยังให้ความสนใจและตอบรับอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบต้นกล้าปาล์มให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการระยะที่ 2 เดือนพฤษภาคมนี้ แนะเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วม สอบถามรายละเอียด ได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ เพื่อขอเข้ารับการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตปาล์มน้ำมัน

นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่า ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ หรือ กองทุน FTA ซึ่งกิจกรรมหลักของโครงการฯ ได้มุ่งเน้นการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่าให้กับเกษตรกรที่มีสวนปาล์มอายุมากกว่า 20 ปี โดยเกษตรกรเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการโค่นต้นปาล์มเก่าและเตรียมพื้นที่ปลูกเอง มีการดำเนินงานใน 5 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร สตูล และตรัง ซึ่งเมื่อช่วงปลายปี 2555 โครงการระยะแรกได้ส่งเสริมต้นกล้าปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีและปุ๋ย ไปแล้วในพื้นที่กว่าหนึ่งหมื่นไร่       

ในการนี้ สศก. ได้ลงพื้นที่เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อติดตามความก้าวหน้าและสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมต้นกล้าปาล์มน้ำมันจากโครงการฯ พบว่า เกษตรกรทุกรายได้นำต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่ได้รับจากโครงการไปปลูกในสวนของตนเองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ต้นปาล์มดังกล่าวมีอายุประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปี 3 เดือน นับจากวันที่เกษตรกรนำต้นกล้าปลูกในแปลงส่งเสริม โดยมีเกษตรกรที่ทำการโค่นหรือทำลายต้นปาล์มเก่าแล้วทั้งหมด ร้อยละ 39 ของจำนวนแปลงส่งเสริมทั้งหมด และมีการทำลายต้นปาล์มเก่าเกินกว่าครึ่ง ร้อยละ 19 และที่เหลือ ร้อยละ 42 ยังไม่ทำลายต้นปาล์มหรือทำลายจำนวนน้อย

ด้านการเติบโตและความสมบูรณ์ของต้นปาล์มที่ได้นำไปปลูก พบว่า ร้อยละ 91 มีการเจริญเติบโตปกติ ส่วนปัญหาด้านความเสียหายต่อต้นปาล์มที่เกิดจากการทำลายของศัตรูพืช พบว่า เกษตรกรร้อยละ 21 ประสบปัญหาด้วงแรดที่เป็นแมลงศัตรูพืชเข้าทำลายต้นปาล์มบางส่วน โดยเฉพาะในแปลงที่มีการโค่นต้นปาล์มเก่าแต่ยังกองซากทิ้งไว้ ดังนั้น เกษตรกรควรรีบทำลายหรือหาวิธีการจัดการซากต้นเก่าไม่ให้กองไว้ไม่ให้เป็นแหล่งขยายพันธุ์ของด้วงแรดได้ และสำหรับความพึงพอใจของเกษตรกรต่อภาพรวมของโครงการเกษตรกรนั้น พบว่า เกษตรกรมีความพึงพอใจอยู่ในระดับที่ดี และอยากเข้ารับการส่งเสริมต่อเนื่องหากมีพื้นที่สวนปาล์มเก่าที่ตรงกับเงื่อนไขของโครงการ

ทั้งนี้ ในปี 2557 จะจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบแปลงที่จะรับการส่งเสริมตามเงื่อนไขโครงการฯ และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบต้นกล้าปาล์มน้ำมันให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการระยะที่ 2 ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป ส่วนเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการในระยะที่ 3 จะได้รับการส่งเสริมต้นกล้าปาล์มน้ำมันประมาณกลางปี 2558 โดยสามารถสอบถามรายละเอียด ณ สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ดำเนินงานโครงการฯ เพื่อขอเข้ารับการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตปาล์มน้ำมันต่อไปได้



ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ข้อมูล : ศูนย์ประเมินผล

จับตาทิศทางสับปะรด ปี 57 สศก. คาด ราคายังพุ่งต่อเนื่อง

สศก. ติดตามสถานการณ์ราคาสับปะรด เผย ราคาสับปะรดที่เกษตรกรขายได้ที่ไร่นายังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยเดือนมกราคม อยู่ที่ กก.ละ 5.88 บาท คาด ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุจาก ผลผลิตปีที่ผ่านมาออกสู่ตลาดน้อยจากสภาพอากาศแห้งแล้ง และการชะลอการนำเข้าผลิตภัณฑ์สับปะรด แนะ เกษตรกรบริหารจัดการผลผลิตเพื่อรักษาระดับราคา และลดต้นทุนการผลิตดันผลตอบแทนที่สูงขึ้น

นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ราคาสับปะรดที่เกษตรกรขายได้ที่ไร่นา เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้วถึงเดือนมกราคม 2557 โดยในปี 2556 ไตรมาส 1 ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยที่ กก.ละ 3.37 บาท ส่วนไตรมาส 2 ราคาเฉลี่ย 3.92 บาท ไตรมาส 3 ราคาเฉลี่ย 4.09 บาท และไตรมาส 4 ราคาเฉลี่ย 5.58 บาท ซึ่งล่าสุด ในเดือนมกราคม 2557 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 5.88 บาท และหากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (มกราคม 2556) พบว่า ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 2.96 บาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 99) อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคามีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากผลผลิต ในปี 2556 ออกสู่ตลาดน้อยลงประมาณ 2.058 ล้านตันจากปี 2555 (ร้อยละ 12) จากสภาพอากาศแห้งแล้ง รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมาประเทศผู้นำเข้าสับปะรดกระป๋อง และน้ำสับปะรด ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ จึงได้ชะลอการนำเข้าผลิตภัณฑ์สับปะรด แม้ในปี 2556 ยอดการส่งออกจะใกล้เคียงกับปี 2555 ก็ตาม จึงทำให้ภาคเอกชนและเกษตรกรต้องปรับตัวและส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ การผลิตสับปะรด ปี 2557 จะมีช่วงที่ผลผลิตออกมากอยู่ 2 ช่วงด้วยกัน คือ ช่วงแรก เดือนเมษายน – พฤษภาคม และ ช่วงที่สอง เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ซึ่งเกษตรกรควรบริหารจัดการผลผลิตให้ทยอยออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สามารถรักษาระดับราคาให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ และหากเกษตรกรดูแลรักษาให้มีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น จะสามารถทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้นได้เช่นกัน

                                   

ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ข้อมูล : ศูนย์สารสนเทศการเกษตร

สศก. แนะเกษตรกรและผู้ประกอบการยางพารา ปรับตัว พร้อมรับมาตรฐานสากล

วันที่ (28 มกราคม 2557 )  สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุ คณะทำงานพัฒนาสารสนเทศการเกษตรระดับประเทศ เผยการกำหนดมาตรฐานสากลเกี่ยวกับยางพาราและผลิตภัณฑ์ แนะเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราต้องเตรียมพร้อม ปรับปรุงคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐานสากลเพื่อให้แข่งขันในตลาดต่างประเทศได้

นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือการจัดทำข้อมูลสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary) เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา คณะทำงานพัฒนาสารสนเทศการเกษตรระดับประเทศ ได้มีการนำเสนอสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรที่สำคัญ โดยในส่วนของยางพารามีประเด็นสำคัญ คือ การกำหนดมาตรฐานสากลเกี่ยวกับยางพาราและผลิตภัณฑ์ ซึ่ง ได้แก่ การประกาศใช้ร่างมาตรฐาน ISO/FDIS 17278 Determination of gel content of TSR (Technical Specified rubber :TSR) โดยให้มีการทดสอบเจลคอนเทนต์ (Gel Content) ของยางแท่งหรือยางที่มีความหนืดต่ำ (Low viscosity :LOV) และการประกาศใช้ร่างมาตรฐาน ISO/FDIS 2000 Guidelines for the specification of TSR สำหรับกำหนดคุณภาพยางแท่ง LOV     

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการปรับปรุงมาตรฐาน ISO 20299-2 Film wrapping natural rubber bales ในการใช้ฟิล์มห่อยางแผ่นหรือWrap ยางแผ่นรมควันเพื่อป้องกันการติดกันของแผ่นยางแทนการใช้แป้งที่ไทยใช้อยู่ ทั้งนี้ เมื่อมีประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวแล้ว ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการ จำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อม เพื่อให้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ของไทยสามารถส่งออกและแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยขณะนี้ ภาคเอกชนได้เริ่มหารือในเรื่องดังกล่าวกับทางกรมวิชาการเกษตรและกระทรวงอุตสาหกรรมไปเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว รองเลขาธิการ กล่าว




ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ข้อมูล : ศูนย์สารสนเทศการเกษตร

เทศบาลนครอุบลราชธานีจัดโครงการบริจาคหนังสือ ในระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2557 ณ บริเวณ ถนนคนเดิน

อุบลราชธานี : นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เทศบาลนครอุบลราชธานีจัดโครงการบริจาคหนังสือ ในระหว่างเดือน มกราคม - เมษายน 2557 ทุกเย็น วันศุกร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น. ณ บริเวณถนนคนเดิน โดยจะมอบหนังสือในวันที่ 30 เมษายน 2557 ณ สำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถบริจาค สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุบลราชธานี หรือ โทรแจ้งที่หมายเลข 092-1743068,087-6509356, 086-4688946




สำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี

ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 กรมสุขภาพจิต รับสมัครตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยาคลินิก โดยรับสมัครตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม – 7 กุมภาพันธ์ 2557

 อุบลราชธานี : นางอัญชลี ศิลาเกษ นักสังคมสงเคราะห์เชี่ยวชาญ (ด้านสังคมสงเคราะห์)ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 เปิดเผยว่า ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 กรมสุขภาพจิตจะรับสมัคร ตำแหน่งพนักงานราชการ 2 ตำแหน่ง นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยาคลินิก โดยรับสมัครตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม – 7 กุมภาพันธ์ 2557 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dmhweb.dmh.go.th/mhc7 หรือติดต่อสอบถามที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-4531-2593

ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ(อุบลราชธานี) จัดทำข่าวอุบลบาลสารหม่อนไหม ปีที่5 ฉบับที่ 13 วันที่ 22 มกราคม 2557

อุบลราชธานี : ว่าที่ร้อยโท เรืองศักดิ์ บุญโนนแต้ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปิดเผยว่า ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ(อุบลราชธานี) จัดทำข่าวอุบลบาลสารหม่อนไหม ปีที่5 ฉบับที่ 13 วันที่ 22 มกราคม 2557 เรื่อง ท่านเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานีตรวจเยี่ยมศูนย์หม่อนไหม
 


ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ

ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอพิบูลมังสาหาร

 อุบลราชธานี : นายสุรกิจ มุขสมบัติ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีแทนตำแหน่งที่ว่าง ที่เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอพิบูลมังสาหาร ด้วยนายไพศาล ปีตาภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยกำหนดให้มีการรับสมัครในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2557 ถึง วันศุกร์ที 31 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึงเวลา 16.30 น. และให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2557



ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งประจำ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

จังหวัดอำนาจเจริญ ประชุมเตรียมการจัดงานนมัสการพระมงคลมิ่งเมืองประจำปี 2557

จังหวัดอำนาจเจริญประชุมกรรมการเตรียมการจัดงานนมัสการพระมงคลมิ่งเมือง ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา งานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอำนาจเจริญ วันนี้(29 มกราคม 2557)นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จังหวัดอำนาจเจริญ ประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดงานนมัสการพระมงคลมิ่งเมือง ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ พุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง ตำบลบุ่ง อำเภอเมือง เพื่อส่งเสริมกิจกรรมพระศาสนา ส่งเสริมงานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอำนาจเจริญ สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วย ขบวนแห่เครื่องสักการะพระมงคลมิ่งเมือง ทำบุญวันเพ็ญเดือน 3 การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ กิจกรรมเวียนเทียน การแข่งขันกีฬา เช่น ฟุตซอล เปตอง ตะกร้อ จำหน่ายสินค้าราคาถูก กำหนดจัดงาน 7 วัน 7 คืน มีมหรสพให้ชมบริเวณลานหินดาน ด้านทิศใต้ขององค์พระมงคลมิ่งเมือง เริ่มแสดงตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นต้นไป วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 ชมวงดนตรี "พีสะเดิด ปะทะวงสตริง” วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ชมวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำ "ดอกรัก ดวงมาลา ปะทะ แมน มณีวรรณ” วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ชมวงดนตรีหมอลำเดือนเพ็ญ อำนวยพร วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 ชมวงดนตรีหมอลำหมู่ "รุ่งทิวา อำนวยศิษย์” วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ชมวงดนตรีหมอลำหมู่ "ประถม บันเทิงศิลป์”วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ชมวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำ "หญิงลี ศรีจุมพล,ลาวัลย์ จันทรเพ็ญ,ใบตอง จันทร์งาม”ส่วนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ฟังธรรมะจากพระอาจารย์สมพงษ์ รตนโส พระวิทยากรจากรายการ”ธรรมะ Delivery” และ มีพิธีเวียนเทียนและแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ขณะเดียวกันยังมีการถวายภัตตาหารเพลและตั้งกองผ้าป่ามหากุศลตั้งแต่วันเริ่มงาน โดยส่วนราชการต่าง ๆ ในจังหวัดหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ สำหรับพระมงคลมิ่งเมือง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่หน้า ตักกว้าง 11 เมตร สูง 20 เมตร ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ เรียกว่า ...พระเจ้าใหญ่มงคลมิ่งเมือง ตั้งอยู่พุทธอุทยานในตัวเมืองอำนาจเจริญ มีพื้นที่ประมาณ 36ไร่ ในบริเวณร่มรื่นด้วยพันธ์ไม้นานาชนิด เริ่มสร้างเมื่อปี2505 แล้วเสร็จเมื่อปี 2508 ก่อสร้างด้วยปูนเสริมเหล็ก ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองทั้งองค์ พุทธลักษณะสวยงามมาก ศิลปะแบบอินเดียตอนเหนือ(ปาละ)เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญประจำจังหวัดอำนาจเจริญ และยังเป็นตราสัญลักษณ์หรือ โลโก้ประจำจังหวัดอำนาจเจริญด้วย จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปเที่ยวงานนมัสการพระมงคลมิ่งเมือง (พระใหญ่) ประจำปีนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน



สิทธิเดช นนทพรหม ข่าว

สำนักงานเกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ จัดฝึกอบรมเตรียมความพร้อมผู้นำเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ตามแผนพัฒนาจังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี 2557

วันนี้ ( 29 ม.ค. 57)  เวลา 09.30 น.  ณ โรงแรม แอล เจ ดิอิมเมอรัล อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญเป็นประธานเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ตามแผนพัฒนาจังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี 2557

ด้วยพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่ดีที่สดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากเป็นจังหวัดที่สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดกว่าร้อยละ 80 ประกอบอาชีพทำนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก ด้วยเหตุและปัจจัยเหล่านี้ จังหวัดอำนาจเจริญจึงได้กำหนดทิศทางการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวหอมมะลิไว้ในยุทธศาสตร์ของจังหวัด จากสภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของจังหวัดอำนาจเจริญที่ผ่านมา พื้นที่ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก เกษตรกรต้องตกอยู่ในภาวะความเสี่ยงสูงต่อภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เช่น ความแห้งแล้งจากฝนทิ้งช่วง เป็นต้น ซึ่งมีผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตต่อไร่และคุณภาพของข้าวหอมมะลิลดลง เกษตรกรขาดทุน ดังนั้นจังหวัดอำนาจเจริญจึงเห็นสมควรส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิตามยุทธศาสตร์จังหวัดให้เป็นไปตามมาตรฐานด้วยการพัฒนาสภาพพื้นที่นา การปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมแก่การปลูกให้มากยิ่งขึ้น กระจายการผลิตในไร่นาให้มีความหลากหลายและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พัฒนาความรู้และทักษะ ตลอดจนการเชื่อมโยงการตลาดข้าวหอมมะลิให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เกษตรกรมีรายได้มีอาชีพที่มั่นคงและพัฒนาให้จังหวัดอำนาจเจริญเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สุดต่อไป

ซึ่งการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ซึ่งเป็นโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดอำนาจเจริญ ปี 2557 ที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมให้กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยผู้ยำชุมชน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกระดับ จำนวน 125 คน ได้รับทราบถึงกระบวนการขั้นตอนในการดำเนินงานตามกิจกรรมต่าง ของโครงการซึ่งจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนงานให้ไปสู่ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กระทรวงสาธารณสุขจัดโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาๆสยามบรมราชกุมารี

นายภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตไห้จัดทำและดำเนินโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาๆสยามบรมราชกุมารี ในโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา เพื่อพัฒนาการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ได้แก่ สร้างและประปรุงส้วม การจัดการน้ำดื่มที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ ตลอดจนสร้างเสริมสุขอนามัยอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อดำเนินการในโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 60 แห่ง 600 ห้องส้วม ระยะเวลาดำเนินการในปีงบประมาณ 2557 – 2558 โดยให้การออกค่ายของนักศึกษาวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นกิจกรรมการสร้างส้วมหรือปรับปรุงส้วมให้ได้มาตรฐาน จังหวัดอำนาจเจริญ มีเป้าหมายดำเนินการในโรงเรียนในถิ่นทุระกันดาร 1 แห่ง คือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยฆ้อง บ้านห้วยฆ้อง ตำบลห้วยฆ้อง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน

ผลการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 “สุพรรณบุรีเกมส์” จังหวัดอำนาจเจริญได้ 9 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง

จังหวัดอำนาจเจริญ โดยศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดอำนาจเจริญ ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 ณ จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 13 ชนิด ได้แก่ กรีฑา จักรยาน คาราเต้-โด ซอฟท์เทนนิส มวยสากลสมัครเล่น มวยไทยสมัครเล่น ยิงปืน ปันจักสีลัต เปตอง มวยปล้ำ เพาะกาย เทควันโด และกีฬาเรือพาย รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ จำนวนทั้งสิ้น 72 คน ผลการแข่งขันนักกีฬาสังกัดจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับ 9 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง รวม 19 เหรียญ อยู่ลำดับที่ 11 ของประเทศ และลำดับที่ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สรุปผลดังนี้ 1. กีฬากรีฑา 3 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง รวม 4 เหรียญ จากนางสาววนิดา บุญวรรณ์ ได้รับเหรียญทองกระโดดสูง , นางสาวฐิติมา เมืองจันทร์ ได้รับเหรียญทองกระโดดไกล และ เหรียญทองเขย่งก้าวกระโดด , นางสาวสุภิญยา วรรณโสภา ได้รับเหรียญทองแดง วิ่ง 1500 เมตรหญิง 2. กีฬาจักรยาน 5 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง รวม 7 เหรียญ จากนางสาวศุภักษร นันตะนะ ได้รับเหรียญทองจักรยานลู่เดี่ยวเปอร์ซูท 3 กม.และเหรียญทองจักรยานถนนไทม์ไทรอัล นางสาวจุฑาทิป มณีพันธุ์ ได้รับเหรียญทองจักรยานลู่สแครซ เหรียญทองจักรยานลู่พ้อยท์เรส เหรียญทองจักรยานถนนอินล์เรส และเหรียญทองแดงจักรยานลู่ไทม์ไทรอัล 500 เมตร และได้รับเหรียญทองแดงจากจักรยานถนนไทม์ทีมไทรอัล 3. มวยสากลสมัครเล่น 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง รวม 2 เหรียญ จากนางสาว ทัศมาลี ทองจันทร์ ได้รับเหรียญทอง รุ่นน้ำหนัก 54 กิโลกรัม ไม่เกิน 57 กิโลกรัม , นายกิตติพงษ์ ไผ่ล้อม ได้รับเหรียญทองแดง รุ่นน้ำหนัก 46 กิโลกรัม ไม่เกิน 49 กิโลกรัม 4. กีฬาคาราเต้-โด 2 เหรียญทองแดง จากนายยุทธนา ศรีประพันธ์ ได้รับเหรียญทองแดงประเภทต่อสู้ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 67 กิโลกรัม , นางสาววรฤทัย ชูฉ่ำ ได้รับเหรียญทองแดงประเภทต่อสู้ รุ่นน้ำหนักมากกว่า 67 กิโลกรัม 5. กีฬาซอฟท์เทนนิส 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รวม 3 เหรียญ ได้รับเหรียญเงินจากทีมชายและชายคู่ และได้รับเหรียญทองแดงจากคู่ผสม 6. กีฬาเรือพาย 1 เหรียญทองแดง จากเรือกรรเชียง 1000 เมตรบุคคลชาย



สิทธิเดช/ข่าว 

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระกุศลแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวับสิ้นพระชนม์ ๑๐๐ วัน

จังหวัดอำนาจเจริญ กำหนดจัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระกุศลแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวับสิ้นพระชนม์ ๑๐๐ วัน นายวีระวัฒน์ ชิ่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จังหวัดอำนาจเจริญจะจัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระกุศลแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ ๕๐ วัน ในวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ และ ๑๐๐ วัน ในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ โดยทางจังหวัดอำนาจเจริญ จัดขึ้นที่วัดสำราญนิเวศ(พระอารามหลวง) ในวันศุกร์ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ น.เป็นต้นไป มีการถวาบภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ จำนวน ๑๐ รูป ประเคนผ้าไตรพระสงฆ์ จำนวน ๒๐ รูป สดับปกรณ์ จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมงานตามวันและเวลา สถานที่ ดังกล่าว




สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ

กรมวังผู้ใหญ่ มอบเมล็ดพันธุ์พระราชทานที่ยโสธร

สำนักพระราชวัง ประชุมเชิงปฏิบัติการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มอบเมล็ดพันธุ์ผัก พระราชทาน ที่ยโสธร  ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านศรีสวัสดิ์  หมู่ที่ 5 ตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร นายประวัติ   ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ว่าที่ร้อยตรี กิตติ  ขันธมิตร กรมวังผู้ใหญ่ ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการพระราชวัง และคณะ ในโอกาสที่เดินทางมาเป็นประธาน พร้อมบรรยาย ในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ว่าที่ร้อยตรี กิตติ  ขันธมิตร กรมวังผู้ใหญ่  กล่าวว่า  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพของ พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ให้กับประชาชนในชุมชน ได้มีความรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม   สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานเมล็ดพันธุ์ผัก มามอบให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้  เพื่อให้ชุมชมสามารถปลูกผักสวนครัวรับประทานเองได้

เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดตกแต่งเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวงานประเพณีบุญผะเหวด ประจำปี 2557

เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดตกแต่งเมืองร้อยเอ็ด ต้อนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่จะเดินทางไปเที่ยวงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด

นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า งานประเพณีบุญผะหวดร้อยเอ็ด เป็นประเพณีที่จัดได้อย่างสมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่ ซึ่งมีครบทั้งการแห่พระอุปคุป เทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน ซึ่งจัดแสดงให้เห็นถึงที่มาของประเพณีบุญผะเหวด การแจกสัตสดกมหาทาน การแห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาด เทศน์คาถาพัน เทศน์มหาชาติ แห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ขบวนแห่พระเวสสันดร 15 ขบวน การประกวดธงผะเหวด การแสดง แสง สี เสียง การแสดงศิลปินคืนถิ่นบ้านเฮาเอาบุญผะเหวด และบริการขนมจีน (ข้าวปุ้น) ฟรีตลอดจน

นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด พร้อมให้การสนับสนุนงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ด้วยการตกแต่งเมืองในเขตเทศบาลเมืองให้มีความสวยงามสมเกียรติ ตกแต่งประดับธงผะเหวดารอบบึงพลาญชัย ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาที่จังหวัดร้อยเอ็ด ในช่วงดังกล่าว
                                       


วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดที่เดินทางไปเที่ยวงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557


องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัด ที่เดินทางไปเที่ยวงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ด้วยการจัดเตรียมสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่พัก ร้านอาหาร ของที่ระลึก และการคมนาคม

นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนทุกภาคส่วน กำหนดจัดงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ – 9 มีนาคม 2557 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ดและบึงพลาญชัย เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม สืบสานตำนานงานบุญที่ยิ่งใหญ่และเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งปีนี้ เป็นปีที่ 24 ของการจัดงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ว่าเป็นผู้ซึ่งรักษาไว้ซึ่ง ฮีต 12 ของชาวอิสาน ในทุก ๆ ปี ชาวร้อยเอ็ดจะรอคอยให้ถึงเดือนสี่ เพื่อที่จะร่วมทำบุญอันยิ่งใหญ่นี้

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า การจัดงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ได้มีการประชาสัมพันธ์การจัดงานทางสื่อต่างๆ อย่างแพร่หลาย คาดว่าจะมีประชาชนทั้งในและต่างๆ จังหวัดเดินทางไปที่จังหวัดร้อยเอ็ดในช่วงดังกล่าวมากกว่าช่วงปกติ องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเตรียมสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ด อาทิ บึงพลาญชัย วัดบูรพาภิราม พระอารามหลวงชั้นตรี ประดิษฐานพระเจ้าอยู่ใหญ่ (พระพุทธรัตนมงคลมหามุณี) สูง 101 ศอก สูงที่สุดในประเทศไทย และอันดับ 6 ของโลก สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ อุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของภาค อิสาน พระมหาเจดีย์ชัยมงคล อำเภอหนองพอก เจดีย์หินทราย วัดป่ากุง (บรมพุทโธร้อยเอ็ด) ผาหมอกมิวาย อำเภอหนองพอก และศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาที่จังหวัดร้อยเอ็ดในช่วงดังกล่าว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ยังเปิดเผยด้วยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดยังมีความโดดเด่นในเรื่องต่างๆ พร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยว อาทิ ความสะดวกสบายในการเดินทางทั้งบก ทางอากาศ และมีโรงแรมที่พักที่ได้ระดับมาตรฐาน ร้านอาหารที่สะอาด มีสินค้าของที่ระลึกที่ขึ้นชื่อ อาทิ ข้าวหอมมะลิโลก ผ้าลายสาเกต และอื่นๆ

                                 


วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดงาน “ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ชมขบวนแห่พระเวสสันดรชาดกเข้าเมือง 15 ขบวนแห่ บริการขนมจีนฟรีตลอดงาน

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วน พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร่วมกันจัดงาน "ประเพณี บุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 (วันศุกร์ที่ 7 ขึ้น 7 ค่ำ ,วันเสาร์ที่ 8 ขึ้น 8 ค่ำและวันอาทิตย์ที่ 9 ขึ้น 9 ค่ำ) ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และเกาะกลางบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด พิธีเปิดงานในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 16.00 น. ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า กิจกรรมในงาน เป็นกิจกรรมที่เป็นการสืบสานและอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ที่สืบทอดกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีพุทธของจังหวัดร้อยเอ็ด อาทิ การประกวดธงผะเหวด พิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชทานแห่รอบเมือง พิธีเจริญพุทธมนต์เย็น พิธีเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน การแสดงแสง สี เสียง การแสดงศิลปินคืนถิ่น งานพาแลง การแห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาด การทำบุญ ตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 101 รูป เทศน์คาถาพัน เทศมหาชาติ แห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ขบวนแห่พระเวสสันดรชาดกเข้าเมือง รวม 15 ขบวน การแจกทานและสัตสดกมหาทาน และ บริการขนมจีน (ข้าวปุ้น) ฟรีตลอดงาน

จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศไปเที่ยวงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ณ สวนสมเด็จ พระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด

                             


วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด แถลงข่าวงาน “ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557”

จังหวัดร้อยเอ็ดแถลงข่าวงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ณ เกาะกลางบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด พร้อมจำลองงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” โดยหัวหน้าส่วนราชการ หอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด และนักศึกษาวิทยาลัยนาฎศิลป์ร้อยเอ็ดด

วันนี้ (29 ม.ค.57) เวลา 09.30 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ณ เกาะกลางบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วยนายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และนายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด สื่อมวลชน ตลอดจนชาวชุมชนเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และนักเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร่วมแถลงโดยมีการจำลองงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” โดยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด และนักศึกษาวิทยาลัยนาฎศิลป์ร้อยเอ็ด ประกอบด้วย ขบวนแห่พระเวสสันดรชาดกเข้าเมืองและเครื่องบูชาผะเหวด ขบวนแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ชุดการแสดงผ้าบุญร้อยเอ็ด และ ธงผะเหวด การแสดงสินค้า OTOP และของที่ระลึกของจังหวัดร้อยเอ็ด การแสดงฟ้อนโหวด ขบวนกลองยาว การสาธิตการบริการข้าวปุ้นฟรี โดยมีนางสาวอัจฉราภรณ์ กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทย ประจำปี 2556 และนางสาวอรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทยประจำปี 2552 ร่วมกิจกรรมการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับทุกภาคส่วนของจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กำหนดจัดงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557” ขึ้นในวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์ไว้ ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ที่สืบทอดกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีพุทธของจังหวัดร้อยเอ็ด อาทิ การประกวดธงผะเหวด พิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชทานแห่รอบเมือง พิธีเจริญพุทธมนต์เย็น พิธีเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน การแสดงแสง สี เสียง การแสดงศิลปินคืนถิ่น งานพาแลง แห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาด การทำบุญ ตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 101 รูป เทศน์คาถาพัน เทศมหาชาติ แห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ขบวนแห่พระเวสสันดรชาดกเข้าเมือง รวม 15 ขบวน การแจกทานและสัตสดกมหาทาน และ บริการขนมจีน (ข้าวปุ้น) ฟรีตลอดงาน

ด้านนายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และนายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมแถลงด้วยว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเฉพาะเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดและองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน "ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด” มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการจัดเตรียมสถานที่จัดงาน ที่พักของผู้มาเยือน ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และอำเภอต่าง ๆ ของ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพร้อมแล้วที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่จะเดินทางไปร่วมงาน”ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด” ในช่วงดังกล่าว

                         


 วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

ชาวนากาฬสินธุ์ยุคใหม่ไถกลบฟางข้าว

นายสมบูรณ์ ซารัมย์ เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า การไถกลบฟางข้าวมีประโยชน์มากกว่าที่คิด นอกจากเพิ่มปุ๋ยให้แก่ดินแล้ว ยังช่วยลดมลพิษทางอากาศและลดปัญหาโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง โดยสัดส่วนระหว่างน้ำหนักเมล็ดข้าวและฟางข้าว สำหรับนาปี คือ 1 : 2 (เมื่อเปรียบเทียบผลผลิตข้าวนาปีของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉลี่ย 361 กิโลกรัมต่อไร่) ดังนั้น จึงมีฟางข้าวอยู่ในพื้นที่นา 1 ไร่ เท่ากับ 722 กิโลกรัม ในฟางข้าวมีธาตุอาหารพืช ประกอบด้วย ไนโตรเจน 0.7% ฟอสฟอรัส 0.15% โปรตัสเซี่ยม 1.8% ซิริก้า 11% แมกนีเซี่ยม 0.25% และซัลเฟอร์ 0.80% กล่าวคือในพื้นที่ 1 ไร่ มีฟางข้าวน้ำหนัก 722 กิโลกรัม หรือเทียบกับปุ๋ยอินทรีย์ 722 กิโลกรัมและปุ๋ยอินทรีย์เหล่านี้มีธาตุอาหารพืชรวมกัน 106.13 กิโลกรัม ฟางข้าวจึงเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีคุณค่ามากมายมหาศาล การเผาฟางคือการเผาปุ๋ยในนาทิ้ง หากเกษตรกรลงทุนไถกลบฟางข้าว ไร่ละ 300 บาท จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ 722 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า กิโลกรัมละ 2 บาท จะเป็นเงิน 1,444 บาท ซึ่งเกษตรกรจะมีกำไร 1,144 บาทต่อไร่ ดังนั้นชาวนายุคใหม่ต้องไถกลบฟางข้าว

เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งอีกว่า การไถกลบฟางข้าวมีประโยชน์มากกว่าที่คิด นอกจากเพิ่มปุ๋ยในการปรับปรุงบำรุงดินแล้ว ยังช่วยลดมลพิษทางอากาศและลดปัญหาโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง เป็นการคืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน โดยช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้ 10% ดินอุ้มน้ำและเก็บรักษาความชื้นได้ดียิ่งขึ้น และช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งได้ เกษตรกรท่านใดสนใจและต้องการไถกลบฟางข้าว ให้แจ้งความประสงค์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้ในท้องถิ่นของท่าน




สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว

จ.ฉะเชิงเทรา จัดงานมหกรรมสัตว์ปีกสวยงามแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 งานแสดงสินค้า OTOP ภาคตะวันออก และงานเกษตรแฟร์ 2557

นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 13 – 16 กุมภาพันธ์ 2557 จังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสมาพันธ์สัตว์ปีกสวยงามแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานมหกรรมสัตว์ปีกสวยงามแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 งานแสดงสินค้า OTOP ภาคตะวันออก และงานเกษตรแฟร์ 2557 ที่สวนปาล์มฟาร์มนก ตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมทั้งเพิ่มช่องทางการสร้างงาน สร้างอาชีพในการจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าทางด้านการเกษตรที่มีคุณภาพของจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดในภาคตะวันออกให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ SME ในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวต่อว่า การจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องจากการจัดครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และจังหวัดยังได้บรรจุให้เป็นกิจกรรมในปฏิทินท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยได้ประสานความร่วมมือจากส่วนราชการ สถานศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ในจังหวัด ให้การสนับสนุนการจัดงาน สำหรับในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมาย เช่น ก่อนงาน 1 วัน มีการประกวดและตกแต่งรถบุปผาชาติสวยงาม นอกจากนั้นในวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์มีการแต่งงานนกสุดอลังการ ชมและ ช็อปสินค้า OTOP และสินค้าเกษตร ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ มีการประกวดสัตว์ปีกสวยงาม และประกวดไก่พื้นเมือง โดยมีนกและไก่เข้าประกวดประกอบด้วย ไก่ซาลามอ นกเขาด่าง และประชันเสียงนกบินหลา ส่วนในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ มีการประกวด ความสวยงามนกหงส์หยก นกเลิฟเบิร์ด แข่งขันความสามารถนกนักล่า และประชันเสียงนกหัวจุก เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีการถ่ายภาพประกวดภายในบริเวณงาน ในหัวข้อ "มนต์เสน่ห์แห่งสวนปาล์มฟาร์มนก" ชิงเงินรางวัลอีกด้วย โดยในการจัดงานครั้งนี้ยังจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอีกมากมาย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เข้าชมงานมหกรรมสัตว์ปีกสวยงามแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 งานแสดงสินค้า OTOP ภาคตะวันออก และงานเกษตรแฟร์ 2557 ระหว่างวันที่ 13 – 16 กุมภาพันธ์ 2557 ที่สวนปาล์มฟาร์มนก ตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา

มอบทุนแก่เด็กออทิสติกขอนแก่นในโครงการมูลนิธิคุณพุ่ม

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้แทนพระองค์ มอบทุนสนับสนุน การศึกษาแก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการทางร่างกาย ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้มีจิตศรัทธา สนับสนุนบริจาคในกิจกรรมประทานทุนสนับสนุนการศึกษา แก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการทางร่างกายในมูลนิธิคุณพุ่ม ประจำปี 2556 โดยมีนายนภดล ธุลีจันทร์ ผอ.ศูนย์ศึกษาพิเศษเขตการศึกษา 9 จังหวัดขอนแก่น กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์การมอบทุน เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระแก่ผู้ปกครองให้เด็กในกลุ่มนี้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและสามารถช่วยเหลือตนเอง ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งในปีการศึกษานี้ มีเด็กได้รับทุนจำนวน 279 คน และเข้ารับประทานทุนมูลนิธิคุณพุ่ม จากพระรูปทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

โครงการทูตความดีสอนภาษาอังกฤษแก่นักเรียนขอนแก่นรองรับอาเซียน



นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายพีรวิช สุวรรณประเทศ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศและนักศึกษาอาสาสมัคร กลุ่ม Australian Thai Youth Ambarsador Program มาทำกิจกรรมสอนภาษาอังกฤษแก่เด็กนักเรียนในโรงเรียน 5 แห่ง โดยวัตถุประสงค์ของนักศึกษาอาสาสมัครได้เรียนรู้การปฏิบัติตนที่รับผิดชอบต่อสังคมและมีจิตอาสา อันเป็นจุดประสงค์หลักของโครงการทูตความดี และจุดประสงค์ของโครงการสอนเด็กนักเรียน เพื่อให้รู้จักชุมชนไทยในออสเตรเลีย รู้จักสังคมและกีฬาของประเทศออสเตรเลีย ความคล้ายคลึงและแตกต่างกับประเทศไทย ตลอดจนการทำความดี เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ พร้อมทั้งสอนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการออกเสียงและการฟัง เพื่อเตรียมความพร้อมของนักเรียนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งการดำเนินการในปี 2557 มีการสอนเพิ่มอีก 2 โรงเรียน รวมเป็น 7 โรงเรียน ในจังหวัดขอนแก่น คือ โรงเรียนบ้านม่วง อ.เมือง โรงเรียนบ้านไผ่ยิ่งยงอุทิศ อ.บ้านไผ่ โรงเรียนน้ำพอง อ.น้ำพอง โรงเรียนบ้านฝาง อ.บ้านฝาง โรงเรียนหนองหิน อ.เมือง โรงเรียนบ้านผือ อ.เมือง และโรงเรียนไทรัฐวิทยา 84 อ.เมือง จังหวัดขอนแก่น โดยใช้เวลาในการสอน ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นเวลา 22 วัน



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นครราชสีมา เตือนประชาชนระวังอุบัติภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ๕๗

นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า วันตรุษจีน หรือ วันปีใหม่ของชาวจีน ในปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ เป็นวันที่ ชาวไทยเชื้อสายจีนจะประกอบพิธีบูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษตามธรรมเนียมจีนโบราณ โดยจะมีการจุดธูปเทียนไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ มีการเผากระดาษเงินกระดาษทองและจุดประทัดเพื่อเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนประจำปี ช่วงเทศกาลตรุษจีนมิได้มีแต่ความสุขสนุกสนานเท่านั้น เพราะในปีที่ผ่าน ๆ มาพบว่า ช่วงเทศกาลดังกล่าวมักจะเกิดอุบัติภัยต่าง ๆ ขึ้นเสมอ โดยเฉพาะอัคคีภัยและอุบัติเหตุทางถนน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นจึงขอให้ประชาชนตั้งอยู่บนความไม่ประมาท การป้องกันการเกิดอัคคีภัย ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ก๊าซหุงต้มอาหารและวัตถุไวไฟทุกประเภท รวมถึง การจุดธูปเทียน ให้จัดหาภาชนะที่ทนไฟรองรับธูปเทียน การเผากระดาษเงินกระดาษทองให้เผาในภาชนะที่สามารถควบคุมการลุกลามได้ ไม่ควรจุดไฟใกล้วัสดุที่ติดไฟง่ายเพื่อป้องกันไฟลุกลาม พร้อมกันนี้ควรตรวจตราดูธูปเทียนและกระดาษเงินกระดาษทองที่เผาไว้ ดับให้สนิทก่อนที่จะออกจากบ้านและให้หมั่นตรวจสอบสายไฟและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หากพบว่าชำรุดหรือบกพร่อง ควรเรียกช่างที่มีความชำนาญดำเนินการซ่อมแซม ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย อุบัติภัยอีกประเภทหนึ่งที่มักเกิดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ อุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากสถานประกอบการหยุดงานติดต่อกันหลายวัน ทั้งนายจ้างและลูกจ้างนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุทางถนน จึงขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะขับขี่รถด้วยความ ไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบสภาพยานพาหนะก่อนออกเดินทาง พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ประจำรถ ในกรณีที่ต้องขับรถเองควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากเกิดอาการง่วงนอน ควรแวะพักสายตาตามสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักที่จัดให้ ไม่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดทั้งก่อนและขณะขับรถ ตลอดจนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หากต้องขับรถทางไกล ควรมีคนผลัดเปลี่ยนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหลับในซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียและโศกนาฏกรรมได้ นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน กล่าวในตอนท้ายอีกว่า หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือพบเหตุสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงาน ปภ.จังหวัดทุกจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๕ นครราชสีมา โทรศัพท์สายด่วนนิรภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือ แก่ราษฏรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

วันนี้ (29 ม.ค.57)  เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการมอบเงินช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือ แก่ราษฏรจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ จำนวน 5 ราย โดยสำนักราชเลขาธิการ ได้มอบเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 400,000 บาท เพื่อให้จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการเบิกเงินช่วยเหลือ และมอบให้กับราษฎร ทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย 1.นางสาวสมจิต จีนชัยภูมิ ชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือเงินทุนประกอบอาชีพ จำนวน 50,000 บาท 2. นางสาวสมศรี พยัฆพล ชาวอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือทุนสนับสนุนเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย จำนวน 80,000 บาท 3.นางนวล ปรุณา ชาวอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือทุนสนับสนุนเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย จำนวน 100,000 บาท 4.นางสาวเพ็ญ โกนพิมาย ชาวอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือทุนเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย จำนวน 50,000 บาท และ 5. นายสิทธิศักดิ์ สังข์ทอง ชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือทุนสนับสนุนการดำรงชีพ จำนวน 20,000 บาท ซึ่งสร้างความปราบปลื้มปิติยินดีแก่ผู้ที่รับพระราชทานความช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง

ขนส่งบุรีรัมย์ มอบขาเทียมและอุปกรณ์ช่วยคนพิการ จากการใช้รถ-ถนนกว่า ๕ ล้านบาท

สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ มอบอุปกรณ์ ขาเทียม และรถเข็น ให้กับผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน จำนวน ๑๐๕ ราย รวมมูลค่ากว่า ๕ ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินรายได้จากการประมูลเลขทะเบียน เพื่อช่วยเหลือให้คนพิการได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ที่ห้องประชุมชั้น ๒ สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นางสุจิตรา อินดนตรี ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เป็นประธานมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ อันเนื่องจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนประจำปี ๒๕๕๖ จำนวน ๑๐๕ ราย

ซึ่งประกอบไปด้วย ขาเทียมจำนวน ๙๙ ราย รถนั่งผู้พิการ ๕ รายและเตียงนอนผู้พิการอีก ๑ ราย รวมมูลค่าจำนวน ๕,๖๑๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือให้คนพิการได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ในการใช้ประกอบอาชีพได้เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่เป็นภาระทางสังคม ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ที่ด้อยโอกาสให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้จัดสรรเงินจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน(กปถ.) ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดการประมูลขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔-๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ และได้เงินเข้ากองทุนดังกล่าวมากถึง ๒๑,๑๗๙,๔๙๙ บาท

ซึ่งในปีนี้จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับการจัดสรรเงินจาก กปถ. เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการได้จำนวน ๑๐๕ ราย จากทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีผู้พิการได้ยื่นคำขอรับการจัดสรรอุปกรณ์ช่วยเหลือต่อกรมการขนส่งทางบก จำนวน ๑๑๔ ราย

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม ประกวดสุนทรพจน์สิทธิหน้าที่พลเมือง รณรงค์เลือกตั้ง

นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมยางสีสุราช ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดสุนทรพจน์ หัวข้อ รู้จักสิทธิหน้าที่พลเมือง และเคารพสิทธิหน้าที่ของผู้อื่น : รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส. ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้น ตามโครงการประชาสัมพันธ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประจำปี 2557

(29-1-57) ในการจัดประกวดสุนทรพจน์ หัวข้อ รู้จักสิทธิหน้าที่พลเมือง และเคารพสิทธิหน้าที่ของผู้อื่น : รณรงค์เลือกตั้ง ส.ส. ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้น ตามโครงการประชาสัมพันธ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประจำปี 2557 ในวันนี้ มีตัวแทนนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาก 9 สถาบันการศึกษาเข้าร่วมประกวด โดยมีนายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงานพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่พลเมือง ตามแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สำหรับเกณฑ์การประกวดสุนทรพจน์ครั้งนี้ จะเน้น 3 ประเด็นหลักคือ เนื้อหา การนำเสนอ และการใช้ภาษา โดยมีคณะกรรมการที่เป็นผู้แทนจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 พร้อมจัดให้มีการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดมหาสารคาม ด้วย

ผลการประกวดปรากฏว่า นายพงษ์ศธร ศรีวรรณะ นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ทุนการศึกษา 2,000 บาท ได้แก่ นางสาวจงรักษ์ ดงพงษ์ จากโรงเรียนสารคามพิทยาคม รองชนะเลิศอันดับ 2 ทุนการศึกษา 1,000 บาท ได้แก่ นางสาวศุภธิดา พุทธสอน โรงเรียนมหาวิชานุกูล และรางวัลชมเชย 6 รางวัล รางวัลละ 500 บาท ได้แก่ นายธนวัตร ศรีภา โรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์ นางสาวพรนิภา เตชะแก้ว โรงเรียนกันทรวิชัย นางสาวจริญญา คูณมี โรงเรียนวาปีปทุม นางสาวสิริญาดา อุทัยจอม โรงเรียนกันทรวิชัย นางสาววรรณนิภา สีลาด โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และนายวิโล ลักษ์ วงฮาด โรงเรียนโนนแดงวิทยาคม พร้อมได้รับเกียรติบัตรในการประกวดทุกรางวัล



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มอบเครื่องแบบนักเรียน ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานความช่วยเหลือ มอบเครื่องแบบนักเรียน ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

วันนี้ (29 มกราคม 2547) เวลา 09.50 น. นายเมธี สุพรรณฝ่าย ปลัดจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะเลขานุการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย นางพูลทรัพย์ สิงห์ศักดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการมอบเครื่องแบบพระราชทาน ให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 16 จำนวน 395 ชุด สำหรับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 16 ปัจจุบันสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคามเขต 2 สำนักงานคณะกรรมการศึกษาพื้นฐาน จัดการศึกษา 5 ระดับ คือ จากระดับปฐมวัย ถึงชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 6 มีจำนวน 17 ห้องเรียน มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 395 คน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 16 ตั้งอยู่ที่บ้านกอก หมู่ที่ 6 ตำบลท่าเรือ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ก่อตั้งครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2478 จากการที่นายขวัญแก้ว วัชโรทัย นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมถ์ และคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ ได้เดินทางมาเยี่ยมโรงเรียนเพื่อมอบเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์พระราชทาน แก่นักเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2542 เป็นต้นมา โรงเรียนได้รายงานสภาพปัญหาและความต้องการของโรงเรียน ต่อนายขวัญแก้ว วัชโรทัย ได้รับทราบ ซึ่งได้มีดำริ ซึ่งมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ให้การดูแล และช่วยเหลือด้านงบประมาณและด้านอื่นๆแก่นักเรียน และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 16 ซึ่งโรงเรียนได้รับการอนุเคราะห์ ในด้านงบประมาณทุนการศึกษานักเรียนยากจน และค่าชุดนักศึกษารักษาดินแดง เป็นประจำทุกปี ซึ่งสร้างความปราบปลื้มปิติยินดี แก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว